เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

+++ราวบันไดเลื่อนห้างดังย่านรังสิตดึงผมด.ญ.12 ปีสาหัส+++

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ก.ย. 2555 เหตุบันไดเลื่อนของศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ราวบันไดเลื่อนได้ดึงเส้นผม เด็กหญิงนวลแพร วสุทพิชัยกุล อายุ 12 ปี ขณะกำลังขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นที่สองขึ้นชั้นสาม โดยขณะที่ เด็กหญิงนวลแพร กำลังก้มดูการแสดงด้านล่าง ราวบันไดเลื่อนได้ดึงเส้นผมเข้าไปติด ทำให้ผู้คนที่เดินอยู่ในศูนย์การค้าตกใจร้องกันเสียงหลงขอความช่วยเหลือเด็ก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ รปภ. ได้มาหยุดเครื่องบันไดเลื่อนพร้อมทั้งได้ช่วยเหลือ แต่เด็กหญิงนวลแพร ได้หมดสติไปแล้ว เจ้าหน้าที่ รปภ.จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต เข้ามาช่วยเหลือปั้มหัวใจเด็ก จากนั้นจึงนำตัวส่ง รพ.ปทุมเวช

จากการสอบถามนางวิจิตรา วสุทพิชัยกูล อยู่บ้านเลขที่ 139/205 ม.4 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มารดาของเด็ก กล่าวว่า พาลูกสาวสองคน พร้อมป้าอีกหนึ่งคน มาเรียนพิเศษในวันหยุดที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ เมื่อมาถึงหาที่จอดรถไม่ได้จึงได้ให้ลูกลงจากรถเดินขึ้นไปเรียนก่อนแล้วตนหาที่จอดรถได้ก็จะตามขึ้นไปหาลูก เมื่อจอดรถเสร็จได้เดินตามหาลูกก็มาพบว่าลูกสาวเกิดเหตุ ผมติดราวบันไดเลื่อนถึงกับเป็นลมหน้าบันไดเลื่อน เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยปฐมพยาบาลแม่อีกคน

ส่วนทางผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายให้ที่โรงพยาบาลปทุมเวช โดยขณะนี้ได้ปั้มหัวใจเด็กมีการตอบสนองขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ปลอดภัย เพราะเด็กหมดลมหายใจไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากมีเลือดคั่งในสมอง ซึ่งทางแพทย์กำลังอยู่ระหว่างช่วยเหลือชีวิตเด็ก จะต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

ที่มา เนชั่นทันข่าว

(http://www.krobkruakao.com/store/news/61376/1347184155.jpg)

เหตุเกิดเวลา 12.00 น.วันนี้ (9 ก.ย.) โดยบันไดเลื่อนของศูนย์การค้าฯย่านรังสิตได้ดึงเส้นผมของเด็กหญิงนวลแพร วสุทพิชัยกุล อายุ 12 ปี

ขณะขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้น 2 ขึ้นไปชั้น 3 โดยระหว่างทางเด็กหญิงนวลแพรได้ก้มลงมาดูการแสดงด้านล่างจึงทำให้เส้นผมเกิดเข้าไปติดกับบันไดเลื่อนที่กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้น 2 


ควรจะเอาป้ายมาห้อยเตือนไว้  ในส่วนที่ใกล้จะถึงช่วงรอยต่อระหว่างชั้น

ในลักษณะนี้ จะเป็นการหนีบศีรษะ มากกว่า  เพราะ ไปติดในส่วนของช่องว่าง

ผมคิดว่า อย่างนั้น

น่าจะหนีบศีษะอย่างที่คาดไว้นะครับ อย่างไรก็ดี อยากทราบลักษณะการติดหรือหนีบ ท่านใดทราบข้อมูลจริงๆ รบกวนบอกหน่อยนะครับ

เป็นข้อพึงระวังอย่างยิ่งสำหรับท่านที่มีเด็กๆในวัยนี้ และต้องขึ้น-ลงบ่อยๆ ตามห้างต่างๆ

บางทีก็เห็นเด็กชายถูกบันไดเลื่อนหนีบเชือกผูกรองเท้าเช่นกัน... ห้างดังมากนี่แหละ สงสัยปล่อยเชือกรุ่งริ่งเกินไป 

นายสมชายเคยบอกคนในห้างหลายครั้งครับ ให้กันเด็กยืนกลาง และให้อุ้มเด็กเล็กไม่ให้ยืนด้วยเท้าของตนเอง... ผลคือมักจะโดนตำหนิว่า"คิดมาก"แต่นายสมชายก็จะทำต่อไปทุกครั้งที่มีโอกาส, เรื่องแบบนี้คนไทยไม่ค่อยคิดกันครับ"ต้องรอให้มันเกิดเรื่องเสียก่อน"...

