เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สักเดือน สองเดือนที่ผ่านมา รู้สึกว่าเดินทางยากลำบากขึ้น ไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ตก (แต่ถ้าตกจะยิ่งสาหัส เกินกว่าจะคาดคิด ) ทั้งที่รถไฟฟ้าก็มี สถานีก็มากขึ้น
หลายคนบอกว่ามาจากนโยบายรถคันแรก ทำให้กระหน่ำซื้อกัน ทั้งที่อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุด แต่การได้ส่วนลดหลายหมื่น จนถึงร่วมแสนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการซื้อ
ทั้งซื้อเพิ่ม ซื้ิอก่อนหมดโปร ฯลฯ

ทำให้จำนวนรถในถนนเพิ่มมากขึ้น ทั้งอีโคคาร์  รถคันแรก  รถเอาไว้ลุยน้ำสำหรับเศรษฐี  รถลูกที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้ รถสำหรับคนขับไปส่งลูกที่โรงเรียน  เต็มไปหมดเพิ่มจากเดิมๆที่มากมายอยู่แล้ว
พื้นที่ถนนเท่าเดิม บวกทางด่วนอีกนิดหน่อย วงแหวนหลายๆรอบ  ก็ยังไม่เพียงพอในเวลาที่รถออกจากที่จอด แล้งมาใช้ถนนพร้อมๆกันตอนเช้าและเย็น แต่ตอนนี้มันติดขนาดหนัก แทบทั้งวัน แทบทุกเส้นทาง
ขึ้นทางด่วน รถรอจ่ายเงินค่าผ่านทางยาวเป็นกิโล ใครไม่เคยเห็นบ้าง ทั้งด่านงามวงศ์วาน ด่านพระรามเก้า ฯลฯ

ในหนึ่งวัน ไปได้ไม่กี่ที่ก็หมดเวลา อยู่บนรถจนเครียด ฟังเพลงก็แล้ว กินขนมจนอ้วนปี๋  น้ำท่าบริบูรณ์ ทั้งคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ไอโฟน โทรศัพท์ 3 ระบบ มีให้ทุกอย่างก็ไม่มีความสุขเลย
เวลาปวดทุกข์ยิ่งสาหัส กลั้นจนเจ็บ แทบขยับไม่ได้  ทำไมคนกรุงเทพ ต้องทุกข์กับการจราจรมากจริงๆ ทั้งโลกยกให้เป็นที่หนึ่งเรื่องความเลวร้ายของรกติด แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับ มันยัง"ไม่มีทางแก้"เลย

ใครมีไอเดียดีๆ หรือเคยเห็นเมืองใหญ๋ในต่างประเทศที่คนเยอะๆ รถเยอะ แก้ได้เป็นรูปธรรม พอบรรเทาได้บ้าง มาช่วยแชร์กันให้ผู้เป็นใหญ่ของบ้านเมืองตาสว่างกันดีไหมครับ
อย่าให้พวกเขาคิดอะไรแบบประชานิยมขอไปทีมาใช้อีก ความชิบหา.. จะมาเยือนประชาชนอีก

เท่าที่พอจะคิดได้คือ ย้ายความเจริญออกไปข้างนอกบ้าง ทั้งสถานศึกษา ราชการสำคัญๆ แล้วทำระบบขนส่งด้วยราง ไปให้ถึง และต้องให้เร็วที่สุดตอนนี้มันแย่มากแล้ว ต้นทุนการเดินทาง การส่งของ เพิ่มขึ้นมากเราต้องจ่ายไปโดยไม่รู้ตัว
ทำอย่างไรให้ไม่ต้องเข้าเมืองให้มีทุกอย่างอยู่นอกเมือง โรงพยาบาลดังๆ มหาวิทยาลัยดังๆที่คนอยากเรียน เส้นทางกรุงเทพ-ชลบุรี พัทยา มีสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ตรงกลาง ทำให้มันเจริญถึงขีดสุดไปเลย เอาให้มันเชื่อมกันไปเลย เพราะสนามบินมีการเดินทางมากอยู่แล้ว ต่อไปการขนส่ง การเดินทางโดยเครื่องบินจะเป็นเรื่องปกติ เหมือนเดินทางด้วยรถไฟ รถทัวร์ที่ใครๆก็ไปได้ โลว์คอสท์ โลว์เซอร์วิสเต็มไปหมด

