เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คิดเป็นก็สุขได้

หน้าต่างศาสนา
พระมหาสมควร ถิรสีโล วิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ


การดำเนินชีวิตในสถานการณ์ปัจจุบันดูจะเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่นไม่น้อย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสารพัดภัยที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดยั้ง ทั้งภัยธรรมชาติที่ยากจะคาดเดา ยังเพิ่มด้วยภัยที่มนุษย์เราสร้างขึ้นด้วยความโง่เขลา เปลี่ยนสังคมที่เคยเอื้อเฟื้อแบ่งปันให้กลายเป็นสังคมที่ผู้คนต่างแย่งชิงกันเพื่อหวังผลประโยชน์ใส่ตัวเองและพวกพ้อง

จากความสามัคคีรักใคร่กลมเกลียวกลับกลายเป็นการแตกแยกอย่างยากเกินจะผสาน

อย่างที่มีคนบอกว่าเราไม่อาจเปลี่ยนโลกทั้งใบให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้ มีเพียงเราเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงใจตนเองเสียใหม่ให้ยอมรับต่อสิ่งที่เป็น แล้วสร้างความคิดดีๆ ขึ้นมาเพื่ออยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้อย่างมีความสุข ทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนความคิดเราเสียใหม่

ในที่นี้ ผู้เขียนได้นำวิธีการคิดที่จะทำชีวิตและจิตใจเป็นสุขได้ 3 แนวคิดคือ

1.คิดให้เกิดความรู้ เรามาใช้เหตุและผลมากกว่าอารมณ์ที่มี โดยถามตัวเองตลอดเวลาว่า เราเป็นใคร กำลังทำอะไรอยู่ แล้วทำไปเพื่ออะไร ไม่ไขว่คว้าจนเลยความพอดีไป ยิ่งเวลามีน้อยก็ควรใช้อย่างคุ้มค่า รู้จักนำมาแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะเคารพกติกาที่มีด้วยการยอมรับและปฏิบัติตาม อย่าเพียงแต่มีความรู้แล้วเอาความรู้นั้นเพื่อเอาตัวรอดอย่างเดียว

2.คิดสนุกและสร้างสรรค์ ลองมาสอนชีวิตให้คิดบวก ทำชีวิตให้มีรอยยิ้มบ้าง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ อย่างถ้าคนไหนยังหาแฟนไม่ได้ก็คิดเสียใหม่ว่ายังดีกว่าต้องมาทุกข์เพราะกินน้ำใต้ศอกคนอื่น หรือกำลังตกงานอยู่ก็จะได้ทำให้เรารู้ว่าเมื่อมีงานต้องทำแล้ว ต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุด

3.คิดเพื่อปล่อยวาง ลองตั้งข้อสังเกตกับชีวิตของเราดูว่าเวลาเจอคำสรรเสริญ คำนินทา ได้เลื่อนยศหรือถูกลิดรอนตำแหน่ง มีความสุขบ้าง ทุกข์บ้าง เราทำใจอย่างไรกับเหตุการณ์อย่างนี้ เหมือนที่พระสารีบุตรกล่าวถึงการอยู่ในโลกอย่างมีความสุขว่า "ต้องปล่อยวาง" คือวางใจให้เป็นกลางไม่หวั่นไหวลำพองตนเพราะ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่จมปลักเศร้าเสียใจ เมื่อเสื่อมลาภ ไร้ยศ ประสบนินทาว่าร้าย หรือความทุกข์ยากเข็ญใจ เมื่อเห็นความจริงของโลกแล้วบอกกับใจว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง

...เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะมีความรู้เท่าไร คิดสร้างสรรค์มากแค่ไหน ก็ต้องอย่าลืมว่าบางอย่างก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆ ที่เราคิดไปเองให้ซับซ้อน

เหมือนครั้งหนึ่งองค์การนาซ่าต้องการออกแบบปากกาที่สามารถเขียนบนอวกาศได้ จึงประกาศหาคนเก่งให้ร่วมเสนอไอเดียเข้ามา มีผู้คนเก่งจำนวนมากเสนอไอเดียที่น่าสนใจ เช่นให้ใช้หมึกแบบแม่เหล็ก เป็นต้น

แต่ก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจ จนกระทั่งมีเด็กคนหนึ่งโทรศัพท์เข้าไปแล้วเสนอไอเดียว่า "ทำไมไม่ใช้ดินสอละครับ" แค่นั้นทุกคนที่คิดกันแทบหัวจะแตกก็อดขำกันไม่ได้ เพราะช่างเป็นคำตอบที่ทั้งเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนอะไรเลย...

โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ ลองคิดให้สนุกและสร้างสรรค์ มาสอนชีวิตให้คิดบวก ทำชีวิตให้มีรอยยิ้มบ้าง และคิดว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อต้องอยู่กับเหตุการณ์นั้นๆ

ความคิดของคนเรามีหลากหลาย  ทั้งเป็นอันตรายและเป็นประโยชน์ 

มีสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึง  "อยู่คนเดียวให้ระวังจิต   อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา  อยู่กับบิดามารดาให้ระวังการงาน  อยู่กับครูบาอาจารย์ให้ระวังความเคารพ"  มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย ?  ::014::

 ::014:: ::014::