เด็กตัวสูงไม่มาก มีสารพัดที่จะไปโดนหนีบติดกับบันไดเลื่อน เช่นชายแขนเสื้อ ชายกระโปรง เชือกผูกรองเท้า ฯลฯ... ส่วนเด็กตัวเล็กๆหากไม่อุ้มเอาไว้ อาจโดนหนีบเท้าทั้งเท้าครับ ในจังหวะขั้นบันไดกำลังเลื่อนเข้าพื้นชั้นบนที่มันมีช่องว่างแค่นิดเดียว แต่เวลาดวงไม่ดีช่องนิดเดียวมันจะเริ่มกินชิ้นส่วนรองเท้าก่อน แล้วดึงเอาเท้าทั้งเท้าบดเข้าไปในช่องว่างนั้น...

ตามข่าวฯ หากแม่เด็กฯ เป็นคนช่างสังเกตและอ่านป้ายตามรายทางที่เดินผ่านไปผ่านมาประจำวัน จะเห็นปุ่ม"ฉุกเฉิน"ตรงหัวบันไดทั้งด้านล่างและด้านบน ให้วิ่งเข้าไปเตะปุ่มครับ บันไดเลื่อนจะหยุด...

วัฒนธรรมไทยไม่ค่อย"อ่านป้ายเตือน" เวลาเกิดเหตุก็มันตกใจทำอะไรไม่ถูก... แม้แต่ป้ายบอกทางตามถนนยังบอกไม่รู้เรื่อง แต่คนไทยก็อยู่กันได้ เพราะอาศัยความเคยชิน ซึ่งแปลว่าไปครั้งแรกต้องมีหลงทางหนึ่งครั้งเสียก่อน...

สังเกตดูหลายๆห้างตัวอาคารกับบันไดเลื่อนห่างกับไม่ถึงคืบเหมือนเป็นกรรไกรเห็นแล้วไม่สบายใจแต่แล้วก็เกิดเหตุขึ้นจนได้  ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

ไม่น่าเชื่อ อันตรายระวังกันครับ

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่  carrera  อ่ะ  ฮา

น่ากลัวจริงๆน๊าาาา   "บรรได"  หนีบ   เนี่ยะ  ฮา
กระทู้นี้  ยาย "ห่วง"  พวกท่าน  สว.  อ่ะ ฮา

เวลาไป  "ตัดผม"  ก็หาร้าน  ที่เขามีบริการ  "ตัดขน"  ด้วยอ่ะ ฮา

55555 ไม่อย่างนั้น  เวลาเดินห้าง  ฮา
ขนมัน จะ  "เลื้อย"  ออกไปติด  ซอกบันได   แบบที่  พี่นายสมชาย(ฮา) แกห่วง  อ่ะ 

ยายกลัว  ถูก "ดึง"  หลุดไปทั้งพวง อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

5555  ยิ่งแก่  ยิ่งยาว   ฮา 555555555555555555555

ผมไปห้างใหม่ๆหลายครั้งก็รู้สึกแบบนั้นครับ น่ากลัวและเคยหัวชนไอ้ป้ายเตือนด้วย
ป้ายบางห้างติดแนวขนานกับบันไดเลื่อน ต้องผ่านถึงเห็น
สมัยก่อนบันไดเลื่อนจะอยู่กลางห้างทั้งขึ้นลง แต่สมัยใหม่เน้นแต่การค้าไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

ผู้เกี่ยวข้องเอาเป็นตัวอย่างสักหน่อย ฟ้องแพ่งเยอะๆเอาให้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะความผิดมาจากห้างมักง่ายเต็มๆ


 

 

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเด็กชายวัย 3 ขวบ ที่ผู้ปกครองพาไปตรวจรักษาตาอักเสบ กับแพทย์ รพ.หนึ่งในขอนแก่น ระหว่างรอคิวตรวจที่อาคาร เด็กชายได้เดินขึ้นลงบันไดเลื่อนที่อยู่ในอาคาร และเกิดพลาดถูกราวบันไดเลื่อนฝั่งขาลง ดึงกระชากขาข้างซ้ายหนูน้อยวัย 3 ขวบเข้าไปในช่องบันไดจนข้อเท้าขาดหลุดไปติดที่คานเลื่อนบันไดด้านใน

