เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

รบกวนสอบถามความคิดเห็นของพี่ๆสมาชิกเพื่อเป็นองค์ความรู้่หน่อยครับ..
รถสาธารณะในบ้านเราทั้ง มอไซด์รับจ้าง  รถแท็กซี่  รถตู้  รถสองแถว..เคยไม่ครับที่เวลาเราขับรถมาดีๆ
แล้วถูกรถพวกนี้ขับขวางช่องการจราจรเบียดๆ แบบไม่เปิดช่องให้เราแทรกไป..พอบีบแตรขอทาง
ดันบีบแตรไล่เราอีก..เมื่อเช้าผมก็เจอแบบนี้ พอดีขี่มอไซด์มาทำงาน..มอไซด์มันเล็กจะตาย
ซอกแซกไปได้เรื่อยระหว่างช่องจราจร...แต่รถแท็กซี่ มันเบียดๆ ไม่ยอมให้ไป ผมก็รอดูตั้งนานว่าจะเอาไง
มันจะหลบให้หรือเปล่า..มันก็ไม่หลบ ..ผมเลยกดแตรให้มันหลีกช่องให้หน่อย  แต่มันไม่หลีกผมก็เลยขับขึ้นหน้าไป

จากนั้นมันก็บีบแตรไล่หลังผม..ผมเลยชะลอรถลง มันก็ขับรถขึ้นมาขนานกับผม..แล้วกดกระจกลง..
ผมเลยถามมันจะวิ่งไปเลนไหนไม่เอาสักเลน.. มาเบียดขวางๆทำไม..(เห็นหลังเบาะมันมีเสือไอ้พวกอาสาสมัครกู้ภัย
แต่อย่าเอ่ยชื่อเลย คนดีเขาก็มีเยอะมีแต่ไอ้พวกรถสาธารณะที่ชอบกร่างถึงแขวนขู่คนอื่นไปอย่างนั้น)..มันก็ตอบผมด้วย
สำนวนกวนบาทา พร้อมกับขับส่ายหัวรถแท๊กซี่มันไปมา คงกะจะทิ่มให้ผมเสียหลัก..แต่ผมไม่หลบขับขนานกับมันไป.
เป็นอย่างนี้สองสามครั้ง...ผมดูแล้วมันก็ไม่กล้า คงคิดว่าเคยทำแบบนี้แล้วคนอื่นจะกลัว..

ผมก็ชั่งใจ เอาไงดีว่ะ บิดรถแซงออกไป ตอนนั้นมือรูดซิบกระเป๋าที่สะพายไว้ข้างหน้าแล้วเพื่อเตรียมพร้อม
กะว่าถ้ามันแซงขึ้นมาขนาบอีก..เป็นไงเป็นกันว่ะ.. แต่มันคงเห็น จึงชะลอรถลดความเร็วไม่จี้ตามผม..
อีกนิดเดียวจะผ่านหน้าตำรวจจราจรแล้ว..ผมก็เลยบิดรถออกไปเลยด้วยอารมณ์ครุกกรุ่น..พอถึงที่ทำงาน ก็เลยมานั่งคิด
ทำผิด..หรือทำถูกว่ะเนี่ย..อยากสั่งสอนคนแบบนี้ก็อยากทำ แต่อีกใจก็คิดจะ เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือทำไมเนี่ย
ถ้ามีเรื่องจริงๆ ลูกเรา ครอบครัว เราจะอยู่อย่างไง... (นิถ้าเป็นกลางคืนมืดๆเปลี่ยวผมคงเอาหัวรูประเคนให้มันสักนัด)
แต่มันเจ็บใจ..เหมือนทำให้พวกรถสาธารณะที่มีพฤติกรรมแบบนี้ได้ใจ..

จึงอยากทราบว่าถ้าพี่ๆ ประสบเหตุการณ์แบบนี้ พี่ๆ จะทำกันอย่างไรบ้าง หรือมีวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างไร ครับ.. ::014::

เข้าใจความรู้สึกครับ เคยเป็นเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าครับเรามีปืนก็อย่าอารมณ์ร้อนครับไม่คุ้มกัน ถ้าชักมาแล้วเค้ามีเหมือนกันก็เรื่องใหญ่ครับ มีเรื่องบนท้องถนนผมว่าไม่คุ้มครับ ถ้าพกปืนต้องอดทนสูงครับ ชักก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นๆแล้วจะดีที่สุดครับ จะได้ไม่เสียใจทีหลังครับ

ว่าตามตรงเลยนะครับถ้าแท๊กซี่ไม่ถึงขนาดขับคร่อมเลน ไปว่าเขาไม่ได้นะครับ

ตรงกันข้ามมอเตอร์ไซค์แซงซอกแซกมีปัญหาสกิดกันขึ้นมาจะกลายเป็นฝ่ายผิดซะเอง

ถ้าจะยิงกันเพียงเพราะสืบเนื่องแค่จากปัญหาการใช้ถนน ผมเห็นเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ  ::014::

 :)มีปืนยิ่งต้องมีสติ ใจต้องเย็นค่ะ ไม่มีอะไรจวนตัวก็ปล่อยมันไป

ผมเจอมาเยอะมาก ....................แบบที่คุณกล่าวก็เคยเจอ หนักกว่าที่คุณกล่าวก็เจอมาแล้ว

ผมระงับอารมณ์และหลีกเลี่ยงไปให้ไกล ให้พ้นๆ ......................... แล้วมันก็จบ

แล้วผมก็กลับไปมีความสุขกับครอบครัวที่บ้าน

เรื่องขับรถ.....

