เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

กกพ.ขึ้นค่าไฟFTมค.-เมย.56จำนวน4สต./หน่วย
มติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ประจำเดือน ม.ค.-เม.ย.56 ขยับขึ้น 4 สต./หน่วย รวมเป็น 52 สต./หน่วย โดยอัตราที่ปรับยังต่ำกว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง


(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/175877.jpg)


เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกพ.มีมติเห็นชอบการประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ ประจำเดือน ม.ค. – เม.ย. 56 ขึ้น 4.04 สต.ต่อหน่วย  เมื่อรวมกับเอฟทีเดิมเอฟทีงวดนี้จึงเท่ากับ 52.04  สต.ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของประชาชนเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.72 บาทต่อหน่วยเป็น 3.76 บาทต่อหน่วย
 
 
ทั้งนี้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเอฟทีที่ปรับขึ้นเกิดจากต้นทุนค้างจ่ายของประชาชนที่ กฟผ.แบกรับภาระไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่การลดค่าไฟฟ้าช่วงน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 -ต้นปี 55 โดยช่วงนั้น กฟผ.แบกรับภาระกว่า 10,000 ล้านบาท และทาง กกพ.พิจาณาเกลี่ยต้นทุนภาระดังกล่าวคืนแก่ กฟผ. จนทำให้งวดนี้เหลือเพียง 5,131 ล้านบาท และจะมีการเกลี่ยอย่างต่อเนื่องโดยงวดหน้าเหลืออีกประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท จะมีผลทำให้คาดว่าค่าไฟฟ้างวดต่อไปยังปรับเพิ่มขึ้น
 
“กกพ.ได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาวะเศรษฐกิจ และไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน จึงเห็นชอบให้มีการปรับขึ้นในอัตราดังกล่าว จากเดิมที่หน่วยงานผลิตไฟฟ้าเสนอปรับขึ้นมาในอัตรา 13.57 สต.ต่อหน่วย โดยต้นทุนที่มีภาระในส่วนนี้ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมรับภาระแทนประชาชนเป็นการชั่วคราวไปก่อนวงเงิน 5,131 ล้านบาท”
 
นายดิเรก กล่าวว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังเกิดจากประเทศพม่าจะหยุดจ่ายก๊าซชั่วคราวประมาณเดือน ก.พ. และเดือนเม.ย. นี้  ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าต้องมีการใช้น้ำมันทดแทนก๊าซธรรมชาติบางส่วน จึงทำให้ต้นทุนขยับสูงขึ้น ประกอบกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ทรงตัวระดับสูง

ทางด้านนายสมมาต ขุนเศษฐ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้น 4.04 สต.ต่อหน่วยนั้นไม่ถือว่าสูงมาก แต่ที่ภาคอุตสาหกรรมกังวลคือค่าเอฟทีปรับขึ้นมาตลอดทุกๆ 4 เดือน ส่งผลให้ค่าเอฟทีสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดไปอยู่ที่ 52 สต.ต่อหน่วยแล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ดังนั้นต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเรื่องค่าไฟฟ้าบ้าง ไม่อย่างนั้นทั้งภาคธุรกิจและประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนแน่นอน

อะไรๆก็ขึ้น หึๆๆ

มีอยู่อย่างเดียว ไม่ค่อยขึ้น......หึๆๆ

สงสัยเอาชดเชยที่สมุย ::012::

ฮาๆๆๆๆ...ไม่ออกหล่ะทีนี้...ไม่ใช่ใครที่ไหนที่...ฮาๆๆๆๆไม่ออก...ผมนี่แหละคนนึง...

