หัวข้อ: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 22, 2011, 01:45:35 PM (http://www.thpic.com/ik/20111222135151-5970.jpg)
คนจนขอแค่ "โอกาส" ในการต่อสู้คดี วันที่สามของการรับบริจาค มียอดบริจาคที่ 10,500 บาทขณะที่ค่าธรรมเนียมศาล 74,840 บาท ไปยื่นขอขยายเวลาแล้วค่ะ หมอลืมคีมไว้ในท้องบังอร 5 ปีหลังผ่าคว้านคีมออกต้องใส่แผ่นใยสังเคราะห์กันไส้ไหล ต้องกินยารักษาตัวตลอดชีวิต ส่วนเสนาะผู้เป็นสามีแพ้ยาอย่างรุนแรงทำให้ตาแทบมืดบอด+ไตวายเรื้อรัง เมื่อฟ้องกระทรวงสธ.ศาลชั้นต้นอนุญาตให้สู้คดีแบบคนอนาถาไม่ต้องวางค่าธรรมศาล-แต่แพ้คดี เมื่อยื่นอุทธรณ์และขอสู้คดีแบบคนอนาถาอีก แต่ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์ไม่อนุญาต สั่งให้นำค่าธรรมเนียมไปวาง 74,840 บาท โดยให้เหตุผลว่า"แม้จะจนจริงแต่คดีไม่มีมูลจะชนะ" บังอรตกงานเพราะร่างกายไม่แข็งแรง เธอรับจ้างตัดอ้อยวันละ 100 กว่าบาท หากินได้คนเดียวเพราะเสนาะสามีไตวายและออกแดดไม่ได้ บังอรจนปัญญาจึงประกาศ "ขายไต" เพื่อนำเงินมาวางเป็นค่าธรรมเนียมศาล ดิฉันเชื่อว่าสังคมคงไม่อยากให้บังอร"ขายไต" จึงขอเปิดรับบริจาค ให้บังอรมีเงินไปวางศาล โดยตั้งยอดไว้ที่ 74,840 บาท (2%ของทุนทรัพย์ที่ฟ้อง)เมื่อได้ครบแล้วจะให้คนไข้ปิดบัญชีทันทีไม่ให้มีเลขบัญชีนี้อีก เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ชื่อบัญชีนางบังอร แสงโชติ ธ.กสิกรไทย สาขาตลาดเกาะโพธิ์ (ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี) หมายเลขบัญชี 3242960504 เบอร์โทรศัพท์นางบังอร แสงโชติ 085-183-6528 ครบกำหนดที่ต้องนำค่าธรรมเนียมไปวางพุธที่ 21 ธ.ค.54 แต่บังอรหาเงินไม่ทันจึงไปยื่นขอขยายเวลาอีก 30 วัน หลังจากเคยขอขยายมาครั้งหนึ่งแล้ว. ขอบคุณข้อมูลจาก facbook ของคุณ ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา (http://www.facebook.com/photo.php?fbid=197240277034600&set=a.103216619770300.6891.100002458873250&type=1&ref=nf) <<< กดลิงค์อ่านรายละเอียด หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 22, 2011, 01:47:44 PM หาเงินสู้คดีฟ้องหมอ
กราบเรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เรื่องราวความยุติธรรมที่หาได้ยากลำบากสำหรับคนจน แม้จะเป็นการใช้สิทธิ์ทางศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ก็ยังเป็นเรื่องไม่มีสิทธิ์หรือไม่มีพื้นที่สำหรับคนจน นายเสนาะ แสงโชติ ชายสายตาขุ่นมัว แทบจะเรียกได้ว่าเกือบตาบอด ปี 2550 นายเสนาะไปรักษาอาการปวดตึงที่มือ ขาและไหล่ ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบ เจาะเลือดและเอกซเรย์ ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบไปกินต่อที่บ้าน นายเสนาะทานยาได้ 7 วัน มีผื่นคันตามผิวหนัง ตามลำตัว เริ่มตาแฉะทั้งสองข้าง ปากเริ่มพองเป็นแผล และมีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง จึงไปฉีดยาแก้แพ้ที่สถานีอนามัยปรกฟ้า แล้วไปพบหมอที่โรงพยาบาลพนัสนิคมเดิม หมอวินิจฉัยว่าแพ้ยาธรรมดา สั่งให้ยาแก้แพ้ให้ไปทานต่อที่บ้านอีก ให้ยาหยอดตา แก้คัน 1 ขวด แล้วให้กลับบ้านเหมือนเดิม โดยมิได้นัดให้กลับไปตรวจอีก ซึ่งนายเสนาะกลับบ้านกินยาแก้แพ้ แต่ผื่นยังลามไปเรื่อยๆ แสบตาและตามัวลง เจ็บปากกินอาหารไม่ได้ มีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง มองสิ่งของเห็นไม่ชัด นางบังอรภริยาของนายเสนาะได้พาไปรักษาที่ รพ.สมิติเวชศรีราชา หมดเงินไป 70,000 กว่าบาท ต้องกู้เงินมาใช้เขา หมอวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรงที่ชื่อว่า สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม จึงรับตัวไว้รักษาช่วยจนรอดชีวิต แต่ก็ต้องเสียดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ไม่สามารถรักษาได้อย่างเดิม ซึ่งปัจจุบันนายเสนาะมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถประกอบอาชีพทำไร่เลี้ยงลูกเมียได้ดังเดิม ตามัวมองไม่ชัด เคืองตา แสบตาต้องหยอดน้ำตาเทียม และมีปัญหาไตวายจากการแพ้ยา มีโรคภัยจากสภาวะไตวายอีกมากมายต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต่อมา นายเสนาะได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม อย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้สู้คดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ต่อมาศาลพิพากษายกคำฟ้องนายเสนาะ ซึ่งนายเสนาะต้องการจะสู้คดีจนถึงที่สุด โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ แต่ครั้งนี้ศาลมีสั่งให้เอาเงินมาวางศาล 7 หมื่นกว่าบาท เนื่องจากศาลว่าแม้จะจนจริง แต่คดีไม่มีมูลจะชนะ ซึ่งนายเสนาะต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุดจนชั้นฎีกา แต่นายเสนาะและภริยานางบังอรตกงาน เนื่องจากไม่แข็งแรง ไปรับจ้างทำงานตัดอ้อยวันละ 100 กว่าบาทเลี้ยงสามีและลูก จะหาเงินที่ไหนเกือบแสนไปต่อสู้คดี เรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองได้ เรามันยากจนจริงๆ การสู้คดีจึงเป็นเรื่องลำบากเพราะขาดทุนทรัพย์ นางบังอรและนายเสนาะจึงอยากจะขอความเห็นใจ และขอรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และยินดีประกาศขายไตข้างหนึ่งเพื่อขอต่อสู้คดีต่อไป นายเสนาะและนางบังอร แสงโชติ โทร.085-1836528 315/2 หมู่ 4 ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี นายเสนาะ ตอบ นายเสนาะ ความผิดพลาดเป็นของคู่กันกับมนุษย์ แม้ระมัดระวังแล้วก็เกิดขึ้นได้ แต่ความผิดพลาดทางการแพทย์ หมายถึงชีวิตและอวัยวะของมนุษย์ หนึ่งชีวิตกระทบต่ออีกหลายชีวิต หลายชีวิตต้องสิ้นเนื้อประดาตัว บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่มีคนไข้คนใดอยากฟ้องหมอ แต่เมื่อไม่มีทางเลือก ไปศาลก็แพ้เพราะพยานหลักฐานสู้หมอไม่ได้ จึงทำให้เกิดกรณีประกาศขายไต ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย ขณะนี้จึงมีความพยายามจากภาคประชาชนที่จะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ... ให้มีผลบังคับใช้ในเร็ววัน เพื่อปลดปล่อยความทุกข์ให้กับคนไข้ไทยทั้งประเทศ http://www.thaipost.net/news/161211/49718 หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 22, 2011, 01:47:51 PM เศร้า ......... ::004::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 22, 2011, 01:51:37 PM เมียผู้ป่วยแพ้ยาประกาศขายไต หาเงินค่าธรรมเนียมวางศาลอุทธรณ์คดี
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2011 เวลา 21:43 น. เขียนโดย สุรชา บุญเปี่ยม หมวด เรื่องเด่น (http://www.isranews.org/images/stories/suracha1/h1122.bmp) นางบังอร แสงโชติ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 315/2 หมู่ 4 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ประกาศขายไตข้างหนึ่งผ่านสื่อมวลชน เพื่อหาเงินไปวางในศาลเป็นค่าธรรมเนียม 7 หมื่นบาท ในการสู้คดีขั้นอุทธรณ์ให้นายเสนะ แสงโชติ สามี ซึ่งเป็นผู้ป่วยแพ้ยาจากการสั่งจ่ายยาของแพทย์จนตาเกือบบอดและไตวายเรื้อรัง หลังจากยื่นฟ้องสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้อหาหรือฐานความผิดละเมิด,เรียกค่าเสียหาย,พ.ร.บ.ความรับผิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เป็นเงิน 3,742,000 เมื่อปี 2550 โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำฟ้อง แต่นายเสนาะต้องการสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกาเพื่อเรียกร้องหาความเป็นธรรม ฉันต้องการขอความช่วยเหลือ เอาเงินไปวางค่าธรรมเนียมในศาล ไม่มีเงินเลย ครอบครัวมีกันอยู่ 3 คนพ่อแม่ลูก สามีฉันก็ป่วยหนักทำงานไม่ได้ ฉันต้องไปรับจ้างตัดอ้อยวันละร้อยกว่าบาท หาเงินเลี้ยงครอบครัว หมดหนทางจริงๆ แต่ก็ต้องการสู้คดี เพราะสามีฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วเกิดแพ้ยา ตาเกือบบอด แล้วยังมีอาการเป็นโรคไตวายเรื้อรังอีก ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว นางอังอร กล่าวทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา ความเป็นมาของการประกาศขายไตเพื่อช่วยสามีให้ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุดของนางบังอร เริ่มจาก เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 นายเสนาะไปรักษาอาการปวดตึงที่มือ ขาและไหล่ ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี แพทย์นิจฉัยว่านายเสนาะเป็นโรคข้ออักเสบ แล้วเจาะเลือด เอ็กซเรย์ ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบไปทานต่อที่บ้าน 1 สัปดาห์ต่อมา แพทย์แจ้งว่าผลเลือดว่ามีกรดยูริกสูง นายเสนาะ เป็นโรคเก๊าท์ สั่งจ่ายยาไปทานต่อที่บ้าน วันที่ 3 พฤษภาคม 2550 แพทย์นัด ให้ยารักษาโรคเก๊าท์ไปทานต่อที่บ้าน นัดตรวจอีกครั้งในอีก 1 เดือนถัดไป นายเสนาะกินยาตามแพทย์สั่งไปได้ 7 วัน ก็มีผื่นคันที่ผิวหนังและตามลำตัว ตาแฉะทั้งสองข้าง ปากเริ่มพองเป็นแผล และมีไข้หนาวสั่น จึงไปฉีดยาแก้แพ้ที่สถานีอนามัยแห่งหนึ่ง แล้วไปพบหมอที่โรงพยาบาลพนัสนิคมก่อนกำหนดวันนัด แพทย์วินิจฉัยว่าแพ้ยาธรรมดา สั่งให้ยาแก้แพ้ให้ไปทานต่อที่บ้าน ให้ยาหยอดตา แก้คัน 1 ขวด จากนั้นให้กลับบ้านโดยมิได้นัดให้กลับไปตรวจอีก ก่อนกลับแพทย์ได้ยึดยาที่เคยกินแล้วแพ้เอาไว้ นายเสนาะกลับบ้านกินยาแก้แพ้ แต่ผื่นยังลามไปเรื่อย ๆ มีอาการแสบตา และตามัว มีอาการเจ็บปากจนรับประทานอาหารไม่ได้ มีไข้หนาวต้องนอนคลุมโปง มองสิ่งของไม่เห็นชัด ถึงขั้นเดินชนสิ่งของในบ้าน วันที่ 12 พ.ค. 2550 นายเสนาะเปลี่ยนไปรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรงที่ชื่อว่า สตีเว่นส์ จอห์นสัน ซินโดรม จึงรับตัวไว้รักษา วันที่ 15 พ.ค. 2550 นายเสนาะย้ายออกจากโรงพยาบาลสมิติเวชไปพักรักษาตัวที่บ้านเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และไปรักษาต่อตามนัดในแผนกผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาลสมิติเวช ต่อเนื่องกันมา แต่นายเสนาะร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังเดิม เพราะตามัวมองไม่ชัด เคืองตาและแสบตา ต้องหยอดน้ำตาเทียม และมีปัญหาไตวายจากการแพ้ยา ต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 นายเสนาะได้ยื่นฟ้องสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ต้นสังกัดโรงพยาบาลพนัสนิคม ซึ่งแพทย์ได้ตรวจรักษาโรคให้ แต่แพทย์ให้ยาผิดพลาด ทำให้นายเสนาะแพ้ยารุนแรงและทำให้สายตาพร่ามัวและเป็นโรคไตวายเรื้อรัง กลายเป็นคนทุพพลภาพ เป็นการฟ้องเป็นการฟ้องอย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้สู้คดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ต่อมาศาลพิพากษายกคำฟ้องของนายเสนาะ แต่แม้จะแพ้คดีในศาลชั้นต้น นายเสนาะต้องการจะสู้คดีจนถึงที่สุด โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้นำเงินมาวางศาลกว่า 7 หมื่นบาท ในวันที่ 21 ธันวาคม นี้ มีการไกล่เกลี่ยกันในศาล ครั้งแรกทางหมอก็บอกจะให้แสนนึง แต่ทางฉันไม่รับเพราะต้องใช้รักษาดวงตามสามีไปตลอดชีวิต ครั้งที่ 2 ผอ.โรงพยาบาลก็บอกว่าจะให้เงิน 2 แสน รวบรวมจากหมอด้วยกันแต่ยังไม่ได้ ฉันเห็นว่าน้อยเกินไป ไม่พอค่ารักษาพยาบาลแล้วยังต้องนำเงินไปจ่ายค่าโน่นนี่ช่วงไม่ได้ทำงานอีก ขอ 3 แสน แต่ไม่ตกลงกัน จนศาลตัดสินให้นายเสนาะแพ้คดี วันฟังคำพิพากษา พอตัดสินว่าให้ยกคำฟ้อง คดีไม่มีมูล พอผู้พิพากษาลงจากบัลลังก์ ฉันตระโกนร้องลั่นด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด ชีวิตคนไม่มีค่า ตาจะบอดอยู่แล้วยังแพ้คดีอีก นางอังอรกล่าวกับผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา (http://www.isranews.org/images/stories/suracha1/h1124.bmp) ประกาศขายไตผ่านสื่อ นางอังอร กล่าวว่า วันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันที่จะต้องนำเงิน 7 หมื่นบาทไปวางเป็นค่าธรรมเนียมศาล แต่ไม่มีเงินจึงประกาศขายไตของตนเองข้างหนึ่งให้กับใครก็ได้ที่ต้องการ เพื่อแลกกับเงินไปวางค่าธรรมเนียมในศาล โดยนายเสนะ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ซึ่งหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมาและต่อมาได้เผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เนท ดังนี้ กราบเรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เรื่องราวความยุติธรรมที่หาได้ยากลำบากสำหรับคนจน แม้จะเป็นการใช้สิทธิ์ทางศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ก็ยังเป็นเรื่องไม่มีสิทธิ์หรือไม่มีพื้นที่สำหรับคนจน นายเสนาะ แสงโชติ ชายสายตาขุ่นมัว แทบจะเรียกได้ว่าเกือบตาบอด ปี 2550 นายเสนาะไปรักษาอาการปวดตึงที่มือ ขาและไหล่ ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบ เจาะเลือดและเอกซเรย์ ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบไปกินต่อที่บ้าน นายเสนาะทานยาได้ 7 วัน มีผื่นคันตามผิวหนัง ตามลำตัว เริ่มตาแฉะทั้งสองข้าง ปากเริ่มพองเป็นแผล และมีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง จึงไปฉีดยาแก้แพ้ที่สถานีอนามัยปรกฟ้า แล้วไปพบหมอที่โรงพยาบาลพนัสนิคมเดิม หมอวินิจฉัยว่าแพ้ยาธรรมดา สั่งให้ยาแก้แพ้ให้ไปทานต่อที่บ้านอีก ให้ยาหยอดตา แก้คัน 1 ขวด แล้วให้กลับบ้านเหมือนเดิม โดยมิได้นัดให้กลับไปตรวจอีก ซึ่งนายเสนาะกลับบ้านกินยาแก้แพ้ แต่ผื่นยังลามไปเรื่อยๆ แสบตาและตามัวลง เจ็บปากกินอาหารไม่ได้ มีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง มองสิ่งของเห็นไม่ชัด นางบังอรภริยาของนายเสนาะได้พาไปรักษาที่ รพ.สมิติเวชศรีราชา หมดเงินไป 70,000 กว่าบาท ต้องกู้เงินมาใช้เขา หมอวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรงที่ชื่อว่า สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม จึงรับตัวไว้รักษาช่วยจนรอดชีวิต แต่ก็ต้องเสียดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ไม่สามารถรักษาได้อย่างเดิม ซึ่งปัจจุบันนายเสนาะมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถประกอบอาชีพทำไร่เลี้ยงลูกเมียได้ดังเดิม ตามัวมองไม่ชัด เคืองตา แสบตาต้องหยอดน้ำตาเทียม และมีปัญหาไตวายจากการแพ้ยา มีโรคภัยจากสภาวะไตวายอีกมากมายต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต่อมา นายเสนาะได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม อย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้สู้คดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ต่อมาศาลพิพากษายกคำฟ้องนายเสนาะ ซึ่งนายเสนาะต้องการจะสู้คดีจนถึงที่สุด โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ แต่ครั้งนี้ศาลมีสั่งให้เอาเงินมาวางศาล 7 หมื่นกว่าบาท เนื่องจากศาลว่าแม้จะจนจริง แต่คดีไม่มีมูลจะชนะ ซึ่งนายเสนาะต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุดจนชั้นฎีกา แต่นายเสนาะและภริยานางบังอรตกงาน เนื่องจากไม่แข็งแรง ไปรับจ้างทำงานตัดอ้อยวันละ 100 กว่าบาทเลี้ยงสามีและลูก จะหาเงินที่ไหนเกือบแสนไปต่อสู้คดี เรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองได้ เรามันยากจนจริงๆ การสู้คดีจึงเป็นเรื่องลำบากเพราะขาดทุนทรัพย์ นางบังอรและนายเสนาะจึงอยากจะขอความเห็นใจ และขอรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และยินดีประกาศขายไตข้างหนึ่งเพื่อขอต่อสู้คดีต่อไป นายเสนาะและนางบังอร แสงโชติ โทร.085-1836528 315/2 หมู่ 4 ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี นายเสนาะ ( บังอรเป็นผู้ประกาศขายไตหนึ่งข้าง เพราะนายเสนาะ สามีทำไม่ได้ เป็นผลพวงจากการแพ้ยาทำลายไตไปด้วย ปัจจุบันเสนาะเป็นโรคไตที่อาการไม่ดี ตัวบวม ขาบวมมากจนบางครั้งลุกไม่ขึ้น) (http://www.isranews.org/images/stories/suracha1/h1123.bmp) แฉพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ สธ. นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยเหลือทางฟ้องร้องให้นายเสนาะ เปิดเผยว่า ระหว่างการพิจารณาคดีครั้งหนึ่งในห้องไกล่เกลี่ยที่ศาลนนทบุรี นิติกรของกระทรวงสาธารณสุขดูหมิ่น ต่อหน้าผู้พิพากษาผู้ประนอมว่า "อ๋อคุณอุ้ยนะหรือผมรู้จักดี คนคนนี้กับสามีไม่ทำมาหากินอะไรนอกจากหากินกับคนไข้" นางปรียนันท์จึงขออนุญาตผู้ประนอมว่า "ขออนุญาตนะคะท่าน" แล้วก็พูดกับนิติกรคนนั้นว่า "พี่คะทำไมพี่พูดพล่อย ๆ อย่างนี้ พี่ไปได้ข้อมูลมาจากไหน ใครเป็นคนป้อนข้อมูลให้พี่...ฯลฯ " หลังจากนั้น นางปรียนันท์ได้ทำหนังสือถึงนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเวลานั้น ให้สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมสำเนาหนังสือถึงหัวหน้ากลุ่มกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขด้วย เพราะเชื่อว่ามีคนในกลุ่มนักกฎหมายของกระทรวงฯที่ต่อสู้คดีกันมา ทำให้ถูกมองว่าเป็นศัตรู ถูกให้ร้ายป้ายสี อย่างสกปรก รายละเอียดในหนังสือร้องเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีรายละเอียดดังนี้ 2 กันยายน 2552 เรื่อง พฤติกรรมของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สำเนาส่ง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อ้างถึง คดีหมายเลขดำที่ 1786/2550 สืบเนื่องจากคดีที่อ้างถึง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 ศาลจังหวัดนนทบุรีได้นัดสืบพยานโจทก์ เวลา 9.00 น. เมื่อไปถึง ศาลประสงค์ให้คู่ความไกล่เกลี่ยกัน ภายในห้องไกล่เกลี่ยประกอบด้วย 1. ( ผู้พิพากษา )ทำหน้าที่ประธาน 2. เจ้าหน้าที่ศาล 3. นายเสนาะ แสงโชติ-โจทก์, นางบังอร แสงโชติ-ภรรยาโจทก์ 4. อัยการจำเลย 5. นาย ส. แนะนำตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย ประจำสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 6. นายธำรงค์ หลักแดน ทนายโจทก์ 7. นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ดิฉันทราบดีว่าผู้เสียหายทุกครอบครัวมีความเดือดร้อนไม่ว่าจะเรื่องความเป็นอยู่ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการรักษาต่อเนื่องระยะยาว ดังนั้นเมื่อศาลจังหวัดนนทบุรีมีนโยบายที่จะดำเนินการไกล่เกลี่ย ทางเครือข่ายฯ จึงรู้สึกยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง และหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าต่อไปผู้เสียหายและครอบครัว จะได้รับการเยียวยาตามสมควรแก่เหตุในระยะเวลาอันรวดเร็ว เมื่อการไกล่เกลี่ยเริ่มขึ้น นาย ส.แนะนำตนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเทียบเท่าข้าราชการซี 8 ระดับผู้ตรวจการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมโชว์นามบัตรผู้มีชื่อเสียงหลายคนบนโต๊ะ แสดงตนว่ามีความรู้ความสามารถเรื่องการแพทย์จนจะรักษาคนได้แล้ว และกล่าวดูหมิ่นดิฉันซึ่งหน้าว่า ดิฉันกับสามีไม่ได้ทำมาหากินอะไร นอกจากทำเรื่องเครือข่ายฯ เพียงอย่างเดียว และรับเงินรับทองจากการทำการนี้ และฯลฯ สามีดิฉันทำงานเป็นวิศวกร มีเงินเดือนพอเลี้ยงครอบครัว ดิฉันเองทำงานเพื่อสังคมด้วยความเสียสละมาโดยตลอดไม่เคยมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่เคยเรียกเงินทองจากผู้เสียหายแม้สลึงเดียว ไม่เคยรับเงินจากหน่วยงานใด ๆ มีแต่จะนำเงินของครอบครัวมาใช้จ่ายในกิจกรรมเพื่อสังคมเช่นการไปร่วมพิจารณา กฎหมาย พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานานถึง 11 เดือน ดังนั้นการดูหมิ่นดิฉันซึ่งหน้าครั้งนี้ สามีดิฉันและดิฉันต้องการให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนนาย ส. โดยเร็วที่สุดว่าใครเป็นผู้ให้ข้อมูลนาย ส. และทางกระทรวงสาธารณสุขต้องมีส่วนรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ของนาย ส. ดิฉันเห็นว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยและญาติกับบุคลากรทางการแพทย์นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้จะมีความขัดแย้งกัน แต่ทุกฝ่ายก็กำลังหาทางออกร่วมกันและใกล้จะบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ดิฉันเห็นว่าทางกระทรวงสาธารณสุข สมควรจะพิจารณาให้ผู้ที่มาทำหน้าที่ใด ๆ ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ ควรเป็นผู้มีวุฒิภาวะสูงเป็นหน้าเป็นตาของกระทรวง มีความยืดหยุ่น และเข้าใจปัญหาทั้งสองด้าน และควรทำให้การเผชิญหน้ากันทุกครั้งมีทางออกที่เหมาะสมด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะในสายตาประชาชนแล้ว ข้าราชการควรจะทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน หาทางออกให้ชาวบ้าน มากกว่าการทำตัวเป็นปฏิปักษ์อวดอ้างตน ยกตนข่มท่าน เห็นเครือข่ายฯ เป็นศัตรูและให้ร้ายในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ และแจ้งให้ดิฉันทราบความคืบหน้าจักกราบขอบพระคุณยิ่ง ขอแสดงความนับถืออย่างสูง (นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา) ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ สุดท้ายคนคนนั้นก็ถูกให้ออกจากงานไป แต่กระบวนการไกล่เกลี่ยแบบนี้ยังคงอยู่ นางปรียนันท์ กล่าว (http://www.isranews.org/images/stories/suracha1/h1125.bmp) ครอบครัว แสงโชติสุดรันทดจากมือหมอ สำหรับครอบครัว แสงโชติ ไม่เพียงนายเสนาะเท่านั้นที่ประสบเหตุการณ์อันเกิดขึ้นจากรับบริการทางสาธารณสุข นางบังอร ภรรยาผู้ประกาศขายไตแลกเงิน 7 หมื่นบาท ก็ประสบกับเหตุการณ์มาด้วยตัวตนเองด้วยเหมือนกัน โดยเมื่อประมาณปี 2538 นางบังอรเล่าว่าได้เดินทางไปคลอดบุตรคนที่ 2 ที่โรงพยาบาล และผ่าตัดทำหมัน หลังจากนั้น ได้เกิดอาการผิดปกติรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงทุกครั้งมาตลอดในช่วงที่มีประจำเดือน ปี 2542 นางบังอรไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง เมื่อเอ็กซเรย์ดูพบว่ามีก้อนเลือดลักษณะคล้ายสิ่งแปลกปลอมอยู่ที่บริเวณท้องน้อย และตุงออกมาจนเกือบทะลุท้อง ซึ่งวัตถุดังกล่าว คล้ายคีมผ่าตัด แพทย์จึงต้องคว้านผนังหน้าท้องทั้งหมดทิ้ง และจะใส่แผ่นใยสังเคราะห์กันไส้ไหลไว้ในท้องแทน แต่หมอไม่ยอมให้ดูว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในท้องตนมานานเกือบ 5 ปี คืออะไร หมอที่ผ่าตัดรักษาบอกเพียงว่า หมอคนเก่าชุ่ยมากๆ คุณทนมาได้ยังไงตั้ง 5 ปี นางบังอร กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา หลังจากการผ่าตัด นางบังอรต้องฉีดยาบังคับไม่ให้มีรอบเดือนตลอดชีวิต เพราะจะทำให้เสียเลือดมาก แต่กรณีของบังอรไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากเหตุเกิดปี 2538 หมดอายุความทางแพ่งไปแล้ว และถ้าจะแจ้งความเพื่อนำเอาอายุความทางอาญาที่ยาวกว่ามาใช้ก็ไม่ได้อีกเพราะเกินอายุความ 10 ปีแล้ว ไม่มีหลักเลยในการฟ้อง คีมที่แพทย์คนหลังผ่าเอาออกก็ทิ้งไปแล้วและไม่ให้บังอรดู ส่วนเวชระเบียนก็ทำลายหมดแล้วเพราะโรงพยาบาลเก็บไว้เพียง 5 ปี นางบังอรเล่าว่า เธอมีบุตรชาย 2 คน คนโตเสียชีวิตแล้วเพราะถูกรถชน คนเล็กอายุ 16 ปี ยังเรียนหนังสือระดับ ปวช. เธอเคยทำงานโรงงานรองเท้า แลกกับเงินเดือนไม่กี่พันบาท กลิ่นกาวได้ทำลายกล่องเสียงจนพูดเสียงแหบแหบ เมื่อร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ในที่สุดก็ต้องออกจากงาน ไปประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าทำกับข้าวขายก็ประสบอุบัติเหตุไปตกมอเตอร์ไซค์ ปัจจุบันรับจ้างตัดอ้อย ส่วนนายเสนาะก่อนจะป่วยยังสามารถทำไร่ช่วยเหลือครอบครัวได้ เวลานี้ทำอะไรไม่ได้ ออกถูกแดดไม่ได้เลย เพราะผลพวงของการแพ้ยา มีคนโอนเงินมาช่วยแล้วนิดหน่อย แต่คงไม่พอไปวางค่าธรรมเนียมศาลเพื่ออุทธรณ์ ก็ต้องขอความเมตตาศาลขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะไม่มีเงินจริงๆ ไปหาหมอที่โรงพยาบาล กินยาจนตาเกือบจะบอด ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย เมื่อวันศุกร์ก็มีหมอมาหา ถามว่าจะให้ช่วยอะไรบ้าง ฉันบอกถ้าได้เงิน 5 แสนบาทเป็นค่ารักษาพยาบาลนายเสนาะไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว แต่ไม่มีการติดต่อกลับมา ฉันก็ต้องไปสู้ต่อที่ศาล คนจนก็เป็นคนจน สู้ใครเขาไม่ได้ นางบังอร กล่าวปนเสียงสะอึกสะอื้น ที่มา : สำนักข่าว อิศรา (http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99/item/4680-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%95-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5.html#.TvCzQNXfesU.facebook) <<< กดลิงค์อ่านรายละเอียด หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ ธันวาคม 22, 2011, 03:19:46 PM เคยมีข้อความเตือนในจักรวาลปืนสมัยก่อนว่า คนไร้ทรัพย์ 1,คนไร้สมัครพรรคพวก 1, คนโง่ 1 อย่าพึงมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นอันขาด
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 22, 2011, 04:59:25 PM เรื่องแบบนี้ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอครับ, มี"คนดี"มากมาย ที่เป็นคนดีแต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม... ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เข้าใจว่าสาเหตุของเรื่องที่แพ้คดี อาจเกิดจากสู้คดีแบบอนาถา เพราะคดีแบบนี้จะได้ทนายที่ศาลหาให้ แล้วประเด็นคือเรื่องราวข้อเท็จจริงที่พิสูจน์กันในศาลนั้นอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกันกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงก็ได้ครับ...
มีคดีอีกประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยยุติธรรมในหมู่คนจน ก็คือคดีเกี่ยวกับแรงงาน, ทั้งที่กระบวนการพิจารณาของศาลแรงงานนั้น ศาลสามารถสอบถามซักไซ้ไล่เรียงข้อมูลได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ทนายยกขึ้นมา อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ทนายก็ได้... แต่จากสถิติที่มีคนไปเก็บมา ใครไม่มีทนายมักแพ้ครับ, แล้วที่แสบที่สุดคือฝ่ายที่ไม่มีทนายคือฝ่ายคนจน ซึ่งได้แก่ฝ่ายลูกจ้างนั่นเอง... คนจนอยู่ในสังคมไทยด้วยความยากลำบากไปหมด ด้วยความที่คนจนส่วนใหญ่เป็นคนดี คนดีส่วนใหญ่จึงถูกเอาเปรียบสารพัด เอาเปรียบแล้วก็ไม่เคยเหลียวแล... ครั้งล่าสุดนายสมชายผิดหวังมากกับรัฐบาลที่แล้ว ที่ใช้ต้นทุนของสิ่งที่อยู่ที่สูงสุดของประเทศให้หมดไปโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในโครงสร้างของสังคมอย่างที่หวัง... หรือไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ในเว็บนี้เองก็ยังอุตส่าห์มีคนมาถามเรื่องปล่อยเงินกู้นอกระบบในรูปของสัญญาเช่าซื้อทองคำ... ที่แสบคือทำไก๋บอกว่าเพื่อช่วยคนจน... ฮา... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 22, 2011, 05:11:07 PM นายสมชายเคยนั่งคิดกับเมียเล่นๆ ว่าหากไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไรดี จะไปเอาเก็บเรื่องที่ยังไม่หมดอายุความที่คนจนโดนปิดเรื่องเอาไว้อย่างอยุติธรรม แต่คู่คดีเป็นคนมีเงิน หรือเป็นส่วนราชการ แล้วเรียกร้องความยุติธรรมให้คนจน... ถึงแม้จะไม่ได้เงินทองมากมาย แต่มันก็สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ครับ...
ที่เห็นๆ คือคดีที่เกิดจากความบกพร่องของการออกแบบถนนที่โค้งรัชดาฯ(ตรงหน้าสำนักงานอัยการต่อกับหน้าศาลอาญา)... ตรงนั้นเท่าที่ทราบยังไม่มีใครฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับผิดชอบออกแบบ+สร้างถนน ตรงนั้นเลยสักคน... คดีที่เกิดจากความบกพร่องของโรงพยาบาลฯ ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ก็ยังมีอีกแยะ หากไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ให้เริ่มที่เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาที่แพทยสภาฯ ก่อนเลย... อันนี้ไม่ฮา... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 22, 2011, 05:23:23 PM เรื่องกระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนขึ้นศาลนี่ก็เป็นเรื่องที่แย่เอามากๆในสายตาของหลายคน... ใครที่เคยเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยจะทราบดีว่านั่นคือกระบวนการ"วัดใจ"กันเหมือนเล่นไพ่เก้าเก เพราะคนที่เข้ามาดำเนินการไกล่เกลี่ยจะไม่พูดชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ดังนั้นฝ่ายที่เข้าไปไกล่เกลี่ย(หากฉลาด)ก็จะไม่ยอมหงายไพ่ของตนเองออกมา เพราะหากหงายไพ่ออกมาแล้วก็จะโดนเตรียมแก้ทางในห้องพิจารณาคดี...
ดังนั้นการไกล่เกลี่ยในหลายเรื่องจึงเป็นแค่วัดใจ กับเรื่องหลอกดูไต๋ของอีกฝ่ายหนึ่ง... ซึ่งคนจนก็เสียเปรียบอีกวันยังค่ำ เพราะยื้อคดีไม่ได้(ชั้นต้น+อุทธรณ์ 2 ปี), หากฏีกาอีกก็ 6 ปีเป็นอย่างต่ำ(คนจนอดตายไปเลย)... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2011, 05:35:59 PM ขอแสดงความเห็นเฉพาะเคสเรื่องแพ้ยาก็แล้วกันครับ
ปกติคนไข้ ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยา ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าให้ยาแล้วจะแพ้ยาหรือไม่ และเมื่อมีอาการแพ้ยาแล้วก็ต้องรักษาไปตามอาการ (supporttive treatment ) แต่ถ้าคนไข้มีประวัติชัดเจนว่าแพ้ยาตัวนี้ แล้วแพทย์ยังคงสั่งยาให้จนเกิดอาการแพ้ แบบนี้น่าสู้คดี และน่าจะชนะครับ เคสนี้ไม่มีประวัติมาก่อนว่าแพ้ ศาลยกฟ้องก็สมควรแล้วครับ ไม่เกี่ยวว่ามีเงินหรือไม่หรอกครับ ต่อให้ขายไตเอาเงินมาฟ้องใหม่ก็แพ้อยู่ดี การที่ ผอ.รพ. เสนอเงินให้สามแสน เป็นเพราะต้องการช่วยเยียวยา เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรม และไม่อยากมีคดีครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 22, 2011, 06:48:04 PM หรือไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ในเว็บนี้เองก็ยังอุตส่าห์มีคนมาถามเรื่องปล่อยเงินกู้นอกระบบในรูปของสัญญาเช่าซื้อทองคำ... ที่แสบคือทำไก๋บอกว่าเพื่อช่วยคนจน... ฮา... รายนั้นผมจำได้ว่าการตอบกระทู้ที่ผ่าน ๆ มาเค้าเรียกร้องความเป็นธรรมมาตลอดครับ อยากให้ประเทศไทยเป็นคอมมิวนิสต์ จะได้เกิดความเท่าเทียมกัน คนรวยไม่เอาเปรียบคนจน แต่ตัวเองกลับทำสิ่งตรงกันข้ามกับที่ตัวเองพูด :D หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:49:06 AM ลมหายใจยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป ขอให้สู้คดีชนะครับ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: บูรพา ที่ ธันวาคม 23, 2011, 01:08:21 PM ขอแสดงความเห็นเฉพาะเคสเรื่องแพ้ยาก็แล้วกันครับ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ก็น่าเห็นใจหมอครับไม่มีใครรู้หรอกว่าใครแพ้ยาอะไรก็รักษาไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่เรียนมา หมอให้เงินช่วยสามแสนก็นับว่ามีน้ำใจแล้วครับ แต่ความรู้สึกสังคมมักจะเห็นใจคนที่ด้อยกว่าเป็นธรรมดาปกติคนไข้ ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยา ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าให้ยาแล้วจะแพ้ยาหรือไม่ และเมื่อมีอาการแพ้ยาแล้วก็ต้องรักษาไปตามอาการ (supporttive treatment ) แต่ถ้าคนไข้มีประวัติชัดเจนว่าแพ้ยาตัวนี้ แล้วแพทย์ยังคงสั่งยาให้จนเกิดอาการแพ้ แบบนี้น่าสู้คดี และน่าจะชนะครับ เคสนี้ไม่มีประวัติมาก่อนว่าแพ้ ศาลยกฟ้องก็สมควรแล้วครับ ไม่เกี่ยวว่ามีเงินหรือไม่หรอกครับ ต่อให้ขายไตเอาเงินมาฟ้องใหม่ก็แพ้อยู่ดี การที่ ผอ.รพ. เสนอเงินให้สามแสน เป็นเพราะต้องการช่วยเยียวยา เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรม และไม่อยากมีคดีครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 03:18:18 PM ขอแสดงความเห็นเฉพาะเคสเรื่องแพ้ยาก็แล้วกันครับ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ก็น่าเห็นใจหมอครับไม่มีใครรู้หรอกว่าใครแพ้ยาอะไรก็รักษาไปตามมาตรฐานวิชาชีพที่เรียนมา หมอให้เงินช่วยสามแสนก็นับว่ามีน้ำใจแล้วครับ แต่ความรู้สึกสังคมมักจะเห็นใจคนที่ด้อยกว่าเป็นธรรมดาปกติคนไข้ ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยา ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าให้ยาแล้วจะแพ้ยาหรือไม่ และเมื่อมีอาการแพ้ยาแล้วก็ต้องรักษาไปตามอาการ (supporttive treatment ) แต่ถ้าคนไข้มีประวัติชัดเจนว่าแพ้ยาตัวนี้ แล้วแพทย์ยังคงสั่งยาให้จนเกิดอาการแพ้ แบบนี้น่าสู้คดี และน่าจะชนะครับ เคสนี้ไม่มีประวัติมาก่อนว่าแพ้ ศาลยกฟ้องก็สมควรแล้วครับ ไม่เกี่ยวว่ามีเงินหรือไม่หรอกครับ ต่อให้ขายไตเอาเงินมาฟ้องใหม่ก็แพ้อยู่ดี การที่ ผอ.รพ. เสนอเงินให้สามแสน เป็นเพราะต้องการช่วยเยียวยา เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรม และไม่อยากมีคดีครับ ถ้าเป็นตามข้างบนนี้ นายสมชายว่าหมอห่วยแตกครับ... หากอ้างว่ามาตรฐานวิชาชีพเป็นอย่างนี้ แล้วคนไข้ซวย นั่นก็ยิ่งแล้วไปใหญ่ครับ แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วย ยิ่งแย่เข้าไปอีก... นายสมชายไม่เชื่อว่ามาตรฐานวิชาชีพจะห่วยแตกได้ถึงขนาดที่ปล่อยให้คนไข้เสี่ยงดวงกันเหมือนซื้อล๊อตเตอรี่... คือมันน่าจะมีวิธีการอะไรแก้โจทย์ตรงนี้ให้ออกว่าทำไงให้หมอรู้ว่าคนไข้จะแพ้ยาตัวไหน ก่อนที่จะสั่งจ่ายยา เช่นจะทดสอบก่อนในจำนวนน้อยๆก่อน หรือจะมีกรรมวิธีอย่างไรก็ว่ากันไปนี่ครับ... หากคนไข้ดวงซวยแพ้ยาแล้วไม่มีการตามแก้ไขให้ทันเวลา, นั่นก็ยิงห่วยซ้ำ ห่วยซ้อนห่วยจังหวะที่สามเข้าไปอีก... นายสมชายย้ำว่าไม่เชื่อครับ ว่ามาตรฐานวิชาชีพแพทย์จะไม่มีวิธีการแก้โจทย์ให้แตก ว่าทำยังไงให้รู้ว่าคนไข้แพ้ยาหรือไม่ ก่อนสั่งจ่ายยา, มันน่าจะต้องมีวิธีการสักอย่าง ถึงแม้ว่าไม่มีในประวัติคนไข้ก็ตาม... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 03:37:24 PM ปกติการให้ยา ต้องถามประวัติก่อน ว่าเคยแพ้ยาหรือไม่
จะมาบอกให้นะครับ ว่า " มาตรฐาน " วิชาชีพแพทย์เป็นอย่างไร ประวัติและการตรวจร่างกายสำคัญที่สุด หากไม่มีประวัติว่าแพ้ยา ก็ต้องมาดูว่ายานั้นๆ มีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาสูงหรือไม่ เช่นถ้ายาที่ใช้ มีโอกาสแพ้ ยกตัวอย่าง 1:10000 อย่างนี้ถือว่ามาก อาจต้องให้สารตั้งต้นที่ใกล้เคียง เพื่อทดสอบก่อนว่าแพ้หรือไม่ แล้วจะบอกให้ครับ ไม่มีใครบอกได้ว่า ต่อให้ทดสอบยานั้นๆ ในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน คนไข้อาจจะแพ้ทันทีถึงช็อคได้ (anaphylaxis ) ประเด็นคือถ้าแพ้ยาขึ้นมาแบบรุนแรง มีการเตรียมการรักษา มีอุปกรณ์และยาช่วยชีวิตต้องพร้อม ยาแก้ปวดโรคข้อที่ให้ ก็เป็นยาที่ใช้กันทั่วไป แพทย์ก็จ่ายยาตามประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก ข้อเท็จจริงก็ส่วนหนึ่ง อารมณ์ความรู้สึกก็ส่วนหนึ่ง แต่คนที่ไม่มีความรู้จริงทางการแพทย์ มาวิจารย์ว่ามาตรฐานห่วยแตก ผมถือว่าไม่มีมารยาทครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: prawin -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 23, 2011, 04:02:03 PM เรื่องแบบนี้ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอครับ, มี"คนดี"มากมาย ที่เป็นคนดีแต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม... ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เข้าใจว่าสาเหตุของเรื่องที่แพ้คดี อาจเกิดจากสู้คดีแบบอนาถา เพราะคดีแบบนี้จะได้ทนายที่ศาลหาให้ แล้วประเด็นคือเรื่องราวข้อเท็จจริงที่พิสูจน์กันในศาลนั้นอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกันกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงก็ได้ครับ... มีคดีอีกประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยยุติธรรมในหมู่คนจน ก็คือคดีเกี่ยวกับแรงงาน, ทั้งที่กระบวนการพิจารณาของศาลแรงงานนั้น ศาลสามารถสอบถามซักไซ้ไล่เรียงข้อมูลได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ทนายยกขึ้นมา อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ทนายก็ได้... แต่จากสถิติที่มีคนไปเก็บมา ใครไม่มีทนายมักแพ้ครับ, แล้วที่แสบที่สุดคือฝ่ายที่ไม่มีทนายคือฝ่ายคนจน ซึ่งได้แก่ฝ่ายลูกจ้างนั่นเอง... คนจนอยู่ในสังคมไทยด้วยความยากลำบากไปหมด ด้วยความที่คนจนส่วนใหญ่เป็นคนดี คนดีส่วนใหญ่จึงถูกเอาเปรียบสารพัด เอาเปรียบแล้วก็ไม่เคยเหลียวแล... ครั้งล่าสุดนายสมชายผิดหวังมากกับรัฐบาลที่แล้ว ที่ใช้ต้นทุนของสิ่งที่อยู่ที่สูงสุดของประเทศให้หมดไปโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในโครงสร้างของสังคมอย่างที่หวัง... หรือไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ในเว็บนี้เองก็ยังอุตส่าห์มีคนมาถามเรื่องปล่อยเงินกู้นอกระบบในรูปของสัญญาเช่าซื้อทองคำ... ที่แสบคือทำไก๋บอกว่าเพื่อช่วยคนจน... ฮา... ผมว่าคงมีคนผิดหวังเช่นพี่สมชายเยอะเหมือนกันนะครับ ปล.อยากรู้จริงครั้งที่ผ่านมาพี่สมชายกาช่องไหน ::002:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 05:03:59 PM ปกติการให้ยา ต้องถามประวัติก่อน ว่าเคยแพ้ยาหรือไม่ จะมาบอกให้นะครับ ว่า " มาตรฐาน " วิชาชีพแพทย์เป็นอย่างไร ประวัติและการตรวจร่างกายสำคัญที่สุด หากไม่มีประวัติว่าแพ้ยา ก็ต้องมาดูว่ายานั้นๆ มีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาสูงหรือไม่ เช่นถ้ายาที่ใช้ มีโอกาสแพ้ ยกตัวอย่าง 1:10000 อย่างนี้ถือว่ามาก อาจต้องให้สารตั้งต้นที่ใกล้เคียง เพื่อทดสอบก่อนว่าแพ้หรือไม่ แล้วจะบอกให้ครับ ไม่มีใครบอกได้ว่า ต่อให้ทดสอบยานั้นๆ ในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน คนไข้อาจจะแพ้ทันทีถึงช็อคได้ (anaphylaxis ) ประเด็นคือถ้าแพ้ยาขึ้นมาแบบรุนแรง มีการเตรียมการรักษา มีอุปกรณ์และยาช่วยชีวิตต้องพร้อม ยาแก้ปวดโรคข้อที่ให้ ก็เป็นยาที่ใช้กันทั่วไป แพทย์ก็จ่ายยาตามประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก ข้อเท็จจริงก็ส่วนหนึ่ง อารมณ์ความรู้สึกก็ส่วนหนึ่ง แต่คนที่ไม่มีความรู้จริงทางการแพทย์ มาวิจารย์ว่ามาตรฐานห่วยแตก ผมถือว่าไม่มีมารยาทครับ เป็นหมอใช่ไหมครับ... ถ้าเป็นหมอแล้วอ่านภาษาไทยไม่กระจ่าง จากนั้นบอกว่าผู้อื่นไม่มีมรรยาท ถีอว่าเป็นหมอห่วยแตก และเป็นหมอปากเสียครับ... ลองกลับไปอ่านใหม่ให้ดี อ่านช้าๆ... ในนั้นบอกว่าหากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... ตามที่บอกมานั้นแสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพเขาต้องมีกรรมวิธีการตีโจทย์นี้ให้แตก แล้วหากยังอุตส่าห์หลุดรอดออกไปเกิดแพ้ยาขึ้นมาได้ ก็ต้องตามแก้ไขไม่ให้เกิดเรื่องเสี่ยงตาย เสี่ยงตาบอด(ตามท้องเรื่องในกระทู้)... อย่างนี้คือสิ่งที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่ใช่ตามท้องเรื่องในกระทู้... หากเป็นหมอแล้วปากเสียไม่มีวิจาณาญาณ ที่ว่า"จะบอกให้"น่ะ... ไม่ต้องมาทำปากเสียทำเป็นทวงบุญคุณหรอกครับ ไม่มีใครสนใจหรอกว่าจะทำอย่างไร เอาเป็นว่าไปหาหมอเพราะป่วยไข้ ก็อยากให้หมอรักษาให้หาย... แต่ถ้าเจอหมอห่วยๆ บอกว่ามีโอกาสแพ้ยา(อันนี้ยังยอมรับ - แต่หมอแก้โจทย์ยังไง) แล้วถ้าแพ้ยาก็ถือว่าเป็นความซวยของคนไข้(อันนี้ยอมรับไม่ได้)... งั้นหมอห่วยๆก็บอกว่า เอ๊า!เอาตังค์ไปสามแสนบาทแล้วจบๆกันดีกว่า แบบนี้หมอห่วยแตก แถมปากเสียอีกต่างหากครับ... หมอในประเทศไทยส่วนใหญ่เขาไม่เป็นแบบนี้หรอก หมอแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ห่วยแตก... หมอดีๆ ที่มีคนนับหน้าถือตาก็มีแยะ ส่วนหมอห่วยแตกเห็นคนไข้เดินเข้าห้องมายกมือไหว้ ก็สำคัญผิดคิดว่าตัวเองเลิศเลอ, ที่คนไข้เขายกมือไหว้ ก็เพราะอาชีพนี้"ส่วนใหญ่"ทำงานไปได้บุญกุศลไป เพราะช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก... แต่คนไข้ไม่รู้หรอกว่าที่ไหว้ไปน่ะ เป็นหมอ"ส่วนน้อย"แค่บางคน... ก็ไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นหมอที่ไหน แต่ถ้ารู้ก็จะบอกต่อว่าหมอคนนี้มีทัศนคติว่า คนไข้ที่เดินไปให้รักษา หมอก็เห็นคนไข้เหมือนเล่นรัสเซี่ยนรูเล็ต, หากซวยแพ้ยาก็ป๊อก!!! เอ๊า เอาไปสามแสน(เพื่อมนุษยธรรม - ตามที่อ้าง)... สามแสนบาทนี่เงินรายได้คนส่วนใหญ่ถือว่ามาก เพราะรถเก๋งคันละ 6 แสน, แต่คนที่รู้จะบอกว่าเงินแค่นี้มันก็แค่รายได้เดือนเดียวของหมอคนนั้นฯ... แล้วจากนั้นคนไข้ก็จะอุทานว่า"โธ่ ทั้งชีวิตฉันก็แค่เงินเดือน เพียงเดือนเดียวเอ๊งงง"... เฮ้อ... หมอส่วนใหญ่เขาไม่เป็นอย่างท่านหรอก... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 06:32:05 PM เรื่องแบบนี้ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอครับ, มี"คนดี"มากมาย ที่เป็นคนดีแต่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม... ตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ เข้าใจว่าสาเหตุของเรื่องที่แพ้คดี อาจเกิดจากสู้คดีแบบอนาถา เพราะคดีแบบนี้จะได้ทนายที่ศาลหาให้ แล้วประเด็นคือเรื่องราวข้อเท็จจริงที่พิสูจน์กันในศาลนั้นอาจเหมือนหรือไม่เหมือนกันกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงก็ได้ครับ... มีคดีอีกประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยยุติธรรมในหมู่คนจน ก็คือคดีเกี่ยวกับแรงงาน, ทั้งที่กระบวนการพิจารณาของศาลแรงงานนั้น ศาลสามารถสอบถามซักไซ้ไล่เรียงข้อมูลได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ทนายยกขึ้นมา อีกทั้งยังไม่ต้องใช้ทนายก็ได้... แต่จากสถิติที่มีคนไปเก็บมา ใครไม่มีทนายมักแพ้ครับ, แล้วที่แสบที่สุดคือฝ่ายที่ไม่มีทนายคือฝ่ายคนจน ซึ่งได้แก่ฝ่ายลูกจ้างนั่นเอง... คนจนอยู่ในสังคมไทยด้วยความยากลำบากไปหมด ด้วยความที่คนจนส่วนใหญ่เป็นคนดี คนดีส่วนใหญ่จึงถูกเอาเปรียบสารพัด เอาเปรียบแล้วก็ไม่เคยเหลียวแล... ครั้งล่าสุดนายสมชายผิดหวังมากกับรัฐบาลที่แล้ว ที่ใช้ต้นทุนของสิ่งที่อยู่ที่สูงสุดของประเทศให้หมดไปโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในโครงสร้างของสังคมอย่างที่หวัง... หรือไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ในเว็บนี้เองก็ยังอุตส่าห์มีคนมาถามเรื่องปล่อยเงินกู้นอกระบบในรูปของสัญญาเช่าซื้อทองคำ... ที่แสบคือทำไก๋บอกว่าเพื่อช่วยคนจน... ฮา... ผมว่าคงมีคนผิดหวังเช่นพี่สมชายเยอะเหมือนกันนะครับ ปล.อยากรู้จริงครั้งที่ผ่านมาพี่สมชายกาช่องไหน ::002:: กาพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยนั่นแหละครับ... แฮ่ๆ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 06:51:27 PM ก็การที่คนไม่มีความรู้ ไม่รู้จริง มาวิจารย์ไปเรื่อยเปื่อยนี่ล่ะครับ เรียกว่าปากเสีย
มาตรฐานวิชาชีพในการตรวจรักษาผู้ป่วย เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และผลเสียจากการใช้ยา ที่ดีที่สุด ก็คือ การซักประวัติและตรวจร่างกายครับ ซึ่งจะสามารถสกรีนผู้ที่คาดว่าจะพบอาการข้างเคียงไปได้เกือบ 100 % ส่วนน้อยที่แพ้ยาโดยไม่มีประวัติมาก่อน นั้นก็เกิดขึ้นได้ แต่ก็น้อยมากๆ และเมื่อเกิดขึ้น มาตรฐานทางวิชาชีพแพทย์ ก็ต้องเตรียมพร้อมและรักษาอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั้นได้อย่างเต็มที่ ตัวท่านนั่นล่ะครับ อ่านข้อความไม่แตก ไม่รู้ว่าอะไรคือมาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีความรู้เรื่องวีธีการตรวจรักษา ไม่มีแพทย์คนไหนหรอกนะครับ ที่จะบอกได้ 100% ว่าผู้ป่วยรายใดจะแพ้ยาบ้าง การกล่าวว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... คุณนั่นล่ะครับ ห่วยแตก ไม่มีความรู้ สักแต่เอาสนุกป่าก ปากเสียปากพล่อยจริงๆ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 07:19:49 PM ก็การที่คนไม่มีความรู้ ไม่รู้จริง มาวิจารย์ไปเรื่อยเปื่อยนี่ล่ะครับ เรียกว่าปากเสีย มาตรฐานวิชาชีพในการตรวจรักษาผู้ป่วย เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และผลเสียจากการใช้ยา ที่ดีที่สุด ก็คือ การซักประวัติและตรวจร่างกายครับ ซึ่งจะสามารถสกรีนผู้ที่คาดว่าจะพบอาการข้างเคียงไปได้เกือบ 100 % ส่วนน้อยที่แพ้ยาโดยไม่มีประวัติมาก่อน นั้นก็เกิดขึ้นได้ แต่ก็น้อยมากๆ และเมื่อเกิดขึ้น มาตรฐานทางวิชาชีพแพทย์ ก็ต้องเตรียมพร้อมและรักษาอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั้นได้อย่างเต็มที่ ตัวท่านนั่นล่ะครับ อ่านข้อความไม่แตก ไม่รู้ว่าอะไรคือมาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีความรู้เรื่องวีธีการตรวจรักษา ไม่มีแพทย์คนไหนหรอกนะครับ ที่จะบอกได้ 100% ว่าผู้ป่วยรายใดจะแพ้ยาบ้าง การกล่าวว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... คุณนั่นล่ะครับ ห่วยแตก ไม่มีความรู้ สักแต่เอาสนุกป่าก ปากเสียปากพล่อยจริงๆ หลงประเด็นน่ะครับ... กลับไปอ่านเอาใหม่ อ่านดังๆ ให้หูตัวเองฟังเสียงที่อ่าน ฟังแล้วหาความหมายด้วย หากฟังแล้วยังไม่รู้ความหมายให้ตบปากที่อ่านออกเสียง เพราะปากพล่อย แล้วก็ตบกบาลที่มีสมองบรรจุอยู่ด้วย เพราะสมองมันอีโก้สูงเกิน... มาตรฐานวิชาชีพน่ะเขาแก้โจทย์ได้ นั่นคือไม่ห่วยแตก... แต่มันมีหมอห่วยๆหนึ่งคนมาทำเป็นบอกว่าคนไข้แพ้ยาน่ะ เอาเงินฟาดหัวมันไปสามแสน แล้วจบเรื่องน่ะสมควรแล้ว... Post ข้างบนนั้นทั้งหมดหมดนั่นด่าหมอห่วยแตก ดูถูกคนไข้เห็นเป็นแค่เล่นกับดวง... ไม่เคยอยากให้คนอื่นพ้นทุกข์ จึงไม่ได้เสนอแนวทางเยียวยาคนไข้ ทัศนคติมันแย่ ปากมันก็พล่อย... ความรู้อะไรนั่นน่ะ ไม่มีใครเขาสนใจกันหรอก หลงประเด็นตามประสาคนสำคัญผิดตัวเอง... คนไข้เขาสนแต่ว่าฉันเจ็บไข้ ไปหาหมอก็อยากให้หาย หมอรักษาให้ไม่หายก็แสดงว่าหมอฝีมือไม่มี ไม่มีศิลปะตามชื่อใบประกอบโรคศิลปะฯ... จะวิจารณ์เรื่องนี้น่ะ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มีความรู้ลงในรายละเอียดหรือไม่ ประเด็นคือหากมาตรฐานมันเป็นอย่างนั้น คือไม่สนใจป้องกันไม่ให้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานห่วย... ซึ่งมาตรฐานมันไม่ได้ห่วย แต่หมอฝีมือกระจอกมันทำให้เกิดเรื่องใหญ่ด้วยความห่วยในฝีมือ... หมอปากพล่อยๆปากเสีย มีแค่คนเดียวนี่แหละ... ส่วนใหญ่คนอื่นเขาทำตัวให้ผู้คนเคารพกัน... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 07:46:38 PM ก็การที่คนไม่มีความรู้ ไม่รู้จริง มาวิจารย์ไปเรื่อยเปื่อยนี่ล่ะครับ เรียกว่าปากเสีย มาตรฐานวิชาชีพในการตรวจรักษาผู้ป่วย เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และผลเสียจากการใช้ยา ที่ดีที่สุด ก็คือ การซักประวัติและตรวจร่างกายครับ ซึ่งจะสามารถสกรีนผู้ที่คาดว่าจะพบอาการข้างเคียงไปได้เกือบ 100 % ส่วนน้อยที่แพ้ยาโดยไม่มีประวัติมาก่อน นั้นก็เกิดขึ้นได้ แต่ก็น้อยมากๆ และเมื่อเกิดขึ้น มาตรฐานทางวิชาชีพแพทย์ ก็ต้องเตรียมพร้อมและรักษาอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์นั้นได้อย่างเต็มที่ ตัวท่านนั่นล่ะครับ อ่านข้อความไม่แตก ไม่รู้ว่าอะไรคือมาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีความรู้เรื่องวีธีการตรวจรักษา ไม่มีแพทย์คนไหนหรอกนะครับ ที่จะบอกได้ 100% ว่าผู้ป่วยรายใดจะแพ้ยาบ้าง การกล่าวว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... คุณนั่นล่ะครับ ห่วยแตก ไม่มีความรู้ สักแต่เอาสนุกป่าก ปากเสียปากพล่อยจริงๆ หลงประเด็นน่ะครับ... กลับไปอ่านเอาใหม่ อ่านดังๆ ให้หูตัวเองฟังเสียงที่อ่าน ฟังแล้วหาความหมายด้วย หากฟังแล้วยังไม่รู้ความหมายให้ตบปากที่อ่านออกเสียง เพราะปากพล่อย แล้วก็ตบกบาลที่มีสมองบรรจุอยู่ด้วย เพราะสมองมันอีโก้สูงเกิน... มาตรฐานวิชาชีพน่ะเขาแก้โจทย์ได้ นั่นคือไม่ห่วยแตก... แต่มันมีหมอห่วยๆหนึ่งคนมาทำเป็นบอกว่าคนไข้แพ้ยาน่ะ เอาเงินฟาดหัวมันไปสามแสน แล้วจบเรื่องน่ะสมควรแล้ว... Post ข้างบนนั้นทั้งหมดหมดนั่นด่าหมอห่วยแตก ดูถูกคนไข้เห็นเป็นแค่เล่นกับดวง... ไม่เคยอยากให้คนอื่นพ้นทุกข์ จึงไม่ได้เสนอแนวทางเยียวยาคนไข้ ทัศนคติมันแย่ ปากมันก็พล่อย... ความรู้อะไรนั่นน่ะ ไม่มีใครเขาสนใจกันหรอก หลงประเด็นตามประสาคนสำคัญผิดตัวเอง... คนไข้เขาสนแต่ว่าฉันเจ็บไข้ ไปหาหมอก็อยากให้หาย หมอรักษาให้ไม่หายก็แสดงว่าหมอฝีมือไม่มี ไม่มีศิลปะตามชื่อใบประกอบโรคศิลปะฯ... จะวิจารณ์เรื่องนี้น่ะ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มีความรู้ลงในรายละเอียดหรือไม่ ประเด็นคือหากมาตรฐานมันเป็นอย่างนั้น คือไม่สนใจป้องกันไม่ให้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานห่วย... ซึ่งมาตรฐานมันไม่ได้ห่วย แต่หมอฝีมือกระจอกมันทำให้เกิดเรื่องใหญ่ด้วยความห่วยในฝีมือ... หมอปากพล่อยๆปากเสีย มีแค่คนเดียวนี่แหละ... ส่วนใหญ่คนอื่นเขาทำตัวให้ผู้คนเคารพกัน... :DD :DD :DDอย่าไปว่าเขามากพี่.......เดี๋ยวเขาไปฟ้อง แพทย์สภา เอาชื่อพี่ลง แบล็กลิส์ นะพี่ :P :P :P หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 08:09:55 PM ตัวเองหลงประเด็นไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม ไม่ใช่รั้นเถียงเอาๆ แถไปเรื่อย
