เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 06:55:25 PM



หัวข้อ: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 06:55:25 PM

ทำไมต้องโกหกกัน  

แม้เราทุกคนจะได้รับการสั่งสอนจากผู้ใหญ่มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ให้พูดแต่ความจริง ไม่ให้พูดโกหก และสำหรับชาวพุทธ การโกหกถือเป็นการผิดศีล แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แทบทุกคนไม่มีใครที่ตลอดชีวิตไม่เคยโกหกเลย

การโกหกเป็นสิ่งไม่ดี เราทุกคนรู้และไม่มีใครชอบ แต่เพราะอะไร ทำไมถึงต้องโกหก
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งโกหก

นักจิตวิทยาพบว่า มนุษย์เริ่ม โกหกเป็นตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเมื่ออายุได้ 5 ขวบ ความสามารถในการโกหกจะได้รับการพัฒนาขึ้นอีกมาก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะในทางจิตวิทยาถือว่าการโกหกเป็นธรรมชาติของเด็กที่เกิดขึ้น อย่างบริสุทธิ์ ไม่มีพิษมีภัย เพราะเด็กยังไม่สามารถแยกแยะจินตนาการออกจากความจริงได้
เด็กมักโกหกเพราะความกลัว ต้องการเลียนแบบและเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่
แต่เมื่อโตขึ้น ไม่ว่าหญิงและชาย ประเภทและระดับการโกหกจะยิ่งมากขึ้นและซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

งานวิจัยล่าสุดของ โรเบิร์ต เฟลด์แมน อาจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ และผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Liar in Your Life พบว่า ระหว่างการสนทนาทุกๆ 10 นาที จะมีการโกหกประมาณ 2-3 ครั้ง และในบางคู่สนทนาอาจเกิดขึ้นได้มากถึง 12 ครั้ง

เจมส์ แพตเตอร์สัน ผู้เขียนหนังสือ The Day America Told the Truth เผยว่า ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นใครก็ตามแต่ แทบทุกครั้งของการสนทนามักจะมีเรื่องโกหกร่วมอยู่ด้วยเสมอ เป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะพูดความจริงต่อกันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนใกล้ชิดอย่างคู่รัก พ่อ แม่ ลูก
 

โกหกกันเพื่ออะไร

การโกหกเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาตราบเท่าที่มีการสื่อสารกัน แม้กระทั่งการสื่อสารข้อความผ่านอีเมล หรือการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ (sms)ก็เป็นอีกช่องทางยอดฮิตในการโกหก
พอล เอ๊กแมน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง ศึกษาเรื่องการโกหกมานานกว่าสี่สิบปี ลงความเห็นว่า “ มนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโกหกได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจเรื่องการโกหกจะเป็นผลดีต่อชีวิต ” ว่าจะดีขึ้นแค่ไหน เราคงต้องมาพิจารณาดูประเภทของการโกหกก่อน

โกหกสีขาว (White Lie)

 เป็น การโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง
งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การ “รู้จักโกหก”เพื่อเข้าสังคมนั้น ส่งผลให้บุคคลนั้นๆ เป็นที่ชื่นชอบของคนในสังคมมากกว่าผู้ที่พูดแต่ความจริงเพราะการเข้าสังคม บางครั้งจำเป็นต้องปรุงแต่คำพูดซึ่งต่างไปจากความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อให้ คู่สนทนาสบายใจและประทับใจ

โกหกเพื่อปกป้องตนเอง

เป็นการโกหกเพื่อการเอาตัวรอด เช่นกลัวความผิด กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวเสียเกียรติ กลัวการเผชิญหน้า กลัวความผิดหวัง ฯลฯ การโกหกประเภทนี้ในบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นโยนความผิด ใส่ความผู้อื่น เป็นพยานเท็จ ฯลฯ

โกหกเพื่อหวังผลประโยชน์

เป็นการโกหกเพื่อทำให้ตนเองได้รับการยอมรับ ความไว้วางใจ ได้โอกาสในการทำงาน มักเป็นในรูปของการปลอมแปลงข้อมูลทางคุณวุฒิ คุณสมบัติ ฐานะการเงิน ฯลฯ

โกหกตนเอง

 มักเกิดกับคนที่สูญเสียความมั่นใจ สับสน และหวาดกลัวความจริง คนประเภทนี้มักสร้างเรื่อง “หลอกตนเอง”ให้คลายจากความทุกข์ชั่วขณะ เช่นหลอกว่าคนรักที่ทอดทิ้งไปยังมีใจให้อยู่เสมอ และสุดท้ายคนเหล่านี้มักโทษตนเอง อาจเลยไปถึงขั้นทำร้ายร่างกายตนเองหรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าก็มี
และเมื่อไรก็ตามที่การโกหกลักษณะนี้มีการพัฒนาการมากขึ้น ข้อมูลที่ไม่จริงทั้งหลายก็จะถูกตอกย้ำใส่หูตนเองซ้ำๆ จนตัวเองเริ่มเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นจึงนำเรื่องไม่จริง(ที่ตัวเองเชื่อว่าจริง)นี้ไปบอกผู้อื่นต่อ ทางจิตเวชถือว่าอาการเช่นนี้อยู่ในข่ายอันตรายที่ต้องได้รับการบำบัดเยียวยา อย่างเร่งด่วน


