หัวข้อ: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: zx9 ที่ กันยายน 23, 2013, 10:29:12 AM ด้านข้างของสัญญาเงินกู้มีทีให้ติดอากรแสตมป์ ที่เขียนว่าผู้กู้เป็นผู้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ หมายความว่าอย่างไรครับ พอดีจะให้ลูกหนี้เซ็นต์สัญญาเงินกู้เป็นหลักฐานการเป็นหนี้ใว้ครับ กลัวมีปัญหาทีหลังเวลาทวงถามหรือฟ้องร้อง และมีจุดใหนที่ต้องระวังหรือต้องทำเพิ่มอีกบ้างครับนอกจากการกรอกรายละเอียดพร้อมลงลายมือชื่อตามปรกติเพื่อความรัดกุม. ขอบคุณครับ ::014::
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กันยายน 23, 2013, 11:05:24 AM เป็นการทำลาย เพื่อให้รู้ว่า เป็นการชำระอากรแสตมป์แล้ว
คือ แปะอากรแสตมป์เสร็จ ก็ขีดฆ่าเสีย หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเสก คนเดิม ที่ กันยายน 23, 2013, 11:10:49 AM ในรายละเอียดของสัญญา..ถ้าเป็นการกู้ปกติก็ให้ลงไว้ให้ชัดเจน ส่วนถ้าเป็นการกู้แบบไม่ค่อยถูกต้องนัก เช่น ให้กู้ดอกร้อยละห้าหรือสิบ ให้เซนต์เฉพาะลายมือชื่อไว้พร้อมแนบสำเนาบัตร,ทะเบียนบ้าน อย่างอื่นค่อยลงภายหลังหากมีการฟ้องร้อง เช่น ต้องบวกดอกเบี้ยและค่าทนายเข้าไปอีก
เอ๊ะ..ผมพูดในมากไปนะครับ แบบผิดกฎหมายด้วย ต้องขออภัย หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 23, 2013, 11:19:45 AM เป็นการทำลาย เพื่อให้รู้ว่า เป็นการชำระอากรแสตมป์แล้ว คือ แปะอากรแสตมป์เสร็จ ก็ขีดฆ่าเสีย (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 23, 2013, 11:29:11 AM เป็นการทำลาย เพื่อให้รู้ว่า เป็นการชำระอากรแสตมป์แล้ว คือ แปะอากรแสตมป์เสร็จ ก็ขีดฆ่าเสีย (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา วัตถุประสงค์ ของการ ติด "อากรแสตมป์" เนี่ยะ ฮา เขาทำเพื่อให้ "สัญญากู้" มีผลสมบรูณ์ ตามกฎหมาย ใช้ฟ้องร้องได้ อ่ะ ฮา เคยมีคดี ถึงโรงถึงศาล อ่ะ ฮา ฝ่ายคนกู้ "งัด" เรื่อง ไม่ได้ติดอากร สัญญาไม่สมบรูณ์ เป็น "โมฆะ" อ่ะ ฮา 555 คนให้กู้ "เงิบ" ตามละม่อม อ่ะ ฮา หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเสก คนเดิม ที่ กันยายน 23, 2013, 11:35:08 AM ตามยายว่านั่นแหละ...ตกม้าตายตอนจบ...เขมรบอก "เงิบเฮย"
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 23, 2013, 11:41:24 AM ด้านข้างของสัญญาเงินกู้มีทีให้ติดอากรแสตมป์ ที่เขียนว่าผู้กู้เป็นผู้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ หมายความว่าอย่างไรครับ พอดีจะให้ลูกหนี้เซ็นต์สัญญาเงินกู้เป็นหลักฐานการเป็นหนี้ใว้ครับ กลัวมีปัญหาทีหลังเวลาทวงถามหรือฟ้องร้อง และมีจุดใหนที่ต้องระวังหรือต้องทำเพิ่มอีกบ้างครับ นอกจากการกรอกรายละเอียดพร้อมลงลายมือชื่อตามปรกติเพื่อความรัดกุม. ขอบคุณครับ ::014:: Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ zx9 อ่ะ ฮา ตั้งกระทู้อย่างนี้ ชีวิต เริ่มจะ "ไม่เป็นสุข" แล้วอ่ะ ฮา ::005:: ::004:: ::004:: 555 รับโทรศัพท์ของยายด้วย ยายอยาก "กู้" อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 23, 2013, 01:11:30 PM ด้านข้างของสัญญาเงินกู้มีทีให้ติดอากรแสตมป์ ที่เขียนว่าผู้กู้เป็นผู้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ หมายความว่าอย่างไรครับ พอดีจะให้ลูกหนี้เซ็นต์สัญญาเงินกู้เป็นหลักฐานการเป็นหนี้ใว้ครับ กลัวมีปัญหาทีหลังเวลาทวงถามหรือฟ้องร้อง และมีจุดใหนที่ต้องระวังหรือต้องทำเพิ่มอีกบ้างครับนอกจากการกรอกรายละเอียดพร้อมลงลายมือชื่อตามปรกติเพื่อความรัดกุม. ขอบคุณครับ ::014:: ความสมบูรณ์ ของสัญญาเงินกู้ คือลงจำนวนเงิน และลงลายมือชื่อคู่สัญญา ถือว่าครบถ้วน.. ดอกเบี้ย ไม่ลง หรือลงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สัญญาก็ยังสมบูรณ์ แต่ดอกเบีั่้ยที่เรียนเกินนั้นเป็นโมฆะ (ไม่เกิน ร้อยละ ๑๕ ต่อปี) กฎหมายไม่บังคับให้.. และอาจมีความผิด เป็นคดีอาญา อีกต่างหาก ส่วนอาการแสตมป์ หากไม่ติด สัญญาสัญญากู้ก็ยังสมบูรณ์ ไม่เป็นโมฆะ.. เพียงแต่ ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้จักต้องปิดอาการให้ครบถ้วนแล้วขีดฆ่า เท่านั้น ครับ ส่วนใครจะขีดฆ่า ไม่ใช่สาระสำคัญ ::002:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 23, 2013, 01:52:17 PM ขอบคุณครับลุงฐา
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ กันยายน 23, 2013, 01:58:24 PM เป็นการทำลาย เพื่อให้รู้ว่า เป็นการชำระอากรแสตมป์แล้ว คือ แปะอากรแสตมป์เสร็จ ก็ขีดฆ่าเสีย (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา วัตถุประสงค์ ของการ ติด "อากรแสตมป์" เนี่ยะ ฮา เขาทำเพื่อให้ "สัญญากู้" มีผลสมบรูณ์ ตามกฎหมาย ใช้ฟ้องร้องได้ อ่ะ ฮา เคยมีคดี ถึงโรงถึงศาล อ่ะ ฮา ฝ่ายคนกู้ "งัด" เรื่อง ไม่ได้ติดอากร สัญญาไม่สมบรูณ์ เป็น "โมฆะ" อ่ะ ฮา 555 คนให้กู้ "เงิบ" ตามละม่อม อ่ะ ฮา มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นนะป้า... ถ้ายกเรื่องนี้ขึ้นมา ฝ่ายโจทก์แค่แปะแสตมป์โป้งเข้าไปแล้วขีดฆ่า ทำเสียก่อนหรือในขณะที่ได้นำเอกสารนั้นมาอ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง หรือก่อนที่ศาลชั้นต้นจะตัดสินชี้ขาดคดี ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้แล้ว หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 23, 2013, 03:16:38 PM เป็นการทำลาย เพื่อให้รู้ว่า เป็นการชำระอากรแสตมป์แล้ว คือ แปะอากรแสตมป์เสร็จ ก็ขีดฆ่าเสีย Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา วัตถุประสงค์ ของการ ติด "อากรแสตมป์" เนี่ยะ ฮา เขาทำเพื่อให้ "สัญญากู้" มีผลสมบรูณ์ ตามกฎหมาย ใช้ฟ้องร้องได้ อ่ะ ฮา เคยมีคดี ถึงโรงถึงศาล อ่ะ ฮา ฝ่ายคนกู้ "งัด" เรื่อง ไม่ได้ติดอากร สัญญาไม่สมบรูณ์ เป็น "โมฆะ" อ่ะ ฮา 555 คนให้กู้ "เงิบ" ตามละม่อม อ่ะ ฮา มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นนะป้า... ถ้ายกเรื่องนี้ขึ้นมา ฝ่ายโจทก์แค่แปะแสตมป์โป้งเข้าไปแล้วขีดฆ่า ทำเสียก่อนหรือในขณะที่ได้นำเอกสารนั้นมาอ้างเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง หรือก่อนที่ศาลชั้นต้นจะตัดสินชี้ขาดคดี ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้แล้ว Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ INTERCEPTER อ่ะ ฮา โธ่ ก็ร้องขอศาลก่อนอ่ะ ว่าต้องการเห็น ฮา พอศาลอนุญาต ให้นำมาแสดง ก็ฮาเลย อ่ะ ฮา เรื่องนี้ มันเป็น "เหลี่ยม" หรือ ชั้นเชิง ของทนายที่มี ชั่วโมงบินสูงอ่ะ ฮา ::007:: ถ้าอย่างนั้น ยายแนะนำเอาไป แปะ หน้า "บัลลังค์" เลยอ่ะ 5555555 ทนายเนี่ยะ ยายว่า คบยาก คบ ลำบาก ฮา เขา กะล่อน เหมือน มะกอกสามตระกร้า อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ กันยายน 23, 2013, 09:27:31 PM ตามพี่โร๊ดว่ามาครับ ไม่มีทนายจำเลยหน้าโง่ที่ไหนยกเรื่องการไม่ติดอากรแสตมป์หรือไม่ได้ขีดฆ่ามาเป็นข้อต่อสู้ให้หลุดพ้นหน้าที่ในการชำระหนี้หรอกครับ....ปัญญาอ่อนนะครับ แต่เมื่อสมัยก่อนอ่านเจอฏีกาว่ามีเหมือนกัน
ถึงยกขึ้นมาศาลท่านคงส่ายหน้าแล้วบอกทนายโจทก์ให้บ้าจี้ตามนั้น ไปซื้ออากรมาปิดแล้วขีดฆ่าเสียให้มันซะจะได้เลิกโง่แล้วใช้หนี้เจ้าหนี้เขาไปซะที อ้อ...เสียค่าโง่ให้ทนายจำเลยไม่พอ อย่าลืมเสียค่าทนายโจทก์และค่าธรรมเนียมศาลแทนโจทก์อีกด้วย หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 09:17:50 AM เรื่องเล่าจากคดี ตอน ให้เขากู้เงิน สัญญาก็ทำไว้ ทำไมแพ้คดีหว่า
เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และสู้คดีกันจนถึงศาลฎีกา ผมเพียงแต่สมมุติตัวละครขึ้นมา แล้วผูกให้เป็นเรื่อง เชิญอ่านเลยละกัน นายเต๋าไปกู้เงินจากนายบอยเป็นเงิน 2 แสนบาท ทำสัญญากู้เงินไว้เรียบร้อย แต่พอถึงเวลาใช้คืน นายเต๋าก็ไม่ยอมใช้หนี้คืน อ้างว่าไม่มีเงิน นายบอยไม่รู้จะทำยังไง จึงนำคดีไปฟ้องศาล ทางฝ่ายนายเต๋าก็หัวหมอไม่ใช่เล่น ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็เลยอ้างส่งเดชไปให้ศาลได้วินิจฉัย โดยนายเต๋าอ้างว่า สัญญากู้ที่นายบอยอ้างมาในฟ้องไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ ขอให้ศาลยกฟ้อง ข้ออ้างของนายเต๋านั้น มิได้บอกว่าสัญญากู้ปลอม เป็นสัญญาจริงๆ แต่ใช้บังคับไม่ได้ เมื่อไปดูสัญญากู้ ก็ทำกันไว้เรียบร้อยตามกฎหมาย ก่อนฟ้องนายบอยก็ติดอากรแสตมป์ในสัญญาแล้ว เรื่องอากรแสตมป์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการจัดเก็บอากรของกรมสรรพากร ตามประมวลรัษฎากร หากสัญญาใดๆก็ตาม ที่นำมาเป็นหลักฐานในการฟ้องคดี ถ้าไม่ติดอากรแสตมป์ให้ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดแล้ว กฎหมายบังคับไว้เลยว่า ศาลจะนำมาเป็นพยานหลักฐานในคดีไม่ได้ จริงๆแล้วเรื่องนี้ สัญญากู้ไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาอยู่ที่อากรแสตมป์ ถึงแม้ว่านายบอยจะติดอากรแสตมป์ครบตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ตาม แต่ปัญหาก็คือ นายบอยไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้น เพียงแต่ติดอากรไว้เฉยๆ จึงเป็นข้อต่อสู้ที่นายเต๋าได้ยกขึ้นมาต่อสู้คดี