หัวข้อ: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 21, 2012, 10:08:37 PM ก่อนอื่น. ผมต้องขอขมาดวงวิญญาณทุกดวงที่กล่าวถึง. ทุกคนที่กล่าวถึงมีตัวตนจริง. แต่ขอเปลี่ยนชื่อนะครับ. 2. ในนั้นมีปูและย่า ผมด้วย. เรื่องนี้มีทั้งฆ่าข่มขืนรบแบบกองโจร และยิงทิ้ง. และที่สุดแล้วคือ เฮี่ยนสุดจนปัจจุบันนี้
ณ. เวลา ยามบ่าย ย่าผัน จูงควายกำลังจะเอาไว้ปล่อยไว้ที่ริมบึงได้มีชาย รูปร่างใหญ่โต วิ่งมาตามทางสวนกับยายผัน แบบเร่งร้อน แต่เป็นชายแปลกหน้าที่ไม่มีในหมู่บ้าน หมู่บ้านสมัยก่อนทางเป็นทางเกวียนไม่ดีเหมือนปัจจุบัน แต่ย่าผัน ก็ไม่ได้สนใจ นำควายไปปล่อยไว้ที่รึมแล้วก็เข้าบ้าน ตกเย็นห่างจากบ้านย่าผัน ประมาณ 600 เมตรมีคนไปมุ้งกันเต็ม และข่าวแบบชาวบ้านก็คือมี ยายนอม ถูกฆ่าในสวนและมีร่องรอยการข่มขื่นด้วย แต่ ย่าผันไม่เคยบอกใครเลยว่าได้สวน กับชายแปลกหน้าเมื่อตอนบ่าย และนี่เป็นจุดของเรื่องเฮี่ยน คดีนี้หาคนร้ายไม่ได้จนถึงปัจจุบันเพราะย่าผันไม่เคยพูดว่า ใครเพราะย่าผันบอกว่าไม่แน่ใจเลยไม่พูดไป แต่ย่าผันเล่าให้ที่บ้านฟัง เหตุการณผ่านไป ในสวนนั้นเวลาค่ำคืนจะแถบไม่ มีใครผ่านเลย เพราะทุกคนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่ม หรือมาเดี่ยว จะมีเสียงร้องให้ช่วยเหลือตลอด ซึ่งเป็นที่เล่าขานว่า ยายนอมเฮี่ยนสุด แต่แปลก ที่ปู่พนไม่เคยเจอ เวลาเมามา ถ้าไปไม่ไว้ก็จะนอนข้างทางซ่างเมื่อไรก็จะเดินกลับบ้านต่อ งู เงี่ยวเขี้ยวขอ ไม่เคยกัดปู่พนเลย และปู่พนก็เคยนอนใกล้ตรงนั้น ณ จุดที่ยายนอม เสียชีวิต ตอนผมโตมา จะมีต้นสะเดา ขึ้นมา และจะมีผ้าสามสีผูกอยู่น้อยคนที่จะเข้าไปในสวนนั้นประมาณ สัก 2-3 ไร่ได้ ผมชอบเข้าไปยิ่งนก เพราะต้นไม้ ใหญ่เงียบ นกเยอะ ไม่เคยเจออะไรเลย กลางคืน ที่ตรงนั้น เป็นคุ้งน้ำพอดีเป็นจุดรวมของปลาเนื้ออ่อน อาทอนจะชวนผม ไปล่อปลาคล้าวตอนกลางคืน ผม ก็ไป อาทอนอายุประมาณ 18-20 ปี มันวังเวงมาก แต่เพราะปลาเยอะ บางครั้งก็จะได้ ยินเสียง แต่ด้วยนิสัยของคนชอบหาปลาและมีเพื่อนไป อาทอนเลยไม่ค่อยกลัว แต่อาทอนก็เคยได้ยินจังๆ เวลาผ่านตรงนั้น คนเดียว เป็นเสียง คนร้องออกมาจากจุดนั้น ช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆ ตรงนี้เจอกันเยอะมาก ผมโตมาตอนกลับบ้าน ระยะทางของประมาณ 1 ร้อยเมตร ในส่วนที่ติดถนน ในสวนนั้นจะมีกอไผ่ อยู่ด้วย ตอนประมาณ 2 หลังจากขี่จักรยานกลับจาก วิทยาลัย ได้ยินเสียง ฉีกไม้ไผ่ห่างจากตัวแค่ไม่ถึงเมตร ตั้งตั้งแต่เข้าที่นั้นจนสุดที่ผมก็นึกในใจ เอาอีกแล้ว เพื่อนผม นิยมมานอนที่บ้านผม แต่ไม่รู้ประวัติที่ พอขี่จักรยาน มาจากบ้านเขา ผ่านที่ตรงนี้ไฟจะดับเอง เป็นประจำแต่ไม่ได้บอกเพื่อนกลัวเพือนไม่มานอนด้วย อีกคนเป็นมอเตอร์ไซค์ ก็ดับเหมือนกัน ผ่านที่ตรงนั้นไฟจะติดเอง มีวันหนึ่งเพือนถามที่ตรงนั้นมีอะไรว่ะสังเกตุมานาน แล้ว ก็เลยเล่าให้ฟังว่า ถ้ากลางวันมองเข้าไปในที่นะ ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร จะเห็นต้นสะเดาที่สูงที่สุดตรงนั้นนะ มีการข่มขืนแล้วฆ่า เมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว เพือนเลยถึงบางอ้อ ผมถามว่ากลัวใหม เพือนบอกว่า ไม่เท่าไร เลยชวนเพือนว่า อยากเข้าไปดูข้างในใหมเพือนบอกว่า ถ้ากลางวันเข้า กลางคืนขอบาย ผมเลยพาเข้าไปดู ข้างในเงียบมาก ถึงจะเป็นที่แค่ประมาณ 2-3 ไร่ แต่ บรรยากาศเหมือนที่เป็นร้อยไร่ ต้องนึกถึงว่า ป่าแต่ก่อนอุดมสมบูรณจะเงียบ จริงๆ เริ่ม เรื่องการฆ่าล้างแค้นเลย นะครับ ลูกยายนอน ที่ผมทราบ มีสองคน อีกคนเป็นชาวบ้านธรรมดา (ปัจจุบันตายแล้ว ) อีกคน เป็นทหาร ไปรบที่เวียดนาม ปัจจุบัน บวชอยู่ ได้รู้ข่าวว่า แม่ถูกฆ่าข่มขืน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใครฆ่า และคิดว่า ปู่ส้ม และปู่มนต์ ซึ่งอยู่บ้านห่างกันประมาณ. 50. กว่าเมตร เป็นคนข่มขืนแล้วฆ่าแน่นอน ได้รวบรวมพักพวกได้ประมาณ สามรถบิกอัป ก็เกือบ 20 คน เพื่อล้างแค้น ก่อน ลงมือ 8 ชั่วโมง ปู่ส้ม มาที่บ้านหา ปู่พน แล้วบอก ไอ้พน วันนี้มึงไปกินเหล้าบ้านกูนะ เออค่ำๆ เจอกัน แต่ที่ใหนได้ ปู่พนไปเมาอยู่ที่บ้านใต้หลับอยู่ที่ร้านค้าบ้านใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร เลยไม่ได้ไปบ้าน ปู่ส้ม และมีหามปู่พนมาส่งที่ บ้าน ปู่พนเลยไม่ได้ไป บ้านปู่ส้ม ซึ่งห่างกันทางคุ้งน้ำประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ถ้าทางถนนประมาณ 500 เมตร มาต่อกันที่พวก ที่จะมาล้างแค้นกันต่อนะครับ พวกนั้นขับรถเข้ามาที่บ้าน แล้วกระจายกำลัง ล้อมบ้าน เจ็ดหลัง แบบ สายฟ้าแลบ อาวุธครบมือ เห็นบอกว่า อาวุธสงครามทั้งนั้น ชั่วเวลาไม่กี่นาทีเขาสามารถยึดบ้านได้เจ็ดหลัง แต่เอาคน มารวมกันไว้ที่บ้านหลังเดียว แล้ว เด็กผู้หญิง โดยตบกันแบบว่า สลบคามือ แล้วโยนเข้าห้อง ขั้งไว้ในห้อง มีเพือนผมอยู่ ในนั้นด้วย มันบอกว่า โดนทีเดียวหลับไปเลย ทหาร ลุงยศ ไอ้ส้ม ไอ้มนต์ มึงฆ่า....