เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 01:06:14 PM



หัวข้อ: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 01:06:14 PM
ตัดตอนมาจากเว็บฝ่ายซ้ายชื่อดังเว็บหนึ่งครับ ทนอ่านหน่อยแล้วกันครับ คือต้องการอยากให้พี่ๆได้รู้ว่า ตอนนี้ ทำไมมันถึงมีความคิดพึลึกกึกกือเกิดขึ้นมากมายเหลือเกินในสังคมไทยเรา

อ้างถึง
สุรพศ ทวีศักดิ์: การลงทุนเพื่อพุทธ


แต่ทว่าทั้งหมดนั้น คำตอบสุดท้ายมุ่งตอบโจทย์ของปัจเจกบุคคลเท่านั้น คือ “ความสุขทางจิตใจ” ของแต่ละคน คำถามที่ผุดขึ้นในใจผมก็คือ หากพุทธศาสนาเป็นเพียงแค่เรื่องของการดูจิตดูใจ วิพากษ์วิจารณ์จิตใจตนเอง เพื่อผลสุดท้ายคือความพ้นทุกข์ “ทางจิตใจ” ของใครของมันเท่านั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับมิติทางสังคม เช่น ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมในความเป็นคน เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แล้วเหตุใดสังคมจึงควรลงทุนเพื่อพุทธศาสนา หรือแบกภาระของการมีพุทธศาสนาด้วยต้นทุนทั้งที่เป็นเงิน และอื่นๆ มากมายขนาดนี้

คือหาก “คำตอบที่แท้จริง” ของพุทธศาสนาเป็นเพียงแค่เรื่องของการดูจิตดูใจเพื่อในที่สุดแล้วนาย ก นาย ข จะพ้นทุกข์ทางจิตใจ มีสุขทุกลมหายใจ มีสุขทุก้าวย่าง ฯลฯ เท่านั้น เรื่องพ้นทุกข์ทางจิตใจ สุขทุกลมหายใจ หรืออะไรเทือกนี้มันเป็นเรื่อง “ส่วนตัวล้วนๆ” มิใช่หรือ เหตุใดสังคมจึงควรลงทุนอุปถัมภ์ค้ำชูสถาบันทางพุทธศาสนา เช่น วัด พระสงฆ์ การศึกษาทางศาสนา การสร้างศาสนวัตถุจำนวนมหาศาล ทั้งเป็นการลงทุนในนามของการกุศล และลงทุนด้วยงบประมาณแผ่นดิน

อ้างถึง
ไม่เกี่ยวอะไรกับมิติทางสังคม เช่น ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมในความเป็นคน เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แล้วเหตุใดสังคมจึงควรลงทุนเพื่อพุทธศาสนา หรือแบกภาระของการมีพุทธศาสนาด้วยต้นทุนทั้งที่เป็นเงิน และอื่นๆ มากมายขนาดนี้

มิน่าล่ะ เด็กรุ่นหลัง มันถึงร่ำร้องเอาแต่สิทธิเสรีภาพ เสมอภาค ไม่เคยเข้าวัดฟังธรรมคำสั่งสอนของพระสงฆ์องค์เจ้าเลย
มิน่าล่ะ เด็กรุ่นหลัง มันถึงรู้จักแต่ Freedom Of Speech แต่ไม่เคยรู้จักศีลข้อ 4 มุสาวาทา เวรมณีฯ หรือศีล 5 เลยสักข้อ
มิน่าล่ะ เด็กรุ่นหลัง มันถึงได้กล้าลบหลู่พระสงฆ์องค์เจ้า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ที่ท่านทำแต่สิ่งที่ดีงามมาตลอดชีวิต
มิน่าล่ะ เด็กรุ่นหลัง มันถึงกล้าประกอบอาชญากรรม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้าน ระบิลเมือง

