หัวข้อ: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มีนาคม 14, 2013, 03:13:43 PM ว่ากันว่าเป็นไข่(เค็ม)ของอีตารัสปูตินฮะ..เก็บรักษาอยู่ที่สถาบัน xxxx..แห่งรัสเซีย (ขออภัยครับหากไม่เหมาะสม..และวาน วมต.ช่วยลบกระทู้ด้วย)
หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มีนาคม 14, 2013, 05:57:44 PM ไม่น่าเชื่อครับ ::008::
หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ มีนาคม 14, 2013, 05:59:58 PM นึกว่าไข่แบบนี้ ;D ;D ;D
(http://www.baanlaesuan.com/plantlover/Webboard/images_board%5Creply_Q1612A8.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Twitter 125 ที่ มีนาคม 14, 2013, 07:55:47 PM ไม่เน่าไม่เปื่อยเนาะ
หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: schamp ที่ มีนาคม 14, 2013, 07:58:42 PM ทรงแปลกๆครับ..อิๆ
หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 15, 2013, 08:50:45 AM เป็นของรัสปูตินจริงๆ แหละครับ... นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามารถครอบครองราชสำนักรัสเซียไว้ในกำือได้... นอกเหนือไปจากพลังจิตที่เหนือมนุษย์...
(https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSJxbcUE139g_lwLOC93ieoqcmrrJjy9h4UqYJADpgbstjBsH9i) (http://4.bp.blogspot.com/-rkf0OUfyr28/UFkqAaTOqMI/AAAAAAAAAZA/gCEBVxB8T6Q/s1600/Rasputin.jpg) (https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSdvICjj1RweYwUdLzLUoUQV4U4neY1yoDP4UFlCMrPyDWXkb4r9w) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 15, 2013, 10:10:07 AM ครูต้นศึกษาจริงๆ คงเอาเป็นแบบอย่าง อิๆๆ
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=kvDMlk3kSYg There lived a certain man in Russia long ago He was big and strong, in his eyes a flaming glow Most people looked at him with terror and with fear But to Moscow chicks he was such a lovely dear He could preach the bible like a preacher Full of ecstacy and fire But he also was the kind of teacher Women would desire RA RA RASPUTIN Lover of the Russian queen There was a cat that really was gone RA RA RASPUTIN Russia's greatest love machine It was a shame how he carried on He ruled the Russian land and never mind the czar But the kasachok he danced really wunderbar In all affairs of state he was the man to please But he was real great when he had a girl to squeeze For the queen he was no wheeler dealer Though she'd heard the things he'd done She believed he was a holy healer Who would heal her son RA RA RASPUTIN Lover of the Russian queen There was a cat that really was gone RA RA RASPUTIN Russia's greatest love machine It was a shame how he carried on (Spoken:) But when his drinking and lusting and his hunger for power became known to more and more people, the demands to do something about this outrageous man became