เรืองรถยนต์คงจำกัดลำบากใครๆก็อยากสบาย อยากให้ลูกหลานสบาย จะไปห้ามใช้ตามวันคู่ วันคี่ คงยาก เดี๋ยวก็ต้องซื้อสองคัน เพื่อให้ใช้ได้ทุกวัน หนักข้อไปอีก
บ่นมากแล้ว ขออนุญาตฟังความเห็นท่านอื่นบ้าง  และขอขอบคุณในไอเดียด้วยครับ ::014::
 

จริงครับ ตามนิคมอุตสาหกรรมคนทำงานโรงงาน รถเยอะขึ้นมาก

รถติด ยิ่งฝนตกยิ่งติด โอ้ ระยะทาง 2 กม เป็น ชั่วโมงโดนมาแล้วครับ  ::012:: ::012::

ทางแก้มี แต่ไม่แก้
คนบริหารบ้านเมืองนี้ มันไม่จริงใจ
มันไม่ได้มาทำเพื่อส่วนรวม
มีแต่มาทำเพื่อส่วนตัว พวกพ้อง
มีที่ไหน ส่งเสริมให้คนซื้อรถส่วนตัว แทนที่จะใช้บริการสาธารณะ

แยกการปกครองส่วนกลางมาตั้งใหม่นอกกรุงเทพ 

หลักการ.....วิชาวิศวกรรมจราจรมันก็มี ตามที่เรียนกันมา
นักวิชาการ อ.มหาลัยเก่งๆก็มีเยอะ ที่ สนข.ก็มีผู้รู้หลายท่าน

แต่ที่แก้ไม่ได้....มันมีหลายเหตุผล ต่างกรรมต่างวาระ

อธิบายกันยาวๆๆๆๆๆๆ

ลดการเข้ามาทำงาน  หรือเข้าโรงเรียนในเมือง  บ้านใครอยู่รอบนอก แล้วให้ลูกเรียนโรงเรียนในละแวกนั้น ตามที่อยู่หรือทะเบียนบ้าน เพิ่มค่าลดหย่อนลูกให้ 100 % เป็นค่าลดการเดินทางเข้าเมือง

บริษัทที่เปิดใหม่ หรือของเดิมที่ย้ายออกไปรอบนอก หากต้องเสียภาษีจากกำไร คืนให้ 20-30 %  เป็นค่าสนับสนุนลดการเดินทาง ประหยัดพลังงาน

หนทางแก้แบบถาวรน่ะมันมีครับ แต่ไม่มีคนทำ

Ha Ha Ha ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ Seiya อ่ะ  ฮา


ยายเสนอ  ให้เขียนประเด็น  1 2 3  แบบสั้นๆ มาเลย ว่าต้องการ แนะนำ อย่างไร อ่ะ ฮา  ::007::

Ha Ha Ha   ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ประเด็นหลักๆคือ  กรุงเทพ ปี 2555 ประชากร เกือบ 70 ล้าน  แต่ขนาดพื้นที่  เท่าเดิม  ฮา

การ  "ย้ายเมืองหลวง"  ย้ายไปที่ไหน  ยอดเขา ริมทะเล  ยายเห็นด้วยทั้งหมด อ่ะ ฮา
ยายคิดว่า  คนจน ยันไปถึง  เศรษฐี  เขาเห็นด้วยทั้งหมด อ่ะ ฮา

