หัวข้อ: >>> ชาวพุทธ " หู " รุนแรง <<< เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กันยายน 14, 2011, 05:35:21 PM จำนวนคนอ่านล่าสุด 712 คน
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7594 ข่าวสดรายวัน ชาวพุทธ'หู'รุนแรง คอลัมน์ คำคมคารมเซียน kumkom99@gmail.com ชื่อตอนข้างต้นอาจมีคนสงสัย บังเอิญไปเห็นชุมชนคนรักเพลงร็อกโหดๆ โพสต์ข้อความนี้ไว้ในเฟซบุ๊ก เป็นมุขฮาๆ ว่าฟังเพลงแรงต้อง "หูหนัก" พอดีศัพท์คราวนี้เกี่ยวข้องกับนักส่องชาวพุทธ "หูเบา" เห็นว่าเข้าท่า เลยขอยืมมา ใช้ล้อ-จั่วหัว มั่ว-แถดื้อๆ...ซะงั้น! เข้าเรื่องกันดีกว่า... อย่าเล่นพระด้วยหู : เล่นพระอย่าหูเบา ในแวดวงพระเครื่อง อย่าคิดว่ามีแต่เรื่องการห้ำหั่น ในความเป็นจริงนั้น การเกื้อกูลก็มีให้เห็นควบคู่กัน แบ่งปันความรู้-ประสบการณ์ ส่งผ่าน...รุ่นต่อรุ่น อย่างบทกลอนสอนเซียน เขียนโดยปรมาจารย์ยุคบาร์มหาผัน ท่านรจนาเตือนไว้น่าฟังดังนี้ อย่า...ทำตนไถพระเขาฟรี อย่า...อวดดีอย่างคางคก อย่า...ฟูมฟกเมื่อเจอพระเก๊ อย่า...ทำเก๋ชักดาบเขา อย่า...มัวเมาเล่นจนหลง อย่า...พะวงพระลาวตกรถ อย่า...ใจคดทุบหม้อข้าว อย่า...เช่าพระใกล้พลบค่ำ อย่า...ลูบคลำพระถูเหงื่อ อย่า...เชื่อหูแต่จงเชื่อตา ทุก "อย่า" คือบทบัญญัติชั้นดี ใครที่ตั้งตนเป็นเซียนควรหมั่นปฏิบัติ คือของกำนัลจัดให้ จากใจรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง เล่าท่องอย่าละเลี่ยง เพียง 10 อย่าเท่านั้น...จำจงดี! สรุปเน้น-แนะชัดตรงบรรทัดสุดท้าย "อย่า...เชื่อหูแต่จงเชื่อตา" ง่ายๆ แปลว่า "เล่นพระอย่าหูเบา" เข้าขั้นวรรคทองของวงการ สำคัญ-สัมพันธ์ต่อเนื่องกับ "นิทาน-นิยาย" เรื่องเล่าอันตรายที่จ้องขมายสตางค์ในกระเป๋าของเหล่านักเล่นที่เชื่อคนง่าย ผลลัพธ์สุดท้ายคือ...พระเก๊เต็มบ้าน! พระเครื่อง ไม่ใช่ "เพลง" ซะหน่อยจะได้คอยเงี่ยหูฟัง อวัยวะเดียวเท่านั้นที่ควรวางใจคือ...ตา ต้องหาเวลาถ่างผ่านเลนส์กล้องชั้นดี ส่องให้ถ้วนถี่ พิจารณาให้ถ่องแท้...และต้องมีหลักการ เพราะเรื่องปาฏิหาริย์-ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องเล่าที่คละเคล้ากับความเชื่อ-ศรัทธาของแต่ละบุคคล คุยแล้วสับสน...จบยาก ตรงข้ามกับองค์พระเครื่อง ท่านเป็นวัตถุที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ฟันธง "ขาว-ดำ" พิสูจน์ "เก๊-แท้" ได้แบบเชิงวิทยาศาสตร์ เซียนชั้นดีมักจ้ำจี้จ้ำไชว่า... "พระจะแท้-ไม่แท้อยู่ที่องค์พระ ใช่อยู่ที่ใครให้มา หรือเพราะว่านิยาย-นิทานที่ขยันกรอกหู" พระเครื่อง อาจมีหลากหลาย ตั้งแต่ดิน-ชิน-ผง-กริ่ง-รูปหล่อ-เหรียญ... แต่ทุกเซียนล้วนรู้ว่าจะต้องดูจุดไหน เป็นจุดจดจำสำคัญสุด หลักการง่ายๆ แต่...ยาก คือ พิมพ์ต้องถูก-เนื้อต้องใช่-ธรรมชาติต้องมี ให้ดี ควรรู้กรรมวิธีในการสร้าง "พิมพ์ถูก" คือลักษณะทางกายภาพของพิมพ์พระถูกต้อง ตำหนิครบตามตำรา ไม่ผิดเพี้ยน "เนื้อใช่" คือมวลสารหรือโลหะที่ประกอบเป็นองค์พระเป็นไปตามข้อมูล ไม่แปลกปลอม "ธรรมชาติต้องมี" คือ ธรรมชาติความเก่าที่เกิดจากกาลเวลา ธรรม ชาติความสึกกร่อนที่เกิดจากการใช้ และที่สำคัญ...ธรรมชาติที่เกิดจากการสร้างพระ ตรงนี้แหละที่ผมบอกว่าควรเข้าใจกระบวนในการผลิตแต่ละชนิดของพระเครื่อง เรื่องมันยาวครับ ขอกระชับพื้นที่สั้นๆ พอให้เห็นภาพ ยกตัวอย่างการสร้าง "พระเหรียญ" ซึ่งเกิดจากปั๊มของเครื่องจักร มักปรากฏเส้นเสี้ยนคมๆ บนพื้นผิวที่เรียบตึงจากการกระแทกพิมพ์ และร่องรอยตัดตรงข้างขอบเหรียญ ตามแบบเครื่องตัดโลหะที่วิวัฒนาการไปแต่ละช่วงยุคปี เอกลักษณ์ธรรมชาติเหล่านี้ ต้องมีให้เห็น แต่พระเก๊ที่เกิดจากการถอดพิมพ์ แล้วปลอมใหม่ด้วยวิธีหล่อเหวี่ยง-หล่อฉีด ฯลฯ ความประณีต-คมชัดจะ...ไม่เหลือ เบลอๆ-บวมๆ กำกวม-ก้ำกึ่ง...ก็เก๊ชัวร์ อ่านถึงตรงนี้อย่าเพิ่งปวดหัว อย่ากลัวอย่าแหยง...ถ้าอยากเก่ง หมั่นฝึกส่อง เรียนรู้จากพระแท้ให้เยอะจน "ตาถึง" ห้าม "หูถึง-หูเบา" ฟังแต่เรื่องเล่าเลอะเทอะเหลวไหล นักเล่นพระชาวพุทธต้อง "หูรุนแรง"...ฟังไว้! |