เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ท่ามกลางหนังดังจากทั่วโลก The Rocket สามารถคว้ารางวัลจากเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินมาได้
โดยผลงานของผู้กำกับชาวออสเตรเลียเรื่องนี้ยังน่าสนใจสำหรับชาวไทยเป็นพิเศษ
เพราะเป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และยังมีตลกดังชาวไทย "เทพ โพธิ์งาม"
ร่วมแสดงนำอยู่ด้วย
 
http://www.youtube.com/watch?v=dDxt4gKyGfo&feature=player_embedded

The Rocket สามารถคว้ารางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และยังได้ "หมีคริสตัล" เป็นหนังยอดเยี่ยม
สำหรับโปรแกรมภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็ก Generation Kplus มาได้ กับเรื่องราวของเด็กชายชาวลาว
ที่พยายามสร้างบั้งไฟขนาดยักษ์ เพื่อเข้าแข่งขันในงานประเพณีบุญบั้งไฟของท้องถิ่น โดยหนัง
เป็นผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับชาวออสเตรเลีย คิม มอร์ดวนต์ และโปรดิวเซอร์ ซิลเวีย วิลซินสกี
ที่ทั้งคู่จะได้รับเงินรางวัลไปแบ่งกัน 50,000 ยูโร
       
       ด้วยงานภาพอันงดงาม กับการถ่ายทอดชีวิตชนบทของลาว The Rocket ยังได้รับคำชม
สำหรับการแสดงอันยอดเยี่ยม ของนักแสดงเด็กวัย 10 ขวบ กับการถ่ายทอดบทบาทของเด็กชาย
ที่พยายามพิสูจน์ถึงคุณค่าในตัวเอง นอกจากนั้นหนังก็ยังเล่าถึงเรื่องราวในภาพกว้างของคนลาว
ทั้งในด้านของบาดแผลหลังสงคราม โดยเฉพาะประเด็นปัญหาระเบิดตกค้างหลังสงครามเวียดนาม
ในช่วงยุค 1960s, ความยากจนอดอยากของประชาชนในเขตชนบท รวมถึงวิถีชีวิตที่ผูกอยู่
กับประเพณีพื้นเมือง และความเชื่อทางศาสนาด้วย




 The Rocket ยังถูกมองว่าเป็นความพยายามของออสเตรเลียกับการแสดงตัวเป็นส่วนหนึ่งของ
เขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยผู้กำกับบอกว่าเขาได้ไอเดียในการสร้างหนังเรื่องนี้
หลังเคยเดินทางเข้ามาถ่ายทำหนังสารคดี Bomb Harvest เมื่อ 5 ปีก่อน ที่พยายามติดตาม
การทำงานของทีมเก็บกู้ระเบิดตกค้าง และเด็กชาวลาวที่มองเศษเหล็กจากระเบิดและอาวุธตกค้าง
เป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถนำไปขายเพื่อเงินได้
       
       ในเว็บไซต์ของหนังระบุว่าผู้สร้างได้เดินทางเข้าไปถ่ายทำหนัง The Rocket กันเมื่อต้นปีก่อน
เป็นการทำงานที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจำนวนร่วม 20 คนติดตามการถ่ายทอดฉากต่าง ๆ
อยู่แทบจะตลอดเวลา เช่นเดียวกับการตรวจสอบบทภาพยนตร์อย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไร
ไม่ชอบมาพากลหลุดรอดไปอยู่ในหนัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ลาวก็ไม่สามารถตรวจสอบภาพยนตร์ได้ทั้งหมด
เพราะมีส่วนหนึ่งของเรื่องที่ผู้สร้างเข้าไปถ่ายทำในประเทศไทย


โดยหนังเล่าเรื่องของเด็กชาย ที่อยากจะพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นตัวซวย อย่างที่คนในชุมชนพากันกล่าวหา
ด้วยการสร้างบั้งไฟยักษ์ขึ้นมาเพื่อประกวดในงานประเพณีของหมู่บ้าน โดยทีมงานได้ความร่วมมือ
จากฝ่ายคัดเลือกนักแสดงในไทย เพื่อการควานหาเด็กที่จะมารับบทนำในเรื่อง ที่มีเด็กไทยจำนวนมาก
มาคัดเลือกตัวกัน จนไปได้ตัว ด.ช. สิทธิพล ดีเสมอ วัย 10 ขวบที่เคยใช้ชีวิตเร่ร่อน ก่อนจะมีคนอุปการะเลี้ยงดู
และเคยมีงานแสดงมาบ้างแล้วร่วมถึงในละคร "หลวงตามหาชน" มารับบทนำร่วมกับเด็กหญิงชาวเวียงจันทร์
ที่เคยเรียนการแสดงมาก่อน และนักแสดงชาวออสเตรเลียเชื้อสายลาวที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์
       



