เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากทราบความเห็น  พี่น้องชาวไทยครับ  :D~

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=180181:-cpall-154&catid=104:-financial-&Itemid=443

ความเห็นยังไงครับ  หมายถึงว่า จะทำไงดี ยังงั้นหรือเปล่า





ก็ไม่ต้องทำอะไรครับ  มีกินมีใช้ก็กินใช้ต่อไป  ไม่มีก็ออกไปขวนขวายหามา  เขาจะซื้อจะขายมันก็เรื่องของเขา





ผมตอบเพราะว่าผมคือพี่น้องชาวไทยคนหนึ่ง.....

ไม่มีความเห็นครับเรื่องของคนรวยเขาเล่นกัน ส่วนคนจนๆอย่างผมเก็บตังค์ได้ค่าตัวรูเกอร์GP101แล้ว บ่ายๆจะไปยืนขอ ป.3ที่อำเภอซะหน่อย เพิ่งจะได้หนังสือรับรองจาก ผบ เมื่อเช้า คริคริ  ;D

ผมดีใจที่บ.สัญชาติไทยได้ซื้อมันเข้ามาครับ

ส่วนเรื่องผลกระทบกับ"ชาวบ้าน"(รวมผมด้วย)รับรองว่ามีแน่นอน

ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อาหารต่อไปจะน้อยลง ราคาสินค้าเกษตรยี่ห้อCPและบ.ในเครือที่ขายในแมคโครต่อไปจะราคาสูงขึ้นแน่นอน


ในระดับครัวเรือนอาจไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ระดับผู้ประกอบการรายย่อยรับรองว่าร้อง"แหวะ ยี้ แล้วตามด้วยร้องโอ้กกกกก"

ยกตัวอย่างงายๆคือเนื้อสัตว์แปรรูป ร้านอาหารที่เน้นคุณภาพหน่อยเค้าจะหนียี่ห้อCP,Tesco(แม่มผูกขาดและกีดกันการตลาดมา2ปีแล้ว)ในโลตัสไปซื้อยี่ห้อBMP,TGMที่แมคโคร.....ราคาถูกกว่า คุณภาพและรสชาติเหนือกว่าลิบๆ

ขนาดในโลตัส CPมันยังแร่ไปกีดกันการตลาดใส่ยี่ห้ออื่นจนคนเลือกกิน/เลือกใช้เค้าเลิกเข้าไปหา ต่อไปพอCPเป็นเจ้าของแมคโครเอง แล้วมันจะเหลือยี่ห้ออื่นๆไว้เป็นหนามข้างเอวหรือครับ?

..เจ้าสัวบอกว่า เหมือนได้แท่นพิมพ์ธนบัตร... :D~

..Bic C กับ Lotus ที่ฟัดกันนัวเนีย ก็จะได้คู่แข่งเพิ่มอีกราย.. ::012::

..โชว์ห่วย..คงหมดโอกาส โชว์สวย... ::004::

..ประชาชน น่าจะได้ประโยชน์จาก ยักษ์ 3 ตัวฟัดกัน.. :~)

อีกไม่นานอำเภอบ้านนอกของผมทั้ง โลตัสเอ็กเพรส และ ๗-๑๑  จะมาเปิดประชันกัน หันหน้าเข้าหากันเลย...แต่เยื้องๆกันนิดๆ...อุบร๊ะ...โชว์ห่วยบ้านผมจะเป็นยังไงหน๊อ...คือถ้าพูดนะพวกผมอาจจะซื้อของในราคาที่ถูกลง(อาจจะนะครับ...ในสินค้าบางประเภท)...แต่วัฒนธรรมของร้านโชว์ห่วยจะหายไป...ซื้อร้านโชว์ห่วยได้พูดจ้าหยอกล้อหยอกเหย้ากันเล่น นั่งจิบยาดอง นั่งดูทีวีในร้านค้า นั่งดูมวยตู้ในร้านค้า ถามว่า โลตัส กะ ๗-๑๑ มีหรือไม่แบบนี้ มีแต่พนักงานหน้าบูดๆมานั่งคิดเงิน แถมยืนยกมือไหว้ยังไหว้หมูไหว้หมา...

CP เป็นผู้ผลิต เป็นผู้รับซื้อ เป็นผู้ค้าส่ง เป็นผู้ค้าปลีก
แค่สยายปีกครอบคลุมสร้างส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นกว่าเดิม

แถวๆอาเซียน หลายประเทศมี บ.ที่มีลักษณะใกล้เคียงและมีการเติบโตแบบซีพีนะ
อินโดฯ-ฟิลิปปินส์ก็มี ที่สำคัญ มักมีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันด้วย

ความเห็นนายสมชายอยากแช่งเจ้าสัวครับ เพราะตัดสินใจโดยไม่ถามผู้ถือหุ้นก่อน ที่จริงถ้าถามก่อนก็กลัวข่าวรั่วจะเสียเปรียบทางธุรกิจ ก็น่าจะแขวน SP ในหุ้น CPALL เสียก่อนแล้วค่อยประกาศข่าว... แต่นี่ประกาศข่าวตูมขึ้นมาโดยไม่แขวนป้ายห้ามการซื้อขาย(SP) ปรากฎว่านายสมชายชาดทุนหุ้นชั่วแค่ข้ามคืนหน้ามืดไปเลย รู้สึกเหมือนขับรถ Jas รุ่น Top ราคาป้ายแดงตกเหวไปหนึ่งคัน พังยับราคาซากเป็นศูนย์บาท...

ราคา CPALL หล่นฮวบไปหลายเปอร์เซ็นต์ก่อนแขวนป้าย SP ทั้งที่ควรจะแขวนก่อนหน้านี้หนึ่งวัน แล้วเมื่อเปิดซื้อขายมาเมื่อวานนี้ ก็ราคาหล่นลงไปอีกกว่า 10 เปอร์เซ็นต์... ตกลงนายสมชายต้องทุ่มตังค์มหาศาล(แยะแล้ว - สำหรับนายสมชาย)เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มในราคาถัวเฉลี่ยให้ได้ราคา 40 บาท แล้วก็นั่งหัวใจจะวายรอให้ขายให้ได้ตามราคาเป้า(ขายได้สำเร็จเมื่อวานนี้ - โล่งไป)...

เวลาผ่านไปแล้วมานั่งนึกดูพฤติกรรมตัวเองเมื่อวานนี้ วู่วามสิ้นดี, เงินที่ทุ่มไปมันแยะมาก น่าจะปล่อยให้ขาดทุนทิ้งไปจะดีกว่า เพราะไม่คุ้มค่าความเสี่ยงเลย... แล้วก็อยากแช่งเจ้าสัวครับ, เพราะตั้งใจทุบหุ้นให้ราคาลง(เขากลัวเพิ่มทุน) จากนั้นช้อนกลับมาใหม่เพื่อขายหุ้นเอาเงินไปซื้อ Makro ที่มูลค่าร่วมเกือบ 2 แสนล้านบาท ที่ในที่สุดประกาศในภายหลังว่าไม่เพิ่มทุน เพราะกู้ SCB ...

หุ้นเจ้าสัวนี่เป็นหุ้นที่กินเงินได้ยากส์ที่สุด... เพราะเจ้าของ IQ สูงกว่าคนเล่นหุ้น...

ขอเดาว่า เจ้าสัว อยากจะมี Distribution Centre เป็นของซีพีเองตามหัวเมืองใหญ่ไว้เติมเต็มระบบ logistic chain
และเชื่อมต่อในภูมิภาค สำหรับเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการในเครือ เพื่อรุกแข่งกับเจ้าอื่นๆ
แต่การตัตสินใจซื้อแบบนี้ ก็ตามคุณสมชาย(ฮา)กล่าวครับ แพงและไม่คุ้มค่า อาจจะเป็นต้นทุนพอกกันไป
อย่างที่ว่า เจ้าสัวคงไม่อยากเสียหน้า ก็ให้บริษัทในเครือแบกๆกันไป สุดท้ายเหนื่อยที่คนทำงานและตกอยู่
ที่ผู้บริโภคครับ

3ยักษ์ฟัดกัน คนไทยได้ประโยชน์ แต่ถ้า3 ยักษ์"ฮั้ว"กัน....

ซะเห็นภาพ      :D~ :D~ :D~

ผมคนหนึ่งครับ ไม่ชอบการไหว้แบบหุ่นยนต์ของพวกคุณเธอเหล่านี้เลย   ::006::

ผมอยากให้ท่านเห็นการต้อนรับของพนักงานเปิด ปิดประตู(ชาย) ของเดอะมอลล์โคราช ชั้นสอง ประตูที่ตรงกับสะพานลอยถนนมิตรภาพ ยิ้มธรรมชาติ ไหว้ธรรมชาติ  สวัสดีครับ เชิญครับ ขอบคุณครับ    ::002:: ::002:: ::002::

แกคงประเมินแล้วว่าเงินบาทจะแข็งสูงสุดได้เพียงเท่านี้ ก่อนที่รัฐจะลอยตัวค่าเงินบาทเพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจในเครือข่ายได้ฉวยวิกฤติ แล้วเอามานั่งคุยกันในวงเหล้าว่าเป็น "คลื่นลูกที่สี่.." ::007::

นี่คือเสน่ห์ของโชว์ห่วยครับ
ผมเป็นลูกค้าโชว์ห่วยอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็น กรองทิพย์ 20 บาทยืมไฟจุดด้วย เหล้าขาวครึ่งกั๊ก ....หรือลีโอสองขวดน้ำแข็งถุง ลงบัญชี...สิ่งเหล่านี้ ไม่มีใน 7-11 ครับ

..คงยากครับ เพราะแย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน..
..แต่อาจจะได้เห็น makro โฉมใหม่ที่มีถุงใส่ของให้ และรับบัตรเครดิตมากขึ้น..
..เผลอ ๆ อาจจะเห็น makro express ประกบ lotus express  Bic C Extra..ก็ได้..

