เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:10:54 AM



หัวข้อ: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:10:54 AM
พอดีผม จะทำร้านรูปแบบใหม่ คือ

จะเอาเครื่องในโรงงานมาทำร้านซ่อม อยากฟังมุมมองหลายมุม

เครื่องซ่อม เป็นเครื่องที่ใช้ใน กึ่งอุตสาหกรรมขนาดที่ เครื่องนี้สั่งกันที่ สำงานงาน เช่น dtac true acer hp dell มีที่บริษัทแม่เท่านั้น

ผมมองแล้วว่า ไม่มีใครทำเลย ผม จะทำเป็นรายแรกของประเทศด้วยครับ ในธุรกิจ ขนาดเท่ากัน

เครื่องมือนี้ มูลค่า ประมาณ 3 ล้าน บาท

ซ่อม notebook ipad iphone ipod tablet pc และ  mobile


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:26:03 AM
เครื่องซ่อม เป็นเครื่องที่ใช้ใน กึ่งอุตสาหกรรมขนาดที่ .....

เครื่องนี้สั่งกันที่ สำงานงาน เช่น dtac true acer hp dell มีที่บริษัทแม่เท่านั้น ....


ซ่อม notebook ipad iphone ipod tablet pc และ  mobile


ถ้าได้ รวดเร็ว ทันใจ

ลูกค้า ตรึมแน่ครับ

เพราะอุปกรณ์ จำพวกนี้ มีโอกาส เสียได้ง่าย

ยิ่งลงเกม ลงแอป  เดี๋ยวก็ เดี้ยง....

ไม่นาน ก็คืนทุน ครับ




หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Pu[IT48] ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:36:01 AM
ถ้าตามลูกค้าไหวก็เอาเลยครับ

ปัญหาก็เดิมๆ

เพียงแต่ ไอ้เครื่องพวกที่ว่า เขาจะส่งแต่ศูนย์ ถ้า สมมติผมมีไอโฟน 5 ถ้าพังผมก็ส่งศูนย์อ่ะ คงไม่เสี่ยงให้ร้านซ่อมแน่นอน


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:44:55 AM
ช่างโรจน์ทำแผนธุรกิจเสียก่อน... เอาแบบสรุปๆนะครับ...

1) กำหนดขนาดตลาดก่อน มีลูกค้ากี่มากกี่น้อย แล้วตีราคาออกมาเป็นกี่บาทต่อปี กี่บาทต่อเดือน...
2) กำหนดตัวคู่แข่งในตลาด มาวิเคราะห์ว่าจะสู้ได้หรือไม่ อันดับหนึ่งคือเจ้าไหน จุดแข็งของเขาคืออะไร แล้วเราจะสู้ได้หรือไม่...
3) จากนั้นกำหนดเงินลงทุนว่าจะลงกี่บาท ได้รายรับเท่าไหร่...

ข้างบนเป็นเคร่าๆ ส่วนรายละเอียดจาระไนทั้งหมดไม่ได้ เพราะมันคือ MBA หนึ่งหลักสูตร... ถ้าจะหาคนช่วยทำ ให้ติดต่อที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน www.boi.go.th แล้วลองดาวน์โหลดแบบฟอร์มมากรอกดู(แบบฟอร์มคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน - 13 หน้า)...

ในแบบฟอร์มของ BOI คือแผนธุรกิจชนิดหนึ่ง ที่"ช่วย"คนคิดมาให้แล้ว โดยแทนที่จะนั่งนึกเอาเองจากอากาศ ก็กลายเป็นว่านั่งกรอกข้อมูลเติมคำลงในช่องว่าง... หากมึนหัวตึ๊บกรอกอะไรไม่ได้ซักอย่าง แสดงว่าเราต้องไปทำการบ้านมาใหม่ เพราะเป็นเถ้าแก่ลูกทุ่ง!!! แล้วระวังจะเจ๊งครับ...

หากสามารถหาข้อมูลกรอกแบบฟอร์ม แล้วสามารถคำนวณกระแสเงินตราได้ แสดงว่าเราทำแผนธุรกิจเป็น!!! ... ทำเป็นแล้วจะขอรับการส่งเสริมการลงทุน(ขอ BOI)หรือไม่ นั่นก็เป็นเรื่องของเรา แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่ใช่"มวยวัด"ครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:48:46 AM
ช่างโรจน์มีความกล้า และมีคุณธรรมระดับหนึ่ง ยกเว้นชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต... หากมีหลักการกับความกล้าไปควบคู่กัน น่าจะเป็นเศรษฐีร้อยล้าน/พันล้าน ได้ในเวลาไม่กี่ปีครับ...

แต่ตอนนี้ขณะนี้ช่างโรจน์คือ"ขามั่ว"คนนึงนะครับ... ต้องขออภัยหากอ่านแล้วระคายความรู้สึก แต่ขอบอกว่าถ้าไม่มีความรู้สึกดีๆให้ นายสมชายจะไม่พูดแบบนี้ครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:57:07 AM
ถามช่างโรจน์


งานนี้ต้องมีลูกน้องไหม กี่คน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน รวมค่าน้ำค่าไฟฟ้า ตกวันละเท่าไหร่
ค่าMaintenanceเครื่องมือ3ล้านที่ว่า วันละเท่าไหร่
คิดว่ามีกลุ่มลูกค้าในมือ เฉลี่ยวันละกี่รายครับ เมื่อได้เครื่องนี้มา แล้วจะซ่อมได้โดยเฉลี่ยวันละกี่ราย

ลอง+ -ดูครับ  คนเราจะรู้จักกำไรได้ดีถ่องแท้ เมื่อรู้จักต้นทุนครับ
ไม่ใช่แค่เครื่องราคา3ล้านหรอก(Fixed Cost) ต้นทุนที่ว่ารวมต้นทุนรายวันหรือต้นทุนแปรผันด้วย
(Variable Cost)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:58:10 AM
เรื่องแผนธุรกิจเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่ทำง่ายๆ, หากจ้างเขาทำก็ไม่ต่ำกว่าครึ่งแสนเป็นอย่างต่ำ แล้วก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ดีด้วย เพราะคนทำมีความรู้ในวงการไม่ถึง แล้วหากเรานั่งบอกความรู้ของเราให้คนทำฯ ก็กลายเป็นว่าโดนหลอกกินตับ!!!... หากทำแผนได้ดีแล้วอย่าว่าแต่จะเอาเงินตัวเองมาลงทุนเลย แผนที่ดีมองเห็นอนาคตธุรกิจก็สามารถใช้กู้เงินธนาคารได้อีกด้วย(ระวังโดนธนาคารหลอกกินตับ เอาไปทำเองเหมือนกัน)...

แล้วหากแผนไหนได้ BOI แล้ว ก็มักกู้เงินแบ็งค์ผ่านง่ายกว่าแผนที่ยังไม่รู้ว่าหมู่หรือจ่า... เพราะแผนที่ได้ BOI จะได้สิทธิพิเศษ 3 เรื่องหลักคือยกเว้นภาษีเงินได้, ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรฯ, และภาษีนำเข้าวัตถุดิบฯ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 11:59:44 AM
ถามช่างโรจน์


งานนี้ต้องมีลูกน้องไหม กี่คน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน รวมค่าน้ำค่าไฟฟ้า ตกวันละเท่าไหร่
ค่าMaintenanceเครื่องมือ3ล้านที่ว่า วันละเท่าไหร่
คิดว่ามีกลุ่มลูกค้าในมือ เฉลี่ยวันละกี่รายครับ เมื่อได้เครื่องนี้มา แล้วจะซ่อมได้โดยเฉลี่ยวันละกี่ราย

ลอง+ -ดูครับ  คนเราจะรู้จักกำไรได้ดีถ่องแท้ เมื่อรู้จักต้นทุนครับ
ไม่ใช่แค่เครื่องราคา3ล้านหรอก(Fixed Cost) ต้นทุนที่ว่ารวมต้นทุนรายวันหรือต้นทุนแปรผันด้วย
(Variable Cost)

เรื่องแบบนี้แหละครับ, จำเป็นต้องมีในแผนฯ... ถ้าไม่ได้คิดเอาไว้ก่อน รับรองตายแหงแก๋...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 12:05:46 PM
เครื่องในโรงงานผลิตกับงานซ่อมไม่เหมือนกันนะ

ถ้าพวกเครื่องมือเครื่องจักรสำหรับงานเซอร์วิสโดยเฉพาะ  ร้านซ่อมแบบมืออาชีพเขาก็มีกัน

และผมมองว่าถ้าเพื่องานเซอร์วิสอย่างเดียว เครื่องมือเฉพาะทางเช่นเครื่องส่อง , ยก , อบ ซิลิกอนชิพเพียงพอแล้ว

http://www.bga-reworks.com/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1-notebook


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ธันวาคม 21, 2012, 12:16:33 PM
เดี๋ยวนี้เครื่องใช้ไฟฟ้านิยมจ้างเอกชนรับเหมาซ่อมนะครับ หลายๆยี่ห้อ ในจังหวัดมีร้านนึง รับเหมาซ่อมของหลายยี่ห้อ  ไม่รู้วงการมือถือและคอมฯเป็นยังไงนะครับ

ถ้าเป็นตัวแทนของแบรนท์ใหญ่ๆน่าจะคุ้ม แต่ต้องมีลูกน้องอีกหลายคน ช่างฝีมือซะด้วย จะหาลูกน้องแนวนี้ได้มั้ยครับ?  เรื่องคนเรื่องใหญ่ คนเก่งคงเลือกทำงานบริษัทใหญ่ๆมั่นคง เงินเดือนสูง สวัสดิการดี ไม่ก็เปิดกิจการเอง

แล้วเครื่องแบบนี้มันจะล้าสมัยไวรึเปล่า กลัวเทคโนโลยีเปลี่ยนไว เครื่องจักรแพงๆจะล่าสมัียไป เหมือนร้านอัดรูปสมัยก่อน เครื่องหลายล้าน กลายเป็นวัตถุโบราณไปซะงั้น  


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ธันวาคม 21, 2012, 12:45:51 PM
ไม่ทราบว่าเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการตรวจซ่อมแบบไหน ผมเคยเจอคนของตัวแทนบริษัทที่ขายเครื่องทำนองนี้ในเมืองไทย
บริษัทเขาอยู่แถวๆรัชดา เครื่องที่เขาขายเป็นเครื่องมือตรวจซ่อมอุปกรณ์บนแผงวงจรอีเลคทรอนิคส์
เครื่องเขาก็ไม่ธรรมดาซะด้วย มีเรฟเฟอเร้นของกองทัพอากาศที่ใช้เครื่องของเขาทั่วโลกเช่น ทอ.ฝรั่งเศส อินเดีย เกาหลี มาเลย์ อิสราเอล ปากีสถาน ไทย
อินโดนีเซีย อียิปต์ อเมริกา และสายการบินต่างๆ ทั่วโลกที่ซื้อเครื่องเขาไปใช้
 ตามลิงค์นี้ครับ

http://www.diagnosys.com/products/pinpoint-alpha

(http://www.diagnosys.com/userfiles/image/PinPoint-Alpha-4.jpg)

