หัวข้อ: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 11, 2012, 11:00:22 PM แพทย์ชนบทยันแผนล้มบัตรทองมีจริงมี 4 ขั้นตอน
กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า เครือข่ายแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ รพ.ชุมชนทั่วประเทศ จะประชุมเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผลประโยชน์ที่ต้องการล้มระบบบัตรทองและท่าทีของฝ่ายการเมือง ชมรมแพทย์ชนบทเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และจะประชุมตัวแทนสมาชิกทั่วประเทศเพื่อเคลื่อนไหวเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าแผนล้มระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีจริง โดยมี 4 ขั้นตอน ในการล้มระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะเห็นว่า พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นอุปสรรคกับการขายยาราคาแพงของบริษัทยาข้ามชาติ กระทบต่อธุรกิจของ รพ.เอกชน ลดบทบาทอำนาจของกระทรวงฯ และทำให้ฝ่ายการเมืองเข้าล้วงลูกหาผลประโยชน์จากกองทุนหลักประกันสุขภาพได้ยาก จึงต้องยกเลิกหรือแก้ไขสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย ที่มา : สำนักข่าวไทย (http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=470515&ch=gn1) เอาล่ะครับ เสียงส่วนมากเลือกมาแล้ว โกยกันเต็มที่ล่ะ :P หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: เขรางค์-รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 11:05:36 PM " พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นอุปสรรคกับการขายยาราคาแพงของบริษัทยาข้ามชาติ ".................เค้าคิดกันได้ยังไงครับเนี่ย :~)
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: maroonreef ที่ มกราคม 11, 2012, 11:18:04 PM เรื่องผลประโยชน์ของกลุ่มทุนที่คิดจะหากินกับความเจ็บไข้ของคนรายได้น้อย คนไทยส่วนมากยังต้องพึ่งพาหลักประกันสุขภาพ นี้อยู่ เงินภาษีที่ต้องเสียไปกับหลักประกันสุขภาพนี้ ไม่น่าเสียดายเท่ากับคอรัปชั่นที่มีมากกว่าครับท่าน ต่อไปกฎหมายจะไม่เป็นกฎหมายผิดถูกจะตัดสินกันด้วยวัตถุนิยม นี่คือสิ่งที่คนกลุ่มนี้กำลังทำกับคนส่วนใหญ่ที่มีสิทธิไปเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ มกราคม 11, 2012, 11:35:47 PM ::008::ประชาชนเป็น-ตายมันไม่สน มันสนเเต่เปอร์เซ็นยาจากพ่อค้า ::008::
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 12, 2012, 08:50:55 AM ผลประโยชน์บังตา แต่ขอเดาว่าไม่สำเร็จแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 12, 2012, 09:18:10 AM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 12, 2012, 09:26:44 AM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง รัฐบาลนี้ไม่กู้เลยหรือครับ ::005:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ฅนบ้านนอก ที่ มกราคม 12, 2012, 10:08:39 AM :-\ ::013:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 10:57:00 AM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง ทำไมหมอถึงจ่ายยาเองไม่ได้ครับ แล้วเอามาตรฐานหรือเกณฑ์ไหนมาอ้างว่าแพทย์ต้องเขียนใบสั่งยาให้คนไข้ไปซื้อที่ร้านยาเอง ??? ::010::หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ มกราคม 12, 2012, 11:08:06 AM เรื่อง หมอจ่ายยาเองไม่ได้ ถ้าว่ากันแบบขวานผ่าซากนั่นใช่ครับ ต่างประเทศแบบญี่ปุ่นก็ใช่ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจ่ายเงิน