 หนังยังมี "เทพ โพธิ์งาม" ดาวตลกชื่อดังในไทย ร่วมแสดงนำอยู่ด้วยกับบท "ม่วง" หนุ่มใหญ่ที่ปรากฏตัว
พร้อมชุดสีม่วงแบบเดียวกับ "เจมส์ บราวน์" นักร้องชื่อดังที่เจ้าตัวชื่นชอบ แต่อีกด้านเขาคนนี้ยังมีเบื้องหลัง
เป็นอดีตทหารของซีไอเอในช่วงสงครามเวียดนาม
       
       ซึ่งผู้สร้างเชื่อว่าหนังเรื่องนี้น่าจะสามารถ "แสดงให้เห็นถึงดินแดนที่ยังไม่เคยมีใครถ่ายทอดลงแผ่นฟิล์มมาก่อน"
ส่วนนักวิจารณ์ที่ได้ชมหนังในเทศกาลภาพยนตร์ที่ เบอร์ลิน มาแล้วก็กล่าวชม The Rocket ว่า "เป็นความฉลาด
ของผู้สร้างที่เลือกทำหนังอาร์ตเฮาส์ที่สามารถเข้าถึงคนในวงกว้างได้ ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ และยังจับใจคนดู
ได้ตั้งแต่นาทีแรกจนตลอดถึงบทสรุปของเรื่องราว"



ที่มา : http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000020598

ขอบคุณครับ

เห็นว่าลึกๆแล้ว ออสเตรเลีย เจริญความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับลาว มากเสียกว่าไทยเราเองที่อยู่กันติดๆเสียอีก
ออสเตรเลียมองเห็นอะไรในลาว....แน่นอนผลประโยชน์ต่างๆในลาวยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก คบกับลาว ทำให้ลาวพอใจ
อะไรๆ ก็คงดีไปหมด

ลองไปดูที่ด่านหนองคายซิครับเข้ามาทีเป็นขบวน รถขนแร่
ตามภูเขาที่สามารถสร้างเป็นเขื่อนได้นั้นได้ถูกสำรวจไว้ตั้วแต่ปี 2513 แล้วตอนนี้ก็ทยอยเปิดให้ประมูลสัมปทานไปเรื่อยๆ อย่างน้ำงึมสายเดียวนี่เปิดไปแล้ว 5 เขื่อนเสร็จไปแล้ว 3 1(ของลาว)  2(ไทย) และ 5 (จีนได้ทำ) อันที่ 3 ของ RACH กำลังดำเนินการ ทางโน้นคงอยากเข้ามาบ้างแหละ

ออสเตรเลีย ก็ออกเงินช่วยสร้างสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวด้วยครับ
ปัจจุบันเขาไปทำเหมืองแร่ทองคำ หลายเหมืองแล้ว   แต่ชาติที่ไปลงทุนมากสุดคือ จีน
รองมา เกาหลีใต้   ไทยนั้นได้เปรียบและใกล้สุด แต่ติดอันดับ 3 หรือ 4 เพราะรัฐบาลเขา
ไม่ไว้ใจคนไทยครับ

 ::002:: ::002:: ::002::

นี่แหละครับโลกเราที่แปลก ใกล้เกลือกินด่างกันไปหมด
ลองสังเกตุดูนะครับ ชาติไหนที่ดินแดนติดกันก็มักจะมีแต่เรื่องระหองระแหง มีแต่ทะเลาะเต็มไปด้วยข้อพิพาทต่างๆนาๆ
ไม่เฉพาะบ้านเราหรอกครับ บ้านอื่นเมืองอื่น ทั่วโลกเป็นอย่างนี้กันไปหมด

 แต่แปลกแฮะ ประเทศเหล่านั้นกับไปญาติดีกับประเทศจากแดนไกลเสมอ


แต่ต้องยกเว้นอยู่ประเทศหนึ่งที่ยินดี ทะเลาะกะชาวบ้านเขาไปทั่วโลก ::008::
โดยเฉพาะแถวไหนที่มีน้ำมัน

บักตำรวจโลก..... ::006:: ::006:: ::006::

คนลาวไม่เคยไว้ใจคนไทยครับ

ถ้าเคยได้ฟังเรื่องเล่าตำนาน "พี่ไทย อม คว... น้องลาว" แล้วจะเข้าใจ  ::008:: ::014::

ผมก็เคยแสดงความคิดเห็นเรื่องลาวไม่ชอบไทยไปหลายครั้งแล้ว
เรื่องนี้ในระดับโลกลาวโพ้นทะเลก็เอาไปพูดต่อๆกันไป
 ประเด็นก็แค่เขาไปจับเอาประวิติศาสตร์....แต่จับมาแค่ช่วงหนึ่งไม่พูดทั้งหมด

