เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

พอดีวันนี้ไปเดินเล่นแถวโลตัสมา 
ก็เจอพนักงานผู้ชายสองคนของกรีนพีชคะ  เขาบอกว่าขอเวลาสักสองสามนาที 
เราก็บอกว่าได้เพราะเห็นว่าเขาขอเวลานิดเดียวสละบ้างได้ก็ดี
พอเข้าไปก็เจอกับคำถาม
รู้จักกับกรีนพีชไหม  เราก็บอกเขาไปว่า  น่าจะรู้จักหลังจากเฉลยคำถามที่ถามมา
พี่ผู้ชายคนหนึ่งก็อธิบายว่า เป็นองค์กรที่ช่วยลดโลกร้อน เขาก็บอกต่อไปอีกว่า  กรีนพีชก่อตั้งที่ประเทศแคนนาดา กรีนพีชประสบความสำเร็จในการต่อต้านโรงงานนิวเคลีย ถ่านหิน ฯลฯ   เราก็พยักหน้า  คิดในใจ ของเขาดีจังทำเพื่อส่วนรวมน่าสนใจมากๆ
จากนั้นเขาก็ถามต่ออีกว่า  อยากช่วยลดโลกร้อนไหม  เราก็ตอบว่า ช่วยได้ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน 
แล้วพี่ผู้ชายอีกคนก็ถามเสริมขึ้นมาอีกว่า  แต่ละเดือนใช้เงินเยอะไหม  แพทก็ไม่พูดอะไรแค่จ้องหน้าพี่เขาไป เขาก็ยิ้มให้พร้อมทั้งยืนเอกสารมาอธิบายให้ช่วยบริจาคเงินและเข้าร่วมการเป็นสมาชิกกับกรีนพีช  แพทก็ดูรายละเอียดคราวๆ ได้ความว่า
เขาจะขอรับบริจาคเงินเป็นรายเดือน   โดยหักจากบัญชีหรือบัตรเคดิตก็ได้  แต่มีเงือนไขว่า เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า  สี่ร้อยบาทแน่ๆ แพทก็คิดในใจ
ทำไมขอบริจาคทั้งทีจะตามใจเราไม่ได้หรือ ทำไมต้องบังคับบริจาคเป็นตัวเลขที่เขากำหนดด้วย
หากไม่ต้องการบริจาคหรือยกเลิกการเป็นสมาชิกก็สามารถทำได้  ระหว่างที่อ่านรายละเอียดเขาก็อธิบายประกอบการอ่านไปด้วยว่า  กรีนพีชไม่ขอรับเป็นเงินสด  และไม่รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล  หรือหน่วยงานใด เงินทั้งหมดมาจากการบริจาคของประชาชน  แพทก็ถามพี่เขาไปว่า  ทำไมไม่ตั้งกล่องบริจาคล่ะ  แพทไม่มีเงินเก็บในบัญชีไม่มีบัตรเคดิตแต่อยากจะช่วยบริจาคสักร้อยสองร้อยพอประมาณเป็นครั้งคราวไป  