หัวข้อ: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มกราคม 30, 2013, 09:43:47 AM นักเรียนเฮ! สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มเทอมแรก 2556 (http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2013/01/homework.jpg) ลดอำนาจครูในการสั่งการบ้านนักเรียน วานนี้ (29 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะดำเนินการในระยะเร่งด่วน คือ การบูรณาการทั้งเนื้อหา เวลาเรียน การวัดและประเมินผล โดยเฉพาะการบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา ด้วยการลดภาระงานของนักเรียน เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยต้องทำการบ้านเยอะมาก ทำให้เด็กเกิดความเครียด ทั้งนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป เด็กไทยทุกคนในทุกระดับชั้นในโรงเรียนสังกัด สพฐ.จะมีภาระการเรียนในห้องเรียน ลดน้อยลง เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้ และทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น รวมทั้งไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป ถ้าเด็กรู้สึกว่าถูกครูให้การบ้านมากเกินไปจนเกิดความทุกข์ก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สพฐ. ได้อีกด้วย ส่วนระยะที่ 2 ของการปฏิรูปหลักสูตรฯนั้น สพฐ.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรฐาน และตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดใดบ้างที่มีมากเกินความจำเป็น เพื่อที่จะได้ตัดทอนและปรับปรุงต่อไป ที่มา : http://news.mthai.com/general-news/215747.html ทุกวันนี้เด็กก็แทบไม่มีการบ้านอยู่แล้ว .... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 30, 2013, 09:52:36 AM งั้นมาสอนเองเลยมา....สาระแนจังเลยพวกไม่มีหน้าที่สอนแต่มีอำนาจเนี่ย
ทุกวันนี้ ครูก็ถูกลดบทบาทจนเหลือแค่คนรับจ้างสอนหนังสืออยู่แล้ว กี่เรื่อง กี่ครั้งมาแล้ว ที่หน่วยงานเบื้องบน ลดทอนความเป็นครู ขัดใจตั้งแต่ไม่ให้ใช้ไม้เรียวแล้วแหละ ครูถือไม้เรียว ไม่ได้หมายความว่า..ต้องตี แต่มีไว้เพื่อป้องปรามพวกนอกลู่นอกทาง ว่า ถ้าเธอยังไม่กลับเข้าลู่ เธอจะถูกตี และครูตีได้.... แต่ถ้าเห็น ๆ อยู่ ว่า ครูเห็นแล้ว แต่ตีไม่ได้ นักเรียนนอกลู่คนไหนมันจะกลัว ....หมาใส่ตะกร้อครอบปาก เห่าให้ตายใคร ๆ ก็ไม่กลัวหรอก.... ไม่แรงไปหรอก เปรียบเทียบยังงี้ เพราะทุกวันนี้ ครูก็มีสถานะลดทอนลงทุกวัน หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 09:59:47 AM เลอะเทอะไปกันใหญ่...ผมไม่สนถ้าไม่ให้การบ้านลูกผม...ผมก็ทำแบบฝึกหัดให้ลูกเองได้...การบ้านถือเป็นแบบฝึกหัดการมีความรับผิดชอบไปในตัวนอกจากวิชาการที่เด็กต้องได้...ทรงผมที่ให้นักเรียนไว้ยาวได้(แบบพอเหมาะ)เชื่อเหอะเด็กมันก็จะไว้ยาวกว่าที่ระเบียบกำหมดขึ้นไปอีก...การให้ไว้ผมสั้นก็ถือว่าเป็นการฝึกการมีระบบมีระเบียบในตัว...แล้วคุณๆพวกปัญญานิ่มที่นักอยู่แต่โต๊ะแล้วคิดโน่นคิดนี่ออกมา...ผมว่าเอาหัวคุณนั่นแหละจุ่มลงไปในโอ่งน้ำสัก ๑๐ นาที เผื่อจะคิดอะไรขึ้นมาแบบดีดีได้...
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: vichai01++รักในหลวง++ ที่ มกราคม 30, 2013, 10:13:40 AM >:( >:( อีกหน่อยคงให้สมัครเรียนแล้วแจกวุฒิการศึกษาเลยครับ ไม่ต้องเรียนมันแล้ว
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: 2..U ที่ มกราคม 30, 2013, 10:19:23 AM เรื่องอื่นๆมีให้คิดและปรับปรุงในระบบการศึกษามีเยอะแยะไม่รู้จักคิดทำ..ไอ้เรื่องห่วยๆสากกระบวยแบบนี้คิดได้กันจัง..
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มกราคม 30, 2013, 10:23:58 AM โรงเรียนกวดวิชาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด สงสัยพวกสมองขี้เป็ดจะได้เงินจากโรงเรียนพวกนี้เยอะ เลยส่งเสริมให้เด็กไทยโง่ๆเข้าไว้ ::005::
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มกราคม 30, 2013, 10:28:38 AM นโยบายต้องการให้ไทยเป็นแหล่งแรงงานราคาถูก ป้อนสู่อาเซี่ยนในอนาคต ::007::
ขอใช้คำพูดที่ยอดฮิตหน่อย ::005:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: mrt ที่ มกราคม 30, 2013, 10:32:38 AM พวกนักวิชาการที่นั่งบนหอคอยงาช้าง ดูงานที่ต่างประเทศแล้วกลัวไม่มีผลงานเสนอกันออกมา
สารพัดครับ เจอมาเยอะมากๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คนปฏิบัติเวียนหัว ปีนี้ให้ทำอย่างนี้ ปีหน้าไม่เอาแล้ว ทำแบบใหม่ :~) นโยบายนี้น่าจะดีกับเด็กที่เรียนพิเศษกระมังครับ เอาเวลาไปเรียนพิเศษเยอะๆ โรงเรียนกวดวิชารับทรัพย์กันไป :~) อยากรู้นักพวกที่ทำงาน สพฐ. นี่มีสักกี่คนที่เคยลงมาสอน มาเจอสถานที่จริง มาคลุกคลีกับเด็กๆจริงๆจังๆ นี่ก็คงไปเห็นที่ใหนมา จึงนำมาปรับเปลี่ยน(คิดได้นะ ลดการบ้าน) คงเห็นเด็กฝรั่ง การบ้านน้อยกว่าเด็กไทย เอาเวลาไปทำกิจกรรมตามความถนัด ลืมนึกไปละกระมังครับ ว่า ประเทศเรามันมีสิ่งจำเป็นรองรับหรือไม่ เช่น เด็กชอบกีฬาก็ไปซ้อมกีฬา แต่ในโรงเรียนอุปกรณ์กีฬายังไม่ค่อยจะมี แถมในประเทศเรา กีฬาอาชีพยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เก่งกีฬาก็ใช่ว่าจะรุ่ง (นักฟุตบอลประจำ จว. เลิกเล่นแล้วทั้งๆที่เก่งมาก อายุยังน้อย บอกได้คิดแล้ว เอาเวลาไปขายหมูตลาดนัดดีกว่า) เด็กชอบเต้น B-Boy สถานที่ซ้อมก็ไม่มี(เต้นกันตามลานปูน พักเดียวเลือด) เคยถามแล้วเด็กๆอยากได้พื้นปาเก้ ถามว่ามีสักกี่ที่ ที่มีสิ่งนี้รองรับ ฯลฯ ที่กล่าวนี่คือผมไม่ได้คิดเองเออเองนะครับ ถามเด็กๆมากับตัว ขาดสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนเด็กๆ แถมโรงเรียนเป็น รร. ประจำ จว. เสียด้วย รร.พวกขยายโอกาสยิ่งไม่ต้องคิด ปล.ผมคิดเองตามประสาคนไม่เคยไปดูงานเมืองนอกเมืองนา แต่คลุกคลีกับเด็กจริงๆ ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 30, 2013, 10:35:44 AM เวรกรรม
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 30, 2013, 10:38:12 AM เล่าให้ฟังสักเรื่อง เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนช่วงหลังปีใหม่นี่เอง
....... โรงเรียนขยายโอกาส(ป.1 - ม.3)แห่งหนึ่งในภาคใต้ ร่วมกับโรงเรียนประเภทเดียวกันในอำเภอจำนวน 3 โรง นำนักเรียน ม.1 ไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีที่ภาคกลาง เป็นเวลา 3 วัน โดยทำกิจกรรมร่วมกันเสมือนโรงเรียนเดียวกัน ....วันที่ 2 ช่วงหัวค่ำก็เกิดเรื่อง นักเรียนชาย 2 คน หญิง 2 คน หายออกจากบริเวณค่ายช่วงหัวค่ำ ทั้งค่ายปั่นป่วนไปหมด ก่อนสว่าง นักเรียนทั้งสี่คนก็ปรากฏอยู่ในเต๊นท์นอนของตัวเอง ทำเป็นหลับ....มุกเดียวกันทั้งสี่คน หาเจอแล้วก็โล่งใจ คาดโทษไว้ กลับมาค่อยว่ากัน ........... คืนเดียวกัน ตอนรุ่งเช้า ครูเข้าตรวจเต๊นท์ก็เจอดีอีกเรื่อง นักเรียนชาย 4 คน กำลังเสพยาบ้ากัน คนหนึ่งจุดไฟรนให้อีกคนสูดควัน ส่วนอีกสองคนกำลังรอคิว..... ....ในภาวะเช่นนั้น สิ่งที่ครูทำได้คือ ระงับเหตุการณ์ ยึดทุกอย่าง แล้วคาดโทษไว้ไม่ให้หนักแน่นนัก เพราะกลัวเด็กหนีเตลิด ................... แล้วก็เลิกค่าย กลับบ้าน มาถึงโรงเรียน นักเรียนทั้งแปดคน สองคดี ถูกเรียกเข้าพบ ผอ. ,รอง ผอ. ,ครูปกครอง ,ครูคนอื่น ๆ อีก 2 - 3 ท่าน โดยแยกเป็นสองกลุ่ม สองคดี คดีแรก หนีออกจากค่าย....เด็กตอบแบบไม่สะทกสะท้านเลย ว่า ไปมีเพศสัมพันธ์กัน... ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงใกล้รุ่ง ในป่าละเมาะใกล้ ๆ ค่าย มีสองข้อความของเด็กหญิงวัย 13 - 14 ปี ที่ลอยหน้าลอยตาำให้การ ทำให้ครูถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก คำแรก "...ก็บรรยากาศมันพาไป หนูห้ามใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ..." กับอีกคำ "...ถ้าครูจะไล่หนูออกเพราะไปเย..กับผู้ชาย ครูได้ไล่ออกหมดทั้งห้องแน่ ...." .............นั่นคดีแรก อีกคดี..........ยาบ้า ตอนพวกที่ถูกคาดโทษยังไม่ได้เข้าพบครู อีกสองคนที่เป็นเพื่อนกัน กลับจากค่าย ลงรถเหมา ไม่ทันถึงบ้านก็ถูกตำรวจจับขณะกำลังซื้อยาบ้า กำนันรับตัวไว้ทั้งสองคน พามาที่โรงเรียน เด็กรับสารภาพสิ้น ว่ามีกี่คนที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเสพยา ผอ.และครู ได้อึ้งกันรอบสอง เพราะรายชื่อที่เด็กว่ามา มันแทบจะทั้งห้อง ตำรวจและกำนัน เจรจากับผู้บริหาร ขอให้เรียกผู้ปกครองมาร่วมรับรู้ในขณะที่ขอตรวจฉี่แบบปูพรมทั้งโรงเรียน ผู้บริหารตกลง แต่ขอให้เป็นช่วงหลังการประเมิน สมศ.ผ่านไปก่อน เพราะหากมีรายงานนักเรียนเสพยาปรากฏขึ้น อย่าหวังผลประเมินผ่านเลย.... ................ ผมถามในฐานะเคยเป็นนักเรียน ในฐานะเคยเป็นครู ในฐานะเป็นผู้ปกครอง ถามทุกท่านว่า อยากให้ลูกเราเป็นแบบนั้นหรือ เมื่อก่อน ยุคไม้เรียวเฟื่องฟู ยุคครูมีอำนาจเต็ม นักเรียนเคยเป็นแบบนั้นหรือเปล่า แล้วเกิดอะไรขึ้น....หรือเป็นเพราะนังเรยา นังมุตตา........... มันก็โทษโน่นโทษนี่ไปได้เรื่อยแหละ แล้วแต่หันไปเห็นอะไรหรือนึกอะไรได้ ถามซ้ำอีกครั้ง หากครูยังมีอำนาจเต็มอย่างแต่ก่อน มีไม้เรียวที่เป็นการลงโทษที่เข้าใจง่าย ๆ เจ็บทันที เจ็บเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ต้องรอปลายเทอม เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความมันส์ในการแอบซั่มกัน... เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความเปรมจากการสูบม้า ไม่คุ้มกับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน... ผู้ปกครองก็เหมือนกัน ความจำสั้น...ลูกเจ็บจากการโดนครูหวดมา จะเป็นจะตาย ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ลูกกูเลี้ยงมาไม่เคยตีสักเผียะ แล้วมึงเป็นใคร... แล้วพอลูกสาวไปซั่มกับผู้ชาย ถูกถ่ายคลิบแอบดูกันในหมู่เพื่อนจนพี่ชายมันได้คลิปไป เอาไปให้แม่ดู....ร้องสิ ร้องเข้าไป ร้องให้พรหมจารีลูกสาวกลับมา แล้วพอลูกกลับมาก็ด่าลูกไม่มีชิ้นดี พอลูกเถียงก็คว้าไม้กวาดมาหวดเอาจนไม้กวาดด้ามหัก....ไหนว่าไม่ตี.. จนสุดท้ายลูกมันก็หนีไปค้างหอพักเพื่อน ไม่กล้ากลับบ้านแต่เงินหมดแล้ว ทำไงดีล่ะ โรงเรียนก็ไปไม่ได้ เดี๋ยวแม่ดักรออยู่ เดี๋ยวครูคอยสมน้ำหน้า ป่านนี้คลิบนั่นคงแพร่ไปทั่วแล้ว.... ..........ฉากนี้แหละ...... จะเป็นศพหรือเป็นโสเภณีก็ฉากนี้แหละ..... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 30, 2013, 10:48:19 AM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ
การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: mrt ที่ มกราคม 30, 2013, 11:16:11 AM เห็นด้วยกับความเห็นคุณ Pandanus ครับ
เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กก็อยากให้ยกเลิกการตี พอโตมาจึงรู้ว่าการตีนั้นมีเหตุผล และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการควบคุมคน เด็กๆส่วนมากรู้จัก ผิด-ถูก แต่ไม่รู้ว่ามีความสำคัญอย่างไร (เช่นการมาโรงเรียนสายผิด แต่ไม่รู้ว่านี่คือการบ่มเพาะนิสัยการตรงต่อเวลา หากไปทำงานบริษัทสายแค่เพียง 1 นาทีทำให้อดได้เบี้ยขยัน พิจารณาโบนัส ฯลฯ) พอมีการลงโทษให้เจ็บ จะได้เข็ดหลาบ ก็โดนยกเลิก พอเด็กไม่โดนตีก็มาสายกันเป็นกิจวัฒน์ ปลายเทอมไปเข้าค่าย 3 - 5 วัน สบายไปไม่ต้องมาเข้าแถวทั้งเทอม (นานกว่านี้ไม่ได้เดี๋ยวปัญหาตามมาอีก) พอมีการประเมินสถานศึกษา ให้เด็กไม่จบก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เขาไม่ยอมส่งงาน ลงโทษก็ไม่ได้ พอไม่เซ็นผ่านในวิชานั้น ก็ให้คนอื่นเซ็นแทน เพราะเดี๋ยวประเมินไม่ผ่านด้านผลสัมฤทธิ์ นักวิชาการด้านการศึกษานี่ อยากรู้จริงๆ มีกี่คนที่เคยสัมผัสการสอน การยืนหน้าประตู รร.ดูการแต่งกายเด็ก การเดินตรวจแถว การไล่จับเด็กตามร้านเกมส์ หรืองานอื่นๆที่ครูธรรมดาๆ เขาทำกัน เห็นนี่แว่วๆมาว่าจะให้เด็กประเมินครู อ้าว !! แล้วทีนี้ครูฝ่ายปกครอง จะทำยังใงกันดีล่ะครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 30, 2013, 11:22:52 AM ::014::+1 ทุกท่านครับ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 30, 2013, 11:35:39 AM งั้นมาสอนเองเลยมา....สาระแนจังเลยพวกไม่มีหน้าที่สอนแต่มีอำนาจเนี่ย ทุกวันนี้ ครูก็ถูกลดบทบาทจนเหลือแค่คนรับจ้างสอนหนังสืออยู่แล้ว กี่เรื่อง กี่ครั้งมาแล้ว ที่หน่วยงานเบื้องบน ลดทอนความเป็นครู ขัดใจตั้งแต่ไม่ให้ใช้ไม้เรียวแล้วแหละ ครูถือไม้เรียว ไม่ได้หมายความว่า..ต้องตี แต่มีไว้เพื่อป้องปรามพวกนอกลู่นอกทาง ว่า ถ้าเธอยังไม่กลับเข้าลู่ เธอจะถูกตี และครูตีได้.... แต่ถ้าเห็น ๆ อยู่ ว่า ครูเห็นแล้ว แต่ตีไม่ได้ นักเรียนนอกลู่คนไหนมันจะกลัว ....หมาใส่ตะกร้อครอบปาก เห่าให้ตายใคร ๆ ก็ไม่กลัวหรอก.... ไม่แรงไปหรอก เปรียบเทียบยังงี้ เพราะทุกวันนี้ ครูก็มีสถานะลดทอนลงทุกวัน เห็นด้วยครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 11:42:43 AM การบ้านก็เหมือนกับการฝึกทักษะ ฝึกกระบวนการคิด ฝึกทบทวน สิ่งที่ได้เรียนมาแล้ว...
