เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

  

           ขอปรึกษาหน่อยครับ เรื่องมีอยู่ว่า นาย ก. ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องของผมอายุ 23 ปี  นาง ข. คู่กรณี อายุ 16 ปี 10 เดือน ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบชู้สาวขึ้น โดยที่ ผู้ปกครองฝ่ายหญิง จับได้ (นาง ข. มีบุตรแล้ว อายุ 8 เดือน โดยไม่ได้สมรส และได้เลิกรากับพ่อของบุตรแล้ว)
          ทีนี้ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกเงิน จำนวน สามหมื่นบาท(ซึ่งแน่นอนว่า ไอ้ ก. ไม่มีเงินแน่)  โดยขู่ว่าถ้าไม่จ่ายจะแจ้งความเอาเรื่องนาย ก. ภายในวันที่ 25 ธ.ค. นี้  ทีนี้จากการสอบถามฝ่ายหญิงเจ้าตัวยืนยันว่าเต็มใจมีสัมพันธ์กับฝ่ายชาย และพร้อมจะอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาด้วย

              คำถามก็คือ ฝ่ายหญิงซึ่งมีบุตรมาแล้วโดยมิได้มีการสมรสนั้น ถือเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วหรือไม่ครับ เพราะถ้าบรรลุนิติภาวะแล้ว การเจรจาต่อรอง น่าจะง่ายขึ้นกว่าการที่เป็นผู้เยาว์(ตามความเข้าใจของผม)

        เพราะว่าผมอ่านทางแล้ว ไม่น่าจะเป็นการอยากเอาเรื่องจริงๆ น่าจะเป็นอยากเอาตังค์มากกว่า ช่วงนี้พ่อแม่ฝ่ายชายยังไม่มีเงินและยังไม่ยอมลงมาเจรจากับฝ่ายหญิง ตัวผมก็กลัวว่าเกิดฝ่ายนู้นอุตริไปแจ้งความขึ้นมาแล้วเรื่องมันจะไม่จบแค่การเจรจาระหว่างผู้เสียหายแต่จะมี จนท.ตำรวจมาเป็นตัวกลางมันจะยุ่งกันใหญ่ครับ ส่วนทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงเขายืนยันว่าจะเอาเป็นก้อน ไม่รับต่อรองและผ่อนส่ง จ่ายก่อนแล้วค่อยมาคุยเรื่องผูกข้อไม้ข้อมือกัน (ส่วนเรื่องที่จะให้ผม ออกให้ก่อน อันนี้ลืมไปได้เลยครับ เพราะภรรยาผมเกลียดไอ้นี่สุดๆครับ  ::004:: )
         ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นและคำตอบครับ ::014::

ต่อรองเอาแหละครับ

ลูกน้องผมเคยเจอแบบเดียวกันเป้ะ...ปล่อยๆไครับ  เค้าขุ่มากกว่าเพราะอยากได้ตังค์นั่นแหละ  เรื่องแบบนี้ตำรวจไม่อยากเอาไให้รกโรงพัก  (ผมหมายถึงเจ้าตัวยินยอม)

ถามแม่ของเด็กหญิงดูครับ ว่าคราวที่แล้วเรียกพ่อของเด็ก 8 เดือนไปเท่าไหร่ เค้าถึงทิ้งลูกสาวคุณไป....

นี่ถ้าไปถามอีกเวบนึง พวกคงตอบ"จ่ายๆ3หมื่นให้มันไป แล้วเอาคลิปไปขายถอนทุน"ส่วนสาว16นั่นส่งปีกโลด  ;D

