เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 10, 2013, 07:32:59 PM



หัวข้อ: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 10, 2013, 07:32:59 PM
เพิ่งหัดขับรถมาบ้างครับจากเกียร์ธรรมดารถกระบะ2500cc ไปดูปัญหาที่ถกกันในหลายๆเวปแล้วผมยังฟันธงไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่ากันแบบขาดๆ หลายคนว่าออโต้จุกจิกน้อยกว่า เพราะบอกว่ารถซื้อมาพร้อมกัน ใช้ได้100000โลก็ต้องยกชุดคลัทใหม่แล้ว สว่นออโต้ใช้มาสิบกว่าปีถ่ายแต่น้ำมันเกียร์ตามระยะ ไม่รู้จะเชื่อใครดีครับ แต่ที่แน่ๆออโต้เหมาะสำหรับในเมืองกับรถตัวสั้นๆเล็กๆที่ไม่เน้นแรงมาก และเกียร์ธรรมดาก็ออกตัวคมดี


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2013, 07:41:07 PM
ผมขับกระบะเครื่อง 2500 ซีซี เกียร์ออโต้ บรรทุกหนักทุกวัน 3 แสนกว่ากิโล ก็ยังวิ่งฉลุยครับ ดังนั้นถ้าเรื่องความทนทานไม่เป็นรองเกียร์กระปุกครับ... ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: artami ที่ กันยายน 10, 2013, 07:48:00 PM
ผมว่าเกียร์ธรรมดาครับ ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน่าจะน้อยกว่านะ ทำให้การสึกหรอมีน้อยกว่า แต่อยู่ที่การดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและอื่นๆด้วย


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 10, 2013, 07:56:31 PM
ตอนนี้ผมยังเชื่อเกียร์ธรรมดาอยู่ครับ อาจเป็นเพราะไม่เคยใช้ออโต้  แต่พอเห็นออโต้คลัทคู่ของฟอร์ดทำอัตราเร่งได้เก่งกว่าเกียร์ธรรมดา และไม่เสียเวลาชะงักในช่วงการเปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดาของฟอร์ดเองก็ชักหวั่นไหว อยากทราบว่าออโต้คลัทคู่มันใช้งาน การบำรุงรักษาต่างจากออโต้แบบทั่วไปยังงัยบ้างครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2013, 08:16:59 PM
        เดี๋ยวจุดธูปเรียก
แฟนพันแท้ ควอร์ต  มาตอบ ครับ ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: BronzeStar-รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2013, 08:38:17 PM
30ปีก่อนเป็นยุครอยต่อหัวฉีดกับคาร์บู
10ปีก่อนน่าเป็นยุครอยต่อออโต้กับเกียร์กระปุก อีกไม่นานสัดส่วนออโต้เกิน80% แน่นอน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 10, 2013, 08:43:46 PM
สำหรับรถเกียร์ออโต้มีข้อดีแยะกว่าเกียร์ธรรมดาครับ, จะออกตัว จะเร่ง จะเบรคมันจัดการแทนเราหมด เหลือแต่ประคองพวงมาลัยกับเหยีบคันเร่งเท่านั้นครับ... จังหวะเข้าออกเลน จังหวะจิกเข้าโค้งฯ และเชิดหัวออกจากโค้งเกียร์ธรรมดาสู้ไม่ได้ทุกกรณีครับ ยิ่งได้เกียร์ออโต้แบบใช้มือกระดิกตรงคอพวงมาลัยแล้วด้วย ยิ่งแม่นยำและกระชับไปใหญ่ครับ...

เกียร์ธรรมดาจะได้เปรียบกรณีเดียวคือพวกขับรถแข่งต้องการเปลี่ยนเกียร์ผิดธรรมชาติ เพราะต้องการเลี้ยงรอบ/แรงบิดเฉพาะกิจครับ... ซึ่งเอาเข้าจริงๆ สมองกลรุ่นใหม่ๆมันก็ทำได้อีกแหละ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 10, 2013, 08:48:11 PM
รถนายสมชายอัลติสบ้านๆ รุ่นปี 2001 ขับมันแค่แป๊บเดียวมันจำได้หมดว่าเราเคยเบรคตอนลงสะพานลอย... สะพานลอยถัดไปฯ มันเปลี่ยนเกียร์ช่วยเบรคครับ...

ถ้าไม่อยากให้มันทำอย่างเดิม เวลามันเปลี่ยนเกียร์ช่วยเบรค เราก็กระดิกคันเร่งให้มันเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้น... สะพานลอยถัดไปมันไม่เปลี่ยนเกียร์ช่วยเบรคแล้วครับ มันฉลาดจะตาย...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 10, 2013, 08:48:50 PM
30ปีก่อนเป็นยุครอยต่อหัวฉีดกับคาร์บู
10ปีก่อนน่าเป็นยุครอยต่อออโต้กับเกียร์กระปุก อีกไม่นานสัดส่วนออโต้เกิน80% แน่นอน


Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" ใช่เลยอ่ะ ฮา

เถียงกันตั้งแต่  ขับหน้า ขับหลัง ฮา
ยายไม่นึกว่า พ.ศ. นี้ พี่ ปิศาจรีปอตเตอร์ จะมาถามออโต กับธรรมดาอ่ะ ฮา
ตอนนี้ หรือเร็วๆนี้  มนุษย์ แทบจะไม่ต้องขับ แล้วอะ
จะมี "สมองกล"  ทำงานแทนอ่ะ ฮา

แล้วยิ่งเดินไปอีกสัก สิบปี ฮา

5555 ยายคิดว่า  รถยนต์ มันไม่ได้วิ่งอยู่บนถนนแล้วอ่ะ ฮา

๕๕๕๕  กลับไป ขี่เกวียน เห๊อะ อ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: หัวโบราณ ที่ กันยายน 10, 2013, 09:10:06 PM
อย่างว่าครับ เกียร์ธรรมดาเหมาะกับการใช้ผิดธรรมชาติ

เช่น พวกขับสมบุกสมบัน ขึ้นเขาลงห้วย จึงทำให้ครัทหมดไว

ต่อให้การใช้งานปกติการเปลี่ยนเกียร์ของเกียร์กระปุก

ก็ยังมีแรงกระชากมากกว่าออโต  จึงทำให้ครัทหมดไว ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ConsTRucT ที่ กันยายน 10, 2013, 09:15:35 PM
น่าจะอยู่ที่การใช้งานด้วยครับ  ถ้าใช้งานหนักๆ รับแรงบิดสูงๆ เกียร์ธรรมดาน่าจะคงทนกว่า 



หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กันยายน 10, 2013, 09:21:45 PM
อย่าคิดมากเลยครับถ้า35upใช้ออโต้ดีกว่า  เอ้าจริงๆนาสมัยก่อนผมทั้งพวงมาลัยธรรมดา  เกียร์ธรรมดา  เดี๋ยวนี้จ้างก็ไม่เอาที่พูดว่าสึกหรอมากกว่า  อะไรก็ว่าไปปีนึงจะกี่บาทกัน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Hang Forever ที่ กันยายน 10, 2013, 09:32:31 PM
อยากใช้เกียร์ออโตเมติก แต่ไม่มีเงินซื้อครับ... ดีหน่อยตรงที่ ผม 35 down  นะเสี่ยเล็ก อิอิ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อิติปิโสธงชัย รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2013, 09:46:11 PM
 ::011::โคโรลาโด 4ประตู 4X4ออโต้ผม จะ8ปีเเล้ว ก็ยังใช้งานได้ปรกติ ลองใช้ปิคอัพเกียร์ออโต้คันเเรกเลยครับ บำรุงรักษาตามกำหนดผมว่ามันทนดีนะ ::011:: ::011:: ::011:: ::011::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 10, 2013, 09:52:26 PM
เห็นแนวโน้มเกียร์ธรรมดาจะสูญพันธุ์เสียแล้วสิครับ อีหน่อยเก๋งตลาดคงไม่มีทำเกียร์ธรรมดาอีกแล้ว


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 10, 2013, 10:06:57 PM
เคยดูสารคดี discovery เรื่องcar force one ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นต้องใช้เกียร์ธรรมดา ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ice2546 ที่ กันยายน 10, 2013, 10:51:46 PM
ออโต้อีกเสียงครับ ใช้มาจะ 1 ปี แล้วครับ ขับสบายกว่าเกียร์ธรรมดาเยอะครับ  ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 10, 2013, 11:07:46 PM
เกียร์กระปุกขับสนุก  ยิ่งพวก Off-Ro@d ด้วยแล้ว สนุกมันส์มาก แต่ครัชจะไปก่อน

แต่ขับสบาย ต้อง เกียร์ออโต ยิ่งขับในเมือง รถติด ในยุคนี้ ต้องเขาละ .   ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กันยายน 11, 2013, 12:05:45 AM
ในเมืองหลวง รถติดบ่อย ก็ ออโต สบายกว่า
ไม่ต้อง เหยียบคลัช เหยียบเบรค เหยียบคันเร่ง
เกียร์กระปุก อยู่ที่การลากรอบ
ความเร้าใจ ต่างกัน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 12:20:24 AM
เคยดูสารคดี discovery เรื่องcar force one ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นต้องใช้เกียร์ธรรมดา ;D

เขาเรียก"เดอะบีสต์"ครับพี่จอย... :D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 12:46:39 AM
ถ้าตามหัวข้อผมว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้ความทนทานพอๆกัน ยกเว้นการใช้งานผิดวิธี


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: bingo 38 ที่ กันยายน 11, 2013, 01:56:22 AM
ถ้าใช้งานปกติ ไม่แน่ใจครับว่าแบบไหนอึดกว่า แต่มันจะมีขีดจำกัดตรงที่ว่า แบบไหนจะผ่านอุปสรรคไปได้รอด อย่างเช่น ลุยน้ำที่ลึกๆหน่อย ถ้าน้ำเข้าเกียร์ได้ เกียร์ธรรมดายังทนไหว เกียร์ออโตมีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยว(ทุกวันนี้เยอะมาก) อาจต้องซ่อมกันเยอะหน่อย แต่คงไม่เจอน้ำลึกๆบ่อยๆหรอกครับ เป็นเพียงความเห็นน่ะครับ (ประสบการณ์ ปี 54) แฮะๆ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 11, 2013, 04:58:22 AM
อย่าคิดมากเลยครับถ้า35upใช้ออโต้ดีกว่า  เอ้าจริงๆนาสมัยก่อนผมทั้งพวงมาลัยธรรมดา  เกียร์ธรรมดา  เดี๋ยวนี้จ้างก็ไม่เอาที่พูดว่าสึกหรอมากกว่า  อะไรก็ว่าไปปีนึงจะกี่บาทกัน

รถมันติด ;D ;D ;D เมื่อย

ถ้าเอาสบายต้องออโต้


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 11, 2013, 05:28:07 AM
มีใช้ทั้งสองแบบครับ แล้วแต่ว่าจะไปไหน สบายตัวก็อัติโนมัติ มั่นใจก็แมนนวล
ความทนทานคงไม่ต่างเพราะใช้ตามสภาพ เอาอัตโนมัติไปลุยหนักคงสู้แมนนวลไม่ได้

ถ้าต้องซ่อมทั้งคู่แมนนวลยกคลัทช์ยกเกียร์ค่าใช้จ่ายถูกกว่าอัติโนมัติสามสี่เท่า


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กันยายน 11, 2013, 07:10:32 AM
(http://www.sakrovishte.com/wp-content/uploads/8113.jpg)

รุ่นนี้ครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องเกียร์,ยางหน้ากว้างมากกกกก


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 11, 2013, 07:16:00 AM
30ปีก่อนเป็นยุครอยต่อหัวฉีดกับคาร์บู
10ปีก่อนน่าเป็นยุครอยต่อออโต้กับเกียร์กระปุก อีกไม่นานสัดส่วนออโต้เกิน80% แน่นอน


Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" ใช่เลยอ่ะ ฮา

เถียงกันตั้งแต่   "ขับหน้า ขับหลัง"  ฮา
ยายไม่นึกว่า พ.ศ. นี้ พี่ ปิศาจรีปอตเตอร์ จะมาถามออโต กับธรรมดาอ่ะ ฮา
ตอนนี้ หรือเร็วๆนี้  มนุษย์  แทบจะ  "ไม่ต้องขับ"  แล้วอะ
จะมี "สมองกล"  ทำงานแทนอ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

แล้วยิ่งเดินไปอีกสัก   "สิบปี  ยี่สิบปี"  ฮา
ยายคาดว่า  รถยนต์ มัน  "ไม่ได้วิ่ง"  อยู่บนถนนแล้วอ่ะ ฮา

๕๕๕๕  กลับไป  "ขี่เกวียน"  เห๊อะ อ่ะ ฮา

(http://www.sakrovishte.com/wp-content/uploads/8113.jpg)

รุ่นนี้ครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องเกียร์,ยางหน้ากว้างมากกกกก


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ กันยายน 11, 2013, 07:35:10 AM
หากขับทางไกล เกียร์ธรรมดาสนุก และได้ใช้ส่งกำลังหรือช่วยชลอความเร็ว ได้ดีกว่าเกียร์ออโต้
หากขับในเมือง เกียร์ออโต้สะดวก แต่การสึกหรอมากกว่า
ผมว่าเกียร์ธรรมดา น่าจะทนกว่า แต่เนื่องจากเทคโนโลยี่และความนิยม ต่อไปคงหาที่ซ่อมยากขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 11, 2013, 09:06:38 AM
เคยดูสารคดี discovery เรื่องcar force one ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นต้องใช้เกียร์ธรรมดา ;D

เขาเรียก"เดอะบีสต์"ครับพี่จอย... :D
เรียกไม่ถูกเลยคิดว่าน่าจะเรียก คาร์............ครับคุณหมอ ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ กันยายน 11, 2013, 09:08:21 AM
ตอนน้ำท่วมผมใช้กระบะออโต้ยกสูงลุยน้ำ  ดีกว่าเกียร์ธรรมดาตรงที่ไม่มีชุดครัชให้โดนน้ำแล้วพัง รถที่บ้านพอน้ำแห้งพวกเกียร์ธรรมดาโดนไปหลายบาท


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 11, 2013, 09:15:44 AM
เกียร์ธรรมดาอีก10ปีจะสูญพันธุ์ไหมครับกับรถใช้งานทั่วไป


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 11, 2013, 09:20:28 AM
หากขับทางไกล เกียร์ธรรมดาสนุก และได้ใช้ส่งกำลังหรือช่วยชลอความเร็ว ได้ดีกว่าเกียร์ออโต้
หากขับในเมือง เกียร์ออโต้สะดวก แต่การสึกหรอมากกว่า
ผมว่าเกียร์ธรรมดา น่าจะทนกว่า แต่เนื่องจากเทคโนโลยี่และความนิยม ต่อไปคงหาที่ซ่อมยากขึ้นครับ

ประสบการณ์นายสมชายตรงข้ามเลยครับ... เรื่องลากเกียร์เอาแรงบิด หรือเปลี่ยนเกียร์ช่วยเบรคนี่เกียร์ออโต้มันง่ายกว่าและควบคุมได้ดังใจดีกว่าครับ, เอาคันที่นายสมชายใช้อยู่เป็นรุ่นเก่าแล้ว(อัลติส 1.6 ปี 2001) เวลาขับทางไกลลงเนินมันก็ช่วยเบรคให้เมื่อเราแตะเบรคนิดนึงครับ แล้วเวลาขึ้นเนินฯ หากต้องการให้มันลากเกียร์ให้ก็กดคันเร่งลึกหน่อย มันก็ลากรอบให้ครับ, เวลาขับทางไกลเราเลยลืมเรื่องใช้เกียร์ช่วยเบรคไปเลย เพราะมันจัดการให้เราอัตโนมัติครับ...

ที่นายสมชายพบเองกับคนอื่นที่บ่นว่าเกียร์ออโต้มันไม่ค่อยฉลาด ก็มักเป็นเพราะคนขับไม่ได้ขับอย่างเดิมสม่ำเสมอให้เกียร์มันจำพฤติกรรมได้น่ะครับ ตัวอย่างเช่นลงเนินครั้งแรกแตะเบรค(เกียร์มันช่วยเบรคให้) แต่พอลงเนินครั้งต่อไปเขย่าคันเร่งให้มันเปลี่ยนเกียร์สูง(เพราะเกียร์มันช่วยเบรคเวลาที่เราไม่ต้องการ)... พอเนินอีกครั้งนึงเกียร์มันเลยเอ๋อๆ ครับ, ในรถรุ่นใหม่เขาก็เลยมี แป้นกระดกตรงคอพวงมาลัยให้คนขับบังคับเกียร์ตามใจ...

ประสบการณ์ตรงอีกเรื่องนึงก็คือ เวลานายสมชายขับรถเมีย(Optra 1.8 LT) ขึ้นนั่งขับช่วงแรกๆของวันนั้นจะอึดอัดไปได้ประมาณ 1 สี่แยกเสมอๆ เพราะเกียร์ไม่ไม่ค่อยขยับขึ้นสูงให้ ต้องคอยเขย่าคันเร่งช่วย ไม่งั้นเกียร์มันจ้องจะเปลี่ยนขึ้นให้ที่รอบประมาณ 3000 รอบ ซึ่งนายสมชายไม่ชอบ และนายสมชายชอบเลี้ยงรอบแถว 1000 นิดๆเพื่อประหยัดน้ำมันครับ... ทั้งนี้เพราะเมียนายสมชายขับรถชอบลากรอบฯ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ กันยายน 11, 2013, 10:04:24 AM
หากขับทางไกล เกียร์ธรรมดาสนุก และได้ใช้ส่งกำลังหรือช่วยชลอความเร็ว ได้ดีกว่าเกียร์ออโต้
หากขับในเมือง เกียร์ออโต้สะดวก แต่การสึกหรอมากกว่า
ผมว่าเกียร์ธรรมดา น่าจะทนกว่า แต่เนื่องจากเทคโนโลยี่และความนิยม ต่อไปคงหาที่ซ่อมยากขึ้นครับ

ประสบการณ์นายสมชายตรงข้ามเลยครับ... เรื่องลากเกียร์เอาแรงบิด หรือเปลี่ยนเกียร์ช่วยเบรคนี่เกียร์ออโต้มันง่ายกว่าและควบคุมได้ดังใจดีกว่าครับ, เอาคันที่นายสมชายใช้อยู่เป็นรุ่นเก่าแล้ว(อัลติส 1.6 ปี 2001) เวลาขับทางไกลลงเนินมันก็ช่วยเบรคให้เมื่อเราแตะเบรคนิดนึงครับ แล้วเวลาขึ้นเนินฯ หากต้องการให้มันลากเกียร์ให้ก็กดคันเร่งลึกหน่อย มันก็ลากรอบให้ครับ, เวลาขับทางไกลเราเลยลืมเรื่องใช้เกียร์ช่วยเบรคไปเลย เพราะมันจัดการให้เราอัตโนมัติครับ...

ที่นายสมชายพบเองกับคนอื่นที่บ่นว่าเกียร์ออโต้มันไม่ค่อยฉลาด ก็มักเป็นเพราะคนขับไม่ได้ขับอย่างเดิมสม่ำเสมอให้เกียร์มันจำพฤติกรรมได้น่ะครับ ตัวอย่างเช่นลงเนินครั้งแรกแตะเบรค(เกียร์มันช่วยเบรคให้) แต่พอลงเนินครั้งต่อไปเขย่าคันเร่งให้มันเปลี่ยนเกียร์สูง(เพราะเกียร์มันช่วยเบรคเวลาที่เราไม่ต้องการ)... พอเนินอีกครั้งนึงเกียร์มันเลยเอ๋อๆ ครับ, ในรถรุ่นใหม่เขาก็เลยมี แป้นกระดกตรงคอพวงมาลัยให้คนขับบังคับเกียร์ตามใจ...

ประสบการณ์ตรงอีกเรื่องนึงก็คือ เวลานายสมชายขับรถเมีย(Optra 1.8 LT) ขึ้นนั่งขับช่วงแรกๆของวันนั้นจะอึดอัดไปได้ประมาณ 1 สี่แยกเสมอๆ เพราะเกียร์ไม่ไม่ค่อยขยับขึ้นสูงให้ ต้องคอยเขย่าคันเร่งช่วย ไม่งั้นเกียร์มันจ้องจะเปลี่ยนขึ้นให้ที่รอบประมาณ 3000 รอบ ซึ่งนายสมชายไม่ชอบ และนายสมชายชอบเลี้ยงรอบแถว 1000 นิดๆเพื่อประหยัดน้ำมันครับ... ทั้งนี้เพราะเมียนายสมชายขับรถชอบลากรอบฯ...

