เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 10:36:28 AM



หัวข้อ: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 10:36:28 AM
สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... ??? ??? ???

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ::014:: ::014:: ::014::



หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ ธันวาคม 09, 2011, 11:18:10 AM
เห็นข่าวว่าผู้พันตึ๋งอีก 13ปี ก็จะได้ออกมาแล้วครับ  ไม่นานมานี้เห็นโดนพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนี่ครับ


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 11:50:43 AM
นั่นซิครับ..และอีกหลายๆคน....

เลย งง ครับ...

ว่าตัดสินประหารแล้ว อีกนานกี่วันถึงจะประหารจริงๆ...

หรือว่าจำคุกแล้วดุพฤติกรรมก่อน...ว่าทำตัวดีหรือเปล่า อันดีผมเดาเอาเองครับ....

แล้วอย่างคนที่ตัดสินถึงที่สุดให้จำคุก...ทำไมต้องเข้าคุกทันทีละครับถ้าแบบนั้น...

ยิ่งพูดยิ่งทำให้งงไปใหญ๋...

แล้วแบบนี้ ญาตพี่น้องผู้เสียหายไม่ตกใจแย่หรือครับ...


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 11:54:37 AM
ว่ากันด้วยหลักวิชาการนะครับ
โทษประหารช่วยในเรื่องความสะใจของประชาชนเท่านั้นเอง  แต่การกำจัดคนไปไม่กี่คน ไม่ได้ทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น  เพราะคนที่ตัดสินใจทำผิด คิดว่าทำไปแล้วจะหนีรอดไปได้  วิธีที่ได้ผลมากกว่าก็คือต้องให้คนทำผิดถูกดำเนินคดีให้ได้มากที่สุด

ในอดีต ได้คิดวิธีประหารชีวิตที่ทารุณโหดร้าย มากขึ้น ๆ  ฆ่าแบบประจานหรือให้ตายช้า ๆ จนถึงขนาดฆ่าล้างตระกูล  อย่างเช่นข้อหากบถ หรือพวกมอญที่ถูกเกณฑ์มารบกับไทย  ก่อนเคลื่อนทัพ พม่าจะขุดหลุมใหญ่แล้วขังครอบครัวไว้ในหลุม  เตรียมเชื้อไฟกองไว้ให้ดู  เตือนให้รู้ว่าถ้ารบแพ้หรือทรยศก็เผาทั้งเป็น

แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น หลักวิชาทางสถิติบอกว่าโทษประหารใช้ไม่ได้ผล  หลายประเทศจึงเลิกใช้ และประเทศที่ยังต้องใช้อยู่ ก็พัฒนาวิธีการไม่ให้ทารุณ  พวกที่ก้าวหน้าไปมากกว่านั้นก็ใช้หลักการ "แก้ไข ไม่ใช่แก้แค้น"  คือให้มีพิพากษาลงโทษจำคุกค่อนข้างนาน  แต่เปิดโอกาสให้ให้ออกมาได้ก่อน ถ้าประเมินได้ว่าแก้ไขได้แล้ว  สำหรับพวกที่แก้ไขไม่ได้จริง ๆ (สมควรถูกประหาร) ก็อาจถูกส่งตัวเข้าไปเก็บไว้ในคุกตลอดชีวิต หรือขังในโรงพยาบาลบ้าแบบไม่ได้กลับออกไปอีกเลย  ซึ่งแย่กว่าถูกประหารเสียอีก


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 09, 2011, 01:08:42 PM
อภัยโทษ ช่วยให้ระยะสั้นลง อย่างนี้จะดีหรือครับ


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ธันวาคม 09, 2011, 01:36:05 PM
ผมคิดว่า การ "โบย" แบบที่สิงคโปร์  ก็น่าจะนำมาใช้กับพวกกระทำผิดโทษรุนแรง แม้จะได้ลดโทษจากประหารชีวิต
เพื่อให้หราบจำสำนึกบ้าง กับเป็นการปรามพวกที่คิดจะกระทำผิด อย่างน้อยสังคมและญาติพี่น้องผู้เสียหายคงได้พอใจ
ดีกว่าติดคุกไม่นานก็ปล่อยออกมาแบบสบายตัว


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 02:20:01 PM
ญาติพี่น้องของผู้ที่เสียชีวิต ....

