เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: 1911&FISHING ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 07:50:07 AM



หัวข้อ: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: 1911&FISHING ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 07:50:07 AM
....................เวลามันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรือ?...................................
........................................................... .................................................

ชายหนุ่มเลิกงานแล้วกลับเข้าบ้านด้วยความอ่อนหล้า
และพบว่าลูกชายวัย 5 ขวบรอคุณพ่ออยู่ที่หน้าประตู

ลูก . "พ่อครับ, พ่อผมมีคำถามถามพ่อข้อนึง"
พ่อ . "ว่ามาสิลูก,อะไรเหรอ"

ลูก . "พ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่"
พ่อ . "ไม่ใช่โกงการอะไรของลูกนี่, ทำไมถามอย่างนี้ล่ะ" พ่อตอบด้วยความโมโห

ลูก . "ผมอยากรู้จริง ๆ โปรดบอกผมเถอะ พ่อทำงานได้เงินชั่วโมงละเท่าไหร่"
ลูกพูดร้องขอ

พ่อ . "ถ้าจำเป็นจะต้องรู้ละก็ พ่อได้ชั่วโมงละ 20 เหรียญ"
ลูก . "โอ.."ลูกอุทาน แล้วคอตก พูดกับพ่ออีกครั้ง "พ่อครับผมอยากขอยืมเงิน 10 เหรียญ"

พ่อกล่าวด้วยอารมณ์ "นี่เป็นเหตุผลที่แกถามเพื่อจะขอเงินแล้วไปซื้อของเล่นโง่ ๆ หรืออะไรที่ไม่เข้าท่าหรอกเหรอ

รีบขึ้นไปนอนเลยนะ แล้วลองคิดดูว่าแกน่ะเห็นแก่ตัวมาก ชั้นทำงานหนักหลาย ๆ ชั่วโมงทุกวันและไม่มีเวลาสำหรับ

เรื่องเด็กๆ ไร้สาระอย่างนี้หรอก"

เด็กน้อยเงียบลง เดินไปที่ห้องแล้วปิดประตู

ชายหนุ่มนั่งลงและยังโกรธอยู่กับคำถามของลูกชาย
เค้ากล้าที่จะถามคำถามนั้นเพื่อจะขอเงินได้อย่างไร
หลังจากนั้นเกือบชั่วโมงอารมณ์ชายหนุ่มก็เริ่มสงบลง
และเริ่มคิดถึงสิ่งที่ทำลงไปกับลูกชายตัวน้อย

บางทีเขาอาจจำเป็นต้องใช้เงิน 10 เหรียญนั้นจริง ๆ และลูกก็ไม่ได้ขอเงินเขาบ่อยนัก

ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดประตู

พ่อ . "หลับหรือยังลูก"
ลูก . "ยังครับ"

พ่อ. "พ่อมาคิดดู เมื่อกี้พ่ออาจทำรุนแรงกับลูกเกินไป" ,

"นานแล้วนะที่พ่อไม่ได้คลุกคลีกับลูก , เอ้า นี่เงิน 10 เหรียญที่ลูกขอ"

เด็กน้อยลุกขึ้นนั่ง "ขอบคุณครับพ่อ"

ว่าแล้วก็ล้วงลงไปใต้หมอนหยิบเงินเศษสตางค์ที่เก็บมาเป็นเวลานาน...จากการอดค่าขนม......จำนวนหนึ่งออกมา แล้วนับช้า ๆ

ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็โกรธขึ้นอีกครั้ง . "ก็มีเงินแล้วนี่ แล้วมาขออีกทำไม"

ลูก . "เพราะผมมีไม่พอครับ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว"พร้อมกับเอามือน้อยๆกำเหรียญแล้วค่อยๆยื่นมือออกไป...เอาไปใส่มือพ่อ......

พ่อครับ ตอนนี้ผมมีเงิน ครบ 20 เหรียญแล้ว ผมขอซื้อเวลาพ่อชั่วโมงนึง"

............พรุ่งนี้พ่อกลับบ้านเร็ว ๆ นะครับ ผมอยากกินข้าวเย็นกับพ่อ...........


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 08:04:34 AM
โชคดีที่ไม่ได้เป็นพ่อเจ้าอารมณ์แบบนั้น....จงมีสติ+ขันติไว้ก่อน


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: คีนูแป๊ะ-รักในหลวงครับ ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 09:56:13 AM
..... อ่านแล้วน้ำตาซึมครับ........