...ไม่มีการบ้าน ลดการบ้าน ก็เหมือนกับลดการฝึกฝน... ...มันเอาอะไรคิด..มีหัวไว้ตัดผมอย่างเดียวละมั้ง หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 30, 2013, 11:44:03 AM เล่าให้ฟังสักเรื่อง เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนช่วงหลังปีใหม่นี่เอง ....... โรงเรียนขยายโอกาส(ป.1 - ม.3)แห่งหนึ่งในภาคใต้ ร่วมกับโรงเรียนประเภทเดียวกันในอำเภอจำนวน 3 โรง นำนักเรียน ม.1 ไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีที่ภาคกลาง เป็นเวลา 3 วัน โดยทำกิจกรรมร่วมกันเสมือนโรงเรียนเดียวกัน ....วันที่ 2 ช่วงหัวค่ำก็เกิดเรื่อง นักเรียนชาย 2 คน หญิง 2 คน หายออกจากบริเวณค่ายช่วงหัวค่ำ ทั้งค่ายปั่นป่วนไปหมด ก่อนสว่าง นักเรียนทั้งสี่คนก็ปรากฏอยู่ในเต๊นท์นอนของตัวเอง ทำเป็นหลับ....มุกเดียวกันทั้งสี่คน หาเจอแล้วก็โล่งใจ คาดโทษไว้ กลับมาค่อยว่ากัน ........... คืนเดียวกัน ตอนรุ่งเช้า ครูเข้าตรวจเต๊นท์ก็เจอดีอีกเรื่อง นักเรียนชาย 4 คน กำลังเสพยาบ้ากัน คนหนึ่งจุดไฟรนให้อีกคนสูดควัน ส่วนอีกสองคนกำลังรอคิว..... ....ในภาวะเช่นนั้น สิ่งที่ครูทำได้คือ ระงับเหตุการณ์ ยึดทุกอย่าง แล้วคาดโทษไว้ไม่ให้หนักแน่นนัก เพราะกลัวเด็กหนีเตลิด ................... แล้วก็เลิกค่าย กลับบ้าน มาถึงโรงเรียน นักเรียนทั้งแปดคน สองคดี ถูกเรียกเข้าพบ ผอ. ,รอง ผอ. ,ครูปกครอง ,ครูคนอื่น ๆ อีก 2 - 3 ท่าน โดยแยกเป็นสองกลุ่ม สองคดี คดีแรก หนีออกจากค่าย....เด็กตอบแบบไม่สะทกสะท้านเลย ว่า ไปมีเพศสัมพันธ์กัน... ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงใกล้รุ่ง ในป่าละเมาะใกล้ ๆ ค่าย มีสองข้อความของเด็กหญิงวัย 13 - 14 ปี ที่ลอยหน้าลอยตาำให้การ ทำให้ครูถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก คำแรก "...ก็บรรยากาศมันพาไป หนูห้ามใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ..." กับอีกคำ "...ถ้าครูจะไล่หนูออกเพราะไปเย..กับผู้ชาย ครูได้ไล่ออกหมดทั้งห้องแน่ ...." .............นั่นคดีแรก อีกคดี..........ยาบ้า ตอนพวกที่ถูกคาดโทษยังไม่ได้เข้าพบครู อีกสองคนที่เป็นเพื่อนกัน กลับจากค่าย ลงรถเหมา ไม่ทันถึงบ้านก็ถูกตำรวจจับขณะกำลังซื้อยาบ้า กำนันรับตัวไว้ทั้งสองคน พามาที่โรงเรียน เด็กรับสารภาพสิ้น ว่ามีกี่คนที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเสพยา ผอ.และครู ได้อึ้งกันรอบสอง เพราะรายชื่อที่เด็กว่ามา มันแทบจะทั้งห้อง ตำรวจและกำนัน เจรจากับผู้บริหาร ขอให้เรียกผู้ปกครองมาร่วมรับรู้ในขณะที่ขอตรวจฉี่แบบปูพรมทั้งโรงเรียน ผู้บริหารตกลง แต่ขอให้เป็นช่วงหลังการประเมิน สมศ.ผ่านไปก่อน เพราะหากมีรายงานนักเรียนเสพยาปรากฏขึ้น อย่าหวังผลประเมินผ่านเลย.... ................ ผมถามในฐานะเคยเป็นนักเรียน ในฐานะเคยเป็นครู ในฐานะเป็นผู้ปกครอง ถามทุกท่านว่า อยากให้ลูกเราเป็นแบบนั้นหรือ เมื่อก่อน ยุคไม้เรียวเฟื่องฟู ยุคครูมีอำนาจเต็ม นักเรียนเคยเป็นแบบนั้นหรือเปล่า แล้วเกิดอะไรขึ้น....หรือเป็นเพราะนังเรยา นังมุตตา........... มันก็โทษโน่นโทษนี่ไปได้เรื่อยแหละ แล้วแต่หันไปเห็นอะไรหรือนึกอะไรได้ ถามซ้ำอีกครั้ง หากครูยังมีอำนาจเต็มอย่างแต่ก่อน มีไม้เรียวที่เป็นการลงโทษที่เข้าใจง่าย ๆ เจ็บทันที เจ็บเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ต้องรอปลายเทอม เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความมันส์ในการแอบซั่มกัน... เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความเปรมจากการสูบม้า ไม่คุ้มกับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน... ผู้ปกครองก็เหมือนกัน ความจำสั้น...ลูกเจ็บจากการโดนครูหวดมา จะเป็นจะตาย ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ลูกกูเลี้ยงมาไม่เคยตีสักเผียะ แล้วมึงเป็นใคร... แล้วพอลูกสาวไปซั่มกับผู้ชาย ถูกถ่ายคลิบแอบดูกันในหมู่เพื่อนจนพี่ชายมันได้คลิปไป เอาไปให้แม่ดู....ร้องสิ ร้องเข้าไป ร้องให้พรหมจารีลูกสาวกลับมา แล้วพอลูกกลับมาก็ด่าลูกไม่มีชิ้นดี พอลูกเถียงก็คว้าไม้กวาดมาหวดเอาจนไม้กวาดด้ามหัก....ไหนว่าไม่ตี.. จนสุดท้ายลูกมันก็หนีไปค้างหอพักเพื่อน ไม่กล้ากลับบ้านแต่เงินหมดแล้ว ทำไงดีล่ะ โรงเรียนก็ไปไม่ได้ เดี๋ยวแม่ดักรออยู่ เดี๋ยวครูคอยสมน้ำหน้า ป่านนี้คลิบนั่นคงแพร่ไปทั่วแล้ว.... ..........ฉากนี้แหละ...... จะเป็นศพหรือเป็นโสเภณีก็ฉากนี้แหละ..... เรื่องจริง แถวบ้านเด็กนักเรียนประถมโรงเรียนข้างบ้านเกือบทุกคนมีมือถือ ข้างในเต็มไปด้วยคลิ๊ปโป๊ทั้งนั้น หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 30, 2013, 11:47:25 AM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป ตามตัวแดงครับ, นั่นคือแก่นของการบ้านเลย... แล้วบังคับให้พ่อแม่ต้องเรียนรู้ตามลูกไปด้วย ไม่งั้นสอนหนังสือลูกไม่ได้... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มกราคม 30, 2013, 11:49:13 AM ::014::+1 ทุกท่านครับ +คืนจ้า :VOV: :VOV: :VOV: ผมหมดอาลัยตายอยากกับการศึกษาของบ้านเมืองเราตั้งแต่สมัยเปลี่ยนชื่อจาก"วิทยาลัยครู"เป็น"ราชภัฎ"จนเป็น"มหาวิทยาลัยราชภัฎ"ในปัจจุบันนี้แล้วครับ คำว่า"วิชาชีพครูและจรรยาบรรณในความเป็นครู"คงเหลือในตัวบุคคลที่มีอาชีพครูน้อยมาก หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 30, 2013, 11:56:38 AM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป กว่าจะทำการบ้านเสร็จแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่าสามทุ่มครึ่งครับ สำหรับเด็กๆที่บ้าน หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 30, 2013, 12:07:24 PM ::014::ในความเข้าใจของผม...การบ้าน นอกเหนือจากการทดสอบความรู้ความเข้าใจของเด็กแล้ว ยังเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักการบริหารเวลา-มีความรับผิดชอบอีกด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 30, 2013, 12:08:38 PM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป กว่าจะทำการบ้านเสร็จแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่าสามทุ่มครึ่งครับ สำหรับเด็กๆที่บ้าน ก็แปลว่า ผู้ปกครองจะนอนก่อนก็ไม่ได้ ใจความสำคัญของการดำรงชีวิตในแต่ละวันของเราคืออะไร....เราคงลืมไปแล้ว เราจะเอาเวลาไปทุ่มเทกับการหาเงินมาผ่อนบ้าน บ้านนั้นซื้อให้ใคร ให้ลูกอยู่ต่อไปมิใช่หรือ เราจะซื้อรถ รถนั่นก็เพื่อให้เมียเอาไปส่งลูกที่โรงเรียน ลูกจะได้ไม่อายเพื่อนเวลาผู้ปกครองมารับมาส่ง จ่ายค่าเทอม ค่าเทอมใคร ของลูกใช่หรือไม่ ค่าเรียนพิเศษ ค่าเข้าค่ายฤดูร้อน ค่าติวเพือให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนดี ๆ นี่ก็ว่าจะซื้อแทบเล็ตจอใหญ่สักเครื่อง เห็นลูกมันบ่น ๆ ว่าเพื่อนเขามีกัน ...ให้ลูกอีกละ ทำ ๆ ทั้งหมดนี่ ให้ลูกทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่ลัดขั้นตอน ไดเร็กลงไปที่ตัวลูกเลยล่ะ โรงเรียนกวดวิชาเหรอ เด็กประถมเนี่ยนะ เราจบตั้ง ป.ตรี ป.โท กวดวิชาเด็กประถมทำไม่ได้ก็เอาวุฒิมาพับรองขาโต๊ะซะ อาจจะเสียเวลา เสียอารมย์สักหน่อย ลูกมันจะดื้อแต่กับเราเท่านั้นแหละ กับคนอื่นเชื่องเป็นแมวเลยหละ แต่เราได้สัมผัสโลกของลูก โลกที่เราเพิ่งผ่านมาเมื่อยี่สิบปีก่อน ลองเล่าเรื่องตอนนั้นให้ลูกฟังสิ ลูกชอบจะตายไป ....ลูกอยู่กับเราแค่ตอนแรกเกิดถึงไม่เกิน ม.ต้น เท่านั้นแหละ หลังจากนั้น เป็นช่วงของเพื่อน ของแฟนเขา อยู่มหาวิทยาลัย เราอยากสอนการบ้านลูกยังไงก็ทำไม่ได้ งั้นก็เริ่มทำเสียแต่วันนี้ดีกว่า หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ มกราคม 30, 2013, 12:16:32 PM เออ ยิ่งคิดยิ่งตกต่ำไปเรื่อยๆนะ ใครมีทุนพอจะส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศได้ส่งไปเลยแถวมาเลก็ได้ เดี๋ยวมาวัดผลตอนเข้า AEC ดูผมว่าเราจะเป็นที่โหล่
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: him1911@1 ที่ มกราคม 30, 2013, 12:24:43 PM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป กว่าจะทำการบ้านเสร็จแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่าสามทุ่มครึ่งครับ สำหรับเด็กๆที่บ้าน ก็แปลว่า ผู้ปกครองจะนอนก่อนก็ไม่ได้ ใจความสำคัญของการดำรงชีวิตในแต่ละวันของเราคืออะไร....เราคงลืมไปแล้ว เราจะเอาเวลาไปทุ่มเทกับการหาเงินมาผ่อนบ้าน บ้านนั้นซื้อให้ใคร ให้ลูกอยู่ต่อไปมิใช่หรือ เราจะซื้อรถ รถนั่นก็เพื่อให้เมียเอาไปส่งลูกที่โรงเรียน ลูกจะได้ไม่อายเพื่อนเวลาผู้ปกครองมารับมาส่ง จ่ายค่าเทอม ค่าเทอมใคร ของลูกใช่หรือไม่ ค่าเรียนพิเศษ ค่าเข้าค่ายฤดูร้อน ค่าติวเพือให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนดี ๆ นี่ก็ว่าจะซื้อแทบเล็ตจอใหญ่สักเครื่อง เห็นลูกมันบ่น ๆ ว่าเพื่อนเขามีกัน ...ให้ลูกอีกละ ทำ ๆ ทั้งหมดนี่ ให้ลูกทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่ลัดขั้นตอน ไดเร็กลงไปที่ตัวลูกเลยล่ะ โรงเรียนกวดวิชาเหรอ เด็กประถมเนี่ยนะ เราจบตั้ง ป.ตรี ป.โท กวดวิชาเด็กประถมทำไม่ได้ก็เอาวุฒิมาพับรองขาโต๊ะซะ อาจจะเสียเวลา เสียอารมย์สักหน่อย ลูกมันจะดื้อแต่กับเราเท่านั้นแหละ กับคนอื่นเชื่องเป็นแมวเลยหละ แต่เราได้สัมผัสโลกของลูก โลกที่เราเพิ่งผ่านมาเมื่อยี่สิบปีก่อน ลองเล่าเรื่องตอนนั้นให้ลูกฟังสิ ลูกชอบจะตายไป ....ลูกอยู่กับเราแค่ตอนแรกเกิดถึงไม่เกิน ม.ต้น เท่านั้นแหละ หลังจากนั้น เป็นช่วงของเพื่อน ของแฟนเขา อยู่มหาวิทยาลัย เราอยากสอนการบ้านลูกยังไงก็ทำไม่ได้ งั้นก็เริ่มทำเสียแต่วันนี้ดีกว่า +1 ให้พี่Pandanus ครับ .......... อ่านข้อความแล้ว รู้สึกได้ถึงความห่วงใยจากคนเป็นพ่อที่ลูกๆอยู่ในวัยเรียน ..... ::002:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มกราคม 30, 2013, 12:25:50 PM +1 ทอนคืนครับ ::014::