ผู้หญิง

 เพราะผู้หญิงมีความสามารถในการใช้สมองซีกขวา รวบรวมเรื่อง จัดการอารมณ์และความรู้สึกได้ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมักโกหกเพื่อถนอมความรู้สึก รักษาน้ำใจของคนใกล้ชิด

 ผู้ชาย

 มักโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและมักเห็นว่าการโกหกเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด สถิติโดยเฉลี่ย ผู้ชายจะโกหกมากถึง 6 ครั้งต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงจะโกหกเพียง 2 ครั้งต่อวัน


• - ประโยคโกหกยอดฮิตของทั้งหญิงและชาย “ ไม่เป็นไร… สบายดี ”

• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่ทำให้คนรักหน้ามืดตามัว “ คุณเป็นคนเดียวที่ฉันจะรักจนวันตาย ”
• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่คนมักใช้กับคนรักเพื่อหวังให้อีกฝ่ายใจอ่อนยอมยกโทษให้ “ รับรองจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก…ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ”


จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครโกหก

นักจิตวิทยาพบสถิติที่น่าสนใจว่า บรรดาคนพูดโกหกจำนวนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ หากพบว่าไม่มีใครจับได้ คนเหล่านั้นก็มีแนวโน้มจะพูดโกหกต่อไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าการโกหกเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าคนคนนั้นจะโกหกได้แนบเนียนอย่างไร ก็ไม่อาจปิดบังปฏิกิริยาในร่างกายขณะโกหกได้ เช่นอัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรจะไม่สม่ำเสมอ เหงื่อจะออกมากขึ้น อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ที่สำคัญระดับความดันโลหิตจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการระคายเคืองในระดับเนื้อเยื่อ เช่นบริเวณจมูก ลำคอ ใบหน้า คนที่กำลังโกหกจึงมักเกาหรือถูผิวหนังบริเวณนั้นบ่อยๆเพื่อลดการระคายเคือง


อาการผิดปกติที่พบเห็นทั่วไป เมื่อเวลาโกหก

1. หลบสายตา กะพริบตาหรือกลอกตามองซ้ายขวาไปมาบ่อยครั้งอย่างไม่จำเป็น
2. กลืนน้ำลายบ่อยกว่าปกติ อาการนี้ผู้ชายจะเป็นมากกว่า
3. น้ำเสียงไม่ปกติ ขึ้นเสียง โวยวายเมื่อถูกถามซ้ำๆเพราะคนโกหกจะไม่สามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ นาน หรือเล่าความได้ครบถ้วนเหมือนตอนที่เล่าครั้งแรก
4. ตอบคำถามด้วยการย้ำคำพูดหรือหยุดชะงัก ก่อนจะตอบคำถามแบบยืดยาวด้วยการทวนคำถามอีกรอบ ทั้งนี้เพื่อประวิงเวลาในการสร้างเรื่องโกหก


โกหกแล้วได้อะไร

อันดับแรกคือ ความโล่งอกที่หลุดพ้นภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นมาได้ แต่สิ่งที่จะตามมาติดๆคือ ความกังวลใจ กลัวไปสารพัด เพราะไม่อยากถูกจับได้

แต่ยิ่งกลัวมากเท่าไร โอกาสที่การโกหกจะลุกลามต่อไปก็มีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อกลัวว่าที่โกหกไปแล้วจะไม่แนบเนียนก็ย่อมต้องโกหกเรื่องอื่นๆ ตามมาเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือขึ้นอีกเป็นชั้นๆ บางกรณีเมื่อโกหกแล้วยังไม่มีใครจับได้ ก็ได้ใจและทำต่อไปเรื่อยๆ สำหรับบางคนเลยเป็นสิ่งที่กลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย

แต่ความลับไม่มีในโลก ดังนั้นไม่ว่าการโกหกจะถูกเปิดโปงด้วยวิทยาการล้ำสมัยหรือเป็นการจนมุมง่ายๆ ด้วยวิธีใดก็ตามที ผลที่ผู้โกหกจะได้รับคงไม่แตกต่างไปจากเด็กเลี้ยงแกะที่ต้องอยู่อย่างโดด เดี่ยว ไม่มีใครเชื่อถือและให้ความไว้วางใจอีกต่อไป


 รู้จัก ปฏิกิริยา พิน็อกคิโอ
การแตะจมูกเป็นสัญญาณมือสำคัญที่สื่อว่า เขากำลังโกหก นักวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อคนเราโกหก ความดันเลือดจะสูงขึ้น จมูกจะบานออก หรือที่เรียกว่า พิน็อกคิโอ ทำให้คนที่โกหกต้องถูจมูกเร็วๆ


