หัวข้อ: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 10:58:20 AM ผมพึ่งแต่งงานครับ โดนเรียกสินสอดเป็นเงินหนึ่งล้านบาท ทองยี่สิบบาท พ่อตาแม่ยายผูกแขนและปูที่นอนรวมเป็นเงินสองแสน ส่วนทองทีแรกแกว่าจะไม่คืนทำเป็นถามว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเก็บไว้ให้ ผมอดไม่ไหวเลยบอกไปว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ในงานนี้ผมกู้สหกรณ์มา แกเลยเงียบไป แต่ก็ยังบอกว่า ตามประเพณี "ของบ้านนี้" ก็ต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องๆ ของเจ้าสาวด้วย ผมเลยให้พ่อตากับแม่ยายไปคนละ 2 บาท และน้องสาวของแฟนผมอีก 1 บาท
อยากถามความคิดเห็นของคนที่เป็นพ่อตาคนมาแล้วว่า โดยส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องเงินสินสอด สำหรับผม ผมว่า เมื่อลูกหลานเค้าเข้าตามตรอกออกตามประตู และทำตามประเพณีทุกอย่างแล้วน่าจะอนุเคราะห์ให้ลูกหลานได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยความราบรื่น ไม่ใช่มาเริ่มต้นชีวิตกับคนที่มีหนี้สินมากมายแบบผม แต่นี่ เพราะผมรักภรรยาผมผมเลยต้องอดทน ทั้งหมดนี้แค่อยากระบายความอึดอัดใจกับพี่น้องชาวปืนครับ และขอฝากท่านที่อาจจะกำลังจะเป็นพ่อตาคนไว้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:08:51 AM โหย...เยอะนะครับน่าเห็นใจจริงๆครับ
หนุ่มสาวเพิ่งเริ่มต้นครอบครัวด้วยหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนี้ภายหน้ามิลำบากแย่หรือครับ โดยปกติเจ้าสาวที่สินสอดมากมายเป็นล้าน หลายล้านสิบล้าน ร้อยล้าน ก็มักจะมีแต่พวกดาราต้องการให้เป็นข่าว หรือตระกูลดังๆถ้าสามัญชนนี่...จุกอกครับ กรณีนี้ให้ความเห็นยากลำบากใจตรงที่คุณและเจ้าสาวก็รักกัน ทำตาม ประเพณีถูกต้อง แต่พ่อแม่ก็กระไรอยู่ หรือจะเป็นกุศโลบายวัดใจลูกเขย แล้วคืนในภายหลัง แต่ถ้าไม่คืน.......ไม่อยากจะคิดเลย เดาว่ากระทู้นี้ฮ็อตฮิตกระฉูดแน่ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:18:10 AM ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:24:03 AM วันจันทร์กระทู้นี้คงเดิน เพราะคุณตาคุณปู่ วันนี้ไม่ว่าง เลี้ยงหลานอยู่ครับ
ถ้าไม่คืนให้ก็คิดผิดครับ เพราะหนี้ขนาดนั้น ก็ไม่พ้นที่ลูกสาวตัวเองจะมาลำบากช่วยกันชดใช้ด้วย ใช่ว่าขายขาดเมื่อไร ::005:: ปล. นับถือน้ำใจ เจ้าของกระทู้ครับ เป็นผมโดนเรียกขนาดนี้คงต้องถอยมาตั้งหลัก ::007:: ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D เขาถามเรื่องคนเป็นพ่อตา ทำเฉไฉเอาเรื่องตัวเองมาเล่า :DD :DD :DD หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:32:37 AM วันจันทร์กระทู้นี้คงเดิน เพราะคุณตาคุณปู่ วันนี้ไม่ว่าง เลี้ยงหลานอยู่ครับ ของผมไม่เรียกสักบาท ::005::ถ้าไม่คืนให้ก็คิดผิดครับ เพราะหนี้ขนาดนั้น ก็ไม่พ้นที่ลูกสาวตัวเองจะมาลำบากช่วยกันชดใช้ด้วย ใช่ว่าขายขาดเมื่อไร ::005:: ปล. นับถือน้ำใจ เจ้าของกระทู้ครับ เป็นผมโดนเรียกขนาดนี้คงต้องถอยมาตั้งหลัก ::007:: ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D เขาถามเรื่องคนเป็นพ่อตา ทำเฉไฉเอาเรื่องตัวเองมาเล่า :DD :DD :DD หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:41:53 AM ถามดูครับ ว่าเงินอาจจะไม่พอ แต่บัตรอิออนกับเฟริส์ช๊อยส์พอมี ใช้รูดแทนก่อนได้ไหม ;D
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ANKIMBER ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:47:32 AM วันจันทร์กระทู้นี้คงเดิน เพราะคุณตาคุณปู่ วันนี้ไม่ว่าง เลี้ยงหลานอยู่ครับ ของผมไม่เรียกสักบาท ::ถ้าไม่คืนให้ก็คิดผิดครับ เพราะหนี้ขนาดนั้น ก็ไม่พ้นที่ลูกสาวตัวเองจะมาลำบากช่วยกันชดใช้ด้วย ใช่ว่าขายขาดเมื่อไร ::005:: ปล. นับถือน้ำใจ เจ้าของกระทู้ครับ เป็นผมโดนเรียกขนาดนี้คงต้องถอยมาตั้งหลัก ::007:: ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D เขาถามเรื่องคนเป็นพ่อตา ทำเฉไฉเอาเรื่องตัวเองมาเล่า :DD :DD :DD อิจฉาน้าจอยจริงๆ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มีนาคม 24, 2013, 11:55:18 AM ไม่รู้จะอยากได้ไปทำไม เขี้ยวนักก็ลงบ/ชตั้งแต่คลอดจนแต่งเลี้ยงดูหมดไปกี่บาทจะสู้ไหม เพื่อนผมโหดกว่านั้นอีกพ่อตาเรียก30ล้าน ถ้าสู้จะเพิ่มให้อีก30ล้านให้คู่บ่าวสาว เพื่อนผมก็ตกลงพอจะถึงวันแต่ง มันบอกมี10ล้านเลยเอาแค่นั้น เขาก็เพิ่มมาอีก10ล้านเพื่อนผมมันว่า อยู่ด้วยกันมาเป็นปีแล้วจั้กจะเรียกเฮ็ดหยัง
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 24, 2013, 12:01:12 PM ของผมอีกนานกว่าจะได้เป็นพ่อตาครับ แต่อยากตอบ
ว่าสมัยนี้มันยอมมาสู่ขอก็ขอบคุณมันแล้ว ผมจะไม่เอาอะไรซักบาท จะแถมบ้านแถมทองให้ด้วย ปืนกับดาบก็จะแถมแล้วจะสอนใช้ให้อีก ตอนผมแต่งงาน พ่อตา-แม่ยายก็ไม่เรียกอะไรครับ บอกให้จัดมาตามสมควร พอถึงวันแต่งยกขันหมากตอนเช้าพอถึงงานค่ำเขาก็ให้คืนมาหมด สินสอดเท่าไหร่ก็โปะลงมาให้เท่ากัน .....ให้มาตั้งตัว , พี่น้อง+อาๆเฉพาะฝ่ายแฟนให้ทองมาอีกเกือบๆกิโลฯ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 24, 2013, 12:07:45 PM ความเห็นของผมคือ....
ผมเห็นด้วยกับย่อหน้าที่2ของท่านครับ เห็นใจเป็นอย่างยิ่ง แทนที่จะคิดว่าให้ลูกให้พ่อของหลานได้ไปตั้งตัวอย่างคนไม่มีหนี้สินกลับเรียกแบบคนที่คิดแต่จะเอาให้คุ้ม ::012:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 12:45:55 PM พ่อตาเรียกแบบนี้เกินไปหน่อย
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 24, 2013, 01:09:08 PM หึๆๆมันเป็นความคิดของแต่ละบุคคล มันเอามาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้..........หลายเรื่องราว หลายกรณี หลากหลายประเพณี หลากหลายวัฒนธรรม หลากหลายความคิดเห็น.......
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มีนาคม 24, 2013, 01:32:57 PM ของผม แต่งเสร็จ เอาสินสอดนั่นแหละ เคลียร์หนี้ค่าของเข้างาน เบ็ดเสร็จเหลือสามหมื่น...
แล้วก็มานั่งดูเงินก้อนนั้นกันสองคนผัวเมีย...ว่าจะทำยังไงกับเงินมหาศาลก้อนนี้ดี... สุดท้ายต้องเอาโฉนดเข้าธนาคาร จึงได้เริ่มต้นได้ ......... คู่แต่งงานใหม่ เงินทุนสำคัญมาก คิดไว้ก่อนแต่งซะหรูหราปานมังกร แต่งเสร็จเหลือไม่กี่หมื่น จากมังกรเหลือแค่ไส้เดือน หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มีนาคม 24, 2013, 01:35:59 PM .....เจ้าสาวทำด้วยอะไร แพงจัง ....ถ้าเริ่มต้นต้องติดลบทั้งเงินและความรู่สึกอย่างนี้มันจะอยู่กันยืดหรือ มันก็จริงที่เป็นเรืองของแต่ละบุคล-สังคม
คุณคงไปเจอพ่อตาแม่ยายเขี่ยวๆเข้า ซวยหน่อย การใช้ชีวิตครอบครัวสไตย์ไทยๆมันเลี่ยงยากที่จะไม่มีปัจจัยกระทบกับบุคคลอื่นๆที่อยู่ในครอบครัว ของแต่ละฝ่าย อีกอย่างคุณคงไปเร่งรัดหรือทำท่าอยากได้ลูกสาวเค้ามากด้วย เลยขึ้นขี่เอาขนาดนี้ ผมคบกับภรรยาคนปัจจุบันหลายปี จนพ่อแม่แฟน ต้องมาถามว่าจะแต่งมั้ย จะจัดการให้ถึงยอมแต่ง เงินเก็บก็ไม่มี จัดใน รร.ประถม งานเล็กๆ หลังเสร็จงานกำไรอื้อ(ยังคิดว่าจะจัดเก็บตังอีกซักรอบ) เพราะผมกับแฟนรวมถึงพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายต่างก็มีหน้าที่การงานดี คนรู้จักเยอะ...สำหรับคุณทำไงได้แต่งแล้วต่อไปก็ต้องช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว ต้องใช้ความหนักแน่นอดทนกับเรื่องที่จะเข้ามากระทบต่อไปอีกมาก ลองใช้การค่อยพูดค่อยปรับตัวน่าจะลงเอยเป็นความสุขของคุณและคนใกล้ชิดได้ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 24, 2013, 01:48:04 PM สมัยนั้น ตอนผมไปแต่ง สินสอดทองหมั้นที่มอบให้พ่อแม่เจ้าสาว เช้ามาก็เอามาคืนให้ แถมพาไปโอนสวนยางให้อีกแปลงบอกว่าไว้ตั้งต้นชีวิต จนเดี๋ยวนี้ สวนยางพี่ๆน้องๆ มาอยู่กับ ผบ. หลายแปลงแล้วครับ ส่วนค่างานเลี้ยงที่บ้านเจ้าสาว พ่อตา แม่ยาย รับผิดชอบเองครับ
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ มีนาคม 24, 2013, 05:51:47 PM ผมไม่ได้เป็นลูกเขยก็เพราะสินสอดนี่ละครับ ตัวเลขไม่ได้ใกล้เคียงท่านจขกท.หรอกครับ แค่ราวๆครึ่งหนึ่ง
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 24, 2013, 06:27:41 PM นึกถึงเพลงนี้ครับ... ::005:: ::005:: ::005::
http://www.youtube.com/watch?v=6eT2vMoVWuw ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: p@p-boonma ที่ มีนาคม 24, 2013, 06:34:21 PM ของผมไม่มีพ่อตาครับ ตอนพาลูกสาวเขาหนีพ่อตาตายไปนานแล้ว แต่แม่ยายก็ไม่เอาอะไรเรื่องมันแล้วไปแล้วแค่บอกว่าเอาส้มมาไหว้สามลูกก็พอ (ตามธรรมเนียมคนจีน)นี่แม่ยายก็ตายมาเกือบสิบปีแล้วยังไม่ได้กินส้มผมเลย ลูกชายผมคนโตอายุ15แล้ว
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: mekathamin-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 06:52:50 PM ของผมนี่เขาเรียกไม่กี่หมืนครับ แต่ยืมผมไปก็หลายอยู่ ที่ยืมผมก็ไม่เอาคืนแต่งเสร็จยังไม่จบจะให้ใช้หนี้ให้ด้วย ห่วยยย...
แล้วทีแรกจะไม่เอาผมด้วยซ้ำบอกมาทำลายอนาคตลูกเขา หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 07:16:20 PM เป็นกำแพงด่านที่ 2 ที่คนส่วนใหญ่ลืมคิดกัน... ส่วนมากแค่กว่าจะรักกันก็แทบเป็นแทบตายแล้ว....
