เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ระบบโควต้าสั่งปืนเป็นต้นเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ปืนแพงเกินความเป็นจริงไปมาก พอจะมีทางไหนบ้างที่จะยกเลิกระบบนี้และให้เป็นระบบการค้าเสรีใครใคร่ค้าค้า ร้านปืนที่ชอบเอาเปรียบผู้บริโภค จะได้สูญพันธุ์ซะที

.......... ;D..ผมว่าคงยาก ครับ.... แต่ใจจริงของผมนะครับ อยากให้แก้ กม. ให้ร้านขายปืน รับปืนที่ผลิตในเมื่องไทย( โรงงานถูกต้องตาม กม.)  ขายได้แบบไม่จำกัดโคต้า แต่ของนอกให้นำเข้าตามโคต้าเหมือนเดิมครับ  คนที่มีงบน้อยก็เล่นของโรงงานในไทย  ใครมีเงินมาก ก็เล่นของนอกกันไป.. ;D

        วิธีง่ายๆคือทำอย่างไรให้ผู้นำของไทย ไม่รังเกียจปืนครับ    ทำให้เขาชอบปืนครับ ??? ??? ???

น่าจะพิจารณาออก ป 2 บุคคล ให้กับ บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมาย ในสามจังหวัดภาคใต้ ได้แล้วครับ  สงสารพี่น้องชาว ตจว ที่จำเป็นต้องซื้อปืนราคาแพงเกินเหตุ 

และออกใบอนุญาตซ่อมปืน ให้เป็นสวัสดิการแก่ ข้าราชการทหาร ที่ปลดประจำการครับ  เสียดายความรู้ที่มีครับ และกลัวจะเอาไปใช้ในทางมิชอบด้วย(คนต้องกินต้องใช้)  เป็นสหกรณ์ ร้านซ่อมปืน รัฐสามารถควบคุมให้อยู่ในกรอบได้ครับ  ปืนเก่าๆจะได้ฟื้นสภาพ ตัดราคาปืนใหม่ในตลาดไปอีกทาง

คุณเสกลองรวมกลุ่ม สพป. สนับสนุนและเสนอ มท.๑ ยกเลิกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ ๑๐๙/๒๕๓๕  ข้อ ๒ และ ข้อ ๓ สิครับ 
ภาวะทางภาคใต้และกระแสช่วงนี้ เป็นสิ่งที่พอเป็นไปได้

ยกเลิกได้อยู่แล้วแค่กฎหมาย กฎหมายเปลี่ยนกันประจำ แต่ใครจะเป็นคนยกเลิกให้เท่านั้นเองครับที่ยาก

คงยากครับ...หากผู้นำยังเห็นแก่ตัวและพวกพองอย่างนี้ >:(
คงต้องมีญาติโกโหติกาท่านโดน..ลูกปืน...เข้ามาอยู่ร่างกายโดยไม่ได้รับเชิญ
สักนัดสองนัด...แล้วเสียชีวิตนั้นละครับ....จะมีน้ำตาคลอเบ้าให้เห็น
แล้วคงจะกลับคิดใหม่ทำใหม่เองครับ >:( >:( >:(

คงต้องขอความเห็นจากพี่สุพินท์ ว่าพอมีทางเป็นไปได้ไหมครับ

 ;) ผมก็ภาวนาให้มีการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เร็วๆเหมือนกัน... ;)

การเลิกคงเป็นไปไม่ได้   แต่ถ้าขอให้กำหนดจำนวนให้สอดคล้องกับอุปสงค์  ละก็ พอจะเป็นไปได้

อุปสงค์ตอนนี้ประมาณเท่าไหร่ครับ สั้น 100 ยาว 120 พอได้ไหมครับ

ถ้าเพิ่มได้ ก็เอาซัก สั้น 1000 ยาวซัก 2000 ไม่ดีกว่าหรือครับจะได้แข่งกันขายไปเลย ร้านที่ไม่บริการลูกค้าดีๆคราวนี้ไม่ต้องขายแล้ว

...มีแนวทางไหนที่ประชาชนจะทำได้บ้างครับ โดยที่ผลประโยชน์ควรตกเป็นของประชาชน ไม่ใช่ร้านปืน เดียวจะกลายเป็นว่า เรียกร้องแทบตาย ดันกลายเป็น "เตะหมู เข้าปากหมา" (คำเปรียบเปรย).. ::)

ถ้าคิดจะทำ  เรื่องแบบนี้ได้ประโยชน์กันทุกฝ่ายนะครับ  เราได้ซื้อปืนถูกลง 
ร้านค้าปืนที่ดีจะสนับสนุน  มีแต่ร้านค้าที่พิศดาร กับผู้ที่รับส่วยเท่านั้นแหละครับที่ไม่อยากให้เพิ่มโควต้า

ผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้กระบวนการศึกษาวิจัยมาหาตัวเลขนี้

ส่วนการเริ่มต้นเลิกคำสั่งห้าม ป.2 บุคคล   ก็ที่ผมชวนให้สั่งปืนกีฬา  ก็เป็นจุดเริ่มต้นละครับ

ตัวเลขผมคิดจากว่าร้านนั้นมีแค่โควต้าเดียว แล้วพออยู่ได้เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ
ความจริงร้านที่มีโควต้าเดียว  มีมากแค่ไหน ?