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: ภูกามยาว ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 09:59:00 AM
ของผมยังไม่มีใครมาขอยืมเงินเลยครับ ;D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:14:29 AM
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะตรงกับชีวิตสังคมในปัจจุบันนะครับ


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:15:11 AM
       อ่านแล้ว......เฮ้อ   ความเป็นจริงนะนี่  สำหรับมนุษย์ทำงานส่วนมาก


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: tawee sre ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:25:40 AM
...ถูกต้องครับ...คนเราไม่ได้ต้องการอะไรมากขนาดนั้นครับ
ความสุขของมนุษย์....มุมๆหนึ่ง ห้องๆหนึ่ง ในบ้าน (ไม่จำเป็นต้อง บ้านหลังใหญ่โตมโหฬาร)
....เวลาๆหนึ่ง วันๆหนึ่ง(ที่จะอยู่กับคนที่เรารัก)

แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: www.jrmotor.com ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:39:24 AM
สถาบันครอบครัวคือจุดเริ่มและก่อให้เกิดความสุขที่แท้จริงของทุกคนครับ :D :D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:50:43 AM
ของผมยังไม่มีใครมาขอยืมเงินเลยครับ ;D

 เดี๋ยวจัดให้ครับ.... ;D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 10:58:55 AM
. :o....โอ.......ซึ้งมากครับ......เมื่อวานเป็นวันเกิดของลูกชาย...ปีนี้ครบ ๗ ขวบพอดี.....เลยพาไป..ในเมือง....ซื้อกล่องใส่ดินสอ..กระเป๋าใส่หนังสือใบใหม่.....เป็นลายอุลตร้าแมน.....ให้....และไม่ลืมที่จะไปหยิบแผ่นหนังการ์ตูน โดเรมอน...ภาคใหม่..ให้...เพราะจะซื้อของเล่นให้ก็ไม่เอา...เขาบอกเขาโตแล้ว...เบื่อแล้ว...อยากได้ของที่เกี่ยวกับการเรียนมากกว่า ผมก็ไม่ขัด...และพาไปซื้อเค้กและไปตัดเค้ก..ที่บ้านตายาย....ดูท่าทางเขามีความสุขมาก....เราก็พลอยมีความสุขไปด้วย....เดี๋ยวก็จะออกไปรับที่บ้านตายาย.....ป่านนี้คงรอผมจนเบื่อแล้วล่ะ... ;D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กรกฎาคม 23, 2006, 11:59:04 AM
 ;) ขอบคุณครับพี่ 1911&FISHING



หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 24, 2006, 07:28:47 AM
อ่านแล้ว....ซึมๆครับแต่เป็นจริงในบางครอบครัว :~)


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: น้าเสก คนเดิม ที่ กรกฎาคม 24, 2006, 07:51:29 AM
ขอบคุณครับเป็นสิ่งที่เตือนใจอย่างดี คงใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันที่ต่างคนต่างดิ้นรนทำงาน อาจจะไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ กรกฎาคม 24, 2006, 09:38:01 AM
ชอบทำผมซึมอีกแล้ว โชคดที่ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวแบบนั้น แต่ก็เห็นใจกับหลาย ๆ ครอบครัวครับ   


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ กรกฎาคม 24, 2006, 09:40:38 AM
ลูกผมมีแต่ขอเงินจะไปซื้อขนมเลี้ยงเพื่อน  ซื้อเกมส์  รถของเล่น  เบเบลด  เครื่องบินจำลอง ฯลฯ ส่วนเวลาผมให้ลูกตลอดเวลา ยกเว้นตอนที่ไม่เจอกัน :D :D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: RUGER ที่ กรกฎาคม 24, 2006, 09:48:01 AM
  โชคดีที่ผม ทำงานอยู่ บ้านเลย .... ไม่ค่อยพบปัญหาแบบนี้ ....


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: มือปืน อีโบ๊ะ ที่ กรกฎาคม 25, 2006, 07:07:07 AM
--ขอบคุณครับ. บางคนลืมจริงๆ ว่ามีใครคอยอยู่ที่บ้าน.


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กรกฎาคม 25, 2006, 09:41:42 PM

.........ก็ไม่แน่.....อาจจะทำให้ใครในเว็บเราที่มีอะไร ๆ ตรงกับในเรื่องนี้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม....ก็เป็นได้.....ขอบคุณสำหรับเรื่องที่เป็นแนวคิด...ดี ๆ ...ขอบคุณครับผม......