ผมคุยตรงๆครับ แม่ยายขอสินสอด 1 ล้าน ทอง 10 บาท... ผมมีแค่เงิน 1 แสน ทอง 4 บาท ส่วนจัดงานแต่งหยิบยืมคนรู้จัก และแกะซองช่วยงานแต่งจ่ายค่าจัดงานงานเกลี้ยงภายในวันเดียวกับวันจัดงาน... การจัดงานอาศัยฝีมือรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย ทั้งคณะสถาปัตย์ ทั้งคณะศิลปศาสตร์ งานออกมาราวๆกับ Work point มาจัดให้ โดยเฉพาะอ่างรับน้ำสังฆ์ มีการต่อท่อน้ำล้นไว้ด้วย สร้างความเฮฮาและความทรงจำแบบไม่ลืมโดยฝีมือครีเอทโดยรุ่นน้อง... น้องคณะศิลปศาสตร์เพื่อนน้องโต้ง ณ. เวป อวป. มาแกะสลักน้ำแข็งหน้างานสดๆ.. สร้างความประทับใจกันทั้งงาน... อุปกรณ์ตกแต่งสถานที่ ทั้งริ้วผ้า ทั้งซุ้มถ่ายภาพ ดอกไม้ เครื่องเสียง ลำโพง โพเดียม ฯลฯ นำมาจากมหาวิทยาลัยล้วนๆ... ::002:: บริกรสาวสวย ก็รุ่นน้องล้วนๆที่มาเสริฟในงาน... ให้เพื่อนเป็นพิธีกร... ไม่มีใครคิดค่าแรงค่าตัวทั้งสิ้น.. คิดถึงวันเก่าๆแล้วชักอยากแต่งงานอีกรอบครับ.... ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 24, 2013, 07:30:26 PM น้าตั้ว ไม่กลัวหรือ............... รำลึก ทนไหว แต่งอีกรอบ...... สยิวกิ๊ว หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 07:35:22 PM น้าตั้ว ไม่กลัวหรือ............... รำลึก ทนไหว แต่งอีกรอบ...... สยิวกิ๊ว แฟนผมชอบฝันครับ วันนั้นผมบอกว่าเดี๋ยวพอมีจะแต่งงานกันอีกรอบห้องบอลรูม แชงกาลีลา เชิญพี่เบิร์ดมาเป็นพิธีกร... วันนี้(วันนั้น) เอาเท่านี้ไปก่อน... จนลูกจะ 10 ขวบแล้ว ยังไม่มีซะที.... ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 24, 2013, 07:38:11 PM ของชำร่วย ซื้อตะเกียบแจกแขกมาร่วมงานคนละคู่... ::007:: ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Earthworm ที่ มีนาคม 24, 2013, 09:58:03 PM มาอีหรอบนี้ เดี๋ยวมีรายเดือนตามมาแน่นอนครับ หลายคู่ที่รู้จัก เพื่อนสนิทผมเองก็โดน ผมก็งงครับว่าช่างกล้าเรียกขนาดนี้ เหมือนว่าลูกสาวตัวเองจบจากวัฒนาฯ มาแตร์ แท้ที่จริงวัดหนองหญ้าคา มาต่อ วค. พ่อตาเรียกมาทีเป็นล้าน ต่อรองกันเหลือแสนเดียว ทอง ยืมเอามา งานจัดกันแทบจะกลางทุ่งนา พออยู่ไปได้สักพัก เริ่มมีปัญหานู่นนี่เดือดร้อน ญาติโกโหติกา ป่วยไข้ใกล้ตาย อะไรกันสารพัดจะหาเรื่องมาอ้างแทบทุกสิ้นเดือน :~) ต้องขอโทษนะครับที่ต้องระบายเอาที่กระทู้ของ จขกท. เพราะตัวผมเองอินเวอร์สกัน พ่อตาแม่ยายสุดแสนจะดี มีแต่โอบอุ้มสงสาร ::002:: มาตายเอาที่นังเมียนี่สิ เฮ้อ :~) รออ่านพ๊อคเก็ตบุ๊คชีวิตสุดรันทดของผมที่โดนกดขี่จากศรีภรรยาละกันครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 2..U ที่ มีนาคม 25, 2013, 08:15:13 AM ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D โม้ละ..ข่าววงในว่าฉุดเขาหนีมานะ... ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มีนาคม 25, 2013, 08:28:59 AM เรียกสินสอดแพงจัง สงสัยว่า ครอบครัวทางโน้นเขาเป็นคนกว้างขวางมั้งครับ ถึงเรียกกันขนาดนี้
ยังไงซะอ้อยก็เข้าปากช้างแล้ว ผมว่า เราทำนิ่งๆไว้ก่อนดีกว่า บางทีเขาอาจลองใจเราก็ได้ มีอะไรให้เมียไปคุยครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Skeleton_King ที่ มีนาคม 25, 2013, 11:36:34 AM อันนี้ประสบการณ์ ตัวเองเลยครับ เมื่อ มกราคม 2555 ที่ผ่านมา
ของผม แม่ยายเรียก ห้าแสน ทองสิบบาท แต่ผมตกลงกับแม่ยายว่า ห้าแสนนี้ ทองสิบบาทนี้ ค่างานเลี้ยงแม่ยายเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด งานเป็นไปตามอย่างที่คิดไว้ ผมเอาเงินใส่พาน ห้าแสน ทอง 10 บาท ผมได้เงินผูกแขน สองแสนกว่าบาท ส่วนทองแม่ยายให้ มาทำทุนค้าขาย เงิน ห้าแสน แม่เอาไปหมดเลย บอกว่าเป็นค่าจัดงาน งานของผมก็เป็นแบบนี้แหละครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ มีนาคม 25, 2013, 11:54:13 AM ขอผม สินสอด 2 แสน ทอง 2 บาท เสร็จงาน พ่อตาคืนให้หมด
แฟนผมบอกว่า พ่อทองก็เอาบัตรรูดมา พ่อตาก็ใจดี เอาเงินให้ปิดบัตรอีก เงินซอง แกยังจะเอาให้อีก ผมกับแฟนไม่เอา ให้พ่อตาเป็นค่าจัดงาน งานนี้ได้ลูกสาว ของพ่อเค้ามาฟรีๆ ครับ พ่อตาบอกว่าไปช่วยสร้างฐานะเถอะ "แต่งงาน อย่าเริ่มต้นด้วยการเป็นหนี้เลย มันไม่เป็นมงคล" ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ มีนาคม 25, 2013, 01:26:47 PM ของผมล่าสุดร้อนๆเมื่อมกรา 56 นี่เองครับ
เงิน 4แสน ทองอีก 10บาท เงินผมมีอยู่สองแสนกลาง แม่ผมแกช่วยด้วย ส่วนทอง ตอนแรกแฟนจะให้ผมหา ผมบอกเธอจ๋า บ้านพี่ก็ผ่อน ภาระเรามี ถ้าจะแต่งกันก็ช่วยกันด้วย เธอเลยเก็บทองเอง ได้มา 7บาท คุยกับแม่ยายพ่อตา ท่านก็กรุณาเอาเท่านั้น สรุปที่ 4แสนทอง 7บาท ค่าจัดงานท่านออกเอง ร่วมสองแสนบาท เงินผูกข้อมือ ได้มาแสนนึงท่านยกให้เรา ส่วนเงินสินสอดกับทอง ท่านยึดไปหมด ส่วนตัวผมไม่ค่อยคิดมากนักเรื่องนี้ เพราะยังไงเสียแฟนผมก็ลูกสาวคนเดียว เงินทองทั้งหมด ท่านก็ต้องยกให้ลูกสาว สุดท้ายมันก็เป็นของเราอยู่ดี กับแฟน คบกันตั้งแต่สมัยเรียน กว่าจะได้แต่งกันก็ 12ปี พอดี สมัยก่อนท่านไม่ชอบผม เพราะผมไม่มีอะไรเลยมีแต่ตัว เพื่อนแม่ยายพาคนมาขอแฟนผมหลายครั้ง ทั้งเจ้าของร้านทอง เจ้าสัวในตลาด ข้าราชการระดับสูง แต่แฟนก็ไม่ยอมแม่เค้าซักที จนแม่เค้าอ่อนอก อ่อนใจกับลูกสาว จนวันนึงแม่เค้าก็เอ่ยปาก เปิดทางให้ผมได้เข้าบ้าน ซึ่งก็คือเมื่อ 3ปีก่อน ทุกวันนี้ มีความสุขขึ้นมาอีกนิดนึง เพราะมีเจ้าตัวเล็กในท้อง สิ้นปีนี้พ่อตาแม่ยายคงได้เหนื่อยแบบมีความสุขกันแน่ๆครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 10:02:50 AM ขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่กรุณาเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็น หลายท่านก็เจอสภาพแบบผม
ผมก็คงได้แต่ทำใจนะครับ เพราะไม่อยากให้ภรรยาผมซึ่งเป็นลูกของเค้าไม่สบายใจ น้องเค้าก็ไม่ได้เข้าข้างพ่อแม่ของเค้านะครับ ก็รู้อยู่ว่านิสัยของท่านทั้งสองเป็ํนยังไง (ไม่รู้มันจะหน้าใหญ่อะไรนักหนา ก็ครูเหมือนกับคุณแม่ผมนี่หละ) คอยให้กำลังใจผม คืนนั้นน้องเค้าร้องไห้กับผมทั้งคืนพร้อมขอบคุณที่ผมไม่ทิ้งเค้า และไม่อาละวาดกับพ่อตาแม่ยาย เค้าสัญญาว่าจะรีบช่วยกันเก็บเงินใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว ลืมแนะนำตัวไปครับ ผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนภรรยาผมเป็นหมอ ร.พ. รัฐ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้พ่อตาแม่ยายเรียกทุนคืนเยอะก็เป็นได้ครับ แต่ยังไงในใจลึกๆ ของผม กับพ่อตาแม่ยายคู่นี้ความรุ้สึกดีๆ ที่มีมันหายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไว้แต่เพียงความเป็นพ่อเป็นแม่ของภรรยาผมเท่านั้นเอง ขอบคุณทุกท่านที่ทนฟังผมระบายครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 26, 2013, 10:43:46 AM ใจเย็น ๆ ครับ
บางที เขาอาจจะ ดูใจ ของเรา ครับ อารมณ์ร้อน หรือเปล่า เดี๋ยวก็มีเงินก้นถุง กลับมาครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ มีนาคม 26, 2013, 11:07:55 AM อาชีพหมอ เขาขี่คานทองมาเกิดครับ เลยต้องเรียกแพงหน่อย ::005:: ::005::
เพื่อนผม(ที่เป็นหมอ) ได้เข้าพิธีสมรสแค่ไม่กี่คน เพราะหมอแต่งกับหมอ หมอผู้ชายแมนๆมีน้อย เรียนจบไม่กี่ปีก็มีเมีย ส่วนหมอแอบๆก็แอบกินไปเรื่อยๆ หมอสาวๆก็เลือกแล้วเลือกอีก จะหาบุรุษเพศ ที่คู่ควรกับเธอไม่ได้ซะที เมื่อหายสิบปีก่อน ที่เป็นข่าวดัง มีใครจำได้มั่ง ที่แพทย์หญิงแต่งงาน กับคนขับรถของโรงพยาบาล พวกเขาต้องต่อสู้ผ่านแรงกดดันมากมาย จนสร้างครอบครัวได้สำเร็จ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: บ่าวเซียงข้อง+รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 11:23:08 AM "ภริยาตา มหา ทุกข์ขา" ความมีภรรยา เป็นทุกข์อย่างยิ่ง ;D
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 26, 2013, 11:36:40 AM ค่าสินสอดจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการทำพิธีสู่ขอกันเกิดขึ้นแล้ว ผลออกมาเช่นไรมาก-น้อยเพียงไหนทั้งสองฝ่ายย่อมรับรู้และยินยอม
ผมว่าท่านจขกท.อย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับเงื่อนไขที่ผ่านมาแล้วเลยครับ ตั้งหน้าตั้งหน้าครองรักครองเรือนกับคู่ชีวิตอันเป็นที่รักยิ่งดีกว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปช่วยกันหาช่วยกันเก็บสองแรงสามี/ภรรยา อนาคตข้างหน้าคงได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน ใส่ใจชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากเข้าไว้ พ่อตา-แม่ยายเขาไม่ได้รับรู้วิธีการหามาได้ซึ่งเงินค่าสินสอดเราหรอกครับ เขาหวังแค่เพียงว่าได้มามากเท่าไหร่เขายิ่งมีหน้ามีตามากเท่านั้น ปลงปลดปล่อย ประคองความรักน้อยๆของคนสองคน เพื่อครอบครัวที่จะโตวันโตขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พ่อ-แม่-ลูก ขอให้ท่านจขกท.จงประสพแต่ความโชคดีครับ ::002:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 26, 2013, 01:12:46 PM ค่าสินสอดจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการทำพิธีสู่ขอกันเกิดขึ้นแล้ว ผลออกมาเช่นไรมาก-น้อยเพียงไหนทั้งสองฝ่ายย่อมรับรู้และยินยอม ผมว่าท่านจขกท.อย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับเงื่อนไขที่ผ่านมาแล้วเลยครับ ตั้งหน้าตั้งหน้าครองรักครองเรือนกับคู่ชีวิตอันเป็นที่รักยิ่งดีกว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปช่วยกันหาช่วยกันเก็บสองแรงสามี/ภรรยา อนาคตข้างหน้าคงได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน ใส่ใจชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากเข้าไว้ พ่อตา-แม่ยายเขาไม่ได้รับรู้วิธีการหามาได้ซึ่งเงินค่าสินสอดเราหรอกครับ เขาหวังแค่เพียงว่าได้มามากเท่าไหร่เขายิ่งมีหน้ามีตามากเท่านั้น ปลงปลดปล่อย ประคองความรักน้อยๆของคนสองคน เพื่อครอบครัวที่จะโตวันโตขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พ่อ-แม่-ลูก ขอให้ท่านจขกท.จงประสพแต่ความโชคดีครับ ::002:: ท่านประธานก็ได้ให้โอวาสแก่คู่บ่าวสาวแล้ว ::005:: ในลำดับถัดไปขอให้ท่านประธานโปรดรับ 1 แต้ม จากผมด้วยครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 26, 2013, 01:15:57 PM + นั้นคืนสนองครับ นึกว่าประธานให้โอวาทเสร็จ นึกว่าจะให้ประธานดื่มฉลองมงคลสมรส :D~