[/color]

ถ้าทำแล้วผลประโยชน์ไปตกกับร้านปืน ผมเองก็คงไม่ทำดีกว่าเพราะถึงเวลานั้นราคาปืนก็ยังแพงอยู่ดี

ผมว่าเรื่องจำนวนพูดยาก (วิจัยยากด้วย) ขอแค่จำนวนเพียงพอในการเปิด PO และเวลาขายหมดก็ขอใหม่ได้ทันที น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

ผลประโยชน์ร่วมกันครับ ต้องยอมบ้าง ถ้าทำได้จริงยังไงก็คงดีกว่าเดิมเพราะถ้าทุกร้านมีของมากๆ ลูกค้าก็มีสิทธิเลือกมากขึ้น โก่งราคาไม่ได้ขนาดนี้

แบ่งได้เป็น 4 ประเภท (เฉพาะ กทม.)
1  มีโควต้าเดียว  แต่ไม่ขายปืนเอง ขายโควต้าล่วงหน้าไปถึงปี 48-49  มีประมาณ 5-7 ร้าน
2  มีโควต้าเดียว  แต่ขายปืนเอง  ซื้อโควต้าร้านอื่นมาเพิ่มยอดปืน  มีประมาณ 15-20 ร้าน
3  เจ้าของเดียว แต่จดทะเบียน 7-12 นิติบุคคล   ประมาณ 12-15 ร้าน
4  เหมือนข้อ 3 แต่มี 15 นิติบุคคลขึ้นไป  ประมาณ 3-4 ร้าน

... ::) หากเป็นอย่างที่ผู้การว่า จำนวนโควต้าของร้านปืนร่วม 50 โควต้า วนเวียนอยู่ในย่านหลังวัง และตกอยู่ในมือคนไม่กี่ตระกูล...มิน่าปรับราคากันเป็นว่าเล่น... >:(

                       เป็นเช่นนั้นครับ เคยมีสมาชิกท่านหนึ่งเคยแย้งกับผมว่าแต่ละร้าน ขายปืนเท่ากับโควต้าเดียวซึ่งท่านนั้นอ้างว่าเปิดร้านขายอยู่

    ทำไมจะไม่รู้ ซึ่งความจริงมีโควต้าเดียวแต่ยอดที่ขายจริงเกินกว่าโควต้ามากครับ

โควต้าปืนใน กทม.น่าจะเกินสองร้อย   ราคาปืนที่แพงอยู่ตอนนี้  เพราะคนขายรู้ว่าขึ้นราคา ก็ยังมีคนซื้อ   พอถึงต้นปีหน้า  ปืนร้านเล็กเริ่มสั่งเข้ามา ก็จะดึงราคาให้ถูกลงมาได้อีกสักพักหนึ่ง

...โควต้าปืนใน กทม. เกินสองร้อย เท่ากับว่ามีปืนหมุนเวียนอยู่ในย่านนี้เป็นปืนสั้นไม่ต่ำกว่า 6,000 กระบอก และปืนยาวไม่ต่ำกว่า 10,000 กระบอก.. :o..ไม่ทราบว่ารวมปืนสวัสดิการด้วยหรือเปล่าครับ...และผู้การพอจะมีข้อมูลปืนนำเข้าประเทศในแต่ละปีเป็นป็นสั้น/ยาว อย่างละประมาณเท่าไรครับ... ???

เคยกอดคอถามเจ้าของร้านปืนที่ซื้อบ่อย ๆ ว่า ค่าโควต้าปืน ตกกระบอกละเท่าใด
ตอบอย่างมั่นใจว่า 15,000 - 20,000 บาท
นี่คือค่าความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบของคนซื้อปืนอย่างเรา ๆ ต้องจ่ายค่าปืนเพิ่มขึ้นเช่นนี้
นึกถึงเมื่อก่อน  เห็นประกาศขายปืนในนิตยสารอาวุธปืน ประมาณ พ.ศ. 2511  ลูกซองเดี่ยว 2,000 บาท เอง....

