เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อาชีวะกาฬสินธุ์ ผวาอีก! หมอเถื่อนใช้เข็มเล่มเดียวเจาะเลือดนับร้อย

สืบเนื่องจากกรณที่ มีการจับกุมกลุ่มบุคคลจำนวน 9 คน ที่เข้ามาทำการตรวจสุขภาพนักศึกษาในวิทยาลัยการอาชีพแม่สอด จ.ตาก  หลังพบว่า  บุคคลกลุ่มนี้ อ้างตนเองว่าเป็นแพทย์และพยาบาล  ตรวจโลหิตให้กับนักศึกษาวิทยาลัยอาชีพแม่สอด ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเรียกเก็บค่าตรวจสุขภาพคนละ 100 บาท แล้วใช้เข็มฉีดยาเพียงเล่มเดียวนั้น

นอกจากนี้ยังพบว่า นักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่าร้อยคน ยังได้รับการตรวจเลือดจากกลุ่มบุคคลเดียวกัน ที่ถูกจับที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนนักศึกษาพากันหวาดผวาหวั่นติดโรคร้าย โดยเฉพาะโรคเอดส์ ซึ่งมีการเรียกร้องให้ ผู้รับผิดชอบชี้แจง แสดงความรับผิดชอบในกรณีนี้

ซึ่งมีการพุ่งเป้าไปที่ความไม่โปร่งใสในการดำเนินการเก็บเงินนักศึกษาคนละ 100 บาท อีกทั้งให้ ผู้บริหารฯเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมกรรมโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาระหว่างนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้บริหารที่อาจจถูกขับไล่อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลคำม่วง ได้ลงตรวจสอบที่วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง โดยจะคัดกรองเด็กที่มีความเสี่ยง และเจาะเลือดตรวจซ้ำว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ และให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ

http://news.mthai.com/general-news/173978.html

งานเข้า... :OO

ล่าสุด.... ::014::

http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/383214.html

มันทำเพื่ออะไรครับ ::012::

อ่านข่าวนี้มาแล้วตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ยังงงๆว่านักศึกษายอมได้ยังไง

หรือว่าตอนนั้นจะยังไม่ได้คิดอะไร รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่พอเป็นข่าวใครๆก็

กลัวโรคร้ายกันทั้งนั้น และก็ไม่รู้ว่านอกจาก HIV ที่ติดต่อทางเข็มฉีดยาได้แล้ว

ยังมีโรคอะไรที่นักศึกษาจำเป็นต้องตรวจอีกบ้าง

ที่น่าระทึกก็คืออีก 3 เดือนตรวจหาเชื้อ HIV อีกรอบนี่สิครับ..

ช่วงเวลา ที่เหมือน ตกนรกเลยครับ   ::012::

เคยหละสิ ::007::

เคยครับ ยอมรับความจริง ครับ  :~)

เพื่อนพาไป ขึ้นครู ครั้งแรก ตอน ม.2 ที่โรงแรม เมืองทอง(แกรนซี้ตี้)  ผมเองก็กลัว แต่ไม่กล้าบอกเพื่อนว่าไม่เคย เพราะ อายเพื่อน กลัวเพื่อนล้อ

หลังจากนั้นเพื่อนพาผมไป เมื่อถึง ห้อง  เพื่อนผมก็ พลักผมเข้าห้อง เมื่อผมอยู่ในห้อง ใจผมสั่นหมดเลยครับ ปวดขี้ ปวดเยี่ยวไปหมด ท้องใส้ปั่นป่วนบอกไม่ถูก

เค้าใช้ผม แก้ผ้า  ผมก็ไม่ยอมแก้ เพราะอาย  เค้าเลยจับผมแก้ผ้า  ผมก็บอก ว่า " พี่ครับ ผม ไม่เคยนะครับ"  เท่านั้นแหละครับ พี่เค้าก็ จับผมแก้ผ้าแล้วนอนลง  ::012::  หลังจากนั้นก็ใส่ถุงให้

