เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

มื่อ ต.ค. 2556 ที่ผ่านมา ... แอดมินได้มีโอกาสไปเยือนญี่ปุ่น ระหว่างที่เดินทางไปยังเมืองโทยะ ... คนขับรถได้แวะจอดที่ห้องน้ำสาธารณะริมทางหลวง

เมื่อรถเข้าไปจอด...เราพบว่า ก่อนหน้าที่เราจะเข้าไปจอดนั้น มีรถบัสจำนวน 3 คันที่พานักเรียนอนุบาลมาทัศนศึกษา เข้าจอดเพื่อใช้ห้องน้ำก่อนเราไม่ถึง 1 นาที

ทุกคนในคณะของแอดมินเริ่มทำใจว่า ต้องรอห้องน้ำนาน... เพราะห้องน้ำมีจำกัด เราคงต้องรอให้เด็ก ๆ ใช้ห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงถึงคิวของเรา ... แม้จะมาจอดรถพร้อมกัน เราก็คงต้องแสดงสปิริตให้น้อง ๆ อนุบาลเข้าก่อนค่ะ (เป็นผู้ใหญ่ ... ไปแย่งเด็กเข้าห้องน้ำ คงไม่งามค่ะ)

และแล้ว...สิ่งที่ไม่เคยปรากฎในเมืองไทย ก็ได้ปรากฎขึ้นต่อหน้าแอดมิน
(http://image.ohozaa.com/i/af6/NkLYXc.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xq7CTl5mzwUm3uOA)
เด็ก ๆ ลงจากรถทั้ง 3 คัน แล้วเข้าแถวชาย และ หญิง อย่างละ 1 แถว ข้างรถของตนเองโดยครูไม่ต้องออกคำสั่ง เพียงแค่ยืนคุมเท่านั้นค่ะ

รถบัส 3 คัน มีครูคุมเพียงคันละ 1 ท่าน ค่ะ ซึ่งเป็นครูหญิง 2 ท่าน และ ครูชาย 1 ท่าน

คุณครูเดินนำพาเด็กชาย-หญิง มาเข้าแถวต่อรวมกันเป็นแถวเดียว

จากนั้นนักเรียนชาย 10 คนแรก ก็เดินตามครูชายไปเข้าห้องน้ำชาย และนักเรียนหญิง 10 คนแรก ก็เดินตามครูหญิงไปเข้าห้องน้ำหญิง ... เหลือครูหญิงไว้คุมเด็กที่เหลือ ซึ่งยังยืนเข้าแถวรอข้างรถบัสอย่างเป็นระเบียบ

เขาทำแบบนี้ เพื่อให้ควบคุมได้ง่าย เมื่อเด็ก 10 คนแรกเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ครูก็จะพา 10 คนแรกกลับมาเข้าแถว และพานักเรียนรุ่นถัดไป..ไปเข้าห้องน้ำอย่างเป็นระบบระเบียบ

ช่วงผลัดเปลี่ยนกลุ่ม ก็ถือเป็นการเว้นวรรค์ให้กลุ่มอื่นได้เข้าห้องน้ำด้วยค่ะ ... ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของญี่ปุ่น คือ .... "ให้นึกถึงผู้อื่นเสมอ"

แอดมินเดินตามเด็กหญิง 10 คนแรก ไปที่ห้องน้ำ เพื่อสังเกตการจัดการของครูค่ะ และก็ได้พบความประทับใจอีก

เมื่อไปถึงห้องน้ำหญิง ซึ่งมีเพียง 4 ห้อง (เด็กอนุบาล 10 คน) ... คุณครูได้ต้อนให้เด็กเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำด้านในเพียง 2 ห้องแรกเท่านั้น และให้ห้องน้ำที่เหลืออีก 2 ห้อง แก่คณะของแอดมิน

แอดมินบอกคุณครูว่า...แอดมินรอได้ ให้เด็ก ๆ ทุกคนได้ใช้ห้องน้ำทั้ง 4 ห้องก่อนเถิด... เพราะถ้ารอเด็ก ๆ จริง ๆ ... ก็เท่ากับรอเข้าห้องน้ำแค่ 2 รอบเอง

คุณครูตอบว่า...เธออยากให้แอดมินใช้ห้องน้ำตามปกติ...เพื่อเป็นการฝึกเด็กของเธอให้เข้าใจระบบ และ รู้จักการรอคอย รู้จัก "ให้" ผู้อื่น มิใช่คอยรับสิทธิพิเศษเนื่องจากความเป็นเด็กตลอดไป เด็กของเธอต้องรู้จักการให้ตามศักยภาพของเด็ก !

