หัวข้อ: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 01, 2013, 06:53:25 PM รัฐบาลสหรัฐฯได้เริ่มการปิดหน่วยงานราชการบางแห่งลงแล้ว หลังจากสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ปฏิเสธที่จะอนุมัติงบประมาณประจำปีหน้า
American Shut Down กำหนดเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนวันที่ 30 ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น.ตามเวลาประทศไทยวันนี้) ผ่านไปโดยไร้ข้อตกลง แม้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเรียกร้องให้สภาล่างยอมผ่านร่างกฎหมายก็ตาม (http://image.ohozaa.com/i/g64/Obbc85.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x6zaA1Wtf3iL9qBK) ประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐเรียกร้องให้นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสนับสนุนการผ่านร่างงบประมาณให้กับรัฐบาลต่อไปและเร่งลงมติโดยเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลหลายแห่งที่จะทำให้เกิดภาวะชะงักงัน ทำเนียบขาวสหรัฐฯแถลงว่าประธานาธิบดีโอบามาจากพรรคเดโมแครตโทรศัพท์ถึงนายโบห์เนอร์สังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้เร่งลงมติโดยเร็ว หลังสองฝ่ายงัดข้อกันในสภา ผู้นำสหรัฐฯขอให้จัดสรรงบประมาณให้รัฐบาลต่อไป จะได้ไม่ต้องปิดหน่วยงานของรัฐและไม่กระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่การเจรจาในสภายังไม่มีความเคลื่อนไหว ทำเนียบขาวเตรียมวางกำลังเจ้าหน้าที่ที่ยังต้องปฏิบัติภารกิจในหน่วยงานสำคัญ เช่นสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ยังมีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมากที่อาจต้องพักงานจากอนาคตที่ยังไม่แน่นอนในสภา แม้แต่แผนประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามาก็ยังไม่ชัดเจน วุฒิสภาสหรัฐซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ไม่รับร่างงบประมาณฉบับนี้ ซึ่งหากภายในเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาในสหรัฐ หรือราว 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลยังไม่อาจตกลงกับวุฒิสภาได้แล้ว หน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีความจำเป็นน้อยจะต้องปิดทำการลงทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี พนักงานของรัฐราว 700,000 คน ต้องถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ปัญหาที่ทำให้ร่างงบประมาณดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา มาจากร่างกฎหมายเกี่ยวกับการประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยฝ่ายรีพับลิกันทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่างไม่ยอมรับร่างกฎหมายดังกล่าว และเสนอให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปหรือตัดทอนเงินสนับสนุน จึงจะยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณให้ แต่การต่อรองดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ นายแฮร์รี รี้ด แห่งพรรคเดโมแครต ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า เป็นฝีมือของรีพับลิกันล้วนๆ ที่ทำให้สำนักงานของรัฐบาลต้องปิดลง เนื่องจากร่างงบประมาณไม่ผ่านความเห็นชอบ ด้านนายจอห์น เบย์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาผู้แทนจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณนี้อีกครั้งภายในเย็นวันจันทร์นี้ ซึ่งคงจะไม่ใช่ร่างกฎหมายที่ประวิงเวลาการประกันสุขภาพออกไปอีกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐยังมีเวลาที่จะถ่วงเวลาการปิดสำนักงานของทางการไปจนถึงวันที่ 17 ตุลาคม ระหว่างนี้จะเป็นการนำเงินยืมมาใช้ก่อน หรือการเพิ่มเพดานหนี้ สิ่งที่พรรครีพับลิกันต้องการเพื่อแลกกับการยอมให้มีการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลได้ก็คือ รัฐบาลต้องยอมอ่อนข้อให้ในเรื่องกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามา และกฎหมายเกี่ยวกับการเงินและสิ่งแวดล้อม http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380601948&grpid=00&catid=06&subcatid=0600 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 01, 2013, 07:00:50 PM http://www.thairath.co.th/content/oversea/373255
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ตุลาคม 01, 2013, 07:17:19 PM กระเทือนเศรษฐกิจโลกช่วงหนึ่งแน่ เพราะอัตราการว่างงาน เกือบล้านคน การบริโภคหดหายไปเยอะ
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 01, 2013, 09:29:17 PM โดนเลิกจ้างรอบแรกเจ็ดแสนคน ในจำนวนนั้น บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต บางคนโชคร้าย โดนเลิกจ้างทั้งผัวทั้งเมีย นี่แค่เริ่มต้น ผลกระทบมันจะเป็นลูกโซ่ ::012:: ::012::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 01, 2013, 09:38:31 PM โดนเลิกจ้างรอบแรกเจ็ดแสนคน ในจำนวนนั้น บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต บางคนโชคร้าย โดนเลิกจ้างทั้งผัวทั้งเมีย นี่แค่เริ่มต้น ผลกระทบมันจะเป็นลูกโซ่ ::012:: ::012:: น่าเซ้งอาวุธออกขายเนาะ ::005::หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 01, 2013, 09:57:35 PM นายสมชายอ่านข่าวแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ ว่าทำไมคน 8 แสนคนต้องหยุดงานด้วย เพราะเงินเดือน+ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบประมาณประจำนั้น ยังไงก็ต้องผ่านออกมาอยู่ดีไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะประเทศต้องเดินหน้าครับ...
ประเทศไทยก็เคยมีเหตุให้สภาฯ อนุมัติงบประมาณออกมาล่าช้า บางปีถึงกับข้ามปีใหม่ไปเลยก็ยังมี... แต่ข้าราชการไทยก็ไม่หยุดงานนี่ครับ ก็อนุมัติงบชั่วคราวเฉพาะที่จำเป็นเพื่อให้เดินกันต่อไปได้ แล้วทดรองเบิกง่ายงบประมาณที่ว่ากันไปก่อน เมื่องบประมาณตัวจริงผ่านสภาฯ ได้เงินมาแล้วค่อยเอามาหักงบฯ ทดรองจ่ายฯ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 01, 2013, 10:02:37 PM รายละเอียดลิ้งก์นี่ครับ... http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000123263 ...
เขาสั่งให้หยุดทุกอย่าง แม้แต่โทรศัพท์หรือโน๊ตบุคที่เป็นของหลวงก็ต้องเอามาเก็บไว้ที่สำนักงานฯ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ ตุลาคม 01, 2013, 10:08:04 PM แปลกใจว่า เขาไม่มีแผน ไม่มีมาตรการรองรับอะไรซักอย่างเหรอครับ แค่ประชุมไม่ผ่านวาระ คนต้องตกงานเลิกจ้าง 8แสนคน ไม่ใช้น้อย แล้วคน 8แสนคนไม่เดือดร้อนไม่ประท้วงอะไรเลยเหรอครับ
แปลกใจจริง ๆ ครับ ตอนนี้หุ้นดาวน์โจนขึ้นนิดหน่อย ถ้าข่าวร้ายขนาดนี้มันน่าจะร่วงเยอะกว่านี้ครับ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ตุลาคม 01, 2013, 11:04:25 PM งานคือเงินเงินคืองาน
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ตุลาคม 01, 2013, 11:11:02 PM นายสมชายอ่านข่าวแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ ว่าทำไมคน 8 แสนคนต้องหยุดงานด้วย เพราะเงินเดือน+ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบประมาณประจำนั้น ยังไงก็ต้องผ่านออกมาอยู่ดีไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะประเทศต้องเดินหน้าครับ... ประเทศไทยก็เคยมีเหตุให้สภาฯ อนุมัติงบประมาณออกมาล่าช้า บางปีถึงกับข้ามปีใหม่ไปเลยก็ยังมี... แต่ข้าราชการไทยก็ไม่หยุดงานนี่ครับ ก็อนุมัติงบทดรองเบิกง่ายกันกันไปก่อน เมื่องบประมาณผ่าน ได้เงินมาแล้วค่อยเอามาหักงบทดรองฯ... เท่าที่ติดตามข่าว ส่วนที่ได้รับผลกระทบคือ ลูกจ้างรายวัน ของ รัฐบาลกลาง ที่ได้รับผลกระทบทันที พวกที่รับ ค่าจ้าง จาก รัฐบาลท้องถิ่น ไม่ได้รับผลกระทบ ครับ ส่วน ทหาร หรือ ข้าราชการ ที่สำคัญ ก็ยังไม่โดนให้ สลับกัน หยุดงาน ไม่น่าเชื่อว่า นี่ไม่ไช่ครั้งแรก สหรัฐ เจอเรื่องนี้มาแล้ว 17 ครั้ง หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 01, 2013, 11:14:32 PM ::014:: ทุกท่านครับ
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 02, 2013, 12:17:09 AM นายสมชายอ่านข่าวแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ ว่าทำไมคน 8 แสนคนต้องหยุดงานด้วย เพราะเงินเดือน+ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบประมาณประจำนั้น ยังไงก็ต้องผ่านออกมาอยู่ดีไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะประเทศต้องเดินหน้าครับ... ประเทศไทยก็เคยมีเหตุให้สภาฯ อนุมัติงบประมาณออกมาล่าช้า บางปีถึงกับข้ามปีใหม่ไปเลยก็ยังมี... แต่ข้าราชการไทยก็ไม่หยุดงานนี่ครับ ก็อนุมัติงบทดรองเบิกง่ายกันกันไปก่อน เมื่องบประมาณผ่าน ได้เงินมาแล้วค่อยเอามาหักงบทดรองฯ... ระบบไม่เหมือนกันครับ ของเรา พ.ร.บ.งบประมาณ ฯ ยังไม่ออก เราใช้กฎหมายเก่าไปก่อนได้ แต่ได้เฉพาะที่เป็นรายจ่ายประจำ ส่วนของอเมริกา ปัญหานี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุค ปธน.เคเนดี ฐานเสียงของเดโมแครตเป็นคนรายได้น้อย ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกฎหมายประกันสุขภาพ ส่วนฐานเสียงของรีพับริกันเป็นชนชั้นกลาง ที่เป็นผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ เขาจึงรักษาผลประโยชน์ ไม่ให้เอาเงินไปใช้ดูแลผู้มีรายได้ต่ำมากเกินไป หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 02, 2013, 12:45:44 AM ::014:: ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ ท่านผู้การสุพินท์ +
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ตุลาคม 02, 2013, 06:41:36 AM โดนเลิกจ้างรอบแรกเจ็ดแสนคน ในจำนวนนั้น บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต บางคนโชคร้าย โดนเลิกจ้างทั้งผัวทั้งเมีย นี่แค่เริ่มต้น ผลกระทบมันจะเป็นลูกโซ่ ::012:: ::012:: น่าเซ้งอาวุธออกขายเนาะ ::005::พี่จอยจะรับแท่นยิงจรวดมาตั้งเล่นที่บ้านบ้างไหมครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ตุลาคม 02, 2013, 06:42:59 AM ส่วนฐานเสียงของรีพับริกันเป็นชนชั้นกลาง ที่เป็นผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ เขาจึงรักษาผลประโยชน์ ไม่ให้เอาเงินไปใช้ดูแลผู้มีรายได้ต่ำมากเกินไป รู้สึกบ้านเราไม่มีพรรคไหนดูแลผลประโยชน์บ้านเมืองเลย ;D ;D ;D แย่ครับ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 02, 2013, 07:38:39 AM ขอบคุณท่านผู้การฯ ครับ หายข้องใจแล้ว
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ตุลาคม 02, 2013, 08:04:48 AM นายสมชายอ่านข่าวแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ ว่าทำไมคน 8 แสนคนต้องหยุดงานด้วย เพราะเงินเดือน+ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบประมาณประจำนั้น ยังไงก็ต้องผ่านออกมาอยู่ดีไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะประเทศต้องเดินหน้าครับ... ประเทศไทยก็เคยมีเหตุให้สภาฯ อนุมัติงบประมาณออกมาล่าช้า บางปีถึงกับข้ามปีใหม่ไปเลยก็ยังมี... แต่ข้าราชการไทยก็ไม่หยุดงานนี่ครับ ก็อนุมัติงบทดรองเบิกง่ายกันกันไปก่อน เมื่องบประมาณผ่าน ได้เงินมาแล้วค่อยเอามาหักงบทดรองฯ... ระบบไม่เหมือนกันครับ ของเรา พ.ร.บ.งบประมาณ ฯ ยังไม่ออก เราใช้กฎหมายเก่าไปก่อนได้ แต่ได้เฉพาะที่เป็นรายจ่ายประจำ ส่วนของอเมริกา ปัญหานี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุค ปธน.เคเนดี ฐานเสียงของเดโมแครตเป็นคนรายได้น้อย ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกฎหมายประกันสุขภาพ ส่วนฐานเสียงของรีพับริกันเป็นชนชั้นกลาง ที่เป็นผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ เขาจึงรักษาผลประโยชน์ ไม่ให้เอาเงินไปใช้ดูแลผู้มีรายได้ต่ำมากเกินไป ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 02, 2013, 08:21:48 AM นายสมชายอ่านข่าวแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ ว่าทำไมคน 8 แสนคนต้องหยุดงานด้วย เพราะเงินเดือน+ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบประมาณประจำนั้น ยังไงก็ต้องผ่านออกมาอยู่ดีไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะประเทศต้องเดินหน้าครับ... ประเทศไทยก็เคยมีเหตุให้สภาฯ อนุมัติงบประมาณออกมาล่าช้า บางปีถึงกับข้ามปีใหม่ไปเลยก็ยังมี... แต่ข้าราชการไทยก็ไม่หยุดงานนี่ครับ ก็อนุมัติงบทดรองเบิกง่ายกันกันไปก่อน เมื่องบประมาณผ่าน ได้เงินมาแล้วค่อยเอามาหักงบทดรองฯ... ระบบไม่เหมือนกันครับ ของเรา พ.ร.บ.งบประมาณ ฯ ยังไม่ออก เราใช้กฎหมายเก่าไปก่อนได้ แต่ได้เฉพาะที่เป็นรายจ่ายประจำ ส่วนของอเมริกา ปัญหานี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุค ปธน.เคเนดี ฐานเสียงของเดโมแครตเป็นคนรายได้น้อย ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกฎหมายประกันสุขภาพ ส่วนฐานเสียงของรีพับริกันเป็นชนชั้นกลาง ที่เป็นผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ เขาจึงรักษาผลประโยชน์ ไม่ให้เอาเงินไปใช้ดูแลผู้มีรายได้ต่ำมากเกินไป ขอบพระคุณครับ... เย้... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 03, 2013, 11:24:04 PM วิกฤตการคลังมะกัน กระทบชิ่งเศรษฐกิจโลก
