เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ มกราคม 22, 2013, 12:14:17 PM



หัวข้อ: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 22, 2013, 12:14:17 PM

หนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่ง เสี่ยงโชคเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ทั้งที่มิได้มีความรู้อะไรเลย
เนื่องจากได้ทราบข่าวที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กำลังรับสมัคร “นักการภารโรง” ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา

เขาจึงจับรถมากรุงเทพ และเดินกางแผนที่ (ที่เพื่อนเขียนให้) สุ่มถามชาวบ้านถึงที่ตั้งของโรงเรียนนั้น ซึ่งกว่าจะเจอก็เหงื่อตกไปหลายปี๊บทีเดียวแหละ

เมื่อเข้าไปแจ้งความจำนงที่แผนกธุรการ จึงมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้นั่ง และยื่นใบสมัครมาให้กรอกข้อความ นายหนุ่มนั้นก็ยิ้มแหย ๆ ยกมือไหว้แล้วบอกอ่อย ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่า “...ขอโทษครับพี่ ผม...คือว่า... ผม...อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ครับ...”

เจ้าหน้าที่ ที่นั่งรับสมัครอยู่นั้นชักสีหน้าทันที

“...อะไรกัน คิดจะมาสมัครงานที่โรงเรียน ถึงจะตำแหน่งแค่นักการภารโรง ถึงจะไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษา แต่อย่างน้อยก็น่าจะอ่านออก เขียนได้ บ้างแหละ”


หนุ่มบ้านนอกหน้าซีด ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ประหลก ๆ

“...ผมไม่รู้หนังสือจริง ๆ ครับ แต่ช่วยรับผมไว้หน่อยเถิดครับพี่ ให้ผมแบกหามกวาดถูอะไรก็ได้ทุกอย่างครับ”

“งั้นก็คงจะไม่ได้หรอก...” เจ้าหน้าที่เก็บใบสมัครกับปากกาที่วางไว้ให้ คืนอย่างไม่มีเยื่อใย

“...เรามาสมัครงานกับโรงเรียนนะ อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นรู้หนังสือบ้างสิ ถ้าไม่รู้อะไรเลยอย่างนี้ ก็เสียใจด้วยนะ กลับไปเถอะ”

หนุ่มบ้านนอกก็ได้แต่เดินออกจากโรงเรียน ที่ตั้งความหวังว่าจะได้งานทำนั้นอย่างเงื่องหงอย และเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ในกรุงเทพฯ ก็จึงต้องจำใจ กำเงินจำนวนสุดท้าย จับรถ ซมซานกลับบ้าน อย่างนกปีกหัก

…

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน จึงนึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นเพิ่งได้รับมรดกเป็นที่ดินสวนรกร้างเท่าแมวดิ้นตาย มาจากพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว

ด้วยความเจ็บใจ จึงเกิดเป็นแรงมานะ ให้จับจอบเสียม หักร้างถางพงที่ดินสวนเก่าที่รกร้างนั้น และค่อย ๆ พลิกฟื้นลงร่องผลไม้ไปทีละเล็กละน้อยอย่างฮึดสู้ชะตาชีวิต ด้วยความอดทน. . .

…

อาจเป็นบุญในปางบรรพ์ของพ่อหนุ่มคนนี้ก็ได้ ที่ปรากฎว่า หลายปีต่อมา สวนผลไม้ที่ลงแรงไว้นั้นออกผลอย่างงดงาม และสร้างผลกำไรมากทบทวีขึ้นทุกปี กระทั่งสามารถเก็บเงินซื้อที่ดินในแปลงข้างเคียง ขยายอาณาเขตสวนของตนเอง จนกว้างขึ้น และกว้างขึ้น. . .