กู ทำไม กูไม่ได้ฆ่า ไม่ใช่ มึง 2 คนแล้วจะเป็นใคร กูจะไปรู้หรือ (ขอโทษ ที่ใช้คำหยาบเพื่อให้ได้อารมณ์เพราะเขาพูดกันอย่างนั้นจริงๆ) มึงไม่รู้ใช่ใหม ได้ ไอ้น้อยไปเอามีดบางในครัวมา นี่มีดบางครับ พี่ยศ ไอ้ส้มมึงจะพูดใหม กูไม่ได้ฆ่าจะให้พูดอะไร ถ้าไม่พูด งั้นก็..... มีดบางสับลงไปที่คอ ปู่ส้มถูกมัดมือไผ่หลังอยู่บนเก้าอี้ เลือดพรุ่งจากคอถึงเพดานแดงเต็ม ไปหมด ปู่ส้มดิ้นกระตุก เก้าอี้ล้ม เลือดให้นองพื้นไปหมด ไอ้มนต์ ตกลงมึงฆ่า ... หรือเปล่า ไม่ได้ฆ่าจะให้ฆ่าได้ อย่างไร ไอ้น้อยลากมันขึ้นรถไปด้วย ถ้ามันไม่พูดก็เป็นผีเผ้าถนนไปเลย ออกไปจากบ้านได้ประมาณ 10 กิโลเมตร แถวป่าช้า สายคำม่า มีเสียงปืนดัง 1 นัด พร้อมกับร่างชายแก่ๆ ตกลงมาจากรถปิกอัป สิ้นใจตั้งแต่อยู่บนรถเพราะโดน เข้าหูขวาทะลุหูซ้ายจาก ปืนลูกซองยาว เก้าเม็ดเต็มๆ แต่ว่า ก็ยังมีคนรอดไปได้ 1 คน ตอนที่ พวกเข้าบ้าน ล้อมบ้าน ลุง ลั่น ได้หนีมาได้พร้อมปืนลูกซอง 1 กระบอก แต่ว่า เอามาได้แค่ปืน ไม่ได้เอาลูกออกมา วิ่งมาที่บ้าน แล้วมาเรียก อาพน ๆๆ ย่าผัน มีอะไรไอ้ลั่น โจรขึ้นบ้าน อาส้ม ผมหนีมาได้ขอลูกปืนหน่อย ผม ไม่มีลูกปืน ปู่พนเอาลูกปืน ให้ลุงลั่นไป สักพักลุงลั้นก็หายไปกลับความมืด แต่ที่บ้านเริ่มคุยกันแล้วว่าจะไปดู บ้านปู่ส้ม แต่ย่าผันบอกรอ ลุงลั่นมาส่งข่าวก่อน และรอเสียงปืนด้วย ลุงลั่นหายไป พักใหญ่ ก็กลับมา ที่บ้าน บอกว่า ปู่ส้ม ถูกปาดคอตายบนบ้าน ปู่มนต์มันเอาขึ้นรถไป ปู่พน ย่าผัน อาสอน ไปที่บ้าน ปู่ส้มกันหมด ย่าผันบอกว่า ไอ้ทอน อยู่กลับหลานที่บ้านนะ ใครมาเรียกถ้าไม่ใช่คนที่บ้านอย่าเอากะได ลงให้เขานะ ครับ แม่ สรุปผมอยู่กลับอาทอนสองคน ประมาณ 4 ทุ่ม ผมได้ยินเสียง ปู่ส้มมาเรียก ไอ้พน ๆๆๆๆๆ ผมเลย บอกอาทอนว่า ปู่ส้มมาเรียก ตอนนั้นผมยังเด็ก ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่อาทอนรู้แล้วว่าปู่ส้ม ตายแล้ว ผมตื่นมา แล้วชี้ไปที่นอกกระชานบอกอาทอนว่า ปู่พนมานั้งรอปู่ที่นอกกระชานไง อาทอนกอดผมแน่น เลย เพราะอาทอนรู้แล้วว่า ปู่ส้มตายไปแล้ว และอาทอนก็เห็นเงาดำนั่งรอจริงๆ ทั้งๆที่กระไดไม่ได้เอาลงด้วย เหตุการณผ่านไป คนฆ่า ปู่ส้มปู่มนต์ถูกจับได้ตัดสินจำคุก แต่ยังไม่จบนะครับ เรื่องของความเฮี่ยน ของยายนอม ไม่จบแค่นั้น แต่ว่ามีมากกว่านั้น อยู่มาเมื่อประมาณ สัก 5 ปีที่แล้วที่ตรงนั้น ลูกหลานได้ให้ดินกับผู้รับเหมา เพื่อจะปรับที่เป็นนา หลังทำปรับที่เสร็จ น้าปุ้ม เดินไม่ได้พาไปรักษาที่ใหนก็บอกปกติหมด จนต้องผึ้งคนทรงเจ้า ได้มาทรงตรงนั้น ได้เจอวิญญาณ มากกว่า 10 ดวง จะทรมาน น้าปุ้ม เพราะไปทำลายที่อยู่เขา ที่บ้านทำบุญใหญ่ให้ ก็ไม่หาย คนทรงๆใหม่บอกว่า ต้องให้ น้าปุ่มมาขอขมาก่อนไม่งั้นงั้นจะเอาให้ถึงตาย น้าปุ่ม ประกอบพิธีขอขมา เสร็จ จากคนที่เดินไม่ได้มาเป็นเดือน แม้แต่เข้าห้องน้ำยังต้องอุ้มไป ลุกขึ้นเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ( ข้อนี้วันนั้นถ้าย่าผันพูดไปอาจไม่เกิดเหตุการเช่นนี้ก็ได้ ) จบแล้วครับ ผมอาจเล่าไม่สนุกแต่เล่าได้ดีสุดแค่นี้ครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นประสบการณ์ตรง หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:02:43 AM โห้... ทำให้อยาก
แล้ว จาก.......... :D~ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:04:40 AM เจ็บจี๊ด...อารมย์ค้าง...โห่ๆๆๆๆ...ต้องรอถึงพรุ่งนี้...
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:05:01 AM ประสบการณ์ตรงหรือบอกเล่าครับนายช่าง
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:19:59 AM โด่......อะไรเนี่ยพี่โรจน์ วัยรุ่นเซ็งเลย ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 02:03:48 PM ประสบการณ์ตรง ๆ ครับ 3 ทุ่มคืนนี้ โพสครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 02:26:54 PM ๓๐ ปีที่แล้ว ก็ปี ๒๕๒๕ ผมอยู่พิจิตร ปีแรก พอดี ขณะนั่งรถไฟ ก็ได้ยินเสียงคนพูดกัน
ยิงเจ้าของหนังสือพิมพ์ปากกล้า ในเมืองพิจิตร ยิง สจ.ตะพานหิน . ยิง.. ยังเป็นทนายเด็ก ๆ เพราะอายุ ๒๐ กว่า ๆ และอยู่ในวิถี คนคอปืน ที่มี S&W M ๑๐ เสียบพุงขวา ตลอด พิจิตร ณ.เวลานั้น กำลังมีการตัดถนนเส้นหลัก ๒ เส้น ความเจริญ กำลังมาเยือน เส้นตะวันตก คือ นครสวรค์ - สามงาม(พิจิตร) - พิษณุโลก เส้นตะวันออก คือต้น สาย ๑๑ จากอินทร์บุรี - ตากฟ้า - ไพศาลี - และมาเชื่อม กับสายหลักที่ สี่แยกเขาทราย พิจิตร ทั้ง ๒ เส้นนี้ ตัดผ่าน พื้นที่ดิบ-เถื่อน ของ คนไทยในพื้นที่ และ ผู้อพยพทั้ง อยู่เก่าและมาใหม่ ไทยพรวน-ลาวพรวน ที่ผ่านแดน มาจากหลุ่มสัก - เพชรบูรณ์.. แค่มองหน้า เหยียบเชือกผูกรองเท้า จอแจ งานวัดกลางคืน. ก็ยิงกันแล้ว . :~) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Watchai ที่ ตุลาคม 22, 2012, 02:27:20 PM ขอปูเสื่อรอนะครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Songchart ที่ ตุลาคม 22, 2012, 03:36:33 PM มารอฟังด้วยคนครับ
ส่งชาติ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 03:39:17 PM 30 ปีที่แล้ว...ผมยังเดินกอดขวดนมอยู่เลยครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: forrest gump-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 04:39:54 PM ปูเสื่อ รอหนังฉายครับ...
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 06:26:43 PM จ่ายค่าตั๋วให้แล้วครับ อย่าชักช้าประเดี๋ยวสั่งให้เด็กจับแมวโยนใส่จอซ๊ะดีใหม่ .... ::007:: ::007:: ::014::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 06:26:54 PM ได้อ่านแน่ครับแต่ตอนนี้กำลังเดินกล้องวงจรปิดที่ปั้มน้ำมันอยู่. แฟนอยู่. รพ ด้วย
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 06:32:34 PM ได้อ่านแน่ครับแต่ตอนนี้กำลังเดินกล้องวงจรปิดที่ปั้มน้ำมันอยู่. แฟนอยู่. รพ ด้วย หมายความว่ากระไร? แฟนอยู่ รพ. หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 06:34:54 PM ป่วย. เพิ่งเข้า รพ เมื่อสักครู่.