Prev 1 of 1 Next คลิกภาพเพื่อขยาย updated: 03 ต.ค. 2556 เวลา 11:02:42 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ปัญหาการคลังของสหรัฐที่มีต้นตอจากความขัดแย้งทางการเมืองในรัฐสภา มีแนวโน้มจะสร้างความเสียหายในเศรษฐกิจของมะกันที่ยังเปราะบางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในฐานะเขตเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งของโลก แรงสะเทือนย่อมส่งผลต่อนานาชาติด้วย วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถหาข้อยุติในการผ่านแผนงบประมาณฉบับใหม่ แทนแผนเดิมได้ทันก่อนเที่ยงคืนวันที่ 30 กันยายน หน่วยงานภาครัฐบางส่วนจะไม่มีงบประมาณสำหรับบริหารงานหรือจ่ายค่าจ้างเจ้าหน้าที่ ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบลดลง แต่จะมีผลกระทบมากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่า ภาวะชะงักงันของภาครัฐ (Government Shutdown) กินระยะเวลานานแค่ไหน ถ้าเกิดภาวะชะงักงันเพียงไม่กี่วัน ผลกระทบก็มีเพียงไม่มาก แต่นักเศรษฐศาสตร์ตลอดจนฝ่ายการเมืองมองว่าอาจลากยาวถึงขั้นหลายสัปดาห์ได้ เมื่อดูจากจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วของฝ่ายรีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น นอกจากจะทำให้เงินก้อนใหญ่หายไปจากระบบแล้ว ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ จนทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนหดลง มาร์ก แซนดิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากมูดีส์ อนาไลติกส์ ประเมินว่า ภาวะชะงักบางส่วนจะฉุดการเติบโตจีดีพีไตรมาสสี่ของสหรัฐ 0.2-2.5% แม้ภาวะดังกล่าวจะกินเวลาเพียง 3-4 วัน แต่ถ้าภาวะเงินขาดมือดำเนินไป 3-4 สัปดาห์ การเติบโตจะหายไป 1.4% และครึ่งหนึ่งของข้าราชการพลเรือนต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน "ภาวะชะงักงันที่นานเกิน 1 เดือนจะทำให้จีดีพีฟุบลงทั้งไตรมาส และถ้านานกว่า 2 เดือนจะจุดชนวนให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรอบใหม่" สหรัฐเผชิญกับปัญหาการคลังหยุดชะงักครั้งล่าสุดในปี 2538-2539 สมัย บิลล์ คลินตัน เป็นประธานาธิบดี แม้ช่วงนั้นเศรษฐกิจมะกันจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังเจอแรงกระเพื่อมจากปัญหางบประมาณขาดมือ โดยในไตรมาสสามปี 2538 จีดีพีโต 3.5% ก่อนลดเหลือ 2.9% ในไตรมาสสี่ที่เริ่มเกิดภาวะชะงักงัน และดิ่งลงสู่ 2.6% ในไตรมาสแรกของปี 2539 ก่อนดีดกลับมาเติบโต 7.2% ในไตรมาสถัดมา ซึ่งปัญหาด้านการคลังคลี่คลายลงแล้ว อีกปมขัดแย้งที่อาจน่ากังวลยิ่งกว่าคือ การก่อหนี้ภาครัฐที่ แจ็ก ลิว ขุนคลังมะกันเตือนว่าจะทะลุเพดาน 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ถ้าสภาคองเกรสไม่เร่งผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ก่อนเส้นตาย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้รัฐบาลซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐต้องหั่นรายจ่ายลง 1 ใน 3 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องชะลอการจ่ายเงินสวัสดิการสังคม เงินเดือนทหาร และรายรับของแพทย์ ถ้านักลงทุนไม่เชื่อมั่นในความสามารถด้านการชำระหนี้ของสหรัฐ ก็ย่อมเรียกอัตราผลตอบแทนที่สูงสำหรับการซื้อพันธบัตรมะกัน ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั้งระบบการเงินของสหรัฐขยับขึ้นตามไปด้วย ทั้งดอกเบี้ยสินเชื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือบัตรเครดิต นอกจากนี้ นักลงทุนอาจเกิดความเคลือบแคลงในความปลอดภัยของพันธบัตรสหรัฐซึ่งเป็นฐานของระบบการเงินโลก หากพันธบัตรดังกล่าวเสื่อมมูลค่าลงก็จะกระทบต่อทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ซึ่ง 60% ของทุนสำรอง 5 ล้านล้านดอลลาร์อยู่ในรูปเงินดอลลาร์ หรือพันธบัตรมะกัน แม้สภาคองเกรสจะหาทางหลีกเลี่ยงภาวะชะงักงันและการผิดนัดชำระหนี้ได้ทันเวลา แต่ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ก็ยังมีผลลบตกค้างต่อเศรษฐกิจ ความปั่นป่วนในรัฐสภาจะกดดันให้ภาคธุรกิจกอดเงินสดไว้กับตัว ไม่ยอมนำไปลงทุนหรือจ้างงานเพิ่ม ปัญหาว่างงานในสหรัฐที่เริ่มบรรเทาลงบ้างแล้วมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 04, 2013, 08:55:07 AM โอ้โห... แตะเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของระบบเศรษฐกิจเชียวหรือครับ...
เรื่อง"ความเชื่อมั่นในพันธบัตรรัฐบาล"... นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของระบบเงินตรานะครับ เพราะรัฐบาลอเมริกันเป็นผู้ค้ำประกันมูลค่าของพันธบัตร+มูลค่าของแผ่นกระดาษที่ชื่อว่าดอลล่าห์... ถ้าเมื่อไหร่กระดาษเหลือมูลค่าแค่กระดาษ ไม่มีมูลค่าเบื้องหลัง(เพราะคนไม่เชื่อมั่น)... นั่นคือมนุษย์ก่อนมีระบบเงินตราโน่นเลยครับ หรือหากยกตัวอย่างให้ชัดแบบในเวลาปัจจุบันก็คือจะเหมือนคนบ้านนอกเดินเอาไข่แลกเสื้อผ้าตามซอกซอยบ้านเรานั่นแหละครับ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 04, 2013, 09:13:22 AM รัฐบาลไทยน่าเอาเงินสองแสนล้านล้าน ไปปล่อยอเมริกาต่อ กันเองคิดร้อยละยี่สิบต่อวันพอ ::007::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ตุลาคม 04, 2013, 09:21:53 AM รัฐบาลไทยน่าเอาเงินสองแสนล้านล้าน ไปปล่อยอเมริกาต่อ กันเองคิดร้อยละยี่สิบต่อวันพอ ::007:: แล้วจ้างพวกหมวกกันน๊อกไปทวงนะ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 04, 2013, 09:35:48 AM รัฐบาลไทยน่าเอาเงินสองแสนล้านล้าน ไปปล่อยอเมริกาต่อ กันเองคิดร้อยละยี่สิบต่อวันพอ ::007:: แล้วจ้างพวกหมวกกันน๊อกไปทวงนะ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ ตุลาคม 04, 2013, 11:37:42 AM หาเรื่องเข้าไปปล้นตะวันออกกลาง-อเมริกาใต้ซักประเทศ เดี๋ยวก็หายกรอบ
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 05, 2013, 09:51:32 PM สหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้แล้ว หลายครั้ง
ทุกคนกำลังใจจดใจจ่ออยู่ว่า คอนเกรซจะยกเพดานหนี้ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้หรือไม่ เพราะว่าไม่ยก กระทรวงคลังจะผิดชำระหนี้หลังจากนั้น และพันธบัตรสหรัฐฯจะถุกลดเกรดเป็นขยะ (junk) แะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่หรือแม้แต่ Bill Gross แห่งPIMCOบอกว่าสหรัฐฯไม่มีวันผิดชำระหนี้ได้ เพราะไม่เคยผิดชำระหนี้มาก่อน ที่จริงสหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้มาก่อนในอดีตหลายครั้งคือ 1. ครั้งแรกคือ1790 ช่วงกำลังตั้งประเทศ รัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศและหนี้ภายในประเทศ 2. ระหว่างปี 1841-1842 มี9รัฐผิดชำระหนี้ 3. ระหว่างปี 1873-1884 มี10 ผิดชำระหนี้ อันนำไปสู่การออกกฎหมายในหลายๆรัฐต่อมาให้ตั้งงบประมาณสมดุล มีแค่ใหนก็ใช้แค่นั้น จะได้ไม่สร้างหนี้ http://economix.blogs.nytimes.com/2013/10/04/the-u-s-has-defaulted-before/?_r=0 4. ปี1933 ช่วงวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง สหรัฐฯไม่มีทองพอที่จะให้คนถือดอลล่าร์หรือทองคำกระดาษ gold certificatesมาขึ้น ถือว่าผิดชำระหนี้ในระบบgold standard เลยทำการออกกฎหมาย โดยประธานาธิบดี Rooseveltยึดทองคำจากประชาชน (gold confiscation) http://www.telegraph.co.uk/finance/personalfinance/investing/gold/9968494/Roosevelts-gold-confiscation-could-it-happen-again.html 5. ปี1971 สหรัฐฯผิดชำระหนี้ทอง โดยประธานาธิบดีนิกสันเอาดอลล่าร์ออกจากระบบมาตรฐานทองคำgold standard คือพิมพ์เงินออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์หนุนหลังเป็นเงินกระดาษfiat currency ตอนนั้นสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองคำเพราะเฟดปิดหน้าต่างทองคำไม่ให้ผู้ถือดอลล่าร์ หรือgold certificates มาขึ้นทองได้ ฝรั่งเศสพยายามจะเอาดอลล่าร์ขึ้นทอง โดนสหรัฐฯชักดาบ แต่ก็เงียบไม่กล้าหือ ใช้ดอลล่าร์กระดาษต่อไป เหมือนเจ้าของบ่อนให้คนแลกชิบเล่นพนัน พอเล่นเสร็จจะเอาชิบไปแลกเงิน บอกแลกไม่ได้ปิดหน้าต่างที่แลกเงิน เลยชิบหายกัน chip hai แต่ฝรั่งเรียกNixon shock http://en.wikipedia.org/wiki/Nixon_Shock 6. ช่วงนี้รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งกำลังล้มละลาย เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้ เช่น General-Purpose Local Government Bankruptcy Filings: -- City of Detroit -- City of San Bernardino, Calif. -- Town of Mammoth Lakes, Calf. (Dismissed) -- City of Stockton, Calif. -- Jefferson County, Ala. -- City of Harrisburg, Pa. (Dismissed) -- City of Central Falls, R.I. -- Boise County, Idaho (Dismissed) http://www.governing.com/gov-data/municipal-cities-counties-bankruptcies-and-defaults.html 7. ปลายปีที่แล้วเยอรมันขอขนทองกลับบ้าน300ตันที่ฝากกับเฟด แต่เฟดบอกว่าไม่ได้ ต้องรออีก 7ปี คือปี2020ถึงจะคืนให้ เยอรมันยั่วมาก ส่งคนบินมาตรวจสอบว่าทองยังมีอยู่อีกหรือเปล่า เฟดก็ไม่ให้ตรวจ แสดงว่าสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ http://goldsilver.com/video/gold-gone-germany-baffled-as-fed-bars-access-to-bullion/ 8. วันที่ 17 ตุลาคมวัดดวงว่าสหรัฐฯจะผิดชำระหนี้ หรือเปล่า ความจริงก็ผิดชำระหนี้ไปนานแล้ว คือรัฐบาลไม่มีรายได้จริงมาจ่ายหนี้ เพียงแค่ออกพันธบัตรคลังมาจ่ายหนี้เก่าไปเรื่อยๆ เฟดก็พิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆ เป็นกระดาษต่อกระดาษ แบบ Ponzi Scheme หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ ตุลาคม 05, 2013, 10:30:59 PM รัฐบาลไทยน่าเอาเงินสองแสนล้านล้าน ไปปล่อยอเมริกาต่อ กันเองคิดร้อยละยี่สิบต่อวันพอ ::007:: อย่าดีกว่าครับน้าจอย เงินดอลลาร์ที่ใช้หมุนเวียนกันนอกสหรัฐฯทุกวันนี้มีสภาพไม่ต่างจากแบงค์กงเต็กเพราะมันถูกพิมพ์จนเกินมูลค่าหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินตราไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ::014::ถ้าไทยเอาเงินไปปล่อยกู้มีหวังได้ล้มละลายกันทั้งประเทศแน่ ถ้าเกิดสหรัฐฯชักดาบหรือเกิดเหนียวหนี้ขึ้นมา ::012:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 05, 2013, 11:03:21 PM รัฐบาลไทยน่าเอาเงินสองแสนล้านล้าน ไปปล่อยอเมริกาต่อ กันเองคิดร้อยละยี่สิบต่อวันพอ ::007:: อย่าดีกว่าครับน้าจอย