ถ้าไม่ใจเย็นๆก็มีเรื่องได้ทุกวัน

วันนี้ผมขับรถไปหเพื่อนเจอ6ล้อโยนเปลือกกล้วยออกทางหน้าต่างเกือบโดนรถผม

ก็ช่างมัน......

ผมมีชีวิตที่ดีกว่ามันเยอะ ไม่เอาชีวิตที่เหลือไปเล่นกับอารมณืเพียงชั่ววูบของเราเองหรอก

    


                 อย่าใช้ปืนตัดสินปัญหาจราจรเลยครับ ยังไงก็ไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวง  ::014::

ผมเจอบ่อยมาก โดยเฉพาะรถตู้โดยสาร
ผมถือซ่ะว่า เขาคงรีบมาก เพราะควายที่บ้านกำลังจะคลอดลูก ก็เลยต้องไปดูว่า หน้าลูกควายจะเหมือนหน้าเขาหรือเปล่า? ::007::
คิดแล้วก็ขำในใจ เดี๋ยวเราก็เย็นลงเอง  ::005::
ผมแนะว่า อย่าใช้ปืนเลย รีบกลับบ้าน หาเบียร์แย็นๆในตู้เย็นที่บ้านดื่มซักกระป๋อง สองป๋อง สามป๋อง สี่ขวด ห้าขวด....ดีกว่า :D~

ถูกต้องครับ.....มีปืนต้องมีสติ  ขาดสติเมื่อไหร่อาจจะเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์รายวันก็ได้ครับ  มีปืนต้องมีสติ ::014::

อย่างที่หลายท่านกล่าวไว้ครับ มีปืนต้องใจเย็นกว่าเดิมให้มากและมีสติอยู่เสมอ พิจารณาเหตุว่าเป็นอย่างไรครับ

ที่กรุงเก่า ก็เยอะครับ รถตุ๊กๆ, รถรอบเมือง, รถตู้, รถบัสรับส่งพนักงานโรงงาน
ก็ได้แต่ทำใจครับ  :~) โดยเฉพาะที่ วงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เบียดเลนกันเป็นว่าเล่น จากขวาสุด-ไปซ้ายสุด เฮ้อ...
ไม่รู้ท่านเจ้าหน้าที่ไปทำอะไรอยู่ (สงสัยเป็นแต่มอไซด์ไม่ใส่หมวก  :D~)
ใจเย็นๆ ครับ ราคาลูกกระสุนแพงกว่าที่จะเอาไปแลกกับไอ้พวกนิสัยการใช้ถนนไม่ดี
ผมเก็บอารมณ์ไประบายกับการเจาะเป้ากระดาษครับ  ::002::

เรื่องยิงออกไปน่ะคงไม่ยากแต่เรื่องราวหลังจากยิง สิครับจะมีคนเกี่ยวข้องมากมาย

คนที่บ้านเค้า คนที่บ้านเรา จนท.บ้านเมือง ทนายความ ศาล วัด พระ สัปเหร่อ โอ้ย...ยุ่งครับ

กลับให้ถึงบ้านได้อยู่กินข้าวกับครอบครัวมีความสุขกว่าอย่างพี่ ๆ กล่าวมาข้างต้นครับ  ::002::

ต้องใจเย็นอย่างเดียวครับ  ::014::

    ยังเคยพูดกับเพื่อนร่วมงานที่นั่งรถไปด้วยกันถึงมารยาทการขับรถของรถตู้ รถรอบเมือง รถบัส และรถตุ๊กในเขตอยุธยา
ไม่เชื่อลองไปทำโพลต์สำรวจดูสิครับ แค่ถามว่ามารยาทของคนขับรถตู้หรือรถรอบเมืองในอยุธยาเป็นอย่างไร

ใจเย็นๆครับช่างหัวมันดีที่สุด อย่าลืมว่าลูกเรา เมียเรา พ่อแม่เรายังรอทานข้าวเย็นอยู่ที่บ้าน ถ้าถือมาเป็นอารมณ์ผมว่าทุกๆวันคงมีคนยิงกันตายเกลื่อนถนน ;D ::014::

ผมเห็นด้วยทุกประการครับ  ::002:: ::002::


อยู่บนท้องถนนผม สุขุม เยือกเย็น นิ่ง สงบ สยบการเคลื่อนไหว

เคยครับ ไปกับพี่รู้จักกันเจอรถโดยสารปาดหน้า เบียด ไล่จี้ เลยบอกให้พี่ขนาบข้างคนขับแล้วลดกระจกลง และชี้หน้า ตะโกนใส่ว่า  ชิดซ้ายเดี๋ยวนี้  ชิดซ้ายทันที ลงมายกมือไว้แบบไม่ถามสักคำ ผมขอโทษครับไม่ได้ตั้งใจริงๆ  เลยสวมรอยด่ามันซะเลย  :DD :DD :DD