กรณีที่พี่นายว่ามา ผมคนนึงครับที่ชื่นชมและจะรับไหว้ทุกครั้งพร้อมพูดด้วยว่า "ครับสวัสดีครับ" แต่ผมเห็นบางคนชอบทำท่าไม่สนใจและไม่แยแสพนักงานเหล่านี้เลยเวลาเดินผ่านทั้งๆที่นี่คือวัฒนธรรมของเรา หรือบางทีมือถือสิ่งของหรือจูงมือลูกผมจะใช้วิธีก้มหัวให้เล็กน้อยเพื่อแสดงการรับความเคารพครับผม

นายสมชายหมายถึงหุ้นใน Port ของนายสมชายเองครับ และโกรธเจ้าสัวที่ไม่ได้แขวนป้าย SP เสียก่อน ทำให้ราคาหุ้น CPALL หล่นฮวบ เพราะคนถือหุ้นกลัวเพิ่มทุน แล้วกำไรต่อหุ้นจะโดนเพิ่มตัวหารครับ... แต่ในที่สุดเฉลยแล้วว่าไม่ได้เพิ่มทุน ก็โดนขายถล่มราคาเสียอีก แปลว่าเสียรู้โดนทุบหุ้นครับ...

สำหรับเจ้าสัวเอง ดีลนี้คือดีลทองคำ เพราะใน Makro มี"ระบบที่สมบูรณ์"(ประกอบด้วย People Procedure Hardware Software และ Data) ทำให้ไม่ต้องลองผิดลองถูกฝ่าผ่านกำแพง Learning Curve ให้ตกหลุมตกท่อแข้งขาถลอกจนกว่าจะเดินได้มั่นคงครับ... นอกจากนี้ Makro ยังมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะเงินสดในมือปริมาณมหาศาลเป็นหมื่นล้านบาท ตรงนี้หาก CPALL ไม่ไปซื้อ คาดว่าจะมีรายอื่นไปซื้อกิจการ หรือไม่ก็ Makro ก็ต้องรีบลงทุนขยายกิจการออกไป(เหมือนมีเงินแยะจะเรียกความเสี่ยง)...

ซื้อมาใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลา ;D ;D ;D เวลาเป็นเงินเป็นทอง

เจ้าสัวแกคงรีบเลยไม่ได้แขวนป้าย SP ก่อนครับ  แต่บ่ายนี้ค่อยๆดีดกลับมากันแล้วครับ  จะรับขนมจีบหรือไส้กรอกเพิ่มมัยครับ ;D 

ผมยังคิดว่าที่เจ้าสัวอุตสาห์ยอมควักและกู้เงินมาซื้อในราคา1.8แสนล้านนี้ ไม่น่าจะคุ้มหรือได้ทุนคืนในระยะสั้น
แต่อาจจะได้เครือข่ายหรือมองโอกาสที่มากกว่าตีเป็นตัวมูลค่าเงินครับ

นายสมชายว่าดีลทองครับ...

ลองนึกถึงโลตัส แข่งกับบิ๊กซี แข่งกับแมคโคร แล้วแข่งกับคาร์ฟู จนกระทั่งคาร์ฟูโดนซื้อกิจการไป กว่าจะจับทางจับจุดอ่อนจุดแข็งกันได้จนล้มหายตายจากกันไปนี่ตั้งสิบปีเห็นจะได้ครับ, ทีนี้หากเจ้าสัวจะขยายกิจการรูปแบบเดียวกันนี้เพื่อลุยตลาด AEC กว่าจะเริ่มต้นลุยได้คงโดนเตะตัดขาอ่วมเชียวครับ... ดังนั้นซื้อ Makro ก็จะได้"ระบบ" โดยเฉพาะทีมบุคลากรหลายระดับที่"รู้งาน"ครับ ม่ายงั้นจะเจอหน้าใหม่ไฟแรง แต่เผลอเมื่อไหร่ทำไฟไหม้ห้าง... แฮ่ๆ...

นี่ยังไม่นับเงินสดอีกหมื่นกว่าล้าน, หากดูใน Settrade จะพบส่วนของผู้ถือหุ้น ที่ไม่ได้แบ่งออกมาเป็นปันผลอีกหมื่นกว่าล้านครับ, ตรงนี้เอามาขยายสาขารุกใส่เขมร ลาว เวียตนามได้ทันที... ส่วนเงินกู้ SCB นั่นก็ทุบหุ้นแล้วลากขึ้นลงสักสิบที ก็ได้คืนกว่าครึ่งแล้วครับ, เมื่อวานนี้ Vol ทั้งวันของ CPALL ก็ร่วมหมื่นล้านบาทแล้ว...

ช่องกระจายสินค้าตัวเอง  ;D ;D ;D แย่งซื้อกันคุณเจริญ

เตะตัดขา... ฮา...

เนื่องจากไม่ได้เล่นหุ้น และยังไม่มีปัญญาเล่นแบบป๋าสมชาย แต่คิดว่าตัวเองต้องได้รับผลกระทบแน่ๆ เพราะวัตถุดิบส่วนหนึ่งผมซื้อจากแมคโครครับ และตามที่พี่ๆว่ามานั่นละ สินค้าพะยี้ห้อCP ผมจะหลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพราะมันหมายถึงต้นทุนเพิ่มขึ้น และของแบบเดียวกันคุณภาพด้อยกว่าของMacroด้วย

  ที่นี้ตัวเลือกมันไม่มี ร้ายค้าส่งรายย่อยก็จะโดนบีบ ผลกระทบตามมาคือพ่อค้าแบบผมครับ นี่ยังไม่นับ ต้นทุนแก๊ช 6บาท/กิโล ที่จะมาเร็วๆนี้

ใช่ครับหากจะลุยตลาด AEC ต้องมี DC เองไม่ต้องไปพึ่งคนอื่น หรือคู่แข่ง  เลยต้องกัดฟันซื้อ Makro
แพงหน่อย แต่กันคนอื่น

ผมว่าเจ้าสัว น่าจะจ้าง ล่งจู้สมชาย ไปช่วยบริหาร โดยเฉพาะบริหารเงินในตลาดหุ้นนะครับ
ผมจะตามไปเสริฟน้ำชาให้ 555

จะเอาโชว์ห่วยกันให้ตายไปสักข้างหนึ่งเลยไม๊เจ้าสัว
มีแมคโคร โชว์ห่วย ยังพอลืมตาอ้าปากได้บ้าง นี่เจ้าสัวเล่นทั้ง ขายส่ง ขายปลีก
จนกันทั้งประเทศ รวยไม่แบ่ง มีความสุขนักหรือเจ้าสัว
ปลาจะหมดอ่าวไทยก็เพราะโงงานอาหารสัตว์เจ้าสัว
เล่นกินรวบคนเดียวไม่แบ่งเลย
สัตว์เลี้ยง ก็ทำเสียเป็นสัตว์เชิงเดียวหมด ขยายพันธ์ไม่ได้ ต้องซื้อใหม่ตลอด ไก่เอย ปลาเอย กินครบวงจร ทั้งอาหาร ทั้งพันธ์สัตว์
แบ่งให้พอมีพอกินกันทั้งประเทศ ดีกว่าอิ่มหมีพีมันอยู่คนเดียวไม๊

ตามนั้นครับ... เรื่องทุบหุ้นโดยไม่แขวนป้าย ทั้งที่มีข่าวสำคัญเตรียมประกาศนั่นสุ้มเสี่ยงเป็นอาญาเรื่องข้อมูลวงในเชียวครับ(Insider trade)...

เส้นแบ่งมันอยู่ที่มีคนรู้ข่าวก่อนแล้วถือประโยชน์จากข่าวนั้นหรือไม่, แต่ในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายครับ... ก็เรื่องหม่อมอุ๋ยฯ นั่นไงครับ ลูกชายรวยหุ้นพรวดเดียว 800 กว่าล้านบาท แล้วปฏิเสธว่าพ่อไม่ได้บอกลูกทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน บังเอิญลูกชายซื้อขายได้ตรงจังหวะพอดิบพอดี๊, ตรงนั้นสังคมก็ได้แค่ตั้งข้อสงสัย แล้วก็เงียบไปครับ...

