หัวข้อ: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มิถุนายน 20, 2013, 04:10:32 PM ครั้งนึงเพื่อนที่เคยทำงานร้านฟาสต์ฟู้ดเล่าให้ฟังว่านักเก๊ทไก่์มีส่วนผสมลับที่เรียกว่าขยะดีำๆนี่เอง นั่นคือพอได้เวลาปิดร้านปุ๊บ พนักงานจะเอาเศษไก่เหลือๆในจานที่ลูกค้ากิืนไม่หมดมาช่วยกันขูดๆเศษเนื้อที่ติดกระดูกออก ปรุงรส แล้วทอดใหม่เป็นนักเก๊ทของวันต่อไป แม้นางจะเล่าด้วยสีหน้าจริงจังแต่อิชั้นก็ไ่ม่ได้ปักใจเชื่อหรอกนะ คือมันฟังดูเป็นมุขไม่ค่อยขำที่เอาไว้อำต่อๆกันมาซะมากกว่า คิดในใจ แม็คไม่น่าจะกากขนาดเอาไก่ทอดแทะแล้วมาขายใหม่หรอกน่า.. พอมาวันนี้ได้รู้ถึงส่วนผสมของนักเก๊ทไก่ืแบบเจาะลึกกว่าเดิม แม้ส่วนผสมจะแตกต่างแ่ต่ก็ทำเอาพะอืดพะอมและสะเทือนขวัญได้ไม่น้อย แถมยังมีที่มาจากแนวคิดเดียวกันนั่นคือ "กำจัดขยะให้เป็นสินค้า" ดังนั้น 50% ของนักเก๊ทไก่จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่คัดแล้วว่าเหลือทิ้ง ทั้งกระดูก ลูกตา สมอง กล้ามเนื้อ เครื่องในทุกส่วน รวมถึงบรรดาลูกเจี๊ยบตัวผู้ทั้งหลายที่เกิดมาชีวิตก็ไร้ค่าทันที ด้วยเหตุที่พวกมันไม่ทำเงิน เพราะออกไข่ไม่ได้เหมือนตัวเมียแถมโตช้ากว่าและเนื้อของไก่ตัวผู้ก็ไ่ม่อวบใหญ่เท่าไก่ตัวเมีย ดังนั้นชะตาของลูกเจี๊ยบตัวผู้จึงไม่ต่างจากขยะของโรงงานที่มักถูกกำจัดด้วยการโยนลงเครื่องบดทั้งเป็นวันละมากกว่า 150,000 ตัว ความน่ารักจิ๊บๆๆ ของลูกเจี๊ยบจึงไร้ค่าพลันเพราะดันมาเกิดเป็นตัวผู้ในโรงงานที่มีเจ้าของไ้ร้ความเมตตาปราณี หวังหากำไรกับชีวิตสัตว์ีที่ต่อสู้ไม่ได้แม้แต่จะเอาชีวิตตัวเองรอด "ลูกไก่ตัวผู้กลายเป็นขยะที่ถูกรีไซเคิล" ส่วนผสมอีก 50% ของนักเก๊ทคือแป้งข้าวโพด, น้ำตาล, เครื่องปรุงรสสังเคราะห์ที่ชื่อ Autolyzed yeast extract หรือผงชูรสอีกแบบที่มีผลทำให้เกิดโรคอ้วน เสร็จแล้วเอาไปเติมสารกันบูด TBHQ ที่ทำให้คลื่นไส้,สมองเบลอยิ่งได้รับสารนี้ในปริมาณสูงจะส่งผลให้เกิดเนื้องอกในท้อง และถ้ากินสารนี้เข้าไป 5 กรัมก็ตายได้เลย นอกนั้นยังใส่ ไดเมทิลโพลีไซโลเซน สารเคมีที่ช่วยให้น้ำมันไม่เป็นฟองเวลาทอดหลายครั้ง สารนี้เป็นซิลิโคนตัวเดียวกับที่ใช้ใส่ในนมปลอม เครื่องสำอางค์ และดินน้ำมัน ฟังดูน่ากลัวมากกว่าน่ากินนะ ซึ่งอิชั้นค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่มีใครติดสารเคมีเหล่านี้ไว้ในตู้เย็นที่บ้านเพื่อใช้เติมอาหารที่ทำกินกันในครอบครัวเป็นแน่ แล้วเหตุใดเล่าเราถึงต้องเดินเข้าร้านฟาสต์ฟู้ดเพื่อจ่ายเงินแลกกับ เศษซากศพไก่ใส่สารพิษ พวกนี้ด้วย? https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=kwEqi0zfJ4o ส่วนภาพที่เห็นเป็นเส้นสีชมพูเหมือนกองขี้ช้างเผือกก็คือเลือด กระดูกและอวัยวะเหลือทิ้่งของสัตว์ที่ถูกบดรวมกันแ้ล้ว ฝรั่งเรียกสิ่งนี้ว่า "Pink Slime" แปลว่า "เมือกชมพู" ฟังดูน่ากินดีมะ? แต่ที่เห็นว่านักเก๊ทมีสีขาวน่ากินก็เป็นเพราะเค้าใ่ส่สีสังเคราะห์สีขาวลงไปก่อนนำไปทอดน่ะสิ ส่วนคำจำกัดความของ Pink Slime ตาม USDA บอกว่าเมือกชมพูมันคือ"อวัยวะเหลือทิ้งของสัตว์ที่มีราคาถูกแสนถูก