louder and louder. "This man's just got to go!" declared his enemies But the ladies begged "Don't you try to do it, please" No doubt this Rasputin had lots of hidden charms Though he was a brute they just fell into his arms Then one night some men of higher standing Set a trap, they're not to blame "Come to visit us" they kept demanding And he really came RA RA RASPUTIN Lover of the Russian queen They put some poison into his wine RA RA RASPUTIN Russia's greatest love machine He drank it all and he said "I feel fine" RA RA RASPUTIN Lover of the Russian queen They didn't quit, they wanted his head RA RA RASPUTIN Russia's greatest love machine And so they shot him till he was dead (Spoken:) Oh, those Russians... หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มีนาคม 15, 2013, 12:12:44 PM เป็นของรัสปูตินจริงๆ แหละครับ... นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามารถครอบครองราชสำนักรัสเซียไว้ในกำือได้... นอกเหนือไปจากพลังจิตที่เหนือมนุษย์... สงสัยว่าเพราะมันเป็นต้นเหตุให้ระบอบกษัตริย์ของรัสเซียล่มสลาย..เขาจึงเลือกดองไว้เป็นที่ระลึก ทีอวัยวะส่วนอื่น เช่น นิ้วมือ ลูกกะตา..ฯลฯ..ของนักบวชผู้นี้ไม่ยักเก็บไว้นิ ..55555..(https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSJxbcUE139g_lwLOC93ieoqcmrrJjy9h4UqYJADpgbstjBsH9i) (http://4.bp.blogspot.com/-rkf0OUfyr28/UFkqAaTOqMI/AAAAAAAAAZA/gCEBVxB8T6Q/s1600/Rasputin.jpg) (https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSdvICjj1RweYwUdLzLUoUQV4U4neY1yoDP4UFlCMrPyDWXkb4r9w) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 10:32:31 AM การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก
สุดท้ายถูกสังหารหมู่ด้วยการต้อนมารวมในห้องเดียวกันแล้วกระหน่ำยิงทุกพระองค์ แม้ว่าจะถูกกระหน่ำยิงถึงขนาดนั้น แต่มีเรื่องเล่าว่าบางพระองค์นั้นยังไม่สิ้นพระชนม์ชีพ เหล่าผู้ลั่นกระสุนสังหารให้ตระหนกเป็นอันมากว่าเกิดจากอภินิหารอะไรหรือไม่ แต่จริงๆแล้วนั้นเกิดจากการที่เสื้อผ้าเครื่องทรงนั้นได้ถูกปักเย็บเก็บซ่อนเพชรนิลจินดาของมีค่าไว้อย่างแนบเนียน ทำให้คมกระสุนแฉลบไม่เจาะผ่าน เหล่าเพชรฆาตจึงเดินมาลั่นกระสุนซ้ำจนแน่ใจว่าสิ้นพระชนม์จริง เพราะก่อนที่จะถูกปลงพระชนม์นั้นทุกพระองค์ได้ถูกต้อนมาคุมขังไว้และถูกองค์รักษ์ล่อหลอกว่าจะมีคนมาช่วย ให้ทุกพระองค์เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาจึงมีการตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ซ่อนสมบัตินั่นเอง แต่จริงๆก็ไม่มีใครมาช่วยตราบจนถูกต้อนเข้าห้องสังหารหมู่นั่นเอง ปล.บ้างก็เชื่อกันว่ามีเพียงเจ้าหญิงอนาตาเซียเพียงพระองค์เดียวที่รอดมาได้ (ทำให้ตอนหลังมีผู้อ้างตัวเป็นว่าเป็นเจ้าหญิงอนาตาเซียมากมาย) (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/thumb/8/89/Russian_Royal_Family_1911.jpg/720px-Russian_Royal_Family_1911.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มีนาคม 21, 2013, 12:23:30 PM พี่ชายผมว่าราชวงค์โรมานอฟล่มสลายราว ๆ ต้นรัตนโกสินทร์ แต่ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่เอง..ใครพอจำเวลาได้บ้างครับ
หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 12:59:16 PM ภาพราชวงศ์โรมานอฟ
เจ้าหญิงโอลกา (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/6/61/Olga_1910.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 12:59:47 PM เจ้าหญิงทาเทียนา
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f6/Tatiana_in_court_gown_1910.jpg/399px-Tatiana_in_court_gown_1910.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:00:33 PM เจ้าหญิงมาเรีย
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/1f/Grand_Duchess_Marie_in_court_dress_1910.jpg/395px-Grand_Duchess_Marie_in_court_dress_1910.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:01:20 PM เจ้าหญิงอนาตาเซีย
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b7/Anastasia_in_court_gown_1910.2.jpg) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:03:13 PM เจ้าชายซาเรวิช
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/3e/Tsarevich_Alexei_Nikolaevich.jpg) ติดตามชมภาพและอ่านเรื่องราวต่อได้จากกระทู้ คำสาป...ราชวงศ์โรมานอฟ จากเว๊บ http://www.theshockthailand.com/home/index.php/forum/11/80 หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:09:16 PM พี่ชายผมว่าราชวงค์โรมานอฟล่มสลายราว ๆ ต้นรัตนโกสินทร์ แต่ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่เอง..ใครพอจำเวลาได้บ้างครับ ผิดทั้ง คู่ พระเจ้า ชาร์นิโคลัส ครั้งเป็นมงกฎราชกุมาร ก็เคยเสด็จ มาเยือนสยาม ใน รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๕ ก็เคยไปเยือนท่าน ก่อนที่ จะเยือนประเทศอื่นในยุโรป นี่เป็นวิเทโศบาย หนังสือพิมพ์ในปารีส ลงข่าวการเยือนรัฐเซีย ของ ร.๕ ในฐานะไปเยี่ยมพระสหาย ซึ่่งเป็น ๑ ในมหาอำนาจ ทั้งหมดเกิดก่อน WW I และ ราชวงศ์โรมานอฟ ล่มสลาย ด้วย พระเจ้าซาร์นิโคลัส ถูกปลงพระชมม์ หลัง WW I ใน พ.ศ.๒๔๖๑(๑๙๑๘) วาระสุดท้าย http://www.youtube.com/watch?v=wdTG3TEBsVU หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:56:02 PM จากบางส่วนของบทความ
นาทีสังหาร และข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นคำให้การของนายยาคอฟ ยูรอฟสกี (Yakov Yurofsky) หัวหน้าเชกา ซึ่งบันทึกไว้ในปี ค.ศ. ๑๙๓๔ เกี่ยวกับคืนวันสังหารว่า "ข้าพเจ้าปลุกนักโทษของเรา หมอบอตกิน (Botkin) แพทย์ประจำพระองค์ซึ่งพักอยู่ในห้องข้างๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าพเจ้าแจ้งว่าต้องปลุกทุกคนขึ้น เพราะกำลังมีเหตุไม่สงบในเมือง พวกนักโทษใช้เวลาแต่งตัวนานมากเกือบจะ ๔๐ นาที หลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงนำพวกเขาไปยังห้องที่เตรียมไว้ใต้ตัวตึก โดยบอกว่าจะนำไปถ่ายภาพหมู่เป็นหลักฐานว่าทุกคนยังปลอดภัยดี และทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าเตือนหมอบอตกินไม่ให้นักโทษนำอะไรออกมา พวกเขากลับนำสัมภาระบางอย่างติดตัวไปด้วย เช่น หมอน กระเป๋าสตางค์ และที่ข้าพเจ้าจำได้มีสุนัขเล็กๆ ตัวหนึ่งด้วย หลายอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เมื่อลงไปถึงห้องด้านล่าง ข้าพเจ้าแนะนำให้พวกเขายืนเรียงแถวชิดกำแพง ในขณะนั้นคาดว่าทุกคนยังไม่รู้ถึงภัยที่กำลังจะมาถึงตัว อเล็กซานดราตรัสว่า "ขอเก้าอี้หน่อยได้ไหม" ซาร์นิโคลาสยังทรงอุ้มอเล็กเซย์อยู่ที่สะเอว ข้าพเจ้าสั่งให้นำเก้าอี้เข้ามา ๒ ตัว สำหรับอเล็กซานดราและอเล็กเซย์ คนที่เหลือรวมทั้งหมอบอตกิน พ่อครัว นางสนม ยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ข้าพเจ้าจึงสั่งให้ตำรวจเข้ามา ทันใดนั้นซาร์นิโคลาสก็ปรี่เข้าขวางหน้าพระโอรส ข้าพเจ้าประกาศก้องว่า มีคนทั้งในและนอกประเทศพยายามที่จะลักพาตัวราชวงศ์โรมานอฟ เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้สภาโซเวียตลงมติให้ประหารชีวิตพวกท่านเสีย ซาร์ทรงทำหน้าตื่น และทรงอุทานว่า "อะไรกัน?" แล้วหันพระพักตร์ไปหาอเล็กเซย์ ในนาทีนั้น ข้าพเจ้าก็ลั่นไกที่พระองค์ในระยะเกือบเผาขน โดยที่พระองค์ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันพระพักตร์มาเอาคำตอบจากข้าพเจ้า" สภาพห้องใต้ดินขนาด ๒๒๐ ลูกบาศก์ฟุตในเวลานั้น เต็มไปด้วยความสับสน เนื่องจากแออัดอยู่ด้วยคนเกือบ ๓๐ ชีวิต และเสียงปืนดังหูดับตับไหม้พร้อมๆ กันของเพชฌฆาต ๑๒ นาย ผู้กราดกระสุนกว่า ๕๐ นัด ห้องสังหารเล็กเกินไปกว่าที่จะคาดคะเนว่าใครยิงใคร หมอกควันปืนหนาทึบตลบอบอวลไปทั่ว พร้อมกับเสียงกรีดร้องจนฟังไม่ได้ศัพท์ รายละเอียดทางวิทยาศาสตร์เผยว่า หมอกควันจากปืนกว่า ๑๐ กระบอก ทำให้ห้องเล็กๆ ที่มีหลอดไฟติดสว่างอยู่ดวงเดียว บดบังวิสัยทัศน์ของร่างผู้เคราะห์ร้ายจนหมดสิ้น แถมการที่อากาศมีน้อยก็ทำให้หายใจลำบาก แม้แต่ตำรวจเองก็แทบจะทนไม่ไหว ตำรวจ ๓-๔ คน ถึงกับผละออกมาเพราะขาดอากาศหายใจ ๒ คนทำท่าจะสำรอก จากการพิสูจน์รอยกระสุนบนกำแพง ทำให้เชื่อได้ว่า วิถีกระสุนส่วนใหญ่ยิงออกไปในแนวต่ำ บริเวณท่อนล่างของลำตัวคน เพราะสามารถมองเห็นได้มากกว่าท่อนบนซึ่งกลบอยู่ด้วยควันปืน และปืนส่วนใหญ่เล็งไปที่เป้าซึ่งเคลื่อนไหวเท่านั้น ความฉุกละหุกและรีบร้อนทำให้สภาพศพไม่ได้รับการชันสูตรแต่อย่างใด ร่างทั้งหมดถูกลากออกไปยังรถบรรทุกที่จอดติดเครื่องรออยู่ และถูกจับโยนขึ้นไปอย่างไม่ปรานีปราศรัย โดยต้องการทำเวลาไม่ให้เกิดผิดสังเกตบนท้องถนนอันเป็นที่สาธารณะ แนวคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ทำให้เชื่อต่อไปอีกว่า ควันปืนที่กลบอยู่ทั่วห้องทำให้ยากต่อการมองเป้า ตลอดจนจำนวนผู้เคราะห์ร้ายที่เบียดเสียดกันอยู่ และเครื่องกีดขวางที่หลายคนถือหรือสวมติดตัวอยู่ เช่น หมอนและอัญมณีจำนวนมากที่พรางไว้ใต้เสื้อผ้า มีส่วนทำให้กระสุนพลาดเป้าและบาดแผลไม่ฉกรรจ์นัก บางคนอาจหมดสติไปในตอนแรกเพราะตกใจสุดขีด เหตุผลนี้ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ที่ "บางคน" อาจจะยังไม่เสียชีวิตทันที รายงานของนายยูรอฟสกีเองก็ยังสับสน ที่ว่าเมื่อร่างทั้งหมดกองอยู่บนรถแล้ว ร่างของผู้หนึ่ง (ไม่แน่ชัดว่าใคร-ผู้เขียน) ทำท่าเหมือนกับเงยศีรษะขึ้น รถบรรทุกเล็กยี่ห้อเฟียต (Fiat) ขับขี่โดยตำรวจชื่อลูคานอฟ (Lyukhanov) นั่งติดคนขับมีตำรวจ ๓ นาย คือ ยูรอฟสกี (Yurovsky) เอมากอฟ (Ermakov) และวากานอฟ (Vaganov) เป็นการยากที่จะคาดเดาว่า มีอะไรเกิดขึ้นด้านหลังรถท่ามกลางคืนเดือนมืดสนิท รถเคลื่อนย้ายร่างผู้เคราะห์ร้ายจากบ้านอิมปาติฟทันทีที่การสังหารยุติลง ประมาณเวลา ๒ ยามเศษ วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๑๙๑๘ ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมงครึ่ง รถจึงมาถึงเหมืองร้างนอกเมืองที่กำหนดไว้ ที่นั่นตำรวจทั้ง ๓ คน นำร่างทั้งหมดวางลงบนเลื่อนเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังหลุมลึกใกล้ๆ นั้น จากนั้นจึงเปลื้องเสื้อผ้าของทุกคนออกเพื่อเผาทำลายหลักฐาน ณ จุดนั้น ตำรวจพบเครื่องเพชรจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้า โดยเฉพาะของซารีนาและพระราชธิดาทุกพระองค์ หลังจากนั้นตำรวจจึงโยนร่างผู้เสียชีวิตลงในหลุมมืดเมื่อใกล้สาง มีคำยืนยันจากยูรอฟสกีอีกว่า ร่างทั้งหมด ๑๑ ร่างของผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่บนรถตอนแรก แต่มีเพียง ๙ ร่างที่ถูกโยนลงในหลุม หมายความว่ามีจำนวน ๒ ร่างที่อันตรธานหายไประหว่างการเดินทาง! หนึ่งในจำนวนร่างที่หายไปมีมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:56:53 PM หลักฐานใหม่!!
ฉีกหน้าประวัติศาสตร์รัสเซีย ๒๔ ตุลาคม ๑๙๘๘ ที่เมืองอาสตราคาน (Astrakhan) ครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ประจำหมู่บ้านชื่อวาสิลี ฟิลาตอฟ ได้ถึงแก่กรรมลงอย่างสงบ แต่ก่อนการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาได้เปิดเผยตัวเองต่อหน้าลูกเมียว่าที่แท้เขาคือมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ที่สูญหายไปในคืนวันสังหาร วาสิลียืนยันว่าเขาเป็นคนๆ เดียวกับอเล็กเซย์ โรมานอฟ (Alexei Romanov) โอรสองค์เดียวของพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ ๒ และภายหลังที่ราชวงศ์ถูกปลงพระชนม์ เขากลับได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจ ๒ นาย ที่ทนดูความอำมหิตไม่ไหว แน่นอนคำสารภาพของวาสิลีขัดแย้งกับประวัติศาสตร์รัสเซียอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ถึงกระนั้น คำชี้แจงของหน่วยสังหารก็ยังขัดแย้งกันเองในรายละเอียด แต่ที่สำคัญที่สุดและจำต้องปกปิดไว้ คือรายละเอียดของผู้ตายในวันนั้นจำต้องปิดเป็นความลับสุดยอด ทำให้ข้อเท็จจริงถูกปิดบังไว้ต่อไปสำหรับประชาชน นอกจากเหตุผลด้านความมั่นคงแล้ว มันยังมีผลต่อความปลอดภัยและการดำเนินชีวิตของตำรวจกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย หมายความว่าตำรวจกลุ่มปฏิบัติการจะต้องเก็บข้อมูลต่างๆ เป็นความลับไปจนตลอดชีวิต(๒) แถลงการณ์ของรัฐบาลรัสเซียภายหลังการค้นพบโครงกระดูกของผู้เสียชีวิตที่ป่าคอปเตียกี ในเดือนธันวาคม ๑๙๙๑ ยืนยันต่อชาวโลกว่า โครงกระดูกของมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ และของเจ้าหญิงอนาสตาเซียได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยจากหลุมศพที่ถูกฝังรวมกันอยู่ ประชาชนในโลกเสรีงุนงงต่อไป เมื่อสำนักงานเขตกลาง ณ กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ออกใบมรณบัตร ๒ ใบต่างหากในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ ระบุว่า มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์และเจ้าหญิงอนาสตาเซียได้เสียชีวิตแล้ว ทว่า เพราะขาดหลักฐานโครงกระดูกของทั้ง ๒ พระองค์ย่อมทำให้คดีไม่อาจปิดสำนวนได้ โดยเฉพาะใบมรณบัตร จึงกลายเป็นโมฆะในกระบวนการยุติธรรม(๒) หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:58:16 PM การหลบหนีความตาย
ของมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ หนังสือประวัติศาสตร์รัสเซียหลายเล่มบรรยายเป็นเสียงเดียวกันว่า ประชาชนในระยะนั้นเริ่มหูตาสว่างจากความเชื่ออย่างงมงายว่า พระเจ้าซาร์เป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า แต่สิ่งที่ปรากฏกลับเป็นความพังพินาศของชาติ และการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของพระเจ้าซาร์ โดยเฉพาะการที่พระเจ้าซาร์นำชาวรัสเซียนับล้านคนไปตายที่แนวหน้า กองกำลังเฉพาะกาลของรัฐบาลปฏิวัติ ซึ่งโดยมากเป็นลูกชาวนาจากชนบทที่ดูหมิ่นเหยียดหยามราชวงศ์ ครอบครัวของพระเจ้าซาร์จึงได้รับการปฏิบัติอย่างชิงชังในขณะถูกคุมขัง ล้วนเป็นคำให้การที่เย็นชาในสายตาของคนภายนอกทั่วไป แต่สำหรับคนวงในแล้ว เคยมีคนพบลำแสงแห่งความปรานีอยู่บ้าง ในด้านมืดของประวัติศาสตร์ วาสิลี ฟิลาตอฟ เล่าว่า ในจำนวนตำรวจเชกาที่รักษาการณ์อยู่ภายนอกบ้านอิมปาติฟ มีพี่น้อง ๒ คน สกุลสเตรโคติน (Strekotin) ชื่ออเล็กซานเดอร์ (Alexander) และอันเดร (Andrei) ที่มักจะแสดงเมตตาจิตต่อครอบครัวของเขาอยู่เสมอ หลักฐานจากบันทึกของอันเดรที่เปิดเผยในปี ค.ศ. ๑๙๒๘ ยืนยันความเป็นมิตรของ ๒ พี่น้องต่อครอบครัวโรมานอฟ แม้มันจะเป็นเพียงแค่ความทรงจำ "ซาร์มักจะกอดรัดพระโอรสด้วยความเอ็นดู และมักจะอุ้มพระองค์ไปรอบๆ บ้าน หรือมิฉะนั้นก็จะวางอเล็กเซย์บนรถเข็นหญ้า เพื่อเข็นพระโอรสไปเก็บก้อนกรวดเล่นทุกวัน ฯลฯ ส่วนพระธิดาองค์โตที่ชื่อออลกานั้นเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว และไม่ค่อยสุงสิงกับพระสุนิสาองค์อื่นๆ โดยจะใช้เวลาเล่นกับพระอนุชาองค์เล็กมากกว่า" จากบันทึกของยูรอฟสกี พี่น้องสเตรโคตินเป็นผู้รับคำสั่งให้ยกร่างผู้เคราะห์ร้ายขึ้นบนรถ ทำให้สันนิษฐานว่า เขาทั้งสองอาจจะสังเกตเห็นว่ามกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ทรงยังมีชีวิตอยู่ในขณะนั้น รายงานของยูรอฟสกีให้รายละเอียดปลีกย่อยระหว่างการเดินทางที่ดูผิวเผินไม่น่าสนใจในตอนแรก แต่ในภายหลังมันสามารถชี้เบาะแสช่องทางการหลบหนีของผู้รอดชีวิตได้ กล่าวคือ การที่หนทางไปเหมืองร้างเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดใหญ่ เนื่องจากฝนตกหนักทำให้รถติดหล่ม ๒-๓ ครั้ง เป็นเหตุให้ตำรวจต้องจอดรถเพื่อขนย้ายสัมภาระคือร่างผู้เคราะห์ร้ายลง ช่วยให้น้ำหนักรถเบาขึ้น จะได้เข็นรถขึ้นจากหล่มได้ ในระหว่างการขนย้ายอย่างไม่เป็นทางการนี้เอง ที่ผู้บาดเจ็บสามารถเล็ดลอดออกไปได้ โดยที่ไม่มีใครสังเกต จึงสันนิษฐานว่ามกุฎราชกุมารอเล็กเซย์อาจเป็นผู้หนึ่งที่กลิ้งตัวเข้าไปซ่อนอยู่ข้างทาง และกระเสือกกระสนเอาตัวรอดไปจนถึงสถานีรถไฟชาร์ทาช (Shartash Station) เพื่อขอความช่วยเหลือ หลักการนี้ดูน่าเชื่อถือที่สุด ตรงกับรายละเอียดของวาสิลีซึ่งเขาเคยเปิดเผยมันกับครอบครัวของเขาในเดือนกันยายน ๑๙๘๔ ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมอีกมีอยู่ว่า ระหว่างขนย้ายผู้เคราะห์ร้ายไปยังเหมืองร้าง มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ซึ่งหมดสติอยู่หลังรถพลันตื่นขึ้นจากเม็ดฝนที่โปรยลงบนใบหน้า ท่ามกลางร่างของพ่อแม่พี่น้องที่แน่นิ่งอยู่รอบข้าง เขาสลัดตัวออกจากรถบรรทุก แล้วคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานเล็กๆ เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้นเขาก็คลานต่อไปตามทางรถไฟจนกระทั่งถึงสถานีรถไฟชาร์ทาช พี่น้องตระกูลสเตรโคตินซึ่งรับคำสั่งให้ออกติดตามผู้สูญหายพบเขาอีกครั้งที่นั่น จึงได้นำมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์หลบหนีและไปฝากไว้กับครอบครัวฟิลาตอฟ ที่พวกเขารู้จักในเมืองชาดริงค์ (Shadrinsk) ซึ่งอยู่ถัดออกไป "อเล็กเซย์ โรมานอฟ" ได้รับการเยียวยาจนมีอาการดีขึ้น และได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่นต่อมา หัวหน้าครอบครัวผู้มีนามว่าคเซโนฟอนต์ ฟิลาตอฟ (Ksenofont Filatov) เคยมีบุตรชายคนหนึ่งแต่ได้เสียชีวิตไปด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ มกุฎราชกุมารอเล็กเซย์จึงได้สวมรอยเด็กคนนั้นอย่างปลอดภัย และได้รับการอุปการะโดยครอบครัวนี้เรื่อยมา หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 21, 2013, 01:59:40 PM คำชี้แจงของผู้สันทัดกรณี
รายละเอียด ๘๐% ที่ใช้ประกอบการเขียนเรื่องนี้รวบรวมขึ้นจากข้อมูลที่ค้นคว้ามาได้จากหนังสือชื่อ The Escape of Alexei-Son of Tsar Nicholas II เขียนโดยนักค้นคว้าประวัติศาสตร์ชาวรัสเซีย ๓ ท่าน คือ วาดิม เปตรอฟ (Vadim Petrov) อีกอร์ ลีเซนโก (Igor Lysenko) และจอร์จี อีโกรอฟ (Georgy Egorov) โดยได้รับความร่วมมือจากบุตรชายคนโตของวาสิลี คือ โอเล็ก ฟิลาตอฟ (Oleg Filatov) อันเป็นการรวบรวมหลักฐานครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งพิสูจน์ได้ของครอบครัวฟิลาตอฟ เกี่ยวกับราชวงศ์โรมานอฟ และความเชื่อว่าหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาคือมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ ผู้สาบสูญ ผู้เขียนเรียบเรียงเหตุการณ์ขึ้นใหม่ เพื่อความเหมาะสมกับการตีพิมพ์เป็นบทความที่สามารถจบในเรื่อง ในความเป็นจริงหนังสือที่ใช้อ้างอิงนี้ยังให้ข้อมูลอีกมากด้วยความหนาถึง ๒๔๐ หน้ากระดาษ A4 พรั่งพร้อมด้วยภาพถ่ายนับร้อยรูป ที่สนับสนุนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในแง่มุมต่างๆ ผู้เขียนทึ่งในวิริยะอุตสาหะของนักค้นคว้ากลุ่มนี้ อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อพิสูจน์ว่าได้มีการค้นพบ "ทฤษฎีหนึ่ง" ที่อธิบายว่ามกุฎราชกุมารอเล็กเซย์มิได้สูญหายไปจากโลกนี้ ความร้อนแรงของอุณหภูมิในระยะนั้น จนเป็นเหตุให้ครอบครัวฟิลาตอฟ "ของขึ้น" มีที่มาจากการที่รัฐบาลรัสเซียตัดสินใจให้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสิ้นสุดของราชบัลลังก์รัสเซียระหว่างช่วงทศวรรษ ๑๙๘๐ ประจวบกับการที่วาสิลี ฟิลาตอฟ ถึงแก่กรรมลงในปี ค.