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ มีนาคม 26, 2013, 02:03:10 PM เรื่องจริงของคนบ้านผมครอบครัวหนึ่ง ลูกชายจะมีเมีย พ่อแม่ฝ่ายหญิงเห็นว่าฝ่ายชายค่อนข้างยากจน จึงไม่เรียกสินสอดทองหมั้น แต่บอกว่าให้ใส่มาเอง(ตามสมควร) บิดาฝ่ายชายเลยใส่ขันหมากไป 1,500.-บาท(หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) จบพิธีแต่งงานญาติเจ้าสาวยึดรถมอเตอร์ไซคล์ไว้ 1 คัน
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 02:20:36 PM อาชีพหมอ เขาขี่คานทองมาเกิดครับ เลยต้องเรียกแพงหน่อย ::005:: ::005:: หลานสาวผมเพื่อนผม(ที่เป็นหมอ) ได้เข้าพิธีสมรสแค่ไม่กี่คน เพราะหมอแต่งกับหมอ หมอผู้ชายแมนๆมีน้อย เรียนจบไม่กี่ปีก็มีเมีย ส่วนหมอแอบๆก็แอบกินไปเรื่อยๆ หมอสาวๆก็เลือกแล้วเลือกอีก จะหาบุรุษเพศ ที่คู่ควรกับเธอไม่ได้ซะที เมื่อหายสิบปีก่อน ที่เป็นข่าวดัง มีใครจำได้มั่ง ที่แพทย์หญิงแต่งงาน กับคนขับรถของโรงพยาบาล พวกเขาต้องต่อสู้ผ่านแรงกดดันมากมาย จนสร้างครอบครัวได้สำเร็จ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ ::002:: ::002:: ทันตแพทย์ พี่สาวพี่เขยผม บอกแล้วแต่จะใส่มาให้ ไม่เรียกอะไรสักอย่าง ::007:: แต่ว่าที่ หลานสะใภ้ สัตว์แพทย์ ไม่รู้จะโดนเท่าไหร55555555 หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 26, 2013, 03:14:39 PM อาชีพหมอ เขาขี่คานทองมาเกิดครับ เลยต้องเรียกแพงหน่อย ::005:: ::005:: หลานสาวผมเพื่อนผม(ที่เป็นหมอ) ได้เข้าพิธีสมรสแค่ไม่กี่คน เพราะหมอแต่งกับหมอ หมอผู้ชายแมนๆมีน้อย เรียนจบไม่กี่ปีก็มีเมีย ส่วนหมอแอบๆก็แอบกินไปเรื่อยๆ หมอสาวๆก็เลือกแล้วเลือกอีก จะหาบุรุษเพศ ที่คู่ควรกับเธอไม่ได้ซะที เมื่อหายสิบปีก่อน ที่เป็นข่าวดัง มีใครจำได้มั่ง ที่แพทย์หญิงแต่งงาน กับคนขับรถของโรงพยาบาล พวกเขาต้องต่อสู้ผ่านแรงกดดันมากมาย จนสร้างครอบครัวได้สำเร็จ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ ::002:: ::002:: ทันตแพทย์ พี่สาวพี่เขยผม บอกแล้วแต่จะใส่มาให้ ไม่เรียกอะไรสักอย่าง ::007:: แต่ว่าที่ หลานสะใภ้ สัตว์แพทย์ ไม่รู้จะโดนเท่าไหร55555555 ที่แน่ๆ หมดสิทธิ์เป็นพ่อตา... หรือพ่ออื่นๆ เป็นได้ก็พ่อใหญ่หมู... และ "ป๋าขา" ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 03:20:28 PM เวร
ไอ้น้องแก้ว เล่นตรูอีกแล้ว หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 26, 2013, 03:29:25 PM ลุงแป๋งตอบดี๊ดี ตอบได้สมผู้ใหญ่จริงๆครับ ::002:: ::014::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 26, 2013, 03:42:23 PM ได้มาแพง ใช้ให้คุ้มนะครับ ::005::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:02:40 PM ได้มาแพง ใช้ให้คุ้นะครับ ::005:: กระทาชายนายหนึ่ง... เพิ่งแต่งงานมาหมาดๆ แล้วก็กลับบ้านดึก... พอเมียถามว่าไปไหนมา... เขาก็ตอบว่า... ไปเที่ยวกับผู้หญิงมา... แล้วก็ยอมรับว่ามีอะไรๆ กันด้วย... ฝ่ายเมียเลยต่อว่าต่อขาน... ว่าขนาดเพิ่งจะแต่งงานกัน... ก็ไปเที่ยวหาความสำราญกับหญิงอื่นแล้ว... ไม่รักเธอแล้วเหรอ... ...กระทาชายคนนั้นก็เลยตอบว่า... ก็เพราะรักเธอมากนั่นแหละ... ถึงได้ไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน... เพราะ "กลัวเธอสึกหรอ..." ::007:: ::007:: ::007:: ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:14:07 PM ขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่กรุณาเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็น หลายท่านก็เจอสภาพแบบผม ผมก็คงได้แต่ทำใจนะครับ เพราะไม่อยากให้ภรรยาผมซึ่งเป็นลูกของเค้าไม่สบายใจ น้องเค้าก็ไม่ได้เข้าข้างพ่อแม่ของเค้านะครับ ก็รู้อยู่ว่านิสัยของท่านทั้งสองเป็ํนยังไง (ไม่รู้มันจะหน้าใหญ่อะไรนักหนา ก็ครูเหมือนกับคุณแม่ผมนี่หละ) คอยให้กำลังใจผม คืนนั้นน้องเค้าร้องไห้กับผมทั้งคืนพร้อมขอบคุณที่ผมไม่ทิ้งเค้า และไม่อาละวาดกับพ่อตาแม่ยาย เค้าสัญญาว่าจะรีบช่วยกันเก็บเงินใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว ลืมแนะนำตัวไปครับ ผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนภรรยาผมเป็นหมอ ร.พ. รัฐ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้พ่อตาแม่ยายเรียกทุนคืนเยอะก็เป็นได้ครับ แต่ยังไงในใจลึกๆ ของผม กับพ่อตาแม่ยายคู่นี้ความรุ้สึกดีๆ ที่มีมันหายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไว้แต่เพียงความเป็นพ่อเป็นแม่ของภรรยาผมเท่านั้นเอง ขอบคุณทุกท่านที่ทนฟังผมระบายครับ เพิ่งเข้ามาอ่านครับ... เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ เรื่องแบบนี้มันบอกผิดบอกถูกไม่ได้ เพราะใช้ไม้บรรทัดคนละอันเข้าไปทาบ เลยบอกไม่ได้ว่าสั้นยาวหรือเฉหรือตรงได้ไม่เหมือนกันเพราะไม้บรรทัดคนละอันกันกับของพ่อตาแม่ยายครับ... สรุปว่าคือความซวยที่เราต้องยอมรับครับ... ไม่ฮา... แต่พ่อตาแม่ยายไม่ค่อยคิดให้รอบคอบ เพราะเรื่องกินใจกันแบบนี้แหละ จะทำให้พ่อตาแม่ยายกับลูกเขยจะค่อยๆ ห่างกันไปเมื่อเวลาที่ผ่านไป... แล้วในที่สุดฝ่ายที่ต้องเสียใจคือฝ่ายพ่อตามแม่ยายนั่นแหละครับ เนื่องจากเรื่องนี้มันจะฝังไว้ในใจลืมยาก ก็เพราะเงินปริ่ม 2 ล้านในวันนี้มันมีค่ามากกว่า 20 ล้านที่จะหาได้ในอนาคต เนื่องจากวันนี้อายุยังน้อยยังไม่รู้วิธีทำมาหากิน เงินแค่นี้คือเรื่องใหญ่และต้องการใช้ในเวลานี้เพื่อสร้างครอบครัวฯ แต่ต่อไปในภายหน้าอายุมากขึ้น ประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นจะรู้ว่าเงิน 20 ล้านก็สามารถหาได้ในเวลาแป๊บเดียว เพราะตอนนั้นรู้วิธีทำมาหากินแล้ว... แล้วที่แสบที่สุดคือพ่อตาแม่ยายจะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น หากพ่อตาแม่ยายฉลาด จะพยายามเอาใจลูกเขยเข้าไว้ เพราะต่อไปจะต้องฝากชีวิต ฝากผีฝากไข้เอาไว้กับลูกเขย+ลูกสาว... เพราะเมื่อเวลาผ่านไป พ่อตาแม่ยายจะชราภาพตามสังขารมนุษย์ เมื่อถึงเวลานั้นเงินต่อให้ 200 ล้านบาทก็ไร้ค่าเทียบกับมีคนดูแลสุขภาพที่ไว้ใจได้+เอาใจใส่ไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจสารพัดเรื่องตามประสาคนแก่... มีเรื่องแปลกใจอยู่ 1 เรื่องครับ ก็คือวัฒนธรรมในครอบครัวจะสอดคล้องเป็นอย่างสูงกับคุณภาพสมองของลูก แปลภาษาชาวบ้านได้ว่าหากพ่อแม่สติปัญญาน้อย+โลกทัศน์แคบ มักเลี้ยงลูกไม่เป็น มีแนวโน้มสูงว่าลูกจะไม่ได้เรียนหนังสือดีๆ... แต่ภรรยา จขกท. เข้าโรงเรียนแพทย์ได้ แสดงว่า"ความสามารถส่วนบุคคล"ของภรรยาดีมากเลยเชียวครับ... ทีนี้เรื่องที่จะอยู่กับปัจจุบัน... ภรรยา จขกท. รับราชการอยู่ ซึ่งกำลังทำบุญกุศลอยู่ทุกวันที่รักษาผู้เจ็บป่วยตกทุข์ได้ยากอยู่ครับ, แต่ถ้าเมื่อไหร่รู้สึกเบื่อเต็มที่ ออกมาทำงานในภาคเอกชนสามารถมีรายได้เดือนละ 2 - 3 แสนบาทเป็นเบสิคขั้นต่ำเลยเชียวครับ... เมื่อไหร่ถึงวันนั้น(วันที่เบื่อชีวิตเสียสละเพื่อสังคม) จขกท. จะรู้ว่าเงินแค่นี้มันขี้ประติ๋วครับ ก็รายได้รวมทั้งปีละประมาณ 3 ล้านบาท, ใช้จ่ายสร้างบ้าน+ซื้อรถเงินผ่อนปุ๊บ(เงินน่ะมี แต่จะผ่อนฯ) แล้วเอาเงินก้อนที่ไม่ได้โปะบ้านฯ ไปซื้อกองทุนต่างๆ หรืออย่างปลอดภัยที่สุดก็สลากออมสิน(รายได้ก็ยังมีอยู่) แผล็บเดียวลูกไม่ทันโตก็มีเงินเก็บแยะแล้วครับ... ไม่ฮา... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:32:48 PM ขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่กรุณาเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์และความคิดเห็น หลายท่านก็เจอสภาพแบบผม ผมก็คงได้แต่ทำใจนะครับ เพราะไม่อยากให้ภรรยาผมซึ่งเป็นลูกของเค้าไม่สบายใจ น้องเค้าก็ไม่ได้เข้าข้างพ่อแม่ของเค้านะครับ ก็รู้อยู่ว่านิสัยของท่านทั้งสองเป็ํนยังไง (ไม่รู้มันจะหน้าใหญ่อะไรนักหนา ก็ครูเหมือนกับคุณแม่ผมนี่หละ) คอยให้กำลังใจผม คืนนั้นน้องเค้าร้องไห้กับผมทั้งคืนพร้อมขอบคุณที่ผมไม่ทิ้งเค้า และไม่อาละวาดกับพ่อตาแม่ยาย เค้าสัญญาว่าจะรีบช่วยกันเก็บเงินใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว ลืมแนะนำตัวไปครับ ผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนภรรยาผมเป็นหมอ ร.