แล้วมันทำมัย  ยังทำไม่ได้  มีคนเคยคิดทำกันมั้ย  ฮา
ยายคิดว่า  มีคนคิด และอยากจะทำ  แต่โดนเอา "ตรีน" เขี่ยตกกระป๋อง อ่ะ ฮา

ไอ้เข้  "ขวางคลอง"  เนี่ยะ  เป็นตัวปัญหา อ่ะ ฮา

5555 ใครถือครอง "ที่ดิน"  มากที่สุด  นั่นแหละคือปัญหา แหละ  ฮา

ส่วนประเด็นอื่นๆ  แก้ได้ทุกเรื่อง  อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

แล้วทำมัย  พวกเราต้อง  เบียดเสียดไปขึ้นรถเมล์ 
ต้องเจียด  รายได้ส่วนหนึ่ง  ผ่อน "ซื้อรถ"  อ่ะ ฮา
ทั้งๆที่  มันน่าจะมีระบบ ขนส่ง  ขนาดใหญ่ ที่รองรับคนจำนวนมาก

ไอ้รถใต้ดิน  บนดิน  ลอยฟ้า  มันน่าจะเกิดตั้งแต่ปี 20 แล้ว อ่ะ ฮา
ทำมัยมันไม่  "คลอด"  เสียที  เพิ่งจะมีเอาเมื่อ สิบกว่าปี อ่ะ ฮา

ยายเห็นว่า  มีคน  "ได้ประโยชน์" 
จากการ เหยียบหรือดึง เอาไว้ เพื่อจำหน่ายรถยนต์อ่ะ ฮา

ลองไปดู  สัดส่วน  การถือครองหุ้น
ในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่นโตโยต้า ฮอนด้า อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้เรื่อง  "ประชานิยม"  ประชาอยากได้  มันไม่ได้เป็นประเด็นอะไรเลยอ่ะ

การคืนเงิน แสนบาท ในปีีที่ห้า  มันจูงใจ หรือกระตุ้น ได้นิดเดียวอ่ะ
ไอ้คนที่ซื้อ  มันต้องก้มมองดู  กระเป๋าตัวเอง  ไม่ใช่ได้ฟรีๆ  ที่ไหน อ่ะ ฮา

ทฤษฎี ของการซื้อ  "สินค้า ราคาสูง"  คนจน เขา "ชั่งใจ"  มากกว่าเศรษฐี อ่ะ ฮา

พวกเขาซื้อ  เพราะจำเป็น  ไม่อยากเบียดเสียด ขึ้นรถเมล์ อะ ฮา

นายช่างใหญ่กรมทางหลวงมาตอบเอง  เดี๋ยวรอท่่านต้นหนาว ได้เป็นอธิบดีฯก่อน คงดีขึ้นครับ  ::002::   ::005::

จะบ้าเหรอครับยายฯ ย้ายไร ไปไหน ที่ดินทำเลทองเค้าขายกันตรว.ละหลายแสน เหยียบล้านอยู่  ::005::

แล้วแค่ละตระกูล มีกันเป็นสิบเป็นร้อยไร่ ใครจะยอม  ::007::

ไม่รู้อยู่กันได้ไง ทั้งอากาศแย่ ทั้งรถติดหนัก  ::010::

รถยิ่งเยอะ ขับรถยิ่งต้องใจเย็นๆครับ

แก้ที่วินัยคนไทยก่อนครับ  ถ้ามีวินัยจริงๆกันแล้วทุกอย่างก็ราบรื่น

ในบ้านเราที่แก้กันไม่ได้หรือแก้กันไม่สำเร็จมันมันใช่ว่าคนไทยไม่มีปัญญา คนไทยเก่งนะครับแต่ที่ไม่แก้หรือแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มีเหตุผลเดียวคือผลประโยชน์ครับ เมืองหลวงใหม่มาเล์ก็เรียบร้อยแล้ว อย่าคิดอะไรมากเลยเกิดเป็นคนไทยแล้วต้องทนๆๆๆๆๆๆๆๆ สนามบินสุวรรณภูมิยังใช้เวลาสร้างมาเกือบชั่วชีวิต