ทำกังหันลมปั่นไฟฟ้าขนาดเล็กใช้เองดีกว่า ;D

(http://www.alternative-energy-news.info/images/technical/wind-turbine.jpg)

ข่าวดีของคนส่วนน้อย ข่าวร้ายของคนส่วนใหญ่

ผมเห็นมันขึ้นตลอดนะ ดูซิ ;D ::008:: ::008:: ::008::

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=553000009450701)



http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000089074

ต้นทุนที่แท้จริง

เคยเจอไหมครับ 

รปภ ของการไฟฟ้า ไม่บอกว่าที่ไหน เงินเดือน เกิน 30,000  บาท

อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจคือไฟฟ้าเป็นของรัฐเราใช้ไฟฟ้าเราจ่ายค่าไฟฟ้าเงินก็เข้ารัฐแล้วทำไมรัฐต้องมาคิดภาษีมูลค่าเพิ่มอีก๗เปอร์เซ็นต์เอากับเราด้วยไม่เข้าใจจริงๆครับ

  เถียงไม่ขึ้นไม่รู้จะเอาไปสู้กับมัน  สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำใจยอมรับและก้มหน้าทำงานหาเงินมาใช้ค่าไฟให้มัน :~) :~) :~)

นี่ยังดีนะครับผมว่า   ที่มันเข้าตลาดหุ้นไม่สำเร็จ  ถ้ามันทำได้        อ่วมครับ

ผมเห็นด้วยครับ

ต้นทุนขึ้นสิ กฟภ.แถวบ้านผมออฟฟิศเลิกงาน15.30 ฝ่ายช่าง15.00

เดินหม้อ3เฟสจ้างช่างนอกมาเหมางานติดตั้ง+เดินสายให้


ถวายนิ้วกลางให้2นิ้วเลย

อาจเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ทำงานมานานรึเปล่าครับ ปัจจุบันบุคลากรกลุ่มนี้ องค์กรร์ภาครัฐเขาจะปล่อยให้เกษียณอายุ  จะไม่ได้รับเข้าใหม่  แต่จะจ้าง outsource เขามาทำแทน โดยมีสวัสดิการและเพดานเงินเดือนไม่สูงเท่าสมัยก่อน

รัฐก็เหมือนกับแด็กคิวล่าละครับมันกำลังต้องการเลือดมันทำกันทุกวิถีทางที่จะเอาเงินมาสนองนโยบาย รถคันแรก,รับจำนำข้าว,ไหนจะมีหุ้น ปตท.ที่มันถือไว้อีกหละเงินเข้ากระเป๋าพวกมันทั้งนั้นเลย กรรมมันก็จะตกอยู่ที่ประชาชนตาดำๆครับ(ลืมอีกอย่างขึ้นค่าแก๊ส) อิอิ  ;D

รัฐฯ หาเงินไปทำประชานิยมต่อครับ   ::012::

เราซื้อไฟจาก บริษัท ของรัฐครับต้องเสีย VAT
ตราบใดที่ยังต้องใช้เชื้อเพลิงปั่นไฟฟ้าอยู่มันหนีค่าใช้จ่าย FT ไม่พ้น

เดิอนที่แล้วไปสิงค์โปร์หลังจากไม่ได้ไปมา 20 ปีปราฏว่าค่าอาหารตามศูนย์อาหารดูเหมือนจะไม่เปลี่ยน เช่น ข้าวมันไก่ก็ $4.80 โค้กถ้วยเล็กแต่ใหญ่กว่าเรา $1.40 มื้อหนึ่ง 6 เหรียญ

ก็นั่นนะสิครับบริษัทของรัฐเราซื้อไฟเงินก็เข้ารัฐอยู่ดีครับ รัฐยังมาเก็บภาษีกับเราอีก

(http://dailygizmo.files.wordpress.com/2008/08/roofray_1.jpg?w=595)
(http://renewableenergythai.com/wp-content/uploads/2012/05/japan_solar_city_1.jpg)
(http://upic.me/i/cb/solar-roof1.jpg)

กังหันลมสำหรับประเทศไทยใช้ได้บางพื้นที่ครับ  ส่วนโซล่าเซลล์ก็ราคาแพง  ถ้ารัฐฯ ทำโครงการ

ให้ประชาชนหันมาติดตั้งโซล่าเซลล์  โดยรัฐสนับสนุนแผงโซล่าเซลล์ราคาถูกหรือให้ผ่อนระยะยาว

ก็คงดี  ติดให้เต็มหลังคาบ้านไปเลยคงได้ไฟเยอะพอดู   ;D

 :~) :~) :~) :~) :~)อยากจะร้อง ดังๆ :<< :<< :<< :<< :<<

เห็นด้วยครับ  ส่วนมาเป็นพนังงานที่มีอายุงานมาก แต่เดียวนี้รุ่นนี้ใกล้จะหมดแล้วครับ   

