เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: oil ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 07:09:19 AM



หัวข้อ: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 07:09:19 AM
สห.ตบแท็กซี่โชว์ ยัวะขับปาดหน้า รถขบวนชัยสิทธิ์
แท็กซี่ดวงซวย ควบรถส่งคนย่านหลานหลวง เผลอเลี้ยวตัดหน้าชน จยย.นำขบวนรถ "พล.อ.ชัยสิทธิ์" เจอ สห.กร่าง ตบหน้าโชว์ผู้โดยสาร ทั้งที่ยกมือไหว้ขอโทษ ยังไม่หนำใจชี้หน้าด่าก่อนตบซ้ำ ยกขบวนขึ้นโรงพักนางเลิ้ง อ้างชอบธรรม สุดท้ายแท็กซี่ผวายอมเซ็นรับผิด หวั่นลูกเมียเดือดร้อน


เหตุสารวัตรทหารควบรถจักรยานยนต์นำขบวนบิ๊กทหาร ตบหน้าโชเฟอร์รถแท็กซี่เพียงแค่เลี้ยวรถตัดหน้าขบวนครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ร.ต.ท.สุรชัย สีมุเทศ ร้อยเวร สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์นำขบวนนายทหารชั้นผู้ใหญ่เฉี่ยวชนรถแท็กซี่บริเวณปากซอยหลานหลวง 5 ถนนหลานหลวงมุ่งหน้าผ่านฟ้า จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อเดินทางไปถึงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู 4 สูบ สีขาว ทะเบียนตรากงจักร หมายเลข 498 ซึ่งเป็นรถนำขบวนของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ที่กำลังจะเดินทางมาประชุมสภากลาโหม ที่กองทัพบก ถนนราชดำเนิน จอดอยู่ข้างทางในสภาพมีรอยครูดบริเวณด้านหน้ารถเพียงเล็กน้อยและพบสารวัตรทหารไม่ทราบชื่อยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่

ใกล้กันพบรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส ทะเบียน มง-4380 กทม. ที่มีนายสัญชัย นาหนองบัว อายุ 34 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับจอดอยู่โดยที่ด้านขวาของรถมีรอยยุบครูดได้รับความเสียหายทั้งแถบ

อย่างไรก็ตาม สำหรับขบวนรถของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ได้เบี่ยงหลบออกอีกเส้นทางและขับผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้จอดดูเหตุการณ์ ต่อมา ร.ต.ท.สุรชัย ได้นำตัวนายสัญชัย พร้อมคู่กรณีมาสอบปากคำที่ห้องสอบสวนบน สน.นางเลิ้ง โดยมีนายทหารเดินทางมาสมทบ 4-5 นาย

ด้านนายสัญชัยได้เล่าเหตุการณ์ด้วยสีหน้าหวาดผวาว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับผู้โดยสารมาจากถนนอิสรภาพวิ่งผ่านสะพานขาว เพื่อมาส่งผู้โดยสารในซอยหลานหลวง 5 ซึ่งถนนดังกล่าวเป็นวันเวย์และมีช่องทางบัสเลนด้านขวาสุด ในช่วงที่ตนขับมาถึงปากซอยดังกล่าวได้ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะวิ่งเข้าซอย และไม่พบว่ามีรถประจำทางวิ่งสวนทางมา และเมื่อมองกระจกมองข้างด้านขวาก็ไม่พบว่ามีรถวิ่งย้อนบัสเลนมาเช่นกัน จึงได้หักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าซอย

"ช่วงที่ผมกำลังเลี้ยว จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์คันใหญ่วิ่งย้อนบัสเลนตามหลังมาชนด้านข้างรถอย่างแรงและยังวิ่งครูดรถผมพังทั้งแถบ พอรู้ว่าเป็นรถนำขบวนก็ตกใจกลัว ทำอะไรไม่ถูก พอทหารที่ขี่รถจักรยานยนต์จอดก็เดินเข้ามาที่รถผม กระชากประตูรถและตบหน้าผม 2 ครั้ง ทั้งๆ ที่ผมยกมือไหว้ขอโทษแล้ว" โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าว