พี่เขาก็ชักสีหน้าแบบดุๆแล้วเอานิ้วชี้ไปยังข้อความในเอกสารว่า  ไม่รับเป็นเงินสด  แพทคิดว่าพี่เขาคงลืมตัวกระมั้งจึงชักสีหน้าใส่แพท    พอเขานึกขึ้นได้เขาก็ยิ้ม แพทหมั่นไส้มากเลยถามเขาไปอีกว่า หากให้หักเงินแล้วจะตรวจสอบได้ไหมว่าเอาเงินของเราไปใช่ประโยชน์จริงๆ  พี่เขาก็พูดเพียงแค่ว่า กรีนพีชจะส่งวารสารมาให้ดูทุกเดือน   พูดจบ เขาก็ถามเรามาว่าจะช่วยลดโลกร้อนด้วยการเป็นสมาชิกแล้วบริจาคเงินผ่านการหักบัญชีหรือเคดิตไหม
 แพทก็ไม่มีคำตอบเพราะคิดว่า ขนาดจะยิงปืนทั้งทียังแบมือขอเงินอยู่  ::014::   ถ้าขืนตอบตกลงไปมีหวังโดนริบค่าขนมค่ากระสุนแน่ๆ   ::003::  :~) :~) :~)
 พอพี่เขาเห็นเรานิ่งเพราะคิดนาน เขาก็ทำลายบรรยากาศเเห่งความสงบด้วยการถามย้ำอีกที  ว่าตกลงจะเป็นสมาชิกไหม พอดีจังหวะคุณแม่เดินมาตาม  แพทก็โดนดุว่าหายไปไหนนาน
  แพทก็เลยบอกพี่เขาไปว่าคุณแม่มาตามแล้ว  ขอที่อยู่เว็บกรีนพีชแทนจะได้ไหมจะขอดูรายละเอียดประกอบในการตัดสินใจ
แต่คำตอบที่ได้รับมา  นั่นก็คือ  คุณน้องครับนั่นคุณแม่น้องใช่ไหม แพทก็บอกว่าใช่คะ  พี่เขาก็ยิ้มแล้วพูดต่อไปว่า  พอดีเลยไปชวนคุณแม่มาช่วยบริจาคเงินหน่อย  เดือนแค่ไม่กี่ร้อยบาทเอง
แพทก็มองหน้าพี่เขาไปแทนคำตอบพร้อมเดินจากไปอย่างหัวเสียเอามากๆ  ขอเว็บก็ไม่ให้  ขอแต่เงินเราอย่างเดียวเลย  ไหนว่าจะขอเวลาแค่สองสามนาที  นี่ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง  อยากจะบริจาคเงินช่วยแต่ก็ต้องบังคับบริจาค
ถามเรื่องการตรวจสอบก็บอกว่าจะส่งวารสารมาให้ดู  แพทไม่ได้อคติกับการเข้าไปมีส่วนช่วยสังคมของกรีนพีชนะ  แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะขอเงินบริจาคทั้งทีต้องบังคับกันด้วย  แล้วการตรวจสอบการทำงานล่ะโปร่งใสไหม ใครเป็นคนตรวจ พี่เขาก็ไม่อธิบายอะไรเลยพอพูดถึงการตรวจสอบ   ::013:: ::013:: ::013:: 

