เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

    อยากทำโรงงานพลาสติกนะครับ ทำจำพวกถาดโฟม ถุงพลาสติก กุงก๊อปแก๊ปครับ ไม่รู้คิดใหญ่เกินตัวหรือเปล่า พอดีพื้นที่ๆผมอยู่เขาปลูกยางพาราเยอะมาก
เห็นการใช้งานของพวกนี้ในแต่ละวันแล้วเยอะมากด้วย ผมก็เลยอยากทำตรงนี้ครับ
   ไม่ทราบว่าพี่ๆที่ประสบความสำเร็จ ตอนเริ่มต้นสร้างตัว ทำยังไงครับ เขียนโครงการยังไง ศึกษางานยังไง หาเงินทุนยังไง

ไปดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากเว็บไซต์ของ BOI มาศึกษาดูก่อนครับ... ที่ BOI เขาไม่ได้ให้กู้เงิน แต่แบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนจะเป็นแผนธุรกิจมาตรฐาน ที่ถูกแปลงมาในรูปแบบฟอร์มเติมคำในช่องว่างครับ(แต่ก็ยังยากอยู่ดีสำหรับคนที่ไม่ได้จบ MBA มา)...

ในแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนจะบังคับตัวเราให้ค้นคว้าศึกษาหาความรู้ในธุรกิจที่เรากำลังจะทำไปด้วยในตัว, หากไม่ค้นคว้า เราก็จะกรอกแบบฟอร์ม+กรอกตัวเลขไม่ได้... ตัวอย่างเช่นข้อมูลขนาดตลาด, คู่แข่งที่สำคัญ, มูลค่าส่วนแบ่งการตลาดของเรา, แหล่งวัตถุดิบ, ลูกค้ารายสำคัญ, เครื่องจักรหลักของโครงการ(รุ่น/ยี่ห้อ/ราคา), จำนวนการจ้างแรงงาน, ต้นทุนจม ต้นทุนผันแปร ฯลฯ...

เมื่อกรอกแบบฟอร์ม+คำนวณตัวเลข ตามแบบฟอร์มครบถ้วนแล้วก็ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่สำนักงานสาขาภาคใต้ อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ครับ... เมื่อได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้วก็เอาแผนธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้วไปขอกู้เงินกับธนาคารฯ...

แต่ขณะที่ขอส่งเสริมการลงทุนอย่าบอกว่าจะจับเสือมือเปล่านะครับ... ฮา...

ในแบบฟอร์มฯ จะบังคับให้เราต้องคำนวณละเอียด แม้กระทั่ง Cash Flow ล่วงหน้า 3 - 5 ปี ลงลึกไปถึงต้นทุนค่าแรงงาน ค่าเครื่องจักร ฯลฯ... ซึ่งหากมานั่งนึกเอง ต้องนั่งศึกษาตำราหลายเล่ม นั่นคือศึกษาเสร็จแล้วจะได้ MBA แหละครับ... ไม่ฮา...

เว็บไซต์ BOI ที่นี่ครับ... www.boi.go.th ...

ถุงพลาสติก,โฟม เค้าทำมาจากปิโตรเคมีนี่ครับ ไม่ใช่ยางพารา  ???

ยางพาราทำถุงมือแพทย์,ถุงยางได้ครับ  ;D

เรื่องการขอกู้เงินกับธนาคารฯ ก็ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่การที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว ก็จะทำให้ธนาคารมีโอกาสปล่อยสินเชื่อได้ง่ายกว่ายื่นโครงการหลักลอยฯ...

ขอบคุณลุงสมชายกับพี่เบิ้มมากครับ +ให้แล้วทั้ง2ท่าน

จากโจทย์ ข้อ 1 ลงทุนกี่บาทครับ.............สถานที่ก่อสร้างโรงงานที่ไหน...ซื้อหรือเช่า....เครื่องจักรมีอะไรบ้าง.....ต้องใช้คนงานที่มีความรู้หรือไม่ เจ้าของโปรเจค รู้ถึงโรงงานที่ตนเองจะสร้างหรือไม่ ถ้าเครื่องจักรเสีย ช่างในเมืองไทยซ่อมได้ทั่วไปหรือไม่..........ฯลฯ ที่สำคัญ ถ้าโรงงานตั้งง่าย คนไม่มีความรู้ไม่มีฝีมือเทคนิคชั้นสูงก็ตั้งได้  ถ้าทำแล้วได้กำไรมาก คนอื่นก็จะมาเป็นคู่แข่งแน่นอน เราจะทำยังไงให้ดีกว่าคู่แข่ง   แค่คิดเล่น ๆ ก็เหนื่อยแล้วครับ  เดียวจะปวดหัวกับสรรพากร เรื่องบัญชีอีก ต้องจ้างพนักงานบัญชีข้องห้าง  ต้องมีผู้สอบบัญชี หรือผู้สอบภาษีมาดูแลเซ็นงบอีก

นี่แหละครับ คำถามที่จะต้องตอบลงในแผนธุรกิจฯ... ที่จริงนี่แค่ด้านเดียวนะครับ ที่สำคัญที่สุดคือด้านการตลาด เพราะต้องเอารายได้(ประมาณการ)มาเป็นจุดตั้งต้น, แล้วเข้าเกียร์ถอยหลังจากรายได้ออกมาเป็นต้นทุน+กำไร...

