เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เมื่อวานขับรถกลับบ้าน หลับในอีกแล้วเป็นครั้งที่สอง(ครั้งแรกเกือบหวดกับขอบสะพานดีที่ตื่นก่อน) ผลคือ ชนไปสองคัน คันที่ผมชน(คันที่สอง) กระโปรงท้าย และกระโปรงหน้าปิดไม่ได้ กันชนหลังแตกตัวถังรถฉีก ไฟท้ายแตก ส่วนรถคันที่สาม(หน้าสุด) กันชนหลังแตก(เพราะโดนคันที่สองกระเด็นไปชน) ส่วนรถผมคันก่อเหตุ ไม่เป็นอะไรมาก ฝากระโปรงบิด ไฟหน้าดิ้นไปด้านบน กันชนหน้า และกระจังหน้ารถ แตก, ยุบ และบังโคลนด้านข้างปลิ้นออก ตอนชนผมยังไม่ตื่นเลย จนรถมันกระตุกและดับไปเอง ลืมตามายัง งงๆ อยู่เลยครับ ฝืนหลับมาตั้งแต่พาต้า ล่วงเลยจนถึงสะพานซังฮี้ รถติดมาก ค่อยๆ ขยับ จะจอดนอนก็ไม่ได้ ไม่มีที่ให้จอดเลย ทนฝืนขับไปเรื่อยๆ จนได้เจอบทเรียนที่ไม่คุ้มค่ากับการฝืนขับเพราะง่วงนอน รถวิ่งมาถึงหน้าวัง หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็อย่างที่เล่ามาครับ ประสบการณ์ครั้งนี้ ถือว่ายังปราณีผม เพราะว่าความเร็วของรถไม่มาก เนื่องจากรถติด แต่ถ้าความเร็วมากกว่านี้ ผมคงไม่ได้มานั่งพิมพ์บอกเล่าประสบการณ์ เหล่านี้ให้พี่ๆ ทุกท่านฟัง ผมเชื่อว่าพี่ๆ ทุกท่าน ที่ขับรถ และเชื่อว่าต้องเคยมีวูบกันบ้าง เชื่อผมเถอะครับ จอดนอนเลยดีกว่าครับ เพราะผมก็ฝืนขับ คิดว่าจะไหว แต่บทสรุปแล้ว คืออุบัติเหตุ และการสูญเสีย ::004::

ขอบคุณครับ ::014::

ขับทางไกลนานๆหมั่นเปิดกระจกเปลี่ยนอากาศบ้างอาการง่วงบางครั้งเกิดจากอ๊อกซิเจนน้อยลงถ้านั่งไปหลายคนยิ่งจะแย่งอ๊อกซิเจนกัน ผมปฎิบัติแบบนี้เวลาวิ่งไกลๆ 200 - 300 กิโลต่อเนื่อง

...เคยมี่หมออยู่ท่านหนึ่งออกมาบอกว่า "อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนในประเทศไทยอันดับหนึ่งไม่ได้เกิดจากเมาแล้วขับ แต่เกิดจากหลับใน" หมอท่านนั้นยังบอกวิธีการแก้หลับในให้ฟังว่า หากง่วงนอนมากๆให้จอดรถหาที่นอน ก่อนนอนให้ดื่มกาแฟไปชัก 1 กระป๋องแล้วก็นอนเลย หลังจากที่นอนไปแล้วกาแฟจะปลุกเราให้ตื่นขึ้นมาเองรับรองคราวนี้ตาสว่างแน่นอน ซึ่งวิธีนี้มันสอดคล้องกับลูกค้าผมที่เป็นคนญี่ปุ่น แกมาตามงานจนถึงตี 2-3 แกง่วงมาก แกก็เดินไปกด M100 มาหนึ่งขวดแล้วก็ขอไปนอน 10 นาที คราวนี้เช้าเลย...