พ. รัฐ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้พ่อตาแม่ยายเรียกทุนคืนเยอะก็เป็นได้ครับ แต่ยังไงในใจลึกๆ ของผม กับพ่อตาแม่ยายคู่นี้ความรุ้สึกดีๆ ที่มีมันหายไปเกือบหมดแล้ว เหลือไว้แต่เพียงความเป็นพ่อเป็นแม่ของภรรยาผมเท่านั้นเอง ขอบคุณทุกท่านที่ทนฟังผมระบายครับ เพิ่งเข้ามาอ่านครับ... เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ เรื่องแบบนี้มันบอกผิดบอกถูกไม่ได้ เพราะใช้ไม้บรรทัดคนละอันเข้าไปทาบ เลยบอกไม่ได้ว่าสั้นยาวหรือเฉหรือตรงได้ไม่เหมือนกันเพราะไม้บรรทัดคนละอันกันกับของพ่อตาแม่ยายครับ... สรุปว่าคือความซวยที่เราต้องยอมรับครับ... ไม่ฮา... แต่พ่อตาแม่ยายไม่ค่อยคิดให้รอบคอบ เพราะเรื่องกินใจกันแบบนี้แหละ จะทำให้พ่อตาแม่ยายกับลูกเขยจะค่อยๆ ห่างกันไปเมื่อเวลาที่ผ่านไป... แล้วในที่สุดฝ่ายที่ต้องเสียใจคือฝ่ายพ่อตามแม่ยายนั่นแหละครับ เนื่องจากเรื่องนี้มันจะฝังไว้ในใจลืมยาก ก็เพราะเงินปริ่ม 2 ล้านในวันนี้มันมีค่ามากกว่า 20 ล้านที่จะหาได้ในอนาคต เนื่องจากวันนี้อายุยังน้อยยังไม่รู้วิธีทำมาหากิน เงินแค่นี้คือเรื่องใหญ่และต้องการใช้ในเวลานี้เพื่อสร้างครอบครัวฯ แต่ต่อไปในภายหน้าอายุมากขึ้น ประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นจะรู้ว่าเงิน 20 ล้านก็สามารถหาได้ในเวลาแป๊บเดียว เพราะตอนนั้นรู้วิธีทำมาหากินแล้ว... แล้วที่แสบที่สุดคือพ่อตาแม่ยายจะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น หากพ่อตาแม่ยายฉลาด จะพยายามเอาใจลูกเขยเข้าไว้ เพราะต่อไปจะต้องฝากชีวิต ฝากผีฝากไข้เอาไว้กับลูกเขย+ลูกสาว... เพราะเมื่อเวลาผ่านไป พ่อตาแม่ยายจะชราภาพตามสังขารมนุษย์ เมื่อถึงเวลานั้นเงินต่อให้ 200 ล้านบาทก็ไร้ค่าเทียบกับมีคนดูแลสุขภาพที่ไว้ใจได้+เอาใจใส่ไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจสารพัดเรื่องตามประสาคนแก่... มีเรื่องแปลกใจอยู่ 1 เรื่องครับ ก็คือวัฒนธรรมในครอบครัวจะสอดคล้องเป็นอย่างสูงกับคุณภาพสมองของลูก แปลภาษาชาวบ้านได้ว่าหากพ่อแม่สติปัญญาน้อย+โลกทัศน์แคบ มักเลี้ยงลูกไม่เป็น มีแนวโน้มสูงว่าลูกจะไม่ได้เรียนหนังสือดีๆ... แต่ภรรยา จขกท. เข้าโรงเรียนแพทย์ได้ แสดงว่า"ความสามารถส่วนบุคคล"ของภรรยาดีมากเลยเชียวครับ... ทีนี้เรื่องที่จะอยู่กับปัจจุบัน... ภรรยา จขกท. รับราชการอยู่ ซึ่งกำลังทำบุญกุศลอยู่ทุกวันที่รักษาผู้เจ็บป่วยตกทุข์ได้ยากอยู่ครับ, แต่ถ้าเมื่อไหร่รู้สึกเบื่อเต็มที่ ออกมาทำงานในภาคเอกชนสามารถมีรายได้เดือนละ 2 - 3 แสนบาทเป็นเบสิคขั้นต่ำเลยเชียวครับ... เมื่อไหร่ถึงวันนั้น(วันที่เบื่อชีวิตเสียสละเพื่อสังคม) จขกท. จะรู้ว่าเงินแค่นี้มันขี้ประติ๋วครับ ก็รายได้รวมทั้งปีละประมาณ 3 ล้านบาท, ใช้จ่ายสร้างบ้าน+ซื้อรถเงินผ่อนปุ๊บ(เงินน่ะมี แต่จะผ่อนฯ) แล้วเอาเงินก้อนที่ไม่ได้โปะบ้านฯ ไปซื้อกองทุนต่างๆ หรืออย่างปลอดภัยที่สุดก็สลากออมสิน(รายได้ก็ยังมีอยู่) แผล็บเดียวลูกไม่ทันโตก็มีเงินเก็บแยะแล้วครับ... ไม่ฮา... ขอบคุณทุกท่านนะครับ โดยเฉพาะพี่สมชาย(ฮา) โดนใจและตรงใจผมมาก ที่ผมยอมพ่อตาแม่ยายครั้งนี้ เพราะภรรยาผมครับ เธอเป็นคนดีมาก ผมไม่ได้เลือกเธอเป็นคู่ชีวิตเพราะหน้าการงานของเธอเท่านั้น แต่เพราะเธอมีใจเมตตากับทุกคน ไม่เลือก "ยากดีมีจน" ไม่ยอมเปิดคลีนิก (ทำงานได้ 4 ปีแล้ว) ด้วยเหตุผลที่ว่า "หากเปิดคลินิก งานราชการก็พลอยจะไม่ดีอย่างที่เคย ประกอบกับไม่ได้เรียนมาเพื่อจะหาเงินกับความทุกข์ยากของคนไข้ "หนูไม่อยากเป็นแพทย์พาณิชย์" " เธอว่าอย่างนั้นครับ แล้วเหตุผลสุดท้ายที่ทำให้เราตกลงใจคบหากันคือ ผมบอกน้องเค้าไปตามตรงว่า "พี่ไม่มีเงินทองมากองให้นะ พ่อแม่ก็ไม่ได้รวย พี่อยู่ได้ด้วยเงินเดือนที่หลวงจ่ายให้เพียงอย่างเดียว หนูรับได้รึเปล่า" เธอตอบว่า "เงินของพี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับหนู ต่อให้มีเงินล้นฟ้าก็ซื้อคนดีสักคนไม่ได้" ...ตอนนั้น ได้ยินแล้วน้ำตาไหลเลยครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:38:13 PM ยินดีกับคุณปืนโตด้วยครับคุณโชคดีที่มีภรรยาดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:40:53 PM ค่าสินสอดจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการทำพิธีสู่ขอกันเกิดขึ้นแล้ว ผลออกมาเช่นไรมาก-น้อยเพียงไหนทั้งสองฝ่ายย่อมรับรู้และยินยอม ผมว่าท่านจขกท.อย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับเงื่อนไขที่ผ่านมาแล้วเลยครับ ตั้งหน้าตั้งหน้าครองรักครองเรือนกับคู่ชีวิตอันเป็นที่รักยิ่งดีกว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปช่วยกันหาช่วยกันเก็บสองแรงสามี/ภรรยา อนาคตข้างหน้าคงได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน ใส่ใจชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากเข้าไว้ พ่อตา-แม่ยายเขาไม่ได้รับรู้วิธีการหามาได้ซึ่งเงินค่าสินสอดเราหรอกครับ เขาหวังแค่เพียงว่าได้มามากเท่าไหร่เขายิ่งมีหน้ามีตามากเท่านั้น ปลงปลดปล่อย ประคองความรักน้อยๆของคนสองคน เพื่อครอบครัวที่จะโตวันโตขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พ่อ-แม่-ลูก ขอให้ท่านจขกท.จงประสพแต่ความโชคดีครับ ::002:: ใครมาใช้ล็อคอินพี่แป๋งเนี่ย.... ::009:: ::009:: ::009:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:42:29 PM เพิ่มเติมอีกนิดครับ เมื่อตกลงจะแต่งงานกัน ภรรยาผมก็ได้ไปสมัครสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงานเค้า เพื่อเตรียมสำหรับ "กู้เงิน" มาช่วยผม เงินเก็บส่วนตัวน้องเค้ามีอยู่ประมาณ 3 แสนก็เอามาให้ผมหมดเลย พูดแล้วน้ำตาจะไหลครับ
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:47:00 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ
คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:47:38 PM ค่าสินสอดจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการทำพิธีสู่ขอกันเกิดขึ้นแล้ว ผลออกมาเช่นไรมาก-น้อยเพียงไหนทั้งสองฝ่ายย่อมรับรู้และยินยอม ผมว่าท่านจขกท.อย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับเงื่อนไขที่ผ่านมาแล้วเลยครับ ตั้งหน้าตั้งหน้าครองรักครองเรือนกับคู่ชีวิตอันเป็นที่รักยิ่งดีกว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปช่วยกันหาช่วยกันเก็บสองแรงสามี/ภรรยา อนาคตข้างหน้าคงได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน ใส่ใจชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากเข้าไว้ พ่อตา-แม่ยายเขาไม่ได้รับรู้วิธีการหามาได้ซึ่งเงินค่าสินสอดเราหรอกครับ เขาหวังแค่เพียงว่าได้มามากเท่าไหร่เขายิ่งมีหน้ามีตามากเท่านั้น ปลงปลดปล่อย ประคองความรักน้อยๆของคนสองคน เพื่อครอบครัวที่จะโตวันโตขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พ่อ-แม่-ลูก ขอให้ท่านจขกท.จงประสพแต่ความโชคดีครับ ::002:: ใครมาใช้ล็อคอินพี่แป๋งเนี่ย.... ::009:: ::009:: ::009:: กำลังอินกับความรักของเจ้าของกระทู้ พี่ซับโผล่มาทีเดียวฮาวงแตกเลย......ฮา ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:49:32 PM แหม...ถ้าผมรู้จักกับปู่แป้งเมื่อซักสามปีที่แล้ว ผมจะเอาราชรถไปเทียบเชิญ ขอตัวมาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกล่าวบนเวที
ผมว่าบรรดาแม่ยก สาวน้อย สาวใหญ่ สาวแก่แม่หม้าย เคลิ้มน้ำลายฟูมปากกันทั้งงานเลยหละ... ::005:: ::005:: ::014:: +1ปู่แป้งครับ ค่าสินสอดจะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการทำพิธีสู่ขอกันเกิดขึ้นแล้ว ผลออกมาเช่นไรมาก-น้อยเพียงไหนทั้งสองฝ่ายย่อมรับรู้และยินยอม ผมว่าท่านจขกท.อย่าได้ไปพะวงหรือยึดติดกับเงื่อนไขที่ผ่านมาแล้วเลยครับ ตั้งหน้าตั้งหน้าครองรักครองเรือนกับคู่ชีวิตอันเป็นที่รักยิ่งดีกว่า เงินทองที่ใช้จ่ายไปช่วยกันหาช่วยกันเก็บสองแรงสามี/ภรรยา อนาคตข้างหน้าคงได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน ใส่ใจชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากเข้าไว้ พ่อตา-แม่ยายเขาไม่ได้รับรู้วิธีการหามาได้ซึ่งเงินค่าสินสอดเราหรอกครับ เขาหวังแค่เพียงว่าได้มามากเท่าไหร่เขายิ่งมีหน้ามีตามากเท่านั้น ปลงปลดปล่อย ประคองความรักน้อยๆของคนสองคน เพื่อครอบครัวที่จะโตวันโตขึ้นจนกลายเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พ่อ-แม่-ลูก ขอให้ท่านจขกท.จงประสพแต่ความโชคดีครับ ::002:: ใครมาใช้ล็อคอินพี่แป๋งเนี่ย.... ::009:: ::009:: ::009:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:56:05 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D แถวบ้านผมก็มีครับ..........ฝ่ายพ่อแม่ผู้หญิงเรียกเงิน 1 แสน ทอง 2 บาท ถ้าไม่ได้ไม่ต้องคุยกัน ฝ่ายชายเล่นแผนพี่จ้าวเลยครับ........ตั้งท้องได้ 2 เดือน เลยตอกกลับฝ่ายหญิงไปว่า "มีแค่ 2 หมื่น" เอาไม่เอา (นี่เรื่องจริงครับ ไม่ได้ล้อเล่น) ::012:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:56:13 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D โห... ร้ายกาจครับ... แล้วหากพลาดท่าโอ๊กอ๊ากตอนเช้าตรู่ขึ้นมาด้วยละก้อ, จะกลายเป็นบังคับให้แต่งอีกต่างหากครับ... ฮา... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:56:57 PM ฮา... Post ชนกันครับ...