เพิ่งไปดูโรงงาน ทำพลาสแพ็คมา งบสูงเหมือนกันครับ ใหนจะสิ่งปลูกสร้าง ใหนจะเครื่องจักร ผมตั้งงบคร่าวๆ เครื่องจักรชุดเดียว(กล่องโฟม) ราคา 4-5 ล้าน ใหนจะต้องตั้งอยู่ในโซน

โรงงานพลาสแฑ็คอีก โรงที่ผมไปดูเป็นโรงงานขนาดเล็ก เนื้อที่ 2 ไร่ ต้นทุนอยู่ที่ 60-70 ล้านครับ ::005::

ถ้ารับราชการ ก็กู้สหกรณ์ครับ ใช้หลักทรัพย์หรือคนค้ำก็ได้ โชคดีมีไชยครับ  ::002:: ::014:: ;D

การทำธุรกิจ เริ่มต้นจะต้องมีเงินอยู่ 2 ส่วน คือ "เงินกู" กับ "เงินกู้"

และ "ดอกเบี้ย" จะแปรผันตรงระหว่าง "เงินกู" กับ "เงินกู้" เช่นกัน...

หากเป็นเงินกู ดอกเบี้ยจะเป็นบวก
เงินกู้ ดอกเบี้ยจะเป็นพิษ...

ถึงว่าซิ ผมลงทุน(เงินกู)เปิดร้านขายอะไหล่มอไซค์ลงทุนไป700,000บาท เปิดมา7ปี ยอดขายปลีกตอนนี้เดือนละ600,000บาท

สต๊อคสินค้าประมาณ5,000,000บาท สบายไปเพราะเงินกู นี่เองครับ เคยมีเเบงค์มาเสนอสินเชื่อเงินกู้ เงินลงทุน ผมคำนวนเเล้วมีเเต่จะซ้ำเรา

บ่อยๆเข้าผมเลยบอก ผมคุณสมบัติไม่ครับถ้วน ผมไม่มีเบอร์บ้าน ตัดความรำคาญให้ไปให้พ้นๆ

ไม่หมูก็แล้วกันค่อยๆทำไป  สิบกว่าล้านจะพอไหมถ้าอยู่ในกทม.นี่  ที่ดินอย่างเดียวก็หนักแล้ว

ถุงพลาสติค จะผลิตมาจากเครื่องจักรกระบวนการผลิตที่เรียกว่า blow film ซึ่งมันจะออกมาเหมือนปลอกหมอนที่บางๆ
จากนั้นเอาพลาสติคที่เหมือนปลอกหมอนนี้ มาเข้ากระบวนการเชื่อมแนวพลาสติคด้วยความร้อนเพื่อตัดเป็นแนวตามรูปถุง
ทั้งสองเครื่องจักรนี้ 100 ล้าน ไม่รู้จะพอหรือเปล่า
  เครื่องจักรกระบวนการผลิตพลาสติคทุกชนิดในโลกนี้จะพากันไปออกงานโชว์ที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ/เยอรมัน
เรียกว่างาน K-Show ที่จัดเรียกว่า messe เหมือนเป็นศุนย์แสดงสินค้า ที่ใหญ่มากๆ
ไม่ใช่มีเฉพาะจักรกระบวนการผลิตที่เรียกว่า blow film แต่มีทุกชนิดในโลกนี้ที่เกี่ยวกับพลาสติค มาจากทุกประเทศทั่วโลก

ถ้าอยากทำลองเข้าเว๊บหางาน K-Show ดูครับ

งานบางอย่างที่เราดูว่าง่าย จริงๆมันแค่ภูเขาน้ำแข็งเหนือน้ำเท่านั้นครับ



ถ้าอยากง่ายกว่านี้ คุณต้องหาที่ซื้อ blow film ที่เขาเป่ามาแล้ว มาเข้าเครื่องตัดขึ้นรูปด้วยความร้อนเอาเองครับ

แต่นั่นแหละใครจะขาย blow film ให้ เพราะต่างคนต่างก็ต้องผลิตถุงเป็นของตัวเอง

เงินกู ดีอย่างได้มาเท่าไหร่ได้เราหมด ถ้าเป็นเงินกู้ใหนจะส่งต้นส่งดอก ::005::