เริ่มต้นก็ผิดแระ กรุงเทพฯประชากรเกือบ 70 ล้านคน แล้วทั้งประเทศมันกี่ล้านคนครับ

 ::005:: ::005::   ประขากรกรุงเทพ ฯยายเยอะจัง   คนบ้านผมไปอยู่กุงเต๊บหมดแล้วมั้ง    ::004::

เรื่องประชากรแฝงนี่เคยได้ยิน แต่จำไม่ได้ เค้านับกันยังไง เช่นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปีนึงๆกี่สิบล้านคนที่เข้ามาอยู่ มากิน ชั่วคราว

,คนตจว.ที่เดินทางเข้ามาทำธุระกี่คน?กี่รอบ?ต่อปี อยู่อาศัยกี่วันต่อคน มันมากแหละ แต่จำไม่ได้ว่าเค้านับยังไงครับ  ???

เฉพาะในกทม. น่าจะประมาณ 10 กว่าล้านคน
ยายบ๊าบ แกคงพิมพ์ผิด เอาตัวเลข ทั้งประเทศมาใส่
แก่แล้วก็เงี้ย หลงๆ ลืมๆ

อันนี้ก็ไม่ถูกครับ มันเป็นประเด็นหลักเลยที่ทำให้รถเพิ่มมากขึ้น
ช่วงมีนโยบายรถคันแรกมีรถเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ บริษัทผลิตรถเร่งผลิตให้ทันนโยบายนี้ คนที่ซื้อส่วนมากเป็นคนชั้นกลาง ส่วนที่ซื้อเพราะไม่อยากเสียโอกาส แห่ซื้อรถเพียบ เดือนมกราคม-กันยายน 55 รวมกว่า 7.5 แสนคัน ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมรวมกว่า 7 ล้านคัน

รถเยอะขึ้นวินัยจารจรของเราห่วยแตกที่สุด ตั้งแต่รถส่วนตัวยันรถสาธารณะ นึกจะจอดก็จอด นึกจะขับช้าวิ่งขวาก็ทำ เคยถามคนซื้อรถมันบอกว่า "ที่ซื้อรถได้คืน 1 แสนเพราะคิดว่า หากไม่ซื้อใน รัฐบาลชุดนี้ คงไม่มีรัฐบาลไหนจะโง่ให้นโยบายแบบนี้อีก"

นิสัยการขับรถของคนไทยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถติดนะ.......ผมว่า

ผมว่า ต่อให้มีระบบขนส่งมวลชนมากขนาดไหน รถไฟฟ้ายั่วเยี๊ยะขนาดไหน คนไทยก็อยากเอารถออกมาขับอยู่วันยังค่ำ ยิ่งบอกว่ารถน้อยลง ยิ่งอยากเอารถออกมาขับ อากาศมันร้อน ใครจะอยากเดินข้างถนน ไม่เหมือนฝรั่ง บ้านมันไม่ร้อนมาก มันชอบเดิน ได้ขี่จักรยานออกกำลังกายด้วย

ขนาดบ้างประเทศให้ใช้เลขคู่เลขคี่ ยังเอาไม่อยู่ ยังติดอยู่เลย

อยากอินโดฯ เค้าจำกัดเลย ชั่วโมงเร่งด่วน ขับคนเดียวห้ามเข้าตัวเมือง  :D

ยาย บ๊าบ .. แก้ไขด่วน เข้าใจนะว่าพิมพ์ผิด  อิอิอิ

ส่วนเรื่องนโยบายรถคันแรก ..ยายแน่ใจได้ไงว่ามันไม่เกี่ยว ทั้งๆที่ยอดการจองและส่งมอบรถโตขึ้นทันตาเห็น
ลองดูสัดส่วนรถที่จดทะเบียนในพื้นที่ กทม. เทียบกับจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆดูสิครับ เทียบกับรายได้ประชาชนผู้ที่ "มีเครดิต" เพียงพอที่จะออกรถได้