 

น่าแปลกนะครับ ทำไมรับเงินสดไม่ได้
 ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับองค์กรนี้เลยครับ
รอท่านต่อไปมาชี้แจง
 นั่งเฝ้ากระทู้ให้ด้วย....

ลืมๆ สวัสดีตอนเช้าๆครับ

แก๊งค์ ต้มตุ๋น ครับ
พอๆ กับ ขาย สติ๊กเกอร์ทหารผ่านศึกเลย แต่งตัวดูหรู น่าเชื่อถือ

ไม่น่าใช่แก๊งครับ  พอดีเคยบริจาคอยู่บ้าง  ที่ไม่รับเป็นเงินสดเพราะอาจจะหายได้ระหว่างการส่งมอบ เลยหักบัญชีสะดวกและวางแผนได้ง่าย แต่คุณแพทคงไปเจอตัวแทนที่พูดไม่เป็นมากกว่าครับ  ถึงเราให้บัญชีบัตรไปแล้วไม่อยากให้ก็โทรบอก ตันสังกัดบัตรบอกไม่ให้หักแล้วก็จบครับ  ถ้าเป็นแก๊งจะมาขอหักเงินจากบัตรเราไม่ได้ครับ

ถ้าไม่ใช่แก๊งค์ ต้มตุ๋น  ก็ดีไป ครับ  แต่ถ้ากรีนพีท ทำแบบนี้ ผมคงไม่ขอ บริจาค ครับ
ด้วยเหตุผมที่ว่า การบริจาคโดยหักเงินในบัญชี เหมือนกับ การมัดมือชกสำหรับคนหาเช้ากินค่ำอย่างผม เพราะว่าบางช่วงเวลา เงิน 200 บาทก็ ทำอะไรได้หลายๆอย่าง
หรือต้องรอให้ผม มีอันจะกินมากกว่านี้ ก่อน  ถึงคิดจะเอามาพิจารณา อีกครั้ง
   ตอนนี้ขอ บริจาค พวกเด็กยากจน สร้างอาคารที่งบของรัฐเข้าไม่ถึงดีกว่าครับ   ::014::

...เคยเจอคล้ายๆ กัน เป็นองค์กรพิทักษ์สัตว์อะไรสักอย่าง ออกบูธในศูนย์การค้า ขอหักบัญชีเป็นรายเดือนอย่างเดียวเหมือนกัน

...แรกๆ ก็พูดดี แป๊บเดียวชักหนักข้อ หาว่าผมรักแต่หมาที่บ้าน ไม่รักหมาเร่ร่อน พยายามทำให้รู้สึกผิดเสียเหลือเกิน ผิดมากๆ ต้องยอมให้หักบัญชีเดี๋ยวนี้ ::013::

...ถ้าเดาไม่ผิด เด็กคงจะูพูดตามสคริปต์ แต่ทำได้แย่มากๆ จนสร้างความรำคาญ  ::012::

...สำหรับ Green Peace โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับกิจกรรมหลายอย่าง ซึ่งถ้าไม่มีพวกเขาแล้วสิ่งแวดล้อมน่าจะบรรลัยกว่านี้อีกแยะ แต่วิธีหาเงินแบบนี้จะเป็นผลลบต่อองค์กร ต้องปรับปรุงครับ

สำหรับผม ส่วนตัวผมมีอคติกับNGO ทั้งหลายแหล่  แต่กรีนพีชนี่ดูดีกว่าคนอื่นหน่อยนึง ผมชอบในเรื่องต่อต้านการล่าวาฬเท่านั้นครับ  ::014:: :D

ชอบประโยคนี้จังครับ  +1 ครับ  ::014::

...สำหรับผม ไม่เหมารวม แต่จะขอดูเป็นรายองค์กรครับ

ผมเคยเจอแต่วัดๆหนึ่งบอกไม่ต้องทำบุญมากทีเดียว ผ่อนได้เดือนละ300-400$.............

เดี๋ยวนี้มีหลายที่ครับที่ทำแบบนี้ อง๕การช่วยเหลือเด็กยู....ก็เหมือนกันครับ เท่าที่ฟังมา เห็นว่าถ้าสามารถโน้มน้าวให้ไปบริจาคกับเขาได้ เขาจะได้ค่าคอมฯครับ เคยมีคนส่งฟอร์เวิล์ดเมล์มาให้ผม บอกว่าได้ค่าคอมฯต่อราย 500-800 บาท ขึ้นกับจำนวนเงินที่เขาบริจาคครับ

โดนกับตัวเองเหมือนกัน ลักษณะมาเหมือนกันกับเจ้าของกระทู้เล่าเลย แต่ผมเจอที่ไปรษณีย์ปราณบุรี บอกผมว่าขอแค่น้ำ 1 ขวดผมเห็นว่าน้ำ 1 ขวดไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อน ผมเลยให้เขา 100 บาทเลย เขาไม่รับบอกว่าไม่ได้มาขอรับบริจาค แต่จะขอเป็นรายเดือน ที่ว่าน้ำ 1 ขวดคือขอวันละ 1 ขวดเดือนหนึ่ง 30 ขวด น้ำขวดละ 10 บาทจะขอผมเดือนละ 300 บาทโดยให้เซนต์ยินยอมหักเงินจากบัญชี ผมเลยบอกว่าถ้าเอากันเป็นประจำผมไม่มีให้

