หัวข้อ: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 20, 2013, 11:36:03 PM ผู้ตรวจการแผ่นดินเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง ส.ส.-ส.ว.ผลักดันออกกฎหมายนิติกรรมอำพราง แก้ปัญหาต่างชาติถือครองที่ดินในเมืองไทย ตะลึงพบข้อมูลต่างชาติยึดครองที่ดินไปแล้วถึง 1 ใน 3 ของประเทศ คิดเป็นกว่า 100 ล้านไร่ โดยเฉพาะชายหาดสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต สมุย หรือแม้แต่ระยอง กว่า 90% เป็นของต่างด้าว และตอนนี้ลามไปถึงภาคเกษตรกรรมแล้ว ใช้วิธีแต่งงานกับคนไทย หรือให้คนไทยถือครองแล้วทำสัญญาจำนอง-เช่าระยะยาว เป็นประกัน เน้นเพิ่มโทษตัวการให้จำคุก 5-20 ปี รวมทั้งพวกทนายที่คอยช่วยเหลือ และตัวแทนถือครองร่วมรับผิดด้วย เผยขุนค้อนร่วมหนุนเร่งออกกฎหมายยึดที่ดินกลับคืนมาเป็นของคนไทยตามเดิม
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่มีอำนาจในการเสนอกฎหมายและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ส.ส., ส.ว. คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน เป็นต้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นและร่วมกันผลักดันร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดลักษณะตัวแทนอำพราง พ.ศ.... ซึ่งร่างต้นแบบกฎหมายดังกล่าวที่มีทั้งสิ้น 40 มาตรา สาระสำคัญคือมีคณะกรรมการธุรกรรมอำพราง คณะกรรมการกองทุนเพื่อการให้สินบนนำจับ เพิ่มโทษคนต่างชาติที่เป็นตัวการ ผู้จัดการ หรือกรรมการที่มีส่วนทำนิติกรรมอำพราง ให้จำคุก 5-20 ปี หรือปรับ 5 แสนถึง 2 ล้านบาท ขยายโทษไปถึงคนไทยที่เป็น ผู้สนับสนุน ช่วยเหลือในการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักกฎหมาย หรือทนาย ให้มีความผิดมีโทษจำและปรับ เป็น 2 ใน 3 ของตัวการ และมีมาตรการผ่อนปรน ด้วยบทเฉพาะกาล ให้ผู้เลี่ยงกฎหมายสามารถจัดการหรือปรับธุรกรรมให้ถูกต้องภายใน 1 ปี จะยกเว้นไม่ต้องรับผิด นายศรีราชากล่าวว่า จากผลการศึกษาพบว่าการทำธุรกรรมในลักษณะตัวแทนอำพราง (Nominee) ที่เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ สามารถพบการกระทำในรูปแบบการสมรสกับคนไทย แล้วให้คู่สมรสผู้มีสัญชาติไทยถือครองที่ดินแทน แต่สิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินยังคงเป็นของคนต่างด้าว โดยให้บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเป็น ผู้ซื้อที่ดินและทำสัญญากู้ยืมเงิน จำนอง หรือทำสัญญาเช่าไว้กับคนต่างด้าวเพื่อเป็นหลักประกัน การทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยการจดทะเบียนและมีหลักฐานทางทะเบียนเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าอำนาจในการควบคุมกิจการยังเป็นของคนต่างด้าว โดยคนต่างด้าวมี หุ้นบุริมสิทธิซึ่งมีสิทธิพิเศษในการควบคุม (Control) การบริหารจัดการบริษัท "ปัจจุบันที่ดินสวยๆ ริมทะเลใน จ.ภูเก็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะช้าง จ.