วันนี้ค่าเงินบาทอ่อนทันที  5555 อยากจะถุย.. ::013::

5555 ฮา "ปวดประจำเดือน" หรือ "แปด ตวด" อ่ะ ฮา5555

      **บาทอ่อนค่าลง              

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ เปิดตลาดที่ระดับ 28.97/99 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 28.89 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุด เงินบาทเริ่มปรับแข็งค่าอีกเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 28.90/92 บาท/ดอลลาร์              สาเหตุที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงไปใกล้แตะระดับ 29 บาท/ดอลลาร์

คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนเริ่มทยอยซื้อคืนดอลลาร์ สาเหตุจากความกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมาตรการในการเข้ามาช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาท             

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนรอดูอยู่ คือ จากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่ยังไม่สู้ดีนัก นักลงทุนจึงคาดว่าในการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) รอบหน้า อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก โดยกรอบการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ 28.85-29.00 บาท/ดอลลาร์

ระวัง "แปด ยาย ตวด" เถอะ..555555 ::007::

ธรรมชาติของระบบทุนนิยม ในประเทศที่มีคอรัปชั่นระดับต้นๆ

Ha haha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา
ยายนึกว่าพี่ "Digitua" เป็นโรค H7 N9 เสียอีกอ่ะ ฮา
เพราะอยู่ดีๆ นอนเฉยๆ ดันถุย ดันอ๊วก อ่ะ ฮา

เรื่องค่าเงิน  ยายอยากจะถุย อยากจะอ๊วกเหมือนกันอ่ะ ฮา
ไอ้ด๊อกเตอร์ "ธปท" มันไม่ฟังใครอ่ะ ฮา
จนกระทั่ง "เงินนอก" มันไหลมาท่วมตลาดเมืองไทย อ่ะ ฮา

จึงเป็นที่มาของนโยบาย "ห้าม" เอาเงินออก ก่อนเวลาที่กำหนดอ่ะฮา
จับมึงแช่แข็ง "ฟรีส" สามเดือน หกเดือน อ่ะ ฮา

พี่digitua เนี่ยะ ขนาดกระโดด "ข้ามรั้ว ข้ามคลองปทุมคงคา" ฮา
ผ่านมาโม๊ด แต่ทำมัยยัง "ถึก" ไม่เก็จ เหมือนยายอ่ะฮา

ก็ "แบ็งค์ชาติ" ฮั๊วกันกับ "ซีพี" ไงยาย... มองไม่ออกหรืออ่ะฮา
อย่าผ่านแถวเอกมัยนะ ฮา ::005::

ดูๆท่าประเทศไทยมีทรัพยากรเพียงพอในการเลี้ยงคนทั้งประเทศ
แต่ไม่พอสำหรับคนเห็นแก่ตัวคนเดียวคนนี้แหละ

ช่วยๆกันแช่งให้มันรวยซะให้เข็ด
ไม่เห็นมีใครออกมาโวยวายว่ามันกินรวบ กินแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งผลิต ค้าส่ง ค้าปลีก  :<<

รวยให้เบ็ดเสร็จไปเลยครับเงิน..อำนาจต่อรองอยู่ในมือท่านหมดแล้ว.... :DD

ไม่ค่อยเห็นทำบุญบริจาคอะไรนะครับพวกเศรษฐีเบอร์ต้นๆของไทย  โรงเรียน,มูลนิธิไรเงี่ย ไม่รู้จะไว้กินอีกกี่พันปี คงใช้ไม่หมดอีกร้อยชาติ  ::005::  มีแต่ทำเอาหน้าในรายการทีวี แจกผ้าห่มโลโก้เบียร์ เน้่นโฆษณาเสียมากกว่า ไอ้ทำบุญเป็นเรื่องราวๆแบบเช่นมูลนิธิไทยรัฐสร้างโรงเรียนร้อยกว่าแห่ง ไม่ยักกะมี ทั้งที่รวยกว่าไทยรัฐเยอะมาก

พวกเบอร์ต้นๆของเมริกา เค้าแบ่งให้ลูกๆ10-20% เค้าบอกลูกๆใช้ยังไงชาตินี้ ก็ไม่หมดหรอก ที่แบ่งให้   เอาส่วนใหญ่ไปทำการกุศลดีกว่านะ  ::002::

เทียบกะคุณ ตัน โออิชิ ดูซิครับเบิ้ม

ลูกค้าใช้สินค้าแก มีแจกรางวัล มีโปรโมชั่น อะไรบ้าง

สินค้าแกก็ไม่ยอมโฆษณาอะไรเลยนะ แต่ขายดิบขายดี พวก อาหารสัตว์ พันธ์พืช พันธ์สัตว์


แต่สินค้าแกดีนะครับมีรับประกันตลอดชีวิต









ประกันว่า เป็นหมันทุกตัว ::005:: ::007::

เป็นไปตามทฤษฎีสองสูง ดังที่ท่านเจ้าสัวเคยแนะนำไว้

ค่าแรงสูง

สินค้าเกษตร ราคาสูง

เมืองไทยเรานี้ อุดมสมบูรณ์หนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

นักการเมืองมีชินวัตร ศาสนาวัดวามีธรรมกาย ส่วนอนาคตปากท้อง ก็ฝากไว้กับซีพี

รวยไม่ผิดครับ อย่าไปอคติจนเขาผิดแค่เพราะรวย

บ.ซีพีบริจาคให้สารพัดองค์กร โครงการฯลฯในประเทศไทยปีละหลายพันล้านบาท

เฉพาะโครงการเพาะสร้างเยาวชน , บุคลากร , นักคิด ฯลฯรุ่นใหม่ให้ประเทศไทยออกมาแล้วหลายหมื่นคน แค่ที่เคยสนับสนุนเด็กไทยให้เล่นโกะ ก็ลงทุนให้เยาวชนไทยจังหวัดละหลายสิบล้านบาท ..... ทำต่อเนื่องมาแล้ว15ปี

เขาไม่ได้อยู่เก็บเกี่ยวเปล่าๆครับ



ขออภัยจริงๆที่ขัดใจเพื่อนหลายท่าน  ::014::

แค่เขาไม่ค่อยมากระหน่ำโฆษณาครับ แต่มักจะเป็นที่"คุ้นเคย"ในหมู่เยาวชนตามสถานศึกษารุ่นอายุ30ปีลงไป...จะมีปัญญาไปเข้าโครงการของเขาหรือเปล่าก็อีกเรื่อง แต่น่าจะเคยได้ยิน เพราะเป็นทุนเกรดAที่ใครๆก็อยากได้

คุณตันจ่ายให้ประเทศไทยหลักร้อยล้าน , โรงเรียนไทยรัฐวิทยามีประมาฯ100แห่ง ใช้ทุนมูลนิธิไม่ถึง200ล้าน

รวมหลายๆแห่งที่โฆษณาการ"ให้"ของตัวเองแล้ว ยังสู้ที่ซีพีคืนให้ประเทศไทยปีเดียวไม่ได้ครับ

บ.ซิเมนต์ไทยก็อีกแห่ง ปีละหลายร้อยล้านเหมือนกัน

ภูเขาลูกเดียว มองจากต่างมุม ก็เห็นกันหลายเหลี่ยม หลายแบบ...........

ซี-พี.....เขามุ่งมั่นเรื่องอาหารมานาน มีทั้งบวกทั้งลบ แล้วแต่จะเห็นตรงใหน

อยู่มานาน ตัวคนทำเอง เขาจะมองเห็นช่องทาง เห็นโอกาส ที่หลายคนไม่เห็น ยิ่งมีกำลังเยอะ ก็สามารถทำอะไรได้เยอะ ยิ่งในรูปแบบทุนนิยมด้วย ไปกันใหญ่..........

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่คนขาดไม่ได้ เขาเดินมาตามเป้าหมายของเขา.........หลายคน ก็ต่างมองกันไป.....

พูดยากเน๊อะ........แต่อย่าลืมว่า เขาผลิตอาหารหล่อเลี้ยงคนเยอะ น๊ะครับ...

แล้วคนเดี๋ยวนี้ จำนวนมาก ผลิตไม่เป็น.........ไม่มีคนผลิตให้กิน ตายน๊ะครับ

คนเดี๋ยวนี้จำนวนมาก อย่าว่าแต่ผลิต แค่ปรุง หรือแปรรูป ทำไม่เป็นน๊ะครับ เพราะอะไร ไม่รู้ ด้วยสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม มันเปลี่ยนไปเยอะ.......ด้วย

ด้วยต่างแสวงหา จนละเลย ลืมเลือนการผลิต เพื่อกิน อยู่ ทำงาน(ผลิต)

จนเดี๋ยวนี้ แสวงหา เพื่อกินอยู่ เพื่อมาแสวงหา..........

ขออภัยมั่วหน่อย ผมเองยังงง อิๆๆ

ผมมองเห็นว่า ซี-พี ให้เบ็ดเยอะเหมือนกันครับ.........แม้นว่าเบ็ดนั้น อาจจะต้องซื้อเหยื่อจากเขาด้วย...บ้าง เป็นธรรมดาของ"พ่อค้า" มูลนิธิเอง ยังต้องหารายได้เลย..........

