เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ผมเข้าไปดูในเวปเพื่อนบ้าน ก็เลยเกิดความสงสัยครับว่า ทำไม คิมเบอร์กับพวกเอ็ดบราว
ราคามันแตกต่างกันจังครับ เรียกว่าไปกันเป็นเท่าตัวเลยครับเป็นเพราะวัตถุดิบหรือคุณภาพครับ มันดีกว่ากันตรงไหนครับ แล้วที่บ้านเกิดของปืนเหล่านี้ราคามันต่างกันแบบนี้ไหมครับ หรือว่าเป็นเพราะร้านปืนปั่นราคาครับ
http://www.gun.in.th/2010/index.php?topic=36504.0
http://www.gun.in.th/2010/index.php?topic=1280.0

เริ่มที่ต้นทุนก่อนครับ ..................... ว่าถูกแพงกี่มากน้อย

ในต่างประเทศ งานแฮนด์เมค ค่าแรงจะแพงกว่างาน CNC หลายเท่าตัว

ต้นทุนการผลิต ตั้งแต่การออกแบบ ชนิดวัสดุที่ใช้ กรรมวิธี รวมทั้งการเก็บรายละเอียด การเข้างานชิ้นส่วน ....................สูงต่ำ อยู่ที่ตรงนี้ครับ

อีกประการหนึ่งคือความต้องการของตลาดด้วย ..................... ผลิตภัณฑ์ที่ได้การยอมรับ ย่อมมีโอกาสที่จะตั้งราคาขายสูงๆได้ หากตลาดมีความต้องการ

แสดงว่ารายละเอียดของเนื้องานความประณีตแตกต่างกันใช่ไหมครับ แล้วประสิทธิภาพต่างกันมากไหมครับ แล้วปืนประเภทนี้ส่วนมากจะใช้เพื่อการแข่งขันหรือว่าใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวครับ

ก็เหมือนกับ นาฬิกาโรเล็กซ์ กับคาสิโอหรือไซโก้ แหละครับ .................

ปืนเนี๊ยบๆ ฟิตๆ สวยๆ ................ยังไงก็ยิงแม่นกว่าปืนต่อสู้อยู่แล้ว

แต่เอาไปใช้ในสนามเพลาะหรือปฎิบัติการชิงตัวประกัน ก็ใช้งานสู้ปืนต่อสู้ไม่ได้หรอกครับ

ซื้อได้รีบซื้อเลยครับ

ขอบคุณครับ ::014::

555 ไม่เอาละครับไม่มีปัญญาซื้อครับ

   ตรงนี้แหละครับสำคัญ ผมเริ่มสนใจอาวุธปืนแบบจริงจัง ตอนนั้นกล็อก19 ราคาประมาณสี่หมื่นบาท สมิธ เอม67
ก็ราคาใกล้เคียงกัน โคลท์ โกลด์คัพ ราคาแปดหมื่นห้า ผมมมองไปที่เอ็ม67เป็นหลัก เพราะคิดว่าพอซื้อหาได้ ไม่
ได้มองไปที่ 11 มม.เลย เพราะคิดว่าแพงเกินไปในตอนนั้น
   กว่าผมจะทำงาน เก็บเงินจนพอจะซื้อปืนได้ โกลด์คัพราคาดีดไปที่แสนเจ็ดแล้ว กล็อก19ก็แปดหมื่นปลายถึง
เก้าหมื่นต้น เอ็ม67ก็แตะๆแสน
    ราคาที่เห็นวันนี้ ลองนึกเล่นๆ คนที่เก็บเงินจนพอจะซื้อได้ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า เขาจะต้องจ่ายเพิ่มไปเท่าไหร่

ขนาด.๔๕ ที่ผมชอบก็SR1911 ครับสวยดีแต่คงไม่ซื้อครับเกินความจำเป็น แต่ที่จะซื้อก่อนก็คง.๒๒ ครับ จากนั้นก็ ๙ คอมแพ็คครับ เน้นโพลีเมอร์ก่อนเบาๆพกพาสบายครับ ลูกซองเฝ้าบ้านมีแล้ว .๒๒ก็เข้าไร่ไปนาครับ ส่วน ๙ มม.ก็ไว้ติดตัวเวลาไปไหนมาไหนกลางคํ่ากลางคืนครับ
คิดว่าแค่นี้พอแล้วครับ

ผมคิดเหมือนพี่นะครับ ว่าต่อไปในอนาคตปืนจะยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นผมจะซื้อเบเนลีเอม2ให้ได้ แต่อำเภอที่ผมอยู่เค้าบอกซ้ำขนาดไม่ได้แล้วครับ  :~) :~)

ผมนึกว่าน้องคิมจะประมาณ 8-9 หมื่นซะอีก.... ::012::

ใครจะคิดว่ามันจะแพงเมื่อก่อนพวกนี้ราคาอย่างมากก็สี่หมื่นปีหนึ่งถ้าไม่เทียวเตร่ซื้อได้สองสามกระบอก ขอป.3 ก็ง่ายสามวันได้แล้ว CZ ยาวราคาไม่ถึงหมื่น Beneli หมื่นห้า โอ้พระเจ้า

อันนี้ห้ามกันไม่ได้ครับ
ลองนึกย้อนนับขวดนับดริ้งดู ..........หลายกระบอกแล้วครับ ::008:: ::008:: ::008::

ราคาน้ำมันเชื่อเพลิง วันนั้นกับวันนี้ก็ต่างกันหลายเท่าตัวครับ
แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ราคาปืนขึ้นไปน้อยกว่าราคาน้ำมัน

ใช่ครับแต่นํ้ามันเราเติมทีละร้อยสองร้อย น้อยสุดก็หนึ่งขวดแม่โขงได้ครับมันเลยทำให้เหมือนไม่แพงเท่าไหร่ครับ ปืนนี่ควักทีเดียวเป็นก้อนครับมันเลยดูแพงมากครับ

ในต่างประเทศ งานแฮนด์เมค ค่าแรงจะแพงกว่า
ต่างจากบ้านเราจังเลย

หากปลงใจกับสิ่งใดแล้วนั้น..........ไม่มีคำว่าถูกหรือแพงครับ
แต่หากไม่ถูกใจกับสิ่งใด ๆ อะไร ๆ ก็แพงไปหมด
ราคาปืน....ไม่มีทางจะถูกไปกว่านี้แล้วครับ มีแต่จะแพงขึ้นไปเรื่อย ๆ
ยิ่ง.........ตอนนี้ ( ตอนที่เพื่อใคร ? ) ยิ่งน่าจะแพงไปกว่านี้อีกโขเลยครับ  :~)  ::014::

เห็นด้วยครับ  อะไรที่ใจเราชอบเราก็ยินดีจ่าย  อะไรที่เราไม่ชอบเราก็ไม่อยากจ่าย  ด้วยข้ออ้างต่างๆนาๆสารพัดทั้งชอบและไม่ชอบ  ;D

ผมว่าระดับคนซื้อก็มีผลเหมือนกันครับ......

ส่วนตัวผมติดอยู่ที่การขอป.3 มากกว่าค่าปืนครับ  :<<
ไม่ได้หมายความว่าผมมีเงินเยอะเหลือเฟือนะครับ เพราะผมใช้วิธีแบ่งเก็บเงินให้ได้เป็นก้อนๆ ยอมตัดรายจ่ายบาง (หลายอย่าง) ออกไป
ประกอบกับความโชคดีที่มีโอกาสได้สิทธิ์ซื้อปืนโครงการฯ ครับ  ::014::