เห็นความคิด แนวเขียน ของพวกคนเหล่านี้มาเยอะแล้ว ก็ได้แต่ปลงตกกับสังคมในอนาคตข้างหน้ารุ่นหลานเหลนของเราที่โดนพวก"อภิมหาปราชญ์"ครอบงำโดยสมบูรณ์ครับ ทุกวันนี้ ที่พวกเราทำ ก็คงได้แต่สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับคนที่เรารักใกล้ๆตัวเรา กับตัวเราเองเท่านั้นหละครับ
 

::004:: ::004:: ::004:: ::004::






หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 13, 2012, 01:28:26 PM
นายสมชายเริ่มเห็นปัญหามาตั้งแต่เด็กที่"ถูกสอนให้กล้าแสดงออก"เริ่มโตเป็นวันรุ่นนั้นแหละครับ... ช่วงนั้นนายสมชายกำลังเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาลัยฯ รู้สึกแปลกใจมากที่เด็กรุ่นนั้น"กล้าโชว์โง่"ต่อหน้าเพื่อน โดยที่ยังจำข้อความในตำราไม่ได้...

ช่วงนั้นนายสมชายโดนเด็กแอนตี้มาก เพราะสอนให้ท่องข้อความสำคัญเอาไว้ให้ขึ้นใจ เพราะในเวลาที่เรียน/สอนกันอยู่ เด็กนักศึกษาจะไม่มีวันเข้าใจเนื้อหาวิชา จนกว่าจะมีประสบการณ์ชีวิต จึงจะมองข้อมูลเชิงลึกให้แตกฉาน(สอนการออกแบบระบบฐานข้อมูลด้วยวิธีการ Normalization)... เด็กแอนตี้ถึงขั้นเอาไปฟ้องคณบดีว่าสอนให้ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง, แล้วนายสมชายก็เห็นสัจธรรมอีกอย่างหนึ่งว่าตัวอาจารย์เองบางคนก็ไม่มีประสบการณ์ชีวิต ก็มองระบบฐานข้อมูลไม่ออกเช่นกัน... ฮา...

คนที่"กล้าโชว์โง่"ตามตัวอย่างในกระทู้นี้... ในที่สุดก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งเห็นดีเห็นงามไปด้วย เพราะ"เรื่องตื้นๆมันเข้าใจง่าย" แล้วในที่สุดก็กลายเป็นอารมณ์รุนแรงกลัวเสียหน้า เวลามีใครบอกว่าที่พูดมานั่นไม่ใช่หรอก...

ในที่สุดก็เลยเป็นอย่างที่เห็น คือคนไทยโง่แยะ โง่เป็นส่วนใหญ่ เถียงมันทุกเรื่อง ไม่เคยศึกษาก่อนเถียง... ที่จริงแล้วทุกคนต้องเคยโง่มาก่อน เพราะความโง่คือความไม่รู้ หากยอมรับมันได้ก็จะเรียนรู้แล้วกลายเป็นคนฉลาด...

แต่ประเด็นคืออารมณ์บดบังเสียจนไม่สามารถเรียนรู้เรื่องใหม่... ดังนั้นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องโง่คือต้องเป็นบัวพ้นน้ำ เป็นผู้รู้ตื่น เป็นผู้เบิกบานเพราะมีสติอยู่ตลอดเวลาไม่ให้อารมณ์มาบดบัง(ศาสนาพุทธบอกมาตั้งนานแล้ว เรื่อง"รู้ตื่น")...


