เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 08:28:09 AM



หัวข้อ: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 08:28:09 AM
เขาว่าเขาได้เสียกับผู้หญิงคนหนึ่ง มารู้ทีหลังว่าผู้หญิงเขาเป็นเอดส์และไม่ได้มีการใส่ถุงยางด้วย
( ได้เสียกัน 2 ครั้ง )   เขาว่าจะทำไงดี ถ้าตรวจเจอเชื้อ เขาก็คงไม่มีเรี่ยวแรง และจิตใจในการทำงาน
ผมก็บอกไปว่า ถ้าเจอเชื้อเร็ว เรารักษาได้เร็ว เราก็อยู่ได้นานขึ้น เผลอๆอีกไม่นานอาจจะมียารักษาให้หายขาดได้
เด็กคนนี้ก็ยังไม่กล้าไปตรวจ ผมไม่รู้จะพูดโน้มน้าวอย่างไรดีครับ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 11, 2012, 08:32:33 AM
                  ถ้าติดเชื้อแล้วไม่รับรักษาปล่อยให้ลุกลามจะยิ่งยากเกินแก้ ...... ต้องเข้มแข็งครับยอมรับสิ่งที่ไปกินฟรีมา   ::013::

                  แต่ถ้าเกิดโชคดีไม่พบเชื้อ   คราวหลังก็อย่ามักง่าย ถุงยางราคาไม่กี่บาท หรือหลีกเลี่ยงการกินของ(ที่คิดว่า)ฟรี





หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 08:32:50 AM
 :o โชคดีครับ เจอรักจริงเข้าแล้ว  ::003:: ::003::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 11, 2012, 08:33:10 AM
บอกไปเลยครับ
ติด ชัวร์
ให้ออกกำลังกาย จะได้สุขภาพแข็งแรง
โรคมันจะไม่กำเริบ
อาหาร ทานให้ครบหมู่
สุรา ยาเมา อย่าไปดื่ม อย่าไปสูบ
ทำใจ ให้เบิกบาน
อย่าไปหมกหมุ่น
ทุกอย่างจะเป็นปกติสุข


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 11, 2012, 08:33:13 AM
เขามีคลีนิคนิรนามนะ
ผมว่าคลีนิคนี้ตรงประเด็นนะผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: assassin5844 ที่ มกราคม 11, 2012, 09:04:51 AM
เดี๋ยวนี้เขามียาต้าน กินยาตลอด รักษาสุขภาพดีๆ
อยู่ได้เป็นสิบปียังมี ถ้าโชคดี ภายในสิบปีนี้เขาอาจ
จะวิจัยยารักษาสำเร็จก็ได้ ขอให้โชคดี
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มีลูกสอนลูกชายว่า ถ้าจะ...จริงๆ
อย่างน้อยควรรู้จักป้องกันตัวเอง จนกว่าจะมีการตรวจ
เลือดด้วยกันทั้งสองฝ่าย


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ มกราคม 11, 2012, 09:15:53 AM
โอกาสติดเชื้อสูงมากครับ อาการที่จะตามมาหากเชื้อลุกลาม มีผลเสียต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก
ต้องแนะนำครับ ถ้าได้รับยาต้านเร็วเท่าไหร่.......โอกาสมีชีิวิตปกติ มีมากขึ้นเท่านั้นครับ.....


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 09:16:37 AM
เดี๋ยวนี้เขามียาต้าน กินยาตลอด รักษาสุขภาพดีๆ
อยู่ได้เป็นสิบปียังมี ถ้าโชคดี ภายในสิบปีนี้เขาอาจ
จะวิจัยยารักษาสำเร็จก็ได้ ขอให้โชคดี
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มีลูกสอนลูกชายว่า ถ้าจะ...จริงๆ
อย่างน้อยควรรู้จักป้องกันตัวเอง จนกว่าจะมีการตรวจ
เลือดด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ตามนี้ครับ.....คนข้างบ้านผมอยู่มาร่วม 20 ปีแล้ว ยังไม่ตายครับ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: TWC - รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 09:20:10 AM
โรคนี้ปัจจุบันไม่ตายนะครับ
แต่ต้องกินยาตลอดชีวิต


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 11, 2012, 09:23:02 AM
      

       ผมเคยรู้จักคนที่เป็นเอดส์พร้อมกัน 2 คน บ้านก็ใกล้ๆกันนั่นแหละ เป็นคู่หูเที่ยวซ่องด้วยกัน

       คนนึงไปตรวจพอรู้ว่าเป็นอดส์กลับมาบ้านนอนซึมอย่างเดียวเลยครับ อยู่ไม่เกิน 4 เดือนครับ ....ตาย

       อีกคนนึงเป็นช่างตัดผม ไม่ไปตรวจ ทำชีวิตปกติ ทอดแห ตกกุ้งทุกวัน อารมณ์ดีอีกตะหาก อยู่ได้เกือบ 3 ปี แต่ก็ตายเหมือนเดิม

       ไม่รู้จะแนะนำ หรือปลอบใจ ยังไงครับ สำคัญที่สุดคือเจ้าตัวต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป และปลงให้ได้ครับ ไม่งั้นตายเร็วแน่นอน  ::014::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มกราคม 11, 2012, 09:43:51 AM
เพื่อนผมเป็นเอดส์ มามากกว่า 6 ปี ทุกวันนี้ ก็ยังติดต่อกัน กินข้าวด้วยกัน  ที่สำคัญ มันสามารถล้มผมได้สบายๆ เอาเป็น ว่า วิ่งแข่งกับมันผมแพ้ แน่นอน ครับ