หลังจากเสร็จกิจ ไปแล้ว ผมก็รีบออก มาจากห้อง ครั้งนั้นผมนอนเฉยๆ อย่างเดียวเลยครับ  :~)

   หลังจากที่กลับบ้านไปแล้ว วันรุ่งขึ้นก็มาโรงเรียน  วันนั้นเป็นวิชา เลือกเสรี ผมเลือกอยู่ในห้องสมุด   เพื่อนผม มัน เสือกเอาหนังสือ "หมอชาวบ้าน" ออกมา แล้วเจอ โรคเอดส์พอดี ผมเลยตั้งใจอ่าน และ ศึกษา

ผมกลัวมากๆ ครับ ครั่นจะไปตรวจก็ ไม่ได้ เพราะเค้าบอกว่า ต้องให้ พ้น 3 เดือนไปก่อน ถึงจะเจอ  ช่วง สามเดือน นี้แหละครับ  สุดยอดเลย ครับ  ::012:: 

เค้าบอกว่า คนเป็นเอดส์ น้ำหนักจะลด มากกว่าปกติ  ด้วยความที่กังวล นอนก็ไม่ค่อยหลับ  ข้าวก็ไม่ค่อยกิน  1 อาทิตย์ น้ำหนัก ลงมา 1.5 กิโล   นึกในใจ" ชิบหายแล้วกู  กูเป็นเอดส์แน่ๆ น้ำหนักลดลงแบบนี้ "

 ก็เล่นไม่กินข้าว ไม่นอน น้ำหนักไม่ลดก็ บ้าแล้วล่ะครับ  ::005::

 พอกลับไปอ่านอีก เค้าบอกว่า คนเป็นเอดส์ ถ้าเป็น แผล แผลจะไม่หาย แผลจะเน่า เพราะ เชื้อโรคจะเข้า ภูมิคุ้มกันบกพร่อง  ผมเลยเอามีดเหลาดินสอ  มาฉืน ที่ปลายนิ้วดู กะว่าให้เลือดออก แล้วจะดูว่าแผลหายมั้ย

 พอเชือดลงไปแล้ว เลือดมันออกมา หน่อยนึง ก็เลย ฉีกแผลให้กว้างๆ ดูว่าจะหายเองมั้ย ปรากฏว่า ไม่หาย (เวรเอ๊ย เชือดเมือ 5 นาที ที่แล้ว  กะว่าเชือดปุ๊บ หายปั๊บเลย)  ::013:: ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่  จะปรึกษาใครก็ไม่กล้า

สรุป น้ำหนักผม ลงไป 5กิโลกว่า   :~)    หลังจากนั้น ก็เครียดมาตลอด เขียนพินัยกรรม มั่ง  จดหมาย ลาตายมั่ง (จำจากในหนัง)  ผมเครียดอยู่เดือนกว่า หลังจากนั้น ก็ ลืมไปเองซะงั้น  :~) ว่า เราเป็นเอดส์หรือเปล่า

หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือนกว่าเพื่อก็ชวนไป บริจาคเลือดในวันเกิดมัน ผมก็เลย ตามมันไปบริจาคด้วย  ผล สรุปว่า " ผ่าน ครับ"  มันเป็นช่วงเวลาที่ ไม่นาน แต่ผมรู้สึกว่า 1 วันเหมือน 1เดือนเลยล่ะครับ  ::010::

ตอนนั้นใช้เวลากี่วิจ๊ะแบ

  ::009:: ::009:: ::009::  ไม่ได้จับเวลา ครับ  :~)  ::010:: ::010::

เพื่อนผมกลุ่มนึงชอบเที่ยวผู้หญิงมาก ชนิดว่ามีเวลาว่างไม่ได้ต้องเที่ยวทันที ที่ไหนมีทีเด็ดรู้จักหมด...