(http://www.diagnosys.com/userfiles/image/PinPoint-Alpha-5.jpg)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 01:11:46 PM
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะ สิ่งที่ผมต้องการคือวิจารย์แบบ แรงๆ ได้เลย กระทู้นี้ไม่มีแก้ไขไม่มีลบแน่นอนครับ

เพราะผมไม่ต้องการเดินพลาด อีกครั้งครับ

เครื่องในโรงงานผลิตกับงานซ่อมไม่เหมือนกันนะ

ถ้าพวกเครื่องมือเครื่องจักรสำหรับงานเซอร์วิสโดยเฉพาะ  ร้านซ่อมแบบมืออาชีพเขาก็มีกัน

และผมมองว่าถ้าเพื่องานเซอร์วิสอย่างเดียว เครื่องมือเฉพาะทางเช่นเครื่องส่อง , ยก , อบ ซิลิกอนชิพเพียงพอแล้ว

http://www.bga-reworks.com

ส่วนเครื่องมือ ผม สั่งจากที่นี่ครับ กำลังดูรุ่นที่เหมาะ

http://www.okinternational.com/corporate/english/globalnavigation/home

แต่รวมที่ต้องใช้คือ ประมาณ เกือบ 3 ล้านบาท 

เครื่องมือดี (อุปกรณ์มีโอกาสเสียจากมือเราน้อย ) ฝีมือดี งานเสร็จเร็ว


แต่ได้รับคำแนะนำ จากทุกท่านผมเห็นอะไรอีกเยอะ ต้องยอมรับว่าผมทำงานคนเดียว คือเก่งมันคนเดียว แต่สอนให้ใครก็ไม่มีใครรับ ( หมายถึงคนที่เป็นลูกน้องเก่า)

ผมห่วยที่สุดคือการสือสาร และงานบริหาร ส่วนงาน เทคนิค ผม ไม่เคย น้อยหน้าใคร แต่การทำธุรกิจ ไม่ขายของเล่น เจ็งจริง เป็นหนี้ จริงหมดตัวจริง เสียชื่อเสียง

จริง โดนเยียบจริง


ที่ลงทุนนี้คืองานด้าน hardware ส่วน software ผมจัดการไว้หมดแล้ว เขียนทุกอย่างไว้รองรับ ส่วนมาก software ผม เป็นของแท้ แต่ใช้key สากลที่มีแจกตามเนต

เวลาลงให้ลูกค้า



ผมมีเวลา ถึงเดือน สิงหาปีหน้า กว่า ตึกที่ผมจองไว้จะเสร็จ ตอนนี้ยังไม่ได้สร้างเลย ก็ไม่รู้เป็นไร ตึกจังหวัดพิจิตร เต็มตั้งแต่ยังไม่สร้าง นี่ผมก็ได้ทำเลเหมาะ

ดักเมืองเลย


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 01:17:03 PM
ลองดูครับ ถ้าคิดถี่ถ้วนแล้วว่าคุ้มค้าการลงทุนก็น่าทำ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 01:33:55 PM
ตัวอย่างการยกชิพ ครับ

อันนี้จากเครื่องมือที่ผม ดูอยู่ครับ


http://youtu.be/1BOV2Lit5Xw?t=6m25s



ส่วนด้านล่างคือ อย่างที่ท่าน อรชุน-รักในหลวง  บอกไว้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=X4uamuWxpcc


ลองดูขั้นตอนการยกและติดตั้งซิครับ ต่างกันมากเลย


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 01:58:53 PM
ตัวอย่างแบบเห็นได้ชัดคือ เมื่อวานผม นำ notebook ลูกค้าไปเปลี่ยน chip ที่ร้านที่รับซ่อม  ค่า chip 1500 รวมทั้งหมดที่ผมต้องจ่าย ไปคือ 2500 บาท

นี่ราคาช่างครับ ผมต้องมา+ ลูกค้าเพิ่ม และยังไม่รวม ค่าน้ำมันรถที่ผมต้องเดินทางไปอีก 2 รอบ รอบละ 120 กิโล คูณ 2 ก็ 240 กิโล กับการหิ้ว

ไปให้เขา ทีละ 3-5 เครื่อง ลูกค้าต้องรอถึง 2 ต่อคือ จาก ผม และ จากที่ผมนำไปให้ทำอีกรอบ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:02:49 PM
ถามช่างโรจน์


งานนี้ต้องมีลูกน้องไหม กี่คน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน รวมค่าน้ำค่าไฟฟ้า ตกวันละเท่าไหร่
ค่าMaintenanceเครื่องมือ3ล้านที่ว่า วันละเท่าไหร่
คิดว่ามีกลุ่มลูกค้าในมือ เฉลี่ยวันละกี่รายครับ เมื่อได้เครื่องนี้มา แล้วจะซ่อมได้โดยเฉลี่ยวันละกี่ราย

ลอง+ -ดูครับ  คนเราจะรู้จักกำไรได้ดีถ่องแท้ เมื่อรู้จักต้นทุนครับ
ไม่ใช่แค่เครื่องราคา3ล้านหรอก(Fixed Cost) ต้นทุนที่ว่ารวมต้นทุนรายวันหรือต้นทุนแปรผันด้วย
(Variable Cost)


1 คนรับเครื่อง
2 คนลงโปรแกรม
3 คนเช็คอาการ
4 คนซ่อม (คนที่ใช้เครื่อง ก็คือผม  หัวข้อ 3-4 อาจเป็นผม)
5 อาจปั้นเป็นมองรองจากผม

อย่างที่น้าสมชายและ น้าซับบอก ผมต้องทำการบ้านละเอียด เก็บทุกเม็ด ไม่เช่นนั่น เจ้ง ตั้งแต่คิดแล้ว


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:04:31 PM
ตัวอย่างการยกชิพ ครับ

อันนี้จากเครื่องมือที่ผม ดูอยู่ครับ


http://youtu.be/1BOV2Lit5Xw?t=6m25s



ส่วนด้านล่างคือ อย่างที่ท่าน อรชุน-รักในหลวง  บอกไว้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=X4uamuWxpcc


ลองดูขั้นตอนการยกและติดตั้งซิครับ ต่างกันมากเลย

ก็ต้องถามว่า การตั้งเครื่องยุ่งกว่ากันเทคโนโลยีด้อยกว่า แต่ราคาเครื่องต่างกันระดับไหน
งานมีปริมาณมากพอที่จะต้องเร่งรีบขนาดนั้นและมากพอที่จะคืนทุนในเร็ววันหรือไม่


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:23:08 PM
ตัวอย่างการยกชิพ ครับ

อันนี้จากเครื่องมือที่ผม ดูอยู่ครับ


http://youtu.be/1BOV2Lit5Xw?t=6m25s



ส่วนด้านล่างคือ อย่างที่ท่าน อรชุน-รักในหลวง  บอกไว้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=X4uamuWxpcc


ลองดูขั้นตอนการยกและติดตั้งซิครับ ต่างกันมากเลย

ก็ต้องถามว่า การตั้งเครื่องยุ่งกว่ากันเทคโนโลยีด้อยกว่า แต่ราคาเครื่องต่างกันระดับไหน
งานมีปริมาณมากพอที่จะต้องเร่งรีบขนาดนั้นและมากพอที่จะคืนทุนในเร็ววันหรือไม่


ผมมองที่คุณภาพของงานครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:24:55 PM
ตัวอย่างการยกชิพ ครับ

อันนี้จากเครื่องมือที่ผม ดูอยู่ครับ


http://youtu.be/1BOV2Lit5Xw?t=6m25s



ส่วนด้านล่างคือ อย่างที่ท่าน อรชุน-รักในหลวง  บอกไว้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=X4uamuWxpcc


ลองดูขั้นตอนการยกและติดตั้งซิครับ ต่างกันมากเลย

ก็ต้องถามว่า การตั้งเครื่องยุ่งกว่ากันเทคโนโลยีด้อยกว่า แต่ราคาเครื่องต่างกันระดับไหน
งานมีปริมาณมากพอที่จะต้องเร่งรีบขนาดนั้นและมากพอที่จะคืนทุนในเร็ววันหรือไม่


ผมมองที่คุณภาพของงานครับ

คนมีผลต่อคุณภาพงานมากกว่าเครื่องจักรครับ  ช่างดีทำงานละเอียดใช้เครื่องมือธรรมดาดีกว่ากว่าช่างกากแต่เครื่องมือเทพครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:31:16 PM
ตัวอย่างการยกชิพ ครับ

อันนี้จากเครื่องมือที่ผม ดูอยู่ครับ


http://youtu.be/1BOV2Lit5Xw?t=6m25s



ส่วนด้านล่างคือ อย่างที่ท่าน อรชุน-รักในหลวง  บอกไว้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=X4uamuWxpcc


ลองดูขั้นตอนการยกและติดตั้งซิครับ ต่างกันมากเลย

ก็ต้องถามว่า การตั้งเครื่องยุ่งกว่ากันเทคโนโลยีด้อยกว่า แต่ราคาเครื่องต่างกันระดับไหน
งานมีปริมาณมากพอที่จะต้องเร่งรีบขนาดนั้นและมากพอที่จะคืนทุนในเร็ววันหรือไม่


ผมมองที่คุณภาพของงานครับ

คนมีผลต่อคุณภาพงานมากกว่าเครื่องจักรครับ  ช่างดีทำงานละเอียดใช้เครื่องมือธรรมดาดีกว่ากว่าช่างกากแต่เครื่องมือเทพครับ

ผมชอบมากเลยวิจารณ์แบบนี้

แต่ถ้า เครื่องมีแต่ ฝีมือดี ลูกค้าย่อมได้สิ่งที่ดีครับ





หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:35:26 PM
สอบถามช่างโรจน์ครับ...3 ล้าน(ประมาณ)   ที่จะใช้ในเครื่องมือนี้   เป็นเงินเก็บหรือต้องกู้ครับ

ถามเพราะอาจเกี่ยวกับระยะเวลาคืนทุน...ถ้านาน ไม่เป็นตามแผนหรือรายได้ที่วางไว้   


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:41:01 PM
แปรทรัพสินเป็นเงิน ก็เหมือนเงินครับเพียงแต่ไม่ได้เก็บเป็นเงิน


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:50:36 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 21, 2012, 02:57:01 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 21, 2012, 03:05:03 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 21, 2012, 03:05:53 PM
 ;D


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 03:17:02 PM
ช่างโรจน์เริ่มคิดแบบนี้ครับ... ให้เริ่มด้วยเอารายรับเป็นตัวตั้ง(ขนาดตลาด), แล้ว"เข้าเกียร์ถอยหลัง"กระจายออกมาเป็นค่าใช้จ่าย ต้นทุนหมุนเวียน ต้นทุนจม ค่าคน ค่าเครื่อง ค่าของ ค่าแรงงาน ค่าเสียเวลา และค่าเสียโอกาส ฯลฯครับ...

เอาคุณภาพงานมาเป็นตัวตั้งไม่ได้ เพราะเราทำการค้า ต้องยอมให้สินค้าเสียได้ในระดับหนึ่งที่ลูกค้าไม่หนีหาย แล้วยอมเสียเงิน+เสียเวลาเป็นการประกันผลงานครับ(ผลงานออกมา 100 เปอร์เซ็นต์จะเปลืองต้นทุนมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์+ต้นทุนประกันผลงาน)... นี่คือเหตุผลที่ทำไมการค้าถึงไม่ทำอะไรเต็มร้อย เพราะไม่ใช่งานศิลปินครับ...