555  ::007::  สะใจ

มีคนมารับเลี้ยงลูกสาวและหลานติดให้ก็บุญแล้ว

แต่ถ้าเป็นผมต่อรองเหลือ 1 หมื่นแล้วจบกันครับ

          ดูเหมือนว่าต้องการเอาเงินไปใช้อะไรตอนปีใหม่นะครับ เท่าที่ประเมินสถานการณ์ ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงคงนึกว่าผมจะช่วยรับผิดชอบก็เลยขู่(หรือเปล่า)ว่าจะแจ้งความภายใน คริสต์มาสนี้  แต่พอดีว่าไม่ได้ทำงานกับผมแล้วและก็ไม่ได้ผูกพันกันเป็นมูลค่าถึงสามหมื่นด้วยผมก็เลยแค่ให้คำปรึกษาเฉยๆครับ
      
                  ที่กลัวว่า ถ้าเกิดไปแจ้งความจริงๆ แล้วฝ่ายผู้หญิงยังไม่จัดว่าเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ มันจะเป็นคดีอาญาน่ะสิครับ ขู่ไปขู่มา ว่าที่ลูกเขยจะติดคุกเอาจริงๆ ::004:: ::014::

จนบัดนี้แล้ว ยังไม่ไปแจ้งความอีก  มันจะเหลือหลักฐานให้เอาเรื่องอีกเหรอครับ

เหมือนพายเรือเข้าดงจอก  พอเรือออก จอกก็หุบ....

ไม่ใชเรื่องเล่นนะครับ ยังไงก็ผู้เยาว์   พูดไม่ระวังจะโดนพ่วงหมิ่นประมาทเข้าไป  ยุ่งเป็นลิงแก้แหแน่   หาผู้ใหญ่ไปช่วยเจรจาดีกว่า     ;D

มานั่งรอลุงปู


ทำอะไรอยู่ป่านนี้ยังไม่มา ::004::

ลุงปูคงยังไม่มาครับ...เรื่องแบบนี้...ของแกก็ยังแก้ไม่เสร็จครับ...เสร็จแล้วเดี๋ยวคงมา...อิอิอิ...

เจรจา ดีสุด  จ่ายเท่าไรอีกเรื่อง

คดีข่่มขืน  ส่วนมากเป็นสมยอม แต่ตกลงกันไม่ได้ในภายหลัง  (นี่ร้อยเวรสอบสวนข้างบ้านว่างั้นนะ)

เต็มที่ 20% + ข้าวสาร 10 โล .... เอามั้ย

เรื่องแบบนี้ต้องลุงผม
ยก ::002:: ::002::สองข้างให้เลย

เรียก3หมื่น จ่ายจริง15K+รับผิดชอบ

แถวบ้านก็เยอะครับคดีแบบนี้ น่าจะพอๆกับคดียาเสพติดนั่นละ บางคนทำเป็นอาชีพเลย

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

คดีนี้  ถ้าเอาจริง  "ติดคอก" อ่ะโว้ย  คดีผู้เยาว์  ฮา

555 แต่ถ้าเดินมาหายาย  พอจะ  "เป่า" ได้อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

รอฟังคำตอบ ที่ จขกท. ถามเรื่องมีบุตรแล้วบรรลุนิติภาวะหรือไม่ ไม่เห็นใครเฉลยเลย ::014:: รู้เรื่องเพื่อนไม่ครบชักปวดหัว นอนไม่หลับ ::007::

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

ไม่หรอก  เขาไม่เอา  พื้นผิวหนัง บริเวณ "หน้าท้อง"  มากำหนด อ่ะ ฮา
ใครท้องหย่อน  ท้องยาน  ใครท้องลาย  มากำหนด ผู้เยาว์ หรือ ผู้ใหญ่ อ่ะ ฮา

เขา  เอา  มาตราฐาน" อายุ"  มากำหนด อ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

