เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ฝรั่งแฉ สยามเมืองยิ้ม มิตรประเทศลดแต่ปืนเพิ่ม! (ไทยโพสต์)http://hilight.kapook.com/view/77626 (http://hilight.kapook.com/view/77626)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

             รอยเตอร์สเสนอบทความ ประเทศไทยในชื่อสยามเมืองยิ้ม กลายเป็นดินแดนแห่งอาชญากรรมจากปืน สถิติทูตมัจจุราชเพิ่มต่อเนื่อง เผยไทยมีเหตุฆาตกรรมด้วยปืนมากสุดในเอเชีย

             สำนักข่าวรอยเตอร์ส โดยผู้เขียน Amy Sawitta Lefevre เขียนบทความใช้ชื่อว่า "ประเทศไทยเป็นมิตรลดลง แต่อาชญากรรมจากปืนเพิ่มขึ้น" เธอขึ้นต้นด้วยการยกตัวอย่างเหตุการณ์นักศักษาอาชีวะยิงคู่อริบนรถโดยสารประจำทาง ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ยิงคนเสียชีวิต 2 ศพ กลางสี่แยก การเต้นกังนัมสไตล์ในผับที่นำไปสู่เหยื่อปืน 5 ศพ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาทำปืนลั่นใส่อดีตภรรยาตัวเอง ซึ่งจากเหตุการณ์เหล่านี้ นำไปสู่การสรุปว่าอาวุธปืนในเมืองไทยนั้นเกลื่อนกลาด และครอบครองกันอย่างง่ายดาย

             นอกจากนี้การไม่ต้องรับโทษของคนใหญ่คนโตก็นำไปสู่การใช้ปืนแทนกฎหมายของคนทั่วไป การฆาตกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ชื่อเสียงของไทยดูย่ำแย่ลง ธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติมาเยือนปีละประมาณ 20 ล้านคน อันนำมาสู่รายได้หลักของประเทศจะมีอนาคตที่น่ากังวล ภาพพจน์  "สยามเมืองยิ้ม" กำลังมัวหมอง  

             นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ผู้เคยจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินธุรกิจอาบอบนวด ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยกำลังเป็นเหมือนฉากในหนังคาวบอย คนเดี๋ยวนี้เอะอะก็ชักปืน และว่าเขาเองไม่เคยครอบครองปืนมาก่อน จนกระทั่งปีนี้ที่มีทีเดียว 3 กระบอก

             จากสถิติการสำรวจของ www.gunpolicy.org ของออสเตรเลีย พบว่า ประเทศไทยในปี 2554 มีอัตราการก่ออาชญากรรมจากปืนสูงที่สุดในเอเชีย ทุก 100,000 คน จะถูกฆ่าด้วยอาวุธปืน 5.3 คน เปรียบเทียบกับฟิลิปปินส์ที่มีเพียง 0.2 คน นอกจากนี้ยังพบว่า ประเทศไทยมีพลเมืองครอบครองปืนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าฟิลิปปินส์ 4 เท่า ทั้ง ๆ ที่ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อในด้านความรุนแรงเกี่ยวกับอาวุธปืนมาอย่างยาวนาน ในห้างดิโอลด์สยามพลาซ่าของไทยมีร้านปืนราว 80 ร้าน เปิดขายอย่างถูกกฎหมาย

             ผศ.ดร.ชาญคนิต กฤตยา สุริยะมณี จากคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ระหว่าง 6 ปี ของเหตุการณ์เผชิญหน้าทางการเมือง ทำให้อาชญากรรมเกิดง่ายขึ้น เนื่องจากไม่อยู่ในจุดสนใจเท่าไรนัก
  
            กฎหมายของไทยระบุว่า ประชาชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้ และการออกใบอนุญาตต้องมีการตรวจประวัติผู้ขออย่างเข้มงวด แต่ถึงกระนั้นจากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม มีวัยรุ่นพกปืนมากขึ้นถึง 32 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 9 ปี ที่ผ่านมา

             พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ข้าราชการของไทยได้รับสิทธิ์ส่วนลดในการซื้อปืน และยอมรับว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนแจ้งว่าอาวุธปืนหายและได้นำไปขายในตลาดมืด ซึ่งอาจมีราคาสูงถึง 80,000 บาท ขณะที่นายชูวิทย์บอกว่า เจ้าหน้าที่ออกใบอนุญาตปืนไม่น้อยรับสินบน
 
             ส่วน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า อาวุธปืนมาจากชายแดนประเทศทั่วทุกภาค และในเดือนตุลาคม รัฐมนตรีมหาดไทยของมาเลเซียตำหนิว่า การเพิ่มจำนวนของอาวุธปืนในประเทศของเขา มาจากการลักลอบนำเข้าจากประเทศไทย

             จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยพบว่า ขณะนี้มีผู้ถือครองใบอนุญาตปืน 6.2 ล้านใบ จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 69 ล้านคน ทั้งนี้ การพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งบอกว่า มาตรการทางกฎหมายนาน ๆ ครั้งถึงบังคับใช้เสียทีหนึ่ง

              ท้ายนี้ นายชูวิทย์ กล่าวตำหนิธรรมเนียมการนำกฎหมายมาไว้ในมือผู้ใดผู้หนึ่งตามอำเภอใจ "บางคนที่ไม่สามารถแต่งชุดยูนิฟอร์มได้ สิ่งต่อไปที่จะทำคือการพกปืน" หัวหน้าพรรครักประเทศไทย สรุป

บทลงโทษกฎหมายอ่อยแอและหย่อนยาน  อาชญากรรมสูงเพราะอาชญกรรู้ว่าโทษแสนจะเบาหวิว

มี link ต้นเรื่องของไทยโพสท์ หรือต้นเรื่องของรอยเตอร์ไหมครับ อยากเห็นเนื้อหาเต็มๆ  ::014::
อีกทั้งเวบ www.gunpolicy.org ก็เข้าไม่ได้  ::012::

ไม่พูดเรื่องปืน แต่อยากจะขอพูดเรื่องนักท่องเที่ยว ที่เดี๋ยวนี้นิยมขับรถเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยโดยมาเป็นขบวน มีรถของพวกเขาติดไซเรนเรียบร้อย เจอทางแยกก็จอดรถขวางถนน โบกให้รถพวกเขาผ่านไปก่อน หรือไม่ก็เปิดสัญญาณไซเรน ฝ่าไฟแดงไปเลย ทำเอารถจากเลนอื่นเกือบชนกันกลางแยก ผมว่านักท่องเที่ยวประเภทนี้ไม่วันไดก็วันหนึ่ง อาจจะได้รับเชื้อโรค พิษจากสารตะกั่วเฉียบพลัน เข้าสักวัน เพราะพวกเขาไม่เคารพกฎหมายประเทศที่เขามาท่องเที่ยวเลย

ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายครับ... บทลงโทษที่เขียนเอาไว้ในกฎหมายนั่นสำหรับคนไร้พวก หรือคนไร้ทรัพย์...

เอาเรื่องในเว็บ อวป. เองนี่แหละ ปืนยาวกึ่งออโต้ขนาด .223 ในกระทู้ปักหมุดยังไม่เห็นมีการบังคับใช้กฎหมายเลยครับ ทั้งที่ปักหมุดกระทู้ได้นานมากแล้ว...

ผมค้นบทความของAmy Sawitta Lefevre ที่ถูกอ้างถึงใน Reuters ตามนี้  

http://www.reuters.com/article/2012/10/22/uk-thailand-guns-idUSLNE89L01020121022

ก็ว่ากันปายยยยย  :~)

ผมกำลังอยากจะลงกระทู้เรื่องนี้พอดี มาเห็นกระทู้คุณเล็กเลยเข้ามาขอแจมด้วยครับ(ข้อมูลผมไม่ปึ๊กเท่าคุณเล็กเลยไม่ตั้งกระทู้เองดีกว่า)