ผมมีอยู่เรื่องเดียวที่ติดใจในการทำธุระกิจของแกนี่แหละครับ
คือ การเอาเปรียบกับพันธมิตรคู่ค้ามากเกินไปครับ เช่น

- เกษตรกร
- คนทำ7-11

 ผมไม่อิจฉาแกอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถเอาแรงอิจฉาต่อแกมาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมลุกขึ้นมาทำอะไรทั้งสิ้น
คือผมจะทำอะไร ผมก็มีแผนของผมแล้ว แต่ผมไม่ชอบ ที่แกเอาเปรียบ ประชาชนคนไทยที่แกทำธุระกิจด้วยมากเกินไป

 และจริงๆ ผมยังไม่จบคอมเพลนของผม งั้นมาต่อให้จบเลย

มีอยู่หน่วยงานหนึ่งที่เกี่ยวข้อง แต่ว่าอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถช่วยเหลือ เกษตรกร ให้แข็งแรงพอที่จะพึ่งพาหรือต่อกรกับธุระกิจที่เอาเปรียบเช่นนี้ได้
นั่นคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะต้องช่วยเหลือ เกษตรกร ด้านวิจัยพันธ์พืช พันธ์สัตว์ ให้ได้สายพันธ์ที่ดีขยายพันธ์ได้ จนเป็นที่พึ่งของ
 เกษตรกรได้ ไม่ใช่ซื้อแต่พันธ์พืช พันธ์สัตว์ ที่เป็นหมันมัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียวเช่นนี้

(ยกเว้นพันธ์ข้าว ที่คิดว่าทางการทำดีแล้ว)

 ใช่ครับทุกท่านมองเห็นภาพหลายๆด้าน ของบริษัทนี้ครับ ผมก็อยากฉายภาพอีกด้านของบริษัทนี้เช่นกัน
ไม่ใช่การขัดแย้งขัดคออะไรกันหรอกครับ เป็นการมาถกกันให้เกิดปัญญามากกว่าครับ

ผมเคยหมดตูดกับซีพีมาแล้วครับน้าดุลย์ หกล้มหัวทิ่ม เสียความมั่นใจจนเกือบเสียคนไปเลย

อายุยี่สิบต้นๆ ดรอปเรียนวิศวะ ขนเงินเก็บจากงานพิเศษล้านกว่าๆไปทำบ่อกุ้งที่กระบี่ ทำแลปเอง ดูแลเอง

วันลงที่ลงกุ้ง ไซส์40ตัวโลราคา320บาท...ลำบากลำบน เลี้ยงลากกันแบบกะจับขายคริสต์มาส ประมาณราคากันไว้ว่าน่าจะได้ราวโลละ360บาทขึ้น

ก่อนปลายปีนิดหน่อยอินเดียทดลองนิวเคลียร์ มติทั่วโลกให้แบนสินค้าจากอินเดีย ซีพีใช้ช่องว่างของข้อห้ามนำเข้ากุ้มกุ้งอินเดียผ่านทางพม่าเข้ามาแช่แข็งในไทยเป็นจำนวนเกินครึ่งของกำลังซื้อ-บรรจุของไทย

ราคากุ้งดรอปลงเหลือกก.ละ130บาท

เจ๊ง

หมดตูด เป็นหนี้ด้วย ต้องขายรถขายปืนใช้หนี้กันเลยทีเดียว

เกิดมาเป็นครั้งแรกที่จับอะไรแล้วไม่รุ่ง

เสียความมั่นใจไปหลายเดือน....

แต่มันคนละเรื่องกันกับการที่เขาได้ครองตลาดอาหารครับ

ลองรำลึกถึงคุณภาพ+ราคาอาหารในตลาดสมัยเด็กๆแล้ว บ.ซีพีช่วยให้คนไทยได้อยู่ดีกินถูกขึ้นมาก

ราคาเนื้อไก่แพงขึ้นจากสมัยสามสิบกว่าปีก่อนที่เบนซินลิตรละ8บาทไม่ถึง20บาท คุณภาพก็ดีขึ้นเยอะ

เทียบกับราคาน้ำมัน/ข้าวสาร ถ้าไม่มีบ.นี้ ป่านนี้คนไทยได้กินไก่กิโลละ200กันมาหลายปีแล้ว

พี่จ้าวญาติเจ้าสัวป่าวเนี่ย คิคิ

 ผมเปลืองเวลากับแกไปสามปี ที่ผมควรเอาไปทำอย่างอื่น แต่ไม่ใช่ธุระกิจการเกษตรของแกหรอก
เป็นอย่างอื่นที่กำลังบูมในยุคนั้น
 ไม่ใช่ผิดหวังแล้วออกมาพูดมาแฉอะไร แกก็ทำธุระกิจเหมือนที่คนอื่นทำในตอนนั้น แต่คนที่ทำงานกับแก
ต้องเหนื่อยมากกว่า เสียสละมากกว่า ในขณะที่ผลตอบแทนน้อยกว่า และลำบากกว่า
ผมแสนจะซึ้งเลย พอกันที

ผลตอบแทนมันก็เป็นพิรามิดคว่ำแบบนี้แหละครับน้า

น้องๆกับน้องเมียผมเข้าโครงการปั้นบุคลากรรุ่นใหม่ของบ.นี้คนละหลายๆปีตั้งแต่ปี1ยันจบป.โท

มีโกะก็ไปเรียน มีอบรมอะไรก็ไปเรียนดะ ให้ทุนก็เอา ฝึกงานก็ยังไปกันที่ซีพี , จบตรีออกมา ทางบ.เชิญไปอบรมอะไรก็ไปกันดะ

แต่พอจบโทปุ๊บก็เลิกกัน เสือกสอนกันมาเก่งนัก เด็กมันไปสร้างกิจการเองดีกว่า.....พูดเป็นเสียงเียวกัน ว่านี่คือหัวใจหลักที่ซีพีให้มา  ::007::

ป่าวว๊อยยย เฉียดเต็มที่ก็แค่เคยจิ้มพนักงานของเจ้าสัวแกไปไม่กี่จึ้ก  ::006::

นั่นไม่เรียกเฉียดแล้ว เสมือนลูกเขยเจ้าสัว ไปแร้ววว ::005:: ::007::

นับนิ้วมือนิ้วเท้าพี่จ้าวคงนับไม่พอ ใช่เบาๆนะพี่คนนี้  อย่าบอกนะสาวเซเว่น ::005::

อุตุเตือน คลื่นสูง 2-3 เมตร ฝนฟ้าคะนอง ตกหนักเป็นบางแห่ง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง  ::009::

เขยเจ้าสัวอยู่นี่นี่เองงงง ;D ;D ;D

อ่าวแสดงว่าน้าเบิ้ม "ค้ำคาง"  กับผมสิงั้น ::008:: ::008:: ::008::

แต่เรือใหญ่ออกไปจับกุ้ง หอย ปู ปลาเกลี้ยง... โดนกรมอุตุหลอก... ;D

โทษครับน้าอ้วน ผมไปหาในอากู๋ ยังแปลไม่ออกครับ ช่วยทานเสล็ดหน่อยครับ  ::014::   ::005::

ผมว่าดีแล้วที่ซื้อมาเป็นของคนไทย เห็นพวกนักการเมืองชอบเอาทรัพย์สินของคนไทยไปขายให้ต่างชาติ อนาถใจ

มันเป็นคำแสลงของคนโคราช ครับ คือ "ค้ำคาง" นี่แปลว่า คู่เขยกัน หมายถึงน้าเบิ้มไปได้พี่สาวของพ่อตาคนนี้ แล้วผมก็ไปได้ลูกสาวคนลองต่อจากน้าเบิ้ม หรือลูกของพ่อตาคนนี้ครับ เอาง่ายน้าเบิ้มได้พี่สาว ผมได้น้องสาว อากู๋ยังฉลาดไม่พอครับกับภาษาโคราช ต้องถามพี่นายครับ...คริคริคริ...