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 06:36:31 PM ตอนนี้ผมพิมอยู่หน้างาน. พิมผ่าน ipad. ช้า. รอพิมจากคีบรอดจะไวกว่า
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 22, 2012, 07:16:42 PM รอหนังฉาย :o
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 07:20:57 PM ป่วย. เพิ่งเข้า รพ เมื่อสักครู่. อ้าว! แล้วเป็นอะไรมากไหม ? หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ ตุลาคม 22, 2012, 07:24:37 PM ขอให้แฟนพี่โรจน์หายป่วยโดยไวครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: firehorse ที่ ตุลาคม 22, 2012, 07:39:13 PM พรุ่งนี้มาชมใหม่ อิอิ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: big single ที่ ตุลาคม 22, 2012, 07:59:49 PM นานๆจะโพสต์ทีวุ๊ยเรา... ;D ;D ;D
ไม่ต้องรีบเด้อ..ลุงโรจน์... ผมรอนานแล้ว... ::005:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:08:17 PM +1 จ่ายค่าตั๋วแล้วนะนายช่าง
เมื่อประมาณสามสิบปีเช่นกัน......ที่อำเภอผม ตอนนั้นหลังไทยเรื่อง ทอง กำลังดัง ฉายกลางแปลง ล้อมผ้า สนามที่ว่าการอำเภอ ทั้งบ้านนอกบ้านใน ห่างออกไปร่วมยี่สิบกว่ากิโล ก็เหมารถกันมาดู ถึงคราซวยรึไงไม่รู้ หนังเรื่องทองไม่ลงจอซะที ฉายเรื่องอื่นไปก่อน ไอ้หนุ่มบ้านนาชักเซง เริ่มด้วยเสียงโห่ ปาขวด สุดท้ายจุดไฟเผาผ้าล้อมหลังจอ ต้องหยุดฉาย ชั่วขณะ ตำหนวดมาระงับเหตุ โฆษกหนังต้องประกาศขอโทษ บอกว่าฟิลม์มีปัญหา ต้องเข้าไปเปลี่ยนที่ตัวจังหวัด เสียงโห่ฮาตรึม..ขอเงินคืนซิครับ สมัยนั้นยี่สิบบาทมั้งค่าตั๋วหนัง เดือดร้อนตำหนวดมาช่วยเคลีย์ ได้ข้อสรุปว่าพรุ่งนี้ฉายให้ดูฟรีเริ่มสองทุ่ม55555..........ไม่งั้นโดนเผาทั้งรถทั้งจอนะช่างโรจน์ ::007:: ::005:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:17:17 PM จอฉายหนังกลางแปลงยุค 16 มม. นั้นจะเป็นจอผ้า วัยรุ่นประจำถิ่นย่านวัดประดู่ในทรงธรรม วัดประดู่ฉิมพลี
ถ้าไม่สบอารมณ์มักจะจับแมวโยนใส่จอหนัง จนคณะหนังเร่ไม่อยากเข้ามาฉาย .... ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:29:57 PM จอฉายหนังกลางแปลงยุค 16 มม. นั้นจะเป็นจอผ้า วัยรุ่นประจำถิ่นย่านวัดประดู่ในทรงธรรม วัดประดู่ฉิมพลี ถ้าไม่สบอารมณ์มักจะจับแมวโยนใส่จอหนัง จนคณะหนังเร่ไม่อยากเข้ามาฉาย .... ::007:: ::007:: ::007:: อ้าว เจอ เด็กวัดประดู่ฯ ซะแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก นะครับ. :D ผมเรียน โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม มศ ๑ - มศ.๕ ไปโรงเรียนด้วยการเดิน ผ่านวัดนางชี - วัดหมู (อัปศรสวรรค์)- วัดปากน้ำภาษีเจริญ ข้ามสะพานไม้แล้ว ทะลุ วัดประดูฉิมพลี ครั้งหลวงปู่โต๊ะ ยังมีพรรษา. แล้วเข้าประตูสังกะสีด้านหลังโรงเรียน :D หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: DeMi-God ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:32:58 PM หาเสื่อไม่ทัน ขอเอาผ้ายางมาปูรอฟังด้วยคนครับ!
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:43:05 PM จอฉายหนังกลางแปลงยุค 16 มม. นั้นจะเป็นจอผ้า วัยรุ่นประจำถิ่นย่านวัดประดู่ในทรงธรรม วัดประดู่ฉิมพลี ถ้าไม่สบอารมณ์มักจะจับแมวโยนใส่จอหนัง จนคณะหนังเร่ไม่อยากเข้ามาฉาย .... ::007:: ::007:: ::007:: อ้าว เจอ เด็กวัดประดู่ฯ ซะแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก นะครับ. :D ผมเรียน โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม มศ ๑ - มศ.๕ ไปโรงเรียนด้วยการเดิน ผ่านวัดนางชี - วัดหมู (อัปศรสวรรค์)- วัดปากน้ำภาษีเจริญ ข้ามสะพานไม้แล้ว ทะลุ วัดประดูฉิมพลี ครั้งหลวงปู่โต๊ะ ยังมีพรรษา. แล้วเข้าประตูสังกะสีด้านหลังโรงเรียน :D ระหว่างที่รอเจ้าของหนัง ขอพักโฆษณากันก่อน ยินดีครับที่ได้รู้จัก บ้านเกิดผมนั้นอยู่ที่ถิ่นนี้แหละครับ ... ::014:: เพิ่มเติมครับ ตามเส้นทางที่กล่าวมานี้คุณยังลืม วัดปรก สะพานไม้สองแผ่นเดินข้ามประตูน้ำภาษีเจริญ ... (http://image.ohozaa.com/i/f49/Uc2UEX.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wlCvCbuPcjCAVVn5) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:44:35 PM รออ่านด้วยคนครับ
30 ปีที่แล้ว ผมยังขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆ ตอนเย็นก็รอว่า วันไหนไฟจะดับ จะได้ดูพ่อจุดตะเกียงเจ้าพายุให้ดู หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: forrest gump-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:46:53 PM รอหนังฉาย..งั้นผมไปซื้อหมึกย่างก่อนนะ...ใครจะฝากซื้อเม็ดมะขามมั่งครับ ::008::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:52:15 PM รออ่านด้วยคนครับ 30 ปีที่แล้ว ผมยังขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆ ตอนเย็นก็รอว่า วันไหนไฟจะดับ จะได้ดูพ่อจุดตะเกียงเจ้าพายุให้ดู สมัยนั้นถ้าไฟฟ้าหลวงดับก็จะสนุกสนานของเด็กๆ ครับ ออกไปชุมนุนกันหน้าวัดแล้วแหกปากร้อง .... "น้ำไม่ไหล ไฟริบหรี่ รถห้ามขี่ กระหรี่ห้ามขาย" วันดีคืนดี พณฯ จอมพลสฤษดิ์ มารถฉลามบก วิ่งกันกระเจิง ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:52:44 PM รอหนังฉาย..งั้นผมไปซื้อหมึกย่างก่อนนะ...ใครจะฝากซื้อเม็ดมะขามมั่งครับ ::008:: ทำไมฟังดูชนบทแท้หลาว...งั้นผมขอเม็ดนางดำถุงนึงครับ...อิอิอิ... หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:55:18 PM จอฉายหนังกลางแปลงยุค 16 มม. นั้นจะเป็นจอผ้า วัยรุ่นประจำถิ่นย่านวัดประดู่ในทรงธรรม วัดประดู่ฉิมพลี ถ้าไม่สบอารมณ์มักจะจับแมวโยนใส่จอหนัง จนคณะหนังเร่ไม่อยากเข้ามาฉาย .... ::007:: ::007:: ::007:: อ้าว เจอ เด็กวัดประดู่ฯ ซะแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก นะครับ. :D ผมเรียน โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม มศ ๑ - มศ.๕ ไปโรงเรียนด้วยการเดิน ผ่านวัดนางชี - วัดหมู (อัปศรสวรรค์)- วัดปากน้ำภาษีเจริญ ข้ามสะพานไม้แล้ว ทะลุ วัดประดูฉิมพลี ครั้งหลวงปู่โต๊ะ ยังมีพรรษา. แล้วเข้าประตูสังกะสีด้านหลังโรงเรียน :D ระหว่างที่รอเจ้าของหนัง ขอพักโฆษณากันก่อน ยินดีครับที่ได้รู้จัก บ้านเกิดผมนั้นอยู่ที่ถิ่นนี้แหละครับ ... ::014:: เพิ่มเติมครับ ตามเส้นทางที่กล่าวมานี้คุณยังลืม วัดปรก สะพานไม้สองแผ่นเดินข้ามประตูน้ำภาษีเจริญ ... (http://image.ohozaa.com/i/f49/Uc2UEX.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wlCvCbuPcjCAVVn5) ผมจำไม่ได้จริง ๆ ครับ ยังคิดไม่ออกเลยครับ . ::014:: :D หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 22, 2012, 08:58:51 PM อย่าลืมเปิดเพลงปลุกใจก่อนฉายด้วยนะครับตามสไตล์หนังกลางแปลง