Ha Ha Ha  ฮา  เรื่อง "องค์กร การกุศล  สากล"   ฮา

ยายเชื่อถือ  มากกว่า  พวกที่เอา พระพุทธรูป พระบรมฉายาลักษณ์ 
หรือพวก มูลนิธิ โน่น นี่  เดินตระเวนขอเงินบริจาคคร๊า  ฮา

ลองสังเกตุดูน๊ะคร๊า  พวกเขาจะยืน  ขอเรี่ยไร บนทางเท้า  ทางสาธารณะ  ฮา
มิได้ใช้พื้นที่  ของสถานประกอบการ  อ่ะคร๊า  ฮา

ยายเจอบนสะพาน  ที่จะเดินต่อ  เข้าไปรถไฟฟ้า  ฮา
ยายเดินแล้วมองไปข้างหน้า  เห็นเขาเดิน เข้าไปชักชวน  กลุ่มบุคคล ที่เห็นว่า เป็นเป้าหมาย คร๊า

ยายมองแป๊ปเดียว  ก็รู้ว่าเขามาจากองค์กรไหน  อ่ะคร๊า  ฮา
วิธีสังเกตุง่ายๆ  เสื้อที่เขาใส่จะมีอักษร ตัวย่อของ องค์กร คร๊า
เช่น UNHCR  UNICEF  GREENPEACE  ฮา

ถ้าเขาเดินเข้ามาหา  รีบชิงบอกว่า   UNHCR  UNICEF  GREENPEACE  ใช่มั้ย  ฮา
น้องเขาจะตกใจ  แล้วถามว่าพี่รู้ได้อย่างไร  ยายยิ้ม  คร๊า  ฮา
บอกเขาว่าพี่จะรีบ  ไว้วันหลังคุยกัน  ฮา  ถ้าไม่อยากบริจาค หรือเสียเวลาน๊ะคร๊า  ฮา 
น้องคนที่มาถือกล่อง หรือ แนะนำตัว  ก็เป็นนักศึกษา  ทั้งนั้นแหละคร๊า
เขาหารายได้พิเศษ  อ่ะ  อย่ารังเกียจ รังงอน เขาเลยคร๊า

เอ็นจีโอ  เบิ้ม  ของไทย คือ ท่านอนันต์ ปันยารชุน  คร๊า  อดีตนายกของไทย  ฮา

ในเมืองไทยเรามี  มูลนิธิ "ศุภนิมิตร"  ที่เขาเรี่ยไร ช่วยเหลือ คนพิการ คร๊า
พอปีใหม่ที  หรือวันเกิด ที  เขาก็ส่ง โปสต์การ์ด  มาให้ถืงบ้าน พร้อมหมายเลขบัญชีธนาคาร
ถ้าไม่ประสงค์ จะรับไว้  ก็คืน ไปรษณีย์ ให้เขาส่งกลับได้คร๊า  ฮา

ถ้าบริจาคแล้วไม่เดือดร้อน  ก็เป็นความสุขเล็กๆคร๊า  ฮา

ทำไมเค้าต้องตกใจด้วยครับยาย  ???

Ha Ha Ha ฮา  ก็พื้นที่ตรงนั้นมันเป็น "Killing Zone"  อ่ะคร๊า  ฮา

ยายยิงก่อน  แล้ววิ่งหนี คร๊า  ฮา 
เป็นการชิงเปิด และปิด การเจรจา ที่ได้ผลและรวดเร็ว อ่ะคร๊า  ฮา
ยาย "หนีบ"  กระเป๋าแน่น  ไม่ยอมให้ "ซิป"  ได้ทำงานอ่ะคร๊า  ฮา

ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะคะ

อ๋อ.... เข้าใจแล้วครับ ยาย  ::005:: ::005:: ::005:: ::005:: ::014::

