เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คือนั่งคิดอยู่ ตายไปเราเหลือแต่ร่างกายเอาไปไม่ได้ ให้คนอื่นเอาไปทำประโยนช์ได้คงดีกว่าน่ะครับ
แต่ผมไม่รู้ระเบียบหรือข้อปฏิบัติอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

อ่านดูคร่าวๆ มีเงื่อนไขทางอายุ วิธีการตาย ระยะทางจากที่ตายไปยัง จนงงๆ


มันต่างกันรึเปล่า สำหรับการบริจาค อวัยวะกับ บริจาคร่างกาย เราสามารถบริจาคทั้งสองอย่างได้เลยรึเปล่าครับ

อยากบริจาคแบบที่ ใช้ร่างกายทั้งหมดไม่ได้ แต่บางส่วนใช้ได้อยู่ เขาก้เอาไปช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่จะเอาไปได้น่ะครับ

ท่านใดทราบหรือมีเอกสารให้อ่านบ้างมั้ยครับ ขอบคุณมากครับ

เมื่อเราเสียชีวิตไปแล้ว ก็เหมือนกับเราไม่รับรู้อะไร?แล้วทั้งนั่น  ทุกอย่างกลับสู่สภาพของธรรมชาติ

หากมีความประสงค์จะบริจาคจริง ๆ  ไปที่ศูนย์ของสภากาชาด ที่ไหนก็ได้ครับ ไปแจ้งความจำนงค์  

แล้วเขาจะให้กรอกเอกสารที่เกี่ยวข้องเองครับ  ของผมเท่าที่เคยทำมา คือ  1.บริจาคดวงตาและ  2. บริจาคอวัยวะทั้งหมด  

ตัวอย่างข้างล่างเป็นบัตรประจำตัว ตามรายการที่ 2 ครับ ผมจะพกติดตัวตลอดเวลา ด้านหลังจะมีชื่อญาติที่ผู้อื่นสามารถติดต่อเขียนไว้  

ส่วนรายการที่ 1  ไม่ได้พกติดตัวไว้เลยไม่ได้นำมาให้ดูครับ

(http://image.ohozaa.com/i/80b/ZtL3um.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJcd1uoAe32USKYm)


ลองดูที่นี้และสอบถามได้เลยครับ   " ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย "    http://www.organdonate.in.th/?page_id=86 ... ::014::

ขออนุญาต +1 สำหรับจิตอันเป็นกุศลก่อนครับ  ::002:: จขกท.อยู่ที่ไหนครับ ลองติดต่อที่คณะแพทย์ศาตร์ ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานดูครับ ทุกมหาวิทยาลัยที่มีคณะแพทย์ศาสตร์ต้องการทั้งบริจาคบางส่วนและทั้งร่างกายเพื่อการศึกษา(เป็นอาจารย์ใหญ่) 

ขอบคุณครับพี่

เป็นความคิดที่ดีนะครับ_/ว่าแต่อยากรู้ว่านอกจากสภากาชาดไทยแล้ว
ยังมีที่ใดอีกบ้างครบเช่น. รพ.ศิริราช ฯลฯ รับด้วยหรือไม่
ขอโมทนาสาธุบุญนี้ล่วงหน้าด้วยครับ
 ::014::

ผมมี1ใบครับ  บริจาคทุกส่วนที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

สำหรับท่านที่สนใจครับ ถ้าสะดวกแถวธรรมศาสตร์รังสิต หรือที่อยู่ไม่ไกลเกิน 250 กม. ครับ  ::014::


http://med.tu.ac.th/microsite/microsite_dynamic_inside.php?mcs_id=29&mnu_id=406&contentid=774 (http://med.tu.ac.th/microsite/microsite_dynamic_inside.php?mcs_id=29&mnu_id=406&contentid=774)

กายวิทยาทาน บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา
 
(http://med.tu.ac.th/UserFiles/Image/Data%20microsite/Preclinic%20(New)/Donation/Donation/Verse-2.jpg)
  

“อาจารย์ใหญ่” คือร่างที่ไร้วิญญาณของผู้ที่ได้แสดงความจำนงอุทิศร่างกายในยามที่ตนหมดลมหายใจเพื่อให้นักศึกษาแพทย์ ทันตแพทย์ แพทย์แผนไทย พยาบาล กายภาพบำบัด และเทคนิคการแพทย์ ได้เรียนรู้วิชากายวิภาคศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่ศึกษาถึงโครงสร้างและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนและนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยในอนาคต

สาเหตุที่ต้องใช้ “อาจารย์ใหญ่” ซึ่งเป็นร่างกายมนุษย์จริงๆในการศึกษานั้น เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์การศึกษาใดที่จะดีไปกว่านี้ และไม่มีเทคโนโลยีใดๆที่จะมาทดแทนได้ เพราะนักศึกษาได้เรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติชำแหละร่างและศึกษาผ่านของจริงทำให้สามารถเรียนรู้รวมถึงจดจำรายละเอียดและได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