แต่ถ้าเรื่องแบบนี้เอะอะยิงเลยนี่ก็อย่ามีปืนเพื่อหาคุกให้ตัวเองเลยครับ  :D

ไม่แน่ว่าคนขับรถสาธารณะตามกระทู้นี้อาจนั่งกุมด้ามปืนขับรถ ในขณะที่มันกำลังกีนตวนใส่ จขกท. ก็ได้นะครับ... เหนือฟ้าย่อมมีฟ้าเสมอ, คนเล่นปืนที่เก่งที่สุดคือได้กลับบ้านแล้วนอนกอดเมียจนแก่ตายไปเองครับ... แฮ่ๆ...

คิดในแง่ไหนก็ไม่ควรทำทั้งสิ้น ต่อให้ไม่คิดประเด็น ผิดชอบชั่วดี
1.เอาออกมาขู่ ขู่แล้วได้อะไร?ถ้ามันกลัว ยกมือไหว้แล้วหายแค้นเหรอ? ถ้ามันมีบ้างแล้วยิงสวนหล่ะ? เป็น กู้ภัยด้วย ถ้าเพื่อมี ว. แจ้้งตำรวจจับ ซวยอีก
2.เอามาแล้วยิง ยิงเสร็จแล้วจะทำยังไง ? ถ้ามันไม่ตาย จำหน้า ทะเบียนได้ ถ้าตาย พยานเยอะแยะ ไหนจะ กล้องวงจรปิดก็มีเพียบ ตามเซเว่น คอนโด สีแยก ยังไงตำรวจก็scopeหาจนเจอได้ ถึงหาไม่ได้ ตอนหนี ปืนแพงก็แพง แต่ก็ต้องเอาไปแอบทิ้ง เสียไปแล้วหลักแสน งานก็หยุด รายได้ก็ไม่มี นอนไม่หลับอีกเป็นปี

กลับไปอ่าน....เอกสาร ป.1 ว่าตอนกรอกข้อความขอมีปืนเพื่อวัตถุประสงค์อะไร...แล้วจะได้คำตอบ



ตอนขอมีและใช้อาวุธปืน...ส่วนใหญ่ก็ขอเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน

ไม่เห็นมีใครขอเพื่อ..ใช้แก้ปัญหาข้อพิพาทหรือทะเลาะเบาะแว้ง ที่ตกลงกันไม่ได้แล้วต้องจบด้วยปืน

เมื่อก่อนเด็กแว๊นซ์มีแต่มีด ไม้ ดาบซามูไร พอโดนยิงตายไปศพสองศพ เดี๋ยวนี้เด็กแว๊นซ์พากันพกปืนเถื่อนกันเกลื่อนเมือง  ถ้าแท๊กซี่รายนี้ถูกพี่วินยิงตาย อีกสักหน่อยแท๊กซี่แทบจะทุกคันก็จะพกปืนกันเกลื่อนเมืองครับ  ปืนไม่แก้ปัญหา ไม่สามารถดัดสันดานใครได้ครับ

ทำใจครับ  ;D

ผมเจอบ่อยครับ..กับปัญหาแบบนี้..

...คิดซะว่า..ยิงมันตายไป..ก็เหมือนยิงหมาตัวหนึ่ง.. ไม่ได้อะไรขึ้นมา... แถมมีปัญหาอีก... ::006::


สู้เราเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยดีกว่าครับ..



แต่ถ้ามันยิงเราก่อน...ก็ว่ากันอีกอย่า.. ::007::

ยิ้มแล้วยกมือแตะหมวกกันน็อคสักทีครับ   ;D

คิดครับแต่ไม่เคยทำเพราะ....ถ้าเราต้องหากินแบบเขาเราก็ต้องทำเพราะทุกคนต้องเร่งทำเวลาและรอบการ
วิ่งให้มากที่สุดผมเคยเจอะเจอกับรถตู้ปาดหน้าจากเลนขวาเพื่อเข้าป้ายรถเมล์เลยซ้ายสุดเพื่อแย่งผู้โดยสาร
พอจอดก็ขวางเลนที่สองและเลยซ้ายสุดรับคนเสร็จก็หักขวาออกปาดเพื่อเข้าเลนที่สามเพื่อขึ้นสะพานยอมรับ
ว่าโกรธและโมโหมากแต่คิดในใจนะครับเพราะเราจะแลกอนาคตกับการเดินทางเพียงระยะเวลาสั้นๆมันไม่คุ้มกันครับ
เคยคิดเล่นๆถ้าเราเป็นคนขับรถตู้แต่เราไม่ทำแบบนี้ไม่รู้ว่าจะทำมาหากินทันเพื่อนร่วมอาชีพหรือเปล่า
อย่าคิดมากครับมีปืนแล้วมายิงกันกลางถนนผมว่าต้องคิดนานๆครับแล้วจะคิดออกเองว่ากลับบ้านเราก็มีความสุขแล้ว
โดยไม่ต้องไปทำอะไรใครดีที่สุดลูกเมียรอการกลับบ้านของเราอยู่ทุกวัน