เห็นด้วยครับ ผลประโยชน์ล้วนๆ รู้ๆกันอยู่ อีกหน่อยคงมีทางด่วนพาดกัน3-4ชั้น ถนนวงแหวนหลายสิบเส้น พันกันเป็นขดสปริง แบบว่าต้องแม่นจริงๆ เข้าผิดหลุดไปอีกเขตนึงเลย  ::005::

ไม่รู้อยู่กันได้ยังไง ควันรถแบบนั้น ไม่ต้องสูบบุหรี่หรอกครับ ผมว่ามันยิ่งกว่าร้อยเท่า ที่สูดเข้าปอดไปน่ะ

 (http://image.ohozaa.com/i/69a/gChPp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/2HEN)

ยกตัวอย่าง...

เอาแค่เรื่องทางแยกนะ....เพราะรถมันติดตรงนี้
ง่ายสุดแบบไร้สมอง.....ก็สร้างสะพานข้ามแยกหรืออุโมงค์ลอด
แต่มันจะมีประโยชน์ซักเท่าไหร่ถ้าแยกหน้าไม่ทำสะพานข้ามแยกด้วย แล้วรถติดมาถึงแยกหลังอยู่ดี
แล้วแยกถัดไปล่ะ ติดกันบนสะพานไง

เยี่ยงนั้นก็ทำมันทุกเลยสิ....
แล้วงบประมาณล่ะ
ประชาพิจารณ์ กับ eia ผ่านมั้ย...เวณคืนบ้างอีก ทัศนียภาพ ธุรกิจบริเวณนั้น ฯลฯ
ที่สำคัญ สภาพพื้นที่มันทำได้ทุกแยกมั้ย....
ถ้าทำพร้อมกันทุกแยก(เป็นไปไม่ได้)เอางบจากไหน รถติดบรรลัย
ทำทีละแยก...กี่ปีจะครบ

ที่สำคัญ...มันเป็นเรื่องของผังเมือง ที่ไม่ได้วางไว้อย่างเหมาะสมตั้งแต่โบราณ
เพราะบ้านเรามันเพิ่งเจริญ....
อาจแก้ได้ด้วยการย้ายเมืองหลวง แล้วจัดผังเมืองใหม่ เหมือนหลายๆประเทศ
แต่.....เอ่ออออออ....บรา บรา บาบาๆๆๆๆๆๆ

เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าทุกคนมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน....รถก็จะติดน้อยลง ไม่มากก็น้อย

จุดกลับรถ U-TURN

ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง....ในหลายๆพื้นที่มันมีข้อจำกัด
ทำให้เมื่อกลับรถแล้วไปตัดกระแสจราจร ทำให้ต้องจอดรอกัน ทำให้รถติด

วิธีแก้มันพอมี....แต่สภาพพื้นที่มันไม่อำนวยครับ....คือถนนบ้านเราที่มีอยู่มันแคบครับ และช่องจราจรก็มีน้อย

รถออกจากซอย....ก็ตัวปัญหา

ย่านธุรกิจการค้า สถานศึกษา หน่วยงานราชการ ชุมชน ฯลฯ
ระบบขนส่งสาธารณะ.....
ล้วนแล้วแต่มีผล

ผมว่าย้ายเมืองหลวง วางผังเมืองให้เหมาะสม ง่ายกว่า

การสร้างสะพานข้ามแยก มีประโยชน์ครับ จริงอยู่ว่าอาจไปติดแยกหน้าอยู่ดี แต่มันช่วยระบายรถในแยกดังกล่าว ให้แยกดังกล่าวไม่มีรถสะสมซึ่งอาจทำให้บล็อคการจราจรที่มาจากทางอื่นได้ ป้องกันให้ไม่เกิด dead lock ได้