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 13, 2012, 01:39:25 PM
มีมานานทุกยุกต์มั้งครับ แต่พอดีเดี๋ยวนี้ทาง Inter Net มันทำให้แพร่กระจายไปได้กว้างกว่า ;D ;D ;D ถ้าสมัย20ปีที่แล้วคงยากที่จะได้อ่านข้อความที่ท่านตัดมาให้ดู

แต่ว่ามันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆและหลายๆเรื่องเพิ่มมากขึ้นนี่สิ อนาคตคงเปลี่ยนแปลงกันไปเยอะ

แต่ที่เขาพูดน่าคิดนะ
“ส่วนตัวล้วนๆ” มิใช่หรือ เหตุใดสังคมจึงควรลงทุนอุปถัมภ์ค้ำชูสถาบันทางพุทธศาสนา เช่น วัด พระสงฆ์ การศึกษาทางศาสนา การสร้างศาสนวัตถุจำนวนมหาศาล ทั้งเป็นการลงทุนในนามของการกุศล และลงทุนด้วยงบประมาณแผ่นดิน

มันก็มีส่วนจริงบ้าง แต่ผมไม่เห็นด้วยทั้งหมด


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: wiched ที่ มีนาคม 13, 2012, 01:41:11 PM
สุรพศ ทวีศักดิ์ = ((ควาย + เหี้ย)*จัญไร)*100000000000000000000


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ มีนาคม 13, 2012, 02:28:29 PM
ศีล5 เป็นศีลเพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข

กฎหมายทั้งหลายทั้งมวลในโลกพิเคราะห์รวมแล้วก็เป็นเพียงศีล5

สิ่งง่ายๆเพียงแค่นี้ยังไม่เข้าใจ เหตุใดจึงบังอาจมาวิจารย์สิ่งที่ตนไม่รู้จริง


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: รัชต์ ที่ มีนาคม 13, 2012, 02:51:29 PM
เฮ้อออ..นาย สุรพศ ทวีศักดิ์ นี่ แกไม่เคยได้รับการอบรม สั่งสอน(หรือรับแล้วแต่ไม่รู้) เลยจริงๆหรือ ว่า
มนุษย์ เป็นหน่วยหนึ่งของสังคม สังคมเป็นหน่วยหนึ่งของประเทศชาติ เมื่อ"มนุษย์"มีสถานะทางจิตใจที่ดี พ้นทุกข์
สังคมก็จะดี ประเทศชาติก็จะดีตามไปอย่างง่ายๆ ประเทศชาติจึงจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้คนในชาติมีสถานะทางจิตใจที่ดี
ด้วยการส่งเสริมศาสนา(อะไรก็ได้ สำหรับผม ไม่ใช่ศาสนาพุทธศาสนาเดียว) และกำกับดูแลการเผยแพร่ด้วย ซึ่งตรงนี้มีงบประมาณที่ต้องใช้
ก็ไม่แปลกที่จะใช้
ไอ้หมอนี่ ท่าทางจะเกิดและโตมากับเกมคอมพิวเตอร์ พ่อ แม่ มันคงไม่ได้ดูแล ถึงได้มีความคิดว่า มันเป็นชีวิตเพียงหน่วยเดียว
สุข ทุกข์ หลุดพ้น ก็เป็นแต่มันเพียงหน่วยเดียว

เฮ้อ....... เซ็งเป็ด


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 02:53:24 PM

แต่ที่เขาพูดน่าคิดนะ
“ส่วนตัวล้วนๆ” มิใช่หรือ เหตุใดสังคมจึงควรลงทุนอุปถัมภ์ค้ำชูสถาบันทางพุทธศาสนา เช่น วัด พระสงฆ์ การศึกษาทางศาสนา การสร้างศาสนวัตถุจำนวนมหาศาล ทั้งเป็นการลงทุนในนามของการกุศล และลงทุนด้วยงบประมาณแผ่นดิน

มันก็มีส่วนจริงบ้าง แต่ผมไม่เห็นด้วยทั้งหมด

อะฮะครับ ไอ้ประโยคนี้พอรับได้

แต่ไอ้ประโยคที่เหลือ โดยเฉพาะไอ้ประโยคนี้สิ

อ้างถึง
ไม่เกี่ยวอะไรกับมิติทางสังคม เช่น ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมในความเป็นคน เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