จนโดนไฟท์บังคับ เมียตั้งท้อง หมอให้ตรวจเชื้อ HIV เพื่อป้องกันถ่ายทอดสู่เด็ก.. ผลมีเชื้อ HIV เมียติดไปด้วย และสุดท้ายตัดสินใจทำแท้งลูก... ครอบครัวแตกแยก งานที่ทำก็เลิกทำ ดีว่าฐานะดีอยู่แล้วเลยไม่กระทบมาก...

เพื่อนในกลุ่มเลิกเที่ยวกันอีกเลย แต่ไม่มีใครกล้าไปตรวจหาเชื้อ ใช้ชีวิตแบบหลอกตัวเองไปวันๆ... ใจอยากจะตรวจแต่ก็กลัวรู้ความจริง และถ้าติด เมียก็คงต้องติดไปด้วย....

ส่วนกรณีนักศึกษาเหล่านี้ เข็มเดียวตรวจเป็นร้อยคน... ก็คงมีอาการไม่ต่างจากบังฟีนตอนนั้นครับ... ต้องมีคนรับผิดชอบ... :-\

 ถ้าเกิดมีการติดเชื้อ จริงๆ ซัก 10 คน หมอปลอมคนนั้นและทาง โรงเรียน (ผู้ประสานงาน)  จะมีโทษเช่นไร    ???

ที่ผม แปลกใจก็คือ  การเข้าไป ตรวจเลือดหรือ ฉีดยา ในโรงเรียน ทางโรงเรียนไม่ได้ประสานงาน กับทางโรงพยาบาลโดย ตรงหรือไง ครับ ???

ถือเป็นภัยใกล้ตัว บางทีเราไว้ใจสถาบัน แต่สถาบันการศึกษากับเห็นแก่ตัว คิดค้ากำไรเกินงาม...

ล่าสุดโรงเรียนลูกผมมีฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด 2009 ผมยังต้องเลือกพาลูกๆไปฉีดวัคซีนเอง เพราะดูแล้วเหมือนการทำธุรกิจมากกว่า ราคาเหมารวมนักเรียนจำนวนมากไม่ได้ถูกไปกว่าเราไปฉีดเอง แถมยังเก็บตังค์ล่วงหน้า 3 เข็ม ซึ่งเราไปฉีดเอง รพ. ก็เก็บค่ายาทีละเข็ม...

บางทีผู้ปกครองก็ยอมโง่เพื่อรักษาหน้าตา แต่ผมขอเลือกดูแลเองดีกว่าครับ...

ส่วนเรื่องโทษ ทั้งผู้บริหารโรงเรียนและหมอเถื่อน เกิดใหม่อีกร้อยชาติก็ใช้ไม่หมดครับ... เผลอๆอาจตายเร็วกว่านั้นจากการโดนรุมกระทืบ...

บอกคำเดียว   คณะผู้บริหารต้องรับผิดชอบ  ปล่อยเข้าไปในสถานศึกษาโดยไม่มีการตรวจสอบว่ามาจากหน่วยใหน  มาได้อย่างไร  มีอีกเยอะแยะที่ผู้บริหารสถานศึกษาที่โลภมาก เล็งแต่เรื่องจะได้ท่าเดียว    ไม่มองผลเสียที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า  ทำตัวหน้าบาง แต่ลับหลังโกงแม้กระทั้งเด็กนักเรียน 

น่าจะติดต่อผ่านเครือของกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งโรงบาลเอกชนบางแห่ง

มีหมอ พยาบาลไม่เพียงพอ คือไม่กล้าจ้างเต็มอัตรา ต้องการประหยัดว่างั้น

ก็เลยเกิดช่องว่างให้ของปลอมสวมรอย ท่านทั้งหลายเคยลองสังเกตดูไหมครับ

เวลาไปโรงบาลเอกชน(บางแห่ง) ท่านดูออกหรือไม่ว่าคนไหน หมอ พยาบาล เภสัชกร ตัวจริง

เพราะเขาแต่งตัวคล้ายกันหมด ในกรณีนี้ คิดว่าผ่านระบบประมูลได้โรงพยาบาลกลุ่มโนเนม

เนื่องจากตีตั๋วประมูลเข้ามาได้ในราคาต่ำสุด หน่วยงานที่บุคลากรไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านการแพทย์