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 09:12:40 PM ถั่วต้ม ครับ ถั่วต้ม ถั่วต้ม ครับ ถั่วต้ม ถั่วต้ม ครับ ถั่วต้ม ถั่วต้ม กระป๋องละหนึ่งสลึง (กระป๋องนมข้น) ...... เสียงใครคนหนึ่งตระโกนขึ้นว่า "แม่ง...ขี้โกงเอากระดาษยัดลงไปเกือบครึ่งกระป๋อง" วันต่อมา ข้างโบถส์ โคนต้นมะพร้าว...... 1-2-3 คนละกำ สองกำ เหลือครึ่งกระจาด ..... อโหสิกรรมด้วยนะครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 09:40:53 PM ::012:: ::012:: ::012:: ::014::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 09:46:04 PM ::012:: ::012:: ::012:: ::014:: เจ้าปูดำตัวนี้ ออกเจก่อนเจอกันแน่.... :D~ :D~ :D~ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 22, 2012, 09:49:39 PM โอ/ปูเสื่อตัวจริง ;D ;D
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:07:58 PM สมัยผมเป็นหนุ่มน้อย หนังเรื่องทองภาค4 กำลังดัง ดีเซลลิตรละไม่ถึงสิบบาท ลูกชิ้นงานวัดไม้ละสองบาท ก๋วยเตียวสิบบาท พิเศษสิบห้า ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับเงินในสมัยนั้น
แต่ที่รู้สึกว่าจ่ายแพงแล้วได้นิดเดียว ก็ไอ้ปลาหมึกย่างนี้หละ....เอามาย่างไฟเหลือนิดเดียว ถึงกับถามกันเล่นๆว่าปลาหมึกแถวไหนแพงที่สุด อมไว้ค่อยๆเคี้ยวรอหนังฉาย..คอแห้ง หิวน้ำชิหาย... ::007:: ::007:: ::012:: อ้าว...เฮ้ย..เมื่อไหรหนังจะฉายวะ... ???555555 อุตส่าห์มุดผ้าเข้ามา ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:12:10 PM หนังกลางแปลงสมัยก่อนมีประชันกันด้วย/_ว่าใครภาพชัด_เสียงใครดีกว่ากัน
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:13:43 PM ได้อ่านแน่ครับแต่ตอนนี้กำลังเดินกล้องวงจรปิดที่ปั้มน้ำมันอยู่. แฟนอยู่. รพ ด้วย พักโฆษณา หรือ ฉายหนังตัวอย่างกันไปได้เลื่อยๆครับ เจ้าของหนังติดงานสำคัญ ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:17:02 PM หนังกลางแปลงสมัยก่อนมีประชันกันด้วย/_ว่าใครภาพชัด_เสียงใครดีกว่ากัน นั่นก็ต้องเป็นหนัง 35 มม. โดยใช้แสงจากเตา Arc ::014:: กุหลาบทิพย์ภาพยนตร์ ศิษย์เกษรภาพยนตร์ ยิ้มยิ้มภาพยนตร์ ฯลฯ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:41:12 PM สมัยผมเป็นหนุ่มน้อย หนังเรื่องทองภาค4 กำลังดัง ดีเซลลิตรละไม่ถึงสิบบาท ลูกชิ้นงานวัดไม้ละสองบาท ก๋วยเตียวสิบบาท พิเศษสิบห้า ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับเงินในสมัยนั้น แต่ที่รู้สึกว่าจ่ายแพงแล้วได้นิดเดียว ก็ไอ้ปลาหมึกย่างนี้หละ....เอามาย่างไฟเหลือนิดเดียว ถึงกับถามกันเล่นๆว่าปลาหมึกแถวไหนแพงที่สุด อมไว้ค่อยๆเคี้ยวรอหนังฉาย..คอแห้ง หิวน้ำชิหาย... ::007:: ::007:: ::012:: อ้าว...เฮ้ย..เมื่อไหรหนังจะฉายวะ... ???555555 อุตส่าห์มุดผ้าเข้ามา ::005:: ::005:: แถวบน ๒๐.- แถวล่าง ๑๕ .- ::005:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: SigPro-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:47:01 PM อยากกระทืบคนที่เอาหน้านี้ไปแปะที่อื่น แม่งหลอกให้มาดูคนบ้าเพ้อเจ้อ เสียเวลาชิบหาย รกเวบ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:48:34 PM ดูแฟนเดี่ยวหลับจะมาเล่าให้ครับแต่วันนี้แน่ครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:49:49 PM ขอโทษด้วยครับที่ล้าช้า จะกระตืบผมก็ไม่ว่า แต่แฟนผมป่วยแฟนผมต้องมาก่อน
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: forrest gump-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 10:58:20 PM ขอโทษด้วยครับที่ล้าช้า จะกระตืบผมก็ไม่ว่า แต่แฟนผมป่วยแฟนผมต้องมาก่อน ไม่เป็นไรครับ พวกผมแฟนหนังกลางแปลง...ผมไปซื้อเม็ดมะขามมาฝากพี่คนตัวอ้วนแล้ว...แข่บไปแข่บมา ลุกเสียม้า ที่นั่งที่ชุบเอาไว้ โดนแย่งเหม๊ดเล๊ย... หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: forrest gump-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 22, 2012, 11:00:02 PM ปล.ถ้ากระทู้นี้ดันกันเกิน 5 หน้าขึ้นไป อาจจะออกแนวเหมือนเรื่องผีหลังคาของหม่ำ จ๊กม๊กนะครับ... ::005::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 22, 2012, 11:27:51 PM ไปอ่านหน้า 1
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 22, 2012, 11:29:19 PM ถ้าพูดถึงหนังกลางแปลง แถวอีสานบ้านผมสมัยก่อนไม่มีใครเกิน "เสนอจิตรภาพยนตร์" ระบบจอโค้งเรดาห์ ขึ้นโครงจอโค้งโดยเหล็กนั่งร้าน ระบบเสียงแสบดาก อัดกระแทกหัวใจ
ก่อนหนังตัวอย่างจะลงจอ เปิดมิวสิกเพลงเรียกแขก เพลงมันส์ๆสมัยนั้น ไม่เคยผิดหวังครับ...เจ้าภาพงานบุญงานบวช ใครจ้างเสนอจิตรได้นิ ไม่ธรรมดา..5555 แต่ถ้าประเภทหนัง ล้มต้มคนดูนิ ไอ้หนุ่มบ้านผมนิยมเผา..ครับ http://www.youtube.com/watch?v=KYF0Cww4xw0&feature=related หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 12:21:51 AM อะไรนี่ จะตี 1 แล้วหรือ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 12:41:06 AM ท่าน muskey == รักในหลวง ==
อยู่พิจิตร สนใจไปสถานที่จริงใหมครับ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: muskey == รักในหลวง == ที่ ตุลาคม 23, 2012, 12:46:22 AM ท่าน muskey == รักในหลวง == ขอบคุณครับพี่ ::014:: ::014:: เดี๋ยวถ้ากลับไปรับรองไปแน่ครับ แต่ขอกลางวันนะครับ - -'อยู่พิจิตร สนใจไปสถานที่จริงใหมครับ รออ่านจนจบ เรื่องพี่นี่หลอนจริงๆ ขอให้แฟนพี่หายไวๆนะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:03:28 AM ก่อนอื่น. ผมต้องขอขมาดวงวิญญาณทุกดวงที่กล่าวถึง. ทุกคนที่กล่าวถึงมีตัวตนจริง. แต่ขอเปลี่ยนชื่อนะครับ. 2. ในนั้นมีปูและย่า ผมด้วย. เรื่องนี้มีทั้งฆ่าข่มขืนรบแบบกองโจร และยิงทิ้ง. และที่สุดแล้วคือ เฮี่ยนสุดจนปัจจุบันนี้ ณ. เวลา ยามบ่าย ย่าผัน จูงควายกำลังจะเอาไว้ปล่อยไว้ที่ริมบึงได้มีชาย รูปร่างใหญ่โต วิ่งมาตามทางสวนกับยายผัน แบบเร่งร้อน แต่เป็นชายแปลกหน้าที่ไม่มีในหมู่บ้าน หมู่บ้านสมัยก่อนทางเป็นทางเกวียนไม่ดีเหมือนปัจจุบัน แต่ย่าผัน ก็ไม่ได้สนใจ นำควายไปปล่อยไว้ที่รึมแล้วก็เข้าบ้าน ตกเย็นห่างจากบ้านย่าผัน ประมาณ 