จะได้กระดาษ 1 แผ่น แล้วเดินไปที่ข้างโรงพยาบาล ข้ามซอย ซึ่งห่างออกไป 5 เมตร (มันก็เจ้าของเดียวกันนั่นแล คอมเน็ตเวิรคก็เชื่อมกัน) แล้วเอากระดาษนั่นไปให้เขา(เภสัช) ก็จะเก็บเงินพร้อมกับให้ยาเรา ผมถามชาวบ้านทำไมหมอไม่จ่ายยาเลยวะเขาบอกว่า หมอมีหน้าที่เก่งวินิจฉัย เภสัช เก่งเรื่อง ยา..... ก็เรื่องง่ายๆทำให้มันยาก หลวงจะได้เก็บภาษีสองบิลไง หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 12, 2012, 11:17:59 AM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง ทำไมหมอถึงจ่ายยาเองไม่ได้ครับ แล้วเอามาตรฐานหรือเกณฑ์ไหนมาอ้างว่าแพทย์ต้องเขียนใบสั่งยาให้คนไข้ไปซื้อที่ร้านยาเอง ??? ::010::เรื่อง หมอจ่ายยาเองไม่ได้ ถ้าว่ากันแบบขวานผ่าซากนั่นใช่ครับ ต่างประเทศแบบญี่ปุ่นก็ใช่ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจ่ายเงิน ส่วนอันนี้มองข้ามข้อเท็จจริงจะได้กระดาษ 1 แผ่น แล้วเดินไปที่ข้างโรงพยาบาล ข้ามซอย ซึ่งห่างออกไป 5 เมตร (มันก็เจ้าของเดียวกันนั่นแล คอมเน็ตเวิรคก็เชื่อมกัน) แล้วเอากระดาษนั่นไปให้เขา(เภสัช) ก็จะเก็บเงินพร้อมกับให้ยาเรา ผมถามชาวบ้านทำไมหมอไม่จ่ายยาเลยวะเขาบอกว่า หมอมีหน้าที่เก่งวินิจฉัย เภสัช เก่งเรื่อง ยา..... ก็เรื่องง่ายๆทำให้มันยาก หลวงจะได้เก็บภาษีสองบิลไง หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 11:38:34 AM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง ทำไมหมอถึงจ่ายยาเองไม่ได้ครับ แล้วเอามาตรฐานหรือเกณฑ์ไหนมาอ้างว่าแพทย์ต้องเขียนใบสั่งยาให้คนไข้ไปซื้อที่ร้านยาเอง ??? ::010::เรื่อง หมอจ่ายยาเองไม่ได้ ถ้าว่ากันแบบขวานผ่าซากนั่นใช่ครับ ต่างประเทศแบบญี่ปุ่นก็ใช่ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจ่ายเงิน ส่วนอันนี้มองข้ามข้อเท็จจริงจะได้กระดาษ 1 แผ่น แล้วเดินไปที่ข้างโรงพยาบาล ข้ามซอย ซึ่งห่างออกไป 5 เมตร (มันก็เจ้าของเดียวกันนั่นแล คอมเน็ตเวิรคก็เชื่อมกัน) แล้วเอากระดาษนั่นไปให้เขา(เภสัช) ก็จะเก็บเงินพร้อมกับให้ยาเรา ผมถามชาวบ้านทำไมหมอไม่จ่ายยาเลยวะเขาบอกว่า หมอมีหน้าที่เก่งวินิจฉัย เภสัช เก่งเรื่อง ยา..... ก็เรื่องง่ายๆทำให้มันยาก หลวงจะได้เก็บภาษีสองบิลไง หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 12:03:11 PM แล้วประเทศไทยยังเป็นราชอาณาจักรอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ มกราคม 12, 2012, 12:38:50 PM น่าจะเป็นหมอ/แพทย์เลวๆที่เสียผลประโยชน์มาปั่นกระแสมากกว่า ทุกวันนี้ไปคลีนิคหมอยังมึนจ่ายยาเองอยู่เลย ทั้งๆที่ความรู้เรื่องการจัดยาจ่ายยาสู้เภสัชฯไม่ได้ แถมยังประหยัดไม่จ้างเภสัชฯ(ที่ถูกต้องคือแพทย์ต้อเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อเอาจากร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น)......ทักษิณฯคิดเอาไว้จะมาทำลายเองทำไม เพราะไอ้โครงการเพื่อประชาชนอย่างนี้ไง ถึงทำให้ได้เป็นผู้นำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ควรหัดคิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนส่สนรวมที่มีรายได้น้อยบ้าง ไม่ใช่แจก 2พัน กู้ 8แสนล้านมาจ้างพม่า-เขมรทำถนนซ่อมทาง ทำไมหมอถึงจ่ายยาเองไม่ได้ครับ แล้วเอามาตรฐานหรือเกณฑ์ไหนมาอ้างว่าแพทย์ต้องเขียนใบสั่งยาให้คนไข้ไปซื้อที่ร้านยาเอง ??? ::010::เรื่อง หมอจ่ายยาเองไม่ได้ ถ้าว่ากันแบบขวานผ่าซากนั่นใช่ครับ ต่างประเทศแบบญี่ปุ่นก็ใช่ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจ่ายเงิน ส่วนอันนี้มองข้ามข้อเท็จจริงจะได้กระดาษ 1 แผ่น แล้วเดินไปที่ข้างโรงพยาบาล ข้ามซอย ซึ่งห่างออกไป 5 เมตร (มันก็เจ้าของเดียวกันนั่นแล คอมเน็ตเวิรคก็เชื่อมกัน) แล้วเอากระดาษนั่นไปให้เขา(เภสัช) ก็จะเก็บเงินพร้อมกับให้ยาเรา ผมถามชาวบ้านทำไมหมอไม่จ่ายยาเลยวะเขาบอกว่า หมอมีหน้าที่เก่งวินิจฉัย เภสัช เก่งเรื่อง ยา..... ก็เรื่องง่ายๆทำให้มันยาก หลวงจะได้เก็บภาษีสองบิลไง ท่านพูดถึงเรื่องข้อเท็จจริง ดีเลย นักโทษหนีคุกคนหนึ่ง และ มี คุณหญิง ใส่แว่นคนหนึ่ง เป็นเจ้าของ รพ.เอกชน และเจ้าของ chain ร้านขายยา เขาอยากจะผูกขาดครับ แล้วก็มีพวกทาสนายเงิน ที่ไม่สนใจชาวบ้านว่าจะเป็นจะตาย กระเหี้ยนกระหือรือ จะงาบให้ได้ อยากให้ทราบไว้ว่ากระทรวงที่มีคนเก่งนั่งอยู่เยอะสุดคือ "กระทรวงสาธารณะสุข" จะมางาบดื้อๆคนเขาไม่โง่ ปล.ทักสินมันพ่อค้า อย่าลืมสิครับ มันโกหกเก่ง มันหลอกชาวบ้านมาตายแทนได้ ชาวเสื้อแดงตายไปกี่ศพไม่เห็นเงามันมาเดินนำหน้าศพเลย แล้วยังเอาเงินคลังหลวงมาไล่แจกอีก ผมไม่อยากดึงเข้าการเมืองแต่ท่านเอาคำว่า"ทักสิน"มาอ้างก็ตามนั้นครับ แค่ผมยอมรับว่าทักสินเก่งจริง! หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 12:45:34 PM ระเบียบการขออนุญาตประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน(คลินิก)