หรือละเลยไม่ตรวจสอบเช่น อาชีวะ การอาชีพ วิทยาลัยฯ ฯลฯ ตามต่างจังหวัด เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายครับ

หมอปลอมสวมรอยตรวจสุขภาพมีมานานแล้ว แต่กรณีนี้มันย่ามใจเสือกไม่เปลี่ยนเข็ม ความเลยแตก

ทำไมต้องรอถึง ๓ เดือน  ทำไมไม่ให้ยาต้านเชื่อไวรัสไว้ก่อนเลย   ???  ::014::

ยาต้าน จะจ่ายให้ต่อเมือรู้ตัวใน 24 ชม ครับ
เช่น โดนข่มขื่น / เทียวแล้วปลอกแตก / เมาไม่รู้ตัวว่าใส่ปลอกรึเปล่า

อยู่ที่ดุลพินิจหมอ ว่าจะจ่ายให้หรือไม่ต้องประเมิณความเสี่ยง เพราะ มีผลข้างเคียงครับ

ในส่วนที่รอ 3 เดือนก็ตามการตรวจทั่วไปครับหลังจากไปเสี่ยงแล้วเช็คผลเลือดจะเป็น + ภายใน 90 วัน

ในเคสที่ กินยาต้าน ก่อนผลเลือดออกจะต้องรอเช็คผลเลือดที่ 6 เดือน

ในเคสนักเรียนนี้ เสี่ยงไป เต็มเต็ม
แต่ถ้ามองจากมุมกลับ ก็ไม่น่ากลัวมาก HIV ถ้าจะติดจากเข็มคือการฉีดยาเข้าเส้น
แต่ในกรณี เป็นการเจะเลือด ปรกติร่างกายคนมีแรงดัน เข็มที่เจาะเข้าไป ถ้ามีเลือดคาอยู่เลือดจะถูกดันออก
เข้าไปในหลอดเก็บเลือดแทนที่จะเข้าร่างกาย ครับ

ขอบคุณครับ   ::014::

ถึงขั้นเปิดประมูลในราคาต่ำสุดโดยไม่ตรวจสอบบุคลากรที่เข้ามากระทำการตรวจเลือด และยิ่งมีการทำมานานแล้ว ถือว่าเลวมากครับ..

ต่อไปถ้ามีการฉีดวัคซีนจากในโรงเรียนจะไว้ใจได้อย่างไร ขอให้ผู้เกี่ยวข้องจงรับกรรมที่ก่อขึ้นโดยเร็ววันครับ...

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=vAExC2T5iv0#!

พอดีเคยทราบมาว่ามีพยาบาลเจาะเลือกคนเป็นเอดส์เพื่อตรวจแล้วโดนเข็มตำมือตัวเอง

แพทย์สั่งจ่ายยาต้านไวรัสให้กินทันที  ไม่ต้องรอตรวจเลือดอีก  ๓  เดือนครับ   :D

โดนกับลูกกับหลานผม. ไม่ต้องรอชาติหน้าครับ. และถ้ายิ่งมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาด้วย ต้องจับมันแล้วเอา. HIV.  ฉีดเข้าไปสักหลอด

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=vAExC2T5iv0#!