เงินดอลลาร์ที่ใช้หมุนเวียนกันนอกสหรัฐฯทุกวันนี้มีสภาพไม่ต่างจากแบงค์กงเต็กเพราะมันถูกพิมพ์จนเกินมูลค่าหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันเงินตราไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ::014::ถ้าไทยเอาเงินไปปล่อยกู้มีหวังได้ล้มละลายกันทั้งประเทศแน่ ถ้าเกิดสหรัฐฯชักดาบหรือเกิดเหนียวหนี้ขึ้นมา ::012:: สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรครับ เขาใช้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลักประกัน เทียบกับประเทศไทยแบบง่าย ๆ ก็คือเราขายของที่เป็นวัตถุดิบ เช่นยางพารา, ไม้ หรืออย่างเก่งก็เม็ดพลาสติค ซึ่งขายได้ในราคาของวัตถุดิบ ส่วนสหรัฐซื้อเม็ดพลาสติคของเรา เอาไปทำไอโฟน ต้นทุนวัตถุดิบคงราว ๆ สองร้อยบาท แต่ขายได้สองหมื่นห้าพันบาท หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 05, 2013, 11:36:25 PM สหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้แล้ว หลายครั้ง ทุกคนกำลังใจจดใจจ่ออยู่ว่า คอนเกรซจะยกเพดานหนี้ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้หรือไม่ เพราะว่าไม่ยก กระทรวงคลังจะผิดชำระหนี้หลังจากนั้น และพันธบัตรสหรัฐฯจะถุกลดเกรดเป็นขยะ (junk) แะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่หรือแม้แต่ Bill Gross แห่งPIMCOบอกว่าสหรัฐฯไม่มีวันผิดชำระหนี้ได้ เพราะไม่เคยผิดชำระหนี้มาก่อน ที่จริงสหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้มาก่อนในอดีตหลายครั้งคือ 1. ครั้งแรกคือ1790 ช่วงกำลังตั้งประเทศ รัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศและหนี้ภายในประเทศ 2. ระหว่างปี 1841-1842 มี9รัฐผิดชำระหนี้ 3. ระหว่างปี 1873-1884 มี10 ผิดชำระหนี้ อันนำไปสู่การออกกฎหมายในหลายๆรัฐต่อมาให้ตั้งงบประมาณสมดุล มีแค่ใหนก็ใช้แค่นั้น จะได้ไม่สร้างหนี้ http://economix.blogs.nytimes.com/2013/10/04/the-u-s-has-defaulted-before/?_r=0 4. ปี1933 ช่วงวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง สหรัฐฯไม่มีทองพอที่จะให้คนถือดอลล่าร์หรือทองคำกระดาษ gold certificatesมาขึ้น ถือว่าผิดชำระหนี้ในระบบgold standard เลยทำการออกกฎหมาย โดยประธานาธิบดี Rooseveltยึดทองคำจากประชาชน (gold confiscation) http://www.telegraph.co.uk/finance/personalfinance/investing/gold/9968494/Roosevelts-gold-confiscation-could-it-happen-again.html 5. ปี1971 สหรัฐฯผิดชำระหนี้ทอง โดยประธานาธิบดีนิกสันเอาดอลล่าร์ออกจากระบบมาตรฐานทองคำgold standard คือพิมพ์เงินออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์หนุนหลังเป็นเงินกระดาษfiat currency ตอนนั้นสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองคำเพราะเฟดปิดหน้าต่างทองคำไม่ให้ผู้ถือดอลล่าร์ หรือgold certificates มาขึ้นทองได้ ฝรั่งเศสพยายามจะเอาดอลล่าร์ขึ้นทอง โดนสหรัฐฯชักดาบ แต่ก็เงียบไม่กล้าหือ ใช้ดอลล่าร์กระดาษต่อไป เหมือนเจ้าของบ่อนให้คนแลกชิบเล่นพนัน พอเล่นเสร็จจะเอาชิบไปแลกเงิน บอกแลกไม่ได้ปิดหน้าต่างที่แลกเงิน เลยชิบหายกัน chip hai แต่ฝรั่งเรียกNixon shock http://en.wikipedia.org/wiki/Nixon_Shock 6. ช่วงนี้รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งกำลังล้มละลาย เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้ เช่น General-Purpose Local Government Bankruptcy Filings: -- City of Detroit -- City of San Bernardino, Calif. -- Town of Mammoth Lakes, Calf. (Dismissed) -- City of Stockton, Calif. -- Jefferson County, Ala. -- City of Harrisburg, Pa. (Dismissed) -- City of Central Falls, R.I. -- Boise County, Idaho (Dismissed) http://www.governing.com/gov-data/municipal-cities-counties-bankruptcies-and-defaults.html 7. ปลายปีที่แล้วเยอรมันขอขนทองกลับบ้าน300ตันที่ฝากกับเฟด แต่เฟดบอกว่าไม่ได้ ต้องรออีก 7ปี คือปี2020ถึงจะคืนให้ เยอรมันยั่วมาก ส่งคนบินมาตรวจสอบว่าทองยังมีอยู่อีกหรือเปล่า เฟดก็ไม่ให้ตรวจ แสดงว่าสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ http://goldsilver.com/video/gold-gone-germany-baffled-as-fed-bars-access-to-bullion/ 8. วันที่ 17 ตุลาคมวัดดวงว่าสหรัฐฯจะผิดชำระหนี้ หรือเปล่า ความจริงก็ผิดชำระหนี้ไปนานแล้ว คือรัฐบาลไม่มีรายได้จริงมาจ่ายหนี้ เพียงแค่ออกพันธบัตรคลังมาจ่ายหนี้เก่าไปเรื่อยๆ เฟดก็พิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆ เป็นกระดาษต่อกระดาษ แบบ Ponzi Scheme +ครับพี่วัฒน์ เป็นจุดพิคของทุนนิยมจริงๆ รายจ่ายมากกว่ารายได้ มุขพิมพ์ธนบัตร,ออกพันธบัตรใช้มานานหลายสิบปี เอาหนี้ใหม่ ไปใช่ต่ออายุหนี้เก่าเรื่อยๆ ได้ข่าวคน8แสนคนที่ตกงานชั่วคราวเริ่มประท้วงแล้ว ปธด.ก็ไปต่างประเทศไม่ได้ เพราะทีมงานไม่พร้อม โหยย ::003:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ ตุลาคม 05, 2013, 11:39:17 PM สหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้แล้ว หลายครั้ง ทุกคนกำลังใจจดใจจ่ออยู่ว่า คอนเกรซจะยกเพดานหนี้ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้หรือไม่ เพราะว่าไม่ยก กระทรวงคลังจะผิดชำระหนี้หลังจากนั้น และพันธบัตรสหรัฐฯจะถุกลดเกรดเป็นขยะ (junk) แะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่หรือแม้แต่ Bill Gross แห่งPIMCOบอกว่าสหรัฐฯไม่มีวันผิดชำระหนี้ได้ เพราะไม่เคยผิดชำระหนี้มาก่อน ที่จริงสหรัฐฯเคยผิดชำระหนี้มาก่อนในอดีตหลายครั้งคือ 1. ครั้งแรกคือ1790 ช่วงกำลังตั้งประเทศ รัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศและหนี้ภายในประเทศ 2. ระหว่างปี 1841-1842 มี9รัฐผิดชำระหนี้ 3. ระหว่างปี 1873-1884 มี10 ผิดชำระหนี้ อันนำไปสู่การออกกฎหมายในหลายๆรัฐต่อมาให้ตั้งงบประมาณสมดุล มีแค่ใหนก็ใช้แค่นั้น จะได้ไม่สร้างหนี้ http://economix.blogs.nytimes.com/2013/10/04/the-u-s-has-defaulted-before/?_r=0 4. ปี1933 ช่วงวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง สหรัฐฯไม่มีทองพอที่จะให้คนถือดอลล่าร์หรือทองคำกระดาษ gold certificatesมาขึ้น ถือว่าผิดชำระหนี้ในระบบgold standard เลยทำการออกกฎหมาย โดยประธานาธิบดี Rooseveltยึดทองคำจากประชาชน (gold confiscation) http://www.telegraph.co.uk/finance/personalfinance/investing/gold/9968494/Roosevelts-gold-confiscation-could-it-happen-again.html 5. ปี1971 สหรัฐฯผิดชำระหนี้ทอง โดยประธานาธิบดีนิกสันเอาดอลล่าร์ออกจากระบบมาตรฐานทองคำgold standard คือพิมพ์เงินออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์หนุนหลังเป็นเงินกระดาษfiat currency ตอนนั้นสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองคำเพราะเฟดปิดหน้าต่างทองคำไม่ให้ผู้ถือดอลล่าร์ หรือgold certificates มาขึ้นทองได้ ฝรั่งเศสพยายามจะเอาดอลล่าร์ขึ้นทอง โดนสหรัฐฯชักดาบ แต่ก็เงียบไม่กล้าหือ ใช้ดอลล่าร์กระดาษต่อไป เหมือนเจ้าของบ่อนให้คนแลกชิบเล่นพนัน พอเล่นเสร็จจะเอาชิบไปแลกเงิน บอกแลกไม่ได้ปิดหน้าต่างที่แลกเงิน เลยชิบหายกัน chip hai แต่ฝรั่งเรียกNixon shock http://en.wikipedia.org/wiki/Nixon_Shock 6. ช่วงนี้รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งกำลังล้มละลาย เพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้ เช่น General-Purpose Local Government Bankruptcy Filings: -- City of Detroit -- City of San Bernardino, Calif. -- Town of Mammoth Lakes, Calf. (Dismissed) -- City of Stockton, Calif. -- Jefferson County, Ala. -- City of Harrisburg, Pa. (Dismissed) -- City of Central Falls, R.I. -- Boise County, Idaho (Dismissed) http://www.governing.com/gov-data/municipal-cities-counties-bankruptcies-and-defaults.html 7. ปลายปีที่แล้วเยอรมันขอขนทองกลับบ้าน300ตันที่ฝากกับเฟด แต่เฟดบอกว่าไม่ได้ ต้องรออีก 7ปี คือปี2020ถึงจะคืนให้ เยอรมันยั่วมาก ส่งคนบินมาตรวจสอบว่าทองยังมีอยู่อีกหรือเปล่า เฟดก็ไม่ให้ตรวจ แสดงว่าสหรัฐฯผิดชำระหนี้ทองไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ http://goldsilver.com/video/gold-gone-germany-baffled-as-fed-bars-access-to-bullion/ 8. วันที่ 17 ตุลาคมวัดดวงว่าสหรัฐฯจะผิดชำระหนี้ หรือเปล่า ความจริงก็ผิดชำระหนี้ไปนานแล้ว คือรัฐบาลไม่มีรายได้จริงมาจ่ายหนี้ เพียงแค่ออกพันธบัตรคลังมาจ่ายหนี้เก่าไปเรื่อยๆ เฟดก็พิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆ เป็นกระดาษต่อกระดาษ แบบ Ponzi Scheme +ครับพี่วัฒน์ เป็นจุดพิคของทุนนิยมจริงๆ รายจ่ายมากกว่ารายได้ มุขพิมพ์ธนบัตร,ออกพันธบัตรใช้มานานหลายสิบปี เอาหนี้ใหม่ ไปใช่ต่ออายุหนี้เก่าเรื่อยๆ ได้ข่าวคน8แสนคนที่ตกงานชั่วคราวเริ่มประท้วงแล้ว ปธด.ก็ไปต่างประเทศไม่ได้ เพราะทีมงานไม่พร้อม โหยย ::003:: ::014:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ตุลาคม 06, 2013, 09:45:14 AM แล้วที่เราอมไว้หลายล้านเหรียญตอนนี้มูลค่าเท่าไร เก็บ เก็บ ห้ามใช้
ไปดูมา 17,4891,027,447.60 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ ตุลาคม 06, 2013, 10:01:22 AM แต่ ของไทย
บินไปทั่ว.... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ตุลาคม 06, 2013, 10:13:45 AM แต่ ของไทย บินไปทั่ว.... (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 06, 2013, 11:42:04 AM สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรครับ
เขาใช้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลักประกัน เทียบกับประเทศไทยแบบง่าย ๆ ก็คือเราขายของที่เป็นวัตถุดิบ เช่นยางพารา, ไม้ หรืออย่างเก่งก็เม็ดพลาสติค ซึ่งขายได้ในราคาของวัตถุดิบ ส่วนสหรัฐซื้อเม็ดพลาสติคของเรา เอาไปทำไอโฟน ต้นทุนวัตถุดิบคงราว ๆ สองร้อยบาท แต่ขายได้สองหมื่นห้าพันบาท ชัดเจนมากครับท่าน ::002:: ::002:: ::014:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ตุลาคม 06, 2013, 11:51:27 AM Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ yod อ่ะ ฮา
"เธอ" บินอีกแล้ว ท่าทางใช้ทรัพยากร "เปลือง" น่าดู อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007:: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381033845&grpid=03&catid=&subcatid= "ยิ่งลักษณ์"เหินฟ้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 21 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 6 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เดินออกจากท่าอากาศสุวรรณภูมิ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 21 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เมืองบาหลี อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้ หัวข้อหลักของการประชุมคือ "เอเชียแปซิฟิกที่แข็งแกร่ง แรงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก" (Resilient Asia-Pacific, Engine of Global Growth) มีประเด็นหลัก 3 ประเด็นที่ให้ความสำคัญ 1.การบรรลุเป้าหมายโบกอร์ 2.การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม และ 3.การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค เน้นให้เกิดการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการค้า และการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ นอกจากนี้ ทันทีที่เดินทางถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นวันที่ 7 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดการหารือกับนายโทนีย์ แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรเลีย รวมทั้งพบปะหารือกับคณะนักธุรกิจชั้นนำสหรัฐ-เอเปค เพื่อส่งเสริมการค้ารลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐด้วย หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 06, 2013, 01:44:27 PM :) ลองอ่านกันครับ...
ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยน ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือพลิกเป็นหลังมือ : หน้าต่างอาเซียน โดยทนง ขันทอง หลังจากที่ระบบการเงินสหรัฐอเมริกาล้มเมื่อปี 2008 มีการพิมพ์เงินโดยธนาคารกลางเฟดเดอรัล รีเซิร์ฟ ออกมาอย่างอุตลุดเพื่อรักษาระบบไม่ให้พัง ไม่มีการเอาหนี้เสียจากธนาคารออกมาเลหลังขาย หรือปฏิรูปสถาบันการเงิน ระเบียบบัญชีได้รับการผ่อนคลายเพื่อว่าจะไม่ต้องโชว์ความเสียหายของมูลค่าทรัพย์สินที่เสื่อมลงหลังจากฟองสบู่แตก เฟดรับซื้อหนี้เสียจนงบดุลปูดขึ้นมาจาก 6-7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนช่วงวิกฤติ เป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้ สิ้นปีนี้งบดุลของเฟดคาดว่าจะไปถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ทางประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็อุ้มวอลล์สตรีท รวมทั้งออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนทำให้หนี้รัฐบาลกลางพุ่งจาก 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 100% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติในปัจจุบัน มีผลทำให้การคลังสหรัฐยืนอยู่ปากเหวมองไปข้างหน้างบประมาณจะขาดดุลกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทุกปี อีก 10 ปีก็ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติโตแค่ปีละ 2% อย่างเก่งหรือเพิ่มขึ้น 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขว่างงานล่าสุดขยับขึ้นไปเป็น 7.9% อาการป่วยทางเศรษฐกิจแบบนี้ดูไม่ออกว่าจะฟื้นอย่างไร และความเชื่อมันในค่าเงินดอลลาร์ในฐานะเป็นเงินสกุลหลักของโลกกำลังลดถอยลงทุกวัน ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่สำคัญ 2 เรื่องคือ 1.จีนต้องเร่งวางโครงสร้างระบบการเงินและสร้างความร่วมมือทางการเงินการค้ากับประเทศคู่ค้าหลักเพื่อเตรียมการลอยตัวค่าหยวน เพื่อให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักอีกสกุลหนึ่งของโลก 2.ในขณะเดียวกันมีการพูดกันมากขึ้นถึงบทบาทของทองคำที่จะเป็นเงินสกุลหลักของโลกที่แท้จริงเพราะว่า ไม่มีใครพิมพ์ทองจากอากาศได้ ทำให้มีวินัยการเงินการคลังที่แท้จริง ขณะนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเฟดอย่างเดียวที่ต้องพิมพ์เงินออกมาเดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อมาช่วยลดภาระต้นทุนของแบงก์ด้วยการซื้อหนี้เสียออกมาและอุดงบประมาณขาดดุลของรัฐบาลกลาง นโยบายการพิมพ์เงินของเฟดออกมาเปล่าๆ จากกลางอากาศโดยไม่มีทองหรือทรัพย์สินอะไรหนุนหลังแบบนี้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เสื่อมค่าหมดความน่าเชื่อถือ เป็นการทำสงครามการเงินไปในตัว เพราะว่าแบงก์หรือพวกนักบริหารการเงินสามารถกู้เงินสกุลดอลลาร์ได้ถูกที่ 0.75%-1.0% แล้วเอามาพยุงหุ้นดาวโจนส์รักษาฐานะทรัพย์สินของคนอเมริกันและยังสามารถเอาดอลลาร์ถูกไปถล่มค่าเงิน หรือปั่นตลาดหุ้นตลาดการเงินประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าระบบการเงินของโลกมีปัญหาหนักหน่วง แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างจะสงบ เงินยูโร/ดอลลาร์ซื้อขายกันอยู่ในช่วง 1.40-1.25 ในขณะที่ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 76-82 หยวน/ดอลลาร์อยู่ที่ 6.4-6.2 ดอลลาร์/ปอนด์อังกฤษอยู่ที่ 1.54-1.62 และสวิสฟรังค์/ยูโรอยู่ที่ 1.20 ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนบ้านเราก็มีเสถียรภาพพอสมควร บาท/ดอลลาร์อยู่ในช่วง 30-31 แต่สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเมื่อญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ประกาศว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นจากการซบเซามามากว่า 20 ปี หนึ่งในนโยบายที่สำคัญคือจะบังคับให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นพิมพ์เงินเพิ่ม เพื่อทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นจาก 1% เป็น 2% และทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว เงินที่เคยอยู่ช่วง 76-82 ต่อดอลลาร์ อ่อนตัวลงอย่างกะทันหัน มาแตะที่ 90-91 ในช่วงที่ผ่านมา ไม่นานอาจจะถึง 100 ก็เป็นไปได้ ค่าเงินบาทในช่วงต้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้น 3% กว่า ตอนนี้แตะ 29 แล้ว ทั้งปี 2012 บาทแข็งค่าขึ้น 3% การรวมหัวกันทำสงครามการเงินโดยสหรัฐและญี่ปุ่นครั้งนี้ ทำให้รัสเซีย เยอรมนี เกาหลีใต้ รวมทั้งประเทศอื่นๆ ออกมาโวยเพราะการบีบค่าเงินดอลลาร์และเยนให้อ่อนตัวลง จะทำให้ค่าเงินประเทศอื่นแข็งค่าขึ้น ความสามารถในการแข็งขันในการส่งออกจะลดลง ถ้าจะลดค่าเงินตัวเองลงเพื่อแข่งกับดอลลาร์ เยนก็จะพากันไปตายกันเสียหมด เพราะท้ายที่สุดจะไม่มีใครชนะกำไรในการขายของไม่มี เงินเฟ้อกินหมด ไทยเรากำลังติดหางเลขไปด้วย ยังหาทางออกไม่เจอว่าจะแก้เกมกันอย่างไรเพราะยังมัวดูตำราอยู่ รัฐบาลอยากให้ค่าบาทอ่อน แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าแทรกแซงมาก เพราะยิ่งแทรกแซงยิ่งขาดทุน ที่จริงประเทศเล็กๆ อย่างไทยคงจะทำอะไรมากไม่ได้เพราะสึนามิทางการเงินกำลังมา จะพึ่งพาการส่งออกเหมือนในอดีตไม่ได้ ตอนนี้คงต้องดูแลทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ 1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐให้ดีๆ ด้วยการตุนทองและทำสวอปบาท/หยวนเพื่อปกป้องตัวเอง เหลือดอลลาร์แค่พอทำการค้าระหว่างประเทศ เพราะระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือพลิกเป็นหลังมือ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 06, 2013, 06:16:50 PM :) ลองอ่านกันครับ... ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยน ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือพลิกเป็นหลังมือ : หน้าต่างอาเซียน โดยทนง ขันทอง พวกเงินเดือนประจำตายก่อนเพื่อนเลยครับ... พวกซื้อมาขายไปยังยืดออกไปได้ระยะหนึ่ง จนกว่าจะขายของไม่ได้ เพราะไม่มีกำลังซื้อ แล้วเงินก็ฝืด เพราะทุกคนเก็บเงินหมด... แล้ววงรอบก็หมุนกลับใหม่... แต่ที่แสบที่สุดคือ"วงรอบ"มันมีขึ้นลงก็จริง ที่แย่ของความแสบคือเวลามันลงจะลงยาวและลึกกว่าขึ้น หากพล็อตเป็นกราฟจะเห็นว่าหัวมันเตี้ยลงทุกครั้งที่มันเกิดวงรอบขึ้นสลับลง... พวกเล่นหุ้นรู้ดีครับ... ทุกวันนี้กราฟดัชนีหุ้นมันเป็นวงรอบอย่างที่ว่านั่นแหละ แล้วก้นเหวมันลึกลงมากกว่าเดิมทุกครั้งที่หักหัวขึ้นเขา แล้วยอดเขาลูกหลังๆ มันเตี้ยกว่ายอดครั้งก่อนที่เพิ่งผ่านมาได้ทุกครั้งได้ระยะหนึ่งแล้วครับ... นายสมชายบอกมาตั้งนานแล้วว่าให้ดูระบบเศรษฐกิจในอนาคตจากกราฟดัชนีหุ้น เพราะตลาดหุ้นคือความเชื่อมันในระบบเศรษฐกิจ เมื่อคนเชื่อว่าวันหน้าจะดีกว่าวันนี้ เขาจะเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่คาดหวังว่าจะดีกว่าปัจจุบัน... แต่ในวันนี้ผู้คนต่างเชื่อว่าวันหน้าจะแย่กว่า, เลยเหลือแต่คนเล่นหุ้นระยะสั้นเต็มตลาด ไม่มีใครอยากถือหุ้นระยะยาวอีกต่อไปแล้ว ได้กำไรนิดหน่อยก็จะขายทิ้งเอากำไรไว้ก่อน รอให้รอบใหม่หุ้นไปขึ้นใหม่จากข้างล่างที่ลึกกว่าเดิม... ประเทศไทยระยะใกล้ๆนี่มองเห็นโอกาสจะไหลลงเหวมากกว่าโอกาศจะฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจได้... ประเด็นหลักคือประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่รู้วิธีหาทางออก และเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไปเข้าใจผิดว่าเรื่องเลวทรามต่ำช้า แต่ถ้ามีคนทำเช่นนั้นแยะๆ แล้วก็จะพากันเห็นผิดเป็นชอบทำตามโดยไม่แยกแยะดีชั่วฯ แล้วในที่สุดจะลากประเทศไทยลงเหว หายนะแห่งระบบเศรษฐกิจ... เอาเรื่องใกล้ตัวพวกเราเลยครับ... เพื่อนเราหลายท่านมองไม่เห็นความเสื่อมอันเกิดจากการให้สินบนเพื่อให้ได้ใบ ป.3, มีเหตุผลสารพัดเอามาอ้าง แต่ในที่สุดมักหนีไม่พ้นคำว่า"ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น"... เรื่องใบ ป.3 นี่เป็นแค่เรื่องเดียวที่เอามาพูด... แล้วในข้อเท็จจริงรอบตัวมันมีมากกว่านั้นแยะครับ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 06, 2013, 06:48:25 PM การบริหารประเทศยากจริงๆครับ ประชาก็ชอบนิยม นักเลือกตั้งก็เข็ญประชานิยมมาให้เลือก เหมือนกันทั้งโลก ในขณะที่คนทำงานเสียภาษีเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคม กลุ่มคนไม่เสียฯ กลับอยากได้นั่น อยากได้นี่ เรียกร้องไม่จบไม่สิ้นทุกๆปี ถนนก็จะเอา ราดคอนกรีตถึงหน้าบ้าน ปลูกอะไรฉันก็จะเอาราคาดีๆเอาเงินภาษีมาอุดหนุน โรงบาล,โรงเรียน.....ฯลฯ จะเอากันอย่างเดียว ภาษีอะเสียกันบ้างมั้ย ::010:: ::006::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 06, 2013, 08:35:01 PM การบริหารประเทศยากจริงๆครับ ประชาก็ชอบนิยม นักเลือกตั้งก็เข็ญประชานิยมมาให้เลือก เหมือนกันทั้งโลก ในขณะที่คนทำงานเสียภาษีเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคม กลุ่มคนไม่เสียฯ กลับอยากได้นั่น อยากได้นี่ เรียกร้องไม่จบไม่สิ้นทุกๆปี ถนนก็จะเอา ราดคอนกรีตถึงหน้าบ้าน ปลูกอะไรฉันก็จะเอาราคาดีๆเอาเงินภาษีมาอุดหนุน โรงบาล,โรงเรียน.....ฯลฯ จะเอากันอย่างเดียว ภาษีอะเสียกันบ้างมั้ย ::010:: ::006:: หากบริหารกันตามตำรารัฐประศาสนศาสตร์จริงๆแล้วไม่ยากครับ เพราะกลไกของประเทศมีไว้พร้อมมูลแล้ว... เอาแค่รักษาให้ฟันเฟืองอะไรมันหมุนไปตามหน้าที่ของมันใน"ระบบ"ที่กำหนดเอาไว้ครับ... นักการเมืองมีหน้าที่อย่างเดียวคือเป็นผู้ใช้อำนาจเพื่อ"รักษาหน้าที่ของฟันเฟืองให้ทำงานต่อไป"ได้ไม่โดนบิดเบือนจากพลังอื่นที่ฉุดรั้ง หรือเบี่ยงเบนไม่ให้ระบบทำงานของมันเป็นปรกติครับ... ตัวอย่างเช่นเรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเส้นสายทางธุรกิจ หรือนักการเมืองขี้โกงผลักดัน, นักการเมืองที่เป็น"Stateman"ต้องกางร่มปกป้องลมฝนให้ข้าราชการดีทำงานได้ และข้าราชการชั่วต้องโดนลงโทษครับ... ประเทศไทยเคยมียุค"โชตช่วงชัชวาล"เป็นต้นทุนให้นักการเมืองขี้โกงมาอาศัยประโยชน์กิน"บุญเก่า"จนกระทั่งลูกโป่งแตกจนเศรษฐกิจฟุบ... ผู้นำประเทศที่พาประเทศไทยเข้าสู่ช่วงโชติช่วงชัชวาลนั่น ท่านไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม แล้วนั่งถามซ้ายถามขวาหาข้อสรุป สรุปได้แล้วก็ถามกลับว่าระเบียบ/ขั้นตอนเรื่องนี้มีว่าอย่างไร? แล้วท่านก็สั่งผู้คนให้ทำโน่นทำนี่ไปตามระเบียบทั้งนั้น... คราวหน้าประชุมเรื่องเดิมก็ถามอีก ว่าทำไปตามระเบียบหรือไม่ ได้ผลอย่างไรสรุปให้ฟังที... ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนในระเบียบหมด แล้วระเบียบมันก็ขับฟันเฟืองตัวเล็กตัวน้อยให้หมุนไป แม้กระทั่งนโยบายริเริ่มต่างๆ ก็ถูกเข็นออกมาจาก"ฟันเฟืองส่วนที่มีหน้าที่คิดนโยบาย"(ยุคนั้นคือทีมงานจากนิด้า กับทีมงานจากสภาพัฒน์)... ดังนั้นในที่สุดก็สรุปได้เป็นประโยคเดียวคือ... "บังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ"ให้ได้ผลครับ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ตุลาคม 06, 2013, 11:31:32 PM Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ yod อ่ะ ฮา "เธอ" บินอีกแล้ว ท่าทางใช้ทรัพยากร "เปลือง" น่าดู อ่ะ ฮา ::007:: ::007:: ::007:: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381033845&grpid=03&catid=&subcatid= "ยิ่งลักษณ์"เหินฟ้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 21 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 6 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เดินออกจากท่าอากาศสุวรรณภูมิ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 21 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เมืองบาหลี อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้ หัวข้อหลักของการประชุมคือ "เอเชียแปซิฟิกที่แข็งแกร่ง แรงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก" (Resilient Asia-Pacific, Engine of Global Growth) มีประเด็นหลัก 3 ประเด็นที่ให้ความสำคัญ 1.