หลายสิบปีต่อมา จากความขยันขันแข็ง มานะอดทน และประสบการณ์ที่เพิ่มพูน บัดนี้ หนุ่มบ้านนอกคนนั้นก็กลายเป็นชายชราที่คนทั้งเมืองรู้จักในนามของ “พ่อเลี้ยงสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดและภูมิภาคนั้น”

…

อยู่มาปีหนึ่ง เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้มากมายมหาศาล และชำระบัญน้ำบัญชีเรียบร้อย โดยฝีมือของลูกหลานที่เลี้ยงดู ให้การศึกษา และแจกงานการให้ทำในสวนนั้นแล้ว

พ่อเลี้ยงชราก็หอบเงินเป็นฟ่อน นั่งรถเข้ามาในตัวอำเภอเพื่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารเป็นครั้งแรก เมื่อแจ้งนาม และความจำนงกับธนาคารแล้ว พนักงานถึงกับตื่นเต้นกันยกใหญ่ ผู้จัดการสาขาถึงกับเดินมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยทีเดียว

เมื่อพนมมือไหว้ลูกค้าใหญ่ รายใหม่ อย่างนอบน้อมแล้ว ผู้จัดการก็แตะข้อต่อศอกยื่นใบเปิดบัญชีพร้อมปากกาปลอกทองให้กับพ่อเลี้ยงชราอย่างพินอบพิเทา

“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสบริการพ่อเลี้ยงในครั้งนี้ รบกวนกรอกใบเปิดบัญชีด้วยครับ”


พ่อเลี้ยงชราส่ายหน้าช้าๆ ยื่นปากกาปลอกทองคืนให้กับผู้จัดการ พร้อมกับยิ้มให้ พลางกล่าวเนิบๆ

“พ่อหนุ่มช่วยกรอกรายการให้ลุงทีเถิด ลุงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้หรอก...”

ผู้จัดการรับปากกาคืนมาโดยอัตโนมัติแบบงงสุดขีด พลางค่อยๆอ้อมแอ้มถามลูกค้ารายใหญ่ (มาก) อย่างเกรงใจสุดๆ

“... เอ่อ...ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยครับ.....เอ่อ...ขออนุญาตเรียนถามพ่อเลี้ยงด้วยความเคารพนิดหนึ่งเถิดครับ คือ...พวกเราในจังหวัดนี้ก็ทราบกันดีอยู่ถึงชื่อเสียงของพ่อเลี้ยง ในกิจการสวนผลไม้ที่ใหญ่โตและเจริญก้าวหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้ แต่..............”
ผู้จัดการ ชะงัก ด้วยความเกรงใจ

และในที่สุดก็หลุดปากถามออกมาด้วยความฉงนที่มิอาจเก็บไว้ได้จริงจริง

“...แต่ พ่อเลี้ยงอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนหนังสือไม่ได้ หรือครับ...”

“...พ่อหนุ่ม” พ่อเลี้ยงชรายิ้มให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารอย่างใจดี…

“...ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะนะ...”

แกถอนหายใจยาว

ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผู้จัดการถึงกับอึ้งไปนานเลยว่า

“...ป่านนี้ ลุงก็คงได้เป็นภารโรงไปแล้วแหละ...”

~*~*~*~*~*~*~*~*

คุณค่าของเราไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่คนอื่นมองเรา
แต่ขึ้นอยู่กับตัวเรา
โอกาสยังมีอยู่เสมอ ขอเพียงแต่มองไปรอบ ๆ
ตั้งใจทำในสิ่งที่ทำได้ และทำให้เต็มความสามารถ
แล้วดอกผลจะตามมาเอง.


บทความจาก  :  http://www.dhamma4u.com/index.php/section-blog/42-forward-mail/152-2009-03-06-05-15-42.html


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: Nit-ninja-รักในหลวง ที่ มกราคม 22, 2013, 12:24:49 PM
ถูกใจผมมากๆเลยครับ...