ทำใจเป็นกลางตอบตัวเองแบบแฟร์ๆ

1. ท่านวิ่งคร่อมเลนมา รถวิ่งตรงเลนเขาอยู่แล้ว ท่านกดแตร ต้องการแทรกแบบที่มอเตอร์ไซค์ส่วนมากชอบทำหรือเปล่าครับ ท่านทราบหรือไม่ว่ากฎจราจร 1 เลน = 1 ช่องทาง แต่ที่ผ่านมาบ้านเราไร้ระเบียบวินัยก็อนุโลมกันจนเป็นเรื่องธรรมดาในการแทรกกลางเบียดกลางช่องทาง
บ้านเราคนมักคิดถึงสิทธิของตัวเอง จนบางครั้งอาจจะลืมไปว่ากำลังริดรอนสิทธิผู้อื่น รู้จักสิทธิแล้วต้องรู้จักหน้าที่ด้วย
2. เนื่องมาจากข้อ1 ท่านไม่พอใจ การกระทำของ Taxi แต่ลืมว่า Taxi ก็อาจไม่พอใจท่านเช่นกันจากที่ท่านทำเขาก่อน
แต่เรื่องแค่นี้ถึงกำคิดใช้ปืน ไม่ว่าเพื่อจะขู่หรือทำร้าย เป็นเรื่องที่ถูกต้องสมควรหรือไม่หรือไม่

ผมมองแบบเป็นกลางนะครับ ด้วยความเคารพ อยากให้ใจเย็นๆค่อยๆคิดมีสตินึกถึงผลได้เสีย หากท่านชักปืนออกมา Taxi เร่งเครื่องบดท่านแล้วอ้างตำรวจว่าป้องกันตัว ครอบครัวท่านจะเสียใจขนาดไหน หรือท่านยิงเขาตาย ท่านถูกจับ ครอบครัวท่านรู้สึกอย่างไร แล้วถ้า Taxi มีภาระครอบครัวเหมือนกับท่าน เขาเหล่านั้นจะรู้สึกเช่นไร เท่านี้ละครับ สำหรับผมคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็ "แค่นั้นเอง" ไม่เห็นจะต้องคิดถึงปืนหรืออะไรเลยครับ ใจร่มๆครับ :)

ผมไม่เคยคิดสู้คนพวกนี้เลย จะยกนิ้ว ให้กล้วย ผมก็ไม่สน ผมมีอยู่แล้ว ปล่อยให้ไปเจออันใหญ่กว่าผมดีกว่า....

   
     
        ถูกครับ เห็นภาพเลยพี่กระต่ายหมายจันทร์

    เดี๋ยวนี้บนท้องถนนมีแต่คนอารมณ์ร้อนๆ กันทั้งนั้น

ยิ่งพอมีปืนติดตัวไปด้วยอีกยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนเป็นทวีคูณ

พร้อมที่จะมีเรื่องได้ตลอดเวลา...  ไม่ค่อยยอมกันสักเท่าไหร่

 ...เอาง่ายๆ เลย  ผมว่าเก็บปืนไว้ดีกว่า  แล้วถ้ายังอยากระบายความแค้น

กันจริงๆ นัดจอดรถลงมาต่อยกันเลยดีกว่า  ชกกันหมัดเปล่าๆ นี่ละ

ซัดกันตัวๆ ไปเลย...  เสร็จแล้วก็จบกันไป  ไปทำมาหากินกันต่อ   ::014::

เห็นด้วยกับหลายท่าน     เหตุบนถนน  ที่เกิดจากการจราจร   

 ถ้ามีความเสียหายก็สามารถแก้ไขซ่อมแซมได้    มีประกันก็ตามประกันมาเคลม   

ถ้าหากมีคูกรณี   ก็ตกลงกันไป  รึจาจต้องพึ่งเจ้าหน้าที่

ไม่อยากให้อารมณ์  อยู่เหนื่อเหตุผล 

ไม่คุ้มเลยจริง ๆ   ::014::

ขอบคุณ คุณ mubee ครับ, นายสมชายเพิ่งมองเห็นตามตัวแดงของ จขกท. ข้างล่าง...

อยากบอก จขกท. ว่าทีหลังอย่าขับคร่อมช่องทางแล้วแทรกขึ้นมาพร้อมบีบแตรชวนทะเลาะ จากนั้นปาดหน้าหนึ่งที แล้วชลอรถตีคู่ชวนทะเลาะนะครับ... เพราะนี่คือสูตรของมือปืนรับจ้างก่อนจะยิงเหยื่อ คือชวนทะเลาะด้วยแล้วล่อให้ขับตามออกนอกเส้นทาง เพื่อให้สลัดหลุดจากรถคุ้มกันที่วิ่งตามหลังครับ...

หาก จขกท. ทำแบบนี้กับคนที่มีศัตรู แล้วกุมด้ามปืนคุยด้วย... คาดว่าจะโดนคนนั่งเบาะหลังยิงใส่ก่อนครับ เพราะขี่มอร์ไซค์มือเดียวเห็นชัดว่าอีกมือนึงซุกอยู่ที่กระเป๋าสะพาย(หรือเอว)...