อ๋อ....เข้าใจแล้วครับ คล้ายคำว่าคู่เขยใช่มั้ยครับ  :D

ครับ รวยไม่ผิด...
แต่ผิดที่พยายามผูกขาด  และเป็นเจ้าของสายพันธุ์
อย่างหนึ่งที่หลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นผมจำได้ แต่ก่อนเด็กๆเรา่กินแตงโมบางเบิดกัน
ไม่ว่าปลูกที่ไหน ถ้าสายพันธุ์มาจากบางเบิด ผิวเขียวเข้มขี้ม้าเลย ลูกโตเปลือกหนา
กินหมดเอาเปลือกแตงโมไปแกงได้อีก  ปลูกง่าย ไม่ต้องใช้ยา ใช้ปุ๋ยเคมี

ต่อมาเจ้าสัวพัฒนาสายพันธุ์ของตัวเอง บอกว่าพันธุ์ดี เกษตรกรมองด้วยความเคลือบแคลง
แต่โดยคอนเนคชั่นผ่านทาง ขรก.ด้านเกษตร รวมถึงพ่อค้า เจ้าสัวสามารถส่งข่าวบอกเกษตรกรบอกได้
ว่าปลูกได้ผลิตผลเท่าไหร่รับซื้อคืนหมด แต่เมล็ดพันธุ์แจกฟรี


เกษตรกร กลุ่มหนึ่งลองปลูกดู เพื่อที่จะมี ขรก.เกษตรอำเภอคอยชี้แนะ ใช้ปุ๋ยสูตรโน่นนี่ ใช้ยานี่นั่น
เมื่ออายุเท่านั้นเท่านี้ แน่นอน ทั้งยาทั้งปุ๋ย ของเจ้าสัวทั้งนั้น กว่าแตงโมจะได้ผล ปกติเกษตรกรปลูก
แตงโมบางเบิด ต้องใช้ยาที่ไหนกัน

แน่นอน เมื่อได้ผลผลิตรุ่นแรก รับซื้อจากเกษตรกรจริง ชิมดูก็รสชาติไม่ต่างจากบางเบิด เปลือกบางกว่า
เป็นสาเหตุให้แกงเปลือกแตงโมพลอยสูญไปจากเมืองไทย ลูกเล็กกว่าบางเบิด แต่ก็ขนาดเท่าๆกันหมด
ไม่เหมือนบางเบิด เล็กมั่งใหญ่มั่ง

เกษตรกรรุ่นแรกได้รับผลตอบแทนที่ดี ถึงแม้ปลูกของเจ้าสัวจะใช้ปุ๋ยเคมี จะใช้ยา
แต่ยุคนั้นมันดูทันสมัยมาก ใช้ปุ๋ยเคมีนี่ ไม่เลอะเทอะขี้วัวขี้ควาย แรงก็ไม่ต้องลงมาก ถึงเวลาฉีดยาเอา
ยิ่งได้รับการสนับสนุนจากเกษตรอำเภอด้วยแล้ว ทุกอย่างเสริมกันไปหมด

รุ่นที่สองเลยมีเกษตรกรหันมาปลูกแบบของเจ้าสัวมากขึ้น คอนเนคชั่นทั้ง ขรก.ท้องถิ่นและพ่อค้าท้องถิ่น
ทำงานให้ได้ผลต่อเนื่องมา

4-5ปีหลังจากนั้น เมื่อเจ้าสัวมั่นใจว่า ไม่มีใครเก็บเล็ดพันธุ์บางเบิดไว้แล้ว และถึงเก็บไว้ ก็ไม่น่าจะปลูกขึ้น
(เมล็ดพันธุ์มีอายุการเก็บของมัน) เมล็ดพันธุ์แตงโมที่เจ้าสัวแจกฟรีมาตลอด ก็ถูกแพคถุงขาย มาจนปัจจุบัน
และเมื่อปลูกแล้วไม่สามารถเอาเมล็ดมาทำพันธุ์ได้อีกอย่างพันธุ์บางเบิดที่เกษตรกรทิ้งไป ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว

แล้วแตงโมบางเบิดก็สูญไปจากแผ่นดินไทย ที่ปลูกๆอยู่เป็นพันธุ์ของเจ้าสัวนะครับ
ผูกขาดและทำลายสายพันธุ์เดิมแบบเนียนๆ

และในปัจจุบันเพื่อนผม พหูสูตรทางเกษตรหลายคนพยายามปลูกแตงโมแบบไม่ใช้ยา
ปรากฎว่า ล้มเหลวหมดครบถ้วนทั่วทุกตัวคนครับ  :~) :~) :~) :~) :~) :~)

ยังไงก็ต้องใช้ยา  ท่านอาจเคยอ่านข่าวเจอที่กินแตงโมแล้วต้องส่งโรงพยาบาล หรือหน้ามืดเสียชีวิตไป

เส้นทางเดินของเจ้าสัว เมื่อมองย้อนกลับไป แกมาอย่างรถแทรคเตอร์คันใหญ่ มีหลายอย่างสูญเสียไประหว่าง
ที่ใบมีดดันดินทำลายไป เพื่อให้ได้เส้นทางเรียบกริบให้คนตามหลังได้เดินสบาย แล้วบอกว่า นี่เจ้าสัวบุกเบิกมานะ

ได้อย่าง เสียอย่าง และบางอย่างที่เสียไป ไม่มีวันได้คืนกลับมา

แตงโมแค่ตัวอย่างเดียว แต่ถ้ามองอย่างอื่นบ้างที่เจ้าสัวจับอยู่ มาแนวๆเดียวกันหมดครับ

หลายคนอาจรู้จักขายตรง แต่ถ้าไม่รู้จักโฆษณาตรง
ขอบอกว่า เจ้าสัวแกทำมานานครับ โฆษณาผ่านพ่อค้าคนกลางในท้องถิ่น หรือ ขรก.ด้านเกษตรสู่เกษตรกรโดยตรง


จบ

พนักงานลูกจ้างซีพี ในระดับปฏิบัติการ วุฒิตั้งแต่ระดับป.โทต่ำลงมา ถ้าคิดค่าจ้างเงินเดือนออกมาเป็นชั่วโมง

พอๆกับพนักงานเซเว่นครับ เงินเดือนมาก มันก็มอบหมายงานให้ทำมาก ขี้ข้าดีๆนี่เอง อันนี้คนในเขาพูดนะ ไม่เกี่ยวกับผม  ::005:: ::005::

ถ้าหากเป็นผู้ถือหุ้น CPALL อยู่...

โดยมีต้นทุนไม่สูงมาก...

ผมจะเก็บเอาไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานครับ...

กินยาวๆครับ... :D~

นั่งนึกตั้งนาน นึกว่าแกกดกระทู้ผิด ::002:: ::007:: ::007:: ::007::

เรือไดหมึกอย่างผมได้อานิสงฆ์จากกระทู้ราคาทองของคุณเบิ้ม ได้ทองให้แฟนใส่ช่วงสงกรานต์มา 50 สตางค์... ::007::

มีกระจกหกสิบด้านจริงๆสำหรับเจ้าสัวคนนี้
ในเรื่องการบริจาคของแกที่ผมเทียบกะคุณตันคืออย่างนี้ครับ
ขอยกอุปมาอุปไมยว่า ช้างใหญ่ขี้ใหญ่ ช้างเล็กขี้เล็ก แต่ของเจ้าสัวกลับกันครับเมื่อเทียบกะกำไรไหลเข้าของแก
กลายเป็นว่า ช้างใหญ่ขี้เล็ก(เจ้าสัว) ช้างเล็กขี้ใหญ่(คุณตัน)
 และการบริจาคของแกมักมีเงามืดของการหว่านพืชเพื่อหวังผลเป็นเงาทะมึนอยู่ฉากหลัง

แต่ทั้งนี้ ข้อดีของแกที่ต่างกะนักโทษการเมืองคนหนึ่งที่หนีอยู่คือ แกไม่โกง (เท่าที่ผมทราบ)
แต่แกก็ไม่แฟร์กะพันธมิตรธุระกิจของแก ซึ่งก็เป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศ

อ่านข่าวมาว่าเขามองไปถึง AEC ทีนี้จะได้ดูสงครามการค้าระดับ Inter กันละ
อันที่จริงวันนั้นเขาทำเรื่องไปให้ตลาดแขวน SP แล้วนะแต่อาจจะกระชั้นไปหน่อย

ขอบคุณครับ... CPALL โดน(คาดว่าเจ้าสัว)อัดให้ราคาขึ้นมาได้แยะแล้วครับ(ช้อนซื้อที่ราคาต่ำ), แต่นายสมชายระบายหุ้นออกไปเกือบหมดแล้วครับ เหลือกำไร/ขาดทุนแค่ขลุกขลิกเท่านั้นเองครับ...

วันที่ราคาตกลงไปมาก วันนั้นเราไม่รู้อนาคต จึงเอารถยุโรปฝูงนึงลงไปวิ่งไล่ต้อนรถญี่ปุ่นคันเล็กให้วิ่งขึ้นจากก้นเหว, แต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้นใครจะรู้ว่าหากมันไหลลงไปต่อ Jas จะกลายเป็นซากรถได้จริงๆ... ประเด็นคือวันนั้นเราไม่รู้อนาคตครับ... แฮ่ๆ...

 ::014::  พี่สมชายเก๋าครับ อัดขึ้นมาไม่ขายขาดทุน แต่เจ้าสัวและบริวารแสบครับ เสี่ยเจริญไล่ซื้อกิจการ เสี่ยฯอื่นๆ หุ้นก็ขึ้น แต่นี่มีการทุบแบบมีนัยยะ  ทุบ6-7บาท ภายใน2วัน แต่ไม่ขึ้นSP คือทุบให้รายย่อยอ๊วกขายขาดทุนเพียบเป็นพันเป็นหมื่นราย  

กรณีนี้กลต.ทำหูหนวกตาบอด เจ้ามือนี่ดีจริงๆ ทุบแรงๆ ปีละไม่กี่ครั้งก็กวาดเงินรายย่อยเ้ข้ากระเป็นได้เป็นพันๆล้าน ยังกะปั่นหุ้น

ยิ่งมีอินไซเดอร์แบบนี้ ยังไม่ขึ้นSP "เร็วได้ใจครับ"  :)

โจรเสื้อนอกครับ... เส้นแบ่งคือกติกาบ้านเมืองครับ, ใครผิดกฎหมาย เราเรียกแบบบ้านๆ ได้ว่าเป็นโจรครับ... เฮ้อ...