ก็อยากเห็นผู้กระทำผิดได้รับโทษอย่างสาสมนะครับ....

ถ้าเหมือนทำให้ผู้อื่นตายอย่างไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า...

ญาติพี่น้องก็อยากให้ตายตกไปตามกันนะครับผมว่า...


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สหายอ๋อง เซียนปลาซิว ที่ ธันวาคม 09, 2011, 04:46:56 PM
21วิธีประหารในสมัยกรุงศรีอยุธยา

ในสมัยกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดอีกยุคสมัยหนึ่งของไทยเรา พบว่า มีการตราบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดคือ...
โทษ ประหารชีวิตเอาไว้ในพระไอยการกระบถศึก ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 และมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ก่อนจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้งในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ แต่กฎหมายฉบับนี้มิได้มีการแก้ไขในบทลงโทษความผิดขั้นประหารชีวิตและวิธี การประหารชีวิตเลยแม้แต่น้อย
คือยังคงลักษณะเดิมไว้แต่ครั้งการตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทุกประการ

วิธีการประหารชีวิตตามพระไอยการกระบถศึก บันทึกและอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดถึงวิธีการลงโทษประหาร 21 วิธีหรือ 21 สถาน ดังนี้

- สถาน 1 คือ ให้ต่อยกระบานศีศะ (กบาลศีรษะ) เลิกออก (เปิดออก) เสียแล้ว เอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปในมันสะหมอง (มันสมอง) ศีศะพลุ่งฟู่ขึ้นดั่งม่อ (หม้อ) เคี่ยวน้ำส้มพะอูม

- สถาน 2 คือ ให้ตัดแต่หนังจำระ (จาก) เบื้องหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเป็นกำหนด (หนังบริเวณคอถึงท้ายทอย) แล้วให้มุ่นกระหมวดผมเข้าทั้งสิ้น (ม้วนเข้าหากัน) เอาท่อนไม้สอดเข้าข้างละคน โยกคลอนสั่นเพิกหนังทั้งผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายหยาบขัดกระบาน ศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์

- สถาน 3 คือ ให้เอาขอเกี่ยวปากให้อ้าไว้ แล้วให้ตามประทีบ (ดวงไฟ) ไว้ในปาก ไนยหนึ่ง (นัยหนึ่ง) เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแห*ผ่าปากจนหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้าง แล้วเอาขอเกี่ยวให้อ้าปากไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก

- สถาน 4 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันให้ทั่วร่างกายแล้วเอาเพลิงจุด

- สถาน 5 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบนิ้วแล้วเอาเพลิงจุด

- สถาน 6 คือ เชือดเนื้อให้เป็นแรงเป็นริ้วอย่าให้ขาดจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกจำ ให้เดินเหยียบริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินไปกว่าจะตาย

- สถาน 7 คือ เชือดเนื้อให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร่งเป็นริ้ว ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอวและให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร้ง เป็นริ้วลงมาถึงข้อเท้ากระทำหนังเบื้องบนให้คลุมลงมาเหมือนนุ่งผ้า

- สถาน 8 คือ ให้เอาห่วงเหล็กสวมข้อศอกทั้งสองข้าง ข้อเข่าทั้งสองข้างให้มั่นแล้วเอาหลักสอดในวงเหล็กแย่งขึงตรึงลงไว้กับแผ่น ดินอย่าให้ไหวตัวได้ แล้วเอาเพลิงรน (ลน) ให้รอบตัวจนกว่าจะตาย

- สถาน 9 คือ ให้เอาเบ็ดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิก (เปิด) หนังเนื้อและเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะตาย

- สถาน10 คือ ให้เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึง(นำเนื้อมาชั่งให้ได้ น้ำหนักหนึ่งตำลึง:มาตราวัดสมัยโบราณ) จนกว่าจะสิ้นมังสา (เนื้อ)

- สถาน 11 คือ ให้แล่สับทั่วร่างแล้ว เอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดครูดขูดเสาะหนังและเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้ลอกออก ให้สิ้นให้อยู่แต่ร่างกระดูก

- สถาน 12 คือ ให้นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแล้วให้เอาหลาวเหล็กตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดินแล้วจับขาทั้ง สองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน (เวียนเทียน)

- สถาน 13 คือ ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลา (ลูกหิน) บดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แล้วรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอม
แล้วพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เช็ดเท้า

- สถาน 14 คือ ให้เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แล้วลาดสาดลงมาแต่ศีศะ (ศีรษะ) จนกว่าจะตาย

- สถาน 15 คือ ให้กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เต็มอยากแล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า

- สถาน 16 คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดั่งโครงเนื้อ

- สถาน 17 คือ ให้แทงด้วยหอกทีละน้อยๆ จนกว่าจะตาย

- สถาน 18 คือ ให้ขุดหลุมฝังเพียงเอว แล้วเอาฟางปกลงคลุมร่างก่อนคลอกด้วยเพลิงพอหนังไหม้แล้วไถด้วยไถเหล็ก ให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่เป็นริ้วน้อยริ้วใหญ่

- สถาน 19 คือ ให้เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนมให้กินเนื้อตัวเองจนกว่าจะตาย

- สถาน 20 คือ ให้ตีด้วยตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย

- สถาน 21 คือ ตีด้วยหวายที่มีหนามจนกว่าจะตาย


ที่มาครับ

http://atcloud.com/stories/29382


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ธันวาคม 09, 2011, 05:00:48 PM
อ่านไม่จบครับหวาดเสียว ::003::


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 09, 2011, 05:21:31 PM
สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... ??? ??? ???

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ::014:: ::014:: ::014::



็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"    พี่  "สูแนม"  จะรู้ไปทำมัยอ่ะ  ฮา
ถ้าคดี  ยังไม่ถึง "ฎีกา"  หลวงเขาก็เลี้ยงไว้  ให้เปลือง "ข้าวสุก"  อ่ะ  ฮา
แต่ถ้า "ฎีกา"  ตกมาถึงแล้ว  ว่าต้องเอาไป "ฆ่า" ใครตาย
เขาก็เขียนหนังสือ  ร้องขอ "ให้ไว้ชีวิต"  ต่อพระเจ้าแผ่นดิน อ่ะ

แต่ถ้าไม่เป็นผล  ก็ต้องเตรียม "ศาลา"  เอาไว้อ่ะ ฮา
พอตอนถึงบ่ายๆ  เขาก็จัดเตรียมอาหาร  ที่อยากจะกิน ไว้ต้อนรับอ่ะ
พอกินเสร็จ  เขาก็อนุญาตให้พบ  พระสงฆ์  มานั่งถก "กถาธรรม" ให้ฟังอ่ะ

พอฟังเสร็จ  เขาก็จูงไปขึ้นเตียง  ฉีดยาเข็มแรกก่อน  เพื่อให้เคลิ้ม อ่ะ
พอเคลิ้มมีความสุข ไม่ทุกข์  เขาก็ฉีดยาเข็มที่สอง 
คราวนี้ หัวใจเต้นเบาลง  แล้วตายสนิท อ่ะ ฮา

ถ้าอยากจะรู้ว่า   "เคลิ้ม"  อย่างไร ฮา
ไปทดลอง ดูก็ได้  อ่ะ  ฮา


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ ธันวาคม 09, 2011, 06:19:31 PM
โทษประหารชีวิตได้รับการอภัยโทษ น่าจะให้ถูกจำคุกก่อนสักยี่สิบปีแล้วค่อยพิจารณาลดโทษ
ส่วนโทษประหารชีวิตตัดสินเด็ดขาด..น่าจะเปลียนมาเป็นฉีดยาให้วิกลจริต ;D


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 06:31:37 PM
สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... ??? ??? ???

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ::014:: ::014:: ::014::



็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"    พี่  "สูแนม"  จะรู้ไปทำมัยอ่ะ  ฮา
ถ้าคดี  ยังไม่ถึง "ฎีกา"  หลวงเขาก็เลี้ยงไว้  ให้เปลือง "ข้าวสุก"  อ่ะ  ฮา
แต่ถ้า "ฎีกา"  ตกมาถึงแล้ว  ว่าต้องเอาไป "ฆ่า" ใครตาย
เขาก็เขียนหนังสือ  ร้องขอ "ให้ไว้ชีวิต"  ต่อพระเจ้าแผ่นดิน อ่ะ

แต่ถ้าไม่เป็นผล  ก็ต้องเตรียม "ศาลา"  เอาไว้อ่ะ ฮา
พอตอนถึงบ่ายๆ  เขาก็จัดเตรียมอาหาร  ที่อยากจะกิน ไว้ต้อนรับอ่ะ
พอกินเสร็จ  เขาก็อนุญาตให้พบ  พระสงฆ์  มานั่งถก "กถาธรรม" ให้ฟังอ่ะ

พอฟังเสร็จ  เขาก็จูงไปขึ้นเตียง  ฉีดยาเข็มแรกก่อน  เพื่อให้เคลิ้ม อ่ะ
พอเคลิ้มมีความสุข ไม่ทุกข์  เขาก็ฉีดยาเข็มที่สอง 
คราวนี้ หัวใจเต้นเบาลง  แล้วตายสนิท อ่ะ ฮา

ถ้าอยากจะรู้ว่า   "เคลิ้ม"  อย่างไร ฮา
ไปทดลอง ดูก็ได้  อ่ะ  ฮา

ไม่อยากทดลองหรอกครับยาย  ::012:: ::012::

ที่อยากรู้ก็เพราะว่า เห็นข่าวพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง..

เห็นรายชื่อผู้ที่ถูกประหารชีวิตอยู่หลายราย...

แสดงว่า... คนเราเมื่อทำความผิดร้ายแรงถูกต้องโทษประหาร...

ก็มีสิทธิ์ไม่ต้องถูกประหารได้เมื่อเราประพฤติตัวดีในคุกใช่หรือเปล่าครับ...

ต่อไปคนทำผิดเข้าคุกถ้าประพฤติตัวดีลดโทษเหรอครับ....

ทำตัวดีเฉพาะในคุกออกมาก็เหมือนเดิมเยอะแยะครับ ผมว่านะ....


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สหายอ๋อง เซียนปลาซิว ที่ ธันวาคม 09, 2011, 06:41:06 PM
คนได้รับการลดโทษ แล้วคนดีๆ  ที่โดนถูกใส่ร้ายละครับ  ??? ??? ??? ??? ???

 ??? ??? ??? ??? ??? ??? ???


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ ธันวาคม 09, 2011, 07:01:26 PM
ตะรุเตาครับน่าจะดีสุดเท่าที่เคยได้คุยกับพวกที่ติดคุกมา ถ้าไม่ได้เลวโดยสันดารเข้าไปอยู่แล้วเหมือนตกนรกครับ  แต่ถ้าเลวจัดๆปล่อยเกาะน่าจะดีสุดครับ ประหารมันตายสบายไป ไม่สาสมกับโทษที่ทำ  ::014:: ::014::  ความตายไม่ได้น่ากลัวเท่ากับการอยู่อย่างทุกข์ทรมาน


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 09, 2011, 09:05:58 PM
อภัยโทษ ช่วยให้ระยะสั้นลง อย่างนี้จะดีหรือครับ

เป็นความจำเป็นครับ
บ้านเรามีคุกน้อยกว่าสภาพความเป็นจริงประมาณ 50 เท่า   และถ้าจะเพิ่มให้ได้ตามมาตรฐาน ก็เจอเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าควรเพิ่มโรงเรียนหรือเพิ่มคุก ดีกว่ากัน
ในเมื่อคุกแออัด  ความมั่นคงก็ลดลง นักโทษหลบหนีได้ง่าย  ความหวังที่จะได้รับการลดโทษ เป็นมาตรฐานป้องกันการหลบหนี รวมทั้งช่วยป้องกันการก่อเหตุวุ่นวายได้วิธีหนึ่ง


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 09, 2011, 10:03:01 PM
อภัยโทษ ช่วยให้ระยะสั้นลง อย่างนี้จะดีหรือครับ

เป็นความจำเป็นครับ
บ้านเรามีคุกน้อยกว่าสภาพความเป็นจริงประมาณ 50 เท่า   และถ้าจะเพิ่มให้ได้ตามมาตรฐาน ก็เจอเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าควรเพิ่มโรงเรียนหรือเพิ่มคุก ดีกว่ากัน
ในเมื่อคุกแออัด  ความมั่นคงก็ลดลง นักโทษหลบหนีได้ง่าย  ความหวังที่จะได้รับการลดโทษ เป็นมาตรฐานป้องกันการหลบหนี รวมทั้งช่วยป้องกันการก่อเหตุวุ่นวายได้วิธีหนึ่ง

โอ้บ้านเรา........ มองได้หลายแง่จริงๆครับ ไม่มีอะไรสมบูรณ์พร้อม


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: cz_dee *รักในหลวง ที่ ธันวาคม 10, 2011, 11:03:31 AM
เอาคนดีๆไปขังคกดีกว่าไหมครับ ปลอดภัยกว่าเยอะ ;D ;D ;D ;D
ถ้าใครทำผิดก็เอาออกมาปล่อยข้างนอก เดี๋ยวพวกเลวๆข้างนอกมันก็ปราบกันเอง


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 11, 2011, 05:48:27 PM
ประเทศอื่นๆจะเหมือนบ้านเราหรือเปล่าครับ...





หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: stamp50 ที่ ธันวาคม 11, 2011, 09:12:46 PM
ประเทศอื่นๆจะเหมือนบ้านเราหรือเปล่าครับ...




อยากรู้เหมือนกันครับ
มีท่านใดมีข้อมูลบ้าง  รอครับ


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ ธันวาคม 12, 2011, 06:14:27 PM
ประเทศอื่นๆจะเหมือนบ้านเราหรือเปล่าครับ...




อยากรู้เหมือนกันครับ
มีท่านใดมีข้อมูลบ้าง  รอครับ

ลิงค์ครับ.....
http://en.wikipedia.org/wiki/Use_of_capital_punishment_by_nation#Asia-Pacific


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 12, 2011, 06:50:36 PM
ประเทศอื่นๆจะเหมือนบ้านเราหรือเปล่าครับ...




อยากรู้เหมือนกันครับ
มีท่านใดมีข้อมูลบ้าง  รอครับ

ลิงค์ครับ.....
http://en.wikipedia.org/wiki/Use_of_capital_punishment_by_nation#Asia-Pacific

ถ้าให้ดี ช่วยแปลให้นิดนึงครับพี่   :~) :~) :~)  :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ ธันวาคม 12, 2011, 10:58:45 PM
ผมก็อาศัยดูรูป ดูตาราง ดูสีเอาครับ  :D

สีฟ้า -- ไม่มีโทษประหาร
สีเหลือง -- ไม่มีโทษประหาร แต่มีกรณียกเว้น
สีส้ม -- ทางปฎิบัติไม่ได้ใช้โทษประหารมาเกิน 10 ปีแล้ว
ส่วนสีน้ำตาล -- เป็นประเทศที่ยังใช้โทษประหารอยู่

(http://img404.imageshack.us/img404/9175/800pxdeathpenaltyworldm.png)


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 13, 2011, 09:02:35 AM
ประเทศไทยน่าจะมีแบบ มีโทษประหาร แต่มีกรณียกเว้นนะครับ

ต่างจากสีเหลืองนิดนึง   ;D ;D


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ธันวาคม 13, 2011, 09:09:16 AM
ไม่น่าเชื่อครับ ว่า รัสเซีย , เขมร , ฟิลลิบปินส์ ไม่มีโทษประหาร ;D


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 13, 2011, 09:27:13 AM
            จ้างวานฆ่า  มือปืน  ข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ  ค้ายาเสพติด  นักการเมือง ข้าราชการ คอรัปชั่น โกงชาติบ้านเมือง   ::009::

            ควรฆ่าทิ้งแล้วยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดินแบบเด็ดขาด ..... ประเทศชาติบ้านเกิดมันยังไม่รักแล้วจะไปปราณีมันทำไมกัน



หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ ธันวาคม 13, 2011, 09:40:40 AM
            จ้างวานฆ่า  มือปืน  ข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ  ค้ายาเสพติด  นักการเมือง ข้าราชการ คอรัปชั่น โกงชาติบ้านเมือง   ::009::

            ควรฆ่าทิ้งแล้วยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดินแบบเด็ดขาด ..... ประเทศชาติบ้านเกิดมันยังไม่รักแล้วจะไปปราณีมันทำไมกัน



+ ครับ... ::014::



หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: RouRou_Mel - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 13, 2011, 10:11:15 AM
จ้างวานฆ่า  มือปืน  ข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ  ค้ายาเสพติด  นักการเมือง ข้าราชการ คอรัปชั่น โกงชาติบ้านเมือง   ::009::
ควรฆ่าทิ้งแล้วยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดินแบบเด็ดขาด ..... ประเทศชาติบ้านเกิดมันยังไม่รักแล้วจะไปปราณีมันทำไมกัน

+1 ครับพี่ปู
ตามหลักเขาอยากให้คนกลับตัวเป็นคนดี
ผู้สนับสนุนให้ยกเลิกโทษประหาร(ในเมืองไทย) ผมยังไม่เคยได้ข้อมูลสนับสนุนว่า "ทำให้อาชญากรรมลดลงจริงๆ"
และ ผมไม่คิดว่าคนประเภทที่พี่ปูกล่าวถึง จะกลับตัวกลับใจได้

ในชีวิตจริงจะเป็นอย่างไร นักวิชาการไม่ได้พูดถึง เช่น
หลายครั้งที่นักโทษ(ข่มขืน ฆ่า) ได้รับการปล่อยตัว แล้วไปก่อคดีขึ้นอีก,
จะให้มีอีกกี่คดี จนกว่านักโทษคนนี้จะ "สำนึก" แล้ว "กลับตัว"

นักวิชาการบอกว่า ปล่อยคนผิด 100 คน,​ ดีกว่าลงโทษผู้บริสุทธิ์เพียงคนเดียว
เรื่องจริง คือ ปล่อยคนผิด 100 คน ไปก่อคดีอีก หลายสิบคดี
ผู้บริสุทธิ์ก็ต้องรับกรรมอีกหลายสิบคน

ใน Australia ไม่มีโทษประหาร, แต่อาชญากรรม ร้ายแรงก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
หลาย 10 ปี ก่อน ตำรวจที่รัฐวิคตอเรีย ให้แค่ "กระบอง", ต่อมาใช้ ก็ "ปืนลูกโม่"
ตอนนี้กำลังเปลี่ยนมาใช้ "Automatic" (เพราโจรใช้อาวุธร้ายแรงขึ้น) และ ต้องใส่เสื้อเกราะตลอดเวลา
ขนาดตำราจเองยังยอมรับว่า "อาชญากรรม" เพิ่มขึ้น


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 13, 2011, 11:54:47 AM
            จ้างวานฆ่า  มือปืน  ข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ  ค้ายาเสพติด  นักการเมือง ข้าราชการ คอรัปชั่น โกงชาติบ้านเมือง   ::009::

            ควรฆ่าทิ้งแล้วยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดินแบบเด็ดขาด ..... ประเทศชาติบ้านเกิดมันยังไม่รักแล้วจะไปปราณีมันทำไมกัน



+1 ด้วยคนครับ..

ถ้าทำได้แบบนั้นจริงๆผมว่าคนเห็นด้วยมากกว่าไม่เห็นด้วยเยอะแยะครับ...

และการทำผิดก็อาจลดลงด้วยนะผมว่า


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: General Lee ที่ ธันวาคม 13, 2011, 12:07:41 PM
อยากให้การลงโทษเป็นแบบประเทศอาหรับ ตัดมือตัดเท้าตัดแขน
ผมว่าได้ผลเร็วมาก ใครคิดวิ่งราวหรือขโมยนี้ เลิกไปเลย

อีกอย่างหนึ่งแขวนขอประจาน"พวกโจรข่มขื่น"

การลงโทษแบบนี้อาจทำให้หลายคนเลิกคิดเป็นโจรไปได้เลย


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 13, 2011, 12:27:10 PM
สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... ??? ??? ???

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ::014:: ::014:: ::014::



ขอตอบแบบคร่าว ๆ นะครับ

ปกติเมื่อมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตแล้ว  ตัวจำเลยก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ / ฎีกา  คำพิพากษาได้อีก

ตามขั้นตอนของกฎหมาย  ซึ่งตรงนี้จะกินระยะเวลาหลายปีแล้วแต่ว่าศาลสูงจะมีคดีค้างพิจารณาเยอะหรือไม่  ซึ่ง

ระหว่างอุทธรณ์ / ฎีกา  จะต้องงดการบังคับโทษตามคำพิพากษา  ( โทษประหารชีวิต )  ไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด 

ซึ่งต่างกับกรณีต้องโทษจำคุกซึ่งสามารถบังคับโทษตามคำพิพากษาได้ทันที


เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วตามกฎหมายให้นำตัวผู้ต้องโทษไปประหารเมื่อพ้นกำหนด  ๖๐  วัน  แต่ระหว่างนี้ผู้ต้องโทษ

ก็มีสิทธิขอยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้โดยให้ทุเลาการประหารชีวิตไว้จนกว่าจะพ้นกำหนด  ๖๐  วัน  นับแต่

วันที่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไป  แต่ถ้าทรงยกเรื่องดังกล่าวก็สามารถประหารชีวิตก่อนกำหนดนี้ได้  แต่

หากเป็นกรณีที่ผู้ต้องโทษไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ  ซึ่งถ้าจำกันได้เมื่อหลายปีมานี้เคยมีนักโทษคดีฆ่าข่ม

ขืนไม่ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ  เมื่อครบกำหนดก็สามารถนำตัวไปประหารชีวิตได้ทันที


นอกจากกรณียื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษโดยตัวผู้ต้องโทษดังกล่าวข้างต้นแล้ว  ยังมีกรณีที่คณะรัฐมนตรี

เห็นสมควรยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องโทษเป็นการทั่วไปโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา  ในวาระ

มงคลต่าง ๆ เป็นต้น  โดยส่วนใหญ่มักจะลดโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต  ซึ่งนักโทษที่แม้จะได้

ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ได้ยื่นเรื่องก็ตามก็จะได้รับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาตรงนี้ด้วย

และเมื่อได้รับการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตแล้วก็จะได้รับการลดส่วนโทษในฐานะเป็นนักโทษชั้นดีตามชั้น

อีกด้วย  ซึ่งสูงสุดถ้าผมจำไม่ผิดจะติด  ๒  วัน  ลด  ๑  วัน  และในปีต่อ ๆ ไปก็จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

ตามปกติอีกด้วยจนกว่าจะพ้นโทษ

 


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 13, 2011, 12:35:54 PM
แถวบ้านรอบแรกโดนจับคดีปืนเถื่อน  รอบสองยาเสพย์ติด  ออกมาค้าใหม่อีกโดนคดีปืนเถื่อนและยาเสพย์ติด(รอบสาม)  นี่เห็นว่าใกล้จะหลุดแล้ว (๒ คดีติดคุก ๓ ปีครึ่ง)

ยาเสพติด ๒ หมื่นเม็ด+ที่จับได้  เจ้าหน้าที่ตำรวจทำจนเหลือไม่กี่เม็ด  เป็นแค่ผู้เสพ  ไม่ใช่ผู้ค้า  สันดานแบบนี้หลุดออกมาคงกลับตัวได้หรอกนะ   :<<


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: Manus รักในหลวง ที่ ธันวาคม 13, 2011, 08:13:15 PM
แถวบ้านรอบแรกโดนจับคดีปืนเถื่อน  รอบสองยาเสพย์ติด  ออกมาค้าใหม่อีกโดนคดีปืนเถื่อนและยาเสพย์ติด(รอบสาม)  นี่เห็นว่าใกล้จะหลุดแล้ว (๒ คดีติดคุก ๓ ปีครึ่ง)

ยาเสพติด ๒ หมื่นเม็ด+ที่จับได้  เจ้าหน้าที่ตำรวจทำจนเหลือไม่กี่เม็ด  เป็นแค่ผู้เสพ  ไม่ใช่ผู้ค้า  สันดานแบบนี้หลุดออกมาคงกลับตัวได้หรอกนะ   :<<

ขอ  :<< :<< :<< ด้วยคน.....

ความเห็นส่วนตัวคิดว่า บางคนที่ติดคุก ทำตัวดีเพื่อรอวันลดโทษเท่านั้น......


หัวข้อ: Re: โทษประหาร...
เริ่มหัวข้อโดย: ชยันโต ที่ ธันวาคม 13, 2011, 10:12:14 PM
ได้รับความรู้ดีครับ กระทู้นี้