คุณพูดเอง ว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... กลับไปอ่านที่อธิบายไว้นะครับ เข้าใจประเด็นไหมครับ ว่าไม่มีใครสามารถป้องกันไม่ให้คนไข้แพ้ยาได้ 100% ถ้าไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจะซึมเข้าสมองที่อีโก้สูงๆ ใครเห็นต่างไม่ได้ มีแพทย์คนไหนอยากให้คนไข้แพ้ยาบ้างครับ มีใครอยากให้คนไข้ไม่พ้นทุกข์ แพทย์ทุกคนอยากให้ผู้ป่วยหาย หรือสุขสบายที่สุดเท่าที่ทำได้ทั้งนั้น ยาที่ใช้ จ่ายกันปีหนึ่งๆ เป็นสิบๆ ล้านออร์เดอร์ มีแพ้ยารุนแรงโดยไม่มีประวัติมาก่อนน้อยมาก อันนี้ต่างจากเล่นกับดวง เพราะแพทย์ย่อมสั่งยาโดยอาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกาย และ อาศัยการตรวจอื่นๆ เพิ่ม การที่มีส่วนน้อยแพ้ยารุนแรง แล้วบอกว่า ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... ให้คนไข้วัดดวงเหมือนเล่นหวย ปากเสีย ปากพล่อย มาจากสมองห่วยๆ ของคนอีโก้สูง เก่งไปทุกเรื่อง ใครเห็นต่างเป็นไม่ได้ คุณ plo ครับ แพทย์ทุกท่าน ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นใคร ต้องรักษาเต็มที่ตามมาตรฐายนวิชาชีพอยู่แล้วครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 08:37:29 PM ตัวเองหลงประเด็นไปแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม ไม่ใช่รั้นเถียงเอาๆ แถไปเรื่อย คุณพูดเอง ว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... กลับไปอ่านที่อธิบายไว้นะครับ เข้าใจประเด็นไหมครับ ว่าไม่มีใครสามารถป้องกันไม่ให้คนไข้แพ้ยาได้ 100% ถ้าไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจะซึมเข้าสมองที่อีโก้สูงๆ ใครเห็นต่างไม่ได้ มีแพทย์คนไหนอยากให้คนไข้แพ้ยาบ้างครับ มีใครอยากให้คนไข้ไม่พ้นทุกข์ แพทย์ทุกคนอยากให้ผู้ป่วยหาย หรือสุขสบายที่สุดเท่าที่ทำได้ทั้งนั้น ยาที่ใช้ จ่ายกันปีหนึ่งๆ เป็นสิบๆ ล้านออร์เดอร์ มีแพ้ยารุนแรงโดยไม่มีประวัติมาก่อนน้อยมาก อันนี้ต่างจากเล่นกับดวง เพราะแพทย์ย่อมสั่งยาโดยอาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกาย และ อาศัยการตรวจอื่นๆ เพิ่ม การที่มีส่วนน้อยแพ้ยารุนแรง แล้วบอกว่า ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... ให้คนไข้วัดดวงเหมือนเล่นหวย ปากเสีย ปากพล่อย มาจากสมองห่วยๆ ของคนอีโก้สูง เก่งไปทุกเรื่อง ใครเห็นต่างเป็นไม่ได้ คุณ plo ครับ แพทย์ทุกท่าน ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นใคร ต้องรักษาเต็มที่ตามมาตรฐายนวิชาชีพอยู่แล้วครับ แพทย์ไม่ได้เต็มที่ทุกคนอย่างคุณบอกหรอกครับ..........อย่าพูดสำนวนดูดีแบบแพทย์สภา เลย ::009:: ::009::หรือคุณจะให้ผมเล่าที่ผมเจอมากับตัวมั้ยล่ะ ::009:: ::009:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ธันวาคม 23, 2011, 08:41:11 PM บอกเล่ามาสิครับ
ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 08:55:28 PM ลองกลับไปอ่านใหม่ให้ดี อ่านช้าๆ... ในนั้นบอกว่าหากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... ตามที่บอกมานั้นแสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพเขาต้องมีกรรมวิธีการตีโจทย์นี้ให้แตก แล้วหากยังอุตส่าห์หลุดรอดออกไปเกิดแพ้ยาขึ้นมาได้ ก็ต้องตามแก้ไขไม่ให้เกิดเรื่องเสี่ยงตาย เสี่ยงตาบอด(ตามท้องเรื่องในกระทู้)... อย่างนี้คือสิ่งที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่ใช่ตามท้องเรื่องในกระทู้... เลย Quote มาให้อ่านใหม่... แล้วสรุปให้ฟังซ้ำอีกว่า ด่าหมอห่วย ไม่ได้ด่ามาตรฐานวิชาชีพฯ เพราะมาตรฐานวิชาชีพเขามีวิธีตีโจทย์ให้แตก แล้วหากมันยังอุตส่าห์หลุดได้ ก็มีวิธีการ"กู้สถานการณ์" มันก็เหมือนนักบินมีร่มชูชีพ มีเก้าดีดตัว, เหมือนรถยนต์ต้องมียางอะไหล่ ฯลฯ... แต่มันมีหมอห่วยๆอยู่คนนึงดันปากเสีย ทัศนคติแย่ ไม่มีสามัญสำนึกช่วยเหลือผู้ป่วย... ดันออกความเห็นนอกจากไม่ได้ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยการบอกว่าที่เขาเอาเงินฟาดหัวไปสามแสนบาทนั่นน่ะ ดีแล้วสมควรแล้ว... หากนึกไม่ออกว่าจะออกความเห็นยังไงดี ก็หัดเงียบไว้บ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ไม่เป็นการทับถมคนเดือดร้อน... นี่ยังมาบอกว่าต่อให้ขายไตก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา, ก็เลยรู้เลยว่าที่อยู่ในกะโหลกนั้นคิดยังไงกับคนไข้... นี่ถ้าคนไข้รู้ว่าในหัวหมอคิดยังไง รับรองว่าแทนที่จะยกมือไหว้เวลาเดินผ่านประตู้เข้าห้องตรวจ คนไข้จะขอเปลี่ยนหมอ... เพราะไม่ไว้ใจ แล้วก็ไม่ชัวร์ว่ามีฝีมือหรือเปล่า ก็ลงบอกว่าแพ้ยาน่ะ เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ซวยเอง รับไปซะสามแสนบาทแล้วจบๆ... สรุปว่าด่าหมอห่วย มีทัศนะคติไม่ดีต่อคนไข้ ดูถูกคนจน เอาเงินฟาดหัว... อ่านซ้ำๆ ออกเสียงดังๆ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:15:28 PM เรื่องแพ้ยานี่พูดยากมันไม่รู้มาก่อน และพอแพ้แล้วมันก็จะเปื่อยทั้งตัว อาการแทรกซ้อนเยอะแยะแผลเน่าเปื่อย ไตวายทางเดินหายใจมีปัญหา แล้วแต่แพ้น้อยแพ้มากกว่าจะหายก็ใช้เวลานาน ความจริงเข้ารพ.เดิมน่าจะดีกว่า เรื่องรพ.นี่พูดยากคนไข้มากหมอน้อย หมอฐานะดีๆทั้งนั้นทำไมเขาต้องมาทำงานรพ.รัฐ ถ้าไม่มีจิตใจเห็นแก่เพื่อนมนุษย์จริงๆ เขาไปทำงานที่ไหนก็ได้ พูดอย่างเป็นธรรมก็คือ "คนไม่ใช่รถที่อะหลั่ยคุณภาพใกล้เคียงกัน" เปลี่ยนถ่ายแล้วหายเลยเอฟเฟคมันเยอะ เป็นผมถ้าได้สามแสนผมเอาครับ แต่น่าจะมีกองทุนเพื่อการช่วยเหลือคนไข้แบบนี้เลย กว่าจะเรียนจบแต่ละคนทั้งสิ้นเปลืองทั้งเหนื่อย หมอก็คนธรรมดานี่แหละ อ่าไม่ได้เข้าข้างหมอนะครับ แต่อย่างว่าภูมิต้านทานแต่ละคนไม่เหมือนกัน รักษาแล้วหายหมดทุกคน ไม่ต้องตายกันพอดี ต้องเข้าใจนิดนึง"แพ้ยารุนแรงนี่มันรักษานาน" ความจริงถ้ามีความรู้อยู่บ้างตอนเริ่มแพ้ยาจะดีกว่านี้ นี่คงกินยาต่อเนื่องจนทนไม่ไหวค่อยไปหาหมอ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:32:20 PM คุณพูดเอง ว่า หากมาตรฐานวิชาชีพฯ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้ว่าทำยังไงไม่ให้คนไข้แพ้ยา แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วยแตก... หากอ้างว่ามาตรฐานวิชาชีพเป็นอย่างนี้ แล้วคนไข้ซวย นั่นก็ยิ่งแล้วไปใหญ่ครับ แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วย ยิ่งแย่เข้าไปอีก... นายสมชายไม่เชื่อว่ามาตรฐานวิชาชีพจะห่วยแตกได้ถึงขนาดที่ปล่อยให้คนไข้เสี่ยงดวงกันเหมือนซื้อล๊อตเตอรี่ กลับไปอ่านที่อธิบายไว้นะครับ เข้าใจประเด็นไหมครับ ว่าไม่มีใครสามารถป้องกันไม่ให้คนไข้แพ้ยาได้ 100% ถ้าไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าจะซึมเข้าสมองที่อีโก้สูงๆ ใครเห็นต่างไม่ได้ ยังจะมาแถอีก ว่าไม่ได้ด่ามาตรฐานวิชาชีพ พออธิบายข้อเท็จจริง ก็มาเปิดประเด็นใหม่ ว่าการบอกว่าขายไตไปก็ไม่ช่วยอะไร ผมจะบอกให้ ว่าผมคิดอะไร 1. การขายอวัยวะนั้นผิดกฏหมาย 2. ศาลท่านพิจารณาแล้ว ว่าแพทย์ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการรักษาตามมาตรฐาน ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือประมาทเลินเล่อ หากฟ้องอีก ศาลท่านก็พิจารณาตามความจริงเหมือนเดิม ผมถึงบอกว่าขายไตเอาเงินไปฟ้องใหม่ก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าแพทย์ไม่ได้ทำตามมาตรฐานวิชาชีพ รวมถึงใช้ความระมัดระวังตามที่ควรมีแล้ว ศาลท่านจะยกฟ้องเหรอครับ ขอบคุณ คุณ lek ครับ ที่เข้าใจ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:43:23 PM ถ้าเป็นตามข้างบนนี้ นายสมชายว่าหมอห่วยแตกครับ... หากอ้างว่ามาตรฐานวิชาชีพเป็นอย่างนี้ แล้วคนไข้ซวย นั่นก็ยิ่งแล้วไปใหญ่ครับ แสดงว่ามาตรฐานวิชาชีพห่วย ยิ่งแย่เข้าไปอีก... นายสมชายไม่เชื่อว่ามาตรฐานวิชาชีพจะห่วยแตกได้ถึงขนาดที่ปล่อยให้คนไข้เสี่ยงดวงกันเหมือนซื้อล๊อตเตอรี่... คือมันน่าจะมีวิธีการอะไรแก้โจทย์ตรงนี้ให้ออกว่าทำไงให้หมอรู้ว่าคนไข้จะแพ้ยาตัวไหน ก่อนที่จะสั่งจ่ายยา เช่นจะทดสอบก่อนในจำนวนน้อยๆก่อน หรือจะมีกรรมวิธีอย่างไรก็ว่ากันไปนี่ครับ... หากคนไข้ดวงซวยแพ้ยาแล้วไม่มีการตามแก้ไขให้ทันเวลา, นั่นก็ยิงห่วยซ้ำ ห่วยซ้อนห่วยจังหวะที่สามเข้าไปอีก... นายสมชายย้ำว่าไม่เชื่อครับ ว่ามาตรฐานวิชาชีพแพทย์จะไม่มีวิธีการแก้โจทย์ให้แตก ว่าทำยังไงให้รู้ว่าคนไข้แพ้ยาหรือไม่ ก่อนสั่งจ่ายยา, มันน่าจะต้องมีวิธีการสักอย่าง ถึงแม้ว่าไม่มีในประวัติคนไข้ก็ตาม... ขอแสดงความเห็นเฉพาะเคสเรื่องแพ้ยาก็แล้วกันครับ ปกติคนไข้ ถ้าไม่มีประวัติแพ้ยา ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าให้ยาแล้วจะแพ้ยาหรือไม่ และเมื่อมีอาการแพ้ยาแล้วก็ต้องรักษาไปตามอาการ (supporttive treatment ) แต่ถ้าคนไข้มีประวัติชัดเจนว่าแพ้ยาตัวนี้ แล้วแพทย์ยังคงสั่งยาให้จนเกิดอาการแพ้ แบบนี้น่าสู้คดี และน่าจะชนะครับ เคสนี้ไม่มีประวัติมาก่อนว่าแพ้ ศาลยกฟ้องก็สมควรแล้วครับ ไม่เกี่ยวว่ามีเงินหรือไม่หรอกครับ ต่อให้ขายไตเอาเงินมาฟ้องใหม่ก็แพ้อยู่ดี การที่ ผอ.รพ. เสนอเงินให้สามแสน เป็นเพราะต้องการช่วยเยียวยา เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรม และไม่อยากมีคดีครับ Quote เอามาให้อ่านใหม่ อ่านตามตัวแดง(อ่านออกเสียง ทำปากขมุมขมิบไปด้วย)... อ่านแล้วก็ไปยืนมองที่หน้ากระจก ถามคนในกระจกเงาว่าโง่หรือฉลาดที่อ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ... Post นี่นอกจากย้ำว่าด่าหมอห่วยแตกแล้ว ยังด่าหมอโง่อีกด้วย... ทำไมถึงได้อ่านภาษาไทยไม่ออกหว่า หรือเป็นเพราะมีอะไรมาบังการรับรู้ แต่สรุปว่าโง่... เป็นหมอแล้วโง่นี่นับว่าหายาก(มีคนเดียว - คนอื่นไม่โง่) เพราะสอบเข้าเรียนก็ยาก เรียนก็ยาก แล้วทำไมถึงได้โง่หว่า... แปลกจริงหนอ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:46:53 PM ศาลยกฟ้องต้องไปอ่านในสำนวน ว่ายังไงยกฟ้อง... มันมีได้ตั้งแต่หาเหตุผลว่าผิดไม่ได้ หรือว่าเพราะไม่ผิด, หรือแม้แต่การนำสืบในศาลก็ต้องแล้วแต่ชั้นเชิงทนายฯ...
ยิ่งคุยยิ่งเห็นคนโง่ แต่ดันมาเป็นหมอที่คนไข้ฝากชีวิต... ยิ่งคุยยิ่งเบื่อคุย เพราะคุยแล้วมันก็มีประเด็นให้ด่า ด่าไม่รู้จักจบ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 09:54:53 PM ลูกคนกลางผม ขณะผ่าคลอด(ผมจะเข้าห้องผ่าตัดตลอดทั้ง 3 คน) น้ำคร่ำทะลักออกมามาก หมอกลัวห้องผ่าตัดเลอะเลยเอาตัวกั้นน้ำคร่ำ น้ำเลยไหลย้อนกลับไปในขณะที่ทารกกำลังออกจากครรภ์พอดี...
ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องแพทย์ แต่ลูกผมมาอยู่ห้อง nursery ไม่ถึง 10 นาทีตัวคล้ำ พยาบาลปิดม่าน สรุปลูกผมสำรักน้ำคร่ำ เกือบตาย... นิสัยผม... จะไม่โวยวายในเรื่อง "วิชาชีพ" ที่ผมไม่รู้... หมอขอโทษ แต่ผลักภาระค่าใช้จ่ายมาที่คนไข้... ผมพาลูกออกจาก ร.พ. โดนค่าคลอดไป 1 แสน... กลับมาบ้าน 2 วัน เป็นไข้ กลับไปหาหมอใหม่ 1 คืน คิดค่ารักษาผม 30,000 ผมต้องย้าย ร.พ. รักษาอีก 10 คืน โดนไปอีก 13,000.... ปัจจุบัน ผมต้องเสียค่ายาอาทิตย์ละ 4,000 ไม่รู้ต้องเยียวยาไปถึงไหนจากการกลัวพื้นห้องผ่าตัดเปื้อน.. ปล. ผมก็เกือบมีคำว่า "ค่าวิชาชีพ" เหมือนกัน แต่เป็นด้านการก่อสร้าง เลยไม่เคยนำไปบวกกับลูกค้า เพราะยังขาดวิทยานิพนธ์ และก็นานเกินกว่าจะไปไขว่คว้าแล้ว... แพทย์ 6 ปีจบ... สถาปัตย์ 5 ปีจบ... เนื้อหาการเรียนคงแน่นไม่แพ้กันครับ.... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 10:20:45 PM แล้วรู้มั๊ย พี่ชายผมตายจากการโดนรถ 2 แถวซึ่งนรกชนตาย ถ. เทพารักษ์ กะโหลกร้าว...
ปอเต็กตึ้งพาไป รพ. แต่ไม่มีหมอซักคนเลยเข้ามาดู(ตอนนั้นยังไม่ตาย...) กลัวไม่มีเงินจ่าย.... ไม่อยากจะด่า... ::013:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 10:43:45 PM ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...::014::
ผมขอออกความเห็นในฐานะที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงวิชาชีพนะครับ... ::014:: กรณีแพ้ยานั้นเป็นอย่างที่คุณหมอ m620 กล่าวจริงๆครับ... คือเราใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นบรรทัดฐานครับ... ขออนุญาตยกตัวอย่างนะครับ... ตัวผมเองใช้ยา(และถูกใช้) Sulfa มาตั้งแต่เล็กๆ กินมาไม่รู้กี่สิบโด้สแล้ว ทั้งจ่ายให้ตัวเอง ทั้งอาจารย์แพทย์จ่าย ทั้งแพทย์รุ่นพี่จ่าย... ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี ๒๕๔๓ อยู่ดีๆกินเข้าไปแล้วเกิดผื่นขึ้นมา ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ยา... สุดท้ายถึงลองกินซ้ำ ขึ้นผื่นอีกรอบ ทีนี้รู้แน่ว่าแพ้ยา Sulfa ... ถ้าหากมองกลับกัน ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนไข้ล่ะครับ... เคยกินยาตัวนี้มาก่อน ถามแล้วก็ไม่มีประวัติแพ้... คราวซวยผมจ่ายยาตัวเดิมไป เกิดแพ้ขึ้นมา...กร่อยสิครับ... :<< จะเห็นได้กระบวนการแพ้ยานั้นบางครั้งก็ไม่สามารถบอกกันได้ง่ายๆ... กรณีที่พี่สมชายบอกถึงการตรวจสอบการแพ้ยานั้น... ปัจจุบันเรามีทำกันครับ... แต่เฉพาะในกรณีคนไข้ในที่ต้องรับยาปฏิชีวนะแบบฉีด ชนิดที่พบว่าแพ้กันบ่อยๆ เราจะทดสอบก่อนโดยการฉีดในขนาดต่ำๆเข้าใต้ผิวหนัง... แล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างกาย ถ้าหากไม่แพ้ ก็ค่อยให้ยา... แต่...มันทำได้แค่ในคนไข้กลุ่มน้อยๆนะครับ ขืนเอามาทำกับคนไข้นอกทั้งหมดก็คงไม่ไหว... เอาง่ายๆรพ.ที่ผมทำงานมีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ ๕๐๐-๖๐๐ ราย... จะเอาเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ไหนมาตรวจการแพ้ยาได้หมดครับ... การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 10:54:01 PM แล้ว "คุณหมอ" รู้มั๊ย ว่าทำไมมุมห้องผ่าตัดเป็น 8 เหลี่ยม หรือลบมุม...
ทำไม รพ. ถึงมีทางแยกระหว่าง service กันทางสัญจร... ทำไมต้องแยก ward ระหว่างผู้ป่วยนอกกับผู้ป่วยใน... ทำไมห้องเก็บศพต้องอยู่ชั้นใต้ดิน... ผมพิมพ์มากกว่านี้ แต่พอดีพี่หมอเข้ามาพอดี.. ผมถอยก่อนครับ.... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:01:16 PM ขอบคุณคุณหมอrute - รักในหลวง ครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:18:09 PM รพ. แถวบ้านผมนะ หมอกำลังตรวจคนไข้อยู่แล้วมีคนถือกระเช้าปีใหม่มาให้
หมอก็ลุกขึ้นไปรับกระเช้าแล้วเดินไปคุยกันเกือบชั่วโมง ปล่อยให้คนไข้รอ หุหุ :DD อีกตัวอย่างหนึ่งก็ญาติห่าง ๆ ผมปวดท้องมาก ๆ ญาติพาไปหาหมอไปถึงหมอให้ยาแก้ปวด นอนโรงพยาบาลเฉย ๆ คนไข้ปวดท้องมาก ๆ นอนก็ไม่ได้ กินอะไรก็ไม่ได้ นอนปวดจนนำตาไหล คนเฝ้าไข้ไปบอกพยาบาลให้ตามหมอให้ พยาบาลบอกว่าเดี๋ยวหมอมา ๆ รอ ๒ ชม. แล้วยังไม่มา ? แล้วพยาบาลก็เอามอร์ฟีนมาฉีดให้ ไม่ทำอะไรนอกจากนี้ พอดีผมไปเยี่ยมเลยบอกให้พาออกไป รพ. เอกชน (รพ.สิริโรจน์ ภูเก็ต) พอจะพาออกพยาบาล+หมอพูดกวนตีนอีกนะ บอกว่าทาง รพ. ไม่ให้เอารถพยาบาลส่งตัวให้ คนไข้เป็นอะไรก็จะไม่รับผิดชอบ เลยโทรให้รถรพ.เอกชนรีบวิ่งมารับ ไปถึงโน้นเค้าพาเข้าตรวจรักษา ๒ วันหายกลับบ้านได้ ถ้าอยู่รพ.เดิมคงตายไปแล้วครับ ::010:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:27:34 PM ขอบคุณคุณหมอrute - รักในหลวง ครับ ::014:: ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.1 และไม่เคยเสียใจอะไรเท่านี้อีกเลย... พ่อบังคับให้ผมดูแลบ้าน ส่วนผมนอนไม่หลับ... ตอนเช้าพ่อกลับมาไม่บอกอะไรเลย ผมก็ไปเรียน... เย็นวันนั้นผมกลับมาทุกคนในซอยมองผมหมดแล้วบอกว่าพี่ผมตายแล้ว ผมรีบไป รพ. พี่ผมตายจริงๆ ตั้งศพในวัด และอีกวันพ่อก็บังคับให้ไป ร.ร. อีก... ผมนั่งร้องไห้ตลอดทาง ตั้งแต่นั่งรถโดยสารคันแรก จนถึงคันสุดท้ายที่พาไปถึงโรงเรียน... และร้องไห้ทั้งวันที่คิดถึงพี่... พ่อผมจากเมื่อก่อนทำงานต่างจังหวัดตลอด เลิกทำเลย.... ลูกไม่สมควรตายก่อนพ่อ... คืนนั้นถึงหมอรักษา พี่ผมก็คงเสียชีวิต... แต่น่าจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้มีโอกาสรอดบ้างครับ.... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:36:58 PM ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...::014:: ผมขอออกความเห็นในฐานะที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงวิชาชีพนะครับ... ::014:: กรณีแพ้ยานั้นเป็นอย่างที่คุณหมอ m620 กล่าวจริงๆครับ... คือเราใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นบรรทัดฐานครับ... ขออนุญาตยกตัวอย่างนะครับ... ตัวผมเองใช้ยา(และถูกใช้) Sulfa มาตั้งแต่เล็กๆ กินมาไม่รู้กี่สิบโด้สแล้ว ทั้งจ่ายให้ตัวเอง ทั้งอาจารย์แพทย์จ่าย ทั้งแพทย์รุ่นพี่จ่าย... ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี ๒๕๔๓ อยู่ดีๆกินเข้าไปแล้วเกิดผื่นขึ้นมา ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ยา... สุดท้ายถึงลองกินซ้ำ ขึ้นผื่นอีกรอบ ทีนี้รู้แน่ว่าแพ้ยา Sulfa ... ถ้าหากมองกลับกัน ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนไข้ล่ะครับ... เคยกินยาตัวนี้มาก่อน ถามแล้วก็ไม่มีประวัติแพ้... คราวซวยผมจ่ายยาตัวเดิมไป เกิดแพ้ขึ้นมา...กร่อยสิครับ... :<< จะเห็นได้กระบวนการแพ้ยานั้นบางครั้งก็ไม่สามารถบอกกันได้ง่ายๆ... กรณีที่พี่สมชายบอกถึงการตรวจสอบการแพ้ยานั้น... ปัจจุบันเรามีทำกันครับ... แต่เฉพาะในกรณีคนไข้ในที่ต้องรับยาปฏิชีวนะแบบฉีด ชนิดที่พบว่าแพ้กันบ่อยๆ เราจะทดสอบก่อนโดยการฉีดในขนาดต่ำๆเข้าใต้ผิวหนัง... แล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างกาย ถ้าหากไม่แพ้ ก็ค่อยให้ยา... แต่...มันทำได้แค่ในคนไข้กลุ่มน้อยๆนะครับ ขืนเอามาทำกับคนไข้นอกทั้งหมดก็คงไม่ไหว... เอาง่ายๆรพ.ที่ผมทำงานมีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ ๕๐๐-๖๐๐ ราย... จะเอาเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ไหนมาตรวจการแพ้ยาได้หมดครับ... การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: ขอบคุณครับพี่รุต ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:45:26 PM ทีนี้ก็เข้าถึงคำว่า... ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน...
จะแก้ไขยังไงกันดี... จริงๆก็เหนื่อยกันทุก "วิชาชีพ" นั่นแหล่ะครับ... แต่สุดท้ายอยู่ที่ความรับผิดชอบ.... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ ธันวาคม 23, 2011, 11:46:32 PM ขอบคุณคุณหมอrute - รักในหลวง ครับ ::014:: ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.1 และไม่เคยเสียใจอะไรเท่านี้อีกเลย... พ่อบังคับให้ผมดูแลบ้าน ส่วนผมนอนไม่หลับ... ตอนเช้าพ่อกลับมาไม่บอกอะไรเลย ผมก็ไปเรียน... เย็นวันนั้นผมกลับมาทุกคนในซอยมองผมหมดแล้วบอกว่าพี่ผมตายแล้ว ผมรีบไป รพ. พี่ผมตายจริงๆ ตั้งศพในวัด และอีกวันพ่อก็บังคับให้ไป ร.ร. อีก... ผมนั่งร้องไห้ตลอดทาง ตั้งแต่นั่งรถโดยสารคันแรก จนถึงคันสุดท้ายที่พาไปถึงโรงเรียน... และร้องไห้ทั้งวันที่คิดถึงพี่... พ่อผมจากเมื่อก่อนทำงานต่างจังหวัดตลอด เลิกทำเลย.... ลูกไม่สมควรตายก่อนพ่อ... คืนนั้นถึงหมอรักษา พี่ผมก็คงเสียชีวิต... แต่น่าจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้มีโอกาสรอดบ้างครับ.... ต่างประสบการณ์ต่างมุมมองครับคุณตั้ว ::014:: แพทย์เป็นวิชาชีพที่สังคมมีความคาดหวังสูง เหนื่อย และกดดัน ลูกผมกำลังเรียนแพทย์ ..... แต่ในสังคมวันนี้ผมกลับยินดีหากเขาจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนทางเดิน ;) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:00:28 AM ผมดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ทุกวัน ผมก็พยายามให้ลูกผมเป็นหมอให้ได้ซักคน...