ผมว่าเป็นที่คนขับรถแต่ละคนนั้นๆว่าจะขับรถที่ใช้ประจำคล่องหรือว่ารู้จังหวะเครื่องยนต์นั้นเป็นอย่างดีครับ 
ส่วนตัวผมอาจจะชอบตัดสินใจเองมากกว่าไว้ใจหรือฝากไว้กับการทำงานของเครื่องหรือระบบรถนั้นๆครับ
หรืออาจจะเป็นเพราะผมขับออโต้ไม่เก่งก็ได้ครับ 555


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 10:12:38 AM
ขับเกียร์ออโต้ทางไกลๆทีไร...จะพาให้หลับทุกที...มันสบายเกิน...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: หนานมา ที่ กันยายน 11, 2013, 10:56:30 AM
สำหรับผมแล้ว มันทนพอๆกันครับ อัตราเร่งก้อน่าจะใกล้เคียงกัน
ผมใช้รถรุ่นเดียวกัน สองคัน คันแรกเป็นเกียร์ธรรมดา ตอนนี้ไปอยู่กับน้องสาวต่างจังหวัด
คันที่สองใช้อยู่ปัจจุบัน เกียร์ออโต้ สิ่งที่ต่างกันก้อคือ เรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงครับ
เกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า

ส่วนเรื่องการที่จะให้ลากรอบ หรือ เครื่องช่วยเบรคหรือไม่ นั้นก้อขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ครับ
รถที่ผมใช้ มีโหมดนี้ให้กดที่หัวเกียร์ และยังมีโหมด ลุยหิมะ หรือ โหมดลุยโคลนที่ข้างๆโคนคันเกียร์ อีกหนึ่งอัน  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 11, 2013, 11:09:38 AM
ถ้าเอาแต่ประเด็นเรื่องทน

 ผมยืนยันฟันธงเลยว่า เกียร์ธรรมดา ยังไงๆก็ทนกว่าทุกกรณี

ในชีวิตผมขับรถมาห้าคัน รวมๆกิโลน่าจะล้านกว่าแล้ว

เหยียบเกียร์ออโต้กระจายคาเท้ามาสองลูกแล้ว

เมื่อซื้อรถใหม่ผมเจาะจงเลยว่า ต้อง เกียร์ธรรมดา เท่านั้น

เกียร์ออโต้ ไม่พอจะรองรับการขับและทีนของผมได้หรอกครับ

ขนาดรถเกียร์ออโต้ของผมที่พัง ผมยังเอา เกียร์ธรรมดา ยัดลงไปเลยครับ

แต่ที่อยากได้ลองขับจริงๆคือ เกียร์ธรรมดาแบบออโต้ ครับ คือหมายถึง เกียร์ที่มีกลใกเฟืองขับในแต่ละเกียร์ต่างๆเป็นเกียร์ธรรมดา
เฉพาะการเปลี่ยนเกียร์เท่านั้นที่เป็นออโต้ ซึ่งในปัจจุบันมีหลายๆยี่ห้อทำแล้ว
เช่น ทวินคลัทของ ฟอร์ด / PDK ของปอร์เช่ (ไม่ใชทิพโทรนิคนะ คนละอย่างกัน) DSG ของบีเอ็ม หรือโฟล์ค จำไม่ได้แล้ว
 


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กันยายน 11, 2013, 11:16:32 AM

ลูกโม่กับออโตฯแบบไหนทนกว่าครับ



แซวเล่ง(เล่น)  ^_^


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ กันยายน 11, 2013, 11:25:31 AM
 

                    ว่าตามพี่ดุลย์ด้วยคนครับ .....  ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ กันยายน 11, 2013, 11:52:15 AM
ถ้าเอาแต่ประเด็นเรื่องทน

 ผมยืนยันฟันธงเลยว่า เกียร์ธรรมดา ยังไงๆก็ทนกว่าทุกกรณี

ในชีวิตผมขับรถมาห้าคัน รวมๆกิโลน่าจะล้านกว่าแล้ว

เหยียบเกียร์ออโต้กระจายคาเท้ามาสองลูกแล้ว

เมื่อซื้อรถใหม่ผมเจาะจงเลยว่า ต้อง เกียร์ธรรมดา เท่านั้น

เกียร์ออโต้ ไม่พอจะรองรับการขับและทีนของผมได้หรอกครับ

ขนาดรถเกียร์ออโต้ของผมที่พัง ผมยังเอา เกียร์ธรรมดา ยัดลงไปเลยครับ

แต่ที่อยากได้ลองขับจริงๆคือ เกียร์ธรรมดาแบบออโต้ ครับ คือหมายถึง เกียร์ที่มีกลใกเฟืองขับในแต่ละเกียร์ต่างๆเป็นเกียร์ธรรมดา
เฉพาะการเปลี่ยนเกียร์เท่านั้นที่เป็นออโต้ ซึ่งในปัจจุบันมีหลายๆยี่ห้อทำแล้ว
เช่น ทวินคลัทของ ฟอร์ด / PDK ของปอร์เช่ (ไม่ใชทิพโทรนิคนะ คนละอย่างกัน) DSG ของบีเอ็ม หรือโฟล์ค จำไม่ได้แล้ว
 



เกียร์ธรรมดาใส่เกียร์ยากครับ ออโต้ดีกว่าครับ รอบ 2000 กว่า เปลี่ยนได้เลยไม่ต้องลดคันเร่ง ถ้าเกียร์ธรรมดาต้องลดคันเร่ง เหยียบคลัทซ์ แล้วพยายามยัดเกียร์เข้าไป หนักครับ ยิ่งถ้าเครื่องที่ 500 แรงม้าขึ้นไป ส่วนใหญ่เกียร์อัตโนมัติครับ



ไม่ใช่รถครับ มันคือเครื่องจักรที่ผมใช้งานนะครับ เกียร์ออโต้น่าใช้กว่าเยอะครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ กันยายน 11, 2013, 02:28:50 PM
ผมเห็รว่า ถ้าดูแลดี ๆ ตามคู่มือ จะเกียร์ออโต หรือเกียร์กระปุก ก็ทนพอกันครับ

แต่ค่าซ่อม ค่าเปลี่ยนต่างหาก ที่ราคาต่างกัน ..... ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 11, 2013, 02:38:32 PM
ที่นายสมชายเห็นว่าเกียร์ออโต้เหนือกว่าเกียร์ธรรมดาอย่างมากก็คือเราไม่ต้องคิดครับ มือว่างอีกหนึ่งข้าง เท้าว่างอีกหนึ่งข้าง แค่ประคองพวงมาลัยแล้วคอยหันให้เข้าจังหวะกับคันเร่ง... ที่เหลือระบบอัตโนมัติมันทำงานให้เองครับ สมองปลอดโปร่งมาก...

สมัยก่อนนายสมชายขับรถเกียร์ธรรมดา เอาแค่โฉบออกซ้ายย้ายเลนให้ตรงจังหวะนี่เล่นเอาเหนื่อยแล้วครับ ไหนจะเปลี่ยนเกียร์ให้ได้รอบที่มีแรงบิด เวลาโยกออกไปแล้วก็ต้องเปลี่ยนเกียร์ซ้ำเพื่อตบรอบเครื่องลงต่ำก่อนเร่งหนีคันหลัง... แต่ถ้าเป็นเกียร์ออโต้นี่คอยกระดิกเท้าให้เกียร์มันเปลี่ยนขึ้นลงตามที่ต้องการแค่ครั้งสองครั้งครับ สักพักเดียว(ขับอีกไม่กี่ กม.) เกียร์มันไล่รอบเครื่องให้เราเองครับ นี่นายสมชายพูดถึงรถอัลติส 1.6 สเปคบ้านๆ นะครับ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ กันยายน 11, 2013, 02:53:04 PM
ขอตอบแบบคนว่างงานเฝ้าหน้าจอทั้งวัน  ใครถามไรมาตอบได้โม๊ด ดังนี้
ทนเหมือนกันกันครับ เพราะถูกออกแบบมาให้พังในเวลาไม่เกินห้าปี อย่างเก่งสิบปี  โลหะไม่พังนะครับ โพลิเมอร์และยางสังเคราะห์ไปก่อนเลย  คงไม่ต้องบอกมั๊งครับว่าไมเป็นงั้น
จอดเฉยๆยังพังเร้ยยย


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 11, 2013, 02:57:09 PM
ปัญหาของเกียร์ออโตคือ ช่าง ไม่ค่อยสนใจจะซ่อมหรือหาความรู้สักเท่าไร มีรถหลายคันนะถูกยกเปลี่ยนเกียร๋ไปเพราะวิเคราะห์ไม่ออก เลยแนะลูกค้ายกเชียงกงมาลงง่ายๆ ความจริงเกียร์ออโตสมัยนี้ซ่อมง่ายเทสง่ายกว่าเมื่อก่อน เมื่อสี่เดือนก่อนช่วยกันรุมเช็คไปคันหนึ่ง Mazda Protégé 2.0 GT เปิด Shop manual ทำกันเลยปรากฎว่า error code แจ้งว่า sensor ปีกผีเสื้อมีปัญหาพอไล่ตามคุู่มือถึงเข้าใจว่า กล่องใช้ระดับคันเร่งมาประกอบการสั่งเปลี่ยนเกียร์้ด้วยพอล้างขั้วเสียบ sensor และปลั๊กสํญญาณต่างๆจบเลยวิ่งปร๋อ เกือบจะโดนช่างเดาทั้งหลายยกเปลี่ยนเกียร์ซะแล้วแม้แต่ช่างศูนย์ก็เถอะมี Shop manual อยู่ใกล้มือไม่อ่านไม่ศึกษา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กันยายน 11, 2013, 02:58:56 PM
ขอตอบแบบคนว่างงานเฝ้าหน้าจอทั้งวัน  ใครถามไรมาตอบได้โม๊ด ดังนี้
ทนเหมือนกันกันครับ เพราะถูกออกแบบมาให้พังในเวลาไม่เกินห้าปี อย่างเก่งสิบปี  โลหะไม่พังนะครับ โพลิเมอร์และยางสังเคราะห์ไปก่อนเลย  คงไม่ต้องบอกมั๊งครับว่าไมเป็นงั้น
จอดเฉยๆยังพังเร้ยยย

ไม่น่าใช่ทั้งหมดนะครับพี่

Toyota Hilux Hero เกียร์ธรรมดาวิ่งไปเก้าแสนกิโลเมตรกว่าๆ ( รถประมาณ20ปี ) เกียร์ยังปกติ

Honda CR-V เกียร์ออโตวิ่งไปแสนเจ็ดหมื่นกิโลเมตรกว่าๆ ( รถ 10 ปี ) เกียร์ยังปกติ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ กันยายน 11, 2013, 03:17:31 PM
เค้
ขอตอบแบบคนว่างงานเฝ้าหน้าจอทั้งวัน  ใครถามไรมาตอบได้โม๊ด ดังนี้
ทนเหมือนกันกันครับ เพราะถูกออกแบบมาให้พังในเวลาไม่เกินห้าปี อย่างเก่งสิบปี  โลหะไม่พังนะครับ โพลิเมอร์และยางสังเคราะห์ไปก่อนเลย  คงไม่ต้องบอกมั๊งครับว่าไมเป็นงั้น
จอดเฉยๆยังพังเร้ยยย

ไม่น่าใช่ทั้งหมดนะครับพี่

Toyota Hilux Hero เกียร์ธรรมดาวิ่งไปเก้าแสนกิโลเมตรกว่าๆ ( รถประมาณ20ปี ) เกียร์ยังปกติ

Honda CR-V เกียร์ออโตวิ่งไปแสนเจ็ดหมื่นกิโลเมตรกว่าๆ ( รถ 10 ปี ) เกียร์ยังปกติ
เค้าตอบผิด เค้าขอโทษ  หมายถึงเกียร์เจนเนอเรชั่นใหม่ๆที่ลดคอสครับ  อย่าไปเทียบกับช้างเหยียบ ม้ากระโดด หริอซันนี่ซิตี้บอยนะ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 11, 2013, 03:20:18 PM
ขอตอบแบบคนว่างงานเฝ้าหน้าจอทั้งวัน  ใครถามไรมาตอบได้โม๊ด ดังนี้
ทนเหมือนกันกันครับ เพราะถูกออกแบบมาให้พังในเวลาไม่เกินห้าปี อย่างเก่งสิบปี  โลหะไม่พังนะครับ โพลิเมอร์และยางสังเคราะห์ไปก่อนเลย  คงไม่ต้องบอกมั๊งครับว่าไมเป็นงั้น
จอดเฉยๆยังพังเร้ยยย

ไม่น่าใช่ทั้งหมดนะครับพี่

Toyota Hilux Hero เกียร์ธรรมดาวิ่งไปเก้าแสนกิโลเมตรกว่าๆ ( รถประมาณ20ปี ) เกียร์ยังปกติ

Honda CR-V เกียร์ออโตวิ่งไปแสนเจ็ดหมื่นกิโลเมตรกว่าๆ ( รถ 10 ปี ) เกียร์ยังปกติ

CRV คันที่ขายไปหลัง 10 ปีเกียร์ก็ปกตินะ คือเพียนๆปกติเหมือนเดิมตั้งแต่ออกจากโรงงานคือไมชิพเกียร์ลงตอนขึ้นสพานลอย (ต้องทุบประตูหลังอยู่หลายรอบเหมือนกันกว่าไฟจะหยุดโชว์) รุ่นไหนคงรู้กันนะ เขาทุบกันทั้งเมือง  ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ กันยายน 11, 2013, 03:25:32 PM
อยากทนๆลองไปหาเกียร์บอร์กวอเน่อร์สามสปีดในรถเมกันคันใหญ่ดูครับ  เฟืองอันเท่าฝาบาตร ลูกปืนเท่าตรวนนักโทษ หัวหมูเท่าเข่งขายผัก แต่คนผลิตเจร๊งตามระเบียบ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 11, 2013, 03:32:21 PM
ถ้าเราเปรียบเทียบของสองสิ่ง ภายในข้อกำหนดเดียวกันคือ ความทนทาน

  มาตรฐานการวัดจะต้องอันเดียวกัน เหมือนกัน แบบเดียวกันครับ จะต้องไม่ลำเอียงหรือเข้าข้างหรือเอาใจช่วยข้างหนึ่งข้างใดครับ

เช่น

ลักษณะนิสสัยการขับ ก็ต้องทำแบบเดียวกัน เช่น เบิ้ลเครื่องลากรอบสูงๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์

ปีนทางสูงทางลาดทางชันหรือลงเนิน หรือ เอนจิ้นเบรค ก็ทำให้เหมือนกัน

ฯลฯ

 ผมเชื่อว่า ข้อกำหนดต่างๆ ไม่ถึงห้าข้อหรอก เดี๋ยวเกียร์ออโต้ กระจุยก่อนแน่นอน


แล้วจะอ้างว่า อ้าว เกียร์ออโต้จะไปเล่นรอบเครื่องอะไรแบบนั้น โหลดหนักๆ โหดๆแบบ นั้นได้ไง


ไม่เกี่ยวครับ ก็ในเมื่อโจทย์เดียวกัน อยากพิสูจน์ ก็ต้องผ่านให้ได้แบบเดียวกันซิครับ

ผมขอยืนยันเช่นเดิม กี่เสียงพูดผมก็เชื่อเหมือนเดิมครับว่า เกียร์ธรรมดา ทนกว่า


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 03:46:53 PM
ชักสนุกครับ  ขอร่วมแชร์ กับประสบการณ์ ของตัวเองบ้าง
เกียร์กระปุก 4x4 Off-Ro@d ผมใช้ LN 106 ระยะทาง ๗๐,๐๐๐ กม. เปลี่ยนครัชไป ๒ -  ๓ แผ่น เพืองไม่เป็นไร และคันนี้ ขายไป เมื่อ ๗๔,๐๐๐ กม

ส่วน Jeep 4.0L ซื้อพร้อมกัน ใช้มาถึงตอนนี้ ๑๗๐,๐๐๐ กม. เกียร์ ที่ใช้อยู่ คือลูกที่ ๓
ทั้งคู่ถ้าเข้าป่าสมบุกสมบัน มันส์สนุก แบบสุด ๆ ต้อง LN 106 แต่เมื่อเลิกเที่ยวหนัก ผมเลือกขาย LN106 และเก็บ Jeep ไว้ใช้ในเมืองสบาย ๆ

และออกเที่ยว ในแบบไม่สมบุก-สมบัน นัก
เลขไมล์ เริ่มจาก ๕๐ กม +/-ทั้งคู่  ทะเบียนออกในเดือน กรกฎาคมปีเดียวกัน  เป็นเลข 5656 กรุงเทพมหานคร ทั้งคู่ .  ::008::




หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กันยายน 11, 2013, 03:57:34 PM

เค้าตอบผิด เค้าขอโทษ  หมายถึงเกียร์เจนเนอเรชั่นใหม่ๆที่ลดคอสครับ  อย่าไปเทียบกับช้างเหยียบ ม้ากระโดด หริอซันนี่ซิตี้บอยนะ

^_^"


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 11, 2013, 04:03:30 PM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 11, 2013, 04:06:44 PM
ชักสนุกครับ  ขอร่วมแชร์ กับประสบการณ์ ของตัวเองบ้าง
เกียร์กระปุก 4x4 Off-Ro@d ผมใช้ LN 106 ระยะทาง ๗๐,๐๐๐ กม. เปลี่ยนครัชไป ๒ -  ๓ แผ่น เพืองไม่เป็นไร และคันนี้ ขายไป เมื่อ ๗๔,๐๐๐ กม

ส่วน Jeep 4.0L ซื้อพร้อมกัน ใช้มาถึงตอนนี้ ๑๗๐,๐๐๐ กม. เกียร์ ที่ใช้อยู่ คือลูกที่ ๓
ทั้งคู่ถ้าเข้าป่าสมบุกสมบัน มันส์สนุก แบบสุด ๆ ต้อง LN 106 แต่เมื่อเลิกเที่ยวหนัก ผมเลือกขาย LN106 และเก็บ Jeep ไว้ใช้ในเมืองสบาย ๆ

และออกเที่ยว ในแบบไม่สมบุก-สมบัน นัก
เลขไมล์ เริ่มจาก ๕๐ กม +/-ทั้งคู่  ทะเบียนออกในเดือน กรกฎาคมปีเดียวกัน  เป็นเลข 5656 กรุงเทพมหานคร ทั้งคู่ .  ::008::



ผมว่าผมเคยเห็นนะ เชโรกี ทะเบียน 5656 กทม. ::014:: ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 11, 2013, 04:11:31 PM
หมวดอะไรครับบัง


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 11, 2013, 04:12:20 PM
หมวดอะไรครับบัง


จำไม่ได้แล้วครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 04:17:44 PM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ

ยุนนี้ เป็นยุค ของเกียร์ออโต ครับ
ส่วนเกียร์ กระปุก จักต้องมีความชอบเป็นพิเศษ

คนเมกัน เลือกใช้รถแต่ละคัยอย่างคุ้มค่าและตรงตามวัตถุประสงค์
ไม่นำรถหรู หรือรถ 4x4 มาเที่ยว Mall และไม่นำรถหรู ซีดาน ไปเที่ยวป่า

เมื่อ Jeep ผ่านกำแพงภาษีเข้ามาขายในบ้านเราในปี ๒๕๓๘ ในรอบปีขายได้ ๑๐,๐๐๐ คัน
ผมก็เป็น ๑ ในนั้น บางคนนำมาเป็นรถจ่ายตลาด กับค่าน้ำมัน ๓ กม/ลิตร พอเจอพิษเศรษฐกิจ
ต้องขายออกในราคาถูก ก็ยังไม่มีคนซื้อ เพื่อนผมคนหนึ่ง ต้องยกให้คนอื่นไปฟรี ๆ แล้วไปผ่อนต่อเดือนละ ๒๓,๐๐๐.-

แต่ผมซื้อ Jeep เพราะต้องการเที่ยวป่า แบบดิบ ๆ แต่ก็หมดสิทธิ์ เพราะทำไม่ได้ ครับ เจอโคลน น้ำลึก ท้องแขวน น้ำเข้า Body
ก็เดี้ยงแล้ว

มีชุดโฆษณาของ Jeep นำรถไปจุ่มน้ำ พอเป็นพิธี ที่ อุ้มผางแล้วถ่ายรูป ไม่กล้าข้่าม แต่พวกผม ใช้รถ Off-Ro@d วิ่งผ่านข้ามน้ำไปเลย ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 04:20:51 PM
ชักสนุกครับ  ขอร่วมแชร์ กับประสบการณ์ ของตัวเองบ้าง
เกียร์กระปุก 4x4 Off-Ro@d ผมใช้ LN 106 ระยะทาง ๗๐,๐๐๐ กม. เปลี่ยนครัชไป ๒ -  ๓ แผ่น เพืองไม่เป็นไร และคันนี้ ขายไป เมื่อ ๗๔,๐๐๐ กม

ส่วน Jeep 4.0L ซื้อพร้อมกัน ใช้มาถึงตอนนี้ ๑๗๐,๐๐๐ กม. เกียร์ ที่ใช้อยู่ คือลูกที่ ๓
ทั้งคู่ถ้าเข้าป่าสมบุกสมบัน มันส์สนุก แบบสุด ๆ ต้อง LN 106 แต่เมื่อเลิกเที่ยวหนัก ผมเลือกขาย LN106 และเก็บ Jeep ไว้ใช้ในเมืองสบาย ๆ

และออกเที่ยว ในแบบไม่สมบุก-สมบัน นัก
เลขไมล์ เริ่มจาก ๕๐ กม +/-ทั้งคู่  ทะเบียนออกในเดือน กรกฎาคมปีเดียวกัน  เป็นเลข 5656 กรุงเทพมหานคร ทั้งคู่ .  ::008::



ผมว่าผมเคยเห็นนะ เชโรกี ทะเบียน 5656 กทม. ::014:: ;D

ขอบคุณครับ ที่เรียกถูก พวกผม มันเรียก เชิงโลกี..  ซะ.  ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 11, 2013, 05:11:29 PM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ

มือใหม่ใช้เกียร์ออโต้ไปเลยครับ ไม่ต้องสนใจเกียร์ธรรมดาครับ แล้วทุ่มความสนใจกับ 2 เรื่องคือ 1) พวงมาลัย 2) เบรค ครับ... ส่วนเรื่องเกียร์ไม่ต้องสนใจ ใส่มันตัว D ตั้งแต่เริ่มออกรถจนจอดสนิทนั่นแหละครับ อยากไปเร็วก็เร่ง อยากให้จอดก็ถอนคันเร่งแล้วเหยียบเบรคให้มันหยุดนิ่มๆไม่หัวทิ่ม...

