หัวข้อ: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 10, 2011, 12:58:26 PM เรียนถามพี่ ๆ ทุกท่านค่ะ
spring 2 แบบนี้ต่างกันอย่างไรคะ แบบไหนดีกว่ากัน เพราะจากที่ลองดึง slide ดู รู้สึกว่า ตัว บน จะนุ่มมือกว่าค่ะ (http://image.free.in.th/z/im/0img_0895.jpg) (http://pic.free.in.th/id/14a677f806fee7ed83d880140d57e7c7) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: vinchy ที่ ธันวาคม 10, 2011, 01:05:39 PM ทั้ง ๒ แบบ เป็นสปิงแต่งใช่ไหมครับ ไม่น่าใช่สปิงมาตราฐานที่ติดมากับปืน
ใช้กับปืนรุ่นไหนครับ ใช่พวก ๑๙๑๑ ลำกล้องสั้นๆ ตระกูล โคลท์ อ๊อฟฟิตเซอร์ หรือเปล่าครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: sittichai10 ที่ ธันวาคม 10, 2011, 02:03:12 PM ทั้งสองตัวนั้น ลำกล้องต่างกันหรือเปล่าครับ ตัวบนลำกล้องยาวกว่า ส่วนตัวล่างลำกล้องสั้นเลยทำสองชั้น ผมใช้ Glock 26 ลำกล้องสั้นสปิงมันดูจะแข็งกว่าพวก Glock 19 ที่สปิงชั้นเดียว อาจเพราะสไลค์มันสั้นมันเลยดูแข็ง จริงๆขนาดกระสูนเท่ากันแรงรีคอยส์ไม่น่าต่างกัน
อาจรอผู้รู้เข้ามาตอบอีกทีครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 10, 2011, 08:17:24 PM ทั้ง ๒ แบบ เป็นสปิงแต่งใช่ไหมครับ ไม่น่าใช่สปิงมาตราฐานที่ติดมากับปืน ใช้กับปืนรุ่นไหนครับ ใช่พวก ๑๙๑๑ ลำกล้องสั้นๆ ตระกูล โคลท์ อ๊อฟฟิตเซอร์ หรือเปล่าครับ (http://image.free.in.th/z/is/1img_0906.jpg) (http://pic.free.in.th/id/199df6cf661d2b3460701aeec432e9a3) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 10, 2011, 08:22:06 PM มันอยู่ในปืนสองกระบอกของใครของมันนี่ครับ, ตัวลำสั้นสปริงต้องแข็งกว่าเป็นธรรมดา เพราะระยะถอยมีน้อยกว่า... คำแนะนำคือหากของยังไม่เสียอย่าไปซ่อมครับ...
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 10, 2011, 08:31:08 PM ไม่พูดถึง ปืนต่างขนาดกัน แต่ สปริงค์ 2 ตัวนี้ ต่างกันตรง
ตัวบน เป็น สปริงค์ แบบ ชั้นเดียว ทำงาน จาก การถอยของ สไลด์ เมื่อ สไลด์ ถอยหลังจะมีแรงยันกลับของ สปริงค์ มากขึ้นตามระยะถอย ตัวล่าง เป็น สปริงค์ แบบ 2 ชั้น ตัวแรก คือ ชั้นใน จะทำงานทันที เมื่อ สไลด์ ถอยหลัง จนถึงระยะที่ สปริงค์ ต้วที่ 2 หรือ บั๊บเฟอร์ สปริงค์ ทำงาน จะมีแรงต้านเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้ เวลายิง ระบบนี้จะนิ่มขึ้นกว่า ตัวบน หรือ แบบ ชั้นเดียว ครับ แต่มีข้อเสียคือ ในบางรุ่น ถ้าใช้ลูกกระสุนที่มีแรงขับ ต่ำ เวลายิง อาจติดขัด หรือ แจม ได้ แต่ ในปืนรุ่นใหม่ ๆ อย่าง กล๊อก เจน 4 ก็ใส่ สปริงค์ 2 ชั้น แบบนี้เหมือนกัน หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 10, 2011, 08:41:18 PM มันอยู่ในปืนสองกระบอกของใครของมันนี่ครับ, ตัวลำสั้นสปริงต้องแข็งกว่าเป็นธรรมดา เพราะระยะถอยมีน้อยกว่า... คำแนะนำคือหากของยังไม่เสียอย่าไปซ่อมครับ... ไม่พูดถึง ปืนต่างขนาดกัน แต่ สปริงค์ 2 ตัวนี้ ต่างกันตรง