ดูข่าวเมื่อเช้า รถทัวร์สายเชียงใหม่วิ่งขึ้น คนขับหลับในรถเกิดอุบัติเหตุผลิกคว่ำเส้นทาง อ.เถิน จะเข้าลำปาง บาดเเจ็บเยอะและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ5คน ::004::

ผมเคยครั้งนึงกลับมาจากอุบลมาหลับในแถวนครสวรรค์ รถพุ่งเข้าไปในวัด ตกใจตื่นตอนรถกระแทกตอนพุ่งผ่านประตูวัดครับเหยียบเบรคทันรถไปหยุดหน้าโบสถ์พอดีเลยเกือบไปจริงๆครับ

ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมากครับ ::002::

มันน่ากลัวมาก ก็ตรงที่เราไม่ได้ควบคุม หมดสิทธิ์ควบคุม ผมว่าเมาเหล้ายังมีสติกว่าหลับใน ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าเลยครับน้า

ผมเคยเกิดอุบัติเหตุมาหลายครั้ง หลายครา ครั้งที่ผ่านๆ มา เหยียบเท่ามอไซค์บ้าง ถูกมอเตอร์ไซค์อัดเข้ากลางตัวรถ(คนขับเลือดโชกทั้งตัว ผมบอกเดี๋ยวพาไปหาหมอ พี่แกบอกไม่เป็นไร ขับรถหนีซะงั้น มารู้ทีหลังว่าแกเมาเพราะขี่แหวกเลนมาชนผม ไม่รู้ป่านนี้เป็นอย่างไร) และมีอีกหลายๆ เหตุฯลฯ แต่ครั้งนี้บอกตรงๆ น่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ เลยครับ  ::014::

                    เคยเช่นกันครับ ออกจาก กทม. ๑ ทุ่มครึ่งคนเดียว ..... ตียาวแวะซื้อกาแฟเย็นกินที่สุราษฎร์แก้วนึง

                    ขับต่ออีกไม่ถึง ๑ กม. วูบไปเฉยๆ ดีว่าเป็นช่วงตี ๓ กว่า และทาง ๔ เลน รถแถไปทางขวาเกือบตกถนน

                    โชคดีรู้สึกตัวก่อนดึงกลับทัน ..... ค่อยๆคลานถึงบ้านแบบเสียวๆ ......


                     ทำไมสมัยก่อนขับทั้งวันทั้งคืนตีจากนครพนม-หาดใหญ่ไม่เห็นง่วงเลย   :-\

ผมว่าท่านเจ้าของกระทู้ประมาทมากๆเลยน่ะครับ
ก่อนเดินทางขับรถ ไม่มีใครรู้สภาพร่างกายมากเท่าตัวเราเองครับ
แบบนี้อันตรายครับ เห็นใจเพื่อนร่วมทางที่ต้องมาประสปเหตุเพียงเพราะเราครับ

ถ้าร่างการไม่พร้อม....ก็พักก่อนเถอะครับ ครั้งนี้โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ครั้งหน้าไม่แน่ครับ
เห็นแก่เพื่อนร่วมทาง ผู้ใช้ถนนคนอื่นด้วยครับ
ด้วยความเคารพครับผม ;)

งานนี้ผมผิดเองเต็มประตู แถมยังทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เป็นบทเรียนที่จะจำไปจนวันตายเลยครับ น้า  ::004::

ขอบคุณครับ ::014::

เมื่อก่อนก็เคยครับ
ดีว่าไม่เกิดอุบัติเหตุ แค่วูบไปเกือบตกถนนตอนตีสามกว่าๆ (ขับจากกรุงเทพฯ กลับเชียงใหม่)
เกือบพาคนที่มาด้วยไปบาดเจ็บหรือนักกว่านั้นแล้ว

แต่ยินดีด้วยครับที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

จากการศึกษาข้อมูล คนอดนอนสร้างอุบัติเหตุมากเป็นอัดดับต้นๆและอันตรายมากครับ
อุบัติเหตุไม่ได้ทำลายทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว แต่ทำลายชีวิต และอนาคตของผู้คนอีกมากมาย
หลายปีมาแล้ว เพื่อนบ้านชาวเวียตนาม ขับรถไปงานรับปริญญาลูกสาวที่มหาลัย ขากลับ นั่งกันมา4คน
พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาวที่พึ่งเรียนจบ แมกซิกันฝั่งตรงข้ามขับข้ามเลนมาชนเต็มๆ เพื่อนบ้านผมตายทั้งครอบครัว4คน
อนาคตสนใสของลูกสาวที่พึ่งเรียนจบ อนาคตของครอบครัว หมดไปเพราะความประมาณของอีกฝ่าย ถ้าง่วงก็จอดรถนอนให้เต็มอิ่ม
หรือหาโรงแรมราคาไม่แพงนอนก็ได้ ช้าไปนิด แต่ปลอดภัยสบายใจทั้งตัวเราและคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ
 
 ::005:: ถ้าง่วงนอนมากจริงๆ จอดปั้มหาซื้อน้ำแข็ง1ถุง ง่วงมากๆก็หยิบใส่ตรงเป้ากางเกงสัก1หรือ2กำมือ ตาสว่างหายง่วงแน่นอน