เจ้าหน้าที่แพทย์รายหนึ่งใน รพ. เปิดเผยถึงวินาทีเหตุร้ายที่เกิดขึ้นว่า หนูน้อยวัย 3 ขวบ ร้องไห้จ้าด้วยความตกใจและเจ็บปวด จนหมดสติ เลือดไหลนองทั่วพื้นบันไดเลื่อน เจ้าหน้าที่เวรเปลรับส่งคนไข้ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เข็นเปลผู้ป่วยเดินผ่านมาเห็นรีบวิ่งขึ้นไปสับสวิตช์เชอร์กดปิดให้บันไดเลื่อนหยุดทำงาน ก่อนญาติผู้ป่วยที่มาเฝ้าไข้ใน รพ.และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในละแวกนั้น ช่วยกันงัดบันไดเลื่อนนำตัวเด็กชายเคราะห์ร้ายออกมาได้ แต่ก็ใช้เวลาเกือบ 20 นาที

เจ้าหน้าที่จึงรีบนำหนูน้อยวัย 3 ขวบ เข้ารักษาที่ห้องผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน และย้ายไปผ่าตัดรักษาช่วยชีวิตที่ห้องไอซียู โดยทีมแพทย์ผู้รักษานำชิ้นส่วนที่ขามาต่อ ใช้เวลาในการรักษาหลายชั่วโมง ขณะนี้อาการของเด็กยังไม่รู้สึกตัว ยังไม่พ้นขีดอันตราย และไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อเท้าที่นำมาต่อจะใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่

เบื้องต้นทางผู้บริหาร รพ.ก็ได้ประชุมกันว่าจะช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั้นทางคณะแพทย์ จะเปิดแถลงข่าวแจ้งให้ทราบในวันที่ 12 ก.ย.นี้

ที่มา เนชั่น

โอ.....  :OO
ขอให้เด็กปลอดภัยครับ  ::014::

จากเหตุการณ์บันไดเลื่อนภายในศูนย์การค้าย่านรังสิต หนีบศีรษะ ของ ด.ญ.นวลแพร วสุนทพิชัยกุล อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/205 หมู่ 4 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จนมีอาการหมดสติและบาดเจ็บที่ศีรษะ เหตุเกิดวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมาและได้ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลปทุมเวชและย้ายต่อไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

นางรัตนา อนันท์นุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต กล่าวว่า ได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.นวลแพร อยู่ตลอดเวลา ทราบทางแพทย์ว่า ผู้ป่วยมีอาการสมองได้รับการกระทบกระเทือนและเลือดคั่งในสมองซึ่งได้มีการนำเลือดที่คั่งออกมาแล้วและผู้ป่วยมีอาการกะพริบตา ส่วนร่างกายอย่างอื่นจะต้องรอดูการของอีกระยะหนึ่ง

ส่วนการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก ในวันนี้ทางศูนย์การค้าได้ให้พนักงานฝ่ายช่างอาคารได้นำแผ่นพลากติกใสมีข้อความ "ระวังศีรษะ"มาติดตั้งให้เห็นเด่นชัดเจน โดยติดป้องกันไว้แล้วทุกชั้น โดยเฉพาะกับทางขึ้นบันไดเลื่อนของศูนย์การค้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นมาอีก

ที่มา เนชั่น

ขอให้หนูน้อยปลอดภัย

น่ากลัวมากเลยครับ เด็กเล็กแบบนี้ผู้ปกครองต้องดูแลดีๆ

น่าแปลกมาก  ::003::
พักนี้มักมีเหตุการณ์คล้ายๆกัน เกิดขึ้นติดๆกัน ในเวลาไม่ห่างกันมาก
รถตกทางด่วน ก็เกิดหลายครั้ง ต่อเนื่องกัน
รถชน "ตำรวจ" เสียชีวิต ก็ 3 ราย ไม่ถึงเดือน
บันไดเลื่อน ก็เกิดซ้ำ ในเวลาไม่ถึงเดือน
!!!