::014::ในความเข้าใจของผม...การบ้าน นอกเหนือจากการทดสอบความรู้ความเข้าใจของเด็กแล้ว ยังเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักการบริหารเวลา-มีความรับผิดชอบอีกด้วยครับ ถูกต้องครับ การบ้านคือ การทบทวนสิ่งที่เรียนมา ถึงแม้ว่าจะลอกการบ้าน ก็ยังได้เข้าหัวบ้าง ;D กับเป็นการฝึกให้รู้จักวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่เสียเวลามาก ::005:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มกราคม 30, 2013, 12:38:20 PM ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป กว่าจะทำการบ้านเสร็จแต่ละวัน ไม่ต่ำกว่าสามทุ่มครึ่งครับ สำหรับเด็กๆที่บ้าน ก็แปลว่า ผู้ปกครองจะนอนก่อนก็ไม่ได้ ใจความสำคัญของการดำรงชีวิตในแต่ละวันของเราคืออะไร....เราคงลืมไปแล้ว เราจะเอาเวลาไปทุ่มเทกับการหาเงินมาผ่อนบ้าน บ้านนั้นซื้อให้ใคร ให้ลูกอยู่ต่อไปมิใช่หรือ เราจะซื้อรถ รถนั่นก็เพื่อให้เมียเอาไปส่งลูกที่โรงเรียน ลูกจะได้ไม่อายเพื่อนเวลาผู้ปกครองมารับมาส่ง จ่ายค่าเทอม ค่าเทอมใคร ของลูกใช่หรือไม่ ค่าเรียนพิเศษ ค่าเข้าค่ายฤดูร้อน ค่าติวเพือให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนดี ๆ นี่ก็ว่าจะซื้อแทบเล็ตจอใหญ่สักเครื่อง เห็นลูกมันบ่น ๆ ว่าเพื่อนเขามีกัน ...ให้ลูกอีกละ ทำ ๆ ทั้งหมดนี่ ให้ลูกทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่ลัดขั้นตอน ไดเร็กลงไปที่ตัวลูกเลยล่ะ โรงเรียนกวดวิชาเหรอ เด็กประถมเนี่ยนะ เราจบตั้ง ป.ตรี ป.โท กวดวิชาเด็กประถมทำไม่ได้ก็เอาวุฒิมาพับรองขาโต๊ะซะ อาจจะเสียเวลา เสียอารมย์สักหน่อย ลูกมันจะดื้อแต่กับเราเท่านั้นแหละ กับคนอื่นเชื่องเป็นแมวเลยหละ แต่เราได้สัมผัสโลกของลูก โลกที่เราเพิ่งผ่านมาเมื่อยี่สิบปีก่อน ลองเล่าเรื่องตอนนั้นให้ลูกฟังสิ ลูกชอบจะตายไป ....ลูกอยู่กับเราแค่ตอนแรกเกิดถึงไม่เกิน ม.ต้น เท่านั้นแหละ หลังจากนั้น เป็นช่วงของเพื่อน ของแฟนเขา อยู่มหาวิทยาลัย เราอยากสอนการบ้านลูกยังไงก็ทำไม่ได้ งั้นก็เริ่มทำเสียแต่วันนี้ดีกว่า ทุกวันเวลาโรงเรียนเปิด เด็กนักเรียนสามคนกว่าการบ้านจะเสร็จ อย่างน้อยสามทุ่มครึ่ง กว่าผู้ปกครองจะเก็บกวาดบ้านเรียบร้อย ไม่ต่ำกว่าห้าทุ่มครับ การบ้านลูกที่ได้มี ทางโรงเรียนเขาจะมีสมุดคำสั่งให้เราเซ็นต์ และการบ้านลูกทุกวิชาบรรทัดสุดท้ายให้ลงชื่อผู้ปกครองเซ็นต์ครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 30, 2013, 01:56:29 PM นักเรียนเฮ! สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มเทอมแรก 2556 (http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2013/01/homework.jpg) ลดอำนาจครูในการสั่งการบ้านนักเรียน วานนี้ (29 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะดำเนินการในระยะเร่งด่วน คือ การบูรณาการทั้งเนื้อหา เวลาเรียน การวัดและประเมินผล โดยเฉพาะการบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา ด้วยการลดภาระงานของนักเรียน เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยต้องทำการบ้านเยอะมาก ทำให้เด็กเกิดความเครียด ทั้งนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป เด็กไทยทุกคนในทุกระดับชั้นในโรงเรียนสังกัด สพฐ.จะมีภาระการเรียนในห้องเรียน ลดน้อยลง เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้ และทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น รวมทั้งไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป ถ้าเด็กรู้สึกว่าถูกครูให้การบ้านมากเกินไปจนเกิดความทุกข์ก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สพฐ. ได้อีกด้วย ส่วนระยะที่ 2 ของการปฏิรูปหลักสูตรฯนั้น สพฐ.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรฐาน และตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดใดบ้างที่มีมากเกินความจำเป็น เพื่อที่จะได้ตัดทอนและปรับปรุงต่อไป ที่มา : http://news.mthai.com/general-news/215747.html ทุกวันนี้เด็กก็แทบไม่มีการบ้านอยู่แล้ว .... แค่ให้ลดการบ้านมันน้อยไปครับ... จากที่เคยให้สิทธิเรื่องผมมาแล้ว... จากที่เคยยึดไม้เรียวมาแล้ว... ควรให้สิทธิ์เด็กมันเลืิกได้ดวยว่าจะเรียนหรือไม่เรียน... ไม่ต้องมีแล้วคำว่า "การศึกษาภาคบังคับ" ต่อไปใครรักดี... ก็ให้เข้าเรียน... ใครขี้เกียจก็ปล่อยไปตามยะถากรรม... กรรมใครกรรมมัน... ::013:: ::013:: ::013:: ...คนเป็นครูเริ่มท้อแล้วครับ... ::012:: ::012:: ::012:: ::014:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 01:57:35 PM มีอีกมุมมองหนึ่งครับ คือ ณ ปัจจุบัน ครูบางคน บางโรงเรียน สั่งการบ้านเด็กแบบแยะมาก ๆ อาทิวิชาคณิต สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น
เหตุผลการสั่งการบ้านแยะ ๆ มันมีเหตุผลครับ แต่ผมไม่ขออธิบาย เพราะข้อมูลยังไม่ชัดเจนเป็นเพียงแต่คำบอกเล่า สำหรับผม ผมเคยได้ยินหลักสูตร หนึ่งครับ ท่านผู้คิดใช้คำว่า "เพลิน" มาจาก Learn And Play เพราะเด็กนอกจากการเรียนรู้ในห้องเรียนแล้ว ธรรมชาติของวัยจะต้องเล่นเพื่อให้เกิดทักษะการใช้ชีวิตในสังคม มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เสียดายครับ กระทรวงศึกษาไทยไม่เคยคิดจะนำระบบนี้มาใช้พัฒนาเด็กไทยอย่างจริง ๆ จัง ๆ :-[ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 30, 2013, 01:57:53 PM งั้นมาสอนเองเลยมา....สาระแนจังเลยพวกไม่มีหน้าที่สอนแต่มีอำนาจเนี่ย ทุกวันนี้ ครูก็ถูกลดบทบาทจนเหลือแค่คนรับจ้างสอนหนังสืออยู่แล้ว กี่เรื่อง กี่ครั้งมาแล้ว ที่หน่วยงานเบื้องบน ลดทอนความเป็นครู ขัดใจตั้งแต่ไม่ให้ใช้ไม้เรียวแล้วแหละ ครูถือไม้เรียว ไม่ได้หมายความว่า..ต้องตี แต่มีไว้เพื่อป้องปรามพวกนอกลู่นอกทาง ว่า ถ้าเธอยังไม่กลับเข้าลู่ เธอจะถูกตี และครูตีได้.... แต่ถ้าเห็น ๆ อยู่ ว่า ครูเห็นแล้ว แต่ตีไม่ได้ นักเรียนนอกลู่คนไหนมันจะกลัว ....หมาใส่ตะกร้อครอบปาก เห่าให้ตายใคร ๆ ก็ไม่กลัวหรอก.... ไม่แรงไปหรอก เปรียบเทียบยังงี้ เพราะทุกวันนี้ ครูก็มีสถานะลดทอนลงทุกวัน ::002:: ::002:: ::002:: ::014:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ มกราคม 30, 2013, 02:24:37 PM ต่อไปเด็กจะติดเกมส์มากขึ้น เสพติดความรุนแรงและเห็นแก่ตัว
และโง่มากขึ้น กรรมเวรประเทศไทย หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ มกราคม 30, 2013, 02:26:07 PM ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้อาจจะเป็น การหวังผลยิงในระยะไกล
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 30, 2013, 02:43:45 PM ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้อาจจะเป็น การหวังผลยิงในระยะไกล ผมคิดครับ แต่ไม่กล้าพูด หลาย ๆ อย่างมันทำให้คิดยังงั้น ตอนนั้น ผมว่า เราคงอยู่(ถ้ายังอยู่)วัยปลาย ๆ เข้าขวางอะไรไม่ได้แล้วมังครับ (http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-frc1/734607_565227453507019_1469581886_n.jpg) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Double Tap^ ที่ มกราคม 30, 2013, 02:48:46 PM เอาเข้าไป .......... เฮ้อ ยังไม่พอไช่ไหม
สพฐ. ต่อไป นักเรียน มัธยมคง มีรากงอกตามก้นเลยมั้ง ผมยาวก็ทีนึงละ ห้ามตีก็แล้ว ลดการบ้านอีก ตาย เอาเข้าไป ............. แค่นี้นักเรียน ก็สบายเหลือทนแล้ว เซง ถ้าโรงเรียนใดก้ารบ้านเยอะก็ลดหน่อยนะครับ สนองนโยบายเค้าหน่อย เดี๋ยว อีกสัก 2-3 ปี ก็ คงใส่ชุดอะไรมาเรียนก็ได้ ตามนักศึกษามหาลัย ตามแบบนักร้องเลยมั้งนี่ เซง ครับ สงสัยลูกท่าน....ไม่อยากตัดผม สงสัยลูกท่าน.....ไม่อยากทำการบ้าน สงสัยลูกท่าน......??????????????????? หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: พญาจงอาง +รักในหลวง+ ที่ มกราคม 30, 2013, 02:50:24 PM ขออนุญาตตัดแปะ ;D
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 30, 2013, 02:58:20 PM ไม่มีใครเพิ่มศักยภาพการศึกษา และัลดศักยภาพทางการศึกษาได้
นอกจากคนในกระทรวงศึกษา..... และนักการเมือง... นักเขียนรุ่นเก่า ไม่แน่ใจว่า นิมิตร ภูมิถาวร, มาลา คำจันทร์ หรือใครสักคน เคยยัดไดอะล็อคแรงๆ ผ่านปากของตัวเอกในนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เคยลงตีพิมพ์ใน นิตยสารมิตรครูไว้ว่า "นักการเมืองต้องการให้ประชาชนโง่ จะได้ปกครองง่าย...." (ขออภัย เรื่องมันนานมาแล้ว จำผู้เขียนได้ไม่แม่น) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ มกราคม 30, 2013, 03:35:42 PM สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น
สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kok ksn ที่ มกราคม 30, 2013, 04:00:30 PM ไม่มีใครเพิ่มศักยภาพการศึกษา และัลดศักยภาพทางการศึกษาได้ มันเรื่องจริงนอกจากคนในกระทรวงศึกษา..... และนักการเมือง... นักเขียนรุ่นเก่า ไม่แน่ใจว่า นิมิตร ภูมิถาวร, มาลา คำจันทร์ หรือใครสักคน เคยยัดไดอะล็อคแรงๆ ผ่านปากของตัวเอกในนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เคยลงตีพิมพ์ใน นิตยสารมิตรครูไว้ว่า "นักการเมืองต้องการให้ประชาชนโง่ จะได้ปกครองง่าย...." (ขออภัย เรื่องมันนานมาแล้ว จำผู้เขียนได้ไม่แม่น) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pong CB1300sf-รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 04:08:58 PM แม่งทำแต่ละอย่าง เหนื่อยใจ ::009:: ::009::
เมื่อไหร่มันจะหมด บุญ ซักที ทำแบบนี้เหมื่อนต้องการให้เด็กมันโง่ การบ้านมีให้ทำเพื่อให้ใส่ใจในงานที่ได้รับมอบหมายมา อนาคต เด็กรุ่นใหม่ของไทย คงเหมื่อนกัมพูชา ที่ นักการเมื่องต้องการให้ มีความรู้น้อย สะดวกในการปกครอง ::009:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 30, 2013, 04:37:24 PM เอาล่ะโว้ย...ประเทศไทย
ต่อไปนี้ครูจะต้องกลัวนักเรียน จะสั่งการบ้านต้องถามเด็กก่อนว่ามากไปไหม อะไรดีๆอย่างนี้ คิดได้....เจริญล่ะประเทศชาติ :-\ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: พรานบุญ หลงกรุง ที่ มกราคม 30, 2013, 06:02:01 PM เจ้าของ Project กำลังหัวเราะในใจว่า ............ คนไทยนี่โง่จังนิ