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 22, 2013, 01:13:30 PM
พ่อเลี้ยงไม่กลัวอีตา ผจก โกงเอาเหรอ


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 22, 2013, 02:59:51 PM

   +1 อีกครั้งครับพี่อรรถ  ::014::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: Pu[IT48] ที่ มกราคม 22, 2013, 03:13:52 PM
+1 ครับพี่

 ::014::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 22, 2013, 04:49:03 PM
พ่อเลี้ยงไม่กลัวอีตา ผจก โกงเอาเหรอ
เพราะอ่านออกเขียนได้นี่แหละ จึงต้องมาทรมารอยู่ในเมืองกรุง ::008::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มกราคม 22, 2013, 06:26:19 PM
ยุคนี้ต่อให้อ่านออกเขียนได้ ถ้าไม่มีเส้น ภารโรงก็อาจไม่ได้เป็นนะครับ  ::012::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มกราคม 22, 2013, 06:58:00 PM
เหรียญสองด้าน  ยังไงการศึกษาก็สำคัญครับ แต่กับบางคนการศึกษาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไร ๆ ในตัวพัฒนาขึ้นมาเลย

1598 ครับน้าอรรถ           ;D


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ มกราคม 22, 2013, 07:09:26 PM
เหรียญสองด้าน  ยังไงการศึกษาก็สำคัญครับ แต่กับบางคนการศึกษาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไร ๆ ในตัวพัฒนาขึ้นมาเลย

1598 ครับน้าอรรถ           ;D

ขออนุญาตเห็นด้วยครับ
+ 1599 น้่าอรรถ และ +1485 น้าอนัตตาครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มกราคม 22, 2013, 07:15:21 PM
เหรียญสองด้าน  ยังไงการศึกษาก็สำคัญครับ แต่กับบางคนการศึกษาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไร ๆ ในตัวพัฒนาขึ้นมาเลย

1598 ครับน้าอรรถ           ;D

ขออนุญาตเห็นด้วยครับ
+ 1599 น้่าอรรถ และ +1485 น้าอนัตตาครับ  ::014::

581 ครับ      ;D


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 23, 2013, 09:46:24 AM
เหรียญสองด้าน  ยังไงการศึกษาก็สำคัญครับ แต่กับบางคนการศึกษาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไร ๆ ในตัวพัฒนาขึ้นมาเลย

1598 ครับน้าอรรถ           ;D

ขออนุญาตเห็นด้วยครับ
+ 1599 น้่าอรรถ และ +1485 น้าอนัตตาครับ  ::014::

581 ครับ      ;D

                สวัสดีครับพี่นาย  ::014::

      งวดนี้ให้ตาม 3 ตัวนี้เหรอครับพี่นาย.........ฟิ๊ววว  ::005::


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_pop ที่ มกราคม 23, 2013, 12:58:21 PM
           “...ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะนะ...”

แกถอนหายใจยาว

ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผู้จัดการถึงกับอึ้งไปนานเลยว่า

“...ป่านนี้ ลุงก็คงได้เป็นภารโรงไปแล้วแหละ...”

           ชอบประโยคตรงนี้จัง แกคงฝังใจเรื่องอยากเป็นภารโรงอยู่มั๊ง.. ;D ครับพี่.. +1600 ครับ แก


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: Gwethana ที่ มกราคม 23, 2013, 02:34:06 PM
ขอบคุณมากๆเลยครับ มีประโยชน์มาก


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: ANKIMBER ที่ มกราคม 23, 2013, 11:44:54 PM
สมัยนี้คงยาก ที่จบป.4 จะมีลูกน้องเป็นด็อกเต้อ


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: pee308+รักในหลวง+ ที่ มกราคม 24, 2013, 08:17:53 AM

มีกำลังใจขึ้นเยอะ เลย

ขอบคุณ จขกท.


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ มกราคม 24, 2013, 11:03:18 AM
+1 ครับกินใจมากๆเลย  1603


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ มกราคม 24, 2013, 11:25:07 AM
พี่ชายผมจบ ป.7 ครับตอนนี้เป็นเศรษฐี 100 ล้าน แกเก่งเล่นหุ้นครับ และเล่นดุมากพวก ฟิวเจอร์  วอร์แรนด์  มาร์จิ้น  ผู้จัดการแอดคินสัน(สาขา)ยังต้องมานั่งฟังและวิเคราะห์ภาพรวมหุ้นอยู่เลยครับ


หัวข้อ: Re: ข้อคิดจากหนุ่มบ้านนอก
เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2013, 11:28:30 PM
 ::011::+ครับน้าอรรถ เป็นเเรงบันดาลใจสำหรับคนไม่ยอมเเพ้ต่อโชคชะตา ::011:: ::011:: ::011::