เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

>>ประเทศไทยมีพุทธศาสนิกชนประมาณ 47 ล้านคน ผลวิจัยพบว่า

-  25.19 % ไม่เคยทำบุญตักบาตร

- ศีลข้อที่รักษายากที่สุดคือข้อที่ 1 (31.19 %)


>>คนไทยทำบุญเฉลี่ยคนละ 804 บาทต่อปี

>>คนไทยใจบุญเป็นอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในแง่ของการบริจาคเงินเพื่อการกุศล

 

3.   >> เดือนมกราคม 2555 เดือนเดียว มีรถยนต์ใหม่ป้ายแดงประเภทไม่เกิน 7 ที่นั่ง จดทะเบียนทั้งสิ้น 47,527 คัน เฉลี่ยวันละ 1,533 คัน

ขณะที่ทั้งปี 2554 มีรถจดทะเบียน 525,971 คัน

 

4. >>ในทุก ๆ นาที จะมีคนไทยใช้มือถือ พูดคุยกัน 350,000 สาย

 

5. >>ฉพาะกรุงเทพฯ มีจักรยานยนต์รับจ้างทั้งสิ้น 5,598 วิน 103,799 คัน เท่ากับมีคนกรุงเทพ 1.8 % ประกอบอาชีพนี้

 

6.    >>ในทุก ๆ 3 คู่แต่งงาน จะมี 1 คู่หย่าร้างกัน

 

7.  >>  ในปี 2554 คนไทยมีหนี้สินเฉลี่ย 136,562 บาท คิดเป็น 6 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

 

8.   >> คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 200 แก้วต่อปี (ญี่ปุ่น 500 แก้วต่อปี)


9.   เด็กไทยซื้อขนมกินเฉลี่ย 9,800 บาทต่อปี

 

10.>> คนไทยวัย 40 – 59 ปี เป็นกลุ่มคนที่มีความสุขเป็นอันดับ 1

 

11. >>คนไทยจ่ายเงินซื้อหนังสือต่อปี 260 บาท



คนไทยใช้เวลาอ่านหนังสือปีละ 2 เล่ม (สิงคโปร์ 40-50 เล่ม เวียดนาม 60 เล่ม

สาเหตุที่คนไทยไม่อ่านหนังสือ เพราะชอบดูทีวีมากกว่า

 

ทุกท่านอ่านแล้วได้แง่คิดอะไรบ้างครับ แลกเปลี่ยนกันได้ครับ

ปล. ขอบคุณ a day ฉบับที่ 139 ที่ได้รวบรวมสถิติดี ๆ มาเราได้เรียนรู้กันครับ

http://www.oknation.net/blog/hrdeverywhere/2012/03/30/entry-2

ในฐานะคนรักหนังสือ...  ผมอ่านข้อสุดท้ายแล้วเศร้ายังไงก็ไม่รู้ครับ...

                     อย่าไปเชื่อสิครับน้า  ......  พวกนั่งเทียนเขียนเอามัน หรือแค่ถามคนไม่กี่สิบคนแล้วเอาไปใช้กับคนทั้งประเทศ

ข้อ 11 ไม่ใช่คนในสมาชิกเวปนี้ครับ

ข้อ ๑๑. ผมขอแย้งครับ เมื่อวันก่อนหมดไปพันกว่าบาท(หนังสือเสริมทักษะการเรียนรู้ของลูก) ส่วนผมอ่านจากคอมฯ.(ตาจะพังแล้ว)

ข้อ ๑๑ เป็นค่าเฉลี่ยของคนทั้งประเทศครับ  ผมว่าต้องยอมรับความจริงนะ  ดูจากการเลือกตั้งก็ได้ประเทศนี้ยังมีคนโง่อยู่มากจริง ๆ   ::006::

- ศีลข้อที่รักษายากที่สุดคือข้อที่ 1 (31.19 %)


 แหม่งๆ นะผมว่าไม่น่าใช่ ผมว่าน่าจะรักษายากที่สุดตามลำดับดังนี้

ยากที่สุด
ข้อ๕. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ


รองลงมา
ข้อ๓. กาเมสุมิจฺฉานารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ


ปล.อันดับรองนี่ผมว่าไม่ข้อ๓ ก็ ข้อ ๔. นะ มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ::005::

ไม่จริงฮ๊ะ....

ผมว่าข้อ1นำหน้าน๊ะถูกแล้ว เพราะใช้บ่อยเสมอ(ท่านดุลย์แหละ) หึๆๆ

รับศีลจากพระแล้วก็โกหกแล้ว เพราะยังไป สุราเมฯอยู่.....