1.คุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 1.1 อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 1.2 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา 1.3 ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 1.4 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 1.5 ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ (ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการหรือผู้แทนต้องมีคุณสมบัติ ตาม1.1-1.4 ด้วย) 2. คุณสมบัติของผู้ขอดำเนินการสถานพยาบาล 2.1 เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะหรือผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ทันตกรรม ผดุงครรภ์ 2.2 ควบคุมดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานสถานพยาบาลโดยใกล้ชิด 3. ลักษณะโดยทั่วไปของสถานพยาบาล 3.1 ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 3.2 ถ้ามีการให้บริการหลายสาขาต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน 3.3 ไม่ตั้งอยู่ในร้านขายยา 3.4 มีห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ 3.5 อาคารมั่นคงแข็งแรง มีแสงสว่าง และระบายอากาศเพียงพอ 3.6 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องกระทำโดยสะดวก 3.7 ห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วนมิดชิด 3.8 มีระบบการเก็บและกำจัดมูลฝอย การควบคุมการติดเชื้อเหมาะสม หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 12:46:36 PM 4.หลักฐานประกอบการขออนุญาต
1. แบบคำขอตั้ง(ประกอบกิจการ)สถานพยาบาล (ส.พ.1) 11. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นคนต่างด้าว จะต้องแนบสำเนา 2. รายละเอียดแนบท้าย (ส.พ.1) ใบประกอบธุรกิจคนต่างด้าวจากกระทรวงพาณิชย์ 3. แบบคำขอดำเนินการสถานพยาบาล (ส.พ.2) หรือใบอนุญาตให้คนต่างด้าว ทำงานจากกรมแรงงาน 4.สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้อนุญาตประกอบกิจการ กระทรวงมหาดไทย 5. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้ขอดำเนินการ 12. กรณีนิติบุคคลเป็นผู้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 6. สำเนาใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ให้แนบหนังสือสำคัญการประกอบกิจการและวัตถุประสงค์ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะของผู้ขอดำเนินการ ของนิติบุคคลนั้นๆ เช่น หนังสือบริคณห์สนธิ เป็นต้น 7. สำเนาใบสำคัญการสมรส (ถ้ามี) 13. แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานพยาบาล 8. สำเนาใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุล (ถ้ามี) 14.ใบรับรองแพทย์ 9.เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ ( เช่น โฉนด สัญญาเช่า ) 15. แผนผังภายในคลินิก 10. สำเนาทะเบียนบ้านของสถานพยาบาล 16. รูปถ่ายผู้ขออนุญาตดำเนินการ ขนาด 1นิ้ว 3 รูป และขนาด 3 นิ้ว x 5 นิ้ว 1 รูป หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 11:10:35 PM ไม่เห็นมีข้อไหนห้ามหมอจ่ายยาเองเลย ว่ะ
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 11:36:10 PM ฟังหูไว้หูครับ...
เรื่องรัฐสวัสดิการอย่างนี้ ให้ออกมาแล้วแก้ยากครับ... ของอย่างนี้มันร้อนใครแตะก็ลวกมือครับ... :D หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 12, 2012, 11:40:32 PM ส่วนเรื่องแพทย์จ่ายยาหรือเภสัชจ่ายยา...
