เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

บ่อดินขนาด 1 ไร่ ตั้งใจจะใส่ปลาให้ยุ่บเหมือนสระในเขาดินวนาหรือท่าน้ำหน้าวัด ผมเลยปล่อยปลาลงมั่วไปหมดเลย ปลาหมอ,ดุกอุย,ปลาไหล,ปลานิล,ปลาฉลาด,ปลาสวาย,ปลาตะเพียน,กระดี่  แต่ดันใส่ปลาช่อนและปลาบู่ลงไปด้วยอย่างละตัว (ปลาช่อนจมโคลนอยู่ในบ่อที่เขาวิดจนน้ำแห้ง ส่วนปลาบู่มีคนเอามาขายตัวละ 400.-บาท โตเท่าน่องแต่ยาวคืบเดียว)..เลยกังวลว่า 2 ตัวนี้จะกินลูกปลาซะหมด ปล่อยแล้วหายจ้อยเลย แต่ล่าสุดเห็นปลาสวาย 2 ตัว โตเท่าข้อมือโผล่ขึ้นมากินอาหารเม็ดสำหรับปลาดุก ขอเชิญท่านที่เลี้ยงปลาบ่อดินเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันครับ    

สองตัวนั่นไม่น่าห่วงหรอกครับพี่ ห่วงฝูงปลาฉลาดดีกว่า ไอ่นี่มันนักล่าขาโหดครับ รับรองว่าลูกปลาตะเพียนพี่เหลือไม่ถึงครึ่งแน่นอน แนะนำให้ซื้อกุ้งฝอยเป็นๆมาปล่อยด้วยครับ  

ปล.อิอิ เลี้ยงขาย กิน หรือดูเล่นครับพี่  ;D

ควรปล่อยปลาประเภทปลากินพืชลงก่อน แล้วหลังจากนั้นสัก สองสามเดือนค่อยปล่อยปลาประเภทปลาล่าเหยื่อขนาดเล็กกว่าตามลงไปครับ

-โห..ตายแล้ว..ปลาสลาดคนขายปลานิลเขาแถมให้มาฟรี ๆ ราว 10 ตัว เขาบอกเหมือนกันว่ามันกินลูกปลา ผมก็ไม่นึกว่ามันจะร้ายกาจเห็นชอบอยู่หน้าดิน บ่อไม่มีลูกกุ้งเลยครับเพราะขุดใหม่ แต่อีก 1 เดือนปลานิลก็จะวางไข่แล้ว(คนขายบอก-ตอนเขาจับใส่ถุงบางตัวไข่ทะเล็ดออกมา)
-เลี้ยงไว้ดูเล่นครับ รักเหมือนลูก ชอบให้ยุ่บ ๆ แบบปลาที่เขาดินหรือหน้าวัด  ยอมซื้อปลาตลาดมากินครับ  

อยากให้ปลูกบัวครับ งั้นอ่ะ จะทำให้น้ำใส  ;D

ได้ยินไม๊ตากวาง เค้ารักของเค้าเหมือนลูก ::005::

อย่าชวนผมไปเที่ยวบ้านเชียว หุหุหุ

นั่นนะซีครับ..มั่วซะแล้วซีผม..คืออยากให้เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่พอวิดบ่อทีไรได้ปลามากมายเป็นหาบ ๆ(หาบด้วยไม้คาน/สาแหรกครับ เช่นขนกลับบ้านแล้ว 2 เที่ยวก็เรียก 2 หาบ) ตอนนู้นปลาเยอะมากจริง ๆ มีทุกพันธุ์ปลา มันมากับน้ำท่วมตอนเดือน 12 น้ำท่วมทุ่งอยู่จนสิ้นเดือน 3 พอเดือน 4 น้ำงวดเขาก็วิดจับหมดทั้งบ่อ      

ถ้าจะเลี้ยงไว้ดูเล่น

เลี้ยงปลาแรดดีกว่าครับ

                ขอติดรถไปด้วยคนนะครับพี่กวาง  ::008::

                 ::014::

โอ๊ย พรานปลาคนเดียวอย่างตากวางนี่ก็น่ากลัวกว่าปลาสลาดทั้งบ่อแล้ว...สูญพันธ์เกลี้ยงทั้งบ่อแน่ๆ

       ขนาดปลาวัดที่มีคนคุ้มครองแน่ๆยังโดนมาซะแล้ว  ::002::

 

บัวหลวงหรือบัวสายดีครับ (บ่อลึก 3 ม.ขุดเอาดินขึ้นมาถมที่) ตอนนี้ริมบ่อมีผักบุ้งทอดยอดไปทางกลางบ่อควรเก็บไว้หรือเอาออกดี ?  

ใส่แล้วครับ 50 ตัว ตัวละ 6.-บาท  ตัวโตเท่าเหรียญ 10 บาทเอง..ไม่รู้จะเหลือกี่ตัว..คนขายบอกว่ามันจะวางไข่เมื่ออายุได้ 3 ปี ใส่พร้อมตะเพียนขาว 200.-ตัว ตัวละ 1.50 บาท ตัวขนาดนิ้วก้อย ผมว่าปลาแรดมันแสนรู้ เห็นว่ายน้ำตามคนขออาหารกิน   

จิ๊บๆครับ แค่ปลาช่อน กับ ปลาบู่
บ่อผมลงไปประมาณ สามพันตัวผสมกันมั่ว
เพื่อนน้องดันเอา ชะโดมาปล่อย 10 ตัว
ตอนช๊อตเอาขึ้นได้เหลือแค่ 5 ตัว ตัวยาวเท่า
ลำตัวผู้ชายทุกตัว ลูกปลาก็หมดไปพอสมควร
แต่ก็ยังพอมีอยู่เยอะ กะว่าจะไปหามาลงเพิ่มอีก
ท่านซื้อพันธ์ที่ไหน ผมซื้อที่ราชบุรี ตัวละ 40-60 สต.
แล้วแต่ขนาดและชนิดของปลา

สัตว์เลี้ยงรักเหมือนลูก แต่มีปูปลาทะเลเยอะแยะครับเพราะอยู่ใกล้ทะเล  

เนื้อปลาผมไม่ชอบครับผมเคยก้างติดคอตอนเด็กๆ...เลยแหยงก้างมันครับ...แต่ถ้าชวนผมไปกินปลา...ระวังพุงมันนะครับ(โดยเฉพาะพุงปล่าช่อน)...ผมชอบกิน...อิอิอิ...

-ผมซื้อลูกปลาที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรี ฯ ครับ ลูกปลาตะเพียนนี่เขาซื้อมาจากฟาร์มกรุงเทพอีกที ที่เขาฟักได้เองมีลูกปลานิล ลูกปลาดุก
-ปลาชะโด รักยังไงก็ไม่กล้าลงครับ กลัวมันกินเกลี้ยงบ่อ

อ้าว บ้านอยู่แถวดอนตรอ สระไคร หรือเปล่าครับ

-อยู่หัวไทรครับ แต่ลูกปลาซื้อจากบ่อล้อ อ.เฉลิมพระเกียรติ
-เคยซื้อลูกปลานิลทำหมัน 2,000 ตัวขนาดใบมะขามราคาตัวละ 0.30 บาท จากศูนย์ ฯ ใต้สะพานปากพนังมาปล่อยในนากุ้งร้าง ในบ่อมีปลาช่อนอยู่ก่อนแล้ว..ผล เมื่อวิดบ่อ ไม่มีปลานิลสักตัวเดียว เสียค่าโง่ไป 600.-(โฮ)   

อ้าว คนหัวไทรนี่เอง รู้จักโจ้ หรือ นายวิลสันหัวไทรไม๊

ระวังครับ.... ติดกล้องวงจรปิดได้เลย
อาจมีคันเบ็ดไม่ทราบสัญชาติโผล่เข้าไปในบริเวณบ่อของท่าน

ถ้าเป็นผมจะปล่อยแต่ปลากินพืชทั้งหมดครับ  แต่ไม่ปล่อยปลาตะเพียนเพราะก้างมันเยอะ   ;D

ขอเล่าจากประสบการณ์ของบ่อเลี้ยงธรรมชาติที่บ้านน่ะครับเนื้อที่ประมาณหนึ่งไร่กว่าๆ

ปลานรกที่ไม่ควรนำไปปล่อยเลี้ยงร่วมกับชนิดอื่น คือ จาระเม็ด กับสวาย

มันแดรกเรียบ นิสัยก้าวร้าว ลูกปลาชนิดอื่นมันไล่แดรกเกลี้ยงบ่อรวมทั้งปูและหอย

ขนาดไอ้ช่อนยังกลัวมัน ไอ้ช่อนตัวโตๆ รู่นพ่อแม่ เหลือแต่หัว ผอมยังกะเปรต

ปีที่แล้วเลยตัดสินใจวิดบ่อ ลงแขกจับ กะล้างบ้างมันให้หมด ได้จาระเม็ด

ตัวใหญ่สุดแปดโล ปลาสวายสิบโลอัฟ ส่วนปลาอื่นๆ เหลือแต่รุ่นใหญ่ แต่หัวโตก้นลีบ

มีปลา จาระเม็ด น้ำจืดด้วยหรือครับตัวมันเป็นยังไง

มีสิครับ....เป็นญาติกับปลาเปคูและปิรันย่า โตเร็ว เพราะแดรกยังกะปล้น

แต่รสชาติ ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ผิดหวังมาก กับไอ้ตัวนี้ ทำปลาส้มน่าจะเหมาะที่สุด

ปาคู จาระเม็ดน้ำจืด  ;D ;D ;D เหมือน ปิรันย่าแต่ตัวใหญ่กว่า กินพืชอย่างเดียว

เอ้าโพสช้ากว่า  ;D ;D ;D

+ขอบคุณทุกท่านครับสำหรับคำตอบและภาพของปลาจาระเม็ดน้ำจืด เพิ่งเคยเห็นครับตัวโตมากจริง

          
             ถ้าไว้ดูเล่นก็น่าจะมีจำพวก ปลาไน ปลาจีน ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ตระกูลปลากินพืชครับ ไม่เป็นอันตราย

             แต่ถึงมีปลาช่อนก็ไม่น่ากลัวครับ ถ้าเจอเหี้ยเข้าไปหล่ะก็บรรลัยทุกบ่อ ผมกล้ารับประกัน    :~)

            

 

ผมเคยกินนะ  รสชาติพอใช้ได้ครับ  เนื้อมันดีครับ  (อาจจะเป็นเพราะผมปากจระเข้ก็ได้)   ;D

ทอดราดพริดสุดยอด :D~

เขาบอกว่าไม่อร่อยยังจะกินอีก ::005:: :D

หว่านอาหาร  รอให้มันลอยหัวมากิน   แล้วเอาลูกซองใส่ลูกเบอร์ ๑ เล็งยิงที่หัวครับ   :D~

      ถ้าตัวประมาณ 7-8 ขีด ผมเอามานึ่งครับ อร่อยดีเหมือนกัน  ::002::

  แต่ถ้าตัวระดับ 2 กิโลกรัมขึ้นไป เลิกคุยครับรสชาติไม่ได้เรื่องเลยครับ ยิ่งใหญ่ยิ่งแย่พอๆกับปลาแรดครับ  ::014::

ผมชอบกินปลาเนื้อแข็งๆพอทอดกรอบมันอร่อยนะน้าดุลย์ :D~ :D~ :D~

ใช่ครับ....สำหรับคนชอบเนื้อมัน ถ้าเอามาต้ม นึ่ง ย่าง น้ำกับน้ำมันออกมาอย่างละครึ่งๆ ครับ

คนอีสานบ้านผมเลยได้ข้อสรุปว่า "ให้ซอยเป็นต่อนๆ เป็นเส้นยาวๆ หมักตามสูตร" ได้เป็นปลาส้ม

เวลาจะกิน ก็เอาออกมาห่อใบตองปิ้งไฟถ่านอ่อนครับ...ทั้งหอม..ทั้งๆๆๆๆ ฯลฯ...หิววววววววววว..

ลงทุนมากเลย ::005::

ปลาจาระเม็ดตัวประมาณ ๘ ขีด - ๑ กก.  เอามาแกงส้มครับ  อร่อย   :D~

เมื่อก่อนอยู่บ้านเมีย  น้าเมียทำแบบนี้ประจำครับ  ทั้งปลาเม่น  ปลาจาระเม็ด  เอามาเผาเกลือ/แกงส้ม  แกล้มเหล้า   ;D

บ่อที่บ้านเลี้ยงไว้สามปี แบบธรรมชาติให้อาหารบ้าง ฝากเทวดาเลี้ยงบ้าง

ตอนมันตัวซักโลสองโล ใช้เบ็ดตก โยนอะไรลงไปมันงับหมด แต่ถ้ามันโตเกินนี้

สมองมันใหญ่ขึ้น โยนอาหารลงไปกิน แต่ถ้าโยนเบ็ดลงไป หายเงียบไปทั้งบ่อ

ทั้งไอ้จาระเม็ดและสวาย ทำทุกวิธีก็ยังแห้ว...ยังไม่เคยลองแต่ อ๊อดๆ กับระเบิด

จนวิดบ่อเหลือน้ำประมาณหัวเข่า เอาอวนลาก แหก็ยังพอทัน ส่วนข่ายไม่ต้องพูดถึง...

ไม่ได้ผลครับ เพราะไม่เห็นหัวมัน มันขึ้นเร็ว กินเร็ว หนีเร็ว เหมือนปิรันย่าครับ...

ปลาเขื่อน ;D ;D ;D เห็นด้วยครับ ราดพริกซะ

เคยได้ปลาบู่ใหญ่ล้นจานเปล ;D ;D ;D นึ่งซีอิ๊วสุดยอด

เอ๊ะเขารักเหมือนลูกลืมไป พากินเสียหมด

ขอเล่าประสบการณ์ของคนไม่รู้จริงเรื่องเลี้ยงปลานะครับ

ผมจัดบ่อราวสองไร่ น้ำลึก 3-4 เมตรไว้เป็นอภัยทานปล่อยปลาสารพัดลงไป ตั้งใจปล่อยปลากินพืช มีเผลอปล่อยพวกกินสารพัดเช่นจระเม็ดน้ำจืดเปคู กับปลาดุกลงไปบ้าง
ผสมกับปล่อยคาร์พที่ดูไม่ค่อยสวยเป็นส่วนเกินที่เคยเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ก็คัดออกไปปล่อย พวกเลี้ยงบ่อปูน ประคบประหงมตายเรียบ พวกบ่อดินรอดไม่ต้องดูแล

ขนาดบ่อผมราวสองไร่ ตอนนี้บ่อสมดุลพอสมควร เวลาให้อาหารมีปลาคาร์พราวสามสิบ กับเปคูบิ๊กๆอีก 7 แล้วก็ตะเพียนฝูงใหญ่
ส่วนปลาอื่นๆที่ปล่อยไป อาจยังอยู่แต่ไม่โชว์ตัว ปลาดุกคงแถกหาน้ำใหม่ไปแล้ว
เจ้าเปคูตอนแรกว่าจะหาวิธีจับตัวไปปล่อยที่อื่น แต่เห็นประโยชน์ที่เขากินไม่เลือก ดอกไม้ใบไม้หล่นลงไป ช่วยเก็บเกลี้ยง

เลี้ยงปลากินพืช...พืชน้ำเกลี้ยง บัวพยายามปลูกก็ไม่เหลือ แต่ก็โล่งดี

(http://img694.imageshack.us/img694/364/fishsw.jpg)

(http://img21.imageshack.us/img21/3117/fish2e.jpg)

(http://img841.imageshack.us/img841/9558/fish3xw.jpg)

ร่มรื่นดีครับ ;D ;D ;D บ่อสวย

ทำบ่อมีตะพักไว้หน่อย ก็จะมีช่วงน้ำตื้นที่ปลาเล็กและกุ้งฝอยได้อาศัยหลบภัยจากปลาใหญ่
แต่ก็ต้องมาเป็นเหยื่อให้ยางโทนบ้าง
(http://img256.imageshack.us/img256/9689/csc1007.jpg)

เป็นไปตามธรรมชาติ ... เป็นสีสันของบ้านสวนครับ  ::014::

(http://img507.imageshack.us/img507/3834/birdld.jpg)   

น่าอิจฉาจัง เจ้าปลาทองแทบจะขึ้นบกมาหาเลย  ::002::

 ;D ขอบคุณครับ   ::014::

เจตนาทำรูปบ่อเม็ดถั่วและความลึกไม่ให้ใช้เลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ครับ (ภาพบ่อทางขวา)

(http://img265.imageshack.us/img265/6402/birdview.jpg)

 ;D  คาร์พเขาเก็บตะไคร่และเศษใบไม้เปื่อยๆ
ถือเป็นเอเลี่ยน ไม่ใช่ปลาท้องถิ่น ..... ฟังมาว่าถ้ามีจำนวนมากอาจดูดดินปนตะไคร่ชายตลิ่งทำให้ตลิ่งพังครับ
แต่ตามภาพ แกล้งเอาอาหารเม็ดวางไว้ ให้เขา"ปีน"เก็บ    ;)

มีรูปด้วยแจ่มครับ ;D ;D ;D   ที่เหลือเฟือ สุขจริง

เปคู  ก็กินเนื้อเหมือนกันนะครับ ไม่ไช่ว่ากินแต่พืช
ตอนผมเพาะแรกๆ ให้กินลูกปลานิลเป็นอาหารเร่งโต  แต่มารู้ว่านิลมันก้างเยอะ เลยงด
ซักพักให้กบไซส์2บาท (2นิ้ว)     ตอนนี้ตัวประมาญ 16นิ้วละ -*-

อีกอย่างเรื่องปลาสวาย อย่างบ่อที่เลี้ยงไก่ไว้ด้านบน
เค้าก็นิยมใส่ปลาสวายนะครับ เพื่อตีเอาขี้ไก่จากพื้นบ่อขึ้นมาให้ปลาดุกกิน
+ มันชอบตีน้ำเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ  แต่ผมว่ามันคงกินลูกปลาอื่นเรียบจริงๆนะหละ

ปลาหมอนาก็น่าเลี้ยงนะครับ เนื้อมันหอม หวานมัน น่ากินจริงๆ
แต่ไม่รู้มันมีฤทธิเดชร้ายกาจอะไรบ้าง เวลาจะทำกินก็สงสารคนทำเพราะกระดูกครีบมันแหลมคม ถ้าทำพลาด ตำมือปวดมากเลย

มันเจาะรู กับปีนหนี

ต้องเอาข่ายลงดักไว้ และ ยกสูง

เป็นปลากินเนื้อครับ  ต้นทุนการเลี้ยงสูง กินอาหารเก่ง เนื้ออร่อยดี   :D~

ส่วนตัวผมชอบปลากินพืช  เหตุผลเพราะมันไม่กินกันเอง อาจจะมีกินกันบ้างแต่ไม่มากนักเหมือนปลากินเนื้อโดยตรง
ทำให้ไม่ต้องปล่อยพันธุ์ปลาบ่อย ๆ  มันจะเกิดลูกมาจากพ่อแม่พันธุ์ที่ปล่อยครั้งแรกเป็นรุ่น ๆ  ทำให้จับมากินได้เรื่อย ๆ
ปลากินพืชต้นทุนการเลี้ยงไม่สูงนัก  เราให้กินพืชแทนอาหารเม็ดได้  ตอนอยู่บ้านอดีตแฟนผมเคยเด็ดยอดมันสำปะหลัง
ให้ปลาในบ่อกิน  ยอดมันสำปะหลังจากปลายลงมา ๑ คืบ  โดนลงไปในบ่อ  ปลาจะมากินใบมันฯ ไม่นานก็หมดครับ
บางตัวตกเบ็ดมาใบมันฯ ยังอยู่ในท้องอยู่เลยครับ   :VOV:

มีโครงการอยู่มาเก็บความรู้และข้อมูล ขอบคุณมากๆครับ  ::014::

ภาพแค่นี้ผมก็หาบ่อเจอแล้วครับพี่ ::005::

เบ็ดไม่น่ากล้วเท่า ข่าย ผม เคยลง กัน สมัยก่อน เล่นเอา หนองน้ำ เงียบเหงา เริ่ม ลงมือตอน เที่ย่งคืน เสร็จภาระกิจ ประมาณ ตี 3-4 ข่าย ยาว ประมาณ 3 กิโล  ลึก ประมาณ  4 เมตร พร้อม ติดตะกั่ว

ไล่ ขนาด ตั้งแต่ 7 เซ็น ไปจน ถึง 18 เซ็น ลงเป็นรูป ตูดหอย ได้ปลาน้ำหลัง หลัก ตัน ครับ ไม่ใช่ กิโล ใช้คนแค่ 4 คน ไม่ได้ ลัก ปลาบ่อใคร แต่ทำกันไม่อย่าก

ให้ใครเห็น พอกินทีเดียวหมดหนองหมดบ่อ แต่ตำกว่า 7 เซ็น ไม่ติด ข่าย ก็รอดอยู่ขยายพันธ์ ต่อไป

น้า โรจน์ เล่นตีกิน คนเดียว อ่ะ

ยังดี ที่ปล่อยไว้ทำ พันธุ์ บ้าง

เบ็ด วัด หลักร้อย ก็เมื่อยแล้วครับ

ข่าย ล้อมที่เดียว จบ....

เหมือนลากตะเข้..