คือเราไม่รู้หรอกว่าบนถนนนั่นมีใครบ้าง คนเขากำลังมีศัตรูอยู่หรือเปล่าเราก็ไม่รู้... มีปืนอยู่หนึ่งกระบอกแล้วคิดว่าคนอื่นไม่มีก็เข้าใจผิดว่าได้เปรียบ, หากแท็กซี่คันนั้นกำลังมีศัตรูโดนมิจฉาชีพตามล่าอยู่(อาสาสมัครกู้ภัยบางส่วนเป็นสายข่าวตำรวจ) ก็อาจพกปืนอยู่ก็ได้นี่ครับ(มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน - หากไม่ขับแท็กซี่ก็ไม่มีกินเพราะเป็นอาชีพ)...

วันนี้..มาถึงที่ทำงานด้วยความเรียบร้อยปลอดภัยแบบท่องคาถาที่พี่ๆ ให้กำกับไว้ในใจตลอดทาง...

สติ..จากพี่ๆ ช่วยชีวิตผมไว้จริงๆ ได้มุมมองและโลกทัศน์มากหมายเหลือเกินครับ

โทสะจริต..ไม่เลือกที่ เลือกเวลาจริงๆ ครับ ถ้าขาด สติ...ขอขอบพระคุณพี่ๆ ทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
สำหรับทุกข้อคิด ทุกความเห็น ล้วนจริงทั้งสิ้น ตามที่ได้วิเคราะห์ถึง..เหตุ..และ..ผล..ที่จะบังเกิดตามมา 

โดยเฉพาะวลีสั้นๆ ของ “ครูธำรง” และ “ครูสมชาย”
ผมจะยึดไว้เตือน สติ เป็นคาถากันภัย...ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ และใช้ชีวิตในสังคมเลยครับ

ปืน.. “เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน” ของบุคคลในครอบครัว เท่านั้น” 

ว.61..ขอให้ครูและพี่ๆ ทุกท่าน สุขภาพแข็งแรงครับ .. ::014::

ก็แค่ปัญหาจราจร...ถึงกับกุมปืน  ผมว่าก็เกินไปหน่อยกระมัง

ดีแล้วที่ไม่ทำให้มวลชนคนรักปืนต้องหมองมัว..จากการใช้การลุแก่อำนาจ(ปืน) เพื่อตัดสินชีวิตของคนอื่น

รู้นะครับว่า กระสุนที่ลั่นออกไปแล้ว...ควบคุมมันไม่ได้  ก็จงควบคุมการลั่นกระสุนออกไปให้เหมาะสมกับเหตุแห่งการป้องกันตนเอง..จะดีกว่า 

หลาย ๆ กรณีก็มีให้เห็นแล้วนะครับ  คนดังของอุทัย ที่ต้องสิ้นไป ไม่ใช่เพราะเหตุนี้หรือครับ  มันคุ้มไหมกับการที่จะกระทำลงไป 

มีปืนติดตัวไป...ต้องคิดให้มาก ๆ   หวังว่า...จขกท. คงจะไม่เจอะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีกนะครับ

เป็นไปตามกรรมดีกว่าครับ

ในรถเค้ามีตัวประกันอยู่นะคนไม่เกี่ยวข้องปล่อยเขาไป

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พยานมันเยอะ  ::013::

อ่านกลอนนี้ดูเล่นๆครับ เผื่อจะได้สติและอารมณ์จะได้เย็นลงบ้าง ;D ::002::

เรืี่องเล็กน้อยครับ แค่นี้เอง
จะมุดซ้าย มุดขวาไปทำไมครับ
เดี๋ยวก็ไปติดไฟแดงแยกข้างหน้าอยู่ดีครับ
ผมก็คนขับรถตู้ครับ ขับทุกวัน เจอแบบนี้ทุกวัน
แซงได้ก็แซง แซงไม่ได้ก็ตามกันมา ถึงที่หมายเหมือนกันครับ
ปาดไปปาดมา เด๋ียวเจอคนแรงๆใจร้อนๆ เดี๋ยวงานจะเข้านะครับ

ยินดีด้วยกับท่านเจ้าของกระทู้นะคร้บ ทำใจสบายๆใจร่มๆดีกว่าครับ ;)

วันนั้นมีปืนคิดแบบนั้น

ลองคิดว่าไม่มีปืนติดตัวจะทำอย่างไร   ::014:: 

แล้วที่ Taxi ไม่ตามแปลว่าเค้าอยู่ข้างหลัง  คิดว่าใครกำลังเสียเปรียบครับ

เรื่องเท่านี้ยังคิดจะยิง  เรื่องใหญ่กว่านี้สงสัยไม่เหลือครับ  ใจเย็นๆๆๆ ปืนไม่ได้เปลี่ยนให้เราเป็นฮีโร่ หรือนักรบได้

ดีแล้วครับที่ท่าน จขกท. ไม่ชักปืนไปยิงเค้า เรามีครอบครัวต้องคิดถึงคนข้างหลังให้มากๆ นะครับ