เหตุผล ที่มันยังอยู่ได้ ก็คือ ใจมันสู้ ครับ กินอาหาร ปกติ ออกกำลังกาย กินยา ตามหมอสั่ง ไม่เครียด 

ผมยังคิดอยู่เลยครับว่า " ผมจะตายก่อนมันหรือปล่าว "  :~)   โรคนี้เท่าที่เห็นมา จากเพื่อนที่เป็นโรค นี้ถึง 3 คน  ส่วนตัวผมขอสรุปได้ว่า  ยาที่ดีที่สุดคือ ความเข้าใจ และกำลังใจ บวกกับการ

รักษา จากแพษย์ ครับ  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจ  จากคนรอบข้าง  ::014::



หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ มกราคม 11, 2012, 09:51:38 AM
แถวลำปางมีพยาบาลถูกเข็มฉีดยาที่ใช้เก็บตัวอย่างเลือดคนไข้โรค HIV แทงนิ้ว--หมอให้ยาต้านไวรัสทันทีปรากฏว่า 20วันตรวจเลือดผ่าน สามเดือนตรวจผ่าน  หกเดือนก็ผ่าน ครับ ฟังมาว่าภายใน 72 ชม.ที่รับเชื้อกินยาต้านโอกาสรอด 80% ครับ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 11, 2012, 09:59:50 AM
เพื่อนผมเป็นเอดส์ มามากกว่า 6 ปี ทุกวันนี้ ก็ยังติดต่อกัน กินข้าวด้วยกัน  ที่สำคัญ มันสามารถล้มผมได้สบายๆ เอาเป็น ว่า วิ่งแข่งกับมันผมแพ้ แน่นอน ครับ

เหตุผล ที่มันยังอยู่ได้ ก็คือ ใจมันสู้ ครับ กินอาหาร ปกติ ออกกำลังกาย กินยา ตามหมอสั่ง ไม่เครียด  

ผมยังคิดอยู่เลยครับว่า " ผมจะตายก่อนมันหรือปล่าว "  :~)   โรคนี้เท่าที่เห็นมา จากเพื่อนที่เป็นโรค นี้ถึง 3 คน  ส่วนตัวผมขอสรุปได้ว่า  ยาที่ดีที่สุดคือ ความเข้าใจ และกำลังใจ บวกกับการ

รักษา จากแพษย์ ครับ  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจ  จากคนรอบข้าง  ::014::



       นับถือใจเพื่อนพี่บังจริงๆครับ................... ::002::  ::014::

       เพื่อนพี่บังเป็นโรคนี้เยอะเหมือนกันนะครับ 3 คน แน่ะ...............แต่พี่บังไม่เป็น อืม ......แปลก   ::005::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ มกราคม 11, 2012, 10:35:30 AM
เพื่อนผมเป็นเอดส์ มามากกว่า 6 ปี ทุกวันนี้ ก็ยังติดต่อกัน กินข้าวด้วยกัน  ที่สำคัญ มันสามารถล้มผมได้สบายๆ เอาเป็น ว่า วิ่งแข่งกับมันผมแพ้ แน่นอน ครับ

เหตุผล ที่มันยังอยู่ได้ ก็คือ ใจมันสู้ ครับ กินอาหาร ปกติ ออกกำลังกาย กินยา ตามหมอสั่ง ไม่เครียด  

ผมยังคิดอยู่เลยครับว่า " ผมจะตายก่อนมันหรือปล่าว "  :~)   โรคนี้เท่าที่เห็นมา จากเพื่อนที่เป็นโรค นี้ถึง 3 คน  ส่วนตัวผมขอสรุปได้ว่า  ยาที่ดีที่สุดคือ ความเข้าใจ และกำลังใจ บวกกับการ

รักษา จากแพษย์ ครับ  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจ  จากคนรอบข้าง  ::014::



       นับถือใจเพื่อนพี่บังจริงๆครับ................... ::002::  ::014::

       เพื่อนพี่บังเป็นโรคนี้เยอะเหมือนกันนะครับ 3 คน แน่ะ...............แต่พี่บังไม่เป็น อืม ......แปลก   ::005::

บังรับไปอีกหนึ่งดอกครับ  ::005::  ;D

เรื่องของจิตใจและการดูแลร่างกายเหมือนที่หลายท่านกล่าวครับ ดูแลดี มีวินัย อยู่ได้นาน
รุ่นพี่ผมเป็นนักกีฬา (ตัวจังหวัด) ติดเอดส์ ผ่านไประยะหนึ่งตุ่มเต็มตัว แล้วก็จากไปไม่กลับ เพราะไม่ได้หาหมอหรือดูแลร่างกายครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: THANAKRIT ที่ มกราคม 11, 2012, 10:37:07 AM
ผมเคยทำงานด้านนี้มาเมื่อ 10 ปีก่อนนี้ เจอเหตุอย่างนี้เยอะครับ ตอนนี้ทางการแพทย์ได้พัฒนาขึ้นเยอะ แนะให้เข้ารับยาต้านโดยด่วนครับ รายล่าสุดที่มาปรึกษาก็ทำนองนี้ครับ คือพบซองยาและเอกสารเกี่ยวกับโรคนี้ จึงได้ถามผู้หญิงก็ได้คำตอบ ผมแนะนำให้เข้ารับการตรวจและรับยาต้าน ปรากฎว่าตรวจแล้วไม่พบเชื้อครับ(1ปี 8 เดือน) ทุกวันนี้ดีใจเหมือนเกิดใหม่ คงลืมไม่ลง :VOV:


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 11, 2012, 10:46:06 AM
50-50ครับ  :)