***************************************************************************************************************************************

ก๊อปปี้มาจากเวปอื่น เคยนำเสนอไปแล้วครั้งหนึ่งครับ...ขออีกสักครั้งเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ " นาธาน ซีล "   




::014::   >>> สวัสดีครับ  <<<  >>>  pasta  <<<  ;D


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 07:01:03 PM
  อยากอ่านแต่แว่นตาไม่เจอ  เอาเป้นว่าขอติดไว้ก่อนแต่ยอมรับว่าชื่นชมนะครับน้าอรรถ ::002::


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 07:18:24 PM
  อยากอ่านแต่แว่นตาไม่เจอ  เอาเป้นว่าขอติดไว้ก่อนแต่ยอมรับว่าชื่นชมนะครับน้าอรรถ ::002::

  ::014::  กราบขอบคุณครับคุณลุงแป๋ง   :VOV:


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 08:04:48 PM
+1ครับ


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 08:13:41 PM
::002:: ::002:: ::002::

::014::



หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 09:29:47 PM
 รวบรวมกระทู้ของลุงpasta ^_^"  แล้วเอาไว้สอนลูกๆหลานๆได้เลยนะเนี่ย ( จริงๆนะ )


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 09:32:18 PM
+1ครับ ::002::


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 10:48:29 PM
ในบ้างเรื่องการโกหกก็เป็นสิ่งจำเป็นครับ เราไม่ว่ากัน

แต่ผมชอบคนจริงใจครับ  :D

ขอบคุณ คุณ pasta ครับ  ::014:: +


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 11:04:27 PM
ยอมรับว่าโกหก ทุ้กวัน ครับ
อุปกรณ์ บางตัว ราคา มา 15 บาท ราคาหน้าร้านเท่ากัน 80 บาท ลูกค้าถาม "ลดได้มั้ย"   ผม " 70 บาทแล้วกันครับ เท่าทุน"   :~) :~) :~)
ถ้าบอกเค้าว่า "มันมา 15 บาทแล้วครับผมขอ 70 บาท แล้วกัน มีหวัง  :<<
ถ้านอกจากเรื่องขายของ แล้ว  หลายๆคนรู้ดีว่าผมเป็นไง ครับ  ;)


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 11:14:40 PM
ยอมรับว่าโกหก ทุ้กวัน ครับ
อุปกรณ์ บางตัว ราคา มา 15 บาท ราคาหน้าร้านเท่ากัน 80 บาท ลูกค้าถาม "ลดได้มั้ย"   ผม " 70 บาทแล้วกันครับ เท่าทุน"   :~) :~) :~)
ถ้าบอกเค้าว่า "มันมา 15 บาทแล้วครับผมขอ 70 บาท แล้วกัน มีหวัง  :<<
ถ้านอกจากเรื่องขายของ แล้ว  หลายๆคนรู้ดีว่าผมเป็นไง ครับ  ;)
ของบังมันค้าขายนิครับ
ถ้าจะให้เรียกโกหกแบบจริงๆจังๆๆต้องแบบโดนไวรัสพังมาแต่บังบอกเครื่องอุปกรณ์พังต้องเปลี่ยนนู้นนี้นะครับ


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 11:17:49 PM
ยอมรับว่าโกหก ทุ้กวัน ครับ
อุปกรณ์ บางตัว ราคา มา 15 บาท ราคาหน้าร้านเท่ากัน 80 บาท ลูกค้าถาม "ลดได้มั้ย"   ผม " 70 บาทแล้วกันครับ เท่าทุน"   :~) :~) :~)
ถ้าบอกเค้าว่า "มันมา 15 บาทแล้วครับผมขอ 70 บาท แล้วกัน มีหวัง  :<<
ถ้านอกจากเรื่องขายของ แล้ว  หลายๆคนรู้ดีว่าผมเป็นไง ครับ  ;)
ของบังมันค้าขายนิครับ
ถ้าจะให้เรียกโกหกแบบจริงๆจังๆๆต้องแบบโดนไวรัสพังมาแต่บังบอกเครื่องอุปกรณ์พังต้องเปลี่ยนนู้นนี้นะครับ
อ๋อ ครับ แบบนั้นไม่เคยทำ มีแต่ ถ้าใส่โปรแกรม 150(ซิมเบี้ยนรุ่นเก่า) หรือ 180 (รุ่นใหม่)  หรือถ้า  อ๊อฟชั่น พร้อม  เพิ่มอีก 50 บาท  ::005:: ::005:: :D~ :D~


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 11:18:42 PM
มาเจอราคากรุงเทพมะ ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กรกฎาคม 25, 2011, 11:21:42 PM
มาเจอราคากรุงเทพมะ ::005:: ::005::

 :OO ได้ข่าวว่าถูกกว่า ใช่มั้ยครับ  ???


หัวข้อ: Re: >>> ทำไมต้องโกหกกัน <<<
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กรกฎาคม 26, 2011, 06:15:55 AM
 

  ::014::   ขอบคุณครับผม + 1 ทุกท่าน    ;)