เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/wisitta/Variety/xiwang1.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/wisitta/Variety/xiwang3.jpg)

(http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/wisitta/Variety/xiwang4.jpg)


เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่รายงานเรื่องราวสุดสะเทือนใจของพ่อแม่ชาวจีน ซึ่งกำลังร่ำไห้จูบลูกสาววัย 2 ขวบเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่จะนำเธอไปผ่าตัดเพื่อนำตับและไตไปบริจาคเพื่อต่ออายุให้กับผู้ป่วยเด็กอีก 2 คน หลังจากที่ลูกสาวใกล้จะสิ้นลมเนื่องจากป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด

          รายงานระบุว่า เหตุสะเทือนใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.30 น. ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองชื่อเฟิง
เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน หนูน้อย ซีวั่ง (แปลว่า ความหวัง) วัย 2 ขวบ ป่วยเป็นโรคสมองพิการและขาดเลือด
ต้องความทุกข์ทรมานเข้า-ออกโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน และเสียค่ารักษาแล้วมากกว่า 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท)

          ในที่สุดแพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของหนูน้อยซีวั่งได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของเธอก็ไม่ได้สูญเปล่า
เพราะพ่อแม่ได้ตัดสินใจนำตับไตของลูกสาวไปบริจาคเพื่อต่อลมหายใจให้กับเด็กคนอื่น ๆ โดยก่อนที่แพทย์จะนำหนูน้อยเข้าห้องผ่าตัด
พ่อแม่และญาติต่างก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจ พร้อมกับจูบร่ำลูกสาวอย่างอาลัยอาวรณ์ในวาระสุดท้ายของเธอ

ทั้งนี้ หวังเสี่ยวเฟย แม่ของหนูน้อยระบุด้วยว่า เรากลั้นใจบริจาคอวัยวะของลูกให้กับเด็กคนอื่นแทนที่จะนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ดังนั้นพวกเราจึงตั้งชื่อให้กับลูกว่า ซีวั่ง แปลว่าความหวัง ซึ่งก็หมายความว่า ลูกสาวได้สร้างความหวังในชีวิตให้กับเด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังรอรับความช่วยเหลืออยู่

          ขณะนี้อวัยวะที่บริจาคได้ช่วยเหลือชีวิตเด็ก 2 คนที่โรงพยาบาลเทียนจินซึ่งมีอาการปลอดภัยดีแล้ว
โดยครอบครัวของผู้ได้รับบริจาครู้สึกตื้นตันใจอย่างสุดซึ้งสำหรับการบริจาคอวัยวะของหนูน้อยซีวั่งในครั้งนี้

          นอกจากนี้ หลังจากที่มีผู้ทราบเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ ก็มีชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเห็นใจและต้องการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเด็กน้อย
แต่พวกเขาก็ปฏิเสธ พร้อมกับระบุว่า พวกเขายังหนุ่ม-สาว และสามารถทำมาหาเลียงชีพได้ด้วยตนเอง
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากผู้อื่น และสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น (http://hilight.kapook.com/view/72562)

                           :'(    ขอคารวะครับ    :'(

ถ้าข่าวนี้เป็นจริง... ผมมันสะเทือนใจตรงที่... ก่อนจะนำไปผ่าตัดเอาอวัยวะข้างใน... หนูน้อยเธอยังมีลมหายใจอยู่นี่สิครับ...

::014::

ตัดสินใจกันยากจริงครับ

ใจจะขาดแน่นอน

 ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002::

ขนลุกเลยครับ ขอคารวะนํ้าใจคุณพ่อและคุณแม่ครับ

ขอคารวะน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่ ครับ ::002:: ::002:: ::002::

ผมเคยเจอแต่เพื่อนผม บริจาคไตข้างหนึ่งให้คุณพ่อของเขาเอง  หลังจากนั้นทำงานหนักไม่ได้  แต่ต่ออายุให้คุณพ่อได้อีก ๑๐ ปีเศษ  ::002::

ของบ้านเรา ก็บริจาค อวัยวะได้นะครับ

ได้เป็น อาจารย์ใหญ่  ให้เหล่านักศึกษา ได้เรียนรู้



" อาจารย์ใหญ่ " ขาดแคลน แพทย์จุฬาฯชวนบริจาคด่วน    (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=55543.0)




นศ.แพทย์ ม.ขอนแก่น แสดงกตัญญูวันพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ฯ   (http://www.enn.co.th/news_detail.php?nid=3500)


ตามลิงค์ครับ

 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

สุดยอดเลยครับ เก่งมากที่ทำใจได้

 ::014::

ผมบริจาคให้ คณะแพทย์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ไว้แล้วครับ

ผมไปขอใบริจาคทั้งตัวให้รพ.ศิริราชที่ตึกกายวิภาคหรือตึกซีอุย เขาไม่รับ จนท.บอกว่าอยู่ไกลเกิน150โลส่งศพไม่ทันคงกลัวเน่าและอีกอย่างผมเป็นโรคมะเร็งเป็นข้อห้ามในการบริจาคร่างกายและอวัยวะ อยากทำบุญแต่คงหมดโอกาสเสียดายมาก. :OO ใครที่ไปทำใว้แล้วผมขออนุโมทนาสาธุในกรรมดีด้วยครับ. ::014::

บุคคลน่าสรรเสริญ... แถมท้ายด้วยว่าไม่ขอรับเงินช่วยเหลือจากผู้อื่น ยังหนุ่มสาวหาเลี้ยงตัวเองได้........ ::002:: ::014::

   ช่างผิดกับคนในประเทศสารขัณฑ์อย่างสิ้นเชิง แบมือขออย่างเดียว ไม่ให้กูก็ปิดถนนประท้วง........   ::009::  >:(