หัวข้อ: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 16, 2012, 08:36:51 AM ขอขอบคุณ www.nFe.go.th
การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เรื่องที่ 1 ความสำคัญของการอบรมเลี้ยงดูลูก คนเรามักจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว จะย้อมสีอะไรลงไปก็ติดง่ายทั้งนั้น คำเปรียบเทียบดังกล่าว ชี้ ให้เห็นว่า การอบรมสั่งสอนคนในวัยเด็กย่อมเกิดผลดีกว่าทำ เมื่อเด็กโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในทำนองเดียวกัน ถ้าแต่ละครอบครัวได้อบรมเลี้ยงดูลูก ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะทำให้ลูกเติบโตขึ้นพร้อมกับรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดีหรืออะไรควรทำและไม่ควรทำ ส่วนครอบครัวที่ไม่เห็นความสำคัญของการอบรมเลี้ยงดูลูก โดยคิดว่าให้เป็นหน้าที่ของโรงเรียน แล้วนิสัยไม่ดีบางอย่าง อาจจะติดตัวเด็กอย่างถาวรก็ได้ ทั้งนี้เพราะช่วงแรกเกิดจนถึง อายุ 3 ปี จะเป็นระยะที่เด็กมีความรู้สึกนึกคิด มีนิสัยต่าง ๆ เกิดขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่ออนาคตของลูกมาก พ่อแม่ควรได้ ได้ตระหนักเป็นอย่างยิ่ง เรื่องที่ 2 การเลี้ยงดูลูกแบบเผด็จการ ในการเลี้ยงดูลูกพ่อแม่แต่ละรายจะมีวิธีการเลี้ยงดูลูกแตกต่าง กันออกไปตามแต่ที่ตนเองจะเห็นว่าเป็นการเลี้ยงดูที่ดีที่สุด บางครอบครัวมีความคิดเห็นว่า ลูก ๆ ควรเชื่อฟังผู้ใหญ่อย่าง สิ้นเชิง ไม่ควรโต้แย้งหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ สิ่งที่ผู้ใหญ่ หรือพ่อแม่สั่งให้ทำต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ลูก ๆ มีหน้าที่ รับคำสั่งและทำตามคำสั่งเท่านั้น เมื่อใดลูกทำผิดในสายตาของพ่อแม่แล้ว ก็จะได้รับการดุด่า ว่ากล่าว และถูกลงโทษทันที การตัดสินว่าลูกทำถูกหรือผิดเป็น ความคิดเห็นของพ่อแม่แต่เพียงฝ่ายเดียว การเลี้ยงลูกตามแบบอย่างที่กล่าว เกิดขึ้นเพราะพ่อแม่มีความ เชื่อว่าตนเองอาบน้ำร้อนมาก่อนลูก ย่อมรู้อะไรดี-ชั่วมากว่าลูก ๆ จึงต้องทำตามที่ตนเองสั่งเท่านั้น และเชื่อว่าการเลี้ยงลูกเช่นนี้จะ ทำให้ลูกมีระเบียบวินัย ว่านอนสอนง่ายและเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ การเลี้ยงลูกแบบนี้ เรียกได้ว่า เป็นการเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ จากการศึกษาของผู้รู้ต่าง ๆ พบว่า การเลี้ยงลูกแบบเผด็จการ เป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมกับโลกยุคปัจจุบันทั้งนี้เพราะไม่ว่าเด็กหรือ ผู้ใหญ่ต่างมีความคิดและเหตุผลเป็นของตนเองทุกคนย่อมไม่ต้อง การ ให้ผู้อื่นมาบังคับหรือสั่งให้ปฏิบัติตามที่ผู้อื่นต้องการทุกกรณี นอกจากนี้ยังไม่เป็นการสร้างเสริมความคิด ในการเป็นพลเมือง ของชาติตามระบอบประชาธิปไตย สำหรับผลที่เกิดขึ้นโดยตรงกับลูก ที่พ่อแม่เลี้ยงดูตามแบบ เผด็จการพบว่า เมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วอาจจะมีนิสัยที่ไม่ สมควรเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น * อาจจะเป็นคนก้าวร้าว เผด็จการเหมือนพ่อแม่ * อาจจะเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องคอยรับฟัง คำสั่งจากผู้อื่นก่อน * อาจจะเป็นคนที่ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ นิสัยเหล่านี้ จะบั่นทอนความก้าวหน้าในอนาคตของเด็กได้ เรื่องที่ 3 การเลี้ยงดูลูกแบบปล่อยปละละเลย