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 11, 2012, 10:52:46 AM
ญาติของคนรู้จักเป็นเค้าอยู่ได้เป็น ๑๐ ปี (ผัวเป็นโรคแล้วพามาติด)  ตอนนี้ก็ยังไม่ตาย  ร่างกายแข็งแรงดี  แต่ต้องรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ
ห้ามกินเหล้า  ห้ามสูบบุหรีโดยเด็ดขาด  ออกกำลังกาย  งดเนื้อสัตว์  (ทานปลาได้)  ที่สำคัญเค้าทานผักขม ๆ เยอะมาก   ::002::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ มกราคม 11, 2012, 11:43:55 AM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 11, 2012, 11:46:54 AM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง
สะใจ แก้แค้น ประชดชีวิต ต่อต้านสังคม
แทนที่จะคิดให้ได้ว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยแล้ว หันมาทำดีแก้ไขในสิ่งผิดอย่าหาบาปมาติดตัวเพิ่มอีกก่อนลาโลก


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ มกราคม 11, 2012, 12:13:27 PM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง

หามวลชนมั้ง เฮ้อขาดความรับผิดชอบจริงๆ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 12:50:08 PM
เขามีคลีนิคนิรนามนะ
ผมว่าคลีนิคนี้ตรงประเด็นนะผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้

... สนับสนุนแนวทางนี้ ครับ ................................. ตัวผมเองกับภรรยา ก็ไปตรวจมาแล้วเมื่อตอนก่อนจะแต่งงาน ............ คิดไว้ในใจ 50-50 เป็นไงเป็นกัน (แบบว่า เคยมีอะไรกุ๊กกิ๊ก ซุกซน บ้างเป็นบางครั้ง  ;D )...

... ไปครั้งแรก ... ผมไปคนเดียว ... ปรากฎว่าหาคลีนิคนิรนามไม่เจอครับ ... เิดินวนอยู่หลายรอบ... จนในที่สุดตัดสินใจเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่า คลีนิคนิรนามอยู่ไหน .......................... พี่คนนั้น แก ไม่ถามอะไรสักคำ แกบอกว่ารอเดี๋ยวนะคุณหมอไม่อยู่ ไปพบคนไข้ข้างนอก  ... สักประมาณ 13.00 น. น้องมากลับมาใหม่แล้วเดินไปที่ห้องตรวจหมายเลข xxx เลย ...........

... 13.00 น. ผมกลับมาใหม่อีกครั้ง ... ตรงดิ่งไปที่ห้องตรวจ ไปนั่งคุยกับคุณหมอ ... คุณหมอแกก็ไม่ถามชื่อแซ่ ไม่ถามข้อมูลภูมิลำเนา อะไรเลย ... นั่งคุยกันอยู่สัก 30 นาที ........คุณหมอคุยดีมาก ให้ความรู้เรื่องเอดส์ พร้อมกับให้คำแนะนำที่มีประโยชน์มากมาย(มาถึงตอนนี้ ผมอุ่นใจขึ้นเยอะ) ............. และสุดท้าย แนะนำว่า ... ถ้าคิดว่าเมื่อทราบผลตรวจแล้ว จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปก็ไม่ต้องตรวจ ... แต่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ อย่าไปทำอะไรที่คิดว่าเสี่ยงกับใครอีก ................ แต่ ... ผมบอกว่า ถึงผมจะติดเชื้อเอดส์ ... ผมก็ยังเป็นของผมเหมือนเดิมนี่แหละครับ ... คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ...

... แต่แล้ว ..... คุณหมอ ก็ ยังไม่ตรวจให้ ... จนกระทั่งแกได้ถามเลยไปถึงเรื่องคู่สมรส และ แนะนำใ้ห้ผมมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับ ว่าที่ภรรยา ............................. " เอาก็เอาสิ  ในเมื่อจะแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วไปตลอดชีวิต ... มันก็ไม่มีอะไรจะปิดบังกันอีกแล้ว ... อย่างมากถ้าเราติดเชื่อเอดส์ ก็ เลิกกัน .... ให้เค้าไปหาคนใหม่ ... ดีกว่าจะมาดักดานอยู่กับเราแบบนี้ " ...

... วันต่อมา  ผมไปพร้อมกับว่าที่ภรรยา ........ คุณหมอก็ชวนคุยแบบเมื่อวาน ... แต่วันนี้ ได้พูดคุยและอธิบายให้ว่าที่ภรรยาของผมฟังด้วยกัน (เค้าเลยรู้หมดเลยว่าผมไปกุ๊กกิ๊กซุกซนอะไรยังไงมาบ้าง  ::005:: ) ... และสุดท้ายถามเราทั้งคู่ว่า ... ถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ติดเอดส์ ... คุณสองคนจะทำยังไง ................ ผมตอบว่า ถ้าผมติดเชื้อ ผมจะเลิกกับแฟน ... แต่ถ้าแฟนติดเชื้อ ผมจะแต่งงานและดูแลเค้าต่อไปเหมือนเดิม ........... แฟนผมบอก ว่าถ้าผมติดเชื้อ ก็คงต้องเลิกล้มการแต่งงาน แต่ก็ยังคงเป็นคนรู้จักกันเหมือนเดิม .................................