(http://www.fisheries.go.th/marine/Gears/Otter_board_trawls/Board.jpg)

เลี้ยงปลาบ่อดินต้องมีปลากินเนื้อไว้ควบคุมประชากรปลากินพืชบ้างครับ ปลาช่อนปลาหมอพวกนี้เดี๋ยวก็โผล่มาในบ่อเอง ไม่ต้องไปหาให้เมื่อย อิอิ รอสักปีเดี๋ยวได้เห็นลูกครอกลอยแน่  แนะนำกุ้งก้ามกรามครับ  เอามาปล่อยเลย ปลาหมอตระกรับถ้าเจอตัวเป็นๆ เอามาได้ พวกนี้กินลูกกุ้งและสัตว์น้ำเล็กๆ  ปลากรายก็ได้ แต่อย่าเยอะ บ่ขนาดหนึ่งไร่อย่าให้เกินห้าตัว  ;D

... ถ้าเป็นบ่อเลี้ยงปลาขนาดไม่ใหญ่ ...  ให้อาหารไม่เพียงพอ  ... ปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติ .............. โดยส่วนตัว ผมไม่แนะนำให้เลี้ยง ปลาเปคู ... โดนมาแล้วครับ ...  ซื้อเพราะคนขายบอกมันโตเร็ว  ปรากฎว่ามันกินปลาอื่นเกือบเกลี้ยงบ่อเลย ...  ;D ;D ;D

... ถ้าอาหารไม่พอ ปลาเปคู มันจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ... มันกินไม่เลือก กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งผัก ทั้งเนื้อ ... ผมเอาผักตบชวามาลงไว้เกือบครึ่งบ่อ ... เห็นกับตามันกระโดดแถตัวขึ้นมางับกินใบผักตบเฉยเลย ...   ::002:: ::002:: ::002::

... ปลาที่ต้องเลี้ยงยืนพื้น  ...   ผมแนะนำให้มี ปลาจีน(เลือกสายพันธุ์เอา) ... ปลาพวกนี้หากินหน้าดิน กินพืช ตะไคร่น้ำ ... เป็นปลาเทศบาลทำความสะอาดพื้นบ่อไปในตัว ................... ผมเลี้ยงแบบธรรมชาติ ... ปีหนึ่ง นำหนักตัวประมาณ 2-3 กิโลกรัม ... เปอร์เซนต์รอดตายสูงมาก ... ร้อยล่ะ 90 เห็นจะได้ ...  ::014::

-ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำครับ..เพิ่งรู้นะนี่ว่าปลาสวายก็ร้ายกาจนึกว่ามันเป็นปลากินพืชซะอีก
-ตั้งใจจะเลี้ยงแต่ปลาไทย ๆ ครับ จะละเม็ดน้ำจืดหรือเปคู ก็ชอบแต่ไม่เลี้ยงเพราะเป็น alien species  ที่สระวัดแถวบ้านเขาใส่จะละเม็ดไว้ เห็นใส่ไก่ตายให้กิน ไก่ลอยอยู่มันมารุมทึ้ง ปลาตัวโตน่าดูเท่า ๆ จานกินข้าว เคยได้ยินว่ามันกัดคนด้วย
-ห่างจากบ่อ 500 ม.เป็นคลองพระราชดำริ(คลองชะอวด-แพรกเมือง)เขาประกาศเป็นเขตสงวนพืชพันธุ์สัตว์น้ำ ห้ามจับปลา แต่เห็นยังมีคนตกได้ชะโดขนาด 3-4 กก.(นายคนที่ตกปลาบอกว่ามาห้ามเขาไม่ได้ เพราะคลองสายนี้กินที่นาของเขาจนหมด)

... อ้อ ... เกือบลืม ..............ปลาไหลปล่อยลงบ่อดินปลารวม  ยังไง ก็ไม่รอดครับ ... มันจะกลายเป็นอาหารของปลาล่า ชนิด อื่นๆ ...  ;D ;D ;D

-อ้าว..เหรอครับ..ผมปล่อยปลาไหล(ขนาดกำลังแกง-ซื้อมาจากตลาด)พร้อม ๆ ปลาดุก ปลาหมอ ตอนนั้นยังมีน้ำน้อยราวหัวเข่า
-สำหรับปลาจีนก็ชอบมาก แต่ยั้งไว้ก่อนเพราะเคยอ่านพบว่ามันจะนำโรคหนอนสมอมาสู่บ่อเลี้ยง
-ปลายี่สกเทศถือเป็นปลาจีนรึเปล่าครับ ชอบเพราะเห็นตัวมันโตดี  

ปลาแรดก็กินไม่เลือกครับ 
ลองหาปล่อยดูพี่ ปลาเสือก็น่าเอามาขยายพันธุ์ เพราะไหนๆจะทำเป็นเขตอภัยทานอยู่แล้ว
ถือว่าช่วยอนุรักษ์พันธุ์ปลาหายากไปเลยก็ได้ครับ


อ้อ... เขตอภัยทาน เป็นเขตที่ถูกจับตามองตาเป็นมัน จากพรานปลาบางคนครับ

อ้าว.... บ้านผม มีบ่อปลา ปลาที่อยู่ก็มากับน้ำหลาก เวลาสูบหน้าแล้ง ก็มีปลาไหลให้จับนะครับ

เขตอภัยทาน
พายเรือผ่าน ฝูง
แล้วไปรวบเอาท้ายน้ำ

ปลาแรดก็กินไม่เลือกครับ 
ลองหาปล่อยดูพี่ ปลาเสือก็น่าเอามาขยายพันธุ์ เพราะไหนๆจะทำเป็นเขตอภัยทานอยู่แล้ว
ถือว่าช่วยอนุรักษ์พันธุ์ปลาหายากไปเลยก็ได้ครับ
-เรื่องอนุรักษ์พันธุ์ปลานี่เป็นความตั้งใจลำดับแรก ๆ เลยครับ
-ปลาเสือ ถ้าเสือตอละก้อไม่ไหวตัวละหมื่นตัวละแสน(แพงเท่า ๆ ปลาArowana) แล้วปักษ์ใต้ไม่ใช่พื้นเพของมันด้วยครับ ถ้าเสือพ่นน้ำพอไหว แต่ยังมีมากมายในแม่น้ำ มันอยู่ได้ทั้งน้ำจืด,น้ำกร่อยหรือน้ำเค็ม (ตามปากแม่น้ำ-ในทะเลแท้ ๆ ไม่มี)
-ขอบคันบ่อก็ยังไม่มีต้นไม้เลย..หญ้าเริ่มขึ้นแล้ว ควรปลูกต้นอะไรดีครับ ?[/color]

ริมบ่อก็ มะพร้าวอ่อน มะม่วงหิมพานต์ ลูกมะม่วงหล่นน้ำ ปลากินต่อ
ที่เหลือก็ไม้ที่ให้ร่มเ้งาน้ำได้สักหน่อย มะม่วงก็พอไหว

อ้อ  อยากอนุรักษ์พันธุ์ปลาจริงๆ ขอมีพวกปลาดุกอุยแท้ๆ ไม่ใช่ลูกผสมน่าจะดี
เดี๋ยวนี้หาได้แต่บิ๊กอุย ที่เอาดุกอุยผสมกับดุกรัสเซีย

  ขอบคุณครับ..ปลาดุกที่ผมปล่อยเป็นดุกอุยครับ ซื้อมาจากตลาดขนาดกำลังแกงโลละ 140.- เป็นปลาธรรมชาติจาก อ.ระโนด คนนคร ฯ เรียกดุกเนื้ออ่อน เพิ่งรู้ว่าเขาเลือกตัวที่มีไข่ออกหมดแล้วเพื่อเอาไปขายให้ฟาร์มเพาะลูกปลาในราคาโลละ 350.-(โฮ) ฟาร์มเอาไปผลิตเป็นลูกบิ๊กอุย(แม่ดุกอุย+พ่อรัสเซีย)ขายอีกที จริง ๆ เดี๋ยวนี้ปลาดุกที่ขายในตลาดเป็นดุกรัสเซียแท้ ๆ เลยครับ เขาเลี้ยง 3 เดือนจับขาย ถ้านานกว่านั้นจนโตเป็นดุกยักษ์คนจะไม่กล้ากิน       

... บ่อเลี้ยง น้าซับฯ...  อาจจะเหมาะสำหรับมัน ครับ ... ปลาไหลมันชอบอยู่น้ำตื้น ดินพรุ ริมตลิ่งไม่ชันนัก ........  บ่อที่ผมปล่อยมันลึกประมณ 3 เมตร ขอบตลิ่งชันๆ ... เอามาปล่อยกี่ตัวก็ไม่เหลือ  ไม่รู้มันไปไหนหมด ...  ;D ;D ;D

เลิ๊กโพด ดินมั่นแกน หัวเอี่ยซีดินบ่ได่ครับเฮียเล็ก555

นุ่นสิ  บ่อผมเมตรเดียวเองนะ ขุดด้วยจอบ พ่อขุดตอนเย็นๆ นานมาแล้ว กว้างยาวราวๆ5x10เมตรเอง บ่อเล็กๆครับ

ไม่ต้องไปซื้อหาให้ยากครับ มันมาเอง ขุดบ่อไว้ล่อปลา(หมอ)และไอ้ช่อน ก็พอ

ปลาหมอถ้าให้ปรุงเป็นเมนู ผมชอบแดดเดียวทอดกระเทียม กินได้ทั้งตัว แผงหลังเคี้ยวกุ๊บกรอบ ส่วนมเหสีของผมเขาชอบต้มส้ม

ต้มใส่ขมิ้น น้ำส้มตาลโตนดจากใต้ (อ.ระโนด) ต้มส้มปลาหมอไข่เต็มท้อง รสชาติก็โอเคถือว่าผ่าน

ข้าวสวยร้อนๆ กับมะม่วงอกร่องจากอีสาน ปลาหมอทอดกระเทียม ปะทะต้มส้มแดนใต้ เผลอ...ซดน้ำจนเกลี้ยงหม้อ..555

ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้นะครับพี่ :-[ แต่ถ้าผมมีบ่อปลาขนาดใหญ่ ผมอยากเลี้ยงปลาตัวใหญ่ๆ ปนเข้าไปด้วย เช่นปลากระโห้ ปลาบึกครับ :D
ผมชอบมองคุ้งน้ำที่ราบเรียบ แล้วจู่ๆ ก็มีปลาขนาดใหญ่ค่อยๆลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำ ให้เห็นหลังไวๆ 555 อารมณ์เหมือนลอยเรือในทะเลแล้วได้เจอวาฬ ;D

ส่งชาติ ;D

        เคยเลี้ยงปลาในคอนโด ครับ :OO :DD :DD

...ค่าใช้จ่ายคงจะน่าดูชม ...  ;D ;D ;D

        ขาดทุนยับ ครับ... ::012:: ::012::

... ปลา พันธุ์นี้คงจะกินจุ กินไม่เลือก ... กินฮอด โทรศัพท์  โน๊ตบุ๊ค  รถเก๋ง รถมอเตอร์ไซด์ ...  ::007:: ::007:: ::007::

ปลาตัวผู้แน่ๆ

อย่าบอกว่าเลี้ยงไว้ดูอย่างเดียว.....

        แป่วววว ::004:: ::012::

นิดนึงครับ ปลูกบัวสวยงามสบายตา
แต่ถ้าเหวี่ยงเบ็ด ติดตลอด และถ้ามี
หอยมาปน แป๊ปเดียวบัวเกลี้ยงบ่อ
ไม่เชื่อลองดูได้ครับ

                 ของผมเนื้อที่บ่อประมาณ ๑ งาน ความลึกของบ่อประมาณ ๔ เมตร ปล่อยปลาหลายชนิดเช่น ปลานิล,ทับทิม,ตะเพียน,ดุกด้าน อย่างละ ๒๕๐ ตัว สวาย๔ตัว จีน ๒ ตัว
  บึก ๑ ตัว แรด ๒ ตัว ให้อาหารปลารวม แรกๆให้เม็ดเล็ก พอเริ่มโตก็ให้เม็ดใหญ่ ผ่านไปเป็นปีเริ่มมีปลาเล็กๆออกมาให้เห็นตามตลิ่ง ก็เพิ่มเม็ดเล็กจิ๋วลงไปอีก ก่อนปล่อยปลาครั้ง
  แรก ตั้งใจไว้ว่าจะเลี้ยงไว้เป็นอาหารในยามขาดแคลน....อยู่มาไม่นานภรรยาผมป่วยด้วยโรคหลายโรค ได้ขอร้องไม่ให้จับปลาในบ่อมาเป็นอาหาร ด้วยเหตุผลบางประการ เพื่อ
  ความสบายใจของภรรยาผมก็เลยไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทุกอย่าง ปลาในบ่อก็เลยเป็นปลาสวยงามเลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น..... ผ่านไปสองปี ปลาเริ่มแน่นบ่อค่าอาหาร
  เม็ดเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผักน้ำต่างๆที่เอามาลงไว้ไม่มีเหลือให้เห็นมันกินกันหมดเกลื้ยง เลยปรึกษาพี่ชายว่าปลามันแน่นมากจนมีตายให้เห็นทุกๆวัน ตัวโตประมาณเกือบๆกิโลทั้งนั้น
  ให้พี่ช่วยเอาขึ้นไปลงบ่อญาติๆกันแจกจ่ายกันไป พี่ชายรวมทั้งญาติช่วยกันใช้อวนลาก(ผมไม่ได้อยู่ดู)ไม่รู้ว่าได้มากน้อยเท่าใด ตกเย็นผมกลับมาก็ยังเหลือให้เห็นในบ่ออีกไม่น้อย
  ผมก็เลี้ยงต่อมาอีกสักระยะปลาก็เริ่มเต็มบ่ออีก มันออกลูกออกหลานได้ไวมาก ปัญหาเก่าๆก็เริ่มขึ้นอีกคือมีปลาเริ่มทะยอยตายเรื่อยๆ...ผมมารู้ทีหลังว่าปลาขาดอ๊อกซิเจนในน้ำ
  กลางวันตะไคร่น้ำ(หรือสาหร่ายเขียวไม่แน่ใจครับ)จะสงเคราะห์แสงให้อ๊อกซิเจนจะไม่มีปัญหาอะไร  เวลากลางคืนตะไคร่น้ำจะปล่อยคาบอนไดอ๊อกไซค์ทำให้ปลาขาดอ๊อคซิเยน
  เมื่อรู้ปัญหาผมก็ทำอ๊อกซิเย่นให้ปลาโดยทำน้ำตกจำลองให้ปลา ปัญหาหมดไปปลาร่าเริงไม่ลอยหัวเป็นแพเหมือนเมื่อก่อน กินอาหารมากกว่าเก่า ภรรยาชอบใจมีความสุขทุกครั้ง
  ที่ให้อาหารปลา แต่ปัญหาอีกอย่างที่ตามมาคือค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นพันบาทจากเดิม(เปิดไฟน้ำตกเฉพาะกลางคืนครับ)ค่าอาหารก็เพิ่มขึ้นอาทิตย์ละสามร้อยบาท ทนไม่ไหวผมก็
  กระซิบพี่ชายให้เอาขึ้นอีก...อ้อลืมบอกชื่อปลาอีกชนิดที่ปล่อยลงไปคือปลาจิตรลดากินอาหารเก่งโตเร็ว.... พี่ชายเอาขึ้นคราวนี้ค่อยดูดีหน่อย ปลาบางตาลงไปมาก ด้วยความ
  เกรงใจของญาติๆที่ได้รับปลาไปต่างก็พร้อมใจกันรวบรวมเงินค่าอาหารปลามาให้เป็นเงิน ๖ พันบาท ก็ขอบคุณกันไปผมก็มีหน้าที่จัดซื้อจัดหามาให้ภรรยาได้เลี้ยงได้เพลิดเพลิน
  กันไป...ไม่รู้ว่าเป็นกรรมดีหรือไม่ดีอย่างไรแต่ที่แน่ๆภรรยาสุขภาพจิตดีขึ้นไม่หงุดหงิดเหมือนเมื่อก่อน(เธอเป็นโรคหัวใจครับ) ตอนนี้ผมสร้างบ่อปูนขนาดหกตันไว้เลี้ยงปลาคาร์พ
  สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อปลามาลง กำลังศึกษาการเลี้ยงอยู่ครับ คิดว่าภรรยาคงชอบเพราะได้ใกล้ชิดให้อาหารกับมือสำผัสตัวได้ ฉลาด เชื่อง ที่สำคัญเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่
  ทำร้ายมนุษย์แถมมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี ถ้าเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี น่าสนใจครับถ้าพร้อมที่จะเลี้ยง  ::014::
 
  

ครูหมู พาออกทะเล.....

เมื่อต้นปี ผมก็ได้ไปขุดบ่อใว้ แต่ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไร กะใว้ว่าจะเลี้ยงแบบฝากเทวดา ก็คงจะเป็นปลากินพืชเป็นหลัก ส่วนปลาธรรมชาติ ก็คงจะมี เพราะไปรื้อร่องสวนเก่า มันคงจับขึ้นมาไม่หมดหรอก แล้วก็มีท่อน้ำ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด1ฟุต ต่อรับน้ำจากคูธรรมชาติเข้ามา ก็คงจะมีปลาเข้ามาด้วย กะใว้ว่า จะไปสร้างที่พักหลบความวุ่นวายในเมือง ยามชราครับ

เนื้อที่บ่อ เป็นแบบ"อะมีบา" รวมๆกันน่าจะได้สัก1ไร่ ความลึกไม่รู้เท่าไหร่ แต่สุดแขนรถขุดตัวขนาดกลาง(PC 200)

ปลาคาร์ฟไม่ชอบสิ่งรกรุงรังในน้ำครับ
ผมเองก็เคยเอาหางกระรอกใส่ในบ่อคาร์ฟของพี่สาว
กระจายไม่เ้หลือหลอครับ แม้แต่กิ่งชวนชมยาวมาโค้งพอปลายใบแตะๆผิวน้ำ
ยังโดนฟัดโดนทึ้งหายหมด เขาชอบโล่งๆครับพี่

ที่รู้ว่าฝีมือปลาคาร์ฟ ก็ทั้งบ่อ(ขนาดใหญ่มาก1.5x1.5x0.60เมตร) มีแต่ปลาคาร์ฟครับ
ในเวบเราก็มีเซียนคาร์ฟหลายคน ลองสอบถามดูครับ

ที่นามีอยู่๒บ่อ ปล่อยสารพัดปลาครับทั้งนิล ไน กด ช่อน ตะเพียน ยี่สก นวลจันทร์ ดุก บึกครับ สงสัยอยู่อย่างกุ้งฝอยกับหอยไม่ได้ปล่อยแต่ดันมีเยอะีครับ ขอบบ่อก็เริ่มเอามะนาวมาลงไว้ครับ กะว่าปีหน้ามะนาวแพงลูกละ๗-๘ บาท ผมจะขายแค่๕บาทพอ พันลูกก็๕พัน หมื่นลูกก็๕หมื่น

หัก10% โอนมาให้ด้วย....

แอ่งเลี้ยงปลาของผม... ใส่ปลาคาร์ปราวๆ ยี่สิบตัว... เป็นปลาพวกเกรดปลาเหยื่อ... ไม่สวยงามอะไร... แฟนบอกกลัวมันร้อน... บอกให้ผมเอาพืชน้ำมาใส่บ้าง... ผมบอกว่ามันไม่ชอบก็ไม่ค่อยจะยอมเชื่อ... ผมเลยไปเอาจอกกับสาหร่ายหางกระรอกมาใส่ให้ดู... บอกว่าถ้าน้ำเน่าต้องมาล้างบ่อช่วยกัน... พอเอาใส่ไปไม่กี่วัน... เกลี้ยง... จอกเหลือแค่ใบ... ส่วนรากหายหมด...

...ถ้าจะเลี้ยงไว้ดูเล่น... แนะนำปลาไนครับ... ซึ่งจริงๆ มันก็คือปลาคาร์ปนั่นเอง... ที่เขาเอามาขายเป็นลูกปลาเป็นถุงๆ.. มันจะมีที่เป็นสีๆ อยู่เยอะพอสมควร... ;D ;D ;D

...หรือไม่ก็ไปซื้อปลาคาร์ปเกรดปลาเหยื่อมาลงครับ... ถูกดี... ;D ;D ;D

        อ้าว
จริง เหรอ มะรุ๊ นิ
เห็นเป็นเรื่องเลี้ยงปลาเหมือนกัน  ::005:: ::005:: ::004::

Ha Ha Ha    ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

คำแนะนำ  ให้เลี้ยง  "ปลาโน่น  ปลานี่"  หลากหลาย อ่ะ ฮา

แต่ไม่ยักจะมี  "ปา"  ที่ผู้หญิง เขากลัว  เลย อ่ะ ฮา

555555  มันเป็น  ปาชนิดไหน  รึ   ฮา  ::007:: ::007:: ::007::


(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)

ปาไปเจ็ดแปดเดือนแล้วยังหาพ่อให้ลูกในท้องไม่ได้... ::005:: ::005:: ::005::

ปาไปเจ็ดแปดเดือนแล้วยังหาพ่อให้ลูกในท้องไม่ได้.