การบรรลุเป้าหมายโบกอร์ 2.การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม และ 3.การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค เน้นให้เกิดการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการค้า และการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ นอกจากนี้ ทันทีที่เดินทางถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นวันที่ 7 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์มีกำหนดการหารือกับนายโทนีย์ แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรเลีย รวมทั้งพบปะหารือกับคณะนักธุรกิจชั้นนำสหรัฐ-เอเปค เพื่อส่งเสริมการค้ารลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐด้วย ลองดูนักธุรกิจที่ร่วมคณะสิ เจ้าของพรรคตัวจริงทั้งนั้น อุตสาหกรรมทั้งหลาย อ้อมีอัญมณีด้วย อิอิ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 07, 2013, 12:14:13 AM การบริหารประเทศยากจริงๆครับ ประชาก็ชอบนิยม นักเลือกตั้งก็เข็ญประชานิยมมาให้เลือก เหมือนกันทั้งโลก ในขณะที่คนทำงานเสียภาษีเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคม กลุ่มคนไม่เสียฯ กลับอยากได้นั่น อยากได้นี่ เรียกร้องไม่จบไม่สิ้นทุกๆปี ถนนก็จะเอา ราดคอนกรีตถึงหน้าบ้าน ปลูกอะไรฉันก็จะเอาราคาดีๆเอาเงินภาษีมาอุดหนุน โรงบาล,โรงเรียน.....ฯลฯ จะเอากันอย่างเดียว ภาษีอะเสียกันบ้างมั้ย ::010:: ::006:: หากบริหารกันตามตำรารัฐประศาสนศาสตร์จริงๆแล้วไม่ยากครับ เพราะกลไกของประเทศมีไว้พร้อมมูลแล้ว... เอาแค่รักษาให้ฟันเฟืองอะไรมันหมุนไปตามหน้าที่ของมันใน"ระบบ"ที่กำหนดเอาไว้ครับ... นักการเมืองมีหน้าที่อย่างเดียวคือเป็นผู้ใช้อำนาจเพื่อ"รักษาหน้าที่ของฟันเฟืองให้ทำงานต่อไป"ได้ไม่โดนบิดเบือนจากพลังอื่นที่ฉุดรั้ง หรือเบี่ยงเบนไม่ให้ระบบทำงานของมันเป็นปรกติครับ... ตัวอย่างเช่นเรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเส้นสายทางธุรกิจ หรือนักการเมืองขี้โกงผลักดัน, นักการเมืองที่เป็น"Stateman"ต้องกางร่มปกป้องลมฝนให้ข้าราชการดีทำงานได้ และข้าราชการชั่วต้องโดนลงโทษครับ... ประเทศไทยเคยมียุค"โชตช่วงชัชวาล"เป็นต้นทุนให้นักการเมืองขี้โกงมาอาศัยประโยชน์กิน"บุญเก่า"จนกระทั่งลูกโป่งแตกจนเศรษฐกิจฟุบ... ผู้นำประเทศที่พาประเทศไทยเข้าสู่ช่วงโชติช่วงชัชวาลนั่น ท่านไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม แล้วนั่งถามซ้ายถามขวาหาข้อสรุป สรุปได้แล้วก็ถามกลับว่าระเบียบ/ขั้นตอนเรื่องนี้มีว่าอย่างไร? แล้วท่านก็สั่งผู้คนให้ทำโน่นทำนี่ไปตามระเบียบทั้งนั้น... คราวหน้าประชุมเรื่องเดิมก็ถามอีก ว่าทำไปตามระเบียบหรือไม่ ได้ผลอย่างไรสรุปให้ฟังที... ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนในระเบียบหมด แล้วระเบียบมันก็ขับฟันเฟืองตัวเล็กตัวน้อยให้หมุนไป แม้กระทั่งนโยบายริเริ่มต่างๆ ก็ถูกเข็นออกมาจาก"ฟันเฟืองส่วนที่มีหน้าที่คิดนโยบาย"(ยุคนั้นคือทีมงานจากนิด้า กับทีมงานจากสภาพัฒน์)... ดังนั้นในที่สุดก็สรุปได้เป็นประโยคเดียวคือ... "บังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ"ให้ได้ผลครับ... ::014:: เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เข้าใจ แต่ทำลำบากมั้งครับพี่อ.สมชาย นักการเมืองต้องทำไงถึงจะได้คะแนน ได้สนองฐานเสียงของตน แม้แต่แม่แบบของปชต.ยังต้องยืนหน้าเหวแบบนี้ ผมว่าวิชาการนี่มีทุกชาติไม่แพ้กัน นักวิชาการไปเรียนเมืองนอกมาเยอะแยะ แต่ทำไงชาติถึงเจริญ เอาชาติเป็นตัวตั้ง เช่นญี่ปุ่น,จีน,สิงคโปร,เยอรมัน,เกาหลี...ฯลฯ เพราะเค้ารักชาติมากกว่าสิ่งอื่นรึเปล่าครับ ? ชาตินิยมสูง ชาติมาก่อน ไม่ศรีธนชัย "บังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ"บ้านเราทำไมทำไม่ได้ ทั้งที่มีกฎหมาย มีตรวจเงินแผ่นดิน มีหน่วยงานสารพัด คอรัปชั่นบ้านเรายังแทรกซึมไปทุกอณู ::004:: +ครับ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 07, 2013, 12:21:30 AM :) ลองอ่านกันครับ... ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยน ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือพลิกเป็นหลังมือ : หน้าต่างอาเซียน โดยทนง ขันทอง พวกเงินเดือนประจำตายก่อนเพื่อนเลยครับ... พวกซื้อมาขายไปยังยืดออกไปได้ระยะหนึ่ง จนกว่าจะขายของไม่ได้ เพราะไม่มีกำลังซื้อ แล้วเงินก็ฝืด เพราะทุกคนเก็บเงินหมด... แล้ววงรอบก็หมุนกลับใหม่... แต่ที่แสบที่สุดคือ"วงรอบ"มันมีขึ้นลงก็จริง ที่แย่ของความแสบคือเวลามันลงจะลงยาวและลึกกว่าขึ้น หากพล็อตเป็นกราฟจะเห็นว่าหัวมันเตี้ยลงทุกครั้งที่มันเกิดวงรอบขึ้นสลับลง... พวกเล่นหุ้นรู้ดีครับ... ทุกวันนี้กราฟดัชนีหุ้นมันเป็นวงรอบอย่างที่ว่านั่นแหละ แล้วก้นเหวมันลึกลงมากกว่าเดิมทุกครั้งที่หักหัวขึ้นเขา แล้วยอดเขาลูกหลังๆ มันเตี้ยกว่ายอดครั้งก่อนที่เพิ่งผ่านมาได้ทุกครั้งได้ระยะหนึ่งแล้วครับ... นายสมชายบอกมาตั้งนานแล้วว่าให้ดูระบบเศรษฐกิจในอนาคตจากกราฟดัชนีหุ้น เพราะตลาดหุ้นคือความเชื่อมันในระบบเศรษฐกิจ เมื่อคนเชื่อว่าวันหน้าจะดีกว่าวันนี้ เขาจะเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่คาดหวังว่าจะดีกว่าปัจจุบัน... แต่ในวันนี้ผู้คนต่างเชื่อว่าวันหน้าจะแย่กว่า, เลยเหลือแต่คนเล่นหุ้นระยะสั้นเต็มตลาด ไม่มีใครอยากถือหุ้นระยะยาวอีกต่อไปแล้ว ได้กำไรนิดหน่อยก็จะขายทิ้งเอากำไรไว้ก่อน รอให้รอบใหม่หุ้นไปขึ้นใหม่จากข้างล่างที่ลึกกว่าเดิม... ประเทศไทยระยะใกล้ๆนี่มองเห็นโอกาสจะไหลลงเหวมากกว่าโอกาศจะฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจได้... ประเด็นหลักคือประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่รู้วิธีหาทางออก และเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ไปเข้าใจผิดว่าเรื่องเลวทรามต่ำช้า แต่ถ้ามีคนทำเช่นนั้นแยะๆ แล้วก็จะพากันเห็นผิดเป็นชอบทำตามโดยไม่แยกแยะดีชั่วฯ แล้วในที่สุดจะลากประเทศไทยลงเหว หายนะแห่งระบบเศรษฐกิจ... เอาเรื่องใกล้ตัวพวกเราเลยครับ... เพื่อนเราหลายท่านมองไม่เห็นความเสื่อมอันเกิดจากการให้สินบนเพื่อให้ได้ใบ ป.3, มีเหตุผลสารพัดเอามาอ้าง แต่ในที่สุดมักหนีไม่พ้นคำว่า"ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น"... เรื่องใบ ป.3 นี่เป็นแค่เรื่องเดียวที่เอามาพูด... แล้วในข้อเท็จจริงรอบตัวมันมีมากกว่านั้นแยะครับ... แค่เรื่องนี้ผมก็ไม่อยากเดินหอบเอกสารไปอำเภอแล้วครับ เคยเอาไป เค้าเอาไปดอง2เดือน พอไปถาม เค้าบอกหาไม่เจอ หายไปไหนไม่รู้ ::010:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ตุลาคม 07, 2013, 07:14:07 AM ลองดูนักธุรกิจที่ร่วมคณะสิ เจ้าของพรรคตัวจริงทั้งนั้น อุตสาหกรรมทั้งหลาย อ้อมีอัญมณีด้วย อิอิ ธุรกิจกับการเมืองแยกกันไม่ออก แต่พวกนี้ใช้ภาษีของเราแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง อยากให้ตายยกลำจริงๆ 555 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 07, 2013, 08:18:41 AM สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรครับ เขาใช้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลักประกัน เทียบกับประเทศไทยแบบง่าย ๆ ก็คือเราขายของที่เป็นวัตถุดิบ เช่นยางพารา, ไม้ หรืออย่างเก่งก็เม็ดพลาสติค ซึ่งขายได้ในราคาของวัตถุดิบ ส่วนสหรัฐซื้อเม็ดพลาสติคของเรา เอาไปทำไอโฟน ต้นทุนวัตถุดิบคงราว ๆ สองร้อยบาท แต่ขายได้สองหมื่นห้าพันบาท [/quote] ความรู้ใหม่เลยนะครับเนี๊ย ขอบพระคุณครับพี่ ::014:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 07, 2013, 09:06:14 AM สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรครับ เขาใช้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลักประกัน เทียบกับประเทศไทยแบบง่าย ๆ ก็คือเราขายของที่เป็นวัตถุดิบ เช่นยางพารา, ไม้ หรืออย่างเก่งก็เม็ดพลาสติค ซึ่งขายได้ในราคาของวัตถุดิบ ส่วนสหรัฐซื้อเม็ดพลาสติคของเรา เอาไปทำไอโฟน ต้นทุนวัตถุดิบคงราว ๆ สองร้อยบาท แต่ขายได้สองหมื่นห้าพันบาท [/quote] นี่ขนาดคนแบงค์เอง แต่ไม่ใช่อเมริกาไม่มีทอง จริง ๆ แล้วมีมากด้วย แต่ไม่ได้ใช้เป็นหลักประกันโดยตรง เพราะไม่จำเป็น นอกจากนั้นอเมริกายังเป็นประเทศที่รับฝากทองคำของประเทศอื่น ของไทยเราเองก็ต้องแบ่งฝากไว้ที่นิวยอร์กกับที่สวิส เพราะถ้าเก็บไว้ในประเทศ ก็จะไม่มีใครเชื่อว่าเรามีทองจำนวนนี้อยู่จริง ๆ ค่าเงินบาทก็จะตกลง เพราะไม่ได้รับความเชื่อถือตั้งแต่ตัวหลักประกันแล้ว ส่วนเงินที่เป็นเหรียญโลหะ ไม่ต้องมีหลักประกัน เพราะเนื้อโลหะมีราคาในตัวเอง เหรียญบาทไทยถึงได้เล็กลง ๆ ทุกที และตอนนี้ยังต้องผสมเหล็กเข้าไปด้วย เพราะทำให้เล็ก และบางกว่านี้ไม่ได้แล้ว หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Victor&Sugus ที่ ตุลาคม 07, 2013, 09:11:22 AM ช่วงนี้เข้าสู่เศรษฐกิจซบเซาอีกแล้ว ห้างร้านบ่นกันว่าเงียบ แต่หนี้ที่เป็นอยู่ มีแต่เพิ่มขึ้น
พนักงานเงินเดือนทำไปก็มีแต่เงินเดือนดีกว่าพักงาน.....ถ้าอเมริกาถึงขั้นปิดหน่วยงานรัฐบาล เทียบกับถ้าเกิดเป็นประัเทศไทย คงต้องยุบกระทรวงกันเป็นแน่..ก่อนที่หนี้มหาศาลกำลัีงจะมา... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 07, 2013, 09:39:58 AM นี่ขนาดคนแบงค์เอง แต่ไม่ใช่อเมริกาไม่มีทอง จริง ๆ แล้วมีมากด้วย แต่ไม่ได้ใช้เป็นหลักประกันโดยตรง เพราะไม่จำเป็น นอกจากนั้นอเมริกายังเป็นประเทศที่รับฝากทองคำของประเทศอื่น ของไทยเราเองก็ต้องแบ่งฝากไว้ที่นิวยอร์กกับที่สวิส เพราะถ้าเก็บไว้ในประเทศ ก็จะไม่มีใครเชื่อว่าเรามีทองจำนวนนี้อยู่จริง ๆ ค่าเงินบาทก็จะตกลง เพราะไม่ได้รับความเชื่อถือตั้งแต่ตัวหลักประกันแล้ว ส่วนเงินที่เป็นเหรียญโลหะ ไม่ต้องมีหลักประกัน เพราะเนื้อโลหะมีราคาในตัวเอง เหรียญบาทไทยถึงได้เล็กลง ๆ ทุกที และตอนนี้ยังต้องผสมเหล็กเข้าไปด้วย เพราะทำให้เล็ก และบางกว่านี้ไม่ได้แล้ว เหรียญบาทรุ่นใหม่ ๆ หยอดตู้โทรศัพท์ไม่รับแล้วครับ ::014:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ตุลาคม 07, 2013, 10:53:18 AM ลองดูนักธุรกิจที่ร่วมคณะสิ เจ้าของพรรคตัวจริงทั้งนั้น อุตสาหกรรมทั้งหลาย อ้อมีอัญมณีด้วย อิอิ ธุรกิจกับการเมืองแยกกันไม่ออก แต่พวกนี้ใช้ภาษีของเราแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง อยากให้ตายยกลำจริงๆ 555 ตายยกลำก็มีหน้าใหม่เข้ามาอาจจะเลวร้ายกว่า หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ ตุลาคม 07, 2013, 11:20:18 AM สหรัฐเป็นประเทศที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรครับ เขาใช้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลักประกัน เทียบกับประเทศไทยแบบง่าย ๆ ก็คือเราขายของที่เป็นวัตถุดิบ เช่นยางพารา, ไม้ หรืออย่างเก่งก็เม็ดพลาสติค ซึ่งขายได้ในราคาของวัตถุดิบ ส่วนสหรัฐซื้อเม็ดพลาสติคของเรา เอาไปทำไอโฟน ต้นทุนวัตถุดิบคงราว ๆ สองร้อยบาท แต่ขายได้สองหมื่นห้าพันบาท นี่ขนาดคนแบงค์เอง แต่ไม่ใช่อเมริกาไม่มีทอง จริง ๆ แล้วมีมากด้วย แต่ไม่ได้ใช้เป็นหลักประกันโดยตรง เพราะไม่จำเป็น นอกจากนั้นอเมริกายังเป็นประเทศที่รับฝากทองคำของประเทศอื่น ของไทยเราเองก็ต้องแบ่งฝากไว้ที่นิวยอร์กกับที่สวิส เพราะถ้าเก็บไว้ในประเทศ ก็จะไม่มีใครเชื่อว่าเรามีทองจำนวนนี้อยู่จริง ๆ ค่าเงินบาทก็จะตกลง เพราะไม่ได้รับความเชื่อถือตั้งแต่ตัวหลักประกันแล้ว ส่วนเงินที่เป็นเหรียญโลหะ ไม่ต้องมีหลักประกัน เพราะเนื้อโลหะมีราคาในตัวเอง เหรียญบาทไทยถึงได้เล็กลง ๆ ทุกที และตอนนี้ยังต้องผสมเหล็กเข้าไปด้วย เพราะทำให้เล็ก และบางกว่านี้ไม่ได้แล้ว [/quote] เคยดูสารคดี ฟอร์ดน็อตร์ สถานเก็บทองคำของอเมริกา ขนาดนกบินผ่านก็อาจมีสิทะฺ์ตาย ::005:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 07, 2013, 11:50:40 AM ลองดูนักธุรกิจที่ร่วมคณะสิ เจ้าของพรรคตัวจริงทั้งนั้น อุตสาหกรรมทั้งหลาย อ้อมีอัญมณีด้วย อิอิ ธุรกิจกับการเมืองแยกกันไม่ออก แต่พวกนี้ใช้ภาษีของเราแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง อยากให้ตายยกลำจริงๆ 555 ตายยกลำก็มีหน้าใหม่เข้ามาอาจจะเลวร้ายกว่า เห็นด้วยครับ... ต้องหาวิธีแก้ที่คนโง่เลือกกาบัตรแบบฉลาดหน่อย... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ตุลาคม 07, 2013, 12:23:38 PM ลองดูนักธุรกิจที่ร่วมคณะสิ เจ้าของพรรคตัวจริงทั้งนั้น อุตสาหกรรมทั้งหลาย อ้อมีอัญมณีด้วย อิอิ ธุรกิจกับการเมืองแยกกันไม่ออก แต่พวกนี้ใช้ภาษีของเราแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง อยากให้ตายยกลำจริงๆ 555 ตายยกลำก็มีหน้าใหม่เข้ามาอาจจะเลวร้ายกว่า เห็นด้วยครับ... ต้องหาวิธีแก้ที่คนโง่เลือกกาบัตรแบบฉลาดหน่อย... ก่อนเลือกตั้งอย่างแรกคือ อยากให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องไม่เชื่อคนง่าย อย่างที่สองต้องรู้จักปกป้องผลประโยชน์ของชาติและภาษีตัวเอง ไล่นักการเมืองทันทีที่คิดจะโกง หรืออย่างสุดท้ายถล่มให้ตายยกครม อย่างนี้คงจะทำให้การเมืองไทยพัฒนาขึ้นบ้างมัยครับ 555 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 07, 2013, 12:44:21 PM ก่อนเลือกตั้งอย่างแรกคือ อยากให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องไม่เชื่อคนง่าย อย่างที่สองต้องรู้จักปกป้องผลประโยชน์ของชาติและภาษีตัวเอง ไล่นักการเมืองทันทีที่คิดจะโกง หรืออย่างสุดท้ายถล่มให้ตายยกครม อย่างนี้คงจะทำให้การเมืองไทยพัฒนาขึ้นบ้างมัยครับ 555 ต้องให้ไอ้คนที่กาบัตรเลือกเข้าไปต้องรับผิดชอบหารหนี้สินของชาติ ที่ไอ้คนขี้โกงทำเอาไว้ด้วยครับ... ก็เขาบอกว่าเลือก"ตัวแทน"นี่ครับ คนที่เลือกเข้าไปเป็น"ตัวการ"ย่อมต้องรับผิดชอบด้วย... แต่เชื่อไหมครับ คนโง่มันก็เกิดมาเพื่อโง่โดยเฉพาะ, บอกยังไงมันก็ไม่มีวันรู้เรื่องรู้ราวอะไรไปได้... ปัญหาแบบนี้มักเกิดในประเทศขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลายในวัฒนธรรม และการศึกษาแตกต่างกันมาก เลยเป็นที่มาของระบบชั้นวรรณะในประเทศอินเดียไงครับ... อินเดียอยู่รวมเป็นประเทศใหญ่อยู่ได้เพราะแบ่งกันอยู่ แบ่งกันกิน... แต่ถ้าหากยกเลิกระบบชั้นวรรณะปุ๊บ ก็กลายเป็นศาสนาอื่น แล้วก็แตกออกเป็นปากีสถาน กับบังคลาเทศไงครับ... ประเทศไทยไม่เคยมีระบบชั้นวรรณะชัดเจน ศาสนาพุทธสอนสั่งให้ทุกคนอยู่กับความจริงและเหตุผล แต่คนบางกลุ่มไม่เคยเรียนรู้เหตุและผล อะไรไม่ได้ก็แบมือขอ แล้วทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของประเทศ... ตัวเองเป็นเจ้าของประเทศนั่นก็ใช่ แต่ศาสนาพุทธก็สอนหลักเหตุผลฝังอยู่ในศีลธรรม, สิ่งที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลเช่นเรื่องโกงกิน(ผิดศีลธรรม) กลับไม่ได้เอาไปคิดอยู่ในสมอง แล้วเอาความเป็นเจ้าของประเทศไปขายแลกกับผลประโยชน์ เหมือนกับเจ้าของประเทศไม่เคยคิดที่จะบำรุงรักษาประเทศของตัวเอง อย่างนี้เรียกว่าเจ้าของประเทศชนิดห่วยๆครับ... ที่ว่าคนโง่เพราะไม่รู้จักคิดเป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย... ที่จริงระบบชั้นวรรณะในศาสนาพุทธก็มีอยู่นะครับ แต่ไม่ได้แบ่งชั้นด้วยทรัพย์สมบัติหรือรูปกายสวยงาม แต่ตามหลักศาสนาพุทธแบ่งชั้นด้วยความดีครับ(คือศีล)... ข้อ 1 และข้อ 2 ของมงคล 38 ประการบอกเลยว่า... ไม่ให้คบคนพาลและให้คบบัณฑิตครับ, หลีกลี้ให้ไกลเลย เลือกสถานที่กิน อยู่ คบค้าสมาคมห่างไกลจากคนพาล โดยคนโง่คือคนพาลชนิดหนึ่ง เพราะพาลพาไปหาผิดด้วยความโง่ของตนเอง... ที่จริงความโง่นั้นไม่มีจริง เพราะไม่รู้คือความโง่ เมื่อไหร่รู้แล้วก็หายโง่เรียกว่าคนฉลาด... กำลังรอดูว่าประชากร"ส่วนใหญ่"ของประเทศไทยจะ"รู้ตื่น"หายโง่ด้วยการเอาศีลธรรมนำหน้าครับ... เฮ้อ... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 08, 2013, 08:49:23 PM (https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/1385062_749996008351078_339341840_n.png)
เริ่มใช้ แบงก์ร้อยใหม่ พรุ่งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะนำธนบัตรร้อยดอลลาร์รุ่นใหม่ ออกสู่ท้องตลาดในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม โดยลักษณะเด่นของ แบงก์ร้อย ใหม่ดังภาพด้านบนนี้คือ (ซ้ายไปขวา) -แถบป้องกันการปลอมแปลง (Security Thread) ในเนื้อกระดาษ ถ้ายกส่องกับแสง จะเห็นตัวเลข 100 และตัวอักษร USA พิมพ์อยู่ -ริบบิ้นสามมิติ : แถบสีน้ำเงิน ถ้าขยับธนบัตรขึ้นลง รูประฆังจะเปลี่ยนเป็นเลข 100 แต่ถ้าขยับซ้ายไปขวา ระฆังจะขยับขึ้นลง -ระฆังบนขวดหมึก หากขยับธนบัตร รูประฆังจะเปลี่ยนสี จากสีทองแดงเป็นเขียว -มีรูปปากกาขนนก (quill) ที่ the founding fathers หรือกลุ่มผู้นำทางการเมืองใช้ในการลงนามคำประกาศอิสรภาพในปี 1776 ปรากฎอยู่ โดยธนบัตรร้อยดอลลาร์ใหม่ ยังคงใช้รูปของ เบนจามิน แฟรงคลิน นักเขียน นักปรัชญา นักการเมืองและนักประดิษฐ์ระดับโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ส่วนด้านหลัง เป็นรูปของศูนย์ประชุมอิสรภาพเมืองฟิลาเดลเฟีย สถานที่ประกาศเอกราชของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2319 การเปลี่ยนแปลงธนบัตร 100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นธนบัตรที่มีการปลอมแปลงกันสูงสุดครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากธนบัตรรุ่นเก่าถูกใช้มาแล้ว 17 ปี โดยข่าวบอกว่า ธนาคารกลางได้จัดเตรียมธนบัตรใหม่เอาไว้กว่า 3,500 ล้านใบ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 15, 2013, 08:28:58 PM กำลังจะชักดาบ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ต.ค. วิกฤตงบประมาณสหรัฐ ที่อาจส่งผลต่อไปยังการขยายเพดานหนี้ตามกำหนดของกระทรวงการคลัง คือภายในวันที่ 17 ต.ค. กำลังสร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก เนื่องจากหากสภาคองเกรสลงมติไม่ทันเวลา นั่นหมายความว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะหมดความสามารถในการชำระหนี้ตามกำหนดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) จะเป็นผู้ซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลกลางของตัวเองทุกเดือน เพื่อหวังรักษาเสถียรภาพ และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ประเทศที่เข้ามามีส่วนในเรื่องดังกล่าวจนมีสถานะเสมือนเป็น เจ้าหนี้ รายใหญ่ของสหรัฐมีประเทศใดบ้าง รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า จนถึงสิ้นเดือนก.ค. ต่างประเทศถือครองพันธบัตรรัฐบาลรวมกันกว่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 176.4 ล้านล้านบาท ) อันดับ 1 คือ จีน 1.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 37.17 ล้านล้านบาท ) รองลงมาคือญี่ปุ่น 1.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 35.91 ล้านล้านบาท ) อันดับ 3 เป็นของกลุ่มสถาบันการเงินในประเทศแถบทะเลแคริบเบียน ( บาร์ฮามาส เบอร์มิวดา หมู่เกาะเวอร์จิน หมู่เกาะเคย์แมน เนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส และปานามา ) ถือครองพันธบัตรสหรัฐรวมกัน 288,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 9.07 ล้านล้านบาท ) กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ที่รวมถึงเวเนซุเอลา เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย บาห์เรน อิรัก อิหร่าน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอลจีเรีย กาบอง ลิเบีย และไนจีเรีย ตามมาเป็นอันดับ 4 มีปริมาณพันธบัตรสหรัฐครอบครองรวมกัน 258,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 8.12 ล้านล้านบาท ) อันดับ 5 ได้แก่ บราซิล 256,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 8.06 ล้านล้านบาท ) อันดับ 6 เป็นของไต้หวัน 186,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 5.85 ล้านล้านบาท ) สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับ 7 ด้วยสถิติ 178,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 5.6 ล้านล้านบาท ) อันดับ 8 เป็นของเบลเยียม 168,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 5.29 ล้านล้านบาท ) อันดับ 9 ได้แก่สหราชอาณาจักร รวมถึงหมู่เกาะแชนเนล และเกาะแมน 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.94 ล้านล้านบาท ) และปิดท้ายใน 10 อันดับแรกคือ ลักเซมเบิร์ก 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.63 ล้านล้านบาท ) ขณะที่ไทยมีชื่ออยู่ในอันดับ 23 ด้วยปริมาณการถือครองพันธบัตร 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.38 ล้านล้านบาท ) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 15, 2013, 08:33:44 PM +ครับพี่วัฒน์
หนี้มหาศาล เจ้าโลก ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 15, 2013, 08:38:15 PM (http://image.ohozaa.com/i/757/ojJuUK.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x9os0l7ogK9zfENv)
นี้เบอร์2ของโลก ก็หนี้ท่วมเช่นกัน ::003:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ✿ตุ๊ก...ครับ✿ ที่ ตุลาคม 15, 2013, 08:53:12 PM ในระบบเศรษฐกิจโลก...มีประเทศใหนบ้างหรือเปล่าครับ ที่ไม่มีหนี้... ประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจเห็นมีหนี้ก้อนโตกันทั้งนั้น. หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 15, 2013, 09:06:19 PM ไทยก็กำลังก่อหนี้ก้อนโต ๕ ล้านล้านบาท ใช้หนี้ไปอีก ๕๐ ปี ::013::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 15, 2013, 09:09:28 PM ขาใหญ่ มีหนี้กันถ้วนหน้าครับ น้อยสุดก็จีน ตอนนี้กลายเป็น "เจ้าหนี้" ของโลกไปแล้ว หนี้ท่วมหัวก็ไอร์แลนด์พันกว่าเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี
ดูหนี้ของเมกา เคยก่อหนี้สูงสุดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็อย่าลืมว่า เมกาก็ร่ำรวยจากสงครามโลกครั้งที่สองเช่นกัน หลังจากนั้นหนี้ก็ลดลงมาเรื่อยๆ ขายอาวุธ ขายเทคโนโลยี ผมคิดว่าการก่อหนี้ไม่ใช้สิ่งที่น่ากลัว ถ้าคนในชาติมีสมอง มีสติระลึกถึงภาระหนี้ และมีวินัยใช้จ่าย (คนไทยก็มีสมอง แต่เป็นคนส่วนน้อย) (http://image.ohozaa.com/i/e02/xQ9MfD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/x9oCJ1g7WQp5F86X) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ ตุลาคม 15, 2013, 09:09:55 PM ไทยก็กำลังก่อหนี้ก้อนโต ๕ ล้านล้านบาท ใช้หนี้ไปอีก ๕๐ ปี ::013:: (http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif)(http://s23.postimg.org/odeunlmgr/image_7017_4_FC232_B2.gif) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 15, 2013, 09:23:51 PM กู้หนี้ฯ ก็ต้องดูว่าเอามาทำอะไร หากเอามาละลายไปกับนโยบายซื้อเสียงประชานิยม เช่นเอาไปจำนำพืชผลการเกษตรแล้วขาดทุน มันก็แตกต่างกับเอาไปพัฒนาการศึกษาเพื่อพัฒนาสมองของคนในชาติ...