ในปัจจุบันยังไม่มีกฎที่ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าห้ามแพทย์จ่ายยา... ถ้าหากออกกฎมา... คนไข้ลำบาก หมอก็ลำบาก เภสัชก็ลำบาก รพ.เอกชนสบาย ครับ... เพราะร้านขายยาจะขายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ได้เฉพาะยาบรรจุสำเร็จ... นอกจากนั้นต้องมีในสั่งยาจากแพทย์ทั้งหมด... ว่ากันตามตรง... ผมไม่เดือดร้อนเลยสักนิด เพราะแฟนผมก็เป็นเภสัชกร... ว่าไปแล้วออกกฎหมายอย่างว่ามาก็ดี ผมสบาย...ฮา... ::007:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 13, 2012, 09:38:30 AM ส่วนเรื่องแพทย์จ่ายยาหรือเภสัชจ่ายยา... อย่างน้อยก็มีหมอที่เป็นผู้ชายแท้อีกคน เพราะหมอที่ผมรู้จักเป็นเพื่อนๆกันแน่ใจว่าเป็นผู้ชายแท้มีแต่หมอหมา หมอโรคจิต(จิตแพทย์) หมอคน-หมอเด็ก-หมอกระดูก แต๋วแตกกันทั้งนั้นในปัจจุบันยังไม่มีกฎที่ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าห้ามแพทย์จ่ายยา... ถ้าหากออกกฎมา... คนไข้ลำบาก หมอก็ลำบาก เภสัชก็ลำบาก รพ.เอกชนสบาย ครับ... เพราะร้านขายยาจะขายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ได้เฉพาะยาบรรจุสำเร็จ... นอกจากนั้นต้องมีในสั่งยาจากแพทย์ทั้งหมด... ว่ากันตามตรง... ผมไม่เดือดร้อนเลยสักนิด เพราะแฟนผมก็เป็นเภสัชกร... ว่าไปแล้วออกกฎหมายอย่างว่ามาก็ดี ผมสบาย...ฮา... ::007:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มกราคม 13, 2012, 11:30:11 AM ส่วนเรื่องแพทย์จ่ายยาหรือเภสัชจ่ายยา... ในปัจจุบันยังไม่มีกฎที่ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าห้ามแพทย์จ่ายยา... ถ้าหากออกกฎมา... คนไข้ลำบาก หมอก็ลำบาก เภสัชก็ลำบาก รพ.เอกชนสบาย ครับ... เพราะร้านขายยาจะขายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ได้เฉพาะยาบรรจุสำเร็จ... นอกจากนั้นต้องมีในสั่งยาจากแพทย์ทั้งหมด... ว่ากันตามตรง... ผมไม่เดือดร้อนเลยสักนิด เพราะแฟนผมก็เป็นเภสัชกร... ว่าไปแล้วออกกฎหมายอย่างว่ามาก็ดี ผมสบาย...ฮา... ::007:: ็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่หมอ rute อ่ะ ฮา 555555555555555555555555555 ยายกลัว "หมอ กับ เภสัช" เขา "ฮั้ว" เขียนใบสั่งจ่ายยา กันตอนดึก อ่ะ ฮา ทีนี้แหละ ทั้งค่าพบแพทย์ และ ค่ายา คงแพง "ระยิบ" อ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 01:23:44 PM เกลียดแดงแถ จริงๆ
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: jabpo ที่ มกราคม 13, 2012, 02:45:18 PM ส่วนเรื่องแพทย์จ่ายยาหรือเภสัชจ่ายยา... อย่างน้อยก็มีหมอที่เป็นผู้ชายแท้อีกคน เพราะหมอที่ผมรู้จักเป็นเพื่อนๆกันแน่ใจว่าเป็นผู้ชายแท้มีแต่หมอหมา หมอโรคจิต(จิตแพทย์) หมอคน-หมอเด็ก-หมอกระดูก แต๋วแตกกันทั้งนั้นในปัจจุบันยังไม่มีกฎที่ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าห้ามแพทย์จ่ายยา... ถ้าหากออกกฎมา... คนไข้ลำบาก หมอก็ลำบาก เภสัชก็ลำบาก รพ.เอกชนสบาย ครับ... เพราะร้านขายยาจะขายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ได้เฉพาะยาบรรจุสำเร็จ... นอกจากนั้นต้องมีในสั่งยาจากแพทย์ทั้งหมด... ว่ากันตามตรง... ผมไม่เดือดร้อนเลยสักนิด เพราะแฟนผมก็เป็นเภสัชกร... ว่าไปแล้วออกกฎหมายอย่างว่ามาก็ดี ผมสบาย...ฮา... ::007:: ส่วนเรื่องแพทย์จ่ายยาหรือเภสัชจ่ายยา... อย่างน้อยก็มีหมอที่เป็นผู้ชายแท้อีกคน เพราะหมอที่ผมรู้จักเป็นเพื่อนๆกันแน่ใจว่าเป็นผู้ชายแท้มีแต่หมอหมา หมอโรคจิต(จิตแพทย์) หมอคน-หมอเด็ก-หมอกระดูก แต๋วแตกกันทั้งนั้นในปัจจุบันยังไม่มีกฎที่ระบุออกมาอย่างชัดเจนว่าห้ามแพทย์จ่ายยา... ถ้าหากออกกฎมา... คนไข้ลำบาก หมอก็ลำบาก เภสัชก็ลำบาก รพ.เอกชนสบาย ครับ... เพราะร้านขายยาจะขายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ได้เฉพาะยาบรรจุสำเร็จ... นอกจากนั้นต้องมีในสั่งยาจากแพทย์ทั้งหมด... ว่ากันตามตรง... ผมไม่เดือดร้อนเลยสักนิด เพราะแฟนผมก็เป็นเภสัชกร... ว่าไปแล้วออกกฎหมายอย่างว่ามาก็ดี ผมสบาย...ฮา... ::007:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 03:12:24 PM เหอะๆ กระทู้นี้โดนด่าฟรี ;D