แม้ผมจะไม่ได้เคร่งศาสนาจัด ถึงขนาดว่านุ่งขาวห่มขาวทุกวันพระ ยังรู้สึกไม่ชอบใจเลย ที่เขามาวิจารณ์ในทำนองแบบนี้
เหมือนกับเป็นพวกวัตถุนิยมแบบสุดโต่งยังไงไม่รู้
และเขาเคยสนใจพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาอะไรหรือไม่? ก่อนที่จะพูดออกมาแบบนี้


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 02:55:17 PM
พวกนี้ เดี๋ยวนี้ มีเยอะขึ้นมากเรื่อยๆครับ พี่ๆ ก็เลย อยากจะยกหลักฐานขึ้นมาอีกหลักฐานหนึ่งเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้ยกเมฆกล่าวหาใครลอยๆขึ้นมา
ตัวอย่างเลวๆ อีกตัวอย่าง ที่อยากจะยกเอามาพูด เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงภัยต่อสังคมที่พวกชาล้นถ้วยพวกนี้ สำรอกออกมา
ก็คือ นักเขียนหญิงชื่อดังผู้หนึ่ง ที่เคยแก้ผ้าประท้วง โชว์ของหมดอายุดำๆ ทางเน็ตในคดีดังที่เรียกว่า "อากง" เมื่อเร็วๆนี้
นักเขียนหญิงผู้นี้ เคยฝีปากกล้าถึงขนาดลามปามพระนักปฏิบัติ นักเทศนาชื่อดังที่ล้วนแต่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาแล้วทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ท่านพุทธทาส ภิกขุ, ท่านเจ้าคุณไพศาล วิสาโล,  ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตโต, และท่าน ว.วชิรเมธี
ล้วนแต่เคยถูกนางคนนี้ พยายามเอาปากเน่าปากหนอนมาบริภาษท่านอย่างหยาบๆคายๆมาแล้วทั้งสิ้น


พฤติกรรมของนางคนนี้ ดูได้ที่บล็อกของเนชั่นบล็อกนี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1)


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 13, 2012, 04:05:07 PM
พวกนี้ เดี๋ยวนี้ มีเยอะขึ้นมากเรื่อยๆครับ พี่ๆ ก็เลย อยากจะยกหลักฐานขึ้นมาอีกหลักฐานหนึ่งเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้ยกเมฆกล่าวหาใครลอยๆขึ้นมา
ตัวอย่างเลวๆ อีกตัวอย่าง ที่อยากจะยกเอามาพูด เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงภัยต่อสังคมที่พวกชาล้นถ้วยพวกนี้ สำรอกออกมา
ก็คือ นักเขียนหญิงชื่อดังผู้หนึ่ง ที่เคยแก้ผ้าประท้วง โชว์ของหมดอายุดำๆ ทางเน็ตในคดีดังที่เรียกว่า "อากง" เมื่อเร็วๆนี้
นักเขียนหญิงผู้นี้ เคยฝีปากกล้าถึงขนาดลามปามพระนักปฏิบัติ นักเทศนาชื่อดังที่ล้วนแต่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาแล้วทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ท่านพุทธทาส ภิกขุ, ท่านเจ้าคุณไพศาล วิสาโล,  ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตโต, และท่าน ว.วชิรเมธี
ล้วนแต่เคยถูกนางคนนี้ พยายามเอาปากเน่าปากหนอนมาบริภาษท่านอย่างหยาบๆคายๆมาแล้วทั้งสิ้น


พฤติกรรมของนางคนนี้ ดูได้ที่บล็อกของเนชั่นบล็อกนี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1)


อี  "แคม(ดำ)ผกา"  นี่เอง   ::006::


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ มีนาคม 13, 2012, 04:08:48 PM
 :-\ แนวคิดเดียวกับเด็กน้อยคนหนึ่งในบอร์ดนี้เลย :-\


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 13, 2012, 05:01:10 PM
วิชาที่ไร้ปัญญาคืออวิชชา พุทธศาสนาว่าไว้
ถ้าพวกเขาเข้าใจ จะรู้ว่า ทำไมถึงต้องรักษาพระพุทธศาสนาไว้