แล้วอย่ามาเถียงว่างบประมาณที่ปล่อยลงในระบบเศรษฐกิจนั้น ยังไงก็กระตุ้นระบบเศรษฐกิจอยู่ดี, ซึ่งอย่างนั้นมันก็ใช่ แม้แต่เอาไปปล่อยให้โกงกินในโครงการก่อสร้างมหาศาล มันก็ใช่... แต่จะใช่ 2 ต่อ หากว่าเงินที่กู้นั้นเอาไปใช้โดยไม่โดนโกง กับพัฒนาสมอง พัฒนาอาชีพ ฯลฯ ด้วย... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 15, 2013, 09:28:30 PM ไม่ต้องพูดถึง หรือเอามาเปรียบเทียบกับประเทศมหาอำนาจ อย่างทุยแลนด์ได้มั้ยครับ....ผมเครียด ::005:: ::005:: ::005:: ::012:: ::012:: ::014::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 17, 2013, 09:46:08 AM :) สภาคองเกรสลงมติผ่านงบประมาณเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว ด้วยคะแนนเสียง 285:144 และ 81:18
ภาวะชะงักงันทางการคลังในสหรัฐที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ ได้คลี่คลายลงแล้วในวันนี้ หลังจากที่สภาคองเกรสลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพดานหนี้ ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. และปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ. วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 81 ต่อ 18 ก่อนที่จะส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาอนุมัติ และหลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน ร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณและเพิ่มเพดานหนี้เป็นผลมาจากการบรรลุข้อตกลงระหว่างนายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต และนายมิทช์ แมคคอนแนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ในความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตการคลังครั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะลงนามร่างกฎหมายในการเพิ่มเพดานหนี้และเปิดหน่วยงานรัฐบาล เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายในทันทีที่มีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่วมายังทำเนียบขาว หลังผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ในทันทีที่ปธน.โอบามาลงนามรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลาง หรือ ชัตดาวน์ ก็จะยุติลงในทันที หลังจากที่เริ่มมีการชัตดาวน์มาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2557 เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้ในการจัดสรรเงินสำหรับปีงบประมาณใหม่ สำหรับวันที่ 17 ต.ค.ถือเป็นกำหนดเส้นตายที่สำคัญ เนื่องจากวันสุดท้ายที่กระทรวงการคลังสหรัฐประเมินว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะมีเงินพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ หากไม่มีการเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันกำหนดเวลา ซึ่งจะสร้างความเสียหายมหาศาล หายใจได้อีกเฮือก.... :~) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 17, 2013, 10:34:46 AM ตกลง ก็พิมพ์ดอลล่าเพิ่มอีกใช่มั้ย ::005:: ::012::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 23, 2013, 11:25:39 AM (https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/1393601_168212330041816_139420612_n.jpg)
อดีตIMF บังอาจทวงทองสหรัฐฯเลยโดน เซ็กซ์บอมบ์ Russia Todayรายงาน ว่า Dominique Straus-Kahn อดีตกรรมการผู้อำนายการใหญ่ของ IMF ชาวฝรั่งเศส บังอาจทวงทองสหรัฐฯ ให้ส่งมอบให้IMF เลยโดนซ้อนกลเรื่องเซ๊กซ์ที่โรงแรมในนิวยอร์ค Straus-Kahn เรียกร้องให้มีมีตรวจสอบทองคำสำรองของสหรัฐฯที่บอกว่ามีอยู่8,044ตัน แต่ปรากฎว่าตั้งแต่มีการยึดทองสมัยรุสเวลท์ปี1933 ไม่เคยมีการเช็คสต๊อคอย่างเป็นทางการเลยว่าทองมีเท่าไหร่ สหรัฐฯต้องส่งมอบทอง191ตันให้ IMF ตามข้อตกลงปี1978 เพื่อเป็นสำรองส่วนหนึ่งของ IMF เพื่อมาหนุนเงิน Special Drawing Rights หรือ SDR ของ IMF แต่สหรัฐฯ เบี้ยวมาตลอด ก่อนที่ Straus-Kahn จะบินกลับกรุงปารีสวันเดียว ก็โดนข้อหากระทำชำเราแม่บ้านที่โรงแรมกลางนิวยอร์ค ตำรวจสหรัฐฯ เล่นงานหนัก จับเข้าคุกใส่กุญแจมือ ไม่ให้ประกัน แล้วก็โดนปลดออกจากตำแหน่งโดยปริยาย Christine Legarde ชาวฝรั่งเศสเหมือนกันได้มาดำรงตำแหน่งแทน พวกรัสเซียโชว์รายงานลับซีไอเอให้ Straus-Kahn ดู โดยระบุว่าสหรัฐฯ ไม่มีทองคำสำรองเหลืออยู่ในประเทศเลย รายงานนี้เตรียมที่จะให้ประธานาธิบดีปูตินดูเหมือนกัน ทำให้ Straus-Kahn ต้องการให้มีการสอบบัญชีทองสหรัฐฯ เพื่อนำมาส่งมอบให้ IMF เพราะว่าสหรัฐฯ บ่ายเบี่ยงเบี้ยวมาตลอด ทองสหรัฐฯ เก็บที่ Fort Knox รัฐเคนตั๊กกี้ และที่ Federal Reserve สาขานิวยอร์ค แต่มีความสงสัยกันมาตลอดว่าทองอาจจะไม่เหลืออยู่ถูกมือดีขนเอาไปหมดแล้ว แม้แต่เยอรมันขอทองคืน 300 ตันเมื่อปลายปีที่แล้ว สหรัฐฯ ก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าให้มาเอาตอนปี 2020 เยอรมันส่งเจ้าหน้าที่มาดูทองของตัวเอง ก็ไม่ให้ดู คงเห็นภาพว่าเรื่องทองเป็นเรื่องของเจ้าพ่อระดับโลก ใครแหยมโดนสอยทั้งนั้นอย่างเจ็บปวด ตอน Straus-Kahn โดนเล่นงาน เชื่อกันว่าเขามีโอกาสเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส คู่แข่ง Sarkozy เลยอาจโดนการเมืองฝรั่งเศสเล่นกันเอง แต่รายงานรัสเซีย ทูเดย์ชิ้นนี้สุดยอดมาก ที่เผยว่า Straus-Kahn ร่วงจากตำแหน่ง เจอข้อหาเซ๊กซ์หนักเพราะบังอาจไปทวงทองของสหรัฐฯ ทองที่หายไปแล้วกับสายลม 23/10/2013 And there are grave doubts whether the Federal Reserve actually holds the 8,044 tons of gold it claims it does. The former International Monetary Fund director, Frances Dominique Straus-Kahn, demanded an independent audit of the Federal Reserve gold after the US refused to deliver to the IMF 191 tons of gold agreed to under the IMF Articles of Agreement signed by the Executive Board in April 1978 to back Special Drawing Rights issuance. Immediately before he could rush back to Paris, he was hit by a bizarre hotel sex scandal and abruptly forced to resign. Straus-Kahn had been shown a secret Russian intelligence report prepared for President Vladimir Putin in which rogue CIA agents revealed that the US Federal Reserve had no gold reserves and only lied that it did. http://rt.com/op-edge/us-debt-gold-price-threats-481 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ ตุลาคม 23, 2013, 02:47:28 PM ตกลง ก็พิมพ์ดอลล่าเพิ่มอีกใช่มั้ย ::005:: ::012:: เห็นข่าวว่าพิมพ์แบบใหม่ด้วย หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 23, 2013, 03:15:27 PM (https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc3/1393601_168212330041816_139420612_n.jpg) เล่นกันแรง ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก อดีตIMF บังอาจทวงทองสหรัฐฯเลยโดน เซ็กซ์บอมบ์ Russia Todayรายงาน ว่า Dominique Straus-Kahn อดีตกรรมการผู้อำนายการใหญ่ของ IMF ชาวฝรั่งเศส บังอาจทวงทองสหรัฐฯ ให้ส่งมอบให้IMF เลยโดนซ้อนกลเรื่องเซ๊กซ์ที่โรงแรมในนิวยอร์ค หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 23, 2013, 03:28:35 PM แบ็งค์ขนาด 100 ดอลล่า รุ่นใหม่ ปลอมยากกว่าเดิม แบ็งค์รุ่นนี้ พี่กันบอกว่าโดนปลอมเยอะที่สุด
นอกจากนี้ ยังพบว่า ปนเปื้อนโคเคนเยอะที่สุด ก็พี่ๆเขาใช้มวนอัฟโคเคน ::005:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ตกลง ก็พิมพ์ดอลล่าเพิ่มอีกใช่มั้ย ::005:: ::012:: เห็นข่าวว่าพิมพ์แบบใหม่ด้วย หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ ตุลาคม 24, 2013, 10:29:34 AM นอกจากปัญหาภายใน ก็ยังโดนภายนอกเล่นเสียหนักเลยช่วงนี้
ไหนจะเรื่องดักฟังโทรศัพท์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ก็ออกมาโวยแล้ว ก็มีปากีสถานต่อว่า เรื่อง drone ถล่มมั่ว กับ ซาอุฯงดร่วมมืองานสายลับ เนื่องจากไม่ถล่มซีเรีย หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 24, 2013, 07:42:14 PM นายกฯเยอรมันควันออกหูเลยครับ
CIAนิสัยไม่ดีเลย สมน้ำหน้า วิกิลีกเอามาแฉ ::006:: ::006:: ::006:: หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 24, 2013, 07:47:28 PM วิกิลีกส์ (อังกฤษ: Wikileaks) เป็นเว็บไซต์ที่นำข้อมูลเอกสารของรัฐบาลและบริษัท ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่ เพื่อการกล่าวหาได้ โดยไม่ถูกผลกระทบทางลบกลับจากองค์กรเหล่านั้น เว็บไซต์วิกิลีกส์อ้างว่าการส่งข้อความต่าง ๆ นั้นจะไม่สามารถถูกติดตามได้ ไม่ว่าจากใครก็ตาม
เว็บไซต์ทำงานโดยใช้รุ่นดัดแปลงของซอฟต์แวร์มีเดียวิกิ ประวัติ ส่วนหนึ่งของเว็บไซต์พัฒนาโดยผู้คัดค้านรัฐบาลจีน[1] จากข้อมูลในเว็บไซต์ Wikileaks เป้าหมายหลักของการเปิดโปงคือ กลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต กลุ่มประเทศซับซาฮารา และประเทศในตะวันออกกลาง แต่พวกเขาก็คาดหวังให้เว็บไซต์ถูกใช้งานสำหรับข้อมูลที่รั่วไหลเกี่ยวกับรัฐบาลและบริษัทในประเทศตะวันตก[2] ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 วิกิลีกส์ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอที่ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แสดงภาพการโจมตีทางอากาศต่อกรุงแบกแดดโดยกองทัพสหรัฐ ที่ทำให้มีพลเรือนชาวอิรักเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ก็ได้เผยแพร่เอกสารลับที่ไม่เคยถูกเผยแพร่จำนวนมากกว่า 76,900 ฉบับ เกี่ยวกับปฏิบัติการของสหรัฐในอัฟกานิสถาน และในเดือนตุลาคม ก็ได้เผยแพร่เอกสารลับกว่า 400,000 ฉบับเกี่ยวกับสงครามอิรัก เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 ทางเว็บไซต์ได้เผยแพร่โทรเลขเอกสารลับและเอกสารปกปิดทางการทูต กว่า 100,000 หน้าของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา จนทำให้นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ประณาม ต่อมาในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ตำรวจสากลได้ออกหมายจับจูเลียน อาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ในข้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ จากนั้นเว็บไซต์ได้ถูกแครกเกอร์โจมตีด้วย DDoS จนทำให้ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิก DNS ที่ชี้ไปยังโดเมนเนม WikiLeaks.org ด้วยข้ออ้างว่าถูกโจมตีอย่างหนัก [3] อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ก็ยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางไอพีแอดเดรส และโดเมนสำรองที่จดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์ [4] http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ ตุลาคม 24, 2013, 09:10:44 PM แบ๊งค์ ที่เค้าเอาไป ชุบ โคเคน ไม่ไช่แบ๊งค์ $100 ครับ ส่วนมาก เป็น แบ๊งค์ $1 เวลาซื้อขาย จะเอาไปแลกกับ แบ๊งค์ $100 ส่วนเวลา เสพ ก็จะเอา แบ๊งค์ ไปอังความร้อน ให้ ไอ โคเคน ระเหย เข้าสู่จมูก พอ ไอระเหยหมด ก็เอาแบ๊งค์นั้นไปใช้ได้อีก
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: zamphol ที่ ตุลาคม 24, 2013, 09:59:36 PM เมื่อก่อนหยิบ(แบบเกล็ด)ขึ้นมาสูด(อัฟ)เข้าจมูกโดยตรง ตอนหลังใช้หลอด แต่ที่ฮิตฮอตสุดๆ ก็ใช้แบ็งค์โนตใบใหม่ๆ มวนขนาดรูจมูก อัฟขึ้นไป บางคนอัฟมากจนรูจมูกทะลุ
ส่วนอีกแบบนึงเป็นผงธรรมดา ใช้ยัดใส้สูบ เวลาสูบได้ยินเสียงแคร็ก เลยเรียกว่า crack แบบสูบได้ฟีลกว่า (เขาว่ามา) ถ้าไปถามวัยรุ่นทั้งอังกฤษและเมกา ส่วนใหญ่จะบอกว่าเคยรู้จัก http://www.youtube.com/watch?v=RG2Xi998mLg (http://image.ohozaa.com/i/fe6/rDliPY.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xayyLmWDSOXWWkp7) หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 26, 2013, 09:14:42 AM สหรัฐฯมีความเสี่ยงสูงที่จะเจอจลาจลเมื่อ QE ล่มสลาย
William Kaye อดีตพนักงาน Goldman Sachs และปัจจุบันบริหาร Hedge Fund ที่ Hong Kong บอกว่าสหรัฐฯมีความเสี่ยงสูงที่จะเจอการประท้วงจลาจลหนักเหมือน สเปน กรีซ ไซปรัส อิยิปต์ หรือบางส่วนของอิตาลี เมื่อประชาชนส่วนใหญ่เจอพิษเศรษฐกิจจากการล่มสลายของนโยบาย QE การจลาจลและความวุ่นวายจะรุนแรงเมื่อคนอเมริกันและคนในโลกตะวันตกตระหนักว่าอนาคตของพวกเขาและลูกหลานละลายหายไปพร้อมกับการล่มสลายของระบบการเงิน เขาบอกว่า ตลาดหุ้นที่กำลังขึ้นตอนนี้เป็นเพราะโคเคนที่เฟดใส่เข้าไประบบการเงินผ่านนโยบาย QE และตลาดหุ้นจะต้องพังในที่สุด มีการพูดถึงการลดขนาด QE และเมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเขาจะต้องถอนการกระตุ้น QE พวกCentral Planners อาจจะถอน QE อย่างจงใจเพื่อให้ทุกอย่างพัง หรือไม่ก็ถูกบังคับให้ถอน QE เพราะว่าพวกเขาคุมดอกเบี้ยให้ต่ำไม่ได้อีกต่อไป มีความเสี่ยงว่าในกรณีหลังจะเกิดขึ้น เพราะว่าประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจีนกำลังรู้สึกไม่สบายใจที่ถือครองทรัพย์สินการเงินสหรัฐฯอยู่ในตอนนี้ เมื่อจีนเทขายพันธบัตรสหรัฐฯสุทธิ สิ่งเดียวที่จะเกิดขึ้น คือ ดอกเบี้ยจะต้องขึ้น ตอนนั้นเฟดจะลุยซื้อพันธบัตรทั้งหมดไม่ได้ (เพื่อกดดอกเบี้ยให้ต่ำต่อไป) เพราะว่ามันจะสร้างแรงเงินเฟ้อ และเมื่อเราเจอสภาพที่ตลาดคาดว่าจะมีเงินเฟ้อสูงขึ้นไปอีกระดับ ตอนนั้นมันจะเป็นประกาศิตกับภาพลวงตาที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ หมายความว่าความเฟ้อฝันต่างๆทั้งหลายจะพังลงมา ตอนนี้กาวที่ติดแน่นทำให้ทุกอย่างโดยเฉพาะตลาดหุ้นดำเนินไปได้ คือดอกเบี้ยที่ต่ำมากผิดปกติ แต่ดอกเบี้ยต้องวิ่งกลับไปหาระดับค่าเฉลี่ยเสมอ และเมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้นกลับไปหาค่าเฉลี่ย มันหมายความว่าทุกอย่างจะจบลง game over ตลาดหุ้นโลกตะวันตกจะพัง พร้อมกับดีมานด์ของผู้บริโภค ความต้องการซื้อบ้าน การใช้จ่ายของผู้บริโภค และเศรษฐกิจจะพังทลาย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมากสำหรับผู้คนในโลกตะวันตก http://kingworldnews.com/kingworldnews/KWN_DailyWeb/Entries/2013/10/23_Chaos_Now_Ready_To_Explode_As_The_West_Begins_To_Collapse.html *** มาตรการ QE หรือ Quantitative Easing เรียกอีกอย่างว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ คือนโยบายทางการเงิน แบบนึง โดยหลักการจะเป็นการนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะเข้าไปซื้อสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน และจะให้สถาบันทางการเงิน ปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนต่อไป เพื่อกระตุ้นให้ ประชาชนในประเทศ มีการใช้จ่ายมากขึ้น ก่อนที่จะใช้ QE มักจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาก่อน แต่ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงจะใช้มาตรการ QE ซึ่งการประกาศใช้ มาตรการ QE นั้น ไม่ได้เป็นข่าวดีนักเพราะเสี่ยงต่อการเกิดสภาวะเงินเฟ้อ การใช้มาตรการQE นั้น โดยปรกติ จะต้องทำการกู้เงินมาจากที่ใดที่หนึ่งอย่างเช่น IMF แต่สำหรับประเทศอเมริกาแล้ว เค้าใช้วิธีพิมพ์แบงค์ขึ้นมาเอง ซึ่งเมื่อมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบ ก็จะทำให้ ดอกเบี้ยพันธบัตรลดลง และทำให้ค่าเงิน usd อ่อนค่าลงด้วย นอกจากนี้แล้ว อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อมีสภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ ค่าเงิน usd ก็อ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 26, 2013, 10:52:59 AM +ครับพี่วัฒน์ ;D
รอวันล่มสลายอย่างเดียว น่ากลัวจริงๆ อเมริกาถล้ำตัวก่อหนี้มานานแสนนาน แปลกจริง ทำไมถึงอยู่ได้กับหนี้มหาศาล ??? ??? ??? หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 26, 2013, 11:31:12 AM :) ต้องดูกันต่อไปครับ คุณ.เบิ้ม ว่าเครดิตจะต่อสายป่านได้ไปอีกนานเท่าใด
ไม่แน่นะ...อนาคตการเมืองระหว่างประเทศอเมริกาอาจต้องง้อจีนมากกว่านี้ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 26, 2013, 04:13:26 PM +ครับพี่วัฒน์ ;D รอวันล่มสลายอย่างเดียว น่ากลัวจริงๆ อเมริกาถล้ำตัวก่อหนี้มานานแสนนาน แปลกจริง ทำไมถึงอยู่ได้กับหนี้มหาศาล ??? ??? ??? ปั้มเงินได้ไม่จำกัดไงครับ ;D หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 26, 2013, 04:35:25 PM ประเทศอื่นเขาเอาทองคำค้ำประกันเงินตรา... แต่ประเทศอเมริกามีเงินตราของตัวเองที่ประเทศอื่นใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้า, ก็เลยปล่อยให้ Demand & Supply เป็นตัวกำหนดค่าเงินครับ...