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 26, 2013, 04:58:38 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D เฟร้ย....นี่มันวิชามาร.... นี่หว่า ลองทำเองจิ เดี๋ยวได้Shotgun weddingแน่ๆ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:09:13 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D เฟร้ย....นี่มันวิชามาร.... นี่หว่า ลองทำเองจิ เดี๋ยวได้Shotgun weddingแน่ๆ จะวิชามงวิชามาร... พี่ซับฯ ก็ศึกษาไว้เถอะ... ผมและอีกหลายๆ ท่านไม่จำเป็นต้องศึกษาแล้ว... ::005:: ::005:: ::005:: ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:10:10 PM กำลังจะ post อยู่แล้วเชียว อย่างที่พี่สมชายว่า ไม่ฮาแน่ครับ
อย่างที่ผมเคยเจอมา พ่อตาแม่ยายญาติฝ่ายหญิงเขาก็ยอมหละ แต่มีข้อแม้ว่า ให้เข้าบ้านได้เฉพาะลูกสาวเขา กับหลาน ส่วนพ่อมันห้ามเข้าบ้าน ถึงหน้าด้านมา เขาก็ไม่พูดคุยด้วย เพราะฝ่ายชายถูกมองว่าจนกว่า ถึงจะมีหน้าที่การงานก็ตาม เป็นผมก็ไม่ทน ที่ผมเลิกกับแฟนคนก่อนเพราะเหตุผลนี้...อยู่ด้วยกันแล้ว แต่จำต้องเลิก พ่อเขาบอกว่า ถือว่าเสียให้หมาไป ต่อมาเขาก็แต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่พอใจทั้งสองฝ่าย คนรวยก็ต้องการคนรวย หรือรวยกว่า +1พี่สมชายครับ ::014:: ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D โห... ร้ายกาจครับ... แล้วหากพลาดท่าโอ๊กอ๊ากตอนเช้าตรู่ขึ้นมาด้วยละก้อ, จะกลายเป็นบังคับให้แต่งอีกต่างหากครับ... ฮา... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:15:18 PM กำลังจะ post อยู่แล้วเชียว อย่างที่พี่สมชายว่า ไม่ฮาแน่ครับ อย่างที่ผมเคยเจอมา พ่อตาแม่ยายญาติฝ่ายหญิงเขาก็ยอมหละ แต่มีข้อแม้ว่า ให้เข้าบ้านได้เฉพาะลูกสาวเขา กับหลาน ส่วนพ่อมันห้ามเข้าบ้าน ถึงหน้าด้านมา เขาก็ไม่พูดคุยด้วย เพราะฝ่ายชายถูกมองว่าจนกว่า ถึงจะมีหน้าที่การงานก็ตาม เป็นผมก็ไม่ทน ที่ผมเลิกกับแฟนคนก่อนเพราะเหตุผลนี้...อยู่ด้วยกันแล้ว แต่จำต้องเลิก พ่อเขาบอกว่า ถือว่าเสียให้หมาไป ต่อมาเขาก็แต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่พอใจทั้งสองฝ่าย คนรวยก็ต้องการคนรวย หรือรวยกว่า +1พี่สมชายครับ ::014:: โอ้... เสียใจด้วยครับ... ทอนคืนแล้วครับ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:17:49 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D เฟร้ย....นี่มันวิชามาร.... นี่หว่า ลองทำเองจิ เดี๋ยวได้Shotgun weddingแน่ๆ ของกรู7ปีแหน่ะถึงจะแต่ง ก็ใช้สูตรนี้แหละ ถึงได้กล้ามาแนะ ตอนปีที่3 แฟนแย็บถามแม่ยายว่าถ้าผมไปขอม๊าจะให้จัดอะไรไปบ้าง แม่ยายตอบ"สิบล้าน" ปีที่4 เสี่ยงตายเดินลุยน้ำท่วมหาดใหญ่ไปอุ้มลูกหลานเขา3คนออกมาจากบ้านพักหลังแบงค์ชาติ ลูกกลับไปเล่าว่าเห็นรถกระบะลอยผ่านหน้าไปจะๆถึงได้ยอมยกขบวนมาดูหน้าผม กินข้าวกันมื้อนึงแล้วก็ฝากมาบอก"ตั้งใจ(สร้างตัว)ให้ดีละกัน ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวม๊าช่วย" จนตอนยกขันหมากไปสู่ขอ มีเถ้าแก่18คน มีรถนำขบวนไปด้วยโน่นแหละพ่อตา-แม่ยายถึงได้รู้ว่าไอ้หนุ่มท่าทางเกกมะเหรกเป็นลูกเต้าเหล่าใด ::005:: แต่งกันแล้วปีเศษ นอนดูทีวีผมขอบคุณเรื่องที่โปะสินสอดกลับมาให้แม่ยายนั่งหัวเราะคิกคักบอก"สมน้ำหน้า ใส่มา10ล้านป่านนี้ลูกชั้นก็สบายแล้ว".....เสียดายอิ๊บเลย :~) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:19:12 PM ถ้ายังไม่ได้กู้ ผมมีอีกวิธีนึงมานำเสนอครับ คือ....ไม่ต้องกู้ บอกกับแฟนเลย ว่าไม่ต้องกู้ทั้ง2คน เราจะช่วยกันเก็บเงินค่าสินสอด-ค่าทอง เก็บครบแล้วค่อยไปยกขันหมาก นานเท่าไหร่ก็จะช่วยกัน แล้วให้พร้อมใจกันไปบอกว่าที่พ่อตา-แม่ยายตามนี้ ระหว่างนี้ให้คบกันไปตามปกติ ชวนกันไปทำบุญ-ทำสาธารณะประโยชน์ตามโอกาส ให้แฟนแว๊บมาค้างด้วยตามโอกาส( ::005::) ไม่เกิน2ปี รับรองว่าค่าสินสอดลดฮวบ ;D เฟร้ย....นี่มันวิชามาร.... นี่หว่า ลองทำเองจิ เดี๋ยวได้Shotgun weddingแน่ๆ เห็นคำว่า Shotgun wedding เลยเอาเพลงนี้มาให้ฟังครับ... แต่ว่าในเพลงมันเศร้า เพราะพ่อตาจะยิงลูกเขย ปรากฎว่าลูกสาววิ่งเข้ามาขวางเลยโดนยิง, ก่อนตายยังเป็นห่วงผัวไล่ให้วิ่งหนี... คำพูดสุดท้ายของลูกสาวคือ "Run Joey Run"... http://www.youtube.com/watch?v=9_j9i_N6wmA ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:29:04 PM แต่พ่อตา+แม่ยายผมน่ารักมากๆครับ
เพราะรู้นิสัยว่าของกิน-ของใช้อะไรที่มีพอดีๆผมจะไม่แตะจนกว่าเด็กกับผู้ใหญ่ในบ้านได้กินได้ใช้กันจนเปรมจริงๆแล้ว หรือต้องเห็นว่าเหลือเฟือจริงๆถึงจะยอมกินยอมใช้พร้อมๆคนอื่น เวลาพ่อตาจะซื้อของมาฝากเลยต้องเป็นกาแฟทีละโหล , แดนิชที่ละ2กล่อง , ผัดไทยทีละ12ห่อ , พระรามลงสรงทีละ12ถุงฯลฯ แม่ยายฝากของกินมาให้ก็จะเป็นมัสมั่น/แกงจืดหน่อไม้สดทีละหม้อ30ลิตร , หมูผัดกะปิทีละ5กก. ฯลฯ ผมซาบซึ้งกับเรื่องนี้ยิ่งกว่าตอนที่เขาตื๊อจะซื้อบ้านให้ซะอีก :VOV: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 26, 2013, 05:31:14 PM วันจันทร์กระทู้นี้คงเดิน เพราะคุณตาคุณปู่ วันนี้ไม่ว่าง เลี้ยงหลานอยู่ครับ ของผมไม่เรียกสักบาท ::005::ถ้าไม่คืนให้ก็คิดผิดครับ เพราะหนี้ขนาดนั้น ก็ไม่พ้นที่ลูกสาวตัวเองจะมาลำบากช่วยกันชดใช้ด้วย ใช่ว่าขายขาดเมื่อไร ::005:: ปล. นับถือน้ำใจ เจ้าของกระทู้ครับ เป็นผมโดนเรียกขนาดนี้คงต้องถอยมาตั้งหลัก ::007:: ไม่ตกลงกันก่อนแต่งหรือครับ ของผมพ่อตาแม่ยาย ขอเป็นพิธี พอเสร็จแกคืนให้หมดแถมข้าวสารมาอีก ::007::ล้อเล่นครับ ท่านบอกว่าไม่ได้ขายลูกกิน แถมยกที่ยกบ้านให้อีก ;D เขาถามเรื่องคนเป็นพ่อตา ทำเฉไฉเอาเรื่องตัวเองมาเล่า :DD :DD :DD เขาเรียก "พวกชอบของฟรี"หรือพวก "ไม่ลงทุน" ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 27, 2013, 01:38:58 PM เคยคิดอยากจะทำแบบที่หลายท่านว่านะครับ แบบอยู่กันไปเรื่อยๆ จนพ่อตาแม่ยายมาง้อให้แต่ง ไม่ก็ปล่อยให้ท้องเลยจะได้ไม่ต้องมี่ข้อต่อรองอะไรอีก แต่ก็ได้แค่คิด เพราะสงสารน้องเค้าบวกกับผมเองเป็นคนที่อยู่ในกรอบเสมอมาและไม่อยากอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหรือความรู้สึกไม่ดีภายในครอบครัวก็เลยต้องอดทน
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 27, 2013, 01:54:29 PM อย่าลืมเรื่องจดทะเบียนด้วยนะครับ พวกเราชาวปืนยึดกฎหมายเป็นสรณะครับ... เย้...
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:00:53 PM อย่าลืมเรื่องจดทะเบียนด้วยนะครับ พวกเราชาวปืนยึดกฎหมายเป็นสรณะครับ... เย้... กฎหมายให้แค่คนเดียว นี่สิครับ ::005::หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:02:07 PM อย่าลืมเรื่องจดทะเบียนด้วยนะครับ พวกเราชาวปืนยึดกฎหมายเป็นสรณะครับ... เย้... เคยคิดอยากจะทำแบบที่หลายท่านว่านะครับ แบบอยู่กันไปเรื่อยๆ จนพ่อตาแม่ยายมาง้อให้แต่ง ไม่ก็ปล่อยให้ท้องเลยจะได้ไม่ต้องมี่ข้อต่อรองอะไรอีก แต่ก็ได้แค่คิด เพราะสงสารน้องเค้าบวกกับผมเองเป็นคนที่อยู่ในกรอบเสมอมาและไม่อยากอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหรือความรู้สึกไม่ดีภายในครอบครัวก็เลยต้องอดทน จูงมือแฟน เข้าฝ่ายทะเบียนที่อำเภอเลยครับ จดทะเบียนแล้ว ไม่มีเงินจ่ายค่าสินสอดก็ไม่เป็นไรแล้ว ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:13:08 PM อย่าลืมเรื่องจดทะเบียนด้วยนะครับ พวกเราชาวปืนยึดกฎหมายเป็นสรณะครับ... เย้... กฎหมายให้แค่คนเดียว นี่สิครับ ::005::นั่นสิครับ... ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:28:51 PM จดทะเบียนเรียบร้อยแล้วครับ ในวันรุ่งขึ้นของคืนแต่งงาน ภรรยาผมเป็นคนเอ่ยชวนก่อนเลย และน้องเค้าขอใช้ "นามสกุลผม" พร้อมกับคำนำหน้าชื่อ "นาง" โดยผมไม่ได้บอกสักคำเลยครับ
ตอนนี้ก็พยามลืมเรื่องพ่อตาแม่ยายให้ได้ ถ้าลืมไม่ได้ก็จะพยามเก็บไว้ตรงซอกหลืบเล็กๆ ส่วนไหนก็ได้ของสมองเพื่อไม่ให้มันมากวนใจให้เสียอารมณ์ แล้วตั้งหน้าตั้งตาสร้างครอบครัวให้อบอุ่นมั่นคงสืบไป หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:32:08 PM เงินห้าหมื่น ทองห้าบาท ;D
ทองให้พ่อตาแม่ยาย เมียขอคืนให้บาทนึง(ตอนนี้อยู่กะเมีย ::005::) สินสอดให้หมด เราเอาเงินช่วยงานมาใช้หนี้งานที่จัด เหลืออยู่สามหมื่นนิดๆ เป็นของเรา :D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:32:23 PM ดีใจด้วยครับ ท่านได้ผบ.ที่รักท่านจริงๆ :D
ผู้หญิงที่การศึกษาดีๆ+ครอบครัวมีชื่อเสียงหลายคน เลือกที่จะใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย ด้วยการไม่เปลี่ยนนามสกุล ไม่ใช่"นาง" หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:43:40 PM เงินห้าหมื่น ทองห้าบาท ;D ทองให้พ่อตาแม่ยาย เมียขอคืนให้บาทนึง(ตอนนี้อยู่กะเมีย ::005::) สินสอดให้หมด เราเอาเงินช่วยงานมาใช้หนี้งานที่จัด เหลืออยู่สามหมื่นนิดๆ เป็นของเรา :D มิน่า... ซื้ออะไรๆ ก็ "สามหมื่น" ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 27, 2013, 02:46:11 PM ::007:: ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:25:21 PM แหม่ๆๆๆๆ...ถ้า อรรถ ไม่บอก่อนว่าทำกินเฉยๆนะ...เราคิดว่า อรรถ ไปสู่ขอใครแน่ๆเลย...๕๕๕๕๕๕๕... ;D พูดถึงเรื่องสู่ขอ :VOV: ;D ปี 37 ตอนแห่ขันหมากไปทั้งขอทั้งแต่งแฟนผมนี่ ::002:: ::002:: ;D รถฉลามนำเข้าซอย แล้วรุ่นน้องของพ่อ แกคึก...เปิดหวอเสียงดังลั่นหมู่บ้าน ...วงไพ่ซอยถัดไปแตกกระเจิงแต่เช้า ::005:: และก็มาเป็นแขกที่งานแต่งเรานั่นแหละ ::014:: ;D ;D ;D ผมแต่ง 60,000 บาท ทอง 2 บาท แม่ยายคืนทอง + 30,000 ;D ;D ;D ( 30,000 ค่าจัดเลี้ยงตอนเช้ารับขันหมาก ) ....ตอนรับขันหมากพ่อผมประกาศเลย " ถ้าเรื่องมากเดี๋ยวเอาลูกกรูกลับ " :OO ;D ;D ;D ตกตอนเย็นพ่อจัดโต๊ะจีนไว้ให้ที่โรงพัก 55 โต๊ะ เหลือจากหักค่าใช้จ่ายแล้วให้ลูกทั้งสอง 40,000 บาท ::014:: ( แฟนผมก็หลานรุ่นน้องพ่อผมนี่แหละ...ผมกับแฟนเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็กเติบโตมาอยู่ในโรงพักด้วยกัน ) ;D ;D ;D ปล.ผมมีลูกสาวคนเดียว อายุ 18 ปี และไม่ได้เป็นทอมอย่างชาวบ้านเขานินทา ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:27:21 PM เงินห้าหมื่น ทองห้าบาท ;D ทองให้พ่อตาแม่ยาย เมียขอคืนให้บาทนึง(ตอนนี้อยู่กะเมีย ::005::) สินสอดให้หมด เราเอาเงินช่วยงานมาใช้หนี้งานที่จัด เหลืออยู่สามหมื่นนิดๆ เป็นของเรา :D มิน่า... ซื้ออะไรๆ ก็ "สามหมื่น" ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:33:24 PM ใครว่ากวางกลัวเมีย เรื่องนี้ไม่จริ๊งไม่จริงใช่มั้ยกวาง ::005::
(http://images.temppic.com/27-03-2013/images_vertis/1364373175_0.14009700.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?27-03-2013:1364373175_0.14009700.jpg) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:34:38 PM ใครว่ากวางกลัวเมีย เรื่องนี้ไม่จริ๊งไม่จริงใช่มั้ยกวาง ::005:: (http://images.temppic.com/27-03-2013/images_vertis/1364373175_0.14009700.jpg) (http://www.temppic.com/img.php?27-03-2013:1364373175_0.14009700.jpg) โอ้เย่... :DD :DD :DD หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:47:42 PM เงินห้าหมื่น ทองห้าบาท ;D ทองให้พ่อตาแม่ยาย เมียขอคืนให้บาทนึง(ตอนนี้อยู่กะเมีย ::005::) สินสอดให้หมด เราเอาเงินช่วยงานมาใช้หนี้งานที่จัด เหลืออยู่สามหมื่นนิดๆ เป็นของเรา :D มิน่า... ซื้ออะไรๆ ก็ "สามหมื่น" ::007:: ::007:: ::007:: โธ่ถัง........เงิน 3 หมื่นก็มาด้วยประการละฉะนี้แล ::005:: ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 27, 2013, 03:57:18 PM ฉายา "กวาง สามหมื่น" ได้มาเพราะแต่งงานนี่เอง ::002:: ::014::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 27, 2013, 07:13:44 PM จ.ข.ก.ท. เขาถามความคิดเห็น คนที่เป็นพ่อตาไม่ใช่หรือครับ เห็นมีส่วนมาก