เราจะพบว่า บางครอบครัวเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดกวดขันหรือ แบบเผด็จการ แต่บางครอบครัวอาจจะมีการเลี้ยงดูในแบบที่มี ลักษณะตรงกันข้าม คือปล่อยให้ลูกมีอิสระเสรีภาพ ที่จะทำ อะไร ๆ ตามใจตัวเอง ลูกจะทำผิดหรือทำถูกพ่อแม่ก็ไม่สนใจ สั่งสอนอบรม เราอาจเรียกการเลี้ยงดูแบบนี้ว่า การเลี้ยงลูกแบบ ปล่อยปละละเลย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพ่อแม่บางคนมีภารกิจใน การทำมาหาเลี้ยงชีพรัดตัวเกินไป จนไม่มีเวลาพอที่จะเอาใจใส่ ลูกอย่างใกล้ชิดได้ ลักษณะเช่นนี้อาจจะเกิดกับครอบครัวที่ร่ำรวย หรือยากจนก็ได้ บางครั้งพ่อแม่อาจจะชดเชยการขาดความเอาใจใส่ต่อลูกโดย การให้เงินลูกใช้ตามความพอใจ คบเพื่อนได้ตามสะดวก และ ดำเนินชีวิตตามความต้องการของตนเอง การเลี้ยงลูกแบบปล่อยปละละเลยนั้น ถ้าพิจารณาอย่างผิวเผิน แล้ว บางคนอาจคิดว่าเป็นวิธีการที่ดี เพราะคนเราน่าจะมีอิสระ เสรีภาพในตัวเองที่จะทำอะไร ๆ ตามที่ตนต้องการ แต่ความเป็นจริงนั้น การเลี้ยงดูลูกแบบนี้ก่อให้เกิดผลร้ายต่อ ตัวเด็กเอง และต่อสังคม มากกว่าเกิดผลดี ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า คนเรากว่าจะเติบโตเป็นคนดี รู้จักสิ่งที่ถูกและผิด รู้จักสิ่งที่ควร และไม่ควรนั้น ต้องได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ในแบบ อย่างที่ถูกที่ควร ครอบครัวที่เลี้ยงลูกแบบปล่อยปละละเลย จะส่งผลให้เด็กเกิด นิสัยไม่ดีหลายประการ เช่น การเอาแต่ใจตนเอง ขาดระเบียบ วินัยขาดความมีสัมมาคารวะ ขาดความรับผิดชอบเป็นต้นและถ้า ครอบครัวใดให้เงินลูกไว้จับจ่ายตามความพอใจด้วยแล้ว ลูกมัก จะไม่เห็นคุณค่าของเงิน นอกจากนี้ ผลกระทบอาจจะเกิดขึ้นตามมาอีก เช่น การคบ เพื่อนที่ไม่ดี การไปมั่วสุมในสถานที่ไม่สมควรต่าง ๆ ตลอดจน อาจเป็นสาเหตุของการติดยาเสพติดได้ เรื่องที่ 4 การเลี้ยงดูลูกแบบคุ้มครองเกินไป เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ทุกคนย่อมมีความรักและห่วงใยลูกของ ตน แต่พ่อแม่บางคนอาจจะทุ่มเทความรัก ความเอาใจใส่เป็น พิเศษ แก่ลูกบางคนหรือบางกรณี เช่น การมีลูกคนเดียว ลูก คนแรก ลูกคนสุดท้อง หรือลูกที่มีเพศอย่างที่ตนรอคอยมานาน การเลี้ยงดูลูกแบบนี้ พ่อแม่จะดูแลเอาใจใส่ลูกทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน หรือการกระทำใด ๆ จะอยู่ใน สายตาของพ่อแม่เสมอ พ่อแม่จะเห็นลูกเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องดู แลตลอดเวลา และไม่ยอมให้ลูกพบกับความยากลำบากไม่ว่า กรณีใด ๆ การเลี้ยงดูลูกตามแบบนี้เรียกว่า แบบคุ้มครองเกินไป หรือ ชาวบ้านเรียกกันว่าแบบไข่ในหิน คือต้องดูแลประคับประคอง ทุกฝีก้าวนั่นเอง การเลี้ยงดูลูกแบบคุ้มครองเกินไปนั้น จะเห็นว่ายังไม่ค่อย เหมาะสมนักทั้งนี้เพราะมนุษย์มีธรรมชาติที่ต้องการเป็นตัวของ ตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตของตนเองมากเกินไป แม้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นพ่อแม่ หรือมีความรัก ความห่วงใยต่อ ตนมากเพียงไรก็ตาม เป็นความจริงที่ว่าพ่อแม่ทุกคนรักและห่วงใยลูก แต่การแสดง ออกของความรัก และความห่วงใยควรอยู่ในขอบเขตของความ พอดี การเลี้ยงดูลูกแบบคุ้มครองเกินไปนั้นในช่วงแรก ๆ ลูกอาจจะ มีความพอใจ อบอุ่นที่พ่อแม่รักและเอาใจใส่ตนเองแต่ต่อมาลูก อาจจะรู้สึกอึดอัดที่พ่อแม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเขาทุกฝีก้าว