ไอ้ "มุข"  เข็มฉีดยาอันเดียว เที่ยวจิ้มจุ่ม เด็กเป็นร้อย ยายไม่เชื่ออ่ะ ฮา
เมื่อ  สี่ห้า สิบปีที่แล้ว  อาจเป็นความจริง  แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อ่ะ ฮา

เมื่อก่อน  "พัฒนาการทางแพทย์"  ยังไม่เจริญ  เขาก็ใช้เข็ม  "ครั้งเดียว" อ่ะ
แต่ไม่ใช่  จิ้มจุ่มเหมือนตามข่าว  และ้ต้อง  "ถอด" เปลี่ยนใหม่  ทุกครั้งอ่ะ ฮา
เข็มที่ผ่านการใช้  เขาเอาไป "ต้ม"  ด้วยความร้อน พอที่จะ "ฆ่า" เชื้อโรค ได้อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้พวกตามข่าว  ว่า "จิ้มจุ่ม"  ทีละเป็นร้อย  ยายว่ามัน  "ถึก"  อ่ะ  ฮา
ข่าวด้านบน  ยายเชื่อว่า  มัน  "เต้า"  อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

"จักรวาล"  นี้ ยังมีเรื่อง ใช้เข็มอันเดียว เวียนเทียน เหมือนเข้าพรรษา อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

Ha Ha ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ยายแนะนำ  อย่าไปอ่าน  Manager  หรือ  Thaiposts  เกินสามครั้ง ต่อวัน อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
ไม่มีหรอก ที่หมอเขาจะสั่งจ่ายยา  "ต้านไวรัสเอดส์"  แค่การถูกเข็ม ปนเปื้อนเชื้อ  แค่โดนผิวหนัง อ่ะ ฮา

ไอ้ยาต้านไวรัสเอดส์  แพทย์เขาจะจ่าย  ก็ต่อเมื่อผลเลือด
หรือที่เขาเรียกว่า ซีดีโฟร์ หรือเกล็ดเลือด ด้านหนึ่งด้านใดต่ำ อ่ะ ฮา
เขาไม่ได้จ่าย  พร่ำเพื่อ  เพ้อเจ้อ   สุรุ่ยสุร่าย  อ่ะ  ฮา
ไอ้ยาประเภทนี้  เขากินกันเป็น  "Dose"  เพื่อที่จะ "คลอบคลุม" ต่ออาการ อ่ะ ฮา

ยายจำไม่ได้ ว่าเม็ดเลือดขาว  หรือ แดง  มันไปกินหรือทำลายกันเอง อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007::

การต้มในสภาวะความกดอากาศปกติ ได้แค่ร้อยองศานะยายถึงจะทำให้น้ำเดือด... และถ้าต้มที่สูงอุณหภูมิต่ำกว่านั้นก็ทำให้น้ำเดือดได้... แล้วอุณหภูมิที่ร้อยหรือต่ำกว่า ยายแน่ใจหรือว่าจะฆ่าเชื้อโรคได้...

คงมีแต่ถึกอย่างยายกระมังที่นั่งต้มไข่อยู่ยอดดอย รอน้ำเดือดอยู่ครึ่งวันแล้วนั่งกินไข่ดิบอ่ะ ฮา....

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา
 
พี่ dignitua  เนี่ยะ   "อย่างฮา"  มาเป็นรายแรก เลยอ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
เมื่อก่อน  มันไม่มีไอ้ลิง  "หน้าโง่"  เหมือนปัจจุบัน อ่ะ  ฮา

ไอ้พวก HIV หรือ พวก  Influnza virus ยังไม่เกิดโว้ย อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

HIV Replication 3D Animation
http://www.youtube.com/watch?v=7oyp1zIIWmM&feature=related

 :D

คร๊าบบบบ... ไม่มีใครเก่งเกิน ฉลาดเกิน ยายบ๊าบคนเห็นหมีหรอก  ::012::

คนแถวนี้เขาหมอบให้ยายหมดหละ...แต่ผมว่าไอ้มดแดงกะไอ้บันชามันกล้าหาญกว่ายายน่ะ ::007::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ลิง ปากแดง อ่ ะ  ฮา
ท่าจะ  "จริง"  ตามที่เขียนด้านบน อ่ะ  ฮา

555 ถ้าจะคุย  หรือจะเถียงกัน ในโลก "ไซเบอร์"  อ่ะ ฮา
มันต้องมี  "กึ๋น"  ติดปลายนิ้ว  หรือ ปลายนวม ด้วยอ่ะ ฮา