 
        ใช่ครับ คือ จุดประสงค์ของการถามก็คือ ถ้าเด็กอายุ 16 ที่ว่า ผ่านการมีบุตรแล้วทำให้กลายเป็นผู้บรรลุนิติภาวะโดยสภาพ(ไม่รู้ว่าใช้คำถูกหรือเปล่า) ???  การเจรจาต่อรองหรือว่าขู่อะไรมา เราก็มีอำนาจการต่อรองมากขึ้น(โดยไม่ต้องกลัวว่า จะมีมือที่สามเข้ามาช่วยทำให้ปวดหัวอีกแรง ยังไงครับ) เพราะตอนนี้ชักกลัวว่า ถ้ายิ่งใกล้วันแล้วยังหาเงินหรือเอาผู้ใหญ่ฝ่ายชายมาเจรจาต่อรองไม่ได้ ไอ้นาย ก. ตัวปัญหาจะหนีไปก่อนนะสิครับ :~) ::014::

สงสัยครับ ว่ามันจะแจ้งความเอาเรื่องกันยังไง

ถึงเวลาพ่อฝ่ายหญิงจะรอให้นายก.กำลังกินมะป้าบกับลูกสาวแล้วเอาตำรวจมาจับ หรือย่องไปถ่ายคลิปนายก.กับลูกสาวกำลังตีฟองล้างจานไปแจ้งความ ?

แถมเตาแก๊สปิกนิค อีกชุดสิครับ  ;D
ต้องอายุ ครบ 20 ปีครับ จึงจะบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย

ขอมาติดตามอ่านครับ  ::014::

iรีบไปหาเงินให้ทัน แล้วอาจจะรอดถูกดำเนินคดี
เพราะจะเจอข้อหาพรากผู้เยาว์ ยอมความก็ไม่ได้  หากเขาไปแจ้งความตำรวจเมื่อไร   ตำรวจต้องเดินเรื่องส่งฟ้องต่อศาลอย่างเดียว
ถ้าไม่อยากเป้นแบบนั้น ก็เคลียร์กันซะให้จบเถอะจ๊ะ

          แจ่มแจ้งแล้วครับ ผมก็ว่าแล้วว่า ถ้าไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรสกันมันไม่น่าจะบรรลุนิติภาวะได้ ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบและทุกความเห็นครับ คือไอ้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายทำหัวหมอหาว่าแจ้งความไปก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผู้หญิงก็ยอมเอง คือเขาคงคิดว่าทางฝ่ายหญิงจะแจ้งความว่าข่มขืนไงครับ แต่ผมพยายามจะบอกว่าเด็กอายุไม่ถึงสิบแปดมันน่าจะเป็นคดีอื่นด้วยแต่ก็บอกไปแล้วไม่ค่อยฟังไงครับ คือไม่ค่อยจะอยากจ่ายก็เลย ทำตัวแบบว่ากร่างๆหน่อย เดี๋ยวถ้าเขาบ้าๆไปแจ้งจริงๆจะเดือดร้อนไปกันใหญ่ ขอบคุณทุกท่านครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเตือนเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เชื่อก็เชื่อไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้แล้วครับ  ::014::

ยังไงก็ เอาความคืบหน้ามาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ  อย่าปล่อยค้าง ๆ คา ๆ ไว้

ผมรู้เรื่องพวกนี้ไม่จบแล้ว มักจะปวดหัวครับ   ::005::

มาศึกษาไว้ครับ... ::005::

