เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 30, 2013, 02:32:35 PM



หัวข้อ: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 30, 2013, 02:32:35 PM
 เจ้าลูกชายคนโตผม แต่ไหนแต่ไรไม่ค่อยสนใจเรียนพาไปเรียนพิเศษครูก็บอกว่าคุณพ่อไม่ต้องพามาเรียนหรอกเปลืองเงินเปล่าเค้าไม่สนใจเรียนมัวแต่ชมนกชมไม้ ประชุมผู้ปกครองทีครูก็ฟ้องแต่เรื่องเดิมๆเพื่อนเข้าห้องเรียนแล้วแต่เจ้าตัวยังมัวชมนกชมไม้กวาดใบไม้อยู่ สอบทีไรติด ๐กับร.เป็น๑๐ตัว ติดตั้งแต่มอ๑ก็ยังไม่ได้แก้ เทอมที่แล้วครูเรียกไปอีกทีผมเลยตัดสินใจยุครูให้เค้าซํ้าชั้นมอ๒ ดูเผื่อจะทำให้เค้าดีขึ้นมาบ้าง ปรากฏว่าเทอมที่ผ่านมานี่เค้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยสนใจไปเรียนพิเศษโดยที่ไม่มีใครใช้ให้ไป วันนี้ไปดูผลสอบเค้าโทรมาบอกด้วยนํ้าเสียงที่บ่งบอกถึงความดีใจว่า เทอมนี้เค้าติด ๐แค่สองวิชาเอง ได้เกรดสี่มาตัวนึงสามอีกสองตัว ที่เหลือก็๑กว่าๆ เค้าพูดด้วยนํ้าเสียงเสียดายว่าวิชาคณิตศาสตร์ที่ติด๐นั้นเหลืออีกแค่สี่คะแนนเองก็จะได้๑แล้ว งานนี้ผมว่าผมคิดถูกจริงๆที่บอกครูให้ซํ้าชั้นเค้า เพราะผมคิดว่าให้ซํ้าตอนมอต้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย เผื่อเค้าจะคิดได้ก็ได้ผลดีจริง เผื่อท่านใดมีปัญหาแบบผมจะลองดูบ้างก็ได้นะครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 30, 2013, 02:46:59 PM
 ยินดีด้วยครับ เด็กมีพัฒนาการทางความคิดได้เองเป็นสิ่งที่ดีครับ
เหมือนเมื่อก่อนไอ้ตัวเล็ก ไม่เคยสนใจไปเรียนพิเศษเลย
พอตอนนี้เริ่มสนใจ หาคอร์ส หาที่เรียนเอง แค่มาเบิกค่าเรียนไปจ่ายเท่านั้น
ทั้งๆที่เมื่อก่อน พาไปดู ไปลอง แค่นให้เรียนยังไงก็ไม่เรียน


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2013, 03:11:55 PM
ตัดสินใจถูกแล้วครับ ผมก็ใช้วิธีนี้กับหลาน ได้ผลครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กันยายน 30, 2013, 03:30:47 PM
มันอยู่ที่เด็กครับ ขุนยังไง ถ้าเขาไม่สนใจก็ขุนไม่ขึ้น ::005::


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: montri รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2013, 03:44:03 PM
ยินดีด้วยนะครับ ลูกๆมีความคิดดี พ่อแม่ก็มีความสุข













หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 30, 2013, 03:46:59 PM
เห็นเพื่อนร่วมชั้นได้เลื่อนไป เราซ้ำชั้นอยู่กับรุ่นน้อง
คงเป็นความรู้สึก ยากบรรยายได้
แต่คิดถูกที่ดัดไม้ยามยังอ่อนอยู่ เสียเวลาปีเดียว แต่ได้ผล ดีใจด้วยครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ กันยายน 30, 2013, 03:57:15 PM
วันก่อนเค้าอาจจะยังไม่คิดอะไรครับ
แต่วันนี้เค้าน่าจะเริ่มคิดอะไรได้บ้าง
คนเราถ้าตั้งใจ ยังไงก็ทำได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 30, 2013, 05:21:22 PM
เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2013, 05:33:50 PM
ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการศึกษาของเด็กหรอกครับ...

ที่แน่นอนมีอย่างเดียว...

คือความเอาใจใส่ของผู้ปกครองและครูอาจารย์...

ต้องมีให้เพียงพอ ไม่อย่างนั้นเรียนได้ไม่ดีหรอกครับ... :D


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 30, 2013, 05:41:13 PM
เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 30, 2013, 08:57:10 PM
เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ

เด็กใจเด็ดครับ...