::005:: ไอเดียบรรเจิดครับ แต่นึกภาพไม่ออก  ::007:: ::007::

เมาระดับหนึ่ง ยังระวังได้ แต่หลับในน่ากลัว (ที่จริงไม่ดีทั้งสอง)

ไปหาหมอหูคอจมูก  ท่านน่าจะเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ  ผมขับรถก็ง่วงบ่อยเลยตัดต่อมทอลซิลออก  ทุกวันนี้4-500กม.สบายๆ
http://health.kapook.com/view3782.html

อ้อ อาหารก็มีส่วนนะพวกแป้งจะทำให้ง่วง กินกับเยอะๆข้าวน้อยๆก็แล้วกัน

น้าเล็กครับ ผมว่าผมอาจจะเป็นโรคนี้ก็ได้ อ่านแล้วก็ตรงในหลายๆ ประเด็น อย่างเช่นตอนนอนหลับ ก็เหมือนว่ามีอาการหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่งเหมือนกัน(อันนี้แฟนผมบอก ว่าผมกรนเหมือนคนกำลังหายใจไม่ออก) ผมกรนทุกคืน และง่วงนอนบ่อย และความจำสั้น บางที กำลังทำอะไรอยู่ อย่างหนึ่ง เพียงแค่หันไปคุยกับเพื่อน ก็ลืมแล้วว่าต้องทำอะไรต่อ ต้องพยายามนึกให้ได้ว่า ตอนนี้ทำงานไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว อย่างตอนที่พิมพ์อยู่นี่ ก็ลืมไปว่าต้องไป Support User  ::005::

ขอบคุณครับ  ::014::

ว่างๆ จะไปหาหมอครับ

ได้ออกกำลัง หรือเปล่าครับ ต้องออกกำลังบ้าง และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ร่างกายถึงจะแข็งแรง ไม่อ่อนเพลียง่าย เมื่อก่อนผมเคยเพลีย ขับรถไปทำงาน ไม่ไกลมาก รถวิ่งประมาณ30-40นาที
ผมง่วงนอนเป็นระยะๆ แบบว่าต้องฝืนใจขับ หลังจากนั้นลองออกกำลัง วิ่งไล่เตะบอลวันละ40-50นาที
วิ่งเครื่องวิ่งบ้าง อาการง่วงนอนและเหนื่อยง่ายหายไปเลย  :~)วันแรกๆวิ่ง10-15นาที่เหนื่อยเหมือนกำลังจะขาดใจตาย  ::007::

 

แบบที่พี่เล็กว่าผมเคยเจอครับ เพื่อนร่วมงานนั่งคุยกันที่โต๊ะทำงานแกยังหลับได้ หลับในขับรถพาลูกเมียลงข้างทางดีไม่เป็นไรมาก หมอว่าหลับไม่สนิทเพราะแกนอนกรนมาก ขั้นแรกหมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก แกทำได้เน้นผัก ลดแป้ง หายกรน หายง่วงซึม โดยไม่ต้องรักษาอะไร  ;D

เมื่่อหลายปีก่อน ผมบ้าพลัง ชอบขับรถทางไกล ขับคนเดียว อาการหลับใน ผมเป็นบ่อยครับ
ครั้งที่1 ขับมาจาก นรา กลับสะบ้าย้อย อาการเริ่มออก ช่วงต.นาประดู่ สุดท้าย ก่อนถึงประตูบ้านแค่ 50 เมตร ผมขับรถเฉี่ยวต้นมะพร้าว  
ด้านข้าง พับเป็นแถบๆ แล้วไปชนขนำ ริมทาง
ครั้งที่2 ขับรถ กลับจากสุราษ  เกือบชน เหล็ก ขอบทาง(โค้ง)ดีที่รู้สึกตัวก่อน
ครั้งที่3 ไปกรุงเทพ ออกจากร้าน ที่ชุมพร(ศูนย์อาหารข้างทางที่รถทัวจอดพัก)   วันนั้น กินกาแฟสดไป 2แก้ว แล้วเอ็ม150ไปสองขวด
กะโด๊บเต็มที่ ออกจาก ศูนย์อาหารดังกล่าวได้แค่ 15 นาที น๊อคคาพวงมาลัย ดีที่คนข้างๆ รู้ทัน พยายาม บังคับพวงมาลัยไว้ แล้วปลุกผมเบา
เพื่อไม่ให้ผมตกใจ เค้าบอกว่า" ถึงจะหลับแต่ไมค์ ก็ยัง 80 อยู่เลย" วันนั้น คน 10ชีวิต ที่อยู่ในนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมคงไม่ให้อภัยตัวเอง