ถ้ามาแบบ  "ทื่อ"  ไม่คม  ก็โดน ยาย  "เชือด"  อ่ะ  ฮา
55555  อย่าคิดมาก  "เกิ๊น"  ปาย  คิดว่า คุยกันสนุก สนุก อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

ถ้าจะคุยเรื่อง  "การเมือง"  ยายยอมแพ้ที่ Sittipong อ่ะ  ฮา

ถูกต้องครับ... ::002::


ป้าบ๊าบเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบางส่วนครับ... :D

ลองอ่านลิ้งค์นี้ดูครับ...>>> http://www.adamslove.org/d.php?id=72

อ่ะ.. เห็นยานบอกว่าเต้าข่าว เด็กๆปัจจุบันอาจจะโง่ไม่รู้ก็ได้นะยายว่า "ปัจจุบัน" มันมี HIV กันมานานแล้ว... อ่ะ ฮา...

ยาเสพติดมันเยอะ อ่ะ ยาย เห็นจิ้มกันจิ้มกัน ฮา..

และยิ่งมีคำนิยมว่า "เอาอยู่" อ่ะ ฮา...

แถมเสือกไม่มี "ปลาทะเล" แดรก ด้วย อ่ะ ฮา...

มันเลยต้องไปตรวจเชื้อเอดส์กัน 250 คน และต้องหานักจิตวิทยามาปลอบเพราะ "ข่าวเต้า" อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007::

เคสพยาบาล เคยได้ยินหลายเคส
ส่วนใหญ่จะเป็น โรงบาลเอกชน หมอจะสั่งจ่ายให้ทันที ถ้าจำไม่ผิดจ่ายยาต้านให้  1 เดือน
หลังจากนั้นก็ไป รอตรวจเลือด ที่ 3 เดือน และ 6 เดือนตามลำดับ ครับ

เคยคุยกับพยาบาลที่ผ่านเคสนี้มาแล้ว ที่หัวเฉียว  เป็นเคสทำคลอดฉุกเฉิน แม่เป็น HIV / ลูกด้วย
พลยาบาลไม่ได้เช็คผลเลือดเข้า ช่วยเหลือเลย ทราบตอนหลัง หมอจึงจ่ายยาต้านให้ ::002::
ผล พยาบาล ปลอดภัย ครับ  แต่แกจิตตกไปหลายเดือน  ::012::

เรื่อง HIV ต้องระวัง เท่าที่ทราบผู้ติดเชื้อสะสมในไทย มีเกิน 1 ล้านคนไปแล้วและมีแนวโน้มจะสูงขึ้น
จากการเสี่ยงจาก นักเทียว และ นักจับไก่ ตาม ผับ บา เลาจ์ อย่าแปลกใจว่าได้ง่าย

บางที่น้องเค้าอาจลวงไปเชือด   ::005::

ขอเสริมเรื่อง HIV อีกนิดนึง กลุ่มผู้ติดเชื้อแฝงส่วนใหญ่จะอยู่ที่นักศึกษา กับกลุ่มเกย์ครับ จากการไม่ใช้ถุงยางอนามัยบวกกับพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอน

ถ้าสาวตามอ่างที่มีชื่อ กลุ่มนี้ตรวจสุขภาพเป็นประจำครับ เขาดูแลตัวเองดี แต่ก็อย่าประมาทเขาประมาทเราเป็นดีที่สุด พระท่านสอนไว้ครับ โชคดีทุกท่าน... ::013:: ::014::

เมื่อสองปีที่แล้ว ผมได้สนทนากับ คนที่ทำงานสาธารณะสุข เขา เป็นหัวหน้าชุดที่ออกไปตรวจ นักศึกษา ที่จังหวัดผม

เขาบอกว่า ที่ ไม่ขอเอ๋ยชื่อ สถาบัน มีผู้ที่มีเชื้อ เกือบ ครึ่ง ถ้าใคร ทำใจได้และแสดงตน ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือ ต้องไป