แล้วนายสมชายย้ำอีกที ให้ไปดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนของ BOI เอามากรอกข้อมูลทำการบ้านให้แก่ตัวเอง... เพราะให้เรานั่งนึกเองมันไม่ครบถ้วนบริบูรณ์(ในแง่บริหารธุรกิจ) แต่ถ้าหากนั่งกรอกแบบฟอร์มเติมคำในช่องว่าง จะได้ครบทุกหัวข้อที่เราควรต้องพิจารณาครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 03:22:03 PM
งานที่ปรึกษาการลงทุนที่ดีที่สุดในประเทศไทยคือที่ BOI ครับ... ในนั้นมีหน่วยงานเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอยู่ด้วย มีข้อมูลหมดว่าใครผลิตอะไร ใครต้องการอะไรแต่หาคนทำให้ไม่ได้(เพราะใครต่อใครก็ไปถามตรงนั้น เลยรู้หมด)...

อยากให้ช่างโรจน์ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ก่อน หรือดีไม่ดีอาจได้งานรับเหมาในลักษณะงานที่กำลังทำอยู่ก็ได้ครับ... หากปริมาณงานแยะๆ ก็จะคุ้มค่าลงทุนฯ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 21, 2012, 03:24:35 PM
ส่วนที่ปรึกษาด้านการลงทุนของธนาคารฯ(ตามที่โฆษณาขนมผิง)... นั่นก็เป็นการค้าครับ โครงการดีๆ(หรือไอเดียดีๆ) จะมีแต่ลูกค้าที่มีศักยภาพ(ในสายตาธนาคาร)จะได้ไป ซึ่งอาจไม่ใช่เราก็ได้ แต่เราโดนล้วงตับ!!!...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ธันวาคม 21, 2012, 05:08:51 PM
ท่านสมชายมีคำแนะนำดีๆมาให้ตลอดครับผมก็แอบตามลิงค์ไปศึกษามาแล้วครับ ;D ขอบคุณครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 21, 2012, 06:29:37 PM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

บอกบอกได้คำเดียว  "แบเบอร์"  ฮา
ตลาด  "พิจิตร"  มันจิ๊ดเดียว  เฉพาะในอ.เมือง ก็ไม่เท่าไหร่ ฮา
แล้วยิ่ง  เป็นตลาด "โบราณ"  ที่อดีตต้องอิง  "ทางรถไฟ"  ฮา

ความเจริญมันก็ถูกกระจาย  ไปอำเภอรอบนอก

ถ้าอยากจะลงทุน  ต้องย้ายไป "พิษณุโลก"  อ่ะ ฮา
เพราะขนาดของตลาด  ใหญ่กว่า  "ห้าร้อยเท่า"  ฮา

ลงทุนสามล้าน  จะเอาไป  "แทงสูง หรือ แทงต่ำ"  ดีอ่ะ ฮา
ถ้าไปเล่น  "ตลาดใหญ่"  แล้วพลาดพลั้ง เกิด "เจ๊ง" ขึ้นมา ฮา

555 เราทำดีที่สุด  หรือ สุดฝีมือแล้ว อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 07:49:46 AM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

บอกบอกได้คำเดียว  "แบเบอร์"  ฮา
ตลาด  "พิจิตร"  มันจิ๊ดเดียว  เฉพาะในอ.เมือง ก็ไม่เท่าไหร่ ฮา
แล้วยิ่ง  เป็นตลาด "โบราณ"  ที่อดีตต้องอิง  "ทางรถไฟ"  ฮา

ความเจริญมันก็ถูกกระจาย  ไปอำเภอรอบนอก

ถ้าอยากจะลงทุน  ต้องย้ายไป "พิษณุโลก"  อ่ะ ฮา
เพราะขนาดของตลาด  ใหญ่กว่า  "ห้าร้อยเท่า"  ฮา

ลงทุนสามล้าน  จะเอาไป  "แทงสูง หรือ แทงต่ำ"  ดีอ่ะ ฮา
ถ้าไปเล่น  "ตลาดใหญ่"  แล้วพลาดพลั้ง เกิด "เจ๊ง" ขึ้นมา ฮา

555 เราทำดีที่สุด  หรือ สุดฝีมือแล้ว อ่ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

ใช่เลยครับ ยายครับ ตลาด แต่ร้านที่มีความรู้เรื่อง Hardware แบบลึกมีไม่กี่ร้านครับ

ยายลองเปรียบเทียบนะครับ ผมทำสถิติ ผู้ที่รับซ่อมคอมพิวเตอร์เฉพาะในตัวเมือง

เอาเฉพาะที่ผมเก็บรายละเอียดได้ที่ทำเต็มตัวและอาชีพ มีประมาณ 300 ราย ที่ยาย

บอกว่า เล็ก นิดๆ นะครับ รายผู้ให้บริการเยอะมาก แต่ เท่าที่ผมเห็น เก็บรายละเอียด

ไว้ เอาแค่ เครื่องมือง่าย ที่ใช้แบบชาวบ้านๆ คือ มิเตอร์วัดไฟ ยี้ห้อ sanwa ยังใช้ไม่เป็นกันเลย

มีที่ใช้เป็น ไม่ถึง 10 ราย ( ใช้เป็นกับใช้ได้ต่างกันนะครับยาย ) แต่เมื่อเทียบกับปริมาณ จำนวน

เครื่องคอมพิวเตอร์ ทุกประเภทแล้ว ที่นี่เครื่องคอมพิวเตอร์เยอะนะครับ ลูกค้าผม ก็เยอะ แต่ว่าช่วง

2 ปีที่ผม ออกทำรับงานซ่อมอย่างเดียว ร้านดูไม่ดี เป็นแค่ห้องแถวที่รับแต่งานซ่อมธรรมดา

ลูกค้าต้องการมาซื้อเครื่องดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ทุกวันนี้ผมเอาป้ายหน้าร้านลงไปแล้ว จะรู้เฉพาะ

คนที่รู้จัก และ ก็บอกต่อๆ กันไป คนมาให้ผมประกอบเครื่องให้ก็เยอะ แต่ผม จะบอกว่า ราคา

ห้ามบ่นอาจจะแพงกว่า ที่อื่น 10-20 % แต่คุณภาพ ต่างกันมาก ลูกค้ส่วนใหญ่ในเมืองพิจิตร

จะขับรถไปซ่อมที่ พิษณุโลกกัน ยกเว้นเรื่องลงโปรแกรม ส่วนใหญ่คนนิยมไปดูของ ผมถึงบอก

ว่า ผมมองตลาดพิจิตร มานาน ผมวิเคราะ ตลาดไว้ เคยบอกกับทุกร้านว่า สิ้นค้าแบนหนึ่งมา

ให้คุณเป็นดีเลอร์ วันหนึ่งเขาจะหุบพวกคุณหมด และ ก็เป็นจริงเขาใช้เวลา 4 ปี ลูกค้า เขากิน

ตลาดไปประมาณ 60 % แต่เรื่องบริการไม่ได้เรื่อง อย่าว่าอย่างโน่นอย่างนี้เลย เด็กที่ผมปั้นมา

4 ปี มาขอวิชาจากผมไป ปิดเทอม ของทุกเทอมจะมา อยู่กับผม ฝึกงานตอนเรียนก็ฝึกจากผม

ไปอยู่กับเขา ผม ก็รู้ฝีมืออยู่ หลายร้านเป็นเด็กฝึกงานผม


ทำไมผมถึงรู้ ว่า ผมอะไรให้ลูกค้าแล้วดีจริงๆ ผมติดตามลูกค้าได้ ลองดูรูปที่ผมแบบแล้วจะรู้ว่า ลูกค้าไม่เคยหนีผม

แต่ ว่า เขาไม่ได้ยกเข้าร้านใหน และ ก็ไม่ได้ยกเข้าร้านผม ยกเว้นเสียที่เครื่อง หลายเครื่อง 4 ปีแล้ว ยังใช้โปรแกรม

ตัวเดิมที่ผมลงไปให้ อยู่เลย ไม่เคยไปลงที่ใหนเลย


นี่เป็นตัวอย่างเครื่องผมเอง เครื่องนี้เปิดครบ 5 ปี เมื่อวันที่ 21/11/55 ปิดเฉพาะตอนย้ายเครื่องไฟดับ ทำความสะอาด ทุก 1-2 เดือน

เปลี่ยน ซิลิโคน ( mx3 ) ทุก 2 ปี สเป็คก็ไม่ดีเด่อะไร แต่ วิธีการประกอบ วิธีการเลื่อกของให้เข้ากันได้ วิธีการปรับ hardware ให้เข้ากัน

ทุกชิ้น วิธีการปรับ software ให้ เข้ากับ hardware มีผลต่อเครื่องหมดทุกอย่างครับ


(http://vr2800.com/pic/goodsp.jpg)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 09:07:48 AM
ส่วนที่ปรึกษาด้านการลงทุนของธนาคารฯ(ตามที่โฆษณาขนมผิง)... นั่นก็เป็นการค้าครับ โครงการดีๆ(หรือไอเดียดีๆ) จะมีแต่ลูกค้าที่มีศักยภาพ(ในสายตาธนาคาร)จะได้ไป ซึ่งอาจไม่ใช่เราก็ได้ แต่เราโดนล้วงตับ!!!...


เรื่องนี้ผม โดนมาหลายรายแล้ว เคยเล่าให้ฟังไปในบางกระทู้แล้วมี พนักงานรัฐวิสาหกิจ แห่งนึ่งมาบอกผม โรจน์ พี่มีโจทย์อย่างนี้นะคือว่า หน่วยงานพี่ซื้อโปรแกรม มา ราคา 3000 กว่าล้าน แต่เขาให้
login ได้แผนกละคน ทั้งสำนักงาน login ได้ประมาณ 5-10 เครื่องขึ้นอยู่กับ ขนาดของหน่วยงาน มีอยู่ ประมาณ 700-800 กว่าที่ทั่วประเทศ  ผม ก็คิดให้ไป เพราะมีค่าตอบแทน และบอกว่า จะได้ทำขายได้อีกหลายที่  แต่วิธีคิดของผม คิดเสร็จต้องป้องกันความเสียหายที่จะตามมาด้วย ต้องมีวงจรป้องกันต่างๆด้วย แต่นี่เขาได้ไอเดียพร้อมงานชิ้นแรก สรุป เขาเอาไปให้คนของเขาทำแล้วมีรายได้กันงาม
เลย ตัดต้นทุนตรงส่วนป้องกันผมออกไป ใช้วิธีแบบมักง่าย แต่ได้ตังเหมือนกัน เขาต้องการเพียง วิธีการและอุปกรณ์อะไรมาทำเท่านั้นเอง


เหมือนโปรแกรมที่ผมทำ ก็มีคนโทรมาขอเยอะ ผมแนะนำวิธีทำไปแต่เขาบอกว่า อยากได้ ต้นฉบับเลย หมายถึง source code ที่เขียน เดี่ยวไปต่อยอดเอง เพราะวิธีการมีให้ดูบนเนตแล้ว



หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 01:30:40 PM
ลองคิดกันเล่นๆ นะครับ การประกอบ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง

เช่น ผม เป็นเจ้าของแบนตัวเองวิธีการประกอบของผมคือ ตามด้านล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เครื่อง ban ต่างประเทศใช้กัน

เริ่ม การการประกอบทุกอย่างให้เข้ากันได้หมด อุปกรณ์ภายในเข้ากันดีแล้ว ส่วนประกอบ ผ่าน qc แล้ว
เคยสังเกตุ power supply บ้างใหม ปกติ power suppply ที่มีขาย ตามท้องตลาด จะเป็น

350 400 450 500 550 650 850 วัต ตามขนาด แล้วแต่ เป็นของดีหรือของพอใช้ได้ (วัตแท้ หรือ วัต เทียม)

แต่ เครื่องพวกนี้ เคยเห็นใหมครับ power supply 285 watt แท้

เขาใช้วิธี คำนวณ จาก การกินไฟของอุปกรณ์แล้วทำให้เกินมา 20 % ของอัตราการกินไฟ

ทำไมต้อง เพิ่มมา 20 % ถ้าไปดูเวปที่ผลิด power supply ยี้ห้อดีๆ เขาจะบอกไว้ว่า ค่าความ

เสื่อมของ อุปกรณ์ จะลดมาประมาณ 20 % ที่ประมาณ 2 ปี เท่ากับว่า ใน 2 ปี แหล่่งจ่ายไฟ

กับตัวเครื่องที่กินไฟ จะเท่ากันพอดี แต่ในมุมกลับกันจากตัวแปรต่าง ภายใน 2 ปีทำให้เครื่อง

กินไฟมากกว่าเดิม อีก ที่นี้ในมุมกลับกันลองมองว่า ถ้าอุปกรณ์ทั้งหมด กินไฟเพิ่ม 5 % แต่แหล่ง

จ่ายไฟลดลงมา 20 % เหลือ 100 % แต่ ว่า เครื่องกินไฟเพิ่ม 105 % ทำให้แหล่งจ่ายไฟไม่พอ

มีผลแน่นอนแต่อาจจะเป็นระยะเริ่มต้นยังไม่เกิดผลมากเท่าไร แต่มีหลายที่คือ บังคับเครื่องให้เสีย

ไวขึ้น เช่น เครื่องช้า จุุข้อมูลได้น้อยต้องการเพิ่ม แต่ในมุมกลับกัน คือ การเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปไม่

ได้คำนวณอันตราการกินไฟ อาจจะเพิ่มไปตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเลย คือ แหล่งจ่ายไฟ จ่าย ได้ 120 %

อุปกรณ์ ที่เพิ่มเข้าไป กินไฟ เพิ่ม ไปเป็น 135 % เท่ากับว่าเร่งให้เครื่องพังไวขึ้น อะไรทำนี้ ซึ่งตัว

แปรมีหลายอย่างครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ ธันวาคม 22, 2012, 03:53:48 PM
 ::014::เงินสามล้านไม่มากสำหรับการลงทุน แต่มากมายสำหรับผม ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่รู้จะได้เห็นมันหรือเปล่า ดังนั้น จะเอาเงินสามล้านไปเสี่ยง ต้องคิดให้หนัก ถึงหนักมากๆ

ลองทำแผนธุรกิจ วิเคราะห์ความเสียงดูดีๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ กรณีศึกษาต่างๆ... ในวงการธุรกิจ มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา ...ทุนหมุนเวียนต้องหนา พร้อม...

ผมเคยเป็นพัสดุ ตรวจรับงาน วางบิล ในโรงงานเล็กๆ...ตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยๆ ก็คือ การจัดการไม่ดี ไม่รอบคอบ บริหารผิดพลาด ทำงานผิดพลาด เวลา  เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามข้อตกลง  เงื่อนไขการรับประกัน เครดิตการชำระเงิน ...รวมไปถึงสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศที่มีผลกับการทำงาน

สิ่งเหล่านี้ มีผลกับการวางบิลรับเงินทั้งนั้น พลาดนิดเดียว รับเงินช้าไปเป็นเดือน หรือหลายๆเดือน ...ช่วงที่กำเช็ครอเงินจนเหงื่อท่วมนี้ ...ต้องใช้เงินทั้งนั้น

Vendor บางราย รวยได้ในไม่กี่เดือน...บางรายจนลงคนไม่เหลืออะไรในพริบตาครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 04:00:40 PM
ข้อมูลคุณโรจน์น่าจะคลาดเคลื่อนบ้างนะครับ

PSU ในท้องตลาดมี2ประเภท คือ "วัตต์เต็ม-วัตต์แท้" แล้วแต่จะเรียก อีกประเภทคือ "วัตต์เทียม"

2ประเภทนี้ต่างกันตรงที่ PSU วัตต์แท้จะสามารถจ่ายไฟต่อเนื่องได้ตามสเป็ค บางยี่ห้อก็จะแจ้งว่า Watt Continuous
การจะจ่ายต่อเนื่องได้แปลว่าตัวPSUจะต้องจ่ายไฟตามสเป็คได้โดยความร้อนคงที่ ความสูญเสียคงที่
หมายความว่า PSU "วัตต์แท้" ต้องมีความสามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าสเป็นที่แจ้งไว้ทุกตัวมิฉะนั้นจะจ่ายต่อเนื่องไม่ได้

ส่วน PSU วัตต์เทียมจะแจ้งกำลังไฟเป็นวัตต์สูงสุด (Watt Peak)ที่PSUสามารถจ่ายได้ซึ่งมีผลให้ PSUมีความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น
ค่าสูญเสียเพิ่มขึ้น แต่ตัว PSUยังต้องจ่ายไฟเกินจุดคงที่ อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตราย ไหม้ หรือถึงขั้นระเบิด

เรื่อง PSU ของคอมแบรนด์ที่จ่ายไฟได้สูงกว่าระบบ20%เป็นเรื่องจริง
แต่เป็นการคิดจากโหลด100%ของระบบ ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่ได้เรียกใช้ไฟเต็มโหลด100%ตลอดเวลา
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 50%-80% หมายความว่า PSUก็จะมีโหลดเฉลี่ย 30%-60%
เหตุผลที่คอมแบรนด์ต้องเผื่อโหลดสูงสุดขึ้นไปอีก20% เพราะว่า PSU ทุกตัวจะทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงโหลด 45%-65%
คือช่วงที่จ่ายไฟเต็มประสิทธิภาพที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด นั่นคือวิศวกรของผู้ผลิตคอมแบรนด์ทั้งหลายได้คำนวนมาแล้วว่า "พอดี"

คอมแบรนด์แทบทุกตัวไม่ได้ออกแบบเผื่อให้เราอัพเกรด
เพราะอุปกรณ์แทบทุกตัวไม่ได้เน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เน้นความเรียบง่าย มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพเพียงพอในต้นทุนต่ำที่สุด
การเอาคอมแบรนด์ไปอัพเกรด โดยยังใช้ PSUเดิมที่ผ่านการคำนวนมาแล้วว่า "พอดี" มันจึง "เกินพอดี" เป็นผลให้อายุการใช้งานสั้นลง

เรื่องคอมประกอบจะต่างจากคอมแบรนด์ ตรงที่คอมประกอบมีงบประมาณของลูกค้าบังคับไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
"พื้นฐานของช่างที่ดี" จึงต้องเลือกอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูงสุดกับงานที่ทำ และในงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 04:17:54 PM
ข้อมูลคุณโรจน์น่าจะคลาดเคลื่อนบ้างนะครับ

PSU ในท้องตลาดมี2ประเภท คือ "วัตต์เต็ม-วัตต์แท้" แล้วแต่จะเรียก อีกประเภทคือ "วัตต์เทียม"

2ประเภทนี้ต่างกันตรงที่ PSU วัตต์แท้จะสามารถจ่ายไฟต่อเนื่องได้ตามสเป็ค บางยี่ห้อก็จะแจ้งว่า Watt Continuous
การจะจ่ายต่อเนื่องได้แปลว่าตัวPSUจะต้องจ่ายไฟตามสเป็คได้โดยความร้อนคงที่ ความสูญเสียคงที่
หมายความว่า PSU "วัตต์แท้" ต้องมีความสามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าสเป็นที่แจ้งไว้ทุกตัวมิฉะนั้นจะจ่ายต่อเนื่องไม่ได้

ส่วน PSU วัตต์เทียมจะแจ้งกำลังไฟเป็นวัตต์สูงสุด (Watt Peak)ที่PSUสามารถจ่ายได้ซึ่งมีผลให้ PSUมีความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น
ค่าสูญเสียเพิ่มขึ้น แต่ตัว PSUยังต้องจ่ายไฟเกินจุดคงที่ อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตราย ไหม้ หรือถึงขั้นระเบิด

เรื่อง PSU ของคอมแบรนด์ที่จ่ายไฟได้สูงกว่าระบบ20%เป็นเรื่องจริง
แต่เป็นการคิดจากโหลด100%ของระบบ ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่ได้เรียกใช้ไฟเต็มโหลด100ตลอดเวลา
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 50%-80% หมายความว่า PSUก็จะมีโหลดเฉลี่ย 30%-60%
เหตุผลที่คอมแบรนด์ต้องเผื่อโหลดสูงสุดขึ้นไปอีก20% เพราะว่า PSU ทุกตัวจะทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงโหลด 45%-65%
คือช่วงที่จ่ายไฟเต็มประสิทธิภาพที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด นั่นคือวิศวกรของผู้ผลิตคอมแบรนด์ทั้งหลายได้คำนวนมาแล้วว่า "พอดี"

คอมแบรนด์แทบทุกตัวไม่ได้ออกแบบเผื่อให้เราอัพเกรด
เพราะอุปกรณ์แทบทุกตัวไม่ได้เน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เน้นความเรียบง่าย มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพเพียงพอในต้นทุนต่ำที่สุด
การเอาคอมแบรนด์ไปอัพเกรด โดยยังใช้ PSUเดิมที่ผ่านการคำนวนมาแล้วว่า "พอดี" มันจึง "เกินพอดี" เป็นผลให้อายุการใช้งานสั้นลง

เรื่องคอมประกอบจะต่างจากคอมแบรนด์ ตรงที่คอมประกอบมีงบประมาณของลูกค้าบังคับไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
"พื้นฐานของช่างที่ดี" จึงต้องเลือกอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูงสุดกับงานที่ทำ และในงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้

ขอบคุณครับ สำหรับคำอธิบายที่ดีขึ้น ผมเข้าใจ แต่สื่อสารไม่เป็ง


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 04:24:06 PM
::014::เงินสามล้านไม่มากสำหรับการลงทุน แต่มากมายสำหรับผม ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่รู้จะได้เห็นมันหรือเปล่า ดังนั้น จะเอาเงินสามล้านไปเสี่ยง ต้องคิดให้หนัก ถึงหนักมากๆ

ลองทำแผนธุรกิจ วิเคราะห์ความเสียงดูดีๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ กรณีศึกษาต่างๆ... ในวงการธุรกิจ มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา ...ทุนหมุนเวียนต้องหนา พร้อม...