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 13, 2012, 06:46:11 PM (http://image.free.in.th/z/ik/dsc047611.jpg)
นี่เป็นยาที่ผมไปซื้อมาเมื่อกี้ ไม่สบายก็ต้องพึ่งเภสัชชุมชนครับ หากออกกฎให้ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ก่อนถึงซื้อได้คงไม่ไหวครับ ::012:: วิตามิน C ๒ ห่อ , ยาแก้ไอ ๑ ชุด , ยาพารา ๑๐๐ เม็ด ๑ ขวด ,ยาขับเสมหะ ๑ ชุด ทั้งหมด ๕๐ บาท ::002:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 13, 2012, 06:50:22 PM ระเบียบการขออนุญาตประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน(คลินิก) ไม่เกี่ยวกับประเด็นสีเสื้อนะครับใครจะอยู่สีไหนก็ตามใจ แต่คลีนิกบ้านเราผมเห็นขายยาด้วยนี่ครับ1.คุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 1.1 อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 1.2 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา 1.3 ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 1.4 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 1.5 ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ (ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการหรือผู้แทนต้องมีคุณสมบัติ ตาม1.1-1.4 ด้วย) 2. คุณสมบัติของผู้ขอดำเนินการสถานพยาบาล 2.1 เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะหรือผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ทันตกรรม ผดุงครรภ์ 2.2 ควบคุมดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานสถานพยาบาลโดยใกล้ชิด 3. ลักษณะโดยทั่วไปของสถานพยาบาล 3.1 ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 3.2 ถ้ามีการให้บริการหลายสาขาต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน 3.3 ไม่ตั้งอยู่ในร้านขายยา 3.4 มีห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ 3.5 อาคารมั่นคงแข็งแรง มีแสงสว่าง และระบายอากาศเพียงพอ 3.6 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องกระทำโดยสะดวก 3.7 ห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วนมิดชิด 3.8 มีระบบการเก็บและกำจัดมูลฝอย การควบคุมการติดเชื้อเหมาะสม หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 13, 2012, 06:53:32 PM (http://image.free.in.th/z/ik/dsc047611.jpg) ผมเห็นด้วยครับ นี่เป็นยาที่ผมไปซื้อมาเมื่อกี้ ไม่สบายก็ต้องพึ่งเภสัชชุมชนครับ หากออกกฎให้ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ก่อนถึงซื้อได้คงไม่ไหวครับ ::012:: วิตามิน C ๒ ห่อ , ยาแก้ไอ ๑ ชุด , ยาพารา ๑๐๐ เม็ด ๑ ขวด ,ยาขับเสมหะ ๑ ชุด ทั้งหมด ๕๐ บาท ::002:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 07:46:55 PM ระเบียบการขออนุญาตประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน(คลินิก) ไม่เกี่ยวกับประเด็นสีเสื้อนะครับใครจะอยู่สีไหนก็ตามใจ แต่คลีนิกบ้านเราผมเห็นขายยาด้วยนี่ครับ1.คุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 1.1 อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 1.2 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา 1.3 ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 1.4 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 1.5 ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ (ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการหรือผู้แทนต้องมีคุณสมบัติ ตาม1.1-1.4 ด้วย) 2. คุณสมบัติของผู้ขอดำเนินการสถานพยาบาล 2.1 เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะหรือผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ทันตกรรม ผดุงครรภ์ 2.2 ควบคุมดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานสถานพยาบาลโดยใกล้ชิด 3. ลักษณะโดยทั่วไปของสถานพยาบาล 3.1 ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 3.2 ถ้ามีการให้บริการหลายสาขาต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน 3.3 ไม่ตั้งอยู่ในร้านขายยา 3.4 มีห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ 3.5 อาคารมั่นคงแข็งแรง มีแสงสว่าง และระบายอากาศเพียงพอ 3.6 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องกระทำโดยสะดวก 3.7 ห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วนมิดชิด 3.8 มีระบบการเก็บและกำจัดมูลฝอย การควบคุมการติดเชื้อเหมาะสม หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: p23-504 รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 08:20:46 PM ขออนุญาตนะครับ เวลาที่หมอตรวจแล้วเขียนใบสั่งยารักษาคนป่วย หมอเขียนบอกอาการของโรคแล้วให้เภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัยในการให้ยากับคนป่วย หรือว่าหมอเขียนบอกว่าคนป่วยเป็นอะไรและต้องให้ยาอะไรขนาดเท่าไรเภสัชกรก็จ่ายยาไปตามนั้น เป็นคำถามของคนโง่นะครับ แต่อยากรู้ ::014::
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 09:48:48 PM ผมว่าคุณหมอเป็นอาชีพที่ลายมือไม่สวย แต่เภสัชกลับอ่านออกครับ... ::005::
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 13, 2012, 10:41:05 PM ผมว่าคุณหมอเป็นอาชีพที่ลายมือไม่สวย แต่เภสัชกลับอ่านออกครับ... ::005:: อ้าวตายล่ะสิ เมื่อก่อนใครๆชอบถามผมบ่อยๆว่าเรียนจบหมอมาเหรอไอ้ผมก็หลงปลื้มมาตั้งนานนึกว่าตัวเองราศีดีเหมือนคนเรียนจบสูงๆ โธ่. ที่แท้ก็ว่าเราลายมือไม่สวยนี่เอง ::013::หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มกราคม 13, 2012, 10:54:12 PM ผมว่าคุณหมอเป็นอาชีพที่ลายมือไม่สวย แต่เภสัชกลับอ่านออกครับ... ::005:: อ้าวตายล่ะสิ เมื่อก่อนใครๆชอบถามผมบ่อยๆว่าเรียนจบหมอมาเหรอไอ้ผมก็หลงปลื้มมาตั้งนานนึกว่าตัวเองราศีดีเหมือนคนเรียนจบสูงๆ โธ่. ที่แท้ก็ว่าเราลายมือไม่สวยนี่เอง ::013::::005:: ก็ผมเห็นลายมือคุณหมอเวลาเขียนจ่ายยายึกๆๆๆ แต่เภสัชจ่ายยาถูกตลอดน่ะครับ... ;D หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 13, 2012, 11:10:42 PM ขออนุญาตนะครับ เวลาที่หมอตรวจแล้วเขียนใบสั่งยารักษาคนป่วย หมอเขียนบอกอาการของโรคแล้วให้เภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัยในการให้ยากับคนป่วย หรือว่าหมอเขียนบอกว่าคนป่วยเป็นอะไรและต้องให้ยาอะไรขนาดเท่าไรเภสัชกรก็จ่ายยาไปตามนั้น เป็นคำถามของคนโง่นะครับ แต่อยากรู้ ::014:: เคยมีครั้งนึงผมไปร.พ.ให้หมอตรวจบริเวณต้นแขนมันบวมและคันๆ หมอเค้าบอกว่าเป็นพยาธิตัวจี๊ดก็เลยเขียนใบสั่งยาให้ไปยื่นที่ห้องจ่ายยา พอเภสัชเค้าเห็นใบสั่งยาก็ถามผมว่าหมอบอกว่าเป็นอะไรผมก็บอกว่าพยาธิตัวจี๊ดครับ เภสัชเค้าก็พูดว่าถ้างั้นต้องกินยาเยอะกว่านี้กินแค่ที่หมอสั่งมาไม่หายหรอกแล้วเค้าก็โทรไปถามหมอแบบที่ถามผมนั่นแหละครับแล้วผมก็ได้ยินเค้าบอกหมอแบบที่เค้าบอกกับผมเหมือนกันครับหัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2012, 12:35:46 AM ระเบียบการขออนุญาตประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน(คลินิก) ไม่เกี่ยวกับประเด็นสีเสื้อนะครับใครจะอยู่สีไหนก็ตามใจ แต่คลีนิกบ้านเราผมเห็นขายยาด้วยนี่ครับ1.คุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 1.1 อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 1.2 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา 1.3 ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 1.4 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 1.5 ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ (ถ้าเป็นนิติบุคคล ผู้จัดการหรือผู้แทนต้องมีคุณสมบัติ ตาม1.1-1.4 ด้วย) 2. คุณสมบัติของผู้ขอดำเนินการสถานพยาบาล 2.1 เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะหรือผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม ทันตกรรม ผดุงครรภ์ 2.2 ควบคุมดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานสถานพยาบาลโดยใกล้ชิด 3. ลักษณะโดยทั่วไปของสถานพยาบาล 3.1 ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 3.2 ถ้ามีการให้บริการหลายสาขาต้องมีการแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน 3.3 ไม่ตั้งอยู่ในร้านขายยา 3.4 มีห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ 3.5 อาคารมั่นคงแข็งแรง มีแสงสว่าง และระบายอากาศเพียงพอ 3.6 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องกระทำโดยสะดวก 3.7 ห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาเป็นสัดส่วนมิดชิด 3.8 มีระบบการเก็บและกำจัดมูลฝอย การควบคุมการติดเชื้อเหมาะสม ขออนุญาตตอบครับ... เป็นไปได้สองกรณีครับ... ๑.