ที่เป็นลูกเขยเข้ามาตอบกระทู้ ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ มีนาคม 27, 2013, 07:24:12 PM เพื่อนๆผมหลายคนก็โดนแบบเดียวกับ จขกท เพื่อนๆที่โดนก็มักจะทำใจไม่ได้ในระยะแรกๆแต่ดีที่ภรรยาเข้าใจก็เลยไม่มีปัญหา มีเพื่อนคนนึงหลังแต่งไม่ถึงปีเรื่องเงินค่าสินสอดเป็นปัญหาถึงขี้นเตียงหักเลยครับ พ่อตาแม่ยายก็ได้ฉายาว่าคนขายลูกกิน น่าเห็นใจครับแต่สำหรับผมผมว่ามองไปข้างหน้าดีกว่า อดีตปล่อยให้มันผ่านไปอย่าเอามาเป็นตำหนิในใจจะทุกข์โดยไม่จำเป็น
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มีนาคม 27, 2013, 07:26:50 PM ไหน...ใครว่าน้องผมกลัวเมีย...โฮ้ย...ไม่จริงเลย ไม่มีมูลด้วย....เห็นมากะตา
มูลมันขึ้นไปอยู่บนกระหม่อมหมดแล้ว ก็เลยไม่มีให้เห็น หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มีนาคม 27, 2013, 09:33:30 PM ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 27, 2013, 10:13:52 PM คนมันอยากอ๊ะลุงเข้ม ::007::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 27, 2013, 10:17:18 PM ขอถามความคิดเห็นเพื่อนสมาชิก ;D
หากเล็งเห็นอยู่แล้วว่าลูกสาวเราจะไปใช้หนี้ก้อนโตที่ลูกเขยกู้มาจ่ายค่าสินสอด เราหรือท่านยังจะดึงดันเรียกสินสอดแพง ๆ อยู่อีกมั้ย ? ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: kensiro ที่ มีนาคม 27, 2013, 10:33:09 PM กรณี จขกท. มองให้เป็นกลางก่อนครับ เพราะบางครั้งเรามองเพียงรูปภายนอกอาจเป็นอีกแบบ แต่ความคิดคนสูงวัยหรือที่เรียกว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน
เราตามเขาไม่ทัน ผมแนะนำไม่เก่งครับ แต่กรณีผม พ่อแม่พี่น้อง ทางเขาดีกับผมหมดทุกคนเลย หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 27, 2013, 11:54:54 PM ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ผมลูกชาย 3 คน.. โนคอมเมนต์ครับ... :~) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ปืนโต-รักในหลวง ที่ มีนาคม 27, 2013, 11:56:43 PM ตามความเห็นของหลายท่านข้างต้นผมขอเรียน ดังนี้นะครับ
๑. เรื่องสิทธิ์ของพ่อตาแม่ยาย ผมเข้าใจและรับทราบมาโดยตลอดครับว่าท่านมีสิทธิ์ แต่ไม่เข้าใจตรงที่ว่า เมื่อลูกเขยไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่ท่านอยากได้ ทำไมจึงไม่หาหนทางให้ลูกเขยรวมถึงลูกสาวของตัวเองได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวได้อย่างราบรื่น ๒. เรื่องฤกษ์ยาม อันนี้ผมไม่ได้ถือนัก แต่ตระหนักว่า ยิ่งคบกับแฟนนานวัน แฟนก็ยิ่งมีอายุมากขึ้น เป็นขี้ปากชาวบ้านมากขึ้น ผมก็พยามแล้วที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ตามครรลองและประเพณี ไม่ให้แฟนและครอบครัวแฟนต้องเสื่อมเสีย (บางท่านได้ให้ความเห็นไว้แล้วว่า ทุกวันนี้ มันมาสู่ขอให้ก็ขอบคุณมันมากแล้ว) ๓. ถ้าจะรอให้ผมมีตังค์ตามที่พ่อตาแม่ยายต้องการ แฟนผมคงเกือบเกษียณอายุราชการ หรือไม่ก็มีลูกให้ผมสัก ๓ คนแล้วครับ ถ้าเลือกได้ผมก็คงอยากจะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยเงินทอง หรือไม่ก็มีบุญได้พบเจอพ่อตาแม่ยายที่เข้าใจและใจดีกว่านี้ ๔. ตอนนี้ผมกับภรรยาก็ได้แต่งงานกันเรียบร้อยแล้วครับ ก็คงเริ่มต้นเก็บเงินประหยัดอดออมเพื่อสร้างครอบครัว ที่เปิดกระทูถามพี่น้องชาวปืนก็เพียงอยากทราบความเห็น ระคนกับอยากระบายความอัดอั้นในใจ ประกอบกับ อยากถ่ายทอดความรู้สึกถึงท่านที่อาจจะได้มีโอกาสเป็นพ่อตาคนในอนาคตได้รับทราบไว้ประกอบการพิจารณาต่อไป ขอบคุณทุกท่านครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:08:43 AM จ.ข.ก.ท. เขาถามความคิดเห็น คนที่เป็นพ่อตาไม่ใช่หรือครับ เห็นมีส่วนมาก คงไม่กล้าบอกว่าเป็นพ่อตาแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าแก่ ::007::ที่เป็นลูกเขยเข้ามาตอบกระทู้ ::007:: ของผม ตอนแต่งเงิน ๔ หมื่น ทอง ๔ บาท ค่าจัดงานผมออก รุ่งเช้าพ่อตาแม่ยายเอาถุงผ้ามาให้บอกไว้ทำทุน เปิดดูน้ำตาไหล เงิน ๓๐,๐๐๐ กับทองทั้งหมด แม่ยายบอกอีกหมื่นแม่ขอไว้เผื่อเจ็บไข้ได้หาหมอ ::014:: ถึงคราวตัวเองจะเป็นพ่อตา เขามาขอลูกสาว ผมก็ไม่เรียกร้องบอกจัดมาให้ครบตามประเพณีทุกอย่างแล้วกัน เขาบอกไม่ค่อยมีตังค์ จัดมา ๘๐,๐๐๐ บาท ทอง ๔ บาท ค่าจัดงานพ่อแม่เจ้าบ่าวออก ผมรับไหว้คืนให้หมดแถมเพิ่มให้อีก ๒๐,๐๐๐ ไปดาวน์ทาวเฮ้าส์ :D วันนี้หลานอายุ ๑๒ แล้ว ;D ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าเราไม่ได้ขายลูกกิน ในเมื่อเขาเป็นคนดี ทำมาหากิน ไม่เกเร มาสู่ขอก็นับว่าบุญแล้ว(ดีมันไม่พาหนี) ให้เขาเป็นหนี้เราก็ไม่สบายใจ ทุกวันนี้ก็ได้ลูกเขยคนนี้คอยช่วยงานทั้งที่เขาก็มีงานที่ต้องทำของเขามากมาย เมื่อวันจันทร์ที่แล้วเลยไปโอน beretta 92 ให้ไปใช้ :D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:14:04 AM ขอเป็นกำลังใจให้ จขกท.อดทนขยันทำงานต่อไป อายุยังน้อยโอกาสยังมีอีกมากมาย คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ภาษิตนี้ยังใช้ได้อยู่ครับ
ความเห็นผมคิดว่า ท่านพ่อตาแม่ยาย อาจทดสอบคุณอยู่ก็ได้ อย่าท้อถอยอย่าเครียด สู้ๆต่อไปครับ ::002:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:27:32 AM ไม่รู้อ่ะ....เพิ่งอ่านได้หน้าแรก พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อ :<<
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:45:52 AM ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว. ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่ ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้ ::010:: บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ? แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน) การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ . พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ มีนาคม 28, 2013, 07:29:44 AM ผู้หญิงสมัยนี้ คอยจับจ้องแต่คนรวยครับ ที่เขากล่าวไว้ว่า ชอบคนดี รักคนเลว แต่งกับคนรวย ::005::
สุดท้ายก็มาจบที่คนรวย ดูดาราหญิงแต่ละคนซิ ผ่านอะไรมามั่ง กว่าจะมาถึงคนรวย ::005:: ::005:: ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 28, 2013, 08:51:48 AM ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว. ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่ ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้ ::010:: บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ? แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน) การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ . พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ ::005:: คนที่อื่นผมไม่รู้นะครับ แต่ถ้าที่ตรัง ส่วนมากเลย ถ้าไปขอลูกสะใภ้ ทางพ่อแม่ฝ่ายชายเป็นคนออกให้ครับ แม้ว่าเขาจะต้องเป็นหนี้สินครับ เห็นบางคนแต่งแล้วเลิก สองครั้ง พ่อแม่เขาก็ยังไปขอให้แล้วออกค่าสินสอดให้ด้วยครับ แต่ผมหามาเองทั้งหมดครับ ไม่รบกวนพ่อแม่เลย ตอนนี้ก็เลยต้องเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ เพราะมีลูกชายด้วยครับ เผื่อวันหนึ่งจะต้องไปขอลูกสะใภ้นะครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:13:09 AM เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา
ผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง ::002:: ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:15:02 AM เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา ถูกครับผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง ::002:: ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:18:17 AM เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา ถูกครับผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง ::002:: ::002:: ::002:: ไม่ถูกแป๋งไม่พูดหรอกครับ ::005:: ::005:: ::005:: ช่วงนี้โทรฯเดี้ยงติดต่อสมาชิกไม่ได้ ไม่แน่วันสองวันอาจจะไปโผล่ที่กทม. หาโอกาสไปหม่ำปลา...ลวกจิ้มร้านอาหารใบบัวสักจานใหญ่ๆ :D~ :D~ :D~ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:22:58 AM นายสมชายถึงบอกเอาไว้ใน Post ก่อนครับ ว่ามันแล้วแต่เอาไม้บรรทัดอันไหนไปวัด เลยบอกถูกผิดไม่ได้...
แต่มีเรื่องที่น่าต้องพิจารณาครับ ว่าหากถือว่าตามประเพณี เป็นสิทธิ์ของพ่อตาแม่ยายว่าจะเรียกเท่าไหร่ก้ได้ แล้วฝ่ายลูกเขยมีหน้าที่ต้องยอมโดยโต้แย้งไม่ได้นั้นน่ะมันก็ใช่, แต่ถ้าหากคิดแบบนี้แบบเคร่งครัด ฝ่ายพ่อตาแม่ยาย และลูกสาวนั่นแหละครับ จะเสียเปรียบและจะมีความทุกข์ระทมยืดเยื้อยาวไกลครับ... หากพ่อตาแม่ยายคิดตก และมองเห็นว่าประเพณีแบบนี้ที่จริงเป็นแค่วัด"ความตั้งใจจริง"ของลูกเขย ว่าจะจริงจังกับลูกสาวของเราแค่ไหนเท่านั้นเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ... ลองดูข้อเท็จจริงตามท้องเรื่องในกระทู้นะครับ ทั้งคู่เริ่มต้นรับราชการทั้งคู่ คาดว่าเงินเดือนของทั้งคู่คงคนละไม่เกินเดือนละ 2 หมื่นบาทแน่ๆ ข้อมูลอัตราเงินเดือนของ ก.พ.(เริ่มเข้ารับราชการ) ที่นี่ครับ... http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/uploads/circular/ccl0000537.pdf สมมติว่าอย่างสูง 2 หมื่นบาททั้งคู่ รวมรายได้เดือนละ 4 หมื่นบาท(จริงๆไม่น่าถึง เพราะยังหนุ่มสาวเริ่มรับราชการไม่กี่ปี) ต้องช่วยกันผ่อนหนี้สินสหกรณ์ประมาณ 1 ล้านบาท หากคิดตามอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานธนาคาร/สหกรณ์ ก็ผ่อนประมาณ 1 หมื่นบาทยาวร่วม 20 ปี(หากผ่อนสั้นก็ยิ่งค่างวดแยะ)... แล้วมันจะเหลือกี่บาทเอาไปผ่อนบ้านผ่อนรถยนต์เล่าครับ... หากฝ่ายลูกเขยเกิดเบื่อขึ้นมา เพราะอยู่กันไปแบบกระเบียดกระเสียน ใช้ชีวิตลำบากมากๆเข้า เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอยู่บ้านไม่ติด ทะเลาะกันก็ออกไปกินเหล้า(หรือเมียก็ออกไปอยู่เวร) เพื่อหลบหน้ากันในห้องเช่าแคบๆ ต่อให้รักกันแทบจะกลืนกิน แต่ทะเลาะกันวันเว้นวันเพราะเหนื่อยกับการใช้ชีวิต... เดี๋ยวชีวิตคู่ก็คงไม่ยืดครับ... นายสมชายฟันธงครับ ว่าในที่สุด ภรรยา จขกท. มีแนวโน้มสูงว่าเมื่อใช้หนี้หลวงเรื่องค่าเรียนหนังสือหมดแล้ว จะออกจากราชการมาอยู่ภาคเอกชนครับ... ไม่งั้นก็ต้องเลือกเอาระหว่างช่วยกันผ่อนหนี้สหกรณ์+ผ่อนบ้านฯ(อาจยอมกัดฟันขึ้นรถเมล์ไม่ผ่อนรถยนต์), แล้วเมื่อมีลูกเมื่อไหร่ก็จะยิ่งแย่เข้าไปอีกครับ เพราะหนี้สหกรณ์นั่นแหละจะถ่วงลงลึกเรื่อยๆ... อย่างนี้พ่อตาแม่ยายจะมีความสุขไหมเล่าครับ... เรื่องที่จะพึ่งพาลูกสาว+ลูกเขยให้ช่วยดูและยามแก่เฒ่านั้นต้องเลิกคิดถึงครับ ก็มีเงินแล้วก็จ้างพยาบาลมาดูแลเองก็แล้วกันนี่ครับ, ลูกสาวลูกเขยก็ทะเลาะกันระหองระแหงนั่นแหละ ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ดีไม่ดีก็จะเลิกกันเอาเสียด้วย... แต่ถ้ากลับข้างกันนะครับ หนี้สหกรณ์+เงินสินสอด+ทองคำ รวมแล้วประมาณ 2 ล้านบาท, เอาไปซื้อทาวน์เฮ้าส์ขนาดย่อมหน่อยย่านชานเมือง(แถว กทม.)... เงินเดือนก็เหลือพอเก็บ สุขภาพจิตก็ดี(ไม่ทะเลาะกัน) พ่อตาแม่ยายจะได้พึ่งพายามแก่เฒ่าครับ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:33:46 AM ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท...
บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ... จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 28, 2013, 09:38:30 AM บางท่านอาจคิดต่อว่า ก็ทำไมคู่อื่นเขาทนกันได้... ก็เขาทนกันได้ก็เพราะชีวิตไม่มีทางเลือกครับ, แต่ถ้าชีวิตมีทางเลือกได้ มันก็จะตั้งคำถามใส่ตัวเองเช้าเย็นว่าทำไมฉันต้องทนด้วย ในเมื่อเพื่อนหมอคนอื่นเขาคุยกันทุกวันว่าวีออสดี หรือแจ๊สดี หรือกัดฟันนิดเดียวไปหาซีวิค ก็แค่ผ่อนเดือนละ 1 หมื่นกว่าบาทเองนี่นา...
แต่ 1 หมื่นกว่าบาทของฉันน่ะ ต้องไปผ่อนหนี้สหกรณ์... เฮ้อ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 28, 2013, 10:13:02 AM +๑ พี่สมชายครับ คิดออกมาแนวทางเดียวกับผมเลย :VOV: ::014::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 28, 2013, 10:17:30 AM ไม่รู้อ่ะ....เพิ่งอ่านได้หน้าแรก พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อ :<< คนนี้น่าสงสาร ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 28, 2013, 10:27:29 AM ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท... บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ... จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ... ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่ เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000- :D มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี :~) มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน :<< เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่ ;D มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน ::004:: เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง :D :D ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ :D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 28, 2013, 10:37:40 AM ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท... บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ... จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ... ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่ เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000- :D มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี :~) มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน :<< เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่ ;D มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน ::004:: เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง :D :D ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ :D ::002:: ไม่รู้อ่ะ....เพิ่งอ่านได้หน้าแรก พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อ :<< คนนี้น่าสงสาร ::007:: ช่าย...ไม่มีใครมากัดก้อนเกลือกินด้วยเลย ::004:: ::006:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มีนาคม 28, 2013, 10:54:05 AM ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว. ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่ ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้ ::010:: บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ? แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน) การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ . พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ ::005:: สำหรับคำแนะนำก็...ตามแผนเดิมครับเบิ้ม รักจริงหวังแต่งกะสาวไหนก็ เฉาะให้ท้องสักสองสามเดือนดูซิใครจะร้อนใจอยากแต่งมากกว่า ถ้าสาวไหนเราไม่หวังจริงจังก็ อย่าให้ท้อง ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 28, 2013, 11:04:52 AM ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท... บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ... จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ... ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่ เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000- :D มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี :~) มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน :<< เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่ ;D มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน ::004:: เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง :D :D ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ :D ท่านปลัดอยู่ต่างจังหวัด เรื่องราวเลยลงตัวไงครับ... แต่เรื่องมันจะแตกต่างแยะ หากเป็น"แพทย์หญิง"ที่มีทางเลือกได้แยะไงครับ ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่แพทย์หญิงท่านนั้นอาจตบะแตก ครอบครัวก็ล่มครับ... คือผู้ชายไม่ค่อยแคร์เรื่อง"ฐานานุรูป"ทางสังคม เช่นนายสมชายออกจากบ้านไปไหนก็แค่กางเกงยีนส์+เสื้อยืด+รองเท้าผ้าใบก็จบเรื่อง... แต่ผู้หญิงจะมีรายละเอียดเสื้อผ้าหน้าผมกระเป๋ารองเท้า ฯลฯ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเห็นของเพื่อนหมอคนอื่นด้วยกันอยู่ทุกวันครับ, ตัวอย่างเช่นเข้าห้องน้ำเติมแป้งเติมเครื่องสำอางค์ช่วงก่อนเลิกงานกลับบ้าน เพื่อนหมอด้วยกันใช้เอสเต้ฯ ส่วนตัวฉันใช้ของมิสทีนฯ หน้าก็เลยเขลอะฯ, แยกกันกลับบ้านเพื่อนหมอเดินไปลานจอดรถ แต่ฉันเดินไปคอยรถเมล์, เพื่อนเขาชวนกันไปกินสุกี้เอ็มเคเลิกงานเย็น(เหนื่อย) แต่ฉันโกหกเพื่อนว่านัดกับสามี(แล้วซื้อแกงถุงหน้าปากซอย - เหมือนเดิมทุกวันนั่นแหละ), เพื่อนชวนกันไปซื้อเสื้อผ้าในห้างเอาไว้ใส่ไปงานแต่งรุ่นน้อง แต่ฉันต้อง"แอบ"ไปเดินตลาดนัดแถวบ้าน ซื้อเสื้อมาแล้วก็นั่งดัดแปลงแต่งโน่นติดลูกไม้ที่นี่ ฯลฯ... พอมากๆเข้า เงื่อนไขมันก็แยะเข้าน่ะครับ แล้วในที่สุดก็จะทนไม่ไหว เพราะเธอมีทางเลือก แล้วหากเลือกไปอยู่ภาคเอกชน ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวอีกนั่นแหละ เพราะรายได้สามีกับภรรยาจะแตกต่างกันมาก หากยังรักกันมากอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอะไรมากระทบ ก็ต้องระวังให้จงหนัก เพราะรายรับต่อเดือน 2 - 3 แสนบาทเทียบกับเงินเดือนสามี 2 หมื่นบาท มันเหมือนคนละสังคมแล้วครับ... ดังนั้น ที่ จขกท. คำนึงถึงจึงสมเหตุสมผลอยู่ คือแก้โจทย์ว่าทำอย่างไรให้ภรรยาและครอบครัวควรจะมีความสุขได้โดยไม่ต้อง"กัดก้อนเกลือ"กินครับ... กินอุดมการณ์อย่างเดียว มันเหมาะกับพวกเรา(เช่นตัวนายสมชายเองสมัยเริ่มรับราชการใหม่ๆ c.3 ที่ จ.สุรินทร์)... แต่ถ้า"แพทย์หญิง"แล้วเธอจะมีทางเลือกอย่างอื่นได้ครับ... หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มีนาคม 28, 2013, 11:31:37 AM ;D ;D ;D พ่อผมดุครับ...แค่ตบชิดย่ำรองเท้า ตร. เล่นๆ ก่อนเข้าบ้าน ใครๆ ก็หยุดกึกทุกคน ::012::
;D ;D ;D พ่อสั่งในงานเลี้ยงมงคลสมรสกลางคืนไว้เลยว่า... ... ห้ามผม! ทำปูนา ( แฟนผมชื่อปูนา ) ให้เจ็บทั้งกายใจ ... พ่อเห็นลูกๆ มาแต่เด็กพ่อแม่น้าเขายังไม่เคยตีลูกเลย ( เขาไม่เกเร ) ::002:: ::002:: ::002:: ;D ;D ;D นอกเรื่องนิด ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 28, 2013, 11:45:53 AM ผมพึ่งแต่งงานครับ โดนเรียกสินสอดเป็นเงินหนึ่งล้านบาท ทองยี่สิบบาท พ่อตาแม่ยายผูกแขนและปูที่นอนรวมเป็นเงินสองแสน ส่วนทองทีแรกแกว่าจะไม่คืนทำเป็นถามว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเก็บไว้ให้ ผมอดไม่ไหวเลยบอกไปว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ในงานนี้ผมกู้สหกรณ์มา แกเลยเงียบไป แต่ก็ยังบอกว่า ตามประเพณี "ของบ้านนี้" ก็ต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องๆ ของเจ้าสาวด้วย ผมเลยให้พ่อตากับแม่ยายไปคนละ 2 บาท และน้องสาวของแฟนผมอีก 1 บาท อยากถามความคิดเห็นของคนที่เป็นพ่อตาคนมาแล้วว่า โดยส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องเงินสินสอด สำหรับผม ผมว่า เมื่อลูกหลานเค้าเข้าตามตรอกออกตามประตู และทำตามประเพณีทุกอย่างแล้วน่าจะอนุเคราะห์ให้ลูกหลานได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยความราบรื่น ไม่ใช่มาเริ่มต้นชีวิตกับคนที่มีหนี้สินมากมายแบบผม แต่นี่ เพราะผมรักภรรยาผมผมเลยต้องอดทน ทั้งหมดนี้แค่อยากระบายความอึดอัดใจกับพี่น้องชาวปืนครับ และขอฝากท่านที่อาจจะกำลังจะเป็นพ่อตาคนไว้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ พูดลำบาก ไม่อยากพูดด้วย ชีวิตยังไม่ได้เดินไปถึงเวลาที่เจ้าของกระทู้เจอ แต่เห็นเรื่องราวไปไกลเกิน ขอก็อปหัวข้อกระทู้มาอีกครั้ง ผมขออนุญาต สมมุติตัวเองเป็นเจ้าของกระทู้ มีเงื่อนไขต่างๆเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้าเป็นผม คงต้องบอกกล่าวกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อนแต่งตรงๆ ว่าเรามีภาระใดๆบ้าง ผมหาเงินหนึ่งล้านกับทองยี่สิบบาทได้ แต่คงต้องกู้สหกรณ์มา แล้วค่อยผ่อนทีหลัง... แน่ล่ะ... พ่อกับแม่ฝ่ายหญิงอาจไม่ต้องบอกภาระของเขา แต่ร้อยทั้งร้อย ถ้าพ่อแม่อึดอัดตรงนี้ ก็เพราะเขาเองก็มีหนี้สินอยู่เหมือนกัน บางทีอาจเอาเงินสินสอดไปล้างหนี้ก็ได้... อันนี้เคยเจอเคสของเพื่อนหลายคน ถ้าเขาเก็บไว้่ ไม่คืนไม่ว่ากรณีใด ขอให้รู้ล่วงหน้าก่อน จะได้วางแผนถูก ไม่ใช่ไปลุ้นเอาตอนหลัง ส่วนคำว่า"ขายลูกกิน" คำนี้ ผมแสลงมาก ไม่ถูกกับมันทั้งๆที่ยังไม่มีลูกสาว ;D ;D ;D ตามธรรมเนียมโบราณนานมา ก็มีสินสอดในงานแต่งกันมาเนิ่นนานแล้ว แล้วเราก็ยึดตามประเพณีกันมา การให้สินสอดฝ่ายหญิง ตามสมควร ตามฐานะ (ฐานะใคร? ฝ่ายหญิงหรือผ่ายชาย อันนี้น่าอึดอัดมาก หากฝ่ายชายด้อยฐานะกว่าฝ่ายหญิง) ดังนั้นไม่ว่าผู้ใหญ่เขาจะเก็บไว้หรือไม่ ให้เราคืนมาหรือไม่ บางที คู่แต่งไม่มีปัญหานะ แขกเหรื่อ คนรอบข้าง นั่นแหละ ซุบซิบนินทากัน ;D ;D ;D ได้เป็นเรื่องเป็นราวกันก็ตรงนั้น.... ผมไม่เคยเข้าพิธีแต่งงาน แต่ผมเคยคุ้มครองเงินสินสอดหลายครั้ง ข้ามจังหวัดก็มี ;D ;D ;D เลยเข้าไปอยู่ในหลายพิธีสู่ขอ เกือบครึ่งที่เจอไม่คืนเงิน แต่เจ้าบ่าวก็รู้ล่วงหน้าแล้ว เลยเฉยเสีย ผมเองก็นิ่ง ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้น จะพูดมากทำไม ไม่ถามด้วยว่า ทำไม พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่คืน ส่วนที่คืนมา มีทั้งคืนกันเงียบๆหลังงานแต่ง บางรายก็บอกกล่าวกันในงานกันเลย แต่หลายรายที่ไม่ได้คืน เพราะพ่อแม่้ฝ่ายหญิงเองก็มีหนี้สินให้ต้องชำระ เขาก็ไม่อินังขังขอบ หาเอาใหม่ได้..... วันดีคืนดี เมียท้องขึ้นมา คลอดปุ๊บ พ่อตาแม่ยายมาเยี่ยม เอาทองมาผูกรับข้อมือหลาน ก็ทองที่เป็นสินสอดไปสู่ขอน่ะแหละ มาให้หลานต่อ ;D ;D ;D พอแม่ออกจาก รพ. ไปทำงาน ก็ฝากลูกไว้กับยายน่ะแหละ ให้เลี้ยงดูช่วงกลางวัน เข้าโรงเรียน ยายกับตาก็มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้หลาน ;D ;D ;D บางครั้ง เรื่องที่สมควรเสียก็ต้องเสีย เรื่องที่สมควรยอมก็ต้องยอม อย่าไปชนะมันทุกเรื่องเลยครับ ชนะใจคนแก่ ไม่ยาก ไม่ง่าย แต่ต้องตั้งใจทำ ไม่ใช่ทำแค่วันเดียว เพื่อนผมหลายคนที่พ่อตากับแม่ยายไม่คืนสินสอดให้ตอนแต่ง ตอนนี้ออกจากงานประจำไปดูแลสวนที่ พ่อตา แม่ยายยกให้แล้วครับ สามสิบกว่าไร่แน่ะ มูลค่ามากกว่าเงินสินสอดเกิน10เท่าตัว ;D ;D ;D ;D ในทรรศนะของผม การแต่งงานไม่ใช่คนสองคน แต่มันครอบครัวสองครอบครัว ที่จะผูกติดกัน จากการแต่งงานของคนสองคนต่างหาก ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 28, 2013, 11:57:59 AM พี่ซับพูดมีเ้หตุมีผลครับ ::014::