เพียงแต่ผมสงสัยหน่อยครับ... ::014:: ป้ายที่แปะตามโรงพยาบาลเรื่องสิทธิการได้รับการรักษา มันใช้ได้กับทุกคนจริงๆหรือเปล่า... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:46:08 AM งงที่บอกว่าห้องเก็บศพต้องอยู่ชั้นใต้ดิน เพราะเคยไปที่ รพ จุฬา กับ รพ ศิริราช มันไม่ได้อยู่ใต้ดินอะครับ
ที่จุฬาเคยเดินเล่นไปออกตรงประตูหลัง ที่ตรงข้ามหอแพทย์ ประตูใกล้แทงค์น้ำใหญ่ๆ ก็เห็นห้องเก็บศพแล้วครับ ส่วนที่ศิริราชเคยไปตอนไปพิพิธภัณฑ์นิติเวช กับไปเอาใบสมัครค่ายรามาปณิธาน ก็ไม่ได้อยู่ใต้ดินเช่นกันครับ อีกที่นึงที่เคยเจอก็ อาคารกายวิทยาทาน ติดๆกับโรงเรียนผมเองครับ ก็เป็นอาคารแยกมา หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: sin666 #รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:58:16 AM ??? ??? โจ๊กโรคจิต....ตระเวนไปแต่ห้องเก็บศพ.... ::003:: ::003:: ::010::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 01:19:19 AM ผมดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ทุกวัน ผมก็พยายามให้ลูกผมเป็นหมอให้ได้ซักคน... เพียงแต่ผมสงสัยหน่อยครับ... ::014:: ป้ายที่แปะตามโรงพยาบาลเรื่องสิทธิการได้รับการรักษา มันใช้ได้กับทุกคนจริงๆหรือเปล่า... หมายถึงคำประกาศสิทธิของผู้ป่วยใช่ไหมครับ... คำประกาศสิทธิของผู้ป่วย เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพกับผู้ป่วย ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอันดี และเป็นที่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ จึงได้ร่วมกันออกประกาครับรองสิทธิของผู้ป่วยไว้ดังต่อไปนี้ 1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความแตกต่างด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม ลัทธิทางการเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บป่วย 3.ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น 4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ 5. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน 6. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตนและมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานบริการได้ 7. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเองจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 8. ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ 9. ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น 10. บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้ ผมติดเอาไว้ในห้องตรวจให้ผู้ป่วยเห็นชัดๆและชี้ให้อ่านเสมอ... ว่ากันตามจริง... ผมมองว่าสิทธิและหน้าที่มักมาคู่กันเสมอ... ส่วนตัวผมมองว่า"หน้าที่"สำคัญกว่าและควรมาก่อน"สิทธิ"... ถ้าหากคุณทำหน้าที่ของคุณสมบูรณ์ คุณก็ควรจะมีสิทธินั้นๆเต็มเปี่ยมครับ... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 08:12:16 AM เรื่องกระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนขึ้นศาลนี่ก็เป็นเรื่องที่แย่เอามากๆในสายตาของหลายคน... ใครที่เคยเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยจะทราบดีว่านั่นคือกระบวนการ"วัดใจ"กันเหมือนเล่นไพ่เก้าเก เพราะคนที่เข้ามาดำเนินการไกล่เกลี่ยจะไม่พูดชัดเจนว่าใครผิดใครถูก ดังนั้นฝ่ายที่เข้าไปไกล่เกลี่ย(หากฉลาด)ก็จะไม่ยอมหงายไพ่ของตนเองออกมา เพราะหากหงายไพ่ออกมาแล้วก็จะโดนเตรียมแก้ทางในห้องพิจารณาคดี... ดังนั้นการไกล่เกลี่ยในหลายเรื่องจึงเป็นแค่วัดใจ กับเรื่องหลอกดูไต๋ของอีกฝ่ายหนึ่ง... ซึ่งคนจนก็เสียเปรียบอีกวันยังค่ำ เพราะยื้อคดีไม่ได้(ชั้นต้น+อุทธรณ์ 2 ปี), หากฏีกาอีกก็ 6 ปีเป็นอย่างต่ำ(คนจนอดตายไปเลย)... ขอบคุณพี่สมชายสำหรับความรู้ครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 08:47:00 AM ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...::014:: ผมขอออกความเห็นในฐานะที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงวิชาชีพนะครับ... ::014:: กรณีแพ้ยานั้นเป็นอย่างที่คุณหมอ m620 กล่าวจริงๆครับ... คือเราใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นบรรทัดฐานครับ... ขออนุญาตยกตัวอย่างนะครับ... ตัวผมเองใช้ยา(และถูกใช้) Sulfa มาตั้งแต่เล็กๆ กินมาไม่รู้กี่สิบโด้สแล้ว ทั้งจ่ายให้ตัวเอง ทั้งอาจารย์แพทย์จ่าย ทั้งแพทย์รุ่นพี่จ่าย... ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี ๒๕๔๓ อยู่ดีๆกินเข้าไปแล้วเกิดผื่นขึ้นมา ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ยา... สุดท้ายถึงลองกินซ้ำ ขึ้นผื่นอีกรอบ ทีนี้รู้แน่ว่าแพ้ยา Sulfa ... ถ้าหากมองกลับกัน ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนไข้ล่ะครับ... เคยกินยาตัวนี้มาก่อน ถามแล้วก็ไม่มีประวัติแพ้... คราวซวยผมจ่ายยาตัวเดิมไป เกิดแพ้ขึ้นมา...กร่อยสิครับ... :<< จะเห็นได้กระบวนการแพ้ยานั้นบางครั้งก็ไม่สามารถบอกกันได้ง่ายๆ... กรณีที่พี่สมชายบอกถึงการตรวจสอบการแพ้ยานั้น... ปัจจุบันเรามีทำกันครับ... แต่เฉพาะในกรณีคนไข้ในที่ต้องรับยาปฏิชีวนะแบบฉีด ชนิดที่พบว่าแพ้กันบ่อยๆ เราจะทดสอบก่อนโดยการฉีดในขนาดต่ำๆเข้าใต้ผิวหนัง... แล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างกาย ถ้าหากไม่แพ้ ก็ค่อยให้ยา... แต่...มันทำได้แค่ในคนไข้กลุ่มน้อยๆนะครับ ขืนเอามาทำกับคนไข้นอกทั้งหมดก็คงไม่ไหว... เอาง่ายๆรพ.ที่ผมทำงานมีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ ๕๐๐-๖๐๐ ราย... จะเอาเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ไหนมาตรวจการแพ้ยาได้หมดครับ... การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...::014:: ผมขอออกความเห็นในฐานะที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงวิชาชีพนะครับ... ::014:: กรณีแพ้ยานั้นเป็นอย่างที่คุณหมอ m620 กล่าวจริงๆครับ... คือเราใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นบรรทัดฐานครับ... ขออนุญาตยกตัวอย่างนะครับ... ตัวผมเองใช้ยา(และถูกใช้) Sulfa มาตั้งแต่เล็กๆ กินมาไม่รู้กี่สิบโด้สแล้ว ทั้งจ่ายให้ตัวเอง ทั้งอาจารย์แพทย์จ่าย ทั้งแพทย์รุ่นพี่จ่าย... ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี ๒๕๔๓ อยู่ดีๆกินเข้าไปแล้วเกิดผื่นขึ้นมา ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ยา... สุดท้ายถึงลองกินซ้ำ ขึ้นผื่นอีกรอบ ทีนี้รู้แน่ว่าแพ้ยา Sulfa ... ถ้าหากมองกลับกัน ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนไข้ล่ะครับ... เคยกินยาตัวนี้มาก่อน ถามแล้วก็ไม่มีประวัติแพ้... คราวซวยผมจ่ายยาตัวเดิมไป เกิดแพ้ขึ้นมา...กร่อยสิครับ... :<< จะเห็นได้กระบวนการแพ้ยานั้นบางครั้งก็ไม่สามารถบอกกันได้ง่ายๆ... กรณีที่พี่สมชายบอกถึงการตรวจสอบการแพ้ยานั้น... ปัจจุบันเรามีทำกันครับ... แต่เฉพาะในกรณีคนไข้ในที่ต้องรับยาปฏิชีวนะแบบฉีด ชนิดที่พบว่าแพ้กันบ่อยๆ เราจะทดสอบก่อนโดยการฉีดในขนาดต่ำๆเข้าใต้ผิวหนัง... แล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างกาย ถ้าหากไม่แพ้ ก็ค่อยให้ยา... แต่...มันทำได้แค่ในคนไข้กลุ่มน้อยๆนะครับ ขืนเอามาทำกับคนไข้นอกทั้งหมดก็คงไม่ไหว... เอาง่ายๆรพ.ที่ผมทำงานมีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ ๕๐๐-๖๐๐ ราย... จะเอาเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ไหนมาตรวจการแพ้ยาได้หมดครับ... การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: ขอบคุณพี่หมอ สำหรับความรู้ครับ เคยโดนทดลองการแพ้ยาเหมือนกันครับ ตอนที่จะฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า หมอฉีดใต้ผิวหนังใต้ท้องแขนทั้ง ๒ ข้าง ปรากฎว่าแพ้แบบหนึ่งเลยต้องไปฉีดอีกแบบหนึ่งครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ ธันวาคม 24, 2011, 08:53:59 AM ::014:: อ่านการตอบของหมอแล้วเข้าใจง่ายดีครับ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:11:33 AM ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ...::014:: ผมขอออกความเห็นในฐานะที่ถูกกล่าวพาดพิงถึงวิชาชีพนะครับ... ::014:: กรณีแพ้ยานั้นเป็นอย่างที่คุณหมอ m620 กล่าวจริงๆครับ... คือเราใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นบรรทัดฐานครับ... ขออนุญาตยกตัวอย่างนะครับ... ตัวผมเองใช้ยา(และถูกใช้) Sulfa มาตั้งแต่เล็กๆ กินมาไม่รู้กี่สิบโด้สแล้ว ทั้งจ่ายให้ตัวเอง ทั้งอาจารย์แพทย์จ่าย ทั้งแพทย์รุ่นพี่จ่าย... ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี ๒๕๔๓ อยู่ดีๆกินเข้าไปแล้วเกิดผื่นขึ้นมา ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ยา... สุดท้ายถึงลองกินซ้ำ ขึ้นผื่นอีกรอบ ทีนี้รู้แน่ว่าแพ้ยา Sulfa ... ถ้าหากมองกลับกัน ไม่ใช่ตัวผม แต่เป็นคนไข้ล่ะครับ... เคยกินยาตัวนี้มาก่อน ถามแล้วก็ไม่มีประวัติแพ้... คราวซวยผมจ่ายยาตัวเดิมไป เกิดแพ้ขึ้นมา...กร่อยสิครับ... :<< จะเห็นได้กระบวนการแพ้ยานั้นบางครั้งก็ไม่สามารถบอกกันได้ง่ายๆ... กรณีที่พี่สมชายบอกถึงการตรวจสอบการแพ้ยานั้น... ปัจจุบันเรามีทำกันครับ... แต่เฉพาะในกรณีคนไข้ในที่ต้องรับยาปฏิชีวนะแบบฉีด ชนิดที่พบว่าแพ้กันบ่อยๆ เราจะทดสอบก่อนโดยการฉีดในขนาดต่ำๆเข้าใต้ผิวหนัง... แล้วรอดูปฏิกิริยาของร่างกาย ถ้าหากไม่แพ้ ก็ค่อยให้ยา... แต่...มันทำได้แค่ในคนไข้กลุ่มน้อยๆนะครับ ขืนเอามาทำกับคนไข้นอกทั้งหมดก็คงไม่ไหว... เอาง่ายๆรพ.ที่ผมทำงานมีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ ๕๐๐-๖๐๐ ราย... จะเอาเวลาและทรัพยากรบุคคลที่ไหนมาตรวจการแพ้ยาได้หมดครับ... การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: งั้นเรียนถาม อ. หมอรุตนะครับ(คำถามที่ 1)... ว่ากรณีแพ้ยาตามกระทู้นี้ ความบกพร่องเกิดจากตรงไหน ตามประเด็นนี้มีอยู่ 3 เรื่องคือ 1) มาตรฐานวิชาชีพ, 2) ฝีมือหมอ, และ 3) ดวงของคนไข้... ประเด็นคือมันต้องมีข้อบกพร่องแน่ๆ หากไม่บกพร่องแล้วเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิด แล้วหากเราไม่รู้ว่าบกพร่องตรงไหนอย่างไร เรื่องแบบนี้มันก็จะเกิดได้เรื่อยไม่รู้จักจบ... แค่อ้างว่าไม่มีเวลาดูแลให้ถ้วนทั่ว ที่เหลือก็ต้องลุ้นกันเอง... หากหมอทุกคนทำตามมาตรฐานวิชาชีพแต่ยังมีเรื่องแบบนี้ แล้วกรณีเกิดเรื่องแบบนี้ปุ๊บ ไม่ว่าหมอเก่งหรือหมอฝีมือไม่ดี คนไข้ก็จะมีผลกรรมเหมือนกันหมด... ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่ามาตรฐานมีปัญหาครับ เพราะทำตามมาตรฐานแล้วก็ยังได้ผลลัพธ์คนไข้เจียนตาย... อีกคำถามก็(คำถามที่ 2)คือหมอฝีมือดีกับหมอฝีมือไม่ดี ผลลัพธ์ตามกระทู้นี้จะเหมือนกันหรือไม่เล่าครับ... แล้วคำถามที่ 3 คือทำยังไงไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เล่าครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:19:15 AM งงจริง ๆ ครับ เป็นความผิดพลาดทางการแพทย์ชัด ๆ ศาลสั่งยกฟ้องได้อย่างไร
อาจเป็นเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ด้วยความขาดความรู้ ของผู้เสียหาย และขาด ความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นี่แหละครับ ช่องว่างทางสังคม........ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:21:54 AM ขอแทรกหน่อยครับ.....ถึงแม้หมอจะไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องรับผิดชอบให้สมเหตุสมผล กรณีนี้ผมว่า 3 แสนมันน้อยเกินไปนะครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:25:24 AM บอกเล่ามาสิครับ ขอบคุณครับ มีคนเล่าก่อนผมไปแล้ว เอาทางผมบ้างละกัน แฟนผมวันหนึ่งปวดท้องรุนแรงมากไปหาหมอที่ รพ.ประจำจังหวัด นั่งรอพบหมอหลายชั่วโมงกว่าจะถึงคิว หมอตรวจแบบลวกๆ...แล้วพันธงว่าปวดท้องธรรมดา จ่ายยาแก้ปวดให้แล้วให้กลับบ้าน...แฟนผมรับยามากินก็ไม่หาย ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนข้างๆทนเห็นไม่ไหวเลยพาไป รพ.เอกชน ใกล้ๆบ้าน...........ตรวจอีกที.......ผลแฟนผมใส้ติ่งแตก......เกือบตายครับ...ถ้าหมอคนแรกตั้งใจทำหน้าที่ตรวจอย่างละเอียดเรื่องแบบนี้คงไม่เกิด และอีกหลายๆเรื่องแต่ขี้เกียจเล่าแล้วครับ............รพ.ประจำจังหวัดของผม คนที่ อ.เมือง ไม่เรียก รพ.นะครับ..........ที่นี่เรียกว่า ...โรงฆ่าสัตว์ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:26:04 AM การวิจารณ์ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องง่ายครับ... แต่การวิจารณ์ที่ดีนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเข้ามากระตุ้นครับ... ::014:: ปกติการให้ยา ต้องถามประวัติก่อน ว่าเคยแพ้ยาหรือไม่ จะมาบอกให้นะครับ ว่า " มาตรฐาน " วิชาชีพแพทย์เป็นอย่างไร ประวัติและการตรวจร่างกายสำคัญที่สุด หากไม่มีประวัติว่าแพ้ยา ก็ต้องมาดูว่ายานั้นๆ มีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาสูงหรือไม่ เช่นถ้ายาที่ใช้ มีโอกาสแพ้ ยกตัวอย่าง 1:10000 อย่างนี้ถือว่ามาก อาจต้องให้สารตั้งต้นที่ใกล้เคียง เพื่อทดสอบก่อนว่าแพ้หรือไม่ แล้วจะบอกให้ครับ ไม่มีใครบอกได้ว่า ต่อให้ทดสอบยานั้นๆ ในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน คนไข้อาจจะแพ้ทันทีถึงช็อคได้ (anaphylaxis ) ประเด็นคือถ้าแพ้ยาขึ้นมาแบบรุนแรง มีการเตรียมการรักษา มีอุปกรณ์และยาช่วยชีวิตต้องพร้อม ยาแก้ปวดโรคข้อที่ให้ ก็เป็นยาที่ใช้กันทั่วไป แพทย์ก็จ่ายยาตามประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก ข้อเท็จจริงก็ส่วนหนึ่ง อารมณ์ความรู้สึกก็ส่วนหนึ่ง แต่คนที่ไม่มีความรู้จริงทางการแพทย์ มาวิจารย์ว่ามาตรฐานห่วยแตก ผมถือว่าไม่มีมารยาทครับ อ.รุต ลองอ่านตรงตัวแดงนะครับ... แล้วย้อนกลับไปดู Post ก่อนหน้านั้น บอกว่าหมอที่รักษาคนไข้รายนี้ห่วยแตก เพราะมีสมมติฐานโดยสรุปว่ามาตรฐานเหมือนกันนั่นแหละ แต่หมอฝีมือดีจะไม่เลวร้าย เพียงแต่งานนี้อ้างมาตรฐานมาบังหน้า ซึ่งไม่เชื่อว่ามาตรฐานจะเป็นเช่นนั้น... ส่วนหมอคนที่โต้ตอบเข้ามาตามตัวแดง ก็เริ่มด้วยอารมณ์อคติก่อน ไม่ดูว่ากำลังพูดกันเรื่องไหน มาบอกว่าเสียมรรยาทโดยอ้างว่าไม่มีความรู้จริงทางการแพทย์... เรื่อง"ความรู้จริง"ทางการแพทย์นั้นน่ะ ไม่ใช่ประเด็นหรอก เพราะไม่สนใจว่าหมอจะทำยังไงก็ได้ สนใจแต่ผลลัพธ์ว่าจะต้องไม่แย่(โดยเฉพาะคำว่า"จะบอกให้"ใน Post หลังจากนี้ นี่ยิ่งแย่ใหญ่)... ทำนองเดียวกับจะซ่อมรถยนต์ ไม่ต้องสนใจเรื่องเทคทิคเชิงช่างให้มากมายจนลงไปเถียงในรายละเอียดกับช่างซ่อมรถหรอก... ถามง่ายๆว่า ซ่อมได้หรือไม่ หากซ่อมไม่ได้ก็จะเปลี่ยนช่างคนอื่นครับ... นี่ว่ากันตามเหตุผลล้วนๆ... แล้วที่เจอบ่อยคือพวกหมอด้วยกันมักออกมาปกป้องพวกเดียวกันเอง, ซึ่งหมอรุตไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:43:12 AM ทีช่างซ่อมรถซ่อมไม่ดีทำรถลูกค้าเสียหาย........ลูกค้าฟ้องช่างซ่อมได้....ก็จ่ายเงินค่าซ่อมไปนี่ครับ
แล้วหมอรักษาพลาด(ซ่อมคน)........................ทำไมลูกค้า จะฟ้องหมอไม่ได้ละครับ..........หมอก็ไม่ได้รักษาฟรีซะหน่อย ::013:: ::013:: ::013:: ::013:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ ธันวาคม 24, 2011, 10:32:46 AM ผมอยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้างครับ หน้าที่ๆต้องรักษาคนไข้ในแต่ละวันผมเห็นแล้วยังสงสารหมออยู่ดี คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ค่าตอบแทนที่หมอได้รับจากการรักษา กับสิ่งที่เกิดขึ้นผมเชื่อว่า หมอทุกคนก็อยากให้ คนไข้หายป่วยเป็นปกติแหละครับ อยากให้ได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสม ก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกฝ่ายลงเอยด้วยดีครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:23:24 AM ยารักษาโรคเก้าต์บางตัวคนที่แพ้ยาจะแสดงอาการช้าครับบางคนกินไปแล้วเป็นเดือนถึงแสดงอาการถ้าออกอาการก็หนักแบบสตีเว่นจอห์นสันเลย
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:27:02 AM อันนี้ไม่เกี่ยว ... แต่อยากนำเสนอ
โรงพยาบาลของรัฐ หลายๆแห่ง มีสมญา ที่ชาวบ้านพร้อมใจกันตั้งให้โดยมิได้นัดหมายว่า "โรงฆ่าสัตว์" โรงพยาบาล "ประจำจังหวัด" (จังหวัดใหญ่ด้วยนะ) มีคนไข้นอนกันตามทางเดินทุกชั้น ทุกตึก ขณะเดียวกัน ถ้าออกมาขับรถวนไปในเมือง คุณจะได้เห็น "คลีนิค" หมอนั้น หมอนี้ เต็มไปหมดทั้งเมือง โรงพยาบาลของรัฐ (ประจำจังหวัดนะเนี่ย) ถ้าจะเจอหมอ ต้องนัด บางครั้งรอเป็นสัปดาห์ แต่ถ้าไปโรงพยาบาลเอกชน หรือ คลีนิค จะได้พบทันที ตอนนี้กำลังจะมีลูก พาเมียไปฝากท้องที่คลีนิคหมอ (ก็หมอสูติฯ ประจำโรงพยาบาลอำเภอนั่นแหล่ะ) ซื้อความสะดวก ให้ลูก-เมีย จะได้ไม่ต้องไปนั่งเข้าคิวที่โรงพยาบาล เจอหมอแต่ละครั้งก็ 700 - 800 บาท อัลตร้าซาวด์ ทุกรอบ (ค่า'ซาวด์ 600 บาท) หมอไม่แนะนำอะไร บอกว่าทุกอย่างปกติดี ยาอะไรก็ไม่ได้ให้ ได้รับ โฟลิก มากินช่วง 2 เดือนแรกแค่นั้น ตั้งแต่นั้นจนตอนนี้ท้อง 5 เดือนแล้วก็ไม่มียาบำรุงอะไรให้มาเลย (แฟนผมโชคดีไม่แพ้มาก กินอาหารได้เกือบปกติ) รักหมอครับ ฝากชีวิต(ลูก-เมีย) และความหวังทั้งหมดไว้ที่หมอครับ หวังว่าหมอจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:49:54 AM ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน.....หมอรักษาคนไข้...คนไข้แพ้ยา.....โดยไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของหมอ....หมอขอเยียวยา....คนไข้ไม่ยอมฟ้องหมอ....ศาลตัดสินยกฟ้อง...บอกไม่เป็นธรรม....
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:51:16 AM สังคมไทยยกย่องเชิดชู หมอ ไว้สูงครับ ....และย่อมคาดหวังไว้สูงเช่นกัน
แต่ก็เหมือนทุกวงการ ทุกอาชีพ ที่มันจะมีคนไม่ดี ปะปนอยู่ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพแพทย์ มันก็มีเรื่อยๆเหมือนทุกอาชีพ ที่หมอ ทำบกพร่องบ้าง(ตั้งใจ/ไม่ตั้งใจ).....วงการหมอก็ควรยอมรับในความผิดพลาดบ้าง...และชดใช้ไปตามสมควร แต่นี่จ้องแต่ จะ ปกป้องพวกเดียวกันเอง.....หมอทำอะไรถูกหมด...แตะต้องไม่ได้ ผลก็อย่างปัจจุบัน...ภาคประชาชนเขาเลยไม่พึ่งแพทย์สภา.......เขาก็ไปฟ้องกันเอง...และคดีคนไข้ฟ้องหมอ ฟ้อง รพ. มันก็เพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าหมอจะบอกว่าเหนื่อยรับคนไข้มาก ปริมาณงานมาก.......แล้วทำไม หมอมีเวลาไปเปิดคลีนิค / รับจ้าง รพ. เอกชน ได้ละครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:51:30 AM ขอความเป็นธรรมให้กับหมอบ้าง....ได้ไหม.....ขับรถชนคนตายจ่ายสองแสน....เจ้าพนักงาน....ขอไป4หมื่น...
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:19:49 PM ??? ??? โจ๊กโรคจิต....ตระเวนไปแต่ห้องเก็บศพ.... ::003:: ::003:: ::010:: มันผ่านเฉยๆง่ะพี่ T_T หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:36:29 PM จริงๆอยากบอกว่า ความคาดหวังในคนที่มีต่อหมอสูงไปไหมครับ หมอก็คือปุถุชน
เรื่องแพ้ยา การซักประวัติ ถ้าคนไข้ไม่บอกความจริง หรือเลินเล่อไม่ใส่ใจ ผลเสียก็ตกที่คนไข้เอง แต่หมอซวย หมอดีๆหลายๆคน ต้องเสียผู้เสียคนไปก็เพราะคนไข้บางประเภท บางคนถึงกับไปทำอาชีพอื่นเลย ทั้งๆที่ใบประกอบโรคศิลป์ก็ไม่ได้โดนยึด ตัวเองไม่ผิด แถมมีตราบาปติดตัวไปตลอด หมอฟันคนหนึ่ง จะถอนฟันให้คนไข้ ซักประวัติ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนมาตรฐาน คนไข้ไม่มีแพ้ยา ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ สรุปหลังจากนั้นคนไข้กลายเป็นผัก ญาติฟ้อง หมอมีตราบาปติดตัว ไปทำอาชีพอื่นเลย ทั้งๆที่ license ไม่โดนยึด ไม่ใช่ความผิดหมอ อยากถามว่าความผิดหมอหรือครับ ทั้งๆที่ทำตามขั้นตอนของเขา คนไข้แย่ๆเดี๋ยวนี้ก็มีเยอะครับ ประสบการณ์ตรงที่ทำร้านทำฟันกับแฟน ผมว่าเดี๋ยวนี้รับสื่ออะไรมา คิดดีๆก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งตามน้ำครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ ธันวาคม 24, 2011, 12:51:37 PM ในที่นี้มีท่านใดทราบถึงระบบการบริหารของโรงพยาบาลบ้างครับ :D :D :D
อย่างไรเสีย หมอ ก็อยู่ภายใต้ การบริหารของโรงพยาบาล นะครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 02:16:59 PM งั้นเรียนถาม อ. หมอรุตนะครับ(คำถามที่ 1)... ว่ากรณีแพ้ยาตามกระทู้นี้ ความบกพร่องเกิดจากตรงไหน ตามประเด็นนี้มีอยู่ 3 เรื่องคือ 1) มาตรฐานวิชาชีพ, 2) ฝีมือหมอ, และ 3) ดวงของคนไข้... ประเด็นคือมันต้องมีข้อบกพร่องแน่ๆ หากไม่บกพร่องแล้วเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิด แล้วหากเราไม่รู้ว่าบกพร่องตรงไหนอย่างไร เรื่องแบบนี้มันก็จะเกิดได้เรื่อยไม่รู้จักจบ... แค่อ้างว่าไม่มีเวลาดูแลให้ถ้วนทั่ว ที่เหลือก็ต้องลุ้นกันเอง... หากหมอทุกคนทำตามมาตรฐานวิชาชีพแต่ยังมีเรื่องแบบนี้ แล้วกรณีเกิดเรื่องแบบนี้ปุ๊บ ไม่ว่าหมอเก่งหรือหมอฝีมือไม่ดี คนไข้ก็จะมีผลกรรมเหมือนกันหมด... ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่ามาตรฐานมีปัญหาครับ เพราะทำตามมาตรฐานแล้วก็ยังได้ผลลัพธ์คนไข้เจียนตาย... อีกคำถามก็(คำถามที่ 2)คือหมอฝีมือดีกับหมอฝีมือไม่ดี ผลลัพธ์ตามกระทู้นี้จะเหมือนกันหรือไม่เล่าครับ... แล้วคำถามที่ 3 คือทำยังไงไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เล่าครับ... ขอตอบพี่สมชายเท่าที่ทราบข้อมูลจากข่าวครับ... ๑.ไม่มีประวัติแพ้ยามาก่อน แต่เกิดการแพ้ยาขึ้นมา เป็นคราวเคราะห์ของคนไข้ครับ... เหมือนตัวอย่าง"ตัวผม"ที่ยกมาไงครับ... ไม่มีประวัติแพ้ยา ยาที่จ่ายเป็นยากิน(ตามมาตรฐานไม่ต้องทดสอบการแพ้ยาก่อน) แล้วแพ้ยารุนแรงขึ้นมา... ๒.เหมือนกันครับ หมอท่านไหนก็ตามถ้าหากซักประวัติตรวจร่างกายแล้วไม่ได้ประวัติแพ้ยา... จ่ายยาตามมาตรฐานการรักษา ผลก็ไม่แตกต่างกันครับ... ๓.ตอบไม่ได้ครับ... ::014:: ทุกวันนี้ก่อนจ่ายยาผมก็ถามคนไข้เสมอว่าแพ้ยาหรือเปล่า... จ่ายยารักษาตามมาตรฐานการรักษาโรค(ตามแนวทางการรักษาโรคของแต่ละราชวิทยาลัยฯ)... ก็ยังคงเจอการแพ้ยามาเป็นระยะๆ ซึ่งผมก็จะให้การรักษาและอธิบายให้คนไข้ฟัง... จดชื่อยาใส่บัตรแพ้ยาให้พกติดตัวเอาไว้... ;D หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 02:19:49 PM ทีช่างซ่อมรถซ่อมไม่ดีทำรถลูกค้าเสียหาย........ลูกค้าฟ้องช่างซ่อมได้....ก็จ่ายเงินค่าซ่อมไปนี่ครับ แล้วหมอรักษาพลาด(ซ่อมคน)........................ทำไมลูกค้า จะฟ้องหมอไม่ได้ละครับ..........หมอก็ไม่ได้รักษาฟรีซะหน่อย ::013:: ::013:: ::013:: ::013:: ฟ้องได้ครับ... มีหมอถูกฟ้องทั้งในระดับแพทยสภา กระทรวงสธ. จังหวัด ศาลแพ่งและศาลอาญา ทุกปีครับ... ถ้าหากพิสูจน์แล้วเกิดจากความประมาทก็ถูกลงโทษไปหลายรายแล้วครับ... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 24, 2011, 04:11:02 PM ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2546 พ่อผม ไอหนัก ที่คอบวมออกมา ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด
แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคคอพอก ให้ยาและนัดมาตรวจใหม่อีกทีอาทิตย์ถัดไป พวกเรา (ลูก ๆ )เห็นค้านกับคำวินิจฉัยแพทย์ วันรุ่งขึ้นจึงพาพ่อไป รพ.มอ.ที่หาดใหญ่ ผล.... มะเร็งที่ปอดและทอลซิล!!!! พวกเราแทบไม่มีเวลาตั้งตัวหรือทันคิดอะไร ไม่ถึงสองเดือน พ่อก็เสีย วันที่ ๑๑ เมษายน ปีเดียวกัน.... ผมไม่ติดใจการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ เพราะไม่ว่าวันนั้น แพทย์ที่ รพ.มหาราชจะวินิจฉัยว่าอย่างไร ผมก็เสียพ่อไปอยู่ดี หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 24, 2011, 04:21:40 PM หมอนักซิ่งคนหนึ่ง ขับรถชอปเปอร์เข้าไปในอู่ของช่าง ให้ช่างซ่อมเครื่องยนต์ที่ส่งเสียงผิดปรกติให้
ช่างลงมือซ่อม หมอก็นั่งดู ช่างบอกว่า แหวนลูกสูบหัก ต้องถอดเครื่องออกมาซ่อม แต่ไม่เป็นไร ที่ร้านมีเครื่องมือและอะไหล่พร้อม รอรับได้เลย ช่างซ่อมเสร็จในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน หมอก็นั่งดูตลอด ช่างคิดค่าซ่อมไป สามพันบาท หลังจากรับเงินค่าซ่อมรถแล้ว ช่างก็ชวนหมอคุย "หมอครับ ที่ผมซ่อมไปนั้น เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของรถเลยครับ ค่าซ่อมสามพันก็เหมาะสมดี" "แล้วไงครับ...??" "เมื่อต้นปี หมอผ่าตัดหัวใจให้คุณแม่ของผม ทำไมค่าซ่อมหัวใจเหมือนกัน หมอคิดตั้งสามแสนล่ะครับ??" หมอถึงกับอึ้ง....คำตอบน่ะ มีอยู่แล้ว แต่จะตอบอย่างไรให้เข้าใจง่าย ๆ และหมัดเดียวน็อกนี่สิ สุดท้าย หมอก็ยิ้มพราย แล้วตอบว่า "ก็คุณลองซ่อมรถแบบที่คุณทำเมื่อกี๊ โดยอย่าให้เครื่องยนต์ดับสิ"...... :) ปรองดองดีกว่านะครับ ทุกท่าน ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: urtkop ที่ ธันวาคม 24, 2011, 04:50:42 PM ผมมองว่าทุกอาชีพมีคนหลายๆ จำพวกนะครับ ที่แย่ก็มี ที่ดีก็มาก มีหมอท่านหนึ่งรับราชการเป็นทหาร รักษาคุณตาผม จากโรคผู้สูงวัยจนอาการดีขึ้น ให้เวลากับญาติคนใข้เฉลี่ยคนละประมาณ 10 - 15นาทีในการตอบข้อซักถามทุกคำถามที่มีให้หายข้อสงสัย บ่อยครั้งที่ไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเพราะติดพันกับลูกค้า จนเลยเวลา ทำงานทุกวันจันทร์-ศุกร์ พักหลังไปทำงานเสริมที่โรงพยาบาลเอกชน (รักษาคุณแม่ผมที่เป็นโรคเบาหวาน) ก็ยังเคยชินกับการตรวจรักษาแบบเดิมคือให้เวลากับคนใข้เต็มที่ คนใข้ก็แยะเหมือนเดิม แถมบางคนตามมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนเพราะไม่ต้องรอนานก็มี มีประเภทถ้าหมอไม่มา ก็ไม่ยอมเจอหมอท่านอื่นด้วย ค่อยมาอาทิตย์หลังก็เยอะ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: prawin -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 24, 2011, 06:16:56 PM มันเป็นสัจธรรมที่ว่า " เงินอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่มีน้อยไม่ได้ " ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:08:25 PM งั้นเรียนถาม อ. หมอรุตนะครับ(คำถามที่ 1)... ว่ากรณีแพ้ยาตามกระทู้นี้ ความบกพร่องเกิดจากตรงไหน ตามประเด็นนี้มีอยู่ 3 เรื่องคือ 1) มาตรฐานวิชาชีพ, 2) ฝีมือหมอ, และ 3) ดวงของคนไข้... ประเด็นคือมันต้องมีข้อบกพร่องแน่ๆ หากไม่บกพร่องแล้วเรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิด แล้วหากเราไม่รู้ว่าบกพร่องตรงไหนอย่างไร เรื่องแบบนี้มันก็จะเกิดได้เรื่อยไม่รู้จักจบ... แค่อ้างว่าไม่มีเวลาดูแลให้ถ้วนทั่ว ที่เหลือก็ต้องลุ้นกันเอง... หากหมอทุกคนทำตามมาตรฐานวิชาชีพแต่ยังมีเรื่องแบบนี้ แล้วกรณีเกิดเรื่องแบบนี้ปุ๊บ ไม่ว่าหมอเก่งหรือหมอฝีมือไม่ดี คนไข้ก็จะมีผลกรรมเหมือนกันหมด... ถ้าเป็นเช่นนี้ แสดงว่ามาตรฐานมีปัญหาครับ เพราะทำตามมาตรฐานแล้วก็ยังได้ผลลัพธ์คนไข้เจียนตาย... อีกคำถามก็(คำถามที่ 2)คือหมอฝีมือดีกับหมอฝีมือไม่ดี ผลลัพธ์ตามกระทู้นี้จะเหมือนกันหรือไม่เล่าครับ... แล้วคำถามที่ 3 คือทำยังไงไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เล่าครับ... ขอตอบพี่สมชายเท่าที่ทราบข้อมูลจากข่าวครับ... ๑.ไม่มีประวัติแพ้ยามาก่อน แต่เกิดการแพ้ยาขึ้นมา เป็นคราวเคราะห์ของคนไข้ครับ... เหมือนตัวอย่าง"ตัวผม"ที่ยกมาไงครับ... ไม่มีประวัติแพ้ยา ยาที่จ่ายเป็นยากิน(ตามมาตรฐานไม่ต้องทดสอบการแพ้ยาก่อน) แล้วแพ้ยารุนแรงขึ้นมา... ๒.เหมือนกันครับ หมอท่านไหนก็ตามถ้าหากซักประวัติตรวจร่างกายแล้วไม่ได้ประวัติแพ้ยา... จ่ายยาตามมาตรฐานการรักษา ผลก็ไม่แตกต่างกันครับ... ๓.ตอบไม่ได้ครับ... ::014:: ทุกวันนี้ก่อนจ่ายยาผมก็ถามคนไข้เสมอว่าแพ้ยาหรือเปล่า... จ่ายยารักษาตามมาตรฐานการรักษาโรค(ตามแนวทางการรักษาโรคของแต่ละราชวิทยาลัยฯ)... ก็ยังคงเจอการแพ้ยามาเป็นระยะๆ ซึ่งผมก็จะให้การรักษาและอธิบายให้คนไข้ฟัง... จดชื่อยาใส่บัตรแพ้ยาให้พกติดตัวเอาไว้... ;D ขอบคุณที่ อ.หมอรุต ตอบคำถามนะครับ... ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าในภาพรวมยอมรับไม่ได้ครับ สำหรับเรื่องที่ว่าผลลัพธ์มีคนไข้เจียนตาย แต่ปรากฎว่าทั้งระบบไม่มีข้อบกพร่องที่ใดทั้งสิ้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างสมบูรณ์หมดทุกสิ้นทุกประการ... เพียงแต่คนไข้ถึงคราวเคราะห์เอง ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต้องรับผิดชอบอะไรนอกจากเงินเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น... ภาพรวมอีกเรื่องหนึ่งยอมรับไม่ได้ที่หมอบางคนบอกห้ามคนอื่นที่ไม่ใช่"ผู้รู้จริง"ทางการแพทย์วิจารณ์ผลลัพธ์ที่คนไข้ที่"ขาไป"เดินเข้าไปให้หมอรักษาอาการป่วย แต่"ขากลับ"ออกมาต้องนอนบนเตียงด้วยอาการหนักเจียนตาย... เพราะถ้าเรื่องแบบนี้สามารถเกิดกับคนทั่วไปใครก็ได้ ดังนั้นคนทั่วไปก็ต้องสามารถวิจารณ์ได้เนื่องจากตนเองอาจมีส่วนได้เสียฯ... ส่วนเรื่องความ"รู้จริง"ทางการแพทย์นั้นบุคคลทั่วไปย่อมไม่สนใจ เพราะสิ่งที่ต้องการคือผลลัพธ์ให้หายเจ็บป่วยไข้... "หมอ"จะทำเช่นไรก็ได้ให้คนป่วยหายเจ็บไข้ด้วยความรู้เฉพาะด้านเฉพาะทางของตนเองซึ่ง"หมอ"ต้องแก้โจทย์ให้ได้ หากแก้โจทย์ได้นอกจากจะเป็นบุณคุณกับคนไข้และได้ยังบุญกุศลแก่ตนเองอีกด้วย, แต่ถ้าแก้ไม่ได้ต้องยอมรับคำวิจารณ์ด้วย เพราะ"หมอ"ไม่ได้เป็นชนชั้นพิเศษเหนือคำวิจารณ์... คำตอบข้อ 1 ของ อ.หมอรุตฯ นายสมชายยอมรับไม่ได้ตามข้างบน, แต่เรื่องนี้คงหาคำตอบในกระทู้นี้ไม่ได้ ซึ่งนายสมชายก็จะปล่อยเรื่องนี้ไว้ หากไม่มีหมอบางคนมาชวนถกประเด็นอีกครับ... คำตอบข้อ 2 ตรงนี้ก็ต้องขอเรียนว่าไม่เชื่อว่าหมอฝีมือดีกับหมอฝีมือไม่ดีจะได้ผลลัพธ์เท่ากัน คือเจียนตายและตาบอด อย่างน้อยตัว อ.หมอรุต ก็ไม่ได้เจียนตายและไม่ได้ตาบอดครับ(เช่นเลือกยาอันตรายมากน้อย, แพ้แล้วรีบแก้ไขทัน, ฯลฯ)... คำตอบข้อ 3 ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะหากป้องกันไม่ได้ ก็แปลว่าฝากเอาไว้กับดวง... ต้องขออภัยหากอ่านแล้วรู้สึกไม่ดีครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 24, 2011, 09:18:07 PM ็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา
หัวข้อนี้ ยายอ่าน แต่ไม่กล้าแสดงความเห็น อ่ะ ฮา แต่ยายพอจะเดาได้ว่า หากพี่นายสมชาย(ฮา) แกเกิดต้องไป "แอ็ดมิท" ที่ไหน แกคงจะโดน "เพรดนิโซโลน" ฉีดใส่ เส้นเลือดใหญ่ เต็มโดส อ่ะ ฮา 55555555 ยายเลยไม่อยาก ทะเลาะกับ หมอ อ่ะ ฮา เรื่องของการ "รักษา" บนคำจำกัดความ "จรรยาบรรณแพทย์" อ่ะ ทุกคน เจอมาไม่เหมือนกันอ่ะ ฮา ในโรงพยาบาลเอกชน แถวถนนเพชรบุรี มันแตกต่างกับ แถวในชนบท อ่ะ ฮา คำจำกัดความข้างบน มันถูกใช้ต่างเวลา และโอกาส อ่ะ ฮา เรื่องนี้เป็นความจริง แล้วแต่ โชควาสนา ของคนเจ็บและป่วยอ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 10:30:35 PM ผมชักอยากจะเดินเมนประปาลอดใต้คานบ้านซะแล้ว....