สรุปก็คือ ผมประมาท

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปด้วยดี สิ่งที่ผมคิดอย่างเดียวก็คือ ต้องมี มือสองนั่งข้างๆ เมื่อรู้สึกว่า "ง่วงเมื่อไหร่ จะไม่ฝืนเด็ดขาด" ::014::

มือ2หรือเมียคนที่2ครับท่านบัง ::007::

น้าบัง โดนแล้ว  ;D ;D

+ครับ คนขับรถมืออาชีพ

ผมเองก็มักจะง่วงขณะขับรถทางไกลบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่แดดจัดๆ วิธีแก้คือ... ผ้าเย็น... ของเปรี้ยว... แต่ที่ได้ผลที่สุดก็คือ... พริกสดครับ... ;D ;D ;D ;

::014::

อีกรายแฟนน้องสาวผมหมอนี่หลับง่ายครับ ขับมอร์ไซค์มันยังหลับได้เลยลูกชายผม น้องสาวผม บวกทุเรียนอีกลูกไปคนละทิศละทางแต่โชดดีที่คนไม่เป็นไรมากลูกชายผมตอนนั้นอยู่ ปอ๓ มั้งครับ
ไม่มีแม้แต่รอยถลอก จนคนที่เห็นมาแขวนพระอะไรเหรอ ไอ้เจ้าคนขับมันบอกว่ากำลังฝันเลย

         

                ยาหม่องน้ำครับ..........  ::002::ผมขับรถได้ทั้งคืนนะครับ แต่จะง่วงช่วงเดียวคือ ช่วงฟ้าสางกำลังจะสว่างนั่นแหละครับ

          พอรู้สึกหนังตาหนัก ก็แต้มเบาๆที่ โหนกแก้ม 2 ช้าง ตาสว่างเลยครับ อย่าแต้มเยอะเดี๋ยวจะกลายเป็น ทำให้ตัวเองตะเกียงดับนะครับ  ::005::

เอาพริกสด มาทำอะไรครับ  ป้ายตาหรือปล่าว ครับ  ;D ::014::

บังต้องลองเองครับ... ::008:: ::008:: ::008::

2 ปีก่อน อายุ 37 ปี   ผมขับรถออกจากเชียงใหม่ไนท์บาร์ซ่า 20.30 น. - ชัยนาท 04.00 น.ต้องจอดนอนรู้ตัวว่าร่วงแน่นอน 05.00 น.ตื่นล้างหน้าล้างตาขับกลับถึงสระบุรี 07.00 น. ( เพลียมากจากการนอนเต๊นส์ตามดอย 3 คืน )  ;D


8 ปีก่อน ร่างกายสดชาร์ทนอนเต็มที่ ขับรถเล่นลงไปภูเก็ต ออกจากสระบุรีราว 15.30 น. - ท่าฉาง สุราษฯ 24.30 น. เอากะหรีพั๊บให้อาเสร็จ แวะคุยกับเพื่อนที่พุนพินหน้าโอทอป  พร้อมของฝาก  ออกจากพุนพิน 02.00 น. วิ่งลงเส้นบ้านตาขุน - พังงา - ภูเก็ต 05.00 น.( ใจถึงมั๊ย รถเก๋งคันเดียวโดดเดี่ยวแทบไม่มีรถตามรถสวนแถมหมอกลงจัดบางพื้นที่ ความเร็ว 30 - 40 กม./ ชม. ) ขับรถเล่นในภูเก็ตไปเรื่อยๆ ยันสว่างออกจากภูเก็ตมาโคกกลอย พังงา คุยเล่นกับเพื่อนเสร็จ ไปลงเรือเที่ยวอ่าวพังงา ( หลับบนเรือหางยาวขากลับ 10 นาที ) ออกจากพังงา 14.30 น. - พุนพิน 16.30 น. ขับลุยกลับ - ชะอำ 22.30 น. กินข้าวเย็น เปิดห้องพัก และเข้านอน ไม่เกิน 24.00 น.  ;D  

* โคออป  ;D

มือสอง ครับ พี่  :~) :~)   กล่าวเช่นนี้โอกาศไม่ได้ขับรถมีสูงนะครับ สงสัยจะได้ขับรถเข็นแทน  :~)
 ::014::
ปล เพิ่งเห็นข้อความครับ  ::014:: ช่วงนี้สายตาไม่ค่อยดีครับ  :~)


 :~)

ส่วนมากผมหลับในเพราะเมาครับ เคยตื่นขึ้นมาบนเลนชาวบ้านเขา 5 ครั้ง 5 ครั้งไม่มีใครเสียชีวิต  มีเสียเยอะสุดตอนเรียกรถเครนมายกรถผมขึ้นจากน้ำข้างถนน ชาวบ้านมุงดูกันเยอะ จนผมอาย  แต่รถก็ไม่เสียหายอะไรสักอย่าง  มีอยู่ครั้งนึงที่ตื่นเช้าบนท้องนาริมถนน ห่างจากถนนใหญ่ 500 เมตร ??? ???