ส่วนกาเมก็ไม่เคยรับว่าจริง หึๆๆ

ตกลงไปจมอยู่กับ มุสาวาทาฯทั้งหมด ชิมิ๊

 เสียหายๆ ครับท่านประธานฟอร์ด ได้โปรดถอนเถอะครับ ::005:: :D

นายสมชายยังยืนยันเหมือนเดิมครับ ว่าคนไทยเจ้าอารมณ์ มักง่ายเข้าว่า... ลองอ่านแล้วนึกดูตามกระทู้ จะเห้นว่าสอดคล้องทุกเรื่อง แม้แต่คนอายุ 40 - 59 มีความสุขที่สุดก็เพราะรู้จักโลกรู้จักชีวิตแล้วไงครับ(ลดความเจ้าอารมณ์ - รู้ตื่น รู้จักตัวเอง) เมื่ออายุหลังจากนั้นก็มีทุกข์จากสังขารมนุษย์เริ่มเสื่อมตามวัย...

เรื่องคนไทยไม่ค่อยได้อ่านหนังสือที่เห็นด้วยอย่างมากครับ... ลองสังเกตุดูในเว็บบอร์ดนี่แหละ คนที่สะกดตัวอักษรผิดบ่อยๆ(อ้างว่าภาษาเฟสบุค ภาษาแช็ต ภาษาวัยรุ่น ฯลฯ) มักมีปัญหาเรื่องไม่สามารถสื่อสารสิ่งที่ตัวเองอยากพูด/อยากบอก/อยากถาม, นั่นเป็นเพราะอ่านน้อย ไม่ได้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทยครับ...

 ;D  ข้าฯ คือคนไทย

เมื่อก่อนผมจะคิดว่ามีอยู่ 4 สิ่งที่จะทำให้เรามีความสุข...

1. มีร่างกายที่แข็งแรง
2. มีความคิดที่เป็นไปในด้านดี
3. มีความรักที่ดี
4. มีอาชีพที่สุจริต

แต่พออยู่ไปอยู่มาก็เริ่มเห็นขอบเขตของการที่เราจะพอพลิกแพลงขยับได้บ้างคือ

1. จุดต่ำสุดของคนดี ก็ยังไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
2. จุดสูงสุดของคนเลว ก็ยังคงทำให้ใครเดือดร้อน...

ดังนั้นแค่เราอยู่ในกรอบที่ไม่ทำให้สังคมและครอบครัวเดือดร้อน ก็พอแล้วที่จะมีที่ยืนอยู่...

ส่วนเรื่องผิดๆก็มีบ้างเป็นองค์ประกอบย่อย บางทีก็มุสาบ้างเพื่อให้รอดหรือแสวงหาโอกาส... สุราบ้างเพื่อหย่อนอารมณ์... การพนันกับลักขโมยไม่ควรเด็ดขาด... กาเมบ้างตามโอกาสอำนวยแต่ต้องมุสาให้ดีเพราะจะทำให้เดือดร้อน...

อย่างไรก็แล้วแต่ อย่าให้ใครเดือดร้อนเป็นพอ...

เข่ายังไม่หายเจ็บ เลยดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น เดี๋ยวพอหายค่อยกลับไปทำลายร่างกายใหม่... ;D

ไม่รู้จะเข้ากับหัวข้อกระทู้หรือเปล่า แต่วันนี้ว่างๆเลยอยากพิมพ์ครับ... ;D ::014::

อยากบอกว่า ผมเคยเห็นคนยืมหนังสือผมไปอ่าน เพื่อเวลาผมไปบ้านเขาจะพบว่า
หนังสือวางไว้บนม้านั่งแบบไม่เอาใจใส่ แถมมีรอยฉีก  คนยืมบอกว่า
"เด็กมันยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง"
เหมือนกับบอกเราว่าอย่าไปว่าลูกเขานะ ลูกยังเล็ก...รู้สึกผิดเลยนะเนี่ย ว่าจะต่อว่า
คนยืมซะหน่อย เอาลูกมาบังหน้าซะงั้น หลังจากนั้นไม่ให้ยืมอีกเลย


อีกเรื่อง ซื้อหนังสือใหม่ๆมาวางจะอ่าน(ไม่ใช่ที่บ้าน) พอดีมีคนเรียก เราก็วางที่เดิม
เห็นนั่งกันเยอะแยะ ก็ฝากหนังสือไว้ เดี๋ยวมาเอา
กลับมาอีกที หนังสือมีรอยปากกาขีดเขียน วาดหนวดเติมบ้าง วาดแว่นตาบ้าง
ผมเดินกลับมาเห็นร้อง"เฮ้ย.." เงียบทั้งวง และคงชักสีัหน้ามากไป เห็นหน้าเสียหมดเลย
ผมเลยขอหนังสือคืน ไม่มีใครกล้าว่าอะไร...(ลองว่าสิ)

คนเล่นวาดโน่นวาดนี่น่ะ จบ ป.ตรีันะครับ ไม่ใช่เด็ก กศน.  ::012:: ::012:: ::012::

ผมรู้แต่ว่า...