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 24, 2011, 10:38:11 PM ็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา หัวข้อนี้ ยายอ่าน แต่ไม่กล้าแสดงความเห็น อ่ะ ฮา แต่ยายพอจะเดาได้ว่า หากพี่นายสมชาย(ฮา) แกเกิดต้องไป "แอ็ดมิท" ที่ไหน แกคงจะโดน "เพรดนิโซโลน" ฉีดใส่ เส้นเลือดใหญ่ เต็มโดส อ่ะ ฮา 55555555 ยายเลยไม่อยาก ทะเลาะกับ หมอ อ่ะ ฮา เรื่องของการ "รักษา" บนคำจำกัดความ "จรรยาบรรณแพทย์" อ่ะ ทุกคน เจอมาไม่เหมือนกันอ่ะ ฮา ในโรงพยาบาลเอกชน แถวถนนเพชรบุรี มันแตกต่างกับ แถวในชนบท อ่ะ ฮา คำจำกัดความข้างบน มันถูกใช้ต่างเวลา และโอกาส อ่ะ ฮา เรื่องนี้เป็นความจริง แล้วแต่ โชควาสนา ของคนเจ็บและป่วยอ่ะ ฮา มันคือยาอะไรอะครับยาย หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:06:10 PM งงที่บอกว่าห้องเก็บศพต้องอยู่ชั้นใต้ดิน เพราะเคยไปที่ รพ จุฬา กับ รพ ศิริราช มันไม่ได้อยู่ใต้ดินอะครับ ที่จุฬาเคยเดินเล่นไปออกตรงประตูหลัง ที่ตรงข้ามหอแพทย์ ประตูใกล้แทงค์น้ำใหญ่ๆ ก็เห็นห้องเก็บศพแล้วครับ ส่วนที่ศิริราชเคยไปตอนไปพิพิธภัณฑ์นิติเวช กับไปเอาใบสมัครค่ายรามาปณิธาน ก็ไม่ได้อยู่ใต้ดินเช่นกันครับ อีกที่นึงที่เคยเจอก็ อาคารกายวิทยาทาน ติดๆกับโรงเรียนผมเองครับ ก็เป็นอาคารแยกมา มันคือความสัมพันธ์ของทางสัญจร ซึ่งจำเป็นมากในการออกแบบอาคารสูง เพื่อเป็นการจัดจราจรในการเข้าถึงของผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้งานในอาคารจะใช้ได้เท่าที่จำเป็นครับ... เช่นแผนกฉุกเฉิน จะไม่รวมกับผู้ป่วยนอก คือ คนเป็นไข้หวัด ไม่จำเป็นต้องเห็นคนไส้ทะลัก แขนขาขาด ลากเตียงผ่านไปมา... ลิฟท์ยังต้องแยกระหว่างขนย้ายขยะ เวชภัณฑ์ใช้แล้ว ศพ ออกจากลิฟท์ที่คนป่วยทั่วไปใช้... ห้องเก็บศพก็เช่นกัน... ญาติๆมารับศพร้องไห้ระงม เข็นศพผ่านกุมารเวช หรือ ICU ก็เป็นเหตุที่ไม่เหมาะสม... ดังนั้นการออกแบบโรงพยาลที่เป็นอาคารสูง ณ. ปัจจุบันที่ต้องมีพื้นที่จอดรถใต้ดิน เพราะไม่อำนวยในขนาดของพื้นที่จะอยู่ชั้นใต้ดินครับ... แต่ถ้าเป็นอาคารขยายแนวราบ จะแยกส่วน หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ที่มันสมองของสถาปนิกครับ ว่าคิดเผื่อความต้องการของมนุษย์ได้รอบด้านหรือยัง... และยังมีอีกหลายมิติครับในการออกแบบอาคารในแต่ละชนิด... แต่ที่แน่ๆ ทางหนีไฟครับ ใช้ร่วมกันได้หมด ไม่ว่ายากดีมีจน ดีเลวสถุนย์ต่ำช้าแค่ไหน ก็ร่วมกันใช้ได้ครับ.... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:56:42 PM ผมดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ทุกวัน ผมก็พยายามให้ลูกผมเป็นหมอให้ได้ซักคน... เพียงแต่ผมสงสัยหน่อยครับ... ::014:: ป้ายที่แปะตามโรงพยาบาลเรื่องสิทธิการได้รับการรักษา มันใช้ได้กับทุกคนจริงๆหรือเปล่า... หมายถึงคำประกาศสิทธิของผู้ป่วยใช่ไหมครับ... คำประกาศสิทธิของผู้ป่วย เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพกับผู้ป่วย ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอันดี และเป็นที่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ จึงได้ร่วมกันออกประกาครับรองสิทธิของผู้ป่วยไว้ดังต่อไปนี้ 1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความแตกต่างด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม ลัทธิทางการเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บป่วย 3.ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น 4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ 5. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน 6. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตนและมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานบริการได้ 7. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเองจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 8. ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ 9. ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น 10. บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้ ผมติดเอาไว้ในห้องตรวจให้ผู้ป่วยเห็นชัดๆและชี้ให้อ่านเสมอ... ว่ากันตามจริง... ผมมองว่าสิทธิและหน้าที่มักมาคู่กันเสมอ... ส่วนตัวผมมองว่า"หน้าที่"สำคัญกว่าและควรมาก่อน"สิทธิ"... ถ้าหากคุณทำหน้าที่ของคุณสมบูรณ์ คุณก็ควรจะมีสิทธินั้นๆเต็มเปี่ยมครับ... ::014:: อันนี้ผมขอแลกเปลี่ยนกับพี่รุตด้วยความเคารพนะครับ... ::014:: ผมจะสะท้อนในใจลึกๆ ว่า(เมื่อก่อน)เวลาลูกๆผมไปโรงพยาบาล ผู้อำนวยการจะลงมาตรวจเองเลย ไม่ต้องนัด... ผมไม่อยากได้สิทธิตรงนั้น เพราะสายตาของพ่อแม่เด็กคนอื่นมัน "ตอก" ความรู้สึกในใจผม ไม่เคยภูมิใจเลย น่าละอายด้วยซ้ำ... กระดาษแผ่นเดียวกัน ก็ปลิวว่อนจนถึงระยอง ที่คุณหมอมีพักเที่ยงโดยพักพร้อมๆกัน ชาวบ้านทั้งเจ็บป่วยและหิวข้าว ต่างก็นั่งรอหมอโดยไม่กล้าไปไหน... กลัวหมอมาลงตรวจแล้วโดนลัดคิว... ไม่รู้นะครับ คำว่า "หน้าที่" ของคนไข้คืออะไร ในกรณีที่สิ้นสติ(ผมเคยส่งเด็กข้างบ้านโดนบีบคอไปหาหมอ)... แต่ "สิทธิ" น่าจะพอๆกันนะครับ.... ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2011, 11:58:45 PM ็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา หัวข้อนี้ ยายอ่าน แต่ไม่กล้าแสดงความเห็น อ่ะ ฮา แต่ยายพอจะเดาได้ว่า หากพี่นายสมชาย(ฮา) แกเกิดต้องไป "แอ็ดมิท" ที่ไหน แกคงจะโดน "เพรดนิโซโลน" ฉีดใส่ เส้นเลือดใหญ่ เต็มโดส อ่ะ ฮา 55555555 ยายเลยไม่อยาก ทะเลาะกับ หมอ อ่ะ ฮา เรื่องของการ "รักษา" บนคำจำกัดความ "จรรยาบรรณแพทย์" อ่ะ ทุกคน เจอมาไม่เหมือนกันอ่ะ ฮา ในโรงพยาบาลเอกชน แถวถนนเพชรบุรี มันแตกต่างกับ แถวในชนบท อ่ะ ฮา คำจำกัดความข้างบน มันถูกใช้ต่างเวลา และโอกาส อ่ะ ฮา เรื่องนี้เป็นความจริง แล้วแต่ โชควาสนา ของคนเจ็บและป่วยอ่ะ ฮา มันคือยาอะไรอะครับยาย Prednisolone คือยาในกลุ่ม corticosteroid ครับ... ปกติมักใช้ในเพื่อกดภูมิคุ้มกันครับ... :D หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 12:09:20 AM อันนี้ผมขอแลกเปลี่ยนกับพี่รุตด้วยความเคารพนะครับ... ::014:: ผมจะสะท้อนในใจลึกๆ ว่า(เมื่อก่อน)เวลาลูกๆผมไปโรงพยาบาล ผู้อำนวยการจะลงมาตรวจเองเลย ไม่ต้องนัด... ผมไม่อยากได้สิทธิตรงนั้น เพราะสายตาของพ่อแม่เด็กคนอื่นมัน "ตอก" ความรู้สึกในใจผม ไม่เคยภูมิใจเลย น่าละอายด้วยซ้ำ... กระดาษแผ่นเดียวกัน ก็ปลิวว่อนจนถึงระยอง ที่คุณหมอมีพักเที่ยงโดยพักพร้อมๆกัน ชาวบ้านทั้งเจ็บป่วยและหิวข้าว ต่างก็นั่งรอหมอโดยไม่กล้าไปไหน... กลัวหมอมาลงตรวจแล้วโดนลัดคิว... ไม่รู้นะครับ คำว่า "หน้าที่" ของคนไข้คืออะไร ในกรณีที่สิ้นสติ(ผมเคยส่งเด็กข้างบ้านโดนบีบคอไปหาหมอ)... แต่ "สิทธิ" น่าจะพอๆกันนะครับ.... ::014:: ::014:: ::014:: เรียนคุณตั้วครับ... ผมไม่ต้องการคำตอบหรือถกประเด็นที่ว่าหน้าที่ของคนไข้คืออะไรครับ... ::014:: แต่ผมบอกหน้าที่ของแพทย์ได้ครับ... หลักเกณฑ์สากลเกี่ยวกับจริยธรรมทางการแพทย์ หน้าที่ของแพทย์ในภาพรวม แพทย์ต้องรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพในระดับที่ดีที่สุด แพทย์ต้องประกอบวิชาชีพโดยไม่อยู่ใต้อิทธิพลด้านผลประโยชน์ หน้าที่ของแพทย์ต่อผู้ป่วย แพทย์ต้องระลึกอยู่เสมอว่า มีหน้าที่ดูแลรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ แพทย์ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เมื่อใดที่เกินขีดความสามารถของตน เมื่อนั้น แพทย์ต้องปรึกษาหรือส่งต่อผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด แพทย์ต้องรักษาความลับของผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด แพทย์ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างเต็มที่ ไม่ละเลย เว้นแต่จะแน่ใจว่าผู้อื่นเต็มใจรักษา และทำได้ดีเช่นกัน แต่คุณตั้วพอทราบสิทธิของแพทย์ไหมครับ... คำตอบคือ"ไม่มี"ครับ... ไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษร... แปลกไหมครับ... :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ ธันวาคม 25, 2011, 12:30:48 AM สิทธิ์ของแพทย์ ที่เห็นง่ายที่สุดคือสามารถเขียนนำหน้าชื่อตัวว่า"นายแพทย์"ได้ โดยไม่ต้องใช้นาย,นาง,นางสาวครับ
กล้าตอบเพราะยังไงก็จะไม่ไปโดนยิงแถวราชบุรี ::005:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ ธันวาคม 25, 2011, 07:15:26 AM ค่าของคนไม่เท่ากันเพราะฐานะ มีเส่นมีสายไม่ต้องรอ เจอหมอแน่นอน หมอคอยดูอาการตลอด เจ็บตรงไหน แพ้ยาหรือเปล่ารวมๆคือหมอเอาใจใส่อย่างดี
ผมเชื่อว่าคนปวยรายนี้ "ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่" เพราะถ้าแพ้ยาขนาดนี้น่าจะแก้ใขเปลี่ยนยา ก่อนอาการจะหนักขนาดนี้ เรื่องนี้หากเกิดขึ่นในเมกาเรื่องนี้รุนแรงมากเพราะคนเมกันคิดว่า "คนจนก็คนเหมือนกัน".......... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 25, 2011, 08:49:56 AM สิทธิ์ของแพทย์ ที่เห็นง่ายที่สุดคือสามารถเขียนนำหน้าชื่อตัวว่า"นายแพทย์"ได้ โดยไม่ต้องใช้นาย,นาง,นางสาวครับ กล้าตอบเพราะยังไงก็จะไม่ไปโดนยิงแถวราชบุรี ::005:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่มอม อ่ะ ฮา ถ้าเกิดไปยางแตกแถว "ราดรี" ยายเชื่อว่าไม่โดน "หัวกระสุน" แปลกปลอม อ่ะ ฮา เคสนี้ได้รับความ "เอ็นดู" จากพี่หมอ รุต สูงสุดอ่ะ สบาย สบาย ฮา 555555 โดนสามขนาน ไม่เจ็บ ไม่ปวด อ่ะ ฮา ขนานแรก ทำให้หมดสติ ใช้ Thiophenol sodium อ่ะ ฮา ขนานที่สอง หมอเขากลัวเกิดอาการกระตุก ทำให้ศพไม่สวย ก็เลยใช้ Pancuronium Bromide ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อ่ะ ฮา ขนานสุดท้าย ใช้ Potassium Chroride เวลาตื่นขึ้นมา ตัวเบา เดินตัวลอย เห็นม่านสีขาวๆ เดินไปตามทางของ พระเจ้า อ่ะ ฮา 555555555555555555555555555555555555 หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 09:11:29 AM อันนี้ผมขอแลกเปลี่ยนกับพี่รุตด้วยความเคารพนะครับ... ::014:: ผมจะสะท้อนในใจลึกๆ ว่า(เมื่อก่อน)เวลาลูกๆผมไปโรงพยาบาล ผู้อำนวยการจะลงมาตรวจเองเลย ไม่ต้องนัด... ผมไม่อยากได้สิทธิตรงนั้น เพราะสายตาของพ่อแม่เด็กคนอื่นมัน "ตอก" ความรู้สึกในใจผม ไม่เคยภูมิใจเลย น่าละอายด้วยซ้ำ... กระดาษแผ่นเดียวกัน ก็ปลิวว่อนจนถึงระยอง ที่คุณหมอมีพักเที่ยงโดยพักพร้อมๆกัน ชาวบ้านทั้งเจ็บป่วยและหิวข้าว ต่างก็นั่งรอหมอโดยไม่กล้าไปไหน... กลัวหมอมาลงตรวจแล้วโดนลัดคิว... ไม่รู้นะครับ คำว่า "หน้าที่" ของคนไข้คืออะไร ในกรณีที่สิ้นสติ(ผมเคยส่งเด็กข้างบ้านโดนบีบคอไปหาหมอ)... แต่ "สิทธิ" น่าจะพอๆกันนะครับ.... ::014:: ::014:: ::014:: เรียนคุณตั้วครับ... ผมไม่ต้องการคำตอบหรือถกประเด็นที่ว่าหน้าที่ของคนไข้คืออะไรครับ... ::014:: แต่ผมบอกหน้าที่ของแพทย์ได้ครับ... หลักเกณฑ์สากลเกี่ยวกับจริยธรรมทางการแพทย์ หน้าที่ของแพทย์ในภาพรวม แพทย์ต้องรักษามาตรฐานการประกอบวิชาชีพในระดับที่ดีที่สุด แพทย์ต้องประกอบวิชาชีพโดยไม่อยู่ใต้อิทธิพลด้านผลประโยชน์ หน้าที่ของแพทย์ต่อผู้ป่วย แพทย์ต้องระลึกอยู่เสมอว่า มีหน้าที่ดูแลรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ แพทย์ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เมื่อใดที่เกินขีดความสามารถของตน เมื่อนั้น แพทย์ต้องปรึกษาหรือส่งต่อผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด แพทย์ต้องรักษาความลับของผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด แพทย์ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างเต็มที่ ไม่ละเลย เว้นแต่จะแน่ใจว่าผู้อื่นเต็มใจรักษา และทำได้ดีเช่นกัน แต่คุณตั้วพอทราบสิทธิของแพทย์ไหมครับ... คำตอบคือ"ไม่มี"ครับ... ไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษร... แปลกไหมครับ... :~) ขอบคุณมากครับพี่หมอรุต... ::014:: ขอถามอีกข้อครับ เวลาพี่หมอออกตรวจคนไข้... พี่หมอเอา LCP ใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยไหมครับ... :D หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 25, 2011, 10:29:55 AM ขอบคุณมากครับพี่หมอรุต... ::014:: ขอถามอีกข้อครับ เวลาพี่หมอออกตรวจคนไข้... พี่หมอเอา LCP ใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยไหมครับ... :D Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ตั้ว ถามอะไร "เปิ่น" อย่างนั้นอ่ะ ฮา พี่หมอรุต แกจะพกไปทำมัยคร๊า เกะกะ อ่ะ ฮา อาชีพอย่างของพี่หมอรุต อ่ะ เขามี "จริยธรรม" สูงคร๊า เวลาทะเลาะ หรือเจอ คนไข้ "งอแง" แกไม่เอาปืนยิง หรอกคร๊า ฮา แกแกล้ง เดินไปเหยียบ สาย "อ๊อกซิเจน" แค่นี้ก็พอแล้วคร๊า ฮา หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ ธันวาคม 25, 2011, 11:01:38 AM มีอารมณ์ร่วม กับกระทู้นี้อีกแล้ว
ช่วงนี้ มีเหตุให้ต้องมีเรื่องเกี่ยวดองหนองยุ่งกับโรงพยาบาลบ่อยทำให้มีคำถามมากมายในใจ ทำไมหมอที่โรงพยาบาลมีน้อย ที่มีก็เห็นตรวจเป็นเวลา ยกเว้นหมอเวร แต่เวลาผ่านไปตามคลีนิค หมอจะเข้า เที่ยง เย็น วันหยุดเปิดเต็มวันเลย เพราะ ... งบประมาณสาธารณะสุขประเทศนี้ เทียบกับ การศึกษาและการทหารแล้ว ... เป็นยังไง ทำไมเราซื้อ GT 2000 ราคาหลายล้านได้ แต่โรงพยาบาลอำเภอ เราจัดหาเครื่องมือให้เหมาะสม พอเพียงไม่ได้ คนไข้ฟอกไตบางคน ต้องเดินทางครั้งละเป็นร้อยกิโลเมตร เพื่อไปโรงพยาบาลจังหวัด เพราะโรงพยาบาลอำเภอมีแต่ยาพาราฯ (มั้ง) โรงพยาบาลจังหวัด(ใหญ่) แต่มีห้องและเตียง ไม่พอให้บริการ คนไข้ต้องนอนกันตามทางเดิน ระเบียงตึก สภาพไม่ต่างกับประเทศยากจนในแอฟริกาที่เห็นจากข่าวต่างประเทศ ไม่มีใครคิดปรับปรุงหรือพัฒนาอะไรเลยหรือ มีอีกมากมาย ที่สงสัยและไม่เข้าใจ ในการบริหารจัดการประเทศนี้ คนระดับปฏิบัติงาน มักชอบให้เหตุผลว่า "ไม่มีงบฯ" แต่ทำไมคนระดับ "บริหาร" มักอยู่ดีมีสุข ... เช่น ท่านปลัดฯพันล้าน :<< เกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ครับ :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 11:07:44 AM ขอบคุณมากครับพี่หมอรุต... ::014:: ขอถามอีกข้อครับ เวลาพี่หมอออกตรวจคนไข้... พี่หมอเอา LCP ใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยไหมครับ... :D Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ตั้ว ถามอะไร "เปิ่น" อย่างนั้นอ่ะ ฮา พี่หมอรุต แกจะพกไปทำมัยคร๊า เกะกะ อ่ะ ฮา อาชีพอย่างของพี่หมอรุต อ่ะ เขามี "จริยธรรม" สูงคร๊า เวลาทะเลาะ หรือเจอ คนไข้ "งอแง" แกไม่เอาปืนยิง หรอกคร๊า ฮา แกแกล้ง เดินไปเหยียบ สาย "อ๊อกซิเจน" แค่นี้ก็พอแล้วคร๊า ฮา ป้าบราเป็นคนพูดนะ.. ผมเปล่า.. ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 11:32:34 AM งงจริง ๆ ครับ เป็นความผิดพลาดทางการแพทย์ชัด ๆ ศาลสั่งยกฟ้องได้อย่างไร ผิดพลาดทางการแพทย์ยังไงครับ อาจเป็นเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ด้วยความขาดความรู้ ของผู้เสียหาย และขาด ความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นี่แหละครับ ช่องว่างทางสังคม........ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: araki-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 12:41:20 PM ::014:: อ่านกระทู้นี้แล้วดีจังครับทำให้รู้ว่าผมยังเป็นคนธรรมดาอยู่
araki -ขอบคุณหมอรุตครับที่ยืนยันความจริงครับว่ายังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก ผมเคยหลังไหม้และคันทั้งตัวตอนตี 2 แพ้ยาฉีดแก้ไข้หวัดไหญ่ครับ ผมแก้ปัญหาด้วยการขอยาที่ทำให้ผมหลับได้ตอนตี 5 (ขอตั้ง 3 ครั้งพยาบาลถึงได้มาฉีดให้) มันทั้งคันทั้งทรมานด้วยความง่วง โชคดีตื่นมาอาการคันหายไป กลับบ้านได้ -ผมไม่โทษหมอที่ฉีดยาให้ผมเพราะผมตอบแกว่าไม่เคยแพ้ยา (หมอคลีนิคด้วยนะครับ) -ผมรู้ตัวว่าผมแพ้ยาเพราะคุณครูสอนไว้ตอนเรียนครับ(พอได้เรียนนิดหน่อย) เลยขับรถเข้าโรงบาลตอนตี 2 ผลคือทรมานมาก เพราะต้องรอดูอาการ และรักษาตามอาการได้อย่างเดียวอันนี้คุณหมอที่รักษาบอกผมครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 25, 2011, 01:01:25 PM ็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา หัวข้อนี้ ยายอ่าน แต่ไม่กล้าแสดงความเห็น อ่ะ ฮา แต่ยายพอจะเดาได้ว่า หากพี่นายสมชาย(ฮา) แกเกิดต้องไป "แอ็ดมิท" ที่ไหน แกคงจะโดน "เพรดนิโซโลน" ฉีดใส่ เส้นเลือดใหญ่ เต็มโดส อ่ะ ฮา 55555555 ยายเลยไม่อยาก ทะเลาะกับ หมอ อ่ะ ฮา เรื่องของการ "รักษา" บนคำจำกัดความ "จรรยาบรรณแพทย์" อ่ะ ทุกคน เจอมาไม่เหมือนกันอ่ะ ฮา ในโรงพยาบาลเอกชน แถวถนนเพชรบุรี มันแตกต่างกับ แถวในชนบท อ่ะ ฮา คำจำกัดความข้างบน มันถูกใช้ต่างเวลา และโอกาส อ่ะ ฮา เรื่องนี้เป็นความจริง แล้วแต่ โชควาสนา ของคนเจ็บและป่วยอ่ะ ฮา มันคือยาอะไรอะครับยาย Prednisolone คือยาในกลุ่ม corticosteroid ครับ... ปกติมักใช้ในเพื่อกดภูมิคุ้มกันครับ... :D ขอบคุณครับพี่หมอ จริงๆแล้วผมก็เกือบเป็นจะไปเรียนหมอแล้วนะครับ แต่พอดีไปค่ายรามาปณิธาณแล้วรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับตัวเอง + ตอนนั้นป๊อด กลัวผี เลยไม่เป็น ฮาๆๆ งงที่บอกว่าห้องเก็บศพต้องอยู่ชั้นใต้ดิน เพราะเคยไปที่ รพ จุฬา กับ รพ ศิริราช มันไม่ได้อยู่ใต้ดินอะครับ ที่จุฬาเคยเดินเล่นไปออกตรงประตูหลัง ที่ตรงข้ามหอแพทย์ ประตูใกล้แทงค์น้ำใหญ่ๆ ก็เห็นห้องเก็บศพแล้วครับ ส่วนที่ศิริราชเคยไปตอนไปพิพิธภัณฑ์นิติเวช กับไปเอาใบสมัครค่ายรามาปณิธาน ก็ไม่ได้อยู่ใต้ดินเช่นกันครับ อีกที่นึงที่เคยเจอก็ อาคารกายวิทยาทาน ติดๆกับโรงเรียนผมเองครับ ก็เป็นอาคารแยกมา มันคือความสัมพันธ์ของทางสัญจร ซึ่งจำเป็นมากในการออกแบบอาคารสูง เพื่อเป็นการจัดจราจรในการเข้าถึงของผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้งานในอาคารจะใช้ได้เท่าที่จำเป็นครับ... เช่นแผนกฉุกเฉิน จะไม่รวมกับผู้ป่วยนอก คือ คนเป็นไข้หวัด ไม่จำเป็นต้องเห็นคนไส้ทะลัก แขนขาขาด ลากเตียงผ่านไปมา... ลิฟท์ยังต้องแยกระหว่างขนย้ายขยะ เวชภัณฑ์ใช้แล้ว ศพ ออกจากลิฟท์ที่คนป่วยทั่วไปใช้... ห้องเก็บศพก็เช่นกัน... ญาติๆมารับศพร้องไห้ระงม เข็นศพผ่านกุมารเวช หรือ ICU ก็เป็นเหตุที่ไม่เหมาะสม... ดังนั้นการออกแบบโรงพยาลที่เป็นอาคารสูง ณ. ปัจจุบันที่ต้องมีพื้นที่จอดรถใต้ดิน เพราะไม่อำนวยในขนาดของพื้นที่จะอยู่ชั้นใต้ดินครับ... แต่ถ้าเป็นอาคารขยายแนวราบ จะแยกส่วน หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ที่มันสมองของสถาปนิกครับ ว่าคิดเผื่อความต้องการของมนุษย์ได้รอบด้านหรือยัง... และยังมีอีกหลายมิติครับในการออกแบบอาคารในแต่ละชนิด... แต่ที่แน่ๆ ทางหนีไฟครับ ใช้ร่วมกันได้หมด ไม่ว่ายากดีมีจน ดีเลวสถุนย์ต่ำช้าแค่ไหน ก็ร่วมกันใช้ได้ครับ.... ขอบคุณครับพี่ตั้ว หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 03:37:44 PM สิทธิ์ของแพทย์ ที่เห็นง่ายที่สุดคือสามารถเขียนนำหน้าชื่อตัวว่า"นายแพทย์"ได้ โดยไม่ต้องใช้นาย,นาง,นางสาวครับ กล้าตอบเพราะยังไงก็จะไม่ไปโดนยิงแถวราชบุรี ::005:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่มอม อ่ะ ฮา ถ้าเกิดไปยางแตกแถว "ราดรี" ยายเชื่อว่าไม่โดน "หัวกระสุน" แปลกปลอม อ่ะ ฮา เคสนี้ได้รับความ "เอ็นดู" จากพี่หมอ รุต สูงสุดอ่ะ สบาย สบาย ฮา 555555 โดนสามขนาน ไม่เจ็บ ไม่ปวด อ่ะ ฮา ขนานแรก ทำให้หมดสติ ใช้ Thiophenol sodium อ่ะ ฮา ขนานที่สอง หมอเขากลัวเกิดอาการกระตุก ทำให้ศพไม่สวย ก็เลยใช้ Pancuronium Bromide ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อ่ะ ฮา ขนานสุดท้าย ใช้ Potassium Chroride เวลาตื่นขึ้นมา ตัวเบา เดินตัวลอย เห็นม่านสีขาวๆ เดินไปตามทางของ พระเจ้า อ่ะ ฮา 555555555555555555555555555555555555 บ่อยครั้งที่คุณยายบ๊าบทำให้ผมกลัวในความรอบรู้ครับ... ::005:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ ธันวาคม 25, 2011, 04:53:21 PM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 25, 2011, 04:54:38 PM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ สงสัยวิญญาณเป็นอมตะมั้งน้าโจ้ก ::005:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 07:21:52 PM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ ทำให้หัวใจหยุดเต้นน่ะครับ ยายนี่ฮาจริงๆ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 07:44:15 PM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ ทำให้หัวใจหยุดเต้นน่ะครับ ยายนี่ฮาจริงๆ อ้าว พี่หมอครับ ที่ผมทำงานใช้เคมีตัวนี้เยอะด้วยสิครับ เอามาผสมน้ำ แล้วผสมเคมีตัวอื่นๆด้วยครับ มันเข้าไปทางการหายใจไม่ได้ใช่ไหมครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 25, 2011, 08:58:27 PM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ ทำให้หัวใจหยุดเต้นน่ะครับ ยายนี่ฮาจริงๆ อ้าว พี่หมอครับ ที่ผมทำงานใช้เคมีตัวนี้เยอะด้วยสิครับ เอามาผสมน้ำ แล้วผสมเคมีตัวอื่นๆด้วยครับ มันเข้าไปทางการหายใจไม่ได้ใช่ไหมครับ ใช่แล้วครับพี่กระจง ใช้ฉีดเข้าเส้นตามที่ยายแนะนำถึงจะออกฤทธิ์ครับ ^^ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: eazycompany ที่ ธันวาคม 25, 2011, 11:35:13 PM เห็นว่าเคยมีการร่างพรบ.คุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายทางการเเพทย์(ไม่เเน่ใจชื่อนะครับ) เท่าที่ผมพอทราบก็เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ที่ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจากเเพทย์ จนทำให้เกิดความเสียหายกับคนไข้ เพราะปัจจุบันคนไข้ที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาของเเพทย์ต้องฟ้องเป็นคดีอาญา ซึ่งมีขั้นตอนยุ่งยาก มีระยะเวลาในการดำเนินการนานเเละมีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งกฏหมายอาญาไม่ได้มุ่งเน้นช่วยเหลือเยียวยาคนไข้ผู้ได้รับความเสียหาย เเต่เน้นไปที่การจับคนผิดมาลงโทษเสียมากกว่า เเละในการสืบสวนคดีประเถทนี้ต้องใช้เอกสารหลักฐานซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในมือของเเพทย์ผู้ถูกฟ้อง คนไข้จึงลำบากในการหาพยานหลักฐาน จึงต้องมีการร่างกฏหมายพิเศษเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเเก่บุคคลที่เข้ารับการรักษาทางการเเพทย์