สามเดือน ก็ร้อนรน แย่แล้ว

เริ่มต้นใหม่เลี้ยงปลากด  500ตัว  ลืมบอกคนงานดันเอาปลาดุกเทลงไปอีก เจ๊งตามเคยกินอาหารไม่ทันปลาดุก แถมเป็นอาหารปลาดุกอีกรู้ยังงี้เลี้ยงปลาช่อน ปลาตะเพียนดีกว่า  ปลานิลก็ไม่ดีออกลูกผสมพันธุ์กันมันเขาล่ะ

ก็ยังดี..ดีกว่าปาไปสามสิบแล้วยังหาสามีไม่ได้ ::005:: ::005:: ::005::

ก็ยังอยู่ในคอนเซ็ปครับ เพราะออกทะเลก็เจอปลา

ระวังมือไม่ดีนะครับ เคยออกข่าวอยู่ พอช่วงมะนาวแพง สวนไหนมะนาวดกๆ ตกกลางคืนเจ้าของเผลอ
แมวขโมยมากวาดไปยกสวน.........ขนาดข้าวในนาสุกรอเกี่ยวมันยังเอารถเกี่ยวข้าวมาตัดหน้าไปในคืนเดียวหมดเป็นสิบๆร้อยไร่
  ไม่เคยหมดไปเสียทีกะพวกชอบลักขโมยพืชผลการเกษตร

ที่นามีคนงานเฝ้าครับ แถวบ้านผมขโมยพืชผลเกษตรไม่เคยมีครับแต่ถ้าปลาในสระมีมาขโมยเหมือนกันครับ

-วันเสาร์ที่ 11.06.2555 ปล่อยปลากรายลงไป 10 ตัวครับ ซื้อปลาถุงสำหรับเลี้ยงเป็นปลาตู้ ตัวละ 20.-บาท ตัวเล็กกว่าไม้โปรเล็กน้อย 
-ในบ่อมีลูกกุ้งครับ(ตอนแรกผมนึกว่าไม่มี)มันอยู่ตามรากผักบุ้ง เห็นอาหารเม็ดสำหรับลูกปลาวิ่งจี๋ พอเพ่งใกล้ ๆ จึงรู้ว่าลูกกุ้งมาคาบ มองไม่ค่อยเห็นเพราะตัวเล็กและสีใส
-ยังตามหาลูกปลาอีกหลายชนิด เช่น ปลาจีน 300 ตัว,ยี่สกเทศ 300 ตัว,ปลาสลิด มีปลาถุงจากกรุงเทพมาเร่ขาย แต่กลางวันผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลยยังหาไม่ได้สักที 
-เพื่อนบ้านเล่าว่าแกปล่อยปลายี่สกเทศในร่องสวนหลายปีเข้าบางตัวโตเท่าน่อง ตัวเท่าขาก็มี..   

เลี้ยงปลาแรดก็ดีครับแต่มันขี้เล่น   ว่าจะกินก็สงสารมันเลยกินแต่ปลาดุก  เคยกินปลาแรดเนื้ออร่อยดีครับ

ปลาแรด ถ้าเห็นหัวโหนกนี่นะ

แหล่มเลย...


ทอดกระเทียมพริกไทย

ต้มยำ...  โฮ๊ก...

 ชอบกระทู้นี้ครับ

เล่าเรื่องปลาเชิงพาณิชย์บ้าง........ผมตั้งใจไม่ขายชีวิตใคร แต่ก็เคยเลี้ยงปลาบนกระดาษ

คนสวนผมมาขอที่ขอทุน ....... ว่าอยากเลี้ยงปลาสลิด ผมก็ให้หาข้อมูลมาเลี้ยงบนกระดาษกันก่อน
เริ่มจากวิธีเลี้ยง จำนวนปลาต่อพื้นที่ อาหารและราคาอาหาร อัตราแลกเนื้อ อัตราการรอด ราคาขาย ค่าใช้จ่าย......
สอนคนสวนให้ทำบัญชี ใช้Excel .. ::005::... พบว่าถ้าเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จ เลี้ยงบนกระดาษก็ขาดทุนแล้ว
โอกาสกำไร คือ ต้องเสริมอาหารผลิตเอง มีแหล่งอาหารราคาถูก ดูแลให้อัตรารอดสูง .... และ ข้อสำคัญ........ขายให้ได้ราคา


ลงมือทำจริงก็เลี้ยงหญ้า ทำคัน สูบน้ำเข้า นำปลาเล็กมาอนุบาลแล้วปล่อยลงบ่อใหญ่ หาอาหารผลิตเสริม
ทุกอย่างดูดี จนปลาได้ขนาดได้เวลา .......  ปลาเลี้ยงยาวมากก็กินทุน และขนาดอาจไม่ได้ราคาสมกัน

จากนั้นติดต่อคนกลางที่เขารับซื้อตามบ่อไปส่งแพปลา ให้มาดูราคาและนัดวัน

ผลสรุปการทำงานจริง......ขาดทุน  เหตุผล......
1/ เล่ห์กลคนกลาง มาช้ากว่านัด สูบน้ำรอ ปลามาตกคลั่กจนป้อแป้
2/ อ้างขนาดคละกดราคา ถ้าคัดขนาดต้องมีค่าคนงาน ค่าใช้จ่าย  เวลาก็มีน้อยต้องส่งแพปลาให้ทัน
3/ ไม่ขายก็ไม่ได้ ถึงสูบน้ำกลับปลาก็คงตายกว่าครึ่ง
4/ ได้ปลาสลิดน้ำหนักน้อยกว่าที่เลี้ยงบนกระดาษ กลับได้ปลาสลิดที่แปลงกายเป็นปลาช่อนปลาหมอแยะ  :(

..... เห็นใจคนมีอาชีพเกษตรเชิงเดี่ยวครับ ......

โอ้... นายสมชายได้ความรู้แยะเลยครับ... ขอบพระคุณทุกท่าน...

นายสมชายฝันอยากมีชีวิตสงบๆ แบบนี้แหละครับ... แต่เอาเข้าจริงตัวเองนั่นแหละไม่สงบ นั่งอยู่ในบ้านไม่อยากออกไปไหนก็จริง, แต่อยากรู้โน่นนี่เต็มไปหมด แถมยังขี้เกียจทำงานสวนอีกต่างหาก(ตรงนี้แหละแย่) ทั้งๆที่ชอบนั่งเหม่อดูที่โล่งๆ มันสบายใจดี... เฮ้อ...

เรื่องอาหารและอัตราแลกเนื้อเป็นเรื่องสำคัญครับ
บางทีถ้าลองให้อาหารมันเรื่อยๆ ปลามันก็กินไม่หยุดครับ แต่มันกินจันเกินอัตราแลกเนื้อไป
ถ้าคิดอัตราแลกเนื้อกับอาหารที่ให้เขียนเป็นกราฟ แกนYเป็นเนื้อที่ได้ แกนXเป็นอาหารที่ให้
เส้นกราฟมันจะเป็นเส้นโค้ง เกือบขนานกับแกนX หมายความว่าให้เยอะไป ไม่ได้หมายความ
ว่าจะดี ให้พอดีต่อการเติบโตดีที่สุด

เพื่อนคนหนึ่ง อยู่ กทม. เลิ้ยงปลาอยู่ราชบุรี ไปทุกสุดสัปดาห์ แต่ระหว่างสัปดาห์ เขาให้อาหาร
ปลาแบบ วันอาทิตย์ก่อนกลับมา กทม. จะทำฟางเป็นก้อนกลมๆ แบบจานขนาดใหญ่ แล้วใส่ขี้วัวไปข้างบน
พอให้ลอยน้าได้  แล้วก็เอากองๆไว้ที่ริมตลิ่งแบบ พอฟางอิ่มน้ำเริ่มยุบตัวลง ปลาก็จะมาทึ้งฟางออก
กินขี้วัวเอง

สนใจคลิกที่ภาพครับ มีวิธีการดูแลรักษาน้ำในบ่อด้วยครับ

(http://img594.imageshack.us/img594/3441/sdc10168.jpg) (http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=18005.16)

แหม ... ว่าจะกด ... ลิเก (LI KE) ... ให้น้าซับฯ สักหน่อย ... หาที่กดไม่เจอ ...  ;D ;D ;D

ตามนี้เลยจริงๆ ผมขุดบ่่อ20X20เมตร อยากปลูกบัวสีสวยๆ หามาใด้5-6สีกำลังสวยเพลินๆ เมียดันไปซื้อปลาคาร์ปจากสนามหลวง2ตัวละ50บาทมา80ตัว ปลาก็โตวันโตคืนครับ เเต่บัวผมไม่โผล่ยอดใหม่เเถมดอกก็ไม่มีเเล้ว เเค้นใจเลยไปซื้อบัวเเบบตัดดอกใหว้พระมามี2สี(ขาว-ชมพู)มันไม่กินบัวเเบบหลังครับ เเต่ผมปลูกตามขอบบ่อส่วนที่เป็นน้ำตื้นนะครับ ตรงกลางบ่อไม่กล้าปลูกกลัวมันกินหมด ตอนนี้เลยใด้ดูบัวเเถมมีปลาด้วย เมียหนอเมีย ::011::

ปลาสลิดบางบ่อ..ชาวบ้านเลี้ยงเขาให้กินอะไรครับ..เคยอ่านพบว่าเขาตัดหญ้าสดไปกองไว้ในบ่อ จนหญ้าเน่ามันจะเกิดลูกไรเป็นอาหารปลา และเขาเติมปุ๋ยคอกลงในบ่อด้วยเพื่อทำน้ำเขียว แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะเพียงพอ เพราะเท่าที่เห็นเขาก็ปล่อยลูกปลาค่อนข้างหนาแน่นนะ..ผมว่า  ตอนเรียน ป.ตรี ที่หลังหอพักมีบ่อน้ำรกร้าง ผักตบชวาท่วมดูแล้วไม่น่ามีปลา มีคนหัวใสแหวกผักตบออกเป็นช่อง นั่งตกได้ปลาสลิดตัวงาม ๆ หลายตัว   

ไม่ได้ให้อาหารอะไรครับ หญ้าเน่าๆ มันจะก่อให้เกิดลูกน้ำ ไรแดง โรติเฟอร์ พวกนี้เป็นอาหารโดยธรรมชาติของปลากระดี่ปลาสลิดอยู่แล้วครับ อาจมีเสริมพวกรำนิดหน่อยครับ

วิธีเลี้ยงปลาสลิดแบบนาปลาสลิดคือปลูกหญ้าให้รกแล้วปล่อยน้ำเข้า
ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงไป จะวางไข่แพร่พันธุ์ตามกอหญ้า
พอลูกปลาโตขึ้น จะฟันหญ้าให้ล้มลงในน้ำ หญ้าเน่าเกิดอาหารธรรมชาติ อย่างที่คุณsoveat ชุมไพร ว่ามา
ให้อาหารเสริม พอปลาโตได้ขนาดก็สูบน้ำออก คัดขนาดขาย คัดพ่อแม่พันธ์ที่งามแข็งแรงมาไว้ทำพันธุ์รุ่นต่อไป
อันนี้เป็นวิธีเลี้ยงแบบ(กึ่ง)ธรรมชาติครับ  ;D

ผมเคยซื้อปลาสลิดจากตลาดมา 1 กก. ได้ 9 ตัว เอามาเลี้ยงในโอ่งแดงลูกใหญ่ที่สูงเท่า ๆ หัวคน โอ่งลูกนี้ตั้งรับรางน้ำฝนพอดี ใส่สาหร่ายหางกระรอกลงไป สาหร่ายเกิดเร็วจนต้องเอาออกเสียบ้างกลัวแน่นจนปลาไม่มีที่แหวกว่าย โปรยอาหารเม็ดให้บ้างโดยเดาเอาว่าปลาน่าจะยังอยู่(ขอบโอ่งสูงและมีสาหร่ายรกจนมองไม่เห็น)วันที่ฝนตกน้ำเต็มโอ่งจะได้ยินเสียงปลาขึ้นฮุบอากาศจึงรู้ว่ายังมีปลาอยู่ 1 ปีผ่านไป ไขน้ำออกจับปลา เหลือเพียง 8 ตัว แต่ละตัวอ้วนพีเนื้อหนาน่ากิน..เอาไปปล่อยในสระน้ำที่เขาล้างดาบตอนประหารชีวิตศรีปราชญ์    

ปลาสลิด ผมเคยทอดแหได้ตอนน้ำหลาก  ตัวละครึ่งกิโลครับ ใหญ่มาก ตัวจะกว้างๆ ใหญ่ขนาดฝ่ามือกางๆเลยทีเดียว  แต่ถ้าเป็นหลาสลิดที่อาศัยอยู่ในน้ำนิ่ง ตัวจะสีเข้ม ยาวๆ ตัวไหนแก่ๆหน่อยเขียวอื๋อออกดำกันเลยทีเดียว  ;D

ปลาสลิดหน้าวัดหรือปล่าวตัวเกือบครึ่งกิโล ::008::

ผมเป็นแฟนคอลัม "ขบวนการแก้จน"  เขียนโดย ประยูร จรรยาวงศ์  ตามโจทย์และปัญหาที่พี่ธำรงว่ามา ท่านผู้เขียนได้เตือนมาตลอดครับ
เน้นเรื่องอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงต้องคิดเองผสมเองให้ได้ ไม่งั้นขาดทุน รวมถึงเล่ห์พ่อค้าคนกลาง  กล่าวว่าคนเลี้ยงสัตว์อย่าใจบุญ เห็นท่าไม่ดีต้อง ฆ่า ต้องชำแหละเอง ไม่งั้นขาดทุน  อย่างสัตว์ที่มีอาการไม่สู้ดีต้องรีบฆ่า เพระไม่เช่นนั้นปล่อยไปก็เป็นโรค

อย่างเลี้ยงปลา ผู้เขียนย้ำนักย้ำหนาต้องคิดสูตรอาหารเองให้ได้ แนะนำการเกษตรแบบผสมผสาน เพราะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนกันในตัว อย่าตื่นตูมเพราะราคาตลาดสูง อย่างเลี้ยงปลา ก็ต้องพร้อมจะทำปลาเอง ทั้งปลาเค็ม ปลาแห้ง ปลาร้า หรือส่งปลาไปยังแม่ค้าเอง

ปลาสลิด ผมชอบกินแห้ง ใช้ปลาตัวเล็กแบบปลากระดี่ เวลาทอดกรอบ จะกินได้ยันครีบ ถ้าไม่คิดต้นทุนกำไรมาก และลงมือทำเอง ที่ลงไปไม่ขาดทุน มันคือต้นทุนอยู่ในสระนั้นแหละ ค่อยเบิกออกมาใช้ ละกัน

ชอบใจตรงที่ รูปแบบการนำเสนอเป็นการ์ตูนสั้น แต่เน้นย้ำวัตถุประสงค์หลักที่ละนิดๆและทำแทบทุกตอน  ฉบับรวมเล่ม เป็นของที่ลงตีพิมพ์ นสพ. ไทยรัฐ ประมาณปี 2520-2522  ห้าหกปีก่อน อัมรินทร์ บุ๊ค ได้จัดพิมพ์อีกครั้ง
ถ้าคัดสำเนาตามห้องสมุดใหญ่ๆได้ ลองให้ชาวบ้านอ่านดูสิครับ จะไม่ต้องมาอธิบายกันเหนื่อย ภาษาก็ภาษาชาวบ้าน

บ้านผม  บ่อก็ไร่หนึ่งเหมือนกัน   ลึกสามเมตร

ผมปล่อยปลากินพืชล้วน   แต่  ปลาช่อน  ปลาหมอ  มาเองตามธรรมชาติ

ปลาที่ปล่อย  มี  ปลาบึก  ปลาเทโพ   ปลานิล   ปลาตะเพียน  ปลายี่สก  ฯลฯ

เลี้ยงมาหกปีแล้ว    ปัจจุบัน   ปลาบึกมีขนาดตั้งแต่   ๕-๔๐  โล  ปลาตะเพียน

ปลานิล   ปลาหมอ  เพียบ    ไม่ต้องซื้อปลากิน     มีความสุขแบบเศรษฐกิจพอเพียง

รอบบ่อ  ก็ปลูกพืชผักสวนครัว

ปลาบ่อนี้ต้องขว้างระเบิดลงไปถึงจะได้กิน  ไม่งั้นก็ปลาคิดสั้นฆ่าตัวตายเองถึงจะได้กิน 555

  แถมมีพวกขี้เมา มาจ้องจับปลาทำกับแกล้มอีกด้วยครับ บ่อนี้ แต่ฝีมือไม่ถึง ไอ้พรานปลาหน้าวัด ;D ::007::

เดี๋ยวเอาป้ายเขตอภัยทานมาปัก รับรองหมดบ่อ  :DD

ปลามันก็คงคิดดีแล้วล่ะว่ายอมตายเองเสียดีกว่า รอให้พรานปลามาถึงปากบ่อ

จับปลาสลิด ;D ;D ;D สงสัยต้องรู้จักแปรรูปอย่างว่า จะได้ไม่ต้องพึ่งคนกลางมากนัก

http://www.youtube.com/watch?v=U2e3MX7zah4

กสิกร ช่างเหนื่อย ยังต้องรอฟ้าฝนอีก

แล้วราชบุตร ราชธิดา ชอบเสวยแบบไหนครับ ;D ;D ;D


ไปถึงเรื่องฮวงจุ๊ยด้วยครับตำแหน่งของบ่อในพื้นที่ บางทีบ่อมีของเสียอาจทำเจ้าบ้านไม่สบายได้ ทิศทางลมมีผล

เลี้ยงปลาบ่อดิน   มีปัญหาตอนหน้าฝน    ฝนแรกตก   

ปลาขาดออกซิเจน   จะลอยตายเป็นแพ  วิธีแก้ปัญหาคือ

ต้องให้ออกซิเจนตลอดจึงจะไม่ตาย   หรือทำให้น้ำหมุนเวียน

ตอนหน้าฝน  หมั่นโปรยปูนขาวสัก  ๑๕  วันครั้ง   ปลาจะไม่ตาย

                      มีคนที่นับถือแนะนำให้สร้างน้ำตกครับโดยมีน้ำผลุดและน้ำพุร่วมด้วยนัยว่าเป็นการแก้เคล็ด (เงินทองไม่ไหลไปอย่างเดียว)
ก็ใช้วิจารณญาณแต่ละบุคคลครับ ผมทำแล้วสบายใจครับ ญาติๆพี่น้องชอบใจบอกว่าบรรยากาศดี บ่อน้ำอยู่ทางทิศเหนือของบ้านขาดแต่
ไม่มีภูเขาหลังบ้านครับ เลยปลูกต้นขนุนแทนตามหลักฮวงจุ้ยครับ  ::014::

อยู่สองคนกับมเหสีครับ พึ่งแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว เลยยังไม่มีผลงานปรากฎ...5555

เบื้องหลังความอร่อยของปลาหมอก็คือ พรุนไปทั้งมือ ตั้งแต่ปลดออกจากข่าย ไปยันขั้นตอนการชำแหละ

ปลาหมอพิษสงรอบตัวครับ ไม่ลองไม่รู้..555 แต่ทำเพื่อเธอครับ เป็นการทำหน้าที่ลูกผู้ชาย

ยอดมากครับ ;D ;D ;D หวานชื่นดีจริง

น้ำตกน้าพุสร้างอ๊อกซิเย่น ให้มีการย่อยสลายในน้ำเพิ่ม ;D ;D ;D ทำให้น้ำดีลดของเสียโดยตรงครับ

ฮวงจุ้ย หลักธรรมชาติอยู่ในตัว

ใช้พวกจุลินทรีย์ em หรือ พด. ก็ได้ครับ

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา
พี่  "ลิงปากแดง"  เป็นเจ้าของ โรงลิเก เหรอ  ฮา

ป้ายหน้าโรง เท่ห์จัง    "  คา  ทัสสะนวย "   ด้วยอ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
(http://image.ohozaa.com/i/54f/gEpKwm.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w9nSnHn1evU2vWw8)

ยายบ๊าบเคยกินปลาหมอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร กับใคร..... ::013::

อืม แนวน้าซับ แม่นบ่

ที่หัวโม่ง ก็มีนะ....

::007:: ::007:: ::007::

::014::

เมื่อวาน... น้ำในบ่อปลาคาร์ปค่อนข้างสกปรก... เลยจัดการเปลี่ยนน้ำซะ... ผลที่ได้คือ... ตายไปตัวนึง...  :~)

 ;D

ปรับตามอุณหภูมิไม่ทันครับ ปกติเปลี่ยนน้ำ ต้องเหลือน้ำเดิม1ใน3ครับ ที่ปล่อยลงใหม่ก็ปล่อยช้าๆครับ
อย่าเปิดก๊อกให้พุ่งสุด

ปลาตัวนี้ใหญ่อันดับสองของอ่าง... แค่ขนาดราวๆ ๖ นิ้วครับ... สีทองทั้งตัว... ตัวนี้ผมเี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ รอดมาหลายครั้งหลายหน... ทีตัวเล็กๆ ยาวไม่ถึงสองนิ้วดันไม่ตาย... ::013::

...ผมสัณริษฐานว่าน่าจะเมาคลอรีนนะครับ... แต่อาจจะเพราะอุณหภูมิแบบพี่ซับว่าก็ได้... ::014::

ลองทำตามที่ว่าครับ เปลี่ยนน้ำช้าๆ ดูอาการปลาประกอบด้วย ไม่ดีก็หยุดปล่อยน้ำเข้า
ดีขึ้นก็ใส่น้ำต่อ

ผมเคยมีประสบการณ์... บ่อเก่า... ข้างๆ กันนี่แหละ... แต่ตื้นกว่านี่... ใส่ปลาคาร์ปตัวเล็กๆ กับตะเพียนทอง... รวมทั้งปลาสอดนิดหน่อย...  วันนั้นผมเห็นน้ำมันพร่องไปเยอะ... ก็เลยเปิดน้ำประปาใส่... โดยตั้งก๊อกให้มันไหลช้าๆ กะว่าซักครึ่งชัวโมงจะมาปิด... น้ำคงได้ระดับ... แต่ผมคุยกับช่างไม้เพลินไป... ดูเวลาก็น่าจะกลับไปทำงานต่อได้แล้ว(ช่วงปิดเทอมครับ... แต่มีงานด่วนมา) ผมก็กลับไปทำงานได้ซักสาม-สี่ชั่วโมงได้... กลับไป... เจอน้ำล้นบ่อ... ปลาลอยหงายท้องกว่าครึ่ง... ในจำนวนนี้ปลาตะเพียนทองตายหมดแล้ว... ท้องกับเหงือกมีสีแดงๆ เหมือนมันห้อเลือด... ปลาสอดดำ-แดง ก็พะงาบๆ ปลาคาร์ปก็ลอยพะงาบๆ ผมเลยไล่ช้อนเอาปลาทั้งหมดมาใส่กาละมังน้ำฝน... ปลาสอดรอดมาหกตัวจากที่ช้อนได้สิบตัว... ปลาคาร์ปรอดมาได้ราวๆ สิบกว่าตัว... จากปลาเกือบยี่สิบ... ส่วนตะเพียนทองแปดตัวตายเรียบ... ผมต้องรีบวิ่งไปร้านขายปลา... ซื้อมาใส่อ่างให้ใกล้เคียงของเดิม...