600 เมตรมีคนไปมุ้งกันเต็ม และข่าวแบบชาวบ้านก็คือมี ยายนอม ถูกฆ่าในสวนและมีร่องรอยการข่มขื่นด้วย แต่ ย่าผันไม่เคยบอกใครเลยว่าได้สวน กับชายแปลกหน้าเมื่อตอนบ่าย และนี่เป็นจุดของเรื่องเฮี่ยน คดีนี้หาคนร้ายไม่ได้จนถึงปัจจุบันเพราะย่าผันไม่เคยพูดว่า ใครเพราะย่าผันบอกว่าไม่แน่ใจเลยไม่พูดไป แต่ย่าผันเล่าให้ที่บ้านฟัง เหตุการณผ่านไป ในสวนนั้นเวลาค่ำคืนจะแถบไม่ มีใครผ่านเลย เพราะทุกคนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่ม หรือมาเดี่ยว จะมีเสียงร้องให้ช่วยเหลือตลอด ซึ่งเป็นที่เล่าขานว่า ยายนอมเฮี่ยนสุด แต่แปลก ที่ปู่พนไม่เคยเจอ เวลาเมามา ถ้าไปไม่ไว้ก็จะนอนข้างทางซ่างเมื่อไรก็จะเดินกลับบ้านต่อ งู เงี่ยวเขี้ยวขอ ไม่เคยกัดปู่พนเลย และปู่พนก็เคยนอนใกล้ตรงนั้น ณ จุดที่ยายนอม เสียชีวิต ตอนผมโตมา จะมีต้นสะเดา ขึ้นมา และจะมีผ้าสามสีผูกอยู่น้อยคนที่จะเข้าไปในสวนนั้นประมาณ สัก 2-3 ไร่ได้ ผมชอบเข้าไปยิ่งนก เพราะต้นไม้ ใหญ่เงียบ นกเยอะ ไม่เคยเจออะไรเลย กลางคืน ที่ตรงนั้น เป็นคุ้งน้ำพอดีเป็นจุดรวมของปลาเนื้ออ่อน อาทอนจะชวนผม ไปล่อปลาคล้าวตอนกลางคืน ผม ก็ไป อาทอนอายุประมาณ 18-20 ปี มันวังเวงมาก แต่เพราะปลาเยอะ บางครั้งก็จะได้ ยินเสียง แต่ด้วยนิสัยของคนชอบหาปลาและมีเพื่อนไป อาทอนเลยไม่ค่อยกลัว แต่อาทอนก็เคยได้ยินจังๆ เวลาผ่านตรงนั้น คนเดียว เป็นเสียง คนร้องออกมาจากจุดนั้น ช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆ ตรงนี้เจอกันเยอะมาก ผมโตมาตอนกลับบ้าน ระยะทางของประมาณ 1 ร้อยเมตร ในส่วนที่ติดถนน ในสวนนั้นจะมีกอไผ่ อยู่ด้วย ตอนประมาณ 2 หลังจากขี่จักรยานกลับจาก วิทยาลัย ได้ยินเสียง ฉีกไม้ไผ่ห่างจากตัวแค่ไม่ถึงเมตร ตั้งตั้งแต่เข้าที่นั้นจนสุดที่ผมก็นึกในใจ เอาอีกแล้ว เพื่อนผม นิยมมานอนที่บ้านผม แต่ไม่รู้ประวัติที่ พอขี่จักรยาน มาจากบ้านเขา ผ่านที่ตรงนี้ไฟจะดับเอง เป็นประจำแต่ไม่ได้บอกเพื่อนกลัวเพือนไม่มานอนด้วย อีกคนเป็นมอเตอร์ไซค์ ก็ดับเหมือนกัน ผ่านที่ตรงนั้นไฟจะติดเอง มีวันหนึ่งเพือนถามที่ตรงนั้นมีอะไรว่ะสังเกตุมานาน แล้ว ก็เลยเล่าให้ฟังว่า ถ้ากลางวันมองเข้าไปในที่นะ ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร จะเห็นต้นสะเดาที่สูงที่สุดตรงนั้นนะ มีการข่มขืนแล้วฆ่า เมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว เพือนเลยถึงบางอ้อ ผมถามว่ากลัวใหม เพือนบอกว่า ไม่เท่าไร เลยชวนเพือนว่า อยากเข้าไปดูข้างในใหมเพือนบอกว่า ถ้ากลางวันเข้า กลางคืนขอบาย ผมเลยพาเข้าไปดู ข้างในเงียบมาก ถึงจะเป็นที่แค่ประมาณ 2-3 ไร่ แต่ บรรยากาศเหมือนที่เป็นร้อยไร่ ต้องนึกถึงว่า ป่าแต่ก่อนอุดมสมบูรณจะเงียบ จริงๆ เริ่ม เรื่องการฆ่าล้างแค้นเลย นะครับ ลูกยายนอน ที่ผมทราบ มีสองคน อีกคนเป็นชาวบ้านธรรมดา (ปัจจุบันตายแล้ว ) อีกคน เป็นทหาร ไปรบที่เวียดนาม ปัจจุบัน บวชอยู่ ได้รู้ข่าวว่า แม่ถูกฆ่าข่มขืน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใครฆ่า และคิดว่า ปู่ส้ม และปู่มนต์ ซึ่งอยู่บ้านห่างกันประมาณ. 50. กว่าเมตร เป็นคนข่มขืนแล้วฆ่าแน่นอน ได้รวบรวมพักพวกได้ประมาณ สามรถบิกอัป ก็เกือบ 20 คน เพื่อล้างแค้น ก่อน ลงมือ 8 ชั่วโมง ปู่ส้ม มาที่บ้านหา ปู่พน แล้วบอก ไอ้พน วันนี้มึงไปกินเหล้าบ้านกูนะ เออค่ำๆ เจอกัน แต่ที่ใหนได้ ปู่พนไปเมาอยู่ที่บ้านใต้หลับอยู่ที่ร้านค้าบ้านใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร เลยไม่ได้ไปบ้าน ปู่ส้ม และมีหามปู่พนมาส่งที่ บ้าน ปู่พนเลยไม่ได้ไป บ้านปู่ส้ม ซึ่งห่างกันทางคุ้งน้ำประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ถ้าทางถนนประมาณ 500 เมตร มาต่อกันที่พวก ที่จะมาล้างแค้นกันต่อนะครับ พวกนั้นขับรถเข้ามาที่บ้าน แล้วกระจายกำลัง ล้อมบ้าน เจ็ดหลัง แบบ สายฟ้าแลบ อาวุธครบมือ เห็นบอกว่า อาวุธสงครามทั้งนั้น ชั่วเวลาไม่กี่นาทีเขาสามารถยึดบ้านได้เจ็ดหลัง แต่เอาคน มารวมกันไว้ที่บ้านหลังเดียว แล้ว เด็กผู้หญิง โดยตบกันแบบว่า สลบคามือ แล้วโยนเข้าห้อง ขั้งไว้ในห้อง มีเพือนผมอยู่ ในนั้นด้วย มันบอกว่า โดนทีเดียวหลับไปเลย ทหาร ลุงยศ ไอ้ส้ม ไอ้มนต์ มึงฆ่า....กู ทำไม กูไม่ได้ฆ่า ไม่ใช่ มึง 2 คนแล้วจะเป็นใคร กูจะไปรู้หรือ (ขอโทษ ที่ใช้คำหยาบเพื่อให้ได้อารมณ์เพราะเขาพูดกันอย่างนั้นจริงๆ) มึงไม่รู้ใช่ใหม ได้ ไอ้น้อยไปเอามีดบางในครัวมา นี่มีดบางครับ พี่ยศ ไอ้ส้มมึงจะพูดใหม กูไม่ได้ฆ่าจะให้พูดอะไร ถ้าไม่พูด งั้นก็..... มีดบางสับลงไปที่คอ ปู่ส้มถูกมัดมือไผ่หลังอยู่บนเก้าอี้ เลือดพรุ่งจากคอถึงเพดานแดงเต็ม ไปหมด ปู่ส้มดิ้นกระตุก เก้าอี้ล้ม เลือดให้นองพื้นไปหมด ไอ้มนต์ ตกลงมึงฆ่า ... หรือเปล่า ไม่ได้ฆ่าจะให้ฆ่าได้ อย่างไร ไอ้น้อยลากมันขึ้นรถไปด้วย ถ้ามันไม่พูดก็เป็นผีเผ้าถนนไปเลย ออกไปจากบ้านได้ประมาณ 10 กิโลเมตร แถวป่าช้า สายคำม่า มีเสียงปืนดัง 1 นัด พร้อมกับร่างชายแก่ๆ ตกลงมาจากรถปิกอัป สิ้นใจตั้งแต่อยู่บนรถเพราะโดน เข้าหูขวาทะลุหูซ้ายจาก ปืนลูกซองยาว เก้าเม็ดเต็มๆ แต่ว่า ก็ยังมีคนรอดไปได้ 1 คน ตอนที่ พวกเข้าบ้าน ล้อมบ้าน ลุง ลั่น ได้หนีมาได้พร้อมปืนลูกซอง 1 กระบอก แต่ว่า เอามาได้แค่ปืน ไม่ได้เอาลูกออกมา วิ่งมาที่บ้าน แล้วมาเรียก อาพน ๆๆ ย่าผัน มีอะไรไอ้ลั่น โจรขึ้นบ้าน อาส้ม ผมหนีมาได้ขอลูกปืนหน่อย ผม ไม่มีลูกปืน ปู่พนเอาลูกปืน ให้ลุงลั่นไป สักพักลุงลั้นก็หายไปกลับความมืด แต่ที่บ้านเริ่มคุยกันแล้วว่าจะไปดู บ้านปู่ส้ม แต่ย่าผันบอกรอ ลุงลั่นมาส่งข่าวก่อน และรอเสียงปืนด้วย ลุงลั่นหายไป พักใหญ่ ก็กลับมา ที่บ้าน บอกว่า ปู่ส้ม ถูกปาดคอตายบนบ้าน ปู่มนต์มันเอาขึ้นรถไป ปู่พน ย่าผัน อาสอน ไปที่บ้าน ปู่ส้มกันหมด ย่าผันบอกว่า ไอ้ทอน อยู่กลับหลานที่บ้านนะ ใครมาเรียกถ้าไม่ใช่คนที่บ้านอย่าเอากะได ลงให้เขานะ ครับ แม่ สรุปผมอยู่กลับอาทอนสองคน ประมาณ 4 ทุ่ม ผมได้ยินเสียง ปู่ส้มมาเรียก ไอ้พน ๆๆๆๆๆ ผมเลย บอกอาทอนว่า ปู่ส้มมาเรียก ตอนนั้นผมยังเด็ก ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่อาทอนรู้แล้วว่าปู่ส้ม ตายแล้ว ผมตื่นมา แล้วชี้ไปที่นอกกระชานบอกอาทอนว่า ปู่พนมานั้งรอปู่ที่นอกกระชานไง อาทอนกอดผมแน่น เลย เพราะอาทอนรู้แล้วว่า ปู่ส้มตายไปแล้ว และอาทอนก็เห็นเงาดำนั่งรอจริงๆ ทั้งๆที่กระไดไม่ได้เอาลงด้วย เหตุการณผ่านไป คนฆ่า ปู่ส้มปู่มนต์ถูกจับได้ตัดสินจำคุก แต่ยังไม่จบนะครับ เรื่องของความเฮี่ยน ของยายนอม ไม่จบแค่นั้น แต่ว่ามีมากกว่านั้น อยู่มาเมื่อประมาณ สัก 5 ปีที่แล้วที่ตรงนั้น ลูกหลานได้ให้ดินกับผู้รับเหมา เพื่อจะปรับที่เป็นนา หลังทำปรับที่เสร็จ น้าปุ้ม เดินไม่ได้พาไปรักษาที่ใหนก็บอกปกติหมด จนต้องผึ้งคนทรงเจ้า ได้มาทรงตรงนั้น ได้เจอวิญญาณ มากกว่า 10 ดวง จะทรมาน น้าปุ้ม เพราะไปทำลายที่อยู่เขา ที่บ้านทำบุญใหญ่ให้ ก็ไม่หาย คนทรงๆใหม่บอกว่า ต้องให้ น้าปุ่มมาขอขมาก่อนไม่งั้นงั้นจะเอาให้ถึงตาย น้าปุ่ม ประกอบพิธีขอขมา เสร็จ จากคนที่เดินไม่ได้มาเป็นเดือน แม้แต่เข้าห้องน้ำยังต้องอุ้มไป ลุกขึ้นเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ( ข้อนี้วันนั้นถ้าย่าผันพูดไปอาจไม่เกิดเหตุการเช่นนี้ก็ได้ ) จบแล้วครับ ผมอาจเล่าไม่สนุกแต่เล่าได้ดีสุดแค่นี้ครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นประสบการณ์ตรง ขอบคุณครับพี่โรจน์ที่นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง / แต่แหมหากครูสอนภาษาไทยมาตรวจคำ /เว้นวรรค อาจไม่ให้ผ่านก็ได้นะครับพี่ ::014:: ;D ;D หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:20:47 AM ผมไม่ถนัดการสื่อสารทุกภาษาครับ. สมองผมเร็วกว่ามือ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:27:14 AM ผมไม่ถนัดการสื่อสารทุกภาษาครับ. สมองผมเร็วกว่ามือ แต่ไม่เป็นไร+๑ แต้ม/-๑๙๐ ให้กับความตั้งใจก่อนครับ :D หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ ตุลาคม 23, 2012, 11:17:14 AM ::002:: ::002:: ::002::
เป็นเรื่องเก่าในอดีต ที่ยากลืมเลือนจริง ๆ ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 05:14:50 PM เรื่องต่อไป คนหนังเหนียวต้องเจอทุบ รอบเรียบเรียงหน่อยนะครับ คนนี้ ก็สอนผมหลายเรื่อง
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ ตุลาคม 23, 2012, 05:43:40 PM เรื่องต่อไป คนหนังเหนียวต้องเจอทุบ รอบเรียบเรียงหน่อยนะครับ คนนี้ ก็สอนผมหลายเรื่อง โฮ้ ....มีอีกเรื่องรึครับ :OO ::005:: ::002:: ถ้าเรียบเรียงดี ๆ เพิ่มตัวละคร เล่าเป็นเรื่องเป็นราว รัยรองเขียนเป็นนิยายขายได้เลยครับ ::014:: ผมรู้จักน้องอยู่คนชอบเขียนหนังสือมาก .. แค่เรื่องคนเก็บขยะ มันยังเขียนเป็นเรื่องเป็นราว ::002:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 05:57:01 PM เรื่องต่อไป คนหนังเหนียวต้องเจอทุบ รอบเรียบเรียงหน่อยนะครับ คนนี้ ก็สอนผมหลายเรื่อง โฮ้ ....มีอีกเรื่องรึครับ :OO ::005:: ::002:: ถ้าเรียบเรียงดี ๆ เพิ่มตัวละคร เล่าเป็นเรื่องเป็นราว รัยรองเขียนเป็นนิยายขายได้เลยครับ ::014:: ผมรู้จักน้องอยู่คนชอบเขียนหนังสือมาก .. แค่เรื่องคนเก็บขยะ มันยังเขียนเป็นเรื่องเป็นราว ::002:: ใช้ตัวละครจริงๆเลยดีกว่า. ครับ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ ตุลาคม 23, 2012, 06:17:25 PM ปูกระดาษหนังสือพิมพ์รอหนังฉายเรื่องต่อไปครับ :D ;D
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:16:26 PM อยากกระทืบคนที่เอาหน้านี้ไปแปะที่อื่น แม่งหลอกให้มาดูคนบ้าเพ้อเจ้อ เสียเวลาชิบหาย รกเวบ ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่าน ทุกหน้าเมื่อสักครู่ ผมกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ ไปซะ ผมช้าเพราะแฟนผมป่วยโรคประจำตัวเก่ากำเริบ ไม่ได้คิดจะตั้ง ท่าทำเป็นอยากให้ทุกคนสนใจ เพียงแต่ผม ถ่ายทอดไม่เก่ง ต้องลำดับเหตุการจริง ออกมาทีละตอน เพราะผมเล่าแบบไม่ได้แต่งเติม สรุปไม่เล่า เรื่องต่อไปแล้ว หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:18:14 PM ปูกระดาษหนังสือพิมพ์รอหนังฉายเรื่องต่อไปครับ :D ;D หนังยังไม่ฉาย หารายได้พิเศษดีกว่า.....ถั่วต้มครับ ถั่วต้ม โอเลี้ยง โอเล่ หมึกย่าง ยาหม่อง ยาดม ยาอม ยาหอม มาแล้วครับ ;Dหัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:22:06 PM ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่าน ทุกหน้าเมื่อสักครู่ ผมกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ ไปซะ ผมช้าเพราะแฟนผมป่วยโรคประจำตัวเก่ากำเริบ ไม่ได้คิดจะตั้ง ท่าทำเป็นอยากให้ทุกคนสนใจ เพียงแต่ผม ถ่ายทอดไม่เก่ง ต้องลำดับเหตุการจริง ออกมาทีละตอน เพราะผมเล่าแบบไม่ได้แต่งเติม สรุปไม่เล่า เรื่องต่อไปแล้ว [/quote] อ้าว...งานกร่อยซะแล้ว ::012:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: muskey == รักในหลวง == ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:27:19 PM อยากกระทืบคนที่เอาหน้านี้ไปแปะที่อื่น แม่งหลอกให้มาดูคนบ้าเพ้อเจ้อ เสียเวลาชิบหาย รกเวบ ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่าน ทุกหน้าเมื่อสักครู่ ผมกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ ไปซะ ผมช้าเพราะแฟนผมป่วยโรคประจำตัวเก่ากำเริบ ไม่ได้คิดจะตั้ง ท่าทำเป็นอยากให้ทุกคนสนใจ เพียงแต่ผม ถ่ายทอดไม่เก่ง ต้องลำดับเหตุการจริง ออกมาทีละตอน เพราะผมเล่าแบบไม่ได้แต่งเติม สรุปไม่เล่า เรื่องต่อไปแล้ว พี่ครับคนที่ติดตามอ่านก็ยังมี ผมรออ่านเรื่องของพี่อยู่ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 23, 2012, 08:47:54 PM โถ่...นัดสาวไว้ อุตส่าห์ไปรับจ้างลอกปอ ได้ค่าตั๋วหนังมาแล้ว แซงเลย.... :~)
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: sakda m41 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 23, 2012, 09:04:01 PM วันแรก เจอหน้าแรก เปิดอ่านแล้วปิด เปิดอ่านแล้วปิด ไม่เร้าใจ ไม่ชวนติดตาม
วันนี้เห็นกระทู้เดิน ลองพยายามอ่าน จนจบ ก็ไม่ได้หวังว่า จะอ่านตอนต่อไป แต่ เฮ้อ.....น้อ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: walkery ที่ ตุลาคม 23, 2012, 09:11:21 PM ปูหนังสือ แล้วนึกถึงตอนดูหนังแถวบ้านจริงๆ ::009::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 23, 2012, 09:16:59 PM อยากกระทืบคนที่เอาหน้านี้ไปแปะที่อื่น แม่งหลอกให้มาดูคนบ้าเพ้อเจ้อ เสียเวลาชิบหาย รกเวบ ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่าน ทุกหน้าเมื่อสักครู่ ผมกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ ไปซะ ผมช้าเพราะแฟนผมป่วยโรคประจำตัวเก่ากำเริบ ไม่ได้คิดจะตั้ง ท่าทำเป็นอยากให้ทุกคนสนใจ เพียงแต่ผม ถ่ายทอดไม่เก่ง ต้องลำดับเหตุการจริง ออกมาทีละตอน เพราะผมเล่าแบบไม่ได้แต่งเติม สรุปไม่เล่า เรื่องต่อไปแล้ว พี่ครับคนที่ติดตามอ่านก็ยังมี ผมรออ่านเรื่องของพี่อยู่ครับ ::014:: มันน่าโดนด้ามพายแท้ .... (http://image.ohozaa.com/i/b2b/mLoW2d.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wewH0NvH7v9jOsQO)หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: amfine02 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 23, 2012, 09:25:41 PM ฉายต่อเลยครับ คนมาเต็มโรงแล้ว