ศ. ๑๙๘๘ ทายาทของเขาจึงลุกขึ้นมาเปิดปากพูดเพื่อศักดิ์ศรีของบิดา และเพื่อมนุษยธรรมสำหรับราชวงศ์โรมานอฟ ตรงนี้คือจุดยืนที่น่ายกย่อง การค้นพบฐานข้อมูลใหม่นี้ เป็นบททดสอบของการแสดงอิสรภาพทางความคิด ในยุคที่โลกสนับสนุนให้มีการเปิดเผยข่าวสารข้อมูลต่างๆ ที่เคยถูกปกปิดไว้ในมุมมืดของกาลเวลา สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ "ผลสรุป" ทางนิติวิทยาศาสตร์ ภายหลังการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์และรัสเซีย โดยการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของวาสิลี ฟิลาตอฟ ในปี ค.ศ. ๑๙๙๖ แสดงผลว่าพวกเขาเป็นผู้สืบสายโลหิตมาจากราชวงศ์โรมานอฟจริง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นไคลแมกซ์ของเรื่อง คือการที่ครอบครัวฟิลาตอฟร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลโลก ณ กรุงเฮกให้เข้าแทรกแซงในขั้นตอนการพิสูจน์ ในที่สุดรัฐบาลรัสเซียจึงอนุญาตในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ ให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนอวัยวะของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ผู้วายชนม์ จากกระดูก เส้นผม ฟัน และเล็บ ตามระบบนิติเวชวิทยา รวมถึงการคำนวณส่วนประกอบของใบหน้า ตามอายุขัยในวัยต่างๆ ด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลปรากฏว่า วาสิลี ฟิลาตอฟ คือบุคคลเดียวกันกับมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ ปริศนาที่เป็นเรื่องเล่าอย่างสม่ำเสมอในครอบครัวฟิลาตอฟ คือการที่วาสิลีเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ความสามารถพิเศษที่ติดตัวเขามาไม่สามารถปิดบังไว้ได้นาน เช่น ความจัดเจนในการพูดภาษาเยอรมัน กรีก ลโลวานิก ละติน อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างคล่องแคล่ว มีความรู้ทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ พงศาวดารรัสเซีย และการเมืองในยุโรปอย่างกว้างขวาง ดีกว่าคนรัสเซียชนบททั่วไป ตลอดจนความช่ำชองในการเล่นเปียโน และความรอบรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคของสังคมชั้นสูง สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้ใกล้ชิดเขาจนตลอดชีวิต เขารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร? เอกสารประกอบการค้นคว้า (๑) สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่ : ยุโรป เล่ม ๑ อักษร A-B, ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, กรุงเทพฯ, ๒๕๔๒. (๒) Petrov, Vadim. The Escape of Alexei-Son of Tsar Nicholas II. Harry N. Abrams, Inc., New York, 1998. หัวข้อ: Re: ไข่..ระดับโลก เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ มีนาคม 21, 2013, 07:28:08 PM +1 คุณSouthlander สำหรับความรู้ครับ
|