อย่างนี้หาหนังสือให้อ่านแยะๆครับ หนังสือนิยายก็ได้ ยังไม่ต้องสนใจว่าหนังสืออะไร, ประเด็นคือเตรียมฐานข้อมูลในสมองให้แกแยะๆครับ แล้วความใจเด็ดจะประมวลผลหาทางเลือกได้เอง... เพราะต่อไปอ่านหนังสือนิยายเบื่อแล้วก็จะตะลุยหนังสือประเภทอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเปิดโลก+มุมมองชีวิตกว้างขึ้นเรื่อยๆ...

ปรกติเด็กแบบนี้ถ้าปลูกนิสัยรักการอ่าน+เล่นกีฬาได้สำเร็จ แกจะตะลุยอ่านจนหมดห้องสมุดเป็นแห่งๆไป ต้องย้ายห้องสมุดไปเรื่อยครับ... อันนี้เรื่องจริง...

แต่อย่าให้เล่นเกมส์มากๆ เป็นอันขาด เพราะจะเสียเวลาเตรียมฐานข้อมูลในสมอง... เด็กใจเด็ดแบบนี้กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง, หากปล่อยให้เสี่ยงตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอ ก็จะกล้าเสี่ยงเอากับเรื่องไม่คุ้มค่าครับ...

อีกเรื่องครับ... ม.1 แล้ว อายุคงประมาณ 14 ปี, อย่างนี้ชวนแกเพาะกายก็ได้แล้วนะครับ อันนี้ลิ้งก์สำหรับอายุน้อยกว่า 15 ปีแล้วฝึกเพาะกาย http://www.tuvayanon.net/15dwn.html ... อุปกรณ์ก็มีแล้ว, ตกเย็นชวนยกลูกเหล็กประสา พ่อๆ ลูกๆ ก็ดีครับ มีความสุขดี ยกเหวทเสร็จก็สอนการบ้านต่อ... เย้...


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: schamp ที่ กันยายน 30, 2013, 08:58:39 PM
อย่างน้อยก็รู้ว่าเด็กยังรักที่จะเรียนอยู่นะครับท่าน..คงหมายความว่าเด็กยังต้องการมีอนาคตที่ดีอยู่แต่ที่ผ่านมาแค่หลงทางชั่วครู่ชั่วคราว..เด็กสมัยนี้มันมีสิ่งล่อลวงหูล่อตาเยอะนะครับผมว่าช่วงมอต้นนี่แหละครับที่มันอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพราะเริ่มที่จะคบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆที่ยังไม่รู้กับนิสัยใจคอกลัวว่าจะพากันเกเรได้ผู้ใหญ่อย่างเราๆท่านๆควรใส่ใจเรื่องนี้บ้างนะครับ..ลูกชายผมก็มอหนึ่งครับคุยกันเรื่องในโรงเรียนทุกวันตอนกินข้าวเย็น ::002::


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sopon7 ที่ กันยายน 30, 2013, 09:34:08 PM
ดีใจด้วยครับที่เด็กดีขึ้น  มุมมองของผมแนะนำให้ใกล้ชิดน้องมากๆ
อีกไม่นานเราจะได้ใจลูกเต็มร้อย   ::014::


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hang Forever ที่ กันยายน 30, 2013, 10:48:18 PM
เอ้อ  ผมว่า.... จะเป็นผลเสียทำให้เด็กมีปมด้อย 
ครูก็ถูกตำหนิ ทำผลงานวิชาการไม่ผ่านเพราะมีเด็กตกซ้ำชั้น
ผอ.ก็จะถูกทางเขตฯ ด่า
ทางเขตพื้นที่ฯก็จะถูก สพฐ.ตำหนิ
ทางสพฐ.ก็ต้องถูกกระทรวงศึกษาธิการ ต่อว่า
ทางกระทรวงฯก็จะถูกท่านนายกฯตำหนิต่อหน้า ครม.
ประเทศไทยก็จะไม่พ้นการถูกจัดให้อยู่อันดับโหล่ของอาเซี่ยน มันเป็นเรื่องใหญ่....นะเธอ

มันขัดกับนโยบายทางการศึกษาของรัฐ... ห้ามตี  ห้ามตก.. ::010::


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ กันยายน 30, 2013, 11:47:08 PM
เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ

เด็กใจเด็ดครับ...

อย่างนี้หาหนังสือให้อ่านแยะๆครับ หนังสือนิยายก็ได้ ยังไม่ต้องสนใจว่าหนังสืออะไร, ประเด็นคือเตรียมฐานข้อมูลในสมองให้แกแยะๆครับ แล้วความใจเด็ดจะประมวลผลหาทางเลือกได้เอง... เพราะต่อไปอ่านหนังสือนิยายเบื่อแล้วก็จะตะลุยหนังสือประเภทอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเปิดโลก+มุมมองชีวิตกว้างขึ้นเรื่อยๆ...