แปลว่าสามารถพิมพ์เงินออกมาได้เรื่อย จนกว่าชาวบ้านเริ่มส่ายหัว ค่อยเลิกพิมพ์... ฮา... หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ ตุลาคม 26, 2013, 05:48:11 PM +ทุกท่านครับ มึนจริงๆ พิมพ์เงินตามใจชอบ ::007::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 27, 2013, 09:23:50 AM (http://image.ohozaa.com/i/fd3/AbSCta.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xaSkVI5oCDvkJZ7z)
แม้ฝ่ายการเมืองสหรัฐผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้และงบประมาณชั่วคราว เพื่อส่งเงินหล่อเลี้ยงหน่วยงานภาครัฐที่ปิดทำการไปตั้งแต่ 1 ตุลาคม ก่อนเส้นตายไม่กี่ชั่วโมง แต่เป็นเพียงการต่อลมหายใจระยะสั้น เขตเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกยังเสี่ยงที่จะเจอการงัดข้อการคลัง อีกครั้งในไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะปมปัญหาที่เป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งครั้งนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไฟแนนเชียล ไทมส์ ชี้ว่า แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกขณะจากภาคธุรกิจในสหรัฐเองรวมถึงเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างจีน ทำให้วุฒิสภาและสภาผู้แทนฯไฟเขียวให้กับแผนผ่าทางตันการคลังชั่วคราว ซึ่งขยายเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ และอนุมัติงบประมาณที่จะส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเปิดทำการไปจนถึง 15 มกราคมปีหน้า พร้อมกำหนดเส้นตายให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันหาทางบรรลุข้อตกลงระยะยาวภายใน 16 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ชาติเอเชียซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ยังคลางแคลงใจต่อแผนขยายเพดานหนี้ครั้งนี้ เพราะแม้จะช่วยให้มะกัน หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคใหญ่ในสภาคองเกรสยังคงอยู่ "เรื่องยังไม่จบ ทั้ง 2 พรรคจะสาดโคลนกันอีกใน 2-3 เดือนข้างหน้า" เชา หยงฟู่ นักวิจัยจากสถาบันเศรษฐกิจและการเมืองโลกในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นเอบีซี นิวส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงของสภาคองเกรสไม่ช่วยคลายปมเห็นต่างอย่างสุดขั้วของ 2 พรรคใหญ่ เรื่องกฎหมายหลักประกันสุขภาพ (โอบามาแคร์) ภาษี การตัดลดรายจ่าย ที่เป็นต้นตอของมหากาพย์ความขัดแย้ง ดังนั้นทั่วโลกยังต้องหวาดผวากับความเสี่ยงที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ต่อไป แม้ในข้อตกลงดังกล่าวจะระบุให้สภาผู้แทนฯและวุฒิสภาหาทางออกระยะยาวภายใน 13 ธันวาคม แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น ก็ไม่มีบทลงโทษหรือมาตรการใด ๆ รองรับ นอกจากนี้หากพิจารณาจากผลการทำงานของ "ซูเปอร์คอมมิตตี" ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการร่วมสภาผู้แทนฯ-วุฒิสภา เพื่อผ่าทางตันเพดานหนี้ในปี 2554 ที่ทันเส้นตายแบบฉิวเฉียด ก็ดูเหมือนว่าอาจฝากความหวังไปกับการเจรจารอบนี้ได้ไม่มากนัก ความเห็นต่างระหว่างเดโมแครตกับรีพับลิกันส่อเค้าจะนำไปสู่ทางตันการคลัง การปิดทำการหน่วยงานรัฐ ตลอดจนหนี้สาธารณะชนเพดานอีกครั้ง สัญญาณที่บ่งบอกถึงการต่อสู้ทางการเมืองอย่างถึงพริกถึงขิงในอนาคต คือ เท็ด ครูซ ส.ว.รัฐเทกซัส จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที ปาร์ตี้ หัวอนุรักษนิยมสุดโต่ง ประกาศปักหลักต่อต้านโอบามาแคร์ชนิด หัวชนฝา ซึ่งแน่นอนว่าประธานาธิบดี บารัก โอบามา ย่อมไม่ยอมอ่อนข้อให้ยิ่งไปกว่านั้น หากในอนาคตมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง เนื่องจากขาดงบประมาณอีกรอบ ก็จะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยบทวิเคราะห์ของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ดแอนด์พัว ร์สระบุว่า 16 วันที่หน่วยงานภาครัฐปิดทำการ สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.5 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน สภาคองเกรสผ่านแผนขยายเพดานหนี้ได้ทันเวลาก็จริง แต่เอสแอนด์พีมองว่า กรอบเวลาที่มาพร้อมกับแผนดังกล่าวสะท้อนว่า ฝ่ายการเมืองสหรัฐจะต้องเผชิญกับเส้นตายอีกครั้งช่วงต้นปี 2557 ระยะเวลาเว้นวรรคเพียงสั้น ๆ ก่อนกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งจะกดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานของรัฐที่ถูกพักงานช่วงครึ่งแรกของเดือนตุลาคม "ถ้าชาวอเมริกันกังวลว่าจะเกิดทางตันทางการเมืองซ้ำรอยเดิมอีก และเกิดภาวะชะงักงันในหน่วยงานภาครัฐหรือร้ายแรงกว่า ก็จะไม่กล้าหยิบเงินออกจากกระเป๋า กระทบต่อยอดขายสินค้าช่วงวันหยุดยาวปลายปี ซึ่งเป็นช่วงโกยรายได้ของภาคธุรกิจ" เอสแอนด์พีเตือน ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: thotsaporn ที่ ตุลาคม 27, 2013, 12:37:56 PM นี่คือเบื้องหลังของเจ้าโลก ::013:: ::013:: ::013::
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 28, 2013, 02:26:21 PM (https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/644481_169205186609197_302711179_n.jpg)
จุดเริ่มต้นของจุดจบของเปโตรดอลล่าร์ Voice of Russia รายงานว่าซาอุดิ อาราเบียกำลังพิจรณาที่จะลดระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯอเมริกาลงอย่างจริงจัง เนื่องจากประธานาธิบดีโอบามาไม่ยอมจัดการกับซีเรีย และมิหนำซ้ำกลับมีท่าทีที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับอิหร่าน ซึ่งเป็นคู่อริของซาอุดิ อาราเบีย มีความเป็นไปได้ที่ความระหองระแหงใจนี้ จะนำไปสู่การลดความสำคัญของเปโตรดอลล่าร์ลงไป ซึ่งจะเป็นภัยต่อสถานภาพของดอลล่าร์ในฐานะเป็นเงินสกุลหลักของโลก เปโตรดอลล่าร์ คือ ข้อตกลงที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน่ำมัน นำโดยซาอุฯ ที่จะขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ และจะนำรายได้ดอลล่าร์ รีไซเกิ็ลกลับไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อที่จะให้สหรัฐฯสามารถก่อหนี้ได้ต่อไป ในทางกลับกันสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางทหาร และความมั่นคงกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางเป็นข้อแลกเปลี่ยน เปโตรดอลล่าร์เป็นเสาค้ำดอลล่าร์ ซึ่งพิมพ์ออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน มีความเป็นไปได้ที่ซาอุฯ จะทะยอยทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ที่ถืออยู่ $690,000ล้าน ซึ่งเป็นรายได้จากการขายน้ำมัน โดยจะขายออกไปเพื่อถือทรัพย์สินอื่นของยุโรปหรือจีน ถ้าทำเช่นนั้น เปโตรดอลล่าร์จะอยู่ไม่ได้ และความสำคัญของค่าเงินดอลล่าร์ที่จะเป็นเงินสกุลหลักของโลกจะเสื่อมไป thanong 27/10/2013 http://voiceofrussia.com/2013_10_27/The-beginning-of-the-end-for-the-petrodollar-2572/ หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ พฤศจิกายน 01, 2013, 11:49:34 AM (https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/75508_170235183172864_1567373262_n.jpg)
จีนน่าจะซื้อ JP Morgan ไปเรียบร้อยแล้ว ข่าวของ David Wilcock ที่รายงานว่า บุชบอกกับพ่อมดเบนว่า จีนได้ซื้อ JP Morgan จากตระกูล Rockefeller ไปเรียบร้อยแล้ว ข่าวนี้มีน้ำหนัก น่าจะเป็นจริง เพราะว่าเดือนตุลาคม มีรายงานว่า Fosun International ของจีนได้ซื้อ One Chase Manhattan Plaza ของตะกูล Rockefeller และเป็นสำนักงานใหญ่ของ JP Morgan Chase ไปแล้วด้วยราคา $725 ล้าน ถ้าขายสำนักงานใหญ่ ก็ต้องขายหุ้นแบงค์ทิ้งไปด้วย แสดงว่า Rockefeller รู้ตัวดีว่าระบบการเงินสหรัฐฯไปไม่รอด หลังจากระบบการเงินล่มมาแล้วปี2008 เฟดทำคิวอี อุ้มมาได้ถึง2013 แต่ต่อไปเฟดคงจะพิมพ์เงินอุ้มต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เพราะมีแรงกดดันมากมายจากภายนอกและภายในที่จะล้มทั้งเฟดและเงินดอลล่าร์ Rockefeller คงต้องขายหนีตาย ก่อนที่จะเจอแบงค์รัน คือคนแห่ถอนเงิน มาตรการห้ามคนโอนเงินออกนอกเกิน$50,000ที่JP Morganออกมาเมื่อเร้ซๆนี้ อาจจะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นใหม่Fosun International เพราะว่าอย่างน้อยbank run ไม่สะดวกโยธิน การที่จีนเข้ามาซื้อ JP Morgan ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงาม crown jewel ของระบบการเงินสหรัฐฯได้ แสดงว่าต้องมีการตกลงอะไรกันระหว่างผู้มีอำนาจสูงสุด ที่ไม่เอาพวก Rockefeller อีกแล้ว คือโอบามาต่อไปจะไม่อุ้มแบงค์อีก หลังประชุมมหาสมาคมจีนกลางเดือนตุลาคม ทางจีนคงประกาศนโยบายสำคัญๆ ที่เกี่ยวโยงกับบทบาทหยวน เมื่อหยวนขึ้น ดอลล่าร์ก็ต้องไปเป็นของธรรมดา Rockefeller ขายแบงค์หนี ตอนนี้ก่อนจะหนีไม่ทัน แต่จะหนีไปใหน? จีนกำลัง take over สหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯเตะถ่วง ไม่ยอมให้ take over หลังระบบการเงินล่มปี2008 เพราะว่าสหัฐฯล้มละลายแล้ว ต้องปรองดองหนี้อย่างเดียว ลากไปอีกนานๆ จะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ thanong 1/11/2013 หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ พฤศจิกายน 02, 2013, 06:13:22 AM สมบัติผลัดกันชม ;D ;D ;D โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ปรับตัวกันให้ดี
หัวข้อ: Re: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!! เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ พฤศจิกายน 02, 2013, 12:18:49 PM สงสัยต้องค่ิอยๆเซ้งไปทีละหน่อย จีนเงินเยอะจริงๆ ทั้งเอกชนและรัฐบาล +ครับพี่วัฒน์ ;D
|