แบรนด์ซุปไก่....กินเสร็จ รอสิบห้านาที

      ไม่ใช่เอาพริกสดๆมาเป็นเม็ดแล้วป้ายตานะครับ..............มันไม่ได้ผล

    จะให้ได้ผลดี พี่บังก็เอาพริกมาตำหยาบๆ แล้วค่อยๆบรรจงโป๊ะ เข้าทั้ง 2 เบ้าตา  ::005::

   อาการง่วงจะหายไปราวมีมนต์  ลองดูนะครับ คิดซะว่าผมขอร้อง  เป็นห่วงมาก ไม่อยากให้พี่บังต้องหลับใน อันตรายครับ  ::007::

      ::014::

       บางคนกินแล้วไม่ต้องรอเลยครับ......................อ๊วก หลังโก่งอยู่ตรงที่ยืนกินนั่นแหละครับ  ::005::

        ::014::

เข้ามาบอกว่าอันตรายมากจริงๆครับ ::013::....ข้ามเลนไปหยุดกับต้นไม้::012:: ::012::

ผมเดินทางไกลขับรถคนเดียวเป็นประจำ ผมชอบเริ่มออกเดินทางช่วงเย็นๆ สัก 4-5 โมง กะให้ถึงที่หมายตอนรุ่งเช้า ขับรถกลางคืนผมว่าสบายตาดี หากมีรถสวนทางมาก็สังเกตุเห็นได้จากแสงไฟหน้ารถ ในคืนก่อนวันที่ผมจะออกเดินทาง ผมจะเข้านอนเร็วและตื่นสายหน่อย เช้าจัดเตรียมธุระให้เรียบร้อย กินข้าวเที่ยงแล้วหลับอีกสักงีบ ตื่นมาอาบน้ำอาบท่าก็เดินทางได้เลย ช่วงตี1 ตี2 ก็แวะปั้มเข้าเซเว่นหากาแฟกิน ซื้อผ้าเย็นผืนใหญ่พาดคอ หาวหน่อยก็ลูบหน้าด้วยผ้าเย็นสักที กินมะขามจี๊ดตาม ขับเรื่อยๆไม่รีบ ค่อนแจ้งก็ถึงที่หมายครับ  :) :)

ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว งานรถตู้ผมมีเข้ามาทุกสัปดาห์เลยครับ
ร้อยละ90 เป็นทริปเดินทางไกลขึ้นเหนือ ขึ้นเขา ขึ้นดอย
จันทร์-ศุกร์ผมทำงานประจำ คืนวันศุกร์ต้องเดินทางไกล
การเตรียมตัวก่อนเดินทางเป็นสิ่งสำคัญครับ ต้องพักผ่อนก่อนเดินทางทุกครั้งครับ
ระหว่างเดินทาง แวะพักคน พักรถ ทุกๆ2-3ชั่วโมงครับ จะได้ไม่ง่วงไม่เครียดครับ
ที่สำคัญอย่าฝืนเป็นอันขาดครับ
เคยมีทริปนึงลูกค้าไปงานแต่งที่ร้อยเอ็ด ทีแรกว่าจะกลับตอนเช้า
แต่เปลี่ยนแผนมากลับตอน4ทุ่ม เราขับรถมาทั้งวันก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร
แต่ลูกค้ายืนยันว่าจะกลับให้ได้ ก็จัดให้ครับ
แต่พอถึงปากช่อง ผมรู้ตัวเองครับง่วงจัด เพลียจัด ต้องรีบหาปั๊มครับ
พอถึงปั๊มก็บอกลูกค้าเลยครับ ขอนอนซัก1ชั่วโมงก่อนนอนก็ดื่มกาแฟซักกระป๋อง
 ตื่่นมาก็สดชื่นเลยครับ :D :D
ขอให้ทุกท่านใช้รถด้วยความระมัดระวัง และเดินทางโดยสวัสดิภาพปลอดภัยครับ ::014:: ::014::