...ทุกวันนี้ปลาคาร์ปที่มีขนาดเกิน ๔-๕ นิ้ว... ล้วนแต่เป็นปลาที่รอดจากการดองคลอรีนในวันนั้นครับ... ::014::

(http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/118006.jpg) 

พูดถึงเรื่องเลี้ยงปลา  อยากจะแนะนำพืชน้ำไว้เป็นอาหารปลากินพืชครับ  แหนแดง  เจริญเติบโตเร็วครับ   ;D

 
-ใครก็ได้..ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยครับ ว่าเพราะอะไรน้ำถึงได้ขาดออกซิเจนเอาช่วงนั้น คือผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าน้ำฝนมีออกซิเจนมาก เห็นปลาช่อน ปลาหมอ ชอบน้ำฝนใหม่ แถกออกจากบ่อไปหาน้ำใหม่วางไข่ 
-ผมเคยตักปลากรายตัวเป้ง ๆ ออกจากตู้ จะเอาไปปล่อย เห็นมีน้ำฝนใหม่อยู่ 1 กะละมัง พอใส่ปลากรายลงไป ชักหมดทุกตัวเลยครับ แต่ปลากรายต้องเรียกว่าโคตรทน พอเอาไปปล่อยกะพังสุรินทร์ เห็นมันดำผุดดำว่ายดีใจ( ปลากรายผุดมีฟองอากาศ 2 ลูกเหมือนปลาสลาด)

น้ำฝนใหม่ๆมีปริมาณO2อิสระน้อย
เพราะน้ำฝนระหว่างผ่านชั้นบรรยากาศรับเอาO2ในอากาศ ส่วนหนึ่งไปจับตัวเป็นH2O2
ปริมาณO2อิสระที่แทรกตัวในน้ำฝนจึงน้อยกว่าน้ำบ่อน้ำคลอง(ที่สะอาด)

.....(กระมังครับ) อิ อิ ผมตกวิชาเคมีซะด้วยซิ  ::005::

มีแล้วต้องโม้มั่ง ผมลูกศิษย์ลุงแพะ อิๆๆ
(http://image.ohozaa.com/i/d19/M9GsHC.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vYCtb8jm4PNFFako)

พื้นที่โดยรอบสามไร่โดยประมาณ ขุดเอาดินขึ้นมาถมตรงกลาง รวมๆเนื้อที่บ่อ น่าจะสักไร่ได้ครับ

โครงการณ์ผม ระยะยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหลายคนเขารู้ดี 55+ ตอนนี้ก็ปล่อยให้ธรรมชาติเลี้ยงไปก่อน น่าว่าคงจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะรื้อคูสวนเก่า และทดน้ำจากคูข้างๆเข้ามา ก็คงจะมีปลาธรรมชาติเข้ามาบ้าง พวกปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ เพิ่งขุดเมื่อประมาณมีนาที่ผ่านมาเองครับ

ข้างหลัง ก็จะเป็นบ่อน้ำรอบครับ

^
^
พี่ผมครับ ไม่รู้เป็นไงไม่ค่อยถูกกันนักกะพวก บ่อ สระ หรืออะไรที่เป็นแหล่งเก็บน้ำส่วนตัว อะไรทำนองนั้น

ไม่ถูกได้ไง เขาวางแผนขุดสระรอบบ้านอยู่นิ

เข้ามาอ่านครับ ความฝันลางๆ อยากมีบ่อปลา มีบ้านแบบธรรมชาติมั้ง แต่ดูแล้วคงเลือนลางครับ  ::013::

http://www.siamensis.org/webboard/topic/7730 (http://www.siamensis.org/webboard/topic/7730)

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ถ้าจะ  "เติม"  อ๊อกซิเจน  ลงบ่อ  ให้ปลา  อ่ะ ฮา
อย่าใช้  "ปั้ม"  ขนาดใหญ่  หรือ ใช้ ไดรโว่ อ่ะ ฮา
5555   มันเปลืองไฟ  อ่ะ ฮา

ยายแนะนำให้ใช้ปั้ม  หอยโข่ง  ใบพัดทองเหลือง ขนาด 1/2 แรง ก็พอ อ่ะ ฮา
ปั้มนี้  ให้เลือกซื้อยี่ห้อของ เยอรมนี  เช่นยี่ห้อ Calpeda  ราคาสามพันนิดๆ อ่ะฮา

ซื้อปั้มมาแล้ว  ก็ใช้ "ข้อลด"  จาก 1 นิ้ว  ลดเหลือ 1/2 นิ้ว อ่ะ ฮา
แล้วต่อ  ท่อ "น้ำพุ"  ราคาสี่ห้าร้อย  ที่ขายแถว เจเจ อ่ะ
บอกคนขายว่า   จะเอาไปฉีดน้ำ  เพิ่มอ๊อกซิเจน  ให้ปลา อ่ะ ฮา   ::007::

ไอ้ท่อพวกนี้  เขามีสองลักษณะ คือ  ฉีด  ให้น้ำหมุนเวียน
แล้วอีกอย่างคือ  เติมอากาศ  ไอ้ท่อเติมอากาศ  เขาก็ทำแบบง่ายๆ
แต่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที  ส่วนวิธีทำ เดียวยายจะ เล่าให้ฟัง อ่ะ ฮา

เครื่องกลเติมอากาศแบบทุ่นลอย

http://atc.snru.ac.th/components/contents/view.php?id=70

ไปเจอมาในเว็บ  ไม่รู้ได้ผลดีหรือเปล่าครับ   ;D

สวยครับ..... ::002:: วางแผนสร้างบ้านริมสระต้องเลือกทิศวางตำแหน่งของบ้านในการรับแสงรับลมให้ดีเชียว  ;D

แกต้องการผู้ช่วยผสมปูนอยู่ครับพี่
พอดีผมไม่ฉะบาย....

กะใว้ว่า เอาใว้นอนรับลมยามบั้นปลายครับพี่ เรื่องลม ก็ห่วงๆอยู่บ้างเช่นกัน เพราะอยู่ในทุ่ง แต่รอบๆนั้น เป็นป่ายางไปเกือบหมดแล้วครับ คงพอชลอลม ปะทะใว้ได้บ้าง และกะทำแค่ชั้นเดียวครับ...สองชั้นคงปีนกะใดไม่ไหว เวลานั้น อิๆๆ โครงการณ์ระยะยาวครับ นี่ก็รอให้ดินยุบตัว สักสองปี ค่อยดำเนินการณ์ต่อ ช่วงนี้ก็พยามร่างแบบอยู่ เตรียมวัสดุใว้พอประมาณ หลักๆพวกเสา พวกคาน ตง ส่วนประกอบหลักๆ มีพอสมควร ขาดพื้น....และฝา ซึ่งพื้นกะใว้ว่าคงเป็นไม้ ส่วนฝาอาจจะผสมกับกระจก เอาใว้นอนดูต้นไม้ ดูนกครับ ค่อยๆทำ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ อิๆๆ

รอดูหน้าน้ำหลากปีนี้อีกครั้ง ว่าจะต้องปรับปรุงอย่างไรบ้าง เสริมคันตรงใหนอย่างไร อาจจะเริ่มหาปลามาปล่อยแหละทีนี้ เผื่อมีเวลาว่าง จะได้แอบไปปักเต้นส์นอนเล่นได้ก่อน

พี่ธำรงแนะนำดีครับ ทิศทางลมสำคัญ ไม่รับแดดตอนบ่าย

คนซื้อบ้านที่โชคร้าย ไม่ได้สนใจทิศทางลมพัด ทิศทางแดด ตอนบ่ายบ้านร้อนจัด

 ถ้าปลูกเอง มีที่ จัดทิศทางเองได้ลงตัว ::002::

น้าเบิ้มสนใจ ข้างๆยังว่างอยู่อีกสามไร่ครับ อิๆๆ คือแปลงนี้ทั้งหมด6ไร่

นี่ไง อีกสามไร่ ขุดแปลงใว้เฉยๆ ยังไม่มีโครงการณ์อะไรรองรับ
(http://image.ohozaa.com/i/501/R4w50f.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vXXGKOVSWdz5HMTm)

คืนดืนมืด ที่ท้องฟ้าเปิด...ดาวเต็มฟ้า แบบพานอราม่า ที่ไม่มีอะไรบดบังเลยครับน้าเบิ้ม แม้นว่ามันจะไม่อยู่บนยอดดอยก็เหอะ ที่สำคัญ แหล่งแสงไฟฟ้าจากเมืองใหญ่ ที่สะท้อนท้องฟ้า แถบนี้ไม่มีครับ ห่างจากเมืองใหญ่ใกล้สุด ก็ประมาณ 50กิโลเมตร อิๆๆ

อ้อ...ส่วนความสะดวก ไม่ต้องกลัว ซ้ายมือสุดของภาพ ที่ริมป่านั้น มีถนนเล็กๆ ขนาดฟอร์ดโฟกัส ยังคลานเข้ามาได้ อิๆๆ ที่สำคัญ มีเสาไฟฟ้าพร้อมสายลากผ่านด้วย อิๆๆ

มุมล่างซ้ายสุดของภาพ ที่ขาดหายไป สุดเขตที่ดิน ติดต่อกับคูน้ำสาธารณะ ที่สามารถผันน้ำต่อมาจากระบบชลประทาน ของอ่างเก็บน้ำคลองน้ำใส

สุดๆ หากชลประทานไม่ส่งน้ำ ยังมีบ่อบาดาล ที่มุมขวาสุดของภาพ ห่างไปประมาณ เกือบ50เมตร ท่อขนาด 6นิ้ว ดูดเอาเลย อิๆๆ

สระถ้าจัดให้อยู่ด้านตะวันออกของตัวบ้าน ลมเข้าบ้านผ่านสระ บ้านจะโปร่งเย็นสดชื่นมาก แต่ก็จะรับพายุลมฝนเต็มๆ
ถ้ารอบข้างเป็นป่ายางก็เยี่ยมครับ ชะลอแรงพายุได้มาก

ว่าตามคุณเบิ้ม.....จัดมุมอย่าให้แดดบ่ายสะท้อนสระเข้าตัวบ้าน ปลูกไม้ใหญ่บังแดดด้านตะวันตก.....ช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ำๆสุโข  ::002::


ขอเติมแจมด้วยภาพอีกหน่อย .... อาศัยไปกางเต้นท์นอนหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว สำรวจทิศทางแสง ช่องทางลม
สถาปนึก ก็นึกๆคิดๆกำหนดที่ตั้งตัวบ้าน ปลูกต้นไม้รอบๆไว้รอ
เมื่อเลือกวางตำแหน่งบ้านได้ (ตามภาพ) ก็จัดหันให้รับแดดเช้า ลมตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านน้ำตรงเข้าหาตัวบ้าน .... รวมทั้งฝนและพายุด้วย ::012::

ปลาไม่เลี้ยงให้แน่นไปนัก น้ำลึก อุณหภูมิเปลี่ยนไม่เร็ว พื้นที่ผิวน้ำก็พอรับออกซิเจนให้พวกเขาได้ครับ

(http://img688.imageshack.us/img688/900/dsc0149gj.jpg)

น่าสนใจมากครับ อยู่ใกล้พี่เข้ม มีเหล้าแพงๆ แถมฟรีให้ชิม  :D~   ::005::

พี่ธำรงค์ มีอะไรแนะนำได้เลยครับ จะเก็บใว้เป็นข้อมูล เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย นอกจาก ขุดดินขึ้นมาถมเพื่อยกระดับใว้อย่างเดียวครับ

จากภาพนี้ แม้ว่าทิศจะไม่ตรงแป๊ะ แต่ประมาณว่า ผมหันหน้าถ่ายรูป หันไปทางทิศเหนือ สภาพแวดล้อมบังคับให้ทำทางเข้าด้านนี้...
(http://image.ohozaa.com/i/4d7/rd8ekv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/vYCu4MYqB19d3XnG)
ขวามือ เป็นสระ รายล้อมรอบไปข้างหลัง วกอ้อมมาทางซ้ายมือครับ.....

ซ้ายมือของภาพ จะเป็นทิศตะวันตก มุมซ้ายนั่น ผมให้แม็คโคมันหิ้วต้นตะแบกมาวางใว้ครับ กะใว้บังแดดยามเย็น ส่วนต้นไม้อื่นๆ ยังไม่ได้วางแผน ที่เห็นเรียวๆเล็กนั้น เป็นต้นมะม่าวครับ ก็ต้นไม้เดิมที่ขึ้นอยู่ ให้รถมันขุดโอนใว้ก่อน พอขุดพูนดินเสร็จ ก็เอากลับมาปลูกๆใว้ กะเอาใว้เป็นอาหารนก

ต้นไม้ปลูกใหม่ของที่นี่ กะเอาใว้ว่า จะรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกหอม ให้ได้มากที่สุดครับ

แยกๆประเภทไป หอมเช้า หอมสาย หอมเที่ยง หอมบ่าย หอมเย็น หอมกลางคืน หอมทั้งวัน คร่าวๆ อิๆๆ

ขออภัย จขกท.ที่ออกนอกบ่อปลาน๊ะครับ แต่มันมีบ่อปลาอยู่ติดกัน 55+

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ sittipong อ่ะ  ฮา

ภาพข้างบน  ยายคิดว่าไม่ิิเวิรค์  อ่ะ  ฮา
ปล่อยน้ำจากมุมสูง  ให้ตกบน "ระหัด"  น้ำที่ตกลงมา  มันไม่แตก ไม่แรง อ่ะ ฮา

วิธีของยาย  ทดลองแล้วในอวกาศ      อ่ะ ฮา
55555 ยายใช้วิธีโบราณ   ที่พวกล้างรถตามปั้มน้ำมัน เขาใช้กัน อ่ะ ฮา

เวลาเรา   เอารถไปล้างที่ปั้ม  เขามีบริการ  "ดูดฝุ่น"  ด้วยอ่ะ
เมื่อก่อนเขาไ่ม่มีเครื่อง " Vaccuum"  เหมือนสมัยนี้ อ่ะ
เขาต่อ  ท่อลม  เสียบลงไป ในสายยางใสแข็ง ขนาดเล็ก รูภายในสักสองหุน
เวลากดลม   ปล่อยออกมา   มันจะพาเศษฝุ่นออกมาด้วย
เพราะลมที่กด  มันแรง เกิดสูญญากาศในท่อ  ดูดฝุ่น  ตามออกมาอ่ะ ฮา

ส่วนปั้มน้ำ  ที่ปล่อยอากาศ  ตามออกมา  ทำง่าย ใช้หลักการเดียวกัน อ่ะ

วิธีทำคือ  ต่อปั้มหอยโข่ง  ให้น้ำเข้าตรงด้าน "ใบพัดทองเหลือง"
ต่อท่อน้ำออก  ตรงด้านบน    ท่อน้ำออก  ทิ้งระยะห่างจากปั้ม  1-2 เมตร
แล้วใช้ข้อลด   1  นิ้วลด  1/2  หรือ สี่หุน 

ตรงปลายท่อสี่หุน  ใช้สามทาง  ตัวที   มาเสียบต่อเอาไว้ 
ปลายสามทางอีกด้านหนึ่ง(ตรงกันข้าม)  ก็เอาท่อ สี่หุน  มาเสียบต่อ  ออกไป 
ท่อน้ำที่ออก  ปลายด้านหนึ่ง   เอาไปลนไฟให้นิ่ม
แล้วใช้   " ฆ้อน " ทุบเบาๆให้แบน  ให้เหลือช่องว่างให้น้ำออก อ่ะ

ส่วนอีกด้านของสามทาง  ที่เป็นมุม 90 องศา  เอาท่อสี่หุน อีกท่อน
มาต่อให้สูง  กะว่าเวลาปั้ม  น้ำไม่ให้ทะลัก ขึ้นมาด้านบน  อ่ะ
เวลาเปิดปั้ม  น้ำจะผลักอากาศ    ออกไปด้วย  อ่ะ ฮา
เป็น  "ฟอง" ฟอดเหมือนตอนเรา รินเบียร์ ใส่แก้ว อ่ะ ฮา

ถ้าจะให้ดี   ทำ  "ทุ่นลอย"   เหมือนตามแบบข้างบน ยิ่งดี อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา
"ทำเล"  ขุดดิน  ลึก เมตร  กว้าง เมตร  ขุดยาวเป็นแนวตลอด  เนี่ยะ  ฮา
ยายนึกไปถึง  Bomb-raid  หรือ  Bunker   เอาไว้  "มุด" 
ตั้งป้อมเอาไว้  "ซัด"  กับแขกแปลกหน้ายามวิกาล อ่ะ  ฮา

ยายคิดว่า  ลุงเข้ม  เขาหลอก  ชวนพี่เบิ้ม  "คนโสด" 
ที่จะมีเมียสวย ในอนาคต  ไปตกระกำ ลำบาก เป็นเพื่อนบ้าน อ่ะ ฮา

ยายเห็นมุมด้านบนขวา  เห็นแว๊บว่าเป็นชายทะเล 
ที่ตรงนี้  หากอยู่ในแหล่ง ที่มีทรายขาว น้ำสะอาด
ลุงเข้ม แกคงไม่ชวนไปอยู่  เป็นสหายข้างแปลง อ่ะ ฮา

ที่แปลงนี้  เวลา  "ซึนามิ" พัดมา 
"คูเรต"  เหล่านี้  กั้นน้ำไม่ได้ อ่ะ ฮา

๕๕๕  ถ้าแกขายวาละ  สี่หรือห้าร้อย 
ยายคิดว่า  ก็น่าสนใจ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

ลุงเข้ม   แกวางแปลนบ้าน   เสียสวยงาม  แต่ไม่ยอมเสีย "อัฐ"
จ้างพวกนักออกแบบ  "Land scape"  มาเขียน หรือ วางแบบให้ อ่ะ ฮา

หุหุหุ  แต่ก็มีข้อดีเหมือนกันอ่ะ   
มี  ลุง "Jack Daniel" ดื่มได้ตลอด อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007::

แกมั่วไปได้ทุกเรื่องจริง ยายบาปเนี่ย ::013:: ::013:: ::013::

หึๆๆ ไม่เฉลยหรอก ว่าอย่างไร แต่โครงการณ์ผม ระยะยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หากใครยังพอจะมีแรงตามติด ก็ค่อยเห็นต่อไป แล้วกัน หึๆๆ

ยังไงๆ ผมลูกศิษย์ลุงแพะอยู่แล้ว

บ่อผม  ขนาด ๑  ไร่   เป็นทั้งที่หาอาหาร  ขอบบ่อเป็นแบล็กสต๊อป

        หึ หึ
เห็นพ่อใย่แป๋ง
ไปป้วนเปี้ยนอยู่เรื่อย
แถว ๆ บ่อพี่ป้อม....... ::007::

ไปให้เจ้าของบ้านมอมเหล้า
ทำอะไรปลาในสระไม่ได้หรอก พี่แป๋งน่ะ

        ผมว่า
"สมัครใจ"ให้เจ้าบ้าน
มอมเหล้า   มากกว่า ครับ ::005:: ::005::

คนนินทาแล้ว   ยังไม่โผล่เลย

ยัง เมา อยู่ครับ..

