เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://image.free.in.th/z/ii/d1731.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=66928892643ff520c576236b79756305)
Thanks: ฝากรูป (http://www.myuppic.com)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีชาวจีนจำนวนมากขึ้นที่นิยมแต่งงานแบบตัวเปล่า (Naked marriage")หรือการแต่งงานที่ปราศจากการทรัพย์สินใหญ่โต และใช้เงินเล็กน้อยในการแต่งงาน โดยบางกลุ่มทำเพื่อต้องการความเป็นอิสระของครอบครัว และบางกลุ่มทำเพราะไม่มีทางเลือกจริง ๆ

 

รายงานระบุว่า คำว่า"การแต่งงานแบบตัวเปล่าเล่าเปลือย"ถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับธรรมเนียมการแต่งงานเดิมของชาวจีน ซึ่งกระตุ้นให้ครอบครัวต้องวางการก่อร้างสร้างฐานให้แก่การแต่งงานของลูกชายและลูกสะใภ้ ซึ่งที่ผ่านมา การแต่งงานดังกล่าวจะต้องหาเงินเก็บของฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นเวลาหลายปี ซึ่งจะต้องซื้อบ้าน หรือผ่อนบ้าน และการจัดงานเลี้ยงอย่างใหญ่โต รวมทั้งการจ่ายค่าสินสอดให้แก่พ่อแม่เจ้าสาวด้วย โดยครอบครัวเจัาบ่าวอาจจะช่วยเหลือเรื่องแต่งบ้าน หรือซื้อรถ หากคู่บ่าวสาว ต้องอาศัยในเมืองใหญ่ ซึ่งขึ้นกับสถานะทางการเงินของทั้งคู่

 

ทั้งนี้ จากการสำรวจโพลความคิดเห็นกระทำโดยหนังสือพิมพ์"ไชน่า ยูธ เดลี่"ในช่วงเทศกาล"ฉีซี่"หรือวันวาเลนไทน์ตามธรรมเนียมจีน เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า 48 % ของผู้ทำแบบสอบถามกว่า 3,000 คน บอกว่า พวกเขาสนับสนุนการแต่งงานแบบ"ตัวเปล่า"ส่วน 43 % เห็นด้วยว่า คู่ที่แต่งงานแบบตัวเปล่า จะต้องสู้ชีวิตมากกว่าคู่ที่แต่งงานสถานภาพทางการเงินที่ดีกว่า

 

ด้านนายหวัง ไห่หมิน หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามดีกรีปริญญาเอก ซึ่งปัจจุบัน อยู่บ้านเช่าได้สองปีหลังแต่งงาน บอกว่า เขาเห็นว่า การแต่งงานควรเป็นเรื่องของคนสองคนที่พร้อมจะทำงานหนักเพื่อสร้างฐานะไปด้วยกัน มากกว่าการมีทุกอย่างพร้อมเสร็จสรรพ ซึ่งไม่ได้พิสูจน์ความรักของคนทั้งสอง

 

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การยอมรับเรื่องการแต่งงานแบบตัวเปล่ามากขึ้น แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่เปิดกว้างของวัยรุ่นจีน โดยทุกวันนี้ คู่บ่าวสาวได้ตระหนักว่า พวกเขาควรจะร่วมแบกภาระและสร้างฐานะของครอบครัวเพื่อความสุขในวันข้างหน้าร่วมกัน แทนที่จะมีทุกอย่างพร้อมสรรพโดยไม่มีการปลูกร่างสร้างฐานะด้วยกัน  
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312704410&grpid=01&catid&subcatid (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312704410&grpid=01&catid&subcatid)

เห็นด้วยนะครับ กับทัศนคติแบบนี้ กติกาสังคมแบบเก่าๆ ที่คาดหวังสูงๆกับผู้ชาย ต้องมีนั่นมีนี่มากมาย ต้องมีสินสอดจำนวนมาก บางคนถึงขั้นต้องเป็นหนี้เป็นสิน บางส่วนเลือกที่จะไม่แต่งเลย เอามาอยู่กันเฉยๆ ไงล่ะที่นี้ มีลูกมาทิ้งให้อีก ของแถม

คนเราเดินไปด้วยกัน ช่วยกันสร้างก็ได้ ชีวิตคนไม่ใช่ละคร ที่พระเอกต้องรวย รวยเว่อร์ๆ งานการไม่ต้องทำ บ้านหลังเท่าวัง ขับรถหรูหรา การมีทัศนคติจะเอาคนมีเงิน แบบในละครที่ดูกันตั้งแต่เด็กจนแก่ ปลูกฝังทำให้สังคมมันผิดเพี้ยน มองเงิน มองความรวยเป็นหลัก จนคนจำนวนมากที่จึงทำอะไรก็ได้ เพื่อให้มีเงินเยอะๆ แม้แต่ทำผิดกฎหมายก็ตาม   ;D

ผมว่าเป็นมานานแล้วนะ จีนโพ้นทะเลเค้าก็เลิกสนใจเรื่องสินสอดมานานแล้ว

จีนในเมืองไทยยิ่งแล้วใหญ่ แค่มาขอกันให้ถูกต้องเจ้าบ่าวยกสินสอดมาเท่าไหร่ฝ่ายเจ้าสาวโปะให้เกินเท่าตัวอีก