... มาถึงตอนนี้ คุณหมอจึงยอมตรวจให้ ... พร้อมกับสอบถามและบันทึกข้อมูลส่วนตัว ... และนำเอกสารการเก็บข้อมูลเป็นความลับมาให้เซนต์ ... โดยระบุประมาณว่า ทางคลีนิคนิรนามจะไม่ทำการอันใดอันเป็นการเปิดเผย ข้อมูลเหล่านี้ ... และถ้าหากข้อมูลถูกแพร่งพรายออกไป ... เราสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณหมอและหน่วยงานได้ ... โดยในใบนำส่งตรวจเลือด จะบอกแค่ รหัสของเรา ซึ่งคุณหมอเป็นคนเดียวที่มีข้อมูลนี้  ...

... โดยในการตรวจ  จะทำด้วยกันทั้งสิ้น 3 วิธี ... จากอุปกรณ์และวิธีตรวจของ 3 บริษัท .............. หากมีผลออกมาไม่ตรงกันทั้ง 3 ครั้ง ... จะต้องทำการตรวจใหม่  จนกว่าผลที่ได้จะตรงกัน ...(พนักงานสองคนที่เจาะเลือดผมกับภรรยา สวยน่ารักมาก  ::005:: ) ...

... ในที่สุด อีก 2 วัน  ถัดมา  เมื่อไปดูผลตรวจเลือดตามนัด ... ผลที่ออกมา เราผ่านทั้งคู่ ... ดีใจครับ(แต่ต้องโดนว่าที่ภรรยา สอบสวนอยู่หลายวันว่าไปทำอะไรไว้ที่ไหนมาบ้าง   ::012:: ) ...

... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ................ ผมก็ไม่เคยนอกใจภรรยาผมอีกเลย...(กลัวติดเอดส์ครับ กว่าจะรอดสถานการณ์นี้มาได้ ต้องปลุกใจตัวเองให้สู้ๆ ตั้งหลายครั้ง  ::005:: ::005:: ::005:: )

.. อ้อ ....ลืมบอกไป .....................เดี๋ยวนี้  คลีนิคนิรนาม  ไม่ได้ติดป้ายโจ่งแจ้งเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ ...............คือ เค้ากลัวว่า  คนจะไม่กล้าไปปรึกษา/ไปตรวจ ... แต่เขาจะมีแพทย์ที่คอยดูแลทางนี้โดยเฉพาะและอยู่ห้องตรวจทั่วไป ... ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเราจะไปตรวจอะไร ... สบายใจได้ ...   ;) ;) ;)




หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 11, 2012, 12:53:01 PM
บอกไปเลยครับ
ติด ชัวร์

มีสิทธิ์ไม่ติดบ้างไหม ;D ;D ;D สงสัยจริงๆ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 11, 2012, 12:54:06 PM
ผมเคยทำงานด้านนี้มาเมื่อ 10 ปีก่อนนี้ เจอเหตุอย่างนี้เยอะครับ ตอนนี้ทางการแพทย์ได้พัฒนาขึ้นเยอะ แนะให้เข้ารับยาต้านโดยด่วนครับ รายล่าสุดที่มาปรึกษาก็ทำนองนี้ครับ คือพบซองยาและเอกสารเกี่ยวกับโรคนี้ จึงได้ถามผู้หญิงก็ได้คำตอบ ผมแนะนำให้เข้ารับการตรวจและรับยาต้าน ปรากฎว่าตรวจแล้วไม่พบเชื้อครับ(1ปี 8 เดือน) ทุกวันนี้ดีใจเหมือนเกิดใหม่ คงลืมไม่ลง :VOV:

รักษาดีกว่า ;D ;D ;D  รีบเลย

แต่คนเป็นเนี่ยก็ใจร้ายนะ ไปแพร่อย่างนี้


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 12:55:42 PM
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: ภูกามยาว ที่ มกราคม 11, 2012, 01:17:47 PM
บอกไปเลยครับ
ติด ชัวร์

มีสิทธิ์ไม่ติดบ้างไหม ;D ;D ;D สงสัยจริงๆ
มีครับ  เคยซุกซนแล้วเจอผู้หญิงมีเชื้อ สองครั้งแรกใส่ถุง ครั้งที่สาม ถุงหมด ต่ออีก 2 แล้วมีเรื่อยๆอีก2 วัน แล้วไปตรวจผู้หญิงเจอมีเชื้อ แล้วอีก 3 วันได้รับยาต้าน ตอนนั้นค่ายาประมาณ 8หมื่นโรงพยาบาลเอกชน( ตอนนี้น่าจะถูกลง) ทานติดต่อกัน 3 เดือน  ตรวจ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1ปีผ่านทุกครั้งถึงปัจจุบัน ชีวิตเหมือนเกิดใหม่ครับ จิตตกอย่างแรง :~)แนะนำไปที่คลีนิคนิรนามครับทุกอย่างแก้ปัญหาได้ ::014::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 11, 2012, 01:27:18 PM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง

แถวบ้านผมมีอยู่สองสามเคส... ที่แต่งงานกับผู้หญิงที่ติดเชื้อ... โดยที่ฝ่ายหญิงและญาติพากันปกปิดไว้... จนความแตกเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน... ฝ่ายชายก็ติดเรียบร้อย... มีอยู่รายนึง... ซ้อมเมียเกือบตาย... โทษฐานตั้งใจมาปล่อยเชื้อ...



หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มกราคม 11, 2012, 04:17:32 PM
คน มัน ซวย..นิ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 11, 2012, 04:21:31 PM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง

แถวบ้านผมมีอยู่สองสามเคส... ที่แต่งงานกับผู้หญิงที่ติดเชื้อ... โดยที่ฝ่ายหญิงและญาติพากันปกปิดไว้... จนความแตกเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน... ฝ่ายชายก็ติดเรียบร้อย... มีอยู่รายนึง... ซ้อมเมียเกือบตาย... โทษฐานตั้งใจมาปล่อยเชื้อ...