.
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ห้องประชุมหนองแวง สำนักงานคณบดี ชั้น 6 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ผศ.นเรศ วโรภาสตระกูล รองคณบดีฯ ฝ่ายบริหาร ศ.นพ.วีระชัย โควสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาออร์โธปิดิกส์ ผศ.นพ.พลากร สุรกุลประภา อาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ พร้อมพ่อแม่ของด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 2 ปี 10 เดือน ที่ประสบอุบติเหตุถูกบันไดเลื่อนของอาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อนุสรณ์ 2 รพ.ศรีนครินทร์ หนีบขาซ้ายจนหลุดออกมาและเจ้าหน้าที่พยาบาลตึกไอซียูศัลยกรรม ร่วมกันแถลงข่าว
 

โดยศ.นพ.ภิเศก แถลงว่า กรณีเด็กชายวัย 2 ปี 10 เดือน ประสบอุบัติเหตุบันไดเลื่อนหนีบขาซ้ายจนขาดเมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่แม่และป้าของเด็กผู้เคราะห์ร้ายรายนี้มาตรวจตา ที่รพ.ศรีนครินทร์ จนเวลาประมาณ 12.00 น. แม่และป้านำน้องเอ ลงบันไดเลื่อนของอาคารจากชั้น 2 ลงมาที่ชั้น 1 โดยป้าอยู่ด้านหน้า ส่วนแม่ลงมากับเด็ก ระหว่างนั้นก่อนถึงพื้นประมาณ 3 ขั้นบันได แม่ได้ทำร้องเท้าแตะหลุดเข้าไปในบันไดเลื่อนจากนั้นมีเสียงดังขึ้น 2 ครั้ง เมื่อแม่และป้าหันมาดูก็พบว่าน้องเอ ถูกบันไดเลื่อนหนีบขาจนขาดแล้ว ด้วยความตกใจก็รีบอุ้มเด็กออกมาพร้อมร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่รปภ.มาปิดปุ่มบันไดเลื่อน แพทย์และพยาบาลที่อยู่ใกล้มาช่วยเหลือนำส่งฟ้องไอซียูทันที


“เมื่อทำการปฐมพยาบาลที่ตึกไอซียูศัลยกรรมแล้วส่งมายังห้องผ่าตัดฉุกเฉินทันที เพราะบันไดหนีบข้อเท้าด้านซ้ายขึ้นมาประมาณ 4 นิ้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง รีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และค้นหาขาซ้ายก็พบอยู่ที่ด้านในของบันไดเลื่อน จากนั้นรีบนำขาเด็กไปยังห้องผ่าตัด เพื่อให้คณะแพทย์ต่อขาทันที  สำหรับบันไดเลื่อนที่อยู่ในอาคารมีวิศวกรมาตรวจสอบทุกวันก่อนที่จะมีการใช้งาน กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีสาเหตุเกิดขึ้นมาจากอะไร การเกิดเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นมาเหมือนว่าของมีคมอย่างมากมาตัดขาจนขาด  ตอนนี้วิศวกรเครื่องกลที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับบันไดเลื่อนตรวจสอบหาสาเหตุโดยต้องขอเวลาอีกทั้งตำรวจก็มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วด้วย” ศ.นพ.ภิเศก กล่าว
 

ศ.นพ.ภิเศก กล่าวอีกว่า สำหรับอาการของคนป่วยดีขึ้นแล้ว รู้สึกตัวดีแม้ว่าบางครั้งดูเชื่องซึมไปบ้าง และขาที่หลุดไปนั้นก็ต่อได้เหมือนเดิมแต่ต้องรอดูอาการสักระยะหนึ่งว่าเส้นเลือดที่ต่อไปแล้วจะอุดตันหรือไม่ ถ้าเส้นเลือดที่ต่อในตัวทำงานได้ดี ขาซ้ายที่หลุดไปนั้นแล้วต่อเข้าที่เดิมก็กลับเข้าสู่ปกติ และมีชีวิตเหมือนเดิมเหมือนเด็กทั่วไป
 