ใช้เวลาศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่นานแค่ไหน

สำหรับการเรียนการสอนวิชามหกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ได้จัดให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติชำแหละและศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่ประมาณ 1-2 ปี หลังจากนั้นญาติสามารถนำร่างที่ศึกษาแล้วกลับไปทำการฌาปนกิจเอง (ตามที่แจ้งในแบบฟอร์มการบริจาคร่างกาย) ส่วนผู้ที่แจ้งไว้ว่าให้ทางคณะแพทยศาสตร์จัดการเรื่องฌาปนกิจให้ คณะแพทยศาสตร์จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) และแจ้งกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพให้ญาติทราบต่อไป (เดือนมีนาคม - เมษายนของทุกปี) โดยในงานจะเชิญญาติมาร่วมงานด้วย

ทำอย่างไรกับร่างอาจารย์ใหญ่บ้าง

ร่างผู้บริจาคจะถูกแช่น้ำยาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี ทั้งนี้เพื่อให้กล้ามเนื้อและส่วนต่างๆของร่างกายได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดี แล้วจึงจะนำมาศึกษาได้ ในแต่ละปีการศึกษา (ประมาณเดือนมิถุนายน) คณะแพทยศาสตร์ จะจัดงานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้อาจารย์ใหญ่ก่อนเปิดภาคเรียน และเชิญญาติของอาจารย์ใหญ่มาร่วมงานทำบุญรวมทั้งเคารพศพด้วย

 
สถานที่ติดต่อขอรับบริจาคร่างกาย

1.ติดต่อโดยตรงที่ธุรการสถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก ชั้น 4 อาคารคุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2.เขียนจดหมายติดต่อขอรับแบบฟอร์มที่ สาขากายวิภาคศาสตร์ สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 หรือโทรศัพท์ 0 2926 9710-1, 0 2926 9714
3.สามารถดาวน์โหลดใบบริจาคร่างกาย โดยเข้าไปที่ http://www.med.tu.ac.th  สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก

  

เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเมื่อผู้บริจาคร่างกายเสียชีวิต (กรุณาแจ้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเสียชีวิต)

ในเวลาราชการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30- 16.30 น.  โทรศัพท์ 0 2926 9714, 0 2926 9710-1

นอกเวลาราชการ: โทรศัพท์ 08 4534 8291, 0 2926 9999



ข้อจำกัดในการรับร่างผู้บริจาค

เนื่องจากการเตรียมศพเพื่อการศึกษาต้องผ่าน กระบวนการเตรียมอย่างเหมาะสมทางคณะแพทยศาสตร์จึงไม่สามารถรับร่างผู้บริจาคมาศึกษาได้ในกรณีต่างๆดังนี้


1.ผู้บริจาคเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น อุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย หรือต้องเก็บร่างไว้เพื่อคดี หรือร่างผ่านการผ่าพิสูจน์มาแล้ว
2.ผู้บริจาคเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรงหรือโรคติดเชื้อ เช่นโรคเอดส์ วัณโรค โรคแอนแทรกซ์
3.การจัดการกับร่างผู้บริจาคผิดวิธีจนไม่สามารถนำร่างกลับมาใช้ในการศึกษาได้ เช่น การฉีดยารักษาศพซึ่งเป็นวิธีที่แตกต่างจากทางคณะแพทยศาสตร์
4.ผู้บริจาคเสียชีวิตในสถานที่ห่างจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มากกว่า 250 กิโลเมตร (โดยยกเว้นพื้นที่ในเขต กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี นครปฐม สระบุรี นครนายก)

แบบฟอร์มบริจาคร่างกาย
http://med.tu.ac.th/UserFiles/File/Data%20microsite/Preclinic%20(New)/Donation/Download/Donation%20from.pdf (http://med.tu.ac.th/UserFiles/File/Data%20microsite/Preclinic%20(New)/Donation/Download/Donation%20from.pdf)