เเต่เมื่อปีก่อนเห็นว่าพรบ.นี้มีปัญหาไม่สามารถผ่านสภาได้ เนื่องจากเเพทย์จำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะไม่ต้องการเพิ่มภาระความรับผิดชอบในการทำงาน เเละยังเกี่ยวพันกับผลประโยชน์จำนวนมากของโรงพยาบาล เรื่องพรบ.นี้ตอนนี้ไม่เเน่ใจว่าไปถึงไหนเเล้วเหมือนกัน เเต่ผมคิดว่าถ้าพรบ.นี้สามารถบังคับใช้ๆด้จริง สามีภรรยาคู่นี้เเละผุ้ป่วยอีกจำนวนมากคงไม่ต้องเผชิญชะตากรรมที่น่าสงสารเเบบนี้ ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ ธันวาคม 25, 2011, 11:45:50 PM สิทธิ์ของแพทย์ ที่เห็นง่ายที่สุดคือสามารถเขียนนำหน้าชื่อตัวว่า"นายแพทย์"ได้ โดยไม่ต้องใช้นาย,นาง,นางสาวครับ กล้าตอบเพราะยังไงก็จะไม่ไปโดนยิงแถวราชบุรี ::005:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่มอม อ่ะ ฮา ถ้าเกิดไปยางแตกแถว "ราดรี" ยายเชื่อว่าไม่โดน "หัวกระสุน" แปลกปลอม อ่ะ ฮา เคสนี้ได้รับความ "เอ็นดู" จากพี่หมอ รุต สูงสุดอ่ะ สบาย สบาย ฮา 555555 โดนสามขนาน ไม่เจ็บ ไม่ปวด อ่ะ ฮา ขนานแรก ทำให้หมดสติ ใช้ Thiophenol sodium อ่ะ ฮา ขนานที่สอง หมอเขากลัวเกิดอาการกระตุก ทำให้ศพไม่สวย ก็เลยใช้ Pancuronium Bromide ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อ่ะ ฮา ขนานสุดท้าย ใช้ Potassium Chroride เวลาตื่นขึ้นมา ตัวเบา เดินตัวลอย เห็นม่านสีขาวๆ เดินไปตามทางของ พระเจ้า อ่ะ ฮา 555555555555555555555555555555555555 กับผมไม่ต้องเปลืองขนาดนั้นครับ ไม่ต้องแช่ง ไม่ต้องฆ่า แค่พี่หมอบอกไม่รักผมก็ตายแล้ว ::005:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 26, 2011, 07:45:40 AM อันหลังสุดทำไมทำให้ตายอะครับ ทำให้หัวใจหยุดเต้นน่ะครับ ยายนี่ฮาจริงๆ อ้าว พี่หมอครับ ที่ผมทำงานใช้เคมีตัวนี้เยอะด้วยสิครับ เอามาผสมน้ำ แล้วผสมเคมีตัวอื่นๆด้วยครับ มันเข้าไปทางการหายใจไม่ได้ใช่ไหมครับ ใช่แล้วครับพี่กระจง ใช้ฉีดเข้าเส้นตามที่ยายแนะนำถึงจะออกฤทธิ์ครับ ^^ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 26, 2011, 07:06:01 PM หมอลืมคีมไว้ในท้องบังอร 5 ปีหลังผ่าคว้านคีมออกต้องใส่แผ่นใยสังเคราะห์กันไส้ไหล ต้องกินยารักษาตัวตลอดชีวิต ส่วนเสนาะผู้เป็นสามีแพ้ยาอย่างรุนแรงทำให้ตาแทบมืดบอด+ไตวายเรื้อรัง เมื่อฟ้องกระทรวงสธ.ศาลชั้นต้นอนุญาตให้สู้คดีแบบคนอนาถาไม่ต้องวางค่าธรรมศาล-แต่แพ้คดี เมื่อยื่นอุทธรณ์และขอสู้คดีแบบคนอนาถาอีก แต่ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์ไม่อนุญาต สั่งให้นำค่าธรรมเนียมไปวาง 74,840 บาท โดยให้เหตุผลว่า"แม้จะจนจริงแต่คดีไม่มีมูลจะชนะ" หาเงินสู้คดีฟ้องหมอ เรื่องราวความยุติธรรมที่หาได้ยากลำบากสำหรับคนจน แม้จะเป็นการใช้สิทธิ์ทางศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ก็ยังเป็นเรื่องไม่มีสิทธิ์หรือไม่มีพื้นที่สำหรับคนจน นายเสนาะ แสงโชติ ชายสายตาขุ่นมัว แทบจะเรียกได้ว่าเกือบตาบอด ปี 2550 นายเสนาะไปรักษาอาการปวดตึงที่มือ ขาและไหล่ ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบ เจาะเลือดและเอกซเรย์ ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบไปกินต่อที่บ้าน นายเสนาะทานยาได้ 7 วัน มีผื่นคันตามผิวหนัง ตามลำตัว เริ่มตาแฉะทั้งสองข้าง ปากเริ่มพองเป็นแผล และมีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง จึงไปฉีดยาแก้แพ้ที่สถานีอนามัยปรกฟ้า แล้วไปพบหมอที่โรงพยาบาลพนัสนิคมเดิม หมอวินิจฉัยว่าแพ้ยาธรรมดา สั่งให้ยาแก้แพ้ให้ไปทานต่อที่บ้านอีก ให้ยาหยอดตา แก้คัน 1 ขวด แล้วให้กลับบ้านเหมือนเดิม โดยมิได้นัดให้กลับไปตรวจอีก ซึ่งนายเสนาะกลับบ้านกินยาแก้แพ้ แต่ผื่นยังลามไปเรื่อยๆ แสบตาและตามัวลง เจ็บปากกินอาหารไม่ได้ มีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง มองสิ่งของเห็นไม่ชัด นางบังอรภริยาของนายเสนาะได้พาไปรักษาที่ รพ.สมิติเวชศรีราชา หมดเงินไป 70,000 กว่าบาท ต้องกู้เงินมาใช้เขา หมอวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ที่ชื่อว่า สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม จึงรับตัวไว้รักษาช่วยจนรอดชีวิต แต่ก็ต้องเสียดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ไม่สามารถรักษาได้อย่างเดิม ซึ่งปัจจุบันนายเสนาะมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถประกอบอาชีพทำไร่เลี้ยงลูกเมียได้ดังเดิม ตามัวมองไม่ชัดเคืองตา แสบตาต้องหยอดน้ำตาเทียม และมีปัญหาไตวายจากการแพ้ยา มีโรคภัยจากสภาวะไตวายอีกมากมายต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต่อมา นายเสนาะได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม อย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้สู้คดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ต่อมาศาลพิพากษายกคำฟ้องนายเสนาะ ซึ่งนายเสนาะต้องการจะสู้คดีจนถึงที่สุด โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ แต่ครั้งนี้ศาลมีสั่งให้เอาเงินมาวางศาล 7 หมื่นกว่าบาท เนื่องจากศาลว่าแม้จะจนจริง แต่คดีไม่มีมูลจะชนะ ซึ่งนายเสนาะต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุดจนชั้นฎีกา ยายขอแสดงความเสียใจกับ สามีภรรยา คู่นี้คร๊า "เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น" จริงๆ ประเด็นเรื่อง ของการรักษา แล้วเกิด "ข้อผิดพลาด" มันเกิดได้ทุกขั้นตอนคร๊า เมื่อเกิดเรื่องแล้ว มีผู้เสียหาย กระบวนการ การเรียกร้อง ขอให้ชดใช้ความเสียหาย ก็เกิดขึ้น มีการเจรจา ก่อนที่จะนำเรื่อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทางฝ่ายแพทย์เสนอ เยียวยา บางส่วน เรื่อง จำนวนเงิน นี่แหละคร๊า ที่หาข้อสรุปไม่ได้ โรงพยาบาล ในชนบท แพทย์ ทำงานกันอย่างหนัก คร๊า อาจละเลยขั้นตอนบางอย่าง และถ้าปฎิบัติตามกระบวนการรักษา ทางแพทย์ คนไข้รายสุดท้าย อาจจะได้พบแพทย์ ตอนสองยามคร๊า ถ้าใคร ยังไม่เคยเห็น ก็ไปดูที่ ศิริราช หรือ จุฬา หรือ ราชวิถี ได้คร๊า คนไข้มารอ บัตรคิว ตีสี่ตีห้า เพื่อรอพบหมอ กว่าจะผ่านการ "คัดแยก" ก็สิบโมงแล้วคร๊า หมอหรือแพทย์ในชนบท คือนักเรียนที่เพิ่งจบใหม่ แล้วต้องทำงานใช้หนี้หลวงคร๊า หมอก็เหมือนพวกเราล่ะคร๊า ตอนอายุ ยี่สิบสี่ ยี่สิบห้า ก็มีความตั้งใจเต็มเปี่ยม แต่พอเกิดเหตุ พวกเขาจะทำอย่างไรดี เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท เคยเรียนแต่ตำรา และอาจารย์ หมอที่สอน ท่านก็สอนไปตามเคสที่เกิดขึ้น ชั่วโมงบินของเขา ยังน้อยคร๊า แล้วยิ่งมีเรื่อง โดนฟ้อง ยายว่า "ขวัญ" เขากระเจิง แน่ คร๊า เมื่อการเยียวยา ไม่ประสพผล ผู้เสียหาย จึงนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยายชื่นชม "ศาล" คร๊า ที่รับคดีไว้ แบบอนาถา ไม่เก็บค่าธรรมเนียมศาล เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ผู้เสียหายยังยืนยัน จะขอสู้คดีต่อ ประเด็นนี้ยายเห็นว่า ทำไม่ได้คร๊า หากยินยอม คดีก็คงเดินไปสู่ ศาลสูง อีก มันไม่ใช่เรื่องรวย หรือจน คร๊า ท้ายสุด ยายหวังว่า เรื่องการเยียวยา อาจจะถูกยกขึ้นมาพิจารณา กันใหม่ คร๊า หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 26, 2011, 08:20:41 PM หมอลืมคีมไว้ในท้องบังอร 5 ปีหลังผ่าคว้านคีมออกต้องใส่แผ่นใยสังเคราะห์กันไส้ไหล ต้องกินยารักษาตัวตลอดชีวิต ส่วนเสนาะผู้เป็นสามีแพ้ยาอย่างรุนแรงทำให้ตาแทบมืดบอด+ไตวายเรื้อรัง เมื่อฟ้องกระทรวงสธ.ศาลชั้นต้นอนุญาตให้สู้คดีแบบคนอนาถาไม่ต้องวางค่าธรรมศาล-แต่แพ้คดี เมื่อยื่นอุทธรณ์และขอสู้คดีแบบคนอนาถาอีก แต่ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์ไม่อนุญาต สั่งให้นำค่าธรรมเนียมไปวาง 74,840 บาท โดยให้เหตุผลว่า"แม้จะจนจริงแต่คดีไม่มีมูลจะชนะ" หาเงินสู้คดีฟ้องหมอ เรื่องราวความยุติธรรมที่หาได้ยากลำบากสำหรับคนจน แม้จะเป็นการใช้สิทธิ์ทางศาล ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ก็ยังเป็นเรื่องไม่มีสิทธิ์หรือไม่มีพื้นที่สำหรับคนจน นายเสนาะ แสงโชติ ชายสายตาขุ่นมัว แทบจะเรียกได้ว่าเกือบตาบอด ปี 2550 นายเสนาะไปรักษาอาการปวดตึงที่มือ ขาและไหล่ ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบ เจาะเลือดและเอกซเรย์ ให้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบไปกินต่อที่บ้าน นายเสนาะทานยาได้ 7 วัน มีผื่นคันตามผิวหนัง ตามลำตัว เริ่มตาแฉะทั้งสองข้าง ปากเริ่มพองเป็นแผล และมีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง จึงไปฉีดยาแก้แพ้ที่สถานีอนามัยปรกฟ้า แล้วไปพบหมอที่โรงพยาบาลพนัสนิคมเดิม หมอวินิจฉัยว่าแพ้ยาธรรมดา สั่งให้ยาแก้แพ้ให้ไปทานต่อที่บ้านอีก ให้ยาหยอดตา แก้คัน 1 ขวด แล้วให้กลับบ้านเหมือนเดิม โดยมิได้นัดให้กลับไปตรวจอีก ซึ่งนายเสนาะกลับบ้านกินยาแก้แพ้ แต่ผื่นยังลามไปเรื่อยๆ แสบตาและตามัวลง เจ็บปากกินอาหารไม่ได้ มีไข้หนาวสั่นต้องนอนคลุมโปง มองสิ่งของเห็นไม่ชัด นางบังอรภริยาของนายเสนาะได้พาไปรักษาที่ รพ.สมิติเวชศรีราชา หมดเงินไป 70,000 กว่าบาท ต้องกู้เงินมาใช้เขา หมอวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ที่ชื่อว่า สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม จึงรับตัวไว้รักษาช่วยจนรอดชีวิต แต่ก็ต้องเสียดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ไม่สามารถรักษาได้อย่างเดิม ซึ่งปัจจุบันนายเสนาะมีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถประกอบอาชีพทำไร่เลี้ยงลูกเมียได้ดังเดิม ตามัวมองไม่ชัดเคืองตา แสบตาต้องหยอดน้ำตาเทียม และมีปัญหาไตวายจากการแพ้ยา มีโรคภัยจากสภาวะไตวายอีกมากมายต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต่อมา นายเสนาะได้ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุขต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม อย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้สู้คดีอย่างคนอนาถา ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ต่อมาศาลพิพากษายกคำฟ้องนายเสนาะ ซึ่งนายเสนาะต้องการจะสู้คดีจนถึงที่สุด โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อ แต่ครั้งนี้ศาลมีสั่งให้เอาเงินมาวางศาล 7 หมื่นกว่าบาท เนื่องจากศาลว่าแม้จะจนจริง แต่คดีไม่มีมูลจะชนะ ซึ่งนายเสนาะต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุดจนชั้นฎีกา ยายขอแสดงความเสียใจกับ สามีภรรยา คู่นี้คร๊า "เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น" จริงๆ ประเด็นเรื่อง ของการรักษา แล้วเกิด "ข้อผิดพลาด" มันเกิดได้ทุกขั้นตอนคร๊า เมื่อเกิดเรื่องแล้ว มีผู้เสียหาย กระบวนการ การเรียกร้อง ขอให้ชดใช้ความเสียหาย ก็เกิดขึ้น มีการเจรจา ก่อนที่จะนำเรื่อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทางฝ่ายแพทย์เสนอ เยียวยา บางส่วน เรื่อง จำนวนเงิน นี่แหละคร๊า ที่หาข้อสรุปไม่ได้ โรงพยาบาล ในชนบท แพทย์ ทำงานกันอย่างหนัก คร๊า อาจละเลยขั้นตอนบางอย่าง และถ้าปฎิบัติตามกระบวนการรักษา ทางแพทย์ คนไข้รายสุดท้าย อาจจะได้พบแพทย์ ตอนสองยามคร๊า ถ้าใคร ยังไม่เคยเห็น ก็ไปดูที่ ศิริราช หรือ จุฬา หรือ ราชวิถี ได้คร๊า คนไข้มารอ บัตรคิว ตีสี่ตีห้า เพื่อรอพบหมอ กว่าจะผ่านการ "คัดแยก" ก็สิบโมงแล้วคร๊า หมอหรือแพทย์ในชนบท คือนักเรียนที่เพิ่งจบใหม่ แล้วต้องทำงานใช้หนี้หลวงคร๊า หมอก็เหมือนพวกเราล่ะคร๊า ตอนอายุ ยี่สิบสี่ ยี่สิบห้า ก็มีความตั้งใจเต็มเปี่ยม แต่พอเกิดเหตุ พวกเขาจะทำอย่างไรดี เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท เคยเรียนแต่ตำรา และอาจารย์ หมอที่สอน ท่านก็สอนไปตามเคสที่เกิดขึ้น ชั่วโมงบินของเขา ยังน้อยคร๊า แล้วยิ่งมีเรื่อง โดนฟ้อง ยายว่า "ขวัญ" เขากระเจิง แน่ คร๊า เมื่อการเยียวยา ไม่ประสพผล ผู้เสียหาย จึงนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยายชื่นชม "ศาล" คร๊า ที่รับคดีไว้ แบบอนาถา ไม่เก็บค่าธรรมเนียมศาล เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ผู้เสียหายยังยืนยัน จะขอสู้คดีต่อ ประเด็นนี้ยายเห็นว่า ทำไม่ได้คร๊า หากยินยอม คดีก็คงเดินไปสู่ ศาลสูง อีก มันไม่ใช่เรื่องรวย หรือจน คร๊า ท้ายสุด ยายหวังว่า เรื่องการเยียวยา อาจจะถูกยกขึ้นมาพิจารณา กันใหม่ คร๊า +1 ป้าบราครับ... ::002:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 26, 2011, 10:24:23 PM +1 ครับยาย
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 26, 2011, 11:36:24 PM ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วผู้ป่วยไม่ได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผลครับ
เงินแค่ ๓ แสน มันเทียบไม่ได้กับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นครับ ชีวิตคน ๑ ชีวิต มีค่าแค่เงิน ๓ แสน ที่หมอรักษาผิดพลาดโยนมาให้ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แทบไม่มีเหลืออยู่เลยครับ :P หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 12:03:44 AM ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วผู้ป่วยไม่ได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผลครับ เงินแค่ ๓ แสน มันเทียบไม่ได้กับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นครับ ชีวิตคน ๑ ชีวิต มีค่าแค่เงิน ๓ แสน ที่หมอรักษาผิดพลาดโยนมาให้ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แทบไม่มีเหลืออยู่เลยครับ :P ผมอยากจะบ้าตายครับ.... สิ้นปีมีเงินเหลือแสนกว่าบาท แต่ต้องจ่ายค่าผ่าเข่าแม่ แสนกว่าบาทเหมือนกัน... ::012:: ไม่ได้ผุดได้เกิดซะที... ผม.... รพ. แถวลาดพร้าว 109 ซัดไปเกลี้ยง... ::009:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 12:21:04 AM ผมว่าระบบมันเพี้ยนๆนะ...
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 12:43:36 AM เพิ่งนึกออก....เพื่อนผมเป็นเจ้าของโครงการณ์นึงที่ จ. ภูเก็ต... ขายบ้านราคา 1 ล้าน เหรียญ us ซึ่งคนไทยที่จะมีปัญญาซื้อได้คืออาชีพหมอ ซึ่งมีเงินเดือน 250,000 บาท
โรงพยาบาลกำไรปีละเท่าไหร่ ถึงมีปัญญาจ้างหมอได้แพงขนาดนี้... และรายได้มาจากการที่ฟันกำไรได้ขนาดนี้คืออะไร... คนไทยทำงานหนักทั้งชีวิตเพื่อจ่ายค่ารักษาตัวหมด ใช่หรือไม่ครับ.... ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:21:13 AM การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลของรัฐทุกวันนี้ ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน ครอบคลุมไปถึงต่างด้าวด้วย ยกเว้นคนที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาจากราชการ ถ้าท่านไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วมาบ่นว่าแพง ก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ครับ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:38:31 AM การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลของรัฐทุกวันนี้ ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน ครอบคลุมไปถึงต่างด้าวด้วย ยกเว้นคนที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาจากราชการ ถ้าท่านไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วมาบ่นว่าแพง ก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ครับ เพราะโรงพยาบาลรัฐมันห่วยแตกครับ คนที่พอจะมีเงินหน่อยเลยไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ดีกว่ารอความตายอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ :) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:45:37 AM งั้นคนชนบทที่เข้าโรงพยาบาลรัฐคงตายหมดแล้ว โรงพยาบาลเอกชนแพง ก็น่าจะไปโวยนายทุนเจ้าของโรงพยาบาลนะครับ
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:00:12 AM มีภาษิตของหมออยู่บทหนึ่งว่า to treat a person at a whole ซึ่งท่านอาจารย์ท่่านหนึ่งแปลอย่างติดตลกไว่ว่า จงรักษาคนให้หมด(ทั้ง)ตัว
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:32:49 AM งั้นคนชนบทที่เข้าโรงพยาบาลรัฐคงตายหมดแล้ว โรงพยาบาลเอกชนแพง ก็น่าจะไปโวยนายทุนเจ้าของโรงพยาบาลนะครับ ก็ตายไปเยอะแล้วครับ ที่ไม่ตายก็ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิตเหมือนเรื่องในกระทู้นี้ครับ :) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ ธันวาคม 27, 2011, 11:32:15 AM มาสนับสนุนครับ ว่าโรงพยาบาลรัฐฯเนี่ย ใครไม่เคยมีประสบการณ์อาจนึกไม่ออก
ของแบบนี้ต้องเจอครับ ถึงจะรู้ รักษาพยาบาล "ฟรี" แต่คุณภาพล่ะครับ มาตรฐานล่ะครับ เท่าเทียมกันทุกระดับ ทุกชนชั้นรึเปล่า ผมก็ไม่โทษหมอหรอก ทุกวันนี้โลกมันเป็นสังคม "วัตถุนิยม" สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใครก็ต้องอยากได้อยากมี แต่ "ระบบ" นี่สิครับ ที่เป็นปัญหา ประเทศที่มีการ "คอรัปชั่น" สูงอันดับต้นๆของโลก ทำให้การพัฒนาและสร้างระบบดีๆ ไม่อาจเกิดขึ้นได้ คนในประเทศไม่อยากจ่ายภาษี เพราะรู้ว่า "ภาษีไปไหน" ถ้าตราบใดระบบแบบนี้ ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบันคงยากที่คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น ขึ้นเงินเดือน ครู หมอ ตำรวจ ให้สูงไปเลย แต่ก็ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มข้น จริงจัง และความรับผิดชอบให้สมกับเงินเดือนด้วย นักการเมืองเอาเงินเดือนไปเลย เดือนละสองล้าน แต่ถ้าจับได้ว่า "คอรัปชั่น ทุจริต" ต้องโดนตัดคอนะ แค่นี้ล่ะ ทำได้มั้ย หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ ธันวาคม 27, 2011, 11:36:55 AM คนที่พอมีกำลังจะจ่าย ไม่ว่าจะจ่ายเองโดยตรง หรือ ซื้อความเสี่ยงกับประกันชีวิต
ก็เลือกที่จะไปโรงพยาบาลเอกชนทั้งนั้นล่ะครับ ไม่มีใครอยากไปโรงพยาบาลรัฐฯหรอก ลองไปเข้าคิวตั้งแต่ตีสี่สิครับ ลองไปนอนเตียงผู้ป่วยริมทางเดินระเบียงดูสิครับ ลองไปนอนเฝ้าญาติ ด้วยการปูเสื่อนอนใต้เตียงผู้ป่วยดูสิครับ ถ้าจะให้ดี ลองเป็นโรคร้ายแรงหรือเข้าไปในสภาพเจียนตายน่ะครับ จะได้สัมผัส "ความจริง" ที่จะจำไม่ลืม :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 11:40:02 AM เข้ามาอ่านครับ... เย้...
