เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Hang ที่ เมษายน 02, 2012, 11:39:50 PM



หัวข้อ: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 02, 2012, 11:39:50 PM
 ::012::  มาอ่านและช่วยกันพินิจดู

วันนี้ตั้งแต่เช้า เมียผมเตือนว่า......ต้องไปทำบุญต่อชะตาที่วัด...
ผมถามเมียว่า ไม่ไปไม่ได้หรือ..ผมไม่ถนัดเรื่องพระเรื่องจ้าว....
เมียบอกว่าไม่ได้   มีใบแจ้งมาจากวัดว่า ....
ใครเกิดปีนี้ ปีนั้น มีชื่อเป็นคัวอักษร สฯลฯ มีสระ ฯลน ให้ไปสะเดาะเคราะห์
ผมย้ำว่าไม่ไปได้ไหม  จะอ่าน  เรื่องเพชรพระอุมา ให้จบ ภาคแรก(รอบที่10)
เมียบอกว่าไม่ได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ต้องไป ไม่ไปอย่ามาใกล้..... 

ตกเย็นประมาณ 6 โมงเย็น วุ่นวายหาดอกไม้ธูปเทียน ขัน จาน พาน วุ่นจนมึน
โทรหากันวุ่นวายในระหว่างเครือญาติ
 ตามโบชัวร์ บอกว่ามีหลายรอบ วันละ 2 รอบ เช้า-ค่ำ
ผมนุ่งขาว เมียนุ่งขาว เตรียมพร้อม  จะไปเสริมชะตา บารมี ที่วัด สังวรธรรมคุณ ต.โซ่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
พอไปถึง ตามแบบธรรมเนียมของพรานรพินทร์ ไพรวัลย์  ผมเริ่มสังเกต เห็นความผิดปกติ คือ.....
....อันว่าภายในตัวเมืองโซ่พิสัย มีวัดที่อยู่ในเมืองด้วยกัน 2 วัด คือ หนึ่งวัดสังขลิการม บ้านโซ่ หมู่ที่ 1
และวัดสังวรธรรมคุณ วัดประจำบ้านบ้านอีสานพัฒนา และบ้านสามเหลี่ยม(แถวหอนาฬิกา)
.....วัดสังขลิการาม บ้านโซ่นั้น มีพระพุทธรูปที่เป็นที่สักการะของชาวบ้านโซ่ คือ พระเจ้าแสนสามหมื่น
วัดที่ผมจะไปสะเดาะเคราะห์กับเมีย คือวัดสังวรธรรมคุณ(สัง –วอน –ทำ – มะ - คุน)…
วัดนี้เคยมีเจ้าอาวาสเป็นเจ้าคณะอำเภอ (ท่านมรณภาพไปแล้ว) ได้มีการสร้างธาตุเจดีย์ของท่านไว้ในวัด
ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอุโบสถ(โบสถ์) และยังไม่แล้วเสร็จ
.....ในใจผมก็คิดว่า เมื่อมีการสะเดาะเคราะห์ ก็คงเป็นการทำกันเองภายในวัด โดยเจ้าอาวาสและมัคคทายก
แต่........... ที่สังเกตดู ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ เก้าอี้ ในงานพิธีตอนนี้ ไม่ใช่ของวัด
ลานหน้าอุโบสถ ก็ไม่มีการเดินสายสิญจน์ ทำที่นั่งภาวนาของญาติโยม
มีแต่การเตรียมการในศาลา ที่คิดว่าคงรับ ได้ไม่เกิน 200 คน ซึ่งพิธีขนาดนี้ น่าจะเยอะกว่านั้น
ผมเริ่ม เอะใจ......
จนท.ขายธูปเทียนไหว้พระราหู ก็ไม่เคยเห็นหน้า  เอ๊ะ.....
จนท.ขายแผ่นทองและดอกไม้ ก็ไม่เคยเห็น  .......
...กรรมการวัด  ก็ไม่มี  พระที่อยู่ในวัด ก็ไม่มาร่วม  เอ๊ะ..... ยังไงหว่า
พอซื้อธูปเทียน(ก็เจอธูปเทียนดำ) ให้ไปไหว้พระราหู ไหว้เสร็จ  ก็ไปตักบาตร 9 วัน
หมดไปคนละ 200 กว่าบาท)
แล้วก็ไปนั่งในศาลา ........
ตอนนี้มีพิธีครอบด้วยหัวพระราม พระฤาษี เอ๊ะ...ยังไงหว่า เหมือนครอบครูของพวกนักแสดง
การครอบก็มีค่าครอบอีกต่างหาก  ตามศรัทธา คนจะครอบยาวเป็นเฮกโตเมตร
มีพระครูครอบ 2 องค์(ที่จริงน่าจะเป็นรูป แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นนักบวชศาสนาไหน เลยเรียกเป็นองค์)
ตามกำหนดการบอกว่าพิธีเริ่ม 1 ทุ่ม จบ 3 ทุ่ม  แต่เริ่มจะ Late เพราะงานครอบกำลังทำเงิน
คนครอบเริ่มวาย .....ก็เข้าสู่รายการทำพิธีสะเดาะเคราะห์........
เริ่มด้วยการแจกดอกไม้สวรรค์  หนีบไปคนละ 20 บาท (คนทั้งศาลามีประมาณ 300 คน)
จากนั้นก็เริ่มสวด(ก็ไอ้บทเดิมๆของบทสวดวันพระ)  สวดไม่นานก็หยุดอีก
แล้วก็ถวายสังฆทาน(มีคนเดินหิ้วมาวาง ไม่ต้องเสียเวลาหา) มีซองใส่ปัจจัยแจกตามมาด้วย
  แล้วทำพิธีต่อ เอาเงินใส่ขัน 9 บาท ยกจรดหน้าผาก ฟังพระสวด 2 นาที
.....ในงานนี้ มีพระ 5  องค์ มีพิธีกรชาย 1 คน คนเดินเรื่อง 1 คน (กำกับการแสดง)
พอใกล้จะจบ   ก็มีคนดิ้นพราดๆ ร้องโวยวาย ผีเข้า
 (แต่พวกบ้านโซ่ไม่เคยเห็นหน้าพวกศิษย์พระหมอผีที่มาชักมาร้องไห้ เหล่านี้ซักคน)
 ......22.30 น. ง่วงเต็มทน หมดพิธี
ผมจะเอาขันและแผ่นทองกลับบ้าน แต่ ศิษย์วัด(คนเดินเรื่อง) บอกว่าห้ามเอาขันและอุปกรณ์ที่ซื้อ(บูชา)มา  กลับไปบ้านด้วย มันเสนียด
  ให้ถวายพระทันที พร้อมเงิน 9 บาทนั้นแล้วไปเจิมหน้า พร้อมถวายปัจจัย ตามกำลังศรัทธา
ผมว่า......ยังไงกันนะ มีพระหมอผีเจิมหน้าสาวๆ
มีพระพรหม ครอบครู แถมคล่องแคล่ว ..คนกราบปุ๊บ ครอบปั๊บ ได้แล้ว 20-50-100
เมียผมหมดไปหลายบาท ก็ตามสบายเขา…….แต่.....
แบบนี้ผมว่าหลอกชาวบ้าน  หลอกพวกเคร่งศาสนา ให้หมดตัวกันไปข้าง
ผมชอบทำบุญ........ แต่พวกนี้ผมไม่ศรัทธา  โกหกชัดๆ
แล้วชาวบ้านทำไม่ไม่ขัดขาวง กรรมการวัดน่าจะห้ามปราม...มันเสียชื่อเสียงและกำลังใจยังไงบอกไม่ถูก
กรมศาสนา ไปไหน.....ไม่เห็นมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน  ปราบพวกเหลือบศาสนาไม่ได้ เลยเฉยซะ
เมียผมด่าผมว่าไม่รู้จักพระ  ผู้จะนำเราไปสวรรค์ ...คนบาป  ว่างั้น