เป็นคลินิกและร้านขายยาที่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง คือขออนุญาตตั้งก่อนกฎนี้จะออกมาครับ... กรณีนี้เจอบ่อยๆครับ แถวๆที่ผมทำงานก็พอมีครับ... แต่หลังจากปี ๔๗ แล้วขอไม่ได้ครับ... ๒.แอบขายโดยผิดกฎหมายครับ... บางครั้งแพทย์ไม่อยู่คลินิก แต่เด็กหน้าร้านขาย(โดยแพทย์อาจรู้หรือไม่รู้)ครับ... :D หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2012, 12:39:34 AM ขออนุญาตนะครับ เวลาที่หมอตรวจแล้วเขียนใบสั่งยารักษาคนป่วย หมอเขียนบอกอาการของโรคแล้วให้เภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัยในการให้ยากับคนป่วย หรือว่าหมอเขียนบอกว่าคนป่วยเป็นอะไรและต้องให้ยาอะไรขนาดเท่าไรเภสัชกรก็จ่ายยาไปตามนั้น เป็นคำถามของคนโง่นะครับ แต่อยากรู้ ::014:: เคยมีครั้งนึงผมไปร.พ.ให้หมอตรวจบริเวณต้นแขนมันบวมและคันๆ หมอเค้าบอกว่าเป็นพยาธิตัวจี๊ดก็เลยเขียนใบสั่งยาให้ไปยื่นที่ห้องจ่ายยา พอเภสัชเค้าเห็นใบสั่งยาก็ถามผมว่าหมอบอกว่าเป็นอะไรผมก็บอกว่าพยาธิตัวจี๊ดครับ เภสัชเค้าก็พูดว่าถ้างั้นต้องกินยาเยอะกว่านี้กินแค่ที่หมอสั่งมาไม่หายหรอกแล้วเค้าก็โทรไปถามหมอแบบที่ถามผมนั่นแหละครับแล้วผมก็ได้ยินเค้าบอกหมอแบบที่เค้าบอกกับผมเหมือนกันครับกรณีนี้ก็เป็นได้ครับ... บางครั้งแพทย์ก็จำขนาดยาผิดไปครับ... เภสัชกรสามารถแจ้งเตือนได้ครับ... แต่บางครั้งแพทย์ก็อาจจงใจสั่งเพราะมีข้อมูลอื่นๆมากกว่านั้นก็ได้ครับ... ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรครับ คุยกันได้... ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเภสัชเรื่องใบสั่งยาบ่อยๆ... บางครั้งผมก็จำผิด บางครั้งผมก็สั่งถูกต้องแล้วครับ... :D หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 14, 2012, 12:50:56 AM ขอบคุณครับ ::014:: ขอถามอีกข้อนึงนะครับผมข้องใจมานานแล้วครับ ผมเป็นคนแพ้พิษผึ้งอย่างรุนแรงครับ คือมีครั้งนึงผมโดนผึ้งต่อยแล้วเข้าโรงพยาบาลหมอเค้าก็รักษาจนหายแหละครับนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณครึ่งคืนครับ แต่ผมมาสงสัยตอนออกโรงพยาบาลนี่หมอเค้าให้ยามาด้วยครับที่ผมสงสัยคือมันมียาลดกรดในกระเพาะอาหารด้วยนี่ครับ ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวกับโดนผึ้งต่อยยังไงครับ ::014::
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มกราคม 14, 2012, 10:00:54 AM ขอตอบแบบโง่ๆนะครับ ยาแก้แพ้ในกลุ่ม สเตียรอยด์ ที่ให้แก้แพ้พิษเหล็กในของผึ้ง มีผลข้างเคียงคือระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หมอเลยให้ยาลดกรด เคลือบกระเพาะมาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคือง หรือ กัด กระเพาะคนไข้ครับครับ
หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 14, 2012, 10:36:47 PM ขอตอบแบบโง่ๆนะครับ ยาแก้แพ้ในกลุ่ม สเตียรอยด์ ที่ให้แก้แพ้พิษเหล็กในของผึ้ง มีผลข้างเคียงคือระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร หมอเลยให้ยาลดกรด เคลือบกระเพาะมาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคือง หรือ กัด กระเพาะคนไข้ครับครับ ขอบคุณครับ วันนั้นผมรับยามาแบบงงเหมือนกันครับ เดินมาที่รถก็หัวเราะท้องแข็งท้องงอครับ ที่โดนผึ้งต่อยแล้วได้ยาลดกรดในกระเพาะอาหารหัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ มกราคม 15, 2012, 09:38:52 AM ถ้ามีล้มได้เสียกันทั้งประเทศแน่....คนที่อาศัยหลัีกประกันสุขภาพนี้เพื่อมีชีวิตอยู่ทั่วประเทศ