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 11:56:29 AM ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วผู้ป่วยไม่ได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผลครับ เงินแค่ ๓ แสน มันเทียบไม่ได้กับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นครับ ชีวิตคน ๑ ชีวิต มีค่าแค่เงิน ๓ แสน ที่หมอรักษาผิดพลาดโยนมาให้ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แทบไม่มีเหลืออยู่เลยครับ :P สิบล้อชนคนตาย จ่ายไม่ถึงแสน นะครับพี่พงษ์ 1 คำถามครับ แล้วราคาเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า " ตายแบบมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์" ครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 12:29:00 PM ผมไม่ได้เข้าข้างหมอ นะครับ เท่าที่ทราบมา หมอ เช้า เข้าเวรรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล(รายได้หลัก) เลิกงานเปิดคลีนิค (รายได้เสริม) คลินิค เปรียบเสมือนร้านค้า ที่ต้องเช่าบ้าน จ้างลูกน้อง เสียค่าไฟ ค่าน้ำ ลูกน้องหมอ ไม่ได้จ้างวันละ 150 แน่นอน เพราะเค้าเองก็มีความรู้ (ตามวุฒิ) คลินิคเปิดไฟสว่างทั้งร้าน เครื่องมือแพษ กินไฟแค่ไหนไม่รู้ หมอเปิดร้านเพื่อหารายได้ เสริม หมอ ผิดหรือครับ ข้อที่สอง คนไทยตรวจสุขภาพทุกปี ทุกคน หรือปล่าวครับ ไม่เลย โน้นต้องให้เป็นหนักๆก่อนโน้นถึงวิ่งหาหมอ พอเจอค่ารักษาหนักๆเข้าก็โวยวาย ซะงั้น เหมือนปืนนั้นแหละครับ ป้องกันไม่ไห้ปืนขึ้นสนิม นั้น"ง่ายกว่าถูกกว่า" ที่จะไป รักษาปืนที่ขึ้นสนิมแล้ว แพงกว่า ไม่เหมือนเดิมด้วย สุดท้ายให้หมอเยียวยา เปรียบได้เหมือนคนสูบบุหรี่ พอเป็นโรคโน้นโรคนี้ขึ้นมา วิ่งหาหมอพอหมอรักษาไม่ได้โทษหมออีก ด่าหมอรักษาห่วย แล้ว ทำไมไม่ด่าตัวเองบ้าง สูบทำไมเพราะรู้ก็รู้ว่ามันไม่ดี ข้อสามรายได้ของหมอ ผมเชื่อว่ารายได้ดีมาก ครับ แต่เคยคิดหรือไม่ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ได้ หมอต้องเสีย ค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนไปมากเท่า ไหร่ วันๆเจอคนไข้ เป็นร้อยๆ รองรับทุกอามรณ์ของผู้ป่วย/ญาติ โรงพยาบาล ของรัฐ ผมเชื่อว่า การดูแลผู้ป่วย นั้น ด้อยกว่าโรงพยาบาลเอกชน เพราะเห็นมาแล้ว เจอมากับตัว แต่ถามซักคำว่า โรงพยาบาลเอกชนก็เหมือนคลีนิคขนาดใหญ่ ที่ เอาหมอ มารวมกัน ก็ไม่ต่างจากร้านค้าบริการลูกค้า เค้าเองก็ต้องการเงิน แต่สิ่งนึงที่โรงพยาบาลเอกชลมีก็คือ ต้องประทับใจลูกค้า(ผู้ป่วย)ให้มากที่สุด โดยใช้วิชาชีพ ที่มีอยู่ เค้าผิดหรือครับที่เค้าคิดแพงกว่า นึกถึงเราๆซิ เปิดร้านต้องการลูกค้า ลูกค้าประทับใจแล้วกลับมาใหม่ แค่เนี้ย ส่วนโรงพยาบาลรัฐ คนป่วย นอนข้างทาง คนเฝ้านอนใต้เีตียงคนป่วย ไม่ได้เกี่ยวกับหมอ สรุป ง่ายๆนะครับ ทำประกันชีวิต ซิ ได้นอนโรงพยาบาลเอกชนทุกคน ง่ายดี ประกันจ่าย ใครจะทำบ้างผมขายประกันอยู่ .. หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ ธันวาคม 27, 2011, 12:48:25 PM มาสนับสนุนครับ ว่าโรงพยาบาลรัฐฯเนี่ย ใครไม่เคยมีประสบการณ์อาจนึกไม่ออก ของแบบนี้ต้องเจอครับ ถึงจะรู้ รักษาพยาบาล "ฟรี" แต่คุณภาพล่ะครับ มาตรฐานล่ะครับ เท่าเทียมกันทุกระดับ ทุกชนชั้นรึเปล่า ผมก็ไม่โทษหมอหรอก ทุกวันนี้โลกมันเป็นสังคม "วัตถุนิยม" สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใครก็ต้องอยากได้อยากมี แต่ "ระบบ" นี่สิครับ ที่เป็นปัญหา ประเทศที่มีการ "คอรัปชั่น" สูงอันดับต้นๆของโลก ทำให้การพัฒนาและสร้างระบบดีๆ ไม่อาจเกิดขึ้นได้ คนในประเทศไม่อยากจ่ายภาษี เพราะรู้ว่า "ภาษีไปไหน" ถ้าตราบใดระบบแบบนี้ ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบันคงยากที่คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น ขึ้นเงินเดือน ครู หมอ ตำรวจ ให้สูงไปเลย แต่ก็ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มข้น จริงจัง และความรับผิดชอบให้สมกับเงินเดือนด้วย นักการเมืองเอาเงินเดือนไปเลย เดือนละสองล้าน แต่ถ้าจับได้ว่า "คอรัปชั่น ทุจริต" ต้องโดนตัดคอนะ แค่นี้ล่ะ ทำได้มั้ย ย้ำซะหน่อย เผื่อมีใคร "เข้าใจผิด" ผมยินดีที่จะจ่ายภาษี 50% ของรายได้ ถ้าลูกผมจะได้เรียนโรงเรียนดีๆ มาตรฐานเท่ากันทั่วประเทศ เจ็บป่วย ได้รักษาในโรงพยาบาล ที่มาตรฐานเท่ากันทั่วประเทศ ถ้าผิดพลาดจากการรักษา "รัฐ" จะจ่ายชดเชยให้เป็นไปตามมาตรฐาน ที่เท่าเทียมกันทั่วประเทศ ทุกวันนี้ผมว่าคนจำนวนไม่น้อย รู้สึกได้ถึง การไม่เท่าเทียม การมีสองมาตรฐาน การเลือกปฏิบัติ การมีอภิสิทธิ์และชนชั้น แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะระบบห่วยๆ ที่ฝังรากลึกนี่ล่ะครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 27, 2011, 01:06:33 PM ผมว่าระบบมันเพี้ยนๆนะ... การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลของรัฐทุกวันนี้ ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน ครอบคลุมไปถึงต่างด้าวด้วย ยกเว้นคนที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาจากราชการ ถ้าท่านไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วมาบ่นว่าแพง ก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ครับ เพราะโรงพยาบาลรัฐมันห่วยแตกครับ คนที่พอจะมีเงินหน่อยเลยไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ดีกว่ารอความตายอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ :) ปัญหานี้ เป็นวาระแห่งชาติ เลยคร๊า ปัญหาของเรื่องนี้ มันไม่ได้เกี่ยวกับ หมอ หรือกับคนไข้ หรือโรงพยาบาล หรอกคร๊า มันเป็นเรื่องของนโยบาย บ้าบอ ในอดีต ส่งผลมาถึงปัจจุบันคร๊า โอกาสของการเข้าถึง และใช้ทรัพยากร ของ "คนจน" มันถูกปิดกั้น มาอย่างยาวนานคร๊า ทรัพยากรของชาติ 80% มันถูกใช้ รองรับกับคนส่วนน้อย ชั้นบน ที่มีเพียง 20% คร๊า กระดูกส่วนที่เหลือ จึง "ร่วง" ลงมาข้างล่าง ให้คนส่วนใหญ่ ประมาณ หกสิบกว่าล้านคน ใช้รวมกันคร๊า ชอ่งว่าง ระหว่างคนจน คนรวย มันยังถม "ไม่เต็ม" คร๊า แล้วสังคมไทย ทำมัยมัน "บิดเบี้ยว" ได้ถึงเพียงนี้คร๊า หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 01:22:28 PM ยายขอแสดงความเสียใจกับ สามีภรรยา คู่นี้คร๊า "เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น" จริงๆ ประเด็นเรื่อง ของการรักษา แล้วเกิด "ข้อผิดพลาด" มันเกิดได้ทุกขั้นตอนคร๊า เมื่อเกิดเรื่องแล้ว มีผู้เสียหาย กระบวนการ การเรียกร้อง ขอให้ชดใช้ความเสียหาย ก็เกิดขึ้น มีการเจรจา ก่อนที่จะนำเรื่อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทางฝ่ายแพทย์เสนอ เยียวยา บางส่วน เรื่อง จำนวนเงิน นี่แหละคร๊า ที่หาข้อสรุปไม่ได้ โรงพยาบาล ในชนบท แพทย์ ทำงานกันอย่างหนัก คร๊า อาจละเลยขั้นตอนบางอย่าง และถ้าปฎิบัติตามกระบวนการรักษา ทางแพทย์ คนไข้รายสุดท้าย อาจจะได้พบแพทย์ ตอนสองยามคร๊า ถ้าใคร ยังไม่เคยเห็น ก็ไปดูที่ ศิริราช หรือ จุฬา หรือ ราชวิถี ได้คร๊า คนไข้มารอ บัตรคิว ตีสี่ตีห้า เพื่อรอพบหมอ กว่าจะผ่านการ "คัดแยก" ก็สิบโมงแล้วคร๊า หมอหรือแพทย์ในชนบท คือนักเรียนที่เพิ่งจบใหม่ แล้วต้องทำงานใช้หนี้หลวงคร๊า หมอก็เหมือนพวกเราล่ะคร๊า ตอนอายุ ยี่สิบสี่ ยี่สิบห้า ก็มีความตั้งใจเต็มเปี่ยม แต่พอเกิดเหตุ พวกเขาจะทำอย่างไรดี เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท เคยเรียนแต่ตำรา และอาจารย์ หมอที่สอน ท่านก็สอนไปตามเคสที่เกิดขึ้น ชั่วโมงบินของเขา ยังน้อยคร๊า แล้วยิ่งมีเรื่อง โดนฟ้อง ยายว่า "ขวัญ" เขากระเจิง แน่ คร๊า เมื่อการเยียวยา ไม่ประสพผล ผู้เสียหาย จึงนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยายชื่นชม "ศาล" คร๊า ที่รับคดีไว้ แบบอนาถา ไม่เก็บค่าธรรมเนียมศาล เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ผู้เสียหายยังยืนยัน จะขอสู้คดีต่อ ประเด็นนี้ยายเห็นว่า ทำไม่ได้คร๊า หากยินยอม คดีก็คงเดินไปสู่ ศาลสูง อีก มันไม่ใช่เรื่องรวย หรือจน คร๊า ท้ายสุด ยายหวังว่า เรื่องการเยียวยา อาจจะถูกยกขึ้นมาพิจารณา กันใหม่ คร๊า เห็นด้วยกับยายบ๊าบครับ... ;D หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 02:31:04 PM ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วผู้ป่วยไม่ได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผลครับ เงินแค่ ๓ แสน มันเทียบไม่ได้กับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นครับ ชีวิตคน ๑ ชีวิต มีค่าแค่เงิน ๓ แสน ที่หมอรักษาผิดพลาดโยนมาให้ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แทบไม่มีเหลืออยู่เลยครับ :P สิบล้อชนคนตาย จ่ายไม่ถึงแสน นะครับพี่พงษ์ 1 คำถามครับ แล้วราคาเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า " ตายแบบมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์" ครับ เรื่องสิบล้อชนคนตายอยู่ที่เจ้าทุกข์ครับ ถ้าเจ้าทุกข์ยอม คนชนจ่ายเงินแค่ ๑๐๐ บาท ก็ได้ อันนี้เป็นเรื่องทางเพ่ง แถวบ้านผมเพิ่งโดนชนตายไปเมื่อเดือนที่แล้ว คนชนไม่ยอมจ่าย ญาติก็ไม่สนใจ ลูกเมียไม่มี สรุปคนชนสบายไม่ต้องจ่ายซักบาท ส่วนคดีอาญา ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งฟ้องหรือไม่และศาลจะตัดสินอย่างไรครับ :D มาเรื่องการรักษาผิดพลาด อันนี้ไม่ใช่ผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วครับ ผู้ป่วยต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต ทำงานไม่ได้ ภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่ายา ค่าอาหาร ฯลฯ ที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน เทียบกันเงิน ๓ แสน มันจะใช้ไปได้ซักกี่วัน อาชีพอื่น ๆ ทำงานผิดพลาดก็ต้องจ่ายค่าชดเชยทั้งนั้น มีแต่อาชีพหมอนี่แหละครับจ่ายเพื่อมนุษยธรรม ? หากเป็นพี่ศักดาเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ทำงานไม่ได้ ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต ตัวเองมีภาระต้องเลี้ยงลูกเมีย ต้องอยู่ไปวัน ๆ จะตายก็ไม่ตาย เจ็บออด ๆ แอด ๆ กลายเป็นภาระของลูกเมีย พี่ศักดาจะดีใจกับเงิน ๓ แสนที่หมอโยนมาให้รึเปล่าครับ ? เรื่องการชดเชยต้องดูที่ผู้ป่วยควรจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายเรื่่องยาที่ใช้วันละเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ใช้ยา ฯลฯ ดูที่ความเป็นธรรมและเหมาะสมครับ ไม่ใช้อ้างแต่เพื่อมนุษยธรรม แต่เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบครับ. :) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 02:45:45 PM จ่ายยาผู้ป่วยโดยผู้ป่วยไม่มีประวัติการแพ้ยา ผู้ป่วยแพ้ยา ถือว่าเป็นความผิดพลาดของคนสั่งจ่าย โอ้กรรมของคนสั่งจ่ายจริงๆครับ หมอเทวดาผู้หยั่งรู้ฟ้าดินเท่านั้นที่จะรู้ว่าคนไข้คนไหนจะแพ้ยาอะไร
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 02:50:56 PM เรื่องสิบล้อชนคนตายอยู่ที่เจ้าทุกข์ครับ ถ้าเจ้าทุกข์ยอม คนชนจ่ายเงินแค่ ๑๐๐ บาท ก็ได้ อันนี้เป็นเรื่องทางเพ่ง แถวบ้านผมเพิ่งโดนชนตายไปเมื่อเดือนที่แล้ว คนชนไม่ยอมจ่าย ญาติก็ไม่สนใจ ลูกเมียไม่มี สรุปคนชนสบายไม่ต้องจ่ายซักบาท ส่วนคดีอาญา ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งฟ้องหรือไม่และศาลจะตัดสินอย่างไรครับ :D มาเรื่องการรักษาผิดพลาด อันนี้ไม่ใช่ผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วครับ ผู้ป่วยต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต ทำงานไม่ได้ ภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่ายา ค่าอาหาร ฯลฯ ที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละวัน เทียบกันเงิน ๓ แสน มันจะใช้ไปได้ซักกี่วัน อาชีพอื่น ๆ ทำงานผิดพลาดก็ต้องจ่ายค่าชดเชยทั้งนั้น มีแต่อาชีพหมอนี่แหละครับจ่ายเพื่อมนุษยธรรม ? หากเป็นพี่ศักดาเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ทำงานไม่ได้ ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิต ตัวเองมีภาระต้องเลี้ยงลูกเมีย ต้องอยู่ไปวัน ๆ จะตายก็ไม่ตาย เจ็บออด ๆ แอด ๆ กลายเป็นภาระของลูกเมีย พี่ศักดาจะดีใจกับเงิน ๓ แสนที่หมอโยนมาให้รึเปล่าครับ ? เรื่องการชดเชยต้องดูที่ผู้ป่วยควรจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายเรื่่องยาที่ใช้วันละเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ใช้ยา ฯลฯ ดูที่ความเป็นธรรมและเหมาะสมครับ ไม่ใช้อ้างแต่เพื่อมนุษยธรรม แต่เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบครับ. :) เห็นด้วยครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 02:54:33 PM จ่ายยาผู้ป่วยโดยผู้ป่วยไม่มีประวัติการแพ้ยา ผู้ป่วยแพ้ยา ถือว่าเป็นความผิดพลาดของคนสั่งจ่าย โอ้กรรมของคนสั่งจ่ายจริงๆครับ หมอเทวดาผู้หยั่งรู้ฟ้าดินเท่านั้นที่จะรู้ว่าคนไข้คนไหนจะแพ้ยาอะไร ก็เหมือนกับเอารถไปซ่อมหรือเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อมนั่นแหละครับ หากซ่อมแล้วพังหนักกว่าเก่าคนซ่อมก็รับผิดชอบค่าเสียหาย มันก็ยุติธรรมดี ;) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:02:07 PM คนไม่ใช่เครื่องจักร ที่เสียแล้วก็เปลี่ยนอะไหล่ ก็จะดีเหมือนเดิม มีภาวะแทรกซ้อนมากมายในการรักษา อยากให้ท่านลองไปเป็นแพทย์ดูมั่ง
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:09:11 PM กาารรักษาคนไข้ ในโรงพยาบาลหลวงหมอจะสั่งจ่ายยาตามใจชอบไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานการรักษา เริ่มยาจาก 1 2 3 ผู้ป่วยมีข้อบ่งชี่ว่าใช้ยาตัวนี้ไม่ได้ ก็ต้องจ่ายตัวทดแทนไป ยาเม็ดละ 3 สตางค์ กับเม็ดละ 30 บาท รักษาโรคได้เหมือนกันจะเริ่มตัวในก่อน ในภาวะที่งบประมาณจำกัด
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:12:44 PM คนไม่ใช่เครื่องจักร ที่เสียแล้วก็เปลี่ยนอะไหล่ ก็จะดีเหมือนเดิม มีภาวะแทรกซ้อนมากมายในการรักษา อยากให้ท่านลองไปเป็นแพทย์ดูมั่ง "คนไม่ใช่เครื่องจักร ที่เสียแล้วก็เปลี่ยนอะไหล่ ก็จะดีเหมือนเดิม" อันนี้ชัดเจนครับ เมื่อเลือกมาเป็นแล้วก็ต้องทำหน้าที่แพทย์ให้ดี อย่าลืมนึกว่ากำลังรักษาคนอยู่ ไม่ใช่เครื่องจักรครับ บางครั้งทางเลือกของคนที่มารักษามีไม่มากนักครับ :) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:20:25 PM ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เข้ามาเถียงหรือด่าใครอีกนะครับ, ความเห็นนายสมชาย Post ไปแล้วและยังยืนยันเหมือนเดิม...
แต่เข้ามาบอกว่า สมมติว่านายสมชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางรูปคดี ในคดีตามกระทู้นี้, เอาเฉพาะกรณีแพ้ยาฯ นายสมชายจะหาวิธีรวบรวมสถิติครับ... เอาเคสแพ้ยาและเจียนตายทำนองนี้ ถึงแม้ไม่เหมือนเป๊ะๆ เช่นหาคำจำกัดความก่อนว่าแค่ไหนเทียบได้กับตามกระทู้นี้... รวบรวมสถิติทั้งหมดมานั่งกางดูว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับประเด็นที่เอามาให้ความเห็นในกระทู้นี้... เช่น"คนจนหรือคนรวย" "โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน" "โรงพยาบาลในกรุงหรือต่างจังหวัดเมืองเล็ก" "เป็นญาติของหมอหรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับหมอ" "ยาถูกหรือยาแพง" "หมอจบใหม่หรือหมอมีประสบการณเกินเท่านั้นเท่านี้ปี" "จำนวน Walk in ของคนไข้ต่อวันมีแยะหรือน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนหมอ" ฯลฯ... แล้วดูว่ามีนัยสำคัญแตกต่างกันอย่างไรครับ... แต่ในวันนี้ในกระทู้นี้ เรื่องนี้ก็แค่สงสัยเท่านั้นเองครับ ยังหาข้อสรุปไม่ได้... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:22:46 PM หากผลการแพ้ยาฯ เป็นเส้นกราฟกระจายได้สม่ำเสมอได้ค่าเฉลี่ยเป็นเส้นราบเสมอกันตลอด(แตกต่างแบบไม่มีนัยสำคัญ)... เมื่อนั้นนายสมชายจึงเชื่อว่ามัน"เหมือนกัน"หมดครับ...
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 03:43:35 PM เลิกออกความเห็นครับ คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ถ้าตราบใดที่หลายท่านกำหนดมาตรฐานเอาเอง ขอแสดงความเคารพในทุกความเห็น ของทุกท่าน ::014::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 04:11:17 PM เลิกเถียงกันแล้วมาทำประกัน กับผมดีกว่าครับรับรองมาตฐาน เอไอเอ หมดเหมือนกัน ::007::
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 04:24:36 PM ;D ;Dผม อ่านกระทู้นี้แล้ว พอเข้าใจแล้วครับ ::005:: ::005::
ว่าทำไม หมอ+แพทย์สภา ถึงค้านไม่เอา พรบ.คุ้มครองคนไข้........ก็อยู่กันไปครับประเทศสารขัณฑ์ ::013:: ::013:: ::013:: :~) :~)ว่าแล้วก็เก็บเงินไปทำประกันกับ พี่ศักดา น่าจะดี :~) :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 04:36:24 PM เลิกเถียงกันแล้วมาทำประกัน กับผมดีกว่าครับรับรองมาตฐาน เอไอเอ หมดเหมือนกัน ::007:: โห... จบได้สวยครับ... เย้... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 05:14:15 PM พ่อผม อยู่ดีๆก็เกิดอาการหายใจไม่ออก ส่งโรงพยาบาลเอกชน(ทักษิณ) สุราษ
วันแรกต้องบอกว่า ผมเองแทบช๊อค แต่สิ่งที่ทั้งหมอและพยาบาล ปฎิบัติก็คือ ทุกคน ช่วยชีวิตพ่อผมไว้ ผมจำวันนั้นได้ดีที่สุด เพราะผมคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ ปั๊มหัวใจ ใส่เครื่องช่วยหายใจสารพัด นอนห้องไอซียู 3วัน 3คือค่าใช้จ่าย 3หมื่นกว่า ยังจำได้ดี ผมถามหมอ ว่า"หมอครับพ่อผมเป็นอะไร " หมอบอกผมว่า "พ่อของน้องเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ" คำถามต่อไปผมถามหมอว่า" หมอครับทำไงถึงจะรักษษพ่อของผมหาย" หมอตอบว่า "ต้องบายพาสหัวใจ สองเส้น " ผมถามต่อว่า " เท่าไหร่ครับหมอ " หมอถอนหายใจแล้วตอบว่า "สองล้าน" ครับ สิ่งที่ผมคิดก็คือ ผมไม่โทษหมอ ที่หมอบอกราคานั้นมา แต่สิ่งที่ผมโทษก็คือ ผมโทษตัวเอง ที่เกิดมาชาตินี้ พ่อให้กำเนิดชีวิตเรา เลี้ยงดูเรา ซึ่งมองว่า มีมูลค่ามากกว่า สองล้านแน่ แต่วันนี้เราไม่สามารถ หาเงินสองล้านมาได้ ความคิดนึงที่ผุดขึ้นมาก็คือ "ถ้ามีใครซักคนมาบอกว่า "รับซื้อชีวิตของเรามูลค่า สองล้าน" ผมยอมขายชีวิตผมทันที แต่ก็ได้แต่คิด หลังจากนั้นไม่นาน " พ่อผมก็ย้ายไปที่โรงพยาบาล สุราษ(ประจำจังหวัด) และเสียชีวิต หลังจากนั้น อีกประมาณ ผมยังจำสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลได้ีดี ว่ามันรันทดแค่ไหน หลายๆเหตุการณ์ในนั้น ที่ทำให้ผมต้อง ท้อใจกับชีวิต ย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลเอกชนอีกครั้ง ตอนที่พ่อผมนอนอยู่นั้น เ้ค้าบริการดีมาก ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แม้แต่ พ่อผมจะถ่ายหนัก เค้าจัดการให้หมด ผมกลับ บ้านเปิดร้านกลางวัน มาเฝ้าพ่อกลางคืน แต่พ่อมาอยู่ ที่โรงพยาบาลของรัฐ ผมต้องทำแทบทุกอย่าง นั้นคือการกลับไปสู่ เหวของการเสพ ยาบ้าอีกครั้ง ผมไม่ได้ขายครับ แต่ผมต้องการเสพ ผมไม่ได้ต้องการรสชาิด ของยาแต่ผมต้องการ ฤทธิ์ของมัน เพื่อไม่ให้ ตัวเองหลับ ผมไม่ได้นอน 3วัน3คืน จนครั้งสุดท้าย เมื่อ ลูกเลี้ยงของพ่อ อาสาที่จะเฝ้าไข้ต่อ ผมจึงหยุด ยา ผมหลับไป 20 ชั่วโมงเต็มๆ เหตุผลที่ผมทำเช่นนั้น เพราะว่า "งานที่ค้างอยู่ (ร้านศักดาโฟน) กลางวัน กลางคืนผม ต้องทำหน้าที่ลูก พ่อผมเองยังแปลกใจว่า "มึงไม่นอนเลยหรือ " ผมตอบพ่อว่า"พ่อครับผมไม่ง่วง " ตอนที่พ่อผมเสีย ผมคิด อย่างเดียวว่า" ถ้าวันนี้เราอยู่ในสภาวะเช่นนี้ เราจะทำอย่างไร ถ้าลูกหลานของเรา เป็นแบบผม มีอยู่สิ่งเดียวที่ผม คิดก็คือ วันนี้ผมต้องทำงานให้ตัวเองมีเงิน ผมไม่มีเวลาที่จะเกษีณอายุ ผมต้องทำงานของผมจนผมตาย ลูกต้องได้เรียนสูงๆเท่าที่เค้าทำได้ เราต้องทำประกันชีวิตเพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกของเรา ถ้าเราทำประกันแล้ว หากเราเป็นอะไร ไป มันคือหน้าที่ของ บริษัทประกัน ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมาตีอกชกตัวว่าเรา "จน" สองมาตฐาน อะไร ที่กล่าวกันมา ไม่ต้องเรียกร้องสิทธิ์ ที่คิดว่า "คนไทยจะต้องมี คนไทยจะต้องได้ " บางวันมีตังค์แค่หลักร้อย ผมบอกตัวเองเสมอ"กูไม่ได้จน" บางวันมีในกระเป๋าเป็นหมื่น ก็บอกกับตัวเองว่า"กูยังไม่รวย" ขอโทษนะครับ คนจน มักมีแนวคิดว่า "ก็กูมันจน" พอมีโอกาสอะไรดีๆมา"ก็กูไม่สามารถ" ที่กูจนเพราะ โชคชะตา สุดท้ายก็เอามือลูบท้อง แล้วนอนรอความตาย "โทษไปทั่ว ไม่โทษตัวเองซักคน " คำถามที่อยากจะถามก็คือ 1. งานที่คุณทำคุณทำเต็มที่หรือไม่ 2. งานที่คุณทำ มันยกฐานะได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ เหตุผลใดถึงไม่เปลี่ยน งาน คนจนที่ผมเห็น อีกอย่างและส่วนใหญ่ก็คือ 1 ใจไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง 2 ใจไม่กล้าที่จะเริ่มกับสิ่งใหม่ 3 ขี้เกียจ ตัวเป็นขน ขอโทษทีเด้อ ผมไม่เคยจน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย อะไรมากมาย แค่ พอมีพอกิน อยากกินอะไรได้กิน อยากซื้ออะไรได้ซื้อตามงบ ที่มีอยู่ บนความ เหมาะสมและพอเพียง หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 06:39:31 PM พ่อผม อยู่ดีๆก็เกิดอาการหายใจไม่ออก ส่งโรงพยาบาลเอกชน(ทักษิณ) สุราษ วันแรกต้องบอกว่า ผมเองแทบช๊อค แต่สิ่งที่ทั้งหมอและพยาบาล ปฎิบัติก็คือ ทุกคน ช่วยชีวิตพ่อผมไว้ ผมจำวันนั้นได้ดีที่สุด เพราะผมคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ ปั๊มหัวใจ ใส่เครื่องช่วยหายใจสารพัด นอนห้องไอซียู 3วัน 3คือค่าใช้จ่าย 3หมื่นกว่า ยังจำได้ดี ผมถามหมอ ว่า"หมอครับพ่อผมเป็นอะไร " หมอบอกผมว่า "พ่อของน้องเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ" คำถามต่อไปผมถามหมอว่า" หมอครับทำไงถึงจะรักษษพ่อของผมหาย" หมอตอบว่า "ต้องบายพาสหัวใจ สองเส้น " ผมถามต่อว่า " เท่าไหร่ครับหมอ " หมอถอนหายใจแล้วตอบว่า "สองล้าน" ครับ สิ่งที่ผมคิดก็คือ ผมไม่โทษหมอ ที่หมอบอกราคานั้นมา แต่สิ่งที่ผมโทษก็คือ ผมโทษตัวเอง ที่เกิดมาชาตินี้ พ่อให้กำเนิดชีวิตเรา เลี้ยงดูเรา ซึ่งมองว่า มีมูลค่ามากกว่า สองล้านแน่ แต่วันนี้เราไม่สามารถ หาเงินสองล้านมาได้ ความคิดนึงที่ผุดขึ้นมาก็คือ "ถ้ามีใครซักคนมาบอกว่า "รับซื้อชีวิตของเรามูลค่า สองล้าน" ผมยอมขายชีวิตผมทันที แต่ก็ได้แต่คิด หลังจากนั้นไม่นาน " พ่อผมก็ย้ายไปที่โรงพยาบาล สุราษ(ประจำจังหวัด) และเสียชีวิต หลังจากนั้น อีกประมาณ ผมยังจำสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลได้ีดี ว่ามันรันทดแค่ไหน หลายๆเหตุการณ์ในนั้น ที่ทำให้ผมต้อง ท้อใจกับชีวิต ย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลเอกชนอีกครั้ง ตอนที่พ่อผมนอนอยู่นั้น เ้ค้าบริการดีมาก ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แม้แต่ พ่อผมจะถ่ายหนัก เค้าจัดการให้หมด ผมกลับ บ้านเปิดร้านกลางวัน มาเฝ้าพ่อกลางคืน แต่พ่อมาอยู่ ที่โรงพยาบาลของรัฐ ผมต้องทำแทบทุกอย่าง นั้นคือการกลับไปสู่ เหวของการเสพ ยาบ้าอีกครั้ง ผมไม่ได้ขายครับ แต่ผมต้องการเสพ ผมไม่ได้ต้องการรสชาิด ของยาแต่ผมต้องการ ฤทธิ์ของมัน เพื่อไม่ให้ ตัวเองหลับ ผมไม่ได้นอน 3วัน3คืน จนครั้งสุดท้าย เมื่อ ลูกเลี้ยงของพ่อ อาสาที่จะเฝ้าไข้ต่อ ผมจึงหยุด ยา ผมหลับไป 20 ชั่วโมงเต็มๆ เหตุผลที่ผมทำเช่นนั้น เพราะว่า "งานที่ค้างอยู่ (ร้านศักดาโฟน) กลางวัน กลางคืนผม ต้องทำหน้าที่ลูก พ่อผมเองยังแปลกใจว่า "มึงไม่นอนเลยหรือ " ผมตอบพ่อว่า"พ่อครับผมไม่ง่วง " ตอนที่พ่อผมเสีย ผมคิด อย่างเดียวว่า" ถ้าวันนี้เราอยู่ในสภาวะเช่นนี้ เราจะทำอย่างไร ถ้าลูกหลานของเรา เป็นแบบผม มีอยู่สิ่งเดียวที่ผม คิดก็คือ วันนี้ผมต้องทำงานให้ตัวเองมีเงิน ผมไม่มีเวลาที่จะเกษีณอายุ ผมต้องทำงานของผมจนผมตาย ลูกต้องได้เรียนสูงๆเท่าที่เค้าทำได้ เราต้องทำประกันชีวิตเพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกของเรา ถ้าเราทำประกันแล้ว หากเราเป็นอะไร ไป มันคือหน้าที่ของ บริษัทประกัน ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมาตีอกชกตัวว่าเรา "จน" สองมาตฐาน อะไร ที่กล่าวกันมา ไม่ต้องเรียกร้องสิทธิ์ ที่คิดว่า "คนไทยจะต้องมี คนไทยจะต้องได้ " บางวันมีตังค์แค่หลักร้อย ผมบอกตัวเองเสมอ"กูไม่ได้จน" บางวันมีในกระเป๋าเป็นหมื่น ก็บอกกับตัวเองว่า"กูยังไม่รวย" ขอโทษนะครับ คนจน มักมีแนวคิดว่า "ก็กูมันจน" พอมีโอกาสอะไรดีๆมา"ก็กูไม่สามารถ" ที่กูจนเพราะ โชคชะตา สุดท้ายก็เอามือลูบท้อง แล้วนอนรอความตาย "โทษไปทั่ว ไม่โทษตัวเองซักคน " คำถามที่อยากจะถามก็คือ 1. งานที่คุณทำคุณทำเต็มที่หรือไม่ 2. งานที่คุณทำ มันยกฐานะได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ เหตุผลใดถึงไม่เปลี่ยน งาน คนจนที่ผมเห็น อีกอย่างและส่วนใหญ่ก็คือ 1 ใจไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง 2 ใจไม่กล้าที่จะเริ่มกับสิ่งใหม่ 3 ขี้เกียจ ตัวเป็นขน ขอโทษทีเด้อ ผมไม่เคยจน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย อะไรมากมาย แค่ พอมีพอกิน อยากกินอะไรได้กิน อยากซื้ออะไรได้ซื้อตามงบ ที่มีอยู่ บนความ เหมาะสมและพอเพียง +1 ครับ ปัญหาในภาพรวมอยู่ที่ระบบครับ รพ.ของรัฐ มีแพทย์ เครื่องมือ ห้องผ่าตัด ที่จำกัด แต่ต้องรับคนไข้ " ไม่จำกัด " โดยผู้ป่วยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ ยกตัวอย่างว่า ผ่าตัดหัวใจได้วันละ 3 เคส( งบประมาณและศักยภาพสูงสุดเท่านี้ ในทรัพยากรที่จำกัด ) มีคนมารอคิวผ่าตัด 200 คน โรคหลอดเลือดหัวใจทั้งหมด ก็ต้องรอตามคิว กว่าคนที่ 200 จะได้ผ่า เวลาอาจผ่านไปแล้วสามเดือน ( ซึ่งในบางรายอาจสายไป ) ถ้าจะทำให้ผ่าตัดมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มห้องผ่าตัด เพิ่มเครื่องมือ ซึ่งราคาไม่ถูกเลย ( รัฐมีงบให้จำกัด ) เพิ่มเจ้าหน้าที่ เพิ่มแพทย์ ขยายอัตราเพิ่ม ฯลฯ ( ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีงบ ) ถ้าไป รพ. เอกชน ทุกอย่างจะสะท้อนต้นทุนบวกกำไร ( ก็ รพ. ไม่ได้รับเงินจากรัฐ ค่าใช้จ่ายเก็บจากผู้ป่วยล้วนๆ ) ราคาที่ออกมา จึงแพงมาก ( แต่ได้ผ่าเลย ไม่ต้องรอคิว ) สรุปสองมาตรฐานมีจริงครับ และจะยังมีตลอดไป หากประเทศยังไม่ร่ำรวยพอจนเป็นรัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบ และช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยมีมากครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 08:08:26 PM ที่ผมมองว่าระบบมันเพี้ยน เพราะผู้มีอำนาจพยายามทำให้บริการสาธารณะมีคุณภาพที่ "ต่ำ" กว่ามาตราฐานที่ควรจะเป็น เพื่อผลักดันปัจจัยพื้นฐาน "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" ที่ทุกขั้นตอนพึ่งหมอหมด เข้ามา "จ่าย" ให้กับเครือข่ายของผู้ธุรกิจของผู้มีอำนาจ...