           น่าจะเคลียร์แล้วนะครับ เพราะพูดกับพ่อแม่ฝ่ายชายรู้เรื่องแล้ว อุจจาระขึ้นหัวกลัวลูกชายจะย้ายที่นอนแล้วครับ ตอนนี้ก็คงกำลังวิ่งวุ่นหาเงินอยู่ ส่วนฝ่ายหญิงเพิ่งจะคุยเสร็จเมื่อกี๊นี้เองครับ บอกไปว่าทางฝ่ายชายก็ยินดีทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง น่าจะเคลียร์กันได้ไม่เกินสิ้นปีคือขอยืดอีกไม่เกินห้าหกวัน แรกๆก็มีหน้าหงิกหน้างออยู่บ้าง พอควักให้ไปสองพันบอกว่าให้เอาไปซื้อนมให้ตัวเล็ก ตากับยายก็แทบจะยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับลาในครั้งเดียวกันเลย ก็จ่ายค่าขัดดอกไปให้แล้วคงไม่มากวนอีกพักนึงมั๊งครับ
           ส่วนตื้นลึกหนาบางเรื่องเด็กสองคนนี้ก็เหมือนหนังชีวิตครับ ไหนๆเล่าแล้วก็จะได้ย้อนไปตอนเริ่มต้นให้ท่านพี่ได้รู้กันเลยว่า ฝ่ายชาย เรียนจบ ปวช. ค่อนข้างเรียบร้อยครับ ได้เรียนต่อ ปวส. แต่ไม่จบเพราะพ่อโดนรีไทร์ก่อนเวลาอันสมควร(เป็น พขร.รถบัสแต่รับจ๊อบเป็นที่ปรึกษาด้านรสชาติสุราหลายบริษัท) เลยดรอบไว้ไปๆมาก็เลยตามเลย ย้ายตามพ่อแม่ที่มาทำงานเป็นยามแถวบ้านผม มาช่วยผมทำงานช่วงสั้นๆไม่ถึงปี ไอ้ตอนที่มาทำงานกับผมนี่แหละครับ ที่มันไปเจอกับเด็กผู้หญิงคนนี้เข้า แล้วมันก็ไปอ้างว่าเป็นญาติกับผม ส่วนบ้านเด็กหญิงคนนี้อยู่ริมคลองโดยที่ทางเข้าต้องเข้าทางข้างๆสะพานข้ามคลองในหมู่บ้านผมครับ ก็เป็นเด็กหญิงมนุษย์สัมพันธ์ดีมีหัวก้าวหน้า คือจากเด็กหญิงจบหรือไม่จบ ม๓.ก็ไม่รู้ เปลี่ยนจากเด็กหญิงแล้วก็มาเป็นแม่เลย รูปร่างหน้าตาเกินวัยและสวยประมาณนักศึกษาใกล้จบ ป.ตรี (ลูกน้อยคงเร่งฮอร์โมนให้แม่ดูเกินวัยมั้งครับ) ส่วนตายายที่เป็นพ่อแม่น้องผู้หญิงคนนี้ก็ อายุมากน้อยกว่าผมไม่น่าเกินปีสองปี(เป็นตาเป็นยายแล้ว) เกิดไปชอบพอกันเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ มารู้กันอีกทีก็เป็นคดีแล้ว ทุกวันนี้ก็รับจ้างขายกาแฟสด เลี้ยงดูลูกแบบคุณแม่ยุคใหม่ซิงเกิ้ลมัม ส่วนไอ้ว่าที่พ่อเลี้ยงออกจากผมไป ก็เป็นพนง.โรงงานทั่วไปย้ายมาสองสามที่แล้วในรอบปี ส่วนพ่อของไอ้ตัวเล็กนั้น ถามอีหนูคนนี้ว่ามันมาดูลูกบ้างไหม ก็ได้รับคำตอบแบบสุดอึ้งเลยครับว่า หนูไม่รู้หรอกค่ะว่าใครเป็นพ่อเขา  ::004:: ::014::

เดี๋ยวนี้เด็กโตไวครับ เนื่ิองจากทานเนื้อสุกรผสมสารเร่งเนื้อแดง...

น่าเสียดายอนาคตครับ อายุ 16 สวย หุ่นเหมือนเด็ก ป. ตรี...

ทำไมไม่เจอพี่ซับก่อนนะ... ::005::

เช็ดเป็ด ยังกล้าพูด  ::012:: ::012:: ::012::

เด็ก สมัยนี้ น่ากลัวจริงจริง  ::009::

เด็ก ตจว เดียวนี้ไม่เบา เข้ามาเรียน พ่อมาส่งถึงหอพัก ฝากฝั่งให้ดูให้
แม่ง อาทิตเดียว พาผู้ชายเข้าห้อง  ::012::