บางบ้านพ่อเจ้าสาวชอบหน้าไอ้หนุ่มขึ้นมา วันแต่งทบสินสอดคืนให้เท่าตัวแล้วยังแถมให้บ้านเป็นหลัง ให้ทองเป็นกิโลฯเลย  :)

 :D~ :D~ :D~ กระทู้สร้างความหวัง  :D~ :D~ :D~

แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยครับพี่จ้าว ที่มองฐานะจนเกินกว่าเหตุ จนผู้ชาย(ธรรมดาๆ)มันไม่รู้จะหาที่ไหนมาให้

ผู้ชายมันเลยบอก งั้นยืมลูกสาวไปใช้ก่อนละกันนะ มีเงินแบบที่ว่าค่อยมาแต่ง  ::007::

 เหมือนๆจะบ่นจากความในใจของตัวเองนะเบิ้ม

 ::005:: ::007:: ::007::

เบื่อจริงคนรู้ทัน  ::001::

(http://image.free.in.th/z/ix/v1724.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=3be006daa342c010f99430def3f43fea)
Thanks: ฝากรูป (http://www.myuppic.com)

55555555555

เพื่อผองเพื่อนกูขอสู้หลังชนฝา เพื่อลูกเมียกูจะสู้สุดใจกล้า เพื่อเพื่อนเมียกูจะสู้สุดแรงล้า เพื่อน้องเมียกูจะสู้จนชีพวาย

 เพื่อ ฮาเล็ม กูจะขอสู้ตายเพื่อจะให้ได้มา 5555555555555
 :DD :DD :DD

บางระจันทร์  สู้ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::005::

ที่พูดคือคนจีนในเมืองไทยครับ
เอาคนขยันขันแข็ง เอาการเอางานเข้าว่า
ส่วนคนไทยเก่าก่อนก็ว่าไว้ คนขยันขันแข็งนั้น
"ถึงยากจนอย่างไรก็ไม่ว่า แต่พร้าขัดหลังมาจะยก(ลูกสาว)ให้"


แต่สำหรับจีนแผ่นดินใหญ่ บางที ขนบประเพณีต่างๆ ทำให้่การเปลี่ยนแปลงสังคมทำได้ยาก
โดยเฉพาะเ็ด็กยุคใหม่ อายุต่ำกว่า30โดยประมาณนะครับ เพราะเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว
ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ตามที ทุกครอบครัวมีลูกได้1คน

ราวๆ30ปีที่แล้ว จีนออกกฎหมาย ลดการเพิ่มประชากร และเพิ่มศักยภาพของประชากรโดย
การให้แต่ละครอบครัว มีบุตรได้คนเดียว กล่าวง่ายๆคือหลัง คลอดบุตร สตรีจะถูกทำหมันทันที

เด็กที่เกิดหลังยุคนั้นจะมีแค่คนเดียวในครอบครัว ไม่มีพี่น้อง เว้นแต่กรณี เด็กแฝด ซึ่งธรรมชาติ
เป็นผู้คัดสรรมา ครอบครัวนั้นจะได้มีลูก2คน

ที่จีนก็มีเครื่อง อัลตร้าซาวด์นะ แต่เอาไว้ใช้งานแบบดูแลสุขภาพเด็กในครรภ์ ตามเจตนารมณ์การออกแบบสร้าง
ไม่เหมือนไทย เอามาดูเพศ ซึ่งจริงๆ มันแค่ผลข้างเคียงของเครื่อง แต่ก็เอามาทำการตลาดขายการดูเพศเด็ก
จนร่ำรวยกันไป


ที่จีนจะไม่บอกเพศเด็กให้แก่พ่อแม่ เพราะ เกิดเป็นเพศที่เขาไม่ต้องการ อาจไปทำแท้ง เพื่อมีลูกคนใหม่
เนื่องจากมีลูกได้คนเดียว


ทีนี้ เมื่อแต่ละครอบครัวมีลูกได้คนเดียว มักจะหวงแหน อยากทำทุกอย่างตามประเพณีให้มาก

แต่สังคมที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้เกิดการแต่งงานตัวเปล่าจนได้ นั่นหมายถึงสังคมเมืองยุคใหม่เข้าครองเมืองจีน
ได้แล้ว

ถามว่าที่จีนมีแบบอยู่ก่อนแต่งไหม  มีนะ แต่ว่ายังไม่ได้รับการยอมรับในสังคมคนยุคเก่า

อาจต้องใช้เวลา

ตกใจหมด  อ่านชื่อกระทู้  นึกว่าเปลือยกายเข้างานแต่งงาน  ;D

 ;D

ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาปู ดำ ขึ้นมาจะนำนโยบาย "เมียเอื้ออาทร ผ่อนวันละบาท" มาใช้
ผมจะได้ไปลงชื่อเข้าร่วมโครงการบ้าง

หึๆๆ เหฌนมาเยอะครับ ที่ทำเอาหน้าเอาตากัน

กู้หนี้ยืมสินมาจัดงานแต่ง ให้ใหญ่โต เพื่อโอ้อวด จบงาน
แทนที่ครอบครัวจะเริ่มนับ จาก 0หรือจาก1 ต่อๆไป

กลับต้องมาทำเรื่องติดลบ............


แต่มันก็พูดยากเนอะ มันก็แล้วแต่ความคิด ของใคร ก็ของใคร

ผมผ่อนดาวน์ยังไม่หมดเลย ::005::

เตี๋ยผมก็ยังผ่อนไม่หมดครับ  :~) :~) :~)