ศาสนา กำลังดำเดินการใกล้จะแล้วเสร็จ เป็นไปตามแผนงาน การศึกษา อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ เริ่มงานเต็ม 100% ทั่วประเทศ พค.2556 .........? ทำสำเร็จก็กลับมาเลยครับท่าน (อีทีนี้ละก็วิ่งกันน้ำบาน ตัวใคร ตัวมัน) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 30, 2013, 06:04:48 PM เจ้าของ Project กำลังหัวเราะในใจว่า ............ คนไทยนี่โง่จังนิ ศาสนา กำลังดำเดินการใกล้จะแล้วเสร็จ เป็นไปตามแผนงาน การศึกษา อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ เริ่มงานเต็ม 100% ทั่วประเทศ พค.2556 .........? ทำสำเร็จก็กลับมาเลยครับท่าน (อีทีนี้ละก็วิ่งกันน้ำบาน ตัวใคร ตัวมัน) ก็"เสียงส่วนใหญ่"ไงครับ คุณลุงพรานฯ... แฮ่ๆ... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 06:54:06 PM สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น ไม่เถียงครับเรื่องทำแบบฝึกหัดแยะ ๆ แล้วจะมีความชำนาญในการแก้โจทย์ โดยเฉพาะวิชาคณิตฯ เพราะผมเองก็เคยต้องนั่งทำแบบฝึกหัดคณิตฯ + อ่านระเบียบกฎหมาย วันละ 8 ชม.ติดต่อกันประมาณ 3 เดือนครับ ถึงสอบเข้าราชการได้ แต่ปัญหาที่ผมพบเจอส่วนใหญ่ คือเป็นปัญหาที่ผู้สอน แต่ผมจะไม่กล่าวลึกลงในรายละเอียดมากนะครับ เพราะอาจเป็นการเขียนโดยมีอคติส่วนตัว ด้วยสมัยเรียนผมเกเร + เรียนกวดวิชามาตั้งแต่ ม.1 อาทิตย์ละ 7 วัน + ลาออกจากโรงเรียนเพราะทะเลาะกับอาจารย์เรื่องการไว้ผมที่ผมทำตามระเบียบแต่อาจารย์มีความต้องการส่วนตัวให้ผมตัดผมทรงนักเรียน +เคยรับจ้างผู้สอนทำแบบประเมินทั่งเล่มเพื่อให้ได้คำว่าชำนาญการพิเศษต่อท้ายตำแหน่ง + ฟังปัญหาจากบรรดาผู้ปกครอง ฯลฯ ปัจจุบันเรื่องวิทยะฐานะของผู้สอนเป็นเรื่องที่ผู้สอนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่าการให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปิดกวดวิชาตอนเย็น ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มันเริ่มมาจากยุคผมเป็นนักเรียนคือการเรียนกวดวิชา และพัฒนามาเรื่อยจนมาด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิการเปลี่ยนแปลงระบบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้นจนถึงปัจจุบันครับ...... คำว่า "ครู" นับวันยิ่งหาคนที่จะเหมาะสมกับคำ ๆ นี้ยากขึ้นทุกวัน ๆ ครับเพราะปัจจุบันผมเห็นแต่ผู้สอนวิชา ปฏิบัติหน้าที่ครู กันเกลื่อน ::014::สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: cwattapol ที่ มกราคม 30, 2013, 07:15:43 PM สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น ไม่เถียงครับเรื่องทำแบบฝึกหัดแยะ ๆ แล้วจะมีความชำนาญในการแก้โจทย์ โดยเฉพาะวิชาคณิตฯ เพราะผมเองก็เคยต้องนั่งทำแบบฝึกหัดคณิตฯ + อ่านระเบียบกฎหมาย วันละ 8 ชม.ติดต่อกันประมาณ 3 เดือนครับ ถึงสอบเข้าราชการได้ แต่ปัญหาที่ผมพบเจอส่วนใหญ่ คือเป็นปัญหาที่ผู้สอน แต่ผมจะไม่กล่าวลึกลงในรายละเอียดมากนะครับ เพราะอาจเป็นการเขียนโดยมีอคติส่วนตัว ด้วยสมัยเรียนผมเกเร + เรียนกวดวิชามาตั้งแต่ ม.1 อาทิตย์ละ 7 วัน + ลาออกจากโรงเรียนเพราะทะเลาะกับอาจารย์เรื่องการไว้ผมที่ผมทำตามระเบียบแต่อาจารย์มีความต้องการส่วนตัวให้ผมตัดผมทรงนักเรียน +เคยรับจ้างผู้สอนทำแบบประเมินทั่งเล่มเพื่อให้ได้คำว่าชำนาญการพิเศษต่อท้ายตำแหน่ง + ฟังปัญหาจากบรรดาผู้ปกครอง ฯลฯ ปัจจุบันเรื่องวิทยะฐานะของผู้สอนเป็นเรื่องที่ผู้สอนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่าการให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปิดกวดวิชาตอนเย็น ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มันเริ่มมาจากยุคผมเป็นนักเรียนคือการเรียนกวดวิชา และพัฒนามาเรื่อยจนมาด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิการเปลี่ยนแปลงระบบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้นจนถึงปัจจุบันครับ...... คำว่า "ครู" นับวันยิ่งหาคนที่จะเหมาะสมกับคำ ๆ นี้ยากขึ้นทุกวัน ๆ ครับเพราะปัจจุบันผมเห็นแต่ผู้สอนวิชา ปฏิบัติหน้าที่ครู กันเกลื่อน ::014::สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร แต่เราจะเห็นผู้สอนวิชา หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ครูชัดกว่า เพราะนำเสนอได้ดีกว่า เห็นด้วยให้ลดการบ้านเฉพาะที่ถมแต่การบ้าน กับรายงานที่สั่งให้เด็กไปค้นในเน็ต แล้วปริ้นท์มาส่ง แล้วบอกว่าแค่ 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว (ที่ให้พอเหมาะพอควรก็มีอยู่ ไม่ควรต้องลด) เด็กเรียนวันละ 4-5 วิชา ก็ 10-15 ชั่วโมง แต่ในชั่วโมงไม่ค่อยสอน บ่นบ้าง เฉลยการบ้านบ้าง คุยโม้บ้าง ใครทักท้วง ก็บอกสมัยนี้ Child Center เด็กต้องค้นคว้าเอง ใช่ครับ แต่ต้องมีครูคัดท้าย ไม่ใช่ไปเปะปะไร้หางเสือ แบบที่ผู้สอนบางรายทำอยู่ ต้องกราบขอโทษครูบาอาจารย์ทุกท่าน ทั้งที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับผม และทั้งที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ให้กับกุลบุตรกุลธิดาในปัจจุบัน หากบางคำล่วงเกินโดยไม่ได้ตั้งใจครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์--รักในหลวง-- ที่ มกราคม 30, 2013, 08:12:28 PM ที่ทั่น ๆ ทั้งหลายมีอำนาจวาสนาได้ตำแหน่งสูง ๆ ในกระทรวงฯทุกวันนี้ ตอนเด็ก ๆ ทั่นๆ ก็ทำการบ้านจนมือหงิกจนเกิดความชำนาญ ฝังจิตฝังใจไม่ใช่หรือ และทั่น ๆ ทั้งหลายก็ไม่ได้จบหลักสูตรมั่ว ๆ ที่เรียกโก้ ๆ ว่าบูรณาการไม่ใช่หรือ ไอ้ที่สอบ โอเน็ท โอแนท อะไรนั่นน่ะ แล้วมาประเมินว่าเด็กมีความรู้ความสามารถต่ำลง ครูไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ... ป.6 จะสอบต้นเดือน ก.พ.นี้แล้ว เด็กมีเวลาเรียนพอหรือยัง ... แต่ละวิชาจบหรือยัง... ผ่านตัวชี้วัดทุกตัวหรือยัง ตัวชี้วัดเยอะ งานที่เด็กต้องทำก็ต้องเยอะตามไปด้วย ไม่ให้งานเด็กแล้วจะประเมินตัวชี้วัดอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร เด็กเครียดเพราะครู ครูเครียดเพราะหลักสูตรกำหนด... จะแก้ที่ใคร ... เพื่อนผมมันบ่นให้ฟัง :-\
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มกราคม 30, 2013, 08:34:50 PM ไม่เห็นด้วยครับ ไม่มีหัวคิด งั่ง
เอาสมองเน่าๆไปปรับปรุงเนื้อหา/หลักสูตรที่เด็กต้องเรียนให้มันเข้าท่าดีกว่า จนป่านนี้เด็กยังต้องมานั่งท่องเรื่องที่"จะให้ท่องไปทำซากอะไรมิทราบ"อยู่เลย พวกนักวิชาการที่นั่งบนหอคอยงาช้าง ดูงานที่ต่างประเทศแล้วกลัวไม่มีผลงานเสนอกันออกมา สารพัดครับ เจอมาเยอะมากๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คนปฏิบัติเวียนหัว ปีนี้ให้ทำอย่างนี้ ปีหน้าไม่เอาแล้ว ทำแบบใหม่ :~) นโยบายนี้น่าจะดีกับเด็กที่เรียนพิเศษกระมังครับ เอาเวลาไปเรียนพิเศษเยอะๆ โรงเรียนกวดวิชารับทรัพย์กันไป :~) อยากรู้นักพวกที่ทำงาน สพฐ. นี่มีสักกี่คนที่เคยลงมาสอน มาเจอสถานที่จริง มาคลุกคลีกับเด็กๆจริงๆจังๆ นี่ก็คงไปเห็นที่ใหนมา จึงนำมาปรับเปลี่ยน(คิดได้นะ ลดการบ้าน) คงเห็นเด็กฝรั่ง การบ้านน้อยกว่าเด็กไทย เอาเวลาไปทำกิจกรรมตามความถนัด ลืมนึกไปละกระมังครับ ว่า ประเทศเรามันมีสิ่งจำเป็นรองรับหรือไม่ เช่น เด็กชอบกีฬาก็ไปซ้อมกีฬา แต่ในโรงเรียนอุปกรณ์กีฬายังไม่ค่อยจะมี แถมในประเทศเรา กีฬาอาชีพยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เก่งกีฬาก็ใช่ว่าจะรุ่ง (นักฟุตบอลประจำ จว. เลิกเล่นแล้วทั้งๆที่เก่งมาก อายุยังน้อย บอกได้คิดแล้ว เอาเวลาไปขายหมูตลาดนัดดีกว่า) เด็กชอบเต้น B-Boy สถานที่ซ้อมก็ไม่มี(เต้นกันตามลานปูน พักเดียวเลือด) เคยถามแล้วเด็กๆอยากได้พื้นปาเก้ ถามว่ามีสักกี่ที่ ที่มีสิ่งนี้รองรับ ฯลฯ ที่กล่าวนี่คือผมไม่ได้คิดเองเออเองนะครับ ถามเด็กๆมากับตัว ขาดสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนเด็กๆ แถมโรงเรียนเป็น รร. ประจำ จว. เสียด้วย รร.พวกขยายโอกาสยิ่งไม่ต้องคิด ปล.ผมคิดเองตามประสาคนไม่เคยไปดูงานเมืองนอกเมืองนา แต่คลุกคลีกับเด็กจริงๆ ::014:: ::014:: เห็นด้วยครับ มันเป็นอย่างนี้ และมันจะเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ ทีนี้เด็กที่บ้านมีสตางค์ก็จะไปกวดวิชากันได้เยอะกว่าเดิม ช่องว่างของโอกาสทางการศึกษาจะถ่างออกจนห่างไกลกันลิบๆ ปัจจุบันทั้งคุมง , สมาร์ทเบรน ฯลฯสารพัดเสริมทักษะมันก็แพงจนพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาหามาจ่ายแบบต่อเนื่องได้อยู่แล้ว พวกกิจกรรมเสริมที่ไม่เกี่ยวกับเกรดยิ่งไม่ต้องพูดถึง การสนับสนุนห่างไกลเหมือนอยู่กันคนละโลก....เรื่องการสนับสนุนด้านกีฬา-กิจกรรม-ทักษะเสริมนี่เป็นช่องว่างที่ยิ่งทียิ่งห่าง ยังทะลึ่งมาถ่างมันออกด้วยเรื่องหลักคือการเรียนเข้าอีก หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มกราคม 30, 2013, 08:35:44 PM 3754,51ครับ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 08:46:19 PM หน้าที่ ความรับผิดชอบ หมดกัน.....คุณภาพของคนในอนาคต
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มกราคม 30, 2013, 09:07:38 PM อีกอันคือเรื่องประเมินครู/สถาบัน
ผมอยากให้จริงจังให้มากๆเลิกเอื้อกันซักที ไม่ผ่านก็ให้ปรับปรุง , บุคลากรคนไหนไม่เข้าท่าก็ให้แก้ตัว แก้ไม่ได้ก็ให้ออกไปเลย ประเทศไทยมีคนจบครูรอบรรจุอยู่เป็นล้าน ไม่ใช่ว่าบรรจุเข้ารับราชการได้แล้วจะห่วยจะเฮงซวยยังไงก็จะได้อยู่กันเป็นอมตะ...... เอาอนาคตของชาติมาจ่อมไว้กับความเคยชินเน่าๆ ทำลายเด็ก เรื่องนี้โรงเรียนที่ดีเขาทำเข้มงวดมาก เค้าประเมินกันรอบด้าน สอบยิบสอบย่อยรายสัปดาห์ยังให้ระบบประเมินกลางของตัวเอง/ของเครือข่าย ครูคนไหนประเมินไม่ผ่านเทอมเดียวก็เชิญไปหางานใหม่แล้ว หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Rod......รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 09:17:20 PM เด็กจะเก่งต้องฝึกให้มารเรียนให้มาก วันที่ ๑๓ - ๑๕ ก.พ. ๕๖ งานศิลปหัถตกรรมนักเรียนระดับชาติ ที่เมืองทองธานี เด็กที่ได้เข้าร่วมแข่งขันต้องผ่านการคัดเลือก ระดับเขต มาระดับภาค อันดับ ๑-๓ เท่านั้นที่มีสิทธิ์ ไม่เก่งจริงไม่มีโอกาส ทำอย่างไรถึงเก่ง ต้องเรียนมากกว่าคนอื่นหลายเท่าครับ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ มกราคม 30, 2013, 09:37:44 PM ผมว่าคำสั่งนี้ มันครึ่งๆกลางๆ อยู่นะ ::013::
ลดการบ้าน แล้วเวลาที่เหลือ ได้บริหารจัดการหรือแนะแนว แนะนำ ให้เด็กได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างไรหรือเปล่า เด็กไทยมุ่งเน้นแต่การเรียนแบบ "นกแก้ว นกขุนทอง" ขาดความเป็นตัวของตัวเอง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไร้จินตนาการ ยิ่งเด็กในเมือง ออกจากบ้านไปโรงเรียนตั้งแต่ตีห้า เลิกเรียนปกติ ไปเรียนพิเศษต่ออีก กลับถึงบ้านสองทุ่ม สามทุ่ม เสาร์-อาทิตย์ บางคนก็ยังไปเรียนอีก ::004:: คนอย่างสตีฟ จ๊อบส์ บิล เกตส์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ค มันก็ไม่ได้เรียนหนักเท่าเด็กไทยนะ ::003:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kpai ที่ มกราคม 30, 2013, 10:18:33 PM ...สิ่งที่ให้ทำ...