ผมทำงานอาสาสมัครมูลนิธิครับ ในช่วงที่เกิดน้ำท่วมแรกๆ ก็เอาสิ่งของวิ่งไปช่วยผู้ประสบภัยใน ตจว ช่วงนั้นเป็น อยุธยา,ลพบุรี,ชัยนาท ส่วนผมอยู่ราชบุรี ทำกันต่อเนื่อง บริจาคของหมดแล้วก็วิ่งกลับลงมาที่ราชบุรี เอาของบริจาคชุดใหม่วิ่งขึ้นไปช่วยเขาอีก ไปๆ กลับๆ อยู่อย่างนี้ได้ประมาณสามสี่วันติดๆ พักผ่อนน้อยมาก จนในรอบสุดท้ายกลับจากอยุธยา ขับกลับมาเป็นขบวนนี่แหละครับ ผมวิ่งอยู่คันที่สาม ประมาณตีสอง มาถึงนครปฐมแล้ว อยู่ๆ ก็วูบหลับไปครับ มารู้สึกตื่นขึ้นมาเพราะคันข้างหลัง วิทยุเรียกเสียงดัง เค้าเรียกเพราะรถผมค่อยๆ เบนกินเลนออกไปทางขวาจนไปวิ่งอยู่เลนขวาเต็มเลนแล้วทำท่าจะเลยไปลงข้างทาง เพื่อนๆข้างหลังเลยวิทยุเรียกกันให้เกรียวกราว ผมจึงตื่น เบรคตัวโก่งเลยครับ เกือบพุ่งลงข้างทาง ดีที่ไม่มีรถสวนทางมา อันนี้ผมจำเป็นบทเรียนเลยครับ หักโหมเกินไปร่างกายมันก็รับไม่ไหว อย่าฝืนดีกว่าครับ

ขออนุญาตนะครับ  มันเกี่ยวกับต่อมทอลซิน   อย่างไรครับ   เพราะผมถูกจับตัดต่อมทอลซินตั้งแต่ตอนอายุ 18 ปี  ตอนนี้ผมมีอาการง่วง
ง่าย ๆ ในเวลาที่ไม่ควรง่วง  เช่นนั่งหลับขณะดูอินเตอร์เน็ต  นั่งฟังพระสวดมนต์โดยเฉพาะงานศพจะง่วงมากแทบคุมตัวเองไม่ได้  บางครั้งรู้สืกอายคนนั่งข้าง ๆ  

พักผ่อนน้อย อาหารการกิน ยาบางชนิด ขับรถไกลๆ ก็ลองเปิดกระจกดุครับ ไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องจอดล่ะครับ

การศึกษาใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงยาที่ดีขึ้นในการหลับ
และรู้เวลาแน่นอนว่าเวลาไหนที่ควรกินกาแฟเพื่อป้องกันการหลับ
นพ.คลิฟฟอร์ด จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า
เราอาจจะสามารถหาทหารที่สามารถรบได้ตลอด 24 ชมต่อวันได้
ถ้าเรารู้หลักการพื้นฐานของการหลับหรือตื่น เมื่อไรก็ตามที่เรารู้กลไก
เราสามารถควบคุมมันได้
ประมาณกันว่า ประชากร 70 ล้านคนในสหรัฐ มีปัญหาการนอน ทั้งที่เป็นนอนไม่หลับ
หรือนอนมากเกินไป และหลับใน อย่างน้อย ประมาณกันว่า อุบัติเหตุในท้องถนนกว่า
100000 ครั้งต่อปีและทำให้คนตายกว่า 1550 คนต่อปี เกิดจากการหลับใน
และการหลับในขณะทำงาน ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานลดลง ไม่ว่าจะที่โรงเรียน
ที่ทำงาน และยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
ความเครียดและภูมิคุ้มกันต่อไวรัสลดลง
นอนเท่าไรจึงจะพอ
"การนอนให้เพียงพอ มีความสำคัญมากเท่าๆ กันกับการได้รับอาหารที่เป็นประโยชน์
และการออกกำลังกายที่เพียงพอ " นพ.คาร์ล ฮันท์
จากสถาบันวิจัยการผิดปกติของการนอนหลับแห่งสหรัฐกล่าว
นอนเท่าไรจึงพอ  แต่ก่อนแพทย์มักแนะนำให้นอนอย่างน้อย 8 ชม.ต่อวัน
สำหรับผู้ใหญ่ แต่ในวารสารที่ออกมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า
การนอนเจ็ดชม หรือแม้แต่หก หรือห้าชั่วโมงในผู้ใหญ่
ที่ไม่มีปัญหาการง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน ถือว่าเพียงพอ
นพ.แดเนียลแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งซานดิเอโก กล่าว
นพ.ฮันต์ กล่าวว่า จากการศึกษาทั้งหมดที่ผ่านมา ชี้ว่า การนอนประมาณ 7-8 ชม
ในผู้ใหญ่ ถือว่าเพียงพอ  เมื่อลดการนอนลงมา เรื่อย ๆ จากนี้ การทำงานต่าง ๆ
สุขภาพ และอื่นๆ จะแย่ลง และพบว่า แม้ในบางคนจะไม่รู้สึกว่าตนเองนอนน้อยเลย
แต่ก็เป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับการนอนที่น้อยเรื่อย ๆ มานาน  ในวัยรุ่น
ควรนอนประมาณ 8.5 ชม ในเด็ก ควรจะถึง 9 ชม.