ผมเคยเป็นพัสดุ ตรวจรับงาน วางบิล ในโรงงานเล็กๆ...ตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยๆ ก็คือ การจัดการไม่ดี ไม่รอบคอบ บริหารผิดพลาด ทำงานผิดพลาด เวลา  เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามข้อตกลง  เงื่อนไขการรับประกัน เครดิตการชำระเงิน ...รวมไปถึงสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศที่มีผลกับการทำงาน

สิ่งเหล่านี้ มีผลกับการวางบิลรับเงินทั้งนั้น พลาดนิดเดียว รับเงินช้าไปเป็นเดือน หรือหลายๆเดือน ...ช่วงที่กำเช็ครอเงินจนเหงื่อท่วมนี้ ...ต้องใช้เงินทั้งนั้น

Vendor บางราย รวยได้ในไม่กี่เดือน...บางรายจนลงคนไม่เหลืออะไรในพริบตาครับ

ประสบการณ์พอมีบ้าง เจอมาหากรูปแบบครับ

ผมถึงบอกว่า ขอความเห็นเรื่องอุปกรณ์ ที่จะซื้อจะคุ้มใหม

แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่ ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง

อย่างไรก็ต้องเอาไว้

ไม่แน่นะครับผมหาข้อมูลไว้เยอะมาก แต่ถึงเวลา ผมกลับไปทำเกษตร

เฉยเลย ตอนนี้ผมก็ไปทำอยู่ แต่กำลังนำเทคโนโลยีเข้าไป

รดน้ำในสวน ด้วย ipad มองสวน ด้วย กล้องวงจรปิด

และที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ ค้นหาข้อมูลแล้วในประเทศไทย

ยังไม่มีใครทำเลย ที่มีให้เห็นนะครับ เมื่อพร้อมและสมบูรณ์

ผมจะทำคลิบมาโชว์ รับรองผู้ที่ทำเกษตร จะต้องชอบ และ

คิดไม่ถึงว่า เออ แค่ สิ่งง่าย เห็นกันอยู่ทุกวัน แต่เอามาทำ

ประโยชน์ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 22, 2012, 06:30:10 PM



แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่

ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง
อย่างไรก็ต้องเอาไว้




Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ความ "ผิดพลาด"  ที่ใหญ่โต  คือเรื่อง "ลงทุน" ในอสังหาริมทรัพย์ อ่ะ ฮา
เงินสามล้าน  ละเลงแป๊บเดียว  หมด อ่ะ
แล้วถ้า  แผนการตลาด  "ไม่เวิรค์"  จะทำอย่างไร อ่ะ ฮา

ต้องผ่อน "ตึกแถว"  ราคา  2 ล้านลบ  ค่าผ่อน สามสี่หมื่น ฮา

แผนการตลาด  ไม่มีใคร แนะนำ ใครได้ อ่ะ ฮาาา
เพราะว่า  "ฝีมือ"  ไม่เหมือนกัน  และขึ้นอยู่กับการเห็น "โอกาส" ก่อนคนอื่น ฮา

ถ้ายังยืนยัน  "ลงหลัก"  พิจิตร ฮา
ยายไม่แนะนำ  ให้ลงทุน  "ตึกแถว"  อ่ะ ฮา

"เช่า"  เขาเดือนละ  ห้าหกพัน  ดีกว่าที่ต้องสร้างหนึ้  สอง สาม ล้านอ่ะ ฮา
ทำตัว  ให้เหมือน  "ตั๊กแตน"   ถ้าตลาดไม่ดี ก็พร้อม "อพยพ" อ่ะ ฮา

5555 จะอพยพได้อย่างไร   ธนาคาร เขาไม่ยอมให้คืน อ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 22, 2012, 07:18:42 PM
ช่างโรจน์ระวังเรื่อง"กับดักเทคนิคคัลแมน"ด้วยครับ... เรื่องนี้ยาวหากพูดในรายละเอียด เพราะเป็นกำแพงที่มองไม่เห็น บางคนไม่เคยผ่านได้จนตลอดชีวิต แต่บางคนก้าวผ่านมาแล้วมองย้อนหลังจะบอกว่าฉันไม่น่าหลงติดกับตรงนั้นเลย...

เอาสรุปๆนะครับ... ประเด็นคือเรื่อง"เก่งธุรกิจ"กับเรื่อง"เก่งเทคนิค"นั้นเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกัน แต่อยู่คนละขั้ว, หากเก่งสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่งจะไม่ประสบความสำเร็จในตัวเอง โดยต้องจับคู่กับอีกขั้วหนึ่งแพคเป็นทีมฯ แล้วทีมที่ว่านั้นห้ามแตกคอกัน, ตัวอย่างเช่นศิลปินเก่งต้องมีผู้จัดการ แล้วผู้จัดการที่เก่งต้องหาศิลปินเก่งมาเข้าสังกัด ทีนี้ใครเป็นลูกน้องใครเป็นเจ้านายนั่นก็แล้วแต่ว่าใครเก่งขั้วไหนได้ถึงที่สุดมากกว่ากัน...

เรื่องเทคนิคนี่ยิ่งลึกมากเท่าไหร่ จะยิ่งเรียวเล็กลงเหมือนยอดปิรามิด ซึ่งที่จุดนั้นความต้องการตลาดจะมีน้อยมากจนไม่สามารถทำเงินจากตรงนั้นได้, ไม่เหมือนเรื่องพื้นๆ ที่ตลาดกว้างกว่า ทำเงินได้มากกว่า... แล้วหากเมื่อไหร่ที่เกิดความต้องการเทคนิคลึกๆ เราค่อยเล่นเองเอาสนุก, หรือไม่ก็ไปจ้างผู้เชี่ยวชาญอีกต่อนึงไปเลย เพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้...

ทีนี้มีเรื่อง"ขนาดตลาด"ที่ช่างโรจน์บอกว่าขนาดใหญ่ ก็ลองประเมินจากตัวเลข"ทั่วไป"ดังต่อไปนี้นะครับ... ตามปรกติเงินต้น 3 ล้านบาทไปกู้ธนาคารเขาจะให้ผ่อนประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาท+ดอกเบี้ยลดต้น แล้วยาว 5 ปี, เราก็เข้าเกียร์ถอยหลังออกมาว่ารายรับจากโครงการนี้จะได้ประมาณ 2 เท่าถึงจะอยู่ได้ ดังนั้นรายรับต้องไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาทต่อเดือน(เพราะมีค่าโสหุ้นอื่นอีกนอกจากเงินผ่อนงวด), พอถึงตรงนี้ช่างโรจน์อาจจะบอกว่าฉันไม่ได้กู้เงิน ไม่สนใจก็ได้ ซึ่งอย่างนั้นมันก็ใช่ แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือตัวเลขมาตรฐาน ถ้ารายรับน้อยกว่านี้ธนาคารไม่ให้กู้ แต่เราทำเองก็เจ๊งเองครับ...

รายรับ 1 แสนบาทต่อเดือน หากค่าจ้างยกชิป/เปลี่ยนชิปครั้งละ 1500 บาท นั่นแปลว่าทั้งเดือนต้องมีงาน 66 ครั้ง หรือวันไม่ต่ำละ 3 ครั้งทุกวันตลอด 60 เดือน!!!... หากวันไหนงานไม่มีก็ต้องทดไปสำหรับวันถัดไปด้วย ให้ในที่สุดได้ตามเกณฑ์, โดยตัวเลข 5 ปีหรือ 60 เดือนมาจากการคิดค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ประเภทนี้จะตัด บ/ช. เสื่อมราคา MACRS หมดใน 5 ปีครับ...

พอถึงตรงนี้ก็พิจารณาว่าเครื่องจีนแดง 3 แสนบาทแต่มีตีกลับประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเครื่อง 3 ล้านบาทแต่งานดี 100 เปอร์เซ็นต์ เครื่องไหนคุ้มค่ามากกว่ากันในเชิงธุรกิจครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 07:25:52 PM



แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่

ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง
อย่างไรก็ต้องเอาไว้




Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ความ "ผิดพลาด"  ที่ใหญ่โต  คือเรื่อง "ลงทุน" ในอสังหาริมทรัพย์ อ่ะ ฮา
เงินสามล้าน  ละเลงแป๊บเดียว  หมด อ่ะ
แล้วถ้า  แผนการตลาด  "ไม่เวิรค์"  จะทำอย่างไร อ่ะ ฮา

ต้องผ่อน "ตึกแถว"  ราคา  2 ล้านลบ  ค่าผ่อน สามสี่หมื่น ฮา

แผนการตลาด  ไม่มีใคร แนะนำ ใครได้ อ่ะ ฮาาา
เพราะว่า  "ฝีมือ"  ไม่เหมือนกัน  และขึ้นอยู่กับการเห็น "โอกาส" ก่อนคนอื่น ฮา

ถ้ายังยืนยัน  "ลงหลัก"  พิจิตร ฮา
ยายไม่แนะนำ  ให้ลงทุน  "ตึกแถว"  อ่ะ ฮา

"เช่า"  เขาเดือนละ  ห้าหกพัน  ดีกว่าที่ต้องสร้างหนึ้  สอง สาม ล้านอ่ะ ฮา
ทำตัว  ให้เหมือน  "ตั๊กแตน"   ถ้าตลาดไม่ดี ก็พร้อม "อพยพ" อ่ะ ฮา

5555 จะอพยพได้อย่างไร   ธนาคาร เขาไม่ยอมให้คืน อ่ะ ฮา

อันนี้เห็นด้วยกับป้าบราครับ...

ผมผ่อนบ้านแต่ไม่ได้อยู่ๆ 1 หลัง จนถึงวันนี้อยากจะปล่อยให้หลุดชะมัด ปิดป้ายขายก็ไม่มีใครซื้อ...

ถ้าสไตล์น้ำเน่านิดๆ ก็ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ขอเพียงให้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว อาชีพ "รับจ้าง" ส่วนมากมักพเนจร...

ใจอยากซื้อบ้านที่ระยอง แต่ก็กลัวภาระ หาเงินมาได้แต่ไม่ได้ใช้..

อยากให้ฟังความเห็นของทุกท่านเป็นที่ตั้ง ตัวเราเป็นอันดับรอง แล้วค่อยๆพิจารณาเอาความเห็นของทุกท่านมาประกอบเหตุผลของเราไปเรื่อยๆครับ เวลายังมี และเงิน 3 ล้านก็ไม่ใช่เป็นเงินจำนวนน้อยๆ ไม่อยากให้พลาดครับ...