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 13, 2012, 10:27:34 PM
::014::
ขอบคุณทุกๆท่านครับ ที่อุตส่าห์เข้ามาแสดงความเห็น

อี  "แคม(ดำ)ผกา"  นี่เอง   ::006::


จุ๊ๆ พูดถึงมันก็ระวังๆหน่อยครับพี่่ สงสารคนที่เคยตกเป็นเหยื่อถูกกระทำชำเราทางตาเถิดครับ   ::012::

ผมนี่แหละหนึ่งในเหยื่อรายแรกๆที่เจอภาพอันเซ็นฯแบบเต็มๆตา :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ มีนาคม 13, 2012, 10:38:29 PM
ปัญหา เกิดจาก คนปัญญาต่ำ แต่ดีกรีสูงครับ


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มีนาคม 13, 2012, 10:52:48 PM
ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ นี่คือแก่นของพระพุทธศาสนา ถ้าทุกคนทำได้ไม่ต้องร้อยเปอร์เซ็น์แค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ของคำสอนโลกนี้จะมีแต่ความสงบสุขครับ ศาสนาพุทธสอนให้มีความเกรงกลัวต่อบาปสอนให้มีความละอายต่อบาป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมดีขึ้นมีแต่ความสงบสุข แต่ไอ้คนบาปหนาเห็นผิดเป็นชอบยังจ้องที่จะทำลายอีกเวรกรรม


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 13, 2012, 11:40:46 PM
ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ นี่คือแก่นของพระพุทธศาสนา ถ้าทุกคนทำได้ไม่ต้องร้อยเปอร์เซ็น์แค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ของคำสอนโลกนี้จะมีแต่ความสงบสุขครับ ศาสนาพุทธสอนให้มีความเกรงกลัวต่อบาปสอนให้มีความละอายต่อบาป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมดีขึ้นมีแต่ความสงบสุข แต่ไอ้คนบาปหนาเห็นผิดเป็นชอบยังจ้องที่จะทำลายอีกเวรกรรม


 ::005::ว้า...นึกว่าใคร...ที่แท้ก็ใครนี่เอง


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 14, 2012, 06:33:02 AM
พวกนี้ เดี๋ยวนี้ มีเยอะขึ้นมากเรื่อยๆครับ พี่ๆ ก็เลย อยากจะยกหลักฐานขึ้นมาอีกหลักฐานหนึ่งเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้ยกเมฆกล่าวหาใครลอยๆขึ้นมา
ตัวอย่างเลวๆ อีกตัวอย่าง ที่อยากจะยกเอามาพูด เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงภัยต่อสังคมที่พวกชาล้นถ้วยพวกนี้ สำรอกออกมา
ก็คือ นักเขียนหญิงชื่อดังผู้หนึ่ง ที่เคยแก้ผ้าประท้วง โชว์ของหมดอายุดำๆ ทางเน็ตในคดีดังที่เรียกว่า "อากง" เมื่อเร็วๆนี้
นักเขียนหญิงผู้นี้ เคยฝีปากกล้าถึงขนาดลามปามพระนักปฏิบัติ นักเทศนาชื่อดังที่ล้วนแต่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาแล้วทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ท่านพุทธทาส ภิกขุ, ท่านเจ้าคุณไพศาล วิสาโล,  ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตโต, และท่าน ว.วชิรเมธี
ล้วนแต่เคยถูกนางคนนี้ พยายามเอาปากเน่าปากหนอนมาบริภาษท่านอย่างหยาบๆคายๆมาแล้วทั้งสิ้น


พฤติกรรมของนางคนนี้ ดูได้ที่บล็อกของเนชั่นบล็อกนี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1)


อี  "แคม(ดำ)ผกา"  นี่เอง   ::006::