เคยไปซื้อเครื่องที่แฟรงเฟิตส์ ราคา ห้าล้าน ค่าถอดด่าเรื่อค่าภาษี ตกแล้วไม่เกิน ห้าสิบล้าน ขายต่อได้เจ็ดห้าล้าน ::005::

มีเยอะครับพี่จอยที่ประเทศต่างๆ ไปซื้อเครื่องจักรการผลิตเก่าๆ มาจากเยอรมัน เพื่อมาใช้งานต่อ

แต่ก็ตาดีได้ ตาร้ายเสียครับ เพราะเครื่องบางอย่าง เอามาแล้วใช้ไม่ได้ (เคยไปเจอที่เวียตนามเอาเครื่องผลิตกระดาษของเก่าเยอรมันมา ขยะชัดๆใช้งานไม่ได้)

ถ้าจะทำให้ใช้ได้ ก็ต้องจ้างช่างเทคนิคเยอรมันมาเซ็ตอัพ ซึ่งทุนจะบาน ทำไปทำมา ซื้อเครื่องใหม่จะดีกว่าเสียอีก

เราให้เขาเทสโชว์เลยครับ ตอนผมไปมีเรื่องตลกเยอะเลย ฮาตั้งแต่ขอวีซ่าแล้ว ::007::

เทสต์ให้ดูก่อนอย่างนั้่นแหละครับ ชัวร์
เพราะเครื่องจักรเก่าจากเยอรมันมักจะดีไซน์ แบบ over engineering
เก่าแต่ใช้ได้อีกนาน
ตัวอย่างเช่น เครื่องจักรประเภท เครื่อง กลึง กัด ตัด ใส เจียรนัย เจาะ ด้วย  CNC
พวกนี้แท่นเก่าๆ จะมีค่าและตามหากันมาก เพราะเหล็กมีการใช้งานมานาน ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาไม่รู้กี่ฤดูแล้ว
การ หด ขยายตัว มันคงที่แล้ว เอามาเฉพาะแท่น แล้วเขาเอามา re-engineering ใช้ CNC รุ่นใหม่ใส่เข้าไปแทน
ชิ้นงานที่จำจากเครื่อง re-engineering แบบนี้เอาไปใช้งานแล้วผลงานออกมา เนียน แน่นอน แม่นยำ กว่า แท่นที่ทำใหม่ล้วนเสียอีก

แล้วทำไมพี่ดุลย์ไม่ใช้โฟลค์เต่าละ มาใช้ซีวิคทำไมนิ

ตอนผมไป ใช้กล้องวัดมุม ยิงจากทุกฐาน ทำระดับใว้หมด คนรับซื้อต่อเห็นค่าองศาตาลุกวาว ::008::

กลัวหัวจะไม่โผล่

คนเยอรมันเล่าให้ฟังการทำแท่นใหม่ เขาเร่งให้เสมือนแท่นเก่าเพราะต้องทำขายไวๆ
ด้วยการเอาแท่นไปวางกลางลานโล่งๆให้ โดนแดด โดนหิมะ เพื่อเร่งให้เหล็ก หด-ขยาย จนอยู่ตัวเร็วขึ้น

ปล. CNC Controller ที่เก่งๆ สามารถกลึงชิ้นจาก Autocad files ได้เลยไม่ต้องป้อน G-Code
       ส่วนControllerของเจ้าไหน บอกตรงนี้ไม่ได้ อยากทราบ หลังไมค์ครับ

ถ้าเขาทำให้ราคาเท่าๆรถญี่ปุ่น ก็น่าสนใจมากครับ

ขออนุญาติออกความเห็นครับ ควรจะศึกษาเรื่องตลาดของสินค้าให้ละเอียดก่อนลงทุนก่อนครับ
โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีอยู่ก่อนเท่าไร การแข่งขันเป็นอย่างไร อนาคตของสินค้าถาดโฟม
ถุงพลาสติก ถุงก๊อปแก๊ป จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร จะมีการรณรงค์เลิกใช้รึปล่าว ฯลฯ
หากลงทุนไปแล้ว การแข่งขันสูงตัดราคากันสู้ไม่ได้ หรือ เขากำลังจะเลิกใช้สินค้าประเภทนี้
ควรจะปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้มาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีมัย หรือ ลองหาธุรกิจทางเลือกเผื่อไว้ก็น่าจะดีครับ

หาขวดรีไซเคิ้ลมาบดขายก่อนครับลงทุนน้อย  อีก10ปีจะเริ่มมองเห็นทาง

ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ความรู้ครับ ตอนนี้ผมกำลังอ่านคู่มืออยู่ คงต้องดูความเป็นไปได้จริงอีกทีครับ