ความผิดปกติของร่างกายเมื่อนอนน้อย
การตอบสนองของร่างกายลดลง ช้าลงและสมาธิจะลดลง
โดยเฉพาะในการขับรถในเส้นทางยาวที่โดดเดี่ยว
หรือในการจราจรที่มีรถหนาแน่นท้ายต่อท้าย จะมีปัญหาให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อย
เนื่องจากต้องมีการนั่งอยู่เป็นระยะนาน
ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนต้องเพ่งอยู่แต่ถนนอย่างเดียว
  การตอบสนองต่อข้อมูลจากหลายๆแหล่งจะเสียไป
บางครั้งคุณจะเพ่งสมาธิอยู่แต่กับการขับรถในถนนจนน้ำมันหมดโดยไม่รู้ตัว
  ปัญหาในจินตนาการ ไม่สามารถมีไอเดียในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ
  ปัญหาความจำและการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แย่ลง
  การตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะเสียลง
อย่างไรก็ตามจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียพบว่า ถ้าให้เวลามากพอ
การตัดสินใจจะดีขึ้นเหมือนเดิม

การหลับเป็นระยะสั้น ๆ เช่นหนึ่งสองวินาทีหรือ10วินาที เรียกว่า Microsleep
เป็นปรากฎการณ์ที่อยู่ระหว่างการหลับและตื่น ปรากฎการณ์ที่ว่า
บางทีจะไม่สามารถสังเกตเห็นเลยว่าคนนั้นกำลังมี Microsleep
จะดูเหมือนคนตื่นปกติ แต่สมองไม่สั่งงาน
บางครั้งเป็นนานและก่อให้เกิดปัญหาได้

การวิจัยหลายแห่งชี้ว่า
การขาดการนอนเป็นเวลาหลายวัน ทำให้การทำงานแย่ลง แม้ตนเองจะรู้สึกไม่ได้ก็ตาม
การนอนแม้จะแค่งีบประมาณ 10 นาที ก็จะทำให้คนที่ง่วงนอนสดชื่นขึ้นได้
กาแฟ ถ้าได้ดื่มตอนเช้าตรู่ พบว่าไม่ได้ช่วยทำให้ตื่นได้ดีขึ้น
เพียงแต่ช่วยไม่ให้เกิดอาการของการขาดกาแฟ อันได้แก่ ความง่วง มึนหัว สับสน
ช่วงที่การดื่มกาแฟแก้ง่วงได้ดีที่สุด คือ ภายหลังจากตื่นแล้วแปดชม.

กลไกความง่วงของสมองและการออกฤทธิ์ของกาแฟ
สมอง มีกลไกอย่างน้อยสองอย่างที่ควบคุมการหลับและตื่น
อย่างแรกคือส่วนของสมองที่เรียกว่า ไฮโปธาลามัส
ที่ควบคุมจังหวะการตื่นและการนอนใน 24 ชม.  ซึ่งกลไกลึก ๆ แล้วเรายังไม่ทราบ
ว่ามันส่งสัญญาณอย่างไรต่อร่างกาย
อีกกลไกหนึ่งคือ การตอบสนองต่อการพอหรือไม่พอของการนอน
และส่งสัญญาณมาบอกว่าเราต้องการการนอนเพิ่ม
กลไกนี้ตัวหลักเชื่อว่าเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อดีโนซีน
ซึ่งเป็นสารเคมีที่หลั่งจากเซลสมองคล้าย ๆ
เป็นของเสียที่สร้างจากการทำงานของสมอง ตามทฤษฎีเชื่อว่า
เมื่อมีการทำงานของสมองในช่วงที่เราตื่นนอน
จะมีการสร้างและสะสมของสารนี้เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งสารนี้จะเป็นตัวยับยั้งการทำงานของสมอง
ทำให้รู้สึกง่วงและสมองทำงานได้แย่ลง  พอได้นอนเซลสมองทำงานน้อยลง
สารเคมีนี้จะลดลงและทำให้เรารู้สึกตื่นขึ้น
คาเฟอีนในกาแฟ จะมีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของอดีโนซีน
ซึ่งการศึกษาต่อไปจะช่วยให้เราหาสารที่จะออกฤทธิ์คล้าย ๆ
อย่างนี้และทำให้สามารถควบคุมความง่วงได้  หรือกลับกันคือ
สามารถหายานอนหลับที่ดีกว่าปัจจุบัน