-เรียนฟรี ฟรีทุกอย่าง เสื้อผ้า อุปกรณ์ ทัศนศึกษา ทุนการศึกษา อาหารกลางวัน จักรยาน นักเรียนขาดแคลน งบรายหัว งบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ฯล โบ๊ะเข้าไป -ห้ามครูทำโทษ ห้ามดุด่าใช้คำหยาบกับนักเรียน ห้ามตักเตือนต่อหน้าสาธารณชนเด็กจะเป็นปมด้อย เด็กจะกดดัน (ลูกเทวดา) -ไว้ผมยาวได้ - ไม่ต้องทำการบ้านทั้งหมด -ไม่ต้องสอบครบทุกเรีื่อง -ไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน จัดเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ ...ผลลัพธ์ที่ต้องการ... 1.ผู้เรียนเรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 80% ของแต่ละวิชา 2.ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินตัวชี้วัดทุกตัว โดยแต่ละตัวต้องผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3.ผู้เรียนต้องผ่านการทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบทุกกิจกรรม ซึ่งงแต่ละกิจกรรมมีเกณฑ์เหมือน ข้อ1+2 สุดท้าย ทุกโรงเรียนต้องปราศจากนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออก ต้องอ่านคล่อง เขียนคล่อง และมีผลการทดสอบระดับชาติเฉลี่ยไม่น้อยกว่าที่เขตพื้นที่กำหนด (ซึ่งเว่อร์มาก) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: winok ที่ มกราคม 30, 2013, 10:29:12 PM >:(จะให้เด็กไทยโง่กันไปกว่านี้อีกเหรอ ทุกวันนี้ก็เหบียบขี้ไก่ไม่ฝ่อกัน :-\ :~)
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ มกราคม 30, 2013, 10:30:55 PM คิดอีกอย่าง ทั้งผม ทั้งการบ้าน เอาใจเด็กหาเสียงเปล่า
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ มกราคม 30, 2013, 10:47:49 PM ได้ยินได้เห็นแล้วเหนื่อยใจ ::012:: แทนที่จะเอาสมองควายๆ..ไปคิดเรื่องที่มันเป็นประโยชน์กว่านี้
เรื่องที่ควรทำเสือกไม่ทำ ::009::..อีกหน่อยลูกผมมันคงบอกว่าไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้..ครูไม่กล้าสอน ??? หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kok ksn ที่ มกราคม 31, 2013, 12:47:10 AM แหม่ กินข้าวแบบคน แต่คิดแบบ แปลกๆ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Rung Sukmuen ที่ มกราคม 31, 2013, 08:48:37 AM ...สิ่งที่ให้ทำ... ถูกต้อง ชัดเจน ::014:: แถมอีกข้อ ห้ามเด็กซ้ำชั้นด้วย แล้วเด็กจะกลัวหรือไม่ละครับถึงจะสอบตก เรียนไม่ครบตามเวลา อ่านไม่ได้เขียนไม่เป็น ถึงยังไงปีหน้าก็ได้เลื่อนชั้นอยู่ดี...แล้วอย่างนี้อนาคตชาติจะโทษใครดีน้อ :~) :~)-เรียนฟรี ฟรีทุกอย่าง เสื้อผ้า อุปกรณ์ ทัศนศึกษา ทุนการศึกษา อาหารกลางวัน จักรยาน นักเรียนขาดแคลน งบรายหัว งบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ฯล โบ๊ะเข้าไป -ห้ามครูทำโทษ ห้ามดุด่าใช้คำหยาบกับนักเรียน ห้ามตักเตือนต่อหน้าสาธารณชนเด็กจะเป็นปมด้อย เด็กจะกดดัน (ลูกเทวดา) -ไว้ผมยาวได้ - ไม่ต้องทำการบ้านทั้งหมด -ไม่ต้องสอบครบทุกเรีื่อง -ไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน จัดเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ ...ผลลัพธ์ที่ต้องการ... 1.ผู้เรียนเรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 80% ของแต่ละวิชา 2.ผู้เรียนต้องผ่านการประเมินตัวชี้วัดทุกตัว โดยแต่ละตัวต้องผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3.ผู้เรียนต้องผ่านการทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบทุกกิจกรรม ซึ่งงแต่ละกิจกรรมมีเกณฑ์เหมือน ข้อ1+2 สุดท้าย ทุกโรงเรียนต้องปราศจากนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออก ต้องอ่านคล่อง เขียนคล่อง และมีผลการทดสอบระดับชาติเฉลี่ยไม่น้อยกว่าที่เขตพื้นที่กำหนด (ซึ่งเว่อร์มาก) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มกราคม 31, 2013, 09:07:18 AM อีกหน่อยคงลดเวลาเรียนเหลือวันละ 4 ชม. เรียนสัปดาห์ละ 3 วัน หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Major ที่ มกราคม 31, 2013, 09:08:36 AM ขอบ่นด้วยคน
๑. ห้ามตี ห้ามไม้เรียว ห้ามทำโทษโดยการทำร้ายทารุณจิตใจ........แค่ ว่ากล่าว ตักเตือน เด็กก็ตาเขียวใส่ แล้ว กิริยามารยาท ก็ก้าวร้าว ใส่อาฆาต มาดร้าย มีรถขุดขีดรถ มีบุตร-ธิดา เรียนอยู่ที่นั่นด้วย ทำร้ายกลั่นแกล้ง ..... ครู โชคร้ายซวยไป ๒. ให้ไว้ผมยาวได้ + ลดการบ้าน......เด็กนักเรียน..เปรมปรีดา ถ้วนหน้า .... จะไปจีบหญิง ก็ไม่ต้องอาย หลุดจากคำว่าเด็กเกรียน..เที่ยวสถานบันเทิงก็ง่ายใครก็ดูไม่ออก...เมื่อก่อนแยกแยะง่าย หน้าละอ่อน ผมเกรียน ตรวจจับปุ๊บ เด็กนักเรียน ม.ต้น ม.ปลาย ออกเกร่อ สมัยนี้แยกไม่ออก (ที่ว่าเพราะสถานบันเทิงบางแห่งไม่มีการตรวจบัตรประชาชน) ออกแว้น เป็นสกอยส์ ก็สบาย การบ้านไม่มีไม่ต้องทำ......มีเวลาว่างมากกว่าเดิม ๓. ผลพวงจากทั้งหมด อีกไม่เกิน ๑๐ - ๒๐ ปี ประเทศไทยจะมีประชากร ที่ไร้คุณภาพ ง่ายต่อการสนตะพาย จูงจมูก สั่งซ้ายหัน ขวาหัน ได้ ไร้สมอง ที่จะปลุกระดมความคิดอ่าน ที่เป็นไปในแนวทางที่ดีได้ นั่นแหละ ที่เขา(มัน) ต้องการ ปล. (ความเห็นส่วนตัว) อยากให้ท่านเจ้าของวลี "ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" กลับมาอีกจัง ด้วยความเคารพครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ มกราคม 31, 2013, 09:42:59 AM เรื่องการบ้าน ผมว่า ถ้าเตรียมการรองรับให้ถูกต้องเหมาะสม ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร "ลด" ไม่น่าจะหมายความว่า "เลิก"
ยังจำได้สมัยเรียน บางทีครูสาม-สี่คน ต่างคนต่างสั่งการบ้าน บางครั้งนัดเวลาส่งเดียวกันหรือใกล้ๆกัน พวกเรายังต้องขอเลื่อน เพราะทำไม่ทัน บางครั้งบางคนยัง "จ้างเพื่อน - ลอกเพื่อน - ใช้เพื่อน" แล้วแต่ใครจะใช้วิธีไหน เพราะความ "ขี้เกียจ" อย่าทำเพียงแค่ "ลด" การบ้านแล้วก็ปล่อยให้เด็กไปใช้ "เวลาว่าง" ตามยถากรรม ควรเตรียมแผนรองรับให้ดี อาจจะให้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในความดูแลของครู-อาจารย์ หรือเอาเวลาไป "ทัศนศึกษา" เรียนรู้ของจริง นอกโรงเรียน ให้เด็กได้เรียนรู้จาก "ของจริง" จากสื่อการสอนอื่นๆ นอกเหนือจาก สิ่งที่อยู่ในหนังสือเพียงอย่างเดียว ::014:: แต่ไอ้เรื่อง "ห้ามตีกับเรื่องไว้ผมยาว" นี่ล่ะผมว่า มันปัญญาอ่อนมาก เด็กสมัยนี้มันก้าวร้าว มันไม่เชื่อฟังครูบาอาจารย์ พ่อ-แม่ เพราะมัน "ไม่กลัว" ตีได้ แต่ให้มีเหตุผล ใช้ลงโทษเวลาทำผิดจริงๆ ไม่ใช่ด้วย "อารมณ์" ก็เหมาะสมดีแล้ว ::002:: แล้วเรื่องทรงผม มันใช้เพื่อ "แยกแยะ" เด็กได้จริงๆนั่นแหล่ะ จริงๆควรจะให้เกรียน จนจบม.6 ด้วยซ้ำ ให้มันรู้ไปเลยว่า ไถหัวเกรียนแล้วมันเรียนหนังสือไม่ได้ มันจะหล่อไปไหนกัน แล้วหัวเกรียนนี่มันไม่หล่อตรงไหน ไม่เข้าใจไอ้คนคิด มันจะมาหยุมหยิมเรื่องแบบนี้ทำไม พวกผู้บริหารสันดานเสมียนนี่ เอามันไปล้างส้วมดีกว่า เหมาะกว่าเอามาบริหารบ้านเมือง :<< หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: TUI 48 ที่ มกราคม 31, 2013, 11:01:45 AM สอนการบ้านลูกเสร็จก็เหนื่อยแล้ว...การบ้านพ่อก็เลยต้องเก็บไว้ก่อน..555
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 31, 2013, 11:05:05 AM ปล. (ความเห็นส่วนตัว) อยากให้ท่านเจ้าของวลี "ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" กลับมาอีกจัง ผมก็คิดว่า... เจ้าของวลีนี้... เหมาะที่จะมาปกครองประเทศไทยในยุคนี้ครับ... กีฬาสีจะได้หมดไป... ::014:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 31, 2013, 11:27:52 AM เปิดเสรีอาเชี่ยนนี้...ภาพที่เราจะเห็นเป็นเรื่องปกติคือ...คนไทยเป็นลูกน้องเขมร-ลาวครับ...ผมไม่ชอบการพนัน แต่เรื่องนี้ ใครจะพนันกับผม ว่ามาเลย
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มกราคม 31, 2013, 11:30:03 AM น้าเป้าก็เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นเรื่อยเลย แป๋งต่อสอง/หนึ่ง ::008::
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 31, 2013, 12:02:44 PM น้าเป้าก็เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นเรื่อยเลย แป๋งต่อสอง/หนึ่ง ::008:: รองสองขวดหัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Rung Sukmuen ที่ มกราคม 31, 2013, 01:18:46 PM น้าเป้าก็เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นเรื่อยเลย แป๋งต่อสอง/หนึ่ง ::008:: รองสองขวดหัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มกราคม 31, 2013, 01:53:24 PM เปิดเสรีอาเชี่ยนนี้...ภาพที่เราจะเห็นเป็นเรื่องปกติคือ...คนไทยเป็นลูกน้องเขมร-ลาวครับ...ผมไม่ชอบการพนัน แต่เรื่องนี้ ใครจะพนันกับผม ว่ามาเลย เรื่อง.....บาทเดียวก็ตังค์ ::010:: ที่บ้านผมตอนนี้ คนไทยเป็นลูกน้องพม่าครับ พม่ามาแบบอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ คนไทยจบป.6มา ส่งให้เรียนต่อม.ต้นไม่มีปัญญาเรียนให้จบ ตอนนี้พม่ารับออร๋เดอร์ได้ ขายของ(ฝรั่ง)หน้าร้านได้ คนไทยยังไม่ได้ รับออร์เดอร์ไหนเป็นเละ ภาษาอังกฤษยังไม่กระดิก หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 31, 2013, 01:56:26 PM เคยได้ยินคนรู้จักที่ภูเก็ตก็พูดแบบจ้าว (เขาเป็น ขรก.ผังเมือง)
คนพม่าไม่เลือกงาน ไม่เกี่ยงงาน ทำอะไรก็ได้ ขยัน ทำงานไปเก็บเงินไป มีช่องทางก็ออกมาทำเอง วิถีของพม่าเดี๋ยวนี้คล้ายคนขายแรงสายเลือดอีสานเมื่อ20ปีที่แล้ว หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มกราคม 31, 2013, 02:06:00 PM ผมกลับมองว่าคล้ายจีนเมื่อ50-100ปีที่แล้วมากกว่าครับ...