เธอเล่าเพิ่มเติมว่า

ร.ร. ได้วางแผนไว้แล้วว่า เด็ก ๆ ควรจะได้เข้าห้องน้ำทุก 2 ชม. ... ดังนั้นเมื่อรถแล่นได้ 1.5 ชม. รถก็จะเริ่มแวะข้างทางเพื่อให้เด็กได้เข้าห้องน้ำ

การจัดระบบแบบนี้ ทำให้

- เด็กทุกคนได้เข้าห้องน้ำทันตามความต้องการ

- เด็กได้ฝึกระเบียบวินัย และรู้จักการรอคอย

- ฝึกให้เด็กคิดถึงผู้อื่น มีระบบการเว้นช่วงให้ผู้อื่นได้เข้าห้องน้ำ (เผื่อคณะอื่นจะรีบ หรือ มีเหตุฉุกเฉิน)

แอดมินประทับใจมาก จึงขออนุญาตถ่ายภาพเด็ก ๆ ไว้เป็นที่ระลึก .... เด็ก ๆ ก็แสนจะน่ารัก รีบโพสท์ท่าประกอบทันที...

แต่เสียดาย...คุณครูขี้อายไปนิด รีบหันหน้าหนีกล้องเลยค่ะ

ขอบคุณ คุณครูและเด็ก ๆ แห่งเมืองโทยะ
http://www.momypedia.com/index.php?op=webboard-detail&cid=8&tid=1019756

สุดยอดเลย... คิดละเอียดมาก  ประทับใจครับ  ::002::

ผู้ใหญ่เราควรเป็นแบบอย่างด้วยครับ...

น้าเบ้อเริ่มหยบเที่ยวนอกด้วย .... ไม่ยักรู้   ::002::

เม้นท์นิดนึง .... เรื่องวินัยคนไทยส่วนใหญ่  :<<

        ผมพยายาม
ฝึกฝนเด็กเรื่องระเบียบวินัย
ก็ได้เพียงระดับหนึ่ง  ผมว่าพื้นฐาน
จากการดูแล-ฝึกฝน จากทางครอบครัว
น่าจะมีส่วนเป็นอย่างมาก ด้วย ครับ

กำลังคิดอยู่พอดีว่าลุงปูหายไปไหนครับ ;D

แต่ก็อย่าลืมนะครับ ว่าหลายอย่างของพี่ยุ่นก็ไม่ได้ดีไปสะทั้งหมด...ประเทศเขาประเทศเราวัฒนธรรมต่างกัน...อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยครับ ถามผู้ชายว่านึกถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วนึกถึงอะไร และร้อยล่ะเท่าไหร่ ตอบว่านึกถึงอะไร...

ไม่ดีไปซะหมดก็จริง  แต่ความมีระเบียบวินัย  และยึดถือเกียรติมากกว่าเงินของญี่ปุ่น 

ก็นำพาให้ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศนำหน้าไทยอย่างน้อยก็ ๒๐ ปี+  ครับ   ::014::

จะแบบนี้ก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับพี่  ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าคนบ้านเราส่วนใหญ่ไม่เคยเรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตของเขา
ถ้ามองแบบนี้ก็เหมือนที่พวกฝรั่งมองบ้านเรานั่นแหละครับ ทั้งๆที่หลายประเทศ "ขายบริการถูกกฎหมาย"

จะว่าไปแล้วผมก็ชมคนญี่ปุ่นนะครับเรื่องความมีระเบียบวินัย ผมไม่ได้คิดจะดูถูกประเทศเขา เพียงแต่เอาความจริงมาคุยกัน หลายครั้งหลายคร่าที่เราแซวๆกันแม้แต่ในเว็บนี้ ก็จะออกแนวรากสาวญี่ปุ่นมาคุยกันมาแซวกัน...ในสายตาของคนรุ่นเรามองถึงความมีระเบียบของเขา แต่ว่าน้องๆเยาวชนเราเขามองด้านไหน ของคนญี่ปุ่น ก็ไม่พ้นการแต่งกาย การเต้น วีดีโอเอวี ต่างๆ...ผมเข้าใจ จขกท. ครับว่าอยากให้เห็นส่วนดีดี แต่ถ้ามองแต่สิ่งดีดี มันก็จะเป็นการเยิ่นยอกัน...ก็เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน แต่หลายคนลืมไปว่าจริงๆแล้วมีสามด้าน ถึงแม้ด้านที่สามมันจะเป็นด้านที่น้อยนิด แต่ก็เป็นด้านที่เราต้องมอง และพูดถึงครีับ...