ผมเสียค่าหนังสืออวป.ปีละ 960 บาทมาหลายปีแล้วครับ...

เกินมีนแน่นอน...ฮา... ::005::

สถิติพวกนี้ บางทีมันก็สะท้อนหรือชี้ถึงแนวโน้มอะไรหลายอย่าง

อย่างเรื่องตักบาตรนี่ ช่วงเวลาที่พระท่านออกบิณฑบาต คนกรุงเทพก็อยู่บนถนนแล้ว  และวันหยุดก็นอนตื่นสาย  ชดเชยที่ติดลบมาจากวันทำงาน  พอพ่อแม่ไม่ทำลูกหลานก็เลยเฉยๆ แล้วทำบุญวิธีอื่นแทน

เรื่องหนังสือ ผมเดาว่าคงเอายอดขายทั้งประเทศมาหารจำนวนประชากร  ก็พอกล้อมแกล้มไปได้  ที่เป็นอย่างนี้ผมเห็นคนรอบตัวที่น่าจะเป็นโหลดให้เหลือปีละ ๒ เล่ม ก็คิดว่า  ปัญหามันมาจากเศรฐกิจล้วนๆ เพราะแต่ละเดือนก็ติดลบพอกหางหมูอยู่แล้ว  ถ้าจะมาจ่ายเรื่องไกลตัวแบบนี้ก็ไม่ไหว ดูละครทีวีแล้วไปเม้าท์กับเพื่อนพรุ่งนี้สนุกและประหยัดกว่ากันแยอะ  แต่ถ้าเราลองเอาหนังสือไปวางไว้ที่โต๊ะกลาง  ร้อยทั้งร้อยที่มานั่ง ต้องหยิบเปิดอ่านทั้งนั้น อ่านแล้วมาโม้ให้เจ้าของฟังอีก สงสัยผีครูเข้าสิง  ::005::

น้าซับเจอมาคล้ายๆ ผมเลยครับ... ผมไปได้หนังสือประวัติศาสตร์เล่มใหญ่มา... ซื้อเมื่อสิบปีที่แล้วมันก็เกือบพันบาท... อ่านมาหลายปี... ไม่มีร่องรอยการใช้เท่าไหร่... ทีนี้มีคนมาเจอที่บ้าน... เลยยืมไป... บอกว่าจะเอาไปให้สามีอ่าน... กลับมาหนังสือมีรอยขาดไปหน้านึง... พร้อมรอยขีดข่วนตามหน้าปก(หนังสือพิมพ์ปกด้าน... แล้วเคลือบพลาสติกบางๆ ไว้ครับ...) ผมถามว่า... ทำไมถึงขาด... แกบอกมาเต็มปากเต็มคำว่า... "มันขาดอยู่แล้ว" ฮ่วย... เวรเลย... แถมจะมายืมอีก... ผมเลยบอกว่ามีคนยืมไปแล้ว... ยังไม่คืน... ::013:: 

ผมโดนสอนให้รักหนังสือตั้งแต่เด็กครับ  เวลาเปิดก็เปิดเบา ๆ ที่มุมขวาบน 

หนังสือผมส่วนใหญ่จะอยู่สภาพดีเหมือนไม่ค่อยเปิดอ่าน    ;D

260.-/ปี น้อยกว่า1เดือนของผมในแบบปกติอีก

นอกเรื่องนิดนึง.....หลายเดือนก่อนผมซื้อหนังสือ อวป. (หนังสือใหม่) แล้วก็ถือเข้าห้องน้ำ วางไว้มุมอ่างล้างหน้า ระหว่างที่ผมกำลังล้างหน้า ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาปัสสาวะ พอเสร็จกิจมันหันมาหยิบหนังสือผมใส่เป้มันเฉยเลย ดีผมเหลือบมาเห็นเลยบอกว่า "เฮ้ย หนังสือผม" มันก็เลยวางที่เดิม และเดินไปโดยไม่ขอโทษด้วย.....สำหรับกระทู้นี้ ทุกวันนี้ผมห่วงเด็กๆที่เล่นเกมส์ในร้านเน็ตมากเลยครับ

เรื่องทำบุญตักบาตรนี่ ส่วนใหญ่วันพระมีแต่คนสูงอายุเข้าวัดกันซะเป็นส่วนใหญ่   คนหนุ่มคนสาวไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่