ปรกติเด็กแบบนี้ถ้าปลูกนิสัยรักการอ่าน+เล่นกีฬาได้สำเร็จ แกจะตะลุยอ่านจนหมดห้องสมุดเป็นแห่งๆไป ต้องย้ายห้องสมุดไปเรื่อยครับ... อันนี้เรื่องจริง...

แต่อย่าให้เล่นเกมส์มากๆ เป็นอันขาด เพราะจะเสียเวลาเตรียมฐานข้อมูลในสมอง... เด็กใจเด็ดแบบนี้กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง, หากปล่อยให้เสี่ยงตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอ ก็จะกล้าเสี่ยงเอากับเรื่องไม่คุ้มค่าครับ...

อีกเรื่องครับ... ม.1 แล้ว อายุคงประมาณ 14 ปี, อย่างนี้ชวนแกเพาะกายก็ได้แล้วนะครับ อันนี้ลิ้งก์สำหรับอายุน้อยกว่า 15 ปีแล้วฝึกเพาะกาย http://www.tuvayanon.net/15dwn.html ... อุปกรณ์ก็มีแล้ว, ตกเย็นชวนยกลูกเหล็กประสา พ่อๆ ลูกๆ ก็ดีครับ มีความสุขดี ยกเหวทเสร็จก็สอนการบ้านต่อ... เย้...
อายุสิบห้าครับผมชวนฝึกเพาะกายแล้วครับเค้าไม่เอาครับ ที่เค้าชอบก็มีปั่นจักรยานกับทำอาหารครับดูเหมือนเค้ามีพรสวรรค์ทางด้านทำอาหารครับดูรายการทีวีครั้งเดียวก็ทำตามได้ครับอร่อยอีกต่างหากครับ บางทีก็คิดสูตรเอาเองครับทำกับข้าวอร่อยกว่าแม่เค้าอีกครับ ผมยังคิดไว้ว่าถ้าไม่สนใจเรียนจริงๆจะให้เค้าไปเรียนด้านการทำอาหารครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 01, 2013, 12:00:39 AM
อย่างน้อยก็รู้ว่าเด็กยังรักที่จะเรียนอยู่นะครับท่าน..คงหมายความว่าเด็กยังต้องการมีอนาคตที่ดีอยู่แต่ที่ผ่านมาแค่หลงทางชั่วครู่ชั่วคราว..เด็กสมัยนี้มันมีสิ่งล่อลวงหูล่อตาเยอะนะครับผมว่าช่วงมอต้นนี่แหละครับที่มันอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพราะเริ่มที่จะคบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆที่ยังไม่รู้กับนิสัยใจคอกลัวว่าจะพากันเกเรได้ผู้ใหญ่อย่างเราๆท่านๆควรใส่ใจเรื่องนี้บ้างนะครับ..ลูกชายผมก็มอหนึ่งครับคุยกันเรื่องในโรงเรียนทุกวันตอนกินข้าวเย็น ::002::
กับเพื่อนนี่ถ้าอยู่โรงเรียนเค้าจะเล่นกับเด็กๆหรือไม่ก็อยู่กับครูเค้าชอบช่วยครูทำกิจกรรมครับเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่เล่นเค้าว่าเพื่อนแกล้งครับ ถ้าอยู่บ้านเวลาชุมชนมีงานไม่ต้องใช้ครับไปทันทีตั้งแต่ปอห้าปอหกครับเวลากินข้าวร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยนู้นครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ ตุลาคม 01, 2013, 01:22:12 PM
ลูกผมเพิ่งประถม 1 ครับ ตอนนี้ได้แต่พยายามให้ทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 01, 2013, 01:46:44 PM
คนเล็กผมเตรียมอนุบาลมีการบ้านให้ทำทุกวันครับ เลิกเรียนมาก็จะพาไปโรงงานด้วยพาไปส่งของด้วยเพื่อปลูกฝังการทำงานให้เค้าไว้ครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ตุลาคม 02, 2013, 06:53:36 AM
คนเล็กผมเตรียมอนุบาลมีการบ้านให้ทำทุกวันครับ เลิกเรียนมาก็จะพาไปโรงงานด้วยพาไปส่งของด้วยเพื่อปลูกฝังการทำงานให้เค้าไว้ครับ

ผมก็ให้เขาทำงานที่บ้านครับ ;D ;D ;D พยายามให้ช่วยตัวเองทุกอย่าง

ยินดีด้วยครับมีพ่อที่ดูแลพวกเขาอย่างดี


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ ตุลาคม 02, 2013, 07:24:06 AM
ยินดีด้วยครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 02, 2013, 07:33:58 AM
โชคดีครับ ทำแบบนี้แล้วลูกปรับตัวในทางที่ดี ถือว่าถูกทางจริงๆ ครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 02, 2013, 11:57:12 AM
ยินดีด้วยครับ


หัวข้อ: Re: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ ตุลาคม 02, 2013, 12:24:09 PM
ขอบคุณครับ