คำถาม  -เดี๋ยวนี้มีการตระเวนสะเดาะเคราะห์ ปานคณะหมอลำ แล้วหรือ ....  คงรวยเละ ภาษีไม่เสีย
-ทุกท่านคิดยังไงเกี่ยวกับ เรื่องแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ประการใด






หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: STeelShoTS ที่ เมษายน 03, 2012, 12:11:27 AM
 อาศัยวาจา เปลี่ยนศรัทธาเป็นความเชื่อ ให้เหลือแค่งมงาย สุดท้ายจะสูบเงิน... ::006::
    กลุ่มเป้าหมาย คือคนส่วนใหญ่ที่มีปัจจัยล้นพอเหลือ...และความต้องการสุดท้ายคืออยู่ยอดปิรามิด.............

   ลัทธิจานบินถนัดเรื่องการทำการตลาดมากกว่า............แต่งานนี้เทียบเท่าเณรแอ... ::005::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ เมษายน 03, 2012, 12:16:54 AM
รวยง่ายครับ รวยมหาศาล ปลอดภาษี ทำมาหากินกับความเชื่อ กับศาสนา ใครอยู่ในวงจร รู้จุดอ่อนของคนไทย หากินไม่ยากครับ ใจคนพร้อมจะเชื่ออยู่แล้ว


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 12:27:55 AM
 ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: beach-boy ที่ เมษายน 03, 2012, 12:33:51 AM
อาศัยวาจา เปลี่ยนศรัทธาเป็นความเชื่อ ให้เหลือแค่งมงาย สุดท้ายจะสูบเงิน... ::006::
    กลุ่มเป้าหมาย คือคนส่วนใหญ่ที่มีปัจจัยล้นพอเหลือ...และความต้องการสุดท้ายคืออยู่ยอดปิรามิด.............

   ลัทธิจานบินถนัดเรื่องการทำการตลาดมากกว่า............แต่งานนี้เทียบเท่าเณรแอ... ::005::+1ครับ ::002::
รวยง่ายครับ รวยมหาศาล ปลอดภาษี ทำมาหากินกับความเชื่อ กับศาสนา ใครอยู่ในวงจร รู้จุดอ่อนของคนไทย หากินไม่ยากครับ ใจคนพร้อมจะเชื่ออยู่แล้ว +1ครับ ::002::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 08:14:16 AM
ก็ยังดีครับที่ท่านเจ้าของกระทู้มีความคิด ;D ;D ;D แบ่งเบาจากคู่ได้

บางบ้านทั้งคู่เลยพากันสนุกไปเลย


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 08:17:55 AM
เหมือนแก้กรรม สแกนกรรมของแม่ชีอะไรสักอย่าง ขอได้คงไม่มีคนจน ไม่มีสงคราม

มีจริงทำไมไม่สร้างให้โลกนี้สมบูรณ์แต่แรก ต้องมานั่งแก้กันทำไม


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 08:21:36 AM
แล้วแต่บุคคล  บางคนอุตส่าห์กู้เงินไปทำบุญก็มี


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: wiched ที่ เมษายน 03, 2012, 08:27:25 AM
การสะเดาะเคราะห์ แก้กรรม  ไม่ใช่แก่นของพุทธศาสนา


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: hangseri - รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 09:30:57 AM
เดียวนี้ถ้าอยากจะทำบุญ ผมส่วนมากไปซื้อโลงตามมูลนิธิมากกว่าครับ


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 09:41:34 AM
ลองหานิยายเรื่อง "งู" ของ วิมล ไทรนิ่มนวล (ผู้เขียน คนทรงเจ้า) มาอ่านดูสิครับ

แล้วท่านจะบรรลุทางโลก....


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 09:44:06 AM
ลองหานิยายเรื่อง "งู" ของ วิมล ไทรนิ่มนวล (ผู้เขียน คนทรงเจ้า) มาอ่านดูสิครับ

แล้วท่านจะบรรลุทางโลก....

ผัดเผ็ดหรอยนะ...แล้วท่านจะบรรลุทางอาหาร...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 09:48:50 AM
ลองหานิยายเรื่อง "งู" ของ วิมล ไทรนิ่มนวล (ผู้เขียน คนทรงเจ้า) มาอ่านดูสิครับ

แล้วท่านจะบรรลุทางโลก....

ผัดเผ็ดหรอยนะ...แล้วท่านจะบรรลุทางอาหาร...


ชะ....

เป็นนกคูดเรอะ ถึงชอบกินงูนัก


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ เมษายน 03, 2012, 09:52:24 AM
ทำบุญไม่ต้องทำด้วยเงินจะดีกว่า......


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 09:55:50 AM
ผมคิดได้ตั้งกะอายุยี่สิบแระว่า ทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัด... ;D


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: MR.BEEN รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 10:19:48 AM

เดี๋ยวนี้วัด หลายที่ มีเกือบครบ  เทวรูป ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู รามเกียรติ์
ราหู กวนอิม  ตอตะเคียน เรือเก่า ฯลฯ มีให้กราบไหว้ ตามกำลังศัทธา   ::003::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ฅนบ้านนอก ที่ เมษายน 03, 2012, 10:22:58 AM
ลองหานิยายเรื่อง "งู" ของ วิมล ไทรนิ่มนวล (ผู้เขียน คนทรงเจ้า) มาอ่านดูสิครับ

แล้วท่านจะบรรลุทางโลก....

ผัดเผ็ดหรอยนะ...แล้วท่านจะบรรลุทางอาหาร...


                ::005::
  ..................................................

  เรื่องแบบ นี้พูดอยากครับ  เคยอยู่วัดมาแต่เด็กๆ  สี่ห้าปี (เป็นเด็กวัด) เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
  ไปว่า ไปสอน ไปดูถูกก็ไม่ดี เท่ากับไปขี้ใส่หัวใจเขา ไม่ขอวิจารณ์ครับ   ::004::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวเขียว-รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 11:01:46 AM

เดี๋ยวนี้วัด หลายที่ มีเกือบครบ  เทวรูป ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู รามเกียรติ์
ราหู กวนอิม  ตอตะเคียน เรือเก่า ฯลฯ มีให้กราบไหว้ ตามกำลังศัทธา   ::003::
บางวัดมีปลัดขิกด้วยนะ ::013::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 11:47:24 AM
... เอ ... ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วทำไม? กรรมการวัดหรือคนที่พอจะพูดได้ไม่สอบถามกันล่ะครับว่าเป็นพวกไหนมาจากไหน มาทำอะไร เืพื่อประสงค์ใด หรือว่างานนี้มีการมอบเงินช่วยเหลือวัดด้วยบางส่วน ถ้าวัดที่ว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็เข้าข่ายว่าร่วมมือกันหากินนะครับ การทำแล้วสบายใจไม่แปลก แต่การตระเวนทำกันแบบนี้มันเข้าข่ายหากินกับเรื่องแบบนี้ ไม่เหมาะนะครับผม (ส่วนตัว) ...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 11:48:55 AM
.... เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยนะว่า น่าจะให้มีการตรวจสอบ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาให้ได้รับรู้แล้วทำการตรวจสอบ ไม่ใช่ทราบแล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมเช่นนี้ ควรทำอย่างใดอย่างหนึ่งครับผม ....


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 11:50:24 AM
ที่นี่ ประเทศไทย ครับ  ::012::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 11:53:29 AM
(http://image.ohozaa.com/i/3df/CKC6y.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/mfWq)

... ทุกวันนี้ศาสนาก็เสื่อมลงทุกวันอยู่แล้ว เสื่อมเพราะคนในศาสนาเองก็ส่วนหนึ่ง เสื่อมเพราะคนไปหากินกับศาสนาด้วยก็อีกส่วนหนึ่ง เราคงไปต่อว่าใครต่อใครไม่ได้หรอก เราต้องโทษตัวคนเจ้าของศาสนาด้วยกันเองนั่นแหละที่เห็นแล้วก็ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ไข ไม่ชี้ชวนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ถูก ไม่ต้อง บางทีทรัพย์ก็บังตากรรมการ หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน วัฒนธรรมจังหวัดต้องเข้าไปดูไปรับทราบปัญหาไม่ใช่พิมพ์ป้ายผ้า ไวนิล กินงบ รณรงค์ห้ามกินเหล้าในวัด ผิดกฏหมาย แล้วพระที่กินเหล้าในวัด ผิดกฏข้อใดไม่ทราบ ออกเป็นข่าวเป็นคราวทุกวี่วัน ...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 11:58:06 AM
... ผมเองเคยแสดงความเห็นไว้ในหลายที่ว่า พระสงฆ์ที่บวชแล้วกระทำความผิดเช่น การดื่มเหล้า การร่วมหลับนอนกับสีกา การกระทำอันเป็นที่ติฉินนินทาของคนทั่วไป กิจที่ไม่เหมาะสมของสงฆ์ ฯ ต่าง ๆ เหล่านี้เวลาจับหรือแสดงความผิดแล้ว ต้องไม่เีพียงจับสึกเท่านั้น ควรที่จะดำเนินคดีความทางกฏหมายด้วย เพราะถือเป็นการหลอกลวง หลอกให้เชื่อ แอบแผงศาสนาหากิน ทำให้คนทั้วไปเข้าใจผิด และมีผลเสียกับทางศาสนาในทางตรง และทางอ้อม ...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 12:01:30 PM
... พระกินข้าวเย็น พระขับรถยนต์ พระเดินห้างสรรพสินค้า พระนั่งกินก๋วยเตี๋ยวในตลาด ฯ ถามว่าผิดไหม แม้จะเป็นความผิดเล็กน้อยสามารถปลงอาบัติกับพระผู้ใหญ่ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วความเหมาะสมกับสมณะเพศ เหมาะสมหรือไม่ ตรงนี้น่าจะนำมาพิจารณากัน ไม่พร้อมก็ไม่ต้องบวช บวชแล้วต้องปฏิบัติให้ได้ ทำให้ได้ สำรวมให้ได้ ......