อารมชั่ววูบ ทำไปแล้วต้องรับโทษใช้กรรมในคุก อีกหลายปี ลูกเมียท่านจะอยู่อย่างไรครับ

ทางที่ดีเก็บปืนไว้บ้านดีกว่าครับ ชกต่อยกันยังโทษน้อยกว่าใช้อาวุธเยอะครับ  ::014::

ยิงไปแล้วได้รักษาศักดิ์ศรี ได้ระบายความโกรธประมาณ5วินาที
จากนั้น ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ถ้าหนี ก็ต้องหลบๆซ่อนๆ หมดอนาคต ครอบครัวแตกสลาย
ถ้าโดนจับ หนทางหลุดคดีมีน้อยมาก ต้องเสียค่าทนาย เงินประกันตัว เวลาที่ต้องมาสู้คดีในศาล ฯลฯ

ใครที่เคยเจอแบบนี้มา เชื่อเถอะว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ไม่ทำเด็ดขาด

รูปดิสฯท่าน ปืนสวยมากครับ

อ่ะ เห็นแบคกราวน์+ลักษณะการจัดรูปแล้วเห็นด้วยครับ

ปืนสวยเนาะ  ::005::

แถวบ้านผมอยู่นอกเมือง ชนบทว่างั้นเถอะ มีปัญหาเกี่ยวกับการจราจรบ่อยมากทั้งที่รถก็ไม่มาก  ที่เป็นอย่างนี้เพราะแรงงานต่างชาติ มอญ  พม่า ส่วนมากขับมอเตอร์ไซด์ ขับเป็นวัแรกก็ขึ้นถนนเลย ขับช้า ชิดเส้นกลาง  จะเบรค จะเลี้ยว ไม่เคยให้สัญญาณ ทางแยกทางตัด พรวดพราดออกไม่ได้ดูซ้ายขวา  โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนเช้า เย็นผู้ที่จะไปทำงานให้ทันเวลาบ่นขรม  เกิดอุบัติเหตุรายวัน   จอดด่าก็มี แต่ไม่เคยถึงปืน
     แรงงานต่างชาติพวกนี้ไม่ระมัด ระวัง ประมาท เด็ก ผู้ใหญ่เหมือนกันหมด  ใบขับขี่ก็ไม่มี ไม่รู้เขาปล่อยให้ขับอยู่ได้อย่างไร  ผ่านตลาดนัด ป้อมตำรวจ ได้อย่างสบาย เช่นเหตุการณ์ เมื่อสัก 3-4 วันที่ผ่านมา  มอญขับรถปิกอัพลากจูงรถบรรทุกปาล์มด้วยความเร็ว มีคนงานนั่งมาด้วยเร่งรีบจะไปส่งลานเท  ข้างหน้าพม่าขี่มอเตอร์ไซด์อยู่ในทางโค้งนิ่ง ๆ ก็เลี้ยวตัดกระทันหัน  รถลากจูงลงทางลาดลงเบรคเต็มที่  ตัวพ่วงไม่ยอมหยุดฟาดไปข้างหน้าทำให้ทั้งรถลาก ลูกพ่วง มอเตอร์ไซด์ ไปกองรวมกันในคูถนน  มูลนิธิเก็บได้ทีละชิ้นมือขาด ตีนขาดก็มี  รวม 5 ศพ ไม่รู้จะโทษใครได้   ขับรถบนถนนแถวบ้านผมให้ระวังมอญ พม่าเป็นพิเศษ ไม่อาดเดาได้ว่าเขาจะเลี้ยว จะหยุด บางครั้งเสียเวลาโดยใช่เหตุ  หงุดหงิด รำคาญ  แต่ไม่รู้ใครจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้  ::014::

ยินดีด้วยครับที่ผ่านเรื่องนี้มาได้ด้วยดี
เอาไว้ป้องกันตัวดีกว่าครับ
อย่าเอาไปสั่งสอนใครเลย

จังหวัดที่ผมอยู่ไม่ค่อยมี  แต่จะมีพวกเห็นแก่ตัว มักง่ายเยอะมากๆๆๆๆ  เช่น ขับกลางถนน  ไม่ชิดซ้าย ไม่ขวา  แต่ขับไม่เกิน 40   ,  จอดทำธฺระส่วนตัว แต่ไม่ชิดซ้าย (ฉันลงไปแป็บเดียวเอง)  คันหลัง แซงได้ก็ได้ไป  แซงไม่ได้ก็รอไป  ,  รถติดไฟแดงคันหน้า  เขียวปั๊บต้องค่อยๆออกรถอย่างนิ่มนวล และ ต้องช้าๆ    ผมได้แต่มอง แล้วก็ปลง  เพราะเมีย น่ากลัวกว่าปืนที่พกซะอีก  ถ้าผมขับรถแล้วอารมภ์เสียกับไอ้พวกนี้  เมียไม่คุยด้วยเป็นอาทิตย์  กับข้าวก็ไม่ทำให้กิน ผ้าก็ไม่ซักให้  เมียด่า  นักเลงนัก ก็ทำเองซิ 