ด้านศ.นพ.วีระชัย กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุบันไดเลื่อนหนีบขาซ้ายจนขาดแพทย์ได้ทำการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง จนสามารถต่อขาซ้ายได้ส่วนหนึ่ง และคณะแพทย์ต้องดูแลด้วยการต่อหลอดเลือดแดง อุดตันหลอดเลือดแดง เข้าสู่ในสภาพเดิม เพื่อให้เลือดวิ่งไปสู่ที่ขาที่ถูกตัดออกมา ผู้ป่วยได้เข้าสู่สภาพปกติเหมือนเดิมแม้ว่าอาการยังอ่อนเพลียมากก็ตาม เมื่อการต่อขาแล้ว ขาซ้ายจะสั้นลงกว่าขาขวาประมาณ 1.2 นิ้ว  แต่คนไข้ยังเป็นเด็กอยู่ความเจริญเติบโตดีกว่าผู้ใหญ่เยื่อเจริญความเติบโตจะช่วยให้เด็กมีขาเท่าเทียมกันได้ ในส่วนค่ารักษาที่คาดว่าจะสูงมากก็เป็นความรับผิดชอบของ รพ.ศรีนครินทร์ ที่จะเยียวยาและดูแลรักษาไปจนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ
 

ขณะที่พ่อของน้องเอ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแพทย์และพยาบาลได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตนก็ไม่ติดใจในการรักษาแต่อย่างไร แต่สิ่งที่คาใจอยู่ในขณะนี้ ทำไมบันไดเลื่อนมีเหตุขัดข้องและมาเกิดขึ้นกับลูกชาย ขอให้รพ.ศรีนครินทร์ รีบแก้ไข พร้อมกับหาทางป้องกันอย่าให้บันไดเลื่อนหนีบขาใครอีก ส่วนแม่น้องเอ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมากไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่ทราบว่าจะพูดอย่างไร โดยช่วงเกิดเหตุไม่ได้ปล่อยลูกชายวิ่งเล่นบนบันไดแต่อย่างใด ทั้งนี้แม้รักษาหายก็คงไม่เหมือนเดิมและเป็นเรื่องเตือนใจไปตลอดชีวิตอีกทั้งทุกวันนี้น้องเอ นอนผวาร้องไห้แทบทุกคืนด้วย ทั้งนี้หลังแถลงข่าว  ศ.นพ.ภิเศก พร้อมคณะแพทย์ นำสื่อมวลชนไปดูบันไดเลื่อนที่เกิดเหตุพบว่าได้ปิดใช้ชั่วคราว

 

ส่วนที่ รพ.กรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงอาการบาดเจ็บของด.ญ.นวลแพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี ชาว อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ผมติดเข้าไปในบันไดเลื่อนห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จ.ปทุมธานี แล้วบีบศีรษะอัดติดกับกำแพงจนสลบคาที่นั้น ล่าสุด น้องนวลแพร ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู 4 ชั้น 4 ของรพ.กรุงเทพ เป็นวันที่ 4 แล้ว มีทางแพทย์เฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด โดยอาการทั่วไปยังคงที่ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ โดยทางญาติไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปดูอาการหรือสอบถามแต่อย่างใดเนื่องจากยังอยู่ในอาการโศกเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

นายสุพัตถ์ จารุศร นายกสมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย ทราบว่า การติดตั้งบันไดเลื่อนที่ถูกต้องต้องมีป้ายบอกคำเตือนอย่างชัดเจน ต้องประกาศตรงทางเข้าของบันไดเลื่อนหรือทางเลื่อนอัตโนมัติ ส่วนอุปกรณ์หยุดฉุกเฉินต้องเป็นสีแดง และต้องติดคำว่าหยุด หรือ สต๊อป

 

นายสุพัตถ์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญคือช่องว่างของราวบันไดเลื่อนและผนังกั้น ต้องมีระยะห่างกันประมาณ 44-50  เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัย หากแคบกว่านั้นต้องมีป้ายเตือนห้อยลงมา ทั้งนี้สมาคมฯ จะได้จัดโครงการเกี่ยวกับการสอนเด็กในโรงเรียน ในการใช้บันไดเลื่อนและลิฟต์ เป็นหลักสูตรตามโครงการในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ต่อไป
 

“สำหรับวิธีการใช้บันไดเลื่อนและทางเลื่อนอัตโนมัติ สามารถปฏิบัติได้อย่าง เช่น เวลาขึ้นบันไดเลื่อนไม่ควรยื่นหัวหรือมือออกจากแนวราว  ควรจับราวบันไดเลื่อนข้างหนึ่งเสมอ ถ้าหากมีเด็กเล็กมาด้วยควรใช้ลิฟท์แทน ถ้าพอจะยืนได้ก็ให้เด็กยืน การอุ้มบนบันไดเลื่อนนอกจากจะเสี่ยงต่อการทำเด็กตกหล่นลงไปที่ชั้นหนึ่ง ยังเสี่ยงการเสียหลักล้มเวลามีคนมาเบียดและควรเว้นที่ว่างข้างหน้าเราไว้อย่างน้อยหนึ่งขั้นเสมอ” นายสุพัตถ์ กล่าว
 