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 03, 2012, 12:04:16 PM
... ข้อที่น่าสังเกตุอีกอย่างก็คือ วัดดัง ๆ ที่มีเงินเข้าวัดมากมายนั้น แล้วก็ทำที่อยู่ของสงฆ์จนสบายเกินฐานะของเพศบรรพชิต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนในการสร้างเสริมกำหนัด กิเลสตัณหาทั้งสิ้น กินดี นอนดี ที่อยู่ดี แล้วต้องมีอะไรมาเสริมอีกล่ะถึงจะดี (สตรีสวย ๆ) ไง ยิ่งตอนนี้ หญิงก็ไม่กลัวบาปแล้วนะ พระมีเงิน ตังค์มาก ต่างคนต่างได้ ..... บาปน่าดูเลยวันนี้ผม พูดแต่เรื่องพระ ...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 12:06:22 PM
5555 ตามที่พี่แจ๊คว่ามาทั้งหมด ทำให้ผมปฏิเสธการทำบุญกับวัดดังๆ  ถ้าทำก็ไม่เกินยี่สิบบาท  วัดที่ผมชอบไปคือวัดบางนมโค วัดดังที่ไม่ค่อยพลุกพล่านครับ ต้องไปทุกปีถึงตอนนี้ผมจะอยู่น่านก็เหอะ... ::014::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ เมษายน 03, 2012, 12:16:17 PM
... ข้อที่น่าสังเกตุอีกอย่างก็คือ วัดดัง ๆ ที่มีเงินเข้าวัดมากมายนั้น แล้วก็ทำที่อยู่ของสงฆ์จนสบายเกินฐานะของเพศบรรพชิต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนในการสร้างเสริมกำหนัด กิเลสตัณหาทั้งสิ้น กินดี นอนดี ที่อยู่ดี แล้วต้องมีอะไรมาเสริมอีกล่ะถึงจะดี (สตรีสวย ๆ) ไง ยิ่งตอนนี้ หญิงก็ไม่กลัวบาปแล้วนะ พระมีเงิน ตังค์มาก ต่างคนต่างได้ ..... บาปน่าดูเลยวันนี้ผม พูดแต่เรื่องพระ ...

ส่วนหนึ่งก็เพราะพุทธศาสนิกชนส่งเสริม(ทั้งทางตรงและทางอ้อม)ให้พระทำผิดครับ 


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 03, 2012, 12:52:55 PM
ลุงผมที่เป็นกรรมการวัดคนหนึ่ง ไม่ไปร่วมงานหรือติดตามเลย
ผมถามท่านแล้ว ท่านบอกว่า ห้ามแล้ว บอกไม่สมควรทำ แม้จะมีการเหมาจ่ายให้วัดบ้างเป็นค่าสถานที่ แต่ไม่เหมาะสม
ทางกำนันและกรรมการท่านอื่น ก็หลงคารมพระที่มาขอใช้สถานที่ (คงจะเพราะเงินด้วย)
ตกลงกันไม่ได้ ทางลุงก็เลยถอย
ทราบว่าพวกนี้จะไปแจมทุกวัดที่มีการสร้างโบสถ์ใหม่ ฝังลูกนิมิตร ทำมาหากินกันเป็นทีม ไม่ให้กรรมการวัด หรือพระในวัดเข้าร่วม
วันที่ผมไป มีการประกาศว่านิมนต์ท่านเจ้าอาวาสมาจุดเทียนชัย แต่ท่านไม่ลงมา
ก็มีการซุบซิบวิจารณ์กันมาก แต่ส่วนมากเกรงผ้าเหลือง กลัวบาป ไม่อยากตอแยกับพระ
ผมอยากให้มีการตรวจสอบห้ามปรามด้วย โดยทางฝ่ายบ้านเมือง โดยกฎหมาย ไม่ใช่พระทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ผมกลัวศาสนาจะมัวหมอง
อีกพวกก็เรียไร...วิ่งแจกซอง แผ่ข้าวสาร มาเป็นคันรถ เต็มรถก็ไปขาย แล้วพเนจรไปบ้านใหม่เรื่อยๆ สงสารชาวบ้านยิ่งจนๆอยู่ด้วย
ต้องให้...ถ้าไม่ให้ก็กลัวตกนรก ..พวกนี้ชอบเอาสวรรค์-นรก มาขู่ชาวบ้าน  เหมือนพวกมันเป็นเจ้าของสวรรค์งั้นแหละ .... เอวัง


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ เมษายน 03, 2012, 01:30:28 PM
... ถ่ายคลิปลง ยูทูป  เฟสบุ๊ค ไปเลยครับ ... ได้เรื่องแน่นอน ...  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 03, 2012, 01:39:39 PM
... ถ่ายคลิปลง ยูทูป  เฟสบุ๊ค ไปเลยครับ ... ได้เรื่องแน่นอน ...  ;D ;D ;D
มื้อนั่นลืมกล้องครับอาว เซ็งเลย


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 02:06:52 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 03, 2012, 02:10:19 PM
ผมทำบุญโดยการซ่อมกุฎิ ซ่อมโน่นนี่ในวัดข้างบ้านมาตลอด
พอมาอยู่ กทม. ห่างๆไปบ้าง แต่กลับไปก็ช่วยทำ

มาหลังๆ จะปีนราวระเบียงขึ้นซ่อมเชิงชาย
พระรีบเรียกลงมา คิดว่าเป็นห่วงเรา
ที่แท้ แกห่วงราวระเบียง.....


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 02:12:12 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว

เหมือนกับช่วยหาทุนหรือเปล่า ;D ;D ;D  อีกทางหนึ่งถ้าไม่มีคนอย่างนี้ สี่แสนห้าวัดก็ไม่ได้นะ มันก็คิดได้สองอย่าง

แต่ผมไม่เกี่ยวนะออกความเห็นเฉยๆ555555555


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ เมษายน 03, 2012, 02:12:40 PM
บาป บุญ...สำหรับผม มันไม่มีตัวตน

ความชั่วความดี ไม่มีตัวตน......

แต่การกระทำ ทั้งดีทั้งชั่ว อยู่ที่เรา....

บาป..เกิดแก่คนทำบาป.......

บุญได้แก่คนทำบุญ

เหล่านี้คนละส่วน ทำบาปได้บาป ทำบุญได้บุญ จะทำบุญเพื่อล้างบาป มิใช่เหมือนคณิตศาสตร์ ที่5-2เหลือ3

ศาสนาแก่นมันยังมี แต่คนเดี๋ยวนี้ พบเจอเห็นแต่เปลือก แต่กระพี้


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 02:12:51 PM
ผมทำบุญโดยการซ่อมกุฎิ ซ่อมโน่นนี่ในวัดข้างบ้านมาตลอด
พอมาอยู่ กทม. ห่างๆไปบ้าง แต่กลับไปก็ช่วยทำ

มาหลังๆ จะปีนราวระเบียงขึ้นซ่อมเชิงชาย
พระรีบเรียกลงมา คิดว่าเป็นห่วงเรา
ที่แท้ แกห่วงราวระเบียง.....

บุญกุศลนี้  คงทำให้น้าSub. เจอขี้..............สักทู


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 02:12:57 PM
มาหลังๆ จะปีนราวระเบียงขึ้นซ่อมเชิงชาย
พระรีบเรียกลงมา คิดว่าเป็นห่วงเรา
ที่แท้ แกห่วงราวระเบียง.....