พวกคนไร้ศาสนา


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 14, 2012, 10:26:06 AM
พวกนี้ เดี๋ยวนี้ มีเยอะขึ้นมากเรื่อยๆครับ พี่ๆ ก็เลย อยากจะยกหลักฐานขึ้นมาอีกหลักฐานหนึ่งเพื่อยืนยันว่า ผมไม่ได้ยกเมฆกล่าวหาใครลอยๆขึ้นมา
ตัวอย่างเลวๆ อีกตัวอย่าง ที่อยากจะยกเอามาพูด เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ตระหนักถึงภัยต่อสังคมที่พวกชาล้นถ้วยพวกนี้ สำรอกออกมา
ก็คือ นักเขียนหญิงชื่อดังผู้หนึ่ง ที่เคยแก้ผ้าประท้วง โชว์ของหมดอายุดำๆ ทางเน็ตในคดีดังที่เรียกว่า "อากง" เมื่อเร็วๆนี้
นักเขียนหญิงผู้นี้ เคยฝีปากกล้าถึงขนาดลามปามพระนักปฏิบัติ นักเทศนาชื่อดังที่ล้วนแต่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาแล้วทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ท่านพุทธทาส ภิกขุ, ท่านเจ้าคุณไพศาล วิสาโล,  ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตโต, และท่าน ว.วชิรเมธี
ล้วนแต่เคยถูกนางคนนี้ พยายามเอาปากเน่าปากหนอนมาบริภาษท่านอย่างหยาบๆคายๆมาแล้วทั้งสิ้น


พฤติกรรมของนางคนนี้ ดูได้ที่บล็อกของเนชั่นบล็อกนี้ครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/09/20/entry-1)


อี  "แคม(ดำ)ผกา"  นี่เอง   ::006::

พวกคนไร้ศาสนา

"แคม(ดำ)ผกา" เอาผัวคนอื่นอยู่ ๒ ปี ด้วยครับ  มันเลยไม่กลัวบาป   ::007::


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มีนาคม 14, 2012, 11:50:11 AM
ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ นี่คือแก่นของพระพุทธศาสนา ถ้าทุกคนทำได้ไม่ต้องร้อยเปอร์เซ็น์แค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ของคำสอนโลกนี้จะมีแต่ความสงบสุขครับ ศาสนาพุทธสอนให้มีความเกรงกลัวต่อบาปสอนให้มีความละอายต่อบาป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมดีขึ้นมีแต่ความสงบสุข แต่ไอ้คนบาปหนาเห็นผิดเป็นชอบยังจ้องที่จะทำลายอีกเวรกรรม


 ::005::ว้า...นึกว่าใคร...ที่แท้ก็ใครนี่เอง
หนูเองจ้า...สุดประจิมที่ริมเมยจ้า  :<><>


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: hAhA ที่ มีนาคม 14, 2012, 02:39:29 PM
อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงต่างคนต่างความคิด คนเรากิเลสลึกตื้นหนาบางไม่เท่ากัน คนอย่างเขาไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา  ::014::


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 14, 2012, 03:03:50 PM
ปัญหา เกิดจาก คนปัญญาต่ำ แต่ดีกรีสูงครับ

+1ครับ


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มีนาคม 15, 2012, 10:53:39 AM
อ่านแล้ว มึนไปหลายวัน เลยไปหาอ่านบทความอื่นๆของ อาจารย์ท่านนี้เพิ่ม  โอ้...อาจารย์แกเป็นคนแบบนี้จริงๆหรือว่าแค่กระตุกสังคม ให้ตื่นและหันมาใส่ใจกับศาสนาที่ตัวเองขึ้นหิ้งไว้จนฝุ่นจับ  หากเป็นคนที่ตรงกับข้อเขียนของแกจริงๆ  มันก็น่ากลัว เพราะแกเป็นระดับอาจารย์ และเป็นสื่อด้วย  วันข้างหน้าต้องใหญ่โตกว่านี้ และสะสมสาวกไว้มากมาย  อีกหน่อยอย่าว่าแต่ศาสนาเลย ประเพณี ประวัติศาสตร์ ฯลฯ คงถูกลดความสำคัญลงมาเป็นความเชื่อและชอบส่วนบุคคล อย่างนี้กระมั่งที่เขาว่า คนกินน้ำไม่เคยเห็นต้นน้ำ คนกินข้าวไม่เคยเห็นนาข้าว  ความคิดจึงไม่พ้นขวดน้ำกับจานข้าว