และ +1 พี่สมชายที่ทุ่มเติมความคิดอย่างเต็มที่ครับ... ::002:: ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 07:46:49 PM
ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...
แต่ถ้าหาทำเลอย่างว่าไม่ได้... ก็ต้องแล้วแต่ประสบการณ์แล้วล่ะ  ว่ามองทำเลขาดหรือไม่.... กลัวว่าถ้าเมืองใหญ่ไม่พอหรือโตไม่พอ  เวลาประกาศขาย  จะต้องรอจนป้ายสีจืดหมด

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้     


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 08:02:10 PM
ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้

ถูกต้องครับ อาคารพาณิชย์ที่ผมสร้างมี ธ. กสิกร มาเปิด 2 คูหา , ร้านขายเครื่องไฟฟ้าเงินผ่อน 4 คูหา , หมอฟัน 2 เจ้า 3 คูหา... เหลือคูหาเดียวแถมเจ้าของยังค้างเงินผมอยู่ 6 แสน ยังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงดีครับ... ::012::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 08:05:42 PM
ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้

ถูกต้องครับ อาคารพาณิชย์ที่ผมสร้างมี ธ. กสิกร มาเปิด 2 คูหา , ร้านขายเครื่องไฟฟ้าเงินผ่อน 4 คูหา , หมอฟัน 2 เจ้า 3 คูหา... เหลือคูหาเดียวแถมเจ้าของยังค้างเงินผมอยู่ 6 แสน ยังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงดีครับ... ::012::

เก็บไว้เองครับ... เดี๋ยวก็มีร้านทองไปซื้อ 555


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 22, 2012, 08:35:58 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 08:38:17 PM
ประการแรก ผม ต้อง ขอขอบคุณทุกหัวข้อที่แนะนำผม ตึกผมจองไว้แต่ยังไม่ได้วางมัดจำ พอดีสนิทพี่เขา เพราะว่า ยังไม่ได้สร้างเลย ที่สร้างไว้

20 กว่าห้อง เต็มตั้งแต่ยังไม่สร้าง พี่เขาบอกว่า นี่ถ้าผมไปช้าก็เต็มอีก แค่รู้ว่าพี่เขาจะสร้างต่อพี่เขาบอกว่า เสร็จ 20 ห้องนี้ เราค่อยเอาเงินมามัดจำ

ที่สำคัญผมไปจากพิจิตร ไม่ได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง

ตอนนี้ผมกำลังศึกษาแผนการตลาดให้ดีตามที่น้าสมชายแนะนำ และเก็บเรื่องที่ยายบอกไปคิดให้หนัก +กับที่ทุกท่านแนะนำมาครับ

+1 หน้า 3 ให้ทุกคนครับ



หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 08:39:04 PM
ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้

ถูกต้องครับ อาคารพาณิชย์ที่ผมสร้างมี ธ. กสิกร มาเปิด 2 คูหา , ร้านขายเครื่องไฟฟ้าเงินผ่อน 4 คูหา , หมอฟัน 2 เจ้า 3 คูหา... เหลือคูหาเดียวแถมเจ้าของยังค้างเงินผมอยู่ 6 แสน ยังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงดีครับ... ::012::

เก็บไว้เองครับ... เดี๋ยวก็มีร้านทองไปซื้อ 555

ทำเลดีมากเลยครับ แต่ขอกำเงินไว้ก่อนดีกว่า ไม่อยากอยู่บ้านกับเมียทั้งวัน.. 5555 ;D


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 09:00:19 PM


ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้     

ผมเป็นเกษตรกรด้วยครับ (ลงทะเบียนกับเขาไปตั้งแต่ปี 52 เพิ่งได้สมุดทะเบียนเกษตรกรมาเมื่อวาน)

ยืนยันอีกเสียง ว่า การทำเกษตร ต้องลงพื้นที่ไปดูด้วยตาเนื้อเท่านั้นครับ

ระบบออโตเมชั่น ทำได้แต่ต้องดูแลถึง ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มันเยอะเกินไป

แล้วถ้าลงไปอยู่ในแปลงแล้ว จะมีระบบออโตเมชั่นไปทำไมให้มันเปลือง

การเกษตร กำไรน้อยแทบทุกแขนง ข้อดีที่ยังทำให้เกษตรกรอยู่ได้คือ ต้นทุนไม่สูงมาก

หากไปเพิ่มต้นทุนที่ทำประโบชน์ได้น้อยกว่าเงินลงทุน แววขาดทุนมันก็เริ่มส่อ

ผมก็ขึ้นทะเบียนเกษตรครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 09:10:24 PM
แจ้งช่างโรจน์ สิ่งที่ช่างโรจน์ทำ  ร้านมืออาชืพในกทม.ทำทุกร้าน และเหนือกว่าด้วยตรงที่ลบก็ช่างมันไม่หมดประกัน
เพราะร้านก็มีสำรองให้ลูกค้าอีกชุดหนึ่ง ผมจะบอกว่าสิ่งที่ช่างโรจน์กำลังทำ หรือพยายามจะทำ เขาทำกันมานานแล้วครับ

แล้วผมจะบอกอีกด้วยว่าธุรกิจการรับซ่อมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหยุดโตมานานแล้ว
ตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศ คือกรุงเทพและเขตปริมณฑลตอนนี้มีแต่ทรงกับทรุด ส่วนหนึ่งในปัจจุบันคนใช้คอมเกินครึ่ง "เป็นงาน"
ตรวจเช็คเองได้ตัวไหนเสียซื้อเปลี่ยนเอง  ธุรกิจขายอะไหล่ก็ทำได้แค่ทรงตัว ผู้นำเข้าสินค้า "รายใหญ่" หลายรายกำลังออกอาการ
บางเจ้ากำลังเปลี่ยนแนวทางธุรกิจ ผมบอกด้วยว่าเจ้าที่กำลังจะเปลี่ยน "เคยใหญ่มาก"

ตลาดแถวบ้านช่างโรจน์อาจจะเหลือช่องว่างให้แทรกตัวเข้าไปได้มากแค่ไหนตรงนี้ผมไม่ทราบ
แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ มันจะอิ่มตัวเมื่อไหร่ แล้วจะอิ่มตัวก่อนที่จะให้กำไรจากเงิน 3ล้านที่ลงทุนไปหรือไม่
ถ้าช่างโรจน์ไม่สามารถได้สัญญาเซอร์วิสรายปีจาก บ. ใหญ่ๆผมบอกตามตรงว่าช่างโรจน์ "เสี่ยงมาก" กับการลงทุนครั้งนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 09:31:08 PM
ghost ผมเริ่มใช้ตั้งแต่ แรกๆแล้วครับ แต่สิ่งที่ผมทำ

ผมไม่ค่อยเอามาพูดครับ  พิจิตร ผมใช้เป็นคนแรกในจังหวัดพิจิตรเลยก็ว่าได้

เพราะผมมาอยู่พิจิตร ปี 40 และมีร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์เพียงร้านเดียว

ในจังหวัด ยอดขายเดือนละ เป็นสิบๆ ล้านบาท คอมพิวเตอร์ทั้งจังหวัด

ต้องสั่งจากที่นี่ทั้งหมด เมื่อปี 40 เป็นต้นมา ใครที่ใช้คอมพิวเตอร์

ไม่เคยไม่มีใครไม่รู้จักช่าง.... ที่ไม่ใช่ชื่อโรจน์ ซึ่งผมเป็นลูกจ้าง

ก่อนหน้านี้ผมอยู่ที่พันทิพธ์ครับ

 เรียนรามคำแหงสายวิทคอม แต่ไม่จบเพราะมีเหตุต้องกลับมาอยู่พิจิตร จนปัจจุบัน

ด้วยเหตุบางอย่างที่เคยอ้างไว้ในบรอดนี้

ขอบคุณครับท่านที่ลบให้ผม






หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 09:34:38 PM
ตลาดคอมพิวเตอร์ เริ่มจะหมดยุค แต่ ถ้าท่านมองดีๆ ท่านจะเห็นช่องทำเงิน

ท่านอาจจะอยู่ในกลุ่มชนที่การศึกษาสูง หรือช่วยเหลือตัวเอง แต่ตลาดบางที่

อย่างพิจิตรเมืองปิด ตราบใดที่เป็นเมืองปิด ท่านจะเห็นช่องโว ของผลกำไร

เป็นอย่างมาก สิ่งที่ผมทำ ใช้กับที่อื่นไม่ได้ แต่ไม่ใช่ที่พิจิตรครับ

และเจอลูกบ้าอย่างด้วยแล้ว


ท่านเคยเห็นคนเอา Rorex ปลอม ราคา 300 บาท มาซ่อม ในราคา 500 บาท ใหมครับ

(http://vr2800.com/pic/tg.jpg)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 10:28:11 PM
ตลาดคอมพิวเตอร์ เริ่มจะหมดยุค แต่ ถ้าท่านมองดีๆ ท่านจะเห็นช่องทำเงิน

ท่านอาจจะอยู่ในกลุ่มชนที่การศึกษาสูง หรือช่วยเหลือตัวเอง แต่ตลาดบางที่

อย่างพิจิตรเมืองปิด ตราบใดที่เป็นเมืองปิด ท่านจะเห็นช่องโว ของผลกำไร

เป็นอย่างมาก สิ่งที่ผมทำ ใช้กับที่อื่นไม่ได้ แต่ไม่ใช่ที่พิจิตรครับ

และเจอลูกบ้าอย่างด้วยแล้ว


ท่านเคยเห็นคนเอา Rorex ปลอม ราคา 300 บาท มาซ่อม ในราคา 500 บาท ใหมครับ


ผมเคยเจอแต่เพื่อนผู้หญิงได้โรเล็กซ์จากสามีซึ่งเป็นชาวไต้หวัน นานๆกลับมาไทยที...

พอเดือดร้อน เอาโรเล็กซ์เข้าโรงรับจำนำ 3 หมื่น พอสามีจะกลับมารีบยืมตังค์เพื่อนไปไถ่คืน...

ผมจำได้แม่นเลย คนไต้หวันมันด่าเมียเป็นภาษาไทย "อีสัส มรึงจะไปไถ่ออกมาทำไม กรูซื้อแค่เรือนละพัน..."

หลังจากนั้นเพื่อนผมจะไปจำนำใหม่ก็ใจไม่ถึงแล้ว...

"แมร่งให้กรูใส่ของปลอม...!!" ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 10:50:57 PM
ถ้าผมมี 3 ล้าน และตามมุมของผม ผมจะซื้อ "รถเครน" ครับ...

มือสอง ราคาใกล้เคียง 3 ล้าน แต่รายรับวันละ 8,000-15,000 บาท ยิ่งค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 ด้วยแล้ว รับรองไม่ตกงานครับ เก็บเงินสดตลอดทุกวัน...

ทำงานมีลูกน้องซัก 1-2 คน 1 ปีคืนทุน ยิ่งงานอสังหากำลังพุ่งแทบทุกพื้นที่ในไทย ที่เหลือคือกำไรล้วนๆ...

หรือย่อมๆลงมาหน่อย ซื้อรถแบ๊คโฮ ยังมีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ทำเงินให้วันละ 4,500-8,000 บาท น่าจะมีแสงสว่างทางปลายอุโมงค์บ้าง...

ผมคิดว่าต้องดูดีมานด์กับซัพพลายด้วย.. อะไรที่ใกล้จะอิ่มตัว น่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เรากินแล้วครับ...

เล่นอะไรที่ขาดแคลนดีกว่า เช่นแรงงานทดแทนคน...

แต่ผมก็ไม่สบปรามาสเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์นะครับ แต่ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าผมเสีย ซื้อมาเมื่อ 5 ปีก่อนผมไม่ซ่อมครับ ซื้อใหม่สเปคดีกว่าเดิมอีกโข แถมราคาแค่หมื่นกลางๆ...