ลดน้ำหนักหน่อยครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 03, 2012, 02:15:59 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว

เหมือนกับช่วยหาทุนหรือเปล่า ;D ;D ;D  อีกทางหนึ่งถ้าไม่มีคนอย่างนี้ สี่แสนห้าวัดก็ไม่ได้นะ มันก็คิดได้สองอย่าง

แต่ผมไม่เกี่ยวนะออกความเห็นเฉยๆ555555555

วัดไร่ขิงสิครับ ทำเองมาตลอด
พระเป็นงานหมดทุกรูป


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 02:17:21 PM
วัดไร่ขิงสิครับ ทำเองมาตลอด
พระเป็นงานหมดทุกรูป

ก็ยินดีกับวัดด้วยครับ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 02:17:41 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว

เหมือนกับช่วยหาทุนหรือเปล่า ;D ;D ;D  อีกทางหนึ่งถ้าไม่มีคนอย่างนี้ สี่แสนห้าวัดก็ไม่ได้นะ มันก็คิดได้สองอย่าง

แต่ผมไม่เกี่ยวนะออกความเห็นเฉยๆ555555555

ครับ  ไม่ได้หรอกครับ

ลำพังวัดกับกรรมการแก่ ๆ หัวดื้อไม่กี่คน ไม่มีทางทำได้  อย่าว่าแต่จะหาออแกไนท์ฯเลย

แค่ตั้งโต๊ะบริจาคในตลาดนัดยังไม่มีทาง

จึงเป็นช่องทางสำหรับผู้รับเหมา ที่จะมาจัดการแทน


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 03, 2012, 02:30:02 PM
โฮ้  ขนาดนั้นเลยหรือครับ เพิ่งรู้นะครับ ธุรกิจมันแผ่เข้าไปในศาสนา ขนาดนั้นนะ 
อีกหน่อยคงมีคนจดลิขสิทธิ์บทสวดมนต์ ใครจะสวดต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์   หึย


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 02:31:49 PM
โฮ้  ขนาดนั้นเลยหรือครับ เพิ่งรู้นะครับ ธุรกิจมันแผ่เข้าไปในศาสนา ขนาดนั้นนะ  
อีกหน่อยคงมีคนจดลิขสิทธิ์บทสวดมนต์ ใครจะสวดต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์   หึย

ต้องได้รับรู้เรื่องจตุคามในยุครุ่งเรืองด้วย รับรอง เศร้ากว่านี้


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 02:38:16 PM
โฮ้  ขนาดนั้นเลยหรือครับ เพิ่งรู้นะครับ ธุรกิจมันแผ่เข้าไปในศาสนา ขนาดนั้นนะ 
อีกหน่อยคงมีคนจดลิขสิทธิ์บทสวดมนต์ ใครจะสวดต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์   หึย

ต้องได้รับรู้เรื่องจตุคามในยุครุ่งเรืองด้วย รับรอง เศร้ากว่านี้

เล่าเหอะ มีคนอยากฟังอยู่ท่านพี่...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ เมษายน 03, 2012, 02:41:20 PM
http://www.youtube.com/watch?v=1RIJHzGY7Cw



ดูข่าวเช้าช่อง 3 เมื่อวาน เหตุเกิดที่ลำปาง โขมยจักรยานในวัด




 จำนวนคนอ่านล่าสุด 8076 คน
วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 15:40 น.  ข่าวสดออนไลน์


คลิปหลวงพี่ เตะสั่งสอนหัวขโมยจักรยานชาวบ้าน ที่ลำปาง



 

 

 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 ภูธร จ.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุขโมยรถจักรยานของชาวบ้านที่เข้ามาทำบุญในวัดเกาะวารุการาม ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง และชาวบ้านสามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.สวนดอกเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

 ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านทั้งชายและหญิงประมาณ 10 คน ช่วยกันจับหัวขโมย ที่ขโมยรถจักรยานไว้  ทราบชื่อต่อมาคือ  นายพิษณุ  พงษ์ประเสริฐ์ อายุ 54 ปี   แต่ขณะที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามาหา นายพิษณุ  ซึ่งนั่งอยู่ที่บันไดโรงครัว จากนั้นยกมือขึ้นตบหัวนายพิษณุหนึ่งที และใช้เท้าแตะเข้าที่ท้องอย่างแรงอีกครั้ง จากนั้นก็เดินกลับออกไป ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว

 

 จากการสอบถาม นางทองอาบ จันทร์เพ็ญ อายุ 72 ปี เจ้าของรถจักรยานที่ถูกขโมย ให้การว่า ตนมาทำกับข้าวให้ชาวบ้านและสามเณรที่มาอุปสมบทใหม่จำนวน 44 รูป ตั้งแต่เช้ากระทั่งเวลา 08.00 น. กลับออกมาจากห้องครัว พบว่ารถจักรยานของตนเองหายไป จึงไปบอกพระที่วัดและไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองลำปาง ซึ่งมีคนเห็นว่า นายพิษณุ เป็นผู้ขี่ออกไป จนกระทั่ง เวลาประมาณ 16.30 น.  นายพิษณุ  ได้กลับมาที่วัดอีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านจึงช่วยกันจับตัวเอาไว้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

 

 ด้านนายพิษณุ ให้การว่าตนเองมาช่วยขนเก้าอี้ที่วัด  และเนื่องจากรถจักรยานของตนหาย ตนจึงมาเอารถจักรยานที่จอดอยู่กลับบ้าน โดยได้เอารถจักรยานไปจอดฝากไว้ที่บ้านเพื่อน  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า  นายพิษณุ  น่าจะเอารถจักรยานไปขายแล้วและที่ย้อนกลับมาก็เพื่อหวังที่จะขโมยรถจักรยานอีกคัน เพราะภายในวัดดังกล่าวมีงานอุปสมบท สามเณรมีญาติโยมเข้ามาร่วมทำบุญจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายพิษณุ  ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 
 
 
 


