หัวข้อ: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 11:53:21 AM ที่มา www.tamdee.net
โลกนี้จะกลายเป็นดาวเคราะห์ที่ไร้ชีวิตทันทีที่ปราศจากออกซิเจน กล่าวได้ว่าวิวัฒนาการครั้งสำคัญของโลกเกิดขึ้นเมื่อมีออกซิเจน เพราะนับแต่นั้นวิวัฒนาการของชีวิตก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มนุษย์จะกลายเป็น ผัก ทันทีที่ขาดจากออกซิเจนเพียง ๕ นาที และถ้านานกว่านั้นก็ กลับบ้านเก่า กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว เราทุกคนตายเพราะขาดออกซิเจนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรมาก่อนก็ตาม ไม่ผิดถ้าจะกล่าวว่าออกซิเจนหมายถึง ชีวิต แต่ในอีกด้านหนึ่ง ออกซิเจนก็พาเราทุกคนไปสู่ความตาย เคยสังเกตไหมว่าสัตว์ที่หายใจถี่มักมีอายุสั้น เช่น หนู กระต่าย ส่วนสัตว์ที่หายใจช้า มักมีอายุยืน เช่น ช้าง เต่า เดี๋ยวนี้เราพบแล้วว่าออกซิเจนเป็นสาเหตุของความแก่และโรคร้าย พิษของออกซิเจนเป็นอย่างไรก็ดูได้จากเหล็กที่กร่อนเป็นสนิมเมื่อถูกออกซิเจน นอกจากนั้นในระดับเซลเรายังพบว่า เมื่อออกซิเจนแตกตัวจากอะตอม มันจะกลายเป็น อนุมูลอิสระ ซึ่งหลุดเข้าไปทำลายยีนและส่วนอื่น ๆ ในเซล เมื่อสะสมมากเข้าก็ทำให้เกิดสภาพที่เรียกว่า ความชรา หรือหนักกว่านั้นก็คือเกิดเนื้อร้ายที่เรียกว่ามะเร็ง สิ่งที่ตามมาคือ ความตาย ใช่หรือไม่ว่า สิ่งที่ให้ชีวิต ก็ให้ความตายด้วยเช่นกัน! ใช่ว่าชีวิตกับความตายเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน ยังมีคู่ตรงข้ามอีกหลายคู่ที่อยู่เคียงคู่กัน อาทิ เช่น สุขกับทุกข์ เคยสังเกตไหมว่าสิ่งที่ให้ความสุขแก่เรา ก็สามารถทำให้เราทุกข์ได้เช่นกัน รถยนต์คันใหม่ทำให้เราปลื้มเปรมไปได้ทั้งวัน แต่ก็ทำให้เราอดกังวลไม่ได้เวลาจอดทิ้งไว้ในที่เปลี่ยว หรือถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับหากมันถูกขโมยไป ไม่ว่าลูก หรือ คนรัก ล้วนนำความสุขอย่างล้นหลามมาให้แก่เรา แต่ก็สามารถทำให้เราเป็นทุกข์ย่ำแย่ได้หากเขาไม่เป็นไปตามใจเรา คนที่ภาคภูมิใจในทรวดทรงของตน ไม่ช้าไม่นานก็ต้องระทมทุกข์เพราะสิ่งเดียวกัน ถึงวันนั้นทรวดทรงอาจแปรเปลี่ยนไป หาไม่มันก็กลายเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายขึ้นมา ใครที่ปลื้มปีติกับชื่อเสียงของตน ก็มักเป็นทุกข์เพราะความเด่นดังของตนเช่นกัน อย่างน้อยเวลาจะควงกับใครก็ต้องระวังว่าจะมีคนเห็นหรือมายุ่มย่าม สุขกับทุกข์เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน มันสามารถพลิกกลับไปกลับมาได้ ด้วยเหตุนี้เวลาจะมีความสุขกับอะไรหรือใครก็ตาม อย่าเพลินกับความสุขจนท่วมท้นใจ หรือหมดเนื้อหมดตัวไปกับอารมณ์เหล่านั้น ควรเผื่อใจไว้รับมือกับความผันผวนปรวนแปรที่ไม่ถูกใจเรา วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามใจหวัง แต่พรุ่งนี้อาจกลายเป็นตรงกันข้าม ความแปรเปลี่ยนนั้นเป็นธรรมดาของโลก อย่าไปมองว่ามันเป็นปัญหา แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือใจของเราต่างหากที่ไปยึดอยากให้บางอย่างคงที่เหมือนเดิม หรือเป็นไปตามใจเราเสมอ ทันทีที่คิดแบบนั้น จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ก็เตรียมตัวทุกข์ไว้ได้เลย เวลาเราเดินไปเตะก้อนหินหรือถูกหนามแทง อย่าไปโทษก้อนหินหรือหนาม เขาอยู่ของเขาอย่างนั้นมานานแล้ว เราต่างหากที่เดินไปเตะหรือแกว่งมือไปถูกเขาเอง ในทำนองเดียวกัน โลกก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว คือมีความแปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา ใจเราต่างหากที่ไปยึดอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามใจเรา ถ้ามันไม่เป็นไปตามใจเรา แล้วเราเกิดทุกข์ขึ้นมา ก็ต้องโทษใจของเราก่อนอื่นใดว่าเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ อย่าเพิ่งไปโทษโลก ผู้คน หรือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นตัวการ เราสามารถอยู่ในโลกอย่างมีความสุขได้ หากมีสติไม่หลงเพลินกับความสุขจนลืมตัว เผื่อใจไว้รับมือกับความผันผวนปรวนแปรอยู่เสมอ ถ้าทำอย่างนี้ได้เรียกว่ามีความสุขอย่างรู้เท่าทัน ความทุกข์แม้จะแฝงอยู่ในความสุขแต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้ เปรียบเสมือนคนที่กินปลาอย่างระมัดระวังและ รู้จักแยกเนื้อออกจากก้าง จึงกินปลาได้อย่างอร่อยโดยก้างปลามิอาจตำปากได้ คนที่ทำใจอย่างนี้ได้ ถึงคราวประสบเคราะห์กรรม ก็ไม่เป็นทุกข์ หรือถึงจะทุกข์ก็หลุดได้ในเวลาไม่นาน เพราะรู้จักแสวงหาความสุขท่ามกลางความทุกข์ อย่าลืมว่า สิ่งที่ทำให้เราทุกข์นั้น ก็สามารถทำให้เราสุขได้เช่นกัน ใช่หรือไม่ว่าคนที่ร่ำเรียนอย่างหนัก หรือทำงานอย่างเหนื่อยยาก ชีวิตที่ราบรื่นและผาสุกย่อมรออยู่เบื้องหน้า สารหนูนั้นมีพิษร้าย สามารถฆ่าคนได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็สามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ อาทิ หนองใน ในทำนองเดียวกัน สารเคมีที่เป็นพิษจำนวนไม่น้อยก็ถูกนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งนานาชนิด สิ่งที่ทำลายชีวิตนั้น ก็สามารถรักษาชีวิตได้ด้วยเช่นกัน อย่ากลัวความทุกข์ เพราะสิ่งที่ทำให้เราทุกข์นั้น ก็สามารถสร้างสุขให้เราได้เช่นกัน นิตยสาร : Family หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 01:08:13 PM นักกีฬานี่ใช้ออกซิเย่นเยอะนะ ;D ;D ;D สงสัยเลย
หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 01:12:32 PM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~
หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 01:30:33 PM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~ เหรอครับ พี่ลุงจอย เช็ดน้ำลายด้วยครับ...ว่าแต่ปลาของลุงจอย.....หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 01:40:13 PM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~ เหรอครับ พี่ลุงจอย เช็ดน้ำลายด้วยครับ...ว่าแต่ปลาของลุงจอย.....หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 01:45:06 PM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~ เหรอครับ พี่ลุงจอย เช็ดน้ำลายด้วยครับ...ว่าแต่ปลาของลุงจอย.....เจอปลาอ่างเขาถอดก้างให้หมดแล้ว เลยอดทำอย่างที่น้าจอยแนะนำ....ค่อยๆถอด ::005:: หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 02:56:04 PM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~ เหรอครับ พี่ลุงจอย เช็ดน้ำลายด้วยครับ...ว่าแต่ปลาของลุงจอย.....เจอปลาอ่างเขาถอดก้างให้หมดแล้ว เลยอดทำอย่างที่น้าจอยแนะนำ....ค่อยๆถอด ::005:: หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 04:32:51 PM ออกเลอีกแร๊ะ สงสัยไปหาปลากัน หึๆๆ