ผมเลยอยากหาสาวบ้านๆแบบนี้ ต้นทุนน้อยดี :VOV: (http://image.ohozaa.com/i/590/tj3Vhd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJw0gtxyhfdzEkIM) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:00:20 PM พี่ซับพูดมีเ้หตุมีผลครับ ::014:: ได้รึยังครับ อิอิผมเลยอยากหาสาวบ้านๆแบบนี้ ต้นทุนน้อยดี :VOV: (http://image.ohozaa.com/i/590/tj3Vhd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJw0gtxyhfdzEkIM) เราแนะนำลูกสาวคนเดียวที่นาสองร้อยกว่าไร่ที่ยุดยาให้ก่าไม่เอา อิอิ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:01:34 PM พอๆเด่วออกทะเล กะทู้เค้าเสียหมด ::005::
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:08:36 PM น้าซับแป๋งมาชุดใหญ่เลย รีบๆหาแต่งบ้างเน้อน้าซับเน้อ แป๋งอยากไปร่วมงาน"กินดอง" :D~
หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:10:22 PM ต้นปีที่แล้ว ลูกสาวผมแต่ง เถ้าแก่ที่มาสู่ขอ ถามถึงสินสอด ผมก็บอกไปว่า
ตามความสมัครใจ เท่าไหร่ก็ได้ จนทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่า เขาใส่สินสอด มาเท่าไหร่ เพราะผมยกให้บ่าวสาวไปหมดทั้งทองและเงิน แฟนผมก็ซื้อแหวน รับขวัญเจ้าบ่าวไปวงนึง ส่วนผมตังน้อยเลยให้เหรียญหลวงพ่อโบสถ์น้อยรุ่นแรก ตลับทองลูกเขย พอหลานคลอด รับขวัญหลานสาวด้วยทองไปอีก1บาท :VOV: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:10:58 PM น้าซับแป๋งมาชุดใหญ่เลย รีบๆหาแต่งบ้างเน้อน้าซับเน้อ แป๋งอยากไปร่วมงาน"กินดอง" :D~ เบิดหวังแล่วหละตู้เอ้ย ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:16:01 PM ต้นปีที่แล้ว ลูกสาวผมแต่ง เถ้าแก่ที่มาสู่ขอ ถามถึงสินสอด ผมก็บอกไปว่า ตามความสมัครใจ เท่าไหร่ก็ได้ จนทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่า เขาใส่สินสอด มาเท่าไหร่ เพราะผมยกให้บ่าวสาวไปหมดทั้งทองและเงิน แฟนผมก็ซื้อแหวน รับขวัญเจ้าบ่าวไปวงนึง ส่วนผมตังน้อยเลยให้เหรียญหลวงพ่อโบสถ์น้อยรุ่นแรก ตลับทองลูกเขย พอหลานคลอด รับขวัญหลานสาวด้วยทองไปอีก1บาท :VOV: แป๋งขอเดี่ยวไม้คานกับรอเก้อสิบนิ้วเป็นของรับขวัญด้วยนะครับน้าตี๋สุดหล่อ :<><> น้าซับแป๋งมาชุดใหญ่เลย รีบๆหาแต่งบ้างเน้อน้าซับเน้อ แป๋งอยากไปร่วมงาน"กินดอง" :D~ เบิดหวังแล่วหละตู้เอ้ย ::005:: หาเมียบ่ได้กะหาผัวถ่อนั้นแหล่วเนาะตากวาง ::007:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตี๋ br ที่ มีนาคม 28, 2013, 12:22:04 PM มีแต่ภาพนะครับ ของจริงคืนให้ลูกๆทั้งสองไปหมดแล้ว
(http://image.ohozaa.com/i/g98/9gN4tO.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJw9KWfEZueDWJyU) (http://image.ohozaa.com/i/02f/8emOQd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJw9PxYwFZ8DHeFy) (http://image.ohozaa.com/i/641/vewNlT.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJw9T5LlvPOkaL5F) (http://image.ohozaa.com/i/gf6/kPzI3m.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJwgfi7IPV8qamld) หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2013, 11:39:31 AM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท.
กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 29, 2013, 11:56:26 AM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 29, 2013, 12:09:07 PM ผมพึ่งแต่งงานครับ โดนเรียกสินสอดเป็นเงินหนึ่งล้านบาท ทองยี่สิบบาท พ่อตาแม่ยายผูกแขนและปูที่นอนรวมเป็นเงินสองแสน ส่วนทองทีแรกแกว่าจะไม่คืนทำเป็นถามว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเก็บไว้ให้ ผมอดไม่ไหวเลยบอกไปว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ในงานนี้ผมกู้สหกรณ์มา แกเลยเงียบไป แต่ก็ยังบอกว่า ตามประเพณี "ของบ้านนี้" ก็ต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องๆ ของเจ้าสาวด้วย ผมเลยให้พ่อตากับแม่ยายไปคนละ 2 บาท และน้องสาวของแฟนผมอีก 1 บาท อยากถามความคิดเห็นของคนที่เป็นพ่อตาคนมาแล้วว่า โดยส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องเงินสินสอด สำหรับผม ผมว่า เมื่อลูกหลานเค้าเข้าตามตรอกออกตามประตู และทำตามประเพณีทุกอย่างแล้วน่าจะอนุเคราะห์ให้ลูกหลานได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยความราบรื่น ไม่ใช่มาเริ่มต้นชีวิตกับคนที่มีหนี้สินมากมายแบบผม แต่นี่ เพราะผมรักภรรยาผมผมเลยต้องอดทน ทั้งหมดนี้แค่อยากระบายความอึดอัดใจกับพี่น้องชาวปืนครับ และขอฝากท่านที่อาจจะกำลังจะเป็นพ่อตาคนไว้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ พูดลำบาก ไม่อยากพูดด้วย ชีวิตยังไม่ได้เดินไปถึงเวลาที่เจ้าของกระทู้เจอ แต่เห็นเรื่องราวไปไกลเกิน ขอก็อปหัวข้อกระทู้มาอีกครั้ง ผมขออนุญาต สมมุติตัวเองเป็นเจ้าของกระทู้ มีเงื่อนไขต่างๆเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้าเป็นผม คงต้องบอกกล่าวกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อนแต่งตรงๆ ว่าเรามีภาระใดๆบ้าง ผมหาเงินหนึ่งล้านกับทองยี่สิบบาทได้ แต่คงต้องกู้สหกรณ์มา แล้วค่อยผ่อนทีหลัง... แน่ล่ะ... พ่อกับแม่ฝ่ายหญิงอาจไม่ต้องบอกภาระของเขา แต่ร้อยทั้งร้อย ถ้าพ่อแม่อึดอัดตรงนี้ ก็เพราะเขาเองก็มีหนี้สินอยู่เหมือนกัน บางทีอาจเอาเงินสินสอดไปล้างหนี้ก็ได้... อันนี้เคยเจอเคสของเพื่อนหลายคน ถ้าเขาเก็บไว้่ ไม่คืนไม่ว่ากรณีใด ขอให้รู้ล่วงหน้าก่อน จะได้วางแผนถูก ไม่ใช่ไปลุ้นเอาตอนหลัง ส่วนคำว่า"ขายลูกกิน" คำนี้ ผมแสลงมาก ไม่ถูกกับมันทั้งๆที่ยังไม่มีลูกสาว ;D ;D ;D ตามธรรมเนียมโบราณนานมา ก็มีสินสอดในงานแต่งกันมาเนิ่นนานแล้ว แล้วเราก็ยึดตามประเพณีกันมา การให้สินสอดฝ่ายหญิง ตามสมควร ตามฐานะ (ฐานะใคร? ฝ่ายหญิงหรือผ่ายชาย อันนี้น่าอึดอัดมาก หากฝ่ายชายด้อยฐานะกว่าฝ่ายหญิง) ดังนั้นไม่ว่าผู้ใหญ่เขาจะเก็บไว้หรือไม่ ให้เราคืนมาหรือไม่ บางที คู่แต่งไม่มีปัญหานะ แขกเหรื่อ คนรอบข้าง นั่นแหละ ซุบซิบนินทากัน ;D ;D ;D ได้เป็นเรื่องเป็นราวกันก็ตรงนั้น.... ผมไม่เคยเข้าพิธีแต่งงาน แต่ผมเคยคุ้มครองเงินสินสอดหลายครั้ง ข้ามจังหวัดก็มี ;D ;D ;D เลยเข้าไปอยู่ในหลายพิธีสู่ขอ เกือบครึ่งที่เจอไม่คืนเงิน แต่เจ้าบ่าวก็รู้ล่วงหน้าแล้ว เลยเฉยเสีย ผมเองก็นิ่ง ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้น จะพูดมากทำไม ไม่ถามด้วยว่า ทำไม พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่คืน ส่วนที่คืนมา มีทั้งคืนกันเงียบๆหลังงานแต่ง บางรายก็บอกกล่าวกันในงานกันเลย แต่หลายรายที่ไม่ได้คืน เพราะพ่อแม่้ฝ่ายหญิงเองก็มีหนี้สินให้ต้องชำระ เขาก็ไม่อินังขังขอบ หาเอาใหม่ได้..... วันดีคืนดี เมียท้องขึ้นมา คลอดปุ๊บ พ่อตาแม่ยายมาเยี่ยม เอาทองมาผูกรับข้อมือหลาน ก็ทองที่เป็นสินสอดไปสู่ขอน่ะแหละ มาให้หลานต่อ ;D ;D ;D พอแม่ออกจาก รพ. ไปทำงาน ก็ฝากลูกไว้กับยายน่ะแหละ ให้เลี้ยงดูช่วงกลางวัน เข้าโรงเรียน ยายกับตาก็มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้หลาน ;D ;D ;D บางครั้ง เรื่องที่สมควรเสียก็ต้องเสีย เรื่องที่สมควรยอมก็ต้องยอม อย่าไปชนะมันทุกเรื่องเลยครับ ชนะใจคนแก่ ไม่ยาก ไม่ง่าย แต่ต้องตั้งใจทำ ไม่ใช่ทำแค่วันเดียว เพื่อนผมหลายคนที่พ่อตากับแม่ยายไม่คืนสินสอดให้ตอนแต่ง ตอนนี้ออกจากงานประจำไปดูแลสวนที่ พ่อตา แม่ยายยกให้แล้วครับ สามสิบกว่าไร่แน่ะ มูลค่ามากกว่าเงินสินสอดเกิน10เท่าตัว ;D ;D ;D ;D ในทรรศนะของผม การแต่งงานไม่ใช่คนสองคน แต่มันครอบครัวสองครอบครัว ที่จะผูกติดกัน จากการแต่งงานของคนสองคนต่างหาก ;D ;D ;D พูดได้ดี กินอะไรผิดไปหรือเปล่านิครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2013, 12:54:53 PM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 29, 2013, 12:57:56 PM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ แก่เนาะ ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2013, 01:02:22 PM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ แก่เนาะ ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 29, 2013, 03:23:23 PM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ แก่เนาะ ::005:: ::005:: เหลือเชื่อว่าน้าสนมีลูกโตขนาดนั้นแล้วครับ ครั้งแรกที่เจอกันผมคิดว่าอายุไม่น่าจะเกินสามสิบนะครับ หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มีนาคม 29, 2013, 07:44:16 PM มีหลายกรณีครับ ท่าน จขกท. กรณีแรก อาผมเอง ฝั่งอาสะใภ้ ให้ฝ่ายผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประตูเงินประตูทองนี่ไม่รู้กี่สิบประตูครับ และต้อนรับแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่พอแต่งงานเสร็จ ก็ไม่มีอะไรครับ ฝั่งอาสะใภ้ต้องการพิสูจน์ว่าฝั่งผมต้องการลูกสาวเขามาใช้นามสกุลจริง ๆ งานศพย่า ฝั่งอาสะใภ้ ขนญาติกันมาเป็นคันรถบัสมาช่วยงานศพ แบบชนิดที่ว่าหลานในใส้แบบผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กรณีสอง อาผมอีกเหมือนกัน คบกับอาสะไ้ภ้ ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย 2 ฝ่ายสู่สีกันต่างคนก็ต่างอยากได้อีกฝ่ายเป็นลูกเขย ลูกสะใภ้ งานนั้นสนุกมากครับ สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย กรณีสาม ผมเอง ลูกชายจะแต่งงาน ฝายหญิงเรื่องมากครับ จนน่ารำคาญใจ ผมเลยพูดสั่น ๆ ว่า "ถ้างั้นก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าจะแต่งก็ไปแต่งกันเอง แต่งแล้วก็ห้ามกลับมาเหยียบบ้านจนกว่าผมจะตาย" ตอนนี้ก็เลยไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ::014:: พี่สนมีลูกแล้วเหรอ แก่เนาะ ::005:: ::005:: เหลือเชื่อว่าน้าสนมีลูกโตขนาดนั้นแล้วครับ ครั้งแรกที่เจอกันผมคิดว่าอายุไม่น่าจะเกินสามสิบนะครับ |