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 15, 2012, 11:04:12 AM
 ;)อัจฉริยะ...บ้า..มันแค่เส้นบางๆกั้น...คนบ้า เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย คิดและทำในสิ่งที่คนดีๆเขาไม่คิดไม่ทำกัน แล้วเรียกตัวเองว่า อัจฉริยะ เก่ง ฉลาด รอบรู้ ...ผมให้ค่าเขาได้แค่นี้ครับ


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 15, 2012, 02:13:45 PM
อ้างถึง
สุรพศ ทวีศักดิ์: การลงทุนเพื่อพุทธ
จะพ้นทุกข์ทางจิตใจ มีสุขทุกลมหายใจ มีสุขทุก้าวย่าง ฯลฯ เท่านั้น เรื่องพ้นทุกข์ทางจิตใจ สุขทุกลมหายใจ หรืออะไรเทือกนี้มันเป็นเรื่อง “ส่วนตัวล้วนๆ” มิใช่หรือ

ความคิดผม เปรียบดังถ้าพระปฏิบัติยังอยากบรรลุ ก็คงไม่บรรลุ เพราะยังปล่อยวางไม่ได้อันนี้เห็นด้วย

แต่การไม่ลงทุนในพุทธศาสนาซึ่งเป็นแนวทางที่คิดว่าสำคัญที่สุด มันจะเสื่อมหายไป สังคมไม่เหลือ


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 15, 2012, 03:40:31 PM
ทำไมไม่คิดกลับกันบ้าง ว่า "พระศาสนา แบกรับภาระของสังคมไม่รู้เท่าไหร่"

คนไม่ดีจับส่งบวช  ของเสียเอาไปทิ้งวัด  คนรอบวัดเกเร เหนื่อยสมภารอีก  เกิดปัญหาด้านศีลธรรมต่างๆก็ผลักภาระมาที่ศาสนา


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มีนาคม 15, 2012, 03:49:11 PM
ทุกวันนี้สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือเราไม่ทำตามตัวบทกฏหมาย  ทำให้คนไม่ดีไม่เกรงกลัว  นึกจะพูดก็พูด นึกจะทำก็ทำ


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ มีนาคม 16, 2012, 04:03:39 PM
ทุกวันนี้สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือเราไม่ทำตามตัวบทกฏหมาย  ทำให้คนไม่ดีไม่เกรงกลัว  นึกจะพูดก็พูด นึกจะทำก็ทำ

ผมมองว่าเพราะสังคมเริ่มเหินห่างศาสนาครับคนไทยเราเริ่มห่างไกลวัดกันมากขึ้น
คนเราเริ่มหยาบช้ามากขึ้น เพราะกิเลสมันเข้าถึงได้ง่ายกว่า


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 16, 2012, 09:14:35 PM
นึกถึงยุคที่คนโบราณท่านบอกว่า "กระเบื้องจะเฟื่องลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม"  ::009::


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 16, 2012, 09:50:10 PM
ทำไมไม่คิดกลับกันบ้าง ว่า "พระศาสนา แบกรับภาระของสังคมไม่รู้เท่าไหร่"

คนไม่ดีจับส่งบวช  ของเสียเอาไปทิ้งวัด  คนรอบวัดเกเร เหนื่อยสมภารอีก  เกิดปัญหาด้านศีลธรรมต่างๆก็ผลักภาระมาที่ศาสนา