มีเรื่องใหญ่ที่สุดที่ที่คนไทยไม่ค่อยสนใจนะครับ คือเรื่องการสื่อสารกับคนอื่นบนถนนรอบข้าง จะเบรค จะเลี้ยว จะทำอะไรต้องให้สัญญาณให้คันอื่นได้รับรู้... ที่นายสมชายว่าเรื่องนี้ใหญ่ที่สุดก็คือ"มันถึงตาย"ครับ ถึงตายโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะคนอื่นไม่รู้ว่าเราคิดอะไรในหัว และจะทำอะไรบนถนน เขาเลยเดาทางไม่ได้ว่าจะหลบจะหลีกเราทางไหนครับ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อดิศักดิ์ ที่ กันยายน 11, 2013, 06:53:56 PM
มือใหม่ควรหัดขับเกียร์ธรรมดาให้ได้ครับ..เพราะจะทำให้เราเข้าใจเรื่องรอบเครื่องจังหวะเปลี่ยนเกียร์
หากขับเกียร์ธรรมดาได้แล้ว..จะขับเกียร์ออโต้ได้ไม่ยาก..กลับกันหากท่านขับรถเกียร์ออโต้ได้ท่านจะขับรถเกียร์ธรรมดาลำบากหรือไม่ได้..
(ปล.เป็นหนึ่งเพียงคอมเม้นท์ให้ท่านพิจารณาเท่านั้นครับ..)


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: schamp ที่ กันยายน 11, 2013, 07:14:08 PM
ประมาณ7ปีที่แล้วมีรถปี39พร้อมกัน2คันคือสตราด้ากับbmw525iสตราด้ายังใช้อยู่ถึงปัจจุบันครับซ่อมบ้างอะไรบ้างตามสมควรครับส่วนมากก็ระบบไฟกับช่วงล่างเล็กๆน้อยๆครับ..แต่bmนี่ปัญหาเยอะมากเริ่มตั้งแต่ซื้อมาได้2-3วันก็เจอเกียร์ออโต้ไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์เอง ???ตามติดมาด้วยระบบไฟ..ช่วงล่าง..ระบบเผาใหม้..จิปาถะซ่อมจนสนิทกับช่าง  :~)แถมซดสุดๆ95ด้วยนะครับ...เลยตัดใจขายขาดทุนบานเลยครับ....


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 11, 2013, 07:23:32 PM


ยุนนี้ เป็นยุค ของเกียร์ออโต ครับ
ส่วนเกียร์ กระปุก จักต้องมีความชอบเป็นพิเศษ

คนเมกัน เลือกใช้รถแต่ละคัยอย่างคุ้มค่าและตรงตามวัตถุประสงค์
ไม่นำรถหรู หรือรถ 4x4 มาเที่ยว Mall และไม่นำรถหรู ซีดาน ไปเที่ยวป่า

เมื่อ Jeep ผ่านกำแพงภาษีเข้ามาขายในบ้านเราในปี ๒๕๓๘ ในรอบปีขายได้ ๑๐,๐๐๐ คัน
ผมก็เป็น ๑ ในนั้น บางคนนำมาเป็นรถจ่ายตลาด กับค่าน้ำมัน ๓ กม/ลิตร พอเจอพิษเศรษฐกิจ
ต้องขายออกในราคาถูก ก็ยังไม่มีคนซื้อ เพื่อนผมคนหนึ่ง ต้องยกให้คนอื่นไปฟรี ๆ แล้วไปผ่อนต่อเดือนละ ๒๓,๐๐๐.-

แต่ผมซื้อ Jeep เพราะต้องการเที่ยวป่า แบบดิบ ๆ แต่ก็หมดสิทธิ์ เพราะทำไม่ได้ ครับ เจอโคลน น้ำลึก ท้องแขวน น้ำเข้า Body
ก็เดี้ยงแล้ว

มีชุดโฆษณาของ Jeep นำรถไปจุ่มน้ำ พอเป็นพิธี ที่ อุ้มผางแล้วถ่ายรูป ไม่กล้าข้่าม แต่พวกผม ใช้รถ Off-Ro@d วิ่งผ่านข้ามน้ำไปเลย ;D



มือใหม่ใช้เกียร์ออโต้ไปเลยครับ ไม่ต้องสนใจเกียร์ธรรมดาครับ แล้วทุ่มความสนใจกับ 2 เรื่องคือ 1) พวงมาลัย 2) เบรค ครับ... ส่วนเรื่องเกียร์ไม่ต้องสนใจ ใส่มันตัว D ตั้งแต่เริ่มออกรถจนจอดสนิทนั่นแหละครับ อยากไปเร็วก็เร่ง อยากให้จอดก็ถอนคันเร่งแล้วเหยียบเบรคให้มันหยุดนิ่มๆไม่หัวทิ่ม...

มีเรื่องใหญ่ที่สุดที่ที่คนไทยไม่ค่อยสนใจนะครับ คือเรื่องการสื่อสารกับคนอื่นบนถนนรอบข้าง จะเบรค จะเลี้ยว จะทำอะไรต้องให้สัญญาณให้คันอื่นได้รับรู้... ที่นายสมชายว่าเรื่องนี้ใหญ่ที่สุดก็คือ"มันถึงตาย"ครับ ถึงตายโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะคนอื่นไม่รู้ว่าเราคิดอะไรในหัว และจะทำอะไรบนถนน เขาเลยเดาทางไม่ได้ว่าจะหลบจะหลีกเราทางไหนครับ...


ขอบคุณครับที่ชี้แนวทาง เรื่องไฟเลี้ยวนั้นต้องเปิดให้เป็นนิสัยทีเดียวครับ หลายคนเจ็บ พัง ตาย มามาก ส่วนตัวผมเรียนกระบะ25000เกียร์กระปุกกับครูฝึก10ชั่วโมงในการเรียนพื้นฐาน แต่หลังจากเรียนเสร็จมันไม่มีรถให้ใช้ คิดว่าตอนสอบคงต้องอาศัยยืมรถออโต้ไปใช้เพราะสอบง่ายมากกว่าเกียร์ธรรมดา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ ที่ กันยายน 11, 2013, 08:16:35 PM
ผมขับกะบะ 2.5 กระปุก เน้นมันส์อย่างเดียวครับน้า ::002:: ::002:: เคยขับออโต้มาหลายคัน (ของคนอื่นเค้า) ::005:: ::005:: บอกตรงๆ ไม่มันส์ครับ ;D ;D ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ ที่ กันยายน 11, 2013, 08:22:14 PM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ

มือใหม่ใช้เกียร์ออโต้ไปเลยครับ ไม่ต้องสนใจเกียร์ธรรมดาครับ แล้วทุ่มความสนใจกับ 2 เรื่องคือ 1) พวงมาลัย 2) เบรค ครับ... ส่วนเรื่องเกียร์ไม่ต้องสนใจ ใส่มันตัว D ตั้งแต่เริ่มออกรถจนจอดสนิทนั่นแหละครับ อยากไปเร็วก็เร่ง อยากให้จอดก็ถอนคันเร่งแล้วเหยียบเบรคให้มันหยุดนิ่มๆไม่หัวทิ่ม...

มีเรื่องใหญ่ที่สุดที่ที่คนไทยไม่ค่อยสนใจนะครับ คือเรื่องการสื่อสารกับคนอื่นบนถนนรอบข้าง จะเบรค จะเลี้ยว จะทำอะไรต้องให้สัญญาณให้คันอื่นได้รับรู้... ที่นายสมชายว่าเรื่องนี้ใหญ่ที่สุดก็คือ"มันถึงตาย"ครับ ถึงตายโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะคนอื่นไม่รู้ว่าเราคิดอะไรในหัว และจะทำอะไรบนถนน เขาเลยเดาทางไม่ได้ว่าจะหลบจะหลีกเราทางไหนครับ...

ไอ้พวกที่ไม่ค่อยให้สัญญาณไฟ ขณะเลี้ยว หรือเปลี่ยนเลน เท่าที่ผมสังเกตุดูส่วนใหญ่มักเป็นพวกรถหรู ไม่รู้ไปหัดมาจากไหน นิสัยแย่ๆ เหมือนกันหมด เห็นแล้วหงุดหงิดครับ ขับตามแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย เจอพวกนี้ผมจะถอยห่างอย่างเดียว   ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 11, 2013, 08:49:23 PM
ถ้าเราเปรียบเทียบของสองสิ่ง ภายในข้อกำหนดเดียวกันคือ ความทนทาน

  มาตรฐานการวัดจะต้องอันเดียวกัน เหมือนกัน แบบเดียวกันครับ จะต้องไม่ลำเอียงหรือเข้าข้างหรือเอาใจช่วยข้างหนึ่งข้างใดครับ

เช่น

ลักษณะนิสสัยการขับ ก็ต้องทำแบบเดียวกัน เช่น เบิ้ลเครื่องลากรอบสูงๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์

ปีนทางสูงทางลาดทางชันหรือลงเนิน หรือ เอนจิ้นเบรค ก็ทำให้เหมือนกัน

ฯลฯ

 ผมเชื่อว่า ข้อกำหนดต่างๆ ไม่ถึงห้าข้อหรอก เดี๋ยวเกียร์ออโต้ กระจุยก่อนแน่นอน


แล้วจะอ้างว่า อ้าว เกียร์ออโต้จะไปเล่นรอบเครื่องอะไรแบบนั้น โหลดหนักๆ โหดๆแบบ นั้นได้ไง


ไม่เกี่ยวครับ ก็ในเมื่อโจทย์เดียวกัน อยากพิสูจน์ ก็ต้องผ่านให้ได้แบบเดียวกันซิครับ

ผมขอยืนยันเช่นเดิม กี่เสียงพูดผมก็เชื่อเหมือนเดิมครับว่า เกียร์ธรรมดา ทนกว่า

ถ้าเรื่องเอนจิ้นเบรค ต้องยอมเกียร์แมนนวลครับพี่... เข้า 4L ลงเขา เกียร์ออโต้เข้า D2 ยังไงก็ต้องแตะเบรคเลี้ยง และเสี่ยงต่อเบรคไหม้ เอารถไม่อยู่..

แต่เกียร์แมนนวลลงเขา เข้า 4L ใส่เกียร์ 1 ปล่อยให้รถไหลลงไปสบาย และถึงเครื่องพังก่อน ยังมีเบรคเป็นก๊อก 2 ช่วยชีวิตได้ครับ... ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ กันยายน 11, 2013, 09:18:18 PM

"ไม่ชอบเกียร์ออโต้ครับ ....ไม่ได้ดังใจ"


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2013, 07:07:36 AM
ถ้าเราเปรียบเทียบของสองสิ่ง ภายในข้อกำหนดเดียวกันคือ ความทนทาน

  มาตรฐานการวัดจะต้องอันเดียวกัน เหมือนกัน แบบเดียวกันครับ จะต้องไม่ลำเอียงหรือเข้าข้างหรือเอาใจช่วยข้างหนึ่งข้างใดครับ

เช่น

ลักษณะนิสสัยการขับ ก็ต้องทำแบบเดียวกัน เช่น เบิ้ลเครื่องลากรอบสูงๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์

ปีนทางสูงทางลาดทางชันหรือลงเนิน หรือ เอนจิ้นเบรค ก็ทำให้เหมือนกัน

ฯลฯ

 ผมเชื่อว่า ข้อกำหนดต่างๆ ไม่ถึงห้าข้อหรอก เดี๋ยวเกียร์ออโต้ กระจุยก่อนแน่นอน


แล้วจะอ้างว่า อ้าว เกียร์ออโต้จะไปเล่นรอบเครื่องอะไรแบบนั้น โหลดหนักๆ โหดๆแบบ นั้นได้ไง


ไม่เกี่ยวครับ ก็ในเมื่อโจทย์เดียวกัน อยากพิสูจน์ ก็ต้องผ่านให้ได้แบบเดียวกันซิครับ

ผมขอยืนยันเช่นเดิม กี่เสียงพูดผมก็เชื่อเหมือนเดิมครับว่า เกียร์ธรรมดา ทนกว่า

ถ้าเรื่องเอนจิ้นเบรค ต้องยอมเกียร์แมนนวลครับพี่... เข้า 4L ลงเขา เกียร์ออโต้เข้า D2 ยังไงก็ต้องแตะเบรคเลี้ยง และเสี่ยงต่อเบรคไหม้ เอารถไม่อยู่..

แต่เกียร์แมนนวลลงเขา เข้า 4L ใส่เกียร์ 1 ปล่อยให้รถไหลลงไปสบาย และถึงเครื่องพังก่อน ยังมีเบรคเป็นก๊อก 2 ช่วยชีวิตได้ครับ... ::002::

เกียร์ออโตในรุ่นราคาปานกลางขึ้นไป จะใช้เกียร์เบรครถได้เท่ากับเกียร์ธรรมดา คือไปที่โหมดแมนนวล หรือกึ่งแมนนวล แล้วเปลี่ยนเองไล่ลงมาได้จาก 5 หรือ 6 ลงมาถึงเกียร์ 1 เลยครับ
แล้วก็ปลอดภัยกว่าด้วย  เพราะต้องไล่ลงทีละเกียร์  ยี่สิบกว่าปีก่อน ผมเคยนั่งรถเพื่อน ความเร็ว 170 เกียร์ 5 จะเปลี่ยนลง 4 เพื่อเข้าโค้ง แล้วพลาดไปเกียร์ 2 ปรากฏว่าแผ่นคลัทช์ระเบิด รถถูกกระชากเสียหลักตกถนน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 12, 2013, 07:21:23 AM
ผมขับกะบะ 2.5 กระปุก

เน้นมันส์อย่างเดียวครับน้า ::002:: ::002::
เคยขับออโต้มาหลายคัน (ของคนอื่นเค้า) ::005:: ::005::

บอกตรงๆ ไม่มันส์ครับ ;D ;D ::014::



Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่  winthai ด้ามเกียร์ยาว อ่ะ ฮา

ยายไม่อยากรู้เรื่องขับ  ยายอยากรู้เรื่อง  "ขี่"  มากกว่า อ่ะ ฮา
55555  อยากรู้เรื่อง   พี่อู๊ด  เขาจะ " ขี่ "ยังงัย ทีละสามสี่คน อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: หนานมา ที่ กันยายน 12, 2013, 08:18:06 AM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ
โดยส่วนตัว และ จากประสบการณ์  แนะนำให้หัดด้วยเกียร์ธรรมดาก่อนครับพี่  ::014:: ::014::
เมื่อขับรถเกียร์ธรรมดาเป้นแล้ว  พอมาขับเกียร์ออโต้ ก้ออาจมีเผลอบ้างตอนชลอรถ เท้าซ้ายจะควานหาแป้นคลัช  ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 12, 2013, 08:40:40 AM
อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปหาสมัยนายสมชายเริ่มทำงานใหม่ๆ... เวลาขึ้นโปรเจกต์ใหม่ พวกเอ็นจิเนียร์ชอบเขียนโปรแกรมรายบรรทัด(มักชอบภาษาซี), ส่วนนายสมชายชอบเขียนโปรแกรมลากแปะ... ฮา...

พวกเอ็นจิเนียร์ชอบกล้องแมนน่วล(มักชอบ FMII) ขับรถเกียร์แมนน่วล... ส่วนนายสมชายถามหากล้องอัตโนมัติให้มากที่สุด แล้วก็ชอบเกียร์ออโต้... ฮา...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กันยายน 12, 2013, 09:25:53 AM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ
โดยส่วนตัว และ จากประสบการณ์  แนะนำให้หัดด้วยเกียร์ธรรมดาก่อนครับพี่  ::014:: ::014::
เมื่อขับรถเกียร์ธรรมดาเป้นแล้ว  พอมาขับเกียร์ออโต้ ก้ออาจมีเผลอบ้างตอนชลอรถ เท้าซ้ายจะควานหาแป้นคลัช  ;D


ตอนขับรถเกียร์ออโต้ใหม่ๆ ผมเผลอเหยียบคลัช... แต่เท้าซ้านไปโดนแป้นเบรคแทน... ผลคือ... เกือบโดนชนท้ายครับ...  ::012:: ::012:: ::012::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2013, 09:31:13 AM
ถ้าในระดับมือใหมหัดขี่ไม่คล่อง ควรใช้เกียร์แบบไหนดีครับ ระหว่างออโต้กับควบคุมเอง อ้อ ความสึกหรอถ้าใช้เหมือนกันจะต่างกันไหมครับ
โดยส่วนตัว และ จากประสบการณ์  แนะนำให้หัดด้วยเกียร์ธรรมดาก่อนครับพี่  ::014:: ::014::
เมื่อขับรถเกียร์ธรรมดาเป้นแล้ว  พอมาขับเกียร์ออโต้ ก้ออาจมีเผลอบ้างตอนชลอรถ เท้าซ้ายจะควานหาแป้นคลัช  ;D


ถ้าในยุคก่อน คือยุคของพวกเรา ที่มีเกียร์กระปุกมากกว่า นั้น มีความจำเป็นครับ แต่ปัจจุบันนี้ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ยิ่งมือใหม่ด้วย
ลงกับเกียร์ออโต อย่างเดียว นะดีแล้ว

ไม่อย่างงั้น อาจเกิดอุบัติเหตุ แบบไม่ค่าดฝันตามมา
ขับเกียร์กระปุก ยิ่งมือใหม่ขาใหม่  ขา ๒ ข้าง ต้องทำงานสัมพันธุ์กัน ซ้าย เหยียบครัช ขวา คันเร่ง/เบรค

และเบรคนั้น ใกล้กับครัช .. แต่เมื่อเปลี่ยน เป็นออโต  . สำหรับมือใหม่ละก้อ มีสิทธิ์เผลอใช้เท้าซ้ายทำงาน เหยียบครัช เพื่อเปลี่ยนเกียร์
ผมเคยหัวทิ่ม มาแล้วดีที่รถไม่คว่ำ

สมัยก่อนโน้น มีเกียร์พวกมาลัย/เกียร์กระปุก   ผมก็ฝึกมาจากเกียร์พวกมาลัยก่อน แต่ตอนนี้ เกียร์พวงมาลัยสูญไปหมดแล้ว
ยุคนี้ เป็นยุคของเกียร์ออโต แต่ถ้ารู้ การใช้รถเกียร์กระปุกไว้บ้างก็ดี ครับ .. เพราะต่างจังหวัด ยังมีรถใช้อยู่มาก  ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2013, 03:48:48 PM
ผมใช้ออโตอยู่...ถ้าถามแค่ว่าใครทนกว่า ผมว่าธรรมดาทนกว่าครับ...แต่ถ้าถามว่าใครชอบแบบไหน ผมว่าคนชอบออโตเยอะกว่าครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กันยายน 12, 2013, 03:52:48 PM

เกียร์ออโต หลักๆคือต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ตรงตามระยะทาง/ระยะเวลา ครับ

แค่นี้เอง


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 12, 2013, 06:43:02 PM
Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ยายฝากข่าว  ด้วยอ่ะ ฮา

ยายเอา Land rover discovery 2 สีขาว จากญี่ปุ่นเขามาคันนึงอ่ะ
ตอนนี้ จอดอยู่คลังสินค้าทัณฑ์บน  ยังไม่ได้เสียภาษีขาเข้าอ่ะ
รถคันนี้  ต้อง Re-export  ไปที่ไหนก็ได้ ตามพรมแดน อ่ะ ฮา

ใครมี "พลัง"  มาเอาจากยายได้เลย  ไม่แพง อ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 12, 2013, 09:00:43 PM
ชุดเกียร์ธรรมดาทนกว่า แต่จุดอ่อนของเกียร์ธรรมดาคือครัทช์ที่มีการสึกหรอหรือไหม้ถ้ามีการใช้งานไม่ถูกต้อง ส่วนการตอบสนองในการขับขี่ของเกียร์ธรรมดารวดเร็วแม่นยำกว่า ยกเว้นพวกรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีระบบครัทช์อัตโนมัติหรือดับเบิ้ลครัทช์ อันนี้ไม่นับรถบ้านๆที่มีเกียร์ดับเบิ้ลครัทช์เพราะการที่ชุดครัทช์ไปจับเกียร์ต่อไปรอไว้ ทำให้สูญเสียกำลังเกิดภาระของเครื่องยนต์ไม่ส่งผลชัดเจนในเรื่องสมรรถนะ(เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ทรงพลังอย่างรถสปอร์ต)


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ กันยายน 12, 2013, 09:32:05 PM
ชุดเกียร์ธรรมดาทนกว่า แต่จุดอ่อนของเกียร์ธรรมดาคือครัทช์ที่มีการสึกหรอหรือไหม้ถ้ามีการใช้งานไม่ถูกต้อง ส่วนการตอบสนองในการขับขี่ของเกียร์ธรรมดารวดเร็วแม่นยำกว่า ยกเว้นพวกรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีระบบครัทช์อัตโนมัติหรือดับเบิ้ลครัทช์ อันนี้ไม่นับรถบ้านๆที่มีเกียร์ดับเบิ้ลครัทช์เพราะการที่ชุดครัทช์ไปจับเกียร์ต่อไปรอไว้ ทำให้สูญเสียกำลังเกิดภาระของเครื่องยนต์ไม่ส่งผลชัดเจนในเรื่องสมรรถนะ(เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ทรงพลังอย่างรถสปอร์ต)
น่าจะเข้าใจการทำงานของเกียร์ดับเบิ้ลครัทซ์ผิดไปนะครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ กันยายน 12, 2013, 10:01:24 PM
เคยใช้มาทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโต้ ไม่เคยพังซักคันครับ (ขายเปลี่ยนก่อนเสีย ฮิ ฮิ ฮิ) แต่ที่ชอบตอนนี้ชอบเกียร์ออโต้มากกว่าครับ สบายกว่ามาก ไม่ต้องเหยียบครัช เหยียบคันเร่งอย่างเดียว ถ้าอยากคิกดาวน์ ก็เหยียบคันเร่งสุดให้จม นิดหนึงก็ได้แล้วครับ หรือกดปุ่ม โฮล ก็ลากรอบได้แล้วครับ 

รถคันต่อไปถ้าจะเปลี่ยนอีกครั้งก็จะเลือกเกียร์ออโต้ครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2013, 11:36:24 PM
ชุดเกียร์ธรรมดา "ทนกว่า" และ "บำรุงรักษาง่ายกว่า" ชุดเกียร์ออโต้ในการใช้งานระดับเดียวกันครับ

ไม่ต้องดูอื่นไกลถ้าเกียร์ออโต้ดีกว่าทนกว่า รถแข่งคงเปลี่ยนไปใช้เกียร์ออโต้กันหมดแล้ว


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 13, 2013, 01:49:55 AM
ถ้าเราเปรียบเทียบของสองสิ่ง ภายในข้อกำหนดเดียวกันคือ ความทนทาน

  มาตรฐานการวัดจะต้องอันเดียวกัน เหมือนกัน แบบเดียวกันครับ จะต้องไม่ลำเอียงหรือเข้าข้างหรือเอาใจช่วยข้างหนึ่งข้างใดครับ

เช่น

ลักษณะนิสสัยการขับ ก็ต้องทำแบบเดียวกัน เช่น เบิ้ลเครื่องลากรอบสูงๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์

ปีนทางสูงทางลาดทางชันหรือลงเนิน หรือ เอนจิ้นเบรค ก็ทำให้เหมือนกัน

ฯลฯ

 ผมเชื่อว่า ข้อกำหนดต่างๆ ไม่ถึงห้าข้อหรอก เดี๋ยวเกียร์ออโต้ กระจุยก่อนแน่นอน


แล้วจะอ้างว่า อ้าว เกียร์ออโต้จะไปเล่นรอบเครื่องอะไรแบบนั้น โหลดหนักๆ โหดๆแบบ นั้นได้ไง


ไม่เกี่ยวครับ ก็ในเมื่อโจทย์เดียวกัน อยากพิสูจน์ ก็ต้องผ่านให้ได้แบบเดียวกันซิครับ

ผมขอยืนยันเช่นเดิม กี่เสียงพูดผมก็เชื่อเหมือนเดิมครับว่า เกียร์ธรรมดา ทนกว่า

ถ้าเรื่องเอนจิ้นเบรค ต้องยอมเกียร์แมนนวลครับพี่... เข้า 4L ลงเขา เกียร์ออโต้เข้า D2 ยังไงก็ต้องแตะเบรคเลี้ยง และเสี่ยงต่อเบรคไหม้ เอารถไม่อยู่..

แต่เกียร์แมนนวลลงเขา เข้า 4L ใส่เกียร์ 1 ปล่อยให้รถไหลลงไปสบาย และถึงเครื่องพังก่อน ยังมีเบรคเป็นก๊อก 2 ช่วยชีวิตได้ครับ... ::002::
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่าปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วยเคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2013, 02:56:01 AM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่าปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วยเคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้ กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2013, 07:06:41 AM
แต่ผมนี่แปลกครับ ถ้าขับเกียร์กระปุกจะไม่ค่อยเหยียบเบรค เอนจิ้นเบรคอย่างเดียว บางทีเปลี่ยนเกียร์จนล้อรถดัง เอี๊ยด! เลย555


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 13, 2013, 07:34:48 AM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ
ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ
พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ

คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่า
ปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ
เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ

ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย
ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วย
เคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้
กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้  จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง
จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่แป อ่ะ ฮา

ลองไปถาม  คนขับเทรลเลอร์ เก่าๆ ของ "ผาแดง" ดูสิ  ฮา
ตอนที่เปิด  "เหมือง แม่สอด"  เขารับพวกกลับจากซาอุ มาทำงาน อ่ะ ฮา
พวกนั้นมาจากหลายที่  หลายแหล่ง  คิดว่า  ข้า "มือแน่" ไปซาอุมาแล้ว  ฮา

ผลปรากฎว่า  เดือนแรก  รถไปอยู่ใน "ก้นเหว" เป็นสิบอ่ะ ฮา

5555 มืออาชีพ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 13, 2013, 08:49:59 AM
สมัยนายสมชายอายุยังน้อย เคยขี่แลนเซอร์แช็มป์เกียร์กระปุกไปแม่ฮ่องสอน ผ่านโค้งเยอะแยะ หลายโค้งเมื่อพ้นโค้งปุ๊บขึ้นเขาทันทีไม่มีระยะให้เร่งเลี้ยงความเร็วส่งขึ้นเขา, หลายโค้งพ้นทางตรงวิ่งมาอยู่ดีๆ เจอหลักสะท้อนแสงขวางด้านข้างพร้อมมีป้ายบอกว่าหักข้อศอกแล้วก็มีป้ายลงเนินพร้อมกันเลย!!!... อ๊อกซ์... ซู๊ดหยอด...

สมัยนั้นขี่แลนเซอร์แช็มป์เครื่อง 1.3 เกียร์กระปุกโยกเกียร์ใส่เอ็นจิ้นเบรคสลับลากรอบเพลินเลย, ขี่ไปถึงแล้ว ไปถ่ายรูปบนวัดที่อยู่บนเขา(พระธาตุดอยจองมูฯ) เจอป้ายบอกว่าให้ไปรับประกาศณียบัตรขี่รถได้ที่ ผวจ. ดีใจใหญ่ แต่มันเป็นวันอาทิตย์ เลยไม่ได้ไปรับ... ฮา...

หลังจากนั้นเกือบยี่สิบปี ขี่อัลติสเครื่อง 1.6 เกียร์ออโต้ เครื่องมีระบบวาวล์แปรผันฝั่งไอดี เบรคมี ABS เกียร์มีสมองกลช่วยเปลี่ยนเกียร์ให้ทั้งขึ้นเนินไล่รอบเครื่องให้ ลงเนินมีเอ็นจิ้นเบรคให้... เส้นทางเดิมนั่นแหละ แหมครั้งนี้สบายมากเหมือนหนังคนละเรื่องเลยครับ, แค่ประคองพวงมาลัยให้ตรงและระวังคันอื่นอย่ามาให้สร้างความเดือดร้อนให้เราก็เป็นพอ ที่เหลือนั่น ECU มันทำงานให้หมดครับ...

ครั้งหลังนี่ขับไปคุยกับเมียไปสบายกว่าแยะครับ... กลายเป็นว่าไปโฟกัสสนุกสนานกับเรื่องวิทยุที่ติดรถมาจะหาคลื่นเจอไหม เมื่อขึ้นเนินโน้น ลงเนินนี้... ฮา...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 13, 2013, 08:59:14 AM
เมื่อตอนครูซเครื่องดีเซลออกใหม่ๆ และตอนนั้นยังไม่มีข่าวเรื่องเกียร์ที่มีปัญหาจนออกทีวีฯ(ครูซรุ่นใหม่แก้ไขแล้ว)... นายสมชายยังอยากขี่ครูซไปแม่ฮ่องสอนอีกรอบเลย อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างกับแรงบิดมหาศาล 300 กว่านิวตั้นมาที่รอบต่ำ แต่อยู่ในตัวถังรถเก๋งน้ำหนักไม่เกิน 1.5 ตัน ที่มีระบบอิเลกทรอนิกส์ช่วยเหลือเพียบ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 13, 2013, 10:19:32 AM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ
ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ
พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ

คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่า
ปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ
เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ

ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย
ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วย
เคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้
กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้  จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง
จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่แป อ่ะ ฮา

ลองไปถาม  คนขับเทรลเลอร์ เก่าๆ ของ "ผาแดง" ดูสิ  ฮา
ตอนที่เปิด  "เหมือง แม่สอด"  เขารับพวกกลับจากซาอุ มาทำงาน อ่ะ ฮา
พวกนั้นมาจากหลายที่  หลายแหล่ง  คิดว่า  ข้า "มือแน่" ไปซาอุมาแล้ว  ฮา

ผลปรากฎว่า  เดือนแรก  รถไปอยู่ใน "ก้นเหว" เป็นสิบอ่ะ ฮา

5555 มืออาชีพ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
เค้าเรียกพวกปีศาจแดงครับ ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 13, 2013, 02:51:52 PM
แต่ผมนี่แปลกครับ ถ้าขับเกียร์กระปุกจะไม่ค่อยเหยียบเบรค เอนจิ้นเบรคอย่างเดียว บางทีเปลี่ยนเกียร์จนล้อรถดัง เอี๊ยด! เลย555

ไม่แปลกครับ น้าตั้ว เกียร์กระปุกจะช่วยดึงเครื่องเวลาชะลอ เหมือนกับตอนลงเนิน แต่ถ้าเป็นออโต้มันช่วยส่งเลยหละ(ส่งลงเขา) ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2013, 09:39:08 PM
แต่ผมนี่แปลกครับ ถ้าขับเกียร์กระปุกจะไม่ค่อยเหยียบเบรค เอนจิ้นเบรคอย่างเดียว บางทีเปลี่ยนเกียร์จนล้อรถดัง เอี๊ยด! เลย555

ไม่แปลกครับ น้าตั้ว เกียร์กระปุกจะช่วยดึงเครื่องเวลาชะลอ เหมือนกับตอนลงเนิน แต่ถ้าเป็นออโต้มันช่วยส่งเลยหละ(ส่งลงเขา) ::007::

ผมแปลกอีกอย่างครับพี่จอย พอขับเกียร์ออโต้กลับไม่ค่อยรู้เทคนิคอะไรเลยครับ นอกจากคิิกดาวน์กับโอเวอร์ไดรฟ์.. ชดน้ำมันอย่างเดียวครับ... ::012::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 13, 2013, 09:39:36 PM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ
ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ
พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ

คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่า
ปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ
เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ

ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย
ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วย
เคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้
กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้  จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง
จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่แป อ่ะ ฮา

ลองไปถาม  คนขับเทรลเลอร์ เก่าๆ ของ "ผาแดง" ดูสิ  ฮา
ตอนที่เปิด  "เหมือง แม่สอด"  เขารับพวกกลับจากซาอุ มาทำงาน อ่ะ ฮา
พวกนั้นมาจากหลายที่  หลายแหล่ง  คิดว่า  ข้า "มือแน่" ไปซาอุมาแล้ว  ฮา

ผลปรากฎว่า  เดือนแรก  รถไปอยู่ใน "ก้นเหว" เป็นสิบอ่ะ ฮา

5555 มืออาชีพ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
เค้าเรียกพวกปีศาจแดงครับ ::005::
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 13, 2013, 11:51:37 PM
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน

เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะครับ

Heel-and-toe ใช้เพื่อการรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด รวมถึงลดการการหน่วงของเครื่องยนต์เมื่อถอนครัช
เป็นเทคนิค "ใช้ในการคงกำลังและพร้อมจะเพิ่มความเร็ว" ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้เพื่อลดความเร็ว หน้าที่ในการลดความเร็วคือระบบเบรค
ถ้าทะลึ่งไปทำแบบนี้ในทางชันก็คงต้องตามไปเก็บศพในเหว  

การลงเขาแล้วความเร็วเกินต้องเบรคให้ความเร็วและรอบลดลงเท่านั้นจึงลดเกียร์ต่ำลง มิใช่เอาเทคนิคที่ใช้แข่งความเร็วอย่าง Heel-and-toe มาใช้


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 14, 2013, 12:34:29 AM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ
ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ
พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ

คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่า
ปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ
เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ

ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย
ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วย
เคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้
กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้  จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง
จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่แป อ่ะ ฮา

ลองไปถาม  คนขับเทรลเลอร์ เก่าๆ ของ "ผาแดง" ดูสิ  ฮา
ตอนที่เปิด  "เหมือง แม่สอด"  เขารับพวกกลับจากซาอุ มาทำงาน อ่ะ ฮา
พวกนั้นมาจากหลายที่  หลายแหล่ง  คิดว่า  ข้า "มือแน่" ไปซาอุมาแล้ว  ฮา

ผลปรากฎว่า  เดือนแรก  รถไปอยู่ใน "ก้นเหว" เป็นสิบอ่ะ ฮา

5555 มืออาชีพ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
เค้าเรียกพวกปีศาจแดงครับ ::005::
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน
ถ้าเค้าแตะเบรคคงตายกันทั้งคันครับรถโดยสารสองแถวบรรทุกพระเณรมาเต็มคันรถอีกอย่างทางลงม่อนหินเหล็กไฟเป็นทางโค้งด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 01:28:02 AM
แต่ผมนี่แปลกครับ ถ้าขับเกียร์กระปุกจะไม่ค่อยเหยียบเบรค เอนจิ้นเบรคอย่างเดียว บางทีเปลี่ยนเกียร์จนล้อรถดัง เอี๊ยด! เลย555

ไม่แปลกครับ น้าตั้ว เกียร์กระปุกจะช่วยดึงเครื่องเวลาชะลอ เหมือนกับตอนลงเนิน แต่ถ้าเป็นออโต้มันช่วยส่งเลยหละ(ส่งลงเขา) ::007::

แปลกดีครับพี่จอย...

รถผมเกียร์ออโต้แต่มันมีเกียร์ B ด้วยครับ...

เห็นว่าเอาไว้วิ่งลงเขาโดยใช้เอนจิ้นเบรคนี่แหละครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 14, 2013, 07:55:25 AM
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน

เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะครับ

Heel-and-toe ใช้เพื่อการรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด รวมถึงลดการการหน่วงของเครื่องยนต์เมื่อถอนครัช
เป็นเทคนิค "ใช้ในการคงกำลังและพร้อมจะเพิ่มความเร็ว" ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้เพื่อลดความเร็ว หน้าที่ในการลดความเร็วคือระบบเบรค
ถ้าทะลึ่งไปทำแบบนี้ในทางชันก็คงต้องตามไปเก็บศพในเหว 

การลงเขาแล้วความเร็วเกินต้องเบรคให้ความเร็วและรอบลดลงเท่านั้นจึงลดเกียร์ต่ำลง มิใช่เอาเทคนิคที่ใช้แข่งความเร็วอย่าง Heel-and-toe มาใช้
ใช้เอนจิ้นเบรคช่วยและเบรคเพื่อลดความเร็วดีกว่าปล่อยเกียร์ว่างลงเขามาแน่นอนครับ เวลาที่อัดมาทางตรงหนักๆแล้วเบรกเพื่อเข้าโค้งแคบๆนักแข่งจะใช้วิธีนี้เช่นกันเพราะจะยัดเกียร์ต่ำไม่ได้ คุณคงไม่รู้เรื่องเลยคิดว่าเป็นการรักษาเพาเว่อร์แบนเพียงอย่างเดียว และผมใช้เฉพาะเวลาคับขันสุดวิสัยเมื่อยัดเกียร์ไม่เข้าจริงๆ(เพราะความเร็วก่อนโค้งมากไป) ส่วนใหญ่ผมจะอ่านโค้งและเปลี่ยนเกียร์เพื่อลงเขาได้ก่อนจะเข้าเอเปกอยู่แล้ว ยกเว้นหมั่นไส้รถบางคันแล้วอัดแข่งกันมา เจอมาแล้วทุกสภาพเส้นทางครับทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นเขา ลงเขา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 14, 2013, 08:02:58 AM
จะซี่ิงเข้าไปสนามดีกว่า เดี๋ยวนี้มีสนามตั้งหลายแห่ง ;D ;D ;D รถทางเดียวไม่เจอรถสวน หมุนก็ดีกว่าไปซิ่งบนถนน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 14, 2013, 08:49:56 AM
เรื่องเอนจิ้นเบรคตอนลงเขานี่ ถ้าไม่เป็นก็อันตรายกว่าเกียร์ออโต้อีกครับ
ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตอนที่กำลังจะลงครับ
พอลงแล้วเปลี่ยนบางทีมันอาจจะไม่ยอมเข้านะครับ

คนบ้านผมเคยลงจากม่อนหินเหล็กไฟแล้วจะเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเกียร์ตํ่า
ปรากฏว่าเกียร์ไม่ยอมเข้าให้เลยต้องลงเกียร์ว่างมาแล้วครับ
เล่นเอาพระเณรจีจรปลิวมาแล้วครับ ดีที่ประคองรถได้ครับ

ตอนหลังแกเล่าให้ฟังว่าเข็มไมล์แทบจะตีกลับเลย
ม่อนหินเหล็กไฟทางลงชันมากและยาวด้วย
เคยมีรถบัสของคณะครูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากแล้วครับ

เข้าเกียร์ต่ำลงไม่ได้เพราะรอบเครื่องสูงเกินกว่าเพื่องเกียร์ต่ำจะเข้าไปขบได้
กรณีแบบนี้เกียร์ออโต้มันก็ไม่ลดเกียร์ลงให้เช่นกัน
เพราะถ้ามันโง่ขนาดยัดเกียร์ต่ำเข้าไปจะได้ยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก

ในกรนีแบบนี้  จะลงเกียร์ต่ำก็ต้องเบรคให้รถความเร็วต่ำลงและรอบเครื่องลดลง
จนสามารถใส่เกียร์ต่ำลงได้
เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของผู้ขับขี่มิใช่จากระบบเกียร์ครับ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่แป อ่ะ ฮา

ลองไปถาม  คนขับเทรลเลอร์ เก่าๆ ของ "ผาแดง" ดูสิ  ฮา
ตอนที่เปิด  "เหมือง แม่สอด"  เขารับพวกกลับจากซาอุ มาทำงาน อ่ะ ฮา
พวกนั้นมาจากหลายที่  หลายแหล่ง  คิดว่า  ข้า "มือแน่" ไปซาอุมาแล้ว  ฮา

ผลปรากฎว่า  เดือนแรก  รถไปอยู่ใน "ก้นเหว" เป็นสิบอ่ะ ฮา

5555 มืออาชีพ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007::
เค้าเรียกพวกปีศาจแดงครับ ::005::
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน
ถ้าเค้าแตะเบรคคงตายกันทั้งคันครับรถโดยสารสองแถวบรรทุกพระเณรมาเต็มคันรถอีกอย่างทางลงม่อนหินเหล็กไฟเป็นทางโค้งด้วยครับ
การเบรคมันก็มีเทคนิคให้มันปลอดภัยมากขึ้นได้ครับ ไม่ใช่เหยียบตะพึด ถ้ามันเร็วเกินไปก็เหยียบได้คือ กดแป้นเบรกหนักๆแล้วปล่อย เป็นระยะๆ จะช่วยใหเบรกไหม้ช้าลงและความเร็วของรถก็ไม่สูงขึ้น หรืออาจจะลดลงจนใส่เกียร์ต่ำได้ก็อาจเป็นได้ คนขับส่วนใหญ่ขับรถมานานแต่แค่ขับได้ ไม่ใช่ขับเป็นนะครับ รวมถึงคนขับสองแถวของคุณด้วย ...ผามออีแดงอีด้อยอะไรนั่นผมก็ไปมาแล้ว ดอยอินทนนท์ ปาย ไปมาตั้งหลายรอบ วิ่งขึ่นลงเขาแถวเขื่อนบางลางทางแคบโค้งบังตาเร็วจนโจรดักยิงไม่ทันนั่นล่ะ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 14, 2013, 09:24:06 AM
ใช่ครับคนส่วนใหญ่ขับมานานก็แค่ขับได้ แต่ขับไม่เป็น   ::002::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pvjt ที่ กันยายน 14, 2013, 09:29:07 AM
..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

(http://image.ohozaa.com/i/acc/ZDCQxa.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x5lHKbK8buJEmvwr)

(http://image.ohozaa.com/i/g86/ae4NWs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x5lHO5vDj1VFCzZs)

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ::014::



หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 14, 2013, 09:33:29 AM
..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

super car ก็เดิ้นหน่อย ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 14, 2013, 09:37:12 AM
ฮอนด้าเอาเกียร์ cvt มาใช้เมื่อสิบปีที่แล้วฮือฮาอยู่พักนึงแล้วเลิกไป
อีกหลายยี่ห้อเอามาใช้เมื่อปี-สองปีที่ผ่านมาโหมโฆษณาชะเลิศหรู

แต่ ......  ผมไม่ชอบเกียร์ระบบนี้เอาเสียเลย


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 14, 2013, 09:49:50 AM
เข้ามาอ่านความเห็นคนบางคนครับ เก่งได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องฉลาด... ฮา...

หนอยแน่ะ จะใช้เทคนิครถแข่งกับรถบรรทุกหินที่เหมืองสังกะสีผาแดงแถวจังหวัดตาก, ทำอย่างกับว่าถนนในเหมืองมันเรียบเหมือแทรกรถแข่งเรซซิ่ง... ขับรถบรรทุกมีพ่วงท้ายหนักออกปานนั้น ก็มันมีแต่หิน หิน และก็หินอยู่ในกะบะท้ายและรถพ่วงท้ายหนักออกปากนั้น จะให้ซิ่งแล้วเบรคพร้อมกับอัดคันเร่งเลี้ยงรอบบบ... อ๊อกซ์...

ฉลาดแท้... ฮา...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 14, 2013, 09:57:44 AM
การเบรคมันก็มีเทคนิคให้มันปลอดภัยมากขึ้นได้ครับ ไม่ใช่เหยียบตะพึด ถ้ามันเร็วเกินไปก็เหยียบได้คือ กดแป้นเบรกหนักๆแล้วปล่อย เป็นระยะๆ จะช่วยใหเบรกไหม้ช้าลงและความเร็วของรถก็ไม่สูงขึ้น หรืออาจจะลดลงจนใส่เกียร์ต่ำได้ก็อาจเป็นได้ คนขับส่วนใหญ่ขับรถมานานแต่แค่ขับได้ ไม่ใช่ขับเป็นนะครับ รวมถึงคนขับสองแถวของคุณด้วย ...ผามออีแดงอีด้อยอะไรนั่นผมก็ไปมาแล้ว ดอยอินทนนท์ ปาย ไปมาตั้งหลายรอบ วิ่งขึ่นลงเขาแถวเขื่อนบางลางทางแคบโค้งบังตาเร็วจนโจรดักยิงไม่ทันนั่นล่ะ

ผาแดงอินดัสตรี้, มีเหมืองอยู่ที่ จ.ตากฯ... ส่วนผามออีแดงนั่นอยู่แถวเขาพระวิหารฯ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ กันยายน 14, 2013, 12:38:44 PM
บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 12:51:03 PM
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน

เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะครับ

Heel-and-toe ใช้เพื่อการรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด รวมถึงลดการการหน่วงของเครื่องยนต์เมื่อถอนครัช
เป็นเทคนิค "ใช้ในการคงกำลังและพร้อมจะเพิ่มความเร็ว" ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้เพื่อลดความเร็ว หน้าที่ในการลดความเร็วคือระบบเบรค
ถ้าทะลึ่งไปทำแบบนี้ในทางชันก็คงต้องตามไปเก็บศพในเหว  

การลงเขาแล้วความเร็วเกินต้องเบรคให้ความเร็วและรอบลดลงเท่านั้นจึงลดเกียร์ต่ำลง มิใช่เอาเทคนิคที่ใช้แข่งความเร็วอย่าง Heel-and-toe มาใช้
ใช้เอนจิ้นเบรคช่วยและเบรคเพื่อลดความเร็วดีกว่าปล่อยเกียร์ว่างลงเขามาแน่นอนครับ เวลาที่อัดมาทางตรงหนักๆแล้วเบรกเพื่อเข้าโค้งแคบๆนักแข่งจะใช้วิธีนี้เช่นกันเพราะจะยัดเกียร์ต่ำไม่ได้ คุณคงไม่รู้เรื่องเลยคิดว่าเป็นการรักษาเพาเว่อร์แบนเพียงอย่างเดียว และผมใช้เฉพาะเวลาคับขันสุดวิสัยเมื่อยัดเกียร์ไม่เข้าจริงๆ(เพราะความเร็วก่อนโค้งมากไป) ส่วนใหญ่ผมจะอ่านโค้งและเปลี่ยนเกียร์เพื่อลงเขาได้ก่อนจะเข้าเอเปกอยู่แล้ว ยกเว้นหมั่นไส้รถบางคันแล้วอัดแข่งกันมา เจอมาแล้วทุกสภาพเส้นทางครับทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นเขา ลงเขา


1. อ่านภาษาไทยไม่แตกอีกแล้ว วิ่งลงเขามาแล้วลดเกียร์ต่ำไม่ได้เพราะ "รอบเครื่องสูงเกินไป" จึงยัดเกียร์ต่ำเข้าไปไม่ได้
ทางแก้คือต้องลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลงพอที่จะเข้าเกียร์ต่ำได้นั่นคือต้องเบรค แต่ดันบอกให้ใช้ Heel-and-toe ซึ่งเป็นวิธีรักษารอบและกำลัง
แล้วเกียร์รถยนต์ทั่วๆไปเวลาเหยียบคันเร่งให้รอบสูงขึ้นไป มันลงเกียร์ต่ำง่ายขึ้นหรือ? ถ้ามันทำได้อย่างที่ว่า วิ่งเกียร์5ก็คงลงมาเกียร์2ได้เลย  

2. คุณเคยวิ่งสนามป่ะเนี่ย นักแข่งเวลาเจอโค้งแคบน่ะเขาใช้ "Full Braking" ก่อนถึงโค้ง พอ "รอบต่ำลงแล้ว"
จึงใช้เท้าซ้ายเหยี่ยบครัชและเท้าขวาใช้ Heel-and-toe เพิ่อคงแรงบิดและรอบเครื่องยนต์ระหว่างเข้าโค้ง พร้อมจะกดส่งเมื่อออกโค้ง
ย้ำนะว่านักแข่งเขาใช้เบรคก่อนเพื่อลดความเร็วและรอบเครื่อง เมื่อความเร็วและรอบเครื่องลดลงพอเหมาะแล้วจึงทำ Heel-and-toe

3. การที่คุณบอกว่าพุ่งเข้าโค้งแล้วความเร็วเกินแล้วต้องใช้ Heel-and-toe เข้าโค้งน่ะ ถ้ารถมันยังอยู่แปลว่าความเร็วไม่เกินลิมิตของรถ
เพราะถ้ามันเกินจริงๆอย่างที่ว่า แล้วยังทะลึ่ง Heel-and-toe คุณคงหลุดโค้งลงเหวไปแล้ว
วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งคือใช้ Braking Drift เข้า และใช้ Power Slide ออก




..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ::014::


เกียร์ธรรมดาคงอีกนานกว่าจะสูญพันธุ์ รถที่ขายในบ้านเรามันมีแค่ไม่กี่ยี่ห้อรถอีกมากมายที่ใช้เกียร์ธรรมดาครับ

รถสปอร์ทแรงๆที่ว่ามี Paddle Shift ให้ใช้น่ะ หน้าตามันอาจจะเหมือนเกียร์ออโต้ในรถบ้านจ่ายตลาดก็จริง แต่หลักการทำงานมันคือเกียร์ธรรมดาใช้เฟืองโลหะ
เพียงแต่ที่ไม่มีแป้นคลัชให้เหยียบเพราะยกคลัชด้วยระบบไฟฟ้าหรือไฮดรอลิค ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบเกียร์นี้ขึ้นมาเพราะมันรวดเร็วและแม่นยำกว่าคนทั่วไปความสบายเป็นของแถม
อย่าเอาไปเทียบกับเกียร์ CVT รถจ่ายตลาดที่ให้ Paddle Shift มาเพื่อทำเท่ครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 14, 2013, 01:05:21 PM
เดี๋ยวนี้ในสนามแข่งมีเกียร์ AT มากขึ้นแล้วบางกลุ่มมี MT 2 จากสิบ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 01:11:16 PM
เดี๋ยวนี้ในสนามแข่งมีเกียร์ AT มากขึ้นแล้วบางกลุ่มมี MT 2 จากสิบ

เกียร์รถสนามแท้ๆอย่างเกียร์ Dogbox ที่โยกขึ้น-ลงอย่างเดียวก็ถือว่าเป็นเกียร์ธรรมดาครับ
เพราะมันไม่มีระบบอัตโนมัติใดๆมาช่วย ไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงเอง ทุกอย่างต้องมาจากผู้ขับ



อ่อ เกือบลืม +1คุณTakeFive


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 14, 2013, 01:58:49 PM
นายสมชายอธิบาย heel and toe แบบภาษาบ้านๆสักหน่อย ให้ท่านที่มือใหม่หัดขับเข้าใจครับ... คือเมื่อเราจะเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ เมื่อเท้าซ้ายเหยียบคลัชปุ๊บรอบเครื่องมันจะตกลงมาที่รอบต่ำ หากใส่เกียร์ทันทีแล้วรถจะสะดุดเสียการทรงตัว หากฟริกชั่นยางหลุดจากถนนบางทีก็รถหมุนไปเลย ก็เลยต้องเหยียบคันเร่งเพื่อเลี้ยงรอบไปด้วยขณะที่เปลี่ยนเกียร์+เบรค ปรกติมักทำก่อนเข้าโค้ง/ในโค้ง/ออกโค้ง แล้วแต่สถานการณ์...

เมื่อรอบเครื่องมันตกลงมาต่ำ และเราต้องการให้เลี้ยงรอบเครื่องให้สูงสำหรับเกียร์ใหม่ที่เป็นเกียร์ต่ำ เราก็ต้องหาวิธีเหยียบคันเร่งให้รอบเครื่องมันสูงให้ได้... ทีนี้แป้นบังคับรถที่เท้ามันมี 3 แป้น(แต่คนมี 2 เท้า) เท้าซ้ายเหยียบคลัชไปแล้ว เท้าขวาเหยียบเบรคไปแล้ว, ก็เลยต้องเอาเท้าขวาวางขวางๆ เอ้าส้นเท้ากับปลายเท้าคล่อมเหยียบคันเร่งกับเบรคพร้อมๆกัน พอรอบเครื่องเร่งขึ้นมาเท่ากันกับเกียร์ต่ำปุ๊บ ก็ปล่อยคลัช ปล่อยเบรคแล้วขับต่อครับ...

แต่ถ้าเป็นเกียร์ออโต้(เช่นอัลติสบ้านๆ)นะครับ... อัดเบรคเต็มๆในทางตรงก่อนเข้าโค้งเลย อัดให้เต็มแบบที่คิดว่าปลอดภัยนั่นแหละ หากเบรคแล้วล้อมันไถลจะมีเสียง ABS ลั่นแกรกๆ ก็ช่างมัน เอาให้รถช้าไว้ก่อน(ระวังรถหลังชนท้าย), แล้วเมื่อความเร็วพอเหมาะคือไม่เหวี่ยงมากจนกลัวหลุดโค้ง เราก็หันพวงมาลัยให้ล้อหน้ามัน"จิกโค้ง"เอาไว้ แล้วเร่งส่งเข้าและออกโค้งเต็มที่ตามเท่าที่ท้ายไม่เหวี่ยงหลุดโค้งครับ ล้อหน้ามันจะลากเข้าโค้ง แต่ล้อหลังมันจะโดนเหวี่ยง แล้วเลี้ยงการทรงตัวด้วยคันเร่งกับหักพวงมาลัยแก้ทางเมื่อท้ายเหวี่ยงฯ แต่ไม่ใช่เลี้ยงการทรงตัวด้วยเบรคเป็นหลัก(เบรคแรงในโค้ง รถจะไถล)...

ใครจะไปลองเล่นฯ ต้องรู้วิธีหาลิมิตรถยนต์ก่อนด้วยครับ... ทำนองเดียวกับพวกเพาะกายฯ ต้องหาลิมิตตัวเองก่อนก่อนเพิ่มน้ำหนักแผ่นเหล็กฯ ไม่งั้นมันอันตรายครับ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 14, 2013, 02:25:10 PM
..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

(http://image.ohozaa.com/i/acc/ZDCQxa.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x5lHKbK8buJEmvwr)

(http://image.ohozaa.com/i/g86/ae4NWs.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x5lHO5vDj1VFCzZs)

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ::014::


พวงมาลัยยุ่งดีจัง เหมือนหน้าปัด ฮ เลย


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กันยายน 14, 2013, 03:19:53 PM
ข่าวต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน โจรขับรถหนีตำรวจจนน้ำมันหมด แล้วไปจี้เอารถอีกคันเพื่อจะหนี...ปรากฏว่า เมื่อโจรขึ้นไปบนรถแล้ว ดันไม่รีบขับหนี ...พวกจอดรอตำรวจดื้อๆ...คุณโจรบอกว่า...ที่ไม่หนี เพราะรถคันนี้เป็นเกียร์ธรรมดา มันขับไม่เป็นครับ

ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ แต่อยากจะเล่าครับ...แฮะๆ ไม่มี,ไร ::014:: ::008::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 04:15:49 PM
แต่ถ้าเป็นเกียร์ออโต้(เช่นอัลติสบ้านๆ)นะครับ... อัดเบรคเต็มๆในทางตรงก่อนเข้าโค้งเลย อัดให้เต็มแบบที่คิดว่าปลอดภัยนั่นแหละ หากเบรคแล้วล้อมันไถลจะมีเสียง ABS ลั่นแกรกๆ ก็ช่างมัน เอาให้รถช้าไว้ก่อน(ระวังรถหลังชนท้าย), แล้วเมื่อความเร็วพอเหมาะคือไม่เหวี่ยงมากจนกลัวหลุดโค้ง เราก็หันพวงมาลัยให้ล้อหน้ามัน"จิกโค้ง"เอาไว้ แล้วเร่งส่งเข้าและออกโค้งเต็มที่ตามเท่าที่ท้ายไม่เหวี่ยงหลุดโค้งครับ ล้อหน้ามันจะลากเข้าโค้ง แต่ล้อหลังมันจะโดนเหวี่ยง แล้วเลี้ยงการทรงตัวด้วยคันเร่งกับหักพวงมาลัยแก้ทางเมื่อท้ายเหวี่ยงฯ แต่ไม่ใช่เลี้ยงการทรงตัวด้วยเบรคเป็นหลัก(เบรคแรงในโค้ง รถจะไถล)...

ใครจะไปลองเล่นฯ ต้องรู้วิธีหาลิมิตรถยนต์ก่อนด้วยครับ... ทำนองเดียวกับพวกเพาะกายฯ ต้องหาลิมิตตัวเองก่อนก่อนเพิ่มน้ำหนักแผ่นเหล็กฯ ไม่งั้นมันอันตรายครับ...

รถเกียร์ออโต้ก็มีวิธีรักษารอบเครื่องครับพี่สมชาย ช่วงหลังผมใช้บ่อยเพราะขับรถออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา
วิธีที่ว่าคือ "Left-foot braking หรือ เบรคเท้าซ้าย" ใช้งานกับรถเกียร์ออโต้ขับเคลื่อนล้อหน้าได้ดีมาก รวมถึงรถที่มีอาการเบาดับด้วยครับ

ส่วนรถขับหลังก็ใช้ได้แต่จะยากกว่า ถ้าส่งคันเร่งแรงล้อหลังจะปั่นฟรี ถ้ารถไม่อยู่ในแนวตรงรถจะเกิดOversteer
คนที่เคยเล่นโกคาร์ทจะเข้าใจวิธีการคุมรถกับวิธีการเบรคแบบนี้ครับ  ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pvjt ที่ กันยายน 14, 2013, 04:46:31 PM
ชุดเกียร์ธรรมดาทนกว่า แต่จุดอ่อนของเกียร์ธรรมดาคือครัทช์ที่มีการสึกหรอหรือไหม้ถ้ามีการใช้งานไม่ถูกต้อง ส่วนการตอบสนองในการขับขี่ของเกียร์ธรรมดารวดเร็วแม่นยำกว่า ยกเว้นพวกรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีระบบครัทช์อัตโนมัติหรือดับเบิ้ลครัทช์  อันนี้ไม่นับรถบ้านๆที่มีเกียร์ดับเบิ้ลครัทช์เพราะการที่ชุดครัทช์ไปจับเกียร์ต่อไปรอไว้ ทำให้สูญเสียกำลังเกิดภาระของเครื่องยนต์ไม่ส่งผลชัดเจนในเรื่องสมรรถนะ(เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ทรงพลังอย่างรถสปอร์ต)
น่าจะเข้าใจการทำงานของเกียร์ดับเบิ้ลครัทซ์ผิดไปนะครับ

..dual clutch รึเปล่าครับ  ...การdouble clutch ทำให้นึกถึงเบิ้ลก่อนสับเกียร์ :)
..dual clutch ในเกียร์ออโต้  น่าจะกำลังมาแทนที่ระบบออโต้Torque Converter    แต่CVTก็คงมีการพัฒนาต่อไป  แม้จะไม่ถูกใจท่านที่เท้าโหด  แต่คงยังถูกใจสำหรับผู้ที่นิยมความนิ่มนวล..


ฮอนด้าเอาเกียร์ cvt มาใช้เมื่อสิบปีที่แล้วฮือฮาอยู่พักนึงแล้วเลิกไป
อีกหลายยี่ห้อเอามาใช้เมื่อปี-สองปีที่ผ่านมาโหมโฆษณาชะเลิศหรู

แต่ ......  ผมไม่ชอบเกียร์ระบบนี้เอาเสียเลย

..คงหมายถึงแจ๊สหรือซิตี้ ยุคแรกๆ  ระยะยาวทั้งหอนทั้งเห่า .ต้องหวนกลับมาใช้. Torque Converter
... ปลายปีรอดูแจ๊ส2014 จะเป็น auto dual clutch มาแทนที่ ละครับ..


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pvjt ที่ กันยายน 14, 2013, 05:15:28 PM





..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ::014::


เกียร์ธรรมดาคงอีกนานกว่าจะสูญพันธุ์ รถที่ขายในบ้านเรามันมีแค่ไม่กี่ยี่ห้อรถอีกมากมายที่ใช้เกียร์ธรรมดาครับ

รถสปอร์ทแรงๆที่ว่ามี Paddle Shift ให้ใช้น่ะ หน้าตามันอาจจะเหมือนเกียร์ออโต้ในรถบ้านจ่ายตลาดก็จริง แต่หลักการทำงานมันคือเกียร์ธรรมดาใช้เฟืองโลหะ
เพียงแต่ที่ไม่มีแป้นคลัชให้เหยียบเพราะยกคลัชด้วยระบบไฟฟ้าหรือไฮดรอลิค ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบเกียร์นี้ขึ้นมาเพราะมันรวดเร็วและแม่นยำกว่าคนทั่วไปความสบายเป็นของแถม
อย่าเอาไปเทียบกับเกียร์ CVT รถจ่ายตลาดที่ให้ Paddle Shift มาเพื่อทำเท่ครับ

....เก๋งบ้านเรา  เกียร์ธรรมดา  ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหลือแต่เก๋งเล็ก+กลางรุ่นประหยัด   ส่วนเก๋งใหญ่ไม่น่าจะมีแล้วมั้งครับ
..ที่โพสไว้.. จึงได้ทำตัวแดงไว้ที่.. Semi-Automatic..  เพราะในสเปคทั้งRB6  rebbull และ Ferrari ระบุไว้งั้น
..แต่Ferrari..กลับใช้เกียร์สายพานCVTครับ
..    Paddle Shift ในCVTรถจ่ายตลาดเช่นแจ๊ส  เขี่ยทีกว่าจะตอบสนอง  น่าจะเกือบวิ..  คงต่างกันไกล


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 05:26:19 PM
....เก๋งบ้านเรา  เกียร์ธรรมดา  ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหลือแต่เก๋งเล็ก+กลางรุ่นประหยัด   ส่วนเก๋งใหญ่ไม่น่าจะมีแล้วมั้งครับ
..ที่โพสไว้.. จึงได้ทำตัวแดงไว้ที่.. Semi-Automatic..  เพราะในสเปคทั้งRB6  rebbull และ Ferrari ระบุไว้งั้น
..แต่Ferrari..กลับใช้เกียร์สายพานCVTครับ
..    Paddle Shift ในCVTรถจ่ายตลาดเช่นแจ๊ส  เขี่ยทีกว่าจะตอบสนอง  น่าจะเกือบวิ..  คงต่างกันไกล

ครับ เก๋งบ้านเราส่วนใหญ่มีแต่รถใช้งานตลาดรถสปอร์ตมันเป็นส่วนน้อยครับ แต่ในต่างประเทศเกียร์ธรรมดายังแพร่หลายอยู่มาก

ส่วน Ferrari ที่ว่าใช้เกียร์ CVTนี่คือรุ่นไหนครับ พอดีผมไม่ได้ตามข้อมูลรถรุ่นใหม่ๆนานแล้ว


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pvjt ที่ กันยายน 14, 2013, 06:38:29 PM
....เก๋งบ้านเรา  เกียร์ธรรมดา  ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหลือแต่เก๋งเล็ก+กลางรุ่นประหยัด   ส่วนเก๋งใหญ่ไม่น่าจะมีแล้วมั้งครับ
..ที่โพสไว้.. จึงได้ทำตัวแดงไว้ที่.. Semi-Automatic..  เพราะในสเปคทั้งRB6  rebbull และ Ferrari ระบุไว้งั้น
..แต่Ferrari..กลับใช้เกียร์สายพานCVTครับ
..    Paddle Shift ในCVTรถจ่ายตลาดเช่นแจ๊ส  เขี่ยทีกว่าจะตอบสนอง  น่าจะเกือบวิ..  คงต่างกันไกล

ครับ เก๋งบ้านเราส่วนใหญ่มีแต่รถใช้งานตลาดรถสปอร์ตมันเป็นส่วนน้อยครับ แต่ในต่างประเทศเกียร์ธรรมดายังแพร่หลายอยู่มาก

ส่วน Ferrari ที่ว่าใช้เกียร์ CVTนี่คือรุ่นไหนครับ พอดีผมไม่ได้ตามข้อมูลรถรุ่นใหม่ๆนานแล้ว

..ขออภัย  ไปสับสนกับRenault  อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งตามข่าว Italian GP  ..Renault RB6 Redbull .Sebastian เข้าวินตามความคาดหมาย  คะแนนสะสมก็นำห่าง Alonso ..Ferrari
..ทีมที่เคยพัฒนา CVT ถึงขั้นทดสอบอย่างต่อเนื่อง  เป็นทีมวิลเลี่ยมส์เรโนลด์  ...แต่F1 กำหนดว่า เกียร์ต้องเป็นแบบที่มีอัตราทดแบบไม่ต่อเนื่อง 2 ถึง 7 อัตราทด
..แต่CVT ที่อัตราทดเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่องก็เลยผิดกฎของ F1
..ไม่แน่ ถ้าF1 ยอมให้ใช้CVT   ทีมวิลเลี่ยมส์เรโนลด์อาจจะไม่ตกอันดับบ๊วยๆ  อาจได้ไต่อันดับขึ้นมาต้นๆก็เป็นได้.. :) ::014::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ กันยายน 14, 2013, 07:17:35 PM
จะซี่ิงเข้าไปสนามดีกว่า เดี๋ยวนี้มีสนามตั้งหลายแห่ง ;D ;D ;D รถทางเดียวไม่เจอรถสวน หมุนก็ดีกว่าไปซิ่งบนถนน

พวกชอบซิ่งบนถนนไม่กล้าลงสนามหรอก กลัวตัวเองด้อยกว่าเขาน่ะ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ กันยายน 14, 2013, 07:36:02 PM
ตั้งแต่ อ่านมา ไม่เห็นมีใครบอก เวลา เกียร์ออโตเสีย หรือ ยกครัช เกียร์ ออโต ครั้งหนึ่ง มีค่าใช้จ่าย เท่าไหร่ ที่เห็น ๆ บางยี่ห้อ เปลี่ยนครั้งละ หลัก แสน บาทเลยทีเดียว


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 14, 2013, 07:44:52 PM
ตั้งแต่ อ่านมา ไม่เห็นมีใครบอก เวลา เกียร์ออโตเสีย หรือ ยกครัช เกียร์ ออโต ครั้งหนึ่ง มีค่าใช้จ่าย เท่าไหร่ ที่เห็น ๆ บางยี่ห้อ เปลี่ยนครั้งละ หลัก แสน บาทเลยทีเดียว

ค่ายกครัชเกียร์ออโต ก็มีค่าของ กับค่าแรงช่าง
ค่าของก็มี ค่าแผ่นคลัท หวีคลัท ซึ่งมีหลายชิ้นมาก ราคาก็คูณต่อชิ้นเข้าไป น่าจะมีค่าของราวๆ อยู่ระหว่าง 9000 +- 15000
รวมค่าแรงด้วย น่าจะต้องเจียดค่ามาม่าไป 20000-25000 ซึ่งยกแล้ว ก็ใช้ได้อีกนานประมาณดีที่สุดก็เท่าลูกเดิมนั่นแหละ
  อันนี้รถยุโรปยี่ห้อหนึ่งที่ผมเคยซ่อมนะ ของญี่ปุ่นเขาทำยังไงกันครับ ซ่อมหรือเปลี่ยน เห็นบางคนบอกว่า เปลี่ยนยกเกียร์เซียงกงมา
แต่ผมว่าซ่อมน่าจะมั่นใจมากกว่า เพราะของเซียงกงเราก็ไม่ทราบว่าใช้งานมานานแค่ไหนแล้ว


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 08:07:15 PM
ตั้งแต่ อ่านมา ไม่เห็นมีใครบอก เวลา เกียร์ออโตเสีย หรือ ยกครัช เกียร์ ออโต ครั้งหนึ่ง มีค่าใช้จ่าย เท่าไหร่ ที่เห็น ๆ บางยี่ห้อ เปลี่ยนครั้งละ หลัก แสน บาทเลยทีเดียว

ค่ายกครัชเกียร์ออโต ก็มีค่าของ กับค่าแรงช่าง
ค่าของก็มี ค่าแผ่นคลัท หวีคลัท ซึ่งมีหลายชิ้นมาก ราคาก็คูณต่อชิ้นเข้าไป น่าจะมีค่าของราวๆ อยู่ระหว่าง 9000 +- 15000
รวมค่าแรงด้วย น่าจะต้องเจียดค่ามาม่าไป 20000-25000 ซึ่งยกแล้ว ก็ใช้ได้อีกนานประมาณดีที่สุดก็เท่าลูกเดิมนั่นแหละ
  อันนี้รถยุโรปยี่ห้อหนึ่งที่ผมเคยซ่อมนะ ของญี่ปุ่นเขาทำยังไงกันครับ ซ่อมหรือเปลี่ยน เห็นบางคนบอกว่า เปลี่ยนยกเกียร์เซียงกงมา
แต่ผมว่าซ่อมน่าจะมั่นใจมากกว่า เพราะของเซียงกงเราก็ไม่ทราบว่าใช้งานมานานแค่ไหนแล้ว

ผมผ่านมาแล้ว ทั้งเปลี่ยนและซ่อม.  ::008::

เกียร์ Jeep Cherokee. 4.L ติดรถผมพัง เพราะครัชไหม้ จึงเปลี่ยนของเก่าจากเชียงกง ยกเข้าไปแทน
ค่าเกียร์ ๑๘,๐๐๐.- ค่าแรง + น้ำมัน ๔,๐๐๐.-

ขับมาได้ราว ๔,๐๐๐ กม. หม้อน้ำแตกเข้าเกียร์ แก้ไม่จบ ต้องเปลี่ยน ไม่ก็ซ่อมโดยใช้ชุดซ้อม อยู่ที่ ๒๙,๐๐๐.-
คราวนี้ ผมเลือกซ้อม ใช้มาได้ ๓ ปีแล้ว  ช่วง ๑ - ๒ ปีใช้ดี ครับ เข้าปีที่ ๓ เหมือนจะไม่ลื่นซะแล้ว.   :~)  


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ กันยายน 14, 2013, 08:10:44 PM
ตั้งแต่ อ่านมา ไม่เห็นมีใครบอก เวลา เกียร์ออโตเสีย หรือ ยกครัช เกียร์ ออโต ครั้งหนึ่ง มีค่าใช้จ่าย เท่าไหร่ ที่เห็น ๆ บางยี่ห้อ เปลี่ยนครั้งละ หลัก แสน บาทเลยทีเดียว
ค่าใช้จ่ายrange ค่อนข้างกว้างมากครับ ตั้งแต่8000-150,000ต้องscopeลงมา ว่าเป็นรถของฝั่งโลกไหน ในยุคช่วงปีอะไร เป็นเกียร์ไฟฟ้า,DCT(dual clutch) หรือ CVT ถึงจะตอบได้ครับ
เอาราคาที่คร่าวๆที่เคยเห็นเพื่อน หรือคนใกล้ตัวไปทำมา ในเรทของอู่ที่เป็นมืออาชีพในการซ่อมเกียร์ เช่น อู่พรมประสิทธ์นะครับ

เปลี่ยน torque converter แบบ Manufacture re-build ก็ตก 15,000
ถ้าผ่าเกียร์ออกมาแล้ว ก็ต้องเจอค่าเปลี่ยน พวก ผ้าclutch ประเก็น o-ring ก็ตก 10,000-30,000
ค่าน้ำมันเกียร์ ถ้ารถยี่ปุ่น หรือ ยุโรป ปีเก่าๆ อย่าง Benz w124 ก็ลิตรละ 3-400 ยุโรปปีใหม่หน่อยก็ตก 800 ยี่ปุ่นแพงๆอย่าง  NISSAN GTR ก็ลิตรละ3000
ถ้าเปลี่ยนสมอง(valve-body) เกียร์ZF ของพวกรถเยอรมัน ก็30,000 ถ้า volvo ก็ตก80,000
ถ้าเป็นเกียร์ CVT ยุโรป สายพานก็เส้นละ 30,000


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 08:15:55 PM
....เก๋งบ้านเรา  เกียร์ธรรมดา  ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหลือแต่เก๋งเล็ก+กลางรุ่นประหยัด   ส่วนเก๋งใหญ่ไม่น่าจะมีแล้วมั้งครับ
..ที่โพสไว้.. จึงได้ทำตัวแดงไว้ที่.. Semi-Automatic..  เพราะในสเปคทั้งRB6  rebbull และ Ferrari ระบุไว้งั้น
..แต่Ferrari..กลับใช้เกียร์สายพานCVTครับ
..    Paddle Shift ในCVTรถจ่ายตลาดเช่นแจ๊ส  เขี่ยทีกว่าจะตอบสนอง  น่าจะเกือบวิ..  คงต่างกันไกล

ครับ เก๋งบ้านเราส่วนใหญ่มีแต่รถใช้งานตลาดรถสปอร์ตมันเป็นส่วนน้อยครับ แต่ในต่างประเทศเกียร์ธรรมดายังแพร่หลายอยู่มาก

ส่วน Ferrari ที่ว่าใช้เกียร์ CVTนี่คือรุ่นไหนครับ พอดีผมไม่ได้ตามข้อมูลรถรุ่นใหม่ๆนานแล้ว

..ขออภัย  ไปสับสนกับRenault  อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งตามข่าว Italian GP  ..Renault RB6 Redbull .Sebastian เข้าวินตามความคาดหมาย  คะแนนสะสมก็นำห่าง Alonso ..Ferrari
..ทีมที่เคยพัฒนา CVT ถึงขั้นทดสอบอย่างต่อเนื่อง  เป็นทีมวิลเลี่ยมส์เรโนลด์  ...แต่F1 กำหนดว่า เกียร์ต้องเป็นแบบที่มีอัตราทดแบบไม่ต่อเนื่อง 2 ถึง 7 อัตราทด
..แต่CVT ที่อัตราทดเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่องก็เลยผิดกฎของ F1
..ไม่แน่ ถ้าF1 ยอมให้ใช้CVT   ทีมวิลเลี่ยมส์เรโนลด์อาจจะไม่ตกอันดับบ๊วยๆ  อาจได้ไต่อันดับขึ้นมาต้นๆก็เป็นได้.. :) ::014::

ถ้าปัญหาไม่ได้เกิดจาก FIA  ก็อาจจะมาจากวิศวกรของ Renault ที่หาวัสดุสำหรับทำสายพานหรือโซ่ที่รับภาระงานหนักขนาดนั้นไม่ไหว
ยังไม่รวมที่จะต้องทนความเร็วรอบของเครื่องยนต์ระดับเฉียดๆ 20,000RPM ให้ได้ด้วย


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ กันยายน 14, 2013, 08:38:28 PM
อันนี้ ก็ไม่แน่ใจ ครับ แต่ได้ยินมาว่า เกียร์ รถรุ่นใหม่ บางรุ่น ออกแบบมาเป็นแบบ ปิด ผ่าซ่อม ไม่ได้ เสีย ซื้อเปลี่ยน อย่างเดียว ไม่รู้ว่า มีจริงหรือ เปล่า ครับ อันนี้ ไม่รู้จริง ๆ

แต่ที่เจอ คือ รถเพื่อนผม ฟอร์ด เอสแคป เกียร์ ออโต พอพ้น 3 แสนกิโล แล้ว พัง ทาง ศูนย์ บอก ต้องเปลี่ยน ค่าเปลี่ยน 3 แสน


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 14, 2013, 08:41:14 PM
อันนี้ ก็ไม่แน่ใจ ครับ แต่ได้ยินมาว่า เกียร์ รถรุ่นใหม่ บางรุ่น ออกแบบมาเป็นแบบ ปิด ผ่าซ่อม ไม่ได้ เสีย ซื้อเปลี่ยน อย่างเดียว ไม่รู้ว่า มีจริงหรือ เปล่า ครับ อันนี้ ไม่รู้จริง ๆ

แต่ที่เจอ คือ รถเพื่อนผม ฟอร์ด เอสแคป เกียร์ ออโต พอพ้น 3 แสนกิโล แล้ว พัง ทาง ศูนย์ บอก ต้องเปลี่ยน ค่าเปลี่ยน 3 แสน
เดี๋ยวผมไปเชิญ ผู้เชี่ยวชาญรุ่นนี้มาให้คำตอบ ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 14, 2013, 08:43:43 PM
รถเกียร์ออโต้ก็มีวิธีรักษารอบเครื่องครับพี่สมชาย ช่วงหลังผมใช้บ่อยเพราะขับรถออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา
วิธีที่ว่าคือ "Left-foot braking หรือ เบรคเท้าซ้าย" ใช้งานกับรถเกียร์ออโต้ขับเคลื่อนล้อหน้าได้ดีมาก รวมถึงรถที่มีอาการเบาดับด้วยครับ

ส่วนรถขับหลังก็ใช้ได้แต่จะยากกว่า ถ้าส่งคันเร่งแรงล้อหลังจะปั่นฟรี ถ้ารถไม่อยู่ในแนวตรงรถจะเกิดOversteer
คนที่เคยเล่นโกคาร์ทจะเข้าใจวิธีการคุมรถกับวิธีการเบรคแบบนี้ครับ  ::014:: ::014::

ขอบคุณครับ... สำหรับรถนายสมชายช่วงล่างบ้านๆ เลยไม่มีปัญหาเรื่องเลี้ยงรอบ เพราะหากเร่งไม่ระวังช่วงล่างมันเอาไม่อยู่ครับ คือล้อหน้ามันจะลากเหวี่ยงท้ายปัดเลยครับ, คือลิมิตรถอยู่ที่ช่วงล่าง ทั้งที่แรงบิดยังเหลือ เลยไม่ต้องเลี้ยงรอบครับ... แฮ่ๆ...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กันยายน 14, 2013, 08:46:11 PM
อันนี้ ก็ไม่แน่ใจ ครับ แต่ได้ยินมาว่า เกียร์ รถรุ่นใหม่ บางรุ่น ออกแบบมาเป็นแบบ ปิด ผ่าซ่อม ไม่ได้ เสีย ซื้อเปลี่ยน อย่างเดียว ไม่รู้ว่า มีจริงหรือ เปล่า ครับ อันนี้ ไม่รู้จริง ๆ

แต่ที่เจอ คือ รถเพื่อนผม ฟอร์ด เอสแคป เกียร์ ออโต พอพ้น 3 แสนกิโล แล้ว พัง ทาง ศูนย์ บอก ต้องเปลี่ยน ค่าเปลี่ยน 3 แสน
เดี๋ยวผมไปเชิญ ผู้เชี่ยวชาญรุ่นนี้มาให้คำตอบ ::005::
ตอบไม่ได้ เพราะม่ายข้อมูล ใช้มาแสนหว๋าโล วิ่งมาสี่รอบประเทศไทย มันไม่โห๊ะที


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 14, 2013, 08:52:11 PM
รถเกียร์ออโต้ก็มีวิธีรักษารอบเครื่องครับพี่สมชาย ช่วงหลังผมใช้บ่อยเพราะขับรถออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา
วิธีที่ว่าคือ "Left-foot braking หรือ เบรคเท้าซ้าย" ใช้งานกับรถเกียร์ออโต้ขับเคลื่อนล้อหน้าได้ดีมาก รวมถึงรถที่มีอาการเบาดับด้วยครับ

ส่วนรถขับหลังก็ใช้ได้แต่จะยากกว่า ถ้าส่งคันเร่งแรงล้อหลังจะปั่นฟรี ถ้ารถไม่อยู่ในแนวตรงรถจะเกิดOversteer
คนที่เคยเล่นโกคาร์ทจะเข้าใจวิธีการคุมรถกับวิธีการเบรคแบบนี้ครับ  ::014:: ::014::

ขอบคุณครับ... สำหรับรถนายสมชายช่วงล่างบ้านๆ เลยไม่มีปัญหาเรื่องเลี้ยงรอบ เพราะหากเร่งไม่ระวังช่วงล่างมันเอาไม่อยู่ครับ
คือล้อหน้ามันจะลากเหวี่ยงท้ายปัดเลยครับ, คือลิมิตรถอยู่ที่ช่วงล่าง ทั้งที่แรงบิดยังเหลือ เลยไม่ต้องเลี้ยงรอบครับ... แฮ่ๆ...

::002:: ::002::

อีกสองส่วนอยู่ที่ น้ำหนัก และบาลานส์ของรถ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กันยายน 14, 2013, 08:57:49 PM
ส่วนใคร ทนกว่า ก็ตอบไม่ได้ มีรถใช้ทั้งธรรมดาและออโตฯ ใช้มามากอยู่ แต่มันไม่เคยพังสักที ทั้งสองแบบ เลยไม่รู้ ครับ

เสริม ...แก่แล้ว ชอบขับออโตมากกว่าธรรมดาครับ...เพราะ

สะดวกสะบาย จะเอายังไงกะมันก็ได้ (หากรู้จักที่จะใช้มัน) อันนี้พูดถึงออโตใหม่ๆ มิใช่ย้อนยุคสมัยยี่สิบปีที่แล้วครับ เอาเป็นว่าก้มดู ที่มีตำแหน่งเกียร์ แค่ P R N D พวกที่มี D 123 นั่นเกียร์ติดโบราณหน่อย

เท้าซ้ายตั้งยันให้สบายๆ ไม่ต้องเหยียบครัทช์ให้เมื่อย

มือซ้าย ว่างมากมาย เอาใว้ทำอะไรอย่างอื่น เยอะแยะ และยังเอามาช่วยหมุนพวงมาลัย เวลาเข้าโค้ง ยังจะดีกว่า ที่จะเอาไปหยำหัวเกียร์

ที่สำคัญ ต้องรู้จักจังหวะของรถคันที่เราขับครับ จังหวะคิกดาวมันตอบสนองอย่างไร เบรคเป็นไง

สนุก คนที่ไม่เคยขับออโต หรือเคยขับแต่ใช้น้อย อย่าแอนตี้มาก ลองดู ใช้ให้ดี แล้วจะชอบครับ

อ้อ....สมุดคู่มือการใช้รถ เล่มหลายบาทน๊ะครับ เราเสียตังค์ด้วยน๊ะนั่น เปิดอ่านทำความเข้าใจรถเราซ๊ะ อิๆๆ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 14, 2013, 09:01:15 PM
เพิ่งหัดขับรถมาบ้างครับจากเกียร์ธรรมดารถกระบะ2500cc ไปดูปัญหาที่ถกกันในหลายๆเวปแล้วผมยังฟันธงไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่ากันแบบขาดๆ หลายคนว่าออโต้จุกจิกน้อยกว่า เพราะบอกว่ารถซื้อมาพร้อมกัน ใช้ได้100000โลก็ต้องยกชุดคลัทใหม่แล้ว สว่นออโต้ใช้มาสิบกว่าปีถ่ายแต่น้ำมันเกียร์ตามระยะ ไม่รู้จะเชื่อใครดีครับ แต่ที่แน่ๆออโต้เหมาะสำหรับในเมืองกับรถตัวสั้นๆเล็กๆที่ไม่เน้นแรงมาก และเกียร์ธรรมดาก็ออกตัวคมดี


Ha  Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีป๊อตเตอร์อ่ะ ฮา

กระทู้เดินมา "เก้า"หน้าแล้วอ่ะ ฮา

5555 กลับไปขี่ "มอไซด์"  เห๊อะ อ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 14, 2013, 10:01:34 PM
ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 15, 2013, 12:48:57 AM
ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน

เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะครับ

Heel-and-toe ใช้เพื่อการรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด รวมถึงลดการการหน่วงของเครื่องยนต์เมื่อถอนครัช
เป็นเทคนิค "ใช้ในการคงกำลังและพร้อมจะเพิ่มความเร็ว" ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้เพื่อลดความเร็ว หน้าที่ในการลดความเร็วคือระบบเบรค
ถ้าทะลึ่งไปทำแบบนี้ในทางชันก็คงต้องตามไปเก็บศพในเหว 

การลงเขาแล้วความเร็วเกินต้องเบรคให้ความเร็วและรอบลดลงเท่านั้นจึงลดเกียร์ต่ำลง มิใช่เอาเทคนิคที่ใช้แข่งความเร็วอย่าง Heel-and-toe มาใช้
ใช้เอนจิ้นเบรคช่วยและเบรคเพื่อลดความเร็วดีกว่าปล่อยเกียร์ว่างลงเขามาแน่นอนครับ เวลาที่อัดมาทางตรงหนักๆแล้วเบรกเพื่อเข้าโค้งแคบๆนักแข่งจะใช้วิธีนี้เช่นกันเพราะจะยัดเกียร์ต่ำไม่ได้ คุณคงไม่รู้เรื่องเลยคิดว่าเป็นการรักษาเพาเว่อร์แบนเพียงอย่างเดียว และผมใช้เฉพาะเวลาคับขันสุดวิสัยเมื่อยัดเกียร์ไม่เข้าจริงๆ(เพราะความเร็วก่อนโค้งมากไป) ส่วนใหญ่ผมจะอ่านโค้งและเปลี่ยนเกียร์เพื่อลงเขาได้ก่อนจะเข้าเอเปกอยู่แล้ว ยกเว้นหมั่นไส้รถบางคันแล้วอัดแข่งกันมา เจอมาแล้วทุกสภาพเส้นทางครับทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นเขา ลงเขา


1. อ่านภาษาไทยไม่แตกอีกแล้ว วิ่งลงเขามาแล้วลดเกียร์ต่ำไม่ได้เพราะ "รอบเครื่องสูงเกินไป" จึงยัดเกียร์ต่ำเข้าไปไม่ได้
ทางแก้คือต้องลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลงพอที่จะเข้าเกียร์ต่ำได้นั่นคือต้องเบรค แต่ดันบอกให้ใช้ Heel-and-toe ซึ่งเป็นวิธีรักษารอบและกำลัง
แล้วเกียร์รถยนต์ทั่วๆไปเวลาเหยียบคันเร่งให้รอบสูงขึ้นไป มันลงเกียร์ต่ำง่ายขึ้นหรือ? ถ้ามันทำได้อย่างที่ว่า วิ่งเกียร์5ก็คงลงมาเกียร์2ได้เลย 

2. คุณเคยวิ่งสนามป่ะเนี่ย นักแข่งเวลาเจอโค้งแคบน่ะเขาใช้ "Full Braking" ก่อนถึงโค้ง พอ "รอบต่ำลงแล้ว"
จึงใช้เท้าซ้ายเหยี่ยบครัชและเท้าขวาใช้ Heel-and-toe เพิ่อคงแรงบิดและรอบเครื่องยนต์ระหว่างเข้าโค้ง พร้อมจะกดส่งเมื่อออกโค้ง
ย้ำนะว่านักแข่งเขาใช้เบรคก่อนเพื่อลดความเร็วและรอบเครื่อง เมื่อความเร็วและรอบเครื่องลดลงพอเหมาะแล้วจึงทำ Heel-and-toe

3. การที่คุณบอกว่าพุ่งเข้าโค้งแล้วความเร็วเกินแล้วต้องใช้ Heel-and-toe เข้าโค้งน่ะ ถ้ารถมันยังอยู่แปลว่าความเร็วไม่เกินลิมิตของรถ
เพราะถ้ามันเกินจริงๆอย่างที่ว่า แล้วยังทะลึ่ง Heel-and-toe คุณคงหลุดโค้งลงเหวไปแล้ว
วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งคือใช้ Braking Drift เข้า และใช้ Power Slide ออก




..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. :VOV:

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ::014::


เกียร์ธรรมดาคงอีกนานกว่าจะสูญพันธุ์ รถที่ขายในบ้านเรามันมีแค่ไม่กี่ยี่ห้อรถอีกมากมายที่ใช้เกียร์ธรรมดาครับ

รถสปอร์ทแรงๆที่ว่ามี Paddle Shift ให้ใช้น่ะ หน้าตามันอาจจะเหมือนเกียร์ออโต้ในรถบ้านจ่ายตลาดก็จริง แต่หลักการทำงานมันคือเกียร์ธรรมดาใช้เฟืองโลหะ
เพียงแต่ที่ไม่มีแป้นคลัชให้เหยียบเพราะยกคลัชด้วยระบบไฟฟ้าหรือไฮดรอลิค ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบเกียร์นี้ขึ้นมาเพราะมันรวดเร็วและแม่นยำกว่าคนทั่วไปความสบายเป็นของแถม
อย่าเอาไปเทียบกับเกียร์ CVT รถจ่ายตลาดที่ให้ Paddle Shift มาเพื่อทำเท่ครับ
เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 15, 2013, 01:16:46 AM
บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 01:28:58 AM
บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ กันยายน 15, 2013, 08:27:38 AM
รถที่ผม ใช้อยู่ ก็เป็น เกียร์ ธรรมดา ครับ ไม่เคยคิดใช้ เกียร์ ออโต ปกติ ใช้รถไฟฟ้า หรือไม่ก็ รถเมล์ เวลาใช้รถ ส่วนใหญ่ ก็จะใช้เดินทางไกล เลยไม่สนใจ เกียร์ ออโต


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: _RANGER_ ที่ กันยายน 15, 2013, 08:35:08 AM
เกียร์ออโตขับสบายครับ พอมาขับเกียร์ออโตแล้วไม่คิดจะกลับไปขับเกียร์ธรรมดาอีกเลย  ::002::
ส่วนเรื่องอันไหนทนกว่ากันนั้นผมคิดว่าอยู่ที่เท้าคนขับ กับ การบำรุงรักษาครับ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 15, 2013, 09:29:33 AM
บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 09:46:14 AM

ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ
คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

พี่แค่ถามว่า  แมนวล  กับ ออโต อย่างไหน ดีกว่ากัน อ่ะ ฮา
แต่พวกพี่ๆ  เขาคุยกันเรื่อง เกียร์  "ไฮเทค"  แล้ว อ่ะ ฮา
อย่าพี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์   "ฟัง"  ไม่รู้เรื่อง  ร๊อกส์ ฮา

เอออ.... ถ้าเป็น  ยันมาร์  คูโบต้า   นิสสัน ฮา
ยายคิดว่า  คงพอรู้เรื่อง  บ้าง แหละ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

กะอีแค่เรื่อง  ขับมอไซค์  ไม่ "ปิด"  ฝาถังน้ำมัน  ก็ยังขบไม่แตก ฮา

55555  กลับไปขี่  มอไซค์ เห๊อะ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 10:33:21 AM
เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ กันยายน 15, 2013, 10:42:27 AM
เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 10:56:27 AM
เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ อั้ม ปากแดง เนี่ยะ ฮา

ยายก็ว่า  "เหม่ง ๆ" น๊ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::
ไอ้เรื่อง    ขับรถ "ลงเขา"  เนี่ยะ 
มันต้องใช้เบรคช่วย  เหยียบปล่อย เหยียบปล่อย  เพื่อเปลี่ยนเกียร์ต่ำทั้งนั้น อ่ะ ฮา
ใครมันจะเร่ง "ส่ง"  ลงไปหาหุบ  หาเหว  อ่ะ ฮา
แต่พอใกล้จะถึง  "แอ่ง" ด้านล่าง  ก็เปลี่ยนเกียร์ อัดขึ้นไปใหม่อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ส่วนเรื่อง .357 หรือ .44 เคยยิงมากี่นัด อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ยายแปลกใจมานานแล้วอ่ะ ฮา
เอาหม้อ "ต้มกาแฟ"  ไปเสียบปลั้ก ใส่น้ำ ต้มล้างบอร์ด คอม อ่ะ ฮา

จานโฉมชาย(ฮา)  บอกว่าอยู่คอนโด "ริมน้ำ" ฮา
ยายขับผ่านแถว "แจ้งวัฒนะ"  มอหาไอ้หลังริมน้ำ ไม่เจออ่ะ ฮา
เอ้อ  ยายสงสัย คอนโดหลังนั้น  มองออกมาเห็น "ปล่องภูเขาไฟ" ข้างๆ อ่ะ ฮา

55555 ยายเสียความ "เชื่อมั่น"  เลยอ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::



หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ กันยายน 15, 2013, 11:06:54 AM
บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้
โอย อ่านแล้วเพลียครับ ท่านต้องถามตัวเองแล้วแหละครับ ว่าเคยศึกษา หาข้อมูลใดๆ ก่อนจะมาให้ความเห็นหรือเปล่า?
เกียร์ clutch คู่ มีclutch 2 ชุด แยกกันขับ เพลาขับเฟืองเกียร์ 2 ชุด ที่วางซ้อนกันเหมือนปลอกปากกา กับ ไส้ปากกา โดยแต่ละชุดไปขับกับเฟืองเกียร์สลับลำดับกัน เช่น ชุด1 ต่อกับ เกียร์1,3,5 ชุด 2 ต่อกับ เกียร์ 2,4,6 แล้วแต่ละชุด จะมี selector เลือกขับ ทีละเกียร์ ไม่ได้ต่อกันเป็นพรวนทั้งระบบ
เช่น ถ้าคนขับ อยู่ที่เกียร์ 2 เร่งความเร็วถึงจุดหนึ่งจน ecu เตรียมสั่งให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 ชุด hydrulic ก็จะ disengage เพลาเกียร์ชุดแรก ที่แต่เดิมต่อ กับเกียร์ 1 เป็นเกียร์ 3 แทน พอถึงจังหวะต้องเปลี่ยน clutch ชุดแรก ก็ปล่อย clutchชุดสอง ก็เริ่มจับ อยากถามว่ามันจะไปเสียกำลังตรงไหน?

ที่นี้ท่านคงเข้าใจ ว่า มันต่อกันทั้งระบบกระมัง แต่เป็นโชคดีของผู้บริโภคครับ ที่ท่านไปเป็นตำรวจ ไม่ได้เป็น วิศวกร ฮาฮาฮา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 11:14:49 AM
็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ระหว่าง  "พักยก"  ฟังเพลงคั่นเวลา ก่อนดีกว่า อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

http://www.youtube.com/watch?v=1XMcNgnhgk4


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 12:01:38 PM
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง

ผมถามนายดีกว่าที่เอาเทคนิคสนามแข่งมาแนะนำเนี่ย "นายเคยวิ่งสนามป่ะ" ถ้าเคยน่ะเคยแค่ไหน เช่าโกคาร์วิ่งตามสวนสนุกไม่เอานะ
ถ้าไม่เคยใช้งานจริงแล้วไอ่ที่เอามาพล่ามเนี่ยจำขี้ปากใครเขามาโพส

อ่อ......... เกือบลืมบอกรถยนต์คันแรกที่ผมขับคือ Nissan Sunny B11 เครื่องE13  ปี95-96


เรื่อง.357 ให้ตามไปอ่านกันเอาเองดีกว่า อ่อแรงปะทะปากลำกล้องไม่มีในสารบบนะ มีแต่ "พลังงานที่ปากลำกล้อง"
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=73357.30

อันนี้แถม
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=211189.30





Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ อั้ม ปากแดง เนี่ยะ ฮา

ยายก็ว่า  "เหม่ง ๆ" น๊ะ  ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::
ไอ้เรื่อง    ขับรถ "ลงเขา"  เนี่ยะ  
มันต้องใช้เบรคช่วย  เหยียบปล่อย เหยียบปล่อย  เพื่อเปลี่ยนเกียร์ต่ำทั้งนั้น อ่ะ ฮา
ใครมันจะเร่ง "ส่ง"  ลงไปหาหุบ  หาเหว  อ่ะ ฮา
แต่พอใกล้จะถึง  "แอ่ง" ด้านล่าง  ก็เปลี่ยนเกียร์ อัดขึ้นไปใหม่อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ส่วนเรื่อง .357 หรือ .44 เคยยิงมากี่นัด อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ยายแปลกใจมานานแล้วอ่ะ ฮา
เอาหม้อ "ต้มกาแฟ"  ไปเสียบปลั้ก ใส่น้ำ ต้มล้างบอร์ด คอม อ่ะ ฮา

จานโฉมชาย(ฮา)  บอกว่าอยู่คอนโด "ริมน้ำ" ฮา
ยายขับผ่านแถว "แจ้งวัฒนะ"  มอหาไอ้หลังริมน้ำ ไม่เจออ่ะ ฮา
เอ้อ  ยายสงสัย คอนโดหลังนั้น  มองออกมาเห็น "ปล่องภูเขาไฟ" ข้างๆ อ่ะ ฮา

55555 ยายเสียความ "เชื่อมั่น"  เลยอ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

ชอบนั่งทางในแต่นั่งมาไม่เคยตรงซักที่ ใครเขาเอากาต้มต้มกาแฟมาล้างบอร์ดคอมความจำเป็นอยู่ตรงไหนเรอะ?
ความคืดตื่นๆแบบนี้ไปเอามาจากไหน ลองคิดไอ้ที่สร้างสรรค์กว่านี้มาหน่อยดิ

เรื่องยิงปืนจะกี่มากน้อยนั้นมันอยู่ที่คนครับ บางคนยิงมาเป็นแสนนัดแต่สมองไม่เคยทำงานวิเคราะข้อมูลอะไรไอ่ที่ยิงมาเยอะๆห็หาประโยชน์อะไรไม่ได้

เรื่องคอนโดริมน้ำก็เหมือนกัน ผมไม่เคยบอกว่าอยู่แถวแจ้งวัฒนะไปจำใครเขามา เรื่องมั่วนี่ขอให้บอก


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 12:24:44 PM
ยี่ห้อยายป๊าบ น้ำเยอะ ผักบุ้งมีมาพอให้เห็นบ้าง


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 12:28:46 PM

ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ
คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

พี่แค่ถามว่า  แมนวล  กับ ออโต อย่างไหน ดีกว่ากัน อ่ะ ฮา
แต่พวกพี่ๆ  เขาคุยกันเรื่อง เกียร์  "ไฮเทค"  แล้ว อ่ะ ฮา
อย่าพี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์   "ฟัง"  ไม่รู้เรื่อง  ร๊อกส์ ฮา

เอออ.... ถ้าเป็น  ยันมาร์  คูโบต้า   นิสสัน ฮา
ยายคิดว่า  คงพอรู้เรื่อง  บ้าง แหละ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

กะอีแค่เรื่อง  ขับมอไซค์  ไม่ "ปิด"  ฝาถังน้ำมัน  ก็ยังขบไม่แตก ฮา

55555  กลับไปขี่  มอไซค์ เห๊อะ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::
เกรียนดีจริงๆ ยายแต๊บ ชอบขุดเรื่องเก่าๆมาพูดไร้สาระว่ะ ก็เรื่องไฮเทคผมยอมรับว่าไม่รู้เรื่งเพราะไม่ใช่นักเลงรถ แต่ที่พี่ๆน้าๆมาพูดในนี้ก้อไม่ผิด ดีเสียอีกท่จะได้ความรู้ใหม่ๆ แต่คำยายแม่งไม่มีสาระอะไรเลย ดีที่ไม่มีคนบ้าจี้ทำตาม ด้วย อืม มันก็น่าทำตามนะ เด๋วจะก๊งเต๊กมอไซค์ให้ไหม้กับยายพร้อมๆกัน เอาไหมสัส


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 15, 2013, 01:01:33 PM
ยี่ห้อยายป๊าบ น้ำเยอะ ผักบุ้งมีมาพอให้เห็นบ้าง

เห็นด้วยครับ... น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ตอบเอาครื้นเครง วังเวงเนื้อหา...


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 4x4 ที่ กันยายน 15, 2013, 01:02:36 PM
1


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 01:04:05 PM

ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ
คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

พี่แค่ถามว่า  แมนวล  กับ ออโต อย่างไหน ดีกว่ากัน อ่ะ ฮา
แต่พวกพี่ๆ  เขาคุยกันเรื่อง เกียร์  "ไฮเทค"  แล้ว อ่ะ ฮา
อย่าพี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์   "ฟัง"  ไม่รู้เรื่อง  ร๊อกส์ ฮา

เอออ.... ถ้าเป็น  ยันมาร์  คูโบต้า   นิสสัน ฮา
ยายคิดว่า  คงพอรู้เรื่อง  บ้าง แหละ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

กะอีแค่เรื่อง  ขับมอไซค์  ไม่ "ปิด"  ฝาถังน้ำมัน  ก็ยังขบไม่แตก ฮา

55555  กลับไปขี่  มอไซค์ เห๊อะ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

เกรียนดีจริงๆ ยายแต๊บ ชอบขุดเรื่องเก่าๆมาพูดไร้สาระว่ะ
ก็เรื่องไฮเทคผมยอมรับว่าไม่รู้เรื่งเพราะไม่ใช่นักเลงรถ

 แต่ที่พี่ๆน้าๆมาพูดในนี้ก้อไม่ผิด ดีเสียอีกท่จะได้ความรู้ใหม่ๆ
แต่คำยายแม่งไม่มีสาระอะไรเลย ดีที่ไม่มีคนบ้าจี้ทำตาม ด้วย อืม มันก็น่าทำตามนะ

เด๋วจะ  ก๊งเต๊กมอไซค์  ให้ไหม้กับยายพร้อมๆกัน

เอาไหมสัส


Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่" พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

แหมม.. จะทำ  "กงเต็ก"  ชักที  ดันเอา มอไซด์เน่า ส่งมา ฮา
เมิง ไม่เอา  " S - class " รุ่นใหญ่  รุ่นใหม่  คันโต  ส่งมาล่ะ ว๊า ฮา

เอ็งไปแถว  "ซา กั๋ก โหล่ว"  บอกให้เขาแปะกระดาษเป็นเบ็นซ์ อ่ะ ฮา
555555 ราคามัน  "เท่ากัน" โว้ย  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 01:16:56 PM


ผมถามนายดีกว่าที่เอาเทคนิคสนามแข่งมาแนะนำเนี่ย "นายเคยวิ่งสนามป่ะ" ถ้าเคยน่ะเคยแค่ไหน เช่าโกคาร์วิ่งตามสวนสนุกไม่เอานะ
ถ้าไม่เคยใช้งานจริงแล้วไอ่ที่เอามาพล่ามเนี่ยจำขี้ปากใครเขามาโพส

อ่อ......... เกือบลืมบอกรถยนต์คันแรกที่ผมขับคือ Nissan Sunny B11 เครื่องE13  ปี95-96


เรื่อง.357 ให้ตามไปอ่านกันเอาเองดีกว่า อ่อแรงปะทะปากลำกล้องไม่มีในสารบบนะ มีแต่ "พลังงานที่ปากลำกล้อง"
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=73357.30

อันนี้แถม
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=211189.30

ชอบนั่งทางในแต่นั่งมาไม่เคยตรงซักที่ ใครเขากาต้มต้มกาแฟมาล้างบอร์ดคอมความจำเป็นอยู่ตรงไหนเรอะ?
ความคืดตื่นๆแบบนี้ไปเอามาจากไหน ลองคิดไอ้ที่สร้างสรรค์กว่านี้มาหน่อยดิ

เรื่องยิงปืนจะกี่มากน้อยนั้นมันอยู่ที่คนครับ บางคนยิงมาเป็นแสนนัดแต่สมองไม่เคยทำงานวิเคราะข้อมูลอะไรไอ่ที่ยิงมาเยอะๆห็หาประโยชน์อะไรไม่ได้

เรื่องคอนโดริมน้ำก็เหมือนกัน ผมไม่เคยบอกว่าอยู่แถวแจ้งวัฒนะไปจำใครเขามา เรื่องมั่วนี่ขอให้บอก

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ อั้ม ปากแลง อ่ะ ฮา

ไอ้  B 11 B 13 เอ้ย E  ฉิบฉาม  มันเป็นรุ่นที่ถูกที่สุด ของ "สยาม กลการ" อ่ะ ฮา
"Office"  ของยาย  ซื้อทีละ  50- 60 คัน จากเอเย่นต์แถวใกล้ กรุงเทพ อ่ะ ฮา
ก็เอ็มดี  เขาเป็น "Dealer" ตอนที่กลการ  ขายสาขาทั้งหมดทั่วประเทศไทย อ่ะ ฮา

"รถ" เห้รัย  เบาหวอง  ตอนที่ปลดระวาง  ยายเหมามาวางไว้ใต้ทางด่วนแจ้ง อ่ะ ฮา
55555  ขายกำไร  คันละ สามสี่หมื่นอ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 01:21:43 PM


ชอบนั่งทางในแต่นั่งมาไม่เคยตรงซักที่
ใครเขากาต้มต้มกาแฟมาล้างบอร์ดคอมความจำเป็นอยู่ตรงไหนเรอะ?

ความคืดตื่นๆแบบนี้ไปเอามาจากไหน ลองคิดไอ้ที่สร้างสรรค์กว่านี้มาหน่อยดิ

เรื่องยิงปืนจะกี่มากน้อยนั้นมันอยู่ที่คนครับ
บางคนยิงมาเป็นแสนนัดแต่สมองไม่เคยทำงานวิเคราะข้อมูลอะไ
รไอ่ที่ยิงมาเยอะๆห็หาประโยชน์อะไรไม่ได้

เรื่องคอนโดริมน้ำก็เหมือนกัน
ผมไม่เคยบอกว่าอยู่แถวแจ้งวัฒนะไปจำใครเขามา
เรื่องมั่วนี่ขอให้บอก


ยี่ห้อยายป๊าบ น้ำเยอะ ผักบุ้งมีมาพอให้เห็นบ้าง

เห็นด้วยครับ... น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง ตอบเอาครื้นเครง วังเวงเนื้อหา...


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" พี่ อั้ม ปากแลง อ่ะ ฮา

จ๊านโฉมชาย(ฮา)  แกเคยบอกเอาไว้อ่ะ ฮา  ::007:: ::007:: ::007::

555 พูดถึง  "ผัก ทอดยอด"  ฮา
เอามาผัด  เครื่องพริกแกง ใส่ กากหมู อร่อยดีน๊าาาา ฮา   ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 01:43:16 PM
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง

ผมถามนายดีกว่าที่เอาเทคนิคสนามแข่งมาแนะนำเนี่ย "นายเคยวิ่งสนามป่ะ" ถ้าเคยน่ะเคยแค่ไหน เช่าโกคาร์วิ่งตามสวนสนุกไม่เอานะ
ถ้าไม่เคยใช้งานจริงแล้วไอ่ที่เอามาพล่ามเนี่ยจำขี้ปากใครเขามาโพส

อ่อ......... เกือบลืมบอกรถยนต์คันแรกที่ผมขับคือ Nissan Sunny B11 เครื่องE13  ปี95-96


เรื่อง.357 ให้ตามไปอ่านกันเอาเองดีกว่า อ่อแรงปะทะปากลำกล้องไม่มีในสารบบนะ มีแต่ "พลังงานที่ปากลำกล้อง"
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=73357.30

อันนี้แถม
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=211189.30

        ตามไปอ่าน
ได้ความรู้ใหม่ บาน เลย ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กันยายน 15, 2013, 02:19:54 PM
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง

ผมถามนายดีกว่าที่เอาเทคนิคสนามแข่งมาแนะนำเนี่ย "นายเคยวิ่งสนามป่ะ" ถ้าเคยน่ะเคยแค่ไหน เช่าโกคาร์วิ่งตามสวนสนุกไม่เอานะ
ถ้าไม่เคยใช้งานจริงแล้วไอ่ที่เอามาพล่ามเนี่ยจำขี้ปากใครเขามาโพส

อ่อ......... เกือบลืมบอกรถยนต์คันแรกที่ผมขับคือ Nissan Sunny B11 เครื่องE13  ปี95-96


เรื่อง.357 ให้ตามไปอ่านกันเอาเองดีกว่า อ่อแรงปะทะปากลำกล้องไม่มีในสารบบนะ มีแต่ "พลังงานที่ปากลำกล้อง"
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=73357.30

อันนี้แถม
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=211189.30

        ตามไปอ่าน
ได้ความรู้ใหม่ บาน เลย ::005:: ::005::

อะไร"บาน" ครับ...

::005:: ::005:: ::005::

::014::



หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pvjt ที่ กันยายน 15, 2013, 02:23:51 PM


ผมถามนายดีกว่าที่เอาเทคนิคสนามแข่งมาแนะนำเนี่ย "นายเคยวิ่งสนามป่ะ" ถ้าเคยน่ะเคยแค่ไหน เช่าโกคาร์วิ่งตามสวนสนุกไม่เอานะ
ถ้าไม่เคยใช้งานจริงแล้วไอ่ที่เอามาพล่ามเนี่ยจำขี้ปากใครเขามาโพส

อ่อ......... เกือบลืมบอกรถยนต์คันแรกที่ผมขับคือ Nissan Sunny B11 เครื่องE13  ปี95-96


เรื่อง.357 ให้ตามไปอ่านกันเอาเองดีกว่า อ่อแรงปะทะปากลำกล้องไม่มีในสารบบนะ มีแต่ "พลังงานที่ปากลำกล้อง"
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=73357.30

อันนี้แถม
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=211189.30

ชอบนั่งทางในแต่นั่งมาไม่เคยตรงซักที่ ใครเขากาต้มต้มกาแฟมาล้างบอร์ดคอมความจำเป็นอยู่ตรงไหนเรอะ?
ความคืดตื่นๆแบบนี้ไปเอามาจากไหน ลองคิดไอ้ที่สร้างสรรค์กว่านี้มาหน่อยดิ

เรื่องยิงปืนจะกี่มากน้อยนั้นมันอยู่ที่คนครับ บางคนยิงมาเป็นแสนนัดแต่สมองไม่เคยทำงานวิเคราะข้อมูลอะไรไอ่ที่ยิงมาเยอะๆห็หาประโยชน์อะไรไม่ได้

เรื่องคอนโดริมน้ำก็เหมือนกัน ผมไม่เคยบอกว่าอยู่แถวแจ้งวัฒนะไปจำใครเขามา เรื่องมั่วนี่ขอให้บอก

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ อั้ม ปากแลง อ่ะ ฮา

ไอ้  B 11 B 13 เอ้ย E  ฉิบฉาม  มันเป็นรุ่นที่ถูกที่สุด ของ "สยาม กลการ" อ่ะ ฮา
"Office"  ของยาย  ซื้อทีละ  50- 60 คัน จากเอเย่นต์แถวใกล้ กรุงเทพ อ่ะ ฮา
ก็เอ็มดี  เขาเป็น "Dealer" ตอนที่กลการ  ขายสาขาทั้งหมดทั่วประเทศไทย อ่ะ ฮา

"รถ" เห้รัย  เบาหวอง  ตอนที่ปลดระวาง  ยายเหมามาวางไว้ใต้ทางด่วนแจ้ง อ่ะ ฮา
55555  ขายกำไร  คันละ สามสี่หมื่นอ่ะ  ฮา   ::007:: ::007:: ::007::

...รุ่นยาย..น่าจะB310 เครื่อง A15 :)
...บ่อปลาของคุณลุงแถวบ้าน...มีPA10เน่าๆจอดหมกอยู่คัน  แกเก็บบอกไว้เป็นที่ระลึก  สมัยบ้าแรลลี่  รอดตายกับมันมาหลายครั้งหลายครา
...คลายเครียดกับประเด็นFiesta... ;)

http://www.youtube.com/watch?v=LuDN2bCIyus (http://www.youtube.com/watch?v=LuDN2bCIyus)


http://www.youtube.com/watch?v=Zl9r4oCHiOI (http://www.youtube.com/watch?v=Zl9r4oCHiOI)


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 02:50:29 PM
สวะๆ+ขยะแบบยายบ๊าบเอาแค่สปินเตอร์ก้อพอว่ะสัส พอใจยัง


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 02:51:49 PM
ผักบุ้งของยายมันเน่าหมดแล้ว กากๆคนแบบยายกินเองเหอะ


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 15, 2013, 02:55:24 PM
ใจเย็นกันครับพี่น้อง ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 02:56:56 PM


...รุ่นยาย..น่าจะB310 เครื่อง A15 :)
...บ่อปลาของคุณลุงแถวบ้าน...มีPA10เน่าๆจอดหมกอยู่คัน  แกเก็บบอกไว้เป็นที่ระลึก  
สมัยบ้าแรลลี่  รอดตายกับมันมาหลายครั้งหลายครา
...คลายเครียดกับประเด็นFiesta... ;)

http://www.youtube.com/watch?v=LuDN2bCIyus (http://www.youtube.com/watch?v=LuDN2bCIyus)


http://www.youtube.com/watch?v=Zl9r4oCHiOI (http://www.youtube.com/watch?v=Zl9r4oCHiOI)

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ vit อ่ะ ฮา

ยายจำไม่ค่อยได้แล้ว  ยี่สิบกว่าปีแล้ว อ่ะ ฮา
แต่ยืนยันว่าเป็น Sunny เครื่อง  1300  ก่อนเปลี่ยนรูป เปลี่ยนโฉม อ่ะ  ฮา
เป็นตัวที่ถูกที่สุด ของดีเล่อร์ ที่เมื่อก่อนเป็นกลการ อ่ะ ฮา

ตอนนั้น กลุ่ม"กลการ" ถูกบังคับให้ขาย บล๊าน์ ทุกแห่งอ่ะ ฮา
ตอนเปิดขาย ต้องประมูล  ใช้อิทธิพล วิ่งกันอ่ะ ฮา
ท่านพรเทพ  กับนายยายสองคน  จานสุรินทร์ คนนึง
กับนายกสมาคม การตลาด  เขาเป็น "สหาย" ตีแบ๊ด ด้วยกันอ่ะ ฮา


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 02:59:16 PM
สวะๆ+ขยะแบบยายบ๊าบเอาแค่สปินเตอร์ก้อพอว่ะสัส พอใจยัง

ผักบุ้งของยายมันเน่าหมดแล้ว กากๆคนแบบยายกินเองเหอะ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

เฮ้ย  ... ไอ้เปรต เอ็งก็  "เถียง" แบบ มีข้อมูลหน่อยอ่ะ จิ ฮา
อย่าให้  "อารมณ์"  มันมาบดบัง  ความโง่ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 03:08:54 PM
อย่าไปสน การสนทนาอย่างวิวาทะ เลย ครับ  การสนทนาอย่างสร้างสรรค์
บ่อยเข้าก็จะเป็นการเคยชิน เป็นเรื่องธรรมดาไปเอง จะไปไล่ การสนทนาอย่างวิวาทะ ได้เอง .  ;)

ได้แหย่ไปนิด ก็ได้ทราบถึงสิ่งที่อยากจะทราบ กลายเป็นเรื่องประเทืองปัญญา ได้อีกไม่น้อย.  :D
ผมฉลาดขึ้นเยอะ เข้าใจอะไรมากขึ้น ก็เพราะเวปนี้ .

เปลี่ยนมาใช้ ท่าทีการสนทนา อย่างเพื่อนซิครับ ช่วยกันเสริม ช่วยกันเติมให้ กัน ผิดบ้างถูกบ้าง
ก็เหมือนการได้ลงมือไปทำ แบบลองผิดลองถูก เพราะเพียงหัวข้อ ก็ต่อยอดเป็นความรู้ได้อีกเยอะ.  ::002::

อีวาน มาแชล  อะไรนั้น  เป็นเรื่องของการเก็บสถิติ ไม่ใช่เป็นงานสร้างด้วยตัวเอง

ไม่ได้อยู่ยืนดวล ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้อยู่เห็นอาการสะอึก ไม่ได้ผ่าร่างเอากระสุนออก
แต่เป็นผู้รวบรวม และทำงานเป็นทีม ไปเก็บได้ จากศพ ในห้องเก็บศพ..
วิเคราะห์จากศพ.. ที่เชื่อถือได้ คือหาสาเหตุการตาย..  จากหมอผ่าศพ 

มนุษย์ นั้นมีเลือด มีเนื้อ มีชีวิต มีจิตใจ..ไม่ใช่ ก้อนหิน ไม่ใช่ต้นไม้ และไม่ใช่เจลลาติน
มนุษย์ มีขีดความอดทนอาจได้ ถึง ๘ เท่าของสภาพที่เป็นอยู่ 

น้ำอดน้ำทน แต่ละคนไ่ม่เท่ากัน  จะคิดให้เท่ากันไม่ได้หรอก.. แต่ มาแชล มาทำให้เท่ากัน แ้ล้วหาเหตุผล
สนับสนุนความเชืื่่อของตน คนเชื่อก็มีมาก  คนไม่เชื่อก็มีัมาก.. 

ผมนั้นรับฟังพอให้เห็นแนวทางไว้ตามสังเขปเท่านั้น  เมื่อคิดไม่ออกจะขอหันไปหา อีตา ทั้งสอง บ้าง ครับ.  ;)

ผมให้ความเห็นอย่างนี้ คนที่ชอบ อีวาน มาแชล ในเวปนี้ ก็มีไม่น้อย ถ้าเข้าใจในสิ่งที่ผมบอกข้างต้น
อยู่ในกลุ่ม คนที่ชอบพออย่างเดียวกัน การสนทนาต่อ ย่อมชี้ได้ว่า เราเป็นเพื่อนกัน จริงหรือเปล่า

และ กระสุน .๓๕๗ Mag  นั้นเหนือกว่า  .๓๘ super ในทุกมิติ 
แต่ปืนกึ่งออโต .๓๘ super ๑๐ นัดคาลำ เข้าเซฟ นั้นอาจเหนือกว่า ปืนลูกโม่ .๓๕๗ Mag. ๗ นัด 
เพราะกระสุนระดับนี้อยู่ในแถวหน้า..  ที่ไม่มีมนุษย์หน้าไหน จะทนได้   ::002::

เืมื่อพูดถึงกระสุน จะต้องนำตัวปืนเข้ามาประกอบด้วย ปืน ๙ พารา นั้นเหนือกว่า .๔๕ เพราะจำนวนกระสุน ในแม็กฯ
ไม่ใช่เหนือเพราะอานุภาพของหัวกะสุน

และหัวตันของ .๔๔  นั้นเหนือกว่า .๓๕๗ หัวรู  ทุกมิติ เหมือนกัน เอาเรื่องนี้ มาจับ "อีวาน มาแชล" ดูซิครับ
จะรู้ว่า บทความของ อีวาน มาแชล เป็นบทความที่ดี แต่ควรรับฟังอย่างมีสติื ต้องคิดตามไปด้วยว่า จริงหรือไม่

อย่าหวังประโยชน์สิ่งใดของระบบทุน..  ที่แฝงไว้ อีกก๊อกหนึ่ง ทำงานได้อย่างเต็มที่    ;)



็Ha Ha Ha ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ยายขออนุญาต  พี่ 524  ยกเอา  "เม้นท์"  มาแสดง อ่ะ ฮา

14 ตุลา 16  มันเวียนมาครบ 40 ปี อีกแล้วอ่ะ ฮา
เจอกัน ที่ไหนดี อะ  ฮา  ::007:: ::007::

(http://s13.postimg.org/3p4rs37rb/01_Art_A5.jpg) (http://postimage.org/)


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 03:09:49 PM

        ตามไปอ่าน
ได้ความรู้ใหม่ บาน เลย ::005:: ::005::

อะไร"บาน" ครับ...

::005:: ::005:: ::005::

::014::


[/quote]
 ::006:: ::006:: ::006:: ::006::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 03:17:33 PM
          ซั่นนี่ที่ยาย(โน)บรา ว่า
น่าจะรุ่นราคราเดียวกันกับโครงการรถคันแรกของผม  
มิตซูบิชิ แชมป์ทู นิวเจนเนอร์เรชั่น ปี ๓๔  เหยียบกันตะพึตตะพือ
กะให้เครื่องพัง จะได้วาง 4g63 สมัยนั้นจำได้ว่า โคตรเท่กะเงินเดือน ๓,๒๐๐ บาท ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 15, 2013, 03:23:49 PM
          ซั่นนี่ที่ยาย(โน)บรา ว่า
น่าจะรุ่นราคราเดียวกันกับโครงการรถคันแรกของผม 
มิตซูบิชิ แชมป์ทู นิวเจนเนอร์เรชั่น ปี ๓๔  เหยียบกันตะพึตตะพือ
กะให้เครื่องพัง จะได้วาง 4g63 สมัยนั้นจำได้ว่า โคตรเท่กะเงินเดือน ๓,๒๐๐ บาท ::005:: ::005::


Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  ครูหมู อ่ะ ฮา

ราวปี 2525- 2530 รถยนต์เครือง 1300 ราคา  สามแสน ก็แพงตาย 5 แล้วอ่ะ ฮา  ::007::
เมื่อก่อนใช้เบรค  "ก้าม ยิ่งลักษณ์"  มีผ้าเบรคสองด้าน  ดัน เหมือนมอไซค์ อ่ะ ฮา
เวลาขับลงดอยทีนึง  ต้อง "ปั๊ม"  กดปล่อย กดปล่อย  คอยตั้งผ้าเบรคทุกเดือนอ่ะ ฮา

ไม่เหมือนตอนหลัง  "ABS" เขาพัฒนามาดี  แค่แช่ อ่ะ ฮา
5555 มัน  "ตอดหนึบ  ตอดหนึบ" จนรถไหลเกือบโครม อ่ะ ฮา   ::007:: ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 15, 2013, 03:26:27 PM
สวะๆ+ขยะแบบยายบ๊าบเอาแค่สปินเตอร์ก้อพอว่ะสัส พอใจยัง

ผักบุ้งของยายมันเน่าหมดแล้ว กากๆคนแบบยายกินเองเหอะ


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

เฮ้ย  ... ไอ้เปรต เอ็งก็  "เถียง" แบบ มีข้อมูลหน่อยอ่ะ จิ ฮา
อย่าให้  "อารมณ์"  มันมาบดบัง  ความโง่ อ่ะ ฮา  ::007:: ::007::

ไปแหย่เด็ก เพื่อสำเร็จความใคร่ผ่านหน้าจอคอมฯหรือยาย ระวังลูกหลานไปจับเมาส์ต่อติดโรคฉี่หนู ตาย5 เลยนะยาย...5555


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 10:52:22 PM
ขอโทษทุกท่านนะครับ มันปรี๊ดเกินไปจริงๆ แต่คนแก่บางคนมันยังเล่นไม่เลิก สงสัยต้องเฉยก่อน ถ้าข้อมูลมีสาระมันก็น่าฟัง แต่ถ้ากระแหนะกระแหนแดกดันมากไปต่อให้ข้อมูลระดับ รศ ศ มันก็ไร้ค่า


หัวข้อ: Re: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ghostreporting ที่ กันยายน 15, 2013, 10:56:10 PM
ถ้าคิดจะให้สาระแบบแขวะกวนอวัยวะบางส่วน อย่าให้ดีกว่าครับ เจตนาก็ฟ้องชัดๆว่ามาตีรวนแค่เอาสาระมาอ้างเพื่อด่าคนอื่นว่าด่าแบบไร้สติ ไม่ใช่เพื่อนเล่นครับ อย่าทะลึ่ง