เมื่อนายเต๋าได้ยกข้อต่อสู้ประเด็นนี้ขึ้นมา ศาลก็จะต้องพิจารณาว่าเป็นอย่างนั้นไหม ซึ่งภายหลังศาลฎีกาก็ได้มีคำพิพากษาออกมาว่า สัญญากู้ยืมเงิน อันเป็นตราสารที่โจทก์ (นายบอย) ได้อ้างเป็นพยาน จะได้มีการปิดอากรแสตมป์ไว้แล้วครบตามที่กฎหมายกำหนดก็ตาม แต่ว่าไม่ได้มีการขีด ฆ่าอากรแสตมป์นั้น จึงถือว่าสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวปิดอากรแสตมป์ไม่บริบูรณ์ ศาลจึงไม่อาจที่จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 (อ่านรายละเอียดตอนท้ายเรื่อง) จึงต้องถือว่าคดีนี้นายบอยไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินมาฟ้อง ในเมื่อหนี้เงินกู้ยืมระหว่างโจทก์ (นายบอย) กับจำเลย (นายเต๋า) มีจำนวนเงินที่กู้ยืมเกินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป (ปัจจุบันได้มีการแก้กฎหมายเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินเพิ่มเป็น 2,000 บาทแล้ว) และไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้กู้ หนี้ดังกล่าวจึงเป็นหนี้ที่ไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมาย สรุป หลักในเรื่องของการกู้ยืมเงินนั้น หากไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงิน ที่มีลายมือชื่อผู้กู้ลงชื่อไว้ ก็ไม่สามารถนำมาฟ้องต่อศาลได้ สำหรับในเรื่องนี้นั้น การกู้ยืมมีสัญญาที่สามารถฟ้องร้องบังคับกันได้ เพียงแต่ปฏิบัติตามสัญญาไม่ครบถ้วน เพราะประมวลรัษฎากร ได้วางหลักเอาไว้ว่า ถ้าสัญญาใดที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ว่าจะต้องติดอากรแสตมป์ แต่ไม่ติด ก็ไม่ให้ศาลรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง ที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้อย่างนี้ ก็เพราะว่า ต้องการที่จะบังคับเก็บค่าอากรจากการทำสัญญาต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนโดยทั่วไป ถ้าไม่บังคับเก็บ ก็ไม่มีใครที่อยากจะเสียภาษีอากร ฉะนั้น ถ้าไม่ยอมเสียค่าอากร รัฐก็จะไม่ยอมให้คุณใช้เอกสารสัญญานั้นมาเป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง จึงบังคับไม่ให้ศาลรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องที่ต้องขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้น เหตุผลง่ายๆก็คือ ไม่ต้องการให้นำอากรแสตมป์นั้นกลับมาใช้อีก ถึงแม้ว่าจะติดไปแล้ว ก็อาจจะลอกออกมา แล้วนำไปติดสัญญาอื่นๆได้อีก จึงต้องกำหนดให้ขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้นด้วย ฉะนั้น ข้อปฏิบัติในการติดอากรแสตมป์นั้น เมื่อติดไปแล้วก็อย่าลืมขีดฆ่าอากรนั้นด้วยนะครับ ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้ และขีดฆ่าแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการเสื่อมสิทธิที่จะเรียกเงินเพิ่มอากรตามมาตรา 113 และมาตรา 114 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=65 http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=8482 หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 