+ ครับพี่มะขิ่น

เวลานี้..ขณะที่กำลังนั่งตอบกระทู้..ผมมีความสุขที่สุด..ที่มีลูกสาววัย 4 ขวบ นั่งเล่นเกาะแข้งเกาะขาอยู่ข้าง..ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านอีกครั้งจริงๆ ที่เตือนสติ และให้ข้อคิดต่างๆ..ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านทราบตั้งแต่มีเหตุการณ์..เชื่อมั้ยครับผมนั่งทบทวนตัวเองในขณะที่อยู่กับครอบครัวรู้สึกอดยิ้มอยู่ในใจไม่ได้ที่เหตการณ์ไม่เกินเลยไปกว่านั้น..และอีกสิ่งที่เกิดกับผมตอนนี้ มันมีตัวอักษรสีแดงๆ ตัวใหญ่คำว่า.."สติ"... ลอยอยู่ตรงหน้าผมตลอดไม่ว่าจะลืมตาหลับตาหรือนั่งก็เห็นกำกับไปอย่างนี้.. ผมเลยตัดสินใจจะเก็บปืนไว้เฉพาะที่บ้าน กับรถยนต์เวลาเดินทางกับครอบครัวเท่านั้น แต่จะไม่นำพาติดตัวหรือติดบิ๊กไบค์ไปด้วยเด็ดขาด..จนกว่าตัวเองจะมั่นใจว่านิ่งได้อย่างสงบจริงๆ ::014::

ปัญหานี้ น่าจะเคยเจอกันแทบทุกคน ที่ใช้รถ ใช้ถนน

แต่ละคน ก็เจอ มากน้อย แตกต่างกันไป

พกปืนตลอด เคยคิดจะยิง แต่ก็ทนเอา..คิดตลอดว่า

ถ้ามันไม่ยิงมาก่อน ก็คงจะทนๆไป แล้วก็กลับบ้าน นั่งกินเบียร์ แล้วก็นอน

ปล่อยมันไปเถอะครับ เราไปทำธุระให้เสร็จ แล้วกลับบ้านไปหาครอบครัวโดยสวัสดิภาพ ดีที่สุด อย่าไปคิดสั่งสอนคนที่ไม่มีความคิด ไม่คุ้มกันเลยกับอนาคตและชีวิตของเรา ที่อาจต้องเสียไปเพราะคนประเภทนี้ ผมคือคติ ยอมเป็น เย็นได้ ปืนมีไว้ป้องกันตัว ใช้ในยามคับขันที่สุด และใช้ปืนเป็นสิ่งสุดท้าย

 ;D ;D  ปล่อยๆมันไปเถอะครับ  มีปืนอยู่กับตัวต้องใจเย็นๆครับ  อย่าแลกกับเรื่องแค่นี้ครับ  เคยมีคนสอนผมว่ามองโลกให้มองทางต่ำ  มองธรรมให้มองทางสูง
 "หมาเห่ามันไม่กัดน่ะครับ"
อีกอย่างเดี๋ยวจะเป็นชนวนเหตุให้ผู้มีอำนาจริดรอนสิทธิของเรา  ทำให้คนที่มีปืนถูกกฏหมายเดือดร้อน  จงใจเย็น  ::014:: ::014::

 ::014:: บ้างทีพวกขับรถแบบไม่สนใจคนอื่นมันก็ต้องโดนบ้างครับ มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังเจ้านายของเพื่อนผมประมาณสี่ทุ่ม
แกขับรถกลับจากไปเยี่ยมญาติไปเจอกลุ่มเด็กแว้นขับเข้ามาปาดซ้ายปาดขวาด้วยความคึกคนอง มีอยู่คันหนึ่งเฉียดจะชนรถแก
แกเบรคทันไม่งั้นมีชนแกเจ็บใจก็ขับตามไปห่างๆ แอบตามไปดูว่าบ้านมันอยู่ไหน ที่ไหนได้ครับพอตามไปเรื่อยๆ ก็ปรากฎว่า
เป็นบ้านของลูกน้องเก่าแก่ของแกเองทำงานด้วยกันมาตั้งหนุ่มจนแก่แถม ลูก เมียก็ทำงานอยู่กับแกทั้งหมดแกก็เลยให้ลูกน้องแก
พาไอ้หลานตัวแสบมาขอโทษแก ไม่งั้นแกจะไล่ออกทั้งบ้านครับข้อหาเลี้ยงหลานให้ทำตัวเกะกะระรานคนอื่น....