นายสมชายว่ากรณีนี้คนรู้และตั้งใจปกปิดสงสัยเข้าข่ายเจตนาฆ่านะครับ... ระวังพ่อแม่ฝ่ายชายจะฟ้องแพ่งเพิ่มอีกต่างหาก เพราะเสียหายเนื่องจากขาดไร้อุปการะ แต่ทีนี้ประเด็นคือต้องรอให้ความผิดสำเร็จก่อน นั่นคือลูกชายเสียชีวิตเพราะโรคร้ายตามกระทู้นี้ นี่ซิครับ...


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 04:28:35 PM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง
สะใจ แก้แค้น ประชดชีวิต ต่อต้านสังคม
แทนที่จะคิดให้ได้ว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยแล้ว หันมาทำดีแก้ไขในสิ่งผิดอย่าหาบาปมาติดตัวเพิ่มอีกก่อนลาโลก

เคยมีเคสที่มีคนเล่าให้ฟังว่า ฝ่ายชายติดเชิ้อแต่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ ฝ่ายหญิงอยากตรวจเลือดก่อนแต่งงาน

ก็จำใจพากันมาตรวจเลือด ก่อนฟังผลฝ่ายชายขอเข้ามาพบหมอก่อน(พกปืนมาด้วย)

แอบบอกกับหมอว่าถ้าแฟนผมรู้หมอก็ตายนะครับ ความเห็นแก่ตัวมันไม่เข้าใครออกใครครับพี่


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 11, 2012, 05:07:46 PM
แปลกใจ ฝ่ายที่เป็นก็ดันยอมให้คนอื่นมา ซั่ม ทั้งที่รู้ว่า ซั่มกันแล้วมันติด  มันคิดกันยังไง
สะใจ แก้แค้น ประชดชีวิต ต่อต้านสังคม
แทนที่จะคิดให้ได้ว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยแล้ว หันมาทำดีแก้ไขในสิ่งผิดอย่าหาบาปมาติดตัวเพิ่มอีกก่อนลาโลก

เคยมีเคสที่มีคนเล่าให้ฟังว่า ฝ่ายชายติดเชิ้อแต่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ ฝ่ายหญิงอยากตรวจเลือดก่อนแต่งงาน

ก็จำใจพากันมาตรวจเลือด ก่อนฟังผลฝ่ายชายขอเข้ามาพบหมอก่อน(พกปืนมาด้วย)

แอบบอกกับหมอว่าถ้าแฟนผมรู้หมอก็ตายนะครับ ความเห็นแก่ตัวมันไม่เข้าใครออกใครครับพี่

      ขืนบอกไปหมอได้ตายก่อนคนไข้อีกนะครับเนี่ย............. ::012::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 05:18:47 PM
สะใจ แก้แค้น ประชดชีวิต ต่อต้านสังคม
แทนที่จะคิดให้ได้ว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยแล้ว หันมาทำดีแก้ไขในสิ่งผิดอย่าหาบาปมาติดตัวเพิ่มอีกก่อนลาโลก
เคยมีเคสที่มีคนเล่าให้ฟังว่า ฝ่ายชายติดเชิ้อแต่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ ฝ่ายหญิงอยากตรวจเลือดก่อนแต่งงาน
ก็จำใจพากันมาตรวจเลือด ก่อนฟังผลฝ่ายชายขอเข้ามาพบหมอก่อน(พกปืนมาด้วย)
แอบบอกกับหมอว่าถ้าแฟนผมรู้หมอก็ตายนะครับ ความเห็นแก่ตัวมันไม่เข้าใครออกใครครับพี่
      ขืนบอกไปหมอได้ตายก่อนคนไข้อีกนะครับเนี่ย............. ::012::

... คุณหมอแจ้งความจับ ชายเห็นแก่ตัวคนนั้น หรือปล่าวครับ ...   :OO :OO :OO
... คิดจะเอาหนึ่งชีวิตของคุณหมอ และอีกหนึ่งชีวิตของคนที่ตัวเองรักตามไปด้วย ...............ไม่สิ  อาจจะมีอีกหนึ่งชีวิต หรือ สอง ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน หากว่าแต่งงานแล้วมีบุตร ...   ::013:: ::013:: ::013::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มเมืองชลคนสีเกด ที่ มกราคม 11, 2012, 06:59:33 PM
เขามีคลีนิคนิรนามนะ
ผมว่าคลีนิคนี้ตรงประเด็นนะผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้

... สนับสนุนแนวทางนี้ ครับ ................................. ตัวผมเองกับภรรยา ก็ไปตรวจมาแล้วเมื่อตอนก่อนจะแต่งงาน ............ คิดไว้ในใจ 50-50 เป็นไงเป็นกัน (แบบว่า เคยมีอะไรกุ๊กกิ๊ก ซุกซน บ้างเป็นบางครั้ง  ;D )...

... ไปครั้งแรก ... ผมไปคนเดียว ... ปรากฎว่าหาคลีนิคนิรนามไม่เจอครับ ... เิดินวนอยู่หลายรอบ... จนในที่สุดตัดสินใจเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่า คลีนิคนิรนามอยู่ไหน .......................... พี่คนนั้น แก ไม่ถามอะไรสักคำ แกบอกว่ารอเดี๋ยวนะคุณหมอไม่อยู่ ไปพบคนไข้ข้างนอก  ... สักประมาณ 13.00 น. น้องมากลับมาใหม่แล้วเดินไปที่ห้องตรวจหมายเลข xxx เลย ...........