http://www.thaiblogonline.com/health.blog?PostID=7240

ตอนพระสวดงานศพ ผมก็หลับเหมือนกันครับ :~) แต่ตอนเล่นเน็ตไม่หลับครับ เพราะแต่ละหน้าตื่นตาตื่นใจ :D~ :D~ ง่วงยังไงก็หลับไม่ลง ::005:: ;D ;D

 :~) :~) :~) :~)

เมื่อวานขับรถกลับบ้านก็ง่วงเหมือนกันครับ แต่ไม่เท่าวันที่ชน พอรู้สึกว่าเริ่มง่วง ก็เอาน้ำลูบหน้าที เปิดกระจกสูบบุหรี่ เปิดเพลงดังหน่อย เปลี่ยนคลื่นวิทยุไปเรื่อย ทั้งแฟนทั้งพี่ชายพากันโทรมาถามว่าหลับไหม ถึงไหนแล้ว เฮ้อไม่น่าทำให้เขาต้องเป็นห่วงเล้ย

อาการหลับใน ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ได้มีโอกาสมาเล่าให้คนอื่นฟัง นับว่าเป็นบุญแล้วครับ   ::014::

เห็นด้วยครับ



คะแนน 22

ออนไลน์

อันตรายสุดๆ ;D ;D ;D

หลังจากตื่น ผมอยู่ได้18ชั่วโมง  ถ้าเงินนั้นง่วงนอน หาจอดนอนอย่างเดียว ปั๊มน้ำมันบ้าง ป้อมตำรวจบ้าง  ;D

อ่านมาถึงหน้านี้   ขอแบ่งปันประสบการณ์บ้างครับ เคยมีท่านไหนไหมครับ ที่ขับรถย้อนตะวัน (ย้อนแสง) แล้วเกิดอาการง่วงเหงา หาวนอนนะครับ  ผมเป็นทุกครั้ง ขับรถตอนกลางคืนไม่เคยเป็น แต่ถ้าย่ำรุ่ง หรือย่ำค่ำเมื่อไร ได้ขับรถย้อน ตะวัน เป็นอันต้องพักจอด , ดื่มกาแฟ ฯลฯ ทุกครั้งไป ความจริง บนรถก็มีกาแฟ ใส่ขวดเก็บความร้อนไว้ติดรถเสมอถ้าต้องได้ขับรถไกล แต่ไม่ไหวต้องจอดเปลี่ยนอริยาบท ทุกครั้งที่ได้ขับรถย้อนตะวัน

ด้วยความเคารพครับ

พยายามหลีกเลี่ยงการขับรถทางไกลย้อนแสงตะวันครับ และช่วงพลบค่ำเวลาแมลงออก

 ;D ;D เรื่องหลับในผมกลัวมากที่สุดครับ เวลาขับรถทางไกลถ้ารู้สึกว่าเริ่มง่วงผมจะหาปั๊มนอนทันทีสัก 10 นาทีครับ

ผมจะง่วงเวลาขับรถตอนแสงแดดจ้าๆ แต่ถ้าย้อนแสงตะวัน... จะจำกัดเรื่องทัศนวิสัยมากกว่าครับ... มองทางไม่เห็น...

เป็นเหมือนกันครับ ยิ่งช่วงบ่ายแดดจัดๆ(หลังจากกินข้าว) และช่วงเย็นๆ ระหว่างห้าโมงเย็นถึงทุ่มกว่าๆ ช่วงนี้จะง่วงนอนมากๆ ::012:: เนี๊ยะอย่างตอนที่พิมพ์อยู่ก็ง่วงครับ ;D