โซล่า็เซลล์ทำใช้ในบ้านใด้ไม่มีปัญหาครับ  ถ้าเงินถึง     
  :D~ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~  ถ้าทำขายคงอยาก ประเทศไทยมีเงินทุนแต่ไม่มีเส้นทำไม่ใด้  :D~ :D~ :D~ :D~ :D~จากมุมของคนสอดรู้สอดเห็น :<< :<< :<< :<< :<<ชกปากตัวเองก่อนขอหาปากเสีย :<< :<< :<< :<< :<<ตอนนี้ของดีที่เป็นของคนไทยที่เสียภาษีอยู่ในมือ.............หมดละ ::004:: ::004:: ::004:: ::004:: ::004::

Solar cell ใช้ได้ดีในพื้นที่ที่มีหน้าฝนน้อยวันเมฆมากกำลังหายไปเยอะมาก และกลางคืนไม่มีกำลังไฟ จะชาร์ทแบตเก็บไว้ใช้กลางคืนก็ได้แค่แสงสว่างพวกโหลดมอเตอร์ไม่ต้องคิด ลงทุนแบต+ Inverter อีกเยอะ และมีอายุใช้งานอีกด้วย

ก่อนอื่น ทำความเข้าใจหน่วยงานก่อนนะครับ (จะได้ด่าถูกคน 5555) การไฟฟ้าของไทยมี 3 การไฟฟ้าครับ

1.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. หรือ EGAT) มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้า

2.การไฟฟ้านครหลวง (กฟน. หรือ MEA) มีหน้าที่ให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่ กทม., สมุทรปราการ และ นนทบุรี

3.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ. หรือ PEA) มีหน้าที่ให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่ 73 จังหวัด ยกเว้น กทม., สมุทรปราการ และ นนทบุรี

ส่วนการขึ้นต่า ft นั้น กฟภ.(PEA) และ กฟน.(MEA) ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรกับการขึ้นค่า ft นะครับ เก็บมาได้เท่าไหร่ต้องส่งให้ กฟผ.(EGAT) ทั้งหมด

แต่พอขึ้นค่า ft ทีไร กฟภ.และ กฟน. ก็โดนด่าอยู่ร่ำไป ถ้าจะด่าให้ถูกคนต้องด่า  กฟผ. กับ คณะกรรมการฯ กกพ. ครับ



น่าจะตกยุคแล้วแหละครับ ปัจจุบัน รปภ. ใช้ outsource ทั้งหมดแล้วครับ เงินเดือนไม่กี่พันหรอกครับ

แล้วอีกอย่างต้นทุนการดำเนินการต่างๆของ กฟภ.และ กฟน. ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือนพนักงาน, ค่าไฟฟรีสวัสดิการพนักงาน, ค่าจ้าง พขร.,  ค่าจ้าง รปภ. ,ค่าจ้าง outsource ติดมิเตอร์, ไฟดับที่สมุย, ค่าไฟฟรีแสงสว่าง ทางหลวง-เทศบาล-อบต., ค่าขยายเขตไฟฟ้าให้ชาวบ้านในชนบท, ค่าขยายเขตไฟฟ้าให้ชาวเกษตรกร  ต่างๆเหล่านี้ล้วนไม่มีผลกับการขึ้นค่าไฟครับ  การขึ้นค่าไฟเป็นเรื่องของผู้ผลิต (กฟผ.) ล้วนๆครับ

+ 1  เลยครับพี่ ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002:: ::002::     โดนใจ  N1THNCO404

โครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายประกอบด้วย 3 ส่วน คือค่าไฟฟ้าฐาน ส่วนนี้คิดจากไฟฟ้าที่ใช้จริงบวกกับค่าบริการ, ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้ายคือค่าไฟฟ้าผันแปรโดยอัตโนมัติหรือค่าเอฟที (Fuel Tariff) ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อ้างว่าเป็นต้นทุนพลังงานที่นอกเหนือจากค่าไฟ เนื่องจากการกำหนดค่าไฟฐานเพียงอย่างเดียวจะทำให้มีปัญหาต้นทุนไม่สามารถปรับเปลี่ยนทันตามสถานการณ์ตลาดโลกได้ โดยค่าเอฟทีจะมีการพิจารณาทุกๆ 4 เดือน เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและยืดหยุ่นทันสถานการณ์

ปัญหาก็คือนอกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แล้ว ไม่มีใครเคยรู้ว่าค่าเอฟทีถูกคิดจากอะไรบ้าง แต่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก็อนุมัติตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอมาโดยตลอด

- การผลิตไฟฟ้าในประเทศใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่เหตุใดจึงนำราคาก๊าซธรรมชาติไปอิงกับราคาน้ำมันเตา ซึ่งเป็นผลผลิตจากน้ำมันดิบ ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นจึงดันให้ราคาน้ำมันเตาสูงขึ้นตามไปด้วย และเมื่อตรวจสอบต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก

- ปตท.ผูกขาดขายก๊าซให้กฟผ.แพง ดันค่าไฟแพงกว่าที่ควรจะเป็น มันมีกระบวนการสร้างความชอบธรรม ขยับค่าเอฟทีขึ้นสูงสุดตั้งแต่เคยใช้มา ปตท.ขายก๊าซให้กฟผ.แพงกว่าขายให้โรงแยกฯของตัวเอง แม้แต่ค่าผ่านท่อก็แพงกว่ากันมาก แถมยังอ้างตัวเลขใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นข้ออ้างขึ้นค่าเอฟที-ผุดโรงไฟฟ้าเพิ่ม แล้วผลักภาระมาให้ประชาชนอีก กฟผ.มีผลประโยชน์ทับซ้อน ซื้อไฟฟ้าจากบริษัทลูกแพงกว่าเจ้าอื่น ผลักภาระค่าไฟให้ผู้บริโภค ขาดธรรมาภิบาล แถมผู้บริหารกฟผ.นั่งเก้าอี้บริหารในบริษัทลูกอีกหลายคนด้วย


- กฟผ.ซื้อไฟบริษัทลูกแพงกว่าส่อผลประโยชน์ทับซ้อน นอกจากกฟผ.ต้องซื้อก๊าซธรรมชาติจากปตท.ในราคาที่สูงกว่าโรงแยกก๊าซของ ปตท.ถึง 64.3679 บาทแล้ว ยังพบด้วยว่า กฟผ.รับซื้อไฟฟ้าจากบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกฟผ. ในราคาที่แพงกว่า ที่ซื้อจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer: IPP) รายอื่นที่ไม่ใช่บริษัทลูกของกฟผ.

- สูตรคำนวณค่าเอฟทีพบว่า ค่าซื้อกระแสไฟฟ้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเอ็กโกหรือราชบุรีโฮลดิ้ง แพงกว่าที่ซื้อจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเอ็กโกและราชบุรีโฮลดิ้ง ถึง 20-23 เปอร์เซ็นต์ และในแผนพีดีพี ปรับปรุงครั้งที่ 3 จะมีการประมูลไอพีพี เดิมทีการประมูลไอพีพีจะไม่ให้บริษัทลูกของกฟผ.ร่วมประมูล แต่ทราบมาว่า จะให้เอ็กโกและราชบุรีโฮลดิ้ง เข้าประมูลได้โดยตรง จะทำให้ค่าไฟฟ้าแฝงเป็นกำไรของเอกชนหรือเปล่า เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่ผู้บริหารกฟผ. ข้ามไปนั่งเป็นผู้บริหารเอ็กโกและราชบุรี โฮลดิ้ง

- คณะกรรมการและผู้บริหารของกฟผ.หลายคนต่างเข้าไปมีตำแหน่งในเอ็กโกและราชบุรีโฮลดิ้ง เช่น นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการกฟผ. เป็นประธานคณะกรรมการและประธานคณะกรรมการลงทุนของเอ็กโก, นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการบริหารกฟผ. เป็นประธานกรรมการและประธานกรรมการกลั่นกรองการลงทุนของราชบุรี โฮลดิ้ง, นพพล มิลินทางกูร วิศวะกรระดับ 14 ของกฟผ. เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของราชบุรี โฮลดิ้ง เป็นต้น

 :OO เหนื่อยใจแทนคนไทย....