09:34:25 AM ตามพี่โร๊ดว่ามาครับ ไม่มีทนายจำเลยหน้าโง่ที่ไหน ยกเรื่องการไม่ติดอากรแสตมป์ หรือไม่ได้ขีดฆ่ามาเป็นข้อต่อสู้ ให้หลุดพ้นหน้าที่ในการชำระหนี้หรอกครับ.... ปัญญาอ่อนนะครับ แต่เมื่อสมัยก่อนอ่านเจอฏีกาว่ามีเหมือนกัน ถึงยกขึ้นมาศาลท่านคงส่ายหน้าแล้วบอกทนายโจทก์ให้บ้าจี้ตามนั้น ไปซื้ออากรมาปิดแล้วขีดฆ่าเสียให้มันซะจะได้เลิกโง่แล้วใช้หนี้เจ้าหนี้เขาไปซะที อ้อ...เสียค่าโง่ให้ทนายจำเลยไม่พอ อย่าลืมเสียค่าทนายโจทก์และค่าธรรมเนียมศาลแทนโจทก์อีกด้วย Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ Oil อ่ะ ฮา ยายก็ "ไม่เคยเชื่อ" เหมือนกัน ว่าจะมีทนาย หน้าโง่ อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: 555 แต่ตอนนี้ ชัก "ไม่แน่ใจ" แล้ว อ่ะ ฮา ::008:: ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: TUI 48 ที่ กันยายน 24, 2013, 12:10:08 PM เรื่องเล่าจากคดี ตอน ให้เขากู้เงิน สัญญาก็ทำไว้ ทำไมแพ้คดีหว่า เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และสู้คดีกันจนถึงศาลฎีกา ผมเพียงแต่สมมุติตัวละครขึ้นมา แล้วผูกให้เป็นเรื่อง เชิญอ่านเลยละกัน อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องที่ต้องขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้น เหตุผลง่ายๆก็คือ ไม่ต้องการให้นำอากรแสตมป์นั้นกลับมาใช้อีก ถึงแม้ว่าจะติดไปแล้ว ก็อาจจะลอกออกมา แล้วนำไปติดสัญญาอื่นๆได้อีก จึงต้องกำหนดให้ขีดฆ่าอากรแสตมป์นั้นด้วย ฉะนั้น ข้อปฏิบัติในการติดอากรแสตมป์นั้น เมื่อติดไปแล้วก็อย่าลืมขีดฆ่าอากรนั้นด้วยนะครับ ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีท้ายหมวดนี้ และขีดฆ่าแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการเสื่อมสิทธิที่จะเรียกเงินเพิ่มอากรตามมาตรา 113 และมาตรา 114 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=65 http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=8482 เรียนถามคุณยายบ๊าบครับ....การลอกเอาอากรที่ยังไม่ได้ขีดฆ่านำกลับมาใช้ใหม่กับการลอกเอาอากรที่ขีดฆ่าแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ มันมีความแตกต่างกันตรงไหนครับ ในแง่ของการนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดี เพราะทั้งสองกรณีที่ว่านั้น ต่างก็ไม่ได้จ่ายค่าภาษีอากรให้รัฐ (จงใจหลีกเลี่ยง) แต่ตรงตามวิธีปฏิบัติที่ศาลท่านกำหนดคือต้องขีดฆ่าอากร... ที่เรียนถามมานี้ไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากสงสัยและอยากได้เป็นความรู้ครับ..ขอบคุณมากครับ.. หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 02:20:14 PM เรียนถามคุณยายบ๊าบครับ.... การลอกเอาอากร ที่ยังไม่ได้ขีดฆ่านำกลับมาใช้ใหม่ กับการลอกเอาอากร ที่ขีดฆ่าแล้ว นำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ มันมีความแตกต่างกันตรงไหนครับ ในแง่ของการนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดี เพราะทั้งสองกรณีที่ว่านั้น ต่างก็ไม่ได้จ่ายค่าภาษีอากรให้รัฐ (จงใจหลีกเลี่ยง) แต่ตรงตามวิธีปฏิบัติที่ศาลท่านกำหนดคือต้องขีดฆ่าอากร... ที่เรียนถามมานี้ไม่มีเจตนาอื่นใด นอกจากสงสัยและอยากได้เป็นความรู้ครับ..