;D ;D ;D  ต้องยกนิ้วให้ครับ

นักการเมืองหน้าบาง ประชาชนไม่ทำตัวเปนลูกแหง่แบบสารขันธ์ จะให้เจริญก็ไม่แปลก

ด้านไม่ดีของคนญี่ปุ่น ที่เป็นภาพรวม คือ ในเชิงวัฒนธรรม ครรลองของชนชาติ เท่าที่สัมผัสที่ได้ยินมามีน้อยมากๆ ที่พอจะนึกคือเรื่องงาน ที่บีบคั้นกันเกินไป เพื่อนๆรุ่นเดียวกันที่มีปัญหากับนายจ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นนายญี่ปุ่น โดนริดรอนเวลาส่วนตัว อีกเรื่องคือสิทธิระหว่างเพศ โดยทั่วไปผู้หญิงที่จบคณะผมถ้าเป็นผู้หญิงแกร่งๆ ก็จะเป็นพวก feminism พวกนี่จะอดทนกับงานหนักได้ บางที่ก็เหนือกว่าชายด้วยซ้ำ แต่ที่ไม่พวกเค้าจะไม่ทนคือความเสมอภาคเท่่าเทียม เช่น เวลาไปงานเลี้ยงบริษัท อะไรที่ดีๆผู้ชายจะได้ก่อน ผู้หญิงได้รับที่หลัง

 ::002:: เยี่ยมครับ

+ทุกท่่านครับ

ภาคการศึกษาบ้านเราเหลื่อมล้ำสูงมากครับ การเรียนการสอนก็หลายแบบ ตามมีตามเกิดบ้าง  ส่วนใหญ่ก็ให้เด็กเรียนพิเศษ ตั้งแต่อนุบาล ครูสอนไม่เต็มที่ ระเบียบวินัย ก็ไม่ค่อยมี สารพัดครับ ใครมี ใครรวยก็ได้เปรียบ

สุดท้ายก็แล้วแต่ความพยามครับ อย่ามัวโทษใคร โทษสังคม จังหวัดบ้านนอก จนๆ จะเอาไรมาก จังหวัดรวยๆก็มีงบอุดหนุนเยอะหน่อย  :)

ญี่ปุ่นนี่ผมเห็นนานละ ดูในหนัง ละครเค้า เค้าเน้นระเบียบวินัยตั้งแต่เด็กอนุบาล เดินไปไหนจับมือกันเป็นแถว  ::002::

แหม๋...........ใครจะมีวาสนาแบบลุงปูละครับ โบนัสปีหลายเดือน เที่ยวเมืองนอกทุกปี  :VOV:

ผมแค่พ่อค้าจนๆ หาเช้ากินดึก จะมีวาสนาไปเที่ยวเมืองนอกได้ไงครับ   ::004::    ::005::

บ้านผมเด็กเสื้อสีครับ ...ลูกพี่เขาใหญ่ ครูแตะไม่ได้ ฮึฮึ

ได้อย่าง เสียอย่าง
คนญี่ปุ่นผูกพันกับครอบครัวน้อยมากครับ โตมาแยกบ้านแล้ว พอมีโอกาสไปเยี่ยมเยียน แต่พอมีครอบครัวแทบจะตัดขาดพ่อแม่ไปเลย เงินไม่ต้องส่งให้ เขามีสวัสดิการอยู่

"เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ ต่อโลกบ้าง ยังน่าดู ส่วนที่เลว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

จะหาคน มีดี เพียงด้านเดียว อย่ามัวเที่ยว มองหาเลย สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง"

พุทธทาสภิกขุ  ::014::

        บวก ๑ ครับ
คุณ กรรมกร  ตรงใจผมเลย ::002::

คือมันเริ่มใช้ชีวิตเหมือนฝรั่งอเมริกันที่เด็กวัยรุ่นแยกบ้านไปอยู่ทำงานเองตั้งแต่ปีไหนมาครับ คิดว่ายุ่นดั้งเดิมคงไม่ใช่แบบนี้หรอก