หัวข้อ: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 31, 2006, 05:02:10 PM :) เก็บมาจาก ได้ FW Mail ครับ.....ลองดูนะ....เนียนมาก
>> >>> > เพื่อนๆ ... >> >>> > อยากเม้าท์อะไรให้ฟัง >> >>> > ศุกร์ที่แล้วหลังเลิกงานชั้นออกไปสะแหลนแป๋นแถวสีลมกับเพื่อนคนนึง >> >> หลังจากกิน >> >>> > ข้าวกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน >> >>> > โดยแยกทางกันกลับทางใครทางมัน >> >>> > มันเหินฟ้าขึ้นรถไฟฟ้า ส่วนชั้นก็มุด >> >>> > ลงดินกลับรถใต้ดิน >> >>> > ตรงสถานีสีลมรถไฟฟ้า กับรถใต้ดินมันจะเชื่อมกัน ประมาณ 3 >> >>> > ทุ่มกว่าบันไดเลื่อนขาลงก็ปิดไปแล้ว ก็เลย >> >>> > ต้องเดินลงบันไดธรรมดา ระหว่างเดินลงเกือบถึงพื้นแล้ว >> >>> ก็สวนกับผู้ชายคนนึง >> >>> > >> >>> > ตัวดำๆ ใหญ่ๆ ท่าทาง >> >>> > เป็นคนต่างจังหวัด แต่งตัวโทรมๆ หน่อย ที่ขาของเค้าเลือดโชกเลย >> >>> > (เค้าใส่แค่รองเท้าแตะคีบ เพราะ >> >>> > ฉะนั้นเห็นเลือดเต็มๆ) เค้าเดินกะโผลกกะเผลกเดินขึ้นบันไดมา >> >>> > ก็มีผู้ชายคนนึงแต่งตัวดี ชี้บอกเค้าว่าให้ >> >>> > เดินขึ้นลิฟท์สิ แล้วก็เดินจากไปไม่ใส่ใจเค้า มีอีกหลายๆ >> >>>> คนที่เดินตามขึ้นมา >> >>> > บางคนเดินสวนลงไป ที่ได้ >> >>> > แต่มอง แต่ก็เดินจากไปไม่มีใครสนใจ แต่ชั้นเนี่ย >>>> >> เผอิญว่ามีคุณสมบัติสนใจเรื่องของชาวบ้านสูงมาก >> >>> > หลังจากรีๆ รอๆ ยืนมองซักพัก ชั้นก็แถเข้าไปบอกเค้าว่า "พี่ > >> >>> ขึ้นลิฟท์สิคะ" >> >>> > เค้า >> >>> > (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกเขาว่า พี่เลือดโชกก็แล้วกัน) >> >>> > ก็บอก "ไม่เป็นไรครับๆ" >> >>> > >>>> >> ระหว่างนั้นก็เหลือแค่ชั้นกับฝรั่งคู่นึง >> >> (เป็นแฟนกัน อายุประมาณ 20 ปลายๆ) >> >>> > ยืนดูเหตุการณ์อยู่ >> >>> แล้วชั้นก็คะยั้นคะยอพี่เลือดโชกให้ขึ้นลิฟท์ต่อไป >> >>> > แต่เค้าก็เจียมเนื้อเจียมตนมากเลย >> >>> > บอกแต่ว่าไม่เป็นไรครับ ผมไม่กล้าไปขึ้นของเค้าหรอก โหย >> >>> > แล้วบันไดตรงนั้นนะสูงชันคอตั้งบ่าเลย ชั้น >> >>> > ได้แต่นึกในใจว่า แล้วเมื่อไหร่พี่เค้าจะปีนขึ้นไปถึงวะ... >> >>> > >> >>> > หลังจากรีรอซักพัก พี่เลือดโชกก็ถามชั้นว่า หมอชิดไปทางไหน >>>> >> ชั้นก็โหไม่รู้หรอกว่าทิศไหนเป็นทิศไหน ก็ >> >>> > บอกเค้าไปว่า เนี่ยพี่ขึ้นลิฟท์ไปนะ >> >>> > แล้วก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปสุดปลายทางเลยก็ถึงหมอชิดแล้ว >> >>> พี่เค้าก็บอกว่า >> >>> > ไม่เป็นไร