ขอบคุณมากครับ.. Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ Tui 48 อ่ะ ฮา ยายตอบ จากล่าง ขึ้นไปข้างบน ก่อนอ่ะ ฮา ถามแบบนี้ ยายกลัว โดน "ตุ๋ย" อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007:: ไอ้การนำกลับ "มาใช้ใหม่" จะขีดฆ่า หรือ ไม่ขีดฆ่า เนี่ยะ ฮา ค่อนข้าง "พิสูจน์" ยาก ถึงขั้นยาก มาก อ่ะ ฮา เมื่อก่อน ยายเห็นเขา ขีดเส้นคล่อม บน-ล่าง สองเส้น อ่ะ ฮา แล้วใช้ "ตรายาง วันที่" ปั้ม ตลอดแนว เชื่อมต่อกัน อ่ะ ฮา กรณีอย่างนี้ หากนำมาใช้ "ย้อนหลัง" น่าจะ โดนหนัก อ่ะ ฮา ส่วน "อากรแสตมป์" ที่ใช้แล้ว แต่ยังไม่ขีดฆ่า ก็ "ยังมีมูลค่า" โดยสภาพ อ่ะ ฮา ทั้งสองกรณี ต้อง "เลือกใช้" ให้ถูกที่ ถูกเวลา อ่ะ ::007:: ::007:: ต้องพิจารณา และยอมรับ ความ "เสี่ยง" ที่เกิดขึ้น อ่ะ ฮา ยายเคย "ลอก" อากรแสตมป์ ที่ยังไม่ขีดฆ่า นำมาใช้ใหม่ อ่ะ ฮา ตอนที่ "วังไชยา" เขารับโอนงานทะเบียนอาวุธปืน จากตำรวจ ตอนนั้น เขาให้แปะ อากร ด้านหลัง เนื่องจากมันเยอะ จึงใช้ แม็กซ์ เย็บ เอา "เล็บมือ" งัดนิดเดียว หลุดเป็นแผง เลยอ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 02:24:42 PM เรื่อง "อากรแสตมป์" เนี่ยะ กฎหมาย เขามีข้อยกเว้น อ่ะ ฮา
ลองสังเกตุ "หนังสือสัญญา กู้ยืม" จำนองหลักทรัพย์เป็นประกัน ของธนาคารดูสิ ฮา กระดาษใบนั้น กู้กันทีละ สิบล้าน ร้อยล้าน เขาไม่ต้องแปะ อากรแสตมป์ อ่ะ ฮา เพราะถ้าแปะจริงๆ ต้องเอากระดาษ เอ 4 มาเรียงกัน สิบแผ่น อ่ะ ฮา เขาเพียงแต่ ประทับข้อความว่า "ชำระอากรแสตมป์" แล้ว อ่ะ ฮา 55555 ทีนี้ ขึ้นศาลทีไร จะอ้างว่า ไม่มีอากรแสตมป์ ไม่ได้ อ่ะ จริงมั้ยจริง ฮา หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ กันยายน 24, 2013, 02:36:58 PM เอาคำพิพากษาฎีกามาให้ งง กันอีกอัน
คำพิพากษาฎีกาที่ 7064/2553 หนังสือสัญญากู้เงินดังกล่าวมีเพียงลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 ผู้กู้ โดยไม่มีลายมือชื่อของบริษัทเงินทุน น. ผู้ให้กู้อยู่ด้วย จึงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง แม้จะมีข้อความว่าหนังสือสัญญากู้เงิน เอกสารดังกล่าวก็มิใช่ตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 104 และบัญชีอากรแสตมป์ลักษณะ 5 แต่อย่างใด หนังสือสัญญากู้เงินดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ 1 ผู้กู้ ตามความหมายของมาตรา 653 วรรคหนึ่งแล้ว ศาลย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ น. ไปตามฟ้องโดยไม่จำต้องปิดอากรแสตมป์ หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: TUI 48 ที่ กันยายน 24, 2013, 02:47:22 PM ขอบคุณครับยายบ๊าบ....การกู้เงินนี่มันมีอะไรปลีกย่อยเยอะจริงๆนะ...สู้กู้เงินเมียไม่ได้..ดอกทู๊กกกกกถูก...จริงมั๊ยครับยาย..