โชเฟอร์แท็กซี่คนเดิม เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากทหารคนนั้นตบหน้าแล้ว ยังได้ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พอลงจากรถก็มีทหารอีกคนเดินเข้ามาตบหน้าอีก 1 ครั้ง และด่าว่าขับรถประสาอะไร ตอนนั้นตกใจกลัวจนไม่กล้าสู้หน้า ได้แต่ยืนก้มหน้า ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตกใจเช่นกันจนเดินลงจากรถนำเงินค่าโดยสารมายื่นให้ 100 บาท แต่ได้บอกไปว่าไม่คิดค่าโดยสาร แต่ผู้โดยสารก็ไม่สนใจยังยื่นเงินจำนวนดังกล่าวให้ก่อนจะรีบเดินหนีไป อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุ ตนไม่ได้ยินเสียงไซเลนซ์ขอทาง จึงไม่รู้ว่าจะมีขบวนวิ่งตามหลัง ไม่อย่างนั้นตนก็พร้อมจะหยุดเพื่อให้รถขบวนผ่านไป

นายสัญชัย ยังเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากเดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง ว่า ตนได้โทรศัพท์เรียกบริษัทประกันให้มาตรวจสอบ แต่ฝ่ายทหารก็บอกว่าตนเป็นฝ่ายผิดเพราะเป็นรถผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และค่าซ่อมรถให้ตนเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง ทั้งนี้ ตนเป็นคนต่างจังหวัด ไม่รู้เรื่องอะไร ทางฝ่ายคู่กรณีจะว่าอย่างไรก็ต้องว่าตาม

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอร้อยเวรเรียกไปสอบปากคำ นายสัญชัยได้เล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว และอาศัยอยู่ในห้องเช่าย่านบางแค โดยเดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูกคนโต ส่วนลูกอีก 2 คนอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็นำไปดาวน์รถแท็กซี่คันที่ขับอยู่ โดยผ่อนเดือนละ 17,300 บาท เป็นเวลา 4 ปี

"วันนี้ผมออกมาขับรถตั้งแต่เช้าและไม่คิดว่าจะมาเจอแบบนี้ ตอนนี้ก็รอตำรวจว่าจะเอาอย่างไร หากบอกว่าผมผิดก็จะยอมรับ จะให้ทำอย่างไรได้ ถ้าจะเอาเรื่องที่ตบหน้าผมก็กลัวจะอยู่ไม่เป็นสุข กลัวเขาจะข่มขู่ทำร้ายเอา กลัวว่าวันข้างหน้าจะทำมาหากินไม่ได้ กลัวถูกกลั่นแกล้ง กลัวไปหมด ไม่อยากให้เป็นข่าวเลย เพราะไม่อยากมีเรื่องกับคนใหญ่คนโต นี่ถ้าคนอื่นมาเจอแบบผมก็คงจะโดนตบหน้ากันหมด" โชเฟอร์แท็กซี่เคราะห์ร้าย กล่าวด้วยสีหน้าสลดใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสัญชัยกำลังพูดคุยกับผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ได้มีนายทหารเดินผ่านมามองเป็นระยะและเมื่อสอบถามนายทหารที่อยู่บนโรงพัก ต่างก็ปิดปากเงียบ บอกเพียงว่าไม่มีอะไร แค่รถเฉี่ยวชนธรรมดา

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อยู่บนโรงพัก พนักงานสอบสวนได้ปิดห้องหารือกับทหารทั้งหมด โดยไม่ได้สนใจนายสัญชัย กระทั่งครู่ต่อมาได้เรียกนายสัญชัยเข้าไปในห้องเพื่อให้เซ็นชื่อยอมรับผิด โดยที่พนักงานสอบสวนได้นำข้อกฎหมายมาตรา 75 มาอ้างอิง

ทั้งนี้ กฎหมายมาตราดังกล่าว ว่าด้วยการขับรถนำขบวนบุคคลสำคัญซึ่งระบุว่า ม.75 (ค) ในขณะที่ผู้ขับขี่รถฉุกเฉินไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้ขับขี่มีสิทธิใช้สัญญาณวูบวาบได้ และไม่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.หรือข้อบังคับการจราจรเกี่ยวกับการเดินรถ ทิศทาง จุดห้ามจอด ในที่ห้ามเลี้ยว สามารถกระทำได้เพราะถือเป็นข้อยกเว้น ทำให้นายสัญชัยถึงกับหน้าถอดสีและยอมเซ็นชื่อแต่โดยดี

ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายใดผิดหรือถูก ส่วนเรื่องที่มีการนำกฎหมายมาตรา 75 มากล่าวอ้างนั้น ข้อเท็จจริงก็สามารถนำมาอ้างได้ แต่เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วก็ต้องใช้ พ.ร.บ.จราจร มาบังคับใช้โดยต้องว่ากันไปตามถูกผิด

พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องมีสารวัตรทหารที่ขี่รถจักรยานยนต์นำขบวนตบหน้าคนขับรถแท็กซี่นั้น หากการสอบสวนออกมาว่าเป็นความจริงก็จะต้องดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายต่อไป

"ทราบว่าคนขับรถแท็กซี่โวยวายว่าร้อยเวรบังคับให้เซ็นรับผิด ทั้งที่รถแท็กซี่มีประกันภัยชั้น 1 นั้น ในกรณีอุบัติเหตุทั่วไป หากคนขับรถไม่ยอมรับผิด ทางบริษัทประกันก็จะไม่จ่ายค่าซ่อมรถให้กับฝ่ายตรงข้าม คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ผมจะต้องตรวจสอบอีกครั้งก่อน" พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.อ.ชัยสิทธิ์ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ไม่มีสัญญาณตอบรับ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังนายทหารติดตาม ผบ.สส. (ทส.) ก็ได้รับการยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว พล.อ.ชัยสิทธิ์ ให้ดำเนินการไปตามกฎหมายว่าใครผิดหรือถูก

"ได้โทรศัพท์สอบถาม ผกก.สน.นางเลิ้ง ก็ยืนยันว่า สห.ของ ผบ.สส. ไม่ได้ตบหน้าคนขับรถแท็กซี่ ส่วนค่าเสียหายตกลงกันว่าต่างคนต่างซ่อม" นายทหารคนสนิท ผบ.สส. ระบุ



หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 08:50:13 AM
ถือเป็นเวรกรรมแล้วกันครับ บางครั้งนายไม่ได้สั่ง แต่ลูกน้องทำเองเพื่อเอาใจนาย >:(


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 02:19:31 PM
 :-\ ฟังหูไว้หูก่อนคับ...

ยังไม่เชื่ออะไรหมดเลยทีเดียวคับ...  :-\


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 09:27:55 PM
ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม

ตำรวจก็ซวยไปซิครับ  ตอนนั้นมันเป็นเวลาทำงาน  จะมาขับแท็กซี่ได้ยังไง


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: SA-KE ที่ พฤศจิกายน 26, 2004, 11:39:54 PM
สังคมไทย คงแก้ปัญหาเรื่อง "สี" "ความกร่าง" และ "การหยิ่งศักดิ์ศรีแบบผิดๆ" รวมทั้ง "การเล่นพรรคเล่นพวก"  แบบไม่มีเหตุผล ยากนะครับ โดยเฉพาะทำต่อคนที่ไม่มีทางสู้   สำหรับผม ผมอคติกับเรื่องพวกนี้มาตลอด แต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาอะไรมากได้  ทำเท่าที่ทำได้ ( เฉพาะสิ่งแวดล้อมรอบตัวนะครับ )  สมมุติ..ว่า ถ้าเราเป็น คนขับแท๊กซี คนนั่น เราจะรู้สึกอย่างไร? ครับ ??? 