แนะนำให้หาปลากด มาคุมปริมาณปลากินพืชด้วยครับ  ;D

แล้วเราก็ควบคุมปริมาณปลากดโดยการปักป้ายเขตอภัยทาน

แหล่ม

กังหันน้ำชัยพัฒนาแบบหมุนช้าถ้าใช้เติมออกซิเจนให้ปลาในบ่อดินจะเปลืองไฟฟ้าเดือนละเท่าไหร่ครับ(คิดไว้ก่อน ตอนนี้ในบ่อยังแทบไม่มีปลา)  

สระน้ำตรงนี้  3  งาน

ปล่อย ปลานิล  4  ถุง ๆ ละประมาณ  400  ตัว
และปลา.บึก .อีก  10   ตัว

ลูกปลาบึก ยาว  5  นิ้ว   ตัวละ  50   บาท

ดูแล้วน่าจะเป็นบ่อขุดใหม่ แนะนำให้ทำเป็นกระชังเลี้ยงในบ่อก่อนครับ อัตราการรอดจะเยอะ

เลี้ยงในกระชังซักเดือน แล้วถึงปล่อยให้มันลุยไปทั่วบ่อ 

ใครสนใจ จาระเม็ดน้ำจืด  บ้างครับ ไซส์16-18นิ้ว   1ตัว  ไม่แพงๆ ขายคนในเว็บกันเอง   ::008::
เลิกเลี้ยง บ่อเล็กเกิน     มารับเองนะครับ ที่บิ๊กซีติวานนท์  (ไกล้ๆท่าน้ำนนท์)

(http://upic.me/i/oe/img_2509c.jpg) (http://upic.me/show/36942059)

รูปนี้สวยทั้งแสง ทั้งแบบ ;D ;D ;D

บ่

เป็นบ่อเก่า ขุดลอกใหม่ ครับ เลี้ยงแบบตามยถากรรมนะครับ

อาหาร ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง ไม่ได้อยู่เฝ้า  7 วัน 10 วัน ไปดูทีหนึ่ง

 ::014:: ขอบคุณครับน้าคาร์  ;D

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา
แบบของ  "ชัยพัฒนา"  ที่หมุนช้า  เกิดจากการใช้  "Motor gear" ทดรอบ อ่ะ ฮา

ส่วน  "นา หรือ บ่อกุ้ง"  เขาต่อเพลา  ออกไปทาง ซ้าย และขวา อ่ะ ฮา
ตรงส่วนปลาย  ทั้งสองด้าน  ก็ทำแขน  เอาไว้ตีน้ำ  ให้เป็นฟองอากาศ อ่ะ

ยายคิดว่า  แบบที่ใช้ใน นากุ้ง  สร้าง อ๊อกซิเจน  ได้มากกว่า อ่ะ ฮา

ที่ถาม  ถามว่า  อย่างไหน  "กินไฟน้อยย" 
ทั้งสองแบบ  เมื่อเดินเครื่องในชั่วโมง เท่ากัน
ยายคิดว่า  "ชัยพัฒนา"  กินไฟน้อยกว่า  อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

ถ้าบ่อขนาดเล็ก ใช้ตัวนี้จะได้ผลแค่ไหนไม่รู้นะครับ
http://www.smilepetshop.com/product-th-312913-1094039-Resun+GF+120.html 
ราคาไม่แพง ค่าไฟ 100กว่าบาท/เดือน

แพผักบุ้ง(ผักบุ้งไทยยอดสีแดงที่กินกับส้มตำ)ขอบบ่อด้วยครับ..ควรเก็บไว้หรือเอาออกดี..ตอนนี้มันทอดยอดไปไกลเกือบถึงกลางบ่อแล้ว

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ poethipus  อ่ะ  ฮา
ลำบากนัก  ก็โอน  ยกที่ดิน  ให้ยายเถอะ อ่ะ ฮา

555 ถ้าเจอยายเมื่อหลายปีก่อน   ยายสงสัย
คงจะให้ยาย  เป็น "เถ้าแก่"  ไปขอแม่บ้าน  ให้ด้วยมั้ง  ฮา

ยายถนัด  หรือ ชอบ  เป็นเถ้าแก่  เพราะมี "อั่งเปา" อ่ะ  ฮา
ขออย่างเดียว   อย่าให้ยายไปช่วย "ดันตูด" 
ยายดันไม่ไหว อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)(http://image.ohozaa.com/i/05b/emu0X.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7Y1e)

ถ้าเป็นผมจะเลาะๆออกมั่ง ไม่ต้องให้หมด เก็บไว้พอขยายพันธุ์และปลาได้อยู่อาศัยร่มเงาเย็นๆพร้อมกินรากผักบุ้งไปมั่ง

ส่วนเราก็เหวี่ยงเบ็ดลงข้างกอผักบุ้ง

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ submachine อ่ะ ฮา
เขียน  เหมือนคน "ชนบท"  จริงๆ  เลย อ่ะ  ฮา

ผักบุ้ง ที่มันงอก แล้วเลี้อย ลงไปปกคลุมในบ่อ เนี่ยะ
ชายขอบบ่อ  มันเป็นที่นอน ของลูกปลาตัวเล็กๆ อ่ะ
ขอบบ่อ  ที่ลาดชัน  ทำให้ปลากินเนี้อ  ตัวโต
เข้ามาไล่กิน ลูกปลาตัวเล็ก ไม่ได้ อ่ะ

5555 แต่มี  "ศัตรู"  ชนิดหนึ่งคือ  งู  เขาชอบ อ่ะ ฮา

ริมขอบบ่อ  ด้านบนใกล้น้ำ ยายเอา "โสน" มาปลูกไว้ อ่ะ ฮา
เวลา  เขาออก  "ดอก"    ช่อเล็กๆสีเหลือง 
ยายเก็บเอามาผัด  น้ำมันร้อนๆ ใส่กระเทียม สองสามกลีบทุบ ลงไปด้วยอ่ะ ฮา
หรือไม่ก็เอาไป  ใส่รวมกับไข่  เจียวให้เหลือง  กินกับน้ำพริกกะปิ อ่ะ ฮา ::007:: ::007::

-รอบ ๆ บ่อที่ผมขุดไว้เป็นนาข้าว 3 ด้าน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจอะนกเขาใหญ่และนกพิราบตายพะเนินเลยครับ  นกเขาชวาด้วย 1 ตัว นกพวกนี้มันชอบลานดินที่ไม่ค่อยรก ผมเก็บมาได้ 1 ถังพอดี เอามาเผาด้วยยางรถยนต์ เคยฝังตื้น ๆ หมาก็ขุดขึ้นมากิน จะฝังลึกดินก็แข็งมาก  มีคนบอกว่ามันกินเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เขาคลุกยา "ฟูราดาน"เข้าไป  คนที่ทำแบบนี้ได้ลงผมว่าใจดำมาก นกมันจะกินซักเท่าไหร่เชียว ไว้ผมไปอยู่จริงจังใกล้บ่อเมื่อไหร่ จะปูเสื่อเชิญชวนให้นกมากินเลย
-ในบ่อมีนกเป็ดผี กลัวมันจะกินลูกปลาซะหมด ไล่ก็ไม่บินแต่ดำน้ำหายไปเลย   

   เป็ดผีกับกาน้ำ ถ้ามาอยู่ในบ่อปลาเล็กก็สร้างปัยหาพอสมควรครับ

   ถ้าไม่กลัวบาปนะครับ เป็ดผีนี่ไม่ต้องไปยิงให้เปลืองลูกปืนครับ......มันดำน้ำเก่งยิงลำบาก

   ใช้เบ็ดเบอร์เล็กครับเกี่ยวกุ้งฝอย หรือ ลูกปลากริมก็ได้ ผูกสายเอ็นเล็ก ยาวสัก 2 ฟุต วางเหยื่อไว้บนใบผักนั่นแหละครับ

    มีกี่ตัวรับรองกินหมดครับ

นกพวกนี้ถ้าลงเป็นฝูง  ชาวนาถึงกะร้องไห้เลยครับพี่ เมล็ดที่หว่านไว้เกลี้ยงเรียบ นกพิราบกินตัวนึงเฉลี่ย หนึ่งขีด/ตัว มันลงทีเป็นฝูงไม่ต่ำกว่าร้อยตัว บางทีห้าหกร้อยตัว ถึงหน้ามืดเลยครับ

เค้าคงไม่ได้เจตนาจะฆ่านก เพราะตัวกินก็กินไป ตัวที่เหลือก็ไม่รู้เรื่องมันจะกันอะไรได้ คงคลุกยากันมดกันหนูมันขนเมล็ดพันธุ์ไปกักตุนมากกว่า แต่นกซวยไป

ผมว่าเจตนาฆ่านกเลยครับ เพราะเป็นนาหว่านน้ำตม มดและหนูคงไม่มาก เขาหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวลงบนเลนแฉะ ๆ ที่ทำเทือกไว้แล้ว บางตอนก็มีน้ำบ้างตื้น ๆ 1-2 นิ้ว เคยได้ยินเขาคุยกันว่านกที่ร้ายกาจที่สุดคือเป็ดน้ำ ในตลาดมีนกเป็ดน้ำวางขายด้วย ผ่าท้องถอนขนลนไฟเรียบร้อยแต่ผมไม่กล้าซื้อมากิน     

นกเป็ดน้ำ(มักจะมาเป็นฝูง) ทุ่งใหนว่านข้าวใหม่ๆ โดนเข้าไป พวกที่ไม่ทำนาเอง ไม่รู้ซึ้งหรอกครับ

ยิ่งพวกอนุรักษ์ แต่ สักแต่ว่าอนุรักษ์แต่ปาก ยิ่งแล้วใหญ่...........

เหตุการณ์นี้ มันมองคนละมุม สำหรับ

ชาวนา และพวกอนุรักษ์ หึๆๆ ยังไงๆก็ไม่มีวันเห็นเหมือนกัน ช่วงระยะกว่าต้นข้าวจะงอกขึ้นมาแหละ จากนั้นก็ไม่เท่าไหร่แล้ว นกมันก็หาอย่างอื่นกินต่อไป ดีเสียอีกที่มันจะไปหาลูกหอยเชอร์รี่ย์ (อันนี้เดาเอา แต่ไม่รู้ว่า มันกินหรือเปล่า อิๆๆ)

ตามกฏหมายนกเกือบทุกชนิดในธรรมชาติเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองห้ามล่า
แต่ก็มีข้อยกเว้นหากต้องกระทำเพื่อปกป้องทรัพย์สินของตน และทำในพื้นที่ของตน

-เคยได้ยินเจ้าของโรงสีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งพูดออกโทรทัศน์ว่า ข้าวในลานตากของเขาถูกนกต่าง ๆ จิกกินวันละไม่ต่ำกว่า 1 กระสอบ แต่เขาก็ไม่ได้ฆ่านกพวกนั้นเลย 
-ยังไง ๆ ผมก็ยังสงสารนกครับ  

ขอบคันบ่อมีวัชพืชก้านแข็ง(ราโพ)ขึ้นยังไม่หนาแน่นนัก อยากฉีดด้วย round up อยากทราบว่าฤทธิ์ยาพวกนี้นานไหมครับกว่าจะสลายตัว กลัวน้ำฝนชะยาลงบ่อ ปลาจะตายซะหมด (ตอนนี้ฝนยังไม่ตก)  

ถอนเอาดีกว่าครับ... ยาฆ่าหญ้าพวกนั้น... มันจะกระทบกับทั้งปลาและคนครับ...

เหมือน NGO เปล่าครับ บางครั้งค้านอย่างเดียว ;D ;D ;D แต่พอน้ำท่วมหายหัวหมด พอน้ำลดออกมาอีกแล้ว

ต้องดู ว่าได้เท่าไร เสียอะไรมาเปรียบเทียบกัน

ขอตอบจากที่เคยทำนะครับ จ้างคนมาปราบหญ้าคาขอบบ่อ

ตอนเย็นฝนตก ไม่ถึงกับหนักมาก ตอนเช้าลอยตายเป็นแพ

ที่โคม่าและพะงาบๆ อีกเต็มไปหมด จับกันทั้งวัน ตักตัวที่มีอาการ

บทสรุป ได้ปลาร้าสามโอ่งมังกร(ปลาตะเพียนไซส์เล็ก) ตัวใหญ่ๆ ขายถูกๆ แจกก็เยอะ

อย่าพึ่งเชื่อครับ ลองทำดู ไม่ลองไม่รู้  ;D ;D ::012:: ::014::

ต้นคล้าย ๆ แขมในรูปครับ แต่คนละชนิดกัน มันมีเหง้าอยู่ใต้ดินลึกเชียว ถอนไม่ไหวหรอก   

แสดงว่าครูต้นไม่รู้จักราโพ อิๆๆ ให้ครูต้นมาช่วยถอนแล้วกัน.....

จริงแล้วมันก็มีประโยชน์ของมันครับ ช่วยกันกัดเซาะ พังทะลาย

พวกนี้เหมือนหญ้า มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ถอนแบบดึงขึ้นมา ก็จะงอกใหม่อีก
ดินชายน้ำ หรือดินที่ฝนลงใหม่ๆ ดินนิ่มหน่อย ใช้เสียมปากตรง หน้าคมสัก ๒-๓ นิ้ว เสียบลงไปตัดลึกลงไปใต้ผิวดิน
ต้นใหม่จะแทงยอดไม่พ้นดิน ก็จะเน่าตายไป ถ้ายังมีแทงยอดใหม่ได้ ก็เสียบเสียมลงตัดใหม่อีก
หมั่นทำก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ครับ

แบบพี่ธำรงว่าผมเคยทำกับหญ้าขิง มีหัวใต้ดินเหมือนขิง
ทำกันจนหมดครับ จากรุ่นสู่รุ่น (ที่ดรงเรียนภูมิลำเนา)
มันเป็น วัชพืชที่หัวลึกรากลึกมาก ยากแก่การกำจัด
แต่หญ้าขิงก็มีประโยชน์ตรง หญ้าขิงจะบอกให้รู้ปริมาณน้ำมากหรือน้อย
โดยดูจากข้อหรือปล้องของหญ้า หากข้อปล้องยาว จะมีปริมาณน้ำมากกว่าปกติ 
ถ้าปริมาณน้ำน้อยหญ้าขิงจะมีปล้องถี่

ถ้าต้นแบบในรูป... หลังบ้านผมเต็มไปหมดเลยครับ... บนพื้นที่ราวๆ ๔ ไร่+/- มีแต่ต้นนี้... เจ้าของเขาถางแล้วก็ยังขึ้นมาอีก... ตรงใกล้ๆ รั้วบ้านผมเอาแบ็คโฮไปเขี่ยๆ ก็เตียนไปหลายเดือนครับ...

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=116924.0;attach=215230;image)

เอาไฟจูดแล้วไปไต๊หนู  ;D

จูดบ่ได้... มันใกล้บ้าน... ::005:: ::005:: ::005::

ปล.ในดงนี้มีนกเป็น... กะปูด... กระสา... และอื่นๆ อีกหลายชนิดมาทำรังอยู่ครับ... ;D ;D ;D

ตัดมาทำฟอยก็ดีนะ... ::005::


สภาพแบบนี้น่าจะต้องไถอย่างเดียวครับ ปลูกพืชอื่นคลุม ๆ ไป เดี๋ยวคงหายไปเอง

เป็นบ้านของนก ..... ถ้าท่านจขกท.มีบ่อไม่ลึกมากพอเลี้ยงบัวได้ .... นกกวักมาเป็นเพื่อนครับ
(http://img819.imageshack.us/img819/3281/csc0579.jpg)

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

บ่อหรือสระน้ำของพี่ poethipus เอารถไถ  ไม่จบหรอกอ่ะ ฮา
เพราะใบ "ผาน"  มันปาด ได้เฉพาะ หน้าดิน เท่านั้น อ่ะ
ส่วน ราก มันจมอยู่ในดิน  ไถวันนี้ อีกสองวัน  งอกใหม่อีกแล้ว อ่ะ

มีวิธีเดียวที่  "กำจัด"  ได้คือ  ใช้ยา  "ฆ่าหญ้า"  พ่น อย่างเดียวอ่ะ
ส่วนวิธี  ไม่ให้มีผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ที่อาศัยอยู่ในบ่อ คงต้องหาทางอ่ะ

ยายแนะนำ ให้พ่นจากด้านนอก  เข้ามาหาขอบริมบ่อ
พ่นสองครั้ง ครั้งแรก  ให้เหลือแนวหญ้า  ริมบ่อเอาไว้

พอแนวด้านนอก  เริ่มเหลือง  เริ่มแห้ง  ก็พ่นจากขอบบ่อ ออกไปด้านนอก
ตอนหญ้าตาย  เอาจอบ  หรือ "คราด"  กวาดเศษหญ้า ออกไปทิ้งให้ห่างบ่อ อ่ะ
เวลาผสมยา  อย่าไปผสมใกล้บ่อน้ำ  ตักน้ำไปผสมไกลๆ
น้ำที่เหลือ  อย่าให้ไหลลงสู่บ่อ  ปลาจะตาย อ่ะ

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย  ตอนจะพ่นยา  ให้ดูหรือเดาว่า  ฝนจะไม่ตกในอีก สอง สาม ชั่วโมงข้างหน้า
ส่วนผสม  ใช้ 250 ซีซี  ต่อน้ำ 20 ลิตร  พ่นลงไปบริเวณยอด ลงไปด้านล่างอ่ะ

เมื่อหญ้าตายหมดแล้ว  หา "หน่อกล้วย"  มาปลูกคลุมดิน  ระยะห่าง 4 เมตร
ในระหว่าง  กอกล้วย เอา ตะไคร้ ลงตรงกลาง อ่ะ
พอกล้วยยืนต้นได้   หญ้าจะขึ้นน้อย  เพราะใบกล้วยบังแดด อ่ะ

สวนของยายก็ใช้วิธีนี้แหละ  ปลูกกล้วย  ตอนก่อนฝนมา
ปลูกไว้  สี่ห้าร้อยต้น  ตอนนี้ต้นโตเป็นเมตรแล้ว อ่ะ
รออีก แปดเดือน  ได้กล้วย สี่ห้าร้อย เครือ  ขายเครือละร้อยเดียว ก็พอ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007::


ส่วนสวนของพี่ธำรง  ยายลืมแนะนำ ให้หาไก่พันธุ์พื้นบ้าน เอาไปปล่อยอ่ะ
เลือกตัวผู้ตัวเดียว ตัวเมียสัก สามตัว  เอาไปปล่อยให้เขาหากินเอาเอง
ช่วงแรก ก็ให้เศษปลายข้าว หว่านให้กิน เช้าเย็น เลี้ยงแบบปล่อย

ส่วนในสวน เอากล้วยน้ำว้า ไปปลูกแซม เอาไว้สี่ห้ากอ
พอออกเครือ  กล้วยสุก  จะมีนก หลายชนิด  มาเยี่ยมเยียน
ส่วนเจ้าของ  คอยเอากล้องส่องดู  นั่งฟังเสียงของเขาตอนเช้าอ่ะ ฮา  ::007::

ขอบคุณน้ำใจและคำแนะนำครับป้าbabara.  ::014::
ผมเอาไก่ป่ามาเลี้ยง 10-20 ตัว เดิมก็ปล่อยอิสระครับ กลางคืนเขาขึ้นกอไผ่เอาตัวรอดได้ แต่มาเสร็จเจ้าตัวกินไก่ตอนกลางวัน ที่มาซุ่มชายๆสวน
ตอนนี้ต้องเก็บเข้ากรง หลังจากสูญพันธุ์ไปแล้วหนึ่งรุ่น ตอนนี้มีเสียงไก่ขันทั้งวันทั้งคืน  :D  แต่เสียงขันนำศัตรูเข้ามาหาพวกเขาครับ  ::012::  ทำไงดี

สวนป้าbabara ดูกล้วยได้ราคาดีนะครับ ผมไม่ได้ขายเพราะราคาคนกลางมารับซื้อถูกมาก ก็เลยปล่อยสุกให้นกกิน กับเอามาทำกล้วยตากอนามัยไว้แจกผู้ใหญ่
อ้อ ต้องบอกท่านโพธิด้วยว่าอย่าปลูกกล้วยใกล้ขอบสระ กล้วยเบียดดินทำให้ตลิ่งพัง  ::012::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

ยายเอาปัญหา  ไอ้ตัว  "วรนุข" ของพี่ธำรง ไปนอนคิดสองคืนอ่ะ ฮา
ถ้าจะให้  ถูก "โฉลก"  กับ  เจ้าที่เจ้าทาง  กับท่านเจ้าของ อ่ะ ฮา

ยายจะแนะนำให้ทำ  "กับดัก"  กรงเหล็ก  ใส่ไก่  ล่อเขา ให้เข้ามากิน อ่ะ
พอเขาเดินเข้ามา  ประตูก็หล่น "กึก" เหมือนเราล่อจับหนู อ่ะ ฮา
จับได้  ก็เอาไปปล่อยไกลๆ  ห่างบ้าน ห่างชุมชน อ่ะ ฮา

ส่วนศัตรูประเภทอื่น  ก็แล้วแต่เวรกรรม ของไก่ อ่ะ ฮา

เรื่องกล้วย  ยายไปเดินตลาดตอนเช้า  กล้วยดิบ  ลูกขนาดย่อมๆ
เขาขายกันหวีละ ยี่สิบ ยี่สิบห้า  ถ้าเราขายทั้งเครือ ลูกขนาดใหญ่
น่าจะได้  ร้อยนึง  ยายคาดหวังอย่างนั้น อ่ะ ฮา

กล้วยไข่  พันธุ์กำแพงเพชร ที่เอามาปลูก
ตอนติด "ปลี"  ยายเอา  46-0-0 โรยกำมือเดียว
แล้วหักปลี  ให้เหลือ 7 หวี  เวลากล้วยสุก
มัน "เต่งตึง" เหมือน ตะบอง ยักษ์วัดแจ้ง เลยอ่ะ ฮา

55555 ยายยังไม่เคยได้ขาย  ได้แต่เอาไปแจกเขา อ่ะ ฮา  ::007::

๕๖-๐-๐  มันเป็นสูตรบำรุงใบครับยาย   ถ้าจะบำรุงลูกต้อง  ๐-๐-๖๐  ครับ

บำรุงต้นด้วยลูกด้วยก็  ๑๓-๑๓-๒๑  หรือสูตรอื่นที่มีโพแทสเซี่ยมมาก ๆ   ;D

กล้วยเลี้ยงลูกด้วยใบครับ บางคนตัดใบกล้วยทิ้ง หวังจะให้ลูกมันโต ๆ กลายเป็นกล้วยตานีปลายหวีเหี่ยวไปเลย  ::005::

ตัดใบทิ้งหมดแล้วต้นกลัวมันได้ธาตุอาหารมาแล้วจะปรุงอาหารยังไงล่ะครับ   ;D

ขอบคุณป้าbabara. ::014::
เจ้า "วรนุช" เขารบกวนเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาอยู่มากเหมือนกัน เอาไปปล่อยพวกคงได้โวย

ผมกะใช้วิธีของป้า แต่เอาแค่จัดพื้นที่เหมาะๆ เอาไก่ใส่กรงใส่สุ่มไปตั้งไว้ ใช้CZ452ติดกล้องเก็บซะ
พร้อมถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่าป้องกันทรัพย์ ... กันโดนข้อหาล่าสัตว์คุ้มครอง
แต่แผนนี้ต้องระงับเพราะผบ.ทบ.ไม่อนุมัติ  ::012::

ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นวรนุชให้เห็นในสวน เพราะฝูงสุนัขตรวจตราอยู่รอบ
แต่กลับไม่กล้าปล่อยไก่ออกมา กลัวต้องยิงหมาแทน  :D

ถูกต้องครับ ปุ๋ยเน้นตัวหลัง บำรุงผล

ไอ้วรนุชเนี่ยเคยเจอตัวขนาด2.5เมตรมาเกาะขอบหน้าต่างดูทีวีข้างหลังผม ได้ยินเสียงแกรกๆ หันไปดู  เหี้ย... >:( คว้าปืนมันวิ่งปรู้ดเดียวเข้าป่าละเมาะไปเลย ทิ้งรอยเล็บไว้บนพื้นคอนกรีตลึกสักประมาณมิลนึงไว้ให้ดูต่างหน้า  :o

ตั้งแต่มหาอุทกปีที่แล้ว วรนุชแทบจะสูญพันธุ์ หายหน้าไปเลยหลายเดือน เมื่อปีห้าศูนย์ หน่วยงานผมมีแคมป์งานก่อสร้างขนาดใหญ่ คนงานร่วมสองสามร้อย

พื้นที่เป็นป่า เขตราชการไม่มีคนนอกบุกรุก สวรรค์ของวรนุช แต่ก็มีทั้งคนรักคนชัง คนงานในแคมป์เกือบทั้งหมดเป็นอีสานบ้านผม เขมรอีกนิดหน่อย การไล่ล่าจึงเกิดขึ้น

คนงานผมมองเห็นช่องทางธุรกิจ วรนุชแลกเหล้า จับไปขาย ตัวใหญ่สุดสองเมตรกว่า เกือบจะดับแนว แต่ก็กินไม่หมด เพราะมีเยอะ มันรู้ว่าคนไล่ล่า ก็หลบซ่อนไม่ปรากฏตัว

ก่อนหน้านั้นเคยปวดหัวกับวรนุช เพราะมีเยอะ มันรู้ว่าคนไม่ทำไร มันก็ไม่เกรงกลัว ขวางถนน ขโมยของกิน ฯลฯ กลุ่มคนเกลียดวรนุช เสนอแผนกำจัด โดยใช้แลน*****

หมักกับซี่โครงไก่ ได้ผลเกิดคาด แต่ที่คาดไม่ถึงคือ บางตัวมันเสือกไม่ตายในป่า ตัวใหญ่โซซัดโซเซเข้ามาตายใต้ซอกตึกลึกๆ ตามเข้าไปเก็บซากไม่ได้ โดนวรนุชเอาคืน

นั่งดมซากวรนุชเน่านานนับเดือน บางวันทนไม่ไหว ออกมาโก่งคออ๊วกกันหน้าตึก กลิ่นเน่าเข้าไปในแอร์ พี่น้องเอ้ย....สุดบรรยาย ::007:: ::012:: ::014::

แหล่มเลย

กลิ่นติดจมูก

เคยกินวรนุชคั่ว/ผัดเผ็ด  กินแกล้มเหล้าอร่อยดีครับ   ;D

กบกินแต่ มากกว่านั้น เลี้อยคลานทำใจไม่ได้ ;D ;D ;D ไม่คุ้น จระเข้ วรนุช แย้

เข้าปาก  ไม่บอก ไม่รู้

ไม่รู้อาจสั่งเบิ้ลครับ ;D ;D ;D

ถูกต้องครับ น้า carrera

มันกำซาบ...