ขอบคุณ จขกท.ครับ ขออภัยด้วย สำหรับท่านอื่นๆ ตรงใหนมีสาระดีก็เก็บเกี่ยวกันครับ ไร้สาระก็ทิ้งๆไป ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 04:54:08 PM ออกเลอีกแร๊ะ สงสัยไปหาปลากัน หึๆๆ ถ้าผมกินปลา หมาแมวยังค้อนครับ ::007::ขอบคุณ จขกท.ครับ ขออภัยด้วย สำหรับท่านอื่นๆ ตรงใหนมีสาระดีก็เก็บเกี่ยวกันครับ ไร้สาระก็ทิ้งๆไป ด้วยความเคารพ หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 04:56:01 PM ทุกสิ่งมีสองด้าน
ขอบคุณครับ ::014:: หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 05:05:47 PM ออกเลอีกแร๊ะ สงสัยไปหาปลากัน หึๆๆ ถ้าผมกินปลา หมาแมวยังค้อนครับ ::007::ขอบคุณ จขกท.ครับ ขออภัยด้วย สำหรับท่านอื่นๆ ตรงใหนมีสาระดีก็เก็บเกี่ยวกันครับ ไร้สาระก็ทิ้งๆไป ด้วยความเคารพ "แวว"เลย หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2012, 05:53:34 PM ตอนอยู่ชลบุรี ซดน้ำแกงเข้าไปหัวปล่แขยงตัวเล็กหลุดเข้าไปติดคอ
ไปโรงบาลเอกชน โดนหลอกให้ไปเอกซเรย์ แล้วบอกมองไม่เห็น หัวเสียมากทำไมไม่ใช้คีมดึงออกเลย สุดท้ายต้องขอยานอนหลับ หมดไปเกือบพัน เสียเวลาฟรีๆ วันรุ่งขึ้นไปโรงบาลแห่งหนึ่งที่มีข่าวเอาคนแก่โดนรถชน ไปทิ้งไว้ศาลาข้าทาง เพราะไม่มีญาติ(ไม่มีเงินให้นั่นละ) หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2012, 09:56:55 AM การกินปลา เป็นศิลป์อีกอย่างหนึ่ง หากคนกินรู้ระบบสรีระของปลาน้อยที่จะก้างติดคอ :D~ เหรอครับ พี่ลุงจอย เช็ดน้ำลายด้วยครับ...ว่าแต่ปลาของลุงจอย.....เจอปลาอ่างเขาถอดก้างให้หมดแล้ว เลยอดทำอย่างที่น้าจอยแนะนำ....ค่อยๆถอด ::005:: มีโอกาสก็แวะมาทานใหม่นะครับ ::002:: หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: tum610 ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2012, 03:25:26 PM ออกเลอีกแร๊ะ สงสัยไปหาปลากัน หึๆๆ ถ้าผมกินปลา หมาแมวยังค้อนครับ ::007::ขอบคุณ จขกท.ครับ ขออภัยด้วย สำหรับท่านอื่นๆ ตรงใหนมีสาระดีก็เก็บเกี่ยวกันครับ ไร้สาระก็ทิ้งๆไป ด้วยความเคารพ ญาติผม.. ::005:: ::005:: ::013:: (http://image.ohozaa.com/i/277/4R6l08.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5KSTOeoGbN0xq) (http://image.ohozaa.com/i/46f/5CVmnN.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5JsZ55NKlUCsg) อีกมื้อนึง... ;D (http://image.ohozaa.com/i/bae/Qnq0Qt.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5KwV7WvBH7mta) (http://image.ohozaa.com/i/7b9/G6B7Q5.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5JOXLnpSIHLsk) และอีกมื้อนึง... ::013:: (http://image.ohozaa.com/i/bae/pQIKn0.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5KaWrEWWYVuq4) (http://image.ohozaa.com/i/31b/0tPCb2.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTC5KwV7Wy1IpcHe) หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2012, 10:18:59 AM ;D ;D ;D เปื่อยทั้งตัว...ไม่ต้องกลัวก้างตำปากครับผม ::014:: ::002:: ::002:: ::002::
(http://image.ohozaa.com/i/9b2/KD1qH4.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTIfEn1tZIm276y4) หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2012, 03:11:26 PM ;D ;D ;D เปื่อยทั้งตัว...ไม่ต้องกลัวก้างตำปากครับผม ::014:: ::002:: ::002:: ::002:: (http://image.ohozaa.com/i/9b2/KD1qH4.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vTIfEn1tZIm276y4) +1 ครับ ตะเพียน ถ้าปลาเขื่อนนะตัวเต็มจาน ;D ;D ;D ชอบมาก ต้มก้างละลาย หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2012, 03:50:57 PM หึๆๆ พี่คาร์ กลัวก้างขวางคอ
หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2012, 03:53:37 PM หึๆๆ พี่คาร์ กลัวก้างขวางคอ กินปลาให้กินในที่ลับ เอ๊ยยยย ;D ;D ;D เขาสอนให้เวลากินปลาอย่าคุย เดี๋ยวติดคอ ให้ตั้งใจกินหน่อย หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2012, 08:06:59 AM ขอบคุณครับ ::014:: .....อยากอยู่อย่างสุข ให้ท่องไว้ครับ "อย่าโลภมาก ๆ ๆ" ::002::
หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2012, 09:59:24 AM บางพื้นที่ไปกินปลาบ้านเค้าเจ้าของบ้านบอกว่าห้ามพลิกตัวปลา ให้กินตัวใหม่ไปเลยถามว่าทำไม ได้รับคำตอบว่าพ่อสอนไว้ว่าถ้าพลิกปลาแล้วเรือหาปลาจะพลิก นี่เป็นความเชื่อถือแต่ละพื้นที่แต่สำหรับผมพ่อสอนไว้ว่ากินปลาระวังก้างตำคอ ;D
หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2012, 11:15:04 AM บางพื้นที่ไปกินปลาบ้านเค้าเจ้าของบ้านบอกว่าห้ามพลิกตัวปลา ให้กินตัวใหม่ไปเลยถามว่าทำไม ได้รับคำตอบว่าพ่อสอนไว้ว่าถ้าพลิกปลาแล้วเรือหาปลาจะพลิก นี่เป็นความเชื่อถือแต่ละพื้นที่แต่สำหรับผมพ่อสอนไว้ว่ากินปลาระวังก้างตำคอ ;D ผมนึกว่าเขาไม่พลิกแต่ให้เลาะกระดูกแล้วกินต่อ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: กินปลาอย่าให้ก้างตำปาก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2012, 11:26:08 AM ;D ;D ;D :D :D :D
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา / ปกติผมไม่ค่อยกินข้าวเย็นครับและไม่ชอบกินปลาตะเพียนด้วยเพราะก้างเยอะ นอกเสียจากกินปลาตะเพียนสูตรไร้ก้างที่ร้านอาหารแถวเขื่อนป่าสักฯ(ที่อื่นไม่ทราบ) แต่แฟนผมชอบกินปลาตะเพียนมากและซื้อมา 5 - 6 ตัวๆขนาดฝ่ามือผู้ชาย จากตลาดเห็นบอกว่าสดได้จากข่ายดักปลา แฟนทอด 3 ตัวที่เหลือต้มยำ ผมกินปลาทอด 1 ตัว ต้ม 1 ตัว กินอย่างช้าๆ บรรจงระวังก้าง จนได้เรื่องติดคอจนได้ติดลึกพอควรบอกไม่ถูก พยายามปั้นข้าวสวยแล้วกลืนลงไปอยู่หลายคำก็ยังไม่ลงแล้วจะหาอะไรกลืนลงไปไล่ก้างออก ก็นึกไม่ออก ผมปล่อยมันเลยตามเลยแปรงฟันอาบน้ำเข้าห้องนอนดูทีวี 19.30 น. - 21.00 น. นอนไม่หลับมันรำคาญกลืนน้ำลายรู้สึกแปล๊บๆ จะเอามันออกหรือมันจะหลุดไหลลงกระเพาะไปเอง เวลานอนลงก็เหมือนมันจะออกมา เวลานั่งหรือยืนมันเหมือนจะไหลลง จนแฟนกับลูกสาวให้ไปหาหมอ 23.00 น. แต่ผมไม่ไป พยายามนอนให้หลับไม่กลืนน้ำลายอดทนต่อความรำคาญ คิดว่าเช้าเดี๋ยวมันคงออกไปเอง ธรรมชาติของร่างกายมันก็คงอยากขับสิ่งแปลกปลอมออกไปและหลับไปไม่เกิน 24.00 น. ตื่นเช้า 05.00 น. มันยังอยูเหมือนเดิม และรุ้สึกว่าลึกกว่าเดิมน่าจะเป็นก้างเล็กๆ ลองปั้นข้าวสวยอีก 4-5 คำ มันก็ไม่ลง จนได้เวลาอาบน้ำไปทำงานทั้งวันไม่กินข้าวเลย กินกาแฟไป 1 แก้ว หิวก็กินน้ำ จน 15.00 น. น้องที่ทำงานซื้อถั่วลิสงทอดสมุนไพร ( ใส่ใบมะกรูดกับเกลือเท่านั้นแหละ...เรียกสมุนไพร) ผมเห็นแล้วนึกขึ้นได้ ... ขอมันกินโดยเทใส่มือเต็มกำเกือบล้นออก กรอกใส่ปากแล้วเคี้ยวๆ แล้วกลืน 2 ครั้ง ...ถั่วมันต้องติดคอแน่เพราะมันฝืดคอ แต่มันละเอียดแน่นคอดี มันคงไปดันก้างหลุดแน่ ... ถั่วจะติดคอตายรีบกินน้ำตามไป 1 แก้ว ลองกลืนน้ำลายลูบคลำลำคอดู ...เออหลุดจนได้ ตอนเย็นตั้งใจจะไปหาหมอให้ช่วยอยู่แล้ว เรื่องเล็กๆ น้อยๆ กับก้างปลา + ถั่วลิสง ที่ผมเต็มใจเล่าสู่กันฟังนะครับ สวัสดีครับ ... pasta |