ปล่อยมันไปครับ ธรรมชาติจะลงโทษมันเอง ^_^

มีทฤษฎีเกี่ยวกับการขับรถกล่าวไว้ว่าอย่างนี้ครับ บางครั้งเวลาที่เราพบเห็นสิ่งกวนใจที่อาจทำให้หงุดหงิด เสียอารมณ์ ก็ต้องหัดทำตัวเองเป็นมองไม่เห็นบ้างเพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่สิ่งรอบข้างที่มันไม่ดีที่ล้วนแต่จะทำให้เราเสียสมาธิ เสียอารมณ์ จงปล่อยวางครับเพื่อระงับโทสะ โมหะ การขับขี่จะได้ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้ร่วมใช้ถนน

ถ้ามันไม่หันรูมันมาทางเรา อย่าพาตัวเราเดินเข้าคุกเลยครับ

ปาด - ปล่อยมันไป
ด่า - ยิ้มปล่อยไป เดี๋ยวมันก็เหนื่อย แยกย้ายกันไป
ชักมีดขู่ - ขอโทษ ยกมือไหว้
ไล่ฟัน หรือชักปืน - ยิงครับ

จากประสบการณ์ ทำได้แค่ยังยั้งช่างใจ อดทนอดกลั้น ครับ

เจ้าของกระทู้นี้ท่านคิดถูกต้องแล้วครับที่ไม่ทำอย่างขาดสติ  การที่เรามีปืนไม่ใช่ว่าอะไรนิดอะไรหน่อยก็จะใช้ปืนตัดสินปัญหา  มันช่วยให้เราสะใจเพียงชั่วครู่ แต่ความทุกข์ทรมาน  ความเดือดร้อนที่จะตามมามีอีกมหาศาล และยาวนานครับ  คงไม่ต้องบอกว่าอะไรบ้าง   
อย่างกรณีของท่านผมว่าทุกคนเคยเจอมาทั้งนั้น แต่เราก็ผ่านเหตุการณ์นั้นมาด้วยสติ ปัญญา  ดีกว่าการแก้ปัญหาด้วยอารมณ์  ผมเจอมานับครั้งไม่ถ้วน เพราะผมเดินทางบ่อย  ผมขับรถเฉลี่ยแล้ววันละ 300 - 400 กม. ทั้งต่างจังหวัดและ กทม. เป็นประจำ หากใจร้อนคงนอนคุกไปนานแล้ว  หนักนิด เบาหน่อย อภัยกัน แล้วเราก็จะมีความสุขอยู่กับครอบครัว...ตลอดไป   ::014::

ถือว่า เป็นการทดสอบอารมณ์.. และที่สุดท่านก็ผ่านมาได้  ท่านหาทางออกให้กับตัวเอง ได้ดีแล้ว ครับ  :D

ขี่จักรยานยนต์แล้วมีอาวุธปืนไปด้วยไม่กลัวโดนจับเหรอครับ

ถ้าเป็นผม ผมจะคิดเสมอว่าผมไม่มีปืน ซึ่งผมจะทำแค่ต่อว่าคนขับแท็กซี่ แล้วก็รีบบิดหนีไป ไม่ต้องฟังเค้าโต้ตอบกลับมาให้ไม่สบายใจครับ  ::005::(ปืนมีไว้เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินครับ ชักออกมาแต่ละครั้งเรื่องยาวครับ เสียเงินและเสียเวลาครับ)   ::014::

อารมณ์ชั่ววูบ ใช้ปืนแก้ปัญหามีตัวอย่างให้เห็นบ่อยๆ ล่าสุดคดีนี้ http://www.thairath.co.th/content/region/289961

ให้อภัยกัน ต่างคนต่างกลับบ้านไปเจอหน้าลูกเมียดีกว่าครับ

ผมก็เคยโดนครับที่สวนผึ้งราชบุรีช่วงปีใหม่มันบีบแตรไล่ผมพอมันแซงผมบีบไล่มันไป1ครั้งเป็นเรื่งเลยครับพอรถมาติดไฟแดงพร้อมกันมันอยู่หน้าผม วัยรุ่นลงมาจากรถ 4 คนอีกคนถือมีดลงมาด้วย เดินมาที่รถผมเมียกับลูกตกใจมากจนร้องไห้ ส่วนผมพอตั้งสติได้ กล็อก21 พาดประตูรถรอยิงมันแต่มันเห็นปืนเลยวิ่งกลับไปขึ้นรถผมโล่งอกแต่เมียด่าตลอดทางครับ

+111

ยินดีด้วยครับ "เอาสติเป็นหางเสือ  ถือท้ายเรือไว้ให้มั่น"  ::002::

เรื่องต่างๆที่อยากพูด ก็มีเพื่อนสมาชิกโพสไปหมดแล้ว และละเอียดดีด้วย

ที่นี้เราต้องมองแบบ สั่งสอนตัวเองครับ ว่าวันนั้นเราทำผิดส่วนไหนไปบ้าง เช่น เราอารมณ์ร้อนจะรีบเดินทางเกินไปหรือเปล่า และบังเอิญเจอคนขี้หงุดหงิดเหมือนกัน  แล้วถือเป็นบทเรียน

มองในแง่ดี ทั้งคู่กรณี และ จขกท. มีส่วนคล้ายกันนะครับ  คือหงุดหงิดง่าย  กล้าโต้เถียง  และพยายามคุมความรุนแรงไม่ให้บานปลายไปมากกว่านั้น  คู่กรณีขับรถแกว่ง แต่ไม่กล้าเบียดจริงๆ  จขกท. ถ้าจะชักปืนแต่แรกก็ทำได้แต่ยังยั้งมือ

ถ้าเจอเขาอีก ยิ้มให้เขาเถอะครับ เพราะอาจเป็นพี่น้องกันแต่ชาติบางก่อน ........ เหมือนกันจริงๆ :)