ส่วนการจราจรติดขัดต้องแก้แบบไหน ผมว่าง่ายนิดเดียวหากเอาข้อมูลทั้งหมดมากางดูกัน แต่ผมว่าที่เขาไม่แก้ก็เพราะผลประโยชน์มันทับไปทับมาเหมือนการจราจรนั่นแหละ

ผมว่าปล่อยการจราจรของกรุงเทพไปตามพรหมลิขิตดีกว่าครับ แต่ต้องเริ่มวางแผนวางผังเมืองอื่นๆ ไม่ให้ซ้ำรอยเมืองหลวง เช่น เชียงใหม่

จริงๆสะพานข้ามแยกมีประโยชน์มากครับ....แก้ปัญหารถติดบริเวณทางแยกได้เป็นอย่างดี
 แต่มันต้องมีความเหมาะสมและสัมพันธกัน ซึ่งต้องมองทั้งโครงข่าย

อย่างน้อยก็อาจทำให้อีกด้านนึงรถไม่ติดก็ได้

ปล.ผมพิมพ์กับมือถือ....เลยอธิบายยาวๆไม่ไหว เอาพอเห็นภาพครับ

สะพานข้ามแยกเห็นที่ บรรหารบุรีไม่ค่อยได้ใช้นี่ครับ หญ้าเต็มเลย  ::005::

ที่นั่น ถนนเค้าเอาไว้ตากข้าว กับวัว ควายสัญจรเป็นหลักครับ

วิสัยทัศน์ระยะยาว ไม่เคยได้เห็น จากผู้บริหารประเทศนี้เลย
หลายเรื่อง เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ถ้าไม่ลงมือทำวันนี้
อีก 10 -20 ปี จะเป็นอย่างไร   :~)

คริๆ ประเทศไทย ใครรู้บ้างมีกี่ที่ที่มีผังเมืองก่อนสร้างเมือง ต่อให้สร้างเมืองใหม่ ออกแบบให้ดีเลิศประเสร์ฐศรีแค่ใหนเผลอแป๊ปเดียวก็แก้แบบกันจนพิกลพิการจนใช้การไม่ได้ ให้ดูรถไฟฟ้า Air port link เป็นตัวอย่าง มัน Link กับอะไรครับ โน้นมัน Link กับผลประโยชน์ของมันล้วนๆ ผูกกันใว้กี่ชั้นกินกันไม่มีวันหมด โครงการนี้ถ้าเป็นแบบ original คงจะช่วยการจารจรได้มากที่เดียว แต่ืที่นี่เมืองไทยมันก็ได้แบบไทยๆ This is Thailand 555 น่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่โดยด่วนใช้ชื่อว่า รถไฟด้วนดีไหมครับ

(http://images.temppic.com/06-10-2012/images_vertis/1349485769_0.72694100.jpg)

โพสนี้แสดงได้ถึงสติปัญญาที่ "โคตรด้อย" ถ้าคิดแบบนี้อีกไม่นานคงไม่ต้องมีบ้านมีช่องอยู่กัน เพราะต้องรื้อสร้างถนนหมด

ส่วนนึง เราควรเริ่มที่วินัยจราจร เริ่มที่ตัวเราเองก่อน เริ่มที่ครอบครัว คนรอบข้าง
ถ้าคนไม่มีวินัย ต่อให้แก้กันยังไง ยังไงมันก็ติดครับ

เห็นด้วยอย่างแรงครับ

เห็นด้วยครับ... กับที่ว่าระดับสติปัญญาของเขาโคตรด้อย... แถมผมมองว่าเขาเห็นแก่ตัวอีก... ::013::

น่าจะหลอกด่าพ่อผัว เลยโพสอย่างนี้ เหอๆ

ยากเเหละ เพราะ มีโครงการรถคันเเรก รถติดกว่าเดิมอีก

ต้องลดจำนวนรถยนต์ลงก่อนอันดับแรก.....