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ กรกฎาคม 25, 2006, 09:47:42 PM


                       :) :) :) :)


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: boon ที่ กรกฎาคม 26, 2006, 03:47:08 AM
ให้ความสนใจกับลูกและคนในครอบครัวบ้างก่อนที่จะสายเกินไป
บางครั้งหลายๆอย่างมันก็วิ่งสวนทางกัน  ตอนลูกเรายังเด็กๆเขาก็อยากให้พ่อแม่มีเวลาเล่นกับเขาบ้าง
ตอนนั้นเรายังหนุ่มสาวก็ไม่ได้ใส่ใจกับเขามากเท่าไร    พอลูกเริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาว เราก็เริ่มมีอายุมากขึ้น
อยากได้คุยกับลูกบ้าง  ส่วนลูกเราเขาก็อยากมีชีวิตวัยรุ่น ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆพูดคุยภาษาเดียวกันมากกว่าที่จะคุยกับพ่อแม่
กลายเป็นช่องว่างระหว่างวัย ผู้ใหญ่กับเด็กคุยกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: ครูแอม-ทีมซึมเศร้าฯ ที่ กรกฎาคม 26, 2006, 05:40:10 AM
 ;D ขอบคุณค่ะ ... ตั้งใจว่าจะไม่ให้ใครต้องมาขอซื้อเวลา
แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเก็บเงินไว้ซื้อเองหรือเปล่าเนี่ยสิคะ  :~)


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: G. BKK ที่ กรกฎาคม 26, 2006, 05:40:17 AM
 :VOV: อึ้ง ครับ  :VOV:


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กรกฎาคม 26, 2006, 05:56:48 AM
ครอบคุณมากครับพี่  อ่านแล้วนึกถึงลูกตัวเองครับ


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มีนาคม 14, 2013, 06:16:35 PM
อ่านแล้วซึ้งใจ เลยขออนุญาตขุดครับ  ::014:: :)


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: schamp ที่ มีนาคม 14, 2013, 07:56:20 PM
อ่านแล้วรู้สึกว่ามีอะไรคล้ายๆกับชีวิตตัวเองหลายๆอย่างคับแต่ทุกๆวันนี้ชีวิตก็มีแต่ครอบครัวมาที่1


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: Twitter 125 ที่ มีนาคม 14, 2013, 08:00:32 PM
ดีมากครับ.ซึ้งจริงๆ


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: koptha ที่ มีนาคม 15, 2013, 10:10:24 AM
ซึ้งครับ อ่านกี่ครั้งก็ยังน้ำตาซึมทุกที  ผมกำลังจะได้เห็นหน้าลูกอีกไม่กี่เดือนนี้  ตั้งใจจะไม่เป็นพ่อเหมือนในเรื่องนี้ครับ


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 15, 2013, 10:28:04 AM
ต้นเหตุไม่ได้เกิดจากพ่อมัวแต่ทำมาหากินจนไม่มีเวลาให้ลูกหรอกครับ... แต่ต้นเหตุเกิดจากพ่อพูดจาไม่รู้เรื่อง มัวแต่เจ้าอารมณ์ คนแบบนี้ต่อให้อยู่ที่ทำงานก็สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง, เรื่องงานที่คนอื่นเขาคุยกันแค่สามสี่ประโยคก็รู้เรื่อง แต่ถ้าคุยกับคนที่เป็นพ่อเด็กตามกระทู้นี้ ก็จะคุยเสียครึ่งชั่วโมง อย่างนี้ยังไงก็ไม่มีเวลาเหลือพอหรอกครับ เพราะมีเวลาเพิ่มอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอ เหมือนวิ่งไล่เงาตัวเอง...

ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดคือ 24 ชั่วโมง... แค่คุยกับลูกในช่วงเวลาระหว่างอาบน้ำให้ลูก กินข้าวกับลูก พาลูกไปส่งโรงเรียน/รับกลับจากโรงเรียน, หากคนคุยเป็นสรุปประเด็นเป็น เวลาแค่นั้นพ่อลูกคุยได้สารพัดเรื่องแล้วครับ พอกินข้าวเย็นเสร็จก็ปล่อยให้ลูกอ่านหนังสือ/ทำการบ้านไป พ่อก็เข้าห้องทำงานจนดึกก็ยังได้...