  เห็นว่าต่อไปจะมีกฎหมายลดโควต้าการครอบครองอาวุธปืนของประชาชนด้วยนี่ครับไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ผมว่าจริงๆ ประเทศของเราก็เป็นอย่างนี้แหละเดี๋ยวก็ออกกฎหมายแก้ปัญหาไม่ถูกทางเหมือนเดิม  จากที่เคยติดตามข่าวมาตลอดผมว่าปืนที่ใช้ก่ออาญชญากรรมมีมากขึ้นอย่างน่ากลัวและน่าเป็นห่วงมากจริงๆ แต่ปืนพวกนั้นผมว่ามีทั้งปืนที่มีและไม่มีทะเบียนมากเท่าๆ กัน แต่ความเห็นผมการที่จะตัดโอกาสในการครอบครองอาวุธปืนของประชาชนอย่างสิ้นเชิญมันเป็นเรื่องที่เป็นห่วงกันเกินพอดีไป แต่เรื่องที่สำคัญคือเรื่องที่เราๆ คนใช้ปืนรู้กันดีอยู่แต่แก้ปัญหาไม่ได้คือเรื่องการบังคับใช้และผู้ที่บังคับใช้กฎหมายนั่นแหละที่เป็นปัญหา ผมว่ามันลักลั่นไม่เท่าเทียมและสมเหตุสมผลกันมานานตั้งแต่รุ่นพ่อและมากขึ้นเรื่อยๆ  จริงอยู่คนทุกคนย่อมมีความต้องการอยากครอบครองอาวุธปืนฉะนั้นทางราชการควรจะมีหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาที่มีเหตุผลไม่ใช่พิจารณาตามผีบอกและให้เหตุผลกับเราไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เรามีบ้าน มีรถ มีทรัพย์สินส่วนตัวประมาณหนึ่งและแถวบ้านก็มีความเสี่ยงถูกโจรกรรม เราอยากมีปืนไว้ป้องกันตัวติดบ้านซัก 1 กระบอก เราขอ 1 กระบอกนายทะเบียนไม่ให้ แต่พอเป็นข่าวตำรวจไปค้นดูบ้านนักการเมือง นายตำรวจ คนมีฐานะ หรือแม้กระทั่งพ่อค้ายา ดันมีปืนที่นายทะเบียนอนุญาตเองกับมือโดยที่ไม่ได้หกล้มแล้วทำปากกาไถลไปโดนตรงช่องเซ็นชื่อ เป็นเกือบ 10 กระบอก เลยมีคำถามในใจผมว่า  เฮ้ย........ท่านเอาหลักเกณฑ์ไหนมาพิจารณาวะหน่ะ ก่อนเซ็นใบ ป.3 ป.4 ท่านเข้าทรงมาก่อนหรือเปล่า  จริงอยู่ผมใช้คำพูดเสียดสีที่แรงแต่ผมอยากจะสื่อให้เห็นว่าท่านพิจารณากันโดยขาดเหตุผลและส่อไปในทางทุจริต
  อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือปืนโควต้าสวัสดิการข้าราชการผมว่ามันฟุ่งเฟ้อเกินไปและเป็นต้นเหตุของปัญหาปืนล้นเมืองโดยส่อไปในทางทุจริตตั้งแต่ระดับนโบายแล้ว คือ สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ กรมการปกครอง อันนี้ผมไม่มีข้อโต้แย้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. แม้จะออกใบ ป.4 ให้ท่านก็สมควรเพราะเวลาช่วงเลือกตั้งมันอันตรายมาก  แต่ข้าราชการส่วนอื่นๆ คนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงในการทำงานกลับได้รับการจัดโควต้าให้กันทุกคนโดยที่รัฐบาลไม่เคยให้เหตุผลและรับฟังคำโต้แย้งใดๆ ทั้งยังมีขบวนการสวมสิทธิ์อีกต่างหาก ทำให้อาวุธปืนมันเยอะมากเกินไป ทำไมเราไม่พิจารณาปืนสวัสดิการข้าราชการตามหน่วยงานหรือลักษณะงานที่มีความเสี่ยงของเจ้าของปืนท่านนั้นๆ   
  แล้วพอเกิดเรื่องอาชญากรรมล้นเมืองทางรัฐกลับแก้ปัญหาด้วยการตัดโควต้าครอบครองปืนทั้งหมดของประชาชนทำให้คนที่เขาอาจมีความจำเป็นมีความสามารถและวินัยในการใช้ปืนจริงๆ หมดสิทธิ์ ผมคิดว่าปืนมีทะเบียนหลายกระบอกที่เด็กวัยรุ่นนำมาก่ออาชญากรรมหลายๆ ครั้งก็เป็นเด็กในบ้านของข้าราชการเหล่านั้น
  นี่...เป็นผลพวงจากการดำเนินนโยบาย ปืนสวัสดิการ ที่ขาดประสิทธิ์ภาพและส่อไปในทางทุจริตต่างหาก
  แต่ถ้าจะแก้ปัญหากันทั้งสังคมผมว่าเราเจ้าของปืนก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขด้วย หลายคนยังใช้ปืนเหมือนใช้รถ คือฟุ่มเฟือย ประมาท เลินเล่อในการใช้ ทำความสะอาดไม่เป็น และไม่ฝึกใช้เป็นประจำอย่างถูกต้อง ทั้งยังจัดเก็บอย่างไม่ระมัดระวัง จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาแล้วเขาก็เอามาอ้างได้ว่าเราเป็นคนผิดแล้วเที่ยวหาเหตุออกกฎหมายมาบังคับใช้เรา ลองสังเกตดูซิ.. ปกติถ้าไม่เกิดเรื่องเขาจะไม่ปรับปรุงกฎหมายหรอก แต่พอเกิดเรื่องเป็นข่าวสื่อประโคมมากๆ เข้ารัฐบาลก็รีบเขียนกฎหมาย รีบเอาเข้าสภา และสุดท้ายก็บังคับใช้โดยที่ไม่สนใจว่าประชาชนอย่างเราจะได้รับผลกระทบอย่างไร เป็นมันอย่างนี้ในทุกๆ เรื่องไม่ใช่แค่เรื่องปืนอย่างเดียว และเป็นทุกพรรค ทุกรัฐบาลนั่นแหละ 
  เพราะฉะนั้น...เพื่อนๆ ขอให้ใช้ปืนให้ดีๆ ใช้อย่างระมัดระวัง ฝึกซ้อมบ่อยๆ ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการของอาวุธปืน และสุดท้ายเก็บให้เป็นที่เป็นทางจะได้ไม่เป็นแพะให้กับนายทะเบียนและรัฐบาล