ทำไมตอนนั้นไม่ซื้อไม่รู้....55555 

                   ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ ค่าโควต้าปืนกระบอกละ15000-20000บาท ปืนยาวราคากระบอกละ18000ก็มีนะครับ

   

ค่าโควต้าที่ว่าหมายถึงปืนสั้นครับ ส่วนปืนยาวซื้อโควต้ากันประมาณ1500-2500เท่านั้นครับ ร้านที่ซื้อโควต้ามาจึงต้องสั่งปืนแพงเพื่อที่จะได้บวกกำไรให้คุ้มบางรุ่นสามารถทำกำไรได้ถึงกระบอกละ4-5หมื่นบาท(หลังหักค่าโควต้าแล้วนะครับ ยิ่งบางกระบอกที่ว่าเป็นปืนคัสต้อมก็ส่งให้ช่างตึ๋งทำก็มีครับ มั่ยงั้นนายห้างร้านปืนจะมีปัญญาเปลี่ยนรถดีๆกันเป็นว่าเล่นหรือครับ

                       ผมซื้อปืนลูกโม่เทารัสM85 2" มาราคา35Kถ้าค่าโควต้า20000บาทเหลือต้นทุนที่สั่งมา15000บาทยังไม่ได้หักค่าขนส่ง ค่าจ้าง

   ลูกจ้างขาย ค่าอะไรอีกจิปาถะ ถ้าค่าโควต้า15000-20000จริงแล้วจะเหลืออะไรครับ แล้วยิ่งก่อนหน้านี้ไม่นานราคาปืนรุ่นนี้30000เองครับ

  ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ ถ้าผมมีความเข้าใจผิดช่วยชี้แจงหน่อยครับเพื่อจะได้เป็นความรู้ครับ

         ค่าโควต้านี้     ผมทำธุรกิจและการค้าผมเข้าใจธุรกิจดีครับ      อย่างเช่นค่าโควต้าไม่จำเป็นต้องมีราคาตายตัว      บางคนโควต้านี้ดีดไว้สอง หมื่น  แต่ถ้าเหลืออยู่  อาจคิดแค่หนึ่งหมื่นก็ได้       และถ้าโอกาสอำนวยอาจคิดถึงห้าหมื่นก็ได้     และเช่นเดียวกันบางโควต้าอาจแค่แปดพันก็ได้ครับ        การที่เขาบอกว่าหมื่นห้าถึงสองหมื่น     อันนึ้คือเขาหมายตาไว้ครับคร่าวๆครับ

อย่างนี้แสดงว่าคนไทยมีโอกาสหาซื้ออาวุธไว้ป้องกันตัวได้น้อยมากครับ เพราะคนไทยต่างจังหวัดก็มาซื้อปืนของร้านค้าใน กทม. กันด้วย ถ้าใน กทม. จำนวนเท่านี้ ในต่างจังหวัดไม่ทราบว่าเท่าไหร่? ไม่เกิน จำนวนรวมทั้งหมดของ กทม. หรือเปล่า? บางปีก็ขายไม่หมดค้างข้ามปีกันด้วย คิดคร่าวๆ ก็อาจได้ตัวเลขว่าคนไทยกว่า 60,000,000 คน มีโอกาสซื้อปืนไว้คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินปีละ 20,000 - 30,000 กระบอก โดยไปตกอยู่ในมือของผู้มีสิทธิอาจจะประมาณ 30,000,000 คน นอกจากนี้คนจำนวนมากที่ซื้อปืนก็มีปืนอยู่แล้ว

ดังนั้นในปีหนึ่งๆ จำนวนคนไทยที่มีปืนเพิ่มขึ้นอาจจะแค่ 10,000 คน พลเมืองดีที่โดนโจรทำร้ายร่างกาย ฆ่าตายในแต่ละปีมีจำนวนมากกว่านี้มาก

เมกามีประชากรมากกว่าไทยไม่ถึง 5 เท่า แต่ละปีประชาชนซื้อปืน 5-6 ล้านกระบอก เป็นอัตราส่วนที่มากกว่าไทยประมาณ 40 เท่า

 ??? กิจการออกจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แถมป็นการผูกขาดไม่มีคู่แข่ง ตั้งราคาได้ตามใจปรารถนา โดยที่ สคบ. ไม่สามารถเข้ามาควบคุมได้ Demand มีเพื่มขึ้นทุกปี ในขณะที่ Supply ถูกจำกัดด้วยใบโควต้า...แล้วทำไมถึง...งอมือ งอเท้า ยอมให้เขา "ตอน" ตามใจแม้ว..หว่า... ???

ถ้าแม้วมาผูกขาดเองอาจจะซื้อง่ายขึ้นแต่ "แพง" กว่านี้ครับ :P