 ::014::เห็นด้วยตามน้าโทนกล่าวครับ

คนแก่บ่นหน่อย...ก็บอกว่า ชอบบ่นนัก ทำไมไม่ไปบวชอยู่วัด ...พระสวดมนต์โว๊ยยย...ไม่ได้บ่น
คนขี้เกียจ...บอกเขาว่า ขี้เกียจนัก ทำไมไม่ไปบวชอยู่วัด...ใจคอมันจะให้พระตั้งวินมอร์-ไซค์หรือไงฟะ
เด็กวิ่งเล่นเสียงดัง ก็บอกว่า หนวกหู พากันไปเล่นที่โน่นไป๊....พระก็มีหูเหมือนกันนะเฟ๊ยยย...
แก่แล้ว ลูกหลานไม่ดูแล...ไปบวชอยู่วัด
หมาดุ เลี้ยงไม่เชื่อง...ตัดหางปล่อยวัด...นอกจากจะมาขโมยของด็กวัดกินแล้ว ยังเจือกกัดเณรอีก
หมาแมวออกลูกออกหลานเยอะๆ เลี้ยงไม่ไหว...เอาไปวัด...บิณฑบาตได้ข้าวเหนียว 2 ปั้น ฉันครึ่งปั้น ต้องเหลือให้เด็กวัดหมาแมวอีกปั้นครึ่ง
ของไม่ดี เป็นเสนียดจัญไร...เอาไปไว้วัด  ...แล้วยังหน้าด้านไปขอของดีจากหลวงพ่ออีก
มีดทื่อ ไม่ความ...เปรียบเปรยว่า ยังกะมีดวัด...

 ::014::วัด จึงศูนย์รวมทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น  เด็กเล็ก คนชรา คนดี คนบ้า และหมาจรจัด


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Jakkathorn ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:40:05 PM
ชวนพวกพี่มาคุยในเว็บแล้ว คนตั้งกระทู้อย่างผมขออ้าปากบ้างดีกว่า
เห็นข้อเขียนของหมอนี่แล้ว บอกได้ว่า พลาดอย่างแรง

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่แหละ ที่เป็นศาสดาพระองค์แรก ที่ทรงเทศนาสั่งสอนให้คนในสมัยพุทธกาล เลิกถือวรรณะ
"มนุษย์ ดีชั่วอยู่ที่กรรม หาใช่วรรณะไม่"
พระองค์ท่าน รับคนเข้ามาเป็นพุทธบริษัท โดยไม่ถือเชื้อชาติ วรรณะใดๆ แม้แต่โจรร้ายอย่างองคุลีมาล ยังกลับใจมาเป็นพระอรหันต์ได้เลย
โดยไม่ต้องถูกทางบ้านเมืองกำจัดออกจากสังคมโดยการประหารชีวิต

อยากจะถามคนเขียนบทความสั่วๆนี้ว่า แบบนี้ยังไม่เรียกว่าการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนอีกหรือครับ?  ::009::





หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:53:58 PM
ทุกวันนี้สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือเราไม่ทำตามตัวบทกฏหมาย  ทำให้คนไม่ดีไม่เกรงกลัว  นึกจะพูดก็พูด นึกจะทำก็ทำ

ผมมองว่าเพราะสังคมเริ่มเหินห่างศาสนาครับคนไทยเราเริ่มห่างไกลวัดกันมากขึ้น
คนเราเริ่มหยาบช้ามากขึ้น เพราะกิเลสมันเข้าถึงได้ง่ายกว่า

เห็นด้วยครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เห็นพวกอภิมหาปัญญาชนโชว์ภูมิรู้ของตัวเองแล้ว ผมชักเป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นต่อๆไปจริงๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ มีนาคม 16, 2012, 11:10:05 PM
ผมไม่มีศาสนา...
 ผมนับถือคนทำความดีทำตามกฎหมาย....
 คนเลวนับถือศาสนาอะไรมันก็เลว...
 การนับถือศาสนาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย...