เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

http://news.ch7.com/detail/15844/%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%99.html

ผ่านมา 4 ปีแล้ว นับแต่รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายควบคุมน้ำหนัก บังคับใช้ทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยกำหนดให้พนักงานอายุ 40 ขึ้นไป  สำหรับผู้ชายมีรอบเอวได้ไม่เกิน 33.5 นิ้ว และผู้หญิง 35.4 นิ้ว แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาตรวจสุขภาพประจำปี กลับปรากฎว่าพนักงานที่มีอายุในช่วงควบคุมราวๆ 44 เปอร์เซ็นต์ มีรอบเอวใหญ่เกินกำหนด จึงต้องหาทางลดขนาดรอบเอวให้ได้

               หากขนาดรอบเอวใครไม่ผ่านเกณฑ์ในการตรวจครั้งแรกและครั้งที่ 2 จะต้องเข้าอบรมภาคบังคับ แต่ถ้ายังไม่สามารถลดรอบเอวลงได้  รัฐบาลจะใช้มาตรการเด็ดขาดถึงขั้นใช้บทลงโทษทางการเงินกับองค์กรและบุคคลนั้นๆ เลยทีเดียว

               อย่างชายคนที่สูง 1 เมตร 85 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 103 กิโลกรัม เมื่อใกล้ถึงเวลาตรวจสุขภาพ จึงตัดสินใจใช้บริการของคลินิกลดสัดส่วน  ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม และรับประกันผลทันตาเห็น  แต่กลับต้องแลกด้วยเงินเกือบ 200,000 บาท เพื่อลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัม

               แม้สัดส่วนประชากรที่เป็นโรคอ้วนของญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น   แต่สำหรับรัฐบาลที่มุ่งลดอัตราผู้เป็นโรคอ้วนลง 25 เปอร์เซ็นต์ ในอีก 3 ปี กลับเป็นตัวเลขที่สะท้อนว่าพฤติกรรมการบริโภคของชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนไปจนเข้าขั้นวิกฤติ  สาเหตุมาจากการรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา โดยเฉพาะอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งเป็นอาหารหนัก และไม่ถูกหลักโภชนาการ รวมถึงกระแสการสั่งอาหารจานพิเศษหรือใหญ่พิเศษ ที่พบเห็นตามร้านอาหารทั่วไปเองอีกด้วย


เรื่องนี้เป็นความจริงหรือครับ หากจริง มันไม่แปลกๆไปหน่อยหรือที่ประเทศที่พัฒนาแล้วขนาดนี้ มีกฏหมายละเมิดสิทธิมนุษยชนขนาดนี้
ได้ข่าวว่าในประเทศเจริญแล้วอื่นๆเช่นอเมริกาหรือเยอรมัน หากเราเห็นคนอ้วนหรือคนพิการ แล้วเราไปล้อเลียนเขา นี่มีโทษถึงขั้นจำคุกเลยนี่ครับ

แล้วไอ้ที่อ้วนๆในหนังที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเขา 3-4คนที่เจอบ่อย ไม่โดนปรับอานเรอะ

เคยได้ยินแต่ห้ามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดให้รถไฟฟ้าทับ ญาติโดนอานเลย   ::014::

อยู่ที่ว่ากล้าไปปรับยากูซ่าถึงในสำนักงานหรือเปล่าครับ

55555555

อันนี้ไม่แปลกครับ มันเดือดร้อนชาวบ้าน

-นิวซีแลนด์..มี กม.นี้ เขาว่าเป็นภาระของรัฐบาลต้องรักษาโรคต่าง ๆ ที่ความอ้วนนำมา 
-สิทธิในร่างกายเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์น่าจะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ..น่าแปลกใจที่ชาติเจริญแล้วมี กม.นี้   

แล้วซูโม่ ที่ญี่ปุ่น ไม่ตกงานรึครับ

แต่ผมเห็นด้วยนะที่ มีประเทศเราน่าจะมี กฎหมายไว้ควบคุม กับให้ประชากรตื่นตัวในการดูแลตัวเอง
แทนที่จะบริโภคตามใจปากหรือใช้ชีวิตแบบไม่ระวัง แล้วพอมีโรคหรือเจ็บป่วยแล้ว เงินประกันก็ไม่พอ
ค่ารักษาพยาบาลและยาในอนาคต คิดว่าไม่ถูกแน่นอนครับ

ผมว่ามันเข้าข่ายละเมิดสิทธิฯนะครับ ;D

ไทยเราก้าวหน้ากว่า กินเหล้าจนเลือกตกในช่องท้องก็รักษาฟรี กลับไปกินเหล้าป่วยมาอีกก็รักษาฟรี
สูบบุหรี่ถุงลมโป่งพอง ก็รักษาฟรี  กินยาขับตกเลือดมาก็ขูดมดลูกฟรี
แว๊นมา หน้าแหกขาหัก ดามฟรี   หัวฟาดก็ผ่าสมองฟรี

ลูกหลานมีพ่อแก่แม่เฒ่าก็ไม่ต้องห่วง เอาไปทิ้งที่รพ.รัฐ ยาฟรี กินฟรี นอนฟรี ขี้เยี่ยวก็มีคนเช็ดแทนให้

5 5  :~)