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: สหายเล็กน้อย ที่ เมษายน 03, 2012, 02:41:46 PM
รอฟังอยู่ครับ ...  ::014::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 02:51:29 PM
คนไทยมีนิสัยที่น่ารักครับ(โดยส่วนใหญ่) คิดเล่นๆ
๑. ไม่ชอบพระรูปนี้ แต่เห็นพระรูปนี้เดินบิณฑบาตร ก็เข้าไปใส่บาตรเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา ไม่ได้หวังบำรุงพระรูปนี้
๒.เห็นเด็กขอทาน รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเด็กต่างด้าวมากับแก๊งค์ขอทาน แต่ก็ให้ทานแกเด็กขอทาน เพียงเพราะสงสาร
๓.ปล่อยนกปล่อยปลาปล่อยเต่า รู้ทั้งรู้ว่าปล่อยไปแล้ว ไอ้พวกพ่อค้าแม่ค้า มันก็หาคนไปจับมาอีก แต่ก็ปล่อย เพียงเพราะเพื่อสะเดาะเคราะห์
๔.เห็นไอ้คนนี้มาให้เงิน เพื่อแรกกับการได้รับการเลือกตั้ง รู้ทั้งรู้ว่ามันเข้าไปในสภาฯ.มันก็เข้าไปโกงแต่ยังเลือกมันเข้าไป
นี่แหละคนไทยผู้น่ารัก จึงทำให้เป็นจุดอ่อนของพวกนักแสวงหาผลประโยชน์และกำไล(แก้กฎหมายด้วย)จากความใจดีและโอบอ้อมอารีของพี่น้องชาวยไทย...เฮ๊อๆๆๆ


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ เมษายน 03, 2012, 02:55:51 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว

โชคดีที่วันแถวบ้านยังไม่ถึงขั้นนี้ครับ  แค่จ่ายเหมาค่าสถานที่แล้วขอเก็บค่าที่เอง  เงินบริจากในบาตร  ในตู้  ยังเป็นของวัด   ::014::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 03:08:56 PM
๔.เห็นไอ้คนนี้มาให้เงิน เพื่อแรกกับการได้รับการเลือกตั้ง รู้ทั้งรู้ว่ามันเข้าไปในสภาฯ.มันก็เข้าไปโกงแต่ยังเลือกมันเข้าไป

ข้อ 4 นี่มันยังไงๆ อยู่นะครับ ;D ;D ;D ไม่เห็นเกี่ยว 5555


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ เมษายน 03, 2012, 03:10:52 PM
หากินบนความศรัทธา


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 03:13:17 PM
๔.เห็นไอ้คนนี้มาให้เงิน เพื่อแรกกับการได้รับการเลือกตั้ง รู้ทั้งรู้ว่ามันเข้าไปในสภาฯ.มันก็เข้าไปโกงแต่ยังเลือกมันเข้าไป

ข้อ 4 นี่มันยังไงๆ อยู่นะครับ ;D ;D ;D ไม่เห็นเกี่ยว 5555

อารมย์มันพาไปครับ"ป๋าคาร์" เลยเตลิดไปเบียด พณฯ.ท่านนิดนึง


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: MR.BEEN รักในหลวง ที่ เมษายน 03, 2012, 03:19:22 PM

 งานประจำปี ตามวัดดังๆ ลอ๊คร้านค้า เอกชน(กรรมการวัด)ก็ประมูลไปจากวัด
 เสร็จเอาไปเปิดประมูลอีกต่อ ฟันกำไร  


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ เมษายน 03, 2012, 03:23:37 PM
ผมคิดได้ตั้งกะอายุยี่สิบแระว่า ทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัด... ;D
โยมมีเคราะห์ ต้องหยอดคลังหลวงพ่อเคราะห์ร้ายจะกลายเป็นดี นะโยม


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 03, 2012, 03:24:41 PM
ผมคิดได้ตั้งกะอายุยี่สิบแระว่า ทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัด... ;D

เว้นแต่เวลาตกปลา มองหาวัดก่อนเลย....


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ เมษายน 03, 2012, 03:55:07 PM
ผมคิดได้ตั้งกะอายุยี่สิบแระว่า ทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัด... ;D

เว้นแต่เวลาตกปลา มองหาวัดก่อนเลย....

โถก...


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ เมษายน 03, 2012, 04:27:58 PM
ผมคิดได้ตั้งกะอายุยี่สิบแระว่า ทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัด... ;D

เว้นแต่เวลาตกปลา มองหาวัดก่อนเลย....

โถก...
หิริโอตัปปะน่ะมีบ้างไหมนี่..?


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ เมษายน 03, 2012, 04:28:56 PM
(http://image.ohozaa.com/i/3df/CKC6y.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/mfWq)

... ทุกวันนี้ศาสนาก็เสื่อมลงทุกวันอยู่แล้ว เสื่อมเพราะคนในศาสนาเองก็ส่วนหนึ่ง เสื่อมเพราะคนไปหากินกับศาสนาด้วยก็อีกส่วนหนึ่ง เราคงไปต่อว่าใครต่อใครไม่ได้หรอก เราต้องโทษตัวคนเจ้าของศาสนาด้วยกันเองนั่นแหละที่เห็นแล้วก็ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ไข ไม่ชี้ชวนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ถูก ไม่ต้อง บางทีทรัพย์ก็บังตากรรมการ หรือคนที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน วัฒนธรรมจังหวัดต้องเข้าไปดูไปรับทราบปัญหาไม่ใช่พิมพ์ป้ายผ้า ไวนิล กินงบ รณรงค์ห้ามกินเหล้าในวัด ผิดกฏหมาย แล้วพระที่กินเหล้าในวัด ผิดกฏข้อใดไม่ทราบ ออกเป็นข่าวเป็นคราวทุกวี่วัน ...
ขอแย้งครับ ผมว่าศาสนามิได้เสื่อม......หากผู้นับถือศาสนา )ปฏิบัติตามหลักศาสนา...