   ปล.ขอบคุณที่กรุณาอ่านจนจบนะครับ   :VOV:

 ;D

ทำไมไม่แฉบ้านตัวเองบ้าง !!   ::010::

เช่น  BBC แฉสหรัฐฯ ก่อสงครามหวังฮุบน้ำบ่อน้ำมันแถวตะวันออกกลาง   ::008::

ปืนมันเป็นเครื่องมือ อาวุธ ทรัพย์สิน ศิลปะของสะสม คนนั่นแหละที่มีปัญหา

เหอะๆ อเมริกา บ้านเมืองตัวเองน่ะ ทั้งผลิต ทั้งขาย ทั้งซื้อหามาครอบครองง่ายกว่าเมืองไทยเยอะแยะ
จะเขียนบทความหาพระแสงด้ามอะไรมิทราบ

ที่เชียงดาวมี"แก๊งค์ปาเจโร่"โคตรเชี่ย

ขับเป็นขบวนแล้วขับแบบหวาดเสียวเอาใจฝรั่ง

ไอ้คนไทยนี่แหละขับ 

ถ้ามีเรื่องกับผมนะ จะเอากาวตราช้างหยอดใส้ตูดแม่มเลย

BBC มันเป็นสำนักข่าวของอังกฤษไม่ใช่เหรอครับพี่... ;D ;D ;D

http://en.wikipedia.org/wiki/BBC

::014::

   โง่แล้วอวดฉลาด....เอ้า มาเอาไก่เข้าเล้าเร้ววว

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา


5555 โดน  "ทัก กี้"  ซื้อไปแล้ว อ่ะ ฮา  ::007::