เมื่อหลายปีก่อนมีเพื่อนลงทุนทำแล้วก็เจ๊งไป หาแหล่งขยะสู้เจ้าเดิมๆไม่ได้อุตส่าห์ไปเปิดอยู่แถวอ่อนนุชนะนี่

เห็นถุงก๊อปแก๊ปอย่าคิดว่าหมูนะ ลองไปศึกษาขบวนการผลิตให้ได้มากที่สุดก่อน อาจจะยากสักหน่อยบางเรื่องในเทคนิคการผลิตเขาหวงกัน เช่นผสมเคมีผงสองขีดลงไปในส่วนผสม 200 ร้อยกว่าโลนี่ทำอย่างไรให้มันเสมอกัน

 ถาดโฟม  กับถุงพลาสติก คนละเรื่องกันเลยครับ  
ถุงพลาสติก ยังแยกย่อยออกเป็น  แต่ละแบบ ตามเนื้อพลาสติกอีก
ถุงดำถุงเพาะชำ  ถุงหิ้ว(ถุงก๊อปแก๊ป )ถุงก๊วยเตี๋ยว วัตถุดิบที่ใช้ในการเป่าก็แตกต่างกัน  
ถ้าถุงหิ้ว ขนาดไม่ใหญ่มาก พวกใส่ของทั่วไป  8x16  / 9x18  ราคาเครื่องอาจไม่สูงมากครับ
ขนาดของเครื่อง และราคาเครื่อง จึงขึ้นกับ ขนาดของถุงด้วย  
สำคัญต้องหาช่างเป่า ช่างคุมเครื่องให้ได้  หากทำเองได้หรือมีความรู้  ฝึกฝนเด็กมาคุมเครื่อง ก็อีกเรื่องนึง
นี่ผมพูดถึงโรงงานขนาดเล็ก  แต่ถ้า  ขนาดใหญ่ขึ้นปัญหาต่าง ๆ ก็คงมากขึ้นอีกมาก  
ลองเป็นยี่ปั้ว  ดูไหมครับ  หาลูกค้าได้ สั่งเป่าจาก กทม. หรือโรงงานใกล้เคียงในพื้นที่  กินส่วนต่างกำไร
ถ้าแบบนี้ก็ใช้เงินลงทุนน้อยหน่อย    

 

แคลเซียมสเตียเรต   ;D

ถ้าคู่มือที่ว่าฯ หมายถึงคู่มือเขียนแผนธุรกิจฯ... ลองถามมาบนหน้าเว็บครับ, นายสมชายเก่งภาคทฤษฏีเพราะเคยสอนหนังสือวิชานี้ในมหาลัยฯ แต่ถ้านายสมชายตอบไม่ได้ จะมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลายท่านมีประสบการณ์ของจริงมาช่วยตอบครับ...

Ha HA hA  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ รอเก้อ  อ่ะ ฮา

เสี่ย "การ์เม้นท์" มาคอมเหม็นเรื่อง ถุงก๊อบแก๊ป ฮา
ลำพังไอ้กางเกง ยีนส์  มันก็เล่นกันเล๊ะ  เหมือนโจ๊ก อยู่แล้วอ่ะ ฮา
แล้วยิ่งตอนนี้ " บาท" แข็งโป๊ก เหมือน ไซค์อะก้า  ฮา
ขาย หรือส่งออก เท่าเดิม ได้เงินน้อยลง  เงินหายแว๊ป เกือบห้าเปอร์เซ็นต์ ฮา

เมืองไทยเราเนี่ยะ  คนจน  คนข้างล่าง เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ฮา
ขาดโอกาส  การเข้าถึง  "แหล่งทุน"  อ่ะ  ฮา
ต่อให้โปรเจ็กดี  ไอ้สถาบันการเงิน มันก็ไม่แล หรอกอ่ะ ฮา

ลองดูข้อเท็จจริงตอนนี้ ฮา
เอาเงินฝากประจำ ไปค้ำ โอดี  มันกดส่วนต่าง บวก"สองเปอร์เซ็นต์" ฮา
แล้วไอ้เคแบ็งค์  มันไม่เล่นด้วย มันบอก กำไรน้อย  ไม่คุ้มการบริหาร ฮา
แล้วลูกตาสี  เมียยายมา  อยู่แถวใต้ จะเอาโปรเจ็กค์ นี้ไปขาย ฮา

เอา"ยางพารา"  ไปทำถุง ก๊อบแก็ป  ฮา
โครงการนี้ "ล้ม" ตั้งแต่สดุดปากประตู ธนาคารอ่ะ ฮา   ::005:: ::005:: ::005::