-ได้แวะไปดูปลาเฉพาะวันเสาว์-อาทิตย์ ล่าสุดพอผมเข้าใกล้มีรถซาเล้งตัดหญ้าเลี้ยงวัวรีบขับออกไปจากที่ของผม โปรยอาหารแล้วไม่เห็นปลาสวาย 4-5 ตัว ขึ้นมาเหมือนเคย ปลานิลพ่อแม่พันธุ์ก็เห็นแค่ไม่กี่ตัว..ไม่รู้อุปาทานหรือเปล่า
-แจ้งข่าว..เริ่มเห็นลูกปลานิลบ้างแล้ว ตัวขนาดใบมะขามก็มี เล็กกว่าก็มี   ปลาตะเพียนขนาด 2 นิ้วมือโตช้าเหลือเกิน ส่วนปลาแรดไม่เห็นเลย   

ที่ทำรั้วกันบ้างเปล่าครับ ;D ;D ;D

หึๆๆ ใต้กองหญ้า ทั้งปลาทั้งแห หลักฐานอยู่ตรงนั้น 55+ เนียนจริงๆ แสดงว่าอยู่ไม่ไกล พอทราบความเคลื่อนใหวเจ้าของบ่อ น่าจะจำรถได้ด้วย อิๆๆ

ตัดกิ่งไม้หนามผูกเชือกซ่อนโยนๆลงไปบ้าง

กิ่งไม้หนาม ชิวๆครับ

ดักมือหว่านแห ต้องนี่เลย..

ลวดหนามเก่าๆครับม้วนๆโยนลงไป ให้ดี ใช้ตะขอปักกดให้ติดพื้นใว้หน่อย ปากใหนปากนั้น เหลือแต่สายเชือกกลับบ้าน หึๆๆ

Ha Ha Ha   ฮา  "ฮั่นแน่"  ลุงเข้ม อ่ะ  ฮา

แล้วตอน "เจ้าของ"  จะจับเอาปลาในบ่อ  จะทำยังงัยดีอ่ะ ฮา
55555555 สอนผูก  แล้วต้อง  "สอนแก้"  ด้วยอ่ะ  ฮา

เมื่อก่อนยายเห็นเขาเอา  "กิ่งไผ่"  ที่มีหนาม  ใส่ลงไปในบ่ออ่ะ ฮา
พอโยนแห  ลงไปโครม  มันก็ติด  ต้องลงไปงมแกะ เอาอ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

แหล่มเลย

โหดร้าย

ปักหลาวเลย....

ปักป้ายไว้ดีไหมครับ บอกว่ามีของดักไว้ใต้น้ำ ;D ;D ;D ระวังแหขาด

เห็นใจครับ......เอาแหมาทอด เอาลูกเราไป  :'(

แถวบ้านใช้กิ่งมะขามเทศทิ้งลงไปครับ   คนไม่รู้ทอดแหลงไป แกะกันนานครับ   :D :D

     ใช้เหง้ากอไผ่ไส่ในบ่อ (เอาที่มีรากมากๆหน่อย)  หว่านแห-ลงเมื่อไหร่เจ้าของได้แต่เชือกผูกกลับบ้าน   

     ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือเป็นที่อยู่ให้ปลาด้วยครับ.

     ก่อนโยนลงบ่อใช้เชือกผูกไว้ด้วยเพราะตอนจะจับปลาจะได้ดึงออก.

ก็น้าเขาเลี้ยงใว้แบบไม่หวังจะเอามากินนี่ครับ เลยแนะแบบนี้ หากจะเอามากิน หรือใว้จับเอง ก็ใช้วิธีอื่น...
 เช่น

มีสองอย่างครับ กินไม่ลง หรือ อร่อยไปเลย ;D ;D ;D 555555 ขอให้สร้างบ้านเสร็จไวๆครับ

-เมื่อหว่านอาหารเม็ดเห็นมีแต่ปลาตะเพียนตัวเท่า 2-3 นิ้วมือ มาแย่งกันกิน มันว่องไวมากจนปลาอื่นไม่ได้กินเลย..มีวิธีจัดการอย่างไรครับ
-ถาม..กุ้งฝอยท้องนา มีหลายชนิดไหมครับ ตอนเด็ก ๆ ผมเคยช้อนมาต้มจำได้ว่าตัวโตเท่าเม็ดพริกขี้หนูสวน บนหัวเห็นตับสีเขียวชาวบ้านเรียกมันกุ้ง ในบ่อผมลองหว่านรำละเอียดลงไป กุ้งฝอยมาตอมยุ่บเลยแต่ตัวเล็กเหลือเกิน เล็กกว่าก้านไม้ขีดซะอีก ยาวราว 1 ซม.อาศัยอยู่ตามรากผักบุ้ง ไม่พบตัวที่โตกว่านี้ เลยสงสัยว่ามันชนิด(species) เดียวกันหรือเปล่า ?      

หว่านให้เป็นวงกว้าง  กระจาย ๆ ครับ   ;D

       


      ไอ้พวกแหขี้ขโมย ต้องเจอหนามไผ่สลับกับหนามพุงดอครับ

       หนามไผ่ไว้ปราบแห ส่วนหนามพุงดอไว้ปราบเจ้าของแห รังรองว่าบ่งออกยากกว่าหนามมะขามเทศ 7 เท่า   ::005::

       

บ้านผมใช้กิ่งไผ่

มีลูกปลานิลเกิดใหม่มากแต่ก็มีปัญหาอีกคือนกกาน้ำมาลงทุกวัน เท่าที่พบมาตัวเดียว ค่อนข้างเชื่อง ผมตบมือไล่ก็ไม่ไป ต้องเดินเข้าไปใกล้ถึงได้บิน มีวิธีไล่แบบไหนบ้างครับที่ไม่ต้องฆ่ามัน  

ถ้าอยู่ใกล้ ๆ บ้าน  ใช้เชือกผูกกระป๋องหรืออย่างอื่นดึงให้สั่นแล้วเกิดเสียงก็ได้ครับ  ไม่ต้องเดินไปไล่   ::014::

ซุ่มแล้วเอามาทำกับแกล้มครับ เราไม่ได้ออกล่า แต่มันมารบกวนปลาที่เราเลี้ยงเอง เหมือนพี่อีกคนที่เลี้ยงกบ ตอนค่ำๆดันมีนกฮูกเจ้ากรรมาโฉบกินลูกกบแก แค่แกบอกผมเท่านั้นแหละ ลาบเอ่ย แกงป่านกฮุกเอ่ย สารพัดจะเมนู หุหุ ;D :D~ ::005::

CZ พิมพ์นิยม ;D ;D ;D เอาอยู่

อ้าวขอโทษที นึกว่ามาเป็นฝูงๆและไม่อยากฆ่ามัน งั้นคงต้องลงทุนซื้อตาข่ายมาคลุ้มบ่อแล้วครับ วินวินทั้งสองฝ่าย ;D

-ตอนนี้มี(ลูก)ปลานิลมากกว่าปลาอื่นทุกชนิด .. มันเชื่องคน(กลางวัน)และชอบตอมแสงไฟ(กลางคืน) หว่านอาหารลงไปกี่โล ๆ ก็ดูเหมือนไม่รู้จักพอ.. ปัญหาใหม่ที่พบคือ..มันไม่โตครับ..ตัวขนาด 3 นิ้วมือน่าจะร่วม ๆ พันตัวแล้ว มาเป็นฝูงน้ำเดือดเลย ปลาตะเพียนที่ว่าว่องไวยังแทรกเข้ามายาก ต้องอยู่วงนอก แต่บ่อไม่แน่นนะครับ ยังรับได้อีกเยอะ ..ทำไงให้มันโตวันโตคืนเหมือนปลานิลแปลงเพศได้บ้างครับ..ผมให้อาหาร(อาหารเม็ดสำหรับปลาดุก-คนขายบอกโปรตีนสูงกว่าอาหารปลากินพืช)ตอนเย็นวันละครั้ง     
-ฝนเริ่มชุกแล้ว ไม่นานน้ำคงเต็มบ่อ มีวิธีป้องกันปลาหมอและปลาดุก หนีออกยังไงบ้างครับ (รถขุดมันขี้โกงทำคันบ่อให้สูงไม่พอ)  

น่าจะอาหารไม่พอครับเลยโตช้า เพราะเราไม่ได้เตรียมการก่อนปล่อยคือปลูกผักบุ้งนารอบบ่อให้เลื้อยในน้ำเป็นอาหารให้กินตลอด ปลูกตอนนี้ไม่ได้โตแน่ ไม่งั้นก็ต้องหาตัดหญ้าขนให้ตอดกินเล่น  ;D

อ้าว..เสียดายจริง..เคยมีผักบุ้งแดงเลื้อยลงบ่อไปไกลเลย ผมเอาขึ้นหมดเหลือไว้บ้างแค่หัวบ่อ-ท้ายบ่อ มันรำคาญลูกกะตาครับ เหมือนบ่อรกร้างไม่ดูแลยังไงก็ไม่รู้..รูเท่าไม่ถึงการณ์แท้ ๆ   

ผักบุ้ง ผักกะเฉด หรือเอาแหนแดงมาลงครับ แต่แหนคงไม่ทันโต เว้นแต่มีบ่ออีกสักบ่อไว้เพาะแหน แล้วเอามาใส่บ่อนี้

ขอบคุณครับ..เลี้ยงผักบุ้งใหม่ไม่ยาก..แหน..เคยช้อนมาโปรยหนเดียวไม่กี่นาทีมันกินเกลี้ยง..ผักตบชวาเคยโยนลงไป 2-3 กอก็ไม่โตครับ..ที่ริมบ่อตื้น ๆ เคยเห็นสันตะวา(ไม้น้ำใบใหญ่สีน้ำตาล) แต่บางวันพบมันลอยขึ้นมาทั้งรากทั้งโคนแต่ใบหายหมดเลย..ตอนนี้เห็นเหลือแต่บัวอย่างเดียว  

ผมว่าเพาะแหนแดงไว้เป็นอาหารปลากินพืชช่วยลดต้นทุนได้เยอะนะครับ   ;D

สันตะวาถ้าน้ำนิ่งไม่ค่อยงาม ชอบน้ำไหล

-ช่วยด้วย..ชักสู้ค่าอาหารเม็ดไม่ไหวแล้ว..ไม่ให้กินก็ไม่ได้เพราะพอเห็นคนมันรีบมามะรุมมะตุ้มทันที..(โฮ) ..--เคยโปรยข้าวสุก(เหลือจากหมากิน)ให้..มันไม่กินครับ แต่ผมก็โปรยจนหมดเผื่อปลาปลาหมอ ปลาตะเพียนจะกิน  

ปล่อยธรรมชาติครับพี่ ให้มันควบคุมกันเอง ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  โตว้าหน่อยแต่ได้ปลาเนื้อแน่น อิอิ  ;D

ไปที่ตลาด หาแผงขายไก่ ถามเขาว่า พวกใส้ไก่ เครื่องในไก่ที่เหลือทิ้งมีคนซื้อหรือยัง
ถ้าไม่มีเหมามาครับ เอามาสับๆเป็นท่อน โปรยลงบ่อ กินเหมือนกัน ราคาถูกด้วย

กากมะพร้าวในตลาดแบบที่แม่ค้าคั้นกะทิ เหลือกากมา พอทำอาหารปลาได้ แต่ดูด้วย
ราคาเท่าไหร่ รำละเอียด อีกอย่าง

ดูวิธีทำอาหารปลาด้วยตนเองที่นี่
http://www2.it.mju.ac.th/dbresearch/rae/index.php?option=com_content&view=article&id=1229:food-fish&catid=125:feb-2553&Itemid=494 (http://www2.it.mju.ac.th/dbresearch/rae/index.php?option=com_content&view=article&id=1229:food-fish&catid=125:feb-2553&Itemid=494)

หาแหล่งน้ำธรรมชาติที่พอหาแหนได้ เสียเวลาสักหน่อย แต่ทุ่นได้เยอะ

ต้นทุนสำคัญของการเลี้ยงปลาคืออาหารปลาครับ ทุ่นได้ทุ่นไปเถอะ
อีกอย่างรูปแบบของการให้อาหารก็มีส่วนสำคัญ ไม่ควรหว่านอาหารลงบ่อในบริเวณแคบๆ
ควรหว่านกว้างๆ ปลาจะได้กินทั่วถึง

ลิงค์ มันขึ้น เป็น โทรจัน ครับ พี่ ซับ

เอ๊า.... เวงแระตรู

ไปล้วงข้อความมาให้แล้วกัน



การทำอาหารเลี้ยงปลาด้วยตนเอง (14-02-53)


ผู้ดำเนินรายการ  นายพิชัย  สมบูรณ์วงศ์ และนางจิรนันท์  เสนานาญ

วิทยากร ผศ.ดร.บัญชา  ทองมี   คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ      มหาวิทยาลัยแม่โจ้

 การทำอาหารเลี้ยงปลาด้วยตนเอง

ส่วนผสมอาหารปลาดุก

                1. รำละเอียด                         2              กระสอบปุ๋ย
                2. กากมะพร้าว                     1              กระสอบปุ๋ย
                3. ปลาป่น                              6             กิโลกรัม
                4. กากถั่วเหลือง                   6             กิโลกรัม
                5. จุลินทรีย์EM                     1              ลิตร
                6. กากน้ำตาล                        1              กิโลกรัม
                7. น้ำมันพืช                          1 – 2       ลิตร

วิธีทำ
                1. นำส่วนผสมข้อ 1 1 กระสอบ ข้อ 2,3,4 คลุกให้เข้ากัน
                2. นำส่วนผสม ข้อ 5,6 ผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อคลุกเคล้าส่วนผสม ข้อ 1 หมักไว้ 12 ชั่วโมง
                3. นำส่วนผสมที่หมักไว้ในข้อ 1,2 ผสมกับรำละเอียด 1 กระสอบและน้ำมันพืช 1 – 2 ลิตรคลุกเคล้านำเข้าเครื่องอัดเม็ดผึ่งแดด 2 วัน เก็บไว้ได้ 2 เดือน

 


การทำอาหารเลี้ยงปลาดุก - กบ  แบบประหยัด

Frog Food in save method

วัสดุการทำอาหารปลา  ประกอบด้วย

                1.  ขี้วัว  หรือ  ขี้ควาย  แห้ง                                                           2    ส่วน

                2.  กากมะพร้าว  หรือ  กากถั่วเหลือง                                                         2    ส่วน

                3.  รำละเอียด  (รำอ่อน)                                                                      2              ส่วน

                4.  ไส้ปลา  หรือ  ไส้ไก่  หรือ  ปลาบด  หรือ  ไข่ไก่ ไข่เป็ด          2              ส่วน

 (ทำอาหรปลานิลไม่ต้องใช้)

                5.  ใบกระถิน  หรือผักตบ  หรือ  ผักบุ้ง  (หั่นละเอียด                   1             ส่วน

                6.  ข้าวจ้าว  หรือ  ปลายข้าว  ที่นึ่งสุกแล้ว                                        1              ส่วน      

                7.  จุลินทรีย์ที่ขยายแล้วพอประมาณ  (ใช้เฉพาะทำอาหารปลานิล)

 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมอาหาร  ประกอบด้วย

                1.  ถุงมือยาง                                                                                                                   1     คู่

                2.  กาละมังขนาดตามต้องการ                                                                           1              ใบ

                3.  เครื่องบดเนื้อ                                                                                  1              เครื่อง

 

วิธีทำ

                1.  นำวัสดุฯ  ตามข้อ  1  ถึง  ข้อ  6  ใส่ในกาละมังแล้วคลุกให้เข้ากัน

                2.  นำจุลินทรีย์ที่ขยายแล้ว  (ทำอาหารปลาดุก/กบให้ใช้น้ำธรรมดา)  เทผสมพอประมาณและคลุกเคล้ากับวัสดุให้เข้ากัน  เพื่อให้มีความชื้น  ประมาณ  60%  (สังเกตุได้จากเมื่อนำมาปั้นเป็นก้อน  ไม่มีน้ำ  ไหลออกตามง่ายมือ)

                3.  นำอาหารปลาที่ผสมแล้วเข้าเครื่องบด  เพื่อบดออกมาให้เป็นเส้น  แล้วนำไปตากแห้งโดยตากใส่แผ่นสังกะสี  หรือให้ปลากินสดๆ  ก็ได้  (หากจะให้อาหารละเอียดมากขึ้นให้บด  2  ครั้ง)

การให้อาหาร  ปลาเล็ก  ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงจนปลามีอายุ  1  เดือน  ควรให้อาหารสด  (เมื่อบดเสร็จให้ปั้นเป็นก้อนกลมๆ  ใช้ภาชนะรอง  หย่อนลงในบ่อปลา)  เมื่อปลาอายุครบ  1  เดือน  จึงให้อาหารแห้ง

 

การทำอาหารกบ

หากต้องการทำอาหารเพื่อใช้เลี้ยงกบให้ใช้ปลาทูเล็กบดแทนไส้ปลา  หรือไส้ไก่  เมื่อผสมและคลุกเคล้ากันจนได้ที่แล้วนำไปให้กบกินสดๆ  จะทำให้กบโตเร็วขึ้น
  รายการวิทยุมก.พบประชาชน - เดือนกุมภาพันธ์ 2553

อยากมีที่เลี้ยงเหมือนกันครับ ชอบเลี้ยงปลาเหมือนกันเลย..