... 13.00 น. ผมกลับมาใหม่อีกครั้ง ... ตรงดิ่งไปที่ห้องตรวจ ไปนั่งคุยกับคุณหมอ ... คุณหมอแกก็ไม่ถามชื่อแซ่ ไม่ถามข้อมูลภูมิลำเนา อะไรเลย ... นั่งคุยกันอยู่สัก 30 นาที ........คุณหมอคุยดีมาก ให้ความรู้เรื่องเอดส์ พร้อมกับให้คำแนะนำที่มีประโยชน์มากมาย(มาถึงตอนนี้ ผมอุ่นใจขึ้นเยอะ) ............. และสุดท้าย แนะนำว่า ... ถ้าคิดว่าเมื่อทราบผลตรวจแล้ว จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปก็ไม่ต้องตรวจ ... แต่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ อย่าไปทำอะไรที่คิดว่าเสี่ยงกับใครอีก ................ แต่ ... ผมบอกว่า ถึงผมจะติดเชื้อเอดส์ ... ผมก็ยังเป็นของผมเหมือนเดิมนี่แหละครับ ... คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ...

... แต่แล้ว ..... คุณหมอ ก็ ยังไม่ตรวจให้ ... จนกระทั่งแกได้ถามเลยไปถึงเรื่องคู่สมรส และ แนะนำใ้ห้ผมมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับ ว่าที่ภรรยา ............................. " เอาก็เอาสิ  ในเมื่อจะแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วไปตลอดชีวิต ... มันก็ไม่มีอะไรจะปิดบังกันอีกแล้ว ... อย่างมากถ้าเราติดเชื่อเอดส์ ก็ เลิกกัน .... ให้เค้าไปหาคนใหม่ ... ดีกว่าจะมาดักดานอยู่กับเราแบบนี้ " ...

... วันต่อมา  ผมไปพร้อมกับว่าที่ภรรยา ........ คุณหมอก็ชวนคุยแบบเมื่อวาน ... แต่วันนี้ ได้พูดคุยและอธิบายให้ว่าที่ภรรยาของผมฟังด้วยกัน (เค้าเลยรู้หมดเลยว่าผมไปกุ๊กกิ๊กซุกซนอะไรยังไงมาบ้าง  ::005:: ) ... และสุดท้ายถามเราทั้งคู่ว่า ... ถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ติดเอดส์ ... คุณสองคนจะทำยังไง ................ ผมตอบว่า ถ้าผมติดเชื้อ ผมจะเลิกกับแฟน ... แต่ถ้าแฟนติดเชื้อ ผมจะแต่งงานและดูแลเค้าต่อไปเหมือนเดิม ........... แฟนผมบอก ว่าถ้าผมติดเชื้อ ก็คงต้องเลิกล้มการแต่งงาน แต่ก็ยังคงเป็นคนรู้จักกันเหมือนเดิม .................................

... มาถึงตอนนี้ คุณหมอจึงยอมตรวจให้ ... พร้อมกับสอบถามและบันทึกข้อมูลส่วนตัว ... และนำเอกสารการเก็บข้อมูลเป็นความลับมาให้เซนต์ ... โดยระบุประมาณว่า ทางคลีนิคนิรนามจะไม่ทำการอันใดอันเป็นการเปิดเผย ข้อมูลเหล่านี้ ... และถ้าหากข้อมูลถูกแพร่งพรายออกไป ... เราสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณหมอและหน่วยงานได้ ... โดยในใบนำส่งตรวจเลือด จะบอกแค่ รหัสของเรา ซึ่งคุณหมอเป็นคนเดียวที่มีข้อมูลนี้  ...

... โดยในการตรวจ  จะทำด้วยกันทั้งสิ้น 3 วิธี ... จากอุปกรณ์และวิธีตรวจของ 3 บริษัท .............. หากมีผลออกมาไม่ตรงกันทั้ง 3 ครั้ง ... จะต้องทำการตรวจใหม่  จนกว่าผลที่ได้จะตรงกัน ...(พนักงานสองคนที่เจาะเลือดผมกับภรรยา สวยน่ารักมาก  ::005:: ) ...

... ในที่สุด อีก 2 วัน  ถัดมา  เมื่อไปดูผลตรวจเลือดตามนัด ... ผลที่ออกมา เราผ่านทั้งคู่ ... ดีใจครับ(แต่ต้องโดนว่าที่ภรรยา สอบสวนอยู่หลายวันว่าไปทำอะไรไว้ที่ไหนมาบ้าง   ::012:: ) ...

... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ................ ผมก็ไม่เคยนอกใจภรรยาผมอีกเลย...(กลัวติดเอดส์ครับ กว่าจะรอดสถานการณ์นี้มาได้ ต้องปลุกใจตัวเองให้สู้ๆ ตั้งหลายครั้ง  ::005:: ::005:: ::005:: )

.. อ้อ ....ลืมบอกไป .....................เดี๋ยวนี้  คลีนิคนิรนาม  ไม่ได้ติดป้ายโจ่งแจ้งเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ ...............คือ เค้ากลัวว่า  คนจะไม่กล้าไปปรึกษา/ไปตรวจ ... แต่เขาจะมีแพทย์ที่คอยดูแลทางนี้โดยเฉพาะและอยู่ห้องตรวจทั่วไป ... ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเราจะไปตรวจอะไร ... สบายใจได้ ...   ;) ;) ;)



ผมก็ตรวจเหมือนกันนะพี่เล็ก...ผลคือไม่เจอ...ไม่เจอหมอหน่ะ... ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 07:03:09 PM
เขามีคลีนิคนิรนามนะ
ผมว่าคลีนิคนี้ตรงประเด็นนะผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้

... สนับสนุนแนวทางนี้ ครับ ................................. ตัวผมเองกับภรรยา ก็ไปตรวจมาแล้วเมื่อตอนก่อนจะแต่งงาน ............ คิดไว้ในใจ 50-50 เป็นไงเป็นกัน (แบบว่า เคยมีอะไรกุ๊กกิ๊ก ซุกซน บ้างเป็นบางครั้ง  ;D )

................................................
................................................
................................................