เอ บี ซี  ยัน เอ็กซ์ วาย แซด  อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

แล้วยายโดนทักกี้ซื้อไปยัง 555+

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ Joke สุดหล่อ มหิดล ของยาย ฮา

ยายต้อง  "เปลี่ยนชื่อ"  ใหม่แล้วมั้ง   ฮา
เอาให้  "คล้องจอง"  กับน้อง แพรธารทอง ฮา

เหมือนกับพี่   "ณัฐพงษ์  แอนด์ พิณทองทา"   อ่ะ ฮา

5555   "บาบาร่า แอนด์ แพรธารทอง"    ฮา
"เหมาะ"  กัน มั้ย  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

พี่แม้วเธอคง  มองยาย  บ้างแหละ  ฮา   ::006:: ::006::

ถ้าเกิดจับพลัด  จับพลู  จับยายไป  "แต่ง"  กับ  ไอ้โอ๊ค  ฮา
ยายยอมตาย  เลือกไปยืนให้สิบล้อ   "เฉี่ยว"  ยังเสียวกว่า อ่ะ  ฮา

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  ครูต้น อ่ะ  ฮา

ยายคิดว่าพี่  Sitthipong  แกหมายความถึง  AS Tv  อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

ยายนี่รู้ลึกจริงว่าจบจากไหน แต่แต่งกับโอ๊คก็อาจเสียวไปอีกแบบนะยาย 555+

  งั้นคนไทยเราร่วมกันแฉกลับบ้างสิครับ  ว่าฝรั่งศัตรูประเทศมันเพิ่มขึ้นและประชากรชายบ้านมันหันมาแต่งกับหญิงไทยเรามากยิ่งขึ้น ::005::

     นับเป็นเรื่องที่ดีครับ   ที่คุณ Amy Sawitta Lefevre ได้ให้ความสนใจต่อภาพพจน์ของเรา...................แต่เสียดายจังที่เธอไม่ได้ลงลึกถึงที่ว่า   ปืนที่มาก่อเหตุนั้น   เถื่อนหรือมีใบอนุญาติ



     เรื่องที่ดีอีกอย่างคือ   จากสถิติของออสเตียเลียที่บอกว่า ไทยครอบครองปืนมากสุดในภูมิภาคนี้   ซึงถ้าอิงกับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยที่ว่า  ขณะนี้มีผู้ครอบครองปืน หกล้านสองแสนกระบอก   นั่นหมายถึงว่า   ถ้าเกิด

เหตุรุกรานจากต่างชาติ   เครื่องส่งกระสุนหกล้านกว่ากระบอกนี่แหละ   คือกองหนุนชั้นดี
 

 จากสถิติการสำรวจของ www.gunpolicy.org ของออสเตรเลีย พบว่า ประเทศไทยในปี 2554 มีอัตราการก่ออาชญากรรมจากปืนสูงที่สุดในเอเชีย ทุก 100,000 คน จะถูกฆ่าด้วยอาวุธปืน 5.3 คน เปรียบเทียบกับฟิลิปปินส์ที่มีเพียง 0.2 คน นอกจากนี้ยังพบว่า ประเทศไทยมีพลเมืองครอบครองปืนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าฟิลิปปินส์ 4 เท่า ทั้ง ๆ ที่ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้มีชื่อในด้านความรุนแรงเกี่ยวกับอาวุธปืนมาอย่างยาวนาน ในห้างดิโอลด์สยามพลาซ่าของไทยมีร้านปืนราว 80 ร้าน เปิดขายอย่างถูกกฎหมาย

ทำไมไม่แยกแยะปืนเถื่อนละครับว่ามีคนครอบครองเท่าไหร่ เหอะๆๆ  ลองไปดูปริมาณปืนเถื่อนก่อนไหมว่าเยอะขนาดไหน   เอาข่าวจากประเทศที่ยึดปืนประชาชนมาอ้างอิงเพื่ออะไร ที่ออสมีปัญหาพวกแก็งค์ยกพวกตีกันขนาดไหนยาเสพติดหาง่ายขนาดไหนไม่เอามาแฉบ้างละ