-มีคนไปเห็นลูกปลานิล(แคระ)ในบ่อผมแล้วชอบใจ อยากได้พ่อแม่ปลา ไปปล่อยบ้าง ฝากผมช่วยซื้อให้ด้วย..ได้เลย..ของแกเป็นบ่อกุ้งร้าง 3 ไร่ มีผักบุ้งและธูปฤาษีขึ้นประปราย น้ำ(น้ำฝน)ลึกไม่เกินเข่า คันบ่อรกด้วยไม้พุ่มเตี้ย ๆ ผมกลัวจังว่าจะมีนาก แต่แกว่าไม่มี  
-พ่อแม่ปลาที่ผมซื้อมา ตัวลาย ๆ ครีบไม่แดง คนขาย(บัณฑิต ม.แม่โจ้)บอกว่าเป็นพันธุ์จิตรลดา 1-2-3 (จิตรลดา 4 ก็มีแล้ว แต่เขายังไม่ได้ทำขาย)ปลาถูกปรับปรุงพันธุ์มาตลอดให้มีหัวเล็ก เนื้อหนา เขาว่าปลานิลครีบแดงที่ผมรู้จักสมัย พศ. 2514 นั้นเป็นพันธุ์ original หัวโต เนื้อบาง เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเลี้ยงแล้ว  
-เจ้าของบ่อแกหวังว่าเดือน พย.-ธค.2555 ฝนจะตกจนน้ำเต็มบ่อ ถ้าลูกปลาเกิดมากแกจะปล่อยปลากะพงขาว ให้กะพงขาวกินลูกปลานิลอีกต่อ แกไม่ต้องเปลืองค่าปลาสด..(หัวใสจัง-มีแบบนี้ด้วยเหรอครับ) ผมลืมไปอย่างหนึ่งบ่อกุ้งร้างของแกไม่มีชานบ่อ ปลานิลมันจะวางไข่มั้ยครับ..ถ้ามันไม่วางไข่กลัวจะโดนด่านิ
 

ต้องเลี้ยงกระพงขาวครับ :D

ไม่ต้องห่วงครับปลานิลมันไข่ได้ทุกที่แหละครับอีกอย่างมันเอาไข่ไว้ในปากมันครับ

ฝนชุก น้ำในบ่อเริ่มสูงขึ้นแล้วครับ กลัวปลา(ดุก)หนีเหมือนกัน ซื้อมาใส่ไว้หลายซะหลายกิโล ถ้าหนีออกไปเจอะน้ำผสมยาฆ่าหอยเชอรี่ตราหมาแดงในทุ่งนา..เน่าแน่นอน(โฮ)      

หนีไปเสียดายเนอะ ;D ;D ;D ย่างซะดีกว่า

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่  carrera อ่ะ ฮา

ยายผิดไปแย้ว  ยาย "ขอโต๊ด"   อ่ะ  ฮา
ที่เอารูป เป็ด ไปบอกเป็น  "ไดโนเสาร์"  รมควัน อ่ะ ฮา

แต่ถ้าเรื่อง  "ปลา"  เผา  ยายรู้จริง อ่ะ ฮา

ไอ้ปลานา  ปลาหนองเนียะ  เอาเกลือทา  เอาใบตองห่อ  ยกขึ้นเตาก็ได้ อ่ะ ฮา
แต่พอเผาไปแล้ว  ใบตองไหม้  สุกบ้าง  ดิบบ้าง  กินไม่อร่อย อ่ะ ฮา

ทุกวันนี้ เวลายายไปที่สวน  ก็เตรียม  "อลุมิเนียม ฟอลย์"  ใส่ท้ายรถไปด้วยอ่ะ

ไอ้เด็กที่อยู่สวน  สี่ห้าหกคน  มันจัดแจง เอาแห  ไปทอดปลาเตรียมเลยอ่ะ ฮา
พอได้ปลา  เขาก็จัดแจงทำความสะอาด  เอาใส้ เอาขี้ออก 

พอล้างเกลี้ยง  เขาก็เอามาใส่มือยาย  ฮา

ยายควัก  ฟอลย์  จะมาห่อ  ตัวปลาอ่ะ
ไอ้เด็กมันก็ยื่น  ใบมะกรูด  ต้นตะไคร้  บอกว่าให้ยายใส่ลงไปด้วย ฮา

เวลาเผา  ให้สังเกตุ  น้ำที่ไหล  กับ ควันที่สีขาวๆ ฮา
ถ้าปลามันใกล้สุก  น้ำมันจะไหลออกมาน้อย  อ่ะ ฮา  ::007::

น้ำจิ้มเหรอ  ไม่ต้องใช้อะไรมากอ่ะ ฮา

พอเรา "แหก"  ฟอลย์ออก  ก็เอา พริกไทป่น  ง่วนสูน  โปรยลงไป
แล้วเหยาะ  ด้วย  "แม็กกี้"  ตามลงไป  แค่นี้ก็  อร่อย  เกือบ เหาะ แล้วอ่ะ ฮา

555 ดื่มกับหงส์ทอง  โซดาสิงห์ อ่ะ ฮา  ::005:: ::006:: ::007:: ::007::

น่าอร่อยครับยาย ;D ;D ;D แต่คนรักปราเดี๋ยวเขาเคืองเอาว่าไปกินปลาเขาเปล่า

ปลาสดๆนี่ทำอะไรก็อร่อย

ทำข้าวมันไก่ไม่อร่อยครับพี่    ::005:: ::005:: ::005::

อย่างนั้นทำไม่เป็นแล้วนั่น ;D ;D ;D 555555

ผมเลี้ยงปลา ดุก บิ๊กอุย 8000 ตัวบ่อผ้ายาง บ่อปููน   ปลากดเหลือง 1000 ตัว บ่อดิน กินใส่ไก่ ถ่ายน้ำทุกวัน ครับ เศษข้าวเหลือกินของนักเรียนก็ชอบกินครับ สนุกจัง ตัวโตสุดเลี้ยงได้ 2 กก.(บุ๊กอุย)

  ไม่เคืองแน่นอนครับ..ผมก็ชอบ ปลาเผาอร่อยดี แต่ไม่ได้ใช้ฟอยล์ ใช้ปลานิลตัวโต ๆ ทาเกลือป่น ย่างบนเตาถ่าน ราวครึ่งชั่วโมงสุก เวลากินก็ลอกเกล็ดทิ้งไป เนื้อขาวเชียว     

เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ครับ  ;D

บ่อขนาด 4x4 เมตร บ่อซีเมนต์  เลี้ยงจำนวน 1000-1500 ขนาดดี โตเร็ว นานๆ จะให้อาหารสำเร็จสักครั้ง  ::014::

ใครมีโอ่งมังกรก็เลี้ยงได้ครับ มีคนเลี้ยงมาแล้ว

เคยลองเอาปลาที่ทางแพปลาคัดออกไม่เอาแล้ว ไปให้กิน ปรากฏว่ามันชอบมาก

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/402977_543874332308249_914289130_n.jpg)

ผมอยากทำมีที่อยู่2ไร่ ขุดบ่อไว้งานนึงว่าจะเลี้ยงปลาโดยมีหมูหรือแพะอยู่ด้านบนบ่อ แต่อยากได้ตังค์บ้างได้ข้อมูลจากพี่แล้วแทบจะอยากเลิกเลยครับ อาจทิ้งที่ไว้เปล่าๆ
ขอบคุณพี่ๆมากครับ

ลองทำดูก่อนครับ เลี้ยงปลาที่กินพืช พวกปลานิล ปลาดุกขายง่ายครับ
อาหารก็ดัดแปลงได้ตามถนัด

-ปลานิลเกิดในบ่อเองแบบของผมนี่..เลี้ยงไม่โต..ตั้งนานแล้วยังเล็กกว่าฝ่ามืออยู่เลย..(โฮ)
-ถ้าโยนผักบุ้งลงไปมันจะมารุมกันกิน แป๊บเดียวใบโกร๋น แต่ผักบุ้งที่ขึ้นในบ่อ(ใบอยู่พ้นน้ำ) มันไม่กินครับ   

ลองเอาแหน ไปลงดูครับ กินเหมือนกัน

จริงๆการเลี้ยงปลากินพืช สมควรปลูกพืชน้ำ พวกผักบุ้ง ผักกะเฉด แหนก่อน
พอพืชน้ำขยายพันธุ์แล้่วค่อยเอาปลากินพืชลงครับ

ใบมันสำปะหลังก็ใช้เลี้ยงปลากินพืชได้ครับ   ;D

ถามผู้ร้ครับ

บ่อมีคราบสีแดง ลอยอยู่บนพื้นน้ำ

แต่พอหว่านอาหารปลาลงไป ไม่นาน จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน

เกิดจากอะไร มีปัญหาอะไรไหม  แก้อย่างไร

ขอบคุณครับ

ถามผู้ร้ครับ

บ่อมีคราบสีแดง ลอยอยู่บนพื้นน้ำ

แต่พอหว่านอาหารปลาลงไป ไม่นาน จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน

เกิดจากอะไร มีปัญหาอะไรไหม  แก้อย่างไร

ขอบคุณครับ

ถมที่ด้วยดินลูกใช่ไหมครับ..น้ำจึงแดง  

ลืมเล่าครับ

มีบ่อเดิมอยู่บ้าง แต่ไปขุดเพิ่มเติม ให้กว้างออก แล้วเอาดินนั้น ไปถมอีกฝั่งหนึ่งของบ่อ เพื่อทำทางระบายน้ำ

ดินที่ถม ไม่ใช่ลูกรัง

สาหร่ายสีน้ำตาลครับ

ได้ข่าวว่ามีบ่อปลาสลิคแถวบางบ่ออยู่แห่งหนึ่งที่ไม่ใช้อาหารเลี้ยงปลา
แต่ใช้หญ้าชนิดหนึ่งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทำให้ปลาสลิดที่ได้ไร้มัน
แถมประหยัดราคาค่าอาหารได้มาก

 ไม่ทราบท่านใดทราบบ่อปลาที่ว่า หรือว่าหญ้าที่ใช้เลี้ยงไม๊ครับ

คาดว่าเป็นหญ้าที่ใช้เสียงสัตว์นี่แหละครับ  แต่คงเป็นใบหรือยอดอ่อน   ::014::

ปลาสลิดไม่ใช้อาหารเท่าไรครับ  อย่างมากก็แค่รำ  เขาจะให้หญ้าขึ้นในบ่อเยอะๆ หญ้าจะสร้างอาหารโดยธรรมชาติให้ปลาสลิดเอง  :D

มีสูตรฟางข้าวหรือเศษหญ้า + ขี้วัว  สำหรับเลี้ยงปลากินพืชครับ   ::014::

จากคุณ pp_79  เว็บเกษตรพอเพียง   ::002::


(http://picth.com/get/sooWu/SDC10019-1.jpg)

ขั้นตอนการทำ

1.นำไม้มาปักเป็นแนว ป้องกันฟางหรือเศษหญ้าลอยออกกลางบ่อ
2.นำฟางหรือเศษหญ้ากองลงที่บ่อ ( ในน้ำ )

(http://picth.com/get/CXilW/SDC10040.jpg)

3.โรยขี้วัวลงบนฟางครับ หนาพอประมาณ

(http://picth.com/get/R4hk0/sdc10043k.jpg)

4.รดน้ำ ( กวักน้ำ )ให้ขี้วัวเปียก
5.ทำซ้ำข้อ 2 - 4 ประมาณ 3 - 4 ชั้นครับ

(http://picth.com/get/zo6kn/sdc10047x.jpg)

เสร็จแล้วครับ กองประมาณนี้ ก็ใช้ได้นาน ประมาณ 1 เดือน เมื่อหมดก็ทำเพิ่ม
( ทฤษฎี: โดยย้ายที่ไปตำแหน่งใหม่ของสระครับ เพื่อลดการสะสมของหญ้าหรือฟางในตำแหน่งเดิม )
ผมทำตำแหน่งเดิมทุกครั้งก็หมดครับ แบบว่าไม่ต้องการปักไม้พิ่มบ่อยๆครับ ( ขี้เกียจ    )

เอาผลผลิต มาให้ดูกันครับ ( ทั้งกินและขาย ) เลี้ยงแบบพอเพียง 8- 12 เดือนครับ
ขนาด 2 -3 ตัวโล ครับ ถ้าขายก็ 45 - 50 บาท/กก ครับ ( ขายเองวันละไม่เกิน 10 กิโลกรัมครับ )

(http://picth.com/get/A8WIP/sdc10168.jpg)


สำหรับการรักษาคุณภาพน้ำ ผมใช้ EM 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร ผสมน้ำ 200 ลิตร หมักไว้ 7 วัน
แล้วตักสาดให้กระจายทั่วบ่อ เหลือ น้ำหมัก EM ไว้ 1/4 ของถัง เติมกากน้ำตาล 1 ลิตร
เติมน้ำให้ครบ 200 ลิตร หมักต่อ 7 วัน แล้วสาดเหมือนเดิมครับ

EM 1 ลิตร หมักต่อเชื้อได้ 3 ครั้ง ครับ เมื่อครบ 3 ครั้ง ก็หมักใหม่ครับ หรือถ้าสะดวกหน่อก็ใช้ EM ก้อน

โยนลงบ่อเลยครับ   น้ำที่บ่อ 1 ของผม ใช้อาบ ล้างจาน และกิจกรรมอื่นๆ ในสวน ไม่มีกลิ่นครับ

http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=18005.16


 ::014::

ยังไม่เข้าใจเล็กน้อยครับ.. ขี้งัวบนกองฟาง..เป็นอาหารปลาโดยตรง หรือว่ามันช่วยสร้างอาหารปลา(เช่นลูกไร)ขึ้นมา   

น่าจะทั้งสองอย่าง  คือ เป็นอาหารปลาโดยตรงและสร้างไรน้ำด้วย   เจ้าของสูตรบอกว่ากองนี้ใช้ได้นาน ๑ เดือน

แสดงว่าปลามันต้องกินฟางข้าวหรือเศษหญ้าและขี้วัวเข้าไปด้วย  ลำพังปล่อยให้ย่อยตามธรรมชาติ ๑ เดือนไม่มีทางย่อยหมดแน่ ๆ   ::014::

ขอบคุณครับ..ต้องลองทำดูบ้างแล้ว  

ถ้ามีศาลากลางน้ำผมว่าน่าจะดี..ข้างล่างมีฝูงปลา..คนต้องอยากไปนั่ง..ปัญหาที่แก้ไม่ตกคือ
ไม่รู้จะปักเสายังไง(ไม่อยากสูบน้ำออกเสียดายปลา) พอมีคำแนะนำไหมครับ    

เอาแค่ริมน้ำก่อนดีไหม กลางน้ำ ผมว่าเสียหลายตัง ;D ;D ;D ยาก

เห็นมีโครงการบ้านลอยน้ำหลายรูปแบบ กำลังดูๆอยู่ว่าไหวไหม เอาไว้พักผ่อน/รับรองแขก
ใครใช้แล้ว ดี/ไม่ดี อย่างไร (ขออนุญาตจขกท.)มาแชร์ความเห็นหน่อยครับ

เน็ตช้า กว่าจะอ่านหมดทุกหน้าใช้เวลาเป็นครึ่งค่อนวัน ขออนุญาตถามพี่ๆนะครับ

มีบ่อปลาอยู่ ๑ งาน ลึกพอสมควร ไม่รู้ว่าพ่อตาปล่อยปลาอะไรลงไปหรือยัง

หากยังไม่ปล่อย ควรจะปล่อยปลาอะไรดีครับ

ไม่เน้นขาย เลี้ยงเองบ้าง เทวดาเลี้ยงบ้างครับ

ขอบคุณครับ

ปลาที่มากะฟ้ากะฝนกะดินกะน้ำน่าจะมีปลาเข็ง ปลาข่อ  ปลาซิว ปลาสร้อย  เอาปลานิลงก่อนครับ มาดถานเลย  แล้วก็ปลาตะเพียน นอกนั้นอยากกินปลาไรปล่อยเลยครับ  ถ้ามีกุ้งแม่น้ำเป็นๆ แนะนำปล่อยด้วย อิอิ

ใช้ทุ่นลอย

(http://www.weekendhobby.com/camp/webboard/picture%5C251254912262.jpg)

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSDWc-5tYTHkHaeEAsOrer8f8l0LGMC0e7PmfSrcEdKmBkbx946)

ลองไปนั่งร้านอาหารที่ใช้ถังฟ้าทำทุ่นลอยดูครับ เผื่อได้ไอเดีย

ผมเคยปล่อยปลายี่สกเทศแบบปล่อยลืม  บ่อใหญ่ประมาณ 2 งาน  ลึกสุดแขนแม็คโคร ....ปล่อยลืมประมาณ 5-6 ปี ....ไปตกเล่น   ตัวไซร์ประมาณเกือบสิบโลครับ

ถ้าปล่อยแล้วไม่ต้องกลัวขโมยมาช๊อตมาหว่านแห....แนะนำปลาแรด กับยี่สกเทศครับ.....เนื้ออร่อย  ตัวใหญ่

ขออนุญาติตอบนะครับ เนื่องจากผมเคยสร้าง..

ก่อนอื่นต้องรู้ความลึกของน้ำจนถึงก้นบ่อ แล้วบวกเผื่อไปอีก 2 เมตร...

ผูกเหล็กเข้าแบบหล่อฐานรากแผ่ขนาด 1 x 1 เมตร หนา 30 ซม. พร้อมเสาขนาด 20 x 20 ซม. หล่อบนบก จำนวนต้นตามแบบ ปลายเสาให้งอเหล็กเป็นรูห่วงเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. ไว้ด้วย...

พันหุ้มเสาและฐานรากด้วยพลาสติกใสกันชื้น ทิ้งไว้ 21 วัน...

ครบกำหนดให้ใช้รถเครน 25 ตัน ยกเสาดังกล่าวหย่อนลงไปในบ่อตามตำแหน่งในแบบที่เราวางแปลนไว้ ใช้ไม้ยึดเสาต่างๆ ทิ้งไว้ซัก 2-3 วันให้ดินใต้ฐานรากเซทตัว แล้วค่อยถ่ายระดับตัดหัวเสาเพื่อทำงานในขั้นตอนอื่นต่อไปครับ....

ถ้าเลี้ยงแบบดูด้วยกินด้วย... แนะนำปลาไนครับ... เพราะปลาไนก็ครือๆกันกับปลาคาร์ป... มีทั้งสีขี้โคลนดั้งเดิม... สีเหลืองที่ทอง... สีลายๆ ฯลฯ เลี้ยงง่าย... โตไว... ทนทาน... แถมเนื้ออร่อยก้างไม่เยอะครับ... ;D ;D ;D

แล้วถ้าเลี้ยงปลาดุกจะได้ไหมครับ

ปลาดุกก็ดีครับ... แต่ถ้าอาหารไม่ถึง... ดุกอุยจะกลายเป็นดุกด้าน... ที่โรงเรียนเคยเจอมาแล้ว... เลี้ยงสาธิต... แต่ใช้อาหารผิดสูตร... ดุกอุยกลายเป็นดุกด้านครับ... เนื้อแน้นแน่น... ;D ;D ;D

...แต่ถ้าเลี้ยงในบ่อดิน... ปัญหาคือ... ปลาดุกอาจจะปีนออกจากบ่อครับ... ต้องทำแนวกั้น...

ขอบพระคุณครับ..แต่มันเป็นงานเป็นการ(จริงจัง)เกินไปไหม..ผมแค่จะปลูกศาลาไม้ ไม่กั้นฝา ขนาดเท่า ๆ ที่พักผู้โดยสารของกรมทางหลวง เท่านั้นเองครับ เสาอาจเป็นไม้หรือเสาปูนสำเร็จรูป 5x5 นิ้ว น้ำลึก 3 ม.ครับ เห็นชาวบ้านเลี้ยงปลากะพงรอบเกาะยอ ปลูกกันเต็มทะเลสาบสงขลา ไม่รู้เขามีวิธีปักเสายังไง     

ปลากินพืชครับ  เพราะมันกินพืชน้ำ  พืชบกได้  ลดต้นทุนได้เยอะ  ส่วนพันธุ์ปลากินพืชก็ตามแต่ชอบ  ::014::

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/942217_471269102957142_1744506220_n.jpg)

ปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์ ปลูกได้ตลอดปี ใน 1 ปีปลูกได้ 3-4 ครั้งเหมาะกับคนที่มีพื้นที่น้อย ปลูกข้าว 30 บ่อ ปีละ 3 ครั้ง ก็จะมีข้าวบริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี

http://www.monmai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/ (http://www.monmai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/)

เขาถามเรื่องเลี้ยงปลา  ปลูกข้าวในบ่อส้วมมาจากไหน   ::013::

็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่  Sitthipong อ่ะ ฮา

อ้าววว...ยายเพิ่งรู้   ปลากิน  "พืช บน บก" ได้ ฮา
5555 ท่าทาง  ต้องทำ "ทางลาด"  ให้มันเดินขึ้นมา จากบ่อ น๊ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::


แหมมมมม... ซื้อข้าวสาร  กระสอบเดียว  เรื่องมากจัง  ฮา
5555 จ่ายเงินทั้งที  จะเอา  " 50 "  กิโล  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

ศาลากลางน้ำแบบนี้ครับ..แต่ไม่ต้องกั้นฝา..รูปนี้เขาเลี้ยงปลากะพงที่เกาะยอ น้ำลึกราว 1 เมตร ครับ  

ยายบ๊าบ  โชว์  "ตรรกะโง่"  อีกแล้วนะครับ  โดนเพื่อนสมาชิกประจานหลายครั้งก็ยังไม่หลาบจำ   :DD

ผมว่าผมเขียนชัดแล้วนะครับ "ปลากินพืชครับ  เพราะมันกินพืชน้ำ  พืชบกได้"  หัดใช้สติปัญญาในทางที่ถูกบ้างนะครับ

อย่าเอาแต่เอาไปกระแนะกระแหนคนอื่นเขา  ปัญญามันจะทึบเหมือนปัจจุบันนี้  มันจะอายชาวบ้านเขาครับ

เรื่องข้าวสารกระสอบละไม่ถึง ๕๐ กิโลฯ  หากกล้าก็แสดงตัวไปห้องการเมืองครับ  ไม่กล้าแสดงตัวทำตัวเป็นอีแอบก็เงียบเถอะครับ  ::005::


กระทู้เขาก็บอกชัดว่า "...เลี้ยงปลา..."  ก็แสดงว่าต้องมีที่เลี้ยงนอกเหนือจากแหล่งน้ำธรรมชาติ  ต้องหาอาหารให้ปลากิน  

จะพืชน้ำหรือพืชบก  คนเลี้ยงก็ต้องไปหามาให้ปลากิน  พืชน้ำที่ปลากินพืชกินก็จำพวก  จอก แหน หรือพืชน้ำต่าง ๆ

พืชบกที่ปลากินได้ก็จำพวกใบมันสำปะหลัง  ใบหญ้าเลี้ยงสัตว์  ฟางข้าว+มูลสัตว์  อันนี้ผมลงข้อมูลไว้แล้วหาอ่านได้

จากระทู้นี้แหละ  


สติปัญญามีแล้ว  ควรใช้ในทางที่ถูกครับ   :)