คิดได้ยังไง...... หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 15, 2012, 11:31:40 AM ขออนุญาตนะครับ เวลาที่หมอตรวจแล้วเขียนใบสั่งยารักษาคนป่วย หมอเขียนบอกอาการของโรคแล้วให้เภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัยในการให้ยากับคนป่วย หรือว่าหมอเขียนบอกว่าคนป่วยเป็นอะไรและต้องให้ยาอะไรขนาดเท่าไรเภสัชกรก็จ่ายยาไปตามนั้น เป็นคำถามของคนโง่นะครับ แต่อยากรู้ ::014:: เคยมีครั้งนึงผมไปร.พ.ให้หมอตรวจบริเวณต้นแขนมันบวมและคันๆ หมอเค้าบอกว่าเป็นพยาธิตัวจี๊ดก็เลยเขียนใบสั่งยาให้ไปยื่นที่ห้องจ่ายยา พอเภสัชเค้าเห็นใบสั่งยาก็ถามผมว่าหมอบอกว่าเป็นอะไรผมก็บอกว่าพยาธิตัวจี๊ดครับ เภสัชเค้าก็พูดว่าถ้างั้นต้องกินยาเยอะกว่านี้กินแค่ที่หมอสั่งมาไม่หายหรอกแล้วเค้าก็โทรไปถามหมอแบบที่ถามผมนั่นแหละครับแล้วผมก็ได้ยินเค้าบอกหมอแบบที่เค้าบอกกับผมเหมือนกันครับกรณีนี้ก็เป็นได้ครับ... บางครั้งแพทย์ก็จำขนาดยาผิดไปครับ... เภสัชกรสามารถแจ้งเตือนได้ครับ... แต่บางครั้งแพทย์ก็อาจจงใจสั่งเพราะมีข้อมูลอื่นๆมากกว่านั้นก็ได้ครับ... ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรครับ คุยกันได้... ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเภสัชเรื่องใบสั่งยาบ่อยๆ... บางครั้งผมก็จำผิด บางครั้งผมก็สั่งถูกต้องแล้วครับ... :D เข้าใจว่าหมอรุท ต้องรับฟังเภสัชกรเป็นประจำไม่ใช่เหรอครับ ที่ถูกบางที่เราก็ต้องผิด เอ ....หรือว่าผมจำผิดไป ::008:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 15, 2012, 12:43:17 PM ขออนุญาตนะครับ เวลาที่หมอตรวจแล้วเขียนใบสั่งยารักษาคนป่วย หมอเขียนบอกอาการของโรคแล้วให้เภสัชกรเป็นผู้วินิจฉัยในการให้ยากับคนป่วย หรือว่าหมอเขียนบอกว่าคนป่วยเป็นอะไรและต้องให้ยาอะไรขนาดเท่าไรเภสัชกรก็จ่ายยาไปตามนั้น เป็นคำถามของคนโง่นะครับ แต่อยากรู้ ::014:: เคยมีครั้งนึงผมไปร.พ.ให้หมอตรวจบริเวณต้นแขนมันบวมและคันๆ หมอเค้าบอกว่าเป็นพยาธิตัวจี๊ดก็เลยเขียนใบสั่งยาให้ไปยื่นที่ห้องจ่ายยา พอเภสัชเค้าเห็นใบสั่งยาก็ถามผมว่าหมอบอกว่าเป็นอะไรผมก็บอกว่าพยาธิตัวจี๊ดครับ เภสัชเค้าก็พูดว่าถ้างั้นต้องกินยาเยอะกว่านี้กินแค่ที่หมอสั่งมาไม่หายหรอกแล้วเค้าก็โทรไปถามหมอแบบที่ถามผมนั่นแหละครับแล้วผมก็ได้ยินเค้าบอกหมอแบบที่เค้าบอกกับผมเหมือนกันครับกรณีนี้ก็เป็นได้ครับ... บางครั้งแพทย์ก็จำขนาดยาผิดไปครับ... เภสัชกรสามารถแจ้งเตือนได้ครับ... แต่บางครั้งแพทย์ก็อาจจงใจสั่งเพราะมีข้อมูลอื่นๆมากกว่านั้นก็ได้ครับ... ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรครับ คุยกันได้... ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเภสัชเรื่องใบสั่งยาบ่อยๆ... บางครั้งผมก็จำผิด บางครั้งผมก็สั่งถูกต้องแล้วครับ... :D เข้าใจว่าหมอรุท ต้องรับฟังเภสัชกรเป็นประจำไม่ใช่เหรอครับ ที่ถูกบางที่เราก็ต้องผิด เอ ....หรือว่าผมจำผิดไป ::008:: ::005:: ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: I Love My King (AkNaRiN~*) ที่ มกราคม 15, 2012, 01:01:47 PM ผมว่าคุณหมอเป็นอาชีพที่ลายมือไม่สวย แต่เภสัชกลับอ่านออกครับ... ::005:: อ้าวตายล่ะสิ เมื่อก่อนใครๆชอบถามผมบ่อยๆว่าเรียนจบหมอมาเหรอไอ้ผมก็หลงปลื้มมาตั้งนานนึกว่าตัวเองราศีดีเหมือนคนเรียนจบสูงๆ โธ่. ที่แท้ก็ว่าเราลายมือไม่สวยนี่เอง ::013::::005:: ก็ผมเห็นลายมือคุณหมอเวลาเขียนจ่ายยายึกๆๆๆ แต่เภสัชจ่ายยาถูกตลอดน่ะครับ... ;D ผมแอบมองทีไร...นึกว่าภาษาละตินโบราณทุกที... ::005:: หัวข้อ: Re: แผนล้มบัตรทอง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 16, 2012, 01:05:33 AM ขอบคุณครับ ::014:: ขอถามอีกข้อนึงนะครับผมข้องใจมานานแล้วครับ ผมเป็นคนแพ้พิษผึ้งอย่างรุนแรงครับ คือมีครั้งนึงผมโดนผึ้งต่อยแล้วเข้าโรงพยาบาลหมอเค้าก็รักษาจนหายแหละครับนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณครึ่งคืนครับ แต่ผมมาสงสัยตอนออกโรงพยาบาลนี่หมอเค้าให้ยามาด้วยครับที่ผมสงสัยคือมันมียาลดกรดในกระเพาะอาหารด้วยนี่ครับ ไม่ทราบว่ามันเกี่ยวกับโดนผึ้งต่อยยังไงครับ ::014:: ยาระงับการหลั่งกรดในกลุ่ม H2-antagonist มีฤทธิ์ในการแก้แพ้ได้ด้วยครับ... ยากลุ่มนี้อาทิพวก Cimetidine , Ranitidine... บางครั้งเราใช้แก้แพ้ได้ครับ... :D |