โชคดีวันนั้น หูหนวก ตาบอด ครับ

ผมมองไปว่าธุรกิจปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้วเหมือนสายน้ำ จากเส้นทางเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นกลายเป็นทางใหม่ ๆ ผมอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่เด็ก ๆ สังเกตุเห็นว่าเมืองเปลี่ยนไปมาก 20-30 ปีก่อนถนนท่าแพ ดังมาก ธุรกิจต่าง  ๆ ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ  ถนนนิมมานฯ ถนนห้วยแก้ว ยังเป็นป่า.. พอถึงวันนี้ไปถนนท่าแพเงียบมาก ไม่มีอะไรเลย  ร้านบางร้านที่รู้จักก็เจ้งไปแล้ว    อยู่ที่ว่าเราจะไหล ย้ายตัวไปกับกระแสน้ำเส้นใหม่ได้หรือ จะเป็นปลาที่อยู่ในหนองน้ำแห้งเส้นเก่าครับ 

ไปอ่านต่อทราบว่าเขาเป้นพันธมิตรมาแต่ก่อนเป็นผู้ชักนำ Makro เข้ามาตอนนี้ก็เลยได้ฐานลูกค้าโชห่วยที่ซื้อของจาก makro มาอีกเยอะ
ผมมองว่าพวกห้างใหญ่ๆนี่ไม่ใช่คู่แข่งของโชวห่วยนะแต่เป็นแหล่งสินค้าของเขา ไอ้เลข 7 นี่แหละตัวดี ทีนี้อนาคตเราคงต้องกินของที่เขาจัดให้เรากินกันแล้วละ
พวกเกษตรกรย่อยนี่เกลียดแกมากเลยถ้าตั้งตัวทำอิสระก็โดนทุบราคา พวกอยู่ในอาณัติก็ต้องยอมตามเขา เห็นมีมาออกอากาศกันบ่อยๆ

และเรื่องขึ้นรายได้นี่ จำได้ไหมแกออกอากาศไอเดียมานานแล้วพอคณะบริหารนี้มาทำกลับโดนด่า ทำไมไม่ไปด่าแกล่ะ กลัวอิทธิพลตัวจริงเหรอ

 :D ลองนึกกันดูว่ามีกี่ตระกูลที่กินตั้งแต่หัวยันปลายน้ำ  ในเวปนี้ใครเคยทำธุรกิจกับซีพีจะรู้ว่า.....มันเขี้ยวขนาดไหน

เขาเรียกว่าระดมทุนจากรายย่อยเข้ามาร่วมซื้อครับ...ฮา... ::005::

ทีเด็ดเลยครับเนี่ย ;D ;D ;D

อ่านบทวิเคราะห์มาว่ากู้เงินดอลล์มาซื้อจากการคาดว่าเงินบาทจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ เมืองไทยเริ่มจะมีอภิมหาโปรเจ็คกว่าเงินจะอ่อนก็ตอนเริ่มนั่นแหละ ตอนนี้ตปท.และอื่นๆเริ่มขยับแล้ว ผมอยู่บริษัทเล็กๆยังรู้สีกว่างานเริ่มเพิ่มทุกวัน เอ้าคนมัวแต่นอนเก็บเงินใส่ตุ่มลุกขึ้นมาใช้เงินกันเถอะ 1,000,000 บาทที่เก็บไว้วันนี้ปีหน้ามูลค่ามันจะลดลง

ไปเห็นมาในเฟสบุ๊ค... เห็นภาพเลยครับ... ;D ;D ;D

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/482427_10200458456117723_94370188_n.jpg)

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=528642223840914&set=a.227046790667127.52752.226733814031758&type=1

อีก1มุมมอง

อ่านแล้วสรุปง่าย ๆ คือเจ้าของ Sme รายนี้โตไม่เป็นครับ รายได้เพิ่มขึ้นมาก ยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แต่ขึ้เหนียว แค่เพิ่มเงินเดือนอีก 3,000 บาทต่อเดือนไม่กล้าเพิ่ม กลับกล้าเลิกกิจการทั้ง ๆ ที่มีลูกค้าอยู่ในมือแล้ว

กบในกะลาแท้ๆ เรา

เคยเกี่ยวดองกันมาบ้าง แต่ตอนนี้ ไม่มีแร๊ะ........มีมั่งก็เมื่อหิวจัดๆรีบๆ อิๆๆ

เซเว่น อีเลฟเว่น กับยุทธศาสตร์หมากล้อมเมือง... !!!

CP ได้ซื้อ License 7-Eleven จากบริษัท เซาท์แลนด์ คอร์ปอเรชั่น ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2531 และได้ฤกษ์เปิดร้านเป็นสาขาแรกในเมืองไทยตรงหัวมุมถนนพัฒน์พงษ์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2532

ช่วง 2 ปี แรกที่ดำเนินการ 7-11 ใช้กลยุทธ์ซื้ออาคาร เพื่อเปิดร้าน ซึ่งกลยุทธ์นี้ ทำให้การขยายตัวของ 7-11 เป็นไปอย่างเชื่องช้า ส่งผลให้ขาดทุนร่วม 100 ล้านบาท ทำให้ปี 2534 คุณก่อศักดิ์ได้รับมอบหมายให้เข้ามาฟื้นฟู 7-11 โดยการเปลี่ยนกลยุทธ์ จากซื้อเป็นเช่า ทำให้เจ้าของอาคารพาณิชย์ ร่วมมือกับทาง 7-11 มากขึ้นส่งผลให้การเปิดร้านสาขาเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ทำให้ ปี 2541 เปิดครบ 1,000 สาขา ปี 45 เปิดร้านสาขาได้ 2,000 สาขา ,ปี 47 เปิดครบ 3,000 และปัจจุบันมี 6,800 สาขา ด้วยยอดขายเกือบ 2 แสนล้าน

** เราจะเห็นว่า จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ 7-11 คือการได้คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ มาเป็นผู้บริการ

คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้หนึ่งที่ชื่นชอบกีฬาหมากล้อมหรือโกะจนถึงเข้าขั้นหลงใหล ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย ประธานสมาพันธ์หมากล้อมจีนโลก และ 1 ใน 10 กรรมการสมาพันธ์หมากล้อมนานาชาติ

คุณก่อศักดิ์ ได้กล่าวไว้ว่า “เกมนี้ฝึกคนให้สมบูรณ์ เล่นแล้วได้ทั้งไอคิว อีคิว เอคิว เอ็มคิว ได้อีคิวเพราะมันมีหลักที่แปลกที่สุดคือ เมื่อคุณคิดเอาชนะ คุณจะแพ้ ในเมื่อคุณต้องอยู่กับหลายสนามรบ และคุณมีทรัพยากรจำกัดเหมือนกัน คุณสามารถส่งทหารออกไปวันละ 1 กองร้อยเท่ากัน คุณเอาไปช่วยสนามรบที่ประจันหน้ากันอยู่ สมมติมี 10 สนาม คุณไปให้สนามรบใด สนามรบที่เหลือที่ไม่ได้ทรัพยากรก็อ่อนแอ ถ้าคุณมุ่งให้แต่สนามรบที่มุ่งเอาชนะ คุณก็จะให้ตรงนั้นมาก แล้วในที่สุดคุณก็จะเอาชนะสนามรบนั้นได้ นั่นคือสิ่งที่คู่ต่อสู้ยอมให้คุณเอาสนามรบเล็กๆ ไปสักแห่งสองแห่ง แต่คุณก็จะมีทรัพยากรเปราะ ไม่พอสำหรับอีกหลายสนามรบ คุณก็จะชนะสนามรบที่คุณได้ แต่คุณจะแพ้สงคราม เกมนี้จึงเป็นเกมที่ไม่ได้ฝึกให้เอาชนะ แต่ฝึกให้ไม่แพ้ ในชีวิตก็เหมือนกัน ไปเอาชนะคนคนก็ไม่ชอบ ทุ่มเทชีวิตไปกับการล่าเงิน คุณก็อาจจะได้เงิน แต่คุณจะเสียครอบครัว จะเสียชื่อเสียง คุณจะได้ในสิ่งที่คุณอยากได้มาก แต่จะสูญเสียใหญ่ และสูญเสียระยะยาว”

นั่นจึงเป็นที่มาของยุทธศาสตร์ 7-11 คือ เดินหมากล้อมเมือง เพราะหัวใจของธุรกิจค้าขายคือ ทำเล ทำเล และทำเล

ปัจจุบันธุรกิจ 7-11 เป็นธุรกิจ Debt Free คือไม่มีหนี้ธนาคารเลย เพราะเป็นธุรกิจที่รับรายได้เป็นเงินสดปีละ 2 แสนล้าน แต่สินค้าที่จะนำมาขายใน 7-11 ได้นั้นต้องให้เครดิตทางการค้า 72 วัน หรือพูดง่ายๆ คือ Supplier ต้องส่งสินค้าให้ 7-11 ขายฟรีก่อน 72 วัน จากนั้นถึงจะชำระค่าสินค้าที่ขาย ทำให้ธุรกิจมีเงินสดมากองที่บริษัทเฉลี่ยปีละ 4 หมื่นล้านฟรีๆ

รายได้หลักของ 7-11 มาจากอาหารถึง 87% ซึ่งมีกำไรขึ้นต้นอยู่ที่ 32% ส่วนสินค้าทั่วไปสร้างรายได้เพียง 13% ของยอดขายรวมเท่านั้น และก็มีกำไรขึ้นต้นน้อยมากแค่ 15% เท่านั้น ดังนั้นการที่ 7-11 มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งทั้งหมดเพราะมีฐานของ CP รองรับผลิตภัฑณ์อาหารทั้งหมดที่คุมต้นทุนได้แม้แต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ และที่โหดร้ายยิ่งกว่านั้น สินค้าชนิดใดขายนดี 7-11 จะผลิตแบรนด์ใหม่ขึ้นมาขายเองแข่งเลย จะสังเกตุว่าขนมปังฟาร์มเฮ้าจะค่อยๆ ลดลงจากเช้ล และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากที่เป็นแบรนด์แฝงของ CP !!!