ความเสื่อมมันอยู่ที่บุคคลครับ....แต่ก็คนนั่นแหละ ชอบพูดว่าศาสนาเสื่อม


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: prawin -รักในหลวง- ที่ เมษายน 03, 2012, 04:36:38 PM

คนไทยชอบแต่ทำบุญบริจาคทาน สร้างนู้นนี่นั่น ไม่ชอบวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิ  ไม่รู้ถึงแก่นแท้ของศาสนาจนมีคนเปรียบเปรยว่า  "คนไทยชอบเปลือก ฝรั่งชอบแก่น"

แก่นธรรม ๓ ประการนั้น  คือ
๑. การละความชั่ว 
๒. การทำความดี 
๓. การชำระใจให้บริสุทธิ์ 

งูๆ ปลาๆ ได้แค่นี้ครับ  ::014::




หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ เมษายน 03, 2012, 04:47:53 PM
เดี๋ยวนี้หากินกันแปลกๆ ::013::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 03, 2012, 05:40:44 PM
ผมเคยถามพวกกรรมการวัด วัดหนึ่ง ที่มากประสบการณ์ว่า.....
ที่มีการพิมพ์ซองผ้าป่าขนาดซองจดหมายขนาดเล็ก บางๆ มีใบฎีกาบางๆใบเดียว แล้วมาเที่ยวแจก แผ่ทานข้าวสารตามบ้าน น่ะของจริงหรือหลอก
ที่ถามเพราะ วัดแถวๆนี้มีชื่อด้วย แต่พวกที่ได้รับซองไปทำงานที่ภาคเหนือได้ซองที่แคมป์งาน
เลยโทรฯถามทางบ้าน ว่าวัดทางบ้านจะสร้างศาลาอีกเหรอ ทางบ้านบอกไม่มีนะ  เลยรู้ว่ามีการพิมพ์ซองหลอกๆหากิน
ท่านกรรมการวัดบอกว่า....มีคนมาขอพิมพ์จริง ออกไปเรี่ยไรจริง
เพราะทางวัดก็บอกว่าอยากมีเงินเข้าวัด  รูปแบบใหนก็แล้วแต่
เขาให้มา ปีละ  500-1000 ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ....เจ้าอาวาสก็ไม่ว่า กรรมการก็ไม่ว่า(ความคิดชาวบ้านนอก)

ดังนั้น พวกนี้ จะว่าจริง ...ก็จริง เพราะได้รับอนุญาตแล้ว   
จะว่าหลอก.....ก็หลอก เพราะไม่ได้เอาไปสร้างอะไรตามฎีกา และเพราะเอาเงินเข้าวัดตามใจฉัน  เฮ้อ....เอวัง


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 03, 2012, 08:27:48 PM
โฮ้  ขนาดนั้นเลยหรือครับ เพิ่งรู้นะครับ ธุรกิจมันแผ่เข้าไปในศาสนา ขนาดนั้นนะ 
อีกหน่อยคงมีคนจดลิขสิทธิ์บทสวดมนต์ ใครจะสวดต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์   หึย

ต้องได้รับรู้เรื่องจตุคามในยุครุ่งเรืองด้วย รับรอง เศร้ากว่านี้

เล่าเหอะ มีคนอยากฟังอยู่ท่านพี่...


รอฟังอยู่ครับ ...  ::014::

อุ๊ยตาย ลูกค้าเข้าร้าน....เชิญครับเชิญ

คือว่า อีการทำจตุคามนี่น่ะครับ ยุคแรก ๆ ยังไม่กระไรนัก ยังเป็นของกรรมการวัดและกลุ่มคนสนิทเจ้าอาวาส

พอช่วงปี ๕๑ กลาง ๆ ปี แทบทุกวัด แทบทุกสำนักสงฆ์ มีจตุคามเป็นของตัวเองวัดละรุ่นสองรุ่น

แต่ละรุ่น ไม่รู้กี่พิมพ์ แต่ละพิมพ์ ไม่รู้กี่องค์ ไม่เว้นแม้แต่หน่วยงานของรัฐ (ที่ผมทำงานนั่นแหละ กะเขาด้วยรุ่นนึง)

แล้วระหว่างที่ตระเวณรอคิวปลุกเสกจากอาจารย์โน่นนี่นั่น ก็จะเอาใบจองไปวางตามร้านค้าต่าง ๆ

คนรับจองก็จะได้ ร้อยละห้า ร้อยละสิบ แล้วแต่เส้นใหญ่เส้นเล็ก

ใบจอง รุ่นดัง ๆ ขายต่อได้อีกตะหาก จอง จ่ายเงินเต็มมาสักห้าพัน เผลอ ๆ ยังไม่ได้รับเหรียญ ขายต่อแล้วหมื่นห้า

ช่วงนั้น เป็นยุคพุทธพานิชย์เต็มรูปแบบ สปอร์ตวิทยุ คัตเอาท์ ออแกไนท์ต่าง ๆ จัดเต็ม.....



วัดข้างบ้าน วัดเล็ก ๆ ที่มีพระแค่รูปเดียว ยังทำกับเขาด้วย 

เปล่าหรอก พระรูปเดียว ตาหลวงทอด รักษาการเจ้าอาวาส  แกไม่ได้ทำ ไม่ได้จับกับเขาสักจึ๋ง

เขาแค่มาขอชื่อวัดไปใช้ในรุ่นดังรุ่นหนึ่ง ......ในคัตเอาท์ใหญ่ ๆ จะมีชื่อวัดอยู่ตัวเท่าจิ้งจก ตรงมุมล่างขวา  ใบปลิวเล็ก ๆ ไม่มีชื่อวัด

ไปมีชื่อวัดอีกที ตรงหัวใบจอง อักษรเท่ากับชื่อโรงพิมพ์ที่พิมพ์ใบจอง....

สรุปรายได้ รุ่นนั้น ฟันไปแปดล้าน (เท่าที่รู้ ) ถึงวัดสองแสน  ได้ติดกระเบื้องพื้นโรงธรรมเสียที

อ้าว แล้วเจ็ดล้านแปดโน่นไปไหน .........

 เป็นของเถ้าแก่ร้านรับชื้อยางเจ้าหนึ่งใน อ.ท่าศาลา แกเป็นนายทุนทั้งหมด....

