เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/533111_302744313156914_870888163_n.jpg)

สุดเศร้า! ‘วาเด็ง ปูเต๊ะ‘ พระสหายแห่งสายบุรี เสียชีวิตแล้ว

พระสหายแห่งสายบุรี ''วาเด็ง ปูเต๊ะ'' เสียชีวิตแล้ว ที่บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว โดยจะมีพีธีฝังศพช่วงเย็นวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นของ นายวาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันนี้ และจะมีพิธีฝังศพในช่วงเย็นของวันนี้ที่บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ส่วนสำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ประวัติ วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี

เป็นชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี สำหรับ วาเด็ง ปูเต๊ะ กับเรื่องราวการเป็นพระสหายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีจุดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2535 ในครั้งนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และมีรับสั่งต้องการพบตัว วาเด็ง ปูเต๊ะ เพื่อสอบถามเรื่องการสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี

ในขณะนั้น วาเด็ง ปูเต๊ะ ผู้ซึ่งเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง เขาสวมโสร่ง และไม่ได้ใส่เสื้อ แต่เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่มาตามเขาถึงสองครั้งสองคราอาจจะโกหก เพราะเขาไม่เชื่อว่า ในหลวง จะเสด็จมาในป่าเขาจริง ๆ จนกระทั่งได้พบพระองค์แล้ว แต่ วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ยังไม่แน่ใจ ต้องหยิบธนบัตรขึ้นมาดูจึงจะเชื่อว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน

หลังจากนั้น ในหลวง ก็ตรัสกับ วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นภาษามลายูว่าจะสร้างคลองชลประทานให้ เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร พระองค์ทรงสอบถามเส้นทางการขุดคลองสายทุ่งเค็จว่ามีเขตติดต่อที่ไหนบ้าง ซึ่ง วาเด็ง ปูเต๊ะ สามารถตอบได้ทุกคำถาม ถูกต้องตามแผนที่ที่พระองค์ทรงมีอยู่ จึงตรัสชมว่า วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นคนรู้จริงรู้จักพื้นที่ เพราะในการจะไปช่วยใครที่ไหน จำเป็นต้องถามเจ้าของพื้นที่ก่อน เพราะชาวบ้านจะรู้จริงกว่าคนอื่น วันรุ่งขึ้นในหลวงก็ตรัสให้ วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นคนพายเรือให้พระองค์นั่งสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ โดยตรัสให้ทำตัวตามสบาย และเล่าถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ในหลวง ยังทรงลองใจ วาเด็ง ปูเต๊ะ ด้วยการตรัสขอที่ดินทำโครงการพระราชดำริ ซึ่ง วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ออกปากยกที่ดินถวายให้กับพระองค์ในทันที ด้วยความเป็นคนซื่อตรง ในหลวง จึงมีพระราชดำรัสให้เป็น “พระสหายแห่งสายบุรี” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณปู่วาเด็ง ปูเต๊ะ และขอดวงวิญญานท่านสู่สุคติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ::014::

องค์อัลเลาะห์ทรงรับคนดีอย่างท่านวาเด็ง ปูเต๊ะขึ้นสู่สรวงสวรรค์แล้วครับ     ::014::

ความตอนหนึ่ง....

วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี แม้ในวัย 92 ปี แต่ความจงรักภักดีและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณไม่เคยเสื่อมคลาย เผยหลังในหลวงทรงพระประชวรก็ละหมาดขอพรพระเจ้าทุกวัน และตามข่าวอย่างใกล้ชิดทุกเช้า-ค่ำเพื่อติดตามพระอาการ

           "ตอนที่ไม่มีทีวีให้ดู เวลาอยากเห็นหน้าในหลวงก็จะหยิบเงินมาดูก็พอหายคิดถึงได้บ้าง พอมีทีวีแล้วก็จะรอดูแต่ข่าวในพระราชสำนักทุกวัน แต่พอพระองค์ทรงพระประชวรก็ต้องมาตามดูข่าวในพระราชสำนักตอนกลางวัน และตอนค่ำด้วย"

           หยาดฝนที่พรั่งพรูซึมทะลุหลังคาบ้านไม้ยกพื้นสองชั้น ซึ่งมีรูรั่วหลายแห่งจนต้องใช้ถังน้ำมารองไม่ได้ทำให้เจ้าของบ้านผู้สมถะอย่าง วาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ "เป๊าะเด็ง" หรือที่รู้จักกันในนาม "พระสหายสายบุรี"
 
อ่านต่อที่นี่ครับ.... http://hilight.kapook.com/view/17166


วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี

http://www.youtube.com/watch?v=GcQf3uQOzZo

ขอดวงวิญญาณสถิตย์ ณ สรวงสวรรค์  ::014::

"วาเด็ง ปูเต๊ะ"สั่งลูกเขยดูแลต้นจำปาดะที่จะถวาย"ในหลวง" ก่อนสิ้น

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า สำหรับ ลุงวาเด็ง ปูเต๊ะ ถือเป็นคนต้นแบบการใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถือเป็นบุคคลตัวอย่างที่ดีในพื้นที่ ตนเองและชาวปัตตานี รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลุงวาเด็ง แต่อย่างไรก็ตามตนเองได้แจ้งไปยังสำนักพระราชวัง ถึงการเสียชีวิตของลุงวาเด็งแล้ว

ด้านนายมะไซนุง ดือราแม อายุ 34 ปี ลูกเขยลุงวาเด็ง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ก่อนที่ลุงวาเด็งจะเสียชีวิต ได้บ่นว่ารู้สึกแน่นหน้าอก และขอดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนที่จะนอนพัก แล้วก็จากไปอย่างสงบ โดยก่อนหน้านี้ได้สั่งเสียไว้ตลอดเวลาว่า หากท่านเสียชีวิตไป จะต้องดูแลต้นจำปาดะ ให้ดีที่สุด เพราะว่าต้นจำปาดะต้นนี้ จะต้องนำผลจำปาดะไปถวายให้ในหลวงทุกปี และต้นจำปาดะต้นนี้เป็นต้นที่เป๊าะเด็งรักและดูแลอย่างดีที่สุดตลอดมา ซึ่งตนเองและครอบครัวก็จะขอดูแลต้นจำปาดะอย่างดีตามที่สั่งเสียเอาไว้

 ::014::  ::014::  ::014::

อินนา ลิลลาฮิ วะอินนา อิลัยฮิ รอญิอูน ::014::

สายบุรี ครั้งสุดท้ายที่เคยไป น่าจะสามสิบกว่าปีมาแล้ว ชายหาดบางแสน-ระยอง-หัวหิน ยาวไปจนถึงสงขลา สู้ความสวยงามชายหาดสายบุรีไม่ได้เลย

 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

อินนาลิลลาฮี่ว่าอินนาอิลัยฮี่รอญี่อูน

ขอไว้อาลัยครับ  ::014::

 ::014::

 ::014:: สู่สุขคติครับ  ::014::