ในปีทีผ่านมา ยอดขาย 7-11 อยู่ที่ 82,420 บาท/สาขา/วัน และมีทั้งหมดจำนวน 6,800 สาขา ดังนั้นยอดขาย 7-11 ทั้งหมดต่อปีคือ 2 แสนล้านบาท/ปี โดยแบ่งเป็นยอดขายเฉลี่ย 2 แสนต่อวันสำหรับ old store sale ส่วน new store มียอดขายเฉลี่ย 7,500 บาทต่อวันเท่านั้น

ดังนั้นยอดขาย 82,000 บาทต่อวัน คือยอดขายเฉลี่ยต่อ 1 สาขา

นอกจากนั้น ใครก็ตามที่จะไปเปิดเฟนไชร์กับ 7-11 ได้ต้องวางเงินก่อน 2 ล้าน โดย 1 ล้านคือค่าลิขสิทธิ์ และอีก 1 ล้านคือค่าตกแต่งร้าน และต้องส่ง ผจก.สาขา และรอง ผจก. ไปอบรมอีกอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม เท่านั้นไม่พอ เนื่องจาก 7-11 ทุกสาขามีระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงกันหมด เงินสดที่ขายได้ทั้งหมดในแต่ละวันนั้นจะต้องส่งเงินกลับสำนักงานใหญ่ทันทีโดยไม่มีการหักค่าใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นทาง บ.แม่ ถึงจะส่งเงินที่หักต้นทุนสินค้าและส่วนแบ่งกำไรมาให้เจ้าของ โดยเจ้าของสาขาจะได้แค่ 40% ของกำไรที่ทำได้เท่านั้น แม้ค่าน้ำ ค่าไฟ บ.แม่ จะจ่ายให้แต่เงินเดือนพนักงานทั้งหมด เจ้าของสาขาต้องรับผิดชอบเอง !!!

อะไรคือยุทธศาสตร์ที่ 7-11 เข้า Take Over MAKRO มูลค่าเกือบ 2 แสนล้าน

1. MAKRO มีฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็นร้านโชวห่วยอยู่ทั้งประเทศ แต่ข้อมูลเหล่านั้นปัจจุบันอยู่ในมือ CPALL เรียบร้อยแล้ว >> มีการคาดการณ์กันว่า (คาดการณ์) จะมีการส่งทีม Sale เข้าไปเจรจาแบบไมตรี เพื่อเปลี่ยนร้านโชว์ห่วยที่ขายดีเหล่านั้นให้เป็น 7-11 ใหม่หมด หรือใช้ยุทธศาสตร์หมากล้อมเมือง คือเปิด 7-11 ขึ้นมาประกบ แม้เดิมที 7-11 ไม่มีนโยบายฆ่าคู่แข่ง แต่เพราะทั้ง Lotus, BigC, Fresh Mart ต่างพยายามตีตลาด 7-11 ด้วยห้างขนาดเล็กมาเปิดแข่ง จึงทำให้ตลาดเริ่มเดือด 7-11 จึงต้องรีบกินรวบให้ได้

2. ใช้ MAKRO เป็นช่องทางในการปลดล็อค Brand 7-11 เพื่อขยายสาขาในต่างประเทศในแบรนด์ Makro

3. ใช้ MAKRO เป็นช่องทางกระจายสินค้าและอาหารสดของ CP เพราะฐานลุกค้าหลักของ MAKRO คือภัตคาร ร้านอาหาร และโรงแรม และร้านอาหารเล็กๆทั่วไป ซึ่งเรียกรวมว่ากลุ่ม โฮเรก้า โดยลุกค้ากลุ่มนี้มีฐานขยายปีละ 24% ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกมส์นี้คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ CP Group

*** ถ้าจะบอกว่าอาหารทั้งประเทศในอนาคต จะมาจาก CP ทั้งหมด คงไม่เหนือความคาดหมายเป็นแน่

4. เจ้าสัวเคยเกริ่นไว้ว่า เราอาจจะเห็น MAKRO ในรูป Hypermarket แบบเดียวกับ BigC ก็ได้

5. MAKRO มีสาขาในประเทศไทย 62 แห่ง ที่ดินส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ของบริษัท โดย 7 แห่งเป็นที่ดินเช่า ที่ดินที่ MAKRO มีอยู่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 :)

ขอบคุณครับพี่วัฒน์ +1  ;D

ขอบคุณครับพี่วัฒน์ + +

เพิ่งอ่านในพันทิพมา เมื่อตะกี๊นี้เองครับ  ;D

 ;D

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

พี่ "ว๊าด"  แกเก่งน้าาาาาา  ฮา  ::006:: ::006:: ::006::

เรื่องเสี่ย  แกเทคโอเว่อร์ "มาร์โคร"  ยายไม่ได้อิจฉา หรือยินดีอะไรกับแกหรอก ฮา
ที่ยาย  "หมั่นใส้"  คือ  ไอ้สถาบันการเงิน  ที่ปล่อยกู้  เกือบ "สองแสนล้าน"  อ่ะ ฮา
ไอ้สถาบันการเงินนี้  นี่แหละ  ตอน "เกือบเจ๊ง"  มันแบมือขอเงิน "กงสี" จากรัฐบาล ฮา

ตอนนั้นไอ้ รัฐบาล  "เฮงซวย"  มันบอก  ต้องอุ้มพวก สถาบันการเงิน เอาไว้ก่อน ฮา
เพื่อที่จะได้  ให้พวกเขาเหล่านั้น  เป็นตัวแทนอีกทอด  เพื้อปรับโครงสร้างทางการเงิน ฮา
พอธนาคาร  "แข็งแรง" ยายไม่เห็นมัน ทำหรือช่วยอะไร ชาวบ้านเลยอ่ะ ฮา
เงินกงสี ที่เอาไปอุ้ม  มันก็ไม่คืน  อมเฉย ไม่รู้ ไม่ชี้ อ่ะ ฮา

กลับมาเรื่อง  "ปล่อยกู้"  เกือบสองแสนล้าน ฮา
แล้วถ้าเกิดมัน "เจ๊ง"  ขึ้นมา  แบ๊งค์ มันก็ล้ม  เืดือดร้อนพวกยายอีก ฮา

ชาวบ้าน  นอกจากตาสี ยายสา ตามา ยายมี ฮา
หรือพวกคน "ชั้นกลาง"  พวกไพร่ พวกควายแดง  พวกขี้เหลือง ฮา
จะขอวงเงินกู้  ซื้อบ้าน ซื้อรถ ขอโอดี เอาไปค้า ไปขาย ฮา
555555 มัน  "ไม่ปล่อย"  อ่ะ  ฮา

ยายหมั่นใส้  ไอ้พวก "ศักดินา"  อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ยายลางเลือน  กับไอ้พวกถ่อย สมัยนั้น ว่าเป็นใคร อ่ะ ฮา
แต่ยายจำนามสกุลได้  ไอ้ "น้อย" นามสกุล นิมมานเหมินทร์ อ่ะ ฮา
ชื่อเหมือนถนน  ที่ยายไปนั่งร้าน "้ห้องแถว"   
กระแทกปากด้วยวิสกี้ บ่อยๆ อ่ะ ฮา

พี่น้อย หรือ สำเนียงคนเหนือ เรียกว่า "หน่อย" ฮา
แกเป็น รมต.คลัง  ยุคนั้น  ที่ขายทรัพย์ ปรส. ให้อั่งม้อ อ่ะ ฮา
พี่น้อย  แกวาดหวัง ตั้งเป้าไว้ เหมือนกับที่ คุณพ่อ เคยเขียนจม. ไปหาที่อังกฤษ อ่ะ ฮา

แกวาดหวังว่า จะเป็น  "ไพร์ มินิ สเตอร์" ออฟ ไทยแลนด์ อ่ะ  ฮา

แต่แกบริโภค "แห้ว" เสียผู้เสียคน  เมา ต ล ว อ่ะ ฮา

ส้มมันเลยไป "หล่น" สันกำแพง อ่ะ  ฮา

555 นามสกุลนี้  มันผูกขาดตำแหน่ง ไปถึง โอ๊ค อุ๊งอิ้ง ม๊างส์  ฮา ::007:: ::007:: ::007::

 ::007:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา   ยายจ๋า...