นำมาบดผสมรวมกับไขมันจนละเอียด ผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยแอมโมเนีย" เพราะปกติแล้วเศษซากสัตว์ที่ว่าจะเต็มไปด้วยแบคทีเรียไชยั้วเยี้ยเช่นอีโคไล แต่แอมโมเนียมันคือสารเคมีที่ปกติจะใส่ในน้ำยาล้างทำความสะอาดพื้น แต่กรณีนี้กลับเอามาใส่ในเืนื้อบดเพื่อฆ่าเืชื้อโรคซะงั้น ย้อนไปในอดีตเมือกชมพูจะถูกขายในรูปแบบของอาหารหมา แต่ตอนนี้ดันเอามาจำหน่ายให้คนกินด้วยเพื่อเพิ่มยอด ดังนั้นเนื้อบดที่ขายในซุปเปอร์มาเก๊ตจึงประกอบด้วยเมือกชมพูถึง 70% ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก ซาลามี่ และนักเก๊ทไก่ด้วย น่าสงสัยไม่้น้อยว่าถ้าซากสัตว์เหล่านั้นมันสกปรกขนาดต้องพ่นยาฆ่าเชื้อแรงๆแบบนี้ มันก็ไม่ต่างจากขยะเน่าเหม็นที่พยายามเอามาขายต่อให้ลูกค้ากินเลยสิ? https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=T67DvoH2H3E เจมี โอลิเวอร์ เชฟเซเลบผู้โด่งดังจากรายการทำอาหาร ก็เป็นอีกคนนึงที่ทนไม่ไหวกับนิสัยเห็นแก่ได้ของพ่อค้าใจทรามที่หวังทำแต่กำไรโดยไม่สนใจความปลอดภัยของผู้บริโภค เค้าเลยถ่ายวีดีโอสาธิตการทำเนื้อบดอาบยาพิษแอมโมเนียให้ได้ดูกันต่อหน้าผู้ชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมแฉให้ฟังว่าเนื้อบดที่ขายกันทั่วไปก็มีการเติมแอมโมเนียซึ่งเป็นอันตรายและควรเอาไปให้หมากินมากกว่าจะเอามาขายให้เด็กๆ หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกสื่อ บริษัทยักษ์แห่งฟาสต์ฟู้ดก็ได้ออกมาประกาศว่าเริ่มหยุดใช้เมือกชมพูในเนื้อบดแล้ว เช่นแม็คโดนัลด์ ก็เพิ่งประกาศหยุดใช้ตอนปี 2011 รวมถึงเบอเกอร์คิงและทาโก้เบลล์ด้วย กรณีนี้แสดงว่าถ้าไม่มีคนดังของสังคมอย่างพ่อครัวเจมี่ออกมาประท้วงด้วยคลิป ร้านฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่หลายเจ้าก็จะยังคงขายอาหารปนเปื้อนสารเคมีให้คนทั่วโลกกินต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าใช่หรือไม่? ที่น่าคิดก็คือเหตุใดอย.ที่ควรเป็นหูเป็นตาให้กับผู้บริโภคถึงไม่แบน และปล่อยให้ขายมานานได้ขนาดนี้? ยังไงก็ตามอิชั้นคิดว่ามันไม่ยุติธรรมต่อสิ่งมีชีิวิตหน้าไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าสัตว์หรือคนก็ไม่สมควรต้องตกเป็นเหยื่อและยอมกินอาหารปนสารพิษเหล่านี้ เพราะอาหารดีๆยังมีอยู่ทั่วไปและหาได้ง่ายในธรรมชาติ ความอร่อยมันอยู่ในปากได้ไม่นานหรอกก็ต้องกลืน แต่ร่างกายนี้ยังต้องใ้ช้ไปอีกไม่รู้อีกกี่สิบปี ดังนั้นหากเห็นด้วยว่าสุขภาพของคุณและคนที่คุณรักคือสิ่งสำคัญ ก็โปรดระวังในการเลือกซื้ออาหาร เพราะทุกอย่างที่วางขายถึงจะกินได้แต่ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยและวางใจได้นะ https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=wshlnRWnf30 ลองดูครับ จริงเท็จ ประการใด หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ มิถุนายน 22, 2013, 10:36:53 AM อ้าว...แล้วเจ้าสัวผมจะทำยังงัย หลอกแดรกมาจะห้าสิบปีแล้ว คนไทยเพิ่งจะมารู้ตัว