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: bactyl ที่ พฤศจิกายน 27, 2004, 12:07:27 AM
ถ้ามองในทางกฎหมาย มาตรา70 ก็ถือว่าใครก็ตามที่ขวางขบวนรถก็เป็นฝ่ายผิด ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ หรือแม้กระทั่งรถตำรวจก็ตามนะครับ
แต่ผมว่าเราก็ต้องค่อยๆคุยกันมากกว่า ที่จะลงไม้ลงมือ
เรื่องที่ว่าตบจริง ไม่จริง ผมว่านิติวิทยาศาสตร์บอกได้นะครับ หรือให้หมอตรวจแล้วออกใบรับรองให้ก็ได้ :-*


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 27, 2004, 12:23:36 AM
ถ้ามองในทางกฎหมาย มาตรา70 ก็ถือว่าใครก็ตามที่ขวางขบวนรถก็เป็นฝ่ายผิด ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ หรือแม้กระทั่งรถตำรวจก็ตามนะครับ
เรื่องที่ว่าตบจริง ไม่จริง ผมว่านิติวิทยาศาสตร์บอกได้นะครับ หรือให้หมอตรวจแล้วออกใบรับรองให้ก็ได้ :-*

น่าจะเป็น พ.ร.บ.จราจรทางบก ฯ  มาตรา 75 มากกว่านะครับ
แต่มาตรานี้ เป็นเรื่องของการฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร โดยที่ "ตัวเอง" ไม่มีความผิดในเรื่อง "ฝ่าฝืนกฎจราจร" เท่านั้น   ไม่เกี่ยวกับข้อหาขับรถประมาท ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย   และในมาตรา 75 วรรค 2 ก็บอกแล้วว่า "ในการปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง  ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังตามควรแก่กรณี"
ส่วนเรื่องที่ว่าตบจริง ไม่จริง ไม่ต้องพึ่งหมอนิติเวชหรอกครับ  นักข่าวขับรถตามไปเพียบ เผลอ ๆ จะถ่ายรูปไว้ด้วย


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ พฤศจิกายน 27, 2004, 08:04:00 AM
อุตส่าห์บอกแล้วว่า."มาหาลำไพ่หลังเวลาราชการ"...ออกเวรกลางวันแสกๆไม่ได้รึก๊าบ


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ พฤศจิกายน 27, 2004, 10:55:35 PM
 >:( ให้รู้ซะมั่ง...บ้านนี้ เมืิองนี้ "นามสกุล" ใครใหญ่...กลับไปทำนาที่หนองบัว ตามเดิมเลยไป...ถือเป็นเวร เป็นกรรมที่ต้องมาเจอจนหญ่าย คนโต...คับบ้าน คับเมือง... >:(


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman ที่ ธันวาคม 01, 2004, 01:07:48 PM
เฮ้อ  และแล้วความจริงของเรื่องนี้ก็คงจะไม่ปรากฏอีกตามความคาดหมาย  ในกรณีถ้าจนท. ทำร้ายจริง ๆ ผมก็คงได้แต่อวยพรให้ได้เจอกับวิบากกรรมที่ตัวเองทำไว้  เวลาสวมเครื่องแบบก็ขอให้มีความภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าข้านี่แหละ นายทหารหาญของชาติ พร้อมที่จะเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองตลอดเวลา เพราะฉะนั้นประชาชนคนใดที่ไม่ได้มียศมีศักดิ์ใหญ่กว่าข้า หรือว่านายของข้า หลบไป ไม่งั้น ตบ...

 :'(


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ มิถุนายน 30, 2009, 07:03:26 PM
 :D :Dฮ่า...ฮ่าๆๆ  ตอนนี้ไปไหนมาไหนมีแต่รถซาเล้งนำขบวนแล้ว หัวโขนเอยหัวโขน


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: tor_glock ที่ มิถุนายน 30, 2009, 07:30:23 PM
แท็กซี่เจ็บอีกซิคับ ::004::


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ มิถุนายน 30, 2009, 08:45:23 PM
เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2004, 07:09:19


ผ่านไปห้าปี


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: คนบ้านเดียวกัน ที่ กรกฎาคม 01, 2009, 06:00:13 AM
เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2004, 07:09:19


ผ่านไปห้าปี
กระทู้ขุดมาหรอกหรือครับ  ::012:: ::013::


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 01, 2009, 08:02:45 AM
 :D..ใครเป็นคนขุดกระทู้เนี่ย..อ๋อ.ท่านนายก.นี่เอง... ;D


หัวข้อ: Re: ถ้าโชเฟอร์เป็น พตท.จากปทุมวัน มาหาลำไพ่หลังงานราชการแบบที่ผู้การเล่า...คงน่าดูชม
เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ กรกฎาคม 01, 2009, 09:24:28 AM
...  ::013::