นายสุพัตถ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้สูงอายุนั้นหากจะขึ้นลงบันไดเลื่อนควรใช้การจับราวบันไดสองมือเสมอ ในส่วนของผู้ที่ใช้ไม้เท้าหรือมีปัญหาการเดิน หรือเด็ก ควรใช้ลิฟท์แทนการใช้บันไดเลื่อน  ที่สำคัญห้ามใช้รถเข็นผู้พิการทางขา หรือรถเข็นเด็กทารกบนบันไดเลื่อนเด็ดขาด ในสุภาพสตรีก็ควรระมัดระวังส่วนของเสื้อผ้าที่ปล่อยชายหรือมีสายระโยงระยาง รวมทั้งเครื่องประดับที่ห้อยข้อมือ เพราะมีโอกาสเกี่ยวติดไปกับราวบันไดเลื่อนและลากไปหนีบได้

ที่มา เดลินิวส์

ขอให้น้องๆทั้งสองคนหายโดนเร็วครับ

บันไดเลื่อนนี่น่ากลัวจริงๆครับ...

ลูกสาวผมเคยถูกลากรองเท้าเข้าไปทั้งข้างเลย...

โชคดีที่เป็นรองเท้าแตะไม่รัดส้น เท้าเลยหลุดออกมาได้...เฮ้อ...  :OO

แสดงว่า ช่วงระหว่างขั้นบันได

มีช่องว่างมากเกิน

น่าจะมีปุ่มหยุดฉุกเฉินนะครับ...หรือว่ามีอยู่แล้ว...ถ้ามี ควรอยู่หัว-ท้าย มีป้ายบอก มองเห็นได้ชัด ใช้งานได้ทันที

สภาพปรกติมันมองเห็นไม่มีช่องว่างครับ แต่เวลาไปกดหรือเหยียบตรงรอยต่อ ขั้นบันไดมันขยับได้ เลยเป็นช่องว่างให้กินของที่อยู่บนขั้นบันได... มีอีกเรื่องคือผิวตรงชิ้นส่วนเคลื่อนไหวมันไม่เรียบ มันก็เลยเหมือนฟันเฟืองหนีบของเล็กๆเข้าไปก่อน เช่นชายเสื้อผ้าหรือขอบรองเท้า พอมันเริ่มโดนกินเข้าไปปุ๊บ มันก็ลากที่เหลืออยู่ให้โดนกินเข้าไปด้วย...

แล้วที่แสบคือมันเริ่มกินชิ้นเล็กๆตอนเริ่มต้น แต่เวลามันดูดเจอของใหญ่ ขั้นบันได้มันขยับตัวแยกออกเป็นช่องใหญ่ขึ้นให้กินของใหญ่ได้ครับ แต่บันไดเลื่อนไม่หยุด... ก็เลยกินขาเด็กให้หลุดจากลำตัวได้ ตามท้องเรื่องในกระทู้ที่บันไดเลื่อนใน รพ. กินขาเด็กจนหลุดฯ...

นายสมชายยังยืนยันเหมือนเดิมว่าควรต้องอุ้มเด็กที่พออุ้มได้ อย่าปล่อยให้ยืนบนเท้าของตนเอง... ตามคู่มือใน Post ข้างบนเขาบอกว่าไม่ให้อุ้มเพราะกลัวจะล้มโดนคนที่ยืนอยู่ข้างล่าง, ซึ่งนายสมชายขอบอกว่าอย่างนั้นแสดงว่าพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่พาไปด้วย"ยังไม่พร้อม"พาเด็กออกนอกบ้านครับ เพราะหากจะเด็กเล็กๆ ไปไหนมาไหนด้วย ต้องมีความสามารถพาเด็กพ้นอันตรายได้ เช่นข้ามถนน ฯลฯ...