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 22, 2013, 12:36:21 PM ผมว่าต้องดูว่าร้านไหนด้วยครับ ผมว่าบริษัทใหญ่ไม่ทำ ยิ่งบอกไปเก็บจากจาน ;D ;D ;D ไม่น่าเยอะพอที่จะมาเสียเวลา ไม่คุ้มมานั่งเก็บนั่งขูด
ขนาดถาดยังไม่อยากล้าง ใช้กระดาษลองแล้วเททิ้ง หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มิถุนายน 22, 2013, 02:42:19 PM โชคดี
ที่ผมไม่เคยกิน และไม่รู้จักด้วย กินแต่ข้าวแกงน้ำพริกผัก ครับ หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: ARTANY ที่ มิถุนายน 22, 2013, 04:45:43 PM นักเก็ตนี่ผมไม่แน่ใจ ทราบแต่รุ่นพี่ที่ไปฝึกงานที่....เค้าบอกไส้กรอกยอดนิยมในร้านสะดวกซื้อยอดฮิตในบ้านเราทำจากหมูแก่ๆจำพวกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่หมดสภาพแล้ว ฟังแล้วก็หยุดซื้อไปพักนึง หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม....
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มิถุนายน 22, 2013, 09:23:28 PM เมื่อก่อนทำงานที่อยุธยา ผมซื้อจากโรงงานข้างๆเลยครับแหล่งผลิตเลย แต่ทำไมพนักงานโรงงานเขาไม่มีใครซื้อกินฟระ....................... หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: babygun ที่ มิถุนายน 22, 2013, 11:36:55 PM โชคดีไปสำหรับผม ของแบบนี้ผมไม่ทานเลยถ้าไม่จำเป็น ::003:: ::003:: ::003:: ::003::
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 23, 2013, 12:18:26 AM บอกตรงๆ อาหารหลายๆ อย่าง ถ้ารู้ขั้นตอนการทำนี่ กินไม่ลงครับ
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ มิถุนายน 23, 2013, 03:04:12 AM โชคดี ::002:: ::011::นี่เเหละสุดยอดเเล้ว ::011::ที่ผมไม่เคยกิน และไม่รู้จักด้วย กินแต่ข้าวแกงน้ำพริกผัก ครับ หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 23, 2013, 07:56:03 AM นักเก็ตนี่ผมไม่แน่ใจ ทราบแต่รุ่นพี่ที่ไปฝึกงานที่....เค้าบอกไส้กรอกยอดนิยมในร้านสะดวกซื้อยอดฮิตในบ้านเราทำจากหมูแก่ๆจำพวกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่หมดสภาพแล้ว ฟังแล้วก็หยุดซื้อไปพักนึง หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม.... ไส้กรอกเขาเอาเศษมาบดอยู่แล้วครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: _RANGER_ ที่ มิถุนายน 23, 2013, 11:21:16 AM กินส้มตำปล้าร้า กับไก่ย่าง เวิร์คกว่า ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 23, 2013, 11:54:11 AM ผมว่าต้องดูว่าร้านไหนด้วยครับ ผมว่าบริษัทใหญ่ไม่ทำ ยิ่งบอกไปเก็บจากจาน ;D ;D ;D ไม่น่าเยอะพอที่จะมาเสียเวลา ไม่คุ้มมานั่งเก็บนั่งขูด ขนาดถาดยังไม่อยากล้าง ใช้กระดาษลองแล้วเททิ้ง คิดเหมือนพี่คาร์เรร่า ใ่นแวดวงธุรกิจแล้ว เรื่องสำคัญคือการลดต้นทุน แต่การที่ว่าลดต้นทุนวัตถุดิบโดยการมาขูดเศษเนื้อที่เหลือจากการ"ขายออก"ไปแล้วนั้น เป็นการคิดตื้นไปหลายสเตป เพราะจะไปเพิ่มต้นทุนค่าแรง ค่าการจัดการแทนที่ ต้นทุนรวมไม่ได้ลดลงแต่อาจเพิ่มมากขึ้นกว่าเิดิม อีกทั้งการคาดการณ์ปริมาณวัตถุดิบตรงนี้ จะยากยิ่งกว่าเิดิม