การเลี้ยงดูลูกแบบนี้จะส่งผลเสียแก่เด็กหลายประการ เช่น เด็กจะกลายเป็นคนขาด ความมั่นใจในตนเองไม่อดทนต่อความ ยากลำบาก ไม่ต่อสู้ชีวิต ไม่กล้าตัดสินใจ จิตใจอ่อนแอ คอยแต่ จะพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา การเลี้ยงลูกแบบนี้เรียกว่า เป็นการเลี้ยง แบบไม่รู้จักโต เรื่องที่ 5 การเลี้ยงดูลูกแบบประชาธิปไตย การเลี้ยงดูลูกแบบประชาธิปไตยนั้น พ่อแม่จะต้องเป็นคนใจ กว้าง มีเหตุผล ถ้าลูกทำผิดก็จะอบรมสั่งสอน หรือแม้จะมีการ ลงโทษก็จะชี้แจงความผิดก่อน และไม่ลงโทษด้วยอารมณ์พร้อม ทั้งให้โอกาสลูกที่จะชี้แจงเหตุผลของตนด้วย การเลี้ยงดูลูกแบบนี้พ่อแม่จะไม่เข้มงวดเกินไป และขณะ เดียวกันก็ไม่ปล่อยลูกจนเกินไป ถ้าครอบครัวหรือสมาชิกมี ปัญหาอะไรก็จะช่วยกันแก้ปัญหา พ่อแม่จะไม่ถือว่าลูกเป็นเด็ก เล็ก ๆ ตลอดเวลา แต่จะให้ลูกมีโอกาสแสดงความสามารถและ ยอมรับในเหตุผลของลูก ถ้าเห็นว่า เป็นเหตุผลที่ดี การเลี้ยงดูลูกแบบนี้ก่อให้เกิดผลดีหลายประการ เช่น เด็กจะ มีสุขภาพจิตดี มีวินัยใน ตนเอง มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าตัด สินใจ กล้าจะกระทำในสิ่งที่ถูกที่ควร รับฟังเหตุผลของผู้อื่นและ ทำตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: TS2000 ที่ มีนาคม 16, 2012, 08:53:29 AM ขอบคุณ พี่ Pasta สำหรับสิ่งดีๆที่นำมาให้อ่านครับ ปกติผมจะเข้าเว็ปเกือบทุกวันและส่วนใหญ่อ่านอย่างเดียว
แต่วิธีการเลี้ยงลูกนี้อ่านแล้วโดนใจเพราะกำลังเลี้ยงลูกคนที่สองที่เพิ่งครบหนึ่งเดือนในเดือนนี้ และคิดว่าผมได้รับประโยชน์จากข้อความนี้ +1 ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 16, 2012, 09:15:04 AM ขอบคุณครับ น้าอรรถ+1ครับ ::002:: ::014::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:55:50 AM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: wiched ที่ มีนาคม 16, 2012, 11:30:35 AM +1 แต่ไม่มีลูกครับ ;D
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ มีนาคม 16, 2012, 12:48:10 PM ......................................... ::014:: ::014:: ::014:: ::014::............................................ ::014::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 16, 2012, 02:33:54 PM จำไม่ได้แล้วว่าเลี้ยงแบบไหน ...... แต่ไม่มีตามตัวอย่างสักข้อ ผิดปกติมั้ยเนี่ย ::003::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 16, 2012, 02:35:53 PM จำไม่ได้แล้วว่าเลี้ยงแบบไหน ...... แต่ไม่มีตามตัวอย่างสักข้อ ผิดปกติมั้ยเนี่ย ::003:: แล้วที่เขาลือว่าลูกคนเล็กยังไม่2ขวบ มันเรื่องจริง หรือเปล่าครับ ลุงปู ::005:: ::014::หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 16, 2012, 02:42:05 PM แล้วที่เขาลือว่าลูกคนเล็กยังไม่2ขวบ มันเรื่องจริง หรือเปล่าครับ ลุงปู ::005:: ::014:: :o เฮ้ยย !!!!!! ลุงตี๋เอาอะไรมาพูด ::003::หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ มีนาคม 16, 2012, 03:00:59 PM แล้วที่เขาลือว่าลูกคนเล็กยังไม่2ขวบ มันเรื่องจริง หรือเปล่าครับ ลุงปู ::005:: ::014:: :o เฮ้ยย !!!!!! ลุงตี๋เอาอะไรมาพูด ::003::Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา ลุงตี๋ อยากได้รถ "ฮอนด้า" รุ่นไหน เหรอคร๊า ฮา 555 ตอนนี้เรื่องแตกแล้ว ยายเลือกรุ่น " Hybrid " อ่ะฮา หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 16, 2012, 09:18:15 PM แล้วที่เขาลือว่าลูกคนเล็กยังไม่2ขวบ มันเรื่องจริง หรือเปล่าครับ ลุงปู ::005:: ::014:: :o เฮ้ยย !!!!!! ลุงตี๋เอาอะไรมาพูด ::003::ท่าจะจริง ตามคำร่ำลือ ::005:: หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:48:54 PM แล้วที่เขาลือว่าลูกคนเล็กยังไม่2ขวบ มันเรื่องจริง หรือเปล่าครับ ลุงปู ::005:: ::014:: :o เฮ้ยย !!!!!! ลุงตี๋เอาอะไรมาพูด ::003::ท่าจะจริง ตามคำร่ำลือ ::005:: พี่ปูก็บอกเขาไปตามตรงว่าจะสี่ขวบแล้ว ;D ;D ;D เขาจะได้ไม่เข้าใจผิดอีก หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:50:10 PM +1050 เอาใว้เป็นเเนวทางครับน้าอรรถ ::014::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:51:24 PM 1051 ครับ
ปล่อย ;D ;D ;D ผมเคยเห็นเขาปล่อยแบบไม่มีอุ้มให้ทำทุกอย่างเอง เด็กก็เก่งมาเลยนะ แต่ละเลยคงไม่ดี หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 16, 2012, 10:52:03 PM ครูหมูรีบถามสูตรน้าปูเลยครับ ::002::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 17, 2012, 06:26:15 AM วันเกิด ;D ;D ;D
17 มีนาคม 2469 ( ย่า คือ แม่ของพ่อผม ) เสียแล้ว 17 มีนาคม 2489 พ่อผม 17 มีนาคม 2538 ลูกสาวผม กำลังรอใส่บาตรพระสงค์หน้าบ้าน ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: แอ๊ด('-')รักในหลวง ที่ มีนาคม 17, 2012, 09:29:03 AM ::014:: เกิดวันเดียวกันนับว่าแปลกมากครับ วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ครับ ผลของการเลี้ยงดูลูกแบบที่ห้านั้นอยากได้มากครับ เพราะตอนนี้โตแต่ตัวอยู่ครับ 1052 ;D
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: chatphisit ที่ มีนาคม 17, 2012, 02:35:13 PM ได้สาระดี ๆ ชอบครับ ::014::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 17, 2012, 05:32:05 PM ;D ;D ;D 16 มีนาคม 2538 ตอนค่ำกินข้าวกัน ผมพูดกับแฟนกับลูกในท้องว่า เกิดพรุ่งนี้เลยนะลูก 17 วันเดียวกับปู่กับย่าทวด
ราว 09.00 น วันที่ 17 แฟนปวดท้องน้ำคร่ำไหลออกมา จึงรีบพาส่ง รพ. ทำคลอด แต่ลูกไม่กลับเอาหัวออก หมอจึงผ่าออกเวลา 10.53 น. ::002:: ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 17, 2012, 08:27:39 PM :D ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งครับน้าอรรถ น้องปู .... และสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ ::002::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 17, 2012, 08:39:24 PM ::002::ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 17, 2012, 09:27:02 PM :D ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งครับน้าอรรถ น้องปู .... และสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ ::002:: ::014::ของลุงปู ...ใกล้หรือยังครับ หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 17, 2012, 09:28:37 PM ::014::ของลุงปู ...ใกล้หรือยังครับ :OO ::003:: ตาบ้า ...... ไม่รู้เรื่องว้อยยย :~)หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 17, 2012, 10:43:35 PM ::007:: ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: เอ.เค. ที่ มีนาคม 18, 2012, 12:25:36 PM ขออนุญาตเพิ่มอีก 1 ข้อได้ไหมครับ