ตราด กว่าร้อยละ 90 ตกเป็นของคนต่างด้าว หรือแม้แต่หาดบ้านเพ จ.ระยอง ที่นายก อบต. 15 ตำบลก็ยังระบุว่าหาดเพ ยาว 10 ก.ม. กลายเป็นของต่างชาติไปแล้ว 9 ก.ม. ที่น่าเป็นห่วงคือในภาคการเกษตร ก่อนหน้านี้สิงคโปร์เข้ามาขออนุญาตกรมที่ดินปลูกผลไม้ แล้วไปขึ้นโฆษณาในเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวว่าหากอยากกินผลไม้อร่อย ต้องกินที่สิงคโปร์ ทั้งๆ ที่ผลไม้นั้นปลูกบนแผ่นดินไทย" นายศรีราชากล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวอีกว่า อนาคตที่ เราจะเปิดประชาคมอาเซียนนโยบายของรัฐ จะปล่อยเฉยไม่ได้ ต่างชาติเขาจะเข้ามายึดหมด ซึ่งไม่ได้ยึดเฉพาะที่ดินอย่างเดียว แต่จะมาประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย และที่ยังไม่ตื่นตัวกันในขณะนี้ก็คือภาคเกษตรกรรม เพราะแหล่งเพาะปลูกอาหารของโลกมันลดน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่โซนเพาะปลูกที่ดีที่เป็นครัวของโลกก็คือโซนของประเทศไทย ลาว พม่า ฉะนั้นถ้าเราดูแลไม่ดีไม่สามารถทำให้สิทธิประโยชน์และผลประโยชน์ตกเป็นของคนไทย ตรงนี้ก็จะกลายเป็นปัญหาของชาติในที่สุด นายศรีราชายังกล่าวอีกว่า หน่วยงานที่เข้าร่วมระดมความคิดเห็นต่างแสดงความเห็นด้วยในการควบคุมการยึดครองที่ดินของคนต่างด้าว แต่ก็มีข้อท้วงติงว่าขณะนี้นโยบายของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน เพราะการจำกัดการถือครองทรัพย์สินในประเทศไทยของคนต่างด้าวมักจะถูกมองว่าอาจจะไปขัดกับหลักการส่งเสริมการลงทุน อีกทั้งการยกร่างกฎหมายใหม่โดยทำเป็นกฎหมายเฉพาะนั้นต้องใช้เวลานาน และถ้าเป็นกฎหมายแล้วไม่มีการบังคับใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น น่าจะเป็นเรื่องง่ายและทำได้รวด เร็วกว่า หากใช้วิธีการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่แล้วให้ครอบคลุมและเข้มข้นยิ่งกว่า เช่น อาจจะผลักดันให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการปราบปรามการฟอกเงิน โดยให้เรื่องการถือครองที่ดินของคนต่างด้าวเพิ่มเข้าไปเป็นอีกมูลฐานความผิดหนึ่งของกฎหมายฟอกเงิน ด้านนายประสพ บุษราคัม อดีตส.ส. ในฐานะประธานกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายการได้มาซึ่งที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินและการบังคับใช้กฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เห็นด้วยกับการมีกฎหมายดังกล่าว ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติ สุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้นโยบายกับคณะกรรมการที่ตนเป็นประธานว่า ประเทศไทยมีที่ดินที่มีโฉนดทั้งหมด 320 ล้านไร่ แต่ขณะนี้ 100 กว่าล้านไร่กลายเป็นของคนต่างชาติแล้ว จึงควรพิจารณาตรากฎหมาย หรือปรับปรุงกฎหมายเพื่อที่จะไล่ล่าทวงคืนที่ดิน 100 กว่าล้านไร่นี้ให้กลับคืนมาเป็นของคนไทย ซึ่งอยากเสนอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปเสนอยังพรรค การเมืองทุกพรรค เพื่อให้เกิดการผลักดันเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป นายศรีราชากล่าวภายหลังการหารือว่า จะนำข้อเสนอต่างๆ ไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับนี้ และเห็นว่าจำเป็นต้องผลักดันให้เป็นกฎหมายเฉพาะ เพราะถ้าจะแก้ไขโดยไปเพิ่มเป็นมูลฐานความผิดในกฎหมายฟอกเงินก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ซึ่งก็จะพยายามเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปที่ นายกฯ สภา และส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในปลายสมัยการประชุมสภานี้ [/color][/size] Cr...ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ http://www.khaosod.co.th/ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=487249841369882&set=a.253708621390673.59439.251594288268773&type=1 สิ้นชาติของจริง คนไทยตาดำๆ เป็นแค่ลูกจ้างต่างชาติ ฮุบแผ่นดินไปหมด เพราะกฎหมายล้าหลัง เศร้าครับ ทุกวันนี้เข้าได้ที่ไหน ชายหาดสวยๆ เขาทั้งลูกชายทะเล คนไทยห้ามเข้า ::004:: หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: babygun ที่ สิงหาคม 20, 2013, 11:39:34 PM จะทำได้หรือครับ ในสมัยที่เงินซื้ออะไรได้เกือบทุกอย่าง ::004:: ::004:: ::004::
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 20, 2013, 11:48:12 PM จะทำได้หรือครับ ในสมัยที่เงินซื้ออะไรได้เกือบทุกอย่าง ::004:: ::004:: ::004:: หมดจริงๆครับ มัวแต่ทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย แต่เรื่องนี้คนรู้เยอะแยะ แต่ปัดสวะว่าไม่ใช่เรื่องของเรา อยากซื้อก็ซื้อไป ตกลงประเทศนี้ของใครกันเนี่ย ::004:: หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ สิงหาคม 21, 2013, 12:10:46 AM ::008::ลองคิตซิว่าใครคือทุนนิยมตัวจริงเสียงจริง ตราบใดที่รัฐบาลเน้นทุนนิยมมากๆ ก็ไม่มีทางทีมันจะเเก้กฎหมายหรอกครับ จะเเก้เเต่สิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเท่านั้น ::013:: ::013:: ::013:: ::013:: ::013::
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ สิงหาคม 21, 2013, 01:06:10 AM หึ หึ
ตีฆ้องเรียกราคา ขอค่าขนมเพิ่มซะล่ะมั๊ง หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 21, 2013, 07:11:17 AM หุหึ ท่านผู้ตรวจเอาตัวเองให้รอดก่อนดีมั้ย
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ สิงหาคม 21, 2013, 09:30:25 AM กฎหมายที่มีอยู่แล้วก็สามารถใช้ได้ครับ เพียงแต่การบังคับใช้กฎหมายต้องไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าอำนาจในการตัดสินใจอยู่ที่ใคร แล้วการพิสูจน์มันยากหน่อย เช่นต้องไปหารายงานการประชุมในเรื่องสำคัญ ไปหาหลักฐานในนิติกรรมใหญ่ๆของบริษัทฯ เช่นใบ PO ที่สำคัญของบริษัทฯ... แล้วมันก็มีเรื่องเถียงกันในคอกพยานอีก...
เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเกิดในประเทศที่เจริญแล้วครับ เพราะเมื่อเกิดเรื่องทำนองนี้มาปุ๊บ ก็จะมีคำพิพากษาวางหลักการเอาไว้แบบขาวขาดดำขาด เมื่อเกิดเรื่องในภายหลังเขาก็อ้างคำพิพากษานั้นไปบังคับใช้กฎหมายได้ง่าย... แต่ประเทศไทยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ"การใช้ภาษาไทย"ครับ... เอาตัวอย่างคำอธิบายและการร้อยเรียงตรรกะจนทำให้มองไม่เห็นภาพรวม แล้วทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นไม่กระจ่าง ก็กรณีอดีตนายกฯท่านหนึ่ง ต้องคำพิพากษาคดีรับผลประโยชน์จากรายการทำอาหารแบบชิมๆบ่นๆ นั่นแหละครับ... ก็มีผู้คนไม่เข้าใจประเด็นในคำพิพากษาว่าหลุดตำแหน่งเพราะแค่ทำอาหารออกทีวี!!!... รายละเอียดอยู่นี่ครับ, นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ กล่าวว่า... ในการวินิจฉัยครั้งนั้น เมื่อตุลาการแถลงคดีด้วยวาจาเสร็จ ก็นำผลดังกล่าวมาเขียนในคำวินิจฉัยกลางออกมานั้น อ่านโดยทันที ซึ่งตรงนี้มีบ้างข้อความที่ไม่ควรเขียนลงไปให้คำวินิจฉัย เลยออกมาดูไม่ดี ดังนั้นในเรื่องของรูปแบบการเขียนคำวินิจฉัยจะต้องร้อยเรียงคำวินิจฉัยให้ถูกต้อง เพราะการเขียนคำวินิจฉัยกลางจะต้องมีการใช้เวลาในการเขียนและตรวจดูถ้อยคำที่สมควรใช้ เลยอาจจะมีความผิดพลาดในส่วนนี้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า เนื้อหาที่วินิจฉัยไปนั้นผิดพลาด... ที่มา... http://www.dailynews.co.th/politics/190838 ... หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ สิงหาคม 21, 2013, 09:31:20 AM นายสมชายสรุปว่า...
ในเมื่อการบังคับใช้กฎหมายมีปัญหา ก็แก้กฎหมายให้มันขาวขาดดำขาดไปเสียเลยก็ดีครับ... หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ สิงหาคม 21, 2013, 10:37:32 AM ใครรวย ท้องที่ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: SEEZ ..รักในหลวง.. ที่ สิงหาคม 21, 2013, 12:05:35 PM ภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพิ่งจะตื่นรึไงเนี้ยะ ::006:: ::006:: ::006::
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 21, 2013, 12:52:42 PM +ทุกท่านครับ
ถ้าไม่ภาครัฐไม่ทำไร คงหมดจริงๆครับ หลายปีนี้หนักมาก ต่อไปคงต้องเรียกเขตปกครองพิเศษของต่างชาติแทน แฮ่ๆ ลูกหลานต่อไปคงก้มหน้าก้มตารับใช้เจ้านายต่างชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ,ทหาร,ข้าราชการ วิ่งรับใช้เจ้านายต่างชาติ แล้วจะรู้สึก ::006:: หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ สิงหาคม 21, 2013, 01:35:18 PM จริงๆ เรื่องนี้นะ กรมที่ดินเองน่าจะมีข้อมูลในมือที่รู้จริงมากที่สุด ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ควรจะมาชี้แจงข้อเท็จจริงในหายสงสัย ส่วนเรื่องชาวต่างชาติแอบซื้อที่ดินในเมืองไทยนะ โดยใช้ชื่อคนไทยแทนบ้าง ชื่อเมียแทนบ้างนะ มีมานานแล้ว ที่สวยๆ ริมทะเลนะไปดูสิอยู่ในมือต่างชาติทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ สิงหาคม 21, 2013, 01:51:46 PM จริงๆ เรื่องนี้นะ กรมที่ดินเองน่าจะมีข้อมูลในมือที่รู้จริงมากที่สุด ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ควรจะมาชี้แจงข้อเท็จจริงในหายสงสัย ส่วนเรื่องชาวต่างชาติแอบซื้อที่ดินในเมืองไทยนะ โดยใช้ชื่อคนไทยแทนบ้าง ชื่อเมียแทนบ้างนะ มีมานานแล้ว ที่สวยๆ ริมทะเลนะไปดูสิอยู่ในมือต่างชาติทั้งนั้น เรื่องนอมินี่ฯ มันไม่ขาวขาดดำขาดเหมือนขับรถยนต์ฝ่าไฟแดงที่ถ่ายรูปเห็นแล้วเถียงไม่ออกครับ... สมมติว่าจะไปห้ามใครทำสัญญานิติกรรมซื้อขายที่ดิน ก็ต้องมีหลักฐานประกอบให้ชัดเจนเสียก่อนว่าเป็นนิติกรรมอำพรางฯ เช่นมีหลักฐานการกู้เงิน(เช่นตามกระทู้นี้) แล้วสัญญาทั้งหลายนี่หากไม่มีหมายศาลไปขอดู เขาก็ไม่ให้ใครดูกันง่ายๆครับ(มันต้องเกิดเรื่องเป็นคดีกันเสียก่อน)... นี่ยังไม่นับเรื่องที่ไม่มีสัญญากู้เงินเป็นหลักฐานเอาไว้ แต่ใช้วิธีอื่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยไม่มีเอกสารหลักฐานด้วยครับ... พวกที่มีทนายเก่งคอยดูแลฯ มันก็จะดูแลทุกอย่างไม่ให้มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเลย(เช่นควบคุมผ่านกลไกบริหารงานบุคคล) แม้แต่รายงานการประชุมบริษัทฯ ก็ไม่ชัดเจน, ตำแหน่งงานในใบอนุญาตทำงานก็เป็นแค่ที่ปรึกษาเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เป็นต้นฯ... หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ สิงหาคม 21, 2013, 02:10:24 PM ที่จริงมีประเด็นเรื่อง"พรบ.ส่งเสริมการลงทุนฯ" ด้วยครับ... อันนี้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แล้วก็มีสภาพเป็นกฎหมายพิเศษฯ ก็คือจะง้างกฎหมายอื่นได้ด้วย โดยปล่อยให้ สนง.คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าทาง BOI เขามีการออกมาตรการควบคุมเอาไว้อย่างไรครับ...
สรุปสาระฯ ในกฎหมาย BOI ก็คือ... ทาง BOI เขาจะพิจารณาว่ามีกิจการประเภทใดที่เป็นประโยชน์แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ แล้วก็อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแบบถือหุ้นได้เกินครึ่ง, โดยจะมีการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนให้ เพื่อรับรองสิทธิตามกฎหมาย... เมื่อได้บัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว ก็ใช้สิทธิข้างในนั้น โดยสิทธิประการหนึ่งคือสามารถถือครองกรรมสิทธิในที่ดินได้ด้วย ในระยะเวลาตามที่กำหนด(โดยปรกติจะได้ตลอดเท่าที่ไม่เลิกกิจการฯ)... แล้วต่างชาติเจ้าของเงินทุนก็สามารถได้ใบอนุญาตทำงานในตำแหน่งกรรมผู้จัดการ(Managing Director) ด้วยครับ... เรื่องกฎหมาย BOI นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งตามกระทู้นี้... หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 21, 2013, 06:00:36 PM ที่จริงมีประเด็นเรื่อง"พรบ.ส่งเสริมการลงทุนฯ" ด้วยครับ... อันนี้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แล้วก็มีสภาพเป็นกฎหมายพิเศษฯ ก็คือจะง้างกฎหมายอื่นได้ด้วย โดยปล่อยให้ สนง.คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าทาง BOI เขามีการออกมาตรการควบคุมเอาไว้อย่างไรครับ... สรุปสาระฯ ในกฎหมาย BOI ก็คือ... ทาง BOI เขาจะพิจารณาว่ามีกิจการประเภทใดที่เป็นประโยชน์แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ แล้วก็อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแบบถือหุ้นได้เกินครึ่ง, โดยจะมีการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนให้ เพื่อรับรองสิทธิตามกฎหมาย... เมื่อได้บัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว ก็ใช้สิทธิข้างในนั้น โดยสิทธิประการหนึ่งคือสามารถถือครองกรรมสิทธิในที่ดินได้ด้วย ในระยะเวลาตามที่กำหนด(โดยปรกติจะได้ตลอดเท่าที่ไม่เลิกกิจการฯ)... แล้วต่างชาติเจ้าของเงินทุนก็สามารถได้ใบอนุญาตทำงานในตำแหน่งกรรมผู้จัดการ(Managing Director) ด้วยครับ... เรื่องกฎหมาย BOI นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งตามกระทู้นี้... ที่ดินเป็นทรัพยากรสำคัญ ถ้าต่างชาติเข้ามาซื้อได้ตามใจชอบ ประเทศเรานิดเดียวในแผนที่โลก อีกหน่อยก็หมดครับ กฎหมายกำหนดให้ต่างชาติซื้อแนวตั้ง ไม่ได้ให้ซื้อแนวราบ แต่ก็ซื้อได้เพราะกฎระเบียบเอื้อ กฎหมายล้าหลัง แต่จริงๆเช็คไม่ยาก เช่น..นายมี นางมา จุจู่เอาเงินมาจากไหน กว้านซื้อที่ดินเป็นร้อยล้าน พันล้าน ทั้งที่ชั่วชีวิตมีเงินฝากแบงค์ไม่กี่หมื่นบาท ::014:: หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: _RANGER_ ที่ สิงหาคม 21, 2013, 09:15:17 PM ผมเคยไปเที่ยวสมุยแถวหาดเฉวง เห็นทางลงไปหาดที่ต้องผ่านรีสอร์ทริมทะเลแห่งก็เลยจะเดินเข้าไป ถูกยามห้ามไม่ให้เข้า คนไทยห้ามเข้า เข้าได้เฉพาะฝรั่ง แค้นใจมาก คิดในใจที่นี่มันไม่ใช่ประเทศไทยแล้วรึไงเนี่ย ::009::
หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: กรรมกร ที่ สิงหาคม 21, 2013, 09:47:04 PM ผมเคยไปเที่ยวสมุยแถวหาดเฉวง เห็นทางลงไปหาดที่ต้องผ่านรีสอร์ทริมทะเลแห่งก็เลยจะเดินเข้าไป ถูกยามห้ามไม่ให้เข้า คนไทยห้ามเข้า เข้าได้เฉพาะฝรั่ง แค้นใจมาก คิดในใจที่นี่มันไม่ใช่ประเทศไทยแล้วรึไงเนี่ย ::009:: เรื่องนี้ ต้องโทษไปถึงไอ้คนที่ปล่อยให้ "ถือครองที่ดิน ติดชายหาด" ทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่แขกเข้าพักในโรงแรมที่อยู่ติดหาด แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นทะเลแล้วครับ เจ้าของที่ดินมัน "วิสาสะ" ยึดเอาทั้งหมด เรื่อยลงไปถึงน้ำทะเลแล้ว (บางโรงแรม เอาทุ่นลอยมากั้นอาณาเขตให้แขกตัวเองเล่นน้ำ) แทนที่จะกั้นระหว่าง หาดกับที่ดินมีเจ้าของ ด้วยถนน นี่มันเอา ที่ดินมีเจ้าของ ปิดทางลงหาด ซึ่งควรจะเป็นที่สาธารณะกันหมด แล้วก็ตั้งเก้าอี้ ตั้งโต๊ะอาหารกันเกลื่อนกลาดอย่างกับสลัม ความสวยงามไม่มีเหลือแล้ว :~) หัวข้อ: Re: ผงะต่างชาติฮุบทีดินไทย 100 ล้านไร่ทั่วภูเก็ต-สมุย ผู้ตรวจฯเสนอกม.ยึดคืน เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ สิงหาคม 21, 2013, 11:15:58 PM +ทุกท่านครับ ผมเชื่อว่าหมดแน่นอน ไม่เกิน10ปีนี้ ถ้ายังไม่มีใครสนใจ ต่อไปลูกหลานเราหมดสิทธิ์เหยียบชายหาดส่วนใหญ่ ต้องจ่ายตังค์เท่านั้น ::014::
|