รับที่ ธกส นะครับ  จังหวัด ผม ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ แล้ว เรื่อง HIV

เอ้อ แล้ว ตอนนี้มีบริการ ใหม่ครับ เด็กผู้ชายหน้าตาตี  ต้องการเงินใช้ ช่วง ม 2-3

ก็มีเงินใช้แล้ว หมดยุค ชายซื้อบริการหญิง แล้ว ครับ ถามน้องผู้ชายว่า มีกลุ่มใหน

บ้าง ที่ใช้บริการเรา  ก็มีตั้งแต่ อายุไม่เกิน 18 ไปจนถึงคนทำงาน

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา
ขอบคุณ  พี่หมอ "ใจดี"  อ่ะ  ฮา

พี่หมอโผล่ออกมา  พวกสหายของยาย
เขา  "กิ๊วก๊าว"  เขย่า  กันน่าดูเลยอ่ะ  ฮา
555   "ถก" กัยายทีรัย  แพ้ยายทุ๊กที อ่ะ ฮา

มาครั้งนี้ ยายเชื่อว่า  "กรรมการ"  ลำเอียง อ่ะ ฮา
ยกมือ  " ผิดมุม "  อ่ะ  ฮา 5555

555 ครั้งต่อไป  ยายจะแอบถาม  พี่หมอ "ใจดี"  ก่อนอ่ะ  ฮา

ถามพี่หมอ "ใจดี"  แล้วเมื่่อก่อน ที่เขาเอาเข็มไปต้ม  หรือ นึ่ง ผ่านความร้อน
เขาใช้ กี่องศา เอฟ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

เมื่อเช้ามีรถตู้ลึกลับ ทะเบียน กรุงเทพฯ วิ่งเข้ามาจอดในโรงเรียน... จังหวะเดียวกับที่ผมเข้าไปพอดี... วันนี้ผมแวะไปที่เขตฯ เลยมาช้าไปนิดหน่อย... จึงเป็นช่วงที่นักเรียนกำลังเข้าแถวหน้าเสาธง... ครูท่านอื่นๆ จึงอยู๋ที่หน้าเสาธงกันเกือบหมด... ที่อาคารอำนวยการจึงเหลือผมเพียงคนเดียว... พอลงเวลาเสร็จ... ผมเลยเดินไปที่รถตู้คันนั้น... ซึ่งจอดและติดเครื่องยนต์อยู่... คนในรถมีหลายคนแต่ไม่มีใครยอมลงจากรถ... พอเดินไปใกล้จึงมีคนขับกับสาวสวยคนนึงแง้มกระจกสวัสดี... ผมจึงถามว่ามาติดต่อธุรอะไร... ก็ได้ความว่ามาจากศูนย์สุขภาพจากกรุงเทพฯ จะมาขอตรวจสุขภาพนักเรียน... ผมขอดูหนังสือแจ้งก็ไม่สนใจที่จะให้ดู... บอกว่าจะขอพบ ผอ. เท่านั้น... ผมเลยบอกว่าวันนี้ ผอ. คงไปประชุม... แต่จริงๆ ผมยังไม่มา... ::005:: ::005:: ::005::  แล้วรองฯ ก็คงไม่เข้า... แล้วผมก็เดินไปรับนักเรียนที่กำลังเดินมาจากเข้าแถว... เพื่อเก็บขยะดังที่ทำกันทุกวัน... หันมาอีกทีหนึ่ง... รถตู้คันนั้นก็จากไปแล้ว...

...ไม่รู้ว่าผมทำผิดหรือทำถูกนะครับ... แต่กรณีมีพิรุธแบบนี้... ผมต้องดูแลความปลอดภัยของเด็กนักเรียนไว้ก่อน... จากนั้นก็โทรไปเตือนที่โรงเรียนแม่ที่อยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของรถตู้ลึกลับคันนั้น...