ปัญหาการจราจร เป็นเพียงอาการหนึ่งของโรคทุนนิยม
แม้ไม่มีรถ...ระบบขนส่งมวลชนของเมืองใหญ่ๆก็ยังมีสภาพยัดทะนาน ในความเร่งรีบ แข่งขัน
บ้านเรา...เมื่อกลุ่มทุนอุตสาหกรรมยานยนต์มีอิทธิพลต่อนโนบายรัฐ นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องเป็น

ถนนไหนติดมาก พื้นที่ไหนมีปัญหา คนก็เลิกก็เลี่ยงที่จะเข้าไป เจ๊งกันไปเอง   :~)

ยินดีกับหลายท่านในเวบนี้ที่ไม่ได้ผจญกรรมแบบเดียวกับคนกรุง เพราะท่านเลือกวิถีชีวิตและถิ่นที่อยู่ที่ดี(กว่า)  ::014::

 

ผมก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่เกิดมาในชนบทห่างไกลครับ... คำว่ารถติด... จะเจอก็เฉพาะรถติดหล่มในหน้าฝน... แล้วก็รถติดบนถนนใหญ่... ในช่วงเทศกาลสงกรานต์-ปีใหม่... เท่านั้นครับ... ::014::

วินัยจราจร และความมีน้ำใจ อันดับ1 ครับ
ไอ้ที่ทำตามกกก็จอดรอคิวไป ไอ้พวกมาปาด....ก็ได้ไปก่อน มันก็สะสมไป
ที่ไม่ควรมีที่กลับรถ ก็ให้กลับ ที่ไม่ควรมีรถจอดก็จอดไป ตามสบาย

เอาง่ายๆที่ผมเจอประจำ แบบว่าผ่านบ่อย แบบ ช่วงเช้า ปกติๆ ฝนไม่ต้องตกมาซ้ำเติม

 หน้า สน.พญาไท ใครเคยผ่านไปนะป้ายห้ามจอด ติด เด่นเชียว แต่บางทีพี่จอดซ้อนคันเลย ไม่รู้รถใคร หน้า สน.เลย เต็มไปหมด

แล้วพวกรถที่รอกลับรถเข้าไปฝั่ง รพ.สงฆ์ รอกลับรถชิดเลนขวาสุด ได้ไฟเขียว รถที่อยู่หลังก็รอไปไม่ได้ ต้องแทรกหลบมันก็ช้า  พอท่านแหย่หัวไป ตัดกระแส รถฝั่งตรงข้าม เขาก็ชลอ ติดอีก ค้างๆคา แวะดูได้ทุกเช้าเย็น 555

แถมช่วงเปิดเทรอม รถที่ส่งลูกจากโรงเรียน......+โรงเรียน....... ที่อยู่ระหว่าง สน.พญาไท กับ ตำรวจ 191 ส่งลูกเสร็จ ท่านไม่ไปกลับรถที่ไหนครับ อยู่ซ้ายสุด
ออกมา ถึงเลยหัวเกาะกลางถนนก่อนถึงแยกศรีอยุธยา  ท่านดันกลับรถ...จะไปฝั่งตรงข้าม...มีป้ายห้ามกลับรถตำตา...ไม่มอง..ไม่มีความหมาย...ตัดกระแส 3-4 ช่องทาง มันไม่ติดก็บ้าครับ ::010:: บางทีสองไฟเขียวท่านอาจไม่พ้นแยกไฟแดง....
ที่พูดมานี่แค่ช่วงแยกเดียวนะครับ แค่แยกศรอยุธยา กับ พญาไท...แล้ว ทั่วกรุง มันก็เลย นัว นัว นัว เป็น กำ ที่คลายไม่ออก ของจราจรเมืองกรุงเทพฯ ::014::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา 

ยายตามมา  "ฮา"  เฉย ๆ อ่ะ ฮา
เพราะตามเขตแนวถนนที่อ้าง
มันเป็น "สถานที่ราชการ"  ทั้งสิ้น อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007::