.. อ้อ ....ลืมบอกไป .....................เดี๋ยวนี้  คลีนิคนิรนาม  ไม่ได้ติดป้ายโจ่งแจ้งเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ ...............คือ เค้ากลัวว่า  คนจะไม่กล้าไปปรึกษา/ไปตรวจ ... แต่เขาจะมีแพทย์ที่คอยดูแลทางนี้โดยเฉพาะและอยู่ห้องตรวจทั่วไป ... ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเราจะไปตรวจอะไร ... สบายใจได้ ...   ;) ;) ;)



ผมก็ตรวจเหมือนกันนะพี่เล็ก...ผลคือไม่เจอ...ไม่เจอหมอหน่ะ... ::005:: ::005:: ::005::

... ครับ ...ไปครั้งแรกผมก็ไม่เจอหมอเหมือนกัน ..................................หืยส์ ...   ::006:: ::006:: ::006::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 07:05:22 PM
และแล้วผมก็กล่อมเด็กคนนี้สำเร็จ ผมพาไปส่งตรวจ เขากลัวว่าถ้าเจอเชื้อเอดส์
 เขาจะไม่มีแรงขับรถกลับบ้าน

ผลเลือดปกติครับ  ผมบอกดีใจด้วยไอ้น้อง มั่วผู้หญิงได้เหมือนเดิม
แล้วอีกประมาณ 3-4 เดือน มาตรวจใหม่  ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 11, 2012, 07:09:56 PM
ผลเลือดปกติครับ  ผมบอกดีใจด้วยไอ้น้อง มั่วผู้หญิงได้เหมือนเดิม
แล้วอีกประมาณ 3-4 เดือน มาตรวจใหม่  ::007:: ::007:: ::007::
                  ผลเลือดเป็นปกติไม่ใช่ว่าจะไม่ติดนะครับ  ......  เพียงแต่ตอนที่ตรวจนี้แพทย์ "ไม่พบ" เท่านั้น  ......

                   อีก 3-6 เดือนเจาะตรวจอีกครั้งถ้าไม่เจอค่อยวางใจ   แต่ก็ยินดีด้วยในเบื้องต้น  ต่อไปก็อย่าไปหลงของฟรีอีกก็แล้วกัน   ::005::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 07:12:54 PM
บอกให้ไปตรวจเถอะครับ
กำลังใจเท่านั้น ที่จะทำให้คนที่เป็นโรคนี้ อยู่ต่อไปได้


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 07:17:39 PM
ผลเลือดปกติครับ  ผมบอกดีใจด้วยไอ้น้อง มั่วผู้หญิงได้เหมือนเดิม
แล้วอีกประมาณ 3-4 เดือน มาตรวจใหม่  ::007:: ::007:: ::007::
                  ผลเลือดเป็นปกติไม่ใช่ว่าจะไม่ติดนะครับ  ......  เพียงแต่ตอนที่ตรวจนี้แพทย์ "ไม่พบ" เท่านั้น  ......

                   อีก 3-6 เดือนเจาะตรวจอีกครั้งถ้าไม่เจอค่อยวางใจ   แต่ก็ยินดีด้วยในเบื้องต้น  ต่อไปก็อย่าไปหลงของฟรีอีกก็แล้วกัน   ::005::

... ยินดีด้วยครับในเบื้องต้น ......................แต่ ถ้าจำไม่ผิด คุณหมอบอกว่ามันจะมีระยะฟักตัวของมันอยู่ ...  ;D ;D ;D

... ระยะที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการไปตรวจเลือดคือ 3 เดือน หลังจากความเสี่ยงครั้งสุดท้าย เพราะ 3 เดือนคือ ระยะฟักตัวของ HIV ตรวจก่อนหน้านี้ อาจตรวจไม่เจอ ... ครับ ...  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 07:26:17 PM


... ยินดีด้วยครับในเบื้องต้น ......................แต่ ถ้าจำไม่ผิด คุณหมอบอกว่ามันจะมีระยะฟักตัวของมันอยู่ ...  ;D ;D ;D

... ระยะที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการไปตรวจเลือดคือ 3 เดือน หลังจากความเสี่ยงครั้งสุดท้าย เพราะ 3 เดือนคือ ระยะฟักตัวของ HIV ตรวจก่อนหน้านี้ อาจตรวจไม่เจอ ... ครับ ...  ;D ;D ;D
[/quote]


ครับสอบถามเด็กแล้ว เกิน 100 วันแล้วครับ


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มกราคม 11, 2012, 07:37:39 PM
ไม่ถึงขนาด 50/50 หรอกครับ อย่างไรก็ตาม "ต้องระวังไว้ก่อนทั้งนั้น" ใครเจอ + แล้วอย่าจิตตก เมจิก จอห์นสัน +มา 20 กว่าปีแล้วยังไม่ตายเลยครับ แถมเป็นตั้งแต่ยายังไม่พัฒนามากด้วย

http://en.wikipedia.org/wiki/AIDS

เลื่อนลงมาดูตารางข้างขวา

Estimated infections
per 10,000 exposures
to an infected source

- Insertive penile-vaginal intercourse (เป็นฝ่ายชาย ทางปกติ) = 5/10,000


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มกราคม 11, 2012, 07:42:06 PM
สรุปเพิ่มเติม