กะว่าจะเดินไป ชั้นก็ เฮ้ย จะบ้าเหรอ >> >>> > เดินไปเมื่อไหร่มันจะถึงล่ะเนี่ย แถมขาก็เดี้ยงเลือดโชกขนาดนี้ >> >>> > คุยกันซักพักเค้าก็บอกเค้าไม่มีเงินขึ้นรถไฟฟ้าหรอก >> >>> > >> >>> ชั้นก็ > อ๋อ >> >>> > มุขนี้นี่เอง แต่เอาวะ ด้วย >> >>> > ความสงสารถ้าจะโดนหลอกก็ให้แม่งไปเหอะ ก็เลยควักมาให้เค้า 40 บาท >> >>> > บอกให้เอาไปขึ้นรถไฟฟ้าไป >> >>> > หมอชิต แต่ขอโทษ ผิดคาดครับผิดคาด พี่เลือดโชก ไม่เอาตังค์ >> >>> > ยืนกรานว่าไม่ได้ขอตังค์ แค่อยากรู้ว่า >> >>> > ควรจะไปทางไหน แล้วเดี๋ยวจะเดินไปเอง >> >>> เพื่อจะไปขอโบกรถกลับบ้านเอาแถวๆ >> >>> > นั้นเอง ระหว่างนั้น >> >>> > ฝรั่งคู่รักก็ยังไม่ไปไหนนะ คอยถามชั้นว่า อะไรเหรอ >> >>> เค้าว่าอะไรเหรอ >> >>> > เค้าไม่เอาเงินเหรอ ชั้นก็เลย >> >>> > ทุลักทุเลมาก ไหนจะต้องคอยสอดรู้เรื่องพี่เลือดโชก >> >>> > ไหนจะต้องใช้สมองน้อยนิดกลั่นกรองแปลเป็นภาษา >> >>> > ฝรั่งให้คู่นี่ฟังอีก >> >>> > >> >>> > จนถึงตอนนี้พี่เลือดโชกก็ยังไม่ยอมรับเงินจากชั้นนะ >> >>> > แต่เค้าเล่าเรื่องสนองนี้ดความอยากรู้อยากเห็นของ >> >>> > ชั้นว่า เค้าโดนเหล็กทิ่มขา แล้วก็โดนไล่ลงจากรถ >> >>> อะไรประมาณนี้แหละ >> >>> > แล้วก็พยายามหาทางกลับบ้าน >> >>> > อยู่ ฟังแล้วชั้นน้ำตาซึมเลย คิดดูสิ ถ้าเป็นเราล่ะ >> >>> > ถ้าเราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีตังค์ บาดเจ็บ >>แถม >> >>> > ไม่มีหมาตัวไหนมาสนใจเลย บ้านก็อยากกลับ ทำไง ทำไงดี >> >>> > แล้วเค้าก็บอกว่า ไม่เอาตังค์หรอก >> >>> > แต่ช่วยพาข้ามถนนไปหน่อยได้ไหม >> >>> > ชั้นก็เลยหันไปขอความช่วยเหลือ >> >>> > จากพี่ฝรั่งเค้า พี่ฝรั่งก็แสนดี รีบ OK > >> >>>บอกให้พี่เลือดโชกมาเกาะบ่าเค้าเลย >> >>> > เค้าจะช่วยพยุงข้ามไป พี่ >> >>> > เลือดโชกก็ตามเคย เกรงใจ ไม่เป็นไรครับ >>>> >> ระหว่างกะโผลกกะเผลกกันไป >> >>> > ชั้นก็สัมภาษณ์ต่อว่า พี่ บ้าน >> >>> > >> >>> > พี่อยู่ไหนเนี่ย / อยู่สุรินทร์ครับ / แล้วค่ารถเท่าไหร่ / 345 บาทครับ >> >>> > พอข้ามฟากไปเสร็จ >> >>>ชั้นก็ตัดใจควักกระเป๋าตังค์ออกมายื่นให้พี่เลือดโชกไป 300 >> >>> > บาท 300 บาทสำหรับ >> >>> > คนงกๆ อย่างชั้นเนี่ยมันเยอะนะ (ขอโทษเหอะ ก่อนหน้านั้นน่ะ >> >>> จะกินเค้กก้อนละ >> >>> > 80 บาทยังเสียดายตัง ค์เลย แต่ก็เป็นครั้ง >> >>> แรกที่ชั้นบีบบังคับใครให้เอาเงินของชั้นไปใช้ทีเถอะ >> >>> > แต่พี่เค้าก็ไม่ยอมรับนะ ยืนยัน >> >>> > ว่าจะเดินไปโบกรถไปจนกว่าจะถึงบ้าน โอ้มายก้อด >> >>> เมื่อไหร่จะถึงบ้านล่ะเนี่ย >> >>> > จะตายก่อนไหมเนี่ย แล้ว >> >>> > สภาพแบบนี้ใครจะอยากรับขึ้นรถ >> >>> > >> >>> > ในที่สุดชั้นก็ทำสำเร็จ บีบบังคับให้เค้ารับเงินจากชั้นไป 300 >> >>> > ก่อนจะเดินจากมาชั้นยังรู้สึกผิดอยู่เลยที่ให้ >> >>> > เค้าอีก 45 บาทไม่ได้ เพราะชั้นเหลือแต่แบงค์ 1000 แล้ว > >> >>> ถ้าให้ก็หมดตัวแล้ว >> >>> > รู้สึกผิดจังที่ไม่สามารถ >> >>> > ให้เงินครบแบบที่เค้าจะกลับบ้านได้สบายๆ แต่ก็ได้แต่หวังว่า >> >>> > มันอาจจะให้เค้าไปหาหมอได้ กินข้าว หรือ >> >>> > อะไรก็ได้ ไอ้จะขอฝรั่งอีก 45 บาท ก็ไม่กล้าซะอีก >> >>> ก็เลยแยกจากกันไป >> >>> > พร้อมกับขอให้โชคดีนะพี่ >> >>> > พอข้ามถนนกลับมา แยกกับฝรั่งคู่รักแล้ว ชั้นก็มุดลงรถใต้ดิน >> >>> > >> >>> > แล้วก็โทรหาไอ้เพื่อนตัวที่แยกกันเมื่อกี้ เพื่อ >> >>> > เล่าเรื่องสะเทือนใจให้มันฟัง เล่าไปได้แค่ 2 ประโยค >> >>> > เรื่องรูปร่างหน้าตาลักษณะของพี่เลือดโชก มันก็ >> >>> > สอดขึ้นมาว่า >> >>> > "ขาเจ็บใช่มะ เลือดไหลด้วยใช่ปะ >> >>>ไม่มีเงินกลับบ้านต่างจังหวัดใช้มั้ย >> >>> > ไม่ยอมรับเงินแกด้วยล่ะสิ แกต้อง >> >>> > คะยั้นคะยอให้เค้ารับเงินแกใช่มั้ย" โอ้โฮ >>>> >>>เพื่อนเราตาทิพย์มากๆ >> >>> > ระหว่างอึ้งในความสามารถของเพื่อน >> >>> > พร้อมกับตระหนักว่า >>>> >>>"กูโดนหลอก" >> >>> > อยู่ เพื่อนมันก็ใส่ต่อว่า ชั้นเจอพี่คนนี้มาแล้ว 2 ครั้ง >> >>> > คาดว่าแผนการตลาดของพี่เค้าเนี่ย จะใช้ >> >>> > โลเคชั่นแถวรถไฟฟ้า >>>> >>>ที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายพอจะมีกำลังซื้อหน่อย >> >>> > >> >>> > กลยุทธ์ก็จะขายภาพพจน์ความเป็นคนดี >> >>> > สำนึกรักบ้านเกิด แต่ไม่มีทุนทรัพย์ในการกลับไปรักบ้านได้ >> >>> > แต่ก็หยิ่งมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมรับเงินของใครง่ายๆ >> >>> > เรียกว่า เล็กๆ ไม่(รับ) ใหญ่ๆ เอา (เอามาเลยอีโง่) >> >>> > เพื่อนชั้นเคยเจอที่สถานีอ่อนนุช ครั้งนึง >> >>> > อีกครั้งเจอที่สถานีอะไรจำไม่ได้ ซักประมาณเป็นปีมาแล้ว >> >>> > ถึงตอนนี้ชั้นเริ่มหายอึ้ง แล้วก็พรั่งพรูความแค้นออกมา >> >>> > ให้พรพี่เลือดโชกไปหนึ่งล็อตใหญ่ แล้วก็ค่อยๆ สงบ >> >>> > สติอารมณ์ แล้วก็คิดว่า เอาเถอะ ให้เค้าไปแล้ว >> >>> > ตอนที่ให้ไปชั้นให้ไปด้วยความตั้งใจดีๆ >> >>> > >>>> >>>จริงๆ อย่างที่ >> >>> > บอกว่าถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ ถ้าเป็นเราล่ะ >> >>> > เราคงอยากให้ใครมีน้ำใจกับเราใช่มั๊ย สิ่งที่ชั้นทำลงไปไม่ใช่ >> >>> > เรื่องผิดเลย อาจมีคนมองว่าโง่ ก็คงใช่ แต่ไม่ใช่เรื่องผิดเลย >> >>> > ถ้าชั้นไม่ให้สิ จนถึงวันนี้ชั้นคงยังรู้สึกผิด >> >>> > อยู่ เงิน 300 บาทแลกกับความรู้สึกผิดที่จะฝังใจอีกนาน >> >>> มันคุ้มแสนคุ้ม >> >>> > ถูกแสนถูกสำหรับชั้น แล้วบาป >>>> >> กรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นมันตกอยู่กับพี่เลือดโชกคนเดียวเท่านั้น > >> >>> ไม่ว่าเงิน 300 บาทนั่นจะกลายไปเป็นค่า >> >>> > เหล้า ค่าเล่นไพ่ หรืออาจเป็นค่ากับข้าวให้ลูกๆ ของเค้า >> >>> > หรืออาจจะเป็นค่ายาของแม่ที่เจ็บป่วยอยู๋ ไม่ >> >>> > เป็นไรเลย ไม่ว่าเค้าจะเอาไปใช้ด้วยวัตถุประสงค์ไหนก็ตาม >> >>> > มันก็ยังตกเป็นผลกรรมของเค้าอยู่ดี >> >>> > ชั้นทำ สิ่งที่คิดว่าดีที่สุด ถูกต้องที่สุดแล้วล่ะ >> >>> > คิดว่าอาจมีหลายคนที่ตกเป็นลูกค้าของพี่เลือดโชกแล้ว >> >>> > หรืออาจจะกำลังจะเป็นก็ได้ ถ้าเพื่อนๆ ไม่เหลือ >> >>> > บ่ากว่าแรงก็ลอง forward เมล์นี้ต่อๆ ไปหน่อย >> >>> > >> >>> > เผื่อว่าใครได้เจอพี่เลือดโชกตามสถานีรถไฟฟ้าไหนๆ >> >>> > ก็อาจจะได้รู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดของพี่เค้าบ้าง >> >>> แล้วถ้าใครเจออีก >> >>> > ก็ฝากบอกเค้าด้วยว่า ชั้นเป็นห่วง >> >>> > ยังไม่ถึงบ้านอีกเรอะ นี่มันก็นานพอดูแล้วนะ > >> >>> คงเดินหลงทางไม่ถึงหมอชิดซักที >> >>> > เลือดก็คงยังไม่หยุดไหลสิ >> >>> > ท่า โถคงเจ็บน่าดู >> >>> > แต่ก็เอาเถอะ ขอให้ขากุดจริงๆ พี่เลือดโชก >> >>> > >> >>> >แต่ที่ไม่ชอบก็คือ..การอาศัยความรู้สึกดีๆของคนอื่นหากิน.. หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: FUFUFUFU ที่ สิงหาคม 31, 2006, 05:36:23 PM แถวบ้านผม ก็มีครับเหตุการณ์แบบนี้ คือทำทีขาเป๋ใส่เฝือกเดินกระเผกๆ มาขอตังผมก็ให้ ขอไครๆเค้าก็ให้กัน
เค้าบอกว่ามาจากต่างจังหวัดมาหางานทำ แต่โดนรถยนต์ชนแล้วหนี งานก็ไม่มีทำเงินก็ไม่มีแถมยังบาดเจ็บอีกด้วย ช่างน่าสงสารจริงๆ ปรกติผมให้เต็มที่20 แต่รายนี้ให้ 50 เลย แต่พอตกดึกผมออกมาเที่ยว เจอมันถอดเฝือกที่ขาออกแล้วยืนเต้นข้างๆรถบั๊ม ( ในงานประจำจังหวัด ) แล้วกระดกเบียรช้างกัน มันมากันเป็นแกงค์เลย เต้นไปหลีหญิงไป น่าโดนตบจริงๆไอ้พวกนี้ หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ สิงหาคม 31, 2006, 05:54:39 PM ....น่าจะเอาให้โชกจริง ๆ ...
หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ สิงหาคม 31, 2006, 06:21:23 PM ด้วยความเคารพครับ.....
สมัยที่เศรษฐกิจรุ่งๆ ดูได้จากขอทานเด็กขายดอกไม้เพียบเลย........ ??? ผมเจอนั้งรถเครื่องรับจ้างมา เสร็จแล้วเอาเฝือกที่ซ่อนอยู่มาใส่แล้วนั่งลากขาไปเรื่อยๆ... >:( ขอบคุณครับ............... หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ สิงหาคม 31, 2006, 06:35:38 PM ผมอยู่ ตจว. มีแต่ขอตังค์เลย ไม่มีเลือดโชก
หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: kruwit ที่ สิงหาคม 31, 2006, 09:03:55 PM นึกว่าจะเจอมุก ไปหา หมอชิต รักษาหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: น้องแก้ว ที่ สิงหาคม 31, 2006, 09:29:19 PM เด๋วก้อเอาให้โชกจริงๆหรอก คนแบบนี้
หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 31, 2006, 10:34:32 PM อ่านแล้วคิดนะคับ อย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่าง...
ผมเคยเจอคนที่ป่วยจริงๆ... และไม่ยอมนอนรพ.เพราะต้องการกลับบ้าน... ตรวจแล้วป่วยจริง แต่คะยั้นคะยอเท่าไหร่ไม่ยอมนอนรพ. ... สุดท้ายผมก็ให้เงินไป และแนะนำให้รีบกลับบ้านและไปรักษาโดยเร็ว... ไม่อยากให้น้ำใจของคนไทยที่มีให้กันลดลงคับ... หัวข้อ: Re: เก็บมาเล่า......"พี่เลือดโชก" เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ กันยายน 01, 2006, 12:05:21 AM อ่านแล้วโดนเลยครับ >:( เมื่อวานแวะไปทำธุระที่ปั้มเอสโซ่แถวเหม่งจ๋าย อยู่ๆก็มีพี่คนหนึ่งเอาน้ำผึ้งมาขาย ทำหน้าตาน่าสงสาร :~) พูดบรรยายถึงความจนและลำบากของตัวเอง ไอ้เราก็คิดว่าลังเลว่าจะโดนหลอก ว่าจะให้ตังค์เฉยๆซักสิบยี่สิบ ก็กลัวเขาจะคิดว่าเราดูถูกเขา สุดท้าย!!!เอาวะช่วยซื้อไปขวด 200 ไปๆมาๆจะให้เอาอีกขวดโดยเพิ่มอีก100 ตอนนั้นก็คิด เอ...ทำไมราคามันลงเร็วจัง ไม่เอาดีกว่าขวดเดียวก็กินเป็นปีๆแล้ว
วันเดียวกันนั้นที่ทำงาน เพื่อนเห็นผมถือขวดน้ำผึ้งเดินเข้ามา ยังไม่ทันเล่าอะไรเลย พี่แกพูดดักคอผมหมดเลย ยังกับตาเห็นเลย สรุปว่า ผสมน้ำตาล :<< :<< :<< :~) :~) :~) อีกเรื่อง เคยเจอคนแต่งชุดคล้ายๆนักศึกษามายกมือขอเงินแถวป้ารถเมล์แถวๆรัชดาตอนสายๆ พอตอนเย็นผมไปธุระแถวบางจาก ผมนั่งอยู่บนรถเมล์มองลงไป ก็เจอเขากำลังยกมือไหว้ผู้หญิงของเงินอีกแล้ว โอ้...โลกเรามันกลมจังครับ |