ผมคลุกอยู่กับงานโรงแรม บ่อยครั้งที่โผล่เข้าไปหลัง4ทุ่มเลยเห็นชัดมาก พม่าที่เป็นเด็กยกกระเป๋าผลัดกลางคืนเมื่อ3ปีที่แล้ว ว่างก็เอาดิกฯพม่า-อังกฤษ/พม่า-ไทยมานั่งอ่าน เอาหนังสือที่แขกทิ้งมานั่งอ่าน ตอนนี้เป็นหัวหน้ากะกลางคืน สจ๊วดก้นครัว(เด็กล้างจาน โกยขยะ)พม่าที่Casa del solเมื่อ3ปีที่แล้ว ว่างมันก็เข้าไปช่วยเชฟฯทำโน่นทำนี่ ... ตอนนี้ขึ้นฝึกงานเป็นchef de partie ยกแผง4คน พ้นไฮซีซั่นนี้เค้าจะกระจายไปขึ้นงานตามโรงแรมในเครือPEGAS มีอีกเยอะ........... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มกราคม 31, 2013, 03:00:35 PM ผมก็ไม่รู้เหมือนกันรู้แต่ว่าความรู้รอบตัวสมัยนี้น้อยมาก สอบเสร็จอะไรง่ายๆก็ยังลืมหมด
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ANKIMBER ที่ มกราคม 31, 2013, 09:04:22 PM ก็แค่เพิ่มจำนวนควายแดงในอนาคต ไว้รองรับเมื่อลูกท่านขึ้นมาเป็นใหญ่ แทนนักการเมืองตัวพ่อ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: chaiman2 ที่ มกราคม 31, 2013, 10:03:51 PM ผมเป็นครูมานานแล้ว
จากอดีตไม่ต้องมีถึงไม้เรียวหรอก เราเดินผ่าน น.ร.ก็เกรงใจแล้ว เดี๋ยวนี้ถูกเดินชนยังจะมามองหน้า ครูถูกห้าม อะไรๆก็ห้ามครับ ห้ามให้เกรด0 1 2 ต้อง 3-4ขึ้น โดดเรียนก็ต้องให้ผ่าน ห้ามตกซ้ำชั้น ห้ามเคี่ยวเข็ญเด็ก เด็กเมาอาละวาดครูเข้าไปแยก ครูโดนตีหัวก็ห้ามแจ้งความ ห้ามลงโทษ ห้าม ฯลฯ เหล็กถ้าไม่ตีไม่เจียร ไม่ไส ไม่ขัด มาแบบเหล็กดิบเป็นก้อนๆ มันจะเอาไปทำอะไรได้ เปิดอาเซียนก็ดีเด็กไทยเราจะไปเรียนที่อื่นให้หมดๆ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kpai ที่ มกราคม 31, 2013, 10:05:04 PM กลับมาค่อยว่ากัน
แล้วก็เลิกค่าย..............เด็กตอบแบบไม่สะทกสะท้านเลย ว่า ไปมีเพศสัมพันธ์กัน... คำแรก "...ก็บรรยากาศมันพาไป หนูห้ามใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ..." กับอีกคำ "...ถ้าครูจะไล่หนูออกเพราะไปเย..กับผู้ชาย ครูได้ไล่ออกหมดทั้งห้องแน่ ...." เรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อรับทราบ ผู้ปกครอง " ครูอย่าอคติกับเด็กนักสิ อย่าเหมารวม ลูกฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่ ที่มันพูดเพราะกลัวครูกลัเพื่อน " เจอมากับตัว(ก่อนเกษียณก่อนกำหนดเพราะสุดทน) กรณีเดินทางกลับจากอยู่ค่ายแวะทัศนศึกษา เพียงแต่ไม่ใช่เต็นท์แต่เป็น โรงแรมเหมาห้องแถวชะอำ(ไม่เกี่ยวกับโรงแรมเพราะครูไม่ดีเอง ไม่เฝ้า ห...เด็กให้ดี ผู้ปกครองบางคนว่า ) +1 สำหรับความรู้สึกนี้ กลืนได้อย่างเดีนว ห้ามคาย หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ มกราคม 31, 2013, 10:06:20 PM (ไม่มีคำพูดครับ) ::014::
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 31, 2013, 10:06:48 PM เรื่องที่ควรงดกลับไม่ทำ
กิจกรรมต่างๆ ที่ไม่สงเสริมสติปัญญาเด็ก ครูห้ามทำ แค่นี้ก็จบ ครูไม่ค่อยมีเวลาให้เด็ก ก็จะพยายามเพิ่มการบ้านเพื่อชดเชย แต่สาเหตุจริงมาจาก กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงสั่งมาให้ทำ อย่างเรื่อง อาเซี่ยน นี้ จังหวัดที่ผมอยู่ เอียนเสียเต็มประดา ทางข้างบนก็สั่งๆ ทางครูก็ถูกบีบ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ให้เดินพาเหรด เด็กก็ไปแบบจำใจ ไม่รู้อะไร ร้านเช่าชุด งานชุกตลอดปีที่ผ่านมา สั่งเกณฑ์คนไปต้อยรับโน้นนี้ แต่กายธรรมดาก็ไม่ได้ ต้องแห่ไปตัดเสื้อทีม ปัญญาอ่อนชัดๆ ไม่ต่างจากเด็กเกเร เบ่งใส่กัน ว่าสังกัดไหนมีพวกมากกว่ากัน วัดจากสีเสื้อทีม งานเลี้ยง งานจังหวัด งานรับ งานส่ง เลิกได้ไหม แล้วหันมาอยู่กะเด็กให้มากขึ้น ครูไม่ต้องเป้นคนวิเศษ หลักสูตรก็ไม่ต้องพิศดาร ขอครูอยู่กะเด็กจริงๆก็พอแล้ว ล่าสุด บ้าจี้ ส่งเด็กประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง วงโยธวาทิต ถ้าเป็นกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคมก็ว่าไปอย่าง แต่นี้เป็นการบังคับ เพื่อสนองตัณหาของผู้ใหญ่บางคน ยุเข้าไป แหย่ เข้าไป เด็กอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว เห็นบางที่ซ้อมดนตรีจน เด็กสลบ นอนกลางถนน ทั้งกลุ่มเลย เลยคิดว่า น้อง ถ้าเธอ ขยันอ่านหนังสือ สักเพียงครึ่งของที่เธอทุ่มซ้อมดนตรี เธอจะสอบไหน เรียนต่อไหน ทำงานไหน ก็ได้หมด แล้วทางโรเงเรียนก็ หลอกใช้เด็ก จนจบ กว่าเด็กจะรู้ตัวก็เมื่อหาที่เรียนต่อไม่ได้ หรือ หางานทำไม่ได้ อุปกรณ์วิทยาศาสต์ไม่มีสอน ต้องทำแล็ป แห้ง แต่ไถ่เงินสมาคมครูผู้ปกครอง ซื้อเครื่องดนตรีวงลูกทุ่งได้เป็นล้าน ไม่ได้หวังอะไรมาก ขอแค่ได้ออกทีวี รายการเวิอร์ พ๊อต ก็พอ กระบือ ชัดๆ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ มกราคม 31, 2013, 11:09:45 PM เห็นด้วยกับมุมมองด้านบนครับ
เวลาได้ดูเด็กๆ ออกมากล่าวขอบคุณ คุณครูที่ปรึกษา ท่านผ.อ. ที่สนับสนุน ผมล่ะอยากจะอ้วกครับ เสี้ยมสอนให้แต่ความ "บันเทิง" โตไป ไม่อยากเรียนหนังสือแล้ว อยากจะเป็นคนดัง อยากจะออกทีวี อยากหาเงินง่ายๆ แข่งกันเพื่อสนอง "ตัณหา"ของใครกันแน่ ครูหรือเด็ก :<< เปิดรับสมัครเดอะสตาร์ เอเอฟ นู่นนั่นนี่ มาสมัครกัน มืดฟ้ามัวดินเลย โอละหนอ ประเทศไทย :~) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: bb.king ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 12:08:33 AM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้
คุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Autumn ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 06:53:46 AM เกรดสามกลาง ๆ ไม่ใช่ตัวบอกว่า เด็กเรียนดีนะครับท่าน
ระดับมัธยม เกรด บอกอะไรไม่ได้มาก (หลายที่) เคยสอนเด็ก ม.ปลาย ที่ เกรดเฉลี่ย ม.ต้น 4.00 ก็ธรรมดา ไม่ได้ต่่างจากคนอืิ่น ๆ ที่ได้เกรด 2 กว่า ๆ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 08:28:04 AM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้ คุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ ลองหาหนังสือ อ่านให้แม่ฟัง ๑ ๒ ๓ มาให้เด็กฝึกอ่านดูครับ หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 09:11:37 AM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้ คุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ เขาว่า..เนื้อหาไม่ทันสมัย... ชูใจยังเดินคันนา ปิติขี่ม้า มานีเขี่ยปูนา บั่นน็อก.....เดี้ยนรับไม่ได้ค่า หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 09:18:51 AM ผมเป็นครูมานานแล้ว จากอดีตไม่ต้องมีถึงไม้เรียวหรอก เราเดินผ่าน น.ร.ก็เกรงใจแล้ว เดี๋ยวนี้ถูกเดินชนยังจะมามองหน้า ครูถูกห้าม อะไรๆก็ห้ามครับ ห้ามให้เกรด0 1 2 ต้อง 3-4ขึ้น โดดเรียนก็ต้องให้ผ่าน ห้ามตกซ้ำชั้น ห้ามเคี่ยวเข็ญเด็ก เด็กเมาอาละวาดครูเข้าไปแยก ครูโดนตีหัวก็ห้ามแจ้งความ ห้ามลงโทษ ห้าม ฯลฯ เหล็กถ้าไม่ตีไม่เจียร ไม่ไส ไม่ขัด มาแบบเหล็กดิบเป็นก้อนๆ มันจะเอาไปทำอะไรได้ เปิดอาเซียนก็ดีเด็กไทยเราจะไปเรียนที่อื่นให้หมดๆ ครูสุนทรี..อายุใกล้เกษียณแล้ว หุ่นผอมบาง ขับรถยนต์คันเก่ามาจอดข้างสนามบาสเกตบอล เปิดท้ายรถ จะเอาเอกสารสองลังขึ้นไปห้องพักครู เห็นเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ ก็กวักมือเรียกให้มาช่วย... เด็กลุกพรึบทั้งกลุ่ม......แล้วออกวิ่งหนี หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 10:11:39 AM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้ คุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ ตอนเรียนหนังสือปิติ...มานี...มานะ...ชูใจ... ผู้เรียน(อย่างน้อยก็ผมละ) จะรู้สึก "อิน" ไปกับบทบาท... คิกว่าตัวเองโลดแล่นอยู่ในหนังสือ... ทำให้ผูกพันธ์กับหนังสือมากกว่าเด็กสมัยนี้... ที่เกินกว่าครึ่ง... ไม่รู้เรื่องสิ่งของและความเป็นอยู่ในหนังสือที่ใช้เรียน... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 12:58:39 PM ระบบการศึกษาบ้านเราเน้นที่ให้เด็กสอบได้เป็นหลัก ไม่ได้เน้นให้เด็กนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนใหญ่สอบผ่านไปไม่กี่วันก็ลืมหมด หรือว่าเป็นลักษณะเฉพราะของเด็กไทย
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Double Tap^ ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 01:16:02 PM เจริญครับ.....ไม่รู้ เจริญขึ้นหรือลง
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 01:56:58 PM เจริญครับ.....ไม่รู้ เจริญขึ้นหรือลง มีเจริญขึ้นบ้างแต่สัดส่วนน่าจะไม่มาก สมัยนี้การเรียนการสอนในชั้นเรียนเป็นยังไงชอบกล เด็กดีแต่แข่งกันไปติว ใครไม่ติวคะแนนตก หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 02:13:39 PM ผมว่าหลักสูตรสมัยใหม่ ดี ไม่แพ้สมัยเก่า ครับ..เด็กรุ่นหลานผมเขาสอนคณิตศาสตร์ ให้คูณ,หารโดยไม่ต้องท่องสูตรคูณ ผมงงว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง..แต่เห็นมันก็ทำโจทย์ของมันได้ครับ..
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kratingtone1 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 02:44:36 PM เลอะเทอะไปกันใหญ่...ผมไม่สนถ้าไม่ให้การบ้านลูกผม...ผมก็ทำแบบฝึกหัดให้ลูกเองได้...การบ้านถือเป็นแบบฝึกหัดการมีความรับผิดชอบไปในตัวนอกจากวิชาการที่เด็กต้องได้...ทรงผมที่ให้นักเรียนไว้ยาวได้(แบบพอเหมาะ)เชื่อเหอะเด็กมันก็จะไว้ยาวกว่าที่ระเบียบกำหมดขึ้นไปอีก...การให้ไว้ผมสั้นก็ถือว่าเป็นการฝึกการมีระบบมีระเบียบในตัว...แล้วคุณๆพวกปัญญานิ่มที่นักอยู่แต่โต๊ะแล้วคิดโน่นคิดนี่ออกมา...ผมว่าเอาหัวคุณนั่นแหละจุ่มลงไปในโอ่งน้ำสัก ๑๐ นาที เผื่อจะคิดอะไรขึ้นมาแบบดีดีได้... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kratingtone1 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 02:53:51 PM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้ คุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ เขาว่า..เนื้อหาไม่ทันสมัย... ชูใจยังเดินคันนา ปิติขี่ม้า มานีเขี่ยปูนา บั่นน็อก.....เดี้ยนรับไม่ได้ค่า หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: kratingtone1 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 03:33:15 PM ไม่ต้องวิตกกังวลหรือหนักใจแต่อย่างใดครับก็การศึกษาไทยมันก็แบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่ก่อนเป็นโรงเรียนประชาบาลสังกัดจังหวัดใครังหวัดมันตอนนั้นก็ถูกยำว่าเป็นหลักสูตรเลขคัดเลิกไงต่อมาก็แยกมาเป็นสำนักของตังเองคือสปช.แยกการบริหารเป็นสปจ.สปอ.กลุ่มโรงเรียน(แยกประถมกับมัธยมออกจากกัน)ตามลำดับการบริหารแล้วก็มาเปลี่ยนหลักสูตรเป็นแบบ๕กลุ่มประสบการณ์นักอนุรักษ์และสิทธิเด็กก็บอกว่ารูปแบบการบริหารและหลักสูตรไม่ทันสมัยจึงทำการแบ่งโตรงสร้างใหม่เป็นเขตพื้นที่การศึกษาเอามัธยมกับประถมมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและจัดหลักสูตรใหม่เป็น๘สาระการเรียนรู้(มากหรือยัง)เลือกตั้งผู้แทนครูทีไรครูประถมมากกว่าก็ชนะหมดผู้บริหารมัธยมไม่พอใจขอแยกเป็นมัธยม(สพม.)เพื่อจะได้มีอิสระ(ท่านผู้อ่านลองคิดดูซิว่าไอ้การจัดการศึกษานี่มันเกี่ยวกับอะไรกันแน่)พอหลักสูตรเป็น๘สาระการเรียนรู้(มันก็คือคำว่าวิชานี่แหละแต่มัอยากเปลี่ยน)ก็เลยกลายเป็นเด็กต้องเรียนวันละ๘ชั่วโมงไง?แล้วการให้การบ้านถ้าให้กลุ่มสาระละ๑ชิ้นงานมันก็ต้องกลายเป็น๘ชิ้นงานใช่ไหม?ตอนพวกนักวิชาการแบ่งเป็น๘กลุ่มสาระดันไม่รู้ว่ามันมากหลักสูตรนี้ใช้มาเป็น๑๐ปีค่อยนึกขึ้นมาได้นึกได้ช้ายังไม่พอแถมขู่จะเอาผิดกับครูอีกแหมมันน่า....เอาไว้วันต่อไปจะเล่าให้ฟังและจะเขียนให้พวกสิทธืเด็กอ่านอีกครับ
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 03:48:38 PM ไม่ต้องวิตกกังวลหรือหนักใจแต่อย่างใดครับก็การศึกษาไทยมันก็แบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่ก่อนเป็นโรงเรียนประชาบาลสังกัดจังหวัดใครังหวัดมันตอนนั้นก็ถูกยำว่าเป็นหลักสูตรเลขคัดเลิกไงต่อมาก็แยกมาเป็นสำนักของตังเองคือสปช.แยกการบริหารเป็นสปจ.สปอ.กลุ่มโรงเรียน(แยกประถมกับมัธยมออกจากกัน)ตามลำดับการบริหารแล้วก็มาเปลี่ยนหลักสูตรเป็นแบบ๕กลุ่มประสบการณ์นักอนุรักษ์และสิทธิเด็กก็บอกว่ารูปแบบการบริหารและหลักสูตรไม่ทันสมัยจึงทำการแบ่งโตรงสร้างใหม่เป็นเขตพื้นที่การศึกษาเอามัธยมกับประถมมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและจัดหลักสูตรใหม่เป็น๘สาระการเรียนรู้(มากหรือยัง)เลือกตั้งผู้แทนครูทีไรครูประถมมากกว่าก็ชนะหมดผู้บริหารมัธยมไม่พอใจขอแยกเป็นมัธยม(สพม.)เพื่อจะได้มีอิสระ(ท่านผู้อ่านลองคิดดูซิว่าไอ้การจัดการศึกษานี่มันเกี่ยวกับอะไรกันแน่)พอหลักสูตรเป็น๘สาระการเรียนรู้(มันก็คือคำว่าวิชานี่แหละแต่มัอยากเปลี่ยน)ก็เลยกลายเป็นเด็กต้องเรียนวันละ๘ชั่วโมงไง?แล้วการให้การบ้านถ้าให้กลุ่มสาระละ๑ชิ้นงานมันก็ต้องกลายเป็น๘ชิ้นงานใช่ไหม?ตอนพวกนักวิชาการแบ่งเป็น๘กลุ่มสาระดันไม่รู้ว่ามันมากหลักสูตรนี้ใช้มาเป็น๑๐ปีค่อยนึกขึ้นมาได้นึกได้ช้ายังไม่พอแถมขู่จะเอาผิดกับครูอีกแหมมันน่า....เอาไว้วันต่อไปจะเล่าให้ฟังและจะเขียนให้พวกสิทธืเด็กอ่านอีกครับ ขอประทานโทษนะครับ ผมว่า นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่าง ของผลการศึกษาสมัยใหม่ เด็กจบ ป.ตรี บางคน เขียนหนังสือ "อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ" ::012:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: ANKIMBER ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 09:12:55 PM ลองไปดูตามสถานกวดวิชาซิครับ เด็กเดินกันยุ่บยั่บ ผมก็เห็นใจเด็กที่ต้องไปกวดวิชาครับ ลูกผมก็ต้องไปกวดวิชากับเขาด้วยไม่งั้นไม่ทันเพื่อนๆ บอกตรงๆนะครับ ครูที่โรงเรียนไม่สามมารถสอนให้เด็กไปสอบแข่งขันได้ครับ บ่อยครั้งที่สอนไม่ทัน เด็กที่ไม่ไปเรียนกวดวิชาก็ได้แค่สอบผ่านเฉยๆเท่านั้น เด็กที่เรียนพิเศษมาแล้วเรียนล่วงหน้าการสอนในโรงเรียนไปเยอะเลยครับ พอมานั่งในห้องเรียนก็กลายเป็นมาทบทวนเพราะครูสอนตามหลังโรงเรียนกวดวิชานั่นเอง
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 10:43:26 PM ลองไปดูตามสถานกวดวิชาซิครับ เด็กเดินกันยุ่บยั่บ ผมก็เห็นใจเด็กที่ต้องไปกวดวิชาครับ ลูกผมก็ต้องไปกวดวิชากับเขาด้วยไม่งั้นไม่ทันเพื่อนๆ บอกตรงๆนะครับ ครูที่โรงเรียนไม่สามมารถสอนให้เด็กไปสอบแข่งขันได้ครับ บ่อยครั้งที่สอนไม่ทัน เด็กที่ไม่ไปเรียนกวดวิชาก็ได้แค่สอบผ่านเฉยๆเท่านั้น เด็กที่เรียนพิเศษมาแล้วเรียนล่วงหน้าการสอนในโรงเรียนไปเยอะเลยครับ พอมานั่งในห้องเรียนก็กลายเป็นมาทบทวนเพราะครูสอนตามหลังโรงเรียนกวดวิชานั่นเอง นั่นคือสาเหตุว่า ทำไมเด็กไม่ให้ราคาครูในโรงเรียน.... ก็เพราะความรู้หลักๆ เขาได้มาจากโรงเรียนกวดวิชาแล้วไง..โรงเรียนเขามาเรียนเอาวุฒิหรอก หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 11:18:34 PM สพฐ.เขากลัวเสียแชมป์ครับ...
นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงผลสำรวจความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) ของเด็กนักเรียนไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- มัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั่วประเทศ 72,780 คน เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2553 - มกราคม 2554 ถือเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในโลก พบเด็กนักเรียนไทยมีระดับ IQ เฉลี่ย 98.59 ต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากลที่กำหนดได้ที่ 100 ในจำนวนนี้ร้อยละ 48.5 อยู่ในระดับ IQ ต่ำซึ่งกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ย IQ ต่ำสุด ขณะที่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการอุดมศึกษา (โรงเรียนสาธิตและมหาวิทยาลัยราชภัฏ) มีระดับ IQ เฉลี่ยสูงสุด แต่ย้ำระบบการศึกษาไม่ใช่ผลโดยตรงที่ทำให้ระดับ IQ ต่ำ แต่เกิดจากการรับสารไอโออีนตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ 7 ปี ซึ่งหลายพื้นที่ยังได้รับไม่ต่อเนื่อง รวมถึงสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูเด็กที่ขาดความอบอุ่น เด็กไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และโภชนาการที่เหมาะสมโดยจังหวัดที่พบเด็ก IQ ต่ำสุดในประเทศคือ จังหวัดนราธิวาส มี IQ เพียง 88.07 ส่วนจังหวัดที่เด็กนักเรียนมี IQ สูงที่สุดในประเทศคือ จังหวัดนนทบุรี เฉลี่ยอยู่ที่ 108.91 และพบเด็กกลุ่มอัจฉริยะสูงถึงร้อยละ 9.5 มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ร้อยละ 2 ซึ่งช่องว่างระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียนสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างฐานะทาง สังคม และความมั่งคั่งของประเทศในอนาคต จำเป็นต้องผลักดันกฎหมายในประเทศบังคับให้เกลือทุกชนิดทั้งเพื่อการบริโภคใน คน สัตว์และอุตสาหกรรม ต้องเป็นเกลือไอโอดีนทั้งหมด เช่นเดียวกับที่ทั่วโลกดำเนินการมาแล้ว สงสัยกลัวว่าเสริมไอโอดีนไปแล้ว IQ จะตามทันเด็กนักเรียนสังกัดอื่นๆ...ฮา... ::005:: อ้างอิง...>>> http://news.thaiza.com/%E0%B8%AA%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2+IQ+%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5+-218967.html หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2013, 07:48:48 AM สพฐ. น่าเบื่อ ยิ่งพัฒนายิ่งแย่ :P
ปัญหาที่ครูเรียกร้องจริง ๆ คือ ทำให้ครูครบชั้นครบวิชาในโรงเรียน แต่กลับทำไม่ได้สักที ไม่ว่าใครจะมานั่งเก้าอี้ ไปทำกันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น ::009:: นโยบายทุกสมัยมีแต่นโยบายขายของกันทั้งน๊านนนน ::006:: คิดแต่จะเน้นที่ยอดหาได้คิดจะเน้นที่ฐานไม่ หากฐานไม่แข็งแรงแล้วยอดจะมั่นคงได้อย่างไร ล่ะครับเจ้านายยยยยย ::010:: ไปเจอนี้มาในเฟสบุ๊คโดนใจอย่างแรง วันจันทร์นี้ฤกษ์ดี จะปริ้นท์ไปติดที่ห้องทำงาน :DD (http://image.ohozaa.com/i/6ba/XCIDz2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wCylKVUlx9kYnmDS) ที่มา : https://www.facebook.com/tunwapon?ref=tn_tnmn#!/photo.php?fbid=340801116034199&set=a.329440230503621.75858.329414273839550&type=1&theater (https://www.facebook.com/tunwapon?ref=tn_tnmn#!/photo.php?fbid=340801116034199&set=a.329440230503621.75858.329414273839550&type=1&theater) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: GUNRUNNER ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2013, 12:58:22 PM หนังสือเรียนที่เห็นผ่านตามา..ที่ทำให้เด็กนักเรียนอ่านออกเขียนได้อย่างถูกต้อง เท่าที่เห็นก็ มาน มานะ ปิติ ชูใจ ยังไม่เห็นหนังสือใหม่ๆทำได้ดีกว่าหนังสือรุ่นนี้ ลองหาหนังสือ อ่านให้แม่ฟัง ๑ ๒ ๓ มาให้เด็กฝึกอ่านดูครับคุยกับหลานงง...อ่านภาษาไทยไม่แตก...ทั้งที่เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยสามกลางๆ ผมเอง มีเจ้าหลานตาคนเล็ก ตอนนี้กำลังเรียนชั้น ป. 1 ก็เอา นิทานร้อยบรรทัด เรื่อง "ข้าเป็นลูกคุณแม่ด้วยก็ได้" พรินท์ออกมาด้วยขนาดของฟ้อนท์ 18 Pt. ให้เค้าหัดอ่านครับ ยังพอจำกันได้ใช่ไหมครับ ... กับเรื่องนี้ "เจ้านกน้อย น่ารัก ร้องทักว่า ... " หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 09:11:29 AM นายสมชายนั่งอ่านรวดดดดดเดียว หลายหน้าตั้งแต่หน้าสุดท้ายที่ตัวเอง Post ตอบ... พบว่าสิ่งที่เด็กไทยต้องการเป็นอย่างมากกก(เน้นแยะๆ)...
คือเรื่องการอ่านเอาเรื่องครับ... ดังนั้นหากจะลดการบ้านอะไรก็ตามแต่ แต่ขออย่าให้ลดเรื่องการอ่านเอาเรื่อง การสรุปความสรุปประเด็นฯ, เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุดสำหรับต่อยอดไปหาเรื่องการมองภาพรวมและการสรุปยอดทางความคิดครับ... การสรุปรวบยอดทางความคิด เป็นสิ่งสุดท้ายสูงที่สุด เท่าที่สมองมนุษย์สามารถประมวลผลแล้วเหนือกว่าสัตว์อื่นทั้งมวลในโลกใบนี้ครับ... แล้วมันสามารถผูกโยงสาวเรื่องไปหาวิชาอื่นตั้งแต่ศิลปะกับปรัชญา(สุดโต่งเรื่องความเชื่อเหนือเหตุผล) ไปจนถึงสเกลสุดโต่งอีกด้านหนึ่งคือวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์(เชื่อด้วยเหตุผลและตัดอารมณ์ทิ้ง)... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: TUI 48 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 10:05:46 AM เห็นด้วยกับท่านสมชาย ในประเด็นความสำคัญของการการอ่านเอาเรื่องครับ น้องๆในที่ทำงานผมบางคนไม่สามารถถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ กระทั่งการลำดับเนื้อหาเพื่อนำไปสู่ประเด็นสรุปก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก ส่วนหนึ่งของที่มาของปัญหาก็คือได้เรียนวิชาอ่านเอาเรื่องน้อยเกินไป..อันนี้ผมถือว่าสำคัญมาก..
ไหนๆก็จะปรับปรุงกันแล้ว..ก็ขอฝาก(เผื่อมีผู้หลักผู้ใหญ่ใน สพฐ.เป็นคนเล่นปืนอยู่ในนี้)ให้มีการฝึกฝนเรื่องการคัดลายมือด้วยครับ..ไม่ต้องเอาให้สวยมากมายเหมือนกับวิชาคัดไทยสมัยก่อนก็ได้..ขอแค่ให้ดูพอรู้ว่าที่เขียนมานั้นมันเป็นภาษาไทย ไม่ใช่ภาษาขอมก็พอแล้วครับ.. หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 10:09:18 AM การบ้านนี่แหละตัวทำให้เด็กขยัน...... ::003::
หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 10:58:12 AM สพฐ.เขากลัวเสียแชมป์ครับ... นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงผลสำรวจความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) ของเด็กนักเรียนไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- มัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั่วประเทศ 72,780 คน เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2553 - มกราคม 2554 ถือเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในโลก พบเด็กนักเรียนไทยมีระดับ IQ เฉลี่ย 98.59 ต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากลที่กำหนดได้ที่ 100 ในจำนวนนี้ร้อยละ 48.5 อยู่ในระดับ IQ ต่ำซึ่งกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ย IQ ต่ำสุด ขณะที่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการอุดมศึกษา (โรงเรียนสาธิตและมหาวิทยาลัยราชภัฏ) มีระดับ IQ เฉลี่ยสูงสุด แต่ย้ำระบบการศึกษาไม่ใช่ผลโดยตรงที่ทำให้ระดับ IQ ต่ำ แต่เกิดจากการรับสารไอโออีนตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ 7 ปี ซึ่งหลายพื้นที่ยังได้รับไม่ต่อเนื่อง รวมถึงสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูเด็กที่ขาดความอบอุ่น เด็กไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และโภชนาการที่เหมาะสมโดยจังหวัดที่พบเด็ก IQ ต่ำสุดในประเทศคือ จังหวัดนราธิวาส มี IQ เพียง 88.07 ส่วนจังหวัดที่เด็กนักเรียนมี IQ สูงที่สุดในประเทศคือ จังหวัดนนทบุรี เฉลี่ยอยู่ที่ 108.91 และพบเด็กกลุ่มอัจฉริยะสูงถึงร้อยละ 9.5 มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ร้อยละ 2 ซึ่งช่องว่างระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียนสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างฐานะทาง สังคม และความมั่งคั่งของประเทศในอนาคต จำเป็นต้องผลักดันกฎหมายในประเทศบังคับให้เกลือทุกชนิดทั้งเพื่อการบริโภคใน คน สัตว์และอุตสาหกรรม ต้องเป็นเกลือไอโอดีนทั้งหมด เช่นเดียวกับที่ทั่วโลกดำเนินการมาแล้ว สงสัยกลัวว่าเสริมไอโอดีนไปแล้ว IQ จะตามทันเด็กนักเรียนสังกัดอื่นๆ...ฮา... ::005:: อ้างอิง...>>> http://news.thaiza.com/%E0%B8%AA%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2+IQ+%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5+-218967.html เป็นข้ออ้างที่ทุเรศจริงๆครับพี่ ::009:: สพฐ. น่าเบื่อ ยิ่งพัฒนายิ่งแย่ :P ปัญหาที่ครูเรียกร้องจริง ๆ คือ ทำให้ครูครบชั้นครบวิชาในโรงเรียน แต่กลับทำไม่ได้สักที ไม่ว่าใครจะมานั่งเก้าอี้ ไปทำกันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น ::009:: นโยบายทุกสมัยมีแต่นโยบายขายของกันทั้งน๊านนนน ::006:: คิดแต่จะเน้นที่ยอดหาได้คิดจะเน้นที่ฐานไม่ หากฐานไม่แข็งแรงแล้วยอดจะมั่นคงได้อย่างไร ล่ะครับเจ้านายยยยยย ::010:: ไปเจอนี้มาในเฟสบุ๊คโดนใจอย่างแรง วันจันทร์นี้ฤกษ์ดี จะปริ้นท์ไปติดที่ห้องทำงาน :DD ขอเอาไปแปะกลับลงบนเฟซบุคนะครับครูเบิ้ล :) หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:13:14 AM ขอขอบคุณไอ้พวกโง่ ที่ไม่มายุ่งกับลูกผม ::010::