ขอบคุณครับ

http://www.youtube.com/watch?v=ZmhQ5-_k5f4&feature=relmfu

ผมเคยบริจากให้อ๊อกแฟมทุกเดือนห้าหกปีเห็นจะได้ แบบหักจากบัญชีแบบนี้แหละครับ
ก็ถือเป็นการทำบุญเพื่อสังคมแบบหนึ่ง เวลาเราจะยกเลิกก็ง่ายๆครับทำที่ตู้ ATM หรือใน
คอมก็ได้ แต่สี่ร้อยบาทต่อเดือนน่าจะมากไปนะสำหรับบ้านเรา   :D

หักบัญชี เขาจะมีลิสต์รายชื่อผู้บริจาคในขณะนั้น ซึ่งรายชื่อนี้ก็จะมีน้ำหนักว่าเป็นผู้สนับสนุนเขา
ซึ่งเป็นข้อมูลจริง ผ่่านระบบธนาคาร เชื่อถือได้ ไม่ใช่ล่ารายชื่อกันมาเป็นปึกๆ แบบนั้นฝรั่งไม่เชื่อถือครับ

บ้านเราถนัดอย่างหลัง รายชื่อใครต่อใครไม่รู้ มั่วมาหมด แล้วบอกว่ารายชื่อผู้เห็นด้วยกับเขา แค่เซ็นต์ชื่อก็ได้่แล้ว
บางคนเซ็นต์หลายรอบหรือเปล่าไม่รู้

คิดว่าอีกไม่นาน บ้านเ้ราจะมีระบบตรวจสอบอย่างนี้บ้าง การล่ารายชื่อสนับสนุน ไม่ใช่แต่ลงชื่อ แต่บริจาคเข้าโครงการ
สักคนละ100บาทก็พอ  ไม่ต้องถามว่าทำไม เอาเงินไปทำอะไร  แต่ถ้าตองการ50,000ชื่อ ก็5,000,000บาท
ที่ผู้นำโครงการ จะได้พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ในบช.5ล้านนั้น มาจากคนละ100 จำนวน50,000คน ตามรายชื่อแนบ


ขออภัย อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา แต่ผมคิดว่าก่อนตาย ผมจะได้เห็น

เรื่องการบริจาคเป็นเรื่องสมัครใจครับ แต่เมื่อการขอรับบริจาคเป็นเรื่องรบกวนใจ ก็อย่าไปบริจาคเลยครับ
เขาให้บริจาคโดยบัญชีเครดิตก็เพื่อสะดวกในการจัดการ และบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร อีกทั้งคนหาเงินบริจาคก็อาจได้ค่าหัวคิว
ตามยอดเงิน
ผมเองก็ไม่ชิน เพราะการบริจาค แบบพุทธ คือ "การให้"
การบริจาคใหม่ คือ "ธุรกิจการให้"

 น้องนี่แหละรู้ดีเลย เพราะโดนมากับตัวครับ

 ครั้งหนึ่งเมือต้นปีที่แล้วน้องเดินห้างแห่งหนึ่ง แล้วก็เข้าไปจ่ายค่าบัตรวีซ่าในธนาคารที่อยู่ในห้าง

 ทำธุระเรื่องเงินๆทองๆเสร็จของก็เดินออกมา .......... น้องเดินออกจากแบงค์ได้ไม่เกิน 10 ก้าว

 น้องรู้โดยสัญชาตญาณนักล่าที่น้องมีอยู่ ว่ามีผู้หญิงหุ่นดีนมใหญ่แต่งตัวดีจับจ้องมาที่น้อง

 แล้วทุกอย่างก็เข้าแผน จากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า สุดท้ายน้องต้องจ่ายทุกเดือนๆละ 300 บาท

 มีจดหมายส่งมาขอบคุณทุกเดือน มีอีเมล์ส่งมาแจ้งข่าวสารตลอด

 เมื่อปีที่แล้วมีการนับเวลาถอยหลังกันทั่วโลกเรื่องประชุมโลกร้อนที่เดนมาร์ค

 หลังๆน้องจะยกเลิกโทรไปแบงค์ที่น้องให้เค้าตัดบัญชี แบงค์บอกว่าพี่เปลี่ยนบัญชีใหม่ดีกว่าค่ะ