ฮาย....หายปวดหัวไปสักที.....รู้เรื่องแล้ว

เมื่อคืน รู้เรื่องเพื่อนไม่ตลอด ปวดหัวจนต้องกินยาทัมใจห้าซอง

ไม่เคลียร์ก็คุกสถานเดียว16ปีคือผู้เยาว์ไม่ว่าจะสมยอมหรือไม่ คุกแน่นอน

 :D~ :D~ทำไมไม่เจอเราน้าาาาา ::005:: ::005:: ::005::

เก่งแล้วสอนผมด้วยนะ   :VOV:

เหมือนมีประสบการณ์ จริงๆ 16ปี10เดือน รออีกสองเดือนก็ครบ17เนาะ

ดีแล้วที่จบได้ ผูกแล้วต้องแก้เอง

ต้องปรึกษาคนนี้ ::005::

ดีใจที่จบได้ครับ  นี่เป็นเรื่องระหว่างเด็ก   แต่หากเป็นผู้ใหญ่คงเป็นบทเรียนที่ควรจดจำ ขนาด เป็นถึง ส.ว. ยังติดคุกมาแล้ว อยากกินหญ้าอ่อนต้องพึงสังวรณ์ หน้าต่างมีหู ประตูมีตา  ;D ;D ;D

ลองอ่าน ฎีกาตามข้างล่างครับ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7855/2549... และลองอ่านข้อวินิจฉัยของศาลฎีกาตามตัวแดง...

นายสมชายไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ถ้าพิจารณาตามตัวแดงนั้น สรุปว่าศาลให้เหตุผลไว้คือ...
1) ผู้เสียหายทราบแต่แรกแล้วว่าการไปบ้านจำเลยเพราะจำเลยประสงค์จะขอร่วม ประเวณี,
2) จำเลยบอกให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าผู้เสียหายก็ถอดเอง,
3) หลังจากร่วมประเวณีแล้วผู้เสียหายก็ยอมรับเงินจากจำเลยโดยไม่ได้แสดงอาการ ปฏิเสธ,
4) และเมื่อนางสาว ศ. กลับมารับผู้เสียหาย จำเลยก็ไม่ได้ขัดขวาง,
5) ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายอายุ 14 ปี มีการศึกษาถึงระดับมัธยมและไม่ถึงกับไร้เดียงสา เพราะผู้เสียหายได้ยอมรับในการเบิกความตอบคำถามค้านว่า ผู้เสียหายเคยร่วมประเวณีกับชายอื่นมาก่อน...

จากนั้นศาลฎีกาสรุปว่า...
6) แสดงว่าขณะผู้เสียหายอยู่ที่บ้านจำเลย ผู้เสียหายมีความอิสระในการเคลื่อนไหวไม่ได้อยู่ในความควบคุมของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการตัดอำนาจการปกครองของบิดามารดาผู้เสียหาย จึงไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์...

เอามาให้ศีกษาเฉยๆครับ... ฎีกาอื่นคล้ายๆกันแต่ไม่รอดก็มีแยะครับ... ฮา...