        หึ หึ
เล่น แทงเข่าชายโครงเลย
น่ามีเจ็บ หายใจไม่ออกกันบ้าง ::005:: ::005::

        ไม่เลี้ยง
ปลาสองตีนมั่งเฮ้อ5555

(http://s14.postimg.org/e0a0851ox/doqe.gif) (http://postimage.org/)

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  ครู หมู อ่ะ  ฮา

โอ้ย โอ้ย โอ้ย  "อย่า"  ทามล้าย  โผ๊มมมมมมม ฮา

ยายฮา   เรื่อง  "ข้าวสาร"  อ่ะ  ฮา  55555
เสี่ย  "พ้ง"  แกไม่รู้อะไรเลย  อ่ ะ  ฮา  ::007::

สงสัยอ่านภาษา  "อินเดีย"  ไม่ออก ฮา   ::005:: ::005::

ไม่รู้จัก  "Net weight  / gross weight"  อ่ะ ฮา
ข้างกระสอบ  ก็บอก  " forty eight kilo " ฮา
กรู  จา เอา  "ห้า ฉิบ ห้าฉิบ"  อ่ะ ฮา

แกไม่ได้อ่าน  ข้างกระสอบ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::009::

555 ฉาม จุด 1 จุ๋น  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

        อ้าว
อย่างนั้นดอกหรือ..ฮา

-วานซืนผมเอากิ่งไม้ไปจมไว้แถวขอบบ่อ เพื่อให้ปลาได้มี "บ้าน" อยู่บ้าง คิดว่าดีกว่าปล่อยโล่ง ๆ(ในบ่อพืชน้ำขึ้นไม่ได้เลย เอาสายบัวมาปลูก พอเริ่มจะงามพวกตอดกินเกลี้ยง ขนาดสาหร่ายหางกระรอกที่แตกกิ่งก้านในโอ่งเร็วมากจนปลาหางนกยูงตาย เอาไปใส่ก็ไม่เหลือซาก ผักตบชวาก็รากกุดหมดแล้วตาย) ปลามันกลัวกันมาก ตอนหว่านอาหารปกติจะเข้ามารุมกิน วันนี้เข้ามากิน ๆ แล้วก็แตกฮือ ก่อนใส่กิ่งไม้ปลาเคยมีอาการแตกฮือบ้างนาน ๆ ครั้ง เหมือนตกใจอะไรบางอย่าง ผมเดาว่าคงมีสัตว์กินเนื้ออยู่ตรงนั้น ในบ่อมีปลาบู่และปลาช่อนอย่างละตัว ปลาฉลาด ปลากรายก็ปล่อยตอนยังตัวเล็กไม่น่าเป็นอันตราย ปลาไหลใส่ 1 โลกว่า ราว 4-5 ตัว  ไม่นานนี้ผมขุดกองดินพบงูสีดำสนิท(ไม่รู้จักชนิด)ตัวเท่าแขนเด็ก ยาวสัก 1 เมตร มันเลื้อยปรู้ดหนีลงบ่อไปเลย   
-วันที่ 2 หว่านอาหารบริเวณที่จมกิ่งไม้ไว้ปลาก็ยังกลัวเหมือนเดิม   

งูงวงช้างนี่คือจอมตะกละกินปลาที่สุดตัวหนึ่ง วิดหนองแต่ละทีชุมยังกะยุง
ต้องคอยทุบทิ้ง
 รูปร่างใหญ่ น่ากลัว ฟันคม ไม่มีพิษ นิสสัยยังกะหมู คือแค่ตะกละอย่างเดียว ตอนเด็กๆ พอตอนวิดหนองแห้งและลงจับปลา
ผู้ใหญ่มักจะจับหางมันตวัดขึ้นมาที่ขอบหนองเด็กๆ อย่างผมก็ตกใจทีวิ่งกันพ่าน มีเยอะไม่ดีครับแย่งกินปลาคนหมด

(http://www.bobthai.com/wp-content/uploads/2011/11/biodiversity-14577-1.jpg)

(http://www.bobthai.com/wp-content/uploads/2011/11/snake_1.jpg)

เนี่ยท่าประจำเขาเลย ตอนอยู่ในน้ำมันชอบทำเหมือนไม้หลักปักนิ่งอยู่แบบนี้แหละหลอกปลาให้ไว้ใจว่ายเข้ามาใกล้ แล้วควับ ตวัดเลย
เวลานั่งบนกิ่งไทรเหนือหนองน้ำ สังเกตุดูดีๆ มันชอบหลอกแบบนี้แหละ คนสังเกตรู้ครับ แต่ปลาไม่รู้ มันนิ่งอยู่ได้นานๆครับ
แต่หัวไม่พ้นน้ำแบบนี้นะครับ ทำคอตั้งอยู่ใต้น้ำแบบนี้แหละ
(http://www.moohin.com/animals/images/331_001.jpg)

ตามหนองน้ำทุ่งนาแถบลุ่มแม่น้ำปากพนังที่น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงน่าจะยังมีอยู่เยอะนะครับ เช่น บางส่วนของ ปากพนัง เชียรใหญ่ หัวไทร ขะอวด ระโนด
ลองเตร่ๆ ไปตามที่เขาวิดหนองกันตอนหน้าแล้งหลังเกี่ยวข้างหมดแล้วครับ น้ำมันงวดเหลือแต่ในหนอง งูมันก็ตามปลามากองกันในหนองนี่แหละ
ที่ไหนมีหนองน้ำปลาน้ำจืด น่าจะยังมีอยู่ครับ มันน่ากลัวจะตายไปตรงขนาดนี่แหละครับ ทั้งๆที่ตัวจริงไม่มีอะไร


จากนิสสัยที่มันชอบทำเป็นหัวหลักหัวตอใต้น้ำนี่แหละบางทีเราสังเกตรู้แล้วว่ามันแน่ เราก็แกล้งมันโดนการปาก้อนดินใส่มัน
มันก็ทำใจดีสู้เสือต่อไป ทำเฉยๆงั้นแหละ ทั้งๆที่ความจริงมันคงกลัวจนตัวสั่นแล้ว สังเกตได้จากการแกล้งในขั้นต่อมาครับ
คือถ้าขว้างแล้วมันทำเฉย เราก็จะเอาไม้ยาวๆ ทิ่มมันเลย ทีนี้แหละ มันรีบผลุบเลย นึกว่าจะแน่ ::007:: ::007:: ::007::
 เอ่อ จริงๆ ผมเริ่มงงๆ แล้วเนี่ยว่า นิสสัยแบบนี้มันงูดินหรืองูงวงช้างกันแน่

-หัวไทร ปากพนัง ระโนด เชียรใหญ่ ชะอวด เป็นที่ราบชายฝั่งทะเล แถวนี้ไม่มีงูงวงช้างครับ ..(จึงอยากจะเอามาเลี้ยงไว้ศึกษา)
-งูน้ำทุกชนิดผมเห็นมันชอบยืดคอขึ้นมาหายใจที่ผิวน้ำครั้งละนาน ๆ จนดูเหมือนท่อนไม้ทั้งนั้นเลยครับ..

รูปนี้ดูใหญ่จัง มันโตได้สักเท่าไรครับ ;D ;D ;D กี่เมตร

อ้าว แถวบ้านผมก็ที่ราบลุ่มปากพนังต่อแดนเชียรใหญ่ น้ำทะเลขึ้นไม่ถึงอยู่แล้ว มีทุ่งนาและหนองน้ำเยอะแยะ
และงูชนิดนี้ก็เพียบจริงๆ ผมจำได้บ้านผมวิดหนองแต่ละที ผู้ใหญ่จะจับหางมันเหวี่ยงขึ้นมา ตายแห้งอยู่ขอบหนองเพียบ
 บางทีญาติๆ ที่เป็นวัยรุ่นหนุ่มคะนองก็จับมันกรีดท้องลูกอ่อนทะลักออกมายั้วเยี้ยเลยครับ
 แถวสามสี่อำเภอนี้แหละครับผมยืนยันว่ามันมีแน่ๆ แต่ที่ไม่แน่ใจคือ ผมจากบ้านมานานแล้ว กาลเวลามันผ่านไปนานการทำนา
ก็ใช้สารเคมีมากขึ้นเพื่อกำจัดหอยเชอร์รี่ ไม่ทราบว่างูพลอยหมดไปด้วยหรือเปล่า

ทุกมกราคม แถวบ้านจะมีแบบนี้  ;D

(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1521702_1399045167012061_1769095847_n.jpg)

(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/1535673_1399045180345393_742622659_n.jpg)

ทำไมจับง่ายจัง ;D ;D ;D

ลูกนกเขาครับ หัดบิน
ถ่ายรูปเสร็จก็ปล่อยคืน

55555  ว๊ายยยยย   ตาเถร ตกต้นตาล    " งูดิน จะกิน ลูกนก "  อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

ขนยังขึ้นไม่เต็ม

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1508624_1399047117011866_1095795676_n.jpg)

น้าซับคุยกับนกเขารู้เรื่องด้วย   ;D

จะถามนกเขาน่ะครับ ว่าขันยังไง

::007:: ::007:: ::007::

::014::

บ่อนี้กะว่าจะลงแซลม่อนซักสองพันตัว...เก๋าซักสองพันตัว
(http://image.ohozaa.com/i/5fd/iKlouD.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xlqtfQDKozjeGhrU)

บ่อนี้กำลังหาซิวอ้าวพันธุ์ดีๆมาปล่อย ไว้รับรองพี่น้องผองเพื่อนครับ
(http://image.ohozaa.com/i/eee/zuveTy.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/xlqrOa1cEwFgoXZB)

อิ อิ  ลงปลาแดดเดียวด้วยนะ ผมชอบกิน..  :D~ :D~ :D~

  ปลาซิวอ้าวเป็นตัวยังไงเหรอครับน้าเป้า  หรือว่าปลาซิวที่ร้อนอบอ้าวเพราะว่ายน้ำตากแดด ::005::

ไม่มีใครเลี้ยงปลาแรดบ้างเหรอครับ   ;D

ผมใส่ไว้ 50 ทำไมเห็นแค่ 3 ตัวก็ไม่รู้ โตเท่า ๆ ปลานิลและตะเพียน แต่เชื่องช้าถูกพวกนั้นแย่งอาหารกินหมด  

         เหลือไว้ลงปลาแดกด้วยเด้อ....

สู้ผมไม่ได้... บ่อปลาคาร์ปเมื่อก่อนบ่อเล็กๆ มีปลาทั้งเล็กทั้งใหญ่ราวๆ ๕๐ ตัว... อยู่มาได้สองสามปีไม่ค่อยตาย... แต่พอย้ายมาลงบ่อใหม่ไม่กี่สัปดาห์... ปลาเป็นโรคตายเกือยบยกบ่อ... เหลือรอดเพียงตัวเดียว ;D ;D ;D

...ตัวที่รอดเพราะแยกออกมาใส่กาละมังใหญ่... ใส่เกลือฆ่าเชื้อจนหายดี... ส่วนบ่อใหญ่จัดการตากให้แห้ง... ล้าง... ตากอีกรอบ... แล้วก็ใส่น้ำใส่วัสดุกรองใหม่(ค่าน้ำบานแน่ๆ เดือนนี้) เมื่อวานเลยจัดการเอาตัวที่รอดตัวเดียวนั้นไปล่อยซะเลย... แล้วไปเอาปลาชุดใหม่มาลงซะเลยครับ...

ครูต้นลองลงทำบ่อใหม่เสร็จ ฆ่าเชื้อเสร็จ จะลงปลาอะไรนึกสถึงสวายไว้บ้าง
มันคือปลาเทศบาลแห่งภูมิลำเนาไทยโดยแท้จริง
หากินหน้าดิน ขี้ปลาหรือสิ่งสกปรกก้นบ่อมันกวาดได้เรียบ ก้นบ่อสะอาดขึ้น
ไม่งั้นพอหมักหมมนานๆเข้า พอถึงหน้าหนาว น้ำเป็นฟองปุดมั่ง น้ำกระด้างมั่ง ปลาก็ติดเชื้อ

ในภาพ หมอพีเพื่อนผมปล่อยไว้จัดการก้นบ่อไว้ตั้งแต่ตัวเท่าเหรียญ10บาทเมื่อกลางปี55
ผมเอาขึ้นมาตอนต้นปี57 สัปดาห์ที่แล้วนี่เอง

(http://image.free.in.th/v/2013/ix/140117032725.jpg) (http://pic.free.in.th/id/34eaa648fb3cb17fb888e5d200a4abee)

ตอนนี้เอาซัคเกอร์ลงไว้ตัวนึงครับ... คาดว่าจะหาเพิ่มอีกซักสองตัว... ;D ;D ;D

...ลูกปลาสวายหัวตัวสองตัวไม่ค่อยได้ครับ...

ง่า...ซัคเกอร์มันแดร๊กเรียบเลยนะครับ
ปลาอื่นวางไข่คงไม่เหลือ  :~) :~) :~)

ผมเลี้ยงปลาคาร์ปในบ่อซีเมนต์นะครับพี่... มันคงไม่วางไข่หรอกมัีงครับ... ;D ;D ;D

     เคยเลี้ยง ซัคเกอร์ ในอ่างปลาครับ มันคงหาอะไรกินไม่อิ่ม มันกินปลาตัวเล็ก ๆ เลย
ส่วน คาร์ฟ นี่ผมก็เลี้ยง   ออกไข่ด้วยนะครับ ตอนแรกสังเกตุเห็นเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้าย
เม็ดสาคูเกาะตามขอบอ่าง ลองเอาเชือกฟางมามัดทำสาหร่ายเทียมแช่ไว้ในอ่าง  ปรากฎ
ว่า มีไข่เกาะติดเต็มเลยครับ  แยกมาไว้ในอ่างแก้วเล็ก อัดอ๊อกซิเจนไว้ตลอดเวลา ก็ออก
มาเป็นตัวได้ครับ
     ตอนนี้ ก็เลี้ยงรุ่นลูกที่ได้มานี่แหละครับ ส่วนรุ่นพ่อ - แม่เค้านั้น โดนนกยางมากินไป
เรียบร้อย รุ่นลูกนี่เลยต้องทำตาข่ายกันไว้

+๑๐  ::007::  ::007::  ::007::

ระวังซัคเกอร์แพร่พันธ์นะครับ ;D ;D ;D ตกขึ้นมาโยนไว้บนบกมันยังกระดึ๊บจะลงน้ำทนมาก ตายยาก กินปลาอื่นหมด

อย่าปล่อยปลาซัคเกอร์ลงแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นพอครับ  ไม่งั้นแย่แน่  ;D

      ปลาคาร์ฟรุ่นเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ได้นี่ตัวโตขนาดใหน ยังไงถึงโดนนกยางกินได้ครับ  ??? ??? ???

ซัคเกอร์หลุดลงแหล่งน้ไธรรมชาตินี่น่ากลัวครับ... ตะกละ... กินแหลก... ทนทายาท... แถมโตเร็วแพร่พันธุ์เร็ว... ปลาอื่นๆ ฉิบหายวายวอดหมดครับ... หนองน้ำใหญ่ข้างบ้านผมเคยเจอปัญหานี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน... เพิ่งมาหมดปัญหาไปเมื่อตอนที่ทางการเขาขุดลอกหนองน้ำใหม่ครับ...

...แต่ผมก็เคยเจอซัคเกอร์ในแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่บ่อยๆ ชาวบ้านเขาหอดแหได้... ตัวขนาดหน้าแข้ง... เห็นเขาเอาโยนเข้ากองไฟทำเป็นปลาเผา... เห็นว่าเนื้อรสชาติหวานอร่อยครับ... แต่ผมไม่เคยลองชิมกับเขา...  ;D ;D ;D

     ที่บ้านเลี้ยงในอ่างไฟเบอร์ครับ  ตอนเค้าออกไข่ตัวก็ยาวซัก 6 - 7 นิ้วเองครับไม่ได้ใหญ่มาก  คงจะท้องแรกมั๊งครับ  ::005::
แล้วอ่างนี่ก็อยู่ริม ๆ ระเบียงกลางแจ้ง  หลายอ่างครับ ปลาคาร์ฟ ปลาทอง ปลาดาบ ช่วงนั้น  แล้งมาก นกยางมันคงบินผ่านมา
เห็นน้ำเข้า  เลยแวะลง เห็นปลาเข้ามันเลยล่อซะ  ปลาทองก็โดนไปหลายตัวครับ  กว่าจะหาทางป้องกันทัน
     เจ้าน้องคนนึงเค้ารู้เข้า  หัวเราะขำใหญ่เลยครับ  บอกว่า พี่น่ะดีนะ  ไม่ต้องไปหาซื้อนกยางปูนปั้นมาประดับ  มีของจริงเลย
ประหยัดเงินได้ตั้งหลายร้อย ...  ::009::

น่าขุดบ่อล่อน้าซับ
เห็นมีบ่อที่ไหน ชอบไปที่นั่น

แต่บ่อบ้านรองป้อมตาซับแห้ว ::007::

ปลาคาร์ฟใหญ่นี่ 80-120 CM ก็ได้นะครับแล้วแต่พันธ์  ;D ;D ;D ถ้าเลี้ยงบ่อดินยิ่งโตไว

ผมก็ไม่กล้ากิน   ;D

ที่บ้านเลี้ยงปลาหางนกยูง  กับปลาสอด สีส้ม ๆ  ;D

     นึกว่าตัวใหญ่ๆในบ่อลึก เลยสงสัยครับ





     เคยมีโอกาสตกปลา koi แม่น้ำที่ญี่ปุ่น คนไทยที่นั่นบอกว่าเป็นปลาไนอันเดียวกันกับปลาคาร์ฟ เพียงแต่สีจะเป็นแบบธรรมชาติ ตัวขนาด 5 โล 8 โล อยู่เป็นฝูงเยอะแยะไปหมด

ได้กินไหมครับ ;D ;D ;D เขาว่าก้างมันเยอะ จริงไหมครับ

     เคยกินอยู่ครั้งเดียว เพื่อนชาวเหนือทำลาบให้ลองกิน พ่อสับเสียละเอียดเลยไม่รู้ว่ามันกางเยอะหรือเปล่าครับ

     อร่อยดี แต่น่าจะอร่อยเครื่องลาบซะมากกว่า  ;D

     คนญี่ปุ่นเองไม่กินปลา koi ตามแม่น้ำทั่วไป นัยว่าน้ำไม่สะอาดปลาเลยไม่สะอาดพอ...แต่ปลา koi ที่อยู่ในแม่น้ำตามภูเขาในเขตหนาว น้ำสะอาด เอามากินเป็นปลาดิบก็มี แต่ไม่นืยมเหมือนปลาทะเลน้ำลึก...อันนี้เพื่อนก็เล่ามาอีกทีครับ  ;D

ปลาคาร์พนี่ เคยอยู่ครั้งนึงครับ บ้านเพื่อนเค้าเลี้ยงไว้ในบ่อดิน  จับมาตัวอ้วน ๆ ขนาดแขนผู้ใหญ่
ลองเอามานึ่งแบบแป๊ะซะแกล้มเบียร์  กินได้คนละคำสองคำ เนื้อเละ ๆ แหยะ ๆ ไม่อร่อยเลยครับ

คงต้องย่าง หรือทอด ล่ะมั้งครับ   ;D

ตอนนั้น ไม่มีใครอยากทำอะไรกันแล้วครับ นอกจาก คอยกินอย่างเดียว

495 ขอบคุณครับ ;D ;D ;D

เลี้ยงปลาประเภทเผือก เช่น สวายเผือก แรดเผือก ฯลฯ โตขายได้ราคาดีครับ

ปลาแรดตัวใหญ่ๆดุใช่เล่นนะครับ ;D ;D ;D

บ่อดินโตไว แต่สีสันไม่เข้ม  บ่อซีเมนต์สีเข้ม แต่โตช้า

ที่เมืองไทยก็หลังจากไปบ้านหมอพี เช้ามาไปบ้านเพื่อนอีกคน
ตกได้ปลาคาร์ฟเหมือนกัน เพื่อนปล่อยดุก ปล่อยสวาย แต่เมียเอาคาร์ฟมาลง
ตกได้แล้วต้องปล่อย ไม่ได้ถ่ายรูปด้วย เกรงใจเมียเพื่อน   :~) :~) :~)

อุตส่าห์เกี่ยวเหยื่อกุ้งขาวโยนแค่หน้าดิน ริมตลิ่งกะเอาช่อน คาร์ฟมากินเบ็ดเฉย....  ::009:: ::009:: ::009::

อีกตัวสงสัยว่าคาร์ฟเหมือนกัน เหยื่อเดียวกัน แต่โยนไกลตลิ่งหน่อย
ลากรอกกริ๊ง...  จับวัดทีเดียวพอหมุนรอกหลุดปึดไปเฉย จากแรงดึง น่าใหญ่กว่าตัวแรก
แต่คงสู้จนปากขาด  ปากปลาคาร์ฟค่อนข้างเปราะบาง  ตัวแรกที่เอามาปลด
พอเอาขอเบ็ดออก ปากเสียรูปทรงไปนิด แต่คิดว่ามันคงหากินต่อไปได้  :~)

ผมว่าบ่อดินเลี้ยงพวกปลาสวยงาม ดีมาก ๆ เลยครับ เป็นปลาแม่น้ำ พวกปลากรายเผือก ปลากด ปลาเทพา ปลากระโห้
ไว้ถ้าผมมีที่ดิน จะขุดเลี้ยงให้สะใจเลย...

อันี้เผื่อใครจะทำไว้นอนเล่นริมบ่อปลา
บ้านเราคงไม่ต้องใส่กระจก

(http://eod.houseplans.com/wp-content/uploads/2011/12/fbwc_041111_01-630x486.jpg)