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 02:56:10 PM ขอบคุณครับยายบ๊าบ.... การกู้เงินนี่มันมีอะไรปลีกย่อยเยอะจริงๆนะ... สู้กู้เงินเมียไม่ได้..ดอกทู๊กกกกกถูก...จริงมั๊ยครับยาย.. Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ ตุ๋ย อ่ะ ฮา ยายยืนยัน ตามข้อความด้านบน อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: 55555 แต่ถ้า ไม่แปะ " แสตมป์" บ่อยๆ ก็มีเรื่อง เหมือนกันน๊าาาา ฮา ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ กันยายน 24, 2013, 03:02:10 PM คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7064/2553
จำเลยที่ 1 ให้การยอมรับว่าได้กู้เงินจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ น. ตามสำเนาหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 13 จริง ซึ่งตรงกับหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.15 ทั้งรับว่าได้ชำระคืนแก่ผู้ให้กู้ดังกล่าวตลอดมา เพียงแต่ชำระไม่ครบจำนวนตามที่ตกลงกัน ชำระไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดในสัญญา และต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาเท่านั้น จำเลยที่ 1 มิได้ให้การต่อสู้ว่า ลายมือชื่อในสัญญากู้เงินดังกล่าว ไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 หรือเป็นลายมือชื่อปลอม เท่ากับจำเลยที่ 1 ยอมรับว่าลายมือชื่อในสัญญากู้เงินดังกล่าว เป็นลายมือชื่อที่แท้จริง ของจำเลยที่ 1 มิใช่ลายมือชื่อปลอมแล้ว แม้จำเลยที่ 3 จะได้ยกข้อต่อสู้ว่า ลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 ในสัญญากู้เงินดังกล่าว ไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 หรือเป็นลายมือชื่อปลอมก็ตาม ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 3 จะต้องนำพยานหลักฐาน มาสืบให้ฟังได้ตามที่ยกขึ้นให้การต่อสู้ไว้ เมื่อจำเลยที่ 3 ไม่นำพยานหลักฐานมาสืบโดยแถลงไม่ขอสืบพยาน ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 3 ดังกล่าวจึงฟังไม่ได้ หนังสือสัญญากู้เงินดังกล่าวมีเพียงลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 ผู้กู้ โดยไม่มีลายมือชื่อของบริษัทเงินทุน น. ผู้ให้กู้อยู่ด้วย จึงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง แม้จะมีข้อความว่าหนังสือสัญญากู้เงิน เอกสารดังกล่าวก็มิใช่ตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 104 และบัญชีอากรแสตมป์ลักษณะ 5 แต่อย่างใด หนังสือสัญญากู้เงินดังกล่าว จึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน เป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ 1 ผู้กู้ ตามความหมายของมาตรา 653 วรรคหนึ่งแล้ว ศาลย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ น. ไปตามฟ้องโดยไม่จำต้องปิดอากรแสตมป์ หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 24, 2013, 04:16:18 PM ขอบคุณครับยายบ๊าบ.... การกู้เงินนี่มันมีอะไรปลีกย่อยเยอะจริงๆนะ... สู้กู้เงินเมียไม่ได้..ดอกทู๊กกกกกถูก...จริงมั๊ยครับยาย.. Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ ตุ๋ย อ่ะ ฮา ยายยืนยัน ตามข้อความด้านบน อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: 55555 แต่ถ้า ไม่แปะ " แสตมป์" บ่อยๆ ก็มีเรื่อง เหมือนกันน๊าาาา ฮา ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเสก คนเดิม ที่ กันยายน 24, 2013, 04:25:31 PM แสดงว่าน้าจอยมีประสบการณ์ :OO
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 24, 2013, 04:38:12 PM แสดงว่าน้าจอยมีประสบการณ์ :OO เค้าว่า ::007::หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ กันยายน 24, 2013, 05:17:38 PM ลากกันไปขึ้นศาล ยอดเงินยืมต้นทบดอกเป็นล้าน สู้กันหลายศาล ผ่านไปหลายปี สุดท่้าย ศาลสั่งจ่ายผ่อนส่งเดือนละสามพัน :~) :~) :~) :~) ::005:: ::007:: ::007:: ::007::
|