 ยกเลิกยากกว่าเปิดบัญชีใหม่ องค์กรนี่เข้าง่าย ออกยาก

 

 

 

 เค้าบอกน้องว่าที่เมืองไทยเราต่อต้านการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งนี้ธรรมชาติ

 ต่อต้านพืช เอ็มจีโอ หรือ โอจีเอ็ม อะไรนี่แหละจำไม่ได้แล้ว

 ส่วนถ้าอยากจะไปต่อต้านการล่าปลาวาล ก็ต้องหาเงินไปยี่ปุ่น กับ แคนนาดาเอง

 เพราะเรือล่าวาลของเป็นของยี่ปุ่นไปทั่วโลก และมักเลยไปถึงแดนนาดา

 เราพี่น้องกรีนพลีส เป็นเหมือนครอบครัวกัน เค้าว่ามาอย่างนี้นะ

 

แม่ผมทำบุญกับศุภนิมิตรครับ ใช้ชื่อผมกับพี่สาว จ่ายยังไงอันนี้ผมไม่ทราบ รู้สึกว่าจะทางธนาณัติหรือยังไงนี่แหละ แต่ไม่ใช่บัตรเครดิตแน่นอนครับ  ทุกๆเดือนจะมีจดหมายจากมูลนิธิส่งมาที่บ้าน ส่งมาขอบคุณ โดยในซองจะมีจดหมายของมูลนิธิ และจดหมายของเด็กที่ได้รับเงินอุปถัมภ์จากเราเขียนขอบคุณด้วยลายมือ พร้อมรูปถ่ายของเด็กคนนั้น

มีอยู่ครั้งนึงผมไปทำบุญที่วัดชื่อดังแถวสามย่าน ก็ไปเจอคนที่เค้าบอกว่ามาจากองค์กรประเภทนี้ (จำได้ไม่แม่นว่า UNICEF หรือว่าอะไร)  คุยกันแป๊บนึง เค้าบอกว่าขอให้ช่วยสงเคราะห์เด็ก โดยการกรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัสบัตรเครดิตลงในแบบฟอร์ม   ผมก็เลยบอกปัดไปว่า ปกติที่บ้านทำอยู่แล้วทุกเดือนครับ :)

Peace พีส

พี่ยามเสียท่าก็ตรงนี้แหละ...มัวแต่ตกตะลึงน้ำลายไหล...รู้ตัวอีกทีก็เซ็นชื่อไปซะแล้ว... ::007:: ::007:: ::007::

แล้วเรดาห์นักล่าที่เคยทำงานก็โดนตลบหลัง เป็นผู้ถูกล่า(เงินบริจาค)เสียเอง...

ให้กุศลส่งครับพี่ยาม ::014::

ไอ้จำพวกต่อต้านการสร้างเขื่อนทั้งหลายตอนนี้น้ำท่วมไปทั่ว ไม่เห็นองค์กรที่แสนรู้กับแสนดีเหล่านี้ออกมาช่วยเหลืออะไรเลย

เจ้าหน้าที่กรีนพีซตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ไม่มีความสามารถในการสื่อสารครับ, คนแบบนี้ต้องจับอบรม แล้วสั่งให้ทำงานแบบที่ไม่ต้องตัดสินใจอะไรมาก แบบหุ่นยนต์นั่นแหละครับ... ม่ายงั้นไปอยู่ตรงไหนทำวุ่นวายตรงนั้นครับ...

กรีนพีซเป็นองค์กรสาธาณะอันดับหนึ่งของโลกองค์กรหนึ่ง... แต่ต้องคัดคนหน่อยครับ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสื่อสารแล้วให้คนอื่นเขา"เต็มใจ"ควักกระเป๋า...