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ตุลาคม 23, 2012, 09:47:50 PM สัก อาทิตย์ สองอาทิตย์ มาเล่าต่อครับ ขอเวลา ทำใจ เพราะผมอยากเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผมเคยเจอมาในชีวิต
ขอให้กระทู้นี้ตกไปสัก พักนะครับ ลุงคนนี้สอนผมปรุงยา ลมยา แก่มีคำว่าเสือนำหน้า ผมนับถือเขาเป็น ครูอีกคนหนึ่ง เขาสอนวิชาผมหลายอย่าง สุดท้ายตายเพราะ เมีย หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ ตุลาคม 23, 2012, 11:30:57 PM ป่าช้าเฮี้ยนๆผมไปพลอดรักหลายครั้ง กลัวเหมือนกันอาศัยเมาครับ หลุมศพไร้ญาติยังกะแปลงเกษตร บางทีคนผ่านมาต่างฝ่ายต่างผงะใครจะไม่กลัว
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: SigPro-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 02:05:28 AM อย่าน้อยใจไปเลยครับ ปกติถ้าผมเห็นชื่อคนตั้งกระทู้ผมจะไม่เข้าไปอ่านให้เสียเวลา
พอดีคราวนี้ไปเจอแปะในเวบอื่น เลยคลิ๊กเข้ามาดูโดยไม่ได้สังดกตุว่าใครจั่วหัว ก็โมโหด่าไอ้คนแปะเวบไปแล้ว หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ตุลาคม 24, 2012, 08:37:22 AM ไม่เป็นไรครับ
แต่ได้ย้อนรำลึกอดึต บรรยากาศดูหนังกลางแปลงงานวัดก็แล้วกัน... 40ปีแล้วสิ จำได้แม่นว่า คนฉาย ก็ช่วยตามคนด้วย "เด็กชายแดง แม่มารอ มาพบที่เครื่องฉายด้วย...555" หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 24, 2012, 08:41:16 AM แหม.......อีกตั้งสองอาทิตย์ จะอัฟราคาตั๋วรึงัย.... ::005::
เต็มใจจ่ายค่าตั๋วเต็มราคา..... ไม่เอาโฆษณา จะมาแบบหนังขายยา ยาแก้ซาง ถ่ายพยาธิ แก้กษัยเส้น... ถ้ามีโผล่มาละ เผาจอแน่... ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ ตุลาคม 24, 2012, 11:32:30 AM อยากกระทืบคนที่เอาหน้านี้ไปแปะที่อื่น แม่งหลอกให้มาดูคนบ้าเพ้อเจ้อ เสียเวลาชิบหาย รกเวบ ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่าน ทุกหน้าเมื่อสักครู่ ผมกลายเป็นคนเพ้อเจ้อ ไปซะ ผมช้าเพราะแฟนผมป่วยโรคประจำตัวเก่ากำเริบ ไม่ได้คิดจะตั้ง ท่าทำเป็นอยากให้ทุกคนสนใจ เพียงแต่ผม ถ่ายทอดไม่เก่ง ต้องลำดับเหตุการจริง ออกมาทีละตอน เพราะผมเล่าแบบไม่ได้แต่งเติม สรุปไม่เล่า เรื่องต่อไปแล้ว พี่ครับคนที่ติดตามอ่านก็ยังมี ผมรออ่านเรื่องของพี่อยู่ครับ ::014:: มันน่าโดนด้ามพายแท้ .... (http://image.ohozaa.com/i/b2b/mLoW2d.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wewH0NvH7v9jOsQO)+1081 ลุงบุญครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ ตุลาคม 24, 2012, 01:15:35 PM ผมหลานกำนัน..ขอจองหน้าจอหน่อย..อย่าขัดใจ ::005::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 01:39:40 PM เรื่องบางเรื่อง ไม่เจอกับตัวเอง ไม่เชื่อกัน ... ผมปกติก็ไม่เคยเจออะไร ขับรถกลางคืนจากดึกจาก เชียงใหม่-กรุงเทพ คนเดียวก็หลายหน ก็ไม่เคยเจอ
เคยขับรถขึ้นภูพานตอนกลางคืนคนเดียวมืดๆ ก็ผ่านสะดวก เพียงแต่ไม่มีรถตาม กับรถวิ่งสวนเลย 555 เชียงราย-เชียงใหม่ อะไรที่ทางเปลี่ยวๆ แต่ก็ไม่ลำบากอะไร ถนนเดี๋ยวนี้สบาย ต้องให้สติกับอย่าประมาทเท่านั้น ;D แต่ไอ้ที่เหมือนจะเจอหลายหน ก็บอกไม่ได้อีก ก็เพราะเขาไม่ได้มาแบบจะจะ เป็นตัวเป็นตนชัดเจน :~) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 24, 2012, 06:10:13 PM เมื่อก่อนผมเคยขับมอร์ไซค์มากับเพื่อนสองคนจากอุ้มผางมาแม่สอดเวลาประมาณสามทุ่มน่าจะได้ถ้าจำไม่ผิด ข้างทางมีแต่ป่ารถสวนก็ไม่มีมีรถผมอยู่คันเดียว ขับไปขับไปสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างอยู่เป็นกลุ่มๆไหวๆอยู่ข้างทางในราวป่าคล้ายๆคน สีขาวๆตัวสูงกว่าคนธรรมดาประมาณสองเท่าได้ ขนลุกซู่หันไปถามเพื่อนที่ซ้อนท้ายว่าเห็นไหม เพื่อนก็เห็น คิดในใจเอาละโดนแล้วละตรู ขับไปพักนึงก็เจออีกเจออยู่สองสามครั้ง เอาวะเป็นไงเป็นกันจอดรถดูมันเลยว่าอะไร พอจอดรถได้เท่านั้นแหละเจอจริงๆเลยครับ เต็มๆสี่ตาสองคน กลัวแทบตาย
ที่แท้ต้นกล้วย ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ตุลาคม 24, 2012, 06:49:42 PM ถ้าพูดถึงหนังกลางแปลง แถวอีสานบ้านผมสมัยก่อน ไม่มีใครเกิน "เสนอจิตรภาพยนตร์" ระบบจอโค้งเรดาห์ ขึ้นโครงจอโค้งโดยเหล็กนั่งร้าน ระบบเสียงแสบดาก อัดกระแทกหัวใจ ก่อนหนังตัวอย่างจะลงจอ เปิดมิวสิกเพลงเรียกแขก เพลงมันส์ๆสมัยนั้น ไม่เคยผิดหวังครับ... เจ้าภาพงานบุญงานบวช ใครจ้างเสนอจิตรได้นิ ไม่ธรรมดา..5555 แต่ถ้าประเภทหนัง ล้มต้มคนดูนิ ไอ้หนุ่มบ้านผมนิยมเผา..ครับ Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ลิง ปากแดง อ่ะ ฮา โม้เปล่า "เผาจอ" อ่ะ ฮา 5555 ไอ้เรื่องจอใหญ่ จอโต เครื่องเสียง "ทะลุโลก" ฮา ยายยังไม่เห็นใครดังเท่า "แอ๊ด เทวดา" เลยอ่ะ ฮา 5555 ยายจำเรื่องไ่ม่ได้แล้วอ่ะ ทำมัยเขา "ติดคอก" อ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 24, 2012, 07:39:08 PM แอ็ดเทวดา จอใหญ่ที่สุดในโลก เครื่องเสียงแสบกระแทกดาก ต้องใช้เครื่องฉายเตาอาร์คสองตัว เขาไม่รับจ้างฉายตามงานนะยายบ๊าบ... ::005:: ::006::
เขาตระเวนฉายทั่วประเทศ จัดมหกรรมร่วมกับผงซักฟอกบรีส จำได้ตอนเด็กๆ ต้องเอาฝาบรีสไปแลกเป็นตั๋วเข้าชม มีทีมงานกว่าสามร้อยชีวิต ขนกันไปเป็นกองทัพ ตอนเย็นๆ หลังตั้งจอเสร็จ รถสิบล้อสามสี่คัน ขนทีมงานชายฉกรรจ์ไปอาบน้ำ ที่ฝายน้ำล้นท้ายสวนปู่ผม ก่อนหนังจะฉายมีเต้นโชว์เพลงทาร์ซานบอย ตั้งแถวเต้น อยู่บนยอดจอโค้งเรดาห์ สูงลิบต้องแหงนคอดู เสียวแทนชิหาย จอมันสูงมากต้องขึ้นโครงเหล็กนั่งร้านเป็นสองโครงหันหลังชนกัน..ป้องกันถล่ม..ยังจำได้ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 24, 2012, 08:24:16 PM ไม่เคยดูซักทีครับ
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 09:24:13 PM ไม่เคยดูซักทีครับ อ้าว! แล้วไปอยู่ที่ไหนล่ะ แอ๊ดเทวดาเชียวนา ... (http://image.ohozaa.com/i/377/1XkzI.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/RSM) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 09:26:19 PM คนเรา เกิดน้อยใจ กันได้ และนั่นเป็นเรื่องเฉพาะตัวตน ของแต่ละคน..