เทคโนโลยีมันตกไวน่ะครับ และผมให้ความเห็นในส่วนของ user ครับ และดูแล้วเป็น "ขาลุย" ด้วย... เข้ามา "กระตุก" เฉยๆครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 22, 2012, 10:59:21 PM
ถ้าผมมี 3 ล้าน และตามมุมของผม ผมจะซื้อ "รถเครน" ครับ...

มือสอง ราคาใกล้เคียง 3 ล้าน แต่รายรับวันละ 8,000-15,000 บาท ยิ่งค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 ด้วยแล้ว รับรองไม่ตกงานครับ เก็บเงินสดตลอดทุกวัน...

ทำงานมีลูกน้องซัก 1-2 คน 1 ปีคืนทุน ยิ่งงานอสังหากำลังพุ่งแทบทุกพื้นที่ในไทย ที่เหลือคือกำไรล้วนๆ...

หรือย่อมๆลงมาหน่อย ซื้อรถแบ๊คโฮ ยังมีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ทำเงินให้วันละ 4,500-8,000 บาท น่าจะมีแสงสว่างทางปลายอุโมงค์บ้าง...

ผมคิดว่าต้องดูดีมานด์กับซัพพลายด้วย.. อะไรที่ใกล้จะอิ่มตัว น่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เรากินแล้วครับ...

เล่นอะไรที่ขาดแคลนดีกว่า เช่นแรงงานทดแทนคน...

แต่ผมก็ไม่สบปรามาสเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์นะครับ แต่ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าผมเสีย ซื้อมาเมื่อ 5 ปีก่อนผมไม่ซ่อมครับ ซื้อใหม่สเปคดีกว่าเดิมอีกโข แถมราคาแค่หมื่นกลางๆ...

เทคโนโลยีมันตกไวน่ะครับ และผมให้ความเห็นในส่วนของ user ครับ และดูแล้วเป็น "ขาลุย" ด้วย... เข้ามา "กระตุก" เฉยๆครับ...

ผมเส้นไม่ใหญ่ ตัวเจอแบบนี้ครับ

http://www.phichittoday.com/news/12.55/news06125504.html


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 11:19:30 PM
ถ้าผมมี 3 ล้าน และตามมุมของผม ผมจะซื้อ "รถเครน" ครับ...

มือสอง ราคาใกล้เคียง 3 ล้าน แต่รายรับวันละ 8,000-15,000 บาท ยิ่งค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 ด้วยแล้ว รับรองไม่ตกงานครับ เก็บเงินสดตลอดทุกวัน...

ทำงานมีลูกน้องซัก 1-2 คน 1 ปีคืนทุน ยิ่งงานอสังหากำลังพุ่งแทบทุกพื้นที่ในไทย ที่เหลือคือกำไรล้วนๆ...

หรือย่อมๆลงมาหน่อย ซื้อรถแบ๊คโฮ ยังมีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ทำเงินให้วันละ 4,500-8,000 บาท น่าจะมีแสงสว่างทางปลายอุโมงค์บ้าง...

ผมคิดว่าต้องดูดีมานด์กับซัพพลายด้วย.. อะไรที่ใกล้จะอิ่มตัว น่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เรากินแล้วครับ...

เล่นอะไรที่ขาดแคลนดีกว่า เช่นแรงงานทดแทนคน...

แต่ผมก็ไม่สบปรามาสเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์นะครับ แต่ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าผมเสีย ซื้อมาเมื่อ 5 ปีก่อนผมไม่ซ่อมครับ ซื้อใหม่สเปคดีกว่าเดิมอีกโข แถมราคาแค่หมื่นกลางๆ...

เทคโนโลยีมันตกไวน่ะครับ และผมให้ความเห็นในส่วนของ user ครับ และดูแล้วเป็น "ขาลุย" ด้วย... เข้ามา "กระตุก" เฉยๆครับ...

ผมเส้นไม่ใหญ่ ตัวเจอแบบนี้ครับ

http://www.phichittoday.com/news/12.55/news06125504.html

ถ้าสมมติว่าเรามีเครื่องจักร เราไม่ใช่ผู้รับเหมาครับ... เราเป็นแค่ตัวรอง รับเป็นจ๊อบๆไป ไม่ต้องไปชนกับใคร...

ผมยังคิดไว้ 2 ทาง คือถ้ามีเงินซัก 3 ล้าน จะซื้อที่ในซอยย่อยแปลงละ 2-3 ร้อยวา แบ่งได้ซัก 4 แปลงรวมสาธารณูปโภค ราคาซัก 3-4 แสน สร้างบ้านชั้นเดียวเน้นการออกแบบจากที่เรียนมาและทำเองอีกหลังละ 4 แสน...

ขายราคาไม่เกินล้านเพื่อให้ 2 คนผัวเมียกู้ร่วมได้และผ่อนถูกพอๆกับเช่า "ถ้า" ขายได้หมดก็เอากำไรเหลือประมาณ 2 ล้านกว่าๆไปลงทุนต่อ อนาคตต้องรวยเป็น 100 ล้านแน่ๆเลย...

แต่บังเอิญตื่นก่อน เลยต้องเผชิญความเป็น "ขี้ข้า" แต่พออยู่พอกินไปเรื่อยๆครับ เพราะ "ภาระ" จากอดีตที่ขวางทางเจริญของผมมันเยอะ... ::013::


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 22, 2012, 11:26:47 PM
ส่วนเรื่องโดนลอบโดนตี ผมไม่ค่อยกลัวครับ เพราะมีพี่ท่านนึงสอนไว้... "ทีี่เอวมรึง มีอะไร..."


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2012, 12:46:38 AM
เรียนคุณโรจน์... หลังไมค์ที่ส่งมาผมให้สัญญาตามนั้นครับ แต่ถ้าความลับจะหลุดไป คงไม่ใช่เพราะผม ผมเชื่อว่ามีใครอ่านเห็น...

งานของคุณโรจน์ซับซ้อนมาก จนเกินกว่าระดับสติปัญญาของผมที่จะเข้าใจครับ...  มีแค่ความหวังดี แต่อาจไม่เข้าใจในความตื้นลึกหนาบางของแต่ละธุรกิจ เลยเสนอแต่มุมมองของผม...

ยังไงก็ตัดสินใจให้ดีครับ เมื่อก่อนของโลกผมก็สวยงามมาก...

เป็นกำลังใจให้เสมอครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 23, 2012, 12:59:25 AM
เรียนคุณโรจน์... หลังไมค์ที่ส่งมาผมให้สัญญาตามนั้นครับ แต่ถ้าความลับจะหลุดไป คงไม่ใช่เพราะผม ผมเชื่อว่ามีใครอ่านเห็น...

งานของคุณโรจน์ซับซ้อนมาก จนเกินกว่าระดับสติปัญญาของผมที่จะเข้าใจครับ...  มีแค่ความหวังดี แต่อาจไม่เข้าใจในความตื้นลึกหนาบางของแต่ละธุรกิจ เลยเสนอแต่มุมมองของผม...

ยังไงก็ตัดสินใจให้ดีครับ เมื่อก่อนของโลกผมก็สวยงามมาก...

เป็นกำลังใจให้เสมอครับ...

 ;) ;) ;)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ ธันวาคม 23, 2012, 09:13:04 AM
พี่ dignitua-รักในหลวง ลองดีคลิบนี้นะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=MCPPrIA8inY&feature=share&list=UUIg0K9rjPuEWEvizx1c_XNw

ชายคนนี้สานต่อไอเดียผม จนหมด และ ขึ้นจากไม่มีชื่อมาเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดพิจิตร แซงหน้าคนที่ทำงานนี้มาเป็นสิบๆ ปี

พูดแบบสั้นๆ หลักการถ่ายวีดีโอตามงาน ส่วนใหญ่จะถ่ายกันเป็นช็อตๆ แล้วนำมาตัดต่อ ผมบอกว่า พี่มีเงิน ซื้อกล้อง ซื้อ โปรเจ็คเตอร์ดี ทีวีดีๆ

ทำเต็มระบบเลย ถ่ายทุกมุม อย่าสนใจเรื่องม้วนเทป เพราะว่า งานเราย้อนเวลาไปถ่ายไม่ได้ ด้วยนิสัยคนไทยเสียดาย เห็นตรงนี้ก็ดีตรงนั้นก็ดี

อยากจะเก็บไว้ให้หมด ไม่เกินปีเดียว เดี๋ยวดัง ตอนนี้งานเขาหลักพันปลาย ถึงหลักหมื่นกลางๆ งานเต็มมือตลอด

เครื่องมือเกี่ยวกับพิธีการมีให้ครบ ใช้ของเราได้เลย แบบว่ารับจ้างที่เรา มีของใช้ให้ด้วย แบบสวยงาม ดูดี นี่ก็หนึ่งไอเดียผม ที่มีคนรับช่วงความคิดผมไปทำ

เช่นการตัดต่อในสมัยนั้นเป็นวีซีดี ผมทำให้การ render ภาพไม่เป็นตะแกง ถาพออกมาเนียน แต่ต้องใช้เครื่องที่มีคุณภาพดีหน่อย  และ ถ้าใช้เทปม้วนเดียว

กัน มาให้สองร้าน ทำวีดีโอถาพจะออกมาต่างกันเพราะว่า เครื่องที่ใช้ในการตัดต่อ โปรแกรมวินโดว์ที่ลง และการปรับแต่งต่างกัน โปรแกรมที่ใช้ตัดต่อ เวอร์ชั่นที่ใช้

ของโปรแกรม และที่สำคัญค่าปรับแต่งของคอมฟิกที่ตัวโปรแกรมตัดต่อ 

บางท่านเป็นอาจารย์ แค่ปี กว่า ถูกดึงเข้าหน่วยงานใหญ่ที่สุดในสายงานเขาในจังหวัดและขึ้นมาเป็นมือ 1ของจังหวัดในสายงานเขา


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 23, 2012, 10:58:26 AM
ถ้าเป็นแนวภาพเคลื่อนไหวผมชอบแบบ No edit ครับ... บ่งบอกถึงการเตรียมพร้อมของคิวของทุกคน ทำงานเป็นทีม พลาดคนเดียวต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดประมาณคลิปนี้ครับ...

https://www.youtube.com/watch?v=qE7WijeShQM&feature=youtube_gdata_player


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Skeleton_King ที่ ธันวาคม 23, 2012, 07:46:35 PM
หนัก


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ ธันวาคม 23, 2012, 08:49:46 PM
คำนวณเหมือน อ.สมชายว่าไว้ถูกต้องที่สุดแล้วครับ เงิน 3M กี่ปีจะคืนทุน เทคโนโลยีล้าสมัยไปเรื่อย ๆ

เหมือนน้าตั้วว่า ปัจจุบันคนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่มากกว่าซ่อม โน๊ตบุค     เหมือนลูกผม เมื่อก่อนตอนผมซื้อมาใช้สามหมื่นกว่าบาท ตอนแรกแบตเสีย ถามราคาแบต ห้าพัน เลยเลิกใช้แบต เสียบปลั๊กตลอด  ตอนนี้คีย์บอร์ดเสีย เหมือนกันค้างเลยใช้คีย์บอร์ดไร้สาย  ถ้ามันเสียอย่างอื่นอีกเลิกใช้ขายซาก เพราะตอนนี้เครื่องใหม่ราคาหมื่นกว่าบาทครับ เทคโนโลยีพวกนี้มาเร็วไปเร็วครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ ธันวาคม 23, 2012, 09:35:19 PM
ถ้าเรารู้ลึกรู้จริงทำเองเป็นก็ไปได้หมดแหละครับ   ถ้าพึ่งพาคนอื่นมากก็อาจไม่สำเร็จคนปัญหาเยอะครับ