หากไม่มีความสามารถอุ้มเด็กเล็กๆได้ ก็ต้องหาอุปกรณ์ช่วย เช่นซื้อรถเข็น หรือหาคนไปด้วยให้ช่วยกันอุ้มครับ... หากทำไม่ได้ให้อยู่กับบ้าน, หากอ้างว่าไม่มีเงินซื้อรถเข็น ก็ต้องหาวิธีแก้โจทย์ให้สามารถ"อุ้มลูกจูงหลาน"พ้นอันตรายให้จนได้ครับ...

บันไดเลื่อนทุกตัวมีครับ แต่ปัญหาคือคนส่วนหนึ่งไม่ค่อยอ่านป้ายตามรายทางครับ ทั้งป้ายเตือนและป้ายบอกวิธีใช้ข้าวของเคื่องใช้อุปกรณ์...

 ::014::เขาซุกไว้ดีเกินไปครับพี่...ผมเคยเห็น เป็นสวิทแบบกด ซุกอยู่ตรงมุมครับ

สติ โลกัสมิ ชาคะโร
สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก

สติแปลว่า ความระลึกได้ เป็นเครื่องเตือนใจให้ตื่นอยู่เสมอในการกระทำทั้งหมด บุคคลผู้มีสตินั้น เป็นผู้ตื่นตัวอยู่เสมอ ทำอะไรก็จะไม่ผิดพลาด เพราะมีสติคอยเตือน
การทำป้ายเตือน ก็ถือว่าเป็นประโยชน์แต่ เตือนได้แค่สติ หากผู้ถูกเตือนนั้นขาดสติก็ไม่มีประโยชน์อันใด  หากเรามีสติอยู่กับตัวความผิดพลาดอย่างนี้ก็จะไม่มีขึ้นอีก
หากเป็นเด็กเล็ก ที่ยังไม่รู้เรื่อง พ่อแม่ก็ควรมีสติดูแลลูกตนเองให้ดีเพราะไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาแบบนี้อีก

สติมีได้ทุกที่ ทุกเวลา เดิน กิน นอน นั่ง พูด ถ้ามีสติอยู่เสมอ ชีวิตก็จะเป็นสุข  เจริญพร......

ปัญหามันเกิดเพราะผู้ใหญ่ที่ไปด้วย"ไม่รู้"ว่าจะทำอย่างไรไงครับ... คือทุกอย่างในโลกมันเรียนรู้ได้ด้วย 2 อย่างคือ 1) จากประสบการณ์ ลองผิดลองถูก และอย่างที่ 2) คือเรียนรู้จากองค์ความรู้ที่"สรุป"มาแล้วจากประสบการณ์ผู้อื่น แล้วเป็นแนวปฎิบัติสำหรับคนข้างหลังไม่ต้องไปลองด้วยตนเอง เพราะการลองด้วยตนเองอาจต้อง"เสียค่าทดลอง"คือผิดเป็นครู แบบตามกระทู้นี้ที่เสียใจครับ...

ธรรมะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ"วินัย"เทียบได้กับศีลครับ... วินัยของคนทั่วไปคือ"ต้องพยายามดูป้ายเตือนต่างๆ", หากไม่ดูป้ายเตือนก็คือหย่อนวินัย แล้วก็"ไม่รู้"ปล่อยให้เด็กเข้าสู่ความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น...

เมื่อมีศีลหรือวินัยแล้ว ขั้นต่อมาก็คือมีสมาธิเตือนตัวเองให้มีสติ ให้ปฎิบัติตามป้ายเตือนว่าควรระมัดระวังเด็กเล็กระหว่างใช้บันไดเลื่อน... ถัดมาคือมีปัญญาป้องกันได้ก่อนเกิด, และมีปัญญาสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้เมื่อเกิดเรื่องแต่ยังไม่เลยเถิดจนสถานการณ์แย่ฯ(ตามท้องเรื่องคือวิ่งไปเตะปุ่มแดงให้หยุดฉุกเฉิน)...

คนไทยส่วนหนึ่งดำรงตนด้วยความประมาท ไม่เคยดูป้าย ไม่เคยเหลียวซ้ายแลขวาเวลาข้ามถนน ไม่เคยมีวินัยเรื่องการรักษาความปลอดภัยของตนเอง เช่นข้ามถนนต้องใช้สะพานลอย(อ้างสาเหตุสารพัด) ฯลฯ... เมื่อใครไปเตือนก็มักโดนตำหนิทำนองว่าฉันรู้แล้ว หรือไม่ก็บอกว่าคิดมากเกินฯ...