จับมาแค่ตอนที่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๓ แต่งทัพไปปราบกบฎลาวท้าวอนุวงศ์และจับตัวมาสำเร็จโทษเสีย
หาว่าไทยรังแกอย่างโน้นอย่างนี้พาลขยายความว่าไปเรื่อย

 จริงๆ เป็นประเทศไหน ใครๆก็ต้องทำอย่างนั้นหากหัวเมืองใดภายใต้การปกครองคิดแข็งข้อขึ้นมามันก็ต้องปราบปรามเสียให้ราบคาบ
อย่าลืมว่าเมื่อก่อนนั้นไทยกะลาวเป็นประเทศเดียวกัน หากคิดแข็งข้อมันก็ต้องกำจัด

ป๋าเทพคนเก่ง ;D ;D ;D ตลกครับ

เคยได้ยินแต่ควายไทยยาว ควายลาวสั้น....

::002::ไช่ครับ พวกหัวเมืองกบฏก็ต้องปราบเป็นธรรมดา เเต่มันก็ถึงยุคนึงที่กบฏเเล้วมีฝรั่งเศสๆมาบังหน้าเเละมาบีบบังคับเรา เมื่อ20ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนไทยไปโกยทรัพยากรจนลาวร้องเป็นลิง ขยาดนักลงทุนไทยอย่างมาก ถ้าไม่มีฝรํ่งเศสๆจอมกอบโกยในยุคบังคับเอาดินเเดน ชาติไทยก็ไม่มีปํญหาขนาดนี้ ::014::

ชีวิตจริง แก่เป็นคนขยันแต่อาภัพโชคครับ  ทำธุรกิจอะไรก็ล้มลุกมาตลอดครับ
อย่างน้อยป๋าเทพ ก็ได้ประสบความสำเร็จงานการแสดงระดับโลกนี้กว่าตลกคนอื่นครับ

เคยคุยกับคนที่รู้จักแก
บุคคลดังกล่าวเป็นรุ่นพี่ที่จบจากม.เดียวกับผมเอง
คุณเทพแกขยันแต่ขาดการบริหารที่ดีครับ
วางแผนแบบ เห็นคนอื่นทำ แกอยากทำมั่ง
ตอนแกทำน้ำข้าวกล้องขาย แกบอกว่า แค่คนไทยกินของแกคนละขวด แกก็รวยแล้ว
ใช่ แกพูดถูก....
แต่การทำผลิตภัณฑ์ขายทั่วประเทศ ทุนก็ไม่น้อยนะ บ.ระดับชาติเชียวแหละ

รุ่นพี่ผม แกแต่งกะทหารเรือ และพื้นเพสามีทหารมาจากครอบครัวทำการค้า
รุ่นพี่เลยทำน้ำธัญญพืช(หลายชนิดจำไม่ได้หมด) ตอนแรกให้สามีเอาไปให้เพื่อนที่ทำงานชิม
พอปรับรสชาติถูกปากก็ทำขาย ไปขายในร้านค้าละแวกสัตหีบน่ะแหละ...
ทุกวันนี้ไม่ต้องให้สามีขนไปส่งลูกค้าตอนไปทำงานแล้ว เพราะมีรถส่งของพร้อมคนขับของ
ตัวเองแล้ว มีลูกน้องช่วยทำน้ำธัญญพืช4-5คน ซื้อเครื่องคั้น ปั่นน้ำ(อะไรไม่รู้) เครื่องใหญ่
ราคาเหยียบแสนเลย

ที่กล่าวนี่ ขายเฉพาะในพื้นที่สัตหีบนะครับ  ;D ;D ;D

ดูนักร้องคนที่ทำเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ผสมวิตามิน บี๑๒ ขายนะ
มีโรงงานผลิต การบริหารจัดการที่ดี มีการจัดจำหน่ายพนักงานขายออกต่างจังหวัดเยอะ

 เจ้าของแค่ทำหูทวนลม ยอมอดทนกะน้ำลายที่หล่มแปะหน้าผากนิดหนึ่ง ตอนนี้คงรวยแล้ว

แต่ก็แปลกนะคนที่ทำตราวัวชนแดงขาย ทำมานานแล้วชาวบ้านก็ไม่ด่าแกเท่าไหร่  เพราะก่อนทำ แกปากไม่เสีย
ขนาดคนที่ทำน้ำเมาตราช้าง ก็ไม่เห็นชาวบ้านจะด่าอะไร แกคงคิดทำอะไร ก็ทำเลยไม่พูดมาก ด่าคนอื่นไว้ก่อน แล้วมาทำตามหลัง

ใช่คนที่บอกว่าเมดอินไทยแลนด์ แต่ขี่ฮาร์เลย์หรือเปล่าครับ  ;D คนๆนี้ด่าคนอื่นไว้เยอะครับ