แต่เมื่อรับปาก กับใครไว้ นั่นถือเป็นสัจจะ การจะใช้อารมณ์ส่วนตัวมาผลัดวัน ก็เท่ากับ ใช้ตัวเองไปสร้างอารมณ์ขุ่นมัว ให้กับ ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยมารับกรรมแทน.. เป็นเรื่องควรเลี่ยง นะครับ และกรณี นี้ คุณโอ๊ค-Sigpro ก็ได้มาอธิบายความแล้ว มิได้ หมายถึง คุณโรจน์ฯ จขกท. การคิดเร็ว ทำเร็ว ไม่ชักช้า ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง.. คือวิสัยที่ดีอย่างหนึ่ง ของลูกผู้ชาย นอกจากเรื่องสุขภาพ ควรเลี่ยง ใช้เหุผลในเรื่องส่วนตัว เป็นเหตุผล ในการปฎิเสธความรับผิดชอบ ในปัญหาที่เกิด ปรับอารมณ์ และคิดบวก ได้แล้วครับ เพื่อนทุกคนที่ติดตาม กระทู้ รออยู่ นะครับ .. ;) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 09:43:42 PM ยังไง ก็มีผมคนหนึ่งที่รออ่าน
เพราะเรื่องทุกเรื่องที่ผ่านตา และได้ศึกษา ถือว่าเป็นประสปการณ์ครับ ::002:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ ตุลาคม 24, 2012, 10:01:09 PM ผมสับสน นึกว่ากระทู้นี้คือ"นักเขียนผู้ล่วงลับ" เพราะเห็นมีแต่แขกผู้อาวุโสมาสนทนากัน ::005::
แอ๊ด เทวดา รับฉายงานทั่วไปครับ เงินถึงรึเปล่าเท่านั้น ที่ติดคุกก็เรื่องเล็ก ๆ จ้างวานฆ่าธรมดา ๆ ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 24, 2012, 10:12:50 PM ระหว่าง รอหนังฉาย.......
พิจิตร เป็นเมืองเก่า มีชื่อ มานานนัก คู่มาแต่ครั้ง สถาปนากรุงศรีอยุธยา พระเจ้าเสือ ท่านประสูติที่ อ.โพธิประทับช้าง ใต้ต้นมะเดื่อ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของท่าน ระหว่างพักทัพหลวง ที่จะขึ้นไปตีเมือง ทางเหนือ เป็นชุมชน คนไทยโบราณ ในพื้นที่ มีความเป็นเอกลักษณ์ มีตำนานเรื่องเล่า ฯลฯ เป็นของตัวเอง มีพระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พลวงพ่อพิศ ศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดฆะมัง พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระเครื่องหลวงพ่อเพชร แหวนตระกร้อ ถนนสายหลัก - รอง ในตัวจังหวัด ได้ตั้งชื่อ ตามตำนาน ไว้.. ถนนพระพิจิตร บางช่วงตกแม่น้ำน่านไปแล้ว ถนนสร้อยมาลา ถนนศรีมาลา บ้านผมหลังหนึ่งที่เคยอาศัย ก็อยู่ริมถนนเส้นนี้ พิจิตร เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่คนใจใหญ่ เป็นเหมือนเมื่องราชการ จะคึกคัก ช่วง จันทร์-ศุกร์ พอเสาร์-อาทิตย์ ข้าราชการ กลับบ้านต่างจังหวัด.. เมืองจึงได้พักอีกครั้ง ประเพณีแข่งเรือ ถ้วยพระราชทานจากในหลวง.. จะมีขึ้นนใน เสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน จะมีเรือที่แข่งกันมาก่อนหน้า ตามวัดต่าง ๆ จะมา แข่งขันกันนัดสุดท้าย กันที่นี่ โดยประสาน ให้เขื่อนพรหมพิราม ปล่อยน้ำให้มาปริ่มตลิ่ง ทันการแข่งเรือ ทั้ง ๒ วัน. ผมจะผลัดกันเป็นกรรมการ ขึ้นตัดสินเรือ ทุกปี ตอนอยู่ที่นั่น :D หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 24, 2012, 10:25:49 PM ปัญหาคือคนจ้างกระเป๋าหนักหายาก ทางรอดคือจับกับสปอนเซอร์สินค้า กอดคอกันแบบวิน-วิน อย่างเช่นวงดนตรีเสียงอีสาน นกน้อยอุไรพร มีเอ็มร้อย
ห้าสิบกะธนชาติ ฯลฯ เป็นสปอนเซอร์ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ เลี้ยงชีวิตทีมงาน มีค่าใช้จ่ายสูงมาก เจ้าภาพจะจ้างต้องกระเป๋าหนักจริงๆ ผมสับสน นึกว่ากระทู้นี้คือ"นักเขียนผู้ล่วงลับ" เพราะเห็นมีแต่แขกผู้อาวุโสมาสนทนากัน ::005:: แอ๊ด เทวดา รับฉายงานทั่วไปครับ เงินถึงรึเปล่าเท่านั้น ที่ติดคุกก็เรื่องเล็ก ๆ จ้างวานฆ่าธรมดา ๆ ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 24, 2012, 11:17:19 PM ไม่เคยดูซักทีครับ อ้าว! แล้วไปอยู่ที่ไหนล่ะ แอ๊ดเทวดาเชียวนา ... (http://image.ohozaa.com/i/377/1XkzI.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/RSM) หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ ตุลาคม 24, 2012, 11:25:42 PM รอจนดึก ไม่ฉายซะที เอา...พรุ่งนี้มาใหม่เนาะ ;D โอเลี้ยงละลายหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 25, 2012, 09:06:03 AM กลัวว่าหนังฟอร์มยักษ์ จะกลายเป็นหนังขายยาแก้ซาง ฆ่าพยาธิ แก้กษัย....555555 อาจจบลงด้วย เปิดลังปล่อยงู เรียกอับดุลย์ ขายว่านกันหมากัด.... ::005:: ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ ตุลาคม 25, 2012, 09:17:01 AM เดี๋ยวแว่บไปดูจ้ำบ๊ะฆ่าเวลาก่อน........ :D~ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ ตุลาคม 25, 2012, 09:30:53 AM Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนอายุ 10 ขวบจำได้ติดตาติดหู ตำรวจท่านหนึ่ง คนพิจิตร และเป็นพ่อค้าวัว พูดกับพ่อผมว่า " กูจะยิงมึง " คนสระบุรี อย่างพ่อผมตอบสวนว่า " กูก็มีปืน " หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 06, 2012, 05:42:42 PM อย่าน้อยใจไปเลยครับ ปกติถ้าผมเห็นชื่อคนตั้งกระทู้ผมจะไม่เข้าไปอ่านให้เสียเวลา พอดีคราวนี้ไปเจอแปะในเวบอื่น เลยคลิ๊กเข้ามาดูโดยไม่ได้สังดกตุว่าใครจั่วหัว ก็โมโหด่าไอ้คนแปะเวบไปแล้ว ถ้าเป็นดังนี้ ผมเป็นผู้น้อย หลายท่านในที่อาวุโสทั้งนั้น ผมขอโทษ ด้วยครับ เรื่อง ต่อไปกำลังจะมา ไม่เกิน วันเสาร์ หัวข้อ: Re: เล่าเรื่องจริง. เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 06, 2012, 07:14:24 PM .
|