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7855/2549

ฎีกาจำเลยกล่าวถึงข้อเท็จจริงมีใจความว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ซึ่งแม้ความผิดฐานดังกล่าวจะยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแต่เนื่องจากโจทก์จำเลยนำสืบมีสาระตรงกัน ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้เสียหายรู้จักกับจำเลยจากการแนะนำของนางสาว ศ. ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย เพราะจำเลยต้องการร่วมประเวณีกับผู้เสียหาย และในวันเกิดเหตุผู้เสียหายกับนางสาว ศ. พากันไปบ้านจำเลย โดยผู้เสียหายทราบแต่แรกแล้วว่าการไปบ้านจำเลยเพราะจำเลยประสงค์จะขอร่วม ประเวณี เมื่อมีโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนขณะนางสาว ศ. ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านจำเลยไป จำเลยบอกให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าผู้เสียหายก็ถอดเอง หลังจากร่วมประเวณีแล้วผู้เสียหายก็ยอมรับเงินจากจำเลยโดยไม่ได้แสดงอาการ ปฏิเสธ และเมื่อนางสาว ศ. กลับมารับผู้เสียหาย จำเลยก็ไม่ได้ขัดขวาง กอปรกับขณะเกิดเหตุผู้เสียหายอายุ 14 ปี มีการศึกษาถึงระดับมัธยมและไม่ถึงกับไร้เดียงสา เพราะผู้เสียหายได้ยอมรับในการเบิกความตอบคำถามค้านว่า ผู้เสียหายเคยร่วมประเวณีกับชายอื่นมาก่อน แสดงว่าขณะผู้เสียหายอยู่ที่บ้านจำเลย ผู้เสียหายมีความอิสระในการเคลื่อนไหวไม่ได้อยู่ในความควบคุมของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการตัดอำนาจการปกครองของบิดามารดาผู้เสียหาย จึงไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์  ดังนั้น ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานพรากผู้เยาว์ได้ แม้ว่าความผิดฐานนี้จะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225 เพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกัน

เหลิม สามนาที....

ช่วงนั้น มีคนตั้งข้อสังเกตุ ว่าคนชื่อเหลิม ดังมาก

เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ

วันเฉลิม

ดวงเฉลิม

เฉลิม พรหมเลิศ

.....

         ได้คุยกับพวกนี้แล้วยิ่งอึ้งครับ  ที่บอกว่าไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าวันนี้กับคนนู้นวันนู้นกับคนนี้นะครับ วันเดียวกันทั้งพวงนี่แหละ แต่ไอ้ ก.มันก็ไม่ถือตามประสาคนสมัยใหม่ ส่วนเพื่อนของน้องสาวคนนี้ก็แรงไม่แพ้กัน อายุประมาณ 18 ลูกสอง แต่คนละพ่อ ผมว่าไอ้พวกแว๊นพวกปัญหาสังคมมันก็มาจากจุดเล็กๆพวกนี้แหละครับ ไม่รู้ผู้ใหญ่เขาไปคิดกันยังไง ห้ามตู้หยอดถุงยางในโรงเรียน สองสาวที่ว่านี้ก็เริ่มมาจากในโรงเรียนทั้งคู่นั่นแหละครับ จริงๆแล้วห้ามมันจะ...กันไม่ได้ ก็น่าจะสอนให้มันทำกันอย่างปลอดภัยมากกว่า นี่ยังไม่นับเรื่องโรคอีกนะครับ พวกนี้ไม่เคยรู้อะไรเลย เห็นบอกว่ากว่าจะรู้ว่าท้อง ก็ปาไปสี่ห้าเดือน เด็กดิ้นกันแล้ว เฮ้อ :~) ::004:: ::014:: 

กว่าจะรู้เดียงสา........

เมื่อ สี่ห้าปีที่แล้ว หลายท่านคงพอนึกออก เรื่องกระแสแฟชั่น ไม่นุ่งกางเกงในของนักเรียนหญิงแถวภาคใต้

จริง ๆ แล้ว เป็นเรื่องเข้าใจผิด โอละพ่อ ที่นักข่าวด้นสดเอาเองบางส่วน จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์

http://www.oknation.net/blog/preeyada/2007/09/25/entry-1

ผมรู้จักเด็กต้นเรื่องสองคน สนิทคนนึง อีกคนเคยเห็นหน้า ส่วนอีกคนไม่รู้จัก

เด็กสาวสามคนนั้น มาจากบ้านเช่าของเพื่อนคนหนึ่งในตัวเมือง ซึ่งเป็นที่รวมกลุ่มสุมหัว เล่นยา และเล่นเซ็กส์ของพวกนี้

ทราบมาว่า วันเกิดเหตุ คนหนึ่งนั้นไม่มาโรงเรียน ไปอัพยาตั้งแต่เช้า ส่วนอีกสองคน มาเพื่อการอื่น จะเล่นบทอัศจรรย์อย่างไรเขาไม่ได้บอก