เลี้ยงลูกแบบธรรมาธิปไตย คือ เอาหลักธรรมเป็นใหญ่ เนื่องจาก ถ้าเอาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผู้เลี้ยงเป็นหลัก หรือ เอาประชาธิปไตยเสียงข้างมากเป็นหลัก อาจจะได้สิ่งที่ดีบ้าง-ไม่ดีบ้าง ตามแต่พื้นฐานของผู้เลี้ยงหรือสังคมนั้นๆ แต่ถ้ายึดเอาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเป็นหลักแล้ว ทุกอย่างก็จบลงที่ธรรมเท่านั้น ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่มีอารมณ์ของใครมาเจือปนในการตัดสินว่าสิ่งใดดี-ชั่ว ทั้งนี้ผู้ที่จะใช้หลักธรรมได้ถูกต้องสอดคล้องกับสถานการณ์จักต้องเป็นผู้เรียนรู้และประพฤติธรรมอยู่เป็นนิตย์ จึงจะหยิบยกหรือนำหลักธรรมข้อใดข้อหนึ่งมาใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม เพราะเป็นสิ่งที่ละเอียด ลุ่มลึก เหนือความครอบงำของอารมณ์และกิเลส ปราศจากอคติ ถ้าผู้ที่ถูกอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งครอบงำแล้ว มีแนวโน้มจะใช้ธรรมไปในทางที่ผิดได้ เช่น ตนเองเป็นผู้มีความโลบ ต้องการทรัพย์สมบัติมากๆ แล้วอ้างว่าธรรมข้อสันโดษ(สนฺตุฏฐี) ขัดต่อการทำมาหากิน ซึ่งจริงๆ แล้วธรรมข้อที่ว่าด้วยสันโดษนั้น มีไว้เพื่ออบรมจิตของตนให้ยินดีพอใจในสิ่งที่ตนพึงได้ ไม่ใช่ได้มาโดยวิธีใดก็ได้ แม้แต่การเบียดเบียนกันเพื่อให้ได้มา จริงๆ แล้วเรื่องการหาทรัพย์ หลักธรรมก็ได้บอกไว้ว่าให้มีวิริยะ คืออดทนในการทำงาน หามากได้มาก ก็ยินดีที่ได้มา หาน้อยได้น้อยก็ยินดีเพียงเท่าที่ได้นั้น จึงกล่าวได้ว่า ผู้จะใช้หลักธรรมาธิปไตยในการปกครองนั้น ต้องเป็นผู้อยู่ในธรรมดีแล้วเท่านั้น หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 18, 2012, 05:54:15 PM :D ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งครับน้าอรรถ น้องปู .... และสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ ::002:: :OO :OO :OO 17 ปีที่แล้วครับน้าปู ::011:: ::011:: ::011:: หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: cobra-รักในหลวง ที่ มีนาคม 19, 2012, 09:40:01 AM ขอบคุณมากครับ อ่านตั้งหลายวัน กว่าจะจบ เพราะจะอ่านแบบตั้งใจนะครับ เลยเปิดกระทู้นี้ไว้ตั้งหลายวันกว่าจะได้อ่าน การเลี้ยงเด็กสมัยนี้ยากจริงๆครับ ลูกผม 2 คน อายุห่างกัน1ปีเต็ม เกิดเดือนเดียวกันห่างกัน 8 วัน เหมือนเพื่อนกันเลยครับ พี่กับน้องทะเลาะกันเรื่อย เราต้องคอยดูอยู่ข้างๆ ต้องอธิบายกันยืดยาวครับ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราลำเอียง รักไม่เท่ากัน ก็พยายามทำให้เขารู้สึกว่าเรารักเขามากทั้ง 2 คน ไม่ได้ลำเอียง ผมเห็นด้วยกับท่านเอ.เค.ครับ ควรใช้หลักธรรมในการอบรมพวกเขาครับ +ให้ทั้งสองคนครับ
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ มีนาคม 19, 2012, 09:50:05 AM ขอบคุณครับ อย่างน้อยทำให้เรารู้ว่าเราเลี้ยงลูกมาแบบไหน :D ถึงจะไม่ตรงทั้งหมดแต่ก็ 99 %
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 19, 2012, 05:41:42 PM ::014:: ขอบคุณครับ + 1 ทุกท่านครับ :D
หัวข้อ: Re: การเลี้ยงดูลูกแบบต่าง ๆ และผลของการเลี้ยงดูลูก เริ่มหัวข้อโดย: ban.cha ที่ มีนาคม 19, 2012, 06:35:01 PM ผมก็คนมีลูกเหมือนกัน แต่เลี้ยงแบบผสมผสาน
แบบโบราณว่ารักวัวให้ผูก...รักลูกให้ตีก็มี ดุแบบเผด็จการณ์..หรือมีเหตุผลแบบประชาธิปไตยก็มี สรุปว่าแล้วแต่เหตุการณ์ ตามคุณวุฒิ และวัยวุฒิของลูกครับ |