ตัวบน เป็น สปริงค์ แบบ ชั้นเดียว ทำงาน จาก การถอยของ สไลด์ เมื่อ สไลด์ ถอยหลังจะมีแรงยันกลับของ สปริงค์ มากขึ้นตามระยะถอย ตัวล่าง เป็น สปริงค์ แบบ 2 ชั้น ตัวแรก คือ ชั้นใน จะทำงานทันที เมื่อ สไลด์ ถอยหลัง จนถึงระยะที่ สปริงค์ ต้วที่ 2 หรือ บั๊บเฟอร์ สปริงค์ ทำงาน จะมีแรงต้านเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้ เวลายิง ระบบนี้จะนิ่มขึ้นกว่า ตัวบน หรือ แบบ ชั้นเดียว ครับ แต่มีข้อเสียคือ ในบางรุ่น ถ้าใช้ลูกกระสุนที่มีแรงขับ ต่ำ เวลายิง อาจติดขัด หรือ แจม ได้ แต่ ในปืนรุ่นใหม่ ๆ อย่าง กล๊อก เจน 4 ก็ใส่ สปริงค์ 2 ชั้น แบบนี้เหมือนกัน ขอบพระคุณค่ะ ตอนแรกหนูเข้าใจว่า โรงงานเค้าทำออกมาตามสมัยนิยม เพราะที่ลองค้นดู เห็นมีบางแห่งรับทำ แบบยาวแต่เป็นแบบสองชั้น เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่มีแบบ อันบน เค้าอยากได้แบบ อันล่าง แสดงว่าแบบอันล่างดีกว่าอันบนหรือเปล่าคะ แต่เวลาดึงสไลด์ แบบอันบนกลับนุ่มมือกว่า และถ้าปืนยิ่งสั้น ยิ่งดึงสไลด์ยากใช่ไหมคะ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 10, 2011, 10:23:10 PM สไลด์ ปืนสั้น ดึงยาก หรือ ดึงง่าย อยู่ที่ความยาวลำกล้อง และ ขนาดกระสุน ครับ ยิ่งใช้กระสุนขนาดหน้าตัดมาก อย่าง .45 และ ความยาวลำกล้อง สั้น 3.5 นิ้ว สไลด์ ยิ่งดึงยาก เพราะ ต้องอาศัยแรงดันสปริงค์ มาก ๆ เพื่อยันกระสุนให้ป้อนเข้าสู่รังเพลิงได้ราบรื่น ต่างกับ ปืน 9 มม. ลำกล้อง 4 นิ้ว จะดึงสไลด์ ได้ง่ายกว่า
สปริงค์ 2 ชั้น จะดึงง่ายในจังหวะแรก และ จะหนักขึ้นเมื่อ ปริงค์ ชุดที่ 2 ทำงาน เป็นการ ลดแรงกระแทกของ สไลด์ ที่กระทำต่อ โครงปืน ทำให้รู้สึกว่า นิ่มกว่า สปริงค์ ชั้นเดียว และ สปริงค์ 2 ชั้นยัง มี ถึง 2 แบบ คือ 1. สปริงค์ 2 ชั้น แบบ ขั้นตอนเดียว จะใส่ในปืนลำกล้องสั้น ๆ พวก .45 ลำกล้อง 3.5 นิ้ว จะใช้สปริงค์ 2 ชั้นแบบนี้ติดตั้งจาก โรงงาน 2. สปริงค์ 2 ชั้น แบบ 2 ขั้นตอน คือ สปริงค์ ในรูปที่ 2 ที่คุณ โพส มา เป็นสปริงค์ ที่ทำงาน 2 จังหวะ ตามที่ผม ได้อธิบายใว้ก่อนหน้านี้ โดย กล๊อก Gen 4 ใส่ให้มากับ ปืนไม่ต้องหามาเปลี่ยน ส่วน สปริงค์ 2 ชั้น แบบ 2 ขั้นตอน จะดีกว่า สปริงค์ ชั้นเดียวหรือไม่ อยู่ที่ สปริงค์ ตัวนั้น มีความแข็ง เหมาะสม กับ ปืนนั้นหรือไม่ ต่างหากครับ หาก ความแข็งสปริงค๋ ไม่เหมาะสม อาจทำให้ เวลายิงอาจเกิดการติดขัดได้ ถ้า เบาเกินไป การป้อนกระสุน จะไม่ราบรื่น ติดขัด หรือ ถ้า แข็งเกินไป ปืนก็ จะไม่คัดปลอก ติดขัดได้ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 11, 2011, 12:55:08 PM เอาเฉพาะ 1911 นะครับ... หากตัวเต็ม 5 นิ้วจะไม่เห็นใครทำสปริงลำเลื่อน 2 ชั้น เพราะตัวลำเลื่อนหนัก หากจังหวะลำเลื่อนเดินหน้าสุดแล้วสปริงแรงไม่พอดันให้หน้าลูกเลื่อนปิดสนิทเวลาปืนเคลื่อนไหวแรงๆ เช่นคนถือปืนเอาข้อศอกถองเข้ากับข้างฝา(ง้างนกก่อน) หากสปริงอ่อนแรง ลำเลื่อนจะถอยหลังคายลูกปืนในรังเพลิงทิ้งไปหนึ่งนัดครับ...
ทีนี้เซียนปืนรุ่นโบราณ มักค้างลำเลื่อนแช่ค้างคืนเอาไว้เป็นสัปดาห์ หวังให้สปริงอ่อนแรง หวังขึ้นลำด้วยวิธีพิเศษด้วยการถองข้างฝา... แต่ทีนี้เวลาใช้ปืนมักต้องมีล้มลุกคลุกคลานลำเลื่อนถอยสุดก็เสียลูกปืนหนึ่งนัด แต่ถ้าดวงซวยลำเลื่อนถอยครึ่งๆกลางๆ ปืนจะขัดลำครับ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: นายโป่งจิงฮง ทะลวงปืน - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 11, 2011, 01:40:27 PM ขอตอบเท่าที่ทราบนะครับ อาจไม่ถูกต้องนัก ถือว่าเข้ามาหาความรู้ด้วยเช่นกันครับผม ............... ::014::
- ปืนลำเลื่อนยาวๆ (1911) จำพวก 5 นิ้วเต็ม มีระยะทางถอยหลังมากพอ จึงไม่มีความจำเป็นในการใช้สปริง 2 ชั้น - ส่วนพวก (1911) ลำสั้นๆ มักจะมีทางวิ่งถอยหลังจำกัด สปริง 2 ชั้นเป็นทางออกของการออกแบบให้มีแกนซ้อนกันชั้นใน ในขณะที่ไม่กระทบกับระยะทางถอยหลังที่มีน้อย ............ ส่วนหลักการก็ยังคงเหมือนเดิมครับ ต้องดึงกลับไปข้างหน้าอยู่ดี ไม่มีอันไหนดีกว่ากัน หรือ แย่กว่ากันครับ เหมือนๆกัน เพียงแต่ ความรู้สึกตอนดึงลำเลื่อน กับตอนยิง เท่านั้นที่กล้ามเนื้อมือคนจำแนกออกได้ ปืน1911 ลำสั้นๆ หรือ ปืนออโตพวก SubCompact มันใช้สปริงเส้นเดียวไม่ได้ เพราะตัวมันเอง .......... ลองฟังท่านอื่นดูนะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: vinchy ที่ ธันวาคม 11, 2011, 05:10:20 PM ขอลองอธิบายตามความเข้าใจของผมเองนะครับ(อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ครับ)
ถ้าเปรียบง่ายๆ แบบเห็นภาพชัดๆ ก็ต้องเอาปืนที่ปกติใส่สปิงมาตราฐานเส้นเดียว กับกับหาสปิงสองชั้นแบบมีแกนสปิงสมทับกันอยู่ดังภาพที่ท่าน จขกท ยกมาเป็นตัวอย่าง มาใส่แทนแล้วลองดึงสไลด์ดูความรู้สึกว่าต่างกันยังไง แล้วลองเอามายิงเปรียบเทียบดู ระหว่างสปิงทั้งสองแบบ ว่ามีผลกับการทำงานของปืนอย่างไร เช่น เอา โคลท์ คอมมานเดอร์ .๔๕ ลำกล้องยาว ๔ นิ้วเศษๆ แบบนี้น่าจะเปรียบเทียบสปิงทั้ง ๒ แบบ ได้ง่าย เพราะถ้าเป็นตัว ๑๙๑๑ ลำกล้อง ๕ นิ้ว นั้นคงไม่มีความจำเป็นต้องใช้สปิง ๒ ชั้นแต่ย่างใด เพราะช่วงถอยหลังของสไลด์ ยาวพอ ที่จะปลดกลอนและถอยหลังคัดปลอก โดยไม่ต้องใช้สปิงแข็งเกินไป ซัก ๑๖ ปอนด์ ก็พอ ต้านแรงระเบิดของกระสุนได้ และดันกลับส่งกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิงต่อไป แต่ถ้าสไลด์สั้นลงเหลือซัก ๔ นิ้ว หรือ ๓ นิ้วเศษ ในขณะที่ต้องยิงกับกระสุนขนาด .