รุ่นนั้นเลยเป็นรุ่นที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะทำให้คนรวยคนหนึ่ง รวยยิ่งขึ้นไปอีก



หลังจากนั้นอีกปี ใครอยากรวย ก็หาวัดสักวัด หาทีมงาน หามวลสาร หาทีมออแกไนท์ ตั้งชื่อรุ่น หาปาติหาริย์ขณะปลุกเสก

อะไรนิดอะไรหน่อย ก็ให้มองเป็นเรื่องแปลก พระอาทิตย์ทรงกลด กล้องดิจิตอลถ่ายติดจตุคามเต็มจอเป็นร้อยเหรียญ

แล้วเช่าพื้นที่หนังสือพิมพ์ เช่าเวลาสถานี ประโคมให้หนัก ๆ เข้าไว้

บุญบารมีของศาสนา ยังมีอยู่มาก จตุคามเสื่อมความนิยมไปในวาระถัดมา  มีคนรวยสะดือปลิ้นไปหลายคน

แต่คนที่เจ็บตัวเพราะจตุคาม เขาไม่แสดงตัว....เท่าที่ผมรู้จัก ก็หลักร้อยคนล่ะ

คนละเท่าไหร่ เบาะ ๆ ก็ ห้าหกพัน ได้ขนมโอริโอลาย ๆ ที่กินไม่ได้มาหกเจ็ดอัน

หนัก ๆ ก็หลักแสน หรือหลายแสน  เต็มตู้ไปหมด  ผมได้ตู้จตุคามมาใช้ในร้านตู้นึง ในราคาหลักร้อย (ตอนนั้น เขาื้เบิกมาห้าพัน)



หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ เมษายน 03, 2012, 08:36:46 PM
เล่าให้ฟัง ถ้าเผื่อใครจะยังไม่รู้

งานวัด...เกือบทุกวัด จะถูกเหมาโดยผู้รับเหมาเจ้าใหญ่ ๆ ของพื้นที่ แต่ละจังหวัดมีไม่กี่เจ้า

อย่างสมมุติ วัด ก. จะฝังลูกนิมิต ผู้รับเหมาจะเข้าไปคุยกับหัววัดกรรมการวัดเลย งานนี้ สี่แสน พอมั๊ย

เจรจาต่อรอง สมมุติจบที่สี่แสนห้า.... ผู้รับเหมาก็เริ่มเลย  ติดต่อมหรสพ ติดต่อร้านค้า ขออนุญาตโน่นนี่นั่น  ติดประกาศ คัตเอาท์

ใบปลิว สปอร์ตวิทยุ รถแห่  จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเวที เดินสายไฟ....

ทุกบาททุกสตางค์ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาบริจาค  จะเข้ากระเป๋าของผู้รับเหมาหมด ไม่ว่าจะบริจาคในตู้ หรือบาตรใบใดของวัด

สมมุติงานนั้น ได้แปดแสน วัดก็ได้ไป สี่แสนห้า สามแสนห้าเข้ากระเป๋าผู้รับเหมา  ถึงจะได้สักได้ล้านห้า วัดก็ได้สี่แสนห้า

แต่สมมุติ พลาดท่าพลาดทาง ฝนตกหนักพอดี คนไม่ค่อยมา ได้เงินแค่สามแสน  ....  วัดจะได้ไปแค่แสนห้า อีกแสนห้า ผู้รับเหมาเอาไป....

เรื่องนี้ ผมได้ยินครั้งแรก ตกใจมาก สิ้นศรัทธากับการบริจาคลงกล่องในงานวัดเลย

พักหลัง ๆ เริ่มปลง เห็นว่า การทำบุญใส่บาตรตอนเช้า ๆ อนุเคราะห์ชีวิตสัตว์โลกตามสมควร ก็เพียงพอแล้ว


Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

http://www.youtube.com/watch?v=nr_-UOXneeo&feature=related


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ เมษายน 03, 2012, 08:40:15 PM
อะไรนิดอะไรหน่อย ก็ให้มองเป็นเรื่องแปลก พระอาทิตย์ทรงกลด กล้องดิจิตอลถ่ายติดจตุคามเต็มจอเป็นร้อยเหรียญ

แล้วเช่าพื้นที่หนังสือพิมพ์ เช่าเวลาสถานี ประโคมให้หนัก ๆ เข้าไว้

ดีครับ ;D ;D ;D ปั่นกันน่าดู


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ เมษายน 03, 2012, 08:51:35 PM
Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

http://www.youtube.com/watch?v=EOmXpIShUYg&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=BGZn7KWY8V4&feature=related


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: ARTANY ที่ เมษายน 04, 2012, 12:42:59 AM
บุญกิริยาวัตถุ 3
 1.ทาน
 2.ศีล
 3.ภาวนา
ภาวนา>ศีล>ทาน


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ เมษายน 04, 2012, 08:24:51 AM
เมื่อสองปีที่แล้ว มีการเททองหล่อพระ ....... ดังในพิจิตร  จะต้องมีการเซ็นอนุมัติจากพระใหญ่สุดในจังหวัด

ค่าเซ็นให้สร้าง xx,xxx,xxx จึงจะสร้างได้ นี่แค่ลายเซ็นนะครับ แล้วรู้สึกจะจ่ายกันไม่ครบ ขัดๆ กันไป


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ เมษายน 04, 2012, 09:26:37 AM
...........................

คนไทยชอบแต่ทำบุญบริจาคทาน สร้างนู้นนี่นั่น ไม่ชอบวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิ  ไม่รู้ถึงแก่นแท้ของศาสนาจนมีคนเปรียบเปรยว่า  "คนไทยชอบเปลือก ฝรั่งชอบแก่น"

แก่นธรรม ๓ ประการนั้น  คือ
๑. การละความชั่ว 
๒. การทำความดี 
๓. การชำระใจให้บริสุทธิ์



.....................นี่แหละครับตัวที่จะทำให้เกิดบุญกุศล............................................... ::014::


หัวข้อ: Re: อาศัยศรัทธา มารศาสนา เลยรวยเละ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ เมษายน 04, 2012, 04:03:15 PM
ตอนที่พ่อผมกับกรรมการวัดบ้านไร่(วัดราษฎร์บูรณะ) หมู่ที่ 5 ตำบลปะโค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย จะเบิกเนตรพระประธาน
คือซื้อมาเลย ไม่หล่อเอง แล้วมาทำพิธีเบิกเนตร  พ่อไปนิมนต์พระผู้ใหญ่ในจังหวัดมาเป็นประธานพิธีเบิกเนตร  พ่อกลับมาบ่นให้ฟัง..ว่า
ระดับเจ้าคณะอำเภอ ต้องจ่ายเท่านั้น  ระดับเจ้าคณะจังหวัด ต้องจ่ายเท่านี้.... แกบ่นว่าแพงมาก
ผมเอง งงๆ อะไรกันนักกันหนา ......บ้านไม่ได้เช่า ข้าวก็ไม่ได้ซื้อ..ทำไมค่าตัวนี่ต้องจ่ายแพงจัง......... ฮึ :OO
หรือว่า กว่าจะได้เป็น ต้องลงทุนหนัก ถึงกลับมาถอนทุน แบบ ส.ส.???