เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมอยู่บึงกาฬปลูกยางพาราปีนี้เปิดกรีดแล้วเป็นปีที่4 3ปีแรกไม่มีปัญหาอะไรแต่ปีนี้ต้นยางมีอาการผิดปกติคือ ใบยางมีรอยด่างเป็นจุดสีเหลืองและใบร่วงหน้ายางเริ่มมีอาการหน้าตาย เป็นอยู่ประมาณ 60 ต้น จาก 3000 ต้น อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรและจะรักษาอย่างไร ขอขอบคุณทุกๆคำตอบล่วงหน้าครับ ::014::

ถ้าฝนตกชุกๆก็  เชื้อราไฟทอปเธอร่า  ....หยุดกรีดต้นนั้นและต้นใกล้เคียง  หายา+ดินแดง ทาหน้ายางที่กรีด   หรืออาจเกิดจากดินเป็นกรด   หรือพันธ์ต้นยางที่นำเมล็ดและตาสวนใกล้เคียงหรือสวนเดียวกันมาผสม(ติดตา)ทำให้ต้นยางไม่แข็งแรง     ก็หาปุ๋ยอินทรีย์มาบำรุง......เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
สวนผมไม่ได้ทำอะไรกับมันมากเพราะถ้าเกิดจากเชื้อราถึงหน้าแล้งใบร่วงแดดส่องลำต้น  เดี๋ยวหายเอง (แต่ฝนเยอะๆก็เป็นใหม่).....หรือดูต้นถ้าใบเกิดใหม่ลีบใบไม่ใหญ่เขียว   ก็บำรุง

สรุปคือ   ปล่อยแบบธรรมชาติ  หาปุ๋ย(เน้นอินทรีย์)บำรุง   อย่าไปเครียดกับมัน



เจอมาหลายที่(นักวิชาการหรือเกี่ยวกับวิชาการเกษตรต่างๆ)แนะนำให้หายามาฉีดพ่นต้นและใบ  .....ในความเป็นจริง  ผมว่ามันเป็นไปได้ยาก......เพราะต้นยางขนาด 3000 ต้นและยางอายุประมาณ 10 ปี  สูงยังกับตึก 3 ชั้น....จะฉีดไหวเหรอครับ     และพวกเชื้อรา  ตรงไหนไม่โดนยา....เชื้อรามันก็ยังอยู่   

  ขอถามเพื่มครับ

       -หลุมยางที่เคยตายแต่พอปลูกซ้ำก็ตายอีก

       -ใช้เม็ดปลูกลงดินจะทนกว่ากล้าชำใหม

       -ตอนนี้ยางอายุหกปีแล้ว แต่ต้นหัวกับท้ายสวน สมบูรณ์ต่างกันมากทั้งที่ใส่ปุ๋ยเหมือนกันหมด หรือเป็นเพราะดิน


                ขอบคุณทุกคำตอบครับ  ::014::

ใบด่างเกิดจากเชื้อราครับ  ส่วนหน้ายางตายเกิดจากการกรีดที่ผิดวิธีกรีดลึกเกินไปตัดท่อส่งนำยางครับ ;)

ใบยางมีรอยด่างเป็นจุดสีเหลืองและใบร่วง  ฝนตกบ่อยจะเกิดโรคใบร่วงทำให้น้ำยางลดลงครับ  อันนี้ฝนหยุดก็หายไม่น่ากังวล   ;D

หน้ายางเริ่มมีอาการหน้าตาย  อาจจะเกิดจากเชื่อราเข้าแผลกรีด เนื้่องจากหน้ายางยังไม่แห้งแล้วฝนตก  ให้หยุดกรีดแล้วเอา
ดินแดง+ยาป้องกันเชื่อราทา  ความจริงควรทาบ่อย ๆ ครับจะรักษาหน้ายางไม่ให้เป็นเชื้อรา  อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากต้นยาง
ขาดสารอาหารหรือกรีดบ่อยเกินไป  ให้หยุดกรีด ๖ - ๑๒ เดือน แล้วใส่ปุ๋ยบำรุง  มีเงินก็บำรุงบ่อย ๆ หน่อย  เช่น ๒ เดือนใส่ ๑ กก.  
จนครบเดือนที่หยุดกรีด(๖ - ๑๒ เดือน)  ถ้าต้นยางสมบูรณ์ดีเหมือนเดิมก็กรีดได้เหมือนเดิม แต่เคยเจอเหมือนกันที่บำรุงเท่าไหร่
ก็ไม่หาย  ต้องโค่นขายไม้   ::014::