เวลามัน 24 ชั่วโมงเท่ากันหมดแหละ... หากใครสือสารไม่รู้เรื่อง ก็จะพบว่าตัวเองจะหมดเวลาไปกับการอธิบาย การเท้าความเรื่องเดิม การประชุม ฯลฯ ทั้งหมดคือการสื่อสารระหว่างบุคคลกินเวลาทำงานไปหมด จนเหลือเวลามีสมาธิทำงานที่ได้เนื้อๆจริงแค่ไม่กี่ชั่วโมงในเวลางาน...

หากใครเรียนเรื่องบริหารฯ จะมีพฤติกรรมในองค์กร กับเรื่องภาวะผู้นำอยู่ด้วย... ในนั้นจะระบุชัดเจนครับ ว่าเมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้นจะทิ้งงานด้านเทคนิคลงไปเรื่อยๆ แต่เพิ่มงานประชุม/งานสื่อสารระหว่างบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจะเหลือแต่การประชุม"แจกงาน"เท่านั้นเองหากก้าวขึ้นถึง CEO ขององค์กร...

พ่อเด็กตามท้องเรื่องในกระทู้นี้จะไม่มีวันมีเวลาว่าง หากไม่มีวิธีจับประเด็นในการสื่อสาร โดยเฉพาะคุยกับลูกตัวเองยังเจ้าอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้ครับ...


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ มีนาคม 15, 2013, 10:33:15 AM
เหมือนเพลง cat's in the cradle ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=7OqwKfgLaeA (http://www.youtube.com/watch?v=7OqwKfgLaeA)


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 15, 2013, 11:42:05 AM
ช่วง3ปีมานี้ผมทำงานเต็มที่วันละ5ชั่วโมง เลี้ยงลูกวันละ7-9ชั่วโมงครับ....คือผมอยู่ด้วยตลอดนอกจากตอนหลับกับอยู่ในห้องเรียน

เพิ่งถามเมียกับลูกๆไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ว่าอยากให้พ่อรวยมากๆกันไหม เอาแบบซื้อม้ามาเลี้ยง/ทำสนามโกคาร์ทไว้ที่บ้านเลย จัดให้ได้สบายมาก แต่พ่อต้องขอเวลาทำงานเพิ่มนะ


เมียกับลูกมติเป็นเอกฉันท์ว่า"ไม่เอา"แบบนี้ก็มีความสุขแล้ว ก็เลยต้องเลี้ยงลูกเป็นอาชีพหลักต่อไป  ;D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มีนาคม 15, 2013, 12:49:08 PM
ต้นเหตุไม่ได้เกิดจากพ่อมัวแต่ทำมาหากินจนไม่มีเวลาให้ลูกหรอกครับ... แต่ต้นเหตุเกิดจากพ่อพูดจาไม่รู้เรื่อง มัวแต่เจ้าอารมณ์ คนแบบนี้ต่อให้อยู่ที่ทำงานก็สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง, เรื่องงานที่คนอื่นเขาคุยกันแค่สามสี่ประโยคก็รู้เรื่อง แต่ถ้าคุยกับคนที่เป็นพ่อเด็กตามกระทู้นี้ ก็จะคุยเสียครึ่งชั่วโมง อย่างนี้ยังไงก็ไม่มีเวลาเหลือพอหรอกครับ เพราะมีเวลาเพิ่มอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอ เหมือนวิ่งไล่เงาตัวเอง...

ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดคือ 24 ชั่วโมง... แค่คุยกับลูกในช่วงเวลาระหว่างอาบน้ำให้ลูก กินข้าวกับลูก พาลูกไปส่งโรงเรียน/รับกลับจากโรงเรียน, หากคนคุยเป็นสรุปประเด็นเป็น เวลาแค่นั้นพ่อลูกคุยได้สารพัดเรื่องแล้วครับ พอกินข้าวเย็นเสร็จก็ปล่อยให้ลูกอ่านหนังสือ/ทำการบ้านไป พ่อก็เข้าห้องทำงานจนดึกก็ยังได้...

เวลามัน 24 ชั่วโมงเท่ากันหมดแหละ... หากใครสือสารไม่รู้เรื่อง ก็จะพบว่าตัวเองจะหมดเวลาไปกับการอธิบาย การเท้าความเรื่องเดิม การประชุม ฯลฯ ทั้งหมดคือการสื่อสารระหว่างบุคคลกินเวลาทำงานไปหมด จนเหลือเวลามีสมาธิทำงานที่ได้เนื้อๆจริงแค่ไม่กี่ชั่วโมงในเวลางาน...