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ธันวาคม 24, 2012, 09:03:52 AM
ถามช่างโรจน์


งานนี้ต้องมีลูกน้องไหม กี่คน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน รวมค่าน้ำค่าไฟฟ้า ตกวันละเท่าไหร่
ค่าMaintenanceเครื่องมือ3ล้านที่ว่า วันละเท่าไหร่
คิดว่ามีกลุ่มลูกค้าในมือ เฉลี่ยวันละกี่รายครับ เมื่อได้เครื่องนี้มา แล้วจะซ่อมได้โดยเฉลี่ยวันละกี่ราย

ลอง+ -ดูครับ  คนเราจะรู้จักกำไรได้ดีถ่องแท้ เมื่อรู้จักต้นทุนครับ
ไม่ใช่แค่เครื่องราคา3ล้านหรอก(Fixed Cost) ต้นทุนที่ว่ารวมต้นทุนรายวันหรือต้นทุนแปรผันด้วย
(Variable Cost)

ผ่านมา5หน้า ขอพูดต่อ
ยังค้างอยู่อีกเรื่อง แต่ไม่มีใครกล่าวถึงคือเรื่องของ "ค่าเสื่อมราคา (Depreciation)"

ค่าเสื่อมราคา คือ ค่าใช้จ่ายที่ตัดจากมูลค่าของสินทรัพย์ ที่กิจการใช้ประโยชน์ประจำงวด ทั้งนี้เพราะสินทรัพย์
ประเภทอาคาร  อุปกรณ์  เครื่องจักร  รถยนต์  เป็นสินทรัพย์ที่มีไว้ใช้งานเป็นระยะเวลายาวนานและมักจะมี
มูลค่าสูง  จึงมีการประมาณประโยชน์จากสินทรัพย์เหล่านี้เฉลี่ยเป็นค่าใช้จ่ายแต่ละงวด

การคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์มีหลายวิธี แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงวิธีที่นิยมปฏิบัติกันโดยทั่วไป คือวิธีเส้นตรง  
โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้

ค่าเสื่อมราคา/ปี  =  มูลค่าสินทรัพย์  -  ราคาซาก ( ถ้ามี) / อายุการใช้งาน(ปี)

ผมไม่เชี่ยวเรื่องอุปกรณ์คอมป์หรืออุปกรณ์ซ่อมคอมป์มากนัก แต่รู้ว่าเทคโนโลยีค่อนข้างไวมาก
ไม่กี่ปีก็ตกรุ่น หรือยกเลิกการใช้เทคโนโลยีนี้ไป มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา

สมมุติว่าเครื่อง3ล้านที่ว่ามีอายุการใช้งานสัก4ปี แล้วเหลือราคาซากสัก5แสนนะครับ(เน้นว่าสมมุติ)
คิดตามวิธีเส้นตรงตามสูตรด้านบน

จะได้ว่า ค่าเสื่อมราคา/ปี = 3,000,000 - 500,000 / 4

ผลลัพท์ที่ได้คือ 625,000 / ปี

หรือ 52,083.33 / เดือน

หรือ1,736.11 / วัน

หมายความว่า ใน1วัน เมื่อช่างโรจน์ทำงานได้เงิน 1,737บาท นั่นคือได้ค่าเครื่องที่ว่าคืน
ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายน้ำไฟ ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าลูกจ้าง ค่าน้ำมัน(เดินทาง)


ต้นทุนเบื้องต้น / วัน สำหรับเครื่อง3ล้านนี้ คิดตามสูตรด้านบน โดยใช้ตัวเลขสมมุติ
ได้ราวๆนี้ แต่คิดว่าช่างโรจน์ คงมีตัวเลขในใจที่ใกล้เคียงความจริงกว่าของผมนะครับ
ลองแทนค่าในสูตรดู



อ้างอิงข้อมูล"ค่าเสื่อมราคา"จาก
http://www.cvc-cha.ac.th/accounting/depreciation.php (http://www.cvc-cha.ac.th/accounting/depreciation.php)


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 24, 2012, 10:57:40 AM
เสริมพี่ซับอีกนิดครับ..

ต้องเผื่อ "หนี้สูญ" กับ "หนี้สงสัยจะสูญ" ด้วยครับ.. อันนี้โดนบ่อย... :OO


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ธันวาคม 24, 2012, 11:43:58 AM
เสริมพี่ซับอีกนิดครับ..

ต้องเผื่อ "หนี้สูญ" กับ "หนี้สงสัยจะสูญ" ด้วยครับ.. อันนี้โดนบ่อย... :OO


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

และ  "One man show"  โตไม่ได้ อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

เก่งแค่ไหนก็ "ไม่โต"  เพราะไม่มี "Team work"  อ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 24, 2012, 01:57:36 PM
ผมไม่เชี่ยวเรื่องอุปกรณ์คอมป์หรืออุปกรณ์ซ่อมคอมป์มากนัก แต่รู้ว่าเทคโนโลยีค่อนข้างไวมาก
ไม่กี่ปีก็ตกรุ่น หรือยกเลิกการใช้เทคโนโลยีนี้ไป มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา

ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ฯ มี พระราชกฤษฎีกาของกรมสรรพากรฯ ฉบับที่ 145/2527 ในมาตรา 4 จัตวา, เขาให้หักค่าเสื่อมให้หมดใน 3 ปีเลยครับ... แต่โดยปรกติพวกที่ปรึกษาการลงทุน+ธนาคาร มักยอมให้หักแบบอัตราก้าวหน้า(MACRS) ให้หมด 5 ปี ในกรณีที่โครงการนั้น"ดี" คือเครื่องนั้นน่าจะสามารถสร้างรายได้ถึงแม้จะไม่เหลือมูลค่าตามบัญชีแล้วครับ...

การหักค่าเสื่อมแบบยาวหน่อยได้ถึง 5 ปีนี่สำหรับคิดรายรับรายจ่ายสำหรับโครงการขอกู้เท่านั้น... แต่สรรพากรไม่รับรู้ครับ จะยึดถือตามกฎหมายเท่านั้น...

ลิ้งก์กฎหมายที่ว่าครับ... http://www.rd.go.th/publish/2369.0.html


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ธันวาคม 24, 2012, 02:01:19 PM
เหตุผลมีแยะมาก ที่ไม่น่าทำโครงการนี้ครับ หากไปกู้เงินธนาคารก็จะไม่ผ่านถึงแม้หลักประกันจะดีเท่าใด(ยกเว้นไปกู้แบบอื่นแล้วยักเงินมาเข้าโครงการฯ แบบที่แบ็งค์ไม่ต้องถามว่าเอาไปทำอะไร - เช่นเอาอสังหาไปค้ำขอ OD)... แต่ถ้า จขกท. จะทำเองก็ต้องรับความเสี่ยงเองครับ...


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: Chesmu ที่ เมษายน 08, 2013, 06:31:07 PM
เครื่องซ่อม เป็นเครื่องที่ใช้ใน กึ่งอุตสาหกรรมขนาดที่ .....

เครื่องนี้สั่งกันที่ สำงานงาน เช่น dtac true acer hp dell มีที่บริษัทแม่เท่านั้น ....


ซ่อม notebook ipad iphone ipod tablet pc และ  mobile


ถ้าได้ รวดเร็ว ทันใจ

ลูกค้า ตรึมแน่ครับ

เพราะอุปกรณ์ จำพวกนี้ มีโอกาส เสียได้ง่าย

ยิ่งลงเกม ลงแอป  เดี๋ยวก็ เดี้ยง....

ไม่นาน ก็คืนทุน ครับ



ตัวอย่างแบบเห็นได้ชัดคือ เมื่อวานผม นำ notebook ลูกค้าไปเปลี่ยน chip ที่ร้านที่รับซ่อม  ค่า chip 1500 รวมทั้งหมดที่ผมต้องจ่าย ไปคือ 2500 บาท

นี่ราคาช่างครับ ผมต้องมา+ ลูกค้าเพิ่ม และยังไม่รวม ค่าน้ำมันรถที่ผมต้องเดินทางไปอีก 2 รอบ รอบละ 120 กิโล คูณ 2 ก็ 240 กิโล กับการหิ้ว

ไปให้เขา ทีละ 3-5 เครื่อง ลูกค้าต้องรอถึง 2 ต่อคือ จาก ผม และ จากที่ผมนำไปให้ทำอีกรอบ
ตัวอย่างแบบเห็นได้ชัดคือ เมื่อวานผม นำ notebook ลูกค้าไปเปลี่ยน chip ที่ร้านที่รับซ่อม  ค่า chip 1500 รวมทั้งหมดที่ผมต้องจ่าย ไปคือ 2500 บาท

นี่ราคาช่างครับ ผมต้องมา+ ลูกค้าเพิ่ม และยังไม่รวม ค่าน้ำมันรถที่ผมต้องเดินทางไปอีก 2 รอบ รอบละ 120 กิโล คูณ 2 ก็ 240 กิโล กับการหิ้ว

ไปให้เขา ทีละ 3-5 เครื่อง ลูกค้าต้องรอถึง 2 ต่อคือ จาก ผม และ จากที่ผมนำไปให้ทำอีกรอบ

i am also searching some good calling option tablet.if you have any idea please share.Thanks in advance..


หัวข้อ: Re: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม
เริ่มหัวข้อโดย: เขาใหญ่ ที่ เมษายน 11, 2013, 09:44:24 PM
เดี๋ยวนี้เครื่องใช้ไฟฟ้านิยมจ้างเอกชนรับเหมาซ่อมนะครับ หลายๆยี่ห้อ ในจังหวัดมีร้านนึง รับเหมาซ่อมของหลายยี่ห้อ  ไม่รู้วงการมือถือและคอมฯเป็นยังไงนะครับ

ถ้าเป็นตัวแทนของแบรนท์ใหญ่ๆน่าจะคุ้ม แต่ต้องมีลูกน้องอีกหลายคน ช่างฝีมือซะด้วย จะหาลูกน้องแนวนี้ได้มั้ยครับ?  เรื่องคนเรื่องใหญ่ คนเก่งคงเลือกทำงานบริษัทใหญ่ๆมั่นคง เงินเดือนสูง สวัสดิการดี ไม่ก็เปิดกิจการเอง

แล้วเครื่องแบบนี้มันจะล้าสมัยไวรึเปล่า กลัวเทคโนโลยีเปลี่ยนไว เครื่องจักรแพงๆจะล่าสมัียไป เหมือนร้านอัดรูปสมัยก่อน เครื่องหลายล้าน กลายเป็นวัตถุโบราณไปซะงั้น 

เรื่องเเรงงาน พนักงาน คนงาน นี่เเหละปัญหาหลัก คิดที่ไรมึนหัวตึบ

สอน ปั้น ฝึก มากับมือสิ้นปีได้โบนัส หายจ้อย