...เกิดผมยอมให้ตรวจโดยพลการ... แล้วเป็นแบบในข่าว... คงแย่เลย... ::013::

::014::

ขอบคุณ คุณหมอ rute - รักในหลวง  ที่ช่วยมาให้ความกระจ่างครับ   ::014::

ในความจริงคิดว่าเข็มฉีดยาไม่น่าจะใช้การได้แล้วนะครับ ถ้าคนเยอะขนาดนั้น เคยฉีดยาแมว ตัวที่สองก็ทื่อแล้ว  ???




อาจจะมาอุ้มครูต้นก็ได้นะครับ พอดีได้แต่รูปตอนหนุ่ม ๆ มา เลยหาไม่เจอ  ::005::

::007:: ::007:: ::007::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา
ไอ้เผือก ที่ทำท่า  "ผลุบโผล่"  เนี่ยะ  อ่ะ ฮา

ยายเชื่อว่ามันเป็นพวก "หลอกลวงโลก"  อ่ะ  ฮา
ถ้าเขาไม่มาหลอกขาย  "ประกันหมู่" อ่ะ  ฮา
ยายก็คิดว่าเขาจะมา  "สร้างโรงเรียน"  ให้ฟรี อ่ะ ฮา

555 เหมือน "มูลนิธิ"  ที่อ้าง พระบัญชาของ องค์ "สังฆราช"  อ่ะ  ฮา
ยังดีที่ครูต้น  เอาภาพ "ตอนหนุ่ม" มาแสดงใน Face book  อ่ะ ฮา 5555

การฆ่าเชื้อโรคนั้นมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นโดยกายภาพ ชีวะภาพ หรือเคมี...

เข้าใจว่าป้าบ๊าบถามถึงกระบวนการการทำให้ปลอดเชื้อ( sterilization )ใช่ไหมครับ...

การฆ่าเชื้อด้วยความร้อนเพื่อที่จะทำลายสปอร์และเชื้อโรคนั้นหากเราใช้เตาอบไอน้ำ( autoclave ) ต้องใช้อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส( 250 องศาฟาเนต์ไฮท์) นาน 20 นาทีครับ...

หากไม่ใช้ไอน้ำต้องใช้อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียสนาน 2 ชั่วโมงครับ...

แต่หากต้องการแค่กำจัดเชื้อ HIV เราไม่ต้องใช้ระดับนั้นก็ได้ครับ...

ใช้แค่ระดับทำลายเชื้อ(disinfection)(ไม่ทำลายสปอร์) คือต้มในน้ำเดือด(100องศาเซลเซียส)นาน 30 นาทีก็ได้ครับ... :D

ว่าด้วยเรื่องของมูลนิธิจิตวิปลาสนั้น... โรงเรียนของผมก็ได้รับการบริจาคด้วยครับ... ตอนนั้นเริ่มมีกลิ่น... ผมเลยไปกระซิบผู้รับเหมาว่าแน่ใจนะว่าพี่จะได้เงิน... เขาก็โวใส่ผม... บอกว่าสัญญามันชัดเจน... ใครจะว่าไงก็ช่าง... เขาจะสร้าง... ว่างั้น... ผมเลยได้แต่เงียบดู... งานไปได้แค่ฐานราก... คือเทพื้นฟุตติ้งกับคานคอดิน... งานก็หยุดไปหลายเดือน... สอบถามไปก็ได้ข่าวว่าเช็คเด้ง... โธ่... ก็ผมเตือนเขาแล้วยังมาโวใส่ผมอีก... สุดท้ายเหล็กโครงหลังคาที่ขนมาไว้... ก็ได้แต่ชั่งกิโลขายได้ซักสองแสนมั๊ง... ทั้งที่จริงๆ เหล็กกองนั้นมันควรจะราคาครึ่งล้านขึ้นไป...

...ความโลภบังตา... เตือนแล้วไม่ฟัง... ก็ยังงี้แหละครับ... ::014::

อัพเดทข่าวครับ... ???