รู้แต่ว่า ระหว่างนั้นก็ออกมาจากห้องมาอัพยาเป็นระยะ  ไม่ต้องจ่ายค่ายาเป็นเงิน จ่ายเป็นอย่างอื่นแทน

พอเปรมแล้ว สุขสมแล้ว ก็ซ้อนสามจะกลับบ้านกัน โดยเลือกไปบ้านของหนึ่งในนั้น แต่คนขับ เปรมยาเกินไป ก็เลยลงข้างทางแทน

จริง ๆ แล้ว ไม่ได้สลบหรอก  แต่ที่เห็นนอนนิ่ง เพราะเปรมยากันต่างหาก

ส่วนกางเกงในที่ไม่ใส่นะหรือ  คือ แค่มันรู้ว่าบ้านกลับทางไหนมันก็เก่งแล้ว เสร็จกิจจะให้หากางเกงในให้เจอในห้องนอนรก ๆ นี่ พอเข้าใจว่าคงหาไม่เจอ

ไม่เจอก็ไม่ต้องใส่...

นักข่าวก็คือนักข่าว เห็นมุมไหนก็เขียนมุมนั้น ที่เหลือมุมที่มองไม่เห็นก็วาดเอา

ชุดนักศึกษาหญิงที่รัดติ้วจนปัจจุบัน เริ่มมาจากเทคนิคกรุงเทพ ลามที่มหาลัยผม...

บางทีก็ดูน่าเบื่อหน่าย บางทีก็ดูสวยดีครับ.. ยังดีที่มีแต่ลูกชาย....

       ตายแล้ว สมัยผมเรียนไม่เห็นมีเลย เพิ่งทราบนะครับว่าเริ่มมาจากที่นี่ ที่เทคนิคฯมันออกแนวป่าๆทุ่งๆ ไม่น่าเป็นที่เริ่มของแฟชั่นได้เลย ผมนึกว่าเริ่มมาจากพวก ม.เอกชนที่แฟชั่นแบรนด์นงแบรนด์เนมเก๋ไก๋มาก่อน เสียอีก ตัวผมเองตั้งแต่ ม๑.ยันจบ ยันทำงาน มีแต่ชายล้วนมาตลอด แถมชอบสิงสถิตย์อยู่แต่ด้านรักสะอาด(ชอบแอลกอฮอร์)เลยไม่ค่อยได้มองพวกนี้เท่าไหร่ครับ  :~) ::014::

พลาดไปแล้วท่าน  ภรรยาเกลียดใคร  เราต้องเกลียดด้วยครับ    แต่เราเกลียดใคร เธอไม่จำเป็นต้องทำตาม

โชคดี...ที่ไม่ใช่พาเจ้าของหอเข้าห้อง.....ฮา


ฟิ้ววววววววววววววววววววววว ::014:: ::014:: ::014::

 ;D ;D ;D

มีนักศึกษาจากเทคนิคกรุงเทพ 3 คน เข้ามาเรียนปี 1 ที่มหาลัยผม แต่งรัดติ้วในขณะที่ยุคนั้นนักศึกษายังเน้นหลวมๆ แขนเสื้อคลุมยันศอก...

ทีแรกก็ดูแปลกๆ ต่อพอไปซักพักกลายเป็นแฟชั่นมาถึงปัจจุบัน นักศึกษากลุ่มนั้นนานๆทียังคุยล้อเล่นกับผมอยู่เลย ว่าไม่น่าใส่รัดติ้วตั้งแต่ตอนนั้น... ::005::

มีเคยมาเดินอ่อยเหมือนกันครับ แต่ผมยึดคติ สมภารไม่กินไก่วัด รอให้ย้ายออกไปก่อน ถ้ามีโอกาสรับรองไม่พลาด นี่ก็กระทุ้ง แล้วเลิกไปคนนึงแล้ว
(จริงเป็นฝ่ายโดนกระหน่ำมากกว่า)