๔๕ เหมือนเดิม จำเป็นต้องเพิ่มแรงต้านของสปิงสไลด์ให้มากขึ้น เป็น ๒๑ ปอนด์หรือมากกว่านั้น เป็นต้น ที่นี้ ถ้าเราเพิ่มแรงต้านสปิงแบบเส้นเดียวไปมากๆ ก็จะมีปัญหาการใช้มือดึงสไลด์เพื่อขึ้นลำปืนไม่ไหวหรือลำบากเกินไป จึงต้องมีการหลอกเชิงกล ให้ได้แรงต้านเหมือนสปิงเส้นเดียว โดยการออกแบบให้มีสปิง ๒ ชั้น โดยแบ่งแรงต้านเป็นสองช่วง เช่น ต้องการแรงต้านรวม ๒๒ ปอนด์ ก็ให้สปิงช่วงแรงที่สไลด์ถอยต้านไปก่อนบางส่วน และเมื่อถอยมาถึงระยะหนึ่งแล้วแรงต้านจะเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ จนถึงระดับหนึ่งแล้วดีดกลับเมื่อหมดแรงกระทำจากแรงระเบิดของกระสุน เมื่อรวมแรงสปิงทั้ง ๒ ช่วง ก็จะได้ใกล้เคียง กับ ๒๒ ปอนด์ เป็นต้น แต่ทำให้ใช้มือดึงสไลด์ได้ง่ายกว่าสปิงแบบเส้นเดียวแล้วมีแรงต้าน ๒๒ ปอนด์ ไปเลย หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 12, 2011, 08:04:07 PM ขอบพระคุณค่ะ
เรียนสอบถามอีกเรื่องนะคะ ในเหตุการณ์ แบบนี้ http://www.gun.in.th/2010/index.php?topic=59990.0 ศูนย์ ไม่ติดข้างหนึ่ง เปลียนเฉพาะข้างที่ไม่ติดได้ไหมคะ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 12, 2011, 08:18:28 PM ขอบพระคุณค่ะ เรียนสอบถามอีกเรื่องนะคะ ในเหตุการณ์ แบบนี้ http://www.gun.in.th/2010/index.php?topic=59990.0 ศูนย์ ไม่ติดข้างหนึ่ง เปลียนเฉพาะข้างที่ไม่ติดได้ไหมคะ ถ้าเป็น อเมริกา ส่ง บริษัท เปลี่ยนให้ใหม่ เลย ครับ ส่วน เมืองไทย ส่งใจ ให้ อย่างเดียว ครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 12, 2011, 08:23:40 PM ขอบพระคุณค่ะ เรียนสอบถามอีกเรื่องนะคะ ในเหตุการณ์ แบบนี้ http://www.gun.in.th/2010/index.php?topic=59990.0 ศูนย์ ไม่ติดข้างหนึ่ง เปลียนเฉพาะข้างที่ไม่ติดได้ไหมคะ กระทู้ตามที่อ้างมายาวจังครับ อ่านไม่หมดมีตั้งหลายหน้า... แต่บอกได้ว่าถ้าร้านไม่รับผิดชอบให้แจ้งความครับ แจ้งความแล้วฟ้องแพ่งตามเข้าไปอีก ขอให้จ่ายค่าเสียเวลา+เปลี่ยนปืนกระบอกใหม่... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 12, 2011, 08:37:22 PM เปลี่ยนเองไม่ได้หรือคะ
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 13, 2011, 03:13:47 PM เปลี่ยนเองไม่ได้หรือคะ ซื้อมาเปลี่ยนเอง ได้ ครับ แต่ เสียตังค์ เอง หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 13, 2011, 03:48:40 PM เปลี่ยนเองไม่ได้หรือคะ ซื้อมาเปลี่ยนเอง ได้ ครับ แต่ เสียตังค์ เอง ต้องเปลี่ยนทั้งอัน หรือเปลี่ยนเป็นข้าง ๆ ไป ได้หรือเปล่าค่ะ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 13, 2011, 03:53:46 PM