หากใครเรียนเรื่องบริหารฯ จะมีพฤติกรรมในองค์กร กับเรื่องภาวะผู้นำอยู่ด้วย... ในนั้นจะระบุชัดเจนครับ ว่าเมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้นจะทิ้งงานด้านเทคนิคลงไปเรื่อยๆ แต่เพิ่มงานประชุม/งานสื่อสารระหว่างบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจะเหลือแต่การประชุม"แจกงาน"เท่านั้นเองหากก้าวขึ้นถึง CEO ขององค์กร...

พ่อเด็กตามท้องเรื่องในกระทู้นี้จะไม่มีวันมีเวลาว่าง หากไม่มีวิธีจับประเด็นในการสื่อสาร โดยเฉพาะคุยกับลูกตัวเองยังเจ้าอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้ครับ...
::002::
ซึ้งครับ อ่านกี่ครั้งก็ยังน้ำตาซึมทุกที  ผมกำลังจะได้เห็นหน้าลูกอีกไม่กี่เดือนนี้  ตั้งใจจะไม่เป็นพ่อเหมือนในเรื่องนี้ครับ
ยินดีด้วยครับ  :D


หัวข้อ: Re: ลองอ่านดูครับ......เผื่อบางคนจะลืมไป
เริ่มหัวข้อโดย: koptha ที่ มีนาคม 15, 2013, 02:57:15 PM
ต้นเหตุไม่ได้เกิดจากพ่อมัวแต่ทำมาหากินจนไม่มีเวลาให้ลูกหรอกครับ... แต่ต้นเหตุเกิดจากพ่อพูดจาไม่รู้เรื่อง มัวแต่เจ้าอารมณ์ คนแบบนี้ต่อให้อยู่ที่ทำงานก็สื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง, เรื่องงานที่คนอื่นเขาคุยกันแค่สามสี่ประโยคก็รู้เรื่อง แต่ถ้าคุยกับคนที่เป็นพ่อเด็กตามกระทู้นี้ ก็จะคุยเสียครึ่งชั่วโมง อย่างนี้ยังไงก็ไม่มีเวลาเหลือพอหรอกครับ เพราะมีเวลาเพิ่มอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอ เหมือนวิ่งไล่เงาตัวเอง...

ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดคือ 24 ชั่วโมง... แค่คุยกับลูกในช่วงเวลาระหว่างอาบน้ำให้ลูก กินข้าวกับลูก พาลูกไปส่งโรงเรียน/รับกลับจากโรงเรียน, หากคนคุยเป็นสรุปประเด็นเป็น เวลาแค่นั้นพ่อลูกคุยได้สารพัดเรื่องแล้วครับ พอกินข้าวเย็นเสร็จก็ปล่อยให้ลูกอ่านหนังสือ/ทำการบ้านไป พ่อก็เข้าห้องทำงานจนดึกก็ยังได้...

เวลามัน 24 ชั่วโมงเท่ากันหมดแหละ... หากใครสือสารไม่รู้เรื่อง ก็จะพบว่าตัวเองจะหมดเวลาไปกับการอธิบาย การเท้าความเรื่องเดิม การประชุม ฯลฯ ทั้งหมดคือการสื่อสารระหว่างบุคคลกินเวลาทำงานไปหมด จนเหลือเวลามีสมาธิทำงานที่ได้เนื้อๆจริงแค่ไม่กี่ชั่วโมงในเวลางาน...

หากใครเรียนเรื่องบริหารฯ จะมีพฤติกรรมในองค์กร กับเรื่องภาวะผู้นำอยู่ด้วย... ในนั้นจะระบุชัดเจนครับ ว่าเมื่อมีตำแหน่งสูงขึ้นจะทิ้งงานด้านเทคนิคลงไปเรื่อยๆ แต่เพิ่มงานประชุม/งานสื่อสารระหว่างบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจะเหลือแต่การประชุม"แจกงาน"เท่านั้นเองหากก้าวขึ้นถึง CEO ขององค์กร...

พ่อเด็กตามท้องเรื่องในกระทู้นี้จะไม่มีวันมีเวลาว่าง หากไม่มีวิธีจับประเด็นในการสื่อสาร โดยเฉพาะคุยกับลูกตัวเองยังเจ้าอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้ครับ...
::002::
ซึ้งครับ อ่านกี่ครั้งก็ยังน้ำตาซึมทุกที  ผมกำลังจะได้เห็นหน้าลูกอีกไม่กี่เดือนนี้  ตั้งใจจะไม่เป็นพ่อเหมือนในเรื่องนี้ครับ
ยินดีด้วยครับ  :D
ขอบคุณครับ