     ผมก็บริจาคเรียบร้อยแล้วครับ  มอบร่างกายให้เป็นประโยชน์แก่นักศึกษาแพทย์
และระบุไว้ด้วยว่า  เมื่อพ้น 2 ปีไปแล้ว ถ้ายังมีส่วนใดของร่างกายที่ใช้ประโยชน์
ได้อีก  ก็บริจาคให้ด้วยครับ
     แต่กว่าผมจะหาที่ที่จะบริจาคได้แทบจะท้อเลยครับ  โรงพยาบาลเก่าแก่ที่มีการ
เรียนการสอนของคณะแพทย์นั้น  จะระบุว่า  ผู้บริจาคจะต้องอยู่ในรัศมี 100 กม. จาก
โรงพยาบาล
     บางโรงพยาบาล  ในขณะที่ผมติดต่อไปนั้น (ทางโทรศัพท์)  เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับ
โทรศัพท์  พูดจากับผมเหมือนกับว่า  ผมไปสร้างความรำคาญกับเค้ามากเลย
     มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นที่ที่ผมติดต่อไปครั้งสุดท้ายจากทั้งหมด 5 แห่ง
ผมประทับใจมากเลยครับการการตอบรับของที่นี่  ผู้ที่รับโทรศัพท์ครั้งแรกนั้น หลังจาก
ที่ผมขอสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ แล้วไม่อาจที่จะบอกผมได้หมด  น้องผู้หญิงคนนี้
ได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ของผมไว้ เพื่อจะติดต่อกลับ  หลังจากนั้น  ก็จะมีเจ้าหน้าที่
ท่านอื่นติดต่อกลับมาเพื่อให้รายละเอียดต่าง ๆ ในวันต่อมา ครั้งแรก ผมกำลังไม่ว่าง
พอที่จะพูดคุยด้วย  เจ้าหน้าที่ผู้นั้น  ได้บอกว่า  ให้ผมบอกเวลาที่สะดวกที่สุด  แล้วจะ
ติดต่อกลับมาอีกครั้งอีกด้วยครับ
     หลังการพูดคุยกันอีก 2 - 3 ครั้ง  ทาง คณะแพทย์ของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ก็ได้ดำเนินการส่งแบบฟอร์มต่าง ๆ มาให้ผมทางไปรษณย์  ซึ่งผมก็ได้จัดการไปเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว  ได้บัตรมาติดกระเป๋าไว้แล้วครับ
     เพื่อนสมาชิกที่ต้องการบริจาค สอบถามดูนะครับที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ที่นี่จะบอกด้วยว่า  ผู้ที่ประสงค์จะบริจาคร่างกายนั้น  อยู่ห่างไกลได้ถึงรัศมี 300 กม. ครับ
     หมายเลขโทรศัพท์ที่ผมมีอยู่นะครับ
     0 - 2260 -1532 , 0 -2260 - 2234 - 5 ต่อ 4502
     หมายเลขส่วนกลาง 081 - 428 - 7751
     หรือเพื่อนสมาชิกที่สนใจจะบริจาคร่างกายเหมือนผม pm มาขอไฟล์รายละเอียดของ
การบริจาคได้นะครับ  ผมจะส่งไปให้ทางเมล์ครับผม

ผมก็บริจาคไว้ที่นี่ครับ  :D

บัตรประจำตัวผมครับ ทำไว้นานแล้ว

มาแต่ตัว ก็ไปแต่ตัว จงทิ้งไว้แต่ความดี  ::014::

(http://image.ohozaa.com/i/9db/h2F5Sd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wJgwcJ1qRtiWkj8x)

โอก็ทำเรื่องบริจาคมา 20กว่าปีได้แล้วมั๊งคะ บัตรหายไปไหนไม่รู้ อาจจะต้องไปกรอกข้อมูลใหม่ ทำบัตรใหม่ไปเลย ไม่รู้ทำแบบนั้นได้เปล่า :D

ตอนนี้เพิ่งเรียนจบเลยครับ ไม่รู้ว่าจะได้ไปอยู่ที่ไหน แต่มีแนวโน้มขึ้นเหนือครับพี่ๆ

ทีแรกคิดว่าจะไปบริจาคที่ รพ รามาเพราะว่าเสาร์นี้มีโอกาสไปพักแถวๆนั้น
แต่ตอนนี้ชักจะงงๆ เกิดผมไปตายที่เชียงใหม่ พอตายแล้วนั่งรถไปเองก็ไม่ได้อีก

 อย่างนี้ผมควรเลือกโรงพยาบาลไหนดีครับ อยากได้แบบตายแล้วได้ใช้จริงๆ ประมาณว่าบริจาคอะไรที่ใช้ได้ก้เอาไปเลย

[/quote]

ผมมี1ใบครับ  บริจาคทุกส่วนที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
[/quote]

มีเงื่อนไขเรื่องระยะทางหรือเวลามั้ยครับ

บ้านอยู่เพชรบรูณ์ครับ แต่อาจได้ไปทำงานแถวๆเหนือ
อยากรู้ครับว่า มันต้องทำที่ รพ ไกล้ๆที่ๆเราอยู่ หรือว่าทำไว้ที่ไหนก็ได้

ลองติดต่อที่แพทย์ศาสตร์ ม.นเรศวร หรือ มช.ครับ  :D

ครับ
ขออนุโมทนากับเพื่อนสมาชิกที่มีจิตกุศลครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
 :D~