เปลี่ยนเองไม่ได้หรือคะ ซื้อมาเปลี่ยนเอง ได้ ครับ แต่ เสียตังค์ เอง ต้องเปลี่ยนทั้งอัน หรือเปลี่ยนเป็นข้าง ๆ ไป ได้หรือเปล่าค่ะ เค้าขาย เป็น ชุด ครับ หน้าหลัง พร้อมกัน ไม่ขาย แยก หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 13, 2011, 05:17:10 PM เปลี่ยนเองไม่ได้หรือคะ ซื้อมาเปลี่ยนเอง ได้ ครับ แต่ เสียตังค์ เอง ต้องเปลี่ยนทั้งอัน หรือเปลี่ยนเป็นข้าง ๆ ไป ได้หรือเปล่าค่ะ เค้าขาย เป็น ชุด ครับ หน้าหลัง พร้อมกัน ไม่ขาย แยก ขอบคุณค่ะ หนูเข้าใจว่าเปลี่ยนเป็นข้าง ๆ ได้ นึกว่าเอาแท่ง ๆ เรืองแสงอันใหม่ใส่แล้วใช้ได้เลยค่ะ (http://www.uniteduniform.com/khxc/media/ccp0/prodxl/SA37_2_lg.jpg) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ธันวาคม 13, 2011, 06:39:17 PM สารเรืองแสง ที่ใส่ใน ศูนย์ เป็นสาร กำมันตรังสี ประเภท ตริเตรียม เป็นสารต้องห้าม ต้องมีการควบคุมอย่าง เข้มงวด
ถึงแม้ สารเรืองแสง ที่ใส่ใน ศูนย์ เรืองแสง จะเป็นสาร กำมันตรังสี ที่เจือจาง แล้วก็ตาม การติดตั้ง ใน ศูนย์ ต้องใช้ช่างที่มีใบอณุญาติ (ในต่างประเทศ) การจำหน่าย ปลีก ต้องอยู่ในสภาพที่ แตกหักได้ยาก อย่าง การฝังใน ศูนย์ ที่เป็นโลหะแข็งแรง การฝัง ศูนย์ เรืองแสง ใน อเมริกา มีการ รับทำ แต่ ต้องส่งปืนไปยัง บริษัท ที่รับทำ โดยเฉพาะ ไม่มีแท่งเรืองแสงขายให้ เปลี่ยนเอง อย่าง บาเร็ตต้า 92 ที่ ศูนย์หน้า เป็นแบบ ตายตัว ก็ต้องส่งไปโรงงานเพื่อ เจาะ ฝังศูนย์ เรืองแสง หรือไม่ก็ ตัดศูนย์หน้า เก่าออก แล้ว เซาะร่องเพื่อใส่ ศูนย์ เรืองแสงใหม่เข้าไป หัวข้อ: Re: ขออนุญาตเรียนถามเรื่อง spring ค่ะ เริ่มหัวข้อโดย: kuntida ที่ ธันวาคม 14, 2011, 12:43:35 PM สารเรืองแสง ที่ใส่ใน ศูนย์ เป็นสาร กำมันตรังสี ประเภท ตริเตรียม เป็นสารต้องห้าม ต้องมีการควบคุมอย่าง เข้มงวด ถึงแม้ สารเรืองแสง ที่ใส่ใน ศูนย์ เรืองแสง จะเป็นสาร กำมันตรังสี ที่เจือจาง แล้วก็ตาม การติดตั้ง ใน ศูนย์ ต้องใช้ช่างที่มีใบอณุญาติ (ในต่างประเทศ) การจำหน่าย ปลีก ต้องอยู่ในสภาพที่ แตกหักได้ยาก อย่าง การฝังใน ศูนย์ ที่เป็นโลหะแข็งแรง การฝัง ศูนย์ เรืองแสง ใน อเมริกา มีการ รับทำ แต่ ต้องส่งปืนไปยัง บริษัท ที่รับทำ โดยเฉพาะ ไม่มีแท่งเรืองแสงขายให้ เปลี่ยนเอง อย่าง บาเร็ตต้า 92 ที่ ศูนย์หน้า เป็นแบบ ตายตัว ก็ต้องส่งไปโรงงานเพื่อ เจาะ ฝังศูนย์ เรืองแสง หรือไม่ก็ ตัดศูนย์หน้า เก่าออก แล้ว เซาะร่องเพื่อใส่ ศูนย์ เรืองแสงใหม่เข้าไป อ๋อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ขอบพระคุณค่ะ |