ผมมองเหมือน "พลังงาน" แพงเท่าไหร่ก็ต้องจ่าย ผูกขาดไปแล้วแต่คนไม่รู้มันเยอะ ผู้มีอำนาจเลยทำมาหากินกับคนทั้งประเทศได้อย่างสบาย... ทีนี้ดูด้าน "วิชาชีพ" ถ้าซ่อมรถยนต์ กุญแจปากตายเบอร์ 10 ไม่มี ยังเอาประแจเลื่อนใช้แทนได้ แค่หัวน็อตเยิน... แต่ถ้าเป็นช่าง "ซ่อมมนุษย์" เครื่องมือหรือองค์ประกอบไม่พร้อมท่านต้องโวยวายครับ... นิ้วผมโดนระเบิดจากแก๊สน้ำตา ล้างแผลทุกวันโดยพยาบาล ซักพักหมอมาดูนิ้วผมแล้วเห็นเนื้อที่นิ้วผมฟู หมอเรียกพยาบาลมาดูว่าเป็นการล้างแผลที่ผิดต้องทำอย่างนี้... หมอเอามีดคว้านเนื้อที่ฟูของผมออก และเอาผ้าก็อตจุ่มเพื่อดึงหนองที่อยู่ข้างในออก "ไม่ต้องกลัวคนไข้เจ็บ ไม่งั้นแผลไม่หาย...." ผมต้องสะกิด... "คุณหมอ...ยังไม่ได้ฉีดยาชาให้ผมเลยครับ..." :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 08:27:43 PM ส่วนเรื่องประกัน... มันคือธุรกิจที่แชร์ความเสี่ยง มีแต่ได้กับได้... แต่พอคุณอับจนไม่มีเงินจ่ายเบี้ย(กินเปล่า) ให้มันดูสิ...
แค่วันเดียวหมดความคุ้มครองทันที.... เดี๋ยวนี้ไม่รู้เอาเบอร์มาจากไหน โทรมาได้ทั้งวัน ลองจ่ายไปปุ๊ปเงียบปั๊บ ตัดขาดกันทันที ที่เหลือคือภาระ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 08:55:12 PM ส่วนเรื่องประกัน... มันคือธุรกิจที่แชร์ความเสี่ยง มีแต่ได้กับได้... แต่พอคุณอับจนไม่มีเงินจ่ายเบี้ย(กินเปล่า) ให้มันดูสิ... แค่วันเดียวหมดความคุ้มครองทันที.... เดี๋ยวนี้ไม่รู้เอาเบอร์มาจากไหน โทรมาได้ทั้งวัน ลองจ่ายไปปุ๊ปเงียบปั๊บ ตัดขาดกันทันที ที่เหลือคือภาระ... เรื่องประกันนั้น ถ้ามองมองได้ สองมุมครับ มุมที่ 1 ที่บอกว่าได้กับได้ ในกรณีที่ เรา ไม่เป็นอะไร ไม่ได้รับการรักษา หรือขาดส่งตาม ข้อตกลง ของเค้า ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ถ้ารับได้ ต้องเคารพกฎกติกาของเค้า แต่ถ้าอยู่ในกติกาของเค้า จ่ายครบ พี่ก็สามารถได้เงินคืน มุมที่ 2 ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า /วันพรุ่งนี้ เราอาจจะขับรถออกไป โดนรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยว ชนแขนขาหัก หรือเดินเข้าห้องน้ำพื้นลื่น หัวไปฟาดกับ ขอบโถส้วม อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มันขึ้นที่มุมมองน่ะครับพี่ ถ้าคิดว่า พี่มีเงินมากพอ ที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ก็ยินดีด้วยครับ พี่ไม่ต้องสนใจเรื่องประกันพวกนี้ สมมุติว่า..เกิดมีอันเป็นไป ขึ้นมา(ขออภัยนะครับผมสมมุติ ไม่มีเจตนาแช่ง) อย่างน้อย สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ ลูกเมีย(ผู้รับผลประโยชน์) ก็ได้เงิน จากประกัน อาจจะแสนห้า หรือ เท่าไหร่ ก็ว่ากันไป เงินจำนวนนี้สามารถต่อชีวิตให้คนข้างหลังได้ ไม่มากก็น้อย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เว้นซะแต่ พี่มั่นใจว่ามีเงินมากพอ จะให้ให้เค้าดูแลชีวิต เค้าด้วยตัวเค้าเองได้ ผมขอสรุปด้วยคำถาม " ในฐานะที่เป็น หนึ่งใน สมาชิกเวป อวป อยากถามว่า "พวกท่าน ซื้อปืนมาทำไม " เคยคิดถึงค่าน้ำมันล้างปืน ค่ากระสุนที่เอาไปยิงเป้า ค่าโน้นค่านี้ ทั้งๆที่ เป็นสิ่งที่ อยู่นอกเหนือ ปัจจัยทั้ง 5 (คนส่วนใหญ่ คิดว่าไม่มีความจำเป็น) แล้วถ้าท่านตอบว่า " เพื่อป้องกันทรัพท์สินและชีวิต " อีก หนึ่งคำถาม แล้วท่านจะป้องกันเมื่อไหร่ และตอนไหน ล่ะครับ ป.ล ที่บอกว่า "ผมขายประกัน ผมล้อเล่นครับ ผมไม่ได้ขายประกัน " หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:03:38 PM ส่วนเรื่องประกัน... มันคือธุรกิจที่แชร์ความเสี่ยง มีแต่ได้กับได้... แต่พอคุณอับจนไม่มีเงินจ่ายเบี้ย(กินเปล่า) ให้มันดูสิ... แค่วันเดียวหมดความคุ้มครองทันที.... เดี๋ยวนี้ไม่รู้เอาเบอร์มาจากไหน โทรมาได้ทั้งวัน ลองจ่ายไปปุ๊ปเงียบปั๊บ ตัดขาดกันทันที ที่เหลือคือภาระ... เรื่องประกันนั้น ถ้ามองมองได้ สองมุมครับ มุมที่ 1 ที่บอกว่าได้กับได้ ในกรณีที่ เรา ไม่เป็นอะไร ไม่ได้รับการรักษา หรือขาดส่งตาม ข้อตกลง ของเค้า ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ถ้ารับได้ ต้องเคารพกฎกติกาของเค้า แต่ถ้าอยู่ในกติกาของเค้า จ่ายครบ พี่ก็สามารถได้เงินคืน มุมที่ 2 ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า /วันพรุ่งนี้ เราอาจจะขับรถออกไป โดนรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยว ชนแขนขาหัก หรือเดินเข้าห้องน้ำพื้นลื่น หัวไปฟาดกับ ขอบโถส้วม อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มันขึ้นที่มุมมองน่ะครับพี่ ถ้าคิดว่า พี่มีเงินมากพอ ที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ก็ยินดีด้วยครับ พี่ไม่ต้องสนใจเรื่องประกันพวกนี้ สมมุติว่า..เกิดมีอันเป็นไป ขึ้นมา(ขออภัยนะครับผมสมมุติ ไม่มีเจตนาแช่ง) อย่างน้อย สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ ลูกเมีย(ผู้รับผลประโยชน์) ก็ได้เงิน จากประกัน อาจจะแสนห้า หรือ เท่าไหร่ ก็ว่ากันไป เงินจำนวนนี้สามารถต่อชีวิตให้คนข้างหลังได้ ไม่มากก็น้อย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เว้นซะแต่ พี่มั่นใจว่ามีเงินมากพอ จะให้ให้เค้าดูแลชีวิต เค้าด้วยตัวเค้าเองได้ ผมขอสรุปด้วยคำถาม " ในฐานะที่เป็น หนึ่งใน สมาชิกเวป อวป อยากถามว่า "พวกท่าน ซื้อปืนมาทำไม " เคยคิดถึงค่าน้ำมันล้างปืน ค่ากระสุนที่เอาไปยิงเป้า ค่าโน้นค่านี้ ทั้งๆที่ เป็นสิ่งที่ อยู่นอกเหนือ ปัจจัยทั้ง 5 (คนส่วนใหญ่ คิดว่าไม่มีความจำเป็น) แล้วถ้าท่านตอบว่า " เพื่อป้องกันทรัพท์สินและชีวิต " อีก หนึ่งคำถาม แล้วท่านจะป้องกันเมื่อไหร่ และตอนไหน ล่ะครับ ป.ล ที่บอกว่า "ผมขายประกัน ผมล้อเล่นครับ ผมไม่ได้ขายประกัน " เพิ่มเติมอีกนิดครับ ถ้าสมมุติว่า "พี่ตกอยู่ในสถานนะเดียวกับพ่อผม ผมถามหมอ ว่า"หมอครับพ่อผมเป็นอะไร " หมอบอกผมว่า "พ่อของน้องเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ" คำถามต่อไปผมถามหมอว่า" หมอครับทำไงถึงจะรักษษพ่อของผมหาย" หมอตอบว่า "ต้องบายพาสหัวใจ สองเส้น " ผมถามต่อว่า " เท่าไหร่ครับหมอ " หมอถอนหายใจแล้วตอบว่า "สองล้าน" ครับ เหตุผลที่เอามาเปรียบเทียบ เพราะว่า พ่อผมกินเหล้า สูบบุหรี่ เหมือนกับพี่ พี่ตั้ว คิดว่า พี่ตั้ว เตรียมการณ์อะไร เอาไว้บ้างแล้วยังครับ โรคพวกนี้ เวลาเป็น ไม่ได้เป็นโรคเดียว นะครับ มันมักมีโปรโมชั่น โรคไต ความดัน แถมมาด้วยเสมอ ถ้าพี่ตั้วเตรียมการณ์เอาไว้แล้ว ก็ขออภัยนะครับ ที่ถาม ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:13:16 PM เรื่องประกันฯ นี่ก็อีกเรื่องนึงครับ... เรื่องนี้ก็ยาวได้ไม่แพ้เรื่องตามท้องเรื่องในกระทู้นี้แหละครับ, หากพูดเรื่องคดีที่เกิดระหว่างคนเอาประกันกับ บ.ประกันฯ นี่ก็ยาวววว... แฮ่ๆ...
หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 09:41:44 PM เรื่องประกันฯ นี่ก็อีกเรื่องนึงครับ... เรื่องนี้ก็ยาวได้ไม่แพ้เรื่องตามท้องเรื่องในกระทู้นี้แหละครับ, หากพูดเรื่องคดีที่เกิดระหว่างคนเอาประกันกับ บ.ประกันฯ นี่ก็ยาวววว... แฮ่ๆ... ครับ เรื่องประกันนี้ยาวเหมือนกันครับ แต่สิ่งนึงที่ผมคิดก็คือ เหตุผลที่เลือก เอไอเอ เพราะ เค้าอยู่มานาน กว่าบริษัทอื่นๆ ผมมองว่า " ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นร้าน ก๋วยเตี๋ยว ร้าน ขายข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ถ้าเค้าไม่เจ๋งไม่อร่อยจริง เค้าอยู่ได้ไม่นานหรอก ครับ แสดงว่าเค้าต้องมีอะไรดี ที่สามารถทำให้ลูกค้าติดใจได้ " งานขายประกันก็เหมือนกัน ถ้าไม่ดีจริง เค้าอยู่ไม่ได้เป็น สิบๆปีหรอกครับแถมลูกค้ายังหนาแน่น เหมือนเดิม แต่มันก็ขึ้นอยู่ที่ ผู้ขายประกัน ให้เราด้วย สำหรับผม ที่ประทับใจ คือ เอไอเอ (เพชรตาปี) สายงานอื่นผมไม่ทราบ แต่สายงานนี้ ไปยืนรอผมที่โรงพยบาลตั้งแต่ ผมกำลังนำส่งโรงพยาบาลด้วยซ้ำ สายงานอื่นผมเองก็ไม่ทราบ ตอนนั้นทำประกัน อุบัติเหตุ (บัตรทอง)ปีละ2500 บาท ครับ เรื่องประกันนี้ต้องบอกตามตรงว่า " ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องเลวๆของคนขายประกันคนอื่นแล้วเอามาเป็นตัวตัดสินว่า เราจะไม่ทำ แต่จะคิดถึง โรงพยาบาลที่ครอบคลุม ในพื้นที่มากกว่า " จะมีอีก 2 กรณี ที่ผมไม่คิดจะทำกับ ผู้ติดต่อเรื่องการทำประกัน 1. โจมตีบริษัทอื่นประมาณว่า "ของผมดีกว่าบริษัทนั้น ถูกกว่าบริษัทนี้" เพราะว่า ถ้าของคุณดีจริง ก็บอกมาซิ กูคิดเองได้ ว่าบริษัทไหนดี ไม่ต้องมาด่าบริษัทอื่นให้กูฟังหรอก ::012:: (เจอมาแล้ว ของไทยสมุท ) เค้าไม่ได้มาขายด้วยซ้ำผมเดินไปหาเองถึงที่ 2. คนขายกับผมไม่รู้จักกันมาก่อน หรือไม่เคยเห็นผลงานของเค้า ยิ่งพวกโทรมาเลิกคุย เพราะเมื่อถึงเวลา เ้ค้าไม่ได้มาดูแลเรา หรือประสาน งานให้เรา 1เหตุการณ์ที่จำได้ เกิดเหตุผมขับรถ ไปชนกับรถปิ๊กอัพ ที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ผมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ (รัฐ) นายประกัน ทำ เรื่องให้โรงพยาบาลส่งตัวผมเข้าโรงพยาบาลทักษิณ(เอกชน) ทันที จำได้ว่า โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ได้แค่ ล้างแผล ให้ผมเท่านั้น ส่วนขั้นตอนอื่น มาทำที่โรงพยาบาลเอกชน และนี้คือสาเหตุ ที่ผมชอบเอไอเอ หน่วยเพชรตาปี หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:04:21 PM ถ้าผมจะตอบว่าผมเตรียมอะไรไว้ให้ครอบครัว ก็คือ "ประกัน" บังฟีนจะฮามั๊ยครับ...
กู้ซื้อบ้าน ก็บังคับประกัน... ซื้อรถ ก็บังคับประกัน.... 2 ปีก่อน กู้เงิน 3 ล้านทำธุรกิจ... ร่างกายผมก็ไม่ผ่านประกันค้ำการกู้ตั้งนานแล้ว กับกติกาหยุมหยิม... และสาเหตุการตายของผม ก็คงไม่ใช่เพราะ "ถุงลมโป่งพอง" หรือ "ตับแข็ง" หรอก... เดินคุมงานอยู่ชั้น 4 บนคาน พลาดตกตึกก็ตายแล้ว เดินอยู่บนความกว้างแค่ 20 ซม. หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:07:20 PM เรื่องประกันฯ นี่ก็อีกเรื่องนึงครับ... เรื่องนี้ก็ยาวได้ไม่แพ้เรื่องตามท้องเรื่องในกระทู้นี้แหละครับ, หากพูดเรื่องคดีที่เกิดระหว่างคนเอาประกันกับ บ.ประกันฯ นี่ก็ยาวววว... แฮ่ๆ... เอาซักหน่อยครับ อยากฟังพี่สมชาย :VOV: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:07:57 PM ถ้าผมจะตอบว่าผมเตรียมอะไรไว้ให้ครอบครัว ก็คือ "ประกัน" บังฟีนจะฮามั๊ยครับ... กู้ซื้อบ้าน ก็บังคับประกัน... ซื้อรถ ก็บังคับประกัน.... 2 ปีก่อน กู้เงิน 3 ล้านทำธุรกิจ... ร่างกายผมก็ไม่ผ่านประกันค้ำการกู้ตั้งนานแล้ว กับกติกาหยุมหยิม... และสาเหตุการตายของผม ก็คงไม่ใช่เพราะ "ถุงลมโป่งพอง" หรือ "ตับแข็ง" หรอก... เดินคุมงานอยู่ชั้น 4 บนคาน พลาดตกตึกก็ตายแล้ว เดินอยู่บนความกว้างแค่ 20 ซม. ครับ พี่ สรุปพี่ก็ทำอยู่ ก็แค่นั้นครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:22:15 PM ถ้าผมจะตอบว่าผมเตรียมอะไรไว้ให้ครอบครัว ก็คือ "ประกัน" บังฟีนจะฮามั๊ยครับ... กู้ซื้อบ้าน ก็บังคับประกัน... ซื้อรถ ก็บังคับประกัน.... 2 ปีก่อน กู้เงิน 3 ล้านทำธุรกิจ... ร่างกายผมก็ไม่ผ่านประกันค้ำการกู้ตั้งนานแล้ว กับกติกาหยุมหยิม... และสาเหตุการตายของผม ก็คงไม่ใช่เพราะ "ถุงลมโป่งพอง" หรือ "ตับแข็ง" หรอก... เดินคุมงานอยู่ชั้น 4 บนคาน พลาดตกตึกก็ตายแล้ว เดินอยู่บนความกว้างแค่ 20 ซม. ครับ พี่ สรุปพี่ก็ทำอยู่ ก็แค่นั้นครับ เข้าใจคำว่าบังคับทำมั๊ยครับ... กู้แบงค์กรุงเทพ ก็มีกรุงเทพประกันภัยมาบังคับให้ทำ เพราะเกรงว่าจะมีใครมาเผาบ้าน แบงค์กรุงเทพกลัวว่าจะเหลือแต่ที่ดินก็เลยแชร์ความเสี่ยง... เอาเงินจากคนที่บ้านไม่ไฟไหม้มาจ่ายบ้านที่ไฟไหม้ และบังคับจ่ายสดตามปีที่กู้ เช่นกู้ 30 ปี จ่ายก่อนเลย 300,000 ไม่มีนตังค์ ก็เพิ่มวงเงินกู้ไปแปะกับแบงค์กรุงเทพ... ยุทธจักรสังเวียนนี้เยอะครับ... ยังไม่รวมภาคสมัครใจที่ส่งรูปเซลมา บางทียังงง จะขายประกัน หรือจะขายตัว.... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ ธันวาคม 27, 2011, 10:26:21 PM ที่เกลียดก็ประเภทไม่ค่อยฟังคนไข้นี่แหละครับ จะรู้ดีกว่าตัวคนเจ็บได้ยังไง บางทีบอกไปยังไม่เชื่อก็มี ตัวผมนะไม่เท่าไหร่ แต่พวกลูกๆนี่ เจอมาเองเลยครับ คนเล็กออกมาแค่สองสามวัน หมอที่ดูแลยังหนุ่มๆอยู่เลยมาบอกว่าต้องเจาะหลังไปตรวจหน่อยเพราะลูกผมมีไข้ต่ำๆ แล้วก็มาพูดแบบว่าถ้าไม่ทำนะจะเสี่ยงอย่างนู้นอย่างนี้.................. จนผมต้องยอมให้ทำ ปรากฏว่าโดนไปสองหมื่น โดยที่ไม่ได้มีอะไรเลย หมอคนที่ทำคลอดมาตัดไหมให้ภรรยาผม ถามว่าทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ก็บอกไปว่าลูกย้ายไปอยู่ ไอซียู เจาะหลังรอผลอยู่ แกยังส่ายหัวเลย บอกว่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไม่ทันจะออกจ้ากท้องก็ร้องดังลั่นแล้ว แข็งแรงจะตายไป ทุกวันนี้ลูกผม ขวบกับสิบเดือน ซนยังกับลิง ไม่เคยเจ็บไข้อะไรเลย นอกจากรับวัคซีนตามกำหนด แค่นั้นเอง ไปว่ายน้ำในสระ คิ้วกระแทกบันไดเลือดซิบยังไม่ร้องสักแอะ :~) ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ ธันวาคม 27, 2011, 11:24:32 PM การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลของรัฐทุกวันนี้ ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน ครอบคลุมไปถึงต่างด้าวด้วย ยกเว้นคนที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาจากราชการ ถ้าท่านไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วมาบ่นว่าแพง ก็ไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ครับ เพราะโรงพยาบาลรัฐมันห่วยแตกครับ คนที่พอจะมีเงินหน่อยเลยไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน ดีกว่ารอความตายอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ :) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: I Love My King (AkNaRiN~*) ที่ ธันวาคม 28, 2011, 01:07:01 AM สิ่งที่ทำให้รพ.เอกชนกับรพ.รัฐเท่าที่นึกออกด้วยสมองอันรู้เกี่ยวกับระบบน้อยนิดนะครับ
ทรัพยากรบุคคล เกี่ยวกับนิสัยแต่ละบุคคล เกี่ยวกับจำนวนงาน/คนไข้ต่อจำนวนเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับรายได้เมื่อเปรียบเทียบกับงานในรพ.เอกชน งบประมาณ รพ.รัฐอาจได้รับโดยเฉลี่ยคิดเป็นต่อหัวในประชากรต่อพื้นที่ สมมติว่าปีนี้ได้๒๐ล้าน ก็ต้องบริหารให้ได้ภายในปีงบประมาณ ไม่ว่าคนไข้มีมากน้อยแค่ไหน หากคนไข้มากก็ไม่สามารถขอเพิ่มได้... ถ้าผมเข้าใจถูกตรงนี้แหละครับที่ทำให้มันต่างกัน มาตราฐานที่คุณสมชายถามหามันก็คงตกหล่นไปตรงนี้ ขณะเดียวกันหากเป็นรพ.เอกชน ก็อาจใส่ใจมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย๑๐๐เปอร์เซนต์ หากต้องมีการตรวจสอบการแพ้คนไข้จะยินดีจ่ายเพิ่มไหม? มีคนไข้ซักกี่คน ที่ทราบว่าตนเองแพ้ยาตรงไหน ผมเองเคยแพ้ยาตัวหนึ่งทุกวันนี้เวลาหมอถามก็บอกไม่ได้ถึงชื่อยารู้แต่ว่ายาแก้แพ้... แล้วหมอจะรู้ไหม? :~) ปล.ก็ใช่ว่ารพ.เอกชนจะไม่พลาดนะครับ เมื่อสองปีก่อนพ่อผม เส้นเลือดในสมองแตก ส่งรพ.ทันหมอเจาะระบายเพื่อลดความดันในสมอง... ยื้อชีวิตท่านได้อยู่ประมาณ๖เดือน สุดท้ายก็ยื้อไม่ไหว ทั้งๆที่สู้เต็มที่ หมดไปเป้นล้าน ...ขณะที่พ่อยังไม่เสีย เอาผลเอ็กซ์เรย์ ไปให้หมออีกที่ดู หมอเค้าเทียบก่อนเจาะ กับหลังเจาะ หมอคนนี้อ้อมแอ้มบอกว่า ถ้ามาหาเขาตั้งแต่ทีแรก คงอาการไม่หนักเท่านี้ แล้วก็บอกตรงๆว่า ย้ายมาอยู่กับเขาตอนนี้ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องมา ...ทั้งๆที่หาข้อมูลเรื่องหมอแล้ว งบประมาณพร้อมสู้ แต่ตัดสินใจพลาดไปนิดเดียว...ต้องเสียพ่อไปคนนึง :~) หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 28, 2011, 11:45:30 AM เรื่องประกันฯ นี่ก็อีกเรื่องนึงครับ... เรื่องนี้ก็ยาวได้ไม่แพ้เรื่องตามท้องเรื่องในกระทู้นี้แหละครับ, หากพูดเรื่องคดีที่เกิดระหว่างคนเอาประกันกับ บ.ประกันฯ นี่ก็ยาวววว... แฮ่ๆ... เอาซักหน่อยครับ อยากฟังพี่สมชาย :VOV: ขอบคุณครับ แต่ม่ายหวายครับ มันแยะเกินเดี๋ยวจบไม่ลง... นายสมชายคอยตามน้ำท่านอื่นดีกว่าครับ... แฮ่ๆ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 28, 2011, 12:44:15 PM สิ่งที่ทำให้รพ.เอกชนกับรพ.รัฐเท่าที่นึกออกด้วยสมองอันรู้เกี่ยวกับระบบน้อยนิดนะครับ ทรัพยากรบุคคล เกี่ยวกับนิสัยแต่ละบุคคล เกี่ยวกับจำนวนงาน/คนไข้ต่อจำนวนเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับรายได้เมื่อเปรียบเทียบกับงานในรพ.เอกชน งบประมาณ รพ.รัฐอาจได้รับโดยเฉลี่ยคิดเป็นต่อหัวในประชากรต่อพื้นที่ สมมติว่าปีนี้ได้๒๐ล้าน ก็ต้องบริหารให้ได้ภายในปีงบประมาณ ไม่ว่าคนไข้มีมากน้อยแค่ไหน หากคนไข้มากก็ไม่สามารถขอเพิ่มได้... ถ้าผมเข้าใจถูกตรงนี้แหละครับที่ทำให้มันต่างกัน มาตราฐานที่คุณสมชายถามหามันก็คงตกหล่นไปตรงนี้ ขณะเดียวกันหากเป็นรพ.เอกชน ก็อาจใส่ใจมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย๑๐๐เปอร์เซนต์ หากต้องมีการตรวจสอบการแพ้คนไข้จะยินดีจ่ายเพิ่มไหม? มีคนไข้ซักกี่คน ที่ทราบว่าตนเองแพ้ยาตรงไหน ผมเองเคยแพ้ยาตัวหนึ่งทุกวันนี้เวลาหมอถามก็บอกไม่ได้ถึงชื่อยารู้แต่ว่ายาแก้แพ้... แล้วหมอจะรู้ไหม? :~) ปล.ก็ใช่ว่ารพ.เอกชนจะไม่พลาดนะครับ เมื่อสองปีก่อนพ่อผม เส้นเลือดในสมองแตก ส่งรพ.ทันหมอเจาะระบายเพื่อลดความดันในสมอง... ยื้อชีวิตท่านได้อยู่ประมาณ๖เดือน สุดท้ายก็ยื้อไม่ไหว ทั้งๆที่สู้เต็มที่ หมดไปเป้นล้าน ...ขณะที่พ่อยังไม่เสีย เอาผลเอ็กซ์เรย์ ไปให้หมออีกที่ดู หมอเค้าเทียบก่อนเจาะ กับหลังเจาะ หมอคนนี้อ้อมแอ้มบอกว่า ถ้ามาหาเขาตั้งแต่ทีแรก คงอาการไม่หนักเท่านี้ แล้วก็บอกตรงๆว่า ย้ายมาอยู่กับเขาตอนนี้ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องมา ...ทั้งๆที่หาข้อมูลเรื่องหมอแล้ว งบประมาณพร้อมสู้ แต่ตัดสินใจพลาดไปนิดเดียว...ต้องเสียพ่อไปคนนึง :~) ขอบคุณมากครับ... และเสียใจเรื่องคุณพ่อด้วยครับ... หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 28, 2011, 04:18:59 PM ถ้อยคำอาจจะเรียบเรียงผิดครับ
ผมเห็นหมอหลายๆท่าน ทั้งที่น่าจะไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือทำคลีนิคส่วนตัวให้เต็มเวลา เพื่อรายได้ที่จะเพิ่มมากขั้น แต่ท่านเหล่านั้นหาทำอย่างนั้นไม่ ยังคงทำงานกับโรงพยาบาลรัฐ เช้าก็มาเข้าเวรตรวจคนไข้ ผมเชื่อว่าคุณหมอเหล่านี้ท่านรู้ว่าที่ท่านจบแพทย์มาได้เพราะเงินภาษีของประชาชนทุกคนครับ ขอแสดงความนับถือคุณหมอเหล่านั้นครับ หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ ธันวาคม 28, 2011, 04:21:20 PM ถ้อยคำอาจจะเรียบเรียงผิดครับ ผมเห็นหมอหลายๆท่าน ทั้งที่น่าจะไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือทำคลีนิคส่วนตัวให้เต็มเวลา เพื่อรายได้ที่จะเพิ่มมากขั้น แต่ท่านเหล่านั้นหาทำอย่างนั้นไม่ ยังคงทำงานกับโรงพยาบาลรัฐ เช้าก็มาเข้าเวรตรวจคนไข้ ผมเชื่อว่าคุณหมอเหล่านี้ท่านรู้ว่าที่ท่านจบแพทย์มาได้เพราะเงินภาษีของประชาชนทุกคนครับ ขอแสดงความนับถือคุณหมอเหล่านั้นครับ แถวนี้มีอยู่ท่านนึงครับ ศัลยแพทย์ชั้นอ๋องเสียด้วย ถ้ายอมไปโรงพยาบาลเอกชนลูกสาว2คนก็ได้นั่งเฟอรารี่ไปโรงเรียนกันแล้ว ::014:: หัวข้อ: Re: ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 28, 2011, 05:37:38 PM ถ้อยคำอาจจะเรียบเรียงผิดครับ ผมเห็นหมอหลายๆท่าน ทั้งที่น่าจะไปทำงานโรงพยาบาลเอกชนหรือทำคลีนิคส่วนตัวให้เต็มเวลา เพื่อรายได้ที่จะเพิ่มมากขั้น แต่ท่านเหล่านั้นหาทำอย่างนั้นไม่ ยังคงทำงานกับโรงพยาบาลรัฐ เช้าก็มาเข้าเวรตรวจคนไข้ ผมเชื่อว่าคุณหมอเหล่านี้ท่านรู้ว่าที่ท่านจบแพทย์มาได้เพราะเงินภาษีของประชาชนทุกคนครับ ขอแสดงความนับถือคุณหมอเหล่านั้นครับ แถวนี้มีอยู่ท่านนึงครับ ศัลยแพทย์ชั้นอ๋องเสียด้วย ถ้ายอมไปโรงพยาบาลเอกชนลูกสาว2คนก็ได้นั่งเฟอรารี่ไปโรงเรียนกันแล้ว ::014:: นายสมชายถึงได้ย้ำมาตลอดในกระทู้นี้ไงครับ ว่าหมอคือผู้ประกอบโรคศิลปะแขนงหนึ่ง มีฝีมือแตกต่างกันตามฝีมือของแต่ละท่านครับ... สำหรับนายแพทย์ท่านที่กล่าวถึงใน Post นี้นั้น นับว่าเป็นบุญกุศลแก่ประชาชนแถบราชบุรีครับ... |