นู๋ยังบอกไม่หมดเลยเรื่องพฤติกรรมของเจ้าสัว ผู้นิยมกินแม่น้ำทั้งสาย สมัยก่อนตอนยอดขมองอิ่มของยายยืนกุมไข่ต่อหน้าบิ๊กจ๊อดยังเป็นคู่แข่งกัน มาถึงตอนนี้จับมือถือแขน เจรจาต้าอ่วยช่วยกันแดกประเทศ

ทฤษฎี 2 สูง อันโด่งดังของท่านเจ้าสัว ได้ถูกนำมา... ประยุกต์ใช้ เป็นนโยบายของรัฐบาลปูดอง เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่น รวมไปถึง การรับจำนำข้าวเปลือก 1.5 หมื่นบาทต่อตัน เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นการส่งเสริมให้ เกษตรกรมีรายได้ "สูง" และ คนทำงานได้ค่าแรง และเงินเดือน "สูง" ขึ้น

แนวคิด "ทฤษฎีสองสูง" นั้น สูงแรกเน้นว่า "ราคาสินค้าเกษตรจะต้องสูง" เหตุผลอยู่ที่ว่าราคาสินค้าเกษตร จะเป็นแรงขับเคลื่อนตัว สำคัญต่ออุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply)

ภายใต้มุมมองระยะยาวว่า โลกจะไม่มี "ยุคอาหารถูก" และ "น้ำมันถูก" อีกต่อไป

การที่ Demand สูง แต่ Supply สินค้าเกษตรผลิตไม่ทัน หรือไม่เพียงพอนั่นแปลว่า ราคาสินค้าเกษตรจะต้อง "สูง"
สูงที่สอง "รายได้หรือค่าจ้าง ของประชาชนจะต้องสูง" ซึ่งเข้าล็อกกับนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท

แนวคิด "ทฤษฎีสองสูง" จะมุ่งเน้นรายได้ประชาชน 2 กลุ่มใหญ่ คือ
1.เกษตรกรในชนบท (รากหญ้า) ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ ของประเทศจะต้อง ทำให้มีรายได้สูงขึ้น

2. รายได้ข้าราชการ และผู้ใช้แรงงานในเมือง ก็จะต้องสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งหมดนี้คือแนวคิดเจ้าสัวธนินท์ ที่พรรคเพื่อไทยเขียน เป็นนโยบายหาเสียง และได้รับการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

นโยบายจำนำข้าว ของเจ้าสัว อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ปากบอกว่า ชาวนาจะได้ราคาข้าวดีๆ สูงกว่าราคาตลาด.... ให้รัฐรับซื้อไว้ เก็บเข้าโกดัง ให้ประเทศอื่นขายให้หมดก่อน โชคดี ยังมีความต้องการ ข้าวเหลือในตลาดเรา ก็โขกราคาขายขูดเลือดเนื้อ เค้าซะ พวกประเทศยากจน ประเทศร่ำรวยก็ ซื้อจากเราแพงเหมือนกัน ไม่มีสองมาตรฐาน

ถ้าโชคร้าย ประเทศอื่นเค้า ขายแล้วขายอีก ข้าวยังเหลือขายเรื่อยๆ รัฐไทยก็เอาข้าวเก่าเก็บ ขายให้เจ้าสัว ราคาต่ำกว่าตลาด เดี๋ยวเจ้าสัวเอาไป ขายราคาตลาด ข้าวไม่เสียเปล่า แถมได้สนับสนุนเอกชนอีกทาง ....

ส่วนกรณีที่รัฐบาล ต้องแบกสต๊อกข้าวสาร ในเวลานี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตันจากโครงการรับจำนำข้าว บอกว่าไม่น่าห่วง เพราะหากต้องการ ความปลอดภัย ทางด้านความมั่นคง ด้านอาหาร ต้องเก็บสต๊อกไว้ อย่างน้อย 6 ล้านตัน หรือต้องเก็บไว้หนึ่ง รอบการผลิต (4-5 เดือน) ไม่ใช่ขายจนเกลี้ยง

ตัวเลขล่าสุด ซี.พี.อินเตอร์เทรด คุยฟุ้งว่า แค่ไตรมาสแรก ยอดขายข้าว "ตราฉัตร" โตสวนกระแสภาพรวม ผ่านโค้งแรกทั้งส่งออก-ในประเทศ ทำ ยอดขายได้แล้วกว่า 300,000 ตัน จากเป้าทั้งปี 1.1 ล้านตัน ...

เจ้าสัวยังกระตุ้น ให้พ่อค้าข้าวไทยปรับตัว โดยรับซื้อข้าวจากเพื่อนบ้าน เพื่อส่งออก ในนามประเทศไทย เป็นการสร้างฐานให้ไทย เป็นศูนย์กลางการค้าข้าว ซึ่งเจ้าสัวทำอยู่ และชี้ทางสว่างขนาดนี้ ช่างน่าปลื้มปิติ และเป็นที่สรรเสริญโดยทั่วไป ก่อนหน้านี้เจ้าสัวเคยพูด ถึงขั้นว่าให้ไทยตั้งโต๊ะซื้อข้าวจากเพื่อนบ้าน เอามาสวมสิทธิ์

เจ้าสัวชาวนาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทย กับมาตรฐานนโยบายสองสูง มันก็คือพ่อค้าหน้าเลือดธรรมดานี่แหล่ะ !!!

ถ้าชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง เวลาขึ้นราคาปุ๋ยก็ไม่มีปัญหา ต่อไป พอถึงวันข้างหน้าเกิดขายข้าวไม่ได้ราคา....ปุ๋ยขึ้นราคาไปแล้ว ชาวนาเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล

การบริหารงานทฤษฎี ของเจ้าสัวธนินท์ มองว่า จากนี้จะหมดยุค "ปลาใหญ่ กินปลาเล็ก" แต่เข้าสู่ยุค "ปลาเร็ว กินปลาช้า"

ดังจะเห็นว่า เซเว่นอีเลฟเว่น ขยายตัวอย่างรวดเร็วเข้าไป สู่ตัวอำเภอต่างๆในประเทศไทย อำเภอขนาดใหญ่จะมีร้าน 7-11 ถึง 2 แห่ง
เพราะเจ้าสัวมองว่านโยบาย "หว่าน" ของรัฐบาล จะทำให้ "รากหญ้า" มี "กำลังซื้อ" มากขึ้น


(http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201210/25/41e387.jpg)

        เหมือนผมจะเคยอ่านหนังสือเล่มนึงเมื่อหลายปีที่แล้วชื่อหน้าปกว่า เปลือยธารินท์ หรือยังงัยเนี่ยแหละ

        เดี๋ยวต้องกลับไปค้นในตู้ที่บ้านมาอ่านอีกซักรอบแล้ว ชักจะลืมๆ

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ใช่แล้ว  ถูกแล้ว อ่ะ คร๊าบบบ  ฮา
"ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์"  อดีต เอ็มดี เอส ซี บี  อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

มันขายทรัพย์  ไปได้อย่างไร ฮา
ขายไปแค่ 18%  ของมูลค่าทางตลาด ฮา

ยายเจ็บปวดกับพวกเขา  รวมถึงไอ้ "อั่งม้อ" อ่ะ ฮา
มันมา  "ไล่เก็บ ไล่่รีด"  เอากับชาวบ้าน  ร้อยเปอร์เซ็นต์ ฮา

ยายก็เลยเบี้ยว  กูไม่จ่ายมึงร๊อกกกก  ฮา
ยายดึง  จนมันมา "เกี้ยเซี้ย"  ตอนใกล้ปิดพอร์ต ฮา

55555  ลด 80% โว้ย  ฮา
55555  ยาย "เขี้ยว"  มั๊ยยยยย  ฮา  ::008:: ::008:: ::008::

ตอนนี้ไอ้บริษัทนั้น  มันปั้นคนไทย มาตามเก็บ "เศษเงิน" ที่ตกน้ำอีกอ่ะ ฮา
ทุนจดทะเบียน  ตอนนี้เหลือ  "ห้าหมื่นบาท"  ฮา

5555 เมื่อก่อน  ตอนจดทะเบียน  ทุน "ห้าหมื่นล้าน"  ฮา ::007:: ::007::

กู้ซื้อบ้านแบงค์ชมพู ของหนูน้อย
กว่าจะอนุมัติ แม่นนนนน ให้รอเป็นเดือนๆ
พูดแล้วช้ำใจ
นั่งดูเศรษฐีมันรวย และช่วยกันอุดหนุนมันต่อไป  :~)

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ จับ กัง อ่ะ  ฮา

"คนจน"  มีสิทธิมั๊ยก๊าบบบบบ ฮา
http://www.youtube.com/watch?v=7lKHuyBKr70