ผลประเมินกลางภาค เพิ่งได้มาเมื่อวาน (http://image.ohozaa.com/i/8d0/DUvtYA.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wD5l8JdGFH2ZTBHn) (http://image.ohozaa.com/i/gb2/Eu1T9f.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wD5l9rb3eQAVoqZK) 4.00เหมือนทุกครั้ง สอบได้เกือบ100% ตอบผิดไปข้อนึง.....แต่ยังเป็นที่1ของทั้งรุ่น (http://image.ohozaa.com/i/0cb/C0ZqWp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wD5l81gk6oj5RANx) จะเชื่อไหมถ้าบอกว่าลูกผมไม่เคยกวดวิชา น้องสาวเป็นเจ้าของศูนย์smart brainของจังหวัดก็ไม่ให้ไปเรียน , พ่อพวกมัน(ผม)ไม่เคยติวให้ นอกจากมาถามถึงจะตอบ , เสาร์-อาทิตย์ให้เล่นเต็มเหนี่ยวลูกเดียว ...... อย่างเดียวที่พอนับได้คือจะช่วยกันอ่านนิทานก่อนนอนแบบแย่งกันแปลงเนื้อเรื่อง ใครเด็ดกว่าได้เลือกเพลง/เวลานั่งรถไปโน่นไปนี่จะผลัดกันตั้งโจทย์เลขให้ตอบ ใครแพ้โดนจุ๊บ20ครั้ง ที่สอนจริงๆคือวิธีคิด วิธีอ่าน วิธีสังเกตุ สอนให้รับผิดชอบงานของตัวเอง(การบ้านเยอะมากกกกก)....เป็นพ่อที่เล่นกับลูกอยู่ที่โรงเรียนจนค่ำทุกวัน หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:22:03 AM นายสมชายนั่งอ่านรวดดดดดเดียว หลายหน้าตั้งแต่หน้าสุดท้ายที่ตัวเอง Post ตอบ... พบว่าสิ่งที่เด็กไทยต้องการเป็นอย่างมากกก(เน้นแยะๆ)... คือเรื่องการอ่านเอาเรื่องครับ... ดังนั้นหากจะลดการบ้านอะไรก็ตามแต่ แต่ขออย่าให้ลดเรื่องการอ่านเอาเรื่อง การสรุปความสรุปประเด็นฯ, เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุดสำหรับต่อยอดไปหาเรื่องการมองภาพรวมและการสรุปยอดทางความคิดครับ... การสรุปรวบยอดทางความคิด เป็นสิ่งสุดท้ายสูงที่สุด เท่าที่สมองมนุษย์สามารถประมวลผลแล้วเหนือกว่าสัตว์อื่นทั้งมวลในโลกใบนี้ครับ... แล้วมันสามารถผูกโยงสาวเรื่องไปหาวิชาอื่นตั้งแต่ศิลปะกับปรัชญา(สุดโต่งเรื่องความเชื่อเหนือเหตุผล) ไปจนถึงสเกลสุดโต่งอีกด้านหนึ่งคือวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์(เชื่อด้วยเหตุผลและตัดอารมณ์ทิ้ง)... อย่างนี้พี่สมชายต้องชอบลูกๆผมแน่ๆ โดยเฉพาะไอ้คนรองมันสร้างวีรกรรมไว้เด็ดมาก หลายเดือนก่อนครูให้มันไปประกวดแข่งเล่านิทาน(ภาษาอังกฤษ) ด้วยความที่กลัวโดนตัดโปรแกรมเที่ยว/เล่นมันเลยไม่ยอมบอกพ่อมันซักแอะ พอถึงเวลาประกวด(ครูเล่าให้ฟัง)มันก็ด้นสดเอาดื้อๆเลย....กาลครั้งหนึ่ง ยังมีเด็กหญิงคนหนึ่ง ต้องมาแข่งเล่านิทาน แต่เด็กคนนั้นเอาแต่เล่นเลยไม่ได้อ่านนิทานที่จะมาเล่า ฯลฯลฯลฯลฯ....... ฮาครืนกันทั้งครู-กรรมการ แถมยังทะลึ่งได้ที่2ระดับจังหวัดมาหน้าด้านๆ ::007:: เมื่อวานT.Tonyเพิ่งบอก ว่าสัปดาห์หน้าจะให้มันไปแข่งเล่านิทานอีก แต่คราวนี้บอกกล่าวพ่อไอป้องไว้ซึ่งหน้า ขอกันเป็นอันขาดว่าไม่เอานิทานด้นสดแบบคราวก่อนแล้วนะ ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:27:30 AM ให้เล่นเต็มเหนี่ยวลูกเดียว ...... อย่างเดียวที่พอนับได้คือจะช่วยกันอ่านนิทานก่อนนอนแบบแย่งกันแปลงเนื้อเรื่อง ใครเด็ดกว่าได้เลือกเพลง/เวลานั่งรถไปโน่นไปนี่จะผลัดกันตั้งโจทย์เลขให้ตอบ ใครแพ้โดนจุ๊บ20ครั้ง ตรงตัวแดงคือที่สุดแล้วครับ... ตรรกะมันมี 4 ชั้นซ้อนกันอยู่... 1) สรุปประเด็นจากนิทานให้ได้(มองภาพรวมให้ออก)... 2) เปรียบเทียบประเด็นว่าอันไหนเด็ดกว่า ตรงนี้ต้องมีเฟรมเวิร์กในการคิด, เช่นเด็ดในแง่หักมุมจบสะเทือนอารมณ์, แบบคนคนฟังงงงัน, แบบตลก(ก็มีตลกหลายแบบอีก) ฯลฯ... 3) เปรียบเทียบข้อมูลจากฐานข้อมูลในสมอง ที่ต้องสะสมมาจากความรู้รอบตัว, เช่นล้อเลียนเพื่อน/คนในครอบครัว ล้อเลียนหนังดัง หรือล้อเลียนโฆษณา ฯลฯ... 4) เรียบเรียงตรรกะตามลำดับ เพื่อให้เล่าแล้วคนฟังเข้าใจ... วิธีเล่นแบบนี้ต้องค่อยๆสะสมทักษะครับ... แล้วเชื่อไหมว่าวิธีนี้แหละ เขาเอาไป Work Shop ในหลักสูตรการพูดในที่สาธารณะครับ(แต่ดัดแปลงเนื้อหาให้ลึก เหมาะสมกับผู้ใหญ่)... สรุปว่าเยี่ยมครับ... ไม่ฮา... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:29:01 AM นายสมชายนั่งอ่านรวดดดดดเดียว หลายหน้าตั้งแต่หน้าสุดท้ายที่ตัวเอง Post ตอบ... พบว่าสิ่งที่เด็กไทยต้องการเป็นอย่างมากกก(เน้นแยะๆ)... คือเรื่องการอ่านเอาเรื่องครับ... ดังนั้นหากจะลดการบ้านอะไรก็ตามแต่ แต่ขออย่าให้ลดเรื่องการอ่านเอาเรื่อง การสรุปความสรุปประเด็นฯ, เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุดสำหรับต่อยอดไปหาเรื่องการมองภาพรวมและการสรุปยอดทางความคิดครับ... การสรุปรวบยอดทางความคิด เป็นสิ่งสุดท้ายสูงที่สุด เท่าที่สมองมนุษย์สามารถประมวลผลแล้วเหนือกว่าสัตว์อื่นทั้งมวลในโลกใบนี้ครับ... แล้วมันสามารถผูกโยงสาวเรื่องไปหาวิชาอื่นตั้งแต่ศิลปะกับปรัชญา(สุดโต่งเรื่องความเชื่อเหนือเหตุผล) ไปจนถึงสเกลสุดโต่งอีกด้านหนึ่งคือวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์(เชื่อด้วยเหตุผลและตัดอารมณ์ทิ้ง)... อย่างนี้พี่สมชายต้องชอบลูกๆผมแน่ๆ โดยเฉพาะไอ้คนรองมันสร้างวีรกรรมไว้เด็ดมาก หลายเดือนก่อนครูให้มันไปประกวดแข่งเล่านิทาน(ภาษาอังกฤษ) ด้วยความที่กลัวโดนตัดโปรแกรมเที่ยว/เล่นมันเลยไม่ยอมบอกพ่อมันซักแอะ พอถึงเวลาประกวด(ครูเล่าให้ฟัง)มันก็ด้นสดเอาดื้อๆเลย....กาลครั้งหนึ่ง ยังมีเด็กหญิงคนหนึ่ง ต้องมาแข่งเล่านิทาน แต่เด็กคนนั้นเอาแต่เล่นเลยไม่ได้อ่านนิทานที่จะมาเล่า ฯลฯลฯลฯลฯ....... ฮาครืนกันทั้งครู-กรรมการ แถมยังทะลึ่งได้ที่2ระดับจังหวัดมาหน้าด้านๆ ::007:: เมื่อวานT.Tonyเพิ่งบอก ว่าสัปดาห์หน้าจะให้มันไปแข่งเล่านิทานอีก แต่คราวนี้บอกกล่าวพ่อไอป้องไว้ซึ่งหน้า ขอกันเป็นอันขาดว่าไม่เอานิทานด้นสดแบบคราวก่อนแล้วนะ ::007:: ::007:: ::007:: สุดยอดครับ... แถม Post ชนกัน... ฮา... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:35:52 AM การบ้านนี่แหละตัวทำให้เด็กขยัน...... ::003:: ขยัน การจัดการ การวางแผน การรับผิดชอบตัวเอง การบ้านเปิดให้เด็กได้ใช้ความคิดมากกว่าการทำการบ้าน หรือตอบโจทย์ในตำรา เราให้ความสำคัญกับสถานศึกษา อยากเรียนในสถาบันการศึกษามีชื่อ แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสถาบันความคิดของเราเอง ทั้งที่ความคิดอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด และรับผิดชอบชีวิตเราจนลมหายใจสุดท้่าย หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 11:44:53 AM ให้เล่นเต็มเหนี่ยวลูกเดียว ...... อย่างเดียวที่พอนับได้คือจะช่วยกันอ่านนิทานก่อนนอนแบบแย่งกันแปลงเนื้อเรื่อง ใครเด็ดกว่าได้เลือกเพลง/เวลานั่งรถไปโน่นไปนี่จะผลัดกันตั้งโจทย์เลขให้ตอบ ใครแพ้โดนจุ๊บ20ครั้ง ตรงตัวแดงคือที่สุดแล้วครับ... ตรรกะมันมี 4 ชั้นซ้อนกันอยู่... 1) สรุปประเด็นจากนิทานให้ได้(มองภาพรวมให้ออก)... 2) เปรียบเทียบประเด็นว่าอันไหนเด็ดกว่า ตรงนี้ต้องมีเฟรมเวิร์กในการคิด, เช่นเด็ดในแง่หักมุมจบสะเทือนอารมณ์, แบบคนคนฟังงงงัน, แบบตลก(ก็มีตลกหลายแบบอีก) ฯลฯ... 3) เปรียบเทียบข้อมูลจากฐานข้อมูลในสมอง ที่ต้องสะสมมาจากความรู้รอบตัว, เช่นล้อเลียนเพื่อน/คนในครอบครัว ล้อเลียนหนังดัง หรือล้อเลียนโฆษณา ฯลฯ... 4) เรียบเรียงตรรกะตามลำดับ เพื่อให้เล่าแล้วคนฟังเข้าใจ... วิธีเล่นแบบนี้ต้องค่อยๆสะสมทักษะครับ... แล้วเชื่อไหมว่าวิธีนี้แหละ เขาเอาไป Work Shop ในหลักสูตรการพูดในที่สาธารณะครับ(แต่ดัดแปลงเนื้อหาให้ลึก เหมาะสมกับผู้ใหญ่)... สรุปว่าเยี่ยมครับ... ไม่ฮา... เริ่มมาจากความขี้เกียจของพ่อพวกมันครับพี่ พอถึงวัยเริ่มหัดอ่านผมดันขี้เกียจสอนมันอ่านทีละคำ เลยข้ามไปสอนวิธีผสมคำ/ไล่เสียงให้หัดกันเองซะเลย พอถึงนิทานก่อนนอนลูกๆก็มาขนาบซ้าย-ขวา แล้วมันก็ชอบแย่งกันสะกด แย่งกันเล่า แอบนับส้ม/สังเกตุสีของภาพประกอบในนิทานมาถามเกทับกันนักหนา....ลามไปลามมาก็กลายเป็นลักษณะนี้ หลังๆเลยสบาย นิทานเรื่องนึงอ่านเองไม่ถึงหน้า ::005:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 01:56:43 PM เริ่มมาจากความขี้เกียจของพ่อพวกมันครับพี่ พอถึงวัยเริ่มหัดอ่านผมดันขี้เกียจสอนมันอ่านทีละคำ เลยข้ามไปสอนวิธีผสมคำ/ไล่เสียงให้หัดกันเองซะเลย พอถึงนิทานก่อนนอนลูกๆก็มาขนาบซ้าย-ขวา แล้วมันก็ชอบแย่งกันสะกด แย่งกันเล่า แอบนับส้ม/สังเกตุสีของภาพประกอบในนิทานมาถามเกทับกันนักหนา....ลามไปลามมาก็กลายเป็นลักษณะนี้ หลังๆเลยสบาย นิทานเรื่องนึงอ่านเองไม่ถึงหน้า ::005:: แล้วเมื่อโตขึ้น น้องเขาจะขอบคุณคุณจ้าวครับ... เรื่องบุคลิกคนหนึ่งคน ไม่ใช่มีแค่ที่มองเห็นจากภายนอก แต่สิ่งที่มองเห็นนั่นเป็นผลลัพธ์จากการอบรมบ่มเพาะหล่อหลอมมาในเวลายาวนานครับ... เรื่อง"บุคลิกคน"นี่หลายคนไม่เคยรู้ คือคนส่วนใหญ่มักคิดว่าบุคลิก(Character) ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น... แต่ที่จริงไม่ใช่เฉพาะเท่าที่เห็น เพราะข้างในตัวคนนั้นมีอย่างอื่นที่หล่อหลอมออกมาให้ผู้อื่นเห็นภายนอกเหมือนภูเขาน้ำแข็งลอยพ้นน้ำแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ครับ... คำว่า Character ในดิกชันนารีสามารถแปลได้ความหมายว่าเป็น"ตัวละคร"หนึ่งตัวในนิยาย ซึ่งรวมความทั้งหมดของบุคคลหนึ่งคน... สมมติเราเห็นเด็กพูดจารู้เรื่อง ฉะฉานชัดถ้อยชัดคำ ถึงแม้จะพูดช้าๆชัดๆ แต่ไม่กี่ประโยคกินความได้ครอบคลุมหมด, นั่นคือกว่าจะมาถึงตรงนี้ มันต้องฝึกทักษะอย่างอื่นมาแยะแล้ว กว่าจะโผล่พ้นน้ำมาให้เห็นแค่นี้ครับ... หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: Mr.MK ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 06:03:19 PM มันเป็นแผนทำให้ประเทศไทยล่มจมครับ
เด็กอ้างเรื่องสิทธิ อยากไว้ผมยาว ห้ามครูตี ลดการบ้าน แจกแทปเล็ต ฯลฯ โตไปเป็นผู้ใหญ่ ไม่รู้จักเรื่องกฏระเบียบ ความอดทน เขียนหนังสือไม่เป็น(เพราะเอาแต่จิ้มแทปเล็ต) ฯลฯ ในองค์กรต่างๆ ทำงานแบบใช้ลิ้นเลีย ให้ก้าวหน้า ขาดจรรยาบรรณ ศีลธรรม ไม่ต้องใช้สมองหรือฝีมือก็เป็นใหญ่ได้ ตอนนี้ก็เริ่มโจมตีเกษตรกร (หลอกให้เกษตรกรคิดว่าตอนนี้เป็นยุคทอง ข้าวราคาดี แต่ไม่รู้จะขายให้ใครนอกจากคนไทยด้วยกัน ต่างชาติเขาไม่ซื้อเรา) หลอกชนชั้นแรงงานเรื่องค่าแรง 300 ดูเหมือนได้เงินเพิ่ม แต่ต้องตกงานเพราะไม่มีคนจ้าง รถคันแรก คืนภาษี เอาเงินที่ไหนจ่ายล่ะครับ สุดท้ายประเทศก็ต้องกู้ยืมต่างชาติ เป็นหนี้เหมือนเดิม สุดท้าย เดี๋ยวก็เอาพี่ชายมาเป็นฮีโร่ไงครับ ช่วยปลดหนี้ให้ประเทศ 555 เพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิกลองคิดดูเถอะครับ ต่อไปประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ผมได้แต่ ปลง ::014:: หัวข้อ: Re: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2013, 06:28:32 PM พี่จ้าวเก่งมาก สอนลูกได้สุดยอดจริงๆครับ... ::002::
ผมได้แต่ กอด รัด ฟัด เหวี่ยง หอมแก้ม แต่ยังไม่ได้เริ่มสอนการอ่าน... สะท้อนใจเลยครับ... :-\ |