ว่าจะได้วันละเท่าไหร่ เพราะมันจะขึ้นกับพฤติกรรมผู้บริโภคอีกที บางวันคนเข้าร้านเยอะ แต่วัตถุดิบคงเหลือน้่อย เพราะมีพฤติกรรรมการบริโภคอย่างหนึ่ง บางวันคนเข้าร้านน้อย ดันมียอดวัตถุดิบคงเหลือเยอะ เพราะมีพฤติกรรมการบริโภคอีกอย่าง หากลดต้นทุนจริงๆ เอาYeild(ของสูญเสีย) จากฟาร์มมาจะเข้าท่ากว่า เพราะฟาร์มมีการคาดการณ์ยอดสูญเสียที่ค่อนข้างแม่นยำ เลี้ยงไก่100ตัว อาจมีสูญเสียสัก8ตัว แบ่งเป็นสูญเสียสัปดาห์แรก2 สัปดาห์ถัดมาอีก2ตัว สัปดาห์ถัดมา... จนกว่าจะครบ8ตัว บอกไว้อย่าง ของสูญเสียจากฟาร์มที่กลายมาเป็นเมนูยอดฮิตในเมืองไทยจริงๆคือ"ไก่ย่างว.xxx" ที่กำเนิดมาจากการจัดการไก่สูญเสียในฟาร์ม มาเป็นไก่ย่าง รสชาติถูกปากคนกินจนขึ้นชื่อ ขายดิบขายดี จนปัจจุบันนี้ แค่้เอาไก่สูญเสียจากฟาร์มมาย่างนั้น ไม่พอแล้ว ต้องเอาไก่ในระบบจริงๆเข้ามาเสริมอีกที หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 23, 2013, 04:41:45 PM "ไก่ย่างว.xxx" ที่กำเนิดมาจากการจัดการไก่สูญเสียในฟาร์ม มาเป็นไก่ย่าง ร้านอะไรย่อมากไปหน่อยไม่เก็ท ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มิถุนายน 23, 2013, 05:03:28 PM "ไก่ย่างว.xxx" ที่กำเนิดมาจากการจัดการไก่สูญเสียในฟาร์ม มาเป็นไก่ย่าง ร้านอะไรย่อมากไปหน่อยไม่เก็ท ;D ;D ;D ไก่ย่างวิเชียร-ไกย่างวิเชียรบุรี มั้งครับพี่ ^_^ Note : ไก่ย่างวิเชียร กับ ไก่ย่างวิเชียรบุรี คนละอย่างกันนะครับ ( คนขายเขาบอกแบบนี้ ) หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 23, 2013, 05:19:02 PM อิอิ...อีกอย่างครับ
ช็อคบอล.....ไม่ใช่ที่กำลังดังมาจาก โคอาล่ามาร์ช น่ะครับ ช็อคบอลที่ขายตามร้านทั่วไปนี่แหละ เขาเอาเศษขนมปังเหลือๆมาทำ และขนมปังที่เหลือบางครั้งหมดอายุมาทำ เพราะมันเอามาบดรวมกันใส่น้ำเชื่อมช็อคโกแลตเข็มๆ.....5555 อร่อยกันไปครับ_^^ หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 23, 2013, 06:31:05 PM "ไก่ย่างว.xxx" ที่กำเนิดมาจากการจัดการไก่สูญเสียในฟาร์ม มาเป็นไก่ย่าง ร้านอะไรย่อมากไปหน่อยไม่เก็ท ;D ;D ;D ไก่ย่างวิเชียร-ไกย่างวิเชียรบุรี มั้งครับพี่ ^_^ Note : ไก่ย่างวิเชียร กับ ไก่ย่างวิเชียรบุรี คนละอย่างกันนะครับ ( คนขายเขาบอกแบบนี้ ) รับทราบครับ ;D ;D ;D ขอบคุณมาก หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: konklong ที่ มิถุนายน 24, 2013, 10:58:47 AM โชคดีจัง ผมกินไม่เป็น ;D
แต่ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว น้ำตก ซกเล็ก ของชอบ :D~ หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มิถุนายน 24, 2013, 11:16:26 AM meat patty หรือ เนื้อในแฮมเบอรเกอร์ ก็หน้าจะอยู่ในข่ายใช้เศษเนื้อสรรพัดด้วยครับ
หัวข้อ: Re: คิดอีกครั้งก่อนสั่งนักเก๊ท เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มิถุนายน 24, 2013, 03:44:38 PM meat patty หรือ เนื้อในแฮมเบอรเกอร์ ก็หน้าจะอยู่ในข่ายใช้เศษเนื้อสรรพัดด้วยครับ ก็ถ้าพรีเมี่ยมอย่าง คาร์ล จูเนีย ก็ดีกว่า Mc ;D ;D ;D นิดนึง |