ถ้าสวนไหนเป็นโรครากตายแล้วอย่าปลูกยางอีกเลยครับ  ไม่คุ้มหรอกมันจะตายอีก
ใช้รถแบคโฮขุดต่อมาเผาหมดทั้งสวนก็ไม่หาย  ให้เปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันหรือพืชอื่นแทนครับ

ปลูกด้วยเมล็ดแล้วติดตาในแปลงยางจะทนแล้งทนโรคดีกว่า  แต่จะหาเมล็ดยางพาราพันธุ์ธรรมดามาจากไหน ?
เดี๋ยวนี้ที่เก็บมาขายกันก็เป็นเมล็ดยางพันธุ์ต่าง ๆ ที่นิยมปลูกกันหมดแล้ว เช่น  RRIM600 , RRIT251 ฯลฯ
ปลูกไปก็ได้แต่รากแก้วทนแล้ง  กรีดแล้วน้ำยางออกสม่ำเสมอหน่อยหนึ่ง  แต่ไม่ได้ทนโรคเหมือนตอยางธรรมดา

ยางหัวสวนกับท้ายสวนโตไม่เท่ากัน  ต้องดูที่สภาพดินว่าดินหัวสวนกับท้ายสวนแตกต่างกันรึเปล่า
ถ้าดินเหมือนกันต้องดูพื้นที่ใกล้เคียงอีก  อาจจะปลูกติดสวนคนอื่นที่มีไม้ใหญ่อยู่ติดกัน  ไม้พวกนั้นจะ
แย่งปุ๋ยจากยาง  หรือพื้นที่อาจเป็นร่องน้ำไหลผ่านเมื่อฝนตกก็มีส่วนชะล้างปุ๋ยออกไป  หรือสภาพดินลึกลงไปด้านล่าง
มีหน้าดินลึกไม่เพียงพอ  มีชั้นดินกรวดอยู่  ทำให้รากยางชอนไชไม่สะดวก  ฯลฯ  มีหลายสาเหตุครับ   ::014::

ส่วนมากที่เจอแถวอีสาน ....ปลูกแล้วไม่โตหรือตายจะเกิดจากเจอดินดาน  ชั้นหน้าดินตื้น....ตอนแรกๆปลูกต้นยางก็โตดี   แต่เริ่มเข้าปีที่สองสาม  ต้นเริ่มตายลงมาจากยอด  ปลูกใหม่ก็เป็นใหม่ไม่ค่อยเจอว่าเป็นรากเน่าแล้วตายเหมือนทางระยองหรือใต้  แต่ถ้าเจอต้องหายาราดดิน(ผมไม่ทราบว่าต้องใช้ยาตัวไหน)

เห็นส่งเสริมให้ปลูกยางกันเยอะๆแถวอีสานแล้วรู้สึกสงสารเกษตรกร ....เนื่องจากสภาพดินของบางจังหวัดไม่เหมาะสมครับ   ชั้นดินมีตื้นไม่ถึงเมตรก็มี ....ลึกลงไปเจอดินดาน    เวลาปลูกไป  ยางมันไม่ตายให้เห็นทันที....มันจะตายตอนโตพอจะได้เงิน    แล้วเงินที่ลงไป 4-5  ปี    บางสวนหายวับไปกับตา

แม่ และน้องสาว คนละพ่อปลูกไว้ 700 กว่าไร่ แปดปีแล้ว ผมเห็นแต่ โดนลมแล้วหักเป็นสิบๆ ต้น