- ถ่ายเลือด ๙ ใน ๑๐
- เป็นผู้หญิง ทางปกติ ๑ ในพัน
- เป็นเกย์ฝ่ายรุก ๖.๕ ในหมื่น
- เป็นเกย์ฝ่ายรับ ๕ ในพัน

ปล. หาข้อมูลเพิ่มเติมเองนะครับว่าเขาเก็บสถิติ และนำเสนออย่างไร อบย่าเพิ่งเชื่อตามตัวเลข


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 11, 2012, 07:43:31 PM

                   สวัสดีครับน้าต๊อก  .....  ไม่ได้เสวนากันนาน  สบายดีนะครับ  คิดถึงจัง 


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มกราคม 11, 2012, 07:46:40 PM
ขอบคุณครับพี่ปู ผมสบายดีทั้งตามปกติ และสบายดีตามกระทู้นี้ครับ (ฮา)


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 11, 2012, 08:14:21 PM

                                 ;D  ;D  ;D


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 08:27:00 PM
           สมัยนี้เค้ามียาต้านที่ได้ผลมากๆอยู่ได้ 20-30 ปีหรือมากกว่านั้นไม่ต้องกลัวครับ คนตายบนท้องถนนมากมายกว่าหลายเท่าตัว ใจอุ่น ใจอุ่น สู้ๆๆ  ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ มกราคม 11, 2012, 08:39:15 PM
แถวบ้านผม อยู่ได้ 22 ปี  วิ่งทุกวัน อีกคน สามีตายไปแล้ว 7 ปี ตัวเขาเองยังอยู่ กินยาอะไร ก็ไม่รู้


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 11, 2012, 09:03:16 PM
          สมัยนี้เค้ามียาต้านที่ได้ผลมากๆอยู่ได้ 20-30 ปีหรือมากกว่านั้นไม่ต้องกลัวครับ คนตายบนท้องถนนมากมายกว่าหลายเท่าตัว ใจอุ่น ใจอุ่น สู้ๆๆ  ::002:: ::002:: ::002::
                  งั้นผมจะเสี่ยงแล้วนะ   .......  แปะยอมตัยยยยยยย  (http://upic.me/i/16/f54802676.gif) (http://upic.me/show/39417)


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 10:19:34 PM
           สมัยนี้เค้ามียาต้านที่ได้ผลมากๆอยู่ได้ 20-30 ปีหรือมากกว่านั้นไม่ต้องกลัวครับ คนตายบนท้องถนนมากมายกว่าหลายเท่าตัว ใจอุ่น ใจอุ่น สู้ๆๆ  ::002:: ::002:: ::002::
                   งั้นผมจะเสี่ยงแล้วนะ   .......  แปะยอมตัยยยยยยย  (http://upic.me/i/16/f54802676.gif) (http://upic.me/show/39417)

                   นักรบต้องไม่กลัวบาดแผลครับ  ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 10:42:35 PM
... ยินดีด้วยครับในเบื้องต้น ......................แต่ ถ้าจำไม่ผิด คุณหมอบอกว่ามันจะมีระยะฟักตัวของมันอยู่ ...  ;D ;D ;D
... ระยะที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการไปตรวจเลือดคือ 3 เดือน หลังจากความเสี่ยงครั้งสุดท้าย เพราะ 3 เดือนคือ ระยะฟักตัวของ HIV ตรวจก่อนหน้านี้ อาจตรวจไม่เจอ ... ครับ ...  ;D ;D ;D
ครับสอบถามเด็กแล้ว เกิน 100 วันแล้วครับ
[/quote]

..... 100 วัน ...  :OO :OO :OO ...............แสดงว่า ... !!!


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 10:44:24 PM
           สมัยนี้เค้ามียาต้านที่ได้ผลมากๆอยู่ได้ 20-30 ปีหรือมากกว่านั้นไม่ต้องกลัวครับ คนตายบนท้องถนนมากมายกว่าหลายเท่าตัว ใจอุ่น ใจอุ่น สู้ๆๆ  ::002:: ::002:: ::002::
                   งั้นผมจะเสี่ยงแล้วนะ   .......  แปะยอมตัยยยยยยย  (http://upic.me/i/16/f54802676.gif) (http://upic.me/show/39417)
                   นักรบต้องไม่กลัวบาดแผลครับ  ::005:: ::005:: ::005::

... งั้นลองให้นักรบเป็นแผล  ไปรบ ดูสิครับ ...........  ::007:: ... บ่ เอานำเด้อ ...  ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 10:58:50 PM

ครับสอบถามเด็กแล้ว เกิน 100 วันแล้วครับ
[/quote]

..... 100 วัน ...  :OO :OO :OO ...............แสดงว่า ... !!!
[/quote]

แสดงว่า ทำบุญครบ 100 วันหรือเปล่าครับ
ไม่ใช่ครับ ถ้า 100 วัน วันนี้ผมคงเอากระดูกไปลอยอังคารแล้วครับ 
แต่จริงๆแล้วต้องใช้คำว่าลอยพุธ นะครับเพราะวันนี้ไม่ใช่วันอังคาร ;D ;D


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ มกราคม 11, 2012, 11:00:31 PM
...  ;D ;D ;D ...


หัวข้อ: Re: เด็กรุ่นน้องมาปรึกษาเรื่องโรